ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Watchers


    #Space #Mars

    // ดาวอังคารอาจมีออกซิเจน เพียงพอต่อสิ่งมีชีวิต //


    29/10/18

    ก่อนหน้านี้มีข้อมูลว่าพบแหล่งน้ำบนดาวอังคาร ทว่าจนแล้วจนรอดก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัดว่ามีน้ำจริงๆหรือเป็นของเหลวชนิดใด แต่เมื่อเร็วๆนี้นักฟิสิกส์เชิงทฤษฎีจากศูนย์ทดลองเครื่องยนต์ขับดันด้วยไอพ่น (Jet Propulsion Laboratory : JPL) หน่วยงานย่อยขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือองค์การนาซา ได้รายงานลงวารสารธรณีศาสตร์ เนเจอร์ จีโอไซเอนซ์ (Nature Geoscience) ว่า บนดาวอังคารมีปริมาณออกซิเจนที่น่าจะเพียงพอต่อการสนับสนุนให้สิ่งมีชีวิตดำรงอยู่ได้


    หลังจากหุ่นยานยนต์คิวริออสซิตี้ มาร์ส โรเวอร์ (Curiosity Mars Rover) สำรวจพบแมงกานีสออกไซด์ซึ่งเป็นสารเคมีที่สามารถผลิตได้เฉพาะกับกลุ่มออกซิเจน และพบน้ำเกลือ (brine) เป็นน้ำที่มีความเข้มข้นของเกลือสูงมากอยู่ใต้ผิวดาวอังคาร ซึ่งจะทำให้มีออกซิเจนเพียงพอต่อสิ่งมีชีวิตเล็กๆ อย่างจุลินทรีย์ หรือสัตว์หลายเซลล์อย่างฟองน้ำใช้หายใจ เนื่อง จากปริมาณน้ำเกลือเข้มข้นสูงจะช่วยให้น้ำยังคงสภาพเป็นของเหลว อันเป็นสภาวะที่จำเป็นสำหรับการละลายของออกซิเจนในอุณหภูมิที่ต่ำกว่ามาก ซึ่งทำให้จุลินทรีย์อยู่ได้อย่างสบายๆ


    นักฟิสิกส์เชิงทฤษฎีเผยว่า นี่เป็นการปฏิวัติความเข้าใจเกี่ยวกับความสามารถในการดำรงชีวิตบนดาวอังคารทั้งในปัจจุบันและในอดีต อย่างไรก็ตาม ผลของการศึกษานี้ไม่ได้หมายความจะว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวอังคาร แต่ชี้ให้เห็นว่าสภาพความเป็นอยู่ของดาวอังคารได้รับผลกระทบจากศักยภาพการละลายของออกซิเจนนั่นเอง.

    เครดิต : thairath

    Via:#Watchers


     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Watchers


    #Space

    // ค้นพบกระจุกดาราจักรใหญ่ (#supercluster) ที่ก่อตัวยุคต้นจักรวาล //


    30/10/18

    มีสิ่งต่างๆมากมายดำรงอยู่ในที่อันมืดมิดในจักรวาลกว้างใหญ่ และท้าทายให้นักดาราศาสตร์ค้นคว้าหาคำตอบ ล่าสุดนักวิจัยจากหอสังเกตการณ์ฟิสิกส์ดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์อวกาศในเมืองโบโลญญาแห่งอิตาลี เผยการค้นพบกระจุกดาราจักรหรือกระจุกกาแล็กซี (supercluster) ขนาดมหึมาตั้งอยู่ในกลุ่มดาวเซกซ์แทนต์ (Sextans) เป็นกลุ่มดาวขนาดเล็กตั้งอยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตรฟ้าโดยค่อนไปทางใต้และไม่ส่องสว่างมากนัก


    กระจุกกาแล็กซีขนาดยักษ์นี้ซ่อนตัวอยู่ในจักรวาลมานาน นักวิจัยได้ตั้งชื่อเล่นว่ากระจุกกาแล็กซีไฮพีเรียน (Hyperion) โดยสำรวจพบจากปรากฏการณ์เรดชิฟท์ (redshifts) อันเป็นปรากฏการณ์การเปลี่ยนความยาวคลื่นของคลื่นแสงซึ่งขยับเคลื่อนไปทางแถบสีแดง นักวิจัยพบว่ากระจุกกาแล็กซีไฮพีเรียนมีความเก่าแก่และก่อตัวขึ้นเมื่อยุคต้นจักรวาล ในช่วงเวลา 2,300 ล้านปีหลังจากเกิดเหตุการณ์บิ๊กแบง (Big Bang) คือการระเบิดครั้งใหญ่ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการกำเนิดเอกภพหรือจักรวาลเมื่อ 13,700 ล้านปีที่แล้ว


    นอกจากนี้ ยังพบว่ามวลในกระจุกกาแล็กซีไฮพีเรียนมีการกระจายตัวกันอย่างสม่ำเสมอมาก และเมื่อเวลาผ่านไปกระจุกกาแล็กซีไฮพีเรียนอาจมีวิวัฒนาการกลายไปเป็นบางสิ่งบางอย่างที่น่าจะคล้ายกับกระจุกกาแล็กซีเวอร์โก (Virgo Supercluster) หรือกระจุกกาแล็กซีหญิงสาว ซึ่งกาแล็กซีทางช้างเผือกของเราเองก็เป็นสมาชิกในกระจุกกาแล็กซีหญิงสาวแห่งนี้.

    #watchers


     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ศาสตราจารย์ผู้สอนวิชาศัลยกรรม ประจำคณะแพทยศาสตร์แห่งอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน ของสหราชอาณาจักร เผยถึงข้อสังเกตที่น่าตกใจว่า นักศึกษาที่ฝึกฝนเพื่อเป็นศัลยแพทย์ในปัจจุบัน ขาดทักษะการใช้มือทำงานที่ประณีตเป็นอย่างมาก จนน่าเป็นห่วงถึงระดับความชำนาญของศัลยแพทย์รุ่นใหม่ เมื่อต้องลงมือผ่าตัดหรือเย็บแผลให้กับคนไข้


    ศ. นพ. โรเจอร์ นีโบน ระบุว่า คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่มีประสบการณ์ด้านงานฝีมือน้อยมาก และมักจะประสบความยากลำบากเมื่อทำงานที่ต้องลงมือปฏิบัติจริงโดยใช้ทักษะทางกายภาพ ซึ่งปัญหานี้เป็นผลมาจากการใช้ชีวิตอยู่หน้าจอโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์มากเกินไป


    "นี่เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน มิฉะนั้นเราอาจจะได้นักศึกษาแพทย์ที่มีผลการเรียนดีเยี่ยมและเกรดสูง แต่ผ่าตัดหรือเย็บแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่เป็นเลยก็ได้" ศ. นพ. นีโบน กล่าว


    "ในอดีตเราอาจจะเชื่อมั่นได้ว่า ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนแพทย์มาแล้ว จะต้องทำงานหัตถการทางการแพทย์ได้อย่างชำนาญคล่องแคล่วระดับหนึ่ง แต่ในปัจจุบันเรื่องนี้ไม่มีความแน่นอนอีกต่อไป"


    ศ. นพ. นีโบน ยังกล่าวว่า ตลอดช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา เขาและเพื่อนร่วมงานสังเกตเห็นทักษะการใช้มือทำงานของบรรดานักศึกษาศัลยแพทย์ลดต่ำลงเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นปัญหาต่อการประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ต้องอาศัยทักษะฝีมือมากพอ ๆ กับความรู้ทางวิชาการ


    "เรื่องนี้เป็นปัญหาต่อเนื่องมาจากวิธีการเลี้ยงดูและให้การศึกษากับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ซึ่งพวกเขาขาดการเรียนรู้ที่รอบด้าน โดยในหลักสูตรมีวิชาศิลปะและงานประดิษฐ์สร้างสรรค์อยู่น้อยเกินไป ทำให้ขาดโอกาสฝึกทักษะการใช้มือของตนเอง"


    "หลายสิ่งในชีวิตสมัยใหม่ถูกย่อส่วนลงให้เหลือเพียงการเลื่อนหน้าจอสองมิติเท่านั้น ซึ่งเท่ากับปิดกั้นไม่ให้คนรุ่นใหม่มีประสบการณ์หยิบจับหรือสัมผัสของจริง ทำให้นักศึกษาแพทย์พลอยมีความสามารถและความมั่นใจในการใช้มือทำงานลดน้อยลงไปด้วย"


    "อันที่จริงการเลี้ยงดูในครอบครัวจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้เช่นกัน โดยให้เด็กพัฒนาทักษะการใช้มือให้มากขึ้นที่บ้าน ผ่านการตัดหรือเย็บผ้า ชั่วตวงวัดวัตถุดิบเพื่อทำอาหาร ซ่อมแซมสิ่งของที่เสียหาย ฝึกทำงานไม้ง่าย ๆ หรือฝึกใช้เครื่องมือต่าง ๆ " ศ. นพ. นีโบนกล่าวทิ้งท้าย


     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Bank of Thailand Scholarship Students


    (Oct 30) ดาวโจนส์พุ่งกว่า 200 จุด ขานรับผลประกอบการสดใส จับตาซัมมิตทรัมป์-สีจิ้นผิง: ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันนี้ ขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ในเดือนหน้า


    ณ เวลา 20.57 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,657.83 จุด เพิ่มขึ้น 214.91 จุด หรือ 0.88%

    ถึงแม้ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นในวันนี้ แต่ก็ยังคงดิ่งลง 7.3% ในเดือนนี้ ซึ่งจะทำให้เดือนต.ค.ปีนี้มีแนวโน้มปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในรอบกว่า 8 ปี


    หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์พุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก

    อันเดอร์ อาร์เมอร์ ผู้ผลิตเครื่องกีฬาและเสื้อผ้ากีฬารายใหญ่ของสหรัฐ รายงานตัวเลขกำไร และรายได้ประจำไตรมาส 3 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยบริษัทมีกำไร 25 เซนต์/หุ้น ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 12 เซนต์/หุ้น นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 1.44 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.42 พันล้านดอลลาร์


    บริษัทโคคา โคล่า เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไร และรายได้ในไตรมาส 3 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยบริษัทมีกำไรที่ระดับ 58 เซนต์/หุ้น ขณะที่มีรายได้ 8.25 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า บริษัทจะมีกำไรที่ระดับ 55 เซนต์/หุ้น และมีรายได้ 8.17 พันล้านดอลลาร์


    กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ระบุว่า จีนกำลังทำการติดต่อสหรัฐเพื่อจัดการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นอกรอบการประชุม G20 ในเดือนหน้า


    หากการประชุมสุดยอดระหว่างปธน.ทรัมป์และปธน.สี จิ้นผิงเกิดขึ้นจริง ก็จะถือเป็นการพบปะกันระหว่างผู้นำทั้งสองเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การประชุมที่กรุงปักกิ่งในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว


    ทั้งนี้ การประชุม G20 มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.

    ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาคิดว่าสหรัฐจะสามารถทำข้อตกลงทางการค้าครั้งใหญ่กับจีน แต่เขาก็เตือนว่าสหรัฐพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีอีกหลายแสนล้านดอลลาร์ต่อสินค้าจีน หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับจีน


    ขณะนี้ สหรัฐได้เรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนในวงเงิน 2.50 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐในวงเงิน 1.10 แสนล้านดอลลาร์


    "และผมก็เตรียมเก็บภาษีสินค้าจีนในวงเงินอีก 2.67 แสนล้านดอลลาร์ ถ้าเราไม่สามารถบรรลุข้อตกลง" ปธน.ทรัมป์กล่าว

    สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สหรัฐกำลังเตรียมเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่ หากการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงประสบความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างกัน


    ทั้งนี้ สหรัฐอาจประกาศเรียกเก็บภาษีรอบใหม่ต่อสินค้านำเข้าทั้งหมดจากจีนอย่างเร็วที่สุดในเดือนธ.ค. โดยสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าที่เหลือของจีนที่ยังไม่ถูกเก็บภาษีก่อนหน้านี้ โดยการเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนรอบใหม่จะคิดเป็นมูลค่า 2.67 แสนล้านดอลลาร์


    การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้เริ่มต้นในช่วงกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยสำนักงานตัวแทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้ประกาศรายการสินค้าจำนวน 1,100 รายการของจีนที่ต้องถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% คิดเป็นวงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยสินค้าล็อตแรกจำนวน 818 รายการ วงเงิน 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนการเรียกเก็บภาษีสินค้าล็อตที่ 2 วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์มีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 ส.ค. ซึ่งจีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์เช่นกัน


    ในวันที่ 17 ก.ย. ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนครั้งใหม่ในวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ โดยเรียกเก็บในอัตรา 10% ซึ่งได้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 ก.ย. และจากนั้นจะเพิ่มเป็น 25% ตั้งแต่ช่วงต้นปีหน้า ขณะที่รัฐบาลจีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐในอัตรา 5-10% คิดเป็นวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 ก.ย.เช่นกัน


    ต่อมา ปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า เขาจะเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ ถ้าหากจีนได้ทำการตอบโต้ต่อการเรียกเก็บภาษีก่อนหน้านี้ของสหรัฐ


    ทั้งนี้ หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนครั้งใหม่ในวงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ นอกเหนือจากที่เรียกเก็บภาษีสินค้าวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ และ 2 แสนล้านดอลลาร์ก่อนหน้านี้ ก็เท่ากับว่าสหรัฐได้เรียกเก็บภาษีต่อสินค้าทั้งหมดที่จีนส่งเข้าไปยังสหรัฐ โดยข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า จีนได้ส่งออกสินค้าวงเงิน 5.05 แสนล้านดอลลาร์เข้าสู่สหรัฐในปีที่แล้ว


    ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ เตือนนักลงทุนว่า ถ้าพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งกลางเทอมในวันที่ 6 พ.ย. ก็จะส่งผลให้ตลาดหุ้นทรุดตัวลง


    "ตลาดหุ้นได้พุ่งขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่ขณะนี้กำลังชะลอตัวลง โดยผู้คนกำลังรอดูผลการเลือกตั้งกลางเทอม ซึ่งถ้าคุณอยากให้หุ้นของคุณตก ผมก็ขอแนะนำให้คุณลงคะแนนเสียงเลือกพรรคเดโมแครต เพราะพวกเขาชอบรูปแบบทางการเงินของเวเนซุเอลา โดยเก็บภาษีสูง และเปิดชายแดน" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ


    คำกล่าวของปธน.ทรัมป์สอดคล้องกับคำเตือนของนายมาร์ค โมเบียส ประธานกรรมการบริหาร เทมเพิลตัน อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ตส์ กรุ๊ป และผู้ก่อตั้งบริษัทโมเบียส แคปิตัล พาร์ทเนอร์ส ที่ระบุว่า ตลาดหุ้นจะทรุดตัวลงมากขึ้น หากพรรครีพับลิกันพ่ายแพ้การเลือกตั้งกลางเทอมในสัปดาห์หน้า


    "ถ้าหากพรรคเดโมแครตสามารถเข้าควบคุมสภาคองเกรส ผมเชื่อว่านี่จะเป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ตลาดมีการปรับฐานรุนแรงขึ้น" นายโมเบียสกล่าว


    นายโมเบียสยังระบุว่า สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ภาวะซบเซาในตลาด ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 6% ในเดือนนี้

    ทางด้านนักวิเคราะห์เปิดเผยว่า การทรุดตัวของตลาดหุ้นในเดือนนี้มีสาเหตุมาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ และการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน


    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ


    - U.S. stocks ride higher on trade optimism: https://www.reuters.com/article/us-usa-stocks/u-s-stocks-ride-higher-on-trade-optimism-idUSKCN1N41IS
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Bank of Thailand Scholarship Students


    (Oct 31) ทรัมป์เตรียมใช้ อำนาจ executive order เพื่อยุติสิทธิในการถือสัญชาติอเมริกันโดยอัตโนมัติสำหรับผู้ที่เกิดในประเทศสหรัฐฯ : สำนักพิมพ์ The Wall Street Journal รายงานว่า ประธานาธิบดี Trump เตรียมที่จะใช้อำนาจ executive order เพื่อยุติสิทธิในการถือสัญชาติอเมริกันโดยอัตโนมัติสำหรับผู้ที่เกิดในประเทศ ตอกย้ำท่าทีที่แข็งกร้าวในนโยบายด้านผู้อพยพก่อนหน้าการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือน พ.ย. นี้


    ทั้งนี้ ประธานาธิบดี Trump ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว Axios โดยกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวกำลังอยู่ในกระบวนการพิจารณา ซึ่งจะเกิดขึ้นด้วยการใช้อำนาจ executive order โดยตนได้หารือกับที่ปรึกษาด้านกฎหมาย และยืนยันว่าตนมีอำนาจในการใช้ executive order


    อย่างไรก็ดี นาง Laura K. Donohue, ผู้ทรงคุณวุฒิอาวุโสของ the Georgetown Center for the Constitution ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ประธานาธิบดี Trump ไม่สามารถใช้อำนาจ executive order ในเรื่องดังกล่าวได้ เนื่องจากสิทธิในการถือสัญชาติอเมริกันสำหรับผู้ที่เกิดในประเทศถูกคุ้มครองโดยร่างแก้ไขบทบัญญัติฉบับที่ 14 (the 14th Amendment) ซึ่งระบุว่า “All persons born or naturalized in the United States, and subject to the jurisdiction thereof, are citizens of the United States and of the State wherein they reside.”


    ขณะเดียวกัน นาง Sarah Sanders, โฆษกประจำทำเนียบขาว ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม โดยกล่าวแต่เพียงว่าจะแจ้งให้ทราบเมื่อทางทำเนียบขาวมีการประกาศในเรื่องดังกล่าว


    Source: BOTSS


    - Trump claims he can defy Constitution and end birthright citizenship: https://edition.cnn.com/2018/10/30/politics/donald-trump-ending-birthright-citizenship/index.html


    -Trump wants to sign an order to end birthright citizenship, setting up a likely constitutional battle: https://www.cnbc.com/2018/10/30/trump-plans-to-terminate-birthright-citizenship.html
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Bank of Thailand Scholarship Students


    (Oct 30) Update: ประธานาธิบดี Trump ทวีตข้อความกล่าวถึงการปรับตัวลดลงอย่างมากของดัชนีตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ในตลอดช่วงเดือนนี้ ว่าเป็นเพียงการหยุดพักเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนกำลังจับตารอดูผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ โดยตลาดหลักทรัพย์ได้ปรับตัวสูงขึ้นมากนับตั้งแต่ตนได้เริ่มเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี


    นอกจากนี้ ประธานาธิบดี Trump ยังได้กล่าวว่า หากต้องการให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลง ตนแนะนำให้ลงคะแนนเสียงเลือกพรรค Democrat ซึ่งชื่นชอบโมเดลทางการเงินของประเทศ Venezuela ที่มีการจัดเก็บภาษีที่สูงและมีนโยบายเปิดชายแดน


    ขณะเดียวกัน นาย Larry Kudlow, White House economic advisor ได้ออกมากล่าวโทษเรื่องการเมืองที่ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง ซึ่งไม่ได้เกิดจากนโยบายด้านการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมกับกล่าวว่า นักลงทุนกังวลว่า หากพรรค Democrat ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งกลางเทอมฯ จะดำเนินการยกเลิกนโยบายด้านเศรษฐกิจของประธานาธิบดี Trump ซึ่งทุกภาคส่วนของธุรกิจไม่ต้องการให้มีการยกเลิกนโยบายการลดภาษีที่รัฐบาลได้ดำเนินไปแล้ว


    Source: BoTSS


    เพิ่มเติม

    - Dow rallies more than 400 points in bounce as brutal October nears a close: https://www.cnbc.com/2018/10/30/sto...oint-to-triple-digit-gains-amid-earnings.html

    **************

    ทรัมป์ท้านักลงทุนให้เลือกพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้ง 6 พ.ย. ถ้าอยากให้หุ้นตก:


    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ เตือนนักลงทุนว่า ถ้าพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งกลางเทอมในวันที่ 6 พ.ย. ก็จะส่งผลให้ตลาดหุ้นทรุดตัวลง


    "ตลาดหุ้นได้พุ่งขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่ขณะนี้กำลังชะลอตัวลง โดยผู้คนกำลังรอดูผลการเลือกตั้งกลางเทอม ซึ่งถ้าคุณอยากให้หุ้นของคุณตก ผมก็ขอแนะนำให้คุณลงคะแนนเสียงเลือกพรรคเดโมแครต เพราะพวกเขาชอบรูปแบบทางการเงินของเวเนซุเอลา โดยเก็บภาษีสูง และเปิดชายแดน" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ


    คำกล่าวของปธน.ทรัมป์สอดคล้องกับคำเตือนของนายมาร์ค โมเบียส ประธานกรรมการบริหาร เทมเพิลตัน อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ตส์ กรุ๊ป และผู้ก่อตั้งบริษัทโมเบียส แคปิตัล พาร์ทเนอร์ส ที่ระบุว่า ตลาดหุ้นจะทรุดตัวลงมากขึ้น หากพรรครีพับลิกันพ่ายแพ้การเลือกตั้งกลางเทอมในสัปดาห์หน้า


    "ถ้าหากพรรคเดโมแครตสามารถเข้าควบคุมสภาคองเกรส ผมเชื่อว่านี่จะเป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ตลาดมีการปรับฐานรุนแรงขึ้น" นายโมเบียสกล่าว


    นายโมเบียสยังระบุว่า สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ภาวะซบเซาในตลาด ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 6% ในเดือนนี้

    ทางด้านนักวิเคราะห์เปิดเผยว่า การทรุดตัวของตลาดหุ้นในเดือนนี้มีสาเหตุมาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ และการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน


    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ


    - Trump: 'If you want your stocks to go down, I strongly suggest voting Democrat' :

    https://www.cnbc.com/2018/10/30/tru...-down-i-strongly-suggest-voting-democrat.html
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Bank of Thailand Scholarship Students


    (Oct 30 ) เอกชนสหรัฐหนีจีน- ผลสำรวจพบเอกชนอเมริกัน 70% เล็งหนีจีน เลี่ยงพิษศึกค้า เตรียมมุ่งหน้าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้



    หอการค้าอเมริกันในเขตจีนตอนใต้ เปิดเผยผลสำรวจว่า บริษัทเอกชนอเมริกันที่มีธุรกิจอยู่ในภาคใต้ของจีนมากกว่า 70% กำลังพิจารณาเลื่อนหรือยกเลิกการลงทุนในจีน และพิจารณาย้ายการผลิตบางส่วนหรือทั้งหมดออกจากจีน เนื่องจากสงครามการค้ากัดกร่อนผลประกอบการ โดยส่วนใหญ่มีแผนย้ายมาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้



    ผลสำรวจบริษัท 219 แห่ง โดย 1 ใน 3 เป็นบริษัทในภาคการผลิต พบว่าบริษัทอเมริกัน 64% พิจารณาย้ายสายการผลิตออกจากจีน แต่มีเพียง 1% ที่จะย้ายไปอเมริกาเหนือ



    ทั้งนี้ หอการค้าอเมริกันในจีนใต้ จัดทำผลสำรวจระหว่างวันที่ 21 ก.ย.-10 ต.ค. ไม่นานหลังสหรัฐใช้มาตรการกำแพงภาษีสินค้าจีน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.63 ล้านล้านบาท) ซึ่งปักกิ่งได้ตอบโต้ด้วยการตั้งกำแพงภาษี 6 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 1.99 ล้านล้านบาท)



    ปัญหาที่เอกชนวิตกมากที่สุดคือ ต้นทุนสินค้าแพงขึ้น ซึ่งฉุดผลประกอบการ ทั้งยังมีความกังวลเรื่องกระบวนการทำธุรกิจที่ยากลำบากขึ้น และยอดขายลดลง ขณะที่เอกชนเกือบครึ่งหนึ่งระบุว่า มีอุปสรรคอื่นนอกเหนือจากกำแพงภาษีด้วย ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบเข้มงวดขึ้น และได้รับการอนุมัติจากศุลกากรช้าลง


    Source: Posttoday


    - Most US firms operating in China plan to move business out of country

    https://www.thenational.ae/business...plan-to-move-business-out-of-country-1.785525


    เพิ่มเติม

    - จีนเผยกำลังติดต่อสหรัฐปูทางประชุมซัมมิตทรัมป์-สีจิ้นผิงนอกรอบประชุม G20

    : https://www.ryt9.com/s/iq38/2907232
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    MOREMOVE


    #มอร์มูฟเป็นข่าว เอาจริงเอาจังทันยุคตามสมัยสุดๆ เมื่อ 'คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ คุรุสภา' มีมติให้ #ทบทวนโทษการประพฤติจรรยาบรรณครูให้ทันยุคดิจิทัล จ่อเพิ่มโทษโพสต์โซเชียลฯในทางลามก-ถ้อยคำหยาบคาย-สื่อความนัยด้านชู้สาว-สร้างความเสื่อมเสีย-หาผลประโยชน์ในทางมิชอบ #ชี้ทำผิดโทษตามลำดับ ซึ่งมีตั้งแต่ตักเตือน ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน พักใช้ใบอนุญาตฯ และเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ!!


    Source : thaiquote - https://bit.ly/2PzhW6i


    โดยเรื่องนี้ รศ.เอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) คุรุสภา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมมีมติให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณต่อวิชาชีพไปทบทวนจรรยาบรรณวิชาชีพให้มีความทันต่อยุคดิจิทัล ซึ่งปัจจุบันพบว่า #ครูและบุคลากรทางการศึกษามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมผ่านโซเชียลจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ อาทิ โพสต์ข้อความด้วยถ้อยคำที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อวิชาชีพ ข้อความหยาบคาย ด่าทอผู้อื่น ลามก หรือข้อความที่มีนัยเชิงชูสาว หรือกระทั่งข้อความที่เป็นการแสวงหาผลประโยชน์จากหน้าที่โดยมิชอบ #ที่ผ่านมาไม่ได้มีระบุโทษไว้ชัดเจน


    "ทาง กมว.จะเข้าไปดูแลเรื่องเหล่านี้ #โดยจะระบุจรรยาบรรณทางโซเชียลรวมถึงระบุโทษให้ชัดเจน ซึ่งมีตั้งแต่ตักเตือน ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน พักใช้ใบอนุญาตฯ และเพิกถอนใบอนุญาตฯ" รศ.เอกชัย กล่าว.


     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    IMG_4390.JPG IMG_4391.JPG IMG_4392.JPG

    ถนนถูกตัด #CinqueTerre ในอิตาลี 30 ตุลาคม Via Nice Meteo


     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ก็แค่เย็นๆ

    SpringNews


    กทม.หนาวแล้ววววว❄❄


    วันนี้ถึง 2 พ.ย. 2561 กทม.จะมีอากาศเย็นกับลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาฯ ขณะที่ภาคเหนืออุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 15-19 องศาฯ สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-9 องศาฯ


    อ่านต่อ ---> https://www.springnews.co.th/thailand/374331?sp=


     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    La nueva era de la tierra - respaldo


    #URGENTE


    ทหารจากสหรัฐฯไปชายแดนกับเม็กซิโก

    10-30-2018 #DIFUNDAN


     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    El despertar a un nuevo mundo 2





    การคาดคะเนยืนยันได้ว่ากิจกรรมแสงอาทิตย์จะลดลงอย่างมากในรอบ 15 ปี


    ได้ชี้ให้เห็นว่ากิจกรรมแสงอาทิตย์จะลดลง 60% ระหว่าง 2030 ถึง 2040 ซึ่งหมายความว่าใน 15 ปีที่ดินสามารถเข้าสู่สิ่งที่นักวิจัยได้ เรียกว่ายุคน้ำแข็งมินิ
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    La nueva era de la tierra - respaldo


    แม่น้ำ Pave ของภาคเหนือของอิตาลีเพิ่มขึ้นระดับ 10 เมตร น่ากลัว


    ทั้งก่อนและหลัง ...


     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    La nueva era de la tierra - respaldo

    IMG_4393.JPG

    ประเทศเกาะมีประสบการณ์เกิดแผ่นดินไหวประมาณ 500 ครั้งต่อสัปดาห์ และมีการเกิดแผ่นดินไหวหลายแห่งที่เชื่อมโยงกับภูเขาไฟด้วย


    ในขณะที่การสั่นสะเทือนส่วนใหญ่มีขนาดเล็กตำแหน่งของไอซ์แลนด์บนพรมแดนระหว่างทวีปเอเชียและทวีปอเมริกา เหนือแผ่นเปลือกโลกหมายความว่า "การค่อยๆแยกออกจากกัน" และส่งผลให้พื้นที่ในเขตแผ่นดินไหวใต้ไอซ์แลนด์ อาจเป็นเพราะ "Great One"


     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Gossipสาสุข


    มหากาพย์โรงพยาบาลขาดทุน ปัญหาอยู่ตรงไหน แล้วใครทำให้ขาดทุน ?





    หนึ่งในเรื่องร้อนที่ถกเถียงกันในกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ไม่ต่ำกว่า 5-6 ปีที่ผ่านมา ก็คือปัญหา “โรงพยาบาลขาดทุน”



    เหตุผลหลักๆ หนีไม่พ้นการระบุว่า “หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” ซึ่งบริหารโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) คือเบื้องหลังของการขาดทุน



    เพราะอัตรา “เหมาจ่ายรายหัว” ไม่สมดุลกับจำนวนผู้ป่วยจริง ซ้ำยังเป็นผู้กำหนดทั้งกฎเกณฑ์งบการรักษา วิธีการรักษา และที่สำคัญ “ชักดาบ” เงิน ไม่จ่ายให้โรงพยาบาล



    อย่างไรก็ตาม หากจะจัดการเรื่อง “โรงพยาบาลขาดทุน” ต้องเริ่มจากคำถามก่อนว่า โรงพยาบาลขาดทุนจริงหรือไม่ ขาดทุนกี่โรงพยาบาล และขาดทุนเพราะอะไร



    1.มีโรงพยาบาลขาดทุนจริงหรือไม่ - แน่นอน นี่เป็นข้อเท็จจริง เนื่องจากที่ตัวเลขโรงพยาบาลบางแห่ง ติดลบ จากงบประมาณที่ สธ. และ สปสช. จัดสรรให้



    -ข้อนี้ทั้งกลุ่ม ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์กรรมาธิการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติ รวมถึง นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ อดีตปลัด สธ. บอกว่า เป็นเพราะ งบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าไปไม่ถึงโรงพยาบาล ไม่สอดคล้องกับจำนวนผู้ป่วยจริง โดยระบุว่าไปกองอยู่ที่ “กองทุนย่อย” ของ สปสช. ทำให้โรงพยาบาลมีเงินไม่พอ จนกลายเป็นหนี้ตัวแดง



    (หมายเหตุ ในเรื่องกองทุนย่อยนี้ ปัจจุบันได้ข้อยุติจากทั้ง 2 ฝั่งคือ สธ.และ สปสช. ว่าจำเป็นต้องมี เพราะการมีกองทุนย่อยเพื่อให้โรงพยาบาลไม่ต้องแบกรับในโรคราคาแพง โรคที่ต้องมีการจัดการภาพรวม และโรคที่ยังมีปัญหาการเข้าถึงจนทำให้เกิดผู้ป่วยสะสมจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น มะเร็ง หลอดเลือดสมอง ยาที่จำเป็นและมีปัญหาการเข้าถึง ธาลัสซีเมีย เป็นต้น ซึ่งจะทำให้โรงพยาบาลแห่งเดียวไม่ต้องแบกรับภาระนี้ แต่มีกองทุนย่อยมารับแทน)



    -ที่ผ่านมา มีความพยายามให้งบเหมาจ่ายรายหัวจาก สปสช. ไปอยู่ที่ “เขตบริการสุขภาพ” ให้เขตกระจายเงินกันเอง เพื่อให้ช่วยโรงพยาบาลที่ติดลบมาก



    -แต่ข้อเสนอดังกล่าวก็ไม่สำเร็จ การกระจายงบลงเขตสุขภาพ กลายเป็นข้อเสนอ “เขตสุขภาพเพื่อประชาชน” ให้สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ดูแล และยังไม่เห็นดอกผลที่ประสบความสำเร็จจนทุกวันนี้



    2.โรงพยาบาลขาดทุนกี่โรงพยาบาล



    -ยังไม่มีตัวเลขโรงพยาบาลขาดทุนที่ชัดเจน ปี 2560 มีการเปิดเผยตัวเลขผ่าน สำนักข่าว Thaipublica ว่า โรงพยาบาลรัฐวิกฤต ขาดทุนติดลบ 558 แห่ง รวม 12,700 ล้านบาท



    -แต่กองเศรษฐกิจสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ สำนักงานปลัด สธ. กลับยืนยันหลังจากนั้นว่า ภาพรวมของหน่วยบริการสังกัดกระทรวงฯ ไม่ขาดทุน และปัจจุบันยังมีแนวโน้มขาดทุนลดลง จาก 2 ปัจจัยหลัก คือ งบประมาณจัดสรรไม่เพียงพอ และประสิทธิภาพการบริหารของโรงพยาบาล



    -ข้อมูลล่าสุดจาก นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ.ระบุว่า รพ.ที่มีวิกฤติการเงินรุนแรงลดลงไปร้อยละ 90 จาก 136 แห่งในปี 2558 เหลือ 13 แห่งในปี 2561



    3.แล้วสรุปโรงพยาบาลขาดทุน เพราะอะไร?



    -ข้อเขียนเดียวกันจากกองเศรษฐกิจสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ สำนักงานปลัด สธ. ยังไม่ได้สรุปชัดเจนว่า สปสช. เป็นต้นเหตุ เพราะอาจเป็นได้ทั้ง (ก.) จำนวนประชากร (ข.) ต้นทุนการบริหาร (ค.) ประสิทธิภาพในการบริหารการเงิน และ (ง.) รายได้อื่น นอกเหนือจากกองทุน สปสช.



    -หากแต่ข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้คือ งบประมาณสาธารณสุขภาพรวม ยังคงมีจำกัด



    คำถามอีกข้อก็คือ การบริหารของผู้อำนวยการ มีส่วนสำคัญที่ทำให้โรงพยาบาลนั้นๆ ติดลบตัวแดงหรือไม่



    -คำตอบก็คือ “จริง” การโยกย้ายผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา มีการ “ประท้วง” ว่าผู้บริหารโรงพยาบาลบางแห่ง ได้เปลี่ยนโรงพยาบาลจากติดลบ ให้กลายเป็นกำไร ทั้งที่ก็รับงบประมาณจาก สปสช. ตามระบบเดิม



    -และ ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข ก็เคยออกมายอมรับว่า หลังจากติดตามการบริหารของผู้อำนวยการใกล้ชิดขึ้น และอบรมผู้บริหาร รพ. การขาดทุนก็ลดน้อยลง



    -นอกเหนือจากข้อเขียนของ สธ. ปัญหา “ลูกจ้าง” ของ สธ.ที่จ้างตามระบบงบประมาณ และจ้างด้วยเงินบำรุงจำนวนมาก ก็อาจมีส่วนในการขาดทุน



    ตัวอย่างเช่น ในปีงบประมาณ 2556 – 2558 กระทรวงฯ ขอบรรจุข้าราชการใหม่มากกว่า 2.2 หมื่นอัตรา ซึ่งทำให้ “รายรับ” โรงพยาบาลลดลง หลายโรงพยาบาลต้องรับบริจาคเพื่อจ้างคนเพิ่ม ในขณะที่ กรอบอัตราข้าราชการพลเรือนทั้งหมด ไม่ได้บรรจุได้มากขนาดนั้น



    -เมื่อปี 2559 สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ระบุว่าการขาดแคลนอัตราข้าราชการเพื่อใช้บรรจุบุคลากรของ สธ.เป็นปัญหาที่สั่งสมมานาน ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการเพิ่มจำนวนอัตราข้าราชการเพียงประการเดียว แต่เกิดจากสาเหตุสำคัญอย่างน้อย 4 ประการ



    (1) สธ.ไม่ปรับบทบาทและถ่ายโอนไปให้หน่วยงานอื่น ทำให้เป็นกระทรวงขนาดใหญ่ที่มีข้าราชการจำนวนมาก



    (2) ปัญหาการบริหารจัดการกำลังคนของ สธ.ที่ไม่มีประสิทธิภาพ รวมศูนย์ที่ส่วนกลาง โดยเฉพาะวิชาชีพหลัก เช่น แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร และพยาบาลวิชาชีพ รวมทั้งปัญหาการช่วยราชการ การใช้กำลังคนไม่ตรงกับหน้าที่



    (3) ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านกำลังคนไม่ครบถ้วนและไม่เป็นปัจจุบัน ทำให้ไม่อาจวางแผนได้เหมาะสม



    และ (4) การสูญเสียกำลังคนด้านสุขภาพจากระบบราชการ โดยเฉพาะวิชาชีพหลัก



    -ทั้งหมดนี้คือ “มหากาพย์” ที่ทำให้ยังแก้ปัญหาขาดทุนของโรงพยาบาลไม่ได้



    -อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชัดเจนก็คือ บุคลากรโรงพยาบาลใหญ่จำนวนมาก ทั้งผู้อำนวยการ แพทย์ พยาบาล ฯลฯ ยังคงคิดว่า สปสช. เป็นต้นเหตุ เนื่องจากไม่พอใจงบประมาณที่จำกัด และเห็นว่า ไม่มีความจำเป็นที่ต้องนำเงินค่ารักษาผ่านหน่วยงานอย่าง สปสช.



    4.แล้วจะอยู่กับโรงพยาบาลขาดทุนต่อไปอย่างไร



    -ปีที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ สธ. 5,000 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาโรงพยาบาลขาดทุน โดยเพิ่มทั้งค่าใช้จ่ายผู้ป่วยใน กระจายทั้งโรงพยาบาลจังหวัด และโรงพยาบาลชุมชน รวมถึงจ่ายค่าตอบแทนบุคลากร และชำระต้นทุนการบริการส่วนขาดแก่ สปสช.



    -แต่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การแก้ปัญหาเชิงระบบ ยังชะงักงัน



    ที่ผ่านมา กลุ่มของ นพ.อมร แก้วใส อดีตข้าราชการ สธ. พยายามเคลื่อนไหวผลักดันให้ยุบ สปสช. แล้วนำงบประมาณเหมาจ่ายรายหัวที่ปีนี้มากกว่า 1.81 แสนล้าน ลงไปให้เขตสุขภาพ จัดสรรกันเอง โดยตั้งคณะกรรมการระดับเขตเพื่อแบ่งเงิน



    -แต่ข้อเสนอดังกล่าว ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง ทั้งจาก สธ. และจากรัฐบาล



    -ส่วนปัญหาข้าราชการนั้น มีความพยายามเสนอให้แยกอัตราข้าราชการ ออกจาก ก.พ. ทั้งจากกระทรวงฯ จาก แพทยสภา สภาการพยาบาล รวมถึง วิชาชีพต่างๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สำเร็จ แม้จะมีอำนาจพิเศษยุค คสช.



    -ด้วยเหตุนี้ จึงยังได้เห็นแต่ละวิชาชีพ ออกมาประท้วงทั้งที่ สธ.และทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้ “บรรจุ” เป็นข้าราชการ และขอให้ค่าตอบแทน เหลื่อมล้ำน้อยที่สุด อยู่ตลอดทุกเดือน



    จากปัจจัยทั้งหมด เห็นได้ชัดว่า ปัญหาโรงพยาบาลขาดทุน จึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งของวงจรใหญ่ ที่ชื่อว่า “ระบบราชการ” ซึ่งยังคลุมเครือ หาคำตอบไม่ได้ และต้องการแผนปฏิรูปที่เป็นรูปธรรม



    เช่นเดียวกับเรื่องอื่นๆ ในประเทศนี้ ที่ยังคาราคาซังเช่นเดียวกัน


    #โรงพยาบาลขาดทุน


     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    The Crazy Sisters Channel


    金庸/กิมย้ง (จินยง)


    **คนที่ทำอะไรดีๆ ฝากไว้ในโลก จะได้รับการกล่าวขวัญและระลึกถึงด้วยความตื้นตันใจและซาบซึ้งตลอดกาล**


    โอย...ภาพเมืองเซียงหยางในคืนนี้ค่ะ

    เนื่องจากปรมาจารย์กิมย้งเอ่ยถึงเมืองนี้ในวรรณกรรมอมตะเรื่อง วีรบุรุษยิงอินทรี (มังกรหยก) ถึง 260 กว่าครั้ง และตัวเอกของเรื่องก็เฝ้าปกปักษ์รักษาเมืองเซียงหยางหลายสิบปีทั้งยังพลีชีพที่เมืองนี้ วันนี้วันที่อาจารย์กิมย้งจากไป เมืองเซียงหยางจึงจุดเทียนขาวเหล่านี้เป็นการไว้อาลัยแด่ท่านผู้วายชนม์


    ที่มา เว่ยปั๋ว 金庸影视剧关注组


     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สหรัฐฯ เรียกร้อง ‘หยุดยิง’ ในเยเมน-เปิดเจรจาสันติภาพใน 30 วัน หลังพันธมิตรซาอุฯ ส่งทหารกว่าหมื่นนายเตรียมถล่มเมืองท่าโฮเดดา
    เผยแพร่: 31 ต.ค. 2561 10:45 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    561000011294701.jpg

    เจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
    เอเอฟพี - สหรัฐฯ เรียกร้องวานนี้ (30 ต.ค.) ให้มีการทำข้อตกลงหยุดยิงและเริ่มต้นกระบวนการเจรจาสันติภาพในเยเมน ขณะที่ฝ่ายซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรอาหรับส่งทหารกว่า 10,000 นายมุ่งหน้าไปยังเมืองท่าสำคัญซึ่งตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกกบฏเพื่อเปิดฉากโจมตีระลอกใหม่

    จมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า วอชิงตันได้เฝ้าจับตาสงครามกลางเมืองครั้งนี้มา “นานพอสมควรแล้ว”อีกทั้งซาอุฯ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งสู้รบกับพวกกบฏฮูตีนิกายชีอะห์ก็พร้อมที่จะเจรจาพูดคุย

    “เราต้องก้าวไปสู่กระบวนการสร้างสันติภาพกันในเวลานี้ และผมตอบไม่ได้ว่าในอนาคตเรายังจะทำมันได้หรือไม่” แมตทิส กล่าว ณ สถาบันสันติภาพแห่งสหรัฐฯ (US Institute of Peace) ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

    “เราจำเป็นต้องเริ่มทำภายในอีก 30 วันข้างหน้า”

    บอสเพนตากอนยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในสงครามเยเมนส่งผู้แทนไปร่วมพูดคุยกับ มาร์ติน กริฟฟิธส์ ผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติ ที่สวีเดนในเดือน พ.ย. นี้ “เพื่อหาทางออกร่วมกัน”

    ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบียย่ำแย่ลงตั้งแต่เกิดคดีฆาตกรรมคอลัมนิสต์ฝีปากกล้า จามาล คาช็อกกี ภายในสถานกงสุลซาอุฯ ณ นครอิสตันบูลเมื่อวันที่ 2 ต.ค. ซึ่งส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารผู้มีบทบาทสำคัญในการปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมซาอุฯ ให้สอดคล้องกับยุคสมัยใหม่

    ซาอุฯ และพันธมิตรอาหรับเริ่มใช้ปฏิบัติการแทรกแซงทางทหารในเยเมนเมื่อปี 2015 เพื่อช่วยประธานาธิบดี อับดรับบูห์ มันซูร์ ฮาดี ผู้นำโดยชอบธรรมของเยเมนที่สหประชาชาติให้การยอมรับ ขับไล่กบฏฮูตีนิกายชีอะห์ที่เชื่อกันว่ามีอิหร่านคอยหนุนหลังอยู่

    สงครามซึ่งยืดเยื้อมานานเกือบ 4 ปีได้คร่าชีวิตพลเมืองไปเกือบ 10,000 คน และทำให้เยเมนเผชิญวิกฤตความอดอยาก โดยขณะนี้คาดว่ามีประชากรกว่า 22 ล้านคน หรือ 3 ใน 4 ของประเทศ ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน

    เจ้าหน้าที่ทหารคนหนึ่งเผยกับเอเอฟพีว่า พันธมิตรซาอุฯ ได้ส่งกำลังพลไปเสริมบริเวณชายฝั่งทะเลแดง ก่อนจะเริ่มต้นภารกิจจู่โจมเมืองท่าโฮเดดา (Hodeida) ครั้งใหม่ “ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า”

    ฝ่ายซาอุฯ ยังมีแผนปกป้องพื้นที่ซึ่งได้รับการปลดปล่อยจากพวกฮูตี ขณะที่ซูดานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรก็จะส่งทหารเข้ามาช่วยป้องกันพื้นที่รอบๆ เมืองโฮเดดาด้วย

    โฮเดดาเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของเยเมน โดยสินค้าและความช่วยเหลือต่างๆ กว่า 70% จะถูกนำเข้าผ่านทางท่าเรือในเมืองแห่งนี้

    สหรัฐฯ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าให้การหนุนหลังพันธมิตรซาอุฯ โจมตีเยเมนจนพลเรือนล้มตายเป็นเบือ

    ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้ฝ่ายพันธมิตรซาอุฯ หยุดทิ้งระเบิดโจมตีชุมชนในเยเมน

    “ถึงเวลาแล้วที่จะต้องยุติความรุนแรงทั้งหมด รวมถึงการส่งขีปนาวุธและโดรนออกมาจากพื้นที่ควบคุมของกบฏฮูตีเข้าไปยังดินแดนของราชอาณาจักรซาอุฯ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วย” พอมเพโอ แถลง “หลังจากนั้น ฝ่ายพันธมิตรก็จะต้องหยุดโจมตีทางอากาศบริเวณชุมชนทุกแห่งของเยเมนเช่นกัน”

    แมตทิส ยืนยันว่า สหรัฐฯ เพียงแต่ช่วยฝึกฝนกองทัพอากาศซาอุฯ ให้สามารถล็อคเป้าหมายได้อย่างแม่นยำขึ้นเท่านั้น แต่ไม่เคยสอนให้ทิ้งระเบิดทั้งที่ไม่แน่ใจว่าเป้าหมายคืออะไร

    บอสเพนตากอนยังเสนอให้พวกกบฏฮูตีถอนกำลังออกจากชายแดนและหยุดยิง เพื่อให้ทุกฝ่ายได้หันหน้าเจรจายุติสงครามครั้งนี้

    กบฏฮูตีปฏิเสธที่จะส่งผู้แทนไปเจนีวาเพื่อเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพที่ยูเอ็นเป็นคนกลางเมื่อเดือน ก.ย. โดยอ้างว่ายูเอ็นไม่รับรองว่าพวกเขาจะกลับไปยังกรุงซานาได้อย่างปลอดภัยหรือไม่

    561000011294702.jpg

    ชาวเยเมนผู้พลัดถิ่นจากสงครามกลางเมืองรอรับบริจาคอาหารที่เขตอัสลาม (Aslam) ในจังหวัดฮัจจาห์ (Hajjah) ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา

    https://mgronline.com/around/detail/9610000108605
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ภาพฮือฮา! ปรากฏการณ์ประหลาด “ฝนแนวตั้ง” ในจีน จอดรถรอไม่เปียกเลยสักนิด (ชมคลิป) เผยแพร่: 31 ต.ค. 2561 02:29 ปรับปรุง: 31 ต.ค. 2561 09:57 โดย: ผู้จัดการออนไลน์



    เดลีเมล์ - สื่อต่างประเทศนำเสนอวิดีโอเหตุการณ์แปลกประหลาด วัยรุ่นจีนคนหนึ่งตัวยังแห้งเป็นปกติ ระหว่างจอดจักรยานยนต์เฝ้ามองห่าฝนที่เทกระหน่ำลงมาห่างจากตัวเขาไปไม่กี่เมตร


    วิดีโอนี้เป็นเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นในยามค่ำคืนของวันที่ 16 กันยายน ในเมืองหยิงตัน มณฑลเจียงซี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน แต่เพิ่งถูกเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์เมื่อไม่นานที่ผานมา

    ภาพในวิดีโอพบเห็นวัยรุ่นคนดังกล่าวจอดจักรยานยนต์อยู่กลางถนน เฝ้ามองไปที่ห่าฝนที่เทกระหน่ลงมาอย่างหนักอยู่เบื้องหน้าของเขาห่างออกไปไม่กี่เมตร

    561000011291701.jpg

    รายงานข่าวระบุว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนานๆ ครั้ง กินเวลาประมาณ 10 นาที ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะสามารถเดินทางต่อไปได้

    ทั้งนี้ ฝนแนวตั้งเป็นปรากฏการณ์ทางสภาพอากาศที่พบเห็นฝนตกลงมาในแนวตั้งตรงและครอบคลุมพื้นที่เล็กๆ

    อนึ่ง ปรากฏการณ์นี้ส่วนใหญ่จะพบอยู่ใต้ convective cloud เมฆที่ขยายตัวและลอยตัวสูงขึ้นในแนวตั้ง เนื่องจากมันมีอุณหภูมิอุ่นกว่าอากาศที่อยู่ล้อมรอบ

    https://mgronline.com/around/detail/9610000108556
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ระอุ! รัสเซียประกาศทดสอบขีปนาวุธใกล้บริเวณนาโตกำลังซ้อมรบใหญ่
    เผยแพร่: 31 ต.ค. 2561 01:02 ปรับปรุง: 31 ต.ค. 2561 10:00 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    561000011289801.jpg

    องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ(นาโต้) กำลังทำการซ้อมรบ Trident Juncture 18 ทางภาคตะวันตกของนอร์เวย์
    เอเอฟพี - รัสเซียมีแผนทดสอบขีปนาวุธนอกชายฝั่งนอร์เวย์สัปดาห์นี้ ในพื้นที่หนึ่งซึ่งนาโตกำลังดำเนินการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น ความเคลื่อนไหวที่ถูกมองว่าอาจโหมกระพือความตึงเครียดในบริเวณทางเหนือของวงกลมอาร์กติก

    “เราได้รับแจ้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกี่ยวกับแผนทดสอบขีปนาวุธของรัสเซียนอกชายฝังที่นี่” เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) บอกกับผู้สื่อข่าวในภาคตะวันตกของนอร์เวย์ พื้นที่ซึ่งจะมีการซ้อมรบ “Trident Juncture 18”

    การซ้อมรบครั้งนี้มีเป้าหมายฝึกฝนกองกำลังพันธมิตรแอตแลนติกในการปกป้องรัฐพันธมิตรหนึ่งๆ จากการรุกรานของชาติอื่น

    แน่นอนว่าปฏิบัติการซ้อมรบครั้งนี้ ซึ่งระดมกำลังทหาร 50,000 นาย, เรือ 65 ลำ และอากาศยาน 250 ลำจาก 31 ประเทศ และอยู่ห่างจากชายแดนนอร์เวย์ติดกับรัสเซียในอาร์กติกไปไม่กี่ร้อยกิโลเมตร ได้กระพือความเดือดดาลจากรัสเซียซึ่งประกาศว่าจะดำเนินการตอบโต้แก้เผ็ด

    กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุว่า “แม้มีความพยายามจากพวกผู้แทนของพันธมิตรและประเทศสมาชิกในการนำเสนอด้วยความเก้ๆ กังๆ ว่าความเคลื่อนไหวทางทหารครั้งนี้เป็นการซ้อมรบเพื่อป้องกันตนเอง แต่แน่นอนว่าการสำแดงสรรพกำลังมีธาตุแท้ของการต่อต้านรัสเซียอย่างโจ่งแจ้ง”

    แผนทดสอบขีปนาวุธของรัสเซียมีขึ้นหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พวกเขาเพิ่งประกาศว่าจะประจำการเรือ 4 ลำทางเหนือของแอตแลนติกเพื่อทำการซ้อมรบของตนเอง

    “รัสเซียมีกองกำลังทางเรือใหญ่โตในพื้นที่นี้” สโตลเทนเบิร์กกล่าวในวันอังคาร (30 ต.ค.) “ผมคาดหมายว่ารัสเซียจะประพฤติตัวในแนวทางที่เป็นมืออาชีพ” อย่างไรก็ตาม เขาใช้น้ำเสียงที่พยายามทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายลง โดยบอกว่า “เราจะจับตาดูสิ่งที่รัสเซียทำอย่างใกล้ชิด แต่ปฏิบัติการของพวกเขาอยู่ในน่านน้ำสากลและพวกเขาได้แจ้งกับเราแล้วในแนวทางตามปกติ”

    สโตลเทนเบิร์กบอกด้วยว่า “การทดสอบขีปนาวุธจะไม่ทำให้พวกเราเปลี่ยนแปลงแผนการซ้อมรบ”

    จากข้อมูลของ Avinor ผู้บริหารงานท่าอากาศยานพลเรือนส่วนใหญ่ในนอร์เวย์ ระบุว่าได้รับข่าวประกาศสำหรับผู้ทำการบิน(NOTAM) จากรัสเซีย เกี่ยวกับการทดสอบขีปนาวุธในทะเลนอร์วีเจียนระหว่างวันที่ 1-3 พฤศจิกายน

    พื้นที่และวันเวลาของการทดสอบดังกล่าวคาบเกี่ยวกับการซ้อมรบ Trident Juncture ของนาโต้ ซึ่งกำหนดมีขึ้นในวันที่ 25 ตุลาคม ถึง 7 พฤศจิกายน

    เอริค ลอดดิ้ง โฆษกของ Avinor บอกว่าเท่าที่เขาทราบ รูปแบบการแจ้งข่าวการทดสอบขีปนาวุธท่ามกลางการซ้อมรบถือว่าไม่ปกติอย่างมาก แต่ NOTAM ดังกล่าวก็ไม่ถึงขั้นเป็นเรื่องน่าตื่นตกใจใดๆ “มันเป็นขั้นตอนตามปกติ”

    https://mgronline.com/around/detail/9610000108541
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สภาพอากาศคลุ้มคลั่งเล่นงานหลายชาติยุโรป คร่าอย่างน้อย10ศพในอิตาลี เผยแพร่: 30 ต.ค. 2561 22:00 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    561000011284201.jpg

    ผู้คนกำลงช่วยกันเคลื่อนย้ายเศษซากต่่างๆรอบๆกองเรือยอชต์ที่ถูกซัดขึ้นฝั่งทามกลางพายุรุนแรงในเมืองราพัลโลของอิตาลี เมื่อวันอังคาร(30ต.ค.)
    เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุกราดเกรี้ยวซัดถล่มอิตาลีเพิ่มเป็น 10 ศพ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือนในวันอังคาร(30ต.ค.) ในขณะที่สภาพอากาศคลุ้มคลั่งเล่นงานหลายพื้นที่ในยุโรป ทำให้ผู้ขับขี่และนักท่องเที่ยวตกค้างเป็นจำนวนมาก

    ถนนหลายสายถูกตัดขาดและประชาชนหลายหมื่นคนต้องอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ในแถบตอนใต้และตอนกลางของยุโรป ในขณะที่ฝนตกหนักและลมกระโชกแรงก่อให้เกิดน้ำท่วม, ต้นไม้ถูกถอนรากถอนโคนและเศษซากถูกซัดปลิวขึ้นไปบนท้องฟ้า

    นอกจากนี้แล้วหิมะหนาทึบก็ปกคลุมภูมิภาคต่างๆแถบเทือกเขาทั้งในฝรั่งเศสและอิตาลีเช่นกัน ทำผู้ขับขี่หลายร้อยคนติดอยู่ภายในรถยนต์และนักท่องเที่ยวติดค้างตามโรงแรมต่างๆ

    ในอิตาลี นอกเหนือจากเมืองเวนิซ ซึ่งจมอยู่ใต้บาดาลในระดับน้ำที่ขึ้นเกือบสูงสุดเป็นประวัติการณ์แล้ว พายุกราดเกรี้ยวยังนำพาลมกระโชกแรงสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซัดเล่นงานบางพื้นที่ ด้วยเจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือนแถลงว่าพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 5 ราย หลังจากยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิต 5 คนเมื่อวันจันทร์(29ต.ค.)

    561000011284202.jpg

    เมืองเวนิซของอิตาลี จมอยู่ใต้บาดาลในระดับน้ำที่ขึ้นเกือบสูงสุดเป็นประวัติการณ์

    ขณะเดียวกันสื่อมวลชนอิตาลีรายงานว่ามีประชาชนราว 170 คน ทั้งนักท่องเที่ยวและพนักงานของโรงแรมแห่งหนึ่ง ติดค้างอยู่ในแถบสเตลวิโอ พาสส์ ตามแนวชายแดนติดกับสวิตเซอร์แลนด์ หลังมีหิมะตกลงมาอย่างหนัก ส่วนที่แคว้นปกครองตนเองฟรีอูลี-เวเนเซีย จูเลีย เจ้าหน้าที่บอกว่ามีชาวบ้าน 23,000 คนต้องอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้

    ในฝรั่งเศส ผู้ขับขี่มากกว่า 1,000 คนติดอยูในรถยนต์ยามค่ำคืนในแถบภูเขาของแคว้นมัสซิฟ ซองตรัล เนื่องจากท้องถนนถูกห้อมล้อมไปด้วยพายุหิมะ ส่วนอีก 400 คนต้องค้างคืนในตู้โดยสารของขบวนรถไฟ ณ สถานีรถไฟหลักของเมืองลียง หลังมีหิมะหนาขวางรางอยู่

    รวมแล้วมีบ้านเรือนประชาชนราว 195,000 หลังที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ทั่วฝรั่งเศส ส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกและภาคกลางของประเทศ ส่วนอีก 21,000 หลังบนเกาะคอร์ซิกา ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ก็ถูกตัดขาดจากไฟฟ้าเช่นกัน ในขณะที่เกาะแห่งนี้ประกาศเตือนภัยระดับสีแดงเมื่อวันจันทร์(29ต.ค.) เตือนให้ระวังเกี่ยวกับลมรุนแรง พร้อมกับปิดสนามบินและท่าเรือต่างๆ

    แถบชายฝั่งทะเลอาเดรียติกของโครเอเชียก็ถูกเล่นงานด้วยลมกระโชกแรงเช่นกัน และฝนที่ตกลงมาอย่างหนักก่อน้ำท่วมถนนหลายสาย หลายพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้

    561000011284203.jpg

    หิมะตกหนักในเดนมาร์ก

    ส่วนในสเปน ทหารกว่า 100 นาย กำลังเข้าช่วยเหลือพาเจ้าหน้าซ่อมแซมไฟฟ้าเข้าไปยังพื้นที่ห่างไกลต่างๆของแคว้นแอสทูเรียส ทางภาคเหนือของประเทศ ซึ่งถูกปกคลุมด้วยหิมะตกหนักมาตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ ด้วยจนถึงวันอังคาร(30ต.ค.) ยังมีประชาชนอีกเกือบ 4,700 คนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ จากการเปิดเผยของหน่วยบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินท้องถิ่น

    เมืองเวนิซของอิตาลี ที่ล้อมรอบด้วยคลอง ต้องจมอยู่ใต้บาดาล หลังฝนตกหนักผลักระดับขึ้นสูงแตะระดับเกือบสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันจันทร์(29ต.ค.)

    พวกนักท่องเที่ยวที่เปียงโชกไปด้วยฝน พากันอพยพออกจากจัตุรัสเซนต์มาร์ค ในขณะที่เจ้าหน้าท้องถิ่นระบุว่าระดับน้ำขึ้นสูงสุดอยู่ที่ 156 เซนติเมตร โดยก่อนหน้านี้เท่าที่เคยมีการบันทึกมา เมืองเวนิซ มีระดับน้ำขึ้นสูง 150 เซนติเมตรหรือมากกว่านั้น แค่ 5 ครั้งเท่านั้น

    561000011284204.jpg

    รถกำลังแล่นอยู่ท่ามกลางหิมะในฝรั่งเศส

    ในเมืองเจนัว เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปิดสนามบินเป็นการชั่วคราว เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์เศษซากต่างๆที่มาพร้อมกับฝนตกหนัก ออกจากรันเวย์ ทั้งนี้สถาบันการศึกษาทั้งหลายในเมืองแห่งหนึ่งได้สั่งหยุดการเรียนการสอนเป็นเวลาหนึ่งวัน เช่นเดียวกับที่กรุงโรมและแคว้นอื่นๆอีกหลายแห่ง

    สำนักงานอุตุนิยมวิทยาคาดหมายว่าสภาพอากาศเลวร้ายจะค่อยๆดีขึ้นเป็นลำดับในอิตาลี

    พายุยังพัดเข้าสู่สวิตเซอร์แลนด์เช่นกัน โดยถาโถมเล่นงานรัฐตีชีโน ใกล้ชายแดนอิตาลีตลอดทั้งคืน ท้องถนนหลายสายสัญจรผ่านไปมาไม่ได้เนื่องจากถูกขวางโดยต้นไม้ที่หักโค่นและน้ำท่วม

    นอกจากนี้แล้วลมพัดแซงก็ได้ซัดหลังคาบางส่วนของอาคารหลายแห่งปลิวหายไป ในนั้นคือที่เมืองกุยเบียสโก ที่ตำรวจเผยว่าหลังอาคารบริษัทแห่งหนึ่งปลิวใส่รถไฟขบวนหนึ่งที่กำลังแล่นอยู่และบ้านอีกหลัง แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

    https://mgronline.com/around/detail/9610000108507
     

แชร์หน้านี้

Loading...