ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    ทอร์นาโดที่เห็นใน vicentina บราซิล #30 พ. ย.

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    หลุมยุบเปิดขึ้นในเมืองกวางโจว ทางตอนใต้ของจีน จมยานพาหนะทำความสะอาด และรถยนต์ไฟฟ้า # 1 ธันวาคม
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    เมฆ Lenticular เห็นในรุ่งอรุณในภูเขาไฟLanin บนชายแดนอาร์เจนตินา - ชิลี
    t=101&_nc_ohc=YcGpsJSibCkAQnwM6BqE6CmaZ1bj7xlibPfcBCXAG8PL_B2YkWWkNj0rQ&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พระรุจิพุทธเจ้า ผู้จะตรัสรู้เป็นองค์สุดท้ายในภัทรกัป

    คัมภีร์สหัสพุทธนามสูตร (โชยฮุกเก็ง) มีพระศากยมุนีพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) เป็นพระองค์ที่ 4 มีพระรุจิพุทธเจ้าเป็นองค์สุดท้ายของกลุ่มพระพุทธเจ้าหนึ่งพันพระองค์ในภัทรกัปนี้

    พระสูตรกล่าวว่า พระพุทธเจ้าทั้ง 1,000 พระองค์นี้เคยเกิดเป็นพี่น้องกัน ต่างตั้งปณิธานปรารถนาพระพุทธภูมิทั้ง 999 องค์ จนมาถึงองค์สุดท้ายกลับมีปณิธานว่า...

    "จะปกป้องคุ้มครองพี่ๆทั้งหลาย
    ให้บรรลุพุทธภูมิจนสิ้น จึงจะตรัสรู้

    “และปกป้องศาสนาของพี่ๆ ทั้ง 999 องค์ จึงจะตรัสรู้เป็นพระองค์สุดท้าย”

    ซึ่งขณะนี้เพียงแค่ผ่านไป 4 พระองค์ เหลืออีก 995 พระองค์ที่จะรอมาตรัสรู้ในอนาคต ภาระนี้มีต่อไปอีกนานมากมิอาจประมาณได้

    พระรุจิพุทธเจ้าองค์ที่หนึ่งพันนั้น คือพระเวทโพธิสัตว์ (韋馱菩薩) ในปัจจุบัน

    ผู้เป็นธรรมบาลดูแลรักษามณฑลเกษตร แห่งพระตถาคตทุกที่ เป็นธรรมบาลพื้นๆ ที่หลายคนไม่ได้ใส่ใจบูชา แต่กลับยิ่งใหญ่ด้วยมหาปณิธาน

    พระปฎิมากรของพระองค์ จึงเป็นพระโพธิสัตว์พระองค์เดียว ที่หันหน้าเข้าพระอุโบสถ เพื่อปกป้องรักษาดูแลพระอาราม

    "โอม เวทะ ทินตะ มหาทินตะ สวาหา"

    ขอนอบน้อมต่อพระโพธิสัตว์ผู้มีจิตมั่นคง
    ผู้ประทานความสุขสู่สาธุชนด้วยความเสมอภาค

    ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากเพจ ศูรางคมพุทธานุสรณ์

    ภาพและข้อมูลจาก ตำนานศักดิ์สิทธิ์ทั่วโลก











     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เปิดเบื้องหลังชัยชนะสู้คดีราคาก๊าซของ "ม.ล.กรกสิวัฒน์" ต่อ ปตท.กรณีตัวอย่างของ ปชช.สู้เพื่อความถูกต้อง ** 60 ส.ส.อีสาน"เพื่อไทย"บินพบ"ทักษิณ"ให้ปลด"เจ๊หน่อย"จะสำเร็จหรือไม่ต้องติดตาม!!
    เผยแพร่: 2 ธ.ค. 2562 01:04 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000011912001.jpg

    ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี - ไพรินทร์ ชูโชติถาวร -ประยุทธ์ ศิริพานิชย์ - คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

    ข่าวปนคน คนปนข่าว

    **เปิดเบื้องหลังชัยชนะสู้คดีทวงถามความเป็นธรรม นโยบายขึ้นราคาค่าก๊าซของ "ม.ล.กรกสิวัฒน์" ต่อ ปตท. กรณีตัวอย่างของประชาชน ที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องของผู้ใช้พลังงาน และ ธรรมาภิบาลของบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่คิดแต่ผลประโยชน์ส่วนตน

    ปตท.ทุนพลังงานรายใหญ่ของประเทศ ในยุคของ"ไพรินทร์ ชูโชติถาวร" นั่งเป็น CEO ฟ้องดำเนินคดีกับภาคประชาชน "ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี" เมื่อวันที่ 30 พ.ค.57 ในข้อหาละเมิดต่อโจทก์ โดยท้ายฟ้อง ระบุว่า “...ได้รับความเสียหายจากการกล่าวถ้อยคำหรือไขข่าวอันเป็นเท็จ โดยการเผยแพร่ข่าวสารของจำเลยหลายครั้ง จนทำให้โจทก์ขาดความน่าเชื่อถือจากรัฐบาล และประชาชนทั่วไปตลอดจนนานาประเทศ ทั้งกระทบทางทำมาหาได้และความเจริญของโจทก์ และทำให้เสียหายต่อชื่อเสียงในทางการค้า อันเนื่องมาจากการกระทำของจำเลยดังกล่าวข้างต้น หลายครั้งหลายคราว"

    ปตท.โดย"ไพรินทร์" จึงขอเรียกค่าเสียหายจาก "ม.ล.กรกสิวัฒน์" จนถึงวันฟ้อง เป็นเงินจำนวน 50 ล้านบาท และ ดอกเบี้ย อัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จแก่โจทก์

    เรียกว่า "ฟ้องโหด เรียกโหด" เต็มที่ คดีจากปี 2557 ต่อสู้กันมา 3 ศาล โดยศาลชั้นต้น "ยกฟ้อง" ศาลอุทธรณ์ยืน"ยกฟ้อง" จนมาถึงชั้นของศาลฎีกา เป็นเวลาที่ยาวนานกว่า 5 ปี ถือเป็น "มหากาพย์" การต่อสู้คดีของประชาชนกับองค์กรที่มีพร้อมทุกอย่าง ทั้งสำนักงานกฎหมาย ทนายความ จากบริษัทกฎหมายที่ปตท.ว่าจ้างในระดับที่บุคคลธรรมดาไม่สามารถจ่ายได้ ซึ่งที่สุด เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 62 ที่ศาลแพ่งรัชดา ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา พิพากษายืน"ยกฟ้อง" ม.ล.กรกสิวัฒน์

    กว่า 5 ปีของการต่อสู้ "ม.ล.กรกสิวัฒน์" ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการศูนย์วิจัยนโยบายพลังงานและทรัพยากร มหาวิทยาลัยรังสิต และนักเคลื่อนไหวปฏิรูปพลังงาน ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก "คุยกับหม่อมกร" ว่านี่เป็น "กรณีตัวอย่างของประชาชนที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องของผู้ใช้พลังงาน"

    เรื่องนี้ "ม.ล.กรกสิวัฒน์" บอกว่า ยังไม่เคยเปิดเผยถึง "เบื้องหลังของความสำเร็จ" ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ดังนั้นเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว จึงนำคำพิพากษามาเปิดเผยให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ...

    มูลเหตุของคดีเกิดจากในช่วงปี 2556 รัฐบาลมีนโยบายการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มของภาคครัวเรือน ในวันที่ 1 ก.ย.56 ซึ่งผมเห็นว่า ไม่เป็นธรรมต่อประชาชนผู้ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพยากรก๊าซ จึงให้สัมภาษณ์ทางสื่อโทรทัศน์ เอเอสทีวี และ สื่อวิทยุ 101 เพื่อต้องการสื่อสารข้อมูลไปยังผู้บริโภคและรัฐบาล เพื่อให้ทบทวนนโยบาย

    ...จากบทเรียนของผมที่พ่ายแพ้คดีกระทรวงพลังงานในศาลล่างมาก่อนหน้า (นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล เป็นรัฐมนตรี และนายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ เป็นทนายโจทก์) (แต่ภายหลังศาลฎีกาได้พิพากษายกฟ้อง) ผมจึงประชุมกับทีมทนายความได้ข้อสรุปว่า เนื่องจากผมจะมีความรู้ลึกในข้อมูลฝ่ายโจทก์และข้อมูลพลังงาน ทั้งยังจดจำเอกสารได้ทั้งหมด จึงควรให้ผมซึ่งเป็นจำเลยเป็นผู้ซักค้านพยานโจทก์ด้วยตนเอง จะทำให้คดีกระจ่างต่อศาลได้โดยง่าย ... ก่อนขึ้นทำหน้าที่ ผมยอมรับว่าแม้ว่ามั่นใจในข้อมูล แต่ก็กังวลใจว่าจะทำได้ดีเหมือนทนาย หรือไม่ แต่ด้วยความช่วยเหลือของสำนักงานทนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายอติชาต แสงขาว และพี่ๆ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายทำให้ผมมั่นใจมากขึ้น

    คดีนี้ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยคำฟ้องของโจทก์ โดยแยกเป็นหลายประเด็น ปรากฏตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ดังนี้...

    ประเด็นที่โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกล่าวหาว่าโจทก์เป็นต้นเหตุที่ทำให้ก๊าซแอลพีจีขาดแคลนจนต้องนำเข้าจากต่างประเทศ , ประเด็นจำเลยกล่าวว่า โจทก์นำก๊าซธรรมชาติที่ขุดได้ เข้าโรงแยกก๊าซ 60 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือถูกนำเข้าไปเผาที่โรงไฟฟ้า , ประเด็นผูกขาดท่อก๊าซและโรงแยกก๊าซ , ประเด็นจำเลยกล่าวถึงโจทก์ ว่า ไม่สร้างโรงแยกก๊าซให้เพียงพอ โจทก์จะสร้างก็ต่อเมื่อมีการขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี , ประเด็นกองทุนน้ำมันฯ , ประเด็น การกล่าวถึงเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของข้าราชการระดับสูง ประเด็นการใช้ก๊าซจำนวนมาก แต่จ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันน้อยกว่าภาคส่วนอื่น และซื้อในราคาที่ต่ำกว่าภาคส่วนอื่นและตลาดโลก และประเด็น กลุ่มฉ้อฉลพลังงาน...

    สำหรับ คำวินิจฉัยท้ายคำพิพากษาศาลฎีกา มีดังนี้

    “…การที่จำเลยกล่าวถ้อยคำหรือไขข่าวที่แพร่หลายแล้ว ตามรายงานเอกสารทางวิชาการ โดยมีข้อมูลหรือเอกสารที่มา กับมีพยานที่ทำเอกสารทางวิชาการมาเบิกความสนับสนุน ซึ่งเป็นการกล่าวโดยสุจริต เป็นการสื่อสารเพื่อการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภค และในฐานะอนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาลด้านพลังงาน วุฒิสภา ที่ได้รับการแต่งตั้งจากสมาชิกวุฒิสภา โดยการกล่าวของจำเลย เป็นไปตามข้อมูลจากรายงานการพิจารณาศึกษาของวุฒิสภา ซึ่งได้มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวแล้ว และอยู่ในอำนาจหน้าที่ของจำเลย โดยนำข้อมูลดังกล่าวมากล่าว เพื่อสื่อสารข้อมูลในการต้องนำเข้าสินค้าก๊าซหุงต้มที่ถูกต้องไปยังผู้บริโภคและประชาชน ทั้งข้อความไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อความจริง

    ส่วนการใช้ถ้อยคำ สำนวนโวหาร การใช้เสียงหนักเบาเป็นส่วนประกอบ หรือเป็นลักษณะของการนำเสนอในรายการที่จำเลยกล่าวเท่านั้น ซึ่งได้มีการแยกข้อเท็จจริงแต่ละเรื่องที่จำเลยกล่าวว่า มีความเป็นมาอย่างไร มาจากเอกสารหรือแหล่งข้อมูลใด ทั้งพยานหลักฐานที่โจทก์ และจำเลยนำสืบ ซึ่งล้วนแล้วแต่สนับสนุนให้เห็นว่า จำเลยมิได้กล่าวเกินไปกว่าข้อเท็จจริง...

    ทั้งตามเอกสารและข้อมูลในส่วนของการไม่สร้างโรงแยกก๊าซธรรมชาติ กรณีกองทุนน้ำมัน การได้สิทธิประโยชน์ของโจทก์ การผูกขาด การกล่าวถึงบริษัทปิโตรเคมี เป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากโจทก์ กรณีผลประโยชน์ทับซ้อน และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโจทก์ การกล่าวถ้อยคำของจำเลยมิได้มุ่งหมายให้ร้ายโจทก์เกินความเป็นจริง ข้อที่โจทก์อ้างว่า การไม่สร้างโรงแยกก๊าซ ธรรมชาติต้องพิจารณาถึงปริมาณก๊าซธรรมชาติที่หาได้ ต้องมีปริมาณเพียงพอเพื่อให้สามารถดำเนินการผลิตได้ในระยะยาว และความต้องการในการใช้ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นการคำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็ตาม

    แต่โดยเจตนาของจำเลยแล้ว มีความไม่เห็นด้วยในเรื่องการกำหนดนโยบายของรัฐบาลว่ามีความเป็นธรรมต่อประชาชนหรือไม่ โดยจำเลยต้องการให้รัฐบาลทบทวนนโยบายการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มของภาคครัวเรือน ที่เกิดขึ้นในวันที่ 1 กันยายน 2556 อันไม่เป็นธรรมต่อประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพยากรก๊าซธรรมชาติ แต่ต้องใช้ก๊าซหุงต้มในราคาที่สูงขึ้น จึงต้องกล่าวถึงสาเหตุดังกล่าวทั้งระบบ ซึ่งโจทก์ก็มิได้นำสืบว่ารายงานการพิจารณาของคณะอนุกรรมาธิการดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่เป็นการกล่าวที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคโดยตรง

    พยานหลักฐานของโจทก์รับฟังไม่ได้ว่า จำเลยได้หมิ่นประมาท และกระทำละเมิดต่อโจทก์ อันทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง หรือเกียรติคุณ และทางทำมาหาได้ หรือทางเจริญของโจทก์ จำเลยเพียงแต่นำรายงานการพิจารณาของวุฒิสภา มาเผยแพร่ต่อประชาชน จึงไม่เป็นการกล่าวหรือไขข่าวข้อความที่ฝ่าฝืนต่อความจริง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้น ชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน"

    งานนี้ นอกจากเป็นชัยชนะของประชาชนคนหนึ่ง อีกทางกลับกัน ก็ต้องบอกว่า กรณีนี้ ปตท.ในสมัย"ไพรินทร์" ตัดสินใจฟ้องประชาชนนั้น สมควรถูกตั้งคำถาม "ธรรมาภิบาล" ว่า คิดแต่ผลประโยชน์ส่วนตน ส่วนของปตท. ถ่ายเดียวหรือไม่ ? อคติจนละเลยที่จะให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงทำความเข้าใจกับผู้ใช้พลังงาน

    มิใช่ผู้ถือหุ้น ผู้บริหารปตท.เท่านั้น ที่เป็นเจ้าของทรัพยากรก๊าชธรรมชาติ ประชาชนก็มีสิทธิ์ในทรัพยากรของชาติเช่นกัน

    ที่สำคัญประชาชนผู้บริโภค ต้องใช้พลังงานในราคาที่เป็นธรรม!!

    ** 60ส.ส.อีสาน"เพื่อไทย" บินไปพบ "ทักษิณ" เจ้าของพรรคตัวจริง ขอให้ปลด"เจ๊หน่อย" พ้นประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งของพรรค ด้วยข้อหาเล่นพรรคเล่นพวก ก้าวก่ายการบริหารงานภายในพรรค จะสำเร็จหรือไม่ ต้องติดตาม !!


    ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลกำลังเล่นเกมเชือดเฉือนกันทางการเมืองจน"สภาฯล่ม" มา 2 นัดซ้อน จนทำให้การตั้ง "กมธ.เช็กบิลการใช้ม.44 ของคสช." ยังค้างเติ่งคาสภาฯ

    ในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้าน สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีกว่ากันนัก เพราะ "พรรคอนาคตใหม่" ก็ตกอยู่ในสภาพ "ลูกผี ลูกคน" เมื่อ"ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าพรรคต้องสิ้นสภาพ ส.ส. จากกรณีถือหุ้นสื่อ "วี-ลัค มีเดีย" และกำลังจะเจอดาบสอง ดาบสาม จากกกต. ที่ส่อว่าจะมีโทษถึงยุบพรรค

    ส่วน "พรรคเพื่อไทย" ซึ่งเป็นที่รับรู้กันว่า มีหลายก๊วน หลายก๊ก ที่ผ่านมาก็อยู่กันในลักษณะ ต่างคนต่างอยู่ จับกลุ่มกันตาม "ภาคนิยม" มีภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคกทม. เป็นหลัก... โดยในช่วงที่ผ่านมาบทบาทการนำภายในพรรค ตกอยู่กับ "ภาคกทม." ที่มี "เจ๊หน่อย" คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรค เป็นผู้กุมอำนาจ โดยมี "น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ" ในฐานะเลขาธิการพรรค และ ส.ส.กทม. ส่วนนหนึ่งเป็นแนวร่วม

    ถึงวันนี้ก็มีรอยร้าว รอวันแตกให้เห็นแล้ว เมื่อ "ส.ส.อีสาน" ประมาณ 60 คน ภายใต้การนำของ "หัวเขียง" ประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ประธานพรรคเพื่อไทยภาคอีสาน ได้เริ่มทยอยบินไปดูไบ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อพบกับ"ทักษิณ ชินวัตร" เจ้าของพรรคตัวจริง ...เพื่อยื่นคำขาดให้โละตำแหน่ง "ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรค" เพราะบทบาทไปทับซ้อนกับหัวหน้าพรรค ... หรือถ้าไม่ยกเลิก ก็ขอให้สั่งปลด "เจ๊หน่อย" ออกจากตำแหน่งนี้ แล้วตั้ง "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" ขึ้นมานั่งแทน

    พร้อมกับสาธยายถึงความไม่พอใจในตัว "เจ๊หน่อย" ที่เล่นพรรคเล่นพวก อย่างการตั้งประธานกรรมาธิการคณะต่างๆ ก็เลือกเอาแต่คนใกล้ชิดของตัวเอง โดยไม่คำนึงถึงระบบอาวุโสทางการเมือง ...โดยเฉพาะการวางตัวบุคคลเข้าไปเป็น กมธ.พิจารณางบฯ ปี 63 ซึ่งเป็นที่รับรู้กันว่าเป็นตำแหน่งสำคัญ ใครๆก็อยากเข้าไปเป็นกมธ.ชุดนี้ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยได้โควตามา 13 คน ซึ่งภาคอีสานมี ส.ส. 84 คน ควรจะได้โควตา 8 คน แต่กลับได้เพียง 5 คน เท่านั้น

    นอกจากนี้ ยังยกถึงเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่ "เครือข่ายของเจ๊หน่อย" ชิงออกมาให้ข่าวว่าล็อกเป้าไปที่ "พี่น้อง3 ป." และ "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รมว.คมนาคม โดยยังไม่มีมติพรรค และมติพรรคร่วมรัฐบาล ... ถือเป็นการไม่ให้เกียรติ "สมพงษ์ อมรวิวัฒน์"ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ และหัวหน้าพรรค รวมทั้งบรรดาพรรคร่วมฝ่ายค้าน ต่างแสดงความไม่พอใจที่ "เจ๊หน่อย"ทำตัวเสมือนเป็นผู้นำฝ่ายค้านเสียเอง ... ถึงวันนี้จึงยังกำหนดวันยื่นญัตติอภิปรายฯไม่ได้...

    ข้างฝ่าย "เจ๊หน่อย" พอได้ข่าว ส.ส.ภาคอีสาน บินไปดูไบ เพื่อยื่นคำขาดกับ "ทักษิณ" ให้ปลดตนเองพ้นตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์ฯ ก็บินตามไปบ้าง หวังอธิบายความ เบรกเกมกลุ่ม ส.ส.อีสาน... แต่รายงานข่าวไม่ได้บอกว่า"เจ๊หน่อย"ได้ไปร้องห่ม ร้องไห้ ขอให้ "ทักษิณ" อย่าได้ฟังความข้างเดียว จนต้องปลดตนเองจากตำแหน่งหรือไม่

    ระดับ "เจ้าแม่นครบาล" จะกล่อม "ทักษิณ" สำเร็จหรือไม่ เรื่องนี้ต้องติดตาม !!

    https://mgronline.com/politics/deta...T135mEGMExwKYkhDjU8Xg3EjzkPVoBVi9Tpgpc4iRIPuE
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กำไร บจ.หด เป้าดัชนีหุ้นลด / สุนันท์ ศรีจันทรา
    เผยแพร่: 29 พ.ย. 2562 14:32 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000011851801.jpg

    ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนงวด 9 เดือนแรกปีนี้อย่างเป็นทางการ โดยกำไรสุทธิลดลงมาก และเป็นปัจจัยลบที่ฉุดให้ตลาดหุ้นทรุดตัวลงแรง

    บริษัทจดทะเบียนในตลาดจำนวน 693 บริษัท หรือ 97.1% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 714 บริษัท ไม่รวมกองทุนรวม บริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนและบริษัทที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด งวด 9 เดือนแรกมียอดขายรวม 8,623,725 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน 1.3% มีกำสุทธิ 645,647 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน 15.4%

    ส่วนผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปีนี้ มียอดขายรวม 2,850,489 ล้านบาท ลดลง 6.1% และมีกำไรสุทธิ 201,347ล้านบาท ลดลง 18.3%

    สำหรับบริษัทจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ งวด 9 เดือนแรกมียอดขายรวม 139,597 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% มีกำไรจากการดำเนินงาน 4,710 ล้านบาท ลดลง 19.2% แต่หากรวมรายการพิเศษในกลุ่มทรัพยากร จะมีกำไรสุทธิ 8,663 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69%

    กำไรบริษัทจดทะเบียนที่ทรุดลง เนื่องจากผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และค่าเงินบาทที่แข็ง

    ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน เป็นพื้นฐานสำคัญของตลาดหุ้น เพราะประมาณการเป้าหมายดัชนีหุ้นแต่ละปี จะประเมินบนความคาดหมายผลกำไรบริษัทจดทะเบียน ซึ่ง ประมาณการเป้าหมายดัชนีปีนี้ เคยถูกตั้งไว้ที่ระดับ 1,750 จุด บนสมมุติฐานกำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตประมาณ 10%

    แต่ประมาณการเป้าหมายดัชนีหุ้นถูกปรับมาต่อเนื่อง จนล่าสุดคาดว่า สิ้นปีนี้จะปิดแถวระดับ 1,600 จุดต้น ๆ ซึ่งถ้ายืนเหนือ 1,600 จุดได้ น่าจะเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายควรพอใจ

    เพราะเมื่อกำไรบริษัทจดทะเบียนทรุด จากที่คาดว่าจะเติบโต ดัชนีหุ้นจะต้องปรับตัวลงตาม โดยสิ้นปี 2561 ดัชนี ฯ ปิดที่ 1,563 จุด ถ้าผลกำไรบริษัทจดทะเบียนปีนี้ชะลอตัวลง 10% ดัชนี ฯ ก็ควรปรับตัวลง 10% หรือลงไปยืนแถวระดับ 1,400 จุด

    แต่ ดัชนี ฯ ยังสามารถประคองตัวแถวระดับ 1,600 จุดได้ ซึ่งถือว่าดีมาก

    ปีหน้า เริ่มมีโบรกเกอร์บางสำนักออกมาทำนายผลกำไรบริษัทจดทะเบียนแล้ว คาดว่าจะชะลอตัว 4.5% แต่กลับคาดการณ์ดัชนี ฯ จะขยับขึ้นไประดับ 1,700 จุด สวนทางกลับประมาณการผลกำไรที่ลดลง

    ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนปีนี้ย่ำแย่ตาม ๆ กัน เพราะถูกผลกระทบจากปัจจัยรอบด้าน และปัจจัยลบยังดำรงอยู่ต่อในปีหน้า โดยเศรษฐกิจแทบทุกด้าน ไม่มีสัญญาณการฟื้นตัว ทั้งเศรษฐกิจโลก การส่งออก ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งขึ้นอีก ส่วนสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนอาจคุยกันไม่รู้เรื่องต่อไป

    ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ทุกโบรกเกอร์แทบทุกสำนักฟันธงว่า ปีนี้เงินทุนจะไปกลับ แต่จะส่งท้ายปีเก่าอยู่แล้ว ต่างชาติกลับขายหุ้นไม่เลิก ปี 2561 ขายหุ้นสุทธิหอบเงินกลับบ้านไปกว่า 2.8 แสนล้านบาท ส่วนปีนี้ขายไปแล้วกว่า 3 หมื่นล้านบาท และ ไม่มีสัญญาณว่า ปีหน้าต่างชาติจะขนเงินกลับมาลุยตลาดหุ้นไทย

    อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีปีหน้า คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีนี้ โดยโตประมาณ 2.7% ตามความคาดหมายของธนาคารกสิกรไทย และผลกำไรบริษัทจดทะเบียนคงไม่โดดเด่น ทำให้ ตลาดหุ้นขาดแรงหนุนในการฟื้นตัว

    นักลงทุนรอดจากปีนี้ได้ ถือว่าบุญแล้ว แต่ถ้าไม่ระวังตัวให้ดี วางกลยุทธ์การลงทุนไม่ถูก จับจังหวะการลงทุนผิด ปีหน้าอาจไม่รอดจากการเจ็บเนื้อเจ็บตัวในตลาดหุ้น

    https://mgronline.com/stockmarket/detail/9620000114588
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข้าวไทยขายแพง คุณภาพไม่ต่างเวียดนาม-กัมพูชา ชาวนาหลังหัก กัดฟันสู้

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ระลอกนี้ลมหนาว น่าจะมาถึงกทม.และอุณหภูมิอาจต่ำสุดที่16-17องศาฯ

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัญหาความวุ่นวายในฮ่องกงมีสหรัฐฯและตะวันตกหลายชาติแอบหนุนและให้ความช่วยเหลือผู้ประท้วง #เปิดฟ้าส่องโลก โดย นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้มีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมที่จังหวัดนราธิวาส ประชาชนเดือดร้อน 8,000 ครัวเรือน ล่าสุด ผู้ว่าฯ ประกาศเขตภัยพิบัติ 3 อำเภอ

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แผ่นดินไหว ขนาด 6.0
    ภูมิภาค หมู่เกาะอันเดรียน, ALEUTIAN IS.
    วันที่ เวลา 2019-12-02 05: 01: 58.6 UTC
    ที่ตั้ง 51.30 N 178.11 W
    ความลึก 60 กม

    C685DB75-EF9D-4FF6-87CB-5E7D5F439FB6-1769-0000010A9CAE1B6E.png 6D9430DA-D69E-4A41-B9D4-4E510D784AE4-1769-0000010AA42F1639.png CB62B95A-8262-4C2E-81F1-3DEDF15A219E.jpeg

    Magnitude 6.0

    Region

    ANDREANOF ISLANDS, ALEUTIAN IS.

    Date time 2019-12-02 05:01:58.6 UTC

    Location 51.30 N ; 178.11 W

    Depth 60 km


    Distances


    3760 km NE of Tokyo, Japan / pop: 8,337,000 / local time: 14:01:58.6 2019-12-02


    4498 km NE of Pyongyang, Korea, Democratic People's Republic of / pop: 3,222,000 / local time: 14:01:58.6 2019-12-02


    4511 km NE of Seoul, Korea, Republic of / pop: 10,350,000 / local time: 14:01:58.6 2019-12-02


    https://m.emsc.eu/earthquake/earthquake.php?evid=809360
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    เกิดขึ้นตอนนี้
    # TISOYPH # Kammuri
    ลมและฝนตกหนักขณะนี้อยู่ใน Gamay, Samar เหนือ
    ฟิลิปปินส์ 2 ธ.ค. 2019


     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    นอร์เวย์ 1 ธันวาคม 2019


     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    Duluth, มินเนโซต้า, สหรัฐอเมริกา วันที่ 1 ธันวาคม 2019


     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk

    สายฟ้าฟาดทำให้วัว 49 ตัวเสียชีวิต ในแซมเบีย


    สายฟ้าฟาดฆ่าวัว 49 ตัวในจังหวัดทางตะวันตกของแซมเบีย วัวกำลังแทะเล็มหญ้าใต้ต้นไม้เมื่อฟ้าผ่า กระแทก


    Lightning Bolt Kills 49 Cows in Zambia


    A lightning strike has killed 49 cattle in the western province of Zambia. The cows were grazing under a tree when the lightning struck. Ironically, the tree wasn’t hit.


     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สด น้ำท่วมหนักกลางชุมชน ต.ตันหยงมัส อ.ระเเงะ จ.นราธิวาส

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ระดับน้ำในหลายชุมชน ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทางจังหวัด ต้องระดมกำลังเข้าช่วยเหลือผู้ประสพภัยต่อเนื่อง
    ขณะที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก เตือนประชาชนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงมาจนถึงนราธิวาส ให้ระวังน้ำท่วมฉับพลันจากฝนตกหนัก ตั้งแต่วันพรุ่งนี้จนถึง 7 ธันวาคม นี้ #ThaiPBSศูนย์ข่าวภาคใต้

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_5424.JPG
    (Dec 2) ธปท.รื้อกรอบเงินเฟ้อรอบ5ปี : "คลัง-แบงก์ชาติ" ตกลงรื้อ "กรอบเงินเฟ้อ" ครั้งแรกรอบ 5 ปี กำหนดกรอบใหม่ "แคบลง-ไม่มีค่ากลาง" หลังจากประกาศใช้กรอบเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ 2.5% +/- 1.5% ต่อปี มาตั้งแต่ปี 2558 เหตุประเมินแล้วถึงสิ้นปีนี้เงินเฟ้อส่อ "หลุดกรอบล่าง" อยู่ต่ำกว่า 1% เหตุราคาเชื้อเพลิงฮวบ- เงินเฟ้อพื้นฐานต่ำกว่าคาด



    นายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ธปท.ได้ตกลงเป้าหมายนโยบายการเงิน ปี 2563 (กรอบเงินเฟ้อ) กับทางกระทรวงการคลังเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในช่วงปี 2562 ที่ผ่านมา ไม่เป็นไปตามกรอบเป้าหมาย เงินเฟ้อปี 2562 ที่กำหนดไว้ที่ 2.5% +/- 1.5% ต่อปี ทาง ธปท.จึงได้เสนอกระทรวงการคลังปรับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปี 2563 ใหม่ โดยพิจารณากรอบเป้าหมายที่เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจในระยะปานกลาง ส่วนกรอบใหม่จะเป็นอย่างไรนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะต้องรอ กระทรวงการคลังเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติก่อน



    "ปกติถ้าเงินเฟ้อหลุดเป้ากรอบ เป้าหมายอย่างเช่นที่ผ่าน ๆ มา เราจะมีการส่งจดหมายเปิดผนึกถึง รมว.คลัง เพื่อชี้แจงสาเหตุที่เงินเฟ้อหลุดเป้า รวมถึงจะต้องแจ้งว่ากรอบเงินเฟ้อจะสามารถกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายได้เมื่อไหร่ และ ธปท.จะมีวิธีบริหารจัดการให้กลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายได้อย่างไร ซึ่งช่วงปลายปีของทุก ๆ ปี ธปท.จะมีการเข้าหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อของปีถัดไป อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ธปท.ได้เสนอต่อกระทรวงการคลังว่า การพิจารณากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ จะต้องพิจารณากรอบเป้าหมายในระยะปานกลางด้วย" นายเมธีกล่าว



    นายเมธีกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ธปท.มีความร่วมมือกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ศึกษาถึงการนำกรอบการทำงานด้านเสถียรภาพทางการเงิน (financial framework) เข้ามาอยู่ในการวางกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อด้วย โดยจะเปิดให้ผู้ประเมินภายนอกที่เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพิจารณาการทำนโยบายการเงิน ซึ่งอาจเป็นองค์กรจากต่างประเทศ เช่น ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ ระหว่างประเทศ (BIS) เป็นต้น เข้ามา ประเมินด้วย โดยจะเริ่มในปี 2563



    "ปกติเวลาวางกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ เราก็มีการคำนึงถึงเรื่องเสถียรภาพทางการเงินทุกครั้ง แต่อาจยังไม่ได้ผนวกปัจจัยเสถียรภาพทางการเงินเข้ามาสนิท ซึ่งจากนี้ไปเราจะนำเสถียรภาพทางการเงินมาดูให้ชัดเจนว่าส่งผลกระทบต่อกรอบเป้าหมายเงินเฟ้ออย่างไร เดิมเราเห็นแต่สัญญาณว่าเสถียรภาพทางการเงินว่า น่าจะมีความเสี่ยง แต่ยังไม่สามารถ ระบุได้ชัดเจนว่าส่งผลกระทบต่อกรอบเป้าหมายเงินเฟ้ออย่างไรบ้าง ก็จะทำให้ภาพชัดเจนขึ้น" นายเมธีกล่าว



    ก่อนหน้านี้ นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท.ระบุว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินว่า ปีนี้อัตราเงินเฟ้อขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้เดิม และไม่น่าจะเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 1-4% ได้ จากผลของราคาพลังงานและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ต่ำกว่าคาด โดยคาดว่า ณ สิ้นปี 2562 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ 0.8% และจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 1% ได้ ในปี 2563



    ขณะที่แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากการหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงการคลังกับ ธปท.ได้ข้อสรุปว่า จะมีการปรับกรอบเงินเฟ้อ ปี 2563 ให้สอดคล้องกับความเป็นจริงมากขึ้น จากกรอบเดิมที่ใช้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เฉลี่ยทั้งปีที่ 2.5% +/- 1.5% ต่อปี หรือช่วงตั้งแต่ 1-4% ต่อปี ซึ่งค่อนข้างกว้าง และกรอบดังกล่าว เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2558 แต่ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เงินเฟ้อก็ไม่เป็นไปตามกรอบเป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้นในปี 2563 ก็จึงมีการปรับให้ช่วงเงินเฟ้อเป้าหมายให้แคบลง และไม่ได้เป็นเป้าหมายรายปี แต่เป็นการมองระยะปานกลาง



    นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะเสนอกรอบเป้าหมาย นโยบายการเงิน ปี 2563 ให้ ครม.พิจารณาภายในเดือน ธ.ค.นี้ โดยยอมรับว่า มีการปรับกรอบเงินเฟ้อแตกต่างไปจากเดิมที่ 2.5% +/- 1.5% เนื่องจากช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อแต่ละปีไม่เป็นไปตามกรอบเป้าหมายที่วางไว้



    "ปีนี้อัตราเงินเฟ้อจนถึงเดือน ก.ย. 2562 ก็อยู่ที่ 0.8% ต่ำกว่ากรอบล่างที่อยู่ที่ 1% ซึ่งกรอบเดิมเราดูกันแล้วว่า อาจจะกว้างไป คือ 1-4% ก็อาจจะประกาศใหม่แบบเป็นช่วงไปเลย ไม่ต้องมีค่ากลาง แล้วก็ขอบบน ขอบล่างก็แคบลง" นายลวรณกล่าว



    นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธปท. กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ต.ค. 2562 ปรับลดลงค่อนข้างมากมาอยู่ที่ 0.11% จากเดือน ก.ย.อยู่ที่ 0.32% โดยมีสาเหตุมาจากอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก รวมถึงปัจจัยเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ต้นทุนการนำเข้าน้ำมันดิบลดลง นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดที่ปรับลดลงตามราคาเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะราคาเนื้อหมู เนื่องจากผู้บริโภคกังวลต่อการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกันในประเทศเพื่อนบ้าน และราคาผลไม้ปรับลดลง หลังปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อทั่วไปเดือน ต.ค.ลดลง


    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    ลิเบีย โลกเกิดรอยแตกยาว 100 เมตร


     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แจ้งเตือน- แผ่นดินไหว ขนาด 6.1 ---อเมริกาเหนือ---สหรัฐอเมริกา--อลาสกา---Adak


     

แชร์หน้านี้

Loading...