ติดตามสถานะการณ์

พายุลูกเห็บถล่มเมืองประวัติศาสตร์เชียงแสนเสียหายยับ ต้นไม้อายุหลายร้อยปีโค่น เสาไฟฟ้าล้มกว่า 100 ต้น

 

Michael DiFato

แผนภูมิ Schumann Resonance แสดง spiking ร้อน / ออกสีขาวอย่างต่อเนื่อง

http://sosrff.tsu.ru/?page_id=7


https://www.google.com/search?q=sit...umann+Resonance&domainroot=poleshift.ning.com


~

Schumann Resonance chart showing ongoing white hot/out spiking.

http://sosrff.tsu.ru/?page_id=7

~

 

Setiawan

จำนวนแผ่นดินไหวที่ผ่านมา 24 ชั่วโมงและ 30 วันที่ผ่านมา

วันที่ 29 ธันวาคม 2019


พลังงานแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้น โดยปัจจัย 30 ในแต่ละขั้นขนาด ตัว อย่างเช่นแผ่นดินไหวขนาด 6 ประกอบด้วยพลังงานมากถึง 30 ของแผ่นดินไหว ขนาด 5 !



Number of quakes Past 24 hours & Past 30 days.

Dec29 2019


Earthquake energy increases by a factor of 30 for each magnitude step: for example, a magnitude 6 earthquake contains as much energy as 30 magnitude 5 quakes !

 

#สมเด็จพระเอกาทศรุทรอิศวร พระนามทางการของ "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ที่เลือนหายจากความทรงจำคนไทย

#สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี #พระเจ้าตากสิน #ประวัติศาสตร์ #ศิลปวัฒนธรรม #SilpaMag

 

ทะลุห้องนอน พายุลูกเห็บที่ อ.เมืองปาน จ.ลำปาง

 

ลูกเห็บตก‼️ นี่หน้าหนาวชัดๆ

 

ความเสียหายจากพายุ หลวงพระบาง สปป.ลาว
ขอบคุณ ภาพจากเพื่อนเพจครับ....

 

ประมวลภาพความเสียหาย จ.เชียงราย
ขอบคุณ ภาพจากเครือข่ายครับ....

 

Setiawan

แผ่นดินไหวไม่มีการแข่งขัน และสัญชาติ
และไม่มีพรมแดนรัฐ



การเกิดแผ่นดินไหวในศตวรรษที่ 20

ภาพเคลื่อนไหวนี้แสดงแผ่นดินไหวทุกครั้งที่บันทึกตามลำดับที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 1901 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2000 ในอัตรา 1 ปีต่อวินาที

ผู้ที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งแรกจะปรากฏเป็นแสงแฟลชจากนั้นยังคงเป็นวงกลมสีก่อนที่จะหดตัวตามเวลาเพื่อไม่ให้เกิดแผ่นดินไหวบดบังต่อไป
ขนาดของวงกลมแสดงถึงขนาดของแผ่นดินไหวในขณะที่สีแสดงถึงความลึกภายในโลก
ในตอนท้ายของอนิเมชั่นมันจะแสดงไหวทั้งหมดในรอบ 100 ปีนี้ก่อน
จากนั้นจะแสดงเฉพาะแผ่นดินไหวที่ใหญ่กว่าขนาด 6.5 ซึ่งเป็นแผ่นดินไหวขนาดเล็กที่สุดที่รู้จักกันในนามของสึนามิ จากนั้นจะแสดงเฉพาะแผ่นดินไหวที่มีขนาด 8.0 หรือใหญ่กว่าแผ่นดินไหวที่ "ยิ่งใหญ่(big one)" น่าจะเป็นภัยคุกคามสึนามิเมื่อเกิดขึ้นใต้มหาสมุทรหรือใกล้แนวชายฝั่งและเมื่อพวกมันเกิดตื้นภายในโลก (น้อยกว่า 100 กม. หรือ 60 ไมล์)

อนิเมชั่นสรุปโดยแสดงความผิดปกติของแผ่นเปลือกโลกที่รับผิดชอบต่อแผ่นดินไหวส่วนใหญ่ทั้งหมด

ยุคของการเกิดแผ่นดินไหว ทางแผ่นดินไหวที่ทันสมัย - การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ของการเกิดแผ่นดินไหว - เริ่มขึ้นในศตวรรษที่ 20 ด้วยการคิดค้นเครื่องวัดแผ่นดินไหวและการติดตั้งในเครือข่ายอุปกรณ์เพื่อบันทึกและวัดแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ดังนั้นเมื่อภาพเคลื่อนไหวเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นแผ่นดินไหวที่ใหญ่ที่สุดจะปรากฏขึ้นเนื่องจากเป็นเพียงสิ่งเดียวที่สามารถตรวจจับได้ในระยะไกลด้วยเครื่องมือที่มีอยู่ในขณะนั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปมีการติดตั้งเครื่องวัดแผ่นดินไหวมากขึ้นเรื่อย ๆ และสามารถบันทึกแผ่นดินไหวได้น้อยลง ตัวอย่างเช่นสังเกตว่าในปี 1930 แผ่นดินไหวขนาดเล็กจำนวนมากดูเหมือนจะปรากฏในแคลิฟอร์เนียได้อย่างไร แต่ภาพลวงตานี้เกิดจากการติดตั้งเครื่องมือเพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคนั้น ในทำนองเดียวกันดูเหมือนว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนแผ่นดินไหวทั่วโลกในปี 1970 เมื่อแผ่นดินไหวได้ก้าวกระโดดอีกครั้งด้วยความก้าวหน้าด้านโทรคมนาคมและการประมวลผลสัญญาณด้วยคอมพิวเตอร์ดิจิทัลซึ่งเป็นแนวโน้มที่ยังคงดำเนินต่อไปในปัจจุบัน

การเกิดแผ่นดินไหวในศตวรรษที่ 20 ได้เปิดเผยการกระจายตัวทางภูมิศาสตร์ทั่วโลกของการเกิดแผ่นดินไหวและช่วยในการเสริมสร้างทฤษฎีของการแปรสัณฐานของแผ่นเปลือกโลก โปรดสังเกตว่ามหากาพย์แผ่นดินไหวไม่ได้เกิดขึ้นแบบสุ่มในอวกาศ แต่ก่อตัวเป็นรูปแบบบนพื้นผิวโลก เผยให้เห็นขอบเขตระหว่างแผ่นเปลือกโลกตามที่แสดงในตอนท้ายของอนิเมชั่นนี้ ช่วงเวลานี้ยังรวมถึงเหตุการณ์ที่น่าทึ่งบางอย่างรวมถึงเหตุการณ์ที่สร้างสึนามิที่สร้างความเสียหาย:

8.8 - เอกวาดอร์ - 31 มกราคม 1906
8.4 - Kamchatka, รัสเซีย - 3 กุมภาพันธ์ 1923
8.4 - Sanriku, ญี่ปุ่น - 2 มีนาคม ค.ศ 1933
8.6 - Unimak Island, Aleutian Islands - 1 เมษายน 1946
9.0 - Kamchatka, รัสเซีย - 4 พฤศจิกายน 1952
8.6 - Andreanof Islands, Aleutian Islands - 9 มีนาคม 1957
9.5 - วาลดิเวีย, ชิลี - 22 พ.ค. 1960
9.2 - Prince William Sound, Alaska - 28 มีนาคม 1964
8.7 - หมู่เกาะ Rat, Aleutian Islands - 4 กุมภาพันธ์ 1965

แผ่นดินไหวเหล่านี้เป็นตัวแทนของสิ่งที่ใหญ่ที่สุดที่เคยบันทึกไว้ โปรดสังเกตว่าพวกมันทั้งหมดเกิดขึ้นที่ขอบเขตของแผ่นเปลือกโลกชนิดใดเขตการมุดตัวที่แผ่นเปลือกโลกปะทะกันดังนั้นบริเวณนี้เป็นบริเวณที่เราคาดว่าจะเกิดสึนามิที่สร้างความเสียหายในอนาคต

PacificTWC
เผยแพร่เมื่อ 9 ธันวาคม 2018

EARTHQUAKES DO NOT HAVE A RACE & NATIONALITY.
AND DO NOT HAVE STATE BORDERS.

Earthquakes of the 20th Century

This animation shows every recorded earthquake in sequence as they occurred from January 1, 1901, through December 31, 2000, at a rate of 1 year per second.

The earthquake hypocenters first appear as flashes then remain as colored circles before shrinking with time so as not to obscure subsequent earthquakes.
The size of the circle represents the earthquake magnitude while the color represents its depth within the earth.
At the end of the animation it will first show all quakes in this 100-year period.
Next, it will show only those earthquakes greater than magnitude 6.5, the smallest earthquake size known to make a tsunami. It will then show only those earthquakes with magnitudes of 8.0 or larger, the “great” earthquakes most likely to pose a tsunami threat when they occur under the ocean or near a coastline and when they are shallow within the earth (less than 100 km or 60 mi. deep).

The animation concludes by showing the plate boundary faults responsible for the majority of all of these earthquakes.

The era of modern earthquake seismology—the scientific study of earthquakes—began in the 20th Century with the invention of the seismometer and its deployment in instrument networks to record and measure earthquakes as they occur. Therefore, when the animation begins only the largest earthquakes appear as they were the only ones that could be detected at great distances with the few available instruments available at the time. But as time progresses, more and more seismometers were deployed and smaller and smaller earthquakes could be recorded. For example, note how in the 1930’s many small earthquakes suddenly seem to appear in California, but this illusion results from the installation of more and more instruments in that region. Likewise, there appears to be a jump in the number of earthquakes globally in the 1970’s when seismology took another leap forward with advances in telecommunications and signal processing with digital computers, a trend that continues today.

20th Century seismology revealed the global geographic distribution of earthquakes and helped to solidify the Theory of Plate Tectonics. Notice how earthquake epicenters do not occur randomly in space but form patterns over the earth’s surface, revealing the boundaries between tectonic plates as shown toward the end of this animation. This time period also includes some remarkable events, including those that generated devastating tsunamis:

8.8 — Ecuador — 31January 1906
8.4 — Kamchatka, Russia — 3 February 1923
8.4 — Sanriku, Japan — 2 March 1933
8.6 — Unimak Island, Aleutian Islands — 1 April 1946
9.0 — Kamchatka, Russia — 4 November 1952
8.6 — Andreanof Islands, Aleutian Islands — 9 March 1957
9.5 — Valdivia, Chile — 22 May 1960
9.2 — Prince William Sound, Alaska — 28 March 1964
8.7 — Rat Islands, Aleutian Islands — 4 February 1965

These earthquakes represent some of the largest ever recorded. Note how they all occur at a particular type of plate boundary, subduction zones where tectonic plates collide, so these are the regions where we expect future devastating tsunamis to be generated.

PacificTWC
Published on Dec 9, 2018

 

Setiawan

ในการบินไปยัง # ภูเขาไฟ Popocatépetl ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2019 การทำลายของโดมหมายเลข 85 ได้รับการยืนยัน


ปล่องภายในนั้นมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 350 ม. และมีความลึกประมาณ 70-80 ม.



In an overflight to the #Popocatépetl volcano, Mexico on December 23 2019, the destruction of dome number 85 was corroborated.


The internal crater maintains a diameter of 350 m and its depth is approximately 70-80 m.

 

Michael DiFato

ดู 24 ชั่วโมง (ภาพที่ถ่ายทุก 3 ชั่วโมง) การเอียงสุดขีดที่ขั้วไดโพลของสนามแม่เหล็กโลก


A 24hr look (images taken every 3hrs.) at the extreme dipole tilting of the Magnetosphere of the Earth.

 

Michael DiFato

มอนสเตอร์สีขาวร้อนแรงอย่างต่อเนื่องที่ลงทะเบียนใน Schumann Resonance และกราฟแอมพิจูด

http://sosrff.tsu.ru/?page_id=7



Monster ongoing white hot spiking registering in the Schumann Resonance and amplitude graphs .

http://sosrff.tsu.ru/?page_id=7

 

28 ธ.ค.ปราบดาภิเษกพระเจ้ากรุงธนบุรี : พระนามทางการของ “พระเจ้าตากสินมหาราช” ที่เลือนหายจากความทรงจำคนไทย

ผู้เขียน : เมฆา วิรุฬหก
ที่มา : ศิลปวัฒนธรรม www.silpa-mag.com

คนไทยส่วนใหญ่มักเรียกสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีว่า “สมเด็จพระเจ้าตากสิน” ซึ่งเป็นพระนามที่ปรากฏบนจารึกหน้าฐานพระบรมราชานุเสาวรีย์ของพระองค์ที่วงเวียนใหญ่ ส่วนที่มาของพระนามดังกล่าว คนเฒ่าคนแก่ หรือครูบาอาจารย์ชอบบอกว่า เพราะพระองค์เป็นเจ้าเมืองตากมาก่อน เมื่อพระองค์ปราบดาภิเษกขึ้นครองกรุงธนบุรี คนก็ยังติดกับพระนามเดิมจึงมักเรียกพระองค์ว่า “พระเจ้าตากสิน”

อย่างไรก็ดี สุทธิศักดิ์ ระบอบ สุขสุวานนท์ บอกว่า การเรียกพระนามของพระองค์ดังกล่าวเท่ากับเป็นการลดทอนพระเกียรติยศของพระเจ้ากรุงธนบุรีอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์เพราะนั่นมิใช่พระนามอย่างเป็นทางการของพระองค์ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน และภายหลังมีความพยายามลดทอนพระบารมีของพระองค์ ไม่ยอมรับพระองค์ในฐานะ “พระเจ้าแผ่นดิน” ด้วยข้ออ้างว่า เมื่อสมัยที่พระองค์ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก บ้านเมืองยังเป็นจลาจล หาพราหมณ์ทำพิธีไม่ได้ การประกอบพระราชพิธีในครั้งนั้นจึงบกพร่องไม่เป็นไปตามโบราณราชประเพณี

แต่สุทธิศักดิ์ยืนยันว่า พระองค์ทรงมีสถานะเป็นพระเจ้าแผ่นดินโดยสมบูรณ์มาแต่ต้นรัชกาล เห็นได้จากหลักฐานการตั้งพระเจ้านครศรีธรรมราชครั้งกรุงธนบุรี พ.ศ. ๒๓๑๙ ที่ระบุว่าพระองค์ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น “พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว” และรับ “พระราชโองการ” ตามอย่างพระเจ้าแผ่นดินพระมหานครศรีอยุทธยาทุกประการ

อย่างไรก็ดี เมื่อล่วงเข้าสู่ราชวงศ์ใหม่พระองค์ถูกลดทอนพระบารมีลงด้วยการไปเรียกขานพระองค์ด้วยชื่อตำแหน่งเมื่อครั้งที่พระองค์ยังคงมีสถานะเป็นเพียงขุนนาง เช่นในหมายรับสั่งเรื่องแห่พระทราย เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๕ ที่เรียกพระองค์ว่า “พระยาตากสิน” และเรื่องตั้งเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัท) ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พ.ศ. ๒๓๒๗ ก็เรียกพระองค์ว่า “พญาตากสิน” สุทธิศักดิ์ จึงกล่าวว่า ในทัศนะของราชวงศ์ใหม่ พระเจ้ากรุงธนบุรีมีสถานะเป็นเพียง “หัวหน้าชุมชน” เท่านั้น ไม่ใช่ “พระเจ้าแผ่นดิน”

เอกสารในยุคหลังจึงยึดเอาธรรมเนียมการเรียขานพระนามของพระองค์ ด้วยสถานะเทียบเท่าหัวหน้าชุมนุมเรื่อยมา หรือเลี่ยงที่จะเอ่ยพระนามของพระองค์ไปเสีย จนกระทั่งเข้าถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สถานะความเป็น “พระเจ้าแผ่นดิน” ของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีจึงได้รับการฟื้นฟูขึ้น เพื่อแสดงความสืบเนื่องของแผ่นดินตั้งแต่สมัยอยุธยา มาจนถึงสมัยของพระองค์ (รัชกาลที่ ๔)

หลักฐานปรากฏอยู่ในเอกสาร “ประกาศพระราชพิธีโสกันต์สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์” พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ลงวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๔๐๘ ที่ตรัสเรียกว่า “กรุงธนบุรี” แปลว่าพระเจ้าแผ่นดินธนบุรี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงกล่าวใน “พระราชกรัณยานุสร” ว่า พระนามเดิมของพระเจ้ากรุงธนบุรีที่ยกย่องขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินคงมีอยู่แน่ แต่ไม่ปรากฏ (หลักฐาน) ดังที่ได้ตรัสว่า “พระนามเดิมคงมีอยู่ แต่จะใช้พระนามไร ก็ไม่รู้ที่จะสันนิษฐานต้องยกไว้”

ต่อมาเมื่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ตรวจชำระแก้ไขพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๗ พระองค์ได้ขนานพระนามสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเสียใหม่ตามพระวินิจฉัยส่วนพระองค์ว่า “สมเด็จพระบรมราชา องค์ที่ ๔” ซึ่งนักพงศาวดารไทยก็ได้ยึดถือตามกันมาและถือเป็นพระนามทางการของพระองค์ไป

อย่างไรก็ดี ภายหลังสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงวินิจฉัยตามหลักฐานที่ปรากฏในภายหลัง ระบุว่า พระนามที่แท้จริงของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีควรจะเป็น “สมเด็จพระเอกาทศรถ” อันเป็นพระนามที่กษัตริย์ตั้งแต่สมัยพระเจ้าทรงธรรมทรงใช้สืบต่อกันมา รวมถึงพระเจ้ากรุงธนบุรีด้วย ดังที่ปรากฏพระราชโองการตั้งเจ้านครศรีธรรมราช

นอกจากนี้ สุทธิศักดิ์ ยังพบว่า ข้อสันนิษฐานภายหลังของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ มีหลักฐานอื่นรองรับอีกหลายชิ้น เช่นพระราชสาส์นล้านช้าง ซึ่งสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีพระราชทานไปถึงพระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุต เมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๔ ที่จดพระนามร่วมสมัยของพระองค์ว่า “สมเด็จพระมหาเอกาทุศรุทอิศวรบรมนารถบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว” ตามด้วยพระราชสาส์นล้านช้าง พ.ศ. ๒๓๑๗ ที่ออกพระนามว่า “สมเด็จพระมหาเอก (า) ทศรธอิศวรบรมนารถบรมบพิตรฯ”

เมื่อสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงตรวจชำระแก้ไขพระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา พระองค์ได้แก้ไขพระวินิจฉัยเดิม และแก้พระนามของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีใหม่เป็น “พระบาทสมเด็จพระเอกาทศรถอิศวรบรมนาถบพิตรพระพุทธิเจ้าอยู่หัว” ซึ่ง สุทธิศักดิ์ กล่าวว่า พระนามดังกล่าวถอดความได้ว่า พระเจ้าแผ่นดินผู้เป็นใหญ่ผู้ครอบครองราชรถทั้งสิบเอ็ดรถ

อย่างไรก็ดี สุทธิศักดิ์ มองว่าพระนามดังกล่าวมิได้เป็นพระเกียรติยศสำหรับพระเจ้าแผ่นดิน “จึงเห็นควรปริวรรตพระนามตามอักขรวิธีในปัจจุบันเป็น ‘พระบาทสมเด็จพระเอกาทศรุทรอิศวร’ แปลว่า พระเจ้าแผ่นดินผู้แบ่งภาคมาจากเทพยดาผู้เป็นใหญ่ทั้ง ๑๑ พระองค์ คือ พระพรหม พระพิษณุ พระอิศวร พระพาย พระพิรุณ พระเพลิง พระยม พระไพศรพณ์ พระอินทร์ พระจันทร์ และพระอาทิตย์ ตามคติความเชื่อใน ‘ลัทธิเทวราช’ ของศาสนาพราหมณ์ (ฮินดู) ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการจรรโลงสิทธิธรรมในการขึ้นครองราชสมบัติของพระเจ้าแผ่นดินในอดีต”

ด้วยเหตุนี้ สุทธิศักดิ์ สรุปว่า “สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีจึงควรมีพระนามทางการตามจารึกในพระสุพรรบัฏว่า ‘สมเด็จพระเอกาทศรุทรอิศวร’ นับเป็นพระองค์ที่ ๖ ถัดจากพระบาทสมเด็จเอกาทศรุทรอิศวรที่ ๕ (สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ)” ไม่ใช่สมเด็จพระบรมราชา พระองค์ที่ ๔ อย่างที่ยึดถือกันมาแต่เดิม
-------------------------------------------------------------------------------------

อ้างอิง: “พระนามทางการที่ปลาสนาการของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี”. สุทธิศักดิ์ ระบอบ สุขสุวานนท์. ศิลปวัฒนธรรม ฉบับ ธันวาคม ๒๕๕๓

ที่มา : ศิลปวัฒนธรรม https://www.silpa-mag.com/history/article_5171

photo : พระเศียรของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ปั้นโดยศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี จัดแสดงอยู่ในหอประติมากรรมต้นแบบ กรมศิลปากร กรุงเทพฯ

https://www.matichon.co.th/education/religious-cultural/news_1333729

 

ลำปางพายุฝนถล่มอุทยานแจ้ซ้อน ไฟฟ้าดับ ต้นไม้หักโค่น เร่งย้ายนักท่องเที่ยวนอนกางเต้นท์ไว้ที่พักชั่วคราว

 

นักปั่นเซอร์ไพรส์เจอโคอาลาดักกลางถนนเดินเข้าหาขอน้ำกิน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

นี่คือลักษณะคราสวงแหวนในกาตาร์

Así fue visto el Eclipse anular en Qatar

 

คำร้องขอยกเลิกงานแสดงดอกไม้ไฟก่อนวันขึ้นปีใหม่อันโด่งดังของซิดนีย์และให้ใช้เงินไปกับการต่อสู้ไฟป่าที่โอบล้อมเมืองนี้แทนได้รับชื่อร่วมลงนาม 260,000 คน แต่เจ้าหน้าที่ ระบุว่า กิจกรรมจะมีต่อไป
#MGROnline #ออสเตรเลีย

 

เจ้าหน้าที่‼️ ที่ เจียงฮาย เปิ้นจัดกำลังพลเร่ง‼️ จ้วยวัด บ้าน จากพายุถล่มเจียงแสนตะคืน

 

*** ฝนแปลกๆ ***

ต่อไปก็ต้องระวังน้ำท่วม
สัจจะธรรม คือ สัจจะที่ต้องทำ
ทุกคน...

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

Gill Broussard


หนึ่งในตัวชี้วัดที่ฉันใช้ชี้ไปที่ดาวเคราะห์ (Planet-7X) ที่เข้ามา คือทิศทางที่ขั้วโลกเหนือแม่เหล็กกำลังเคลื่อนที่

บทความนี้ไม่ได้แสดงการซ้อนทับของการเคลื่อนไหวทางโลกกับตำแหน่งของโลกในวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ถ้าคุณเห็นว่าการจัดตำแหน่งของ Sun-Earth นั้นชี้ไปที่กลุ่มดาวราศีธนูโดยตรง ซึ่งเป็นที่ที่ NASA ส่งโพรบ space Pioneer และ Voyager เพื่อค้นหา "Planet-X" ไม่มีความบังเอิญที่นี่ ข้อมูลประวัติที่ผ่านมาของตำแหน่งขั้วแม่เหล็กในช่วงหลายปีที่ผ่านมา P-7X แสดงเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ (1-3 ปี) ก่อนที่มันจะมาถึง ------

ด้านล่างเป็นบทความล่าสุดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวขั้วโลกเหนือของ Geomatic

"บ้านใหม่ของซานต้า: ขั้วโลกเหนือกำลังจะย้ายไปรัสเซีย"



One of the indicators that I use to point to an inbound planet (Planet-7X) is the direction the Geomagnetic North Pole is moving.

This article does not show the overlay of the geomatic movement to Earth position in its orbit around the Sun if it did you would see that the Sun-Earth alignment is directly pointing to the constellation of Sagittarius. Which is also where NASA sent the Pioneer & Voyager space probes looking for "Planet-X". There is no coincidence here. Past historical information of the magnetic pole position during the years that P-7X passed, is indicating only a short time (1-3 yr) before it arrives. ------

Below is the latest article on the Geomatic North Pole movement.

"Santa's New Home: The North Pole Is Moving To Russia"


ภาพจาก https://www.zerohedge.com/geopolitical/santas-new-home-north-pole-moving-russia