ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    %2Fwww.bakermckenzie.com%2F-%2Fmedia%2Fimages%2Fnewsroom%2F2019%2F01%2Ffdi2019_bmdotcomopengraph.jpg
    (Jan 15) สงครามการค้า'พ่นพิษเอฟดีไอจีนใน'สหรัฐ-ยุโรป'ทรุด : ข้อมูลเศรษฐกิจจีนหลายตัวที่มีการเปิดเผยล่าสุด ยิ่งทำให้นักลงทุนในตลาดวิตกกังวลหนักว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเข้าสู่ภาวะการชะลอตัวจริงตามที่ คาดการณ์ แม้สำนักงานศุลกากรจีนจะระบุว่า ปริมาณการค้าต่างประเทศของจีน ในปี 2561 ขยายตัว 9.7% ก็ตาม ทำไมจึง เป็นเช่นนั้น ติดตามได้จากรายงาน

    เบเกอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี สำนักงานกฎหมายชื่อดังสัญชาติสหรัฐ ระบุว่า ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ของจีนในอเมริกาเหนือและยุโรปปรับตัวลดลงถึง 73% ในปี 2561 โดยอยู่ที่ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านั้นซึ่งอยู่ที่ 1.11 แสนล้านดอลลาร์

    อย่างไรก็ตาม แม้ไม่นำผลกระทบจากการที่บริษัทเคมไชนา ซื้อกิจการของซินเจนทา ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติสวิสผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเคมีเกษตรและเมล็ดพันธุ์พืช ในวงเงิน 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อปี 2560 มารวม ยอดการ ลงทุนดังกล่าวก็ยังปรับตัวลดลง 40%

    รายงานชิ้นนี้ ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้ยอด เอฟดีไอปรับตัวลดลง เป็นผลจากการที่สหรัฐยกระดับการตรวจสอบข้อตกลงด้านการลงทุน ขณะที่จีนก็มีมาตรการเข้มงวดกวดขันข้อกำหนดด้านการลงทุนในต่างประเทศ

    นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังสะท้อนถึงผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนด้วย โดยเม็ดเงินลงทุนจากจีนในสหรัฐปรับตัวลดลงถึง 83% ส่วนในยุโรป แม้ทั้งภูมิภาคมีเม็ดเงินลงทุนจากจีนลดลง แต่จีนยังคงมีการลงทุนเพิ่มขึ้นในเยอรมนี ฝรั่งเศส และสเปน สวนทางกับแคนาดา ที่ยอดการลงทุนโดยตรงจากจีนในแคนาดาปรับตัวเพิ่มขึ้น 80%

    นอกจากนี้สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ ของจีน ยังออกรายงานคาดการณ์ว่า ยอดขาย ในปีนี้จะอ่อนแรงลง เพราะเศรษฐกิจซบเซาฉุดอุปสงค์ชะลอตัว โดยสมาคมผู้ผลิต ยานยนต์จีน(ซีเอเอเอ็ม) คาดการณ์ว่า ตลาด รถยนต์ของจีนจะซบเซาลงในปี 2562 เนื่องจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวช้าลง อาจทำให้ความต้องการซื้อสินค้าราคาแพงเช่นรถยนต์ ปรับตัวลดลงด้วย

    ซีเอเอเอ็ม คาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ในปี 2562 จะอยู่ที่ 28 ล้านคัน ซึ่งทรงตัวจากปี 2561 ส่วนยอดขายรถบรรทุกอาจปรับตัว ขึ้น 1% เมื่อเทียบรายปีแตะ 4.4 ล้านคัน ขณะที่ ยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ (เอ็นอีวี) คาดว่า จะปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วที่ 33% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 1.6 ล้านคัน

    นายฉือ เจียนหัว รองเลขาธิการซีเอเอเอ็ม คาดว่า การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในตลาดรถยนต์จะเพิ่มขึ้น โดยยอดขายรถยนต์ระดับกลางและระดับไฮเอนด์ รถยนต์เอสยูวี และรถยนต์พลังงานใหม่ มีแนวโน้มขยายตัว ในอัตราที่รวดเร็วขึ้น

    ซีเอเอเอ็ม ระบุว่า ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลปี 2561 อยู่ที่ 22.35 ล้านคัน ลดลง 5.8% เมื่อเทียบรายปี นับเป็นปรับตัวลง ครั้งแรกในรอบ 28 ปี แต่นายฉือ มองว่า ตลาด ยานยนต์ของจีนยังมีสามารถเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากสถิติการครอบครองรถยนต์ในจีนยังคงถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับระดับของประเทศอื่นๆ

    นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเศรษฐกิจที่แม้จะ เป็นข่าวดีสำหรับจีนแต่จะทำให้จีนถูกกดดัน อย่างหนักจากสหรัฐระลอกใหม่ นั่นคือจีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐสูงสุดเป็น ประวัติการณ์ในปี 2561 โดยจีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐในปี 2561 เพิ่มขึ้น 17.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะระดับ 3.233 แสนล้าน ดอลลาร์ ถือเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางปัญหาความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสองประเทศที่ยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้น

    สื่อชั้นนำญี่ปุ่นอย่างสำนักข่าวเกียวโด ระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ อาจใช้ยอดเกินดุลการค้าเป็นข้ออ้างในการกดดันจีนมากกว่านี้ เพื่อลดความไม่สมดุลทางการค้า และดำเนินการกับสิ่งที่ สหรัฐมองว่าเป็นการทำธุรกิจที่ไม่เป็นธรรมกับจีน เช่น การกล่าวหาในเรื่องของการขโมย ทรัพย์สินทางปัญญา

    ในการประชุมเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่กรุงบัวโนสไอเรส ปธน.สหรัฐและจีน ตกลงกันที่จะระงับการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากกันและกันเพิ่มเติม และพยายามที่จะบรรลุการเจรจาประเด็นทรัพย์สินทางปัญญาและเทคโนโลยีให้ได้ภายในระยะเวลา 90 วัน ซึ่งสหรัฐเคยขู่ว่าหากสิ้นสุดช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ ก็จะมีการเรียกเก็บภาษีจากจีนเพิ่มจาก 10% เป็น 25%

    แต่ท่ามกลางข่าวร้ายก็ยังมีข่าวดีให้พอ ชื่นใจ โดยสำนักงานศุลกากรจีน(จีเอซี) รายงานว่า การค้าต่างประเทศของจีนในปี 2561 ขยายตัว 9.7% เทียบรายปี แตะที่ระดับ 30.51 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์)

    จีเอซี ระบุว่า ยอดส่งออกตลอดปี 2561 ขยายตัว 7.1% เทียบรายปี แตะที่ระดับ 16.42 ล้านล้านหยวน ขณะที่ยอดนำเข้าขยายตัว 12.9% แตะที่ 14.09 ล้านล้านหยวน ส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าในปี 2561 ที่ระดับ 2.33 ล้านล้านหยวน ปรับตัวลดลง 18.3%

    แม้ข้อมูลเศรษฐกิจหลายตัวของจีนจะสร้างความวิตกกังวลให้แก่บรรดา นักลงทุนในตลาด แต่นักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญ ต่างคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะยังคงมีเสถียรภาพในปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลจีนได้ออกนโยบายการคลังและ การเงินสนับสนุนเศรษฐกิจ

    นายเฉิง ซงเฉิน นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ซิเคียวริตีส์ เดลี ว่า ต้องให้เวลาแก่นโยบายต่างๆได้ทำหน้าที่สักระยะหนึ่ง พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะมี เสถียรภาพหลังช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 และน่าจะเริ่มอุ่นเครื่องในช่วงครึ่งปีหลัง ของปีนี้

    สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีน ขยายตัว 6.7% เทียบรายปี ในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2561 ซึ่งมากกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ตั้งไว้ที่ประมาณ 6.5%

    นายเฉิง ยังคาดการณ์ว่า ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ ซึ่งครอบคลุมเงินสดหมุนเวียนและเงินฝากทุกประเภท น่าจะดีดตัวขึ้นในปี 2562 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการยกระดับโครงสร้างการลงทุน เร่งการปฏิรูปและยกระดับภาคอุตสาหกรรม และการเติบโตของการบริโภคในภาคบริการ โดยธนาคารกลางจีนระบุว่า ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบขยายตัว 8% เทียบรายปี แตะ 181.32 ล้านล้านหยวน นับจนถึง สิ้นเดือนพ.ย. ปี256 แม้ปริมาณเงินจะทรงตัวในเดือนต.ค. 2561 และลดลง 1.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

    ด้านด้านนายจู เปาเหลียง นักเศรษฐศาสตร์จากศูนย์สารสนเทศแห่งรัฐของจีน (เอสไอซี) ให้ความเห็นว่า โครงสร้าง คุณภาพ และประสิทธิภาพของเศรษฐกิจจีนสะท้อนให้เห็นถึงคืบหน้าอยู่บ้าง ขณะที่ความเสี่ยงทาง การเงินบรรเทาลงไปบ้างแล้ว

    Source: กรุงเทพธุรกิจ

    - Chinese FDI into North America and Europe in 2018 Falls 73% to Six-Year Low of $30 Billion
    https://www.bakermckenzie.com/en/ne...KOwXYT9OwtcLdsWbahcoDLcxjk1bHPPeZ4h_rW-SMRWlQ
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    -4m_OcPd2G2ULbxsNThpmjRBGbPBQvFEqsmF7x83Q2KTqC_HJGXuiBSbgaeYsNWDr_ybURPQ&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.png

    (Jan 15) การเมืองผู้ดีป่วนไม่สิ้นฉุดเบร็กซิตสู่ทาง3แพร่ง : สัปดาห์นี้คงอาจกล่าวได้ว่าเป็น ช่วงเวลาอันบีบคั้นสำหรับอังกฤษที่จะต้องลงมติร่างเบร็กซิตในวันนี้ ขณะที่เส้นตายการต้องออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ก็กระชั้นเข้ามาใกล้ขึ้นทุกทีจนเหลือเวลาอีกไม่ถึง 75 วันในขณะนี้

    แม้ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ของอังกฤษ ตัดสินใจเลื่อนการโหวตร่างเบร็กซิตจากเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้วมาเป็นวันนี้ เพราะเกรงว่าอาจไม่ได้รับเสียงสนับสนุนร่างดังกล่าวเพียงพอ แต่ในการโหวตวันนี้ หลายฝ่ายมองว่าร่างของเมย์ยังไม่มีแนวโน้มจะได้ไฟเขียวจากสภา โดยบีบีซีรายงานว่าสมาชิกพรรคอนุรักษนิยมของเมย์ราว 100 ราย และอีก 10 รายจากพรรคเดโมเครติก ยูเนียนนิสต์ (ดียูพี) ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลไอร์แลนด์เหนือ คาดว่าจะหันไปร่วมมือกับพรรคแรงงานฝ่ายค้าน โหวตคัดค้านร่างเบร็กซิต

    หากผลออกมาว่าร่างเบร็กซิตของเมย์ไม่ผ่านการลงมติ จะเปิดทางให้พรรคแรงงานสามารถจัดการลงมติไม่ไว้วางใจในตัวเมย์ ซึ่งอาจปูทางไปสู่การจัดการเลือกตั้งใหม่ สถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้การเมืองอังกฤษเข้าสู่ความปั่นป่วนยิ่งกว่าในขณะนี้ และไม่ต่างอะไรกับการเหวี่ยงอังกฤษกลับไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ที่ไม่มีอะไรแน่นอน ขณะที่เวลาการเจรจากับอียูกำลังหมดลงทุกที

    การโหวตร่างเบร็กซิตในวันนี้จึงเป็นวันชี้ชะตาสำคัญ ไม่ใช่แค่เฉพาะสำหรับตัวเมย์และรัฐบาลอังกฤษเท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลถึงทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษ อียู และประเทศอื่นๆ ด้วย ซึ่งท่ามกลางความไม่แน่นอนในขณะนี้ สถาน การณ์เบร็กซิตมีแนวโน้มออกมาใน 3 รูปแบบด้วยกัน คือ อังกฤษ-อียูไร้ ข้อตกลง (โน-ดีล) การลงประชามติรอบ 2 และนอร์เวย์ โมเดล

    "โน-ดีล" เป็นสถานการณ์ที่มี แนวโน้มเกิดขึ้นมากที่สุด สะท้อนออกมาการที่รัฐสภาอังกฤษคาดว่าจะปัดตกร่างเบร็กซิต โดยภายใต้ร่างดังกล่าว ประกอบด้วย 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ "ข้อตกลงการถอนตัว" ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงื่อนไขการหย่าขาดกับอียู และ "ความสัมพันธ์ในอนาคต" กับอียู โดยในส่วนที่เป็นปัญหาเรื้อรังมายาวนาน และยังหาทางออกไม่ได้เสียทีอยู่ในส่วนที่สอง ซึ่งหลักๆ เป็นเรื่อง "Backstop" (แบ็กสต็อป) หรือนโยบายรับประกันว่าจะไม่เกิดอุปสรรคเรื่องพรมแดนบนเกาะไอร์แลนด์ หลังช่วงเบร็กซิต

    สำหรับประเด็นแบ็กสต็อปนั้น ล่าสุด สถานีโทรทัศน์อาร์ทีอี รายงานอ้างแหล่งข่าว ทางอียูเตรียมส่งจดหมายชี้แจงความชัดเจนประเด็นดังกล่าว ซึ่งเมย์คาดว่าจะใช้จดหมายนี้ต่อรองหว่านล้อมให้สภาสนับสนุนร่างเบร็กซิต

    อย่างไรก็ดี การชี้แจงความชัดเจนเรื่องแบ็กสต็อปของอียูดูจะยังไม่เพียงพอ เพราะจดหมายดังกล่าวไม่ได้มีผลผูกพันทางกฎหมาย ซึ่งก็หมายความว่าประเด็นเรื่องแบ็กสต็อปคาดว่าจะยังค้างคาต่อไป

    จากสถานการณ์ในขณะนี้ อังกฤษจึงเข้าใกล้สถานการณ์โน-ดีลมากที่สุด ซึ่งผลกระทบจากกรณีโน-ดีลได้สร้างความกังวลต่อภาคธุรกิจอย่างมาก เพราะจะทำให้ต้นทุนการค้าแพงขึ้นจากการที่อังกฤษต้องกลับไปเสียภาษีศุลกากร และการทำธุรกิจเสี่ยงชะงักงันจากความไม่ชัดเจนเรื่องพรมแดน

    จากัวร์ แลนด์ โรเวอร์ บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่สุดในอังกฤษ เป็น รายล่าสุดที่เริ่มได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงเกิดโน-ดีล โดยบริษัทเพิ่งประกาศปรับลดพนักงานทั่วโลกลง 4,500 อัตรา คิดเป็นราว 10% ของพนักงานทั้งหมด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนลดรายจ่าย 2,500 ล้านปอนด์ (ราว 1 แสนล้านบาท) จนถึงปี 2020

    ก่อนหน้านี้ จากัวร์ เปิดเผยว่า กรณีที่อังกฤษไม่สามารถทำข้อตกลงกับอียูได้ กำไรของบริษัทเสี่ยงลดลงถึง 1,200 ล้านปอนด์/ปี (ราว 4.8 หมื่นล้านบาท)

    อย่างไรก็ดี สำหรับฝ่ายหนุน เบร็กซิตอย่างแรงกล้านั้น บางส่วนมองว่ากรณีโน-ดีล คือการปลดแอกอังกฤษออกจากอียูอย่างแท้จริง เพราะอังกฤษจะไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎใดๆ ของอียู ทั้งระเบียบด้านการค้า ศุลกากร และผู้อพยพ

    แม้ว่าภายใต้สถานการณ์โน-ดีล อังกฤษจะสูญเสียข้อตกลงการค้าที่เคยทำไว้กับประเทศต่างๆ ในฐานะสมาชิกอียู แต่ก็เปิดโอกาสให้อังกฤษเดินตามรอย "แคนาดา โมเดล" ในการทำข้อตกลงการค้าระหว่างอียูแบบเดียวกับแคนาดา ภายใต้ชื่อ ข้อตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างอียูและแคนาดา (CETA) ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีอิสระในการทำข้อตกลงการค้ากับประเทศต่างๆ ได้

    สำหรับความเป็นไปได้ต่อมา คือ "การลงประชามติรอบ 2" ซึ่งเป็นแนวทางที่ฝ่ายหนุนอียูพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น และเริ่มได้รับการสนับสนุนมากขึ้นจากชาวอังกฤษ สะท้อนออกมาจากโพลสำรวจล่าสุดของ ยูโกฟ ที่พบว่า 48% ของผู้ตอบแบบสอบถาม มองว่าการออกจากอียูเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด และหากมีการลงประชามติรอบ 2 นั้น 54% มองว่าอังกฤษควรอยู่ในอียูต่อไป

    ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานว่า ล่าสุดบรรดาสมาชิกสภาจากหลายพรรค ทั้งพรรคแรงงาน และพรรคชาติสกอต จำนวน 150-180 ราย กำลังผลักดันความพยายามดังกล่าว และจำนวนผู้สนับสนุนอาจเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 210 ราย ในกรณีที่สภาปัดตกร่าง เบร็กซิตของเมย์ และผู้เป็นกุญแจสำคัญ คือ เจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงาน ซึ่งในกรณีที่คอร์บินสนับสนุน การลงประชามติรอบ 2 มีแนวโน้มเกิดขึ้นได้

    ทว่าในขณะนี้คอร์บินเปิดเผยว่า ต้องการเจรจาดีลเบร็กซิตมากกว่าจะสนับสนุนให้จัดลงประชามติใหม่

    ส่วนความเป็นไปได้สุดท้าย คือ "นอร์เวย์ โมเดล" ซึ่งเป็นความสัมพันธ์กับอียูแบบเดียวกับนอร์เวย์ โดยอังกฤษจะไม่ต้องเป็นสมาชิกอียู แต่ยังสามารถอยู่ในข้อตกลงเขตการค้าเสรีอียูได้ นับเป็นหนทางการออกจาก อียูแบบละมุนละม่อมที่อังกฤษไม่เจ็บตัวมากนัก หรือที่เรียกว่า ซอฟต์ เบร็กซิต

    นอร์เวย์เป็นสมาชิกเขตเศรษฐกิจยุโรป (อีอีเอ) ซึ่งได้สิทธิเข้าถึงตลาดร่วมเกือบทั้งหมด และสามารถกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างอิสระ

    อย่างไรก็ดี ทางเลือกนี้มีความเป็นไปได้น้อย เพราะอังกฤษยังจำเป็นต้องแบ่งงบประมาณมาสมทบในงบประมาณของอียูและเคารพกฎเกณฑ์ของทางสหภาพ ซึ่งรวมถึงกฎการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีด้วย จึงจะสามารถเรียกร้องสิทธิดังกล่าว

    นอกจากนี้ สมาชิกอียูและสมาชิก ที่ได้สิทธิพิเศษในรูปแบบปัจจุบัน คือ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ และสวิตเซอร์แลนด์ ต้องเห็นชอบกับโมเดลดังกล่าว ซึ่งเป็นไปได้ยากแล้วในตอนนี้ เพราะหากจะมุ่งไปโมเดลนี้ต้องมีการเจรจากับทางอียูใหม่ และอียูเองออกตัวมาโดยตลอดว่าจะไม่เจรจาใหม่แล้ว

    ไม่เพียงเท่านั้น นอร์เวย์ โมเดล จะเผชิญเสียงคัดค้านอย่างหนักจากฝ่ายหนุนเบร็กซิต เพราะการยังต้องอยู่ใต้กฎเกณฑ์ของอียู จะไม่ต่างอะไรกับการทำให้กระบวนการเบร็กซิตที่ทำมาทั้งหมดสูญเปล่า

    การโหวตร่างเบร็กซิตในวันนี้จึงเป็นตัวชี้ชะตาปลายทางของเบร็กซิต และอนาคตความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษ อียู และชาติอื่นๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่า สุดท้ายแล้วหนทางที่อังกฤษจะเดินไปจะมุ่งไปในทิศทางไหน

    โดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์

    Source: Posttoday

    เพิ่มเติม
    - คาดเมย์เป็นนายกฯอังกฤษที่พ่ายยับในสภามากสุดรอบเกือบ 100 ปี ขณะเตรียมโหวต Brexit:https://www.ryt9.com/s/iq37/2940829

    - ปอนด์อ่อนค่าเทียบดอลลาร์ ก่อนสภาอังกฤษโหวตชี้ชะตาร่างข้อตกลง Brexit วันนี้
    : https://www.ryt9.com/s/iq21/2940830
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    O_uPMmkgRKFR9tQT5nJt-wmBEW-2iMgTKZUv2butdQhGA2OSgGSrYmDZLQ6tpm5k13KU0qBQ&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.png

    (Jan 15) ยกระดับไทยสู่ 'สังคมไร้เงินสด' : เป็นความชัดเจนที่รัฐบาลตั้งใจจะ ให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ประเทศที่เป็นสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ซึ่งกระทรวงการคลังได้ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกันวางแผนพัฒนาระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ (National e-payment) ซึ่งได้มีการดำเนินการร่วมกันเป็นขั้นเป็นตอน ส่งเสริมให้ทั้งภาครัฐและเอกชน เข้ามาร่วมดำเนินโครงการ

    จากการศึกษาพบว่า ระบบชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-payment) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพของเศรษฐกิจในการแข่งขันระหว่างประเทศ จากการลดต้นทุนที่มาจากธุรกรรมเงินสด และการจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นของรัฐบาล โดยการจัดการบริหารเงินสดนั้นมีค่าใช้จ่ายที่ซ่อนอยู่ เช่น ความเสี่ยงต่อการสูญหาย การขนส่ง การผลิต และการจัดเก็บรักษา

    ธปท.ได้เคยประมาณการว่า ค่าใช้จ่ายในการจัดการเงินสดนั้นอยู่ที่ 4% ถึง 9% ของทุกๆ มูลค่าการซื้อขายซึ่งตามการประมาณการของสมาคมธนาคารไทย e-payment มีความสามารถในการกำจัดต้นทุนที่ไม่จำเป็นเหล่านี้ได้กว่า 1 แสนล้านบาท/ปี เนื่องจากระบบดังกล่าวสามารถลดการผลิตธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ จำกัดความเสี่ยงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงินสด และลดภาระด้านเอกสารในการทำธุรกรรมทางการเงิน

    สมคิด จิรานันตรัตน์ อดีตประธานกรรมการ บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (เคบีทีจี) ผู้เป็นหนึ่งในคณะที่ปรึกษาโครงการพัฒนาระบบการชำระเงิน กล่าวว่า ไทยได้ผ่านขั้นแรกของการเป็นสังคมไร้เงินสดไปแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของภาครัฐที่เป็นการคลังอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบ แต่ภาคประชาชนได้เริ่มไปแล้วแต่ยังต้องทำเพิ่มอีกเพื่อให้ไปสู่เป้าหมาย

    "ระบบพร้อมเพย์เขาทำได้ดี ขณะนี้คนเข้าใจแล้ว แต่ถ้าจะให้ไปถึงจุดที่เป็นแคชเลสโซไซตี้ 100% เราต้องโฟกัสมากกว่านี้รัฐบาลต้องขจัดอุปสรรค ส่งเสริมในเรื่องที่ควรทำ เราต้องมองให้ชัด ถ้าเป็นอุปสรรคอย่าเพิ่งเอาเข้ามา ถ้าเป็นเรื่องส่งเสริมก็รีบทำ จะโปรโมทอะไรทำให้คนเข้ามาใช้บริการมากขึ้น เช่น บอกต้นทุนเงินสดสูง เราบอกว่าต้นทุนให้กับใคร ใครจ่าย ถ้าให้คนใช้

    เงินสดจ่าย คนจะใช้เงินสดน้อยลง แต่ถ้าบอกว่าต้นทุนเงินสด รัฐบาล แบงก์ เป็นคนรับภาระ คนก็จะใช้เงินสดอยู่ ง่ายสุดคือคอนโทรลด้วยนโยบายของต้นทุน" สมคิด กล่าวนอกจากนี้ ถ้าจะทำให้ได้ผลจริงๆ ต้องเกิดความร่วมมือในผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ผู้คุมกฎ ธนาคาร ร้านค้า ผู้ซื้อให้ไปในทางเดียวกัน ให้เกิดความรู้ เกิดความเข้าใจ ว่าสิ่งที่ทำไม่เกิดผลเสีย ร้านค้าที่รับก็ไม่ได้เสียอะไร ไม่กระทบอะไร ได้ประโยชน์ คนซื้อก็ส่งเสริมให้คนอยากใช้มากขึ้น ช่วยให้ต้นทุนต่ำลง มีโปรโมชั่นราคาสินค้า เพื่อให้เขาคุ้นเคยสะดวกสบาย มันต้องมองเป็นระบบ ไม่ใช่แค่บอกว่าผมมีมือถือจ่ายเงินด้วยมือถือคือ Cashless Society

    สมคิด ยกตัวอย่าง ประเทศจีน ที่ประสบความสำเร็จกับการเปลี่ยนไปเป็นสังคมไร้เงินสดอย่างรวดเร็ว เขาใช้วิธีให้รัฐบาลส่งเสริม ทุกร้านค้าเป็นแคชเลสหมด เป็นอาลีเพย์ อาลีแคช รัฐบาลเริ่มโปรโมทเป็นเมืองๆ ปูพรมทำทั้งเมืองจนสำเร็จ ก็จะย้ายไปทำในเมืองอื่นต่อไป รัฐบาลต้องออกมาช่วย มันต้องเคลื่อนไปพร้อมๆ กันเป็นองคาพยพ ต้องมีอินฟราสตรักเจอร์ร้านค้า ของคนซื้อ คนซื้อใครมีโมบายก็ใช้ได้ การสื่อความถึงประโยชน์และโทษที่เกิดจากการใช้ ทำได้ไม่ยากเย็น

    "หากรัฐบาลมุ่งทำอย่างจริงจัง คิดว่าใน 3 ปีจะเห็นประเทศไทยเป็นสังคมไร้เงินสดอย่างสมบูรณ์ อย่าเอาเรื่องอะไรมาขวาง เช่น ภาษี ทำแคชเลสให้เกิดขึ้นใน 3 ปีได้ แล้ว จะเห็นประโยชน์ว่ามันจะลดโครงสร้างต้นทุนมหาศาล แต่ละวันมีเงินสดหมุนเวียนเป็นแสนล้าน ต้นทุนการจัดการมหาศาลเท่าไร ถ้าเราเป็นอย่างนี้ต่อไป อีก 10 ปี เราอาจจะต่อสู้กับประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ หลายประเทศเขาก็ปรับไปเยอะแล้ว" สมคิด กล่าว

    ด้าน ปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า แผนงานด้านการพัฒนาการชำระเงินผ่านพร้อมเพย์ในประเทศใกล้เสร็จสิ้นแล้ว ทั้งพร้อมเพย์ระหว่างบุคคล พร้อมเพย์นิติบุคคล การเรียกชำระเงิน (รีเควสทูเพย์) และการชำระบิล หลังจากนี้จะพัฒนาระบบชำระเงินไทยเชื่อมโยงกับภูมิภาค

    ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ 46 ล้านหมายเลข เป็นการลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชน 30 ล้านหมายเลข และลงทะเบียนโดยหมายเลขโทรศัพท์มือถือ 16 ล้านหมายเลข

    อย่างไรก็ตาม แม้จะมีผู้ลงทะเบียนจำนวนหลายสิบล้าน ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่า ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมไร้เงินสดเมื่อใด แต่เชื่อว่าการผลักดันจากสถาบันการเงิน ที่ยกเลิกค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบนดิจิทัลเป็น 0 บาท จนทำให้ยอดการทำธุรกรรมบนโมบายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในเวลาอันรวดเร็ว จะมีส่วนช่วยทำให้เกิดการลดใช้เงินสดมากขึ้น

    สำหรับแผนงานของสมาคมธนาคารไทย ในการขยายระบบชำระเงินไปใช้ในภูมิภาค ขณะนี้มี 2 โมเดลที่ทำควบคู่กันไป ได้แก่ การเชื่อมโยงผ่านระบบสวิตชิ่งไทยโดยมีไอทีเอ็มเอ็กซ์เป็นเจ้าภาพ และการเชื่อมโยงผ่านธนาคารไทยและธนาคารพันธมิตร (สปอนเซอริ่ง แบงก์) ที่จะทำให้สามารถใช้พร้อมเพย์ชำระเงินในต่างประเทศได้ผ่านคิวอาร์โค้ดมาตรฐาน

    ส่วนพร้อมเพย์นิติบุคคลนั้น แม้ระบบจะพร้อมแล้วและธนาคารกระตุ้นเต็มที่ แต่ธุรกิจโดยเฉพาะเอสเอ็มอียังให้ความสนใจน้อย ซึ่งเป็นเหตุผลส่วนบุคคล ไม่สามารถไปบังคับให้เปลี่ยนพฤติกรรมได้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกของธุรกิจเอง พบว่า ธุรกิจบางรายยังสะดวกที่จะใช้เช็คอยู่ โดยเช็คเป็นต้นทุนสูงของธนาคาร แต่คงไม่สามารถไปปรับขึ้นค่าธรรมเนียมเช็คได้อีก หวังว่าบัญชีเดียวและความสะดวกปลอดภัยจากการชำระเงินผ่านพร้อมเพย์จะทำให้ธุรกิจเปลี่ยนพฤติกรรมมาสู่อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ปัจจุบันมีธุรกิจลงทะเบียนพร้อมเพย์นิติบุคคลประมาณ 1 แสน หมายเลข

    อย่างไรก็ดี จากทิศทางการเข้าสู่สังคมไร้เงินสด จึงมีแนวทางปรับปรุงการให้บริการเครื่องเอทีเอ็มในระบบให้เป็นเอทีเอ็มสีขาว (ไวท์ ลาเบล) ซึ่งเป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นมา 2 ปีกว่าแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย จะพยายามเสนอโมเดลที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ทั้งเจ้าของเครื่องและผู้ใช้เครื่อง คาดว่าจะเริ่มเห็นได้ภายในปี 2562 นี้

    ปรีดี กล่าวว่า ภาคธนาคารพร้อมส่งเสริม การลดใช้เงินสด ไม่ใช่เพื่อประโยชน์แก่ธุรกิจ แต่เป็นประโยชน์กับทุกคน สร้างความสามารถแข่งขันระบบเศรษฐกิจจากต้นทุนต่ำลง จึงเป็นหน้าที่ที่ต้องหาวิธีใหม่ๆ ในการส่งเสริม โดยเฉพาะการพัฒนาบริการทางการเงินใหม่ๆ เข้าไปอยู่ในอีโคซิสเต็ม เช่น แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ที่พ่วงบริการการชำระเงินผ่านช่องทาง ดิจิทัล เพื่อให้สะดวกและง่ายขึ้น แต่ยืนยันว่ายังไม่ใช้วิธีการเก็บค่าธรรมเนียมเงินสดแน่นอน

    โดย ชลลดา อิงศรีสว่าง และ ศุภลักษณ์ เอกกิตติวงษ์

    Source: Posttoday
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    ttps%3A%2F%2Fichef.bbci.co.uk%2Fnews%2F1024%2Fbranded_news%2F4612%2Fproduction%2F_105183971_mayo.jpg

    (Jan 15) เบร็กซิท: ทำไมจึงตกลงกันยากนัก - รัฐสภาอังกฤษมีกำหนดลงมติข้อตกลงเบร็กซิทของนายกรัฐมนตรีเทรีซา เมย์ 15 ม.ค. นี้ หลังจากเลื่อนการลงมติมาจากเดือนที่แล้ว ในวิดีโอนี้ เราพยายามอธิบายว่า ทำไมนักการเมืองของสหราชอาณาจักรจึงตกลงกันยังไม่ได้ในเรื่องเบร็กซิท

    ละครฉากสำคัญกำลังเกิดขึ้น ในสหราชอาณาจักร เมื่อกว่า 2 ปีก่อน ประชาชนลงประชามติถอนตัว ออกจากสหภาพยุโรป แต่จนถึงตอนนี้ ทำไมเรายังไม่รู้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นแน่

    การเจรจาเรื่องนี้เป็นงานยาก ด้วยเหตุผล 4 ประการ

    1. ไม่มีใครเห็นพ้องต้องกัน

    ประชาชนลงประชามติ 52% ต่อ 48% ให้สหราชอาณาจักร ออกจากสหภาพยุโรป แต่บนบัตรลงคะแนน ไม่ได้บอกว่า จะเป็นการออกแบบไหน ทั้งอังกฤษและอียู บรรลุข้อตกลงกันแล้ว แต่จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาสหราชอาณาจักร

    นายกฯ เทรีซา เมย์ ของสหราชอาณาจักร ได้กำหนดวันลงมติไว้ก่อนหน้านี้ แต่ได้เลื่อนออกไป และกำหนดวันลงมติใหม่เป็น 15 ม.ค. เพราะเธอรู้ว่า เธอมีเสียงไม่เพียงพอสำหรับข้อตกลงนี้

    ผู้ไม่เห็นด้วยในพรรคของเธอพยายามขับเธอออกจากพรรคด้วยการลงมติไม่ไว้วางใจ แต่ไม่สำเร็จ

    2. ฮาร์ด หรือ ซอฟต์ เบร็กซิท
    ความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป จะใกล้ชิดกันแค่ไหนหลังเบร็กซิท ยังตกลงกันไม่ได้

    "ฮาร์ด" เบร็กซิท หมายความว่า สหราชอาณาจักร ตัดสัมพันธ์ หลายอย่างกับสหภาพยุโรป

    "ซอฟต์" เบร็กซิท หมายความว่า ยังมีความสัมพันธ์และใช้กฎเกณฑ์ หลายอย่างของสหภาพยุโรปอยู่

    3. การตรวจคนเข้าเมือง...

    นายกฯ อังกฤษต้องการลดจำนวนพลเมืองของสหภาพยุโรปที่เข้ามาในสหราชอาณาจักรได้ หลังจากเบร็กซิท นั่นย่อมส่งผลกระทบต่อ สิทธิของพลเมืองสหราชอาณาจักรที่เดินทางเข้าสหภาพยุโรปเช่นกัน

    4. แผนรับมือที่ไอร์แลนด์เหนือ

    เกาะไอร์แลนด์แบ่งออกเป็นสาธารณรัฐไอร์แลนด์และไอร์แลนด์เหนือ แต่ 2 อาณาเขตนี้ ไม่มีด่านตรวจพรมแดน เช่นเดียวกับ ประเทศส่วนใหญ่ในสหภาพยุโรป ถ้าสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพศุลกากร จะต้องมีการตรวจตราสินค้าที่ผ่านพรมแดน นี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้เบร็กซิท ยังตกลงกันไม่ได้

    การมีพรมแดนที่มีด่านตรวจศุลกากร ทำให้เกิดความหวาดกลัวว่า จะเกิดความแตกแยกและความรุนแรงในไอร์แลนด์เหนือ เช่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

    ไม่มีใครต้องการตั้งด่านกั้นพรมแดน แล้วจะทำอย่างไร?

    ข้อตกลงปัจจุบัน บอกว่า มีช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน เมื่อสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป แต่ต้องยึดกฎของสหภาพยุโรป ขณะที่ปัญหา "กั้นพรมแดน" ยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจ การขาดความชัดเจนสร้างความกังวลต่อคนที่ต่อต้านข้อตกลงนี้

    ถ้าผ่านพ้นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านแล้ว ยังตกลงกันไม่ได้ สิ่งที่เรียกว่า แผนรับมือ หรือ แบ็กสต็อป (backstop) จะเกิดขึ้น

    แบ็กสต็อป หมายถึง การที่สหราชอาณาจักรจะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของ สหภาพศุลกากร จนกว่าทั้งสองฝ่ายจะเห็นชอบร่วมกันว่าให้ยุติลง

    กำหนดวันออกจากสหภาพยุโรปคือ 29 มี.ค. 2019 เวลา 23.00 น ตามเวลาท้องถิ่นของสหราชอาณาจักร

    Source: BBc Thai
    https://www.bbc.com/thai/international-46871487

    - Brexit: Theresa May faces 'meaningful vote' on her deal
    https://www.bbc.com/news/uk-politics-46868194

    - "เทเรซา เมย์"พยายามครั้งสุดท้ายก่อนการลงมติร่าง Brexit
    http://news.ch3thailand.com/abroad/85467

    - สภาอังกฤษโหวตชี้ชะตาเบร็กซิทเช้าวันพุธนี้
    http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/824155

    *******************
    สหภาพยุโรปพร้อมให้คำมั่นสัญญากับ นาง Theresa May ว่า Irish backstop จะถูกนำมาบังคับใช้แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น: สหภาพยุโรปพร้อมจะให้คำมั่นสัญญาทางกฎหมาย หรือ “legal” pledge ต่อ นาง Theresa May นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรว่า หากจำเป็นต้องมีการบังคับใช้ Irish backstop จะเป็นการบังคับใช้แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้นและจะบังคับใช้ในระยะเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยท่าทีดังกล่าวของสหภาพยุโรปเปรียบเสมือนเป็นการช่วยสนับสนุนข้อตกลง Brexit ของ นาง May ให้มีโอกาสมากขึ้นที่จะได้รับการเห็นชอบจากรัฐสภาสหราชอาณาจักรซึ่งจะมีการลงมติในวันอังคารที่ 15 ม.ค. นี้

    นาย Jean-Claude Juncker ประธาน European Commission และ นาย Donald Tusk ประธาน European Council กล่าวย้ำว่า Irish backstop จะถูกนำมาบังคับใช้แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้นและจะรีบหาวิธีการดำเนินงานในรูปแบบอื่นมาใช้ทดแทนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่สหภาพยุโรปไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดของ Irish backstop อย่างที่ทางสหราชอาณาจักรร้องขอ หากเกิดกรณีที่ต้องมีการบังคับใช้ Irish backstop ในท้ายที่สุด

    นาย Geroffrey Cox (Attorney general ของสหราชอาณาจักร) กล่าวว่า จดหมายจากสหภาพยุโรปที่มีการระบุถึงคำมั่นสัญญาดังกล่าว ช่วยสนับสนุนให้มีความมั่นใจต่อข้อตกลง Brexit ของ นาง May มากขึ้น โดยเฉพาะในประเด็นเรื่อง Irish backstop ว่าจะมีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย และแม้ว่าจดหมายดังกล่าวจะไม่ได้เปลี่ยนแปลง “fundamental meaning” ของข้อบังคับในข้อตกลง แต่ตนมองว่า ร่างข้อตกลงฺBrexit ฉบับปัจจุบันของ นาง May เป็นข้อตกลงฉบับเดียวที่มีอยู่จริงและสามารถบังคับใช้ได้จริงในทางปฏิบัติเพื่อตอบโจทย์ความต้องการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร

    Source: BOTSS

    **************************
    นาง Theresa May นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กล่าวเตือนว่า แผนการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรอาจถูกยกเลิก หากข้อตกลง Brexit ฉบับปัจจุบันไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากสภาในการลงมติที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 ม.ค. นี้: นาง Theresa May นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กล่าวเตือนว่า แผนการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) อาจถูกยกเลิก หากข้อตกลง Brexit ฉบับปัจจุบันของตนไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากสภา ซึ่งท่าทีดังกล่าวถือเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะโน้มน้าวให้กลุ่มผู้ที่สนับสนุน Brexit เปลี่ยนท่าทีมาสนับสนุนข้อตกลง Brexit ฉบับปัจจุบัน หลังจากกลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่สนับสนุน Brexit ออกมาเน้นย้ำว่า จะร่วมกันลงคะแนนเสียงคัดค้านร่างข้อตกลง Brexit ฉบับปัจจุบันของ นาง May เพื่อไม่ให้ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการรับรองจากสภา

    นาง Theresa May กล่าวว่า มีบางฝ่ายในสภาสหราชอาณาจักรต้องการจะทำให้กระบวน Brexit มีความล่าช้าออกไปหรือแม้กระทั่งต้องการล้มเลิก Brexit และเมื่อพิจารณาถึงท่าทีของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหราชอาณาจักรในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ทำให้คาดว่าผลลัพธ์สุดท้ายที่เป็นไปได้มากที่สุดคือการหยุดนิ่งของกระบวนรัฐสภา (paralysis in parliament) ซึ่งจะนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะไม่เกิด Brexit ในท้ายที่สุด โดยความล้มเหลวในการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปถือเป็นความหายนะต่อระบอบประชาธิปไตย และการไม่ทำตามผลการลงประชามติ Brexit เมื่อปี 2016 อาจนำไปสู่การเพิ่มความนิยมของกลุ่มการเมืองขวาจัด (far-right populism)

    ด้านตัวแทนจากสเปนได้แสดงความเห็นว่า สหภาพยุโรปอาจตกลงให้สหราชอาณาจักรสามารถเลื่อนกำหนดการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปออกไป แต่อาจจะไม่ยาวนานเกินกว่าช่วงการเลือกตั้ง European Parliament ที่จะมีขึ้นในเดือน พ.ค. นี้

    Source: BOTSS
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    o8Hniavhht4Vs-RLjUP3AfXwGKapES7xmI_bZ5LOi1UM2pe-E10CuAbsnn0Si0taBjmibJUA&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.png
    (Jan 15) นัดเซ็นเอ็มโอยู สิ้นม.ค. ตั้ง'ทีเอ็มบี'แกนรวมกิจการ ปิดดีล'ทีเอ็มบี'ควบ'ธนชาต' : จับตาบิ๊กดีลควบรวม "ทีเอ็มบี-ธนชาต" จบเร็วๆ นี้ วงการเผยจ่อเซ็นเอ็มโอยูสิ้นเดือน ม.ค. โดยหลังควบรวม ยังใช้ชื่อ "ทีเอ็มบี" ขณะบริษัทย่อยของธนชาต เลือกมาเพียงบางกิจการเท่านั้น ยืนยันไม่มีปลด-ลดคน ด้าน ธนชาต ปรับทัพรองรับการควบกิจการ "นักวิเคราะห์" มั่นใจทุกฝ่าย ได้ประโยชน์ เหตุฐานลูกค้าคนละกลุ่ม เชื่อต้นทุนต่ำลงหลังควบรวม

    ดีลการควบรวมกิจการระหว่าง ธนาคารทหารไทย หรือ "ทีเอ็มบี" กับ ธนาคารธนชาต ซึ่งดูเหมือนจะยืดเยื้อออกไปหลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในรายละเอียดปลีกย่อย โดยเฉพาะเรื่องการโอน กิจการของบริษัทลูกของแต่ละธนาคาร แต่ล่าสุดการเจรจาดังกล่าวมีความคืบหน้า ไปอย่างมาก จนล่าสุดได้บรรลุข้อตกลงกันเบื้องต้นและเตรียมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(เอ็มโอยู) ในเร็วๆ นี้

    แหล่งข่าวจากธนาคารทหารไทย กล่าวว่า หลังจากฝ่ายนโยบายและฝ่ายบริหารได้ใช้เวลาในการเจรจาทั้งในแง่หลักการและรายละเอียดของการควบรวมกิจการของ ทั้ง 2 ธนาคารมาระยะหนึ่ง ขณะนี้ ทุกอย่างถือว่าใกล้ได้ข้อยุติ และคาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้ การเจรจาน่าจะเสร็จสิ้น และคงมีการลงนามในเอ็มโอยูเพื่อ ควบรวมกิจการกันได้

    หลังควบยังใช้ชื่อ "ทีเอ็มบี"

    ทั้งนี้ ภายหลังควบรวมกิจการแล้วธนาคารทหารไทย จะเข้ามาบริหารกิจการเพียงรายเดียว โดยยังใช้ชื่อ ธนาคารทหารไทย หรือ ทีเอ็มบี เช่นเดิม ซึ่งหมายความว่า ทีเอ็มบี จะต้องเข้าไปซื้อหุ้นในกิจการของธนาคารธนชาต ขณะที่ในส่วนของบริษัทลูกของธนาคารธนชาต จะเลือกมาในบางกิจการเท่านั้น

    "ดีลการเจรจาควบรวมน่าจะจบเร็วๆนี้ และ ภายในสิ้นเดือนนี้ จะมีการลงนามในสัญญาการควบรวมกิจการ"แหล่งข่าวกล่าว

    สำหรับพนักงานของทั้งสองแห่ง จะไม่มีการปรับลด เนื่องจาก ทั้งสองแห่งก็มีฐานลูกค้าของตัวเองที่แตกต่างกัน

    เร่งปิดดีลก่อนเปลี่ยนรัฐบาล

    ด้านแหล่งข่าววงการการเงิน กล่าวว่า ดีลการควบรวมกิจการระหว่างทีเอ็มบีกับธนาคารธนชาต น่าจะจบลงในเร็วๆ นี้ เนื่องจากรัฐบาลชุดปัจจุบัน ซึ่งมี นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ใกล้หมดวาระ ดังนั้นหากไม่เร่งเจรจาให้เสร็จโดยเร็ว ทาง สโกเทียแบงก์ และผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ อาจต้องนับหนึ่งเจรจากันใหม่

    "หากมีการเปลี่ยนรัฐบาลเกิดขึ้นในระยะข้างหน้า รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของการควบรวมที่อาจจะได้ จากการควบรวมภายใต้รัฐบาลนี้ จึงเป็นเป็นเหตุให้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ อย่างสโกเทีย ต้องเร่งเจรจากับกระทรวงการคลัง และผู้ถือหุ้นรายใหญ่อื่นๆอย่างต่อเนื่อง"

    'ธนชาต'ปรับโครงสร้างรับควบรวม

    นอกจากนี้ มีกระแสข่าวว่า ธนาคารธนชาต ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในใหม่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของธนาคาร ในอนาคต และเพื่อให้เกิดการคล่องตัวทั้งการ ปรับตำแหน่งผู้บริหารสำคัญๆของแบงก์ ที่มีการปรับเปลี่ยนไปบทบาท หรือการขยับตำแหน่งกันภายใน รวมถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของรีเทลแบงกิ้งด้วย ที่ล่าสุดมีการปรับโครงสร้างผู้บริหาร ครั้งใหญ่ เหล่านี้ส่วนหนึ่งก็เพื่อเปิดทางไปสู่การบริหารแบงก์ หลังการควบรวมให้บริหารงานง่ายขึ้นด้วย

    นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า หากมีการควบรวม กิจการเกิดขึ้นจริงระหว่างทีเอ็มบีกับธนาคารธนชาต จะทำให้มีความได้เปรียบจากที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น จากที่ ทีเอ็มบี มีสินทรัพย์ ประมาณ 9 แสนล้านบาท และ ธนาคารธนชาตมีสินทรัพย์ประมาณ 1 ล้านล้านบาท รวมอยู่ที่ 1.9 ล้านบาท ทำให้ขนาดใกล้เคียงกับธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)หรือ BAY ซึ่งอยู่อันดับ 5 ของไทย

    ต้นทุนต่ำลงหลังควบรวม

    รวมทั้งจะทำให้ธนาคารใหม่มีฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น จากการที่ 2 แบงก์นั้นมีฐานลูกค้าที่ต่างกัน โดย ทีเอ็มบี เน้นสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ส่วน ธนาคารธนชาต เน้นสินเชื่อเช่าซื้อเป็นหลักทำให้เกิดประโยชน์ และจะทำให้มีต้นทุนการลงทุนเรื่องระบบไอที เป็นการลงทุนครั้งเดียว ซึ่งหาก 2 แบงก์ต่างคนต่างลงทุนทำให้มีต้นทุน การลงทุนที่สูง แต่หากควบรวมกันจะทำให้มีต้นทุนการลงทุนที่ต่ำลง

    ทั้งนี้บริษัทมองว่าหากมีการควบรวม กันจะเป็นลักษณะการแลกหุ้น เพราะ หากมีการซื้อหุ้น ทีเอ็มบี จะต้องใช้เงินลงทุนที่สูงระดับ แสนล้านบาท จากที่ มูลค่าทางบัญชี (บุ๊กแวลู)ของธนาคารธนชาตอยู่ 1.4 แสนล้านบาท ขณะนี้บริษัทยังคงแนะนำซื้อ ทีเอ็มบี ให้ราคาเป้าหมาย ที่ 2.78 บาทต่อหุ้น เพราะ ปี 2562 เพราะผลการ ดำเนินงานเติบโตที่ดี หากไม่นับรวมกำไรพิเศษเกิดขึ้นปี 2561

    Source: กรุงเทพธุรกิจ
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    MOREMOVE

    #มอร์มูฟเป็นข่าว ปรบมือดังๆ ให้ตัวเอง!! #เมืองไทยไม่สิ้นคนดี เมื่อล่าสุด 'ซีพี ออลล์' เผยแคมเปญ 'ลดวันละถุง คุณทำได้' เพื่อรณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติก (รณรงค์ให้ลูกค้าที่มาซื้อของในร้านเซเว่นฯปฏิเสธไม่รับถุงพลาสติก เพื่อเปลี่ยนเป็นเงิน 20 สตางค์ต่อถุง) โดยสามารถลดการใช้ถุงพลาสติกไปได้ถึง 102,323,402 ใบ มียอดเงินบริจาคสมทบทุนซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้ #โรงพยาบาลศิริราชจากวันที่เริ่มโครงการ 7 ธันวาคม 2561 จนถึงวันที่ 13 มกราคม 2562 คิดเป็นจำนวนมากถึง 20,464,681 บาท!!

    Source : thaiquote - https://bit.ly/2AKvHXq

    โดยเรื่องนี้ นายธานินทร์ บูรณมานิต กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้งร้าน #เซเว่นอีเลฟเว่นในประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า แคมเปญ 'ลดวันละถุง … คุณทำได้' ภายใต้โครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของบริษัท #7GoGreen นี้ ทำให้เห็นถึงความร่วมมือและความตื่นตัวของคนไทยและชาวต่างประเทศเกี่ยวกับกระแสโลกร้อน รวมถึงทุกภาคส่วนที่ให้ความสำคัญในการลดและเลิกใช้ถุงพลาสติก ทำให้ล่าสุด #เพียงหนึ่งเดือนเศษ มียอดลดใช้ถุงพลาสติกถึง 102,323,402 ใบ คิดเป็นยอดเงินบริจาคสมทบทุนซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลศิริราชเป็นเงิน 20,464,681 บาท

    อนึ่ง สำหรับจำนวนถุงพลาสติกที่ลดลงและจำนวนยอดบริจาคสามารถติดตามได้ทุกวัน จากหน้าจอเครื่องรับชำระเงิน, 7APP และแฟนเพจ 7-Eleven Thailand

    "อย่างไรก็ตาม แม้แคมเปญปฏิเสธไม่รับถุงพลาสติกเพื่อเปลี่ยนเป็นเงิน 20 สตางค์ต่อถุง นำไปบริจาคเพื่อสมทบทุนให้โรงพยาบาลศิริราชจะสิ้นสุดในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 แต่แคมเปญลดใช้ถุงพลาสติกจะยังคงดำเนินต่อไปเพื่อให้มีการลดและเลิกใช้ถุงพลาสติกอย่างถาวร #มุ่งหวังสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมให้กับประเทศชาติ ตามปณิธานอันมุ่งมั่นของ ซีพี ออลล์ คือ ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน ที่จะร่วมพัฒนาชุมชนและสังคมควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม" นายธานินทร์ เปิดเผย.

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจนจิรา จันทรเสนา


    " ฝรั่งเศส "
    กลุ่มเสื้อกั๊กเหลือง ต้องการไปยังสถานที่ที่จัดการดีเบตฯ ซึ่ง ปธน มาครง บอกว่ายินดีตอบทุกคำถาม ไม่มีการปิดกั้นใดๆทั้งสิ้น แต่! ห้ามเข้า

    Tendance Ouest
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจนจิรา จันทรเสนา

    เกิดเหตุการณ์กลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง "อัล-ชาบับ" (Al-Shabab) ในเครือข่าย อัล-กออิดะห์ (Al-Qaeda) ซึ่งมีฐานที่มั่นในโซมาเลีย ได้โจมตีโรงแรม Dusit D2 (โรงแรมดุสิต ดี2) เครือดุสิตธานี ในกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา

    สถานทูตไทยที่เคนยาเผยมี 4 พนักงานคนไทยกำลังทำงานในโรงแรมด้วยขณะเกิดเหตุ แต่ทุกคนปลอดภัยค่ะ

    RAW: People are being evacuated following an explosion and gunfire in a Nairobi hotel. Somali terrorist group Al-Shabaab has claimed responsibility for the attack.

    สถานทูตไทย ณ กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา เผยการโจมตีโรงแรม Dusit D2 กลางกรุงไนโรบี ตำรวจกำลังตรวจสอบความเสียหายและจำนวนผู้บาดเจ็บ
    ▪สถานทูตได้ประสานคนไทยที่ทำงานในโรงแรมแล้ว ทุกคนปลอดภัย
    ▪สามารถติดต่อสถานทูตได้ที่หมายเลขฉุกเฉิน :
    +254 799 33 22 43 หรือ
    +254 733 145 145
    ตลอด 24 ชม.
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจนจิรา จันทรเสนา

    บริเวณใกล้ๆกับสถานที่จัดการดีเบตแห่งชาติ มีกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองรวมตัวประท้วงอยู่หลายจุด

    ผู้ประท้วงหลายคนบ่นว่า อยากจะไปนั่งฟังใกล้ๆแค่ที่รอบๆด้านนอกก็ได้ แต่คุณตำรวจบอกว่า.. จะต้องถอดเสื้อกั๊กเหลืองออกก่อนนะ หรือถ้าจะไปยืนตรงทางที่รถท่านปธน.ผ่านเข้าออก ก็ต้องถอดกั๊กเหลือง ไม่งั้นจะจับปรับ!

    Tendance Ouest
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจนจิรา จันทรเสนา

    ด้านในนั้น ปธน.มาครง กำลังดีเบตแบบบ่นๆอยู่ ส่วนภายนอกนั่นเล่า..ตำรวจก็กำลังยิงแก็สน้ำตา ขับไล่กลุ่มพี่ๆเสื้อกั๊กเหลืองและผู้ชุมนุมที่พยายามจะเข้าใกล้และเข้าไปในสถานที่ดีเบตฯค่ะ

    Ouest-France14
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจนจิรา จันทรเสนา

    ภายในสถานที่จัดการดีเบตระดับชาติ ปธน.มาครง เริ่มดีเบตแล้วค่ะ บ่นเรื่องความรุนแรงโน่นนี่นั่นไปมา ยังไม่ค่อยมีสาระสักเท่าไร

    BFMTV
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจนจิรา จันทรเสนา

    กรณีที่จีนพิพากษาโทษประหารชีวิต Robert Schellenberg ชาวแคนาดา

    นายกฯ ทรูโด ออกมาแถลงด้วยความกังวลอย่างสูงสุด ว่า "รัฐบาลจีนมักจะบังคับใช้กฎหมายตามอำเภอใจ โดยเอาแต่อ้างว่าเป็นกฎหมายของประเทศ ทั้งๆที่ขัดต่อหลักปฏิบัติในการคุ้มครองทางการทูตระหว่างประเทศ" และได้เตือนให้ชาวแคนาดาที่อาศัยในจีนระวังตัวอย่างสูงสุด

    ตามปกติแล้ว..เวลาคนใหญ่คนโตระดับนายกฯ ทรูโด ออกมากล่าวหาหรือต่อว่าอะไรกับประเทศไหน ประเทศนั้นก็จะต้องให้คนระดับเดียวกันออกมาตอบโต้ แต่จีน..ไม่ใช่! ที่เห็นๆตอนนี้ ตำแหน่งสูงสุดที่จีนส่งออกมาตอบโต้นายกฯ ทรูโด คือ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน

    ถ้านายกฯทรูโด บอกว่าเรื่องสิทธิคุ้มกันทางการทูต ที่พูดหมายถึงการจับกุมก่อนหน้านี้ งั้นก็แสดงว่า นายกฯทรูโด ยอมรับแล้วว่า อดีตนักการทูตแคนาดาที่ถูกจีนจับ ไม่ได้เป็นอดีตเหมือนดังที่กระทรวง ตปท.แคนาดา แถลงในตอนแรก แต่ตอนนี้ยังเป็นอยู่

    GlobNews
    - jenjira -
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk
    _h1CQZRjWQuahBK_mGyCCGA7-AdguwU3wWifgsGrnEr9nc-uo_KozjP77EPioW_j_4CwaOTw&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg
    13 มกราคม 2019. ก้อนเมฆนูนสีเลือด 'Bloody’ lenticular clouds เหนือ Catalonia, สเปน

    จาก StrangeSounds.org ค่ะ รูปภาพที่น่าทึ่งเพิ่มเติมที่ลิงก์:

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk

    การชนกันในแถบดาวเคราะห์น้อย:
    image.gif
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนักดาราศาสตร์ที่ทำงานกับโครงการ ATLAS ในฮาวาย ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์เป็นดาวเคราะห์น้อย 6478 Gault หินอวกาศแตกหน่อหาง ตอนนี้มันร่อนผ่านแถบดาวเคราะห์น้อยซึ่งทำให้ดูเหมือนเป็นดาวหาง เมื่อวันที่ 9 มกราคม Damian Peach แห่ง Selsey UK ถ่ายภาพ 6478 Gault และหางยาว 400,000 กิโลเมตร:

    "นี่คือลำดับภาพ 60 นาที ซึ่งฉันถ่ายโดยใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาด 20 นิ้ว" Damian Peach กล่าว

    เกิดอะไรขึ้นกับ 6478 Gault เบาะแส อาจพบได้ในเชื้อสายของมัน Asteroid Gault เป็นสมาชิกของตระกูล Phocaea ซึ่งเป็นกลุ่มของหินในแถบดาวเคราะห์น้อยชั้นใน ซึ่งก่อตัวขึ้นจากการชนกันของดาวเคราะห์น้อยระหว่าง 2.2 พันล้านปีก่อน ครอบครัวได้รับชื่อจากผู้รอดชีวิตที่ใหญ่ที่สุดคือ 25 Phocaea ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 75 กม.

    หางของ Gault อาจเป็นผลมาจากการปะทะกันล่าสุด นักวิจัย โครงการ ATLAS ได้ดูภาพของ Gault ในเดือนธันวาคม 2561 และ มกราคม 2562 การคาดการณ์ลักษณะที่ปรากฏย้อนหลังไปในเวลาพวกเขาแนะนำว่า Gault ชนกับวัตถุอื่นในแถบดาวเคราะห์น้อยในเดือนพฤศจิกายน 2561 หากความคิดนั้นถูกต้อง หางจะเป็นเศษซากจากการชน

    Asteroid Gault ถูกค้นพบในปี พศ.2531 โดยนักดาราศาสตร์ชื่อดัง Carolyn และ Eugene Shoemaker ที่ Palomar Observatory ในแคลิฟอร์เนีย ในอีก 30 ปีข้างหน้าหินอวกาศกว้าง 4 กม. ก็สร้างความสนใจเล็กน้อย ตอนนี้นักดาราศาสตร์ทั่วโลกกำลังเฝ้าดู 6478 Gault อย่างกระตือรือร้นเพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป คอยติดตาม
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เกรียน BRN

    K7n3s7FTO6miywhGCgEYtPL2vSK1Ughzzbn4UxfOpvTwWeSPA8u75D-85rpE6L2hdP5DAysA&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.jpg
    #รำลึกถึงครูจูหลิง #เนื่องในวันครูแห่งชาติ แม่พิมพ์ผู้เสียสละโรงเรียนพื้นที่สีแดง

    โรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ ม.4 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ครูหลิง ปงกันมูล เคยสอนและถูกกลุ่มคนร้ายจับกุมและทำร้ายจนเสียชีวิตวันที่ 19 พ.ค.2549

    ครูจูหลิง เสียชีวิตขณะทำหน้าที่เป็นข้าราชการครู ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย โรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส โดยถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายขณะอยู่ในโรงเรียนเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2549 เจ้าหน้าที่สามารถช่วยครูจูหลิง ได้และนำตัวส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่ในที่สุดครูจูหลิง ก็เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 5 ม.ค.2550

    ซึ่งด้วยความที่มีประวัติที่น่าสนใจ และชื่นชอบงานศิลปะตั้งแต่เด็ก โดยได้วาดภาพที่สวยงามหลายภาพ บวกกับประวัติของครูจูหลิงที่ยอมเสียสละความสุขในการทำงานที่ภาคเหนือ ไปทำงานที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยอุดมการณ์จะสอนเด็กนักเรียนไทยโดยไม่เลือกสถานที่ จึงทำให้เธอได้รับการยกย่องให้เป็นผู้ที่เสียสละอย่างยิ่ง

    โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานน้ำหลวงอาบศพและพวงมาลาหน้าศพและทรงรับงานศพของครูจูหลิง ที่จะตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดใน จ.เชียงราย ไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ด้วย กระทั่งวันที่ 16 ม.ค.2550 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในพิธีพระราชทานเพลิงศพครูจูหลิง ณ ฌาปนสถานบ้านปงน้อย หมู่ที่ 10 ต.ปงน้อย ก่อนที่ชาว อ.ดอยหลวง ร่วมกันสร้างหอศิลป์ครูจูหลิงเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีและทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลเป็นประจำทุกปี

    Cr.ศูนย์แม่หลวงปัตตานี ๑๖ มกราคม วันครู ๒๕๖๒
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อาการชัดหนัก มองผู้ก่อการร้ายเป็นทหารของอีกฝ่าย (ปาตานี)

    เกรียน BRN
    4GtZEXetkGBpPBMtKgldmL6ElA6HgDhxX1PVv_lqTz9pJPp_0pLrbhJerqwbntvrmRQVleRQ&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.jpg

    เสียงสะท้อนจาก นักศึกษา ม.อ.ปัตตานี คนหนึ่ง ตรงใจกับกระผมมากครับ หลายคนอาจจะเริ่มฉุกคิด
    ทำไมกันคร้าบบบ

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Global trend 2300
    original.jpg
    จับตากลยุทธ์รัดคอของเพนตากอน
    .......................................................................
    การรักษาผลประโยชน์ของชาติที่แท้จริงนั้นในโลกปัจจุบันไม่ต้องไปเขียนกฎหมายในรัฐสภาให้วุ่นวายและต้องไปหาผู้ปฎิบัติในอนาคต แต่สิ่งที่สำคัญคือการปรับแนวคิดมาสู่การปฎิบัติอย่างต่อเนื่อง มากกว่ารอผลกระทบจากผู้เล่นรายใหญ่ของภูมิภาคแล้วค่อยมาหาทางออก
    รัฐอุกกาบาตส่วนใหญ่จะเจอปัญหานี้ เนื่องจากขาดการดำเนินการปรับเปลี่ยนแนวปฎิบัติด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
    อย่างในปี2019นี้ หากติดตามทีมงานของทรัมป์ได้ปรับปรุงกลยุทธ์ใหม่ต่อการโต้ตอบความสัมพันธ์กับมอสโกและปักกิ่ง ซึ่งเป็นผู้เล่นหลักที่กำหนดดุลยภาพในโลกทั้งด้านการทหาร สันติภาพและเศรษฐกิจ
    หากสังเกตติดตามด้านการทหาร เพนตากอนใช้แนวทางในอดีตในช่วงของสงครามเย็นคือ การต่อสู้ทางการแข่งขันด้านอาวุธ แม้ว่าสหรัฐจะไม่มีหลักประกันดังกล่าวว่าจะได้รับชัยชนะก็ตาม เพราะด้านอาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียง สหรัฐตามหลังรัสเซียอยู่15ปีในขณะนี้
    แต่สหรัฐคาดหวังแค่การทำลายเศรษฐกิจของรัสเซียโดยเชื่อว่าหากสหรัฐออกจากสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง เมื่อนั้นจะทำให้รัสเซียเร่งพัฒนางบประมาณการทหารที่เพิ่มขึ้น ขาดงบประมาณเพียงพอในการพัฒนาเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเมื่อนั้นก็จะเกิดการประท้วงและจลาจลนำไปสู่การเปลี่ยนรัฐบาลที่เพนตากอนสามารถควบคุมได้หรือเจรจาได้ง่ายกว่าปูติน
    ระยะทางที่ประกาศไว้ของพิสัยกลางคือ 480 กม.จริงๆแล้ววอชิงตันต้านไม่อยู่ เลยขอถอนตัวจากสนธิสัญญา เป็นผลจากการเปิดตัวของอาวานการ์ด ซึ่งเพนตากอนจะต้องยอมรับความท้าทายและจะทำงานกับอาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียงและการกระจายทรัพยากรสูงสุดเข้าสู่การแข่งขันดังกล่าว หลังจากหมดความปลอดภัยเชิงกลยุทธ์
    ดังนั้นการแข่งขันอาวุธใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้วพร้อมกับการทำให้ราคาน้ำมันราคาถูกลงคือ40เหรียญต่อบาร์เรลเพื่อที่จะทำให้รัสเซียประสบปัญหางบประมาณ เนื่องจากเพนตากอนมองว่ารัสเซียพึ่งพาวัตถุดิบเป็นหลักซึ่งในส่วนนี้น่าจะมีผลต่อเศรษฐกิจรัสเซียที่น้อยลงในปัจจุบัน
    กล่าวคือ รัสเซียสามารถควบคุมปริมาณการผลิตน้ำมันกับโอเปคและเป็นผู้คุมเกมการผลิตที่สำคัญ เอลริยาดคงไม่ยอมในส่วนนี้เพราะส่งผลโดยตรงทางเศรษฐกิจ
    ในขณะที่ประสบการณ์การคว่ำบาตรอิหร่านก็ไม่ได้พิสูจน์ว่ากลยุทธ์ดังกล่าวนั้นถูกต้อง เพราะอิหร่านสามารถขยายยอดการค้าของตนเองในทะเลสาบแคสเปี่ยนกว่าร้อยละ40และอินเดียตกลงซื้อขายน้ำมันกับอิหร่านโดยเงินรูปีแทนการใช้SWIFT
    ที่สำคัญการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจนั้นเกี่ยวข้องกับการซื้อและโอนเทคโนโลยี่ เมื่อก่อนตะวันตกเป็นผู้ขายหลัก แต่ในปัจจุบันทั้งจีนและเกาหลีใต้เป็นผู้จำหน่ายเทคโนโลยี่
    ในขณะที่รัสเซียเร่งแก้ปัญหาการนำเข้าเทคโนโลยี่โดยตนเองและให้ความสำคัญกลยุทธ์ด้านตะวันออกมากกว่าโดยเฉพาะการควบคุมตลาดพลังงาน อาวุธและอาหารแปรรูป
    นั้นหมายความว่าจะต่อสู้กันด้านเทคโนโลยี่การเพิ่มมูลค่าการแปรรูปและการเพิ่มแรงงานการผลิตซึ่งรัสเซียยังมีปัญหาด้านแรงงานประชากรและความร่วมมือในโครงการระหว่างประเทศของเส้นทางการค้า มันจะถูกยั่วยวนหรือสกัดกั้นเม็ดเงินลงทุนจากสหรัฐและพันธมิตร
    ในขณะที่กลยุทธ์ที่เพนตากอนใช้กับปักกิ่งมีความแตกต่างเนื่องจากจีนไม่ได้เป็นผู้เล่นด้านอาวุธเหมือนรัสเซียจึงไม่ถือเป็นคู่แข่งทางทหารที่จริงจัง
    แต่ในด้านเศรษฐกิจและในด้านความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจสหรัฐให้การยอมรับว่าเป็นอันตราย คือเมื่อก่อนนั้นสหรัฐให้จีนเป็นแค่โรงงานโลกของสินค้าราคาต่ำซึ่งทำตามคำสั่งซื้อของ บริษัทสหรัฐโดยผลิตชิ้นส่วนที่ไม่แพงแต่จีนได้ ทิ้งกลยุทธ์ดังกล่าวไปสู่กลยุทธ์“ Made in China - 2025” ซึ่งมีการจัดสรรทรัพยากรขนาดใหญ่โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรลุความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในหลาย ๆ ด้านที่มีเทคโนโลยีสูงซึ่งสหรัฐไม่ต้องการให้ใครมาเป็นผู้นำนอกจากตนเอง
    สำหรับเรื่องนี้ทำให้การส่งออกสินค้ามีข้อ จำกัด ที่รุนแรงได้ถูกกำหนดในการส่งออกของอุปกรณ์ไฮเทคของยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมจีนหัวเว่ยและ ZTE คือห้ามการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสหรัฐ แม้ว่าจะมีปัญหาในการปรับใช้เครือข่าย 5Gก็ตาม
    กลยุทธ์ที่สองคือOBORซึ่งสหรัฐไม่ชอบมากโดยโครงการนี้
    วอชิงตันเชื่อว่าจะช่วยให้จีนวางแผนการแบ่งงานการทำเส้นทางการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศและระหว่างประเทศ
    นอกจากนี้จีนวางแผนที่จะควบคุมเส้นทางการจัดส่งสำหรับวัตถุดิบที่จำเป็นและตำแหน่งที่ตั้งของวัตถุดิบ สิ่งนี้มีความสำคัญสำหรับประเทศจีน เนื่องจากเมื่อเกิดความตึงเครียดในความสัมพันธ์กับสหรัฐๆสามารถสกัดจีนออกจากทะเลได้อย่างง่ายดาย และในช่วงเวลาสั้น ๆ จีนจะประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
    นอกเหนือจากประโยชน์ของจีนแล้ว OBORยังให้ประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการและเป็นแรงผลักดันใหม่สำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจโลกไม่ใช่เพราะการเติบโตของ GDP ของแต่ละประเทศ
    แต่เนื่องจากการเติบโตของโลจิสติกส์การขนส่งทุกประเทศที่เข้าร่วมซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกเป็นหลักจีน อินเดีย อาเซี่ยนและสหภาพศูลกากรยูเรเชียและการเจรจาสงครามการค้าอาจเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เพนตากอนคิดว่าจะทำสงครามกับทั้ง2ประเทศนี้อย่างไร?ให้ตรงเวลาเพื่อให้บรรลุประโยชน์เศรษฐกิจของสหรัฐที่จีนสามารถยอมรับได้และให้ตนเองนั้นได้เปรียบทางการค้าสูงสุดในการทำธุรกรรม
    หลังจากนั้นเข้าร่วมการแข่งขันทางอาวุธกับรัสเซีย ซึ่งเป็นแนวทางที่เคยนำมาใช้ประสบความสำเร็จในช่วงของสงครามเย็นที่จะทำให้รัสเซียอ่อนแอและจีนก็ไม่สามารถรับภาระดังกล่าวนั้นได้
    รอดูกลยุทธ์ของทรัมป์ที่จะเปิดตัวใหม่เร็วๆนี้ สำหรับรัฐบาลกรุงเทพคงต้องหันมาสนใจโครงการระดับชาติในเทรนดังกล่าวคือการแบ่งงานกันทำกันใหม่ระหว่างประเทศตามOBORและเทคโนโลยี่การเพิ่มมูลค่าแรงงานในอุตสาหกรรมที่เราถนัดในรูปแบบของโครงการระดับทวีปมากยิ่งขึ้น

    น้องตาย่า
    .................
    ภาพจาก http://mtdata.ru/u24/photoF672/20921556952-0/original.jpg
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Global trend 2300
    1.jpg
    การเปลี่ยนภูมิรัฐศาสตร์สู่ตะวันออกปี2019
    ..................................................................
    ในปี 2019 โลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากและจะมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก
    หากเราพิจารณาจากพื้นที่ที่มหาอำนาจแบ่งโลกกันอย่างของสหรัฐมีแค่นาโต้และฐานทัพเรือบนรัฐดาวเทียม
    เนื่องจากปีที่ผ่านมา รัสเซียได้แสดงให้โลกเห็นว่าเป็นผู้เล่นหลักที่ให้หลักประกันสันติภาพแก่โลกได้และปลอดภัยจากการคุกคามใดๆจากสหรัฐในพื้นที่ต่างๆโดยมีอาวุธที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก
    ยิ่งกว่านั้นรัสเซียได้แสดงให้เห็นถึงการเตรียมการฝึกการทหารในระดับสูง
    เมื่อก่อนเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐแต่ละลำ ข่มขวัญคู่ต่อสู้ที่ผ่านมาอย่างที่เรารับรู้คือ
    กลยุทธ์อนาคอนด้า (การตั้งฐานทัพเรือในรัฐดาวเทียมของตนเองและการใช้เรือบรรทุกเครื่องบินลอยกลางมหาสมุทร)ที่เคยได้รับการชื่นชมและต้องการที่จะได้รับหลาย ๆ ประเทศ
    แต่ในปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป
    จากการรายงานของผู้เชี่ยวชาญทางทหารจากสหรัฐในนิตยสาร Business Insider ระบุว่าเรือบรรทุกเครื่องบินดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายประมาณ 4.5 พันล้านเหรียญ(ซึ่งในความเป็นจริงคาดว่า14.5พันล้าน)
    หากเกิดความขัดแย้งทางทหารกับจีนหรือรัสเซีย กองทัพเรือสหรัฐฯอาจกลัวที่จะไม่ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินไปปฏิบัติภารกิจต่อสู้
    เนื่องจากอันตรายจากการทำลายล้างที่มากเกินจากฝ่ายรัสเซียและจีนโดยทั้งจีนและรัสเซียสามารถสร้างขีปนาวุธที่สามารถทำลายเรือดังกล่าวได้อย่างง่ายดายในระยะทางที่ไกลเกินกว่ารัศมีการปฏิบัติการของเครื่องบินที่ใช้ปฎิบัติการได้ของสหรัฐ
    เท่ากับว่าเรือบรรทุกเครื่องบินไม่สามารถปฎิบัติการได้หากมีการโจมตีทางการทหารจีนจะสามารถยิงขีปนาวุธได้ 600 ลูกในระยะทางมากกว่า 1,500 กม.
    ในขณะที่การโจมตีของเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐจะสามารถยิงขีปนาวุธได้ประมาณ 500 ลูกและนี้ยังไม่นับคุณสมบัติของเครื่องบินขนส่งความเร็วสูงที่สามารถติดตั้งขีปนาวุธรุ่นคินจาล สามารถปล่อยได้ในเวลาไม่กี่นาที ที่มีความเร็วเหนือเสียงถึงสิบเท่าก็สามารถเคลื่อนที่ได้ไปยังเป้าหมายเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐจะกลายเป็นเป้าให้รัสเซียทำลายได้ง่ายดายและมีต้นทุนที่ต่ำกว่าหลายสิบเท่า
    ยังไม่รวมอวานการ์ดที่ประจำการกองทัพในปีนี้ หากมีความขัดแย้งระดับโลกจะถูกทำลายได้ง่ายโดยประสิทธิภาพการทำลายล้าง 100% เหมือนกับเพิร์ลฮาร์เบอร์
    การโจมตีอย่างง่ายดายสร้างการสูญเสียเรือบรรทุกเครื่องบินๆจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมแห่งชาติ ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อได้ว่าต่อไปเรือบรรทุกเครื่องบินจะไม่นำมาใช้ในการทำสงครามต่อไปอาจเป็นได้แค่สถานที่ท่องเที่ยวในอนาคต
    ในขณะที่หนี้สาธารณะของสหรัฐ21 ล้านล้านเหรียญ ระดับความสามารถในการผลิตสินค้าสามารถประกันโดยเงินได้แค่ร้อยละ 70ที่เหลือเป็นกระดาษเงินที่ซื้อสินค้าและทรัพยากรจากประเทศอื่น ๆ
    ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญอิสระมีความคิดเห็นที่แตกต่างว่าสหรัฐมีปริมาณเงินจริงๆแค่ 30% ของปริมาณเงินซึ่งถูกพิมพ์และนำมาใช้ในการหมุนเวียนทั่วโลกนั้นมาจากผลิตภัณฑ์จริงที่ผลิตในสหรัฐ
    ที่เหลือคือเศษกระดาษทำให้ท่วมตลาดการเงินๆทั้งหมดเติมไปด้วยหุ้นปลอมซึ่งไม่มีการผลิตจริงและสินค้าจริงๆและส่งออกวิกฤติตลาดหุ้น การเงินไปประเทศต่างๆ
    วุฒิสมาชิกและสมาชิกสภาคองเกรสพยายามที่จะแก้ไขด้วยทองคำสำรอง
    แต่สหรัฐไม่ยอมให้ใครเข้าไปในห้องใต้ดินที่สามารถแสดงปริมาณทองคำที่ระบบสำรองของรัฐบาลกลาง
    สหรัฐถูกกล่าวหาว่าไม่มีทองคำสำรองหลายประเทศหมดหวังกับทองคำของตนเองซึ่งเก็บไว้ในสหรัฐ
    แตกต่างจากรัสเซียว่ามีเศรษฐกิจที่มั่นคงสำหรับสิ่งที่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกสถานะผู้นำของรัสเซียในฐานะอาวุธและนโยบายต่างประเทศและนโยบายร่วมกับจีน
    หากติดตามดูนโยบายอย่างใกล้ชิดในสถานการณ์นี้มีนาโต้และรัฐดาวเทียมของสหรัฐที่เหลือในแผนที่โลกเป็นรัสเซียและจีนเท่านั้นที่ครอบครองครึ่งโลก และถ้าหากนับอินเดียอิหร่านซีเรียและประเทศอื่น ๆ เป็นจำนวนมากก็อาจสงสัยในอำนาจและอิทธิพลทั้งหมดของสหรัฐที่มี
    นอกจากนั้นการทำสงครามการค้าของสหรัฐต่อจีนที่เราเห็นตัวเลขที่เกิดปัญหาดัชนี S & P 500 ร่วงลง 6% ตลาดหุ้นจีนสูญเสีย 2 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2018และอยู่ในแนวโน้มขาลง
    การชะลอการเติบโตจีดีพีของสหรัฐ ๆประสบกับความสูญเสียมากขึ้นในสงครามการค้าที่พวกเขาเพิ่งเริ่มต้นและมีความสามารถในการป้องกันเศรษฐกิจตนเองลดลง
    ในขณะที่อาวุธนิวเคลียร์ไม่เพียงมีแต่ สหรัฐ รัสเซีย, จีน, เกาหลีเหนือ, อิสราเอล อังกฤษ ฝรั่งเศส, อินเดีย, อิหร่านและปากีสถาน นั่นคือความอันตรายอย่างมากสำหรับสหรัฐ การเงินของสหรัฐเต็มไปด้วยหนี้เกินกว่าสี่เท่าของจำนวนเงินทั้งหมดในโลก
    สิ่งนี้แสดงให้เห็นจากความล้มเหลวทั้งในต่างประเทศและในนโยบายภายในประเทศของสหรัฐที่มีต้นทุนที่แพงเกินไปที่จะจ่ายค่าอิทธิพลของตนเองส่งผลให้ต้องออกจากตะวันออกกลาง
    และนี้อาจเป็นเหตุผลอย่างหนึ่งที่ทำให้รัฐอุกกาบาตไม่ใช่การถ่วงดุลแบบเดิมๆเพราะมีต้นทุนที่สูงทางเศรษฐกิจและคุ้มครองตนเองไม่ได้อีกต่อไป

    น้องตาย่า
    .................
    ภาพจาก http://ru-an.info/Photo/QNews/n72293/1.jpg
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หนาวทารุณ! เด็กทยอยตายคาค่ายลี้ภัย – แม่เผาตัวหนีชีวิตนรกบนดิน วันที่ 15 มกราคม 2562 - 22:52 น.
    snowstormSNOW-STORM-1-696x464.jpg
    ค่ายผู้ลี้ภัยซีเรียในเลบานอน / www.middleeastmonitor.com
    เด็กน้อยหนาวตายแล้ว 15 ชีวิต กลางทะเลทราย “นรกบนดิน” ซีเรีย
    เด็กน้อยหนาวตายแล้ว – วันที่ 15 ม.ค. เอเอฟพีรายงานว่า จากการเปิดเผยขององค์การยูนิเซฟ หรือ กองทุนเด็กแห่งสหประชาชาติ ถึงชะตาเด็กผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่เผชิญสภาพอากาศหนาวเหน็บและขาดแคลนยารักษาโรค ว่ามี 15 รายเสียชีวิตแล้วในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ ส่วนใหญ่อยู่ในค่ายรุกบัน

    ข้อมูลดังกล่าวตรงกับการเกิดเหตุการณ์สะเทือนใจที่หญิงชาวซีเรียจุดไฟในเต็นท์ของค่ายลี้ภัยรุกบัน เพื่อจบชีวิตตนเองและลูกๆ เนื่องจากทนสภาพความทรมานจากความหนาวเย็นและอดอยากไร้อาหารไม่ได้อีก หญิงสาวถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล อาการสาหัส เช่นเดียวกับลูกอายุ 1 ขวบ ส่วนลูกอีกสองคนไม่เป็นอันตราย

    rukban2.jpg
    แม่เด็กเผาเต็นท์หวังฆ่าตัวตายพร้อมลูก / DPA
    เว็บไซต์ข่าว เดอะเนชันแนล ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รายงานว่า เหตุเศร้าสลดใจดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ม.ค. ในค่ายรุกบัน ติดพรมแดนประเทศจอร์แดน บริเวณนี้ได้ชื่อว่า นรกบนดิน ผู้หนีภัยสงครามมา 60,000 คน ต้องอยู่อย่างเคว้งคว้างกลางทะเลทราย คนกลุ่มนี้ถูกสกัดอยู่บริเวณดังกล่าว เพราะเข้าพรมแดนจอร์แดนไม่ได้ ส่วนหน่วยงานบรรเทาทุกข์เข้าไปช่วยได้ไม่บ่อยนัก ต้องรอให้รัฐบาลซีเรียเปิดทาง



    นายโมฮัมเหม็ด อัล-ชาร์คห์ สามีของผู้ตาย กล่าวอย่างเศร้าสลดว่า ภรรยา อายุ 28 ปี ชื่อ นางซุนดุส ฟาตาฮัลเลาะห์ พวกตนมาจากเมืองพัลไมรา ในจังหวัดฮอมส์ ภรรยาพยายามเผาตัวเองและลูกๆ เพราะทรมานกับชีวิตต่อไปไม่ไหว

    “สิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวผมคือตัวอย่างของความสิ้นหวัง ความยากจนและความอดอยากจนตาย ผมเองก็เหนื่อยล้าเต็มทีแล้วกับสถานการณ์นี้” นายโมฮัมเหม็ดกล่าว

    rukban1-696x432.jpg
    ค่ายรุกบัน / DPA
    นายเกิร์ต แคปเปแลร์ หัวหน้าส่วนภูมิภาคของยูนิเซฟ กล่าวว่า ในจำนวนเด็กที่หนาวตายไป 15 รายนั้น 8 คน เสียชีวิตในค่ายรุกบัน ส่วนอีก 7 รายเสียชีวิตกลางทางระหว่างลี้ภัยจากเมืองฮาจิน ภาคตะวันออก และเป็นฐานของนักรบจิฮัดที่สู้รบอย่างหนักกับกองกำลังที่นำโดยกลุ่มชาวเคิร์ด และมีทัพสหรัฐหนุนหลัง


    [​IMG]
    อายุของเด็กที่เสียชีวิต ส่วนใหญ่อายุน้อยกว่า 4 เดือน และที่อายุน้อยที่สุดคือเด็กที่เพิ่งคลอดออกมาเพียงหนึ่งชั่วโมง

    ส่วนที่ค่ายผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย ที่เมืองอาร์ซาล ในเขตประเทศเลบานอน ยูเอ็นเอชซีอาร์ แจ้งว่า ผู้ลี้ภัยกว่า 50,000 คนเสี่ยงภาวะน้ำท่วมจากหิมะที่ถล่มลงมา


    https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_2092001
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จ่อคุก 30 ปี-ถูกเฆี่ยนด้วย ดช.มาเลย์วัย 14 ทำพี่สาวแท้ๆวัย 16 ท้อง! วันที่ 16 มกราคม 2562 - 02:02 น.
    %E0%B8%94%E0%B8%8A-696x392.jpg
    จ่อคุก 30 ปี-ถูกเฆี่ยนด้วย ดช.มาเลย์วัย 14 ทำพี่สาวแท้ๆวัย 16 ท้อง!
    จ่อคุก 30 ปี-ถูกเฆี่ยนด้วย – วันที่ 15 ม.ค. มิร์เรอร์ รายงานว่า ตำรวจมาเลเซียควบคุมเด็กนักเรียนชายวัย 14 ปี ที่ไม่มีการเปิดเผยชื่อ-นามสกุล หลังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพี่สาวแท้ๆ วัย 16 ปี จนเธอตั้งครรภ์และคลอดลูกที่บ้านในชนบทของรัฐเปรัก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ

    รายงานระบุว่า พี่สาวของเด็กชายวัย 14 ปี ให้กำเนิดทารกเพศหญิงในห้องน้ำของบ้านตัวเอง ทารกได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะเนื่องจากกระแทกกับโถส้วมขณะที่เจ้าตัวนั่งส้วม

    0_PAY-AsiaWire-IncestConfession-01.jpg
    ASIAWIRE
    สำหรับบรรยากาศรอบศาลรัฐเปรัก เด็กชายวัย 14 สวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ และใช้ฝ่ามือปิดหน้าตัวเองขณะเดินทางมาฟังการพิจารณาคดีพร้อมสมาชิกในครอบครัว


    [​IMG]
    นอกจากนี้ มีผู้หญิงคนหนึ่งที่คาดว่าเป็นญาติพี่น้องตะโกนใส่ช่างภาพผู้สื่อข่าวที่พยายามถ่ายภาพเด็กชายที่มีความสัมพันธ์ทางเพศกับพี่สาวของเขา

    0_PAY-AsiaWire-IncestConfession-02.jpg
    ASIAWIRE
    เด็กชายให้การต่อศาลว่า ร่วมประเวณีระหว่างสายเลือดเดียวกันจริง ความผิดดังกล่าวมีโทษจำคุก 30 ปี และถูกเฆี่ยน ตามกฎหมายมาเลเซีย

    ผู้พิพากษาพิเคราะห์ว่า เด็กชายวัย 14 ปี ไม่ทราบว่าพี่สาวท้องจนคลอดทารกในบ้าน และสั่งเลื่อนการพิจารณาคดีจนถึงเดือนหน้า เพื่อให้นักสังคมสงเคราะห์จัดทำรายงานคดีให้ครบถ้วน พร้อมสั่งห้ามผู้สื่อข่าวเข้ามาฟังระหว่างการพิจารณาคดีด้วย

    https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_2092520
     

แชร์หน้านี้

Loading...