ติดตามสถานะการณ์

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

หิมะถล่มในทิโรล ประเทศออสเตรเลีย # 15 มิ.ย.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

พระอาทิตย์ตกที่ Trabzon ประเทศตุรกี # 18 มิถุนายน

 

18 มิ.ย 62 เวลาประมาณ 14.40 น. ได้รับแจ้งมีเรือชัยวารี เป็นเรือครอบปลากระตัก ขนาด 40.92 ตันกอร์ส ลูกเรือจำนวน 15 คน จมบริเวณ พิกัดแลต 11.39 30 เหนือ ลอง 102.37.12 ตะวันออก อ.เกาะกูด
การให้ความช่วย เรือมชด./1 เรือประมงโชคธวัชชัย59 ,แทนชัย 3, โชคมนัญชยา999 ทำการช่วยเหลือ นำผู้ประสบภัยได้ปลอดภัย 12 คน อยู่ระหว่างค้นหาอีก 3 คน
ผลเป็นประการใดจะรายงานให้ทราบต่อไป / ปภ.ตราด

 

Setiawan

พายุลูกเห็บขนาดใหญ่ ที่แอควาสปาร์ตา, ประเทศอิตาลี ในวันที่ 17 มิถุนายน 2562

 

Setiawan

พายุลูกเห็บขนาดใหญ่ที่ Plankenwarth , ประเทศออสเตรีย 16 มิ.ย. 2562

 

Setiawan

พายุฝนฟ้าคะนอง และลมแรงใน Agrinio , กรีซ 17 มิถุนายน 2562

 

สาธารณรัฐมอลโดวา, Bubuieci || 18 มิถุนายน ,14 นาฬิกา

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jun 18) คาด 'ธปท.' คงดอกเบี้ยยาว สวนทิศทางดอกเบี้ยโลก : คาด ธปท. คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% ยาวอย่างน้อยทั้งปี2019 สวนทางธนาคารกลางหลายแห่งที่มีทีท่าจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายหรือใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายขึ้น

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี (TMB Analytics) คาด ธปท. ยังคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% ยาวอย่างน้อยทั้งปี 2019 สวนทางธนาคารกลางหลายแห่งที่มีทีท่าจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายหรือใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายขึ้น ทั้งนี้ แม้เศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มชะลอลง แต่การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลดดอกเบี้ยยังมีข้อจำกัดจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงด้านเสถียรภาพการเงินของประเทศ

จากแนวโน้มเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศที่มีแนวโน้มแย่ลง ทำให้ในปีนี้ธนาคารกลางของหลายประเทศต่างก็ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงกันไปแล้วอย่างน้อย 1 ครั้ง ทั้งธนาคารกลางออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนอย่าง มาเลเซียและฟิลิปปินส์

นอกจากนี้ ธนาคารกลางหลักของโลกก็เริ่มแสดงท่าทีว่าจะใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลง โดย TMB Analytics คาดว่าธนาคารกลางของประเทศเศรษฐกิจหลักอย่าง สหรัฐอเมริกา หรือ เฟด จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอย่างน้อย 1 ครั้ง ในปีนี้ ในขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นและยุโรปอาจใช้มาตรการทางการเงินที่ผ่อนคลายเพิ่มเติม หลังจากที่สภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เริ่มมีความน่ากังวลเพิ่มขึ้น สะท้อนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาย่ำแย่ ทั้งการจ้างงานที่ลดลงจากเฉลี่ย 223,000 คนต่อเดือนในปีที่แล้ว เหลือเพียง 155,000 คนในปีนี้ อีกทั้ง อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าเป้าหมาย 2% อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ตุลาคมปี 2018 โดยล่าสุดอัตราเงินเฟ้อเดือนเมษายนอยู่ที่เพียง 1.6% อีกทั้ง ตัวเลขของเศรษฐกิจหลักอื่นๆ ก็มีแนวโน้มแย่ลงเช่นกัน

ในขณะที่เศรษฐกิจไทยก็มีทิศทางชะลอลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ช่วงต้นปี และภาพการฟื้นตัวในช่วงปลายปีก็ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากสงครามการค้ายังมีความไม่แน่นอนสูง กระทบต่อการส่งออกไทย นอกจากนี้ ความล่าช้าของการจัดทำงบประมาณในปี 2563 ของรัฐบาลใหม่ อาจทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐต้องชะลอตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนภาครัฐที่อาจมาช่วยผลักดันการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชนได้ในช่วงปลายปี จากทิศทางเศรษฐกิจไทยที่ชะลอลงจากปีที่แล้ว อาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ ธปท. พิจารณาลดดอกเบี้ยนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลดดอกเบี้ยนโยบายอาจเป็นไปได้อย่างจำกัด ภายใต้แรงกดดันจากสินเชื่อรายย่อยของธนาคารพาณิชย์ที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องจนปัจจุบันแตะระดับ 4.6 ล้านล้านบาทแล้ว หรือขยายตัวสูงถึง 10.1% ในไตรมาสแรกปี 2019 ตรงข้ามกับภาคธุรกิจที่แม้จะได้รับอานิสงส์จากดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำมายาวนานกลับมีการขยายตัวของสินเชื่อในอัตราที่ต่ำ โดยในไตรมาสแรกขยายตัวเพียง 3.4% ลดลงจากปีที่แล้วที่ 4.4%

ยิ่งไปกว่านั้น สินเชื่อครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น กลับมีคุณภาพที่ตกต่ำลง โดยหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วันหรือ NPL ของสินเชื่อรายย่อยรวมสูงถึง 1.3 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 2.75% ของสินเชื่อทั้งหมด โดยมี NPL ของสินเชื่อที่อยู่อาศัยสูงสุดประมาณ 7.7 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ NPL สินเชื่อรถยนต์ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 24% สูงแตะระดับ 1.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งล้วนเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความสามารถในการจ่ายหนี้ที่ด้อยลงของประชาชน ดังนั้น การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลเสียต่อเสถียรภาพระบบการเงิน เพราะอาจไปกระตุ้นการก่อหนี้ของภาคครัวเรือนให้สูงขึ้นไปอีก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ในอนาคตได้

TMB Analytics มองว่า แม้ดอกเบี้ยนโยบายโลกจะมีทิศทางลดลง และเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัว แต่ข้อจำกัดเกี่ยวกับเสถียรภาพระบบการเงินจะเป็นแรงกดดันให้ ธปท. ยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ และ คาดว่า ธปท. จะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% ยาวตลอดปี 2019

Source: คมชัดลึกออนไลน์
http://www.komchadluek.net/news/economic/375976

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jun 17) รายงานพิเศษ: น้ำมันจะทะยานถึง 80 เหรียญ? ไม่นานเท่าไหร่เองที่ราคาน้ำมันได้ปรับตัวลงเพราะ มีความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่เมื่อมีการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในอ่าวโอมานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ราคาน้ำมันก็ดีดตัวกลับมาอย่างรุนแรงและทำให้เกิดความกังวลทางภูมิศาสตร์การเมืองขึ้นมาใหม่ และได้ทำให้นักวิเคราะห์บางคนออกตัวแรงว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ที่อยู่ในช่วง 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อาจจะพุ่งพรวดขึ้นไปถึง 80 ดอลลาร์หรือ อาจมากกว่านั้น

การคาดการณ์ดังกล่าวจะเป็นไปได้หรือไม่ จะขึ้นอยู่กับว่าตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกหรือการคุกคามซัพพลายน้ำมันในตะวันออกกลาง

ราคาน้ำมันได้ถูกบดขยี้จากความกังวลที่ว่าดีมานด์จะลดลงและเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง แต่ตลาดอาจจะเริ่มคาดการณ์ถึงความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์การเมืองมากขึ้นหากมีการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันเพิ่มอีกเหมือนที่เกิดขึ้นกับเรือบรรทุกน้ำมันสองลำในอ่าวโอมานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ถึงแม้นักวิเคราะห์ มองว่า ราคาน้ำมันอาจปรับตัวขึ้นเพราะความตึงเครียดในตะวันออกกลางแต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ได้ให้ข้อสังเกตไว้ว่าราคาน้ำมันดิบเบรนต์ อาจจะกลับลงไปอยู่ในช่วง 50-80 ดอลลาร์ได้ หากความกังวลเรื่องสงครามการค้าทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจสำหรับผู้ซื้อน้ำมันมืดมนลง

ราคาน้ำมันได้ลงไปอยู่ที่ระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลมาสักพัก จนกระทั่งมีข่าวการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีการประมาณการว่าหากสถานการณ์ในตะวันออกกลางรุนแรงมากขึ้น ราคาน้ำมันอาจขึ้นไปแตะ 100 ดอลลาร์

หลังจากที่อ่อนตัวลงไป 4% ในวันพุธที่ผ่านมาเพราะมีความกังวลว่าซัพพลายจะมากเกินไป ตราสารน้ำมันดิบได้ดีดตัวกลับมาประมาณ 2% ในวันพฤหัสบดีเนื่องจากมีรายงานว่าเรือบรรทุกน้ำมันได้รับความเสียหายมาก

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอ่าวโอมานเป็นเหตุการณ์ที่สองในรอบหนึ่งเดือนเท่านั้นที่เกิดระเบิดกับเรือขนส่งน้ำมัน และยังเกิดใกล้กับช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือในการขนส่งน้ำมันที่แออัดที่สุดในโลก

ตราสารน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียตที่จะส่งมอบเดือนพฤษภาคมมีการตกลงซื้อขายกันที่ 52.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.2%ในวันเกิดเหตุในขณะที่ตราสารน้ำมันดิบเบรนต์ปรับตัวขึ้น 2.2% อยู่ที่ 61.31 ดอลลาร์ หลังจากที่พุ่งขึ้นไปแตะระดับ 62.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

เฮลิมา ครอฟต์ หัวหน้านักกลยุทธ์โภคภัณฑ์ทั่วโลกของอาร์บีซี กล่าวว่า ราคาน้ำมันกำลังอยู่ในช่วง 60-80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากมีแต่เรื่องสงครามการค้า เศรษฐกิจจะซบเซาลงและราคาน้ำมันจะมุ่งหน้าไปที่ระดับ 60 ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ธรรมชาติของตลาดน้ำมันมีสองด้านเสมอ เหตุการณ์สำคัญทางภูมิศาสตร์การเมืองอาจหนุนราคาน้ำมันดิบเบรนต์ให้สูงถึง 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากความกังวลเกี่ยวกับการค้าเบาบางลง

การประชุมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในการประชุมจี20 ปลายเดือนนี้ ก็อาจเป็นตัวเร่งให้ราคาน้ำมันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการประชุมนี้นำไปสู่การทำข้อตกลงการค้า

ครอฟต์ กล่าวว่า เทรดเดอร์น้ำมันอาจจะไม่รู้ว่าจะจัดการกับความเสี่ยงเรื่องอิหร่านอย่างไร แต่พวกเขารู้ว่าสงครามการค้าจะทำลายดีมานด์ และในช่วงฤดูร้อนของซีกโลกเหนือในปีนี้สงครามอะไรจะมีอิทธิพลต่อตลาด ระหว่างสงครามการค้ากับสงครามที่ยิงสู้รบกันจริง ๆ

ไมค์ พอมเพว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐกล่าวหาว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาและการโจมตีอื่น ๆ อีกหลายครั้งในภูมิภาค

ในขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเพราะเหตุการณ์ดังกล่าว แต่มันก็ตกใจต่อเหตุการณ์ในอ่าวเปอร์เชียร์ไม่มากเหมือนในอดีต

ค่าพรีเมียมทางภูมิศาสตร์การเมืองได้เริ่มกลายเป็นปัจจัยต่อตลาดน้ำมันน้อยลงนับตั้งแต่ที่การผลิตน้ำมันของสหรัฐได้กลายมาเป็นแรงบีบที่มีอิทธิพลต่อตลาดน้ำมันโลก

ในขณะนี้สหรัฐฯ เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของโลกโดยมีกำลังการผลิตถึง 12.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันนี้ของปีที่ผ่านมาประมาณ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซัพพลายในสหรัฐฯ ได้กลายเป็นกำแพงไฟป้องกันเหตุการณ์ทางภูมิศาสตร์การเมืองไปเสียแล้ว

อย่างไรก็ดี ตลาดน้ำมันได้มองข้ามแนวโน้มที่จะมีการโจมตีต่อสินทรัพย์น้ำมันในตะวันออกกลางมากขึ้นแม้ว่ามาตรการลงโทษของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของอิหร่านและจำกัดความสามารถในการขายน้ำมันของอิหร่าน แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น น้ำมันดิบเบรนต์ ได้ปรับตัวลงประมาณ 18% มาตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน

เอ็ด มอร์ส หัวหน้าฝ่ายวิจัยโภคภัณฑ์ของซิตี้กรุ๊ป กล่าวว่า โลกค่อนข้างเปราะบางและเราอาจจะได้เห็นว่ามีความเป็นไปได้มากขึ้นที่การผลิตน้ำมันจะลดลงเพราะเหตุการณ์ทางการเมืองมากกว่าที่จะเป็นเพราะความตึงตัวทางเศรษฐกิจ และนี่เป็นปัจจัยหนึ่งที่อาจทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นในช่วงฤดูร้อนปีนี้จนถึงฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้ยังกล่าวว่า ความเชื่อมั่นจะมีความสำคัญและข่าวร้ายเกี่ยวกับสงครามการค้าอาจมีผลต่อตลาด

ตามความเห็นของมอร์ส ราคาน้ำมันน่าจะแตะ 75 ดอลลาร์ก่อนที่จะลงมาแตะ 50 ดอลลาร์ โดยบอกว่า ราคาน้ำมันจะสูงขึ้นมากได้ต้องมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และราคาน้ำมันเบรนต์ ควรจะอ่อนไหวต่อความกังวลทางภูมิศาสตร์การเมืองมากกว่าน้ำมันดิบสหรัฐ ดังนั้นช่องว่างระหว่างราคาน้ำมันดิบเบรนต์ กับน้ำมันดิบสหรัฐอาจจะจจะถ่างเป็นการชั่วคราว

ได้มีการโจมตีอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ เช่น ในเดือนที่ผ่านมา มีการโจมตีท่อส่งน้ำมันของซาอุด้วยโดรน และมีการโจมตีขีปนาวุธห้องโดยสารของสนามบินแห่งหนึ่งในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของซาอุดิอาระเบีย ในวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้บาดเจ็บ 26 คน มีรายงานว่ากลุ่มกบฏฮูตีอยู่เบื้องหลังการโจมตีนี้และการโจมตีอื่น ๆ โดยว่ากันว่ากบฏฮูตีได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน กบฏกลุ่มนี้ได้ต่อสู้กับซาอุดิอาระเบียในเยเมนหลังจากที่ได้ขับไล่รัฐบาลเยเมนในปี 2558

นักวิเคราะห์เชื่อว่าจะมีการโจมตีต่าง ๆ เกิดขึ้นอีกตราบเท่าที่มีมาตรการลงโทษต่ออิหร่านเพื่อจงใจให้เศรษฐกิจอิหร่านล่มสลายและเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และอิหร่านก็คงจะไม่ยอมก้มหัวง่าย ๆ

กุญแจสำคัญจะอยู่ที่ผู้นำยุโรปว่าจะสามารถทำงานกับอิหร่านเพื่อหาทางลดผลกระทบจากมาตรการลงโทษของสหรัฐฯ ได้หรือไม่และจะทำให้อิหร่านไม่ถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ได้ทำกับสหรัฐฯ และชาติอื่น ๆ อีก 5 ชาติได้หรือไม่

อิหร่านได้ขู่ที่จะถอนตัวจากข้อตกลงนี้หากไม่มีมติภายในวันที่ 7 กรกฎาคม และอาจจะกลับไปเพิ่มสมรรถนะยูเรเนียมไปสู่ระดับที่ใกล้กับเกรดอาวุธ

ในขณะที่เกิดการโจมตีในตะวันออกกลาง นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นกำลังอยู่ในอิหร่านเพื่อเจรจาลดความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ

ผลจากมาตราการลงโทษของสหรัฐฯ ซัพพลายน้ำมันนอกสหรัฐกำลังตึงตัว ตลาดโลกมีน้ำมันดิบที่ผลิตโดยอิหร่านและเวเนซุเอลาน้อยมาก น้ำมันอิหร่านหายไปจากตลาดมากกว่า 1 ล้านบาร์เรล

ในขณะเดียวกันคาดว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตรจะตกลงขยายเวลาลดกำลังการผลิตต่อไป

พัฒนาการทั้งหมดที่ว่ามา ก็น่าจะเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันจะพุ่งถึง 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ดี สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) เพิ่งออกมาแถลงเมื่อวันศุกร์ว่า แนวโน้มการเติบโตของดีมานด์น้ำมันในปีนี้ได้มืดมนลงเพราะแนวโน้มการค้าโลกเลวร้ายลง ถึงแม้ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นหลาย ๆ อย่างและประเทศกำลังพัฒนาควรจะกระตุ้นการเติบโตไปจนถึงปี 2563

นักลงทุนต้องจับตาการประชุมของผู้นำสหรัฐฯ และจีนในการประชุมจี20 อย่างใกล้ชิด เพราะมันอาจจะเป็นตัวชี้วัดได้ว่า ราคาน้ำมันจะขึ้นหรือลงกันแน่

Source: ข่าวหุ้น

เพิ่มเติม
- Tanker attacks reignite oil fear premium, prices could spike to $80
https://www.cnbc.com/2019/06/13/tan...il-fear-premium-prices-could-spike-to-80.html

- Oil price rises on tensions after Middle East tanker attacks:
https://www.thestar.com.my/business...ddle-east-tanker-attacks/#yi0QpKSexmRge7DK.99

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jun 17) เฟด'ไม่ลดดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ นักเศรษฐศาสตร์ฟันธงลดเดือนหน้า-รอประชุมจี 20 - นักเศรษฐศาสตร์ประสานเสียงชี้ “เฟด” จะไม่ลดดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ หลังจากที่มีการเปิดเผยดัชนีซีพีไอ แต่น่าจะลดดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม ชี้การตัดสินใจนโยบายเงินของเฟดจริง ๆ แล้วอาจจะขึ้นอยู่กับการค้า คาดว่าเฟดจะรอจนกว่าจะมีการประชุมสุดยอดจี20 ในญี่ปุ่น ในวันที่ 28-29 มิถุนายน นี้

นักเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดที่ธนาคากรลางสหรัฐ (เฟด) จะได้เห็นก่อนที่จะมีการประชุมนโยบายสัปดาห์นี้ ไม่เพียงพอที่จะสร้างความมั่นใจให้เฟดสร้างความประหลาดใจให้แก่ตลาดและลดดอกเบี้ย

ดัชนีซีพีไอของสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคมค่อนข้างซบเซา เงินเฟ้อหลักในปีที่ผ่านมาลดลงเหลือ 2% ในเดือนพฤษภาคม จาก 2.1% ในเดือนเมษายน จาก 2.4% ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

สก็อต บราวน์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัท เรย์มอนด์ เจมส์ บริษัทที่ปรึกษาการเงินในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ยังคงเชื่อว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมหลังจากที่ได้เห็นดัชนีซีพีไอ

บราวน์ กล่าวว่า ในขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้เฟดหยุดเคลื่อนไหว การตัดสินใจนโยบายเงินของเฟดจริง ๆ แล้วอาจจะขึ้นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการค้า

คาดว่าเฟดจะรอจนกว่าจะมีการประชุมสุดยอดจี20 ในญี่ปุ่นในวันที่ 28-29 กรกฎาคมนี้ โดยมีการคาดการณ์กันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง

ซาล กัวเทียรี นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของบริษัท บีเอ็มโอ แคปิตอล มาร์เก็ตส์ เห็นพ้องเช่นกัน โดยกล่าวว่า เหตุผลที่เฟดน่าจะไม่เปลี่ยนแปลงดอกเบี้ยก็เพราะต้องการที่จะดูผลการเจรจาการค้าของจีนและสหรัฐฯ ในเดือนหน้า นอกจากนี้ยังกล่าวว่า เงินเฟ้อต่ำโดยตัวมันเองไม่เพียงพอที่จะทำให้เฟดเคลื่อนไหว และธนาคารกลางสหรัฐยังต้องตั้งสมมติฐานว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังสูญเสียแรงส่ง และความเสียหายจากภาษีการค้าที่มีต่อเศรษฐกิจน่าจะเพิ่มมากขึ้น

ไมค์ เพียร์ซ นักเศรษฐศาสตร์สหรัฐอาวุโสของแคปิตอล อีโคโนมิกส์ กล่าวว่า เงินเฟ้อต่ำไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของเฟด เป้าหมายของเงินเฟ้อที่เฟดพอใจขึ้นอยู่กับดัชนีราคาค่าใช้จ่ายในการบริโภค ซึ่งมักต่ำกว่าดัชนีซีพีไอครึ่งเปอร์เซ็นต์

ผลตอบแทนพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลงต่อหลังจากที่ดัชนีราคาผู้บริโภคหลักลดลงต่ำกว่าคาด โดยผลตอบแทนพันธบัตรกระทรวงการคลังที่มีอายุไถ่ถอน 10 ปี ลดลง 0.02% เหลือ 2.122%
เฟดจะประกาศการตัดสินใจนโยบายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่มีการแถลงข่าวโดยเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ
เมื่อดูจากเครื่องมือในการจับตาเฟดของซีเอ็มอี กรุ๊ป ตลาดมองว่ามีโอกาสเพียง 23% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน นักลงทุนมีความเห็นอย่างท่วมท้นว่าเฟดจะเคลื่อนไหวครั้งแรกหลังการประชุมในวันที่ 30-31 กรกฎาคม

อัตราเงินเฟ้อไม่สูงมากแม้ว่ามีการเก็บภาษี และความจริงแล้วองค์ประกอบของเรื่องนี้และรายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้อาจเป็นสัญญาณว่าดีมานด์ซบเซาลง ซึ่งเพิ่มโอกาสที่เฟดจะเดินหน้าด้วยการลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน

นักเศรษฐศาสตร์จำนวนหนึ่งได้โต้แย้งว่าการลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนจะเพิ่มความประหลาดใจในทางบวก แต่นักเศรษฐศาสตร์คนอื่น ๆ ไม่เห็นด้วย

เพียรซ์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของเฟดในเดือนมิถุนายนจะเป็นสัญญาณว่าเฟดกำลังเริ่มที่จะตื่นตระหนกและมองเห็นบางสิ่งบางอย่างที่คนอื่นไม่เห็น

ในขณะเดียวกันมีรายงานจากบลูมเบิร์กซึ่งอ้างความเห็นนักเศรษฐศาสตร์เช่นกันว่าเฟดจะไม่ลดดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้

เจฟฟรีย์ กันด์ลัช หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบริษัท ดับเบิลไลน์ แคปิตอล ไม่คิดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะลดดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ แต่มีโอกาสสูงที่จะลดดอกเบี้ยหลายครั้งในปีนี้เนื่องจากมีสัญญาณมากขึ้นว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวลง

กันด์ลัช คิดว่ามีความเป็นไปได้มากที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม และอาจจะลดดอกเบี้ยถึง 0.50% หากตลาดพันธบัตรยังคงตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก

นอกจากนี้ กันด์ลัชยังคิดว่ามีความเป็นไปได้มากที่เฟดจะไม่ลดดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียว แต่อาจจะลดถึงสี่ครั้งโดยขึ้นอยู่กับการคาดการณ์ในตลาดพันธบัตร

กันด์ลัช กล่าวว่า มีโอกาส 40-45% ที่จะเกิดภาวะถดถอยภายใน 6 เดือน และมีโอกาส 65% ที่จะเกิดภาวะถดถอยภายในหนึ่งปี ซึ่งสูงกว่าที่เขาได้ประมาณการณ์ในก่อนหน้านี้ เพราะว่าความตึงเครียดทางการค้ากำลังแสดงสัญญาณว่ามีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

การแถลงของพาวเวลล์ในวันพุธหน้า จะเป็นสายฟ้าฟาดอย่างรวดเร็วเมื่อคำนึงถึงสถานะอันลำบากที่เฟดต้องเผชิญเกี่ยวกับดอกเบี้ย แผนภูมิจุดของเฟดยังคงคาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยหนึ่งครั้ง แต่ตลาดพันธบัตรกำลังคาดการณ์ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยหลายครั้ง
Source: ข่าวหุ้น
**********************

เพิ่มเติม
- The Fed would be making a mistake by cutting rates this year, PNC strategist says: https://www.cnbc.com/2019/06/16/fed-would-be-making-a-mistake-by-cutting-rates-pnc-strategist.html

- Fed critic Jim Grant goes out on a limb and predicts a rate cut at this week’s meeting: https://www.cnbc.com/2019/06/17/fed-critic-jim-grant-predicts-a-rate-cut-at-this-weeks-meeting.html

- เจมส์ แกรนท์คาดเฟดลดดบ.สัปดาห์นี้ สวนกระแสคาดการณ์นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
: https://www.ryt9.com/s/iq27/3003616

- The Fed won’t cut rates at its June meeting. Here’s why: https://www.cnbc.com/2019/06/14/three-reasons-why-the-fed-wont-cut-rates-at-its-june-meeting.html

 

Robert H. Evans Jr.

ตอนนี้มีภาพถ่าย / ภาพจำนวนมาก ที่แบ่งปันในขณะนี้ คุณกำลังเห็นสิ่งนี้รอบโลกของเราตอนนี้ ฉันหวังว่าคุณจะพร้อมสำหรับสิ่งที่กำลังจะมา ????????

There are too many photos/images now to share, a good number of you are seeing this all around our planet now, I hope you are prepared for what is coming????????

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

น้ำท่วมทางตอนใต้ของประเทศจีน # 13 มิถุนายน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

น้ำท่วมฉับพลันในมอลโดวา # 18 มิถุนายน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

แม่น้ำกลายเป็นสีเลือดในประเทศกานา, ทวีปแอฟริกา # 17 มิถุนายน

 

ขับรถไปหาเพื่อนสาวของฉันและเห็นพระอาทิตย์ที่แตกต่างกันสองดวง

เกิดอะไรขึ้น? #gaithersburg

โจเซฟ Scott:

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

หลุมยุบในโอไฮโอ, ประเทศสหรัฐอเมริกา #17 มิถุนายน

 

แผ่นดินไหว ขนาด 6.5
ใกล้ฝั่งทางด้านตะวันตกของเมืองฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 2019-06-18 เวลา
20: 22: 19.5 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่ตั้ง
38.63 N; 139.46 E
ความลึก 10 กม
Macroseismic
ความรุนแรง
ผลกระทบ IV: สังเกตอย่างมาก



Magnitude 6.5

Region NEAR WEST COAST OF HONSHU, JAPAN

Date time

2019-06-18 13:22:19.5 UTC

Location

38.63 N ; 139.46 E

Depth 10 km

Macroseismic

Intensity

IV Effects: Largely Observed


Distances


130 km W of Sendai-shi, Japan / pop: 1,038,000 / local time: 22:22:19.5 2019-06-18


89 km NE of Niigata-shi, Japan / pop: 506,000 / local time: 22:22:19.5 2019-06-18


33 km W of Tsuruoka, Japan / pop: 99,900 / local time: 22:22:19.5 2019-06-18


https://m.emsc.eu/earthquake/earthquake.php?evid=772036

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

มีการเตือนภัยสึนามิในญี่ปุ่นหลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.8 #Videos

 

ผมสงสัยมากๆ ครับ ภัยพิบัติทั่วโลกทุกวันนี้ ไม่หลับไม่นอนกันบ้างหรือไง

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ญี่ปุ่น: ความสูงของคลื่นสึนามิ ประมาณ 1 เมตร



Japón: estimación de 1 metro de altura de ola por Tsunami