ติดตามสถานะการณ์

John Traczyk


ประชาชนกว่า 6,000 คนถูกบังคับให้หนีออกจากบ้านเนื่องจากไฟนรกส่งเสียงดังสนั่นในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ข่าวซีบีเอส เผยแพร่เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2019

 

John Traczyk

หลายพื้นที่ในโคโลราโดโดนหิมะตกฝันร้ายด้านการเดินทางและสนามบินนานาชาติเดนเวอร์ได้ยกเลิกเที่ยวบินไปหลายร้อยเที่ยวบินเมื่อวานนี้ ..


สื่อสดพายุ

26 พ.ย. 2019

 

John Traczyk

สไปรต์สีแดงและสไปรท์รัศมี

ถ่ายโดย Martin Popek เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2019 @ Nýdekสาธารณรัฐเช็ก

 

John Traczyk

บันทึก - ตั้งค่าขั้นตอนสำหรับ เมฆ NOCTILUCENT ขนาดใหญ่:


วิดีโอไทม์แลปส์นี้แสดงให้เห็นว่าเมฆแพร่กระจายอย่างรวดเร็วตั้งแต่การปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน: วงแหวนควันหนาวที่ปกคลุมไปด้วยดวงดาว 3000 ไมล์ที่ส่องประกาย


2019 อาจกลายเป็นสิ่งผิดปกติ ข้อมูลจากเครื่องมือเครื่องไมโครเวฟ Limb Sounder (MLS) ที่กำลังโคจรอยู่ของนาซ่าแสดงให้เห็นว่าขณะนี้ mesosphere เหนือทวีปแอนตาร์กติกากำลังประสบกับความหนาวเย็นเป็นประวัติการณ์


"ในสัปดาห์ที่ผ่านมา 2019 เป็นปีที่หนาวที่สุดใน mesosphere นับตั้งแต่เปิดตัว AIM ในปี 2550


อุณหภูมิต่ำช่วยให้โมเลกุลของน้ำเกาะจุดควันของอุกกาบาต อันที่จริงแล้วความเย็นได้ช่วยให้ปี 2019 สามารถทำลายสถิติครั้งหนึ่ง: "ฤดูแอนตาร์คติคเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน" Cora Randall จากห้องปฏิบัติการแห่งมหาวิทยาลัยโคโลราโดสำหรับฟิสิกส์บรรยากาศและอวกาศ "เครื่องหมายก่อนหน้านี้คือชุดที่ 17 พฤศจิกายนในปี 2013 และ 2016"


ถ้าอุณหภูมิของ mesospheric ยังคงอยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานานกว่านี้ฤดูแอนตาร์คติคปี 2019 อาจทำลายสถิติอื่นได้

 

John Traczyk

Schumann Resonance แอมพลิจูดพุ่งไปที่ที่ 68 ครั้งที่ 24 ที่บันทึกไว้ 7:14 pm EST 26 พ.ย.


Schumann Resonance spiking to an amplitude of 68 on the 24th. Documenting. 7:14 pm EST. Nov 26

 

ผู้อยู่อาศัยทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนียและโอเรกอนใต้กำลังเตรียมพร้อมสำหรับ "ระเบิดพายุไซโคลน" ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดแห่งปี

พายุที่พัดมาทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนียในวันนี้อาจเป็นเหมือนที่ไม่เคยเห็นในพื้นที่ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาโดยมีลมกระโชกแรงสูงถึง 75 ไมล์ต่อชั่วโมงในบางสถานที่และคลื่นซัด 35 ฟุตขึ้นไป

“ นี่เป็น

 

รัฐบาล แจกเงินดาวน์บ้าน 50,000 บาทแสนราย ลงทะเบียน 11 ธ.ค.นี้
โดย PPTV Onlineเผยแพร่ 26 พ.ย. 2562,18:53น.ปรับปรุงล่าสุด 26 พ.ย. 2562,19:23น.


ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2562 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอใน 3 มาตรการ คาดว่าจะมีเงินลงไปรวมทุกมาตรการประมาณ 1.487 แสนล้านบาท


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบด้วย มาตรการแรก คือ การเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ประกอบด้วย 3 โครงการย่อย ได้แก่

-โครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานระดับหมู่บ้าน โดยจัดสรรเงินให้แก่กองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง แห่งละไม่เกิน 200,000 บาท ผ่านสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ภายใต้วงเงินรวม 14,348.4 ล้านบาท เพื่อให้เกิดการจ้างงาน

-โครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สนับสนุนสินเชื่อวงเงินรวม 50,000 ล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.01% ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยตามปกติของ ธ.ก.ส. ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565

-โครงการพักชำระหนี้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตามความสมัครใจ เฉพาะหนี้เงินต้นเป็นเวลา 1 ปี

มาตรการที่ 2 คือมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2562 กับกรมส่งเสริมการเกษตรจะได้รับเงินช่วยเหลือ ค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวเฉพาะเกษตรกรรายย่อยอัตราไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 10,000 บาท วงเงินรวม 26,793 ล้านบาท นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมในโครงการโดยสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2562/63 พร้อมทั้งขยายระยะเวลาการจ่ายเงินให้เกษตรกรจากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน 2563 จะใช้วงเงินเพิ่มเติมอีก 2,600 ล้านบาท

และมาตรการที่ 3 คือการลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัย ภายใต้โครงการ "บ้านดีมีดาวน์" เพื่อเป็นการลดภาระ และสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยภาครัฐสนับสนุนเงินเพื่อลดภาระการผ่อนดาวน์ (Cash Back) จำนวน 50,000 บาทต่อราย โดยผู้เข้าร่วมมาตรการต้องเป็นผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อเดือน หรือไม่เกิน 1,200,000 บาทต่อปี อยู่ในระบบฐานภาษีอากรของกรมสรรพากร จำกัดจำนวน 100,000 ราย และต้องผ่านเกณฑ์ตามแนวทางที่กระทรวงการคลังกำหนด ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 62 – 31 มีนาคม 2563 ทั้งนี้ รัฐบาลจะเปิดให้ลงทะเบียนขอรับสิทธิเงินดาวน์ซื้อบ้าน 50,000 บาทในเว็บไซต์ "บ้านดีมีดาวน์" ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.62 ใช้งบประมาณ 5,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังคาดว่า ในช่วงแรกคาดว่าจะมีเม็ดเงินจากมาตรการลงสู่ระบบเศรษฐกิจ 8 หมื่นล้านบาท มาจากการพักชำระหนี้กองทุนหมู่บ้าน การช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและค่าเพาะปลูกให้ชาวนา ส่วนในระยะต่อไปคาดว่าจะมีเม็ดเงิน 2-3 หมื่นล้านบาท จากมาตรการลงทุนกองทุนหมู่บ้าน และมาตรการด้านอสังหาริมทรัพย์


https://www.pptvhd36.com/news/ประเด็นร้อน/114771

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra


ไฟป่าครั้งใหม่ปรากฎขึ้นใกล้กับซานตาบาร์บาร่าก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ ไฟไหม้ได้ทำลายมากกว่า 1,700 เฮคเตอร์ตั้งแต่บ่ายวันจันทร์

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

Mogadishu, ประเทศโซมาเลีย 25 พฤศจิกายน 2019

 

แล้งหนักกระทบทั้งลุ่มน้ำโขง นักวิจัยเบิร์กเลย์แลปเตือนโลกร้อนจะทำให้ยิ่งแล้ง 21 Nov 2019

คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) ประกาศเตือนสภาวะภัยแล้งทั่วลุ่มน้ำโขง ระบุชัด ไทย – เขมร กระทบหนักสุด ในขณะที่นักวิจัยด้านสภาพภูมิอากาศจาก เบิร์กเลย์แลป มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เปิดเผยผลการศึกษาล่าสุดที่ชี้ว่า ผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศขั้นรุนแรงจะทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกต้องเจอกับสภาวะภัยแล้งรุนแรงขึ้นในอนาคต

ผลการวิเคราะห์สภาพอากาศเบื้องต้น โดยศึกษาปริมาณฝนในปีนี้เปรียบเทียบกับข้อมูลปริมาณน้ำฟ้าในอดีตของ MRC ที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ช่วงฤดูฝนมีปริมาณฝนตกน้อยกว่าปกติมาก จากเหตุที่ปีนี้ลมมรสุมที่นำฝนมาสู่ภูมิภาคมาช้าและไปไวกว่าที่คาด ผสมโรงกับความแห้งแล้งจากสภาวะเอลนิญโญ (El Nino) ที่ทำให้แหล่งน้ำในธรรมชาติมีอัตราการระเหยมากกว่าปกติ ส่งผลให้ทั้ง 4 ประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง – ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม – ต้องประสบกับวิกฤตภัยแล้งนับตั้งแต่ช่วงนับกลางเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

หัวหน้าศูนย์การจัดการน้ำท่วมและภัยแล้งของ MRC (Regional Flood and Drought Management Center) ดร.Lam Hung Son กล่าวว่า สภาวะแห้งแล้งยาวนานในปีนี้ส่งผลกระทบต่อพืชผลทางการเกษตรในภูมิภาคอย่างรุนแรง และถ้าหากสถานการณ์ย่ำแย่ลง การขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคอาจตามมาได้ โดยจากการวิเคราะห์สถานการณ์คาดว่า ภัยแล้งครั้งนี้จะสาหัสที่สุดในเดือนธันวาคม โดยพื้นที่บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย รวมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกัมพูชา เป็นพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด


แผนที่แสดงพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งจากการคาดการณ์ของ MRC
ดร.Lam Hung Son เสริมว่า แม้ว่าพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงในเวียดนามจะไม่ได้รับผลกระทบจากสภาวะฝนแล้ง แต่ปริมาณน้ำจืดที่ลดลงอย่างมากจากภัยแล้งในพื้นที่เหนือน้ำอาจส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำจนทำลายพืชผลทางการเกษตรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสภาวะฝนแล้งในช่วงกลางฤดูฝนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลงจนถึงจุดต่ำสุดในรอบ 60 ปีมาแล้ว

อย่างไรก็ดี เขากล่าวว่า จากการคาดการณ์ สถานการณ์ภัยแล้งจะค่อยๆทุเลาลงหลังจากกลางเดือนมกราคมเป็นต้นไป จากสภาพอากาศที่จะเริ่มกลับมาชื้นขึ้น

อนึ่ง MRC เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะมีการประชุมชาติสมาชิกในระดับรัฐมนตรีที่กรุงพนมเปญ เพื่อหารือถึงปัญหาภัยแล้งในภูมิภาค โดยที่ประชุมจะมีการพิจารณายุทธศาสตร์การจัดการภัยแล้ง ซึ่งจะช่วยวางมาตรการการรับมือภัยแล้ง การแชร์ข้อมูลน้ำ และการวางกรอบการทำงานร่วมกันระหว่างชาติสมาชิก

สำหรับการรับมือสถานการณ์ภัยแล้งของทางการไทย ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้สั่งการให้หน่วยงานในแต่ละภูมิภา ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมถึงเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ ให้พร้อมสำหรับการเข้าไปช่วยเหลือราษฎรที่มีแนวโน้มจะเสี่ยงต่อปัญหาขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่นอกเขตชลประทาน หลังจากหลายพื้นที่ของประเทศเริ่มประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ

จากสถานการณ์ความแห้งแล้งรุนแรง และปริมาณน้ำกักเก็บในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศที่มีน้อย ทวีศักดิ์ กำชับให้แต่ละพื้นที่ใช้น้ำตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้สามารถจัดสรรปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดให้พอเพียงต่อความต้องการใช้น้ำตลอดฤดูแล้ง และสำรองใช้ในช่วงต้นฤดูฝนปีหน้า

โดยข้อมูลล่าสุดจากคลังข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติเผยว่า ตั้งแต่เริ่มต้นฤดูแล้งในวันที่ 1 พฤศจิกายน มีการระบายน้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยาไปแล้ว 441 ล้านลูกบาศก์เมตร ยังคงมีปริมาณน้ำใช้การใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยาอยู่รวม 5,135 ล้านลูกบาศก์เมตร


สภาพความแห้งแล้งและผลกระทบจากการควบคุมน้ำของเขื่อนในลุ่มแม่น้ำโขง เปลี่ยนแม่น้ำโขงที่ควรจะไหลเต็มฝั่งในฤดูฝนให้แห้งผาก //ขอบคุณภาพจาก: Mekong Voice เสียงจากลำน้ำโขง
ในขณะเดียวกัน นักวิจัยจากเบิร์กเลย์แลป (Lawrence Berkeley National Laboratory) มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย Wenyu Zhou และ Da Yang เผยแพร่งานวิจัยชิ้นใหม่ เปิดเผยว่าประชากรหลายร้อยล้านคนในเอเชียอาจจะต้องเผชิญกับภัยแล้งยาวนานสาหัสกว่าเดิม หากสภาวะโลกร้อนรุนแรงขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงของลมมรสุมทำให้ฝนตกน้อยลงในช่วงฤดูฝน

ผลการคาดการณ์สภาพภูมิอากาศ จากการจำลองโมเดลสภาพอากาศในสถานการณ์สภาวะโลกร้อนที่เลวร้ายที่สุด พบว่า ภายในช่วงสามสิบปีสุดท้ายของศตวรรษที่ 21 ลมมรสุมเอเชียตะวันออกที่นำฝนมาสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน จะเปลี่ยนทิศทางขยับลงใต้มากขึ้น และทำให้ Hadley cell หรือเขตแห้งแล้งจากการจมตัวของอากาศแห้งในพื้นที่กึ่งเขตร้อน (Subtropics) ขยายตัว ส่งผลให้พื้นที่ตอนบนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน อันเป็นพื้นที่เหนือน้ำของแม่น้ำโขง มีปริมาณฝนลดลงอย่างชัดเจนในฤดูฝน

“ประชาชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีน พึ่งพิงพึ่งทรัพยากรน้ำที่มาจากฝนมรสุมมาก ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของลมมรสุมจากสภาวะโลกร้อนจะก่อให้เกิดผลกระทบมหาศาลต่อการจัดการน้ำ และการดำรงชีพของประชาชนในภูมิภาค” Yang กล่าว

https://greennews.agency/?p=19787

 

ปิดฉากพญาเสือโคร่งภูทับเบิกอันซีนเพชรบูรณ์ ใบร่วงกิ่งแห้งยืนต้นตายยกแปลงไม่ทราบสาเหตุ (ชมคลิป)
27 พ.ย. 2019สุนทร คงวราคม

เพชรบูรณ์-ปิดฉากพญาเสือโคร่งภูทับเบิก แหล่งท่องเที่ยวใหม่อันซีนเพชรบูรณ์ จู่ๆเกิดปรากฎการณ์ใบร่วงหมดต้นแถมกิ่งก้านแห้งเหี่ยว ยืนต้นตนตายยกแปลงโดยไม่ทราบสาเหตุ (ชมคลิป)
วันที่ 27 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ชาวบ้านและบรรดาผู้นำในหมู่บ้านทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ต่างพากันงุนงงหลังจากต้นพญาเสือโคร่งหรือ”ซากุระเมืองไทย” แปลงปลูกป่าภูทับเบิกประชาอาสา อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า หมู่ที่ 14 บ้านทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า บนเนื้อที่ 126 ไร่ ซึ่งเพิ่งจะถูกยกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนแห่งใหม่ของเพชรบูรณ์เมื่อปี 2560 จู่ๆ ได้เกิดปรากฎการณ์ไม่ออกดอกแถมใบยังร่วงหล่นหมดทั้งต้น เหลือเพียงกิ่งก้านและยืนแห้งตายเกือบทั้งแปลงโดยไม่ทราบสาเหตุ ล่าสุดนายใจ แซ่เถา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 และนายชง แซ่สง ประธานกลุ่มนำเที่ยวแปลงพญาเสือโคร่งภูทับเบิก ลงพื้นที่สำรวจแปลงปลูกต้นพญาเสือโคร่งดังกล่าว กระทั่งพบสภาพต้นพญาเสือโคร่งทั้งแปลงนอกจากจะไม่ออกดอกตามฤดูกาลแล้ว ยังตกอยู่ในสภาพใบร่วงหล่นจนหมดต้นจนเหลือแต่กิ่งไม้แล้ว กว่าร้อยละ 50 ยังตกอยู่ในสภาพยืนต้นตายอีกด้วย
นายใจ แซ่เถา กล่าวว่า ปรากฏการณ์นี้เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2560 โดยทุกคนต่างคิดว่าต้นพญาเสือโคร่งผลัดใบตามปกติเนื่องจากเป็นพันธุ์ไม้ป่า ด้วยสภาพสภาพอากาศไม่ค่อยหนาวเย็นมีความแห้งแล้งจึงไม่ออกดอก แต่พอมาในปีนี้ตามปกติในช่วงนี้จะเริ่มเห็นต้นพญาเสือโคร่งเริ่มออกดอกบ้างแล้ว และจะไปบานสะพรั่งในช่วงเดือนมกราคม แต่ปรากฏว่าทั้งเกิดใบร่วงหล่นหมดแถมกิ่งก้านแห้งเหี่ยวและเกิดอาการยืนต้นตายไปเฉยๆ เกือบหมดทั้งแปลงโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งนอกจากแปลงนี้แล้วแปลงที่อยู่บนสันเขาเขตอุทยานฯ ติดต่อกับที่ทำกินชาวบ้านราว 300 ไร่ก็ตกอยู่ในสภาพไม่แตกต่างกัน
“ขณะนี้แจ้งทางอุทยานฯภูหินร่องกล้าไปแล้ว และอยากให้ทางผู้เชี่ยวชาญช่วยมาตรวจสอบว่าจะแก้ไขอย่างไร เพราะหากยังปล่อยให้แบบนี้ต่อไปต้นพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยแปลงภูทับเบิก ซึ่งถูกยกย่องเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่อันซีนแห่งใหม่ของจังหวัดเพชรบูรณ์ คงจะต้องถึงกาลอวสานอย่างแน่นอน”ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 14 บ้านทับเบิกกล่าว
นายชง แซ่สง กล่าวว่า เมื่อปี 2560 ต้นพญาเสือโคร่งแปลงนี้ออกดอกบานสะพรั่งพร้อมๆกันทั้งแปลง ทำให้มีความสวยงามไม่แพ้แปลงที่ภูลมโร จนมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาชมกันเป็นจำนวนมาก จนหมู่บ้านเกิดความคึกคักมากขณะเดียวกันเศรษฐกิจเกิดการสะพัด แต่ในปี 2561 ที่ผ่านมาต้นพญาเสือโคร่งเริ่มไม่ออกดอก โดยหลายคนก็คิดว่าอาจเป็นเพราะสภาพอากาศไม่หนาวเย็นพอ แต่มาเห็นสภาพต้นพญาเสือโคร่งทั้งแปลงในปี 2562 นี้ปรากฏการณ์นี้ชัดเจนขึ้นก็คิดว่าคงหมดหวังเพราะต้นพญาเสือโคร่งแห้งเหี่ยวยืนต้นตายเกือบทั้งแปลง



https://www.77kaoded.com/content/1051032

 

แผ่นดินไหว ขนาด 6.0
ภูมิภาค CRETE กรีซ
วันที่เวลา 2019-11-27 07: 23: 40.3 UTC
ที่ตั้ง 35.62 N 23.17 E
ความลึก 65 กม



Magnitude 6.0

Region CRETE, GREECE

Date time 2019-11-27 07:23:40.3 UTC

Location

35.62 N ; 23.17 E

Depth

65 km

Macroseismic

Intensity

IV Effects: Largely Observed


Distances


266 km S of Athens, Greece / pop: 730,000 / local time: 09:23:40.3 2019-11-27


182 km W of Irákleion, Greece / pop: 138,000 / local time: 09:23:40.3 2019-11-27


78 km W of Chaniá, Greece / pop: 54,600 / local time: 09:23:40.3 2019-11-27


43 km NW of Plátanos, Greece / pop: 1,100 / local time: 09:23:40.3 2019-11-27


https://m.emsc.eu/earthquake/earthquake.php?evid=808151

 

ก๊าซเรือนกระจกปี 2018 พุ่งสูงทำลายสถิติโลก โลกต้องลดก๊าซเรือนกระจกปีละ 7.6% เพื่ออยู่รอดภายใต้ 1.5C

UN เผยข้อมูลว่า ตัวเลขก๊าซเรือนกระจกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นปีละ 1.5%ในทศวรรษล่าสุด ปี 2018 เพิ่มสูงถึง 55.3 gigaton ความเข้มข้นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 407.8 ppm ( ปีที่แล้ว 405.5 ppm) หากมนุษย์ต้องการอยู่รอด และหลีกเลี่ยงหายนะจากภาวะโลกร้อน ภัยแห้งแล้ง พายุที่รุนแรง การละลายของน้ำแข็งขั้วโลกที่ทำให้น้ำทะเลสูงขึ้น ทำให้ประชากรในหลายประเทศไร้ที่อยู่ โลกจำเป็นต้องคุมอุณหภูมิไม่ให้เพิ่มเกิน 1.5 C วิธีการนั้นคือต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปีละ 7.6% ตั้งแต่ปี 2020-2030 เป็นต้นไป แต่ดูจากแนวโน้มการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตอนนี้ เราคงแตะ 3.2C ในปี 2030

“เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ที่ Emission Gaps Report ส่งสัญญาณเตือนพวกเรา แต่10ปีนี้ โลกก็ยังคงเพิ่มก๊าซเรือนกระจกต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีเวลาไหนที่เราควรจะสนใจฟังรายงานวิทยาศาสตร์มากที่สุดไปกว่าเวลานี้อีกแล้ว มิเช่นนั้นหากเราไม่ลงมือทำตามเป้า เราคงจะต้องพบกับหายนะทางสภาพอากาศ คลื่นความร้อน พายุร้ายแรง และมลพิษอีกมาก “ Antonio Guterres เลขาธิการของ UN กล่าว

ประเทศต่างๆ ยังคงไม่สามารถทำได้ตามเป้า โดยเฉพาะสองประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดคือ จีน และ อเมริกา แถมอเมริกายังถอนตัวจากข้อตกลงปารีส ส่วนประเทศที่ยังอยู่ในข้อตกลง ก็ไม่ทำตามเป้าเอาเสียเลย ได้แก่ บราซิลและออสเตรเลีย

ประเทศในกลุ่ม G20 เป็นผู้รับผิดชอบต่อ ปริมาณก๊าซเรือนกระจก 78% แต่มีเพียง 5 ประเทศสมาชิกที่สัญญาจะลดการปล่อยเป็นศูนย์ในระยะยาว

เดิมทุกประเทศทั่วโลกตั้งเป้าไว้ที่การควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5C ภายในปี 2030 แต่จากการเพิ่มขึ้นของก๊าซเรือนกระจกในปัจจุบัน คาดว่าโลกจะแตะ 3.2 องศา ณ เวลานั้น (ปัจจุบันเพิ่มไปแล้ว 1.1C) ไม่อยากจินตนาการเลยว่าในเวลาอีกแค่ 10 ปี ชีวิตของพวกเราจะเป็นอย่างไร เพราะแทบทุกวันนี้ก็มีภัยธรรมชาติเกือบทุกอาทิตย์แล้ว ยังไม่มีใครบอกช่วงเวลาได้แน่ชัดว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ วันที่ไม่มีกรุงเทพเพราะน้ำท่วม หรืออากาศร้อนเกินอาศัย

มีวิธีที่จะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดคือ ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลถ่านหิน น้ำมัน เปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทน เช่น solar powerหรือพลังงานลม
เข้าใจว่าแหล่งพลังงานเหล่านี้ ได้ฝังรากลึกในโครงสร้างแต่ละประเทศไปแล้ว รัฐบาลแต่ละประเทศควรจะต้องลงมือให้เร็วกว่านี้ และกำหนดนโยบายที่สัมพันธ์กับรายงานวิทยาศาสตร์ เพราะเรื่องภาวะโลกร้อน ควรมาเป็นอันดับหนึ่ง เหนือประเด็นทางการเมืองใดๆ

https://www.unenvironment.org/news-...76-percent-every-year-next-decade-meet-15degc
https://www.nytimes.com/2019/11/26/climate/greenhouse-gas-emissions-carbon.html
https://www.bbc.com/thai/features-50553295

 

เผย ‘สหรัฐ-อียู’ ทำโลกร้อนหนักสุด

 

การแช่แข็ง 'ที่โหดร้าย' อุณหภูมิ ในเดือนพฤศจิกายนแพร่กระจายไปทั่วรัสเซียทางตะวันออกเฉียงเหนือ # เย็น # รัสเซีย


'Brutal' freezing November temperatures spread across northeast Russia #cold #Russia

 

ทำขายเป็นเรื่องเป็นราว แล้วเด้อ ผลงาน #ปากกาวัดความสุกทุเรียน ของน้องๆ เทคนิคบางสะพาน หลังจากเปิดตัวต้นแบบ เมื่อปีที่แล้ว

- นายจิตวัฒนา บุญเลิศ หัวหน้าแผนกวิชาช่างกลโรงงาน วิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากร่วมกับนักศึกษาระดับ ปวส.ผลิตโครงงานนวัตกรรม ประสบความสำเร็จในการผลิตปากกาวัดความสุกของทุเรียนอย่างง่ายที่มีความถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ ที่ผ่านมางานดังกล่าวได้รับรางวัลชนะเลิศระดับด้านนวัตกรรมโดดเด่นระดับชาติ ในการประกวดสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ ประเภทสิ่งประดิษฐ์ด้านการประกอบอาชีพ ตั้งแต่ปี 2561

- จากนั้นได้นำไปจดสิทธิบัตรกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ล่าสุด นักศึกษาได้ร่วมกันผลิตผลงานแฮนด์เมดเพื่อส่งมอบชิ้นงานให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ภายหลังแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการให้กับผู้สนใจทั่วประเทศล็อตแรกจำนวน 60 อัน ตั้งราคาหน่ายอันละ 3,900 บาท มูลค่ารวม 234,000 บาท

- ยืนยันว่าราคาชิ้นละ 3,900 บาทนั้นไม่สูง และอยู่ที่ความต้องการของผู้ใช้งาน ขณะนี้มีผู้สนใจผลิตภัณฑ์มากกว่า 2,000 ชิ้น แต่ไม่สามารถส่งมอบได้ทันตามที่กำหนด จากการนำไปสาธิตการใช้งานในงานเกษตร และการเผยแพร่วิธีการใช้งานผ่านโซเชียลมีเดีย พร้อมวิธีการบำรุงรักษา

- ยืนยันว่าจะไม่มีการนำผลงานไปผลิตในระบบอุตสาหกรรมเพื่อผลิตครั้งละจำนวนมาก แต่จะให้นักศึกษาผลิตตามวิธีการดั้งเดิม ขณะที่นักศึกษามีความตั้งใจยกระดับผลงานในเวอร์ชั่นที่ 2 ด้วยการผลิตปากกาวัดความสุกทุเรียน เพื่อให้แสดงผลเป็นตัวเลขในระบบดิจิทัล

- มีสื่อในประเทศจีนและประเทศมาเลเซียได้นำผลงานที่สื่อมวลชนไทยนำเสนอไปเผยแพร่ ซึ่งยอมรับว่าชิ้นงานได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แต่ขณะนี้ยังไม่มีการผลิตเพื่อลอกเลียนแบบ

- สำหรับการใช้งานของเครื่องวัดคล้ายเข็มฉีดยาเมื่อแทงเข็มลงไปในพูทุเรียนสามารถวัดผลได้ทันที โดยอุปกรณ์จะกำหนดสเกลของเนื้อทุเรียนไว้ 3 ระดับ สีแดง หมายถึง ทุเรียนดิบ สีเหลือง หมายถึง ทุเรียนห่าม และสีเขียว หมายถึง ทุเรียนสุก ✅
.
อัพเดตความก้าวหน้าทางด้านเกษตร และความรู้อื่นๆ ได้ทุกวัน กับ เพจเกษตรอัจฉริยะ
Facebook ---> https://www.facebook.com/smartfarmthailand/
Twitter ---> https://twitter.com/teerakiat_kerd/

 

Setiawan

ลองนึกดูว่าถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์นี้

#แผ่นดินไหว แอลเบเนีย 26 พฤศจิกายน 2019

 

Setiawan


หิมะตกหนักใน Tunceli Pülümür, ประเทศตุรกี 27 พฤศจิกายน 2019

 

Setiawan

การระเบิดครั้งใหญ่ที่โรงงานปิโตรเคมี tpc ในท่าเรือ neches, เท็กซัสเกิดขึ้นในช่วงเช้าตรู่ใน 27 พฤศจิกายน 2019.


ไฟลุกไหม้หลังจากการระเบิดครั้งแรก

ผู้อาศัยอยู่ในพื้นที่รายงานว่าหน้าต่างพังจากการระเบิดแม้จะห่างออกไป

 

Setiawan


แผ่นดินไหวล่าสุดของโลกบน usgs

วันที่ 26 พฤศจิกายน12:00 utc ถึง วันที่ 27 พฤศจิกายน 10:00 utc ปี คศ. 2019


World's Latest Earthquake on USGS

26 12:00 UTC to 27 10:00 UTC Nov. 2019