ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หูฉลาม "ยาพิษ" ราคาแพง แหล่งสะสมปรอท-แคดเมียม
    17:40 | 5 ธันวาคม 2562 |

    G0DL5oPyrtt5HBAi4n9bLHbdFWOjFbk9VepmaQAwQtY63KlN0B8SR6.jpg


    รายงานทางวิทยาศาสตร์และบทความหลายแหล่งระบุว่า หูหลามเป็นเมนูที่มีสารโลหะหนักตกค้างจำนวนมาก ไม่เหมาะกับการนำมาบริโภค

    วันนี้ (5 ธ.ค.2562) เฟซบุ๊ก วิทยาสัตว์ตอบคุณได้ เผยแพร่ข้อความเรื่องเมนูหูฉลาม ที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้ ว่าเมนูหูฉลามเป็นเมนูที่มีสารพิษอันตรายมหาศาล มีโลหะหนักตกค้าง

    "หูฉลาม" อาหารขึ้นชื่อของผู้รากมากดีเชื้อสายจีนมาช้านาน แต่ด้วยจากความต้องการที่มากขึ้นตามการขยายตัวของประชากรโลก ทำให้ฉลามหลายชนิดกลายเป็นเหยื่อทางค่านิยมการบริโภคนี้

    ถ้าพูดถึงปัญหาการบริโภคเกินขนาด ก็หนีไม่พ้นผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม หลายคนก็จะหาว่าเป็นเรื่องไกลตัว ไม่เห็นเกี่ยวกับวิถีชีวิตในรัฐสภาและห้องอาหารหรูหราเลย

    แต่ถ้าเกิดว่าหูฉลามเมนูบำรุงกำลังราคาแพงนั้น กลับพ่วงแถมมาพร้อมสารพิษอันตรายมหาศาลล่ะ? รายงานทางวิทยาศาสตร์และบทความหลายแหล่ง ทั้งจากในจีนและประเทศตะวันตกต่างยืนยันว่า เมนูหูฉลามนนั้นเต็มไปด้วยโลหะหนักตกค้าง

    เพราะด้วยความที่ฉลามเป็นผู้ล่าสูงสุดของระบบนิเวศ ฐานะนี้ไม่ได้มีแค่ความเกรงขาม แต่ต้องแบกภาระการเป็นที่รองรับสารพิษปริมานมาก ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของห่วงโซ่จนมาถึงตัวเอง

    ถ้านึกภาพไม่ออก ให้ลองนึกภาพ ปลา 1 ตัว มีสารพิษ 1 กรัม ต่อตัว ฉลามจะต้องกินปลาวันละ 10 ตัวถึงจะอิ่ม เท่ากับวันหนึ่งมันได้สารพิษมากกว่าปลาเหยื่อถึง 10 เท่า ทำให้ตัวฉลามกลายเป็นแหล่งสะสมของสารพิษจำนวนมหาศาลนั้นเอง
    ยิ่งในยุคนี้ที่มหาสมุทรมีการปนเปื้อนโลหะหนักมากมายจากพื้นทวีป ปริมาณสารพิษตกค้างในฉลามยิ่งทวีคูณมากขึ้น
    โลหะหนักที่มักพบในหูฉลามคือ ปรอท (เกิดโรคมินามาตะ) และแคดเมียม (เกิดโรคอิไต-อิไต) ถ้าพูดถึงอาการเจ็บป่วยที่ตามมาเพราะสาร 2 ชนิดนี้ คงเขียนยาวเป็นหางว่าว หากสนใจต่อลองสืบค้นข้อมูลทางสุขภาพเพิ่มเติมได้ด้วย คีย์เวิร์ด พิษปรอท หรือ พิษแคดเมียม

    ถ้ารู้อย่างนี้แล้วหูฉลามยังจะน่ากินอยู่หรือไม่? อยากถามคนที่เพิ่งไปกินมาเหลือเกิน

    เศร้า ! พรรคร่วมรัฐบาลเสิร์ฟ "หูฉลาม" กระชับมิตร

    ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก วิทยาสัตว์ตอบคุณได้ ยังได้แนบลิ้งค์ ข่าวงานวิจัยสารพิษในฉลาม ไว้ด้วย




    https://news.thaipbs.or.th/content/...CPI9Vn5A3en1A95K9YAcO9BQ5NeXFZ1aOAOG05lF5sLE8
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thai PBS News


    วันนี้ (6 ธ.ค.) นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก.ระบุว่า #ปารีณา ครอบครองที่ดิน 682 ไร่ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจาก ส.ป.ก. เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติ
    .
    ขอให้คืนที่ดินภายใน 7 วัน จากนั้นจะส่งมอบให้ คทช. นำไปจัดสรรที่ดินทำกินเพื่อชาวบ้านและเกษตกร และหากไม่ยอมจะใช้มาตรา 44 ของ คสช.คำสั่งที่ 36/2559 #ThaiPBSnews
    wL3Qbw&_nc_ohc=oGtEB-PaceYAQkAwmDAR9NEd-UM0I0taE8lHziS1gaPruVrwVlqSVVAXQ&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตายตัวที่ 23 ของปีซาก "พะยูน" ลอยเกยตื้นหาดเกาะลันตาใหญ่
    07:42 | 6 ธันวาคม 2562 |

    G0DL5oPyrtt5HBAi4n9bLJz7HRrFsURY7mkbQ0ItE61ND5jd8GWtax.jpg


    ซากพะยูนลอยเกยตื้นบริเวณหาดเกาะลันตาใหญ่ จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นเพศเมีย ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย นับเป็นพะยูนตัวที่ 23 ที่ตายในปี 2562

    วันที่ 5 ธ.ค.2562 หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา และเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 7 (ตรัง) พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันพิสูจน์ซากพะยูน หลังได้รับแจ้งว่าพบซากพะยูนลอยเกยตื้น บริเวณหาดหินหน้าโรงแรม red rock ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่

    TSNBg3wSBdng7ijM75M4WZkNwUqsp1HiKH4QOx6X4Gr.jpg


    ผลการตรวจสอบซากเบื้องต้น พบว่าเป็นพะยูนเป็นเพศเมีย วัยเจริญพันธุ์ มีขนาดความยาว 2.7 เมตร ความยาวรอบตัว 56 เซ็นติเมตร น้ำหนักประมาณ 70 กิโลกรัม ลักษณะภายนอก ไม่พบบาดแผลฉีกขาดที่อาจเป็นสาเหตุการตายได้ ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย อวัยวะทุกส่วนครบถ้วน ผิวหนังเริ่มเปื่อย คาดว่าตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 วัน เจ้าหน้าที่ได้นำซากส่งไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลฝั่งอันดามัน จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการตายต่อไป

    TSNBg3wSBdng7ijM75M4WZkNwUqsp1DXMx48tXJvsIA.jpg


    ขณะที่นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต โพสต์เฟซบุ๊ก Kongkiat Kittiwatanawong ระบุว่า

    หลังจากที่พะยูนตัวที่ 22 เพิ่งตายไปจากกิจกรรมของมนุษย์ วันนี้เราต้องสูญเสียพะยูนอีก 1 ตัว พะยูนตัวที่ 23 พบที่ฝั่งตะวันออกของเกาะลันตา จังหวัดกระบี่

    https://news.thaipbs.or.th/content/...ek00InRziBH8b4eTViG0aFC_9G_VFcaMfuHymHp3WE250
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นพดล มากทอง
    ynP1pQ&_nc_ohc=3Ak33zq5EdoAQnKahjk0h3LPmh4bHhuaurYczmH9Eso2rEwd8mepc0FcA&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    #เตือนต่อ #ไม่รอแล้วนะ!!!(6ธค.62) ปรากฏการณ์หนาวจัดบนพื้นราบได้เกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย!!! ภาคอีสานเช้าวันนี้อุณหภูมิหลายพื้นที่ต่ำกว่า 8 องศา เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดเมื่อปี 2559 ที่กทม. เคยหนาว 15 องศา แต่เป็นในช่วงเดือนมค. ซึ่งปกติจะเป็นช่วงที่ประเทศไทยมีอุณหภูมิต่ำสุด!!! แต่ปีนี้หนาวจัดตั้งแต่ต้นธค.สรุปว่า!!! 3 วันต่อแต่นี้ (6-7-8 ธค.) ภาคอีสานเข้าสู่โหมดหนาวจัด!!! ย้ำอีกทีเหตุการณ์เช่นนี้ #มี #ไม่ #บ่อย!!! อย่าได้คึกคะนองไปอาบน้ำที่เย็นจัด เส้นเลือดในร่างกายหดตัว เลือดไปเลี้ยงร่างกายไม่ทัน อาจถึงขั้นช็อกเสียชีวิตได้ มี 3 ทางให้เลือก 1.อาบน้ำอุ่น 2. ต้มน้ำอาบ 3. ไม่อาบมันซะบ้างจะเป็นไรไป!!! เชื่อซิ 3 วันนี้สถิติคนอาบจะลดลง!!! วันนี้อยู่ที่ไหน ฝน ฟ้า อากาศเป็นอย่างไร อุณหภูมิใครต่ำกว่ากัน (ต่ำกว่า 8 องศา ถือว่าหนาวจัด) แบ่งปันข้อมูลกันได้ครับ ขอให้ดูแลสุขภาพตัวเองและคนใกล้ชิด ขอบคุณที่ติดตาม...สวัสดี วันที่หนาวจัด ขอรับกระผ้ม!!!
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    เมฆม้วนเหนือทะเลสาบมิชิแกน 5 ธันวาคม 2019
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ลมหนาวกระโชกแรงแผ่นผนังปูนสำเร็จรูปหนักกว่า 3 ตันล้มทับคนงานดับคาที่
    06 ธ.ค. 2019สุธินันท์ คงสินธ์
    4-1114-1280x720.jpg

    ลมหนาวกระโชกแรงแผ่นผนังปูนสำเร็จรูปหนักกว่า 3 ตันล้มทับคนงานที่กำลังเจาะยึดเหล็กตัวล็อกแผ่นผนัง ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดภายในสถานที่ก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งภายในซอยหลังวัดหนามแดง –บางพลี หมู่ 5 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

    1-1434-1024x576.jpg

    เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 6 ธันวาคม 2562 พ.ต.ท.ฐานทิตย์ แดนราศี สารวัตรเวร สอบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีแผ่นปูนล้มทับคนงานเสียชีวิตและบาดเจ็บ ภายในสถานที่ก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งภายในซอยหลังวัดหนามแดง –บางพลี หมู่ 5 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ
    2-1328-1024x576.jpg

    ที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ที่บริเวณชั้น 2 ของบ้านที่กำลังก่อสร้างประกอบแผ่นปูนฝาผนัง ซึ่งมีรถรถเครนขนาดใหญ่จอดอยู่ด้านหน้าและที่เกี่ยวยกพยุงแผ่นผนังปูนขนาดใหญ่กว้างยาวประมาณ 4 x 4 ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 3-4 ตัน เอาไว้ที่บริเวณชั้น 2 เจ้าหน้าที่จึงขึ้นไปตรวจสอบได้พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นคนงานชาวกัมพูชาชื่อ Mr. SITH MAO อายุ 36 ปี เพื่อนคนงานช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากใต้แผ่นผนังปูนออกมาอยู่ด้านนอกแล้ว พบว่าผู้เสียชีวิตเป็นชายนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่กับพื้นชั้นสอง และในจุดที่เกิดเหตุบริเวณใต้แผ่นผนังปูนดังกล่าวพบเพียงกองเลือดเท่านั้น นอกจากนี้ยังทราบว่ามีคนงานอีกหนึ่งคน ชื่อ Mr. HOEVRNG VUTH อายุ 30 ปี ถูกแผ่นปูนทับเข้าที่บริเวณขาทั้งสองข้างจนหัก เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ช่วยเหลือนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลบางพลี ในที่ยังพบเหล็กแป๊บที่ใช้ค้ำยันผนังปูนดังกล่าวล้มลงมาในสภาพงอและพับลงมาหลายเส้นกระจายอยู่ทั่วชั้นสองที่เกิดแหตุ
    3-1264-1024x576.jpg

    จากการสอบถามคนบังคับเคน ได้เล่าว่า แผ่นผนังปูดังกล่าวนำขึ้นไปตั้งตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมาโดยใช้เหล็กแป๊บค้ำยันไว้เฉย ๆ ยังไม่มียึดติดกับพื้นและตัวเสาบ้านแต่อย่างใด ก่อนเกิดเหตุมีคนงานประมาณ 3-4 คน ได้ขึ้นไปติดตั้งตัวยึดแผ่นผนังปูนแผ่นดังกล่าว ขณะที่ผู้ตายและผู้บาดเจ็บกำลังเจาะยึดเหล็กตัวล็อกแผ่นผนัง อยู่ ๆได้มีลมพัดมาอย่างแรงปะทะกับแผ่นผนังปูนดังกล่าวอย่างแรงจะทำให้เหล็กค้ำยันแผ่นผนังดังกล่าวรับน้ำหนักแรงดันไม่ไหวจึงเกิดการงอตังลงมาทำให้แผ่นผนังปูนดังกล่าวเสียกานทรงตังและล้มลงมาทับร่างผู้ตายทั้งแผ่นอยู่ด้านล่างส่วนผู้บาดเจ็บได้ยินเสียงเหล็กลั่นจึงได้พยายามวิ่งหนีออกไปอีกทางหนึ่งแต่ก็ไม่ทันถูกแผ่นผนังปูนดังกล่าวทับเข้าที่ขาทั้งสองข้างจนหัก ตนและเพื่อนคนงานที่อยู่ในเหตุการณ์จึงได้เข้ามาช่วยกันใช้รถเคนยกแผ่นผนังปูนดังกล่าวขึ้นก่อนช่วยเหลือผู้บาดเจ็บออกมาได้และนำร่างของผู้ตายออกมาจากที่เกิดเหตุแต่พบว่าผู้เสียถูกทับทั้งตัวได้เสียชีวิตก่อนแล้วจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

    4-1114-1024x576.jpg

    เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวคนงานทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์มาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงที่โรงพักอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

    7-696-1024x576.jpg


    https://www.77kaoded.com/content/10...N8J-2FHuBD-lQHpgJJ5EEgI9r1Dm-GZn-9VklFgcxMIKE
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประหาร “7 ชั่วโคตร” เรียงตระกูลอย่างไร ใครโดนบ้าง
    9-696x444.jpg
    เพชฌฆาตกำลังลงดาบ นัก โทษ ประหารรายหนึ่งที่วัดโคก (ภาพจากหนังสือ กรุงเทพในอดีต โดยเทพชู ทับทอง )
    ที่มา หนังสือ "กรุงเทพฯ แห่งความหลัง"
    ผู้เขียน เทพชู ทับทอง
    เผยแพร่ วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2561
    ในสมัยโบราณคนที่เป็นกบฏจะต้องถูกประหารหรือฆ่าทั้งโคตรหรือถูกฆ่า 7 ชั่วโคตร “ฆ่าทั้งโคตร” คือฆ่าหมดทั้งวงศ์ตระกูลซึ่งรวมทั้งญาติพี่น้องหมดทุกคน เรียกว่าฆ่าไม่เหลือ “ฆ่า 7 ชั่วโคตร” หมายถึงเฉพาะ 1.นักโทษและเมีย 2.ลูก 3.หลาน 4.เหลน 5.พ่อแม่ 6.ปู่ย่าตายาย 7.ทวด ซึ่งก็เกือบหมดวงศ์ตระกูลเช่นกันแต่ยังมีเหลือญาติบ้าง

    ในหนังสือกฎหมายเก่าครั้งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งได้ใช้มาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ในต้นรัชกาลที่ 5 ปรากฏว่าโทษที่ต้องฆ่าทั้งโคตร และถูกฆ่า 7 ชั่วโคตรเป็นโทษอยู่ในกฎหมาย “กฎมณเฑียรบาล” และ “ลักษณะกบฏศึก” หลายมาตรา

    กฎมณเฑียรบาล มีดังนี้

    ถ้าเรือประเทียบล่มก็ดี ประเทียบน้ำตกก็ดี แลว่ายน้ำอยู่บันดาตาย ให้ภูดาษแลชาวเรือยืนเสร้าแลซัดมพร้าวให้เกาะตามแต่จะเกาะได้ ถ้ามิได้อย่ายึด ถ้ายึดขึ้นให้รอดโทษถึงตาย ถ้าซัดมพร้าวให้รางวัลเงินสิบตำลึงขันทองใบหนึ่ง ถ้าเรือเทียบล่มมีผู้อื่นเหนแลซัดมพร้าวเอาขึ้นให้รอดโทษทวีคูณตายทั้งโคตร

    อนึ่งชาววังสนม ตำรวจในบันดาขานขันหมากแลมิได้ขานขันหมาก โทษแหวะปาก ถ้างานพระราชพิธีแขกเมืองถวายบังคม ฆ่าเสียทั้งโคตร

    อนึ่งถ้าเสด็จทรงม้า แลให้ขุนช้างชาวช้างขี่ช้างไล่ไซ้ ให้ขุนช้างทำคาใส่คอ ครั้งหนึ่งให้กราบทูลพระกรุณาว่าช้างเหลือมือ ถ้ามิฟังแลจำให้ไล่ไซ้ ให้วางจงสิ้นเชิงอย่ารั้งพระที่นั่งจึงจะพ้นถ้ามิทำตามอัยการดั่งนี้ พระที่นั่งเป็นอันตรายไซ้ให้เอาผู้ขี่ช้างฆ่าเสียทั้งโคตรเป็นต้น

    ลักษณะกบฏศึก มีดังนี้

    1 มาตราหนึ่ง ผู้ใดใจใหญ่ใฝ่สูงศักดิ์ มักกบฏประทุษร้าย จะต่ำพระองค์ลงจากกำภูฉัตร อนึ่งทำร้ายพระองค์ด้วยโหรายาพิศม แลด้วยยศเครื่องสาสตราสรรพยุทธให้ถึงสิ้นพระชนม์ อนึ่งพระเจ้าอยู่หัวให้ผู้ใดไปรั้งเมืองครองเมือง แลมิิได้เอาสุพรรณบุบผา แลภัทยาเข้ามาบังคมถวายแลแขงเมือง อนึ่งผู้ใดเอาใจไปแผ่เผื่อฆ่าศึกสัตรู นัดแนะให้ยกเข้ามาเบียดเบียฬพระนครขอบขันธ์เสมาธานีน้อยใหญ่ อนึ่งผู้ใดเอากิจการบ้านเมืองแลกำลังเมืองแจ้งให้ฆ่าฟัง ถ้าผู้ใดกระทำดังกล่าวนี้โทษผู้นั้นเป็นอุกฤษฐ์ โทษ 3 สฐาน สฐานหนึ่งให้ริบราชบาทวฆ่าเสียให้สิ้นทั้งโคตร สฐานหนึ่งให้ริบราชบาทวฆ่าเสีย 7 ชั่วโคตร… เมื่อประหารชีวิตรนั้นให้ประหารให้ได้เจ็ดวัน จึงให้สิ้นชีวิต เมื่อประหารนั้นอย่าให้โลหิตแลอาสพตกลงในแผ่นดินให้ใส่แพลอยเสียตามกระแสน้ำ…


    5 มาตราหนึ่งเป็นข้าพระเจ้าอยู่หัวเลี้ยงให้มียศถาศักดิ์ แลมันโมหจิตรคิดใหญ่ใจใคร่ฝ่ายสูงศักดิ์ทำกบฏประทุษร้าย ต่อรบพุ่งเมืองท่านทำดังนั้น ท่านว่าโทษหนัก ให้ฆ่าเสียให้สิ้นทั้งโคตร

    14 มาตราหนึ่ง ผู้ใดพระเจ้าอยู่หัวแต่งให้มียศถาศักดิ์ แลเป็นนายหมวดนายกองทแกล้วทหารไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน มีการรณรงค์สงครามมิได้อยู่ช่วยราชการ ภาครอบครัวอพยพหนีไปเข้าด้วยฆ่าศึก แลไปซุ่มซ้อนอยู่ในป่าดงท่านว่าขบถ ให้ฆ่าเสียให้สิ้นทั้งโคตร อย่าให้ดูเยี่ยงอย่างกันต่อไป เป็นต้น

    การฆ่านั้นมีอยู่ด้วยกันหลายวิธีซึ่งโดยมากเป็นการทรมานไปด้วยในตัว ตามกฎหมายลักษณะกบฏศึกกล่าวถึงการฆ่าชนิดทรมานนี้ว่ามีถึง 21 วิธี อาทิ

    “ให้ต่อยกระบานศีศะเลิกออกเสีย แล้วให้เอาคีมคีบก้อนเหล็กแดงใหญ่ใส่ลงให้มันสมองศีศะพลุ่งฟูขึ้นดังม่อเคี่ยวน้ำส้มพอูม…สฐานหนึ่งคือให้นอนลงโดยข้างๆ หนึ่งแล้ว ให้เอาหลายเหล็กตอกลงไป โดยช่องหูให้แน่นกับแผ่นดิน แล้วจับเท้าทั้งสองหันเหียนไปดังบุทคลท่ากางเวียน…สฐานหนึ่งคือให้เคี่ยวน้ำมันให้พลุ่งพล่าน…แล้วรดสาดลงมาแต่ศีศะกว่าจะตาย…สฐานหนึ่ง คือ ให้เอาขวานผ่าอกทั้งเป็นแหกออกดังโครงเนื้อ…สฐานหนึ่ง คือให้ตีด้วยไม้ตะบองสั้นตะบองยาว” เป็นต้น

    การฆ่าโดยไม่ทรมานได้แก่ การตัดศรีษะด้วยดาบ ซึ่งมีทั้งการเสียบประจานและไม่เสียบ

    สำหรับการประหารชีวิตในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์สมัยต้นๆ ได้ความว่า ทำกันที่ป่าช้าวัดโพธารามหรือวัดพระเชตุพน(วัดโพธิ์ท่าเตียน) ตรงที่เคยเป็นที่ตั้งบริษัทบาโรบราวน์ ริมคลองหลอดฝั่งตะวันออก ต่อมาย้ายมาประหารที่วัดโคกหรือวัดพลับพลาไชย แล้วย้ายมาประหารที่วัดบางกะสัน (วัดมักกะสัน) ริมคลองแสนแสบ ประตูน้ำปทุมวัน แล้วย้ายกลับไปประหารที่วัดโคกอีก ต่อจากนั้นจึ่งได้มาทำการประหารที่วัดภาษีริมคลองแสนแสบ ถนนเอกมัย และวัดบางปลากด อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการตามลำดับ

    ถ้าเป็นเจ้านาย ได้ความว่าทำการสำเร็จโทษที่วัดปทุมคงคา สำเพ็ง โดยการใส่ถุงแดงแล้วทุบด้วยท่อนจันทร์

    https://www.silpa-mag.com/culture/article_11509
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    ประเทศเม็กซิโกในNogales, Sonora ยามแห่งชาติตรวจพบอุโมงค์ยาว 14 เมตรซึ่งนำไปสู่สหรัฐอเมริกา

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คนไทยในญี่ปุ่น
    ·

    #ข่าวสภาพอากาศ ญี่ปุ่นเตรียมรับลมหนาวพรุ่งนี้โดยอุณภูมิตํ่าสุดในโตเกียวที่คาดการณ์ได้คือ 1 องศา !!

    พรุ่งนี้คันโตฝนจะตกและมีอากาศที่หนาวมากใครที่จะเดินทางโปรดเตรียมร่มและเสื้อกันหนาวให้พร้อม เพราะพรุ่งนี้หนาวมากจริงๆ ซึ่งโตเกียวอาจจะมีลุ้นหิมะตกแต่มีเปอร์เซ็นที่น้อยมากที่จะตกในเดือนนี้

    และบนภูเขาสูงๆในเขตคันโตอาจจะมีหิมะตกหนักและลมแรง โปรดติดตามข่าวสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดด้วย

    และภาคใต้ของประเทศญี่ปุ่นหมู่เกาะคิวชูจะมีฝนตกหนักอีกด้วยในวันพรุ่งนี้..

    อ้างอิง : https://tenki.jp/forecaster/kumiko_yamaguchi/2019/12/06/6825.html

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    1575609932.jpg
    เคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ มีผล 1 ม.ค.63
    06 Dec 2019


    วันที่ 6 ธ.ค. 2562 ที่กระทรวงแรงงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง ซึ่งมีนายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุม

    โดยมีมติให้มีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำขึ้นจำนวน 6 บาท จำนวน 9 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ภูเก็ต กรุงเทพ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และปราจีนบุรี

    ส่วนที่เหลือจะได้รับการปรับขึ้นในอัตรา 5 บาททั่วประเทศ หรือแบ่งได้เป็น 10 กลุ่มด้วยกัน ในอัตราสูงสุดคือ ชลบุรี กับ ภูเก็ต ที่ระดับ 336 บาท ส่วนอัตราต่ำสุดอยู่ที่ 313 บาท ในจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา

    ซึ่งมติดังกล่าวจะมีการเสนอเข้าที่ประชุมครม.เพื่อให้มีผล 1ม.ค.63 เป็นต้นไป

    https://www.thansettakij.com/conten...eQBU3LdbuYamy750IpznJuM#.Xenwc6cvTe0.facebook
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    1575594491.jpg
    เงินบาท "อ่อนค่า"
    06 Dec 2019

    เงินบาทเปิดเช้านี้อ่อนค่าลงแตะระดับ 30.36 บาทต่อดอลลาร์ จากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 30.29 บาทต่อดอลลาร์


    นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์นักกลยุทธตลาดเงินและตลาดทุนธนาคารกรุงไทยระบุว่าเงินบาทอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วจากความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องเงินบาทปัจจุบันที่แพงกว่าพื้นฐาน ส่งผลให้ผู้ค้าเงินต่างประเทศกลับเข้าเก็งกำไรค่าเงินด้วยการขายเงินบาทและซื้อดอลลาร์ ขณะเดียวกัน ก็ไม่มีแรงต้านจากผู้ส่งออก เนื่องจากเป็นวันหยุดฝั่งไทย

    ในวันนี้เชื่อว่าเงินบาทจะผันผวนสูงขึ้น โดยในระยะสั้น มองแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติสามารถดันให้ค่าเงินขยับขึ้นได้ระดับ 30.50 บาทต่อดอลลาร์ในเดือนนี้ เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนหนึ่งเข้าสู่ช่วงปิดสิ้นปีไปแล้ว และส่วนมากก็ทำประกันความเสี่ยงไปก่อนหน้านี้เช่นกัน

    กรอบเงินบาทวันนี้ 30.32-30.42 บาทต่อดอลลาร์

    ทั้งนี้ช่วงสองวันที่ผ่านมาตลาดทุนทั่วโลกอยู่ในภาวะฟื้นตัว S&P500 ปรับขึ้น 0.15% ขณะที่ Euro Stoxx 50 ปรับตัวลง 0.3% พร้อมกับ FTSE100 ที่ปรับตัวลง 0.7% สลับกับการปรับตัวขึ้นแรงในช่วงวันทำการก่อนหน้า

    ฝั่งตลาดบอนด์ ยีลด์ทั่วโลกก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วย ล่าสุดยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปีซื้อขายที่ระดับ 1.81% ขณะที่บอนด์ยีลด์เยอรมันอายุ 10 ปีขยับขึ้นมาที่ -0.29% เนื่องจากตลาดมีความเชื่อว่าธนาคารกลางต่างๆ จะ "คง" อัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงท้ายปีไปจนถึงปี 2020 ขณะที่ในระยะสั้น ก็มีปัจจัยบวกจากเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่อาจหาข้อตกลงกันได้ก่อนการขึ้นภาษีในวันที่ 15 ธันวาคมนี้เข้ามาทำให้ตลาดกลับไปเปิดรับความเสี่ยง (Risk On)


    อย่างไรก็ดี ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อ เมื่อผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่ (Initial Jobless Claims) ปรับตัวลงแตะ 2.03 ตำแหน่ง ต่ำที่สุดในรอบเจ็ดเดือน สวนทางกับตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน (ADP Employment) เดือนล่าสุด ที่ขยายตัวเพียง 6.7 หมื่นตำแหน่ง จึงต้องจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในสหรัฐ (Non-farm Payrolls) คืนนี้ว่าจะสามารถขยายตัวได้ใกล้เคียงระดับ 1.8 แสนตำแหน่ง อย่างที่ตลาดหวังไว้หรือไม่

    https://www.thansettakij.com/conten...z1UeKFa5TIbPBGUogsd3C3cA-JR-WoO6N4NcLMwXbTuPg
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คนไทยในญี่ปุ่น

    #ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบทางสภาพอากาศมากที่สุดในโลก

    ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
    จากสภาพอากาศที่แย่สุดขั้ว ในปี 2561

    ญี่ปุ่นในปีที่แล้วนั้นเป็นปีที่ฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์
    และในหน้าร้อนมีความร้อนที่สูงมากทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายคน
    #โดยอุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 41.1 องศาเซลเซียส

    โดยญี่ปุ่นอยู่ในอันดับที่ 1 ในส่วนของการสูญเสียชีวิต
    และความเสียหายทางเศรษฐกิจมากที่สุด

    โดยอากาศที่แย่แบบนี้กลับเกิดขึ้นภายในปีเดียวในประเทศญี่ปุ่น
    ซึ่งเจ้าหน้าที่ของ Germanwatch กล่าวว่า

    "สภาพอากาศเหล่านี้อาจไม่เกิดขึ้นถ้าหากโลกไม่ร้อน"

    เรามาช่วยกันคนละไม้คนละมือช่วยกันลดโลกร้อนโดยเริ่มจากปฏิเสธรับถุงพลาสติกกันก่อนนะครับ..

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มหาเธร์เล็งลดค่าเงินริงกิต หลังค่าครองชีพในประเทศสูงลิ่ว
    กองบรรณาธิการ TCIJ: 1 ธ.ค. 2562 |

    390ebbbb274bbce3974b355872e91f96.jpg

    มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เผยหลังจากที่ค่าเงินสกุลริงกิตมาเลเซียอ่อนลง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยก่อนหน้านี้อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 3.80 ริงกิตต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ล่าสุดอยู่ที่ 4.20 ริงกิต ทำให้สินค้าทุกอย่างที่ชาวมาเลเซียซื้อมีราคาแพงขึ้นอย่างมาก โดยมหาเธร์เตรียมเรียกประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อหารือเกี่ยวกับการลดค่าเงินริงกิต ที่กำลังทำให้การนำเข้าแพงขึ้น และค่าครองชีพในประเทศสูงขึ้น ท่ามกลางกระแสไม่พอใจของชาวมาเลเซียที่สะท้อนจากการเลือกตั้งซ่อมครั้งล่าสุด

    นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มหาเธร์ได้พิจารณาปรับคณะรัฐมนตรี หลังจากพรรคร่วมรัฐบาลพ่ายแพ้การเลือกตั้งซ่อมให้ฝ่ายค้านอย่างขาดลอย ผลจากความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่อหลายปัญหา รวมถึงเศรษฐกิจประเทศตกต่ำ และค่าครองชีพสูงขึ้น

    ที่ผ่านมาเศรษฐกิจของมาเลเซีย ซึ่งมีขนาดใหญ่สุดอันดับ 3 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากอินโดนีเซียและไทย เติบโตชะลอตัวที่สุดในรอบปี ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ปัจจัยจากการส่งออกและธุรกิจเหมืองแร่ที่ตกต่ำอย่างหนัก

    ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Asia One, 1/12/2019


    https://www.tcijthai.com/news/2019/12/asean/9620
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พายุฝนฟ้าคะนองในจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย วันที่ 4 ธันวาคม 2019


     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข่าวดีต้องบอกต่อ คนเก่งต้องยกย่อง!!
    ทีมหมอ “ศิริราช” ประสบความสำเร็จในการผลิตวัคซีน “ไรฝุ่น” เป็นรายแรกของประเทศในกลุ่มอาเซียน เพื่อจำหน่ายอย่างครบวงจร แถมยังได้มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก และองค์การอาหารและยา ของประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านการอนุมัติจาก อย.ไทย
    .
    จากการเปิดเผยของ รศ.ดร.นพ.พงศกร ตันติลีปิกร อาจารย์ภาควิชาวิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ประธานคณะกรรมการอำนวยการความร่วมมือการผลิตวัคซีนสำหรับโรคภูมิแพ้ ทำให้เราทราบว่า จากสถานการณ์โรคภูมิแพ้ในประเทศไทย
    .
    ทำให้ศูนย์วิจัยเป็นเลิศด้านการวิจัย และพัฒนาด้านโรคภูมิแพ้ และวิทยาภูมิคุ้มกัน คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ลงนามในสัญญาความร่วมมือกับบริษัท เกร๊ทเตอร์ฟาร์ม่า จำกัด เมื่อปี 2550 เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือ และเดินหน้าผลิตวัคซีนและน้ำยาทดสอบโรคภูมิแพ้ เพื่อมาดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
    .
    ในระยะแรก ได้ผลิตชุดทดสอบ ประกอบด้วย น้ำยาสกัดสารก่อภูมิแพ้ที่จำเป็น 8 ชนิด คือ
    .

    1. น้ำยาทดสอบภูมิแพ้ไรฝุ่น ชนิด Dp

    2.น้ำยาทดสอบภูมิแพ้แพ้ไรฝุ่น ชนิด Df

    3.น้ำยาทดสอบจากขนแมว

    4.น้ำยาทดสอบจากขนสุนัข

    5.น้ำยาทดสอบจากแมลงสาบ

    6.น้ำยาทดสอบจากหญ้าขน (Para Grass)

    7.น้ำยาทดสอบจากวัชพืชผักโขม (Careless Weed)

    8.น้ำยาทดสอบจากเชื้อรา (Cladosporium spp.)

    ...

    ซึ่งผลจากการทดสอบจะเป็นแนวทางให้แพทย์สามารถให้คำแนะนำในการกำจัดหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่ผู้ป่วยแพ้ได้อย่างถูกต้อง และหากมีข้อบ่งชี้ก็สามารถให้การรักษาโดยการฉีดวัคซีนต่อไปได้

    คุณหมอกล่าวเพิ่มเติมว่า จากชุดทดสอบสารก่อภูมิแพ้ต่อยอดผลิตวัคซีนไรฝุ่น ซึ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้ต่อระบบทางเดินหายใจที่พบได้มากที่สุด และเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่มีราคาแพง ดังนั้น ทางศูนย์จึงได้เริ่มเพาะเลี้ยงไรฝุ่นบริสุทธิ์ทั้ง 2 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นไรฝุ่นที่พบบ่อยในฝุ่นบ้าน และก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ในคนไทย แทนการซื้อตัวไรฝุ่นจากต่างประเทศเพื่อการวิจัย ซึ่งมีราคาแพงมากกว่าที่ผลิตเองถึง 10 เท่า
    .
    ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่า วัคซีนไรฝุ่น ซึ่งเป็นวัคซีนรุ่นแรกที่ผลิตขึ้น และนำมาใช้ได้ผลดีกับผู้ป่วย จากการสำรวจทั้งในและต่างประเทศพบว่า ศิริราชเป็นรายแรกในกลุ่มประเทศอาเซียนที่ผลิตวัคซีนไรฝุ่น เพื่อจำหน่ายอย่างครบวงจร โดยวัคซีนที่ผลิตได้มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก และองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกาและผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข
    .
    “ในอนาคตจะมีการพัฒนาวัคซีนภูมิแพ้แมลงสาบ เกสรหญ้า และวัชพืชชนิดฉีด เนื่องจากเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อย รองลงมาจากไรฝุ่น นอกจากนั้นจะมีการพัฒนาวัคซีนประเภทหยดเข้าไปในปาก บริเวณใต้ลิ้น (ชนิดกิน) ซึ่งมีการนำมาใช้แล้วที่ต่างประเทศ มีข้อดีคือสะดวก ไม่เจ็บ และใช้ในเด็กได้ดี” รศ.ดร.นพ.พงศกร กล่าว
    .
    ต้องถือว่าโรคภูมิแพ้ เป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังในคนไทยที่สำคัญที่สุดโรคหนึ่ง จากสถิติความชุกของโรคภูมิแพ้ของระบบทางเดินหายใจในประเทศไทยพบว่า โรคภูมิแพ้ของทางเดินหายใจส่วนบน คือ โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ที่มีอยู่ประมาณ 30% ของประชากรเท่ากับ 20 ล้านคน และโรคภูมิแพ้ของทางเดินหายใจส่วนล่าง คือ โรคหืดภูมิแพ้อีกประมาณ 4 ล้านคน
    .
    ทำให้รัฐต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสูงเป็นเงินกว่า 2,400 ล้านบาทต่อปี สำคัญมาจากภาวะภูมิแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ชนิดต่าง ๆ จากผลการศึกษาหลายแห่งพบตรงกันว่า “ไรฝุ่น” เป็นสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ของระบบทางเดินหายใจมากที่สุด พบผู้ป่วยเด็กกว่า 70% และพบในผู้ใหญ่ 70-90% และคนทั่วไปอีก 30% ที่แพ้ไรฝุ่น ในขณะที่น้ำยาทดสอบ และวัคซีนโรคภูมิแพ้ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศนั้นมีราคาแพง
    -------------------------------------
    แหล่งข้อมูล

    https://www.newtv.co.th/news/45644?...nusxv6guQBGgdSgaryFLHXtaVMIR1CAyCDZa2CqNvLbtQ
    -------------------------------------
    กด Like และ ติดตามเพจ เพื่อรู้เท่าทันโลก
    กับ Thailand Vision

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไฟป่านิวเซาท์เวลส์ แรงขึ้นอีก เตือนผู้คนหลายพท.สายเกินไปที่จะหนีแล้ว

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชัยนาท แล้ง เริ่มวิกฤต อำเภอเดียว ข้าวตายกว่า 2 หมื่นไร่ จ่อประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ซาร์ บอมบา (Tsar Bomba) ระเบิดนิวเคลียร์ที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นมา ซาร์ บอมบาพัฒนาโดยสหภาพโซเวียตหรือประเทศรัสเซียในปัจจุบัน ระเบิดนิวเคลียร์ลูกนี้มีพลังทำลายล้างมากกว่าระเบิดนิวเคลียร์แคสเซิล บราโว (Castle Bravo) ที่พัฒนาโดยสหรัฐอเมริกาประมาณ 3 เท่า และใหญ่กว่าระเบิดปรมาณูที่ถล่มเมืองฮิโรชิมะและนางาซากิในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประมาณ 1,400 เท่า

    ซาร์ บอมบาเป็นระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์หรือระเบิดไฮโดรเจนใช้พลังงานจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชันและปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น อะตอมไฮโดรเจนเปลี่ยนเป็นฮีเลียมให้พลังงานความร้อนเท่ากับดวงอาทิตย์มีความรุนแรงมากกว่าระเบิดปรมาณูแบบเก่าหลายเท่า ขนาดแรงระเบิดของซาร์บอมบาประมาณ 50 – 58 เมกะตันทีเอ็นทีจากแผนการเดิมที่ต้องการสร้างแรงระเบิดมากถึง 100 เมกะตันทีเอ็นที

    สมมุติมีการนำระเบิดนิวเคลียร์ซาร์ บอมบามาทิ้งยังใจกลางกรุงเทพมหานคร รัศมีความร้อนจะกระจายกว้างมากถึง 60 กิโลเมตร การทำลายล้างแบ่งออกเป็น 7 ระยะตามความกว้างของรัศมีการทำลายล้าง

    1. รัศมีการระเบิดจากจุดศูนย์กลาง 5 กิโลเมตร ความร้อนจากการระเบิดคร่าชีวิตประชากรในบริเวณนี้เกือบทั้งหมดและทะยอยเสียชีวิตในอีกไม่ชั่วโมงต่อมา

    2. รัศมีการระเบิดจากจุดศูนย์กลาง 6 กิโลเมตร ความร้อนจากการระเบิดคร่าชีวิตประชากรในบริเวณนี้เกือบทั้งหมดแต่ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่อยู่ในช่วงการเกิดระเบิด ผู้ที่รอดชีวิตจะเริ่มทะยอยเสียชีวิตในอีกไม่กี่วันหลังจากนั้น

    3. รัศมีการระเบิดจากจุดศูนย์กลาง 8 กิโลเมตร ความร้อนและแรงระเบิดจะทำลายอาคารบ้านเรือนเสียหายอย่างรุนแรง ประชากรที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้จะเสียชีวิตทั้งหมด 100%

    4. รัศมีการระเบิดจากจุดศูนย์กลาง 17 กิโลเมตร ความร้อนและแรงระเบิดจะทำลายอาคารบ้านเรือนเสียหายปานกลางถึงขั้นรุนแรง อาจยังมีผู้รอดชีวิตเหลืออยู่ในช่วงแรก 1-2 อาทิตย์แรกก่อนเริ่มทะยอยเสียชีวิตในเวลาต่อมา อาจเริ่มพบผู้บาดเจ็บและรอดชีวิตบางส่วน

    5.รัศมีการระเบิดจากจุดศูนย์กลาง 43 กิโลเมตร ความร้อนและแรงระเบิดจะทำลายอาคารบ้านเรือนบางส่วน ประชากรที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้มองเห็นแสงสว่างจากลูกไฟที่ระเบิดได้อย่างชัดเจน โดยประชากรในบริเวณนี้มีโอกาศรอดชีวิตมากขึ้น อาจมีผู้บาดเจ็บอย่างรุนแรงเพราะแผลไฟไหม้จากความร้อน

    6. รัศมีการระเบิดจากจุดศูนย์กลาง 51 กิโลเมตร ความร้อนและแรงระเบิดจะทำลายอาคารบ้านเรือนเล็กน้อย ประชากรที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้อาจได้รับบาดเจ็บแผลไฟไหม้จากความร้อนตั้งแต่บาดแผลจากไฟไหม้เล็กน้อยจนถึงบาดแพลระดับทำลายชั้นหนังกำพร้า

    7. รัศมีผลกระทบจากกัมมันตภาพรังสีมีพื้นที่กว้างเกือบ 1,000 กิโลเมตร ทั้งประเทศไทยรวมไปถึงบางส่วนของประเทศเวียดนาม มาเลเซีย พม่า ลาวและกัมพูชา ขึ้นอยู่กับทิศทางของกระแสลม

    ประมาณการว่ามีจะประชากรไทยเสียชีวิตประมาณ 5,325,000 คน ได้รับบาดเจ็บและบางส่วนเสียชีวิตในเวลาต่อประมาณ 2,533,000 คน ประชากรกลุ่มแรก ๆ ทีเสียชีวิตอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นครปฐม สมุทรสาคร นนทบุรี ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นี่คือพลังการทำลายล้างของระเบิดนิวเคลียร์ซาร์ บอมบา (Tsar Bomba) ระเบิดนิวเคลียร์ที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นมา

    ที่มาของข้อมูลสงครามเย็น (Cold War) https://thehistorynow.com/cold-war/

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไม่ใช่แค่คนที่กระทบ โลกร้อนยังทำให้นกตัวเล็กลงด้วย

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตึก6ชั้นถล่ม ทับผู้อยู่อาศัยไนโรบี ชาวบ้านใช้มือเปล่าค้นหาใต้ซาก

     

แชร์หน้านี้

Loading...