ติดตามสถานะการณ์

ผู้พเนจร จากฟากฟ้า



นาซาเตรียมทดสอบ 'จานบิน'
องค์การการบินอวกาศสหรัฐเตรียมทดสอบ 'จานบิน' เหนือฮาวายในวันพฤหัสบดี เป็นยานต้นแบบที่พัฒนาสำหรับส่งมนุษย์ไปดาวอังคาร
ยานที่มีชื่อว่า แอลดีเอสดี (Low Density Supersonic Decelerator) จะถูกนำขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศสตราโตสเฟียร์โดยใช้บอลลูนลมร้อน

<iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/3YwSXAba6Ik" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

เมื่อขึ้นไปถึงความสูง 120,000 ฟุต ยานจะถูกปล่อย จรวดขับดัน 4 ชุดจะเริ่มทำงาน ทำให้ยานหมุนรอบตัวเอง เมื่อหมุนจนตั้งลำนิ่งดีแล้ว จรวดนำส่งซึ่งใช้เชื้อเพลิงแข็งจะนำพายานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ

วิศวกรคาดว่า ยานจะเคลื่อนที่ด้วยอัตรา 4 เท่าของความเร็วเสียง ทะยานไปถึงความสูง 180,000 ฟุต ซึ่งเป็นขอบนอกของสตราโตสเฟียร์
ในเที่ยวขาลง แอลดีเอสดีจะทดสอบระบบเบรคแบบใหม่ 2 ชุด ชุดแรกเป็นโครงสร้างรูปโดนัท พองตัวออกรอบจานบินเพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวนอกของยาน เป็นตัวสร้างแรงเสียดทานกับอากาศ

พอยานชะลอลงเหลือ 2.5 เท่าของความเร็วเสียง ร่มจะกางออก ถ้าขั้นตอนนี้สำเร็จ มันจะเป็นร่มที่ใหญ่กว่าร่มใดๆที่เคยร่อนในอากาศเหนือผิวโลก
ในที่สุด ยานจะตกน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิก หลังจากถูกส่งขึ้นจากฐานทดสอบจรวดของกองทัพเรือสหรัฐบนเกาะควาอี ในฮาวาย ประมาณ 45 นาที
ไมเคิล กาซาริก ผู้ช่วยผู้อำนวยการนาซาฝ่ายเทคโนโลยีอวกาศ บอกว่า ไม่ว่าการทดสอบครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ นาซาจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้มากมายทีเดียว

แม้ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ยานยังจะต้องได้รับการปรับปรุงต่อไป ดาวอังคารมีบรรยากาศเบาบางกว่าโลกมาก จึงต้องลดน้ำหนักของยานลงอีก เพื่อให้สามารถร่อนลงจอดได้อย่างนุ่มนวล
ในปีหน้า นาซากำหนดจะบินทดสอบยานแอลดีเอสดีอีก 2 ครั้ง.
นาซาเตรียมทดสอบ จานบิน - Voice TV 21

 

สหรัฐฯหวั่น แผนส่งคนไปดาวอังคารอาจล้มเหลว
7 มิถุนายน 2557 เวลา 09:36 น.

คณะกรรมาธิการด้านการวิจัยแห่งชาติของสหรัฐฯ เตือนนาซา ว่า แผนส่งมนุษย์ขึ้นไปเหยียบดาวอังคารนั้น อาจจะล้มเหลว แม้ว่าจะมีการเตรียมการเอาไว้เป็นอย่างดี

<iframe width="640" height="360" frameborder="0" scrolling="no" src="http://www.voicetv.co.th/content/embed?id=107233" ></iframe>

คณะกรรมาธิการด้านการวิจัยแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์เตือนองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือนาซา โดยระบุว่า แผนการที่นาซา จะส่งมนุษย์ขึ้นไปเหยียบดาวอังคารนั้น อาจจะล้มเหลว แม้ว่าจะมีการเตรียมการเอาไว้เป็นอย่างดี และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยแล้วก็ตาม และนั่นอาจทำให้มุมมองของคนทั่วโลก ที่เห็นว่า สหรัฐฯเป็นผู้นำด้านการส่งมนุษย์ไปอวกาศต้องเปลี่ยนไป

ซึ่งนอกจากเรื่องความล้มเหลวในการส่งมนุษย์ไปพิชิตดาวอังคารแล้ว นาซาอาจพบกับอุปสรรคกับเรื่องการสำรวจดาวเคราะห์น้อย การสร้างฐานที่มั่นใหม่บนดวงจันทร์ รวมถึงการสานสัมพันธ์ด้านอวกาศกับชาติมหาอำนาจอย่างจีนด้วย

โดยนาซาได้ออกมายอมรับกับคำเตือนดังกล่าว พร้อมกับประกาศจะเดินหน้าโครงการสำรวจดาวอังคารต่อไป ตามความมุ่งหมายของนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และสภาคองเกรส ที่ให้ความสำคัญกับการสำรวจอวกาศเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า การส่งมนุษย์ไปยังดาวอังคาร ยังเป็นจุดมุ่งหมายที่สูงที่สุดในโครงการสำรวจอวกาศของนาซาในตอนนี้

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา นาซาได้ทุ่มงบประมาณกว่า 2,500 ล้านดอลลาร์ ไปกับการส่งรถหุ่นยนต์คิวริออซิตี ขึ้นไปสำรวจพื้นผิว และหาร่องรอยของสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร พร้อมกับคาดว่า นับจากนี้ไป อาจใช้เวลานานนับทศวรรษ จนกว่าที่จะมีการส่งมนุษย์ขึ้นไปบนดาวอังคารได้

นอกจากนั้น งบประมาณอีกนับแสนล้านดอลลาร์ อาจจะต้องหมดไปกับการทดลองและทดสอบระบบการดำรงชีวิตบนดาวอังคาร จนกว่าที่นาซาจะมั่นใจ และสามารถส่งมนุษย์ขึ้นไปบนนั้นได้จริง จนทำให้หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่า โครงการดังกล่าวของนาซาอาจขาดความต่อเนื่อง เมื่อขาดงบประมาณสนับสนุน หรือมีการเปลี่ยนรัฐบาล และท้ายที่สุด ชาติมหาอำนาจชาติอื่น อาจแซงหน้าสหรัฐฯ และกลายเป็นชาติแรกของโลก ที่มีการส่งมนุษย์ไปเยือนดาวอังคารก็เป็นได้


สหรัฐฯหวั่น แผนส่งคนไปดาวอังคารอาจล้มเหลว - Voice TV 21

 

แผ่นดินไหวในประเทศและใกล้เคียง

 

อวยชัย กุลพงษ์ ได้แชร์รูปภาพของ สิงห์อาสา ใจอาสา



ปลาสระวัดดังจ.ประจวบฯ ตายทั้งบ่อคาดอากาศร้อนทำให้มูลปลา,เศษอาหารที่ทับทมใต้สระทำปฎิกิริยากลายเป็นก๊าซขาดอ๊อกซิเจน

ปลานับหมื่นตายเต็มสระวัดดังปราณบุรี คาดผลกระทบขนมปังบูดมีเชื้อรา ผสมขี้ปลา ทำให้น้ำเน่าเสีย

วันที่ 7 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่า ที่วัดสิทธิสังฆาราม หรือวัดหนองคราม หมู่ 2 ต.ปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปลาที่ทางวัดเลี้ยงไว้เป็นเขตอภัยทานในสระน้ำ ลอยตายเกลื่อนเป็นจำนวนมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในสระน้ำรอบวิหารหลวงพ่อโสธร พบปลาขนาดใหญ่ ทั้งปลาตะเพียน ปลานิล นับหมื่นตัวลอยตายเกลื่อนเต็มสระ ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว พระภิกษุจำนวนหนึ่งต้องช่วยกันใช้สวิงตักซากปลาที่ตายขึ้นมาจากน้ำ เบื้องต้นพระลูกวัดระบุว่า ช่วยกันตักซากปลามา 2 วันแล้ว คาดว่ามีน้ำหนักรวมประมาณ 3-4 ตัน

พระครูสุนทรกิตติวัฒน์ กล่าวว่า มีประชาชนพาลูกหลานไปให้อาหารปลาภายในสระของวัดเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางวัดต้องการให้เป็นเขตอภัยทาน แต่ระยะหลังพบว่าปลาในสระทยอยตายโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยเฉพาะปลานิลและปลาตะเพียน คาดว่าไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นตัว เบื้องต้นคาดว่าอาจเกิดจากปัญหาน้ำเน่าเสีย ซึ่งทางวัดยังไม่ได้แจ้งให้หน่วยงานราชการรับทราบ ได้แต่ตักปลาที่ตายใส่ถุงดำและนำไปฝังกลบ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้น้ำเน่าเสียมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มอ๊อกซิเจนอีกหลายตัว เนื่องจากภายในสระยังมีปลาดุก ปลาคราฟ อยู่อีกเป็นจำนวนมาก

ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานประมง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากการนำอาหารประเภทขนมปังมาเลี้ยงปลา และหลงเหลือตกค้างจนบูดอยู่ก้นสระ หรืออาจมีเชื้อราจนไปสะสมกับมูลปลาเกิดเป็นก๊าซเน่าเสีย ประกอบกับสภาพอากาศร้อนทำให้ปลาขาดอ๊อกซิเจน การแก้ไขต้องเร่งสูบน้ำออกจากสระและทำความสะอาดก่อนที่จะโรยปูนขาวฆ่าเชื้อ ตีน้ำเพิ่มออกซิเจน จึงจะนำปลามาปล่อยเลี้ยงได้ตามปกติ

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd01qRTBNakE1TkE9PQ==&subcatid

 

อวยชัย กุลพงษ์



ชาวบ้านแตกตื่นปลาทะเลหลากชนิดลอยตายเกยหาดทุ่งวัวแล่น
ชาวบ้าน อ.ปะทิว แห่จับปลาทะเลหลายชนิด ลอยขึ้นมาตายชายหาดทุ่งวัวแล่น แหล่งท่องเที่ยว ชื่อดังของจังหวัดชุมพร นับแสนตัว เชื่อเป็นปรากฏการณ์ "น้ำทะเลเปลี่ยนสี" ซึ่งมีประจำทุกปี

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 มิ.ย.57 ได้มีชาวประมงและชาวบ้านจำนวนมากเดินทางไปจับปลาทะเล ที่ลอยขึ้นมาตายบนชายหาดทุ่งวัวแล่น หมู่ 8 ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร จำนวนมากนับแสนตัว โดยบริเวณดังกล่าวถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของจังหวัด ที่มีชาวไทยและต่างประเทศนิยมมาท่องเที่ยวพักผ่อนจำนวนมาก และยังเป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น ตามหมู่เกาะต่างๆ ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกด้วย ซึ่งพบว่ามีปลาทะเลลอยขึ้นมาตายตามแนวชายหาดนับแสนตัว เป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร ส่วนใหญ่เป็นปลาที่อาศัยหากินอยู่ตามแนวหิน แนวปะการังน้ำตื้น อาทิ ปลาเก๋า ปลากะพง ปลาดุกทะเล ปลาไหลทะเล ปลาทราย ปลาแป้น และปลาสวยงามชนิดต่างๆ อีกจำนวนมาก อย่างก็ตามหลังชาวบ้านทราบข่าวที่พูดกันปากต่อปาก ต่างทยอยพากันเดินทางมาเก็บเอาปลาที่ตายอยู่ตามชายหาดไปบริโภคและขายกันจำนวนมากนับแสนตัว

ด้านนายพิศิษฐ์ ลี้วิริยะไพฑูรย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ อ.ปะทิว กล่าวว่า ตนทราบข่าวจากชาวประมงว่า ได้พบปลาทะเลตายเกลื่อนหาดจำนวนมาก โดยปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. เนื่องจากชาวประมงชายฝั่งได้ตื่นขึ้นมาแล้วกำลังจะนำเรือออกทะเลจับปลา ปรากฏว่าพบปลาดิ้นตายอยู่ตามชายหาดจำนวนมาก และได้จับปลาดังกล่าวไปขายและนำไปบริโภคกัน ซึ่งแต่ละคนจับได้นับร้อยกิโลกรัม กรณีดังกล่าวนั้นชาวประมงถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะจะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งชาวบ้านเรียกว่าปรากฏการณ์ "ปลาตายน้ำแดง" หรือ "น้ำทะเลเปลี่ยนสี" ทำให้ปลาที่อาศัยอยู่ตามแนวหินแนวปะการังน้ำตื้นตายจำนวนมาก แต่สำหรับปีนี้ถือว่ามีปลาตายมากกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ประสานไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องในท้องที่ได้รับทราบถึงปรากฏการณ์ดังกล่าว เพื่อลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไปแล้ว

ชาวบ้านแตกตื่นปลาทะเลหลากชนิดลอยตายเกยหาดทุ่งวัวแล่น - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

Piyacheep S.Vatcharobol







สาเหตุของพิบัติภัยธรรมชาติวันนี้ และอีก ๓ วันข้างหน้า (7-8 มิถุนายน 2557) น่าจะมีผลพวงมาจาก โซล่าแฟร์ ที่เกิดจาก ฟิลาเม้นท์ Filament (สนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีพลังงานไฟฟ้ามหาศาล) ชนิดที่เรียกว่า ไฮเดอร์แฟร์ Hyder Flare ซึ่งเป็นโซล่าแฟร์ที่ไม่ได้เกิดจากจุดดับ Sun Spot บทผิวดวงอาทิตย์แบบปกติ แต่เป็นฟิลาเม้นท์ที่ยาวออกมามากถึงประมาณ ๕๐๐,๐๐๐ กิโลเมตร ที่ตกกลับไปกระทบก๊าซที่ผิวดวงอาทิตย์แล้วเกิด โซลาแฟร่ออกมาเป็นบริเวณกว้าง

ฟิลาเม้นท์ทุกครั้งไม่ใช่ ไฮเดอร์แฟร์เสมอไปนะครับ

พลังงานสนามแม่เหล็กไฟฟ้าพวกนี้นะครับที่เมื่อเข้ามายังโลก มากระทบโลกแล้วมีผลทำให้เกิดภัยพิบัติแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด พายุหมุนเฉียบพลัน(ที่บ้านเราชอบเรียกพายุฤดูร้อน แต่เกิดได้ทุกฤดู)

มาดูภาพที่ ๒ ที่แนวพลังงานพาดผ่านโลก และภาพที่ ๓ ที่เกิดแผ่นดินไหว พรหมแดนพม่า-อินเดีย ดูนะครับ ว่าแนวพลังงานพาดผ่านนั้น ทับบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวหรือไม่ ???

นี่คือหลักการเบื้องต้นในการคาดการณ์พิบัติภัย โดยเฉพาะแผ่นดินไหว จากพลังงานไฟฟ้าที่ตกกระทบโลก ซึ่งรายงานพวกนี้ดูได้จาก

ARTIS @ SolarIMG

ซึ่งรับรองได้ว่า บริเวณที่เกิดแผ่นดินไหว ต้องมีเมฆแผ่นดินไหวหนาแน่แน่นอน ส่วนบริเวณอีกของโลกที่มีมุมตกมุมกระทบในระนาบเดียวกัน จะมองเห็นเมฆสีรุ้ง ท้องฟ้าสีรุ้ง ที่บ่งบอกถึงพลังงานไฟฟ้ามหาสาลที่อยู่ในชั้นบรรยากาศ ที่กดดันไฟฟ้าใต้พืนดิน และเมื่อไหรที่ีไฟฟ้าในอากาศสามารไหลเชื่อมต่อไฟฟ้าใต้พื้นดินได้ เมื่อนั้นก็จะเกิดแผ่นดินไหวเป็นปฐมบท แต่หากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าทยอยไหลลงไปเรื่อย ก็จะสร้างพลังงานสะสมที่เรียกกันว่า แรงตึงเครียดให้กับพลังงานสนามแม่เหล็กไฟฟ้าใต้พื้นดิน จนถึงจุดปลดปล่อย ก็ทำให้เกิดแผ่นดินไหว เช่น แผ่นดินไหวที่เกิดที่เชียงรายทุกวันในขนาดนี้

ที่นี้มาตอบคำถามเรื่องหินเหลือง Yellow Stone กันนะครับว่าจะมีผลอะไรกับสยามประเทศบ้าง

หินเหลืองนี้เลยกำหนดเวลาตามข้อมูลการค้นพบของนักภูเขาไฟวิทยาว่า จะระเบิดทุกๆ ๗๐๐,๐๐๐ ปี มาเกือบ ๒๐ ปีแล้วนะครับ เขาถึงคาดการณ์ว่ามันสารถระเบิดได้ทุกเมื่อ

หินเหลือง ไม่ใช่ภูเขาไฟแบบ วิซุเวซ การากาตั้ว เซนต์เฮเลน หรือ ฟิจิยะม่า แต่หินเหลือง หรือ เยลโลสโตน คือ อภิมหาภูเขาไห หรือ Super Volcano ที่แม๊กม่าไปสะสมพลังงานเป็นแอ่งใต้พื้นดินขนาดกว้างยาวประมาณ ๕๐๐ คูณ ๘๐๐ ไมล์ หรือง่ายนคือกว้างยาวขนาด แม่สายยันสุไหงโกลก และสามพันโบกยันทวาย หรือพูดง่ายๆว่าใหญ่กว่าประเทสไทยทั้งประเทศ

ที่นี่เมื่อ เยลโลสโตนปะทุและระเบิด อันดับแรก ฝุ่นเถ้าถ่านจะออกมาฟุ้งกระจายมีความหนาไม่ต่ำกว่า ๕ กิโลเมตร บดบังแสงทุกชนิดไม่ให้สามารถส่องลงมาถึงพื้นโลกได้

และด้วยกระแสลม จะทำให้ ชายฝั่งตะวันตกด้านหน้าเทือกเขาร๊อคกี้รอดพ้นจากฝุ่นเถ้า แต่ชายฝั่งตะวันออก นิวยอร์ค ดีซี บอสตัน ไม่พ้น รวมทั้งกรีนแลนด์ อังกฤษ ยุโรป และอาจถึงตรุกี ยูเครน ไครเมียด้วย

หายานะแค่เถ้าก็มหาศาลแล้ว
ส่วนแรงระเบิด การสั่นสะเทือนน่าจะประมาณ ๒๐-๓๐ ริคเตอร์ ไม่ใช่ ๘ ๙ หรือ ๑๐ หรือ ๑๑ หรือ ๑๒ ริคเตอร์สเกล ซึ่งผลกระทบจากแรงสั้่นสะเทือนนี้ ย่อมมีไปทั่วโลก เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดกันต่อๆกันไป แรงบ้าง เบาบ้าง ตามความหนา หรือ เปราะบางของแผ่นเปลือกโลก

และยังจะทำให้สภาพภูมิกาศแปราปรวน ฝนตก (ฝนกรด) พายุฉียบพลัน ทำลายสรรพสิ่งไปทั่วโลก เนื่องจากพลังงานไฟฟ้าที่ออกมาจากใต้โลก กับไฟฟ้าในชั้นบรรยากาศเกิการสปาร์คกัน หรือ บ้านคือช้อตกัน เป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ อีกนั่นเอง

นอกจากนี้แรงระเบิดยังจะมีผลผลักดันให้โลกสามารถหมุนเลื่อนตำแหน่งแบบก้งล้อได้ เช่น ทำให้ไวโอมิ่งไปแทนที่ขั้วโลก ขั้วโลกเหนือลงมาแทนที่คุนหมิง ทำนองนี้ได้นะครับ

มนุษย์ทั่วไปต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ ด้วยเกษตรกรรม
คนที่เตรียมพร้อมอย่างชาติมหาอำนาจ ก็จะสุขสบายใต้ดิน และใช้กำลังอาวุธมากวาดต้อนคนที่รอดไปทำงานเป็นทาสแบบในภาพยนตร์นะครับ แนวโน้มมันชี้ชัดอย่างนั้นจริง

คิด พิจารณา เปรียบเทียบนะครับ
ตั้งบนสติ เหตุ และผล กันนะครับ

ส่วนการสำรวจที่เชียงรายวันที่ ๖ ๗ ๘ ก็ต้องเดินหน้าต่อ เพื่อหาข้อมูลหลักฐานมาวิเคราะห์ แนวแผ่นดินไหวใหญ่ และแนวที่มีโอกาสแผ่นดินแยกแล้วแม็กม่าดันออกมาเป็นลาวาว่ามีโอกาสเกิดบริเวรไหนบ้างนะครับ และขอขอบพระคุณหลายท่านที่เสนอความช่วยเหลือเรื่องที่พัก อุปกรณ์การตรวจวัด และเผยแพร่โพสหาคนอนเงินมาช่วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ผมจะทำรายการที่ท่านทั้งหลายช่วยเหลือมา ทำบัญชีแจกแจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายให้ท่นทั้งหลายทราบหลังจากเสร็จงานนะครับ

Listen to radar echoes from satellites and meteors, live on listener-supported Space Weather Radio.

Spaceweather Radio is on the air

FATHER'S DAY AT THE EDGE OF SPACE: Would you like to send your dad to the Edge of Space? He can't go, but his picture can. Using a suborbital helium balloon, the students of Earth to Sky Calculus will fly the image of your choice to 120,000 ft and photograph it against the curved limb of the Earth. The returned photo (example) makes a great Father's Day gift. The flight fee is $49.95, and profits support student research. Contact Dr. Tony Phillips for details.

GIANT SOLAR FILAMENT: An enormous filament of magnetism is stretching across the sun's equator today. In this image taken by NASA's Solar Dynamics Observatory during the early hours of June 4th, arrows trace the structure across more than 500,000 km of solar terrain:

The filament is filled with dark plasma held aloft by magnetic forces. Such filaments are often unstable. If this one collapses and hits the stellar surface below, the result could be a "Hyder flare"--a type of solar flare that occurs without the aid of a sunspot. Solar flare alerts: text, voice

Because the filament is so long, it makes an easy target for backyard solar telescopes. Take a look at this panoramic snapshot taken by Sergio Castillo of Inglewood, CA, on June 3rd. "The sun is coming to life with this giant filament snaking across the solar surface," he says. "It's a beautiful view."

 

หลายเมืองในยูเครนใกล้ร้าง! ชาวบ้านแห่อพยพหนี
8 มิถุนายน 2557 เวลา 15:01 น.



วิกฤตความขัดแย้งในยูเครนที่เกิดขึ้นเวลานี้ กำลังทำให้หลายเมืองกลายเป็นเมืองร้าง เนื่องจากบรรดาผู้ปกครองต่างพากันอพยพบุตรหลานออกจากเมือง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เหตุความขัดแย้งที่เกิดจากกลุ่มสนับสนุนยูเครนและกลุ่มฝักใฝ่รัสเซีย ก็ทำให้เกิดการสู้รบอย่างต่อเนื่องรอบๆเมืองสลาเวียนส์ โดยประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองดังกล่าว ตัดสินใจส่งเด็กและสตรีออกนอกเมืองไปอาศัยยังเมืองอื่นเพื่อความปลอดภัย ซึ่งการอพยพมีขึ้นในช่วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงกันตามข้อตกลงชั่วคราว นอกจากนี้พวกเขายังได้รับความช่วยเหลือจากองค์การนอกภาครัฐที่มีชื่อว่า กลุ่มอาวเออร์ ซิตี้ ซึ่งทำให้ประชาชน 120 คน สามารถอพยพออกไปได้อย่างปลอดภัย

ด้านประชาชนที่อยู่ในเมืองดังกล่าวเล่าว่า สถานการณ์ที่นี่น่ากลัวมาก โดยมีทั้งการยิงตอบโต้กันไปมาตลอดเวลา ดังนั้นหลายคนจึงตัดสินใจอพยพครอบครัวออกไปเนื่องจากสถานการณ์ร้ายแรงเป็นอันตรายถึงชีวิต

ทั้งนี้ กลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนที่ให้การสนับสนุนรัสเซียและกองกำลังติดอาวุธของยูเครน ยังคงมีการปะทะอย่างต่อเนื่อง หลังวิกฤตเริ่มขึ้นนับตั้งแต่มีการถอนถอนอดีตประธานาธิบดียานูโควิซออกจากตำแหน่งและมีการทำประชามติ แบ่งแยกดินแดนไครเมียไปรวมกับรัสเซีย แต่หลังจากประธานาธิบดีเปรโต โปโรเชนโก้ ผู้นำคนใหม่ของยูเครนเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว กองกำลังยูเครนก็เดินหน้าปราบปรามการแบ่งแยกดินแดนอย่างเอาจริงเอาจัง

ผู้สื่อข่าว : ทีมข่าวสปริงนิวส์

หลายเมืองในยูเครนใกล้ร้าง! ชาวบ้านแห่อพยพหนี - Spring News

 

จีน เร่งช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมหนัก 8 มิถุนายน 2557 เวลา 09:02 น.



ความเสียหายจากน้ำท่วมและฝนตกหนักในจีน โดยเฉพาะที่มณฑลกุ้ยโจว ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทำให้ทางการต้องเร่งส่งความช่วยเหลือไปมอบให้แก่ประชาชน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ได้รับการส่งไปอย่างต่อเนื่องยังมณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน หลังเกิดฝนตกหนักและน้ำท่วม โดยในเขตฉีเซียน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด เจ้าหน้าที่ได้เร่งซ่อมแซมระบบติดต่อสื่อสาร ขณะที่ไฟฟ้าและน้ำประปาสามารถกลับมาใช้การได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ในหลายหมู่บ้านที่ห่างไกล บ้านจำนวนมากยังคงได้รับความเสียหาย โดยประชาชนผู้ประสบภัยยังคงต้องการเต้นท์ที่พักแรมชั่วคราว อาหาร น้ำดื่มและยารักษาโรค อย่างที่หมู่บ้านสีโก่ว บ้านเรือนกว่า 200 หลังถูกทำลาย ปศุสัตว์ เสื้อผ้าและอาหารถูกน้ำพัดพาหายไป นอกจากนี้ยังมีรายงานพบผู้เสียชีวิต 1 ราย

ส่วนในเขตฉีเซียนนั้น คาดการณ์ว่า พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบกว่า 34,000 ไร่ โดยคิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจราว 2,800 ล้านหยวน หรือประมาณ 14,500 ล้านบาท

ส่วนพายุฝนฟ้าคะนองและน้ำท่วมหนักที่เกิดขึ้นใน 6 มณฑลของจีนก่อนหน้านี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 27 รายและสูญหายอีก 2 ราย ขณะที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากกว่า 3,400,00 คน

ผู้สื่อข่าว : ทีมข่าวสปริงนิวส์

จีน เร่งช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมหนัก - Spring News

 

น้ำท่วมฉับพลันในอัฟกานิสถาน ดับอย่างน้อย 58 ราย
8 มิถุนายน 2557 เวลา 13:03 น.



เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ทางตอนเหนือของอัฟกานิสถานเมื่อวานนี้ ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 58 ราย และสูญหายจำนวนมาก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในเขตโกซากาห์อีนัวร์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ โดยประชาชนที่ประสบภัยเปิดเผยว่า พวกเขาหลายคนต้องสูญเสียบ้านไป หลังบ้านเรือน 500 หลังได้รับความเสียหาย ขณะที่มีรายงานพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 58 ราย และอีกหลายร้อยคนได้รับบาดเจ็บ ส่วนประชาชนจำนวนมากยังคงสูญหายจากเหตุภัยพิบัติครั้งนี้ โดยชาวบ้านได้ออกมาเรียกร้องขอให้ทางการเร่งส่งความช่วยเหลือมาให้

ด้านนายอาห์หมัด นาซีร์ โคซาด หัวหน้าหน่วยงานด้านสถานการณ์ฉุกเฉินในจังหวัดปักลานเปิดเผยว่า นับจนถึงขณะนี้ มีครอบครัวกว่า 800 หลังคาเรือนได้รับผลกระทบ และมีการพบเห็นศพผู้เสียชีวิตลอยอยู่ในแม่น้ำ

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีฮามิด คาร์ไซได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ส่งความช่วยเหลือเร่งด่วนไปยังครอบครัวผู้ประสบภัยในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว

ผู้สื่อข่าว : ทีมข่าวสปริงนิวส์

น้ำท่วมฉับพลันในอัฟกานิสถาน ดับอย่างน้อย 58 ราย - Spring News

 

กว่า 500 คนหนีวุ่น กลิ่นคล้ายแก๊สฟุ้ง พื้นที่'อ.บ้านฉาง'
โดย ทีมข่าวภูมิภาค 8 มิ.ย. 2557 08:14



เกิดกลิ่นเหม็นไหม้คล้ายแก๊สรั่ว ส่งกลิ่นรุนแรงในเขต อ.บ้านฉาง จ.ระยอง กลางดึกเด็กและผู้สูงอายุทนไม่ไหว มีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ชาวเร่งอพยพมาจุดรวมพลสนามกีฬา ตรวจสอบในนิคมฯ มาบตาพุดไม่เจอต้นตอ...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 8 มิ.ย. เวลา 01.00 น. ชาวบ้าน ใน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง กว่า 500 คน ทยอย กัน หอบลูก หลาน และของใช้ที่จำเป็นพร้อมด้วยเครื่องนอน ออกจากบ้านที่อยู่อาศัย มานอนกลางสนามหญ้า ในสนามกีฬาเทศบาลเมืองบ้านฉาง อ.บ้านฉาง อย่างทุลักทุเล เนื่องจากได้รับกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง วิงเวียน แน่นหน้าอก แต่ไม่มีผู้ที่ได้รับอันตรายต้องนอน รพ.แต่อย่างใด

โดยนายสำราญ สนั่นดัง กำนันตำบลบ้านฉาง เผยว่า ชาวบ้าน เริ่มได้กลิ่นเหม็นคล้ายแก๊สรั่ว ยาฆ่าหญ้า ยางไหม้ ตั้งแต่ช่วง 21.00 น. ที่ผ่านมา ส่งกลิ่นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเวลา ตีหนึ่ง เด็กและผู้สูงอายุ เริ่มทนไม่ไหว มีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน จึงได้ทยอยอพยพมาที่สนามกีฬา ใช้เป็นจุดรวมพลและศูนย์อพยพ พักพิง กรณีเกิดเหตุการณ์รุนแรง ในพื้นที่ ตามที่เคยมีการซ้อมแผนไว้ โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ชุมชนประชุมมิตร หมู่ 1-2 และหมู่ 4 หมู่บ้านล้อเกวียน หมู่บ้านเติมทรัพย์ ปรีเปรม หมู่บ้านแผ่นดินไทย ต.บ้านฉาง ล้วนเป็นหมู่บ้านจัดสรร อยู่รอบนอก นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย

ด้านนายสุชิน พูลหิรัญ นายกเทศบาลตำบลบ้านฉาง กล่าวว่า กลิ่นเหม็นรุนแรง จนชาวบ้านอยู่ในบ้านกันไม่ได้ ต้องหอบลูกหลาน ออกมาในจุดที่ปลอดภัย ใครมีญาติ อยู่ในจังหวัดระยอง ก็ไปนอนบ้านญาติ ใครที่ไม่มี ก็มานอนที่สนามกีฬา รวมบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้ กว่า 1,000 หลังคาเรือน เพราะ เป็นชุมชนหมู่บ้านจัดสรร หลายโครงการ อยู่กันหนาแน่น ส่วนมาตรการ เบื้องต้น ต้องรอให้กลิ่นลดลง ชาวบ้านก็จะทยอยกลับบ้านเรือนไปเอง ส่วนสาเหตุ และที่มาของกลิ่น ยังไม่สามารถตรวจสอบได้เพราะแต่ละโรงงาน ก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่กลิ่นของตนเอง คงต้องรอผลการตรวจ จากศูนย์เฝ้าระวัง และควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (EMCC) ว่าเป็นกลิ่นมาจากโรงงานใดกันแน่

ขณะที่ นายนิรันดร์ ปรัชญกุล สจ.เขต อ.บ้านฉาง ระยอง กล่าวว่า ผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านได้ไปร่วมตรวจโรงงานกับนายธวัชศักดิ์ เกิดมณี นายช่าง 8 การนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ไปโรงงานที่ชาวบ้านสงสัยว่าจะมีแก๊สรั่ว ถังล้ม ก็ไม่พบแต่ประการใด ก็ต้องสืบสวนว่าเกิดจากอะไรที่ไหน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีชาวบ้านบางส่วน ยังไม่กล้ากลับเข้าบ้าน โดยได้พาครอบครัวลูกหลานปักหลักอยู่รอบสนามฟุตบอลเทศบาลเมืองบ้านฉาง ทั้งปูเสื่อ กางเต็นท์นอนอยู่รอบสนามฟุตบอล นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า มีชาวบ้านบางกลุ่มพากันอพยพไปปักหลักอยู่บริเวณชายทะเลหาดน้ำรินและหาดพยูน อีกด้วย เพื่อหนีกลิ่นเหม็นของสารเคมีหรือแก๊สรั่วดังกล่าว ในขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีชาวบ้านที่สูดดมกลิ่นเหม็นของแก๊สเข้าไป เจ็บป่วยจนถึงขั้นต้องถูกหามส่งโรงพยาบาลแต่อย่างใด.

กว่า 500 คนหนีวุ่น กลิ่นคล้ายแก๊สฟุ้ง พื้นที่'อ.บ้านฉาง' - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

กลิ่นสารเคมีลอยปกคลุมนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ชาวบ้านอพยพออกนอกพื้นที่ เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบหาสาเหตุ ปชช.เริ่มได้รับผลกระทบ แน่นหน้าอก
542833-01



พ.ต.อ. อภิชาต ไชยบุญเรือง ผู้กำกับ สภ.เพ จ.ระยอง เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น . ถึงกรณีเหตุมีกลิ่นสารเคมีฟุ้งกระจายบริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง โดยมีกลิ่นฉุนคล้ายยาฆ่าแมลงลอยเข้ามาบริเวณชุมชนดังกล่าว ส่งผลให้ประชาชนและชาวบ้านต้องอพยพออกมาพักที่บริเวณสนามกีฬาบ้านฉาง ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนก็ยังไม่มีการอพยพออกมา เพราะมีความเป็นห่วงทรัพย์สินของตนขณะที่ล่าสุดกลิ่นเหม็นยังคงไม่จางหาย โดยเจ้าหน้าที่ยังอยู่ในระหว่างการเข้าตรวจสอบหาสาเหตุและที่มาของกลิ่นดัง กล่าว เพื่อที่จะได้เร่งทำการแก้ไขและควบคุมสถานการณ์ต่อไป
กลิ่นสารเคมีที่ระยองยังตลบอบอวล ปชช. เริ่มแน่นหน้าอก

พ.ต.อ. อภิชาติ ไชยบุญเรือง ผกก.สภ.เพ จ.ระยอง เปิดเผยว่า ความคืบหน้ากรณีกลิ่นสารเคมีลอยอย่างรุนแรงในพื้นที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ตั้งแต่เมื่อกลางดึกคืนวานนี้นั้น ล่าสุด ตนเองซึ่งมีบานพักใน อ. บ้านฉาง ยังได้รับกลิ่นดังกล่าวอยู่ โดยความรุนแรงยังไม่ลดลง ซึ่งชาวบ้านส่วนหนึ่งอพยพ มาอยู่ที่สนามกีฬา อ.บ้านฉาง ประชาชนบางส่วนเริ่มได่รับผลกระทบจากกลิ่นดังกล่าวบ้างแล้วโดยบางคนเมื่อสูด ดมกลิ่นดังกล่าวเข้าไป จะมีอาการแน่นหน้าอก หายใจติดขัด ซึ่งในละแวกดังกล่าวมีนิคมอุตสาหรกรมเอเซียตั้งอยู่ แต่ไม่ทราบว่ากลิ่นดังกล่าวลอยมาจากโรงงานไหน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบ เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน
ในละแวกดังกล่าวด้วย

innnews
: มาบตาพุด, ระยอง, สารเคมีรั่ว
ติดต่อทีมข่าว : news@mthai.com

กลิ่นสารเคมีลอยปกคลุม นิคมฯมาบตาพุด-อพยพคน

 

Kaokala Fc ได้แชร์ สถานะ ของ Now TV 26



6 มิ.ย. ตื่นตา!! หาดูยากปรากฎการณ์เมฆ"อาร์คัส"ในเมืองไทย
ตื่นตา!! หาดูยาก "อาร์คัส (เมฆกันชน)" นักถ่ายภาพบันทึกไว้ได้ ที่สนามบินอุดรธานี



คุณ พุทธิพร อินทรสงเคราะห์ สมาชิกชมรมคนรักมวลเมฆ ได้ถ่ายภาพนี้ไว้พร้อมกับบรรยายว่า

เป็นเมฆ "อาร์คัส (เมฆกันชน)" ที่สวยที่สุดที่เคยเก็บภาพได้เลยครับ ตื่นเต้นมาก วิ่งถ่ายภาพอย่างสนุกสนานไม่เกรงเสียงฟ้าคะนองเลย 555 / สถานที่ สนามบินอุดรธานี ศุกร์ที่ 06 June 2014 เวลา 15:35 น.

ถ่ายภาพโดย คุณ พุทธิพร อินทรสงเคราะห์ สำหรับใครสนใจอยากรู้เรื่องราวปรากฏการณ์บนทองฟ้า และภาพสวยๆที่เหล่าสมาชิกเข้ามาเเชร์แบ่งปันกันอย่างต่อเนื่องทุกวันเข้าไปสมัครเป็นสมากชิกกันได้เลยในกลุ่ม ชมรมคนรักมวลเมฆ รับรองมีภาพสวยมาให้ชมทุกวัน

"ข้อมูลเพิ่มเติม จากจส.100"

ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ นักวิชาการจาก สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช.และ ชมรมคนรักมวลเมฆ ให้ความรู้ผ่านจส. 100 ว่า อาร์คัส จะเป็นปฎิกิริยาของเมฆฝน ที่จะมีลักษณะโค้งลงมาใกล้พื้นดิน เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ จะต้องระมัดระวังฟ้าผ่าและลมกระโชกแรง

จากการตรวจสอบ จากเว๊ปไซด์ชมรม คนรักมวลเมฆ พบว่า ปรากฎการ อาร์คัส หรือ เมฆกันชน เคยเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2554 ย่านบางขุนเทียนและคลองสาน

 

Kaokala Fc ได้แชร์ สถานะ ของ Nena Chaisuwan

เมฆที่นครราชสีมา วานนี้ (5 มิ.ย.) เมฆก่อตัว ประหลาด หน้าย่าโม ... วันนี้

 

Kaokala Fc

3 มิ.ย. พบดาวเคราะห์ 'ก็อดซิลลา'



นักวิทยาศาสตร์จัดดาวเคราะห์ยักษ์เข้าจำพวกใหม่ เปรียบเป็น 'ก็อดซิลลา' เมื่อเทียบกับโลกของเรา ชี้เป็นการค้นพบที่เปลี่ยนความเข้าใจเกี่ยวกับกำเนิดของจักรวาล

กล้องโทรทรรศน์อวกาศเคปเลอร์ตรวจพบดาวเคราะห์บริวารดวงหนึ่งของดาวฤกษ์เคปเลอร์-10 ดาวเคราะห์ดวงนี้ ถูกตั้งชื่อว่า เคปเลอร์-10ซี มีพื้นผิวเป็นหินแข็งคล้ายโลก แต่มีมวลมากกว่าโลก 17 เท่า และมีขนาดใหญ่กว่าโลก 2.3 เท่า



ดิมิทาร์ แซสลอฟ ผู้อำนวยการโครงการศึกษากำเนิดสิ่งมีชีวิตของฮาร์วาร์ด บอกว่า เคปเลอร์-10ซี เปรียบเป็นก็อดซิลลาเมื่อเทียบกับโลก

ที่ผ่านมา นักดาราศาสตร์ไม่คาดคิดว่าดาวเคราะห์ที่มีเนื้อเป็นหินจะมีดวงโตถึงขนาดนี้ได้ เพราะดาวเคราะห์ที่มีเส้นรอบวงขนาดนั้นน่าจะสั่งสมก๊าซไฮโดรเจนจนกลายเป็นดาวเคราะห์ก๊าซไป อย่างเช่นดาวพฤหัสบดี

เคปเลอร์เป็นกล้องสำหรับล่าดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะของเรา ตรวจจับและจัดประเภทวัตถุว่าเป็นดาวเคราะห์หรือไม่โดยดูจากการโคจรผ่านหน้าดาวฤกษ์ แต่กล้องตัวนี้ไม่สามารถระบุได้ว่าวัตถุนั้นมีเนื้อสารเป็นหินหรือก๊าซ กล้องที่ตรวจวัดมวลของเคปเลอร์-10ซี คือ กล้องพิเศษตัวหนึ่งที่หมู่เกาะคานารี ทำหน้าที่จัดประเภทว่าวัตถุนั้นอยู่ในจำพวกซูเปอร์-เอิร์ธ หรือมินิ-เนปจูน

ระบบสุริยะของเคปเลอร์-10 อยู่ห่างจากโลก 560 ปีแสง มีอายุ 11,000 ล้านปี ก่อตัวขึ้นหลังจากปรากฏการณ์บิกแบงไม่ถึง 3,000 ล้านปี



พบดาวเคราะห์ ก็อดซิลลา - Voice TV 21

 

ชี้เมฆ "อาร์คัส" ที่อุดรฯ ไม่เกิดขึ้นง่ายๆ แถมยังเกิดผิดฤดู
วันที่ 07 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 18:40:44 น.Tweet



วันที่ 7 มิ.ย.57 พ.ต.ท.รังษี อุดมลาภ อดีตนักบินกองบินตำรวจตระเวนชายแดน และรองประธานชมรมกีฬาการบินอินทรีย์อีสาน เปิดเผยว่า จากปรากฏการณ์ของเมฆที่ตัวเมืองอุดรธานี เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา และมีผู้ถ่ายภาพไปลงในสื่อสังคมออนไลน์ และได้รับความสนใจมากนั้น เป็นกลุ่มเมฆที่ชื่อว่า "คิวมูโนนิมบัส" (CUNULONIMBUS) หรือที่นักบินเรียกสั้นๆ ว่า CB แต่มีอาการเสริมที่เรียกว่า "อาร์คัส" (ARCUS) ที่เห็นในภาพจะเป็นฐานหรือด้านล่างของกลุ่มเมฆ โดยด้านบนจะสูงขึ้นไปอีกเป็นหมื่นฟุต

"เมฆคิวมูโนนิมบัสเป็นเมฆฝน ที่มีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง เกิดลูกเห็บ ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง และฟ้าผ่า เกิดจากแนวอากาศร้อนที่ความชื้น พัดมาปะทะกับอากาศเย็น อากาศเย็นจะยกอากาศร้อนขึ้น จนมีลักษณะเป็นดอกเห็ด ภายในจะมีทั้งลมกดและลมยก ส่วนที่ฐานกลุ่มเมฆจะเป็นลมกด ซึ่งจะไม่ค่อยเกิดขึ้นในช่วงฤดูนี้ และยิ่งเป็นอาการของอาร์คัสก็ไม่เกิดขึ้นง่ายๆ โดยประชาชนที่เมฆเกิดหรือพัดผ่าน ก็จะมีสภาพพายุฝนฟ้าคะนอง"

พ.ต.ท.รังษี กล่าวอีกว่า นักบินรู้ดีว่าจะต้องหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะเครื่องบินที่ไม่มีอุปกรณ์ทันสมัย หากเป็นเครื่องบินเจ็ทก็บินผ่านไปได้ ในอดีตที่ผ่านมากรณีเครื่องบินโดยสาร นำคณะเกจิอาจารย์จากภาคอีสาน เดินทางมาร่วมงานสมโภชน์กรุงเทพมหานคร 200 ปี ก็เกิดมีเมฆลักษณะนี้ที่เกิดขึ้นที่หัวสนามบินดอนเมือง จนเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่มาแล้ว เพราะขณะร่อนลงก็อยู่ใต้ฐาน พบกับลมกดพอดี

ชี้เมฆ "อาร์คัส" ที่อุดรฯ ไม่เกิดขึ้นง่ายๆ แถมยังเกิดผิดฤดู : มติชนออนไลน์

 

โจพุฒิพงศ์ ก้อนวิมล‎เตือนภัยพิบัติ/กู้ภัย(วิชาการ)



ภาพล่าสุด ของรถยนต์จอดกลางกระแสน้ำที่ไหลท่วมสี่แยกในเมืองผิงปา มณฑลกุยโจว จากฝนทร่ตกอย่างหนัก

 

วิดีโอส่วนตัว พิสูจน์น้ำพุร้อนซึ่งปล่อยกระแสน้ำร่วมกับไอน้ำออกมาเป็นระยะๆ ไม่สม่ำเสมอที่เยลโลว์สโตนซึ่งกำลังจะเป็นเรื่องที่น่่าตระหนก โดยไมเคิลใจหาย· 6 มิถุนายน 2014

<iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/XjPo7A5vyFE" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

Breaking! น้ำพุร้อนซึ่งปล่อยกระแสน้ำร่วมกับไอน้ำออกมาเป็นระยะๆ ไม่สม่ำเสมอที่เยลโลว์สโตนได้พ่นออกมา ! เพิ่งเปิดตัววีดีโอ
ความจริงช่องทางสูงกว่าสูงกว่าความจริงช่อง 270 ·วิดีโอ

เผยแพร่เมื่อ 6 มิถุนายน 2014
ไม่มีใครบอกว่าการปะทุเป็นใกล้!

Private Video Proves Yellowstone’s Geysers Are Becoming Frighteningly Active BY MICHAEL · JUNE 6, 2014

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=XjPo7A5vyFE]Breaking! Yellowstone's Geysers Erupting! Just Released Videos! - YouTube[/ame]

Breaking! Yellowstone's Geysers Erupting! Just Released Videos!
Higher Truth Channel Higher Truth Channel·270 videos

Published on Jun 6, 2014
Nobody is saying an eruption is imminent!
Recently released videos of Norris Basin, from last month or two... some scenes cover the Giantess and Steamboat eruptions as those were a surprise and are rare. All the Geyser Fields are eerily active and this will bring chills to those who have frequently visited the park.

น้ำพุร้อนไกเซอร์ (geyser) คือ ลำของน้ำและไอน้ำที่ร้อนจัดพุ่งขึ้นเป็นช่วงๆ อาจสูงได้ถึง 60 เมตร เกิดจากการที่ใต้ผิวโลกมีโพรงกักเก็บน้ำติดต่อกัน เมื่อน้ำได้รับความร้อนจะเกิดแรงดันและเคลื่อนตัวสู่ด้านบนกลายเป็นน้ำพุร้อนไกเซอร์ น้ำใต้ดินจะค่อยๆไหลเข้ามาทดแทน สะสมความร้อน และพุ่งขึ้นมาอีกครั้งสลับกันไป ไกเซอร์พบได้หลายแห่งทั่วโลก เช่น ในสหรัฐอเมริกาแหล่งที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือ ที่ อุทยานเยลโลว์สโตน (Yellow Stone) ในไอซ์แลนด์ ในนิวซีแลนด์

 

เตือนภัย พิบัติโลก





เตือนภัย พิบัติโลก เพิ่ม 2 รูปภาพใหม่
7/6/2014 จะผ่านไปได้อย่างปลอดภัย 100%
ดาวเคราะห์น้อย 2014 HQ124 ที่อาจเป็นอันตรายต่อโลกจะผ่านใกล้โลกในวันที่ 8 มิถุนายน 2014 จากระยะทางประมาณ 777,000 ไมล์ (1,250,000 กิโลเมตร) ห่างไกลกว่าดวงจันทร์ของเรา มากกว่าสามเท่า ข้อมูล NEOWISE ประเมินขนาดดาวเคราะห์น้อย 2014 HQ124 จะอยู่ระหว่าง 800 และ 1,300 ฟุต
ดาวเคราะห์น้อย ถูกค้นพบ 23 เมษายน 2014 โดยภารกิจ NEOWISE นาซ่า, กล้องโทรทรรศน์อวกาศ

A newfound asteroid will safely pass Earth on June 8 from a distance of about 777,000 miles (1.25 million kilometers), more than three times farther away than our moon.

Designated 2014 HQ124, the asteroid was discovered April 23, 2014, by NASA's NEOWISE mission, a space telescope adapted for scouting the skies for asteroids and comets. The telescope sees infrared light, which allows it to pick up the infrared glow of asteroids and obtain better estimates of their true sizes. The NEOWISE data estimate asteroid 2014 HQ124 to be between 800 and 1,300 feet (250 and 400 meters).

"There is zero chance of an impact," said Don Yeomans, manager of NASA's Near-Earth Object Program Office at NASA's Jet Propulsion Laboratory in Pasadena, California. "In fact, it's fairly common for asteroids to pass near Earth. You'd expect an object about the size of 2014 HQ124 to pass this close every few years."

More than one hundred follow-up observations from NASA-funded, ground-based telescopes and amateur astronomers were used to pin down the orbit of the asteroid out to the year 2200, during which time it poses no risk to Earth. Its trajectory will continue to be recalculated past that time frame as additional observations are received.

Yeomans said that 2014 HQ124 is a good target for radar observations using NASA's Deep Space Network antenna at Goldstone, California, and the Arecibo Observatory in Puerto Rico, shortly after the closest approach on June 8. Radar measurements of asteroid distances and velocities often enable computation of asteroid orbits much further into the future than otherwise known.

2014 HQ124 is designated a "potentially hazardous asteroid," or PHA, which refers to those asteroids 460 feet (140 meters) in size or larger that pass within 4.6 million miles (7.4 million kilometers) of Earth's orbit around the sun. There are currently 1,484 known PHAs, but none pose a significant near-term risk of impacting Earth.

"Because NEOWISE is a space telescope observing the dawn and twilight sky at infrared wavelengths, it is particularly good at finding large NEOs that make relatively close passes to Earth," said Amy Mainzer, the principal investigator of NEOWISE at JPL. "Using infrared light, we can estimate the object's size, and we can tell that it reflects a fair amount of light. That means it's most likely a stony object."

NASA detects, tracks and characterizes asteroids and comets passing close to Earth using both ground- and space-based telescopes. The Near-Earth Object Program, commonly called "Spaceguard," discovers these objects, characterizes a subset of them and identifies their orbits to determine if any could be potentially hazardous to our planet. To date, U.S. assets have discovered more than 98 percent of the known near-Earth objects.

Along with the resources NASA puts into understanding asteroids, it also partners with other U.S. government agencies, university-based astronomers, and space science institutes across the country that are working to find, track and understand these objects better, often with grants, interagency transfers and other contracts from NASA. In addition, NASA values the work of numerous highly skilled amateur astronomers, whose accurate observational data helps improve asteroid orbits after they are found.
JPL manages the Near-Earth Object Program Office for NASA's Science Mission Directorate in Washington. JPL is a division of the California Institute of Technology in Pasadena.

More information about asteroids and near-Earth objects is available at: Near-Earth Object Program

 

[ame="http://m.youtube.com/watch?v=cdO9-a_9EiA&layout=tablet&client=mv-google"]?????????????????? ??????1.37??.????????? "????"?????????????????????? - YouTube[/ame]

 

ฝรั่งเตือน!! อาจเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ระดับ 8 ริกเตอร์ขึ้นไป ในวันที่ 11-14 มิถุนายน 2557 นี้ โดนจุดที่ต้องระวังซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขต Ring of Fire

จับตาการเรียงตัวของดาวเคราะห์ช่วงเดือน มิถุนายน พ.ศ.2557ฝรั่งเตือน!! อาจเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ระดับ 8 ริกเตอร์ขึ้นไป ในวันที่ 11-14 มิถุนายน 2557 นี้สัตว์ทะเลหลายๆชนิดกำลังป่วยตาย!!ช่วงวันที่ 6-11 มิถุนายน 2557 ไทยจะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งพายุโซนร้อน “บอริส” จ่อพัดขึ้นฝั่งเม็กซิโก-กัวเตมาลา ซ้ำเติมพื้นที่ภัยพิบัติ “ดินถล่ม” รอยต่อสองประเทศ จับตาการเรียงตัวของดาวเคราะห์ช่วงเดือน มิถุนายน พ.ศ.2557 เพื่อสังเกตการณ์ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในระหว่างดาวเคราะห์เรียงตัวกันนี้
ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขต Ring of Fire คือ ญี่ปุ่น , อะแลสกา , ฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ , เม็กซิโก , เปรู , นิวซีแลนด์ , หมู่เกาะโซโลมอน , วานูอาตู , อินโดนีเซีย , หมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์- รอยเลื่อนสะแกง , ฟิลิปปินส์ และไต้หวัน ซึ่งทั้งหมดนี้มีสิทธิ์ที่จะเกิดได้สูงในระดับ 8 ริกเตอร์.