ติดตามสถานะการณ์

Clima Extremo 24

MIDDLE EAST
ความร้อนสูงทำให้ไฟบนต้นปาล์มในคูเวต วันที่ 20 มิถุนายน

 

Clima Extremo 24

ตุรกี
พวยน้ำนอกชายฝั่งอิสตันบูล ในวันที่ 20 มิถุนายน

 

Kike Santillana

ภาพถ่ายที่เศร้าที่สุดที่เราเคยเห็น



หมีขั้วโลกออกจากที่อยู่อาศัยเพื่อค้นหาอาหารในรัสเซียเมื่อหลายวันก่อน

 

Setiawan

# สุริยุปราคาเต็มดวงของหัวใจ
สุริยุปราคาเต็มดวงจะเกิดขึ้นที่โหนดขึ้นบนวงโคจรของดวงจันทร์ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2019 ด้วยขนาด 1.0459


จำนวนทั้งสิ้นจะปรากฏให้เห็นจากมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ทางตะวันออกของนิวซีแลนด์ไปยังภูมิภาคโกกีมโบ ในชิลี และอาร์เจนตินาเมื่อพระอาทิตย์ตกดินด้วยเวลาสูงสุด 4 นาที 32 วินาทีจากมหาสมุทรแปซิฟิก


บางสถานที่ในเอกวาดอร์, บราซิล, อุรุกวัยและปารากวัยจะเห็นสุริยุปราคาบางส่วนเช่นกันขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ

 

แผ่นดินไหว ขนาด 6.3
ภูมิภาค หมู่เกาะ KERMADEC ประเทศนิวซีแลนด์
วันที่ 2019-06-21 เวลา 15: 37: 20.0 น. ตามเวลาประเทศไทย
ตำแหน่ง 30.97 S; 177.38 W
ความลึก 35 กม



Magnitude 6.3

Region KERMADEC ISLANDS, NEW ZEALAND

Date time 2019-06-21 08:37:20.0 UTC

Location 30.97 S ; 177.38 W

Depth 35 km


Distances

1111 km S of Nuku‘alofa, Tonga / pop: 22,400 / local time: 21:37:20.0 2019-06-21


932 km NE of Whakatane, New Zealand / pop: 18,700 / local time: 20:37:20.0 2019-06-21


https://m.emsc.eu/earthquake/earthquake.php?evid=772540

 

เวียดนามกำจัดหมูไปแล้ว 2.5 ล้านตัว

“เวียดนาม” กำจัดหมู 2.5 ล้านตัว หลัง อหิวาต์หมูแอฟริการะบาดหนัก 58 จังหวัด จาก 63 จังหวัด ปัดประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน อ้างไม่กระทบคน


ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่าขณะนี้ เวียดนามได้กำจัดหมูที่ติดเชื้ออหิวาต์แอฟริกาไปแล้วมากกว่า 2.5 ล้าน หลังเกิดการแพร่ระบาดอย่างหนัก ไปในทุกจังหวัด โดยเชื้อไวรัสถูกตรวจพบครั้งแรกในประเทศเวียดนาม เมื่อเดือน ก.พ. และระบาดไปถึง 58 จังหวัดจาก 63 จังหวัดทั่วประเทศ และเชื่อว่าจะพี้ระบาดไปจนครบทุกจังหวัด


ทั้งนี้ในเดือนมี.ค. องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติแนะนำให้เวียดนามประกาศให้การระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ นายเหวียน วัน ลอง หัวหน้าฝ่ายระบาดวิทยา ของกรมอนามัยสัตว์ เวียดนามยืนยันว่จะไม่ประกาศกสถานการณ์ฉุกเฉินเนื่องจากไวรัสนี้ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และการแพร่ระบาดไม่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ


อย่างไรก็ตามทางการเวียดนามระบุเมื่อเดือนก่อนว่าจะระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเข้าช่วยต่อสู้กับการแพร่ระบาดและเรียกร้องให้ประชาชนบริโภคเนื้อหมูต่อไป โดยอุตสาหกรรมเนื้อหมูของประเทศมีมูลค่าราว 94 ล้านล้านด่ง (4,030 ล้านดอลลาร์) คิดเป็นเกือบ 10% ของภาคการเกษตรของประเทศ


https://www.pptvhd36.com/news/105191

 

อยากรู้ไหม? ทำไมถึงต้องจับกุม นายสะการือนอง ชายชราวัย 68 ปี



จากกรณีที่ จนท. 3 ฝ่าย สนธิกำลังเข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่หมู่ 2 บ้านบัวทอง ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา และได้ควบคุมตัวชายสูงวัย คือ นายสะการือนอง บินมะดีเย๊าะ อายุ 68 ปี ซึ่งเป็นคณะกรรมการประจำมัสยิดในหมู่บ้านดังกล่าว เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา
กลายเป็นประเด็นให้สื่อฝ่ายแนวร่วมฯ และภาคประชาสังคม หยิบยกออกมาโจมตี การทำงานของ จนท.รัฐ โดยการใส่สีตีไข่ บิดเบือนข้อเท็จต่างๆ ว่า จนท.ปิดล้อมหมู่บ้าน จับชายชราแก่ผู้น่าสงสาร ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เลยว่าไปทำอะไรผิดมา...
หลายท่านคงยังจำเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2562 ได้ดีในความอุกอาจและโหดร้ายของผู้ก่อเหตุ จากกรณีที่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิง ร.ต.ท.อดุลย์ รักษ์ปราช และ ร.ต.ต.แวรอมลี แวฮามะ จนท.ตร. สังกัด ตชด.44 ขณะประกอบพิธีละหมาดอยู่ภายในมัสยิดนูรูลฮีบาดะห์ (บ้านมายอ) หมู่ 6 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา เป็นเหตุให้เสียชีวิตทั้งสองนาย
จากผลการตรวจพิสูจน์เครื่องกระสุนปืนของศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 (ศพฐ.10) ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุพบว่า“อาวุธปืนของคนร้ายที่ใช้ยิง2 ตชด. มีความเชื่อมโยงกับคดีที่คนร้ายใช้ก่อเหตุมาแล้ว 5 คดี มีผู้เสียชีวิตรวม 4 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย” ซึ่งคดีทั้งหมดชี้ชัดว่าเป็นฝีมือกลุ่ม ผกร. ที่เคลื่อนไหวทำการก่อเหตุในพื้นที่ อ.บันนังสตา,อ.ธารโต จ.ยะลา
จากนั้นเมื่อวันที่ 16เมษายน 2562 จนท.ได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยหลายรายมาดำเนินกรรมวิธีซักถาม ณ ฉก.ทพ. 41 อ.รามัน จ.ยะลา โดย นายมะกอเซ็ง ลีอะละ บุคคลเป้าหมายหนึ่งในนั้นยอมเปิดปากให้การยอมรับสารภาพว่าร่วมก่อเหตุยิง จนท.ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย ขณะละหมาดในมัสยิดนูรูอีบาดะห์ โดยทำหน้าที่ดูต้นทาง และต่อมาเมื่อวันที่ 7พฤษภาคม 2562 เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายมะกอเซ็ง ทำแผนประกอบคำรับสารภาพชี้จุดในการก่อเหตุ จำนวน 6 จุดด้วยกัน
จากการจับกุม นายมะกอเซ็ง ทำให้ทราบตัวกลุ่มผู้ร่วมก่อเหตุ จนนำไปสู่การออกหมายจับอีกหลายรายด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ นายสะการือนอง บินมะดีเย๊าะ ผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดนี้น่าจะตอบข้อสงสัยของใครหลายๆ คนว่า...ทำไม?จนท.ถึงต้องจับกุมชายชราวัย 68 ปีคนนี้ เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
การก่อเหตุในครั้งนั้นถึงแม้จะกระทำต่อ จนท.ก็ตาม ทำให้เราคิด และสงสัยมาโดยตลอดว่า...คนแบบไหนกันที่ฆ่าคนในมัสยิด ที่เปรียบเสมือนบ้านของพระเจ้าได้? คนแบบไหนกันที่ก่อเหตุเสร็จแล้ว กลับไปใช้ชีวิตปกติสุข เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น? และคนแบบนี้หรอกเหรอ ที่ทำเพื่อศาสนา และสมควรยกย่องเยี่ยงวีรบุรุษ
https://pulony.blogspot.com/2019/06...SKoNEGd7kRrV1sM-trIgpW396y2_Ug-VkdzEOGgmk&m=1

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jun 21) ธปท.โต้ข่าวปลอม..ย้ำไม่เคยใช้ทุนสำรองผิดวัตถุประสงค์ : “แบงก์ชาติ” ปัดข่าวปล่อยระบบเงินภายในประเทศ ลั่นเป็นข่าวปลอม ย้ำที่ผ่านมาไม่เคยใช้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศผิดวัตถุประสงค์
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า กรณีที่มีการแชร์หรือส่งต่อข่าวเกี่ยวกับ “การปล่อยระบบเงินภายในประเทศ พุทธศักราช 2562 เงินสำรองระหว่างประเทศ 23 ล้านล้านบาท” ซึ่งมีโลโก้ของ ธปท. อยู่บนหัวกระดาษดังกล่าว และมีชื่อนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธปท. เป็นผู้ลงนามด้านล่างของกระดาษนั้น ธปท.ยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวเป็น “ข่าวปลอม” โดย ธปท. ระบุว่า ที่ผ่านมาไม่เคยนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมาใช้ผิดวัตถุประสงค์
สำหรับวัตถุประสงค์ของเงินสำรองระหว่างประเทศ ทำหน้าที่เป็น “กันชน” เพื่อรองรับความผันผวนของระบบเศรษฐกิจไทย เงินสำรองระหว่างประเทศจึงต้องมี “เพียงพอ” และ “พร้อมใช้” หากมีความต้องการใช้เงินตราต่างประเทศ ทั้งจากการค้าขาย และการลงทุนของคนไทยและคนต่างประเทศ
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/838517

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jun 21) เทรดวอร์ เอพพิโซด 3 - ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ หรือเทรดวอร์ เป็นประเด็นหลักที่คนทั้งในและนอกตลาดการเงินวิเคราะห์กันอย่างละเอียด แต่กลับไม่น่าเชื่อว่าตั้งแต่เริ่มต้นมาจนถึงปัจจุบัน จะพบว่าตลาดเดาทางตอนจบของเทรดวอร์ไม่ถูกเลยสักภาค

เริ่มตั้งแต่ มิถุนายน 2561 (ค.ศ.2018) เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ตั้งกำแพงภาษีกับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของจีน ตอนกลางเรื่อง จีนโต้กลับบนสินค้าเกษตรหลายชนิดของสหรัฐฯ ทั้งที่ท้ายสุด เทรดวอร์ภาคแรกจบแบบ "ไม่มีบทสรุป" แต่ตลาดทุนกลับตอบรับแบบ ฉยๆ และคาดว่าหนังเรื่องนี้คงไม่มีภาคต่อ แต่แล้วความเชื่อมั่นแบบผิดๆ ก็ทำให้ทุกคนต้องตกใจ เพราะเทรดวอร์เปิดตัว "ภาค2" ในเดือนกันยายนปีก่อนอย่างยิ่งใหญ่

สหรัฐฯและจีนขึ้นภาษี 10% สวนกัน กดดันให้ตลาดที่ไม่ทันระวังปรับตัวลงทันที แต่ท้ายที่สุดภาคนี้กลับจบแบบ "หักมุม" เมื่อสหรัฐฯ เลื่อนการขึ้นภาษี 25% และแสดงท่าทีที่อยากเจรจากับจีน

แต่ในที่สุดการเจรจาที่หลายคนมองก็ "ไม่เกิดขึ้น"เทรดวอร์เปิดตัว "เอพพิโซด3"เมื่อทางการสหรัฐฯขึ้นกำแพงภาษีกับสินค้าจีนตามคาด 25% พร้อมกับโดนัลด์ ทรัมป์ที่ทวีตขู่ต่อเนื่องว่าสินค้า "ทั้งหมด" ของจีน มีโอกาสที่จะโดนกำแพงภาษีต่อ เรียกได้ว่าเป็นภาคที่เข้มข้นที่สุด

ในครั้งนี้ ผมเชื่อว่าเราควรเลิกเดา แต่ต้องประเมินให้ได้ว่าตลาด "รับข่าว" สงครามการค้าไปแล้วแค่ไหน และกรณี "เลวร้ายที่สุด" ที่อาจเกิดขึ้นคืออะไร ซึ่งผมได้รวมคำตอบจากกูรูหลายท่าน รวมถึงร่วมวิเคราะห์เรื่องนี้ไปด้วยกัน

ด้านผลกระทบบนตลาด ทีมงานกลยุทธ์ตลาดทุนธนาคาร UBS สร้างตัวแปรเฉพาะสำหรับวัดผลกระทบของสงครามการค้า พบว่าหุ้นและบอนด์ของสหรัฐฯคือสินทรัพย์ที่รับข่าวร้ายไปมากที่สุด

โดยเมื่อย้อนดูตั้งแต่ภาค 1 มาจนถึงปัจจุบัน จะพบว่าหุ้นขนาดเล็กของสหรัฐฯและหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯได้รับผลกระทบจากเทรดวอร์มากที่สุดราว 17-21% ใกล้เคียงกับภาษีที่ทั้ง 2 ประเทศเรียกเก็บกัน และมากกว่าการปรับตัวลงของดัชนีหลักของทั้งจีนและสหรัฐฯที่ 13-14%

ส่วนของตลาดบอนด์ พันธบัตรสหรัฐฯคือสินทรัพย์ที่ราคาปรับตัวขึ้นมากที่สุด คิดเป็นการเปลี่ยนแปลงของยีลด์ราว 0.42% ทุกช่วงอายุ มากกว่ายีลด์บอนด์จีนที่ปรับตัวลงเพียง 0.25%

ตีความได้ว่าสินทรัพย์ฝั่งสหรัฐฯ รับข่าวร้ายไปเป็นส่วนมากแล้ว และถ้าตลาดยังคงปิดรับความเสี่ยง อาจเป็นโอกาสของนักลงทุนที่จะย้ายจากบอนด์มาเป็นหุ้นในระยะสั้น

อย่างไรก็ดี ไมเคิล พิวส์เบอรี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์จีนและผู้แต่งหนังสือ The Hundred Year Marathon: China's Secret Strategy to Replace America as the Global Superpower ชี้ว่านักลงทุนไม่ควรชะล่าใจ เพราะละครเรื่องนี้อาจยังไม่จบ

เนื่องจากประเด็นหลักในรอบนี้ไม่ได้อยู่แค่สหรัฐฯและจีนแต่เป็นตัวโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ตั้งฉายาให้ตัวเองว่า "Tariff Man" ยิ่งเทรดวอร์ยืดเยื้อเข้าใกล้ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ปี 2563 (ค.ศ. 2020) โอกาสที่จะหาข้อสรุปได้ก็ยิ่งยาก

ฝั่งเดโมแครตจะหาเสียงในทำนองว่า "ทรัมป์ใจดีเกินไปกับจีน" ขณะที่ส.ว.ฝั่งเดโมแครตจะกล่าวอ้างว่านโยบายภาษีคือไอเดียปี 2523 (ค.ศ.1980) ของพรรคที่ทรัมป์ขโมยไปใช้ นอกจากนี้ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีก็จะเริ่มออกมากดดันว่า ทรัมป์ไม่สามารถจัดการจีนเรื่องการแทรกแซงค่าเงินได้

ดังนั้นถ้าทรัมป์ยังต้องการกลับมาเป็นประธานาธิปดีอีกสมัย การกดดันจีนมากขึ้น ดูจะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ขณะที่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือสงครามการค้าอาจลุกลามไปเป็นการ "ต่อต้านจีน"

ซูซาน ชีค หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์เอเชียตะวันออก และผู้เขียนหนังสือ China Fragile Superpower มองว่า สหรัฐฯกำลังจัดการเรื่องภัยคุกคามด้านความปลอดภัยจากจีน ไม่ถูกต้อง เพราะทางที่ดีที่สุดไม่ใช่การหว่านแหจัดการกับบริษัทด้านไอทีของจีน แต่ต้องใช้ทฤษฎี "Small Yard High Fence" คือปิดกั้นเฉพาะธุรกิจที่เป็นภัยต่อความมั่นคงจริง

เพราะยิ่งไม่มีความชัดเจน ในอนาคตคนสหรัฐฯก็จะเกิดความสงสัยในทุกอย่างที่เป็นจีน ซึ่งสามารถลุกลามไปเป็นกระแส "ต่อต้านจีน" เช่นยุคสมัยของส.ว.โจเซฟ แม็คคาร์ธี ปี 2483-2493 (ค.ศ.1940-1950) ส่งผลให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสังคมทั้งหมดอาจต้องขาดสะบั้นไปด้วย

ผมเองที่ติดตามเทรดวอร์มาถึงภาค 3 ก็มีความเห็นเช่นเดียวกันว่านักลงทุนไม่ควรหลงไปกับประเด็นปลีกย่อย อย่างการเจรจาการค้า เพราะโอกาสที่จีนกับสหรัฐฯจะกลับมาร่วมมือกันหนุนเศรษฐกิจโลกนั้นเลือนลางเต็มที แม้สุดท้าย ทรัมป์จะสามารถหาข้อตกลงกับจีนได้ในปีนี้ แต่ก็ดูจะไม่อาจทำให้บริษัทฝั่งสหรัฐฯกลับมาทำธุรกิจกับจีนได้อย่างสะดวกใจ ขณะเดียวกันฝั่งจีนก็เชื่อฝังใจไปแล้ว ว่าสหรัฐฯพยายามสกัดไม่ให้จีนขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของโลก

ต่อจากนี้จึงเป็นไปได้สูงที่เศรษฐกิจโลกจะเคลื่อนที่ด้วยการแก่งแย่งชิงดีกันระหว่างมหาอำนาจ มากกว่าร่วมมือกันแข่งขันกันอย่างเป็นมิตร

ขณะที่ตลาดทุนจะไปต่อได้จริง ต่อเมื่อมีตัวแทนการเติบโตใหม่ ที่ไม่ใช่ทั้ง 2 ประเทศนี้ ในระยะสั้นเทรดวอร์ เอพพิโซด 3 จะจบอย่างไรคงยากที่จะคาดเดา แต่ในระยะยาว สิ่งที่เรารู้แล้วก็คือภาพยนตร์เรื่องนี้เรตติ้งดีพอที่จะมีภาคต่อแน่นอน
คอลัมน์ ยังอีโคโนมิสต์: จิติพล พฤกษาเมธานันท์
นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน
ธนาคารกรุงไทย
Source: ฐานเศรษฐกิจ

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jun 20) ราคาน้ำมัน WTI พุ่งกว่า 6% ทะลุ 57 ดอลลาร์ หลังทรัมป์โวยอิหร่านยิงโดรนตก : สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 6% ทะลุ 57 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า อิหร่านได้ทำความผิดพลาดครั้งใหญ่ หลังจากที่ได้ยิงโดรนของสหรัฐตกเมื่อวานนี้

คำขู่ของปธน.ทรัมป์ทำให้มีความวิตกว่าทั้งสองประเทศอาจเกิดการปะทะกันทางทหาร

ณ เวลา 22.01 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 3.26 ดอลลาร์ หรือ 6.06% สู่ระดับ 57.02 ดอลลาร์/บาร์เรล

กองทัพสหรัฐเปิดเผยว่า โดรนของทางกองทัพได้ถูกขีปนาวุธของอิหร่านโจมตี ขณะบินอยู่เหนือน่านฟ้าสากลบริเวณช่องแคบฮอร์มุซ ขณะที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ได้ออกมาตอบโต้ว่า โดรนดังกล่าวถูกยิงในน่านฟ้าของอิหร่านทางตอนใต้ของประเทศ

เหตุการณ์ดังกล่าวได้เพิ่มความตึงเครียดต่อความสัมพันธ์ของประเทศทั้งสอง หลังจากเกิดเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำเมื่อสัปดาห์ที่แล้วใกล้ช่องแคบฮอร์มุซ

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สหรัฐได้ส่งกำลังทหารอีก 1,000 นายไปยังตะวันออกกลาง หลังจากที่ได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ไปยังภูมิภาคดังกล่าว

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย, การที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งการคลายความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตร สามารถตกลงกันเกี่ยวกับกำหนดวันประชุมของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยกลุ่มโอเปกจะจัดการประชุมในวันที่ 1 ก.ค. ขณะที่ประเทศนอกกลุ่มโอเปก นำโดยรัสเซีย จะเข้าร่วมการประชุมในวันที่ 2 ก.ค.เพื่อหารือการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน โดยคาดว่าที่ประชุมจะสนับสนุนการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้

เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โอเปกและกลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงเดือนมิ.ย.ปีนี้ เพื่อป้องกันการทรุดตัวของราคาน้ำมัน

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

*************************
ทรัมป์ลั่นอิหร่านทำพลาดครั้งใหญ่ หลังยิงโดรนสหรัฐตก:

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า อิหร่านได้ทำความผิดพลาดครั้งใหญ่ หลังจากที่ได้ยิงโดรนของสหรัฐตกเมื่อวานนี้

กองทัพสหรัฐเปิดเผยว่า โดรนของทางกองทัพได้ถูกขีปนาวุธของอิหร่านโจมตี ขณะบินอยู่เหนือน่านฟ้าสากลบริเวณช่องแคบฮอร์มุซ ขณะที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ได้ออกมาตอบโต้ว่า โดรนดังกล่าวถูกยิงในน่านฟ้าของอิหร่านทางตอนใต้ของประเทศ

เหตุการณ์ดังกล่าวได้เพิ่มความตึงเครียดต่อความสัมพันธ์ของประเทศทั้งสอง หลังจากเกิดเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำเมื่อสัปดาห์ที่แล้วใกล้ช่องแคบฮอร์มุซ

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สหรัฐได้ส่งกำลังทหารอีก 1,000 นายไปยังตะวันออกกลาง หลังจากที่ได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ไปยังภูมิภาคดังกล่าว

Source -อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

- Trump says 'Iran made a very big mistake!' by shooting down US drone: https://www.cnbc.com/2019/06/20/tru...ry-big-mistake-by-shooting-down-us-drone.html

 

Bank of Thailand Scholarship Student

(Jun 21) ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านบรรเทาลง : ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านบรรเทาลง ภายหลังจากที่ประธานาธิบดี Trump ระบุว่า อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรนของสหรัฐฯ ที่ถูกทางอิหร่านยิงตกลงในบริเวณอ่าวโอมานนั้น น่าจะเกิดจากความไม่ตั้งใจ โดยก่อนหน้านี้ หลายฝ่ายต่างเกรงว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะดำเนินการตอบโต้ทางการทหารกับอิหร่านในเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ พลอากาศโท Joseph Guastella, ผู้บังคับบัญชากองกำลังทหารสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง กล่าวว่าโดรนของสหรัฐฯ บินอยู่ในระดับความสูง 34 กม. เหนือน่านน้ำสากลห่างจากชายฝั่งภาคพื้นดิน โดยรายงานของทางอิหร่านที่ระบุว่าโดรนของสหรัฐฯ เข้ามาในเขตพื้นที่อิหร่านนั้น ไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้ ยังได้ระบุว่า การจู่โจมของอิหร่านเป็นความพยายามที่จะยับยั้งความสามารถในการสังเกตการณ์ของสหรัฐฯ ในพื้นที่ใกล้กับที่เกิดเหตุการโจมตีเรือบรรทุกเชื้อเพลงเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะเดียวกัน นาย Javad Zarif, รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน กล่าวตอบโต้สหรัฐฯ เรื่องตำแหน่งของโดรน โดยระบุว่าได้พบชิ้นส่วนระเบิดในน่านน้ำของอิหร่าน และจะแจ้งเรื่องดังกล่าวต่อไปยังองค์การสหประชาชาติ
Source: BOTSS
- Trump says hard to believe Iranian shooting of U.S. drone was intentional: https://www.reuters.com/article/us-...ng-of-u-s-drone-was-intentional-idUSKCN1TL07P
- ปูตินเตือนสหรัฐฯ ใช้กำลังกับอิหร่านอาจนำมาซึ่ง'หายนะ'!!: https://mgronline.com/around/detail/9620000058877
- ตึงเครียดอิหร่านหนุนราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า5%: https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/838481

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Ju 20) เตือนตลาดเกิดใหม่ระวัง'เงินเฟ้อ' 'ไข้หวัดหมู' จะทำให้ราคาเนื้อหมูสูงขึ้น - นักเศรษฐศาสตร์เตือน “ไข้หวัดหมู” อาจทำให้เงินเฟ้อในตลาดเกิดใหม่สูงขึ้น เนื่องจากราคาเนื้อหมูพุ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไต้หวัน กัมพูชา เวียดนาม รัสเซีย โปแลนด์ และโรมาเนีย มีการคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญว่า จีนอาจต้องสังหารสุกรมากกว่า 100 ล้านตัว

บทวิเคราะห์ของบริษัท แคปิตอล อีโคโนมิกส์ กล่าวว่า โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African swine fever) ซึ่งได้แพร่ระบาดในประเทศจีนและทำให้ราคาอาหารที่นั่นสูงขึ้น อาจทำให้เงินเฟ้อในตลาดเกิดใหม่ในที่อื่น ๆ สูงขึ้นไปด้วย

การระบาดของโรคนี้ไม่ได้ตรวจพบแต่ในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังพบในบางส่วนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย โปแลนด์ และรัสเซียด้วย

รัฐบาลจีนได้แถลงในเดือนเมษายนว่าได้สังหารสุกรมากกว่า 1 ล้านตัว เพื่อควบคุมการระบาดของโรค แต่ผู้เชี่ยวชาญบางแห่ง เช่น ราโบแบงก์ และทีเอส ลอมบาร์ด ประเมินว่าจำนวนสุกรที่จะถูกฆ่าอาจมากกว่า 100 ล้านตัว

เจมส์ สวอนสัน ผู้ช่วยนักเศรษฐศาสตร์ของแคปิตอล อีโคโนมิกส์ ตั้งข้อสังเกตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ช่องทางที่ชัดเจนที่สุดที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดเกิดใหม่คือเงินเฟ้อจะสูงขึ้น และหากโรคแพร่ระบาดและรุนแรงมากขึ้น ก็น่าจะเป็นสาเหตุให้หลาย ๆ ส่วนในเอเชียและในยุโรปตะวันออกมีเงินเฟ้อสูงขึ้น

สวอนสันได้เจาะจงไปที่ไต้หวัน กัมพูชา เวียดนาม รัสเซีย โปแลนด์ และโรมาเนีย โดยกล่าวว่า เนื้อหมูมีสัดส่วนในตะกร้าดัชนีราคาผู้บริโภคในประเทศเหล่านี้ประมาณ 2% ซึ่งถือว่าสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในตลาดเกิดใหม่ที่มีสัดส่วนไม่ถึง 1% ในขณะที่ในประเทศจีนมีสัดส่วนประมาณ 3.5%

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนที่มีการเปิดเผยเมื่อวันพุธ ชี้ว่า ราคาอาหารในประเทศจีนได้พุ่งขึ้น 7.7% ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบกับหนึ่งปีก่อนหน้า เนื่องจากราคาเนื้อหมูพุ่งขึ้น 18.2% ในช่วงเดียวกัน

บทวิเคราะห์ของ แคปิตอล อีโคโนมิกส์ ระบุว่า เงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้นในจีนน่าจะเพิ่มขึ้นอีก ในขณะที่ราคาผู้บริโภคในตลาดเกิดใหม่อื่น ๆ ก็จะปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน (ประมาณ 0.3%) หากเงินเฟ้อเนื้อหมูสูงขึ้นเป็น 15%

สวอนสัน กล่าวว่า การปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้เป็นสาเหตุให้เงินเฟ้อเนื้อหมูในเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 15%

การลดลงของประชากรหมูจะส่งผลกระทบต่อดีมานด์ถั่วเหลือง ซึ่งเป็นเมล็ดพืชน้ำมันที่ใช้ในอาหารเลี้ยงสุกร สวอนสันเตือนว่า ความเสี่ยงที่มากขึ้นสำหรับตลาดเกิดใหม่คือผู้ส่งออกถั่วเหลืองอาจเห็นดีมานด์ลดลงเป็นการถาวรเมื่อจีนเปลี่ยนจากการบริโภคหมู

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้เตือนว่า เนื้อหมูได้เป็นสินค้าหลักในจีน โดยมีการบริโภคเนื้อหมูประมาณครึ่งหนึ่งของซัพพลายทั่วโลก แต่ซัพพลายที่ลดลงอาจทำให้ผู้บริโภคหันไปบริโภคเนื้อสัตว์อื่น ๆ

จากรายงานของแคปิตอล อีโคโนมิกส์เมื่อเดือนมีนาคม จีนได้บริโภคเนื้อวัวและสัตว์ปีกเพิ่มเป็นสองเท่านับตั้งแต่ปี 2540 และมีแนวโน้มว่าจะโตเพิ่มขึ้นอีก โดยจีนควรจะเริ่มเพิ่มการบริโภคสัตว์ปีก และเนื่องจากอาหารไก่ต้องการโปรตีนน้อย ดังนั้นหากจีนรับประทานสัตว์ปีกมากขึ้น ดีมานด์ถั่วเหลืองและข้าวโพดอาจจะลดลง

ในขณะเดียวกัน สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ได้ทำให้จีนนำเข้าถั่วเหลืองลดลงแล้ว เมื่อปีที่ผ่านมา จีนนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ต่ำสุดในรอบสิบปี และเมื่อเร็ว ๆ นี้ข้อมูลของกรมศุลกากรชี้ว่า การนำเข้าถั่วเหลืองของจีนในเดือนกุมภาพันธ์ลดลงต่ำสุดในรอบ 4 ปี หรือต่ำกว่าเมื่อหนึ่งปีก่อน 17% โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าจีนได้เก็บภาษีถั่วเหลืองสหรัฐฯ มาก

Source: ข่าวหุ้น

- African swine fever could drive up inflation in emerging markets as pork prices soar : https://www.cnbc.com/2019/06/17/afr...ork-prices-inflation-in-emerging-markets.html

 

John Traczyk

อะไรนะ !! คุณจริงจังหรือไม่?

สายฟ้า / สไปรท์สีแดง
ถ่ายโดย Paul Smith เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2019 @ Lake Thunderbird, Oklahoma
What!!? Are you serious!??
Red Sprite Lightning / Jets
Taken by Paul Smith on June 19, 2019 @ Lake Thunderbird , Oklahoma

 

อิหร่านเผย ทรัมป์เตือนผ่านโอมานว่า “การโจมตีของสหรัฐฯ ใกล้เข้ามาแล้ว” และเรียกร้องการเจรจา
โดย กองบรรณาธิการ - 21 มิถุนายน 2019


เจ้าหน้าที่อิหร่านเผย ทรัมป์เตือนเตหะรานผ่านโอมานว่า “การโจมตีของสหรัฐฯ ใกล้เข้ามาแล้ว” และเรียกร้องให้มีการเจรจา

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันศุกร์ (21 มิ.ย.) อ้างเจ้าหน้าที่อิหร่านที่ไม่เปิดเผยตนกล่าวว่า เตหะรานได้รับข้อความจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ผ่านโอมานในชั่วข้ามคืนเพื่อเตือนว่า การโจมตีของสหรัฐต่ออิหร่านใกล้เข้ามาแล้ว

รอยเตอร์ระบุว่า เจ้าหน้าที่อิหร่านพูดกับตนคล้อยหลังไม่นานที่นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า ทรัมป์ได้อนุมัติการโจมตีทางทหารกับอิหร่านเมื่อวันศุกร์ เพื่อตอบโต้การยิงโดรนของสหรัฐฯ แต่ถอนคำสั่งให้ยุติการโจมตีในนาทีสุดท้าย

“ ในข้อความของเขา ทรัมป์บอกว่าเขาต่อต้านการทำสงครามใดๆ กับอิหร่าน และต้องการพูดคุยกับเตหะรานเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ … เขาให้เวลาสั้นๆ เพื่อรอคำตอบของเรา แต่การตอบสนองของอิหร่านในทันทีคือ ขึ้นอยู่กับผู้นำสูงสุด (อายะตุลเลาะห์ อะลี คาเมเนอี) ที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับปัญหานี้” สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างคำพูดเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของอิหร่านที่ให้สัมภาษณ์โดยไม่เปิดเผยตัวตน

ขณะที่เจ้าหน้าที่อิหร่านคนที่สองกล่าวว่า “เราบอกชัดเจนว่า ผู้นำไม่เห็นด้วยกับการพูดคุยใดๆ แต่ข้อความจะถูกส่งไปให้เขาตัดสินใจ … อย่างไรก็ตามเราบอกเจ้าหน้าที่โอมานว่า การโจมตีใดๆ ต่ออิหร่านจะส่งผลในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ” รอยเตอร์ระบุ

หลังจากหลายสัปดาห์ของความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในอ่าวเปอร์เซีย อิหร่านกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (20 มิ.ย.) ว่าตนได้ยิงโดรนสอดแนมทางทหารของสหรัฐอเมริกา ทำให้หวั่นเกรงว่าจะเกิดการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างคู่อริสองชาตินี้

ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย เดอะนิวยอร์กไทมส์รายงานอ้างถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐอเมริกาว่าเครื่องบินรบของสหรัฐฯ ได้ขึ้นไปบนอากาศและเรือต่าง ๆ ได้เข้าประจำตำแหน่งโจมตีแล้วเพื่อเตรียมตอบโต้อิหร่าน แต่มีการถอนคำสั่งให้ยุติการโจมตีในนาทีสุดท้าย

เป้าหมายการโจมตีดังกล่าวรวมถึงเรดาร์ของอิหร่านและฐานยิงขีปนาวุธ นิวยอร์กไทมส์ระบุ

นิวยอร์กไทมส์ระบุด้วยว่า ไม่ชัดเจนว่าทรัมป์เปลี่ยนใจแค่เรื่องการโจมตีทางอากาศ หรือว่าฝ่ายบริหารเปลี่ยนแปลงกระบวนการด้วยเหตุผลด้านโลจิสติกส์หรือกลยุทธ์ และยังไม่ชัดเจนว่าการโจมตีนั้นจะยังดำเนินต่อไปหรือไม่

https://www.publicpostonline.net/26963

 

Setiawan

นายกรัฐมนตรีเยอรมัน Angela #Merkel เห็นได้ชัดว่ามีอาการสั่นที่ไม่สามารถควบคุมได้ในที่ประชุมกับประธานาธิบดียูเครนคนใหม่ Vladimir #Selenski 18 มิถุนายน 2019

การขาดแคลนน้ำอาจเป็นสาเหตุ จากความร้อนของวัน

The German Chancellor Angela #Merkel has apparently experienced an uncontrolled tremor at the meeting with the new Ukrainian President Vladimir #Selenski. 18June2019

Water shortage was probably the cause in the heat of the day

 

ปัญหาคนโสด คนเหงาชาวญี่ปุ่นกลายเป็นปัญหาต่อเนื่องเรื่องจำนวนประชากรเลยทีเดียว
.
จากผลสำรวจล่าสุดพบว่าคนโสดจำนวนเกือบ 50% ยังไม่พบคู่ที่ถูกใจ อีกทั้งอัตราของทารกแรกเกิดก็ต่ำกว่า 1 ล้านคนติดต่อกัน 3 ปี เป็นวิกฤติที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นต้องหาทางออกแบบด่วนๆ
.
อ่านบทความ https://brandinside.asia/japanese-singles-have-no-dating/
#Japan #Single #Brandinside

 

ฝนทิ้งช่วงนานนับสัปดาห์‼️ น้ำกว๊านพะเยาลดลงเหลือเพียง 11.33 ล้านลูกบาศก์เมตร

 

MacroView

ด่วน! เกิดเหตุการณ์ระเบิดที่โรงกลั่นขนาดใหญ่ ของ Philadelphia Energy Solution ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกา

ส่งผลให้ราคาก๊าซ RBOB พุ่งร้อยละ 3.4 และราคาน้ำมันเบนซินขึ้นมาในระดับใกล้เคียงกัน

น่าจะส่งผลดีต่อหุ้น Upstream และ โรงกลั่นในบ้านเรา วันจันทร์นี้ครับ

Giant explosion rocks largest refinery complex on the East Coast, sends gasoline prices higher

https://www.cnbc.com/2019/06/21/gia...-east-coast-sends-gasoline-prices-higher.html

 

เตือนภัย พิบัติโลก

ทีมนักฟิสิกส์จากห้องปฏิบัติการวิจัย HZDR ของเยอรมนี ค้นพบปรากฎการณ์ทางดาราศาสตร์ที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดความปั่นป่วนในบรรยากาศของดวงอาทิตย์ ซึ่งจะทำให้มีการปะทุพลังงานเพิ่มขึ้นจนถึงระดับสูงสุดและค่อย ๆ ลดลงจนกลับสู่จุดเริ่มต้นในทุก 11 ปี หรือที่เรียกว่า "วัฏจักรสุริยะ" (Solar Cycle)
ผลการศึกษาดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสาร Solar Physics โดย ดร. แฟรงก์ สเตฟานี หนึ่งในทีมผู้วิจัยระบุว่า ได้วิเคราะห์ข้อมูลทางดาราศาสตร์ย้อนหลังไปในรอบกว่า 1,000 ปีที่ผ่านมา ระหว่างปีคริสต์ศักราช 1000-2009 และพบว่ารอบการเกิดวัฏจักรสุริยะในทุก 11 ปี นับเป็นจำนวนกว่า 90 รอบวัฏจักรในระหว่างนั้น สอดคล้องกับรอบการโคจรของโลก ดาวศุกร์ และดาวพฤหัสบดี ซึ่งจะเคลื่อนมาอยู่ในตำแหน่งที่เรียงตัวเป็นแนวเดียวในทุก 11 ปีเช่นกัน
การเรียงตัวของดาวเคราะห์ดังกล่าว ทำให้เกิดแรงโน้มถ่วงจากดาวบริวาร ซึ่งกระทำต่อดวงอาทิตย์ในระดับทรงพลังที่สุดในรอบ 11.07 ปี ตรงกับช่วงการเริ่มต้นวัฏจักรสุริยะที่ดวงอาทิตย์ยังมีความเคลื่อนไหวและปะทุพลังงานในระดับต่ำสุดอยู่ (Solar minimum) ปรากฏการณ์นี้ยังคล้ายกับการที่แรงดึงดูดของดวงจันทร์ทำให้เกิดน้ำขึ้นน้ำลงบนโลกด้วย
ดวงอาทิตย์เข้าสู่ “วัฏจักรสุริยะ” รอบใหม่เร็วกว่าที่คาด
ภารกิจ “แตะ” ดวงอาทิตย์ของนาซา
อันที่จริงแล้ว แรงโน้มถ่วงจากดาวเคราะห์ทั้งสามนั้นจัดว่าไม่รุนแรงมาก แต่ก็เพียงพอจะส่งผลกระทบต่อสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ได้ โดยการทดสอบใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์สร้างปรากฎการณ์ดังกล่าวพบว่า แรงโน้มถ่วงจากดาวเคราะห์จะเพิ่มแรงดันบีบอัดในสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ ทำให้บางส่วนไม่เสถียรและเกิดความเปลี่ยนแปลงทางแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้นได้
ทั้งนี้ วัฏจักรสุริยะคือวงจรความเคลื่อนไหวของการเกิดปรากฏการณ์ต่าง ๆ บนดวงอาทิตย์ เช่นลมสุริยะ โซลาร์แฟลร์ หรือการปลดปล่อยมวลโคโรนา ซึ่งความเคลื่อนไหวเหล่านี้จะมีน้อยหรือแทบไม่มีเลยในช่วงเริ่มต้นวัฏจักรใหม่ ก่อนจะมีความเคลื่อนไหวเพิ่มมากขึ้นจนถึงจุดสูงสุดในช่วงกลางวัฏจักร และค่อย ๆ ลดน้อยลงขณะกำลังจะสิ้นสุดวัฏจักรเดิมและเข้าสู่วัฏจักรใหม่อีกครั้ง
นักดาราศาสตร์เริ่มนับรอบวัฏจักรสุริยะกันมาตั้งแต่ปีคริสต์ศักราช 1755 โดยพบว่าการเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอนี้ จะช่วยให้ทำนายความเคลื่อนไหวของดวงอาทิตย์ในรอบวัฏจักรถัดไปได้ล่วงหน้า ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพยากรณ์สภาพอากาศบนโลก รวมทั้งการระวังรักษาระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม ระบบบอกพิกัดจีพีเอส ระบบจ่ายไฟฟ้า รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างโทรศัพท์และโทรทัศน์วิทยุ ซึ่งเสี่ยงจะได้รับผลกระทบจากการปลดปล่อยพลังงานของดวงอาทิตย์เป็นครั้งคราว
ความเปลี่ยนแปลงที่บอกได้ชัดว่าดวงอาทิตย์เข้าสู่รอบวัฏจักรใหม่แล้วหรือยังมีอยู่ 2 ประการ คือจำนวนของจุดมืดบนดวงอาทิตย์ (Sunspot) ที่ลดน้อยลงจนอาจจะไม่มีเลยติดต่อกันหลายวัน และการกลับขั้วของสนามแม่เหล็กบนดวงอาทิตย์ ซึ่งก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์คาดว่าดวงอาทิตย์ได้เข้าสู่วัฏจักรสุริยะรอบใหม่ หรือรอบที่ 25 ไปแล้วเมื่อปลายปี 2018
https://www.bbc.com/thai/international-48581847?ocid=socialflow_facebook&fbclid
แผนภาพของวัฏจักรสุริยะรอบที่ 23 ซึ่งเริ่มต้นในปี 1996 จนเข้าสู่ระดับการปะทุพลังงานสูงสุดในปี 2001 และกลับสู่จุดต่ำสุดเหมือนเดิมในปี 2006

 

Setiawan

น้ำท่วมใน Szolnok, ฮังการี 20 มิถุนายน 2019