ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Setiawan

    หนอนทะเลหลายพันขนานนามว่า "ปลาองคชาต" สำหรับรูปร่างและสีของพวกเขาปรากฏตัวในสัปดาห์นี้ที่ชายหาดแคลิฟอร์เนีย หลังจากเกิดพายุฤดูหนาวที่รุนแรง วันที่ 12 ธันวาคม 2019

    Thousands of marine worms dubbed "penis fish" for their shape and color appeared this week on a California beach after a strong winter storm exposed them. Dec12 2019


     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Setiawan


    ตำรวจในเวลส์ตอนเหนือกำลังสืบสวนการเสียชีวิตอย่างลึกลับของนกหลายร้อยตัว สหราชอาณาจักร 12 ธันวาคม 2019


    นกกิ้งโครงตายประมาณ 225 ตัวถูกพบบนเลนและตามแนวพุ่มไม้ในแองเกิลซี่ กับชาวบ้านบางคนบอกว่ามันดูเหมือนว่าพวกเขาตายจากท้องฟ้าแล้ว


     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    จีนขึงสลิงกั้นน้ำโขงห้ามเรือทุกชนิดเข้า-ออก ลุยบึ้มแก่งหินเปิดร่องน้ำล้านช้างไม่มีกำหนด
    เผยแพร่: 14 ธ.ค. 2562 12:28 ปรับปรุง: 14 ธ.ค. 2562 13:09 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

    เชียงราย – ทางการจีนประกาศห้ามเรือทุกชนิดเข้า-ออก พร้อมขึงสลิงกั้นน้ำโขงไม่มีกำหนด พร้อมลุยระเบิดแก่งหินเปิดร่องน้ำล้านช้าง ตั้งแต่พรมแดนกวนเหล่ย-กาลันป้า สิบสองปันนา

    562000012328805.jpg


    ขณะนี้เรือบรรทุกสินค้าและท่องเที่ยวในแม่น้ำโขง (แม่น้ำล้านช้าง) ไม่สามารถแล่นเข้าออกชายแดนประเทศจีนตั้งแต่เมืองกวนเหล่ย ซึ่งเป็นเมืองท่าหน้าด่านในแม่น้ำโขงของจีน มณฑลยูนนาน ห่างจาก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ไปทางทิศเหนือประมาณ 264 กิโลเมตร ได้เป็นการชั่วคราวแล้ว

    โดยทางการจีนได้มีการประกาศเมื่อ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา แจ้งผู้ประกอบการเดินเรือในแม่น้ำโขงว่าจะมีการปรับปรุงเกาะแก่งหรือระเบิดในแม่น้ำโขงตั้งแต่เขตเมืองกวนเหล่ย ขึ้นไปจนถึงทางตอนเหนืออย่างน้อยถึงเขตเมืองกาลันป้า เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ระยะทางประมาณ 50-60 กิโลเมตร ดังนั้นจึงขอให้ยุติการเดินเรือตามระยะทางดังกล่าวชั่วคราวจนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ พร้อมนำลวดสลิงมากั้นกลางแม่น้ำโขง เพื่อป้องกันไม่ให้เรือแล่นสัญจรเข้าไปในเขตอันตรายดังกล่าวด้วย

    562000012328808.jpg


    562000012328806.jpg


    ซึ่งทำให้เรือทุกชนิดที่เคยใช้เส้นทางนี้ต้องหยุดเดินเรือ แต่ที่ท่ากวนเหล่ยยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยเรือสินค้าที่มาจากประเทศไทย สปป.ลาว และเมียนมา ยังสามารถแล่นรับส่งสินค้าได้ แต่ไม่สามารถนำเรือข้ามลวดสลิงที่ทางการจีนขึงกั้นแม่น้ำโขงเพื่อเข้าไปส่งสินค้าใน สป.จีน ได้เท่านั้น ส่วนเรือท่องเที่ยว ก็ต้องมีการถ่ายเทนักท่องเที่ยวขึ้น-ลงที่ท่าเรือกวนเหล่ย แล้วนั่งรถบัสจีนเพื่อเดินทางไปยังเมืองกาหลันป้า-เมืองจิ่งหงหรือเชียงรุ้ง เมืองเอกของเขตปกครองตนเองสิบสองปันนาต่อไป

    น.ส.ผกายมาศ เวียร์ร่า รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย เปิดเผยว่าหลังจากจีนปิดกั้นแม่น้ำโขงที่เมืองกวนเหล่ยดังกล่าว ล่าสุดเรือกาสะลองคำที่นำนักท่องเที่ยวไปเมืองจิ่งหง ก็ต้องถ่ายเทนักท่องเที่ยวลงที่ท่าเรือแล้วขึ้นรถบัสเดินทางต่อไปอีกประมาณ 100 กว่ากิโลเมตร ซึ่งก็สะดวกสบายโดยไม่มีปัญหาใดๆ มากนัก ส่วนเรือสินค้าในแม่น้ำโขงก็ยังแล่นไปได้ตามปกติเพราะเมืองท่ากวนเหล่ยยังคงเปิด

    562000012328802.jpg


    อย่างไรก็ตาม ตอนนี้จีนแจ้งเพียงการปิดกั้นแม่น้ำโขงเพื่อระเบิดหินปรับปรุงร่องน้ำโขงในเขตจีน โดยไม่ได้แจ้งว่าจะเปิดให้เดินเรือได้วันไหน จึงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป ซึ่งแม้จะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้า-นักท่องเที่ยว เพราะมีเส้นทางคมนาคมอื่นๆทดแทนได้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในแม่น้ำโขงช่วงนี้คือ การขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง

    เพราะก่อนหน้านี้จะมีเรือบรรทุกและบริการเติมน้ำมันเรือสินค้า-เรือท่องเที่ยวอยู่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย แต่ปรากฎว่าหลังเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้เรือเมื่อเดือน ก.ย.62 ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ได้เข้มงวดหนักและห้ามไม่ให้มีการนำเรือไม่ได้มาตรฐานมาให้บริการ เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบหนักหากว่าควบคุมได้ไม่ทัน

    ซึ่งเมื่อไม่มีเรือบรรทุกน้ำมันบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ทำให้ผู้ประกอบการเดินเรือต้องไปเติมน้ำมันกันที่ท่าเรือบ้านโป่ง ประเทศเมียนมา ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำขึ้นไปประมาณ 10 กิโลเมตร ส่วนปั๊มน้ำมันลอยน้ำที่บ้านเชียงกก เมืองลอง สปป.ลาว ใกล้สะพานมิตรภาพเมียนมา-สปป.ลาว ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปีก็มีอันปิดต้วลงไปอีก จึงทำให้เรือแม่น้ำโขงช่วงนี้ต่างประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมันอย่างหนักและต้องตุนน้ำมันใส่ถังกันเองเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

    562000012328804.jpg

    ทั้งนี้จีน เปิดปฏิบัติการระเบิดเกาะแก่งกลางแม่น้ำโขงดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2543 แล้ว เพื่อเปิดร่องน้ำให้เรือสินค้าขนาด 300 ตันแล่นในแม่น้ำโขงได้ตั้งแต่มณฑลยูนนาน-หลวงพระบาง สปป.ลาว ตลอดทั้งปี และเมื่อติดขัดปัญหาการต่อต้านจากเครือข่ายภาคประชาชนในลุ่มน้ำโขงของไทย จนไม่สามารถระเบิดเกาะแก่งน้ำโขงตามแนวพรมแดน อ.เชียงแสน อ.เชียงของ และ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ก็หันไปโหมดำเนินการในเขตจีนแทนดังกล่าว

    ด้านศูนย์ควบคุมแม่น้ำล้านช้าง เขื่อนจี่งหง เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา แจ้งว่าเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมาเขื่อนได้ระบายน้ำออกมาในปริมาณ 2,172 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 599.62เมตร ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำที่หน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน วัดได้ลึกประมาณ 2.62 เมตร

    562000012328803.jpg
    https://mgronline.com/local/detail/9620000119219
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2019
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นามิเบีย 12/9/2019.

    IMG_5598.JPG IMG_5599.JPG IMG_5600.JPG

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ราคาขยะรีไซเคิลปีนี้ตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี ส่งผลกระทบกับธุรกิจรับซื้อของเก่าและกลุ่มซาเล้งเลิกเก็บขยะบางชนิด เพราะไม่คุ้มกับเงินที่ได้มา ขณะที่ภาคประชาชนคาดว่าเกิดจากการนำเข้าขยะต่างประเทศมากเกินไป และอาจจะเป็นสัญญาณอันตราย ทำให้ต้องเผชิญปัญหาสิ่งแวดล้อม #ขยะ #ขยะรีไซเคิล

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ในยุคที่ขยะเคยเป็น "ทอง" นางประมูลศรี บ้านขำ อายุ 53 ปี ที่ยึดอาชีพขับรถซาเล้ง เก็บของเก่าขายย่านดอนเมือง กรุงเทพมหานคร มานานกว่า 20 ปี บอกว่าย้อนกลับไปเมื่อปีก่อน ขับซาเล้งหาของเก่าวันละเที่ยวก็อยู่ได้แล้ว แต่หลังขยะไทยราคาตกต่ำตั้งแต่ต้นปี ทำให้อาชีพซาเล้งลำบาก ซื้อมา 100 บาท ขายได้ 50 บาท หลายคนถึงขั้นเปลี่ยนอาชีพ #ขยะ #ซาเล้ง

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ... "กระบวนพยุหยาตราชลมารค ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ ครั้งแรกในรัชกาลที่ ๑o"

    ... "กระบวนพยุหยาตราชลมารค" หรือ กระบวนพยุหยาตราทางชลมารค เป็นกระบวนเสด็จพระราชดำเนินทางน้ำที่เป็นราชประเพณีไทยที่มีมาแต่โบราณ โดยมีหลักฐานชัดเจนตั้งแต่สมัยอยุธยา เรือในกระบวนมีการสลักโขนเรือเป็นรูปสัตว์ในเทพนิยาย มีการจัดกระบวนหลายแบบ ที่รู้จักกันดีก็คือ "กระบวนพยุหยาตราเพชรพวง" ดังปรากฏใน ลิลิตพยุหยาตราเพชรพวง ลิลิตพรรณนากระบวนเรือ ประพันธ์โดยเจ้าพระยาพระคลัง (หน) เมื่อ พ.ศ. 2330 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โดยยึดถือตามแบบแผนเดิมสมัยอยุธยา

    ... ประเภทของการเห่เรือ สามารถจำแนกออกเป็น 2 ประเภทคือ "การเห่เรือหลวง" (การเห่เรือในงานพระราชพิธี) และ "การเห่เรือเล่น" (การเห่เรือเล่นของชาวบ้านในงานต่างๆ) ในปัจจุบันการเห่เรือยังคงอยู่เฉพาะ การเห่เรือหลวง ที่ใช้ในกระบวนพยุหยาตราชลมารค

    ... "สมัยเริ่มแรกของกระบวนเรือ"

    ... กระบวนพยุหยาตราชลมารค ใน "การแห่พระกฐินในอดีต" หน้าวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร การเสด็จทางน้ำที่เรียกว่า กระบวนพยุหยาตราชลมารค นั้นมีหลักฐานมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ปรากฏไว้ว่า พระร่วงเจ้า (พระมหาธรรมราชาที่ 1) ทรงใช้เรือออกลอยกระทง หรือ "พิธีจองเปรียง" ณ กลางสระน้ำ พร้อมทั้งเผาเทียนเล่นไฟในยามคืนเพ็ญเดือนสิบสอง

    ... ในยุคกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ตามพงศาวดารได้บันทึกไว้ว่า สมเด็จพระนเรศวรเมื่อคราวเสด็จไปตีเมืองเมาะตะมะ เสด็จพระราชดำเนินจากกรุงศรีอยุธยาโดยชลมารค พอได้เวลาฤกษ์ พระโหราราชครูอธิบดีศรีทิชาจารย์ ก็ลั่นกลองฆ้องชัยให้พายเรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์ อันเป็นเรือทรงพระพุทธปฏิมากรทองนพคุณ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุถวายพระนามสมญา “พระพิชัย” นำกระบวนออกไปก่อนเพื่อความเป็นสิริมงคล ( เพื่อเหตุผลทางจิตวิทยาก่อนทำสงคราม )

    ... ครั้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ซึ่งตัวเกาะกรุงนั้นเป็นเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำลำคลองชีวิตผูกพันกับสายน้ำ จึงปรากฏการสร้างเรือรบมากมายในกรุงศรีอยุธยา "ยามบ้านเมืองสุขสงบชาวกรุงศรีอยุธยาก็หันมาเล่นเพลงเรือ แข่งเรือเป็นเรื่องเอิกเกริก" ( เหตุผลทางสันทนาการ ) โดยเฉพาะพระเจ้าแผ่นดินกรุงสยาม เมื่อจะ "เสด็จฯแปรพระราชฐาน" ไปยังหัวเมืองต่าง ๆ หรือเสด็จฯ ไปทอดผ้ากฐินยังวัดวาอาราม ก็มักจะใช้เรือรบโบราณเหล่านั้นจัดเป็นกระบวนเรือยิ่งใหญ่ ดังนั้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมีกระบวนเรือเพชรพวง ซึ่งเป็นเรือริ้วกระบวนที่ใหญ่มาก จัดออกเป็น 4 สาย แล้วเรือพระที่นั่งตรงกลางอีก 1 สาย ใช้เรือทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 100 ลำ

    ... ระหว่างการเคลื่อนกระบวนก็มี "การเห่เรือพร้อมเครื่องประโคม" จน
    เกิดวรรณกรรมร้อยกรองที่ไพเราะยิ่ง คือ "กาพย์เห่เรือ" ของ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ หรือเจ้าฟ้ากุ้ง ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ตอนปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งบรรยายถึงความงดงามและลักษณะของเรือในกระบวนครั้งนั้น บทเห่เรือนี้ยังเป็นแม่แบบของกาพย์เห่เรือที่ใช้กันในปัจจุบัน

    ... "สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช" ( ครองราชย์ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2199 - 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2231 รวม 32 ปี )

    ... ด้วยเหตุที่สมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนั้น บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง มีการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่าง ๆ มากมาย ทั้งทรงสร้างเมืองลพบุรีขึ้น จึงมีการเสด็จฯ โดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค และในบางโอกาสก็โปรดเกล้าฯ ให้จัดกระบวนเรือหลวงออกรับคณะราชทูตและแห่พระราชสาสน์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งประเทศฝรั่งเศส จากกรุงศรีอยุธยา มายังเมืองลพบุรี ( เหตุผลทางการทูต ให้เกียรติแขกบ้านแขกเมือง )

    ... ในช่วงปี พ.ศ. 2199-2231 ปรากฏหลักฐานว่าเมื่อพระองค์เสด็จแปรพระราชฐานไปยังหัวเมืองต่าง ๆ มีการจัดกระบวนพยุหยาตราฯที่เรียกว่า “ขบวนเพชรพวง” เป็นริ้วกระบวนยิ่งใหญ่ 4 สาย พร้อมริ้วเรือพระที่นั่ง ตรงกลางอีก 1 สาย มีเรือทั้งสิ้นไม่ตำกว่า 100 ลำ ซึ่งนับเป็นกระบวนพยุหยาตราฯ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์และนับเป็นต้นแบบสำคัญของกระบวนพยุหยาตราฯ ในสมัยต่อ ๆ มา

    ... การจัดการกระบวนพยุหยาตรลมารคในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่กล่าวมานี้ จัดได้ว่าเป็นริ้วกระบวนใหญ่แสดงความมั่งคั่งของราชสำนักไทยในครั้งนั้นได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับริ้วกระบวนเรือในสมัยต่อมา จะพบว่าค่อย ๆ ตัดทอนลงไปเรื่อย ๆ เพราะเรือชำรุดไปตามกาลเวลาบ้าง ไม่มีผู้รู้จักทำขึ้นใหม่ให้ถูกต้องตามแผนโบราณบ้างจึงเหลืออยู่เท่าที่พอจะรักษาไว้ได้เท่านั้น จนกระทั่งถึงคราวเสียกรุงศรีอยุธยา

    ... "บันทึกของนิโคลาส แชแวร์"

    ... ภาพขบวนเรือพระราชพิธี ในการพระราชพิธีลงสรงสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมารในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตามบันทึกของ "นิโคลาส แชแวร์ ราชทูตฝรั่งเศส" ซึ่งเดินทางเข้ามาในสมัยนั้น ได้บันทึกไว้ในหนังสือ ประวัติศาสตร์แห่งราชอาณาจักรสยาม ถึงกระบวนเรือไว้ว่า

    ... "ไม่สามารถเทียบความงามกับขบวนเรืออื่นใดได้ เป็นขบวนเรือที่มโหฬาร มีเรือกว่า 200 ลำ โดยมีเรือพระที่นั่งพายเป็นคู่ ๆ ไปข้างหน้า เรือพระที่นั่งนั้น ใช้ฝีพายของพวกแขนแดงที่ได้รับการฝึกพายมาจนชำนาญ ทุกคนสวมหมวก เสื้อ ปลอกเข่า ปลอกแขน มีทองคำประกอบ เวลาพายพร้อมกับเป็นจังหวะจะโคน พายนั้นก็เป็นทอง เสียงพายกระทบเป็นเสียงประสานไปกับทำนองเพลงยอพระเกียรติของพระเจ้าแผ่นดิน"

    ... "สมัยกรุงธนบุรี"

    ... ในสมัย "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ทรงสร้างเรือขึ้นใหม่ทั้งชุดแต่ "ส่วนใหญ่เป็นเรือที่ใช้ในการรบ" ทั้งสิ้น เพราะในสมัยนั้นมีแต่การศึกสงครามโดยมีการแห่เรือสำคัญ คือ ในการพระราชพิธีสมโภชรับพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ซึ่งอัญเชิญมาจากเวียงจันทน์และมาแห่พักไว้ที่กรุงเก่าคือพระนครศรีอยุธยา มีข้อความในหมายรับสั่งพรรณนากระบวนเรือที่แห่มาจากต้นทางว่ารวมเรือแห่ทั้งปวง 115 ลำ และสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเสด็จพระราชดำเนินขึ้นไปสมทบที่พระตำหนักบางธรณีกรุงเก่า ความว่ามีเรือแห่มารวมกันเป็นจำนวน 246 ลำ ( ใช้ในการรบ ปลุกขวัญกำลังใจก่อนเดินทางไปรบ )

    ... "สมัยกรุงรัตนโกสินทร์"

    ... ครั้นมาถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์ได้ "ทรงสร้างเรือขึ้นมาใหม่อีก 67 ลำ" ซึ่งมีทั้งเรือพระที่นั่ง เรือกระบวนปิดทอง เรือพิฆาต และเรือแซง ซึ่งเป็นเรือที่สำคัญ ๆ เป็นที่รู้จักมาจนเท่าทุกวันนี้ ในรัชกาลต่อ ๆ มาก็ยังมีการสร้างเรือเพิ่มขึ้นมาอีก

    ... จากนั้นก็มิได้มีการสร้างเรืออีกจนถึงรัชสมัย "พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร" จึงได้มีการสร้าง "เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ" รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีกาญจนาภิเษก เรือที่สำคัญ ๆ และตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน ก็ได้แก่ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช สร้างขึ้นครั้งแรกในรัชกาลที่ 4 และมาสร้างขึ้นแทนลำเดิมอีกในรัชกาลที่ 6 เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 และ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 6

    ... ในช่วงสมัย "สงครามมหาเอเชียบูรพา" อู่เรือพระที่นั่งที่ปากคลองบางกอกน้อยถูกลูกระเบิดถล่มจนเรือเสียหายไปหลายลำ จากนั้นจึงมีการซ่อมแซมเรือและโอนเรือพระราชพิธี 36 ลำ ให้กรมศิลปากรดูแลเก็บรักษาไว้ที่อู่เรือพระราชพิธีปากคลองบางกอกน้อย และส่วนที่เหลืออีกราว 32 ลำ เป็นพวกเรือตำรวจ เรือดั้ง เรือแซง ซึ่งกองทัพเรือเก็บรักษาไว้

    ... "ในรัชสมัยรัชกาลที่ 9"

    ... พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค ณ วัดอรุณราชวรารามใน พระราชพิธีกาญจนาภิเษก

    ... ภาพขบวนเรือพระราชพิธี ในงานประชุมเอเปค 2003
    สำหรับในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้มีการจัดกระบวนพยุหยาตราชลมารคทั้งสิ้น 17 ครั้ง ครั้งล่าสุดคือ

    ... เมื่อ กระบวนพยุหยาตราชลมารค (ใหญ่) การเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม เมื่อ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 (เลื่อนการจัดกระบวนจากเดิมในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เนื่องจากกระแสน้ำและระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงและไหลแรง) หรือเมื่อ 7 ปีที่แล้ว

    ... "ในรัชสมัยรัชกาลที่ 10"

    ... สำหรับรัชสมัยรัชกาลที่ 10 ได้มีการจัดกระบวนพยุหยาตราชลมารคครั้งแรก ในการ "พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562" โดยการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค จากท่าวาสุกรี ไปยังท่าราชวรดิฐ ในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2562 (เลื่อนจากเดิมวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เนื่องจากมีกระแสน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น‬)

    ... ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเบื้องปลาย อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ที่แสดงถึงพระบารมีอันแผ่ไพศาลของพระเจ้าแผ่นดิน ถือเป็นประเพณีอันงดงาม และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของไทยที่สืบทอดมายาวนานจนถึงปัจจุบัน

    ... https://th.wikipedia.org/wiki/กระบวนพยุหยาตราชลมารค

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    'เกินไป' จีนขึงสลิงกั้นน้ำโขงห้ามเรือทุกชนิด 'เข้า - ออก' ระเบิดแก่งหินเปิดร่องน้ำล้านช้างไม่มีกำหนด

    ‘Our River Was Like a God ’: How Dams and China’s Might Imperil the Mekong

    • ทางการจีนประกาศห้ามเรือทุกชนิดเข้า - ออก พร้อมขึงสลิงกั้นน้ำโขงไม่มีกำหนด พร้อมลุยระเบิดแก่งหินเปิดร่องน้ำล้านช้าง ตั้งแต่พรมแดน 'กวนเหล่ย - เมืองฮำ หมู่บ้านไทลื้อที่เมืองกานหลั่นป้า' (Guan Lei - Ganlanpa) สิบสองปันนา (Xishuangpanna)

    • โดยทางการจีนได้มีการประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 2019 แจ้งผู้ประกอบการเดินเรือในแม่น้ำโขงว่า 'จะมีการปรับปรุงเกาะแก่งหรือระเบิดในแม่น้ำโขงตั้งแต่เขตเมืองกวนเหล่ย (Guan Lei) ขึ้นไปจนถึงทางตอนเหนืออย่างน้อยถึงเขตเมืองกานหลั่นป้า (Ganlanpa) เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ระยะทางประมาณ 50 - 60 กิโลเมตร'

    • ดังนั้นจึงขอให้ยุติการเดินเรือตามระยะทางดังกล่าวชั่วคราวจนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ 'พร้อมนำลวดสลิงมากั้นกลางแม่น้ำโขง' เพื่อป้องกันไม่ให้เรือแล่นสัญจรเข้าไปในเขตอันตรายดังกล่าวด้วย

    • ซึ่งทำให้เรือทุกชนิดที่เคยใช้เส้นทางนี้ต้องหยุดเดินเรือ แต่ที่ท่ากวนเหล่ยยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยเรือสินค้าที่มาจากประเทศไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และเมียนมา ยังสามารถแล่นรับส่งสินค้าได้ แต่ไม่สามารถนำเรือข้ามลวดสลิงที่ทางการจีนขึงกั้นแม่น้ำโขงเพื่อเข้าไปส่งสินค้าในจีน ได้เท่านั้น

    • ส่วนเรือท่องเที่ยว ก็ต้องมีการถ่ายเทนักท่องเที่ยวขึ้น - ลงที่ท่าเรือกวนเหล่ย แล้วนั่งรถบัสจีนเพื่อเดินทางไปยังเมืองกานหลั่นป้า - เมืองจิ่งหง 'หรือเชียงรุ้ง' เมืองเอกของเขตปกครองตนเองสิบสองปันนาต่อไป

    • ตอนนี้จีนแจ้งเพียงการปิดกั้นแม่น้ำโขงเพื่อระเบิดหินปรับปรุงร่องน้ำโขงในเขตจีน โดยไม่ได้แจ้งว่าจะเปิดให้เดินเรือได้วันไหน จึงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป ซึ่งแม้จะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้า - นักท่องเที่ยว เพราะมีเส้นทางคมนาคมอื่น ๆ ทดแทนได้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในแม่น้ำโขงช่วงนี้คือ 'การขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง'

    • ทั้งนี้จีน...เปิดปฏิบัติการระเบิดเกาะแก่งกลางแม่น้ำโขงดังกล่าวมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) แล้ว เพื่อเปิดร่องน้ำให้เรือสินค้าขนาด 300 ตันแล่นในแม่น้ำโขงได้ตั้งแต่มณฑลยูนนาน - หลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตลอดทั้งปี และเมื่อติดขัดปัญหาการต่อต้านจากเครือข่ายภาคประชาชนในลุ่มน้ำโขงของไทย จนไม่สามารถระเบิดเกาะแก่งน้ำโขงตามแนวพรมแดน

    ❶ อำเภอเชียงแสน

    ❷ อำเภอเชียงของ

    ❸ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ก็หันไปโหมดำเนินการในเขตจีนแทนดังกล่าว

    • ด้านศูนย์ควบคุมแม่น้ำล้านช้าง 'เขื่อนจี่งหง' (The Jinghong Dam) เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา แจ้งว่าเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 2019 เขื่อนได้ระบายน้ำออกมาในปริมาณ 2,172 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 599.62 เมตร ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำที่หน้าที่ว่าการ อำเภอเชียงแสน วัดได้ลึกประมาณ 2.62 เมตร

    • บรรณานุกรม :

    Credit : https://www.nytimes.com/2019/10/12/world/asia/mekong-river-dams-china.html

    Credit : https://www.scmp.com/news/china/art...-mekong-river-through-dam-building-spree-mike

    Credit : https://www.bangkokpost.com/thailand/general/1733071/dam-building-race-threatens-the-mekong-river

    Credit : https://www.bangkokpost.com/thailand/general/452406/big-plans-for-the-river-of-life

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พ.ย.62 คนไทยว่างงาน 4.29 แสน โดนเลิกจ้างพุ่ง 251%
    D0FE7DC6-5DB0-4E6B-AA62-3042474955A8.jpeg
    สำนักงานสถิติแห่งชาติ เผยผลสำรวจภาวะการทำงานเดือนพ.ย. 62 พบมีงานทำ 38 ล้านคน ลดลง 5.5 แสนคนเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีผู้มีงานทำ 38.26 ล้านคน โดนเลิกจ้างพุ่ง251%

    สำหรับจำนวนผู้ว่างงานในเดือนพฤศจิกายน2562 พบว่าอยู่ที่ 4.29 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราว่างงานร้อยละ 1.1 โดยจำนวนผู้ว่างงานดังกล่าวเพิ่มขึ้น6 หมื่นคน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.2 เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน2561 และหากเทียบกับเดือนก่อน ตุลาคม 2562 ที่ พบว่าจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 7.4 หมื่นคนหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20

    ทั้งนี้จำนวนผู้ว่างงานที่เพิ่มขึ้น ดังกล่าว ถือว่าเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 4 เดือน ที่มีจำนวนผู้ว่างงาน 4.36 แสนคนขณะที่เหตุผลที่ทำให้แรงงานว่างงาน ส่วนใหญ่ถูกนายจ้างเลิกจ้าง หยุดปิดกิจการทั้งที่ผู้ว่างงานเหล่านี้ มีระดับการศึกษาถึงระดับอุดมศึกษามีมากที่สุด

    https://www.nationtv.tv/main/content/378754400/?qj=
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Ameen Marek Letowski

    10 ธันวาคม 2019 SOHO Lasco C3

    ความคิดเห็นส่วนบุคคล:

    สุภาพบุรุษนี้ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั่วดวงอาทิตย์

    ไม่ปล่อยให้สิ่งที่สงสัยผ่าน

    จับภาพทุกอย่างเกิดขึ้นกับ SOHO/ LASCO

    ยอดเยี่ยม!

    ดูมันมาหลายสัปดาห์แล้ว ยอดเยี่ยม!

    IMG_5604.JPG

    Ameen Marek Letowski

    December 10, 2019 SOHO Lasco C3

    COMMENTAIRE PERSONNEL :

    CE MONSIEUR FAIT UN TRAVAIL EXCEPTIONNEL AUTOUR DU SOLEIL.

    IL NE LAISSE RIEN DE SUSPECT PASSER.

    IL CAPTURE TOUT CE QU'IL SE PASSE AVEC SOHO / LASCO.

    ADMIRABLE !

    JE LE REGARDE DEPUIS DES SEMAINES, IMPRESSIONNANT !

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Setiawan

    ลมแรงกระโชกกระทบ donostia, san sebastián, สเปน 13 ธันวาคม 2019


     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Setiawan

    วันที่ 14 ธันวาคม 2019


     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    แผ่นดินไหว ขนาด 5.9 (ขนาด 6.6) วานูอาตูและแผ่นดินไหวพระจันทร์เต็มดวง?
    ให้ความหวังนั่นแหละ
    IMG_5605.JPG IMG_5606.JPG IMG_5607.JPG IMG_5608.JPG IMG_5609.JPG
    5.9 (6.6) Vanuatu, full moon quake?
    Lets hope that's it.

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ‘B10’ ร้อนแรงดันราคาปาล์มพุ่ง 6 บาท/กก. #ฐานเศรษฐกิจ

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    แร่ขาวและแร่ใส แพงกว่าทอง และแพงขึ้นเรื่อย ๆ นี่อาจเป็นแร่ล้ำค่าแห่งโลกอนาคต

    พูดถึงโลหะมีค่า หลายคนจะนึกถึงทองคำ แต่ในอนาคตอันใกล้ เราอาจนึกถึง "Palladium" เป็นอย่างแรก เพราะแร่ชนิดนี้ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในแร่โลหะที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ราคาขึ้นพรวดเป็นเท่าตัวในเวลาปีเดียว ทำให้มันแพงแซงหน้าทองไปแล้วเรียบร้อย แร่ชนิดนี้มันคืออะไร? มีประโยชน์อะไร? ทำไมอยู่ดี ๆ ก็ล้ำค่าขึ้นมานะ?

    Palladium (แพลลาเดียม) เป็นแร่สีขาว มันวาว เป็น 1 ใน 6 แร่โลหะในกลุ่มแพลตินัม แร่แพลลาเดียมกว่า 85% ถูกเอาไปใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ มีความสำคัญในระบบไอเสีย โดยแพลลาเดียมทำหน้าที่ลดมลพิษในควันไอเสีย โดยแปลงให้เป็นคาร์บอนไดออกไซด์และไอน้ำ และยังถูกใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ทันตกรรม และเครื่องประดับอีกด้วย

    ด้วยคุณสมบัติช่วยลดมลพิษในไอเสียที่ทั่วโลกกำลังตามหา รัฐบาลหลายประเทศกำลังเดินหน้าออกนโยบายควบคุมปริมาณมลพิษที่ออกจากรถ โดยเฉพาะรัฐบาลจีน ที่ตอนนี้ออกกฎบังคับผู้ผลิตรถให้เพิ่มจำนวนแพลลาเดียมในระบบไอเสีย รวมถึงในทวีปยุโรปคนก็ซื้อรถเครื่องดีเซลกันน้อยลง (ซึ่งเครื่องดีเซลใช้แร่แพลตินัม) แล้วหันมาซื้อรถเครื่องเบนซินกันมากขึ้น ทำให้แร่แพลลาเดียมที่เป็นประกอบรถเครื่องเบนซินเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้นไปอีก ราคาล่าสุด (วันที่ 14 ธันวาคม 2562) อยู่ที่ออนซ์ละ 1,954.06 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 59,000 บาท แพงกว่าทองถึง 34%

    นอกจากความต้องการจะสูงแล้ว แพลลาเดียมยังผลิตได้ไม่มากนัก แหล่งผลิตหลักของแพลลาเดียมอยู่ที่ประเทศรัสเซียและแอฟริกาใต้ ส่วนใหญ่เป็นผลพลอยได้จากการสกัดแร่แพลตินัมกับนิกเกิล ทำให้แพลลาเดียมอยู่สภาวะขาดแคลนยาวนานมาตั้งแต่ปี 2012 และขาดแคลนรุนแรงเป็นประวัติการณ์ในปี 2019 ที่มูลค่าขึ้นสูงกว่าทองคำตลอดมาตลอดทั้งปี และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ ในอนาคต ตราบใดที่ทั่วโลกยังตื่นตัวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม และไม่มีแร่อื่นมาใช้ทดแทน

    อย่างไรก็ตาม ถ้าต่อไปรถยนต์พลังไฟฟ้าก้าวหน้าจนเป็นที่นิยมกว่ารถเบนซิน ถึงตอนนั้นแพลลาเดียมก็คงลดความสำคัญลง เพราะรถไฟฟ้าไม่มีระบบไอเสีย เลยไม่ต้องใช้แพลลาเดียมเลย แต่กว่าจะถึงวันนั้นคงจะอีกนานครับ นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่าแพลลาเดียมน่าจะยังราคาสูงลิบไปอีกหลายปี หรือสุดท้ายถ้าเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าไม่เกิด และไม่มีเทคโนโลยีหรือแร่อื่นมาแทนที่ สักวันแพลลาเดียมอาจกลายมาเป็นแร่เก็งกำไรยอดนิยมยิ่งกว่าทองก็เป็นได้

    สุดท้ายแพลลาเดียมจะทรงคุณค่ายาวนานเหมือนทองคำ หรือขึ้นลงวูบวาบแค่ชั่วครู่ เราก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ ไม่แน่ว่าในอนาคต ว่าที่พ่อตาอาจจะบอกลูกเขยว่า "สินสอดลูกสาวข้า ขอเป็นเงินสด 9 แสนบาท กับแพลลาเดียม 9 ออนซ์!"

    ขอบคุณข้อมูลจาก Bloomberg

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    John Traczyk

    13 ธ.ค. Schumann Resonance แอมพิจูดพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งประมาณ 10 ชั่วโมงที่ผ่านมาและมีค่า 60 หมายเหตุ * ลายเซ็นใหม่ที่ 37 Hz หยุด (หายไป)

    IMG_5610.JPG IMG_5611.JPG

    Dec 13. The Schumann Resonance spiked again about 10 hours ago and hit an amplitude of 60. Note* the new signature at 37 Hz stopped.


     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #ส่องผลเลือกตั้งเมืองผู้ดี
    #พลิกล็อคถล่มทลาย
    #แตกหักBrexit

    วันนี้ 13 ธันวาคม สรุปผลการเลือกตั้งใหญ่อังกฤษที่ลงคะแนนกันไปเมื่อวาน ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ นายกฯ บอริส จอห์นสัน ยื่นขอมติในสภาขอจัดเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนด เพื่อเป็นการปลดล็อค Brexit ที่โดนโหวตคว่ำ โหวตหงาย (หมายถึงหน้าของนายกฯ) จนกลายเป็นสภาโจ๊กไม่รู้กี่ครั้ง ถ้าสภามันจะลูกผี ลูกคนขนาดนี้ ยุบแม่ม! แล้วเลือกใหม่ดีกว่า

    โดยทางด้านพรรคอนุรักษ์นิยม ที่เป็นพรรครัฐบาล ก็ยังชูนโยบายเรื่อง Brexit ของ บอริส จอห์นสัน เราจะทำมันให้จบ และใช้สโลแกนหาเสียงง่ายๆ เรียกคะแนนสงสารจากบรรดาแม่ยกของพ่อนายกฯหัวทองว่า โปรด "Back Boris"

    ผลงานของ บอริส จอห์นสัน มีที่มาอย่างไร ทำไมได้เป็นนายกฯ เคยแชร์ไว้แล้ว สามารถย้อนวีรกรรมได้ที่นี่ค่ะ



    ส่วนพรรคแรงงาน ที่เป็นฝ่ายค้าน และคู่แข่งของพรรคอนุรักษ์มาทุกสมัย นำโดยนาย เจรามี คอร์บิน ลงสนามงวดนี้ด้วยความมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะดูกระแสแล้ว ชาวอังกฤษยี้พ่อนายกฯหัวทองอยู่พอสมควร ทั้งเรื่องมาดห่ามๆ กับผมทองทรงไม้กวาด หน้าตาคล้ายเป็นญาติของ รอน วิสลีย์ เอาสภาไม่เคยอยู่ คิดว่าสมัยนี้น่าจะเป็นคิวของพรรคแรงงานเสียที จึงเปิดตัวพร้อมกับสโลแกน "It's Time for Real Change."

    ฮิตจริงๆนะคำนี้ เก่าๆเราไม่เอา ยุคของเรามันต้อง Change!

    ซึ่งถ้าดูจากความโกลาหลของสภาอังกฤษในรอบ 3-4 ปีที่ผ่านมา ที่มัวแต่วุ่นวายอยู่กับ Brexit พรรคอนุรักษ์ก็เสียเครดิตไปเยอะ ตามโพลชาวอังกฤษ เขาก็สุดเซ็งกับการเมืองเขาเหมือนกัน รอบนี้ใครๆก็คิดว่าพรรคแรงงานน่าจะมา ในทวิตเตอร์ เทรนแฮชแท็ก
    #Labourwin มาตั้งแต่เปิดหีบ

    แต่พอหลังปิดหีบ นับคะแนนจริง ปรากฏว่าผลเลือกตั้งออกมาพลิกถล่ม!

    พรรคอนุรักษ์ ของพ่อนายกฯหัวทอง บอริส จอห์นสัน กวาดที่นั่งถล่มทลายถึง 365 ที่นั่งจากจำนวน สส.ในสภาทั้งหมด 650 ที่นั่ง

    นั่นหมายความว่า นอกจากจะชนะเลือกตั้งแล้ว ยังได้ที่นั่งเกินกึ่งหนึ่ง คือ 326 ที่นั่ง ทำให้พรรคอนุรักษ์สามารถจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากเพียงพรรคเดียวได้เลย เป็นครั้งแรกที่พรรคอนุรักษ์ได้คะแนนเสียงท่วมท้นถึงขนาดนี้ นับตั้งแต่สมัยนายกฯหญิงมาร์กาเร็ต แธทเชอร์ ตอนปี 1983 เป็นต้นมา

    พอมาดูในรายละเอียดของผลคะแนน หากเทียบกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ตอนปี 2017 สมัยนายกฯหญิง เธเรสซ่า เมย์ พรรคอนุรักษ์นิยมได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งนี้ถึง 47 ที่นั่ง

    ส่วนพรรคแรงงาน เลือกตั้งครั้งที่แล้วตอนปี 2017 ทำผลงานดีมาก ได้ที่นั่งเพิ่มมา 30 ที่นั่ง แต่มาคราวนี้ ที่นั่งสส.ของพรรค หายกราวรูดถึง 59 ที่นั่ง เหลือแค่ 202

    หายไม่ว่า ที่เจ็บใจกว่านั้นคือ โดนพรรคอนุรักษ์มาเจาะเขตฐานเสียงของพรรคที่ครองมาหลายสิบปีตั้งแต่ปี 1950 อันได้แก่ Bolsover, Rother Valley, Blyth Valley, Darlington และ Redcar ซึ่งเมืองเหล่าได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งแรงงาน ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมเหล็กกล้า และถ่านหิน รวมกันเรียกว่ากลุ่มเมือง "Red Wall" ที่เป็นฐานเสียงของพรรคแรงงานมาตลอด แต่เลือกตั้งคราวนี้ โดนพรรคอนุรักษ์มากวาดที่นั่งในเขตนี้ไปได้

    สำนักข่าว The Gardian ได้วิเคราะห์ความพ่ายแพ้แบบหมดรูปอย่างเหลือเชื่อ ของพรรคแรงงานในการเลือกตั้งครั้งนี้ไว้ 5 ประเด็น ที่ทำให้เห็นจริตของการเลือกผู้แทนของชาวเมืองผู้ดีได้ค่อนข้างน่าสนใจมาก

    1. ตัวหัวหน้าพรรค เจรามี คอร์บิน ดูเหมือนบารมีไม่ถึง และไม่ค่อยได้รับความนิยมจากชาวลอนดอนเท่าที่ควร เพราะมีประวัติสนับสนุนขบวนการกู้ชาติไอริช หรือ IRA ที่เคยก่อเหตุวินาศกรรมในกรุงลอนดอนมาก่อน ชาวเมืองลอนดอนบางส่วนเลยไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่

    2. นโยบายหาเสียง ที่ประกาศทำสวัสดิการผู้สูงอายุฟรี เรียนมหาวิทยาลัยฟรี ลดค่าบริการขนส่งมวลชน ลดอายุผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเหลือแค่ 16 อินเตอร์เนตบรอดแบนด์ฟรี และอีกสารพัด ที่ฟังดูดี แต่มันดีเกินไป จนเหลือเชื่อ too good to be true! จนชาวบ้านตั้งคำถามในใจว่า รัฐจะไปเอาเงินจากไหนมาจัดการสวัสดิการพวกนี้? สำหรับบ้านเราอาจเข้าไม่ถึงหัวอกชาวยุโรปว่า ที่เขามีสวัสดิการดีๆ นั่น นี่ นู่น หมายถึงเขาต้องเสียภาษีแพง แบบแพงมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เขากังวลว่า สุดท้ายชาวบ้านก็ต้องมาจ่ายภาษีแพงขึ้นไม่ทางตรง ก็ทางอ้อม ฟังแล้วสยอง ไม่เอาดีกว่า

    3. กลยุทธ Brexit ที่ดูเหมือนว่าพรรคแรงงานจะเล่นเกมการเมืองมากเกินไปในสภา ที่ทำให้การเจรจาจากที่ควรจะง่าย กลายเป็นเรื่องยาก ที่หาข้อตกลงกันไม่ได้มากว่า 4 ปีแล้ว และต้องไม่ลืมว่า Brexit เป็นการทำประชามติจากชาวอังกฤษทั่วประเทศ ที่ Brexit ชนะ ด้วยเสียงสนับสนุน 17 ล้านเสียง เป็นสิ่งที่ชาวอังกฤษ เสียงข้างมากเขาเลือกแล้ว ถึงแม้หลายคนอยากจะขอเลือกใหม่ก็ตาม ดังนั้นการจะเอามติของชาวอังกฤษ 17 ล้านมาเล่นเกมในสภา จึงเป็นเรื่องที่คนอังกฤษบางส่วนเขาขำไม่ออก

    4. การเสียประตูคาบ้าน อย่างเขตที่เป็นฐานเสียงสำคัญอย่างกลุ่ม Red Wall ที่ได้กล่าวไปแล้ว ทำให้พรรคแรงงานเสียหายหลายแสน ซึ่งหลายคนก็คาดไม่ถึงว่าพรรคอนุรักษ์ไปยิงถล่มประตูคู่แข่ง ที่เล่นสนามเหย้าแข็งแกร่งที่สุดมาหลายสิบปีได้อย่างไร แต่หลายคนมองไปที่ความย้อนแย้งในตัวหัวหน้า พรรคแรงงาน เจรามี คอร์บิน ที่ควรจะเข้าถึงชาวกรรมกรรากหญ้าแต่กลับไปจับตลาดบน ฐานเสียงชนชั้นกลาง และชาวเมือง ในขณะที่หัวหน้าพรรคอนุรักษ์ ที่มีลุคบ้านๆ หัวยุ่งทั้งวัน แลดูโก๊ะๆ โจ๊ะๆ ดูจะเข้าถึงกลุ่มชาวบ้านทั่วไปได้มากกว่า ที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการพลิกถล่มในเขต Red Wall ก็เป็นได้

    5. กลยุทธการหาเสียง เนื่องจากเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคแรงงานค่อนข้างมั่นใจในกระแสพรรค ที่กะจะกวาดที่นั่งเพิ่มขึ้น และจะเจาะฐานเสียงของพรรคอนุรักษ์ให้ได้ ทำให้การหาเสียงดูกระจายตัวมากเกินไป จนขาดจุดโฟกัส ฐานเสียงเก่าเข้าไม่ถึง ฐานเสียงใหม่ก็เจาะไม่ได้ เลยโดนพรรคอนุรักษ์ที่อาศัยทุนที่หนากว่า มาเจาะที่ฐานเสียงเก่าของตัวเองได้

    และนี่ก็เป็นบทวิเคราะห์ของสำนักข่าวอังกฤษ ที่รู้ผลเลือกตั้งแล้ว แต่ก่อนหน้าเลือกตั้ง ไม่เห็นมาพูดอย่างนี้เลยนะ

    ก็เท่ากับว่าอังกฤษจะได้นายกฯหัวทองคนเก่า ที่เขาสัญญาว่าจะ Brexit ให้สำเร็จในสมัยเขาให้จงได้ และส่วนหนึ่งที่คนอังกฤษยัง Back Boris ก็คงเพราะอยากให้ Brexit มันจบเสียที ก็เอาให้ได้ละกัน หลายปีแระ

    ส่วนพรรคแรงงานก็คงต้องทบทวนกลยุทธในสภากันใหม่ เผลอเล่นการเมืองมันส์ไปหน่อย มันก็มีผลเหมือนกัน แต่วันพระไม่ได้มีหนเดียว วันนี้พลาดไป สมัยหน้ายังมี แต่ปีนี้ต่อคิวพ่อนายกฯหัวทองไปก่อนละกันนะ

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ... " ฝรั่งเศส, นักสอนศาสนาฮอลันดา: หนุนกบฏไตเซินในเวียตนาม, ปี 1778"

    ... ประวัติศาสตร์ของอาเซี่ยนช่วงหลังปฏิวัติอุตสาหกรรมของยุโรปล้วนแต่มีการสนันสนุนของนักล่าอาณานิคมมาเกี่ยวข้องเกือบทั้งสิ้น

    ... ในเพื่อนบ้านเรา "เวียตนาม" นั่นช่วงที่เกิด "กบฏไตเซิน" ระหว่างปี 1778 -1788 นั้น, ที่อาศัยช่วงที่สยามสมัย "กรุงธนบุรี" มีศึกกับ "เวียตนาม" ที่เมืองห่าเตียน เพราะว่าห่าเตียนหรือเมืองพุทไธมาส หรือบันทาสมาส เป็นที่หลบซ่อนของอดีตราชิกูลของสมัยอยุธยาตอนปลายพระราชนัดดาของพระบรมโกศ คือเจ้าศรีสังข์กับเจ้าจุ้ย ที่อาจจะซ่องสุมผู้คนมาเป็นเสี้ยนหนามทวงอำนาจคืนได้ พระเจ้าตากสินจึงลงไปทำศึกกับเมืองห่าเตียน ที่มีชาวจีนกวางตุ้งเป็นใหญ่ ส่วนท่านเป็นแต้จิ๋ว ในมุมหนึ่งเสมือนสงครามระหว่างชาวกวางตุ้งและแต้จิ๋ว

    ... ระหว่าง "สยามกับเวียตนาม" ทำศึกกันอยู่นี้เอง สามพี่ร้องไตเซินในเวียตนามก็ถือโอกาศก่อกบฏขึ้นต่อราชวงศ์เหวงียน โดยได้รับการสนับสนุนจากชาวบ้าน และต่างชาติ นั่นคือ "ทหารรับจ้างฝรั่งเศส" และ "นักสอนศาสนาเยซูอิตชาวฮอลันดา" ทำให้กำลังทหารและเครือข่ายของไคเซินเข้มแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ

    ... จนสุดท้ายทำให้ไตเซินล้มล้างอำนาจของ "เหงวียนฟุกถ่วน" ลงได้ จนทำให้ "เหวงียนฟุกอันญ์" หรือไทยเรียกว่า "องเชียงสือ" ต้องหนีเข้ามาที่เมืองห่าเตียนและถูกตามล่ามาตีอีก จนต้องหนีไปพึ่งพระบรมสมภารของกษัตริย์ไทย

    ... จนถึงปี 1785 พงศาวดารไทยสมัยรัชกาลที่หนึ่งระบุว่าองเชียงสือได้หลบหนีจากสยามในช่วงที่สยามติดรบพุ่งกับพม่าอยู่และสุดท้ายท่านก็ตีเมืองเวียตนามคืนกลับมาจากพวกไตเซินได้

    ... นั่นเป็นครั้งแรกๆ ที่ฝรั่งเศสเข้ามาแทรกแซงการเมืองภายในของเวียตนาม เพื่อให้คนในชาติฆ่ากันเอง ให้อ่อนแอจากภายในเพื่อพวกเขาจะเข้ามายึดเป็นเมืองขึ้นในภายหลังได้โดยง่าย

    (... ปัจจุบันนี้ปี 2019 ฮ่องกง และซินเจียง ของจีน กำลังถูกต่างชาติแทรกแซงหนุนปั่นป่วนอยู่ นักล่าอาณานิคมฝรั่งผิวขาวใจดำไม่เคยเปลี่ยนดีเอ็นเอ เพียงแค่เปลี่ยนวิธีการให้ดูดีเนียนตาเหมือนพระเอก, เราต้องระวังและรู้เท่าทัน )

    .

    ... บางส่วนคัดลอกจาก "ประวัติศาสตร์เวียตนาม" โดยรงรอง วงศ์โอบอ้อม, และ "2310กรุงธนบุรีผงาด" โดยสุเจน กรรพฤทธิ์

    .

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    มาตาฮารี ยอดจารชนหญิงของโลก

    ถ้าจะนับเจมส์บอนด์ 007 เป็นสุดยอดสายลับฝ่ายชาย "มาตาฮารี" ก็ต้องเป็นสุดยอดสายลับฝ่ายหญิง ซ้ำยังเหนือกว่า เจมส์ บอนด์หลายเท่า เพราะชีวิตโลดโผนเก่งเกินคน เจมส์ บอนด์นั้นมาจากบทประพันธ์ของเอียน เฟลมมิ่ง แต่ผลงานทุกชิ้นของมาตาฮารีถูกขีดเขียนด้วยตัวเธอเอง ทำให้เธอได้ชื่อว่าเป็นยอดสายลับที่น่ากลัวที่สุดในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยสถิติล้วงความลับทางทหารไปถึง 1,700 ชิ้น โดยมีเพียงใบหน้าสวยเฉี่ยวกับเสน่ห์ร้อนแรงเป็นอาวุธ

    ชื่อเดิมของมาตาฮารีคือ มาร์กาเรท เกอร์ทรูด เซลเล เธอเกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 1876 ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์
    ชีวิตของมาร์กาเรทเวียนว่ายอยู่ในเกมกามแห่งความรักตั้งแต่แตกเนื้อสาว อายุเพียง 18 ปี เธอก็มีข่าวชู้สาวคาวสวาทกับครูใหญ่ในโรงเรียนตัวเอง จนต้องเลิกเรียนกลางคัน จากนั้นมาร์กาเรทก็ไปคว้ารูดอล์ฟ แม็คลีออด นายทหารแห่งกองทัพฮอลันดามาเป็นสามี รูดอล์ฟนั้นแก่กว่าเมียเด็กถึง 20 ปี ในยามข้าวใหม่ปลามัน เขาจึงหลงใหลมาร์กาเรทหัวปักหัวปำ ทั้งคู่มีลูกชายด้วยกันคนหนึ่ง สองปีต่อมารูดอล์ฟก็ย้ายไปทำงานในค่ายทหารที่เกาะชวา มาร์กาเรทคลอดลูกสาวอีกคนหนึ่งที่นั่น แต่ความสุขของเธออยู่ได้เพียงไม่นาน รูดอล์ฟก็เริ่มออกลายเจ้าชู้ขี้เมา เห็นเมียเป็นกระสอบทราย ส่วนมาร์กาเรทเองก็ใช่ย่อย ความร้อนแรงบวกเสน่ห์แพรวพราวของเธอทำเอาทหารทั้งค่ายแทบจะตีกันตาย ทั้งสาวเจ้าก็ขยันเล่นชู้เปลี่ยนคู่ควงมิได้หยุด ความสัมพันธ์ของเธอกับรูดอล์ฟจึงกลายเป็นรักระหว่างรบ มีแต่แยกเขี้ยวยิงฟันใส่กันไม่เว้นแต่ละวัน

    จุดแตกหักมาถึงเมื่อลูกชายของทั้งคู่ถูกคนพื้นเมืองวางยาพิษตาย สองผัวเมียจึงเปิดศึกน้ำลายโทษกันไปมา และจบด้วยการเลิกรากัน มาร์กาเรทยกลูกสาวให้สามีไป ส่วนตัวเธอนั้นเดินทางไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ปารีสซึ่งเป็นเมืองแห่งแสงสีในยุคนั้น ไหนๆ ก็จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ทั้งที มาร์กาเรทจึงถือโอกาสเปลี่ยนชื่อเสียเลย เธอตั้งชื่อให้ตัวเองว่า มาตาฮารี หมายถึง ดวงตาแห่งรุ่งอรุณ และยึดอาชีพนักเต้นระบำเลี้ยงตัว มาตา ฮารี สร้างเรื่องโฆษณาตนเองโดยอ้างว่ามีเชื้อสายชาวอินโดนีเซีย และเป็นลูกของนักเต้นบูชาเทพในวิหารศาสนาฮินดู ต้องเต้นเปลือยในพิธีกรรมทางศาสนามาแต่อายุยังน้อย และเป็นที่มาของลีลาท่าเต้นประหลาดน่าพิศวงซึ่งที่จริงเธอคิดขึ้นเอง ชาวยุโรปในขณะนั้นยังไม่รู้เรื่องวัฒนธรรมตะวันออกดีนัก ต่างพากันหลงเชื่อและตื่นเต้นฮือฮาในตัวเธอกันอย่างมาก

    การเต้นของเธอสร้างความฮือฮาไปทั่วกรุงปารีส เพราะในขณะที่นางระบำคนอื่นเขาร่ายรำกันด้วยศิลปะอันนุ่มนวล มาตาฮารีก็แหวกแนวด้วยการเต้นไปเปลื้องผ้าไป มือไม้ก็ลูบไล้ร่างกายตัวเองไปพลางส่งเสียงร้องครางกระเส่ายั่วยวน เล่นเอาคนดูแทบหัวใจจะวายกับการแสดงอันเด็ดดวงที่ไม่มีนางระบำคนไหนกล้าทำมาก่อน

    มาตาฮารีตระเวนแสดงไปทั่วยุโรป และขายบัตรเข้าชมในราคาสูงลิ่ว มีเพียงคนชั้นสูง นายทหารรัสเซีย ข้าราชการรัฐบาลฝรั่งเศส ทหารสเปนและอังกฤษที่เงินหนาเท่านั้นที่จะเข้ามาดูได้ เมื่อลูกค้ายอมทุ่มทุนขนาดนี้ มาตาฮารีจึงมีโปรโมชั่นพิเศษแถมให้ ด้วยการตามไปโชว์ลีลาระบำภาคพิสดารต่อถึงบนเตียง ทำให้เธอคุ้นเคยกับคนสำคัญของเยอรมัน ฝรั่งเศส และอังกฤษเป็นอย่างดี

    ชีวิตในช่วงนี้เป็นจุดสูงสุดในอาชีพของเธออย่างแท้จริง มาตาฮารีสำเริงสำราญอยู่ท่ามกลางแสงสี เงินทอง และคำชื่นชม จนถึงปี 1914 สงครามโลกครั้งที่ 1 ก็ระเบิดขึ้น นักระบำส่วนใหญ่พากันตกงานเป็นทิวแถว มีเพียงมาตาฮารีเท่านั้นที่ยังงานชุก เดินทางขึ้นล่องยุโรปเป็นว่าเล่น จนทางการอังกฤษเริ่มสงสัยว่าเธออาจจะรับจ๊อบเป็นสายลับ คอยเจาะข่าวให้เยอรมันเสียมากกว่า อังกฤษจึงส่งข่าวไปถึงฝรั่งเศสซึ่งเป็นชาติพันธมิตร ให้จับตาดูความเคลื่อนไหวของมาตาฮารีตลอดเวลา พร้อมกันนั้นก็มีข่าวลือเกี่ยวกับเธอออกมาหลายกระแส บ้างก็ว่าที่เธอเป็นสายลับให้เยอรมันเพราะเคยทำความผิดคดีอาญา จึ งต้องทำงานแลกกับการไม่ต้องติดคุก บ้างก็ว่า เธอถูกส่งไปเข้าโรงเรียนฝึกหัดจารชนที่เบลเยี่ยม เพื่อให้เรียนทุกอย่างที่สายลับพึงรู้ ตั้งแต่การเขียนรหัสสื่อสาร ถอดโค้ด และสร้างเครือข่ายสื่อสารต่างๆ โดยมีรหัสประจำตัวเป็นหมายเลขเอช 21 (H21)

    ตลอดเวลาที่ข่าวลือแพร่สะพัดในหมู่นายทหาร มาตาฮารีกลับไม่ได้รู้ตัวเลยว่าคนอื่นเขาโกลาหลเพราะเธอมากแค่ไหน เพราะขณะนั้นสาวเจ้ากำลังหน้ามืดตามัวอยู่กับวลาดิเมียร์ เดอมัสลอฟ หรือวาดิม ทหารร้อยเอกแห่งกองทัพรัสเซีย หนุ่มน้อยวัย 21 คนนี้เป็นรักแท้รักเดียวในชีวิตของมาตาฮารี แต่ก็เป็นชายที่สร้างความเสียใจให้กับเธอไม่ต่างจากคนอื่นที่ผ่านมา วาดิมเป็นพวกรายได้ต่ำแต่รสนิยมสูง ครั้นพอเงินหมดก็จะมาแบมือขอจากมาตาฮารี เธอจึงต้องมองหาอาชีพใหม่ๆ เพื่อปั๊มเงินไว้ให้คนรักผลาญเล่น ด้วยเหตุนี้เมื่อยอร์ช ลาดูส นายทหารฝรั่งเศสมาติดต่อให้มาตาฮารีเป็นสายลับให้กับฝรั่งเศสด้วยค่าจ้างก้อนโต เธอจึงตกลงทันที

    ฝีมือการสืบข่าวของเธอฉกาจฉกรรจ์กินขาดนักสืบรุ่นเก่าๆ ในยุคนั้นทุกคน เพราะขณะที่สายลับคนอื่นต้องอาบเหงื่อต่างน้ำเอาชีวิตเข้าแลกเสี่ยงหาข่าว มาตาฮารีกลับใช้วิธีนอนสืบ โดยมีเตียงและความสวยเป็นอาวุธ ทำให้เธอได้ข่าวที่เป็นความลับสุดยอดจริงๆ มานับไม่ถ้วน จนกลายเป็นตำนานยอดจารชนของโลก ตอนแรกยอร์ช ลาดูส พอใจในฝีมือล้วงลูกแบบคลุกวงในของมาตาฮารีมาก แต่ต่อมาเขาก็พบว่าก่อนที่ข่าวแต่ละชิ้นจะมาถึงมือเขา มาตาฮารีต้องบอกกับวาดิม คนรักชาวรัสเซียของเธอก่อนเสมอ ซึ่งแน่นอนว่าวาดิมต้องรายงานไปยังกองทัพรัสเซียด้วย ยอร์ช ลาดูส จึงเบี้ยวไม่ส่งเงินและความช่วยเหลือให้มาตาฮารีอีก ทั้งยังแกล้งให้เธอถูกจับไปในข้อหาเป็นจารชน กว่าสาวเจ้าจะรอดตัวรอดมาได้ก็เรียกว่าหืดขึ้นคอ เธอจึงหมดศรัทธาในรัฐบาลฝรั่งเศสและหันไปขายข่าวให้กับชาติอื่นบ้าง ทั้งอังกฤษ เยอรมัน รัสเซีย สเปน แล้วแต่ว่าใครจะรับซื้อ โดยไม่สนใจว่าลูกค้าของเธอล้วนแต่เป็นศัตรูคู่แค้นกันอยู่ เรื่องนี้เป็นชนวนเหตุสำคัญที่ทำให้มาตาฮารีกลายเป็นตัวอันตรายของนานาชาติไปโดยปริยาย

    ในปี 1917 ชีวิตสายลับหญิงของมาตาฮารีก็สิ้นสุดลง เมื่อหน่วยสืบราชการลับฝรั่งเศสสามารถถอดรหัสข้อความที่ถูกส่งไปถึงอาร์โนลด์ แคลเล่ ทหารเรือชาวเยอรมัน ซึ่งเชื่อว่าติดต่อกับมาตาฮารีได้
    "เอช 21 แจ้งว่ามารี โบนาปาร์ต เจ้าหญิงแห่งกรีก กำลังใช้ความสัมพันะอันลึกซึ้งของเธอกับบริอังต์ (อริสทีด บริอังต์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสในขณะนั้น) เพื่อให้เขาสนับสนุนพระสวามีของพระนาง"

    พอเห็นหลักฐานตำตา ฝรั่งเศสก็ตะครุบตัวมาตาฮารีทันที ในข้อหาขายความลับฝรั่งเศสให้กับรัฐบาลเยอรมัน อีกทั้งยอร์ช ลาดูสยังหักหลังเธอซ้ำสองด้วยการเปิดโปงว่ามาตาฮารีก็คือสายลับรหัส เอช 21 นั่นเอง มาตาฮารีถูกส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำแซงเลซาร์เป็นเวลานานก่อนจะขึ้นศาลทหาร โดยมีอัยการพันเอกปิแอร์ บูชาดอน เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง ตอนแรกเธอพยายามปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้เป็นสายลับ และเงินก้อนใหญ่ในบัญชีธนาคารของเธอมาจากการขายตัวล้วนๆ แต่ทว่าหลังจากที่พยายามติดต่อคนใหญ่คนโตที่รู้จัก กลับถูกบอกปัดอย่างไม่แยแส มาตาฮารีก็คงพอจะเดาจุดจบของตัวเองได้ สุดท้ายเธอจึงยอมรับว่าเป็นจารชนจริงๆ

    เธอเล่าว่าในคืนหนึ่งของเดือนพฤษภาคม ปี 1916 ขณะที่อยู่ในกรุงอัมสเตอร์ดัม โครเมอร์ ทูตจากเยอรมันได้มาติดต่อจ้างเธอเป็นสปาย โดยสัญญาจะจ่ายเงินให้ถึง 20,000 ฟรังก์ ขณะนั้นมาตาฮารีกำลังถังแตกสุดๆ เพราะถูกยอร์ช ลาดูส เบี้ยวไม่ส่งเงินค่าจ้างมาให้ เธอจึงรับข้อเสนอของทางเยอรมันโดยไม่เสียเวลาคิด และเธอก็ทำงานคุ้มค่าจ้าง เพราะสามารถส่งข่าวไปให้เยอรมันถึง 1,700 ครั้งชนัเลิศทั้งด้านคุณภาพและปริมาณ เกินหน้านักสืบในประวัติศาสตร์ทุกคน

    มาตาฮารีถูกส่งไปขังยังคุกหญิงแซงเลซาร์ ในกรุงปารีส นานถึง 7 เดือน ก่อนจะถูกยิงเป้าเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ปี 1917 ความตรอมตรม หวาดหวั่น สิ้นหวัง ทำให้สาวงามที่เคยเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่วยุโรป เดินขึ้นสู่ลานประหารในสภาพหญิงวัยกลางคนอ้วนฉุ ไม่เหลือเค้าความสวยงามในอดีตอีกเลย แต่เธอก็ยังไม่ทิ้งลายนางเสือร้าย ก่อนจะถูกยิงเป้า มาตาฮารีร้องขอผู้คุมว่าอย่าใช้ผ้าปิดตาหรือมัดเธอกับเสาเหมือนนักโทษทั่วไป เพราะเธอต้องการตายอย่างกล้าหาญสมศักดิ์ศรี นาทีที่พลทหารกำลังจะลั่นไกปืน มาตาฮารีก็โปรยยิ้มและส่งจูบให้นักแม่นปืนและเจ้าหน้าที่ที่คุมการประหารทุกคน จากนั้นเสียงปืนชุดหนึ่งก็ดังขึ้น ร่างของจารชนหญิงที่น่ากลัวที่สุดในโลกก็ทรุดฮวบลงกับพื้น ลมหายใจเฮือกสุดท้ายหลุดลอยไป เหลือไว้เพียงตำนานของผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยเขย่าโลกในฐานะสายลับหลายหน้า และเหยื่อที่หลงเข้าไปในวังวนของเกมการเมืองเท่านั้น



    ที่มา :https://www.anyapedia.com

     

แชร์หน้านี้

Loading...