ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    The Event
    ครับ ... ฉันมี เตาผิงก๊าซธรรมชาติ แบบ ventless เก่าที่ จุดโดย ตัวนำ แทนการจุดโดยอิเล็กทรอนิกส์ เราจะติดตั้งมันไว้ในห้องนั่งเล่น เรามีเตาผิงไม้ในหลังห้องครอบครัว ... และฉันได้ซื้อตะเกียงน้ำมัน ... มันเป็นเพียงสิ่งที่ฉันจะทำก่อนที่มันจะมา
    yep... I have an old ventless natural gas fireplace that ignites by pilot instead of electronic ignition. we will be installing it in my living room. we have a wood fireplace in the rear family room... and I have been buying oil lamps... its just a matter of time before it hits here.

    <iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/wwMLHFYR4cI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    พายุ 'ของทศวรรษ' ส่งผลกระทบต่อ 80 + ล้าน
    รัฐทางใต้จะได้รับการโจมตีด้วยสภาพอากาศที่รุนแรง ด้วยรูปแบบสภาพอากาศที่รุนแรง ทำให้ประชากร 250,000 คนอยู่โดยปราศจากเรี่ยวแรง (Storm 'of decade' affects 80+ million
    The Southern states are getting hit with a harsh weather pattern that has left 250,000 people without power so far.)
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พบ “แซลมอน” อพยพเกี่ยวโยงกับสนามแม่เหล็กโลก - โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กุมภาพันธ์ 2557 07:43 น.

    [​IMG]

    ทีมนักวิทยาศาสตร์พบความเชื่อมโยงระหว่างลักษณะการอพยพของแซลมอนในมหาสมุทรกับสนามแม่เหล็กโลก ซึ่งอาจช่วยอธิบายได้ว่า ปลาชนิดนี้สามารถแหวกว่ายน้ำเป็นระยะทางหลายพันไมล์ไปยังแม่น้ำที่เป็นบ้านเกิดได้อย่างไร

    งานวิจัยดังกล่าวเป็นผลงานของทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโอเรกอนสเตท ในสหรัฐฯ ซึ่งข่าวประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยเผยว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์ยืนนยันความเชื่อมโยงระหว่างปลาแซลมอนกับสนามแม่เหล็ก จากการทดลองหลายๆ ครั้ง ณ ศูนย์วิจัยฟักไข่โอเรกอนในลุ่มน้ำอัลซี

    ทีมวิจัยนำลูกแซลมอนไปปล่อยยังจุดที่ห่างไกลจากมหาสมุทรบริเวณที่ลูกปลาเพื่อให้ได้รับสนามแม่เหล็กที่แตกต่างไป และลูกปลาก็ตอบสนองต่อสนามแม่เหล็กนั้นด้วยการว่ายไปตามทิศทางที่นำไปถึงศูนย์กลางของแหล่งเลี้ยงดูทางทะเล

    นาธาน พุทแมน (Nathan Putman) นักวิจัยระดับปริญญาเอกจากภาควิชาประมงและสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติของโอเรกอนสเตท เผยถึงความน่าตื่นเต้นของการทดลองนี้ ลูกปลาเหล่านั้นไม่เคยออกจากสถานที่เพาะฟัก และมั่นใจว่าลูกปลาไม่ได้เรียนรู้ระหว่างการทดลอง หากแต่เป็นพฤติกรรมที่มีติดตัวมาแต่กำเนิด

    เพื่อทดสอบสมมุติฐานทีมวิจัยได้สร้างลานขึ้นด้วยลวดทองแดงที่วางทั้งในแนวตั้งและแนวนอน เมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าผ่านลวดเหล่านั้น ก็จะทำให้เกิดสนามแม่เหล็ก ที่พวกเขาสามารถควบคุมทั้งความเข้มและมุมเอียงของสนามได้ จากนั้นปล่อยลูกแซลมอนขนาด 2 นิ้วลงในถัง 5 แกลลอน ซึ่งหลังจากลูกแซลมอนปรับตัวแล้ว พวกเจาก็บตาดูทิศทางการว่ายน้ำของลูกปลา และบันทึกภาพไว้

    ลูกปลาที่ได้รับสนามแม่เหล็กที่แทนขั้วเหนือจะว่ายลงใต้ ส่วนลูกปลาที่ได้สนามแม่เหล็กแทนขั้วใต้จะว่ายขึ้นเหนือ โดยลูกปลาแสดงอาการของการ “รู้แผน” โดยวัดว่าพวกมันอยู่ตรงไหนและจะว่ายไปตามทิศทางไหน โดยขึ้นอยู่กับสนามแม่เหล็กที่พวกมันได้รับ

    พุทแมนระบุว่า สิ่งที่ทำให้ทีมวิจัยรู้สึกประหลาดใจคือ ลูกปลาเหล่านั้นได้รับสนามแม่เหล็กที่สร้างขึ้นแค่ 8 นาทีเท่านั้น และสนามแม่เหล็กนั้นก็ไม่แรงพอจะฝืนการเบนของเข็มทิศได้ ซึ่งปลาแซลมอนน่าจะมีสัมผัสที่ไวต่อสนามแม่เหล็กมากๆ เนื่องจากสนามแม่เหล็กโลกนั้นเป็นค่อนข้างอ่อน

    แม้จะมีความเห็นจากนักวิทยาศาสตร์คนอื่นว่า ระบบนำทางของปลาแซลมอนอาจถูกรบกวนจากสนามแม่เหล็กอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้า สายส่งไฟฟ้า ซึ่งเราก็ยังไม่ทราบแน่ชัด ทว่าพุทแมนกล่าวว่าแซลมอนเผชิญความท้าทายเหล่านั้นมานับพันๆ ปี ซึ่งรวมถึงการถูกรบกวนตามธรรมชาติจากก้อนเหล็กในเปลือกโลกด้วย

    พุทแมนกล่าวว่าลูกแซลมอนมีความเสี่ยงสูงระหว่างครั้งแรกที่ลงสู่ทะเล เพราะพวกมันต้องปรับตัวเข้ากับน้ำเค็ม หาอาหาร เลี่ยงนักล่า และเริ่มต้นการเดินทางของตัวเอง สิ่งใดๆ ก็ตามที่จะทำให้การนำทางของพวกมันด้อยประสิทธิภาพลง เป็นเรื่องน่าห่วง เพราะหากพวกมันเลือกเส้นทางผิด และลงเอยในมหาสมุทรบริเวณที่ไม่อุดมสมบูรณ์ สุดท้ายพวกมันก็จะขาดแคลนอาหาร

    “แต่ดูเหมือนสนามแม่เหล็กจะไม่ใช่ตัวช่วยในการนำทางเพียงอย่างเดียวในการนำทางของแซลมอน ดูคล้ายพวกมันจะมีเครื่องช่วยนำทางที่ช่วยให้พวกมันไปถึงยังที่พวกมันจะไป อาจจะรวมถึงทิศทางของดวงอาทิตย์ การได้กลิ่น หรืออื่นๆ ด้วย” พุทแมนกล่าว

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    องค์การอนามัยโลกเผย จีนกำลังเผชิญวิกฤต ‘โรคมะเร็ง’ ขั้นรุนแรง
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 กุมภาพันธ์ 2557 22:11 น.

    [​IMG]

    โลกมีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ 14 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 8.2 ล้านในปี 2555 (ภาพ - เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์)

    เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - จีนกำลังเผชิญวิกฤต “โรคมะเร็ง” ขั้นรุนแรง หลังองค์การอนามัยโลกเผย แดนมังกรคว้าแชมป์ชาติที่มีผู้ป่วยและตายจากมะเร็งตับ ระบบทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร และปอดรายใหม่มากที่สุดในโลก

    “รายงานสถานการณ์โรคมะเร็งโลก” ขององค์การอนามัยโลก หรือฮู (WHO) ฉบับล่าสุดระบุ บรรดาประเทศกำลังพัฒนาในทวีปแอฟริกา เอเชีย และอเมริกากลาง-ใต้ กำลังประสบภัยพิบัติเลวร้ายจากโรคมะเร็ง ซึ่งภาพรวมในปี 2555 พบผู้ป่วยรายใหม่ 14 ล้านคน และผู้เสียชีวิต 8.2 ล้านราย โดยในจำนวนดังกล่าว “จีน” ครองสัดส่วนผู้ป่วยรายใหม่อยู่ที่ 3.07 ล้านคน หรือร้อยละ 21.8 และผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 2.2 ล้านคน หรือร้อยละ 26.9

    ทว่าสถาบันโรคมะเร็งแห่งชาติ (The National Cancer Registration Centre) ของจีน กลับประเมินตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศไว้ที่ 3.5 ล้านคน และผู้เสียชีวิตที่ 2.5 ล้านรายในปี 2555 ซึ่งสูงกว่าข้อมูลของ WHO เล็กน้อย

    อย่างไรก็ดี จีนยังคงไม่ใช่ประเทศที่มีผู้ป่วยสะสมสูงที่สุดของปี 2555 โดยองค์การฯ เผย 5 ลำดับแรกที่มีผู้ป่วยมะเร็งมากที่สุด ได้แก่ เดนมาร์ก ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย เบลเยี่ยม และนอร์เวย์ รวมทั้งไม่ใช่ชาติที่มีผู้ป่วยเสียชีวิตมากที่สุด โดย 5 อันดับแรกกลับเป็นมองโกเลีย ฮังการี อาร์เมเนีย เซอร์เบีย และอุรุกวัย

    รายงานฯ ชี้อีกว่า การวิเคราะห์ตรวจโรคที่ไม่มีคุณภาพและระบบการรักษาพยาบาลที่มีขีดจำกัดเป็นสาเหตุทำให้ยอดผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน “มะเร็งปอด” เป็นโรคที่มีผู้ป่วยและเสียชีวิตมากที่สุดในโลก คาดว่ามีเหยื่อรายใหม่กว่า 1.8 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 1.59 ล้านรายจากมะเร็งชนิดนี้ในปี 2555 มากกว่า 1 ใน 3 ของผู้ป่วยมะเร็งปอดในจีน

    ศาสตรจารย์จื้อ ซิ่วอี หัวหน้าศูนย์รักษาโรคมะเร็งปอด มหาวิทยาลัยการแพทย์ในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ประชาชนเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปอดมากขึ้นคือ การสูบบุหรี่ มลพิษทางอากาศ และสารเคมีก่อมะเร็งต่างๆ

    นอกจากนั้นรายงานฯ เสริมว่า ปี 2555 จีนมีผู้ป่วยมะเร็งตับและมะเร็งในระบบทางเดินอาหารรายใหม่ราว 50 เปอร์เซ็นต์ โดยพบผู้เสียชีวิตจากมะเร็งทั้งสองชนิด 51 เปอร์เซ็นต์ และ 49 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ขณะเดียวกันก็พบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากมะเร็งกระเพาะอาหารรายใหม่มากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์

    ศาสตราจารย์จื้อระบุว่า มะเร็งตับ มะเร็งทางเดินอาหาร และมะเร็งกระเพาะอาหาร เป็นมะเร็งอีกกลุ่มที่แพร่หลายมากที่สุดในจีน

    “มันเป็นเรื่องด่วนที่ต้องเร่งแก้ไขความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับโรคมะเร็งของสาธารณะชน โดยเฉพาะความเชื่อที่ว่ามะเร็งเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาให้หายได้” เขากล่าว

    “ความหวาดกลัวได้กีดกันผู้คนออกจากการพูดคุยและรับฟังข้อมูลที่ถูกต้อง หยั่งผลให้เกิดการขาดความรู้ความเข้าใจจนนำไปสู่ความล้มเหลวในการป้องกันรักษาโรคเบื้องต้น”

    ทั้งนี้รายงานฉบับเดิมส่งสัญญาณเตือนประเทศต่างๆ ให้ดำเนินมาตรการป้องกันโรคอย่างมีประสิทธิภาพ หลังประเมินว่าจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ทั่วโลกจะยังเพิ่มขึ้นตามปริมาณและอายุของประชากรโลก โดยคาดว่าผู้ป่วยรายใหม่จะพุ่งสูงขึ้น 57 เปอร์เซ็นต์ หรือราว 22 ล้านคน ภายใน 2 ทศวรรษ และดันยอดผู้เสียชีวิตไปอยู่ที่ 13 ล้านคนต่อปี

    ͧ
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนขึ้นแท่นประเทศที่มี ‘ความเสี่ยงในการทำธุรกิจ’ มากที่สุดในโลก
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 กุมภาพันธ์ 2557 12:27 น.

    ภาพเหมา เจ๋อตง อดีตผู้นำสูงสุดของจีน บนธนบัตร ราคา 100 หยวน (แฟ้มภาพ - รอยเตอร์ส)

    [​IMG]

    เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - จีนขึ้นแท่นประเทศที่มี “ความเสี่ยงในการทำธุรกิจ” ด้วยมากที่สุดในโลก โดยปัจจัยหลักมาจากปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น

    รายงานข่าว (12 ก.พ.) อ้างผลสำรวจของ AlixPartners ที่ปรึกษาทางธุรกิจระหว่างประเทศ ระบุ “จีน” กลายเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงในการร่วมทำธุรกิจด้วยมากที่สุดในโลก ซึ่งบรรดาผู้ประกอบการต่างพยายามหลีกเลี่ยงการลงทุนสำคัญในจีน เนื่องจากปัญหา “ทุจริตคอร์รัปชั่น” ที่มีทีท่าทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    การสำรวจดังกล่าวซึ่งรวมจีนเข้าในรายการเป็นครั้งแรก ได้สัมภาษณ์นักกฎหมายและผู้บริหารหลายหลายชาติ พบว่าร้อยละ 25 ไม่ต้องการทำธุรกิจในจีนและกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ขณะที่ร้อยละ 39 เลี่ยงกลุ่มประเทศทวีปแอฟริกา โดยให้เหตุผลว่าเกรงกลัวปัญหาที่เกิดจากการคอร์รัปชั่น

    “ความเสี่ยงในจีนเพิ่มสูงขึ้นเพราะปัจจัยต่างๆ อาทิ การเพ่งเล็งจากกลุ่มนักกฎหมายสหรัฐฯ และอังกฤษ ผสมกับภาวะเศรษฐกิจจีนชะลอตัว รวมถึงรัฐบาลจีนมุ่งสนใจการทำธุรกิจภายในประเทศของต่างชาติ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยในอาหาร ยาและเวชภัณฑ์ ตลอดจนผลิตภัณฑ์อื่นๆ” ไมค์ เมอร์ฟี (Mike Murphy) หัวหน้าฝ่ายการจัดการของ AlixPartners กล่าว

    อย่างไรก็ดี ผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 41 ชี้ว่า กิจกรรมการทุจริตคดโกงในจีนเป็น “สิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้” โดยภาพรวมร้อยละ 15 ไม่สนใจความหวาดกลัวจากการกระทำผิดฐานคอร์รัปชั่น ขณะที่ร้อยละ 30 เลือกหยุดทำธุรกิจร่วมกับหุ้นส่วนทันที หากพบแนวโน้มหรือความเป็นไปได้ของการทุจริต

    ด้านกลุ่มผู้บริหารบริษัทในอาเซียนร้อยละ 80 กล่าวว่า บริษัทของพวกเขาล้วนพบเจอการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยร้อยละ 54 ของกลุ่มผู้บริหารนี้เผยอีกว่า การคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม

    “ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าวิธีการติดสินบนและคอร์รัปชั่นอื่นๆ กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของการทำธุรกิจในอาเซียนไปแล้ว” เมอร์ฟีกล่าวสรุป

    ทั้งนี้จากภาพรวม ผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 30 เผยว่าบริษัทของพวกเขามีความเสี่ยงในการทุจริตคอร์รัปชั่นสูงขึ้น ขณะที่ร้อยละ 52 กล่าวว่ามีความเสี่ยงในด้านอื่นๆ มากกว่า โดยกลุ่มธุรกิจที่มีความเสี่ยงการคอร์รัปชั่นมากที่สุด ได้แก่ อุตสาหกรรมอวกาศ การป้องกันประเทศ และการประกันภัย

    นอกจากนั้น ผลสำรวจอีกชิ้นของ Kroll ที่ปรึกษาความเสี่ยงในการทำธุรกิจซึ่งมีฐานอยู่ในสหรัฐฯ ได้สอบถามผู้บริหารนานาชาติกว่า 901 คน พบว่าร้อยละ 80 ทำการทุจริตในจีนระหว่างปี 2555-2556 เพิ่มจาก 69 เปอร์เซ็นต์ของปี 2554-2555 โดยบริษัทเหล่านี้จะสูญเสียเงินกำไรราว 1.2 เปอร์เซ็นต์ไปกับการทุจริตในจีนระหว่างปี 2555-2556 เพิ่มจากปี 2554-2555 ซึ่งอยู่ที่ 0.8 เปอร์เซ็นต์

    “ระดับการทุจริตคอร์รัปชั่นในจีนกำลังเจริญเติบโตขึ้นอย่างน่ากลัว” Kroll ระบุทิ้งท้าย

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "โรงไฟฟ้าชีวมวล" ทางเลือกแก้ไฟตกในร้อยเอ็ด - โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 กุมภาพันธ์ 2557 03:02 น.

    [​IMG]

    กองชีวมวลในโรงไฟฟ้าแก๊สซิฟิเคชันที่รอกระบวนการสับละเอียดก่อนนำเข้ากระบวนการแก๊สซิฟิเคชัน หรือการเผาไหม้ในที่อับอากาศเพื่อให้ได้ก๊าซสำหรับจุดเครื่องยนต์หมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า

    [​IMG]

    * นายสถิตชัยย์ ฉิมสา ดูรูป

    [​IMG]

    *คนงานขนชีวมวลเข้าเครื่องผลิตก๊าซจากกระบวนการแก๊สซิฟิเคชัน ระหว่างที่ระบบอัตโนมัติในการลำเลียงชีวมวลยังไม่แล้วเสร็จ ดูรูป

    [​IMG]

    *เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องจักรสีเขียวใต้ถุนอาคาร) ) ดูรูป

    [​IMG]

    *โรงไฟฟ้าชีวมวลแบบแก๊สซิฟิเคชัน ดูรูป

    ขณะที่เวียดนามเพื่อนบ้านเรากำลังจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่โรงไฟฟ้าจากชีวมวลอาจเป็นทางเลือกสำหรับหลายชุมชนของไทยที่มีผลิตผลทางการเกษตรเหลือเฝือ

    ต.โนนตาล เป็นตำบลแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ที่มีปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าและประสบปัญหา "ไฟตก" บ่อยๆ แต่หลังจากมีโอกาสไปดูงานด้านโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ประเทศสเปน เมื่อปี 2551 นายสถิตชัยย์ ฉิมสา นายกเทศมนตรีของร้อยเอ็ดในขณะนั้น จึงเกิดแนวคิดที่จะสร้างโรงไฟฟ้าแบบเดียวกันในชุมชน

    "แนวคิดอันดับแรกที่อยากสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล เพราะอยากสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ประชาชนสามารถขายวัสดุการเกษตร ปลูกไม้ยูคาฯ หญ้าเนเปียร์ หรือไม้โตเร็วให้แก่โรงไฟฟ้าได้ ถ้าเสนอสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จะได้ประโยชน์แค่นายทุน แต่ประชาชนไม่ได้อะไรเลย" สถิตชัยย์เผยแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์

    โรงไฟฟ้าชีวมวลที่อดีตผู้บริหารท้องถิ่น 4 สมัยของร้อยเอ็ดนำกลับมาสร้างนั้นเป็นโรงไฟฟ้าแบบแก๊สซิฟิเคชั่น ที่นำชีวมวลมาเผาไหม้ในที่อับอากาศให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ เพื่อนำไปจุดเครื่องยนต์ให้ได้กำลังเครื่องยนต์สำหรับหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า

    ปัจจุบัน สถิตชัยย์ เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท สลักเพชร รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด และได้สร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลระบบแก๊สซิฟิเคชั่นที่ทดลองเดินเครื่องมาตั้งแต่เดือน ส.ค.56 และกำลังติดตั้งมิเตอร์เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

    "ก่อนสร้างเราตั้งประชาคมเพื่อสอบถามความเห็นชาวบ้านว่าเอาด้วยไหม แล้วก็แจกแจงไปว่าโรงไฟฟ้าแบบนี้เป็นยังไง รับรองว่าไม่มีควัน ไม่มีน้ำเสีย หากมีควันหรือน้ำเสียให้เห็น เราจะหยุดโรงไฟฟ้าทันที" สถิตชัยย์เผย

    โรงไฟฟ้าชีมวลของบริษัทสลักเพชรเป็นแบบแก๊สซิฟิเคชันแห่งแรกของจังหวัด ซึ่งมีต้นทุนสูงกว่าโรงไฟฟ้าชีวมวลแบบเดิมที่อาศัยวิธีนำชีวมวลไปต้มน้ำให้ได้ไอเดือดสำหรับหมุนกังหันไฟฟ้า โดยโรงไฟฟ้าแบบเผาชีวมวลขนาด 1 เมกกะวัตต์ มีต้นทุน 50 ล้านบาท แต่โรงไฟฟ้าแก๊สซิฟิเคชันขนาดเดียวกันมีต้นทุน 90 ล้านบาท

    นายนพดล คล้ายโต หนึ่งในทีมวิศวกรจาก บริษัท อัลเทอร์เนทีฟ เอ็นเนอร์ยี่ ซิสเต็มส์ จำกัด ที่ปรึกษาและผู้ผลิตเครื่องจักรโรงไฟฟ้าให้แก่บริษัทสลักเพชร กล่าวว่า โรงไฟฟ้าชีวมวลแบบเผาเพื่อต้มน้ำนั้นใช้เชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้ากิโลวัตต์ละ 1.5 กิโลกรัม ขณะที่โรงไฟฟ้าแก๊สซิฟิเคชันใช้เชื้อเพลิง 1 กิโลกรัม

    "เราเริ่มเดินเครื่องมาตั้งแต่ ส.ค.ปีที่แล้ว ผลิตไฟฟ้า 350 กิโลวัตต์ ใช้ในโรงไฟฟ้าไป 50-55 กิโลวัตต์ ส่วนไฟฟ้าที่เหลือปล่อยทิ้งเป็น Free Load เพราะไฟฟ้าที่ผลิตออกมาไม่สามารถเก็บไว้ได้ แต่ปลาย ก.พ.นี้จะเริ่มขายได้จริง" นพดลกล่าว

    วิศวกรจากอัลเทอร์เนทีฟ เอ็นเนอร์ยี่ ซิสเต็มส์ เผยอีกว่า ที่ทางบริษัทเป็นผู้ออกแบบและผลิตเครื่องจักรในโรงไฟฟ้าเกือบทั้งหมด ยกเว้นเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้านำเข้าจากสหรัฐฯ และมอเตอร์สำหรับหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า นำเข้าจากอิตาลี และเทคโนโลยี

    ผลิตโรงไฟฟ้าจากชีวมวลแก๊สซิฟิเคชันแบบเดียวกันนี้ยังได้รับความสนใจจากบริษัทเอกชนญี่ปุ่น ซื้อไปติดตั้งที่เมืองเซนได ในจังหวัดมิยางิ ญี่ปุ่น ซึ่งจะมีการแถลงข่าวในปลายเดือน ก.พ.57 ณ พื้นที่ก่อสร้างในประเทศญี่ปุ่น

    "หลักๆ พื้นที่สำหรับโรงไฟฟ้าแก๊สซิฟิเคชันขนาด 500 กิโลวัตต์ ต้องมีเชื้อเพลิงชีวมวลป้อนให้ได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 15 ตัน ซึ่งที่นี่มีเหลือเฝือ ส่วนการออกแบบโรงไฟฟ้านั้นเราจะดูความต้องการลูกค้าว่าต้องการขายไฟฟ้ากี่หน่วย ซึ่งเราจะออกแบบให้คุ้มแก่การลงทุน และตัองดูที่ตั้งของโรงไฟฟ้าด้วยว่าโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าจะรับกระแสไฟฟ้าได้อีกเท่าไร สำหรับที่นี่รับเพิ่มได้อีก 2 เมกะวัตต์" นพดลระบุ

    สำหรับเชื้อเพลิงโรงไฟฟ้าชีวมวลของสลักเพชร หลักๆ ได้แก่ ไม้ยูคาลิปตัส ซังข้าวโพด ฟางข้าว วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร เป็นต้นซึ่งนพดลกล่าวว่า เชื้อเพลิงต่างชนิดกันมีการจัดการเชื้อเพลิงที่ต่างกันไปตามความหนาแน่นของเชื้อเพลิง โดยเชื้อเพลิงที่มีความหนาแน่น 750 กก.ต่อลูกบาศก์เมตร จะผ่านขั้นตอนการสับย่อยและไล่ความชื้นก่อนเข้ากระบวนการแก๊สซิเฟชัน ส่วนเชทชื้อเพลิงที่มีความหนาแน่นต่ำกว่านั้นจะผ่านการบด สับย่อย ไล่ความชื้นและอัดให้มีความหนาแน่นมากขึ้น

    ทางด้าน สถิตชัยย์ เผยอีกว่าเขายังวางแผนคืนกำไรให้แก่ชุมชน โดยจะรับซื้อเชื้อเพลิงชีวมวลจากเด็กนักเรียนในราคาถุงละ 20 บาท โดยไม่คิดเป็นต้นทุน รวมถึงรับซื้อเศษไม้จากผู้สูงอายุในชุมชนด้วย

    ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัทสลักเพชรได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) และกระทรวงพลังงาน ภายใต้โครงการนำร่องเพื่อผลิตพลังงานทดแทนจากชีวมวลในระดับชุมชน 7.4 ล้านบาท สำหรับมูลค่าลงทุนทั้งหมด 34 ล้านบาท

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/T5I7kaJoBHU?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนกลับลำ อ้าง 'กระต่ายหยก' ฟื้นคืนชีพแล้ว

    [​IMG]

    จีนประกาศข่าวการฟื้นคืนชีพของรถหุ่นยนต์"กระต่ายหยก" หลังก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง เพิ่งประกาศยุติปฏิบัติการณ์สำรวจดวงจันทร์ของรถหุ่นยนต์คันดังกล่าว เนื่องจากปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องจนไม่สามารถแก้ไขได้

    สำนักข่าวซินหัว ของทางการจีน อ้างคำพูดของโฆษกโครงการสำรวจดวงจันทร์ของจีนระบุว่า รถหุ่นยนต์"กระต่ายหยก" หรือที่มีชื่อในภาษาจีนว่า "อี้ทู่" สามารถกลับมาฟื้นคืนชีพได้อีกครั้ง หลังจากระบบควบคุมการทำงานของมันมีสัญญาณกลับคืนมาเป็นปกติ โดยขณะนี้ ผู้เชี่ยวชาญกำลังพยายามตรวจสอบว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้มันมีปัญหาไม่สนองต่อระบบควบคุมสั่งการ จนทำให้ต้องประกาศยกเลิกภารกิจสำรวจดวงจันทร์ของรถหุ่นยนต์คันดังกล่าวไปก่อนหน้านี้

    ข่าวการฟื้นคืนชีพของ"กระต่ายหยก" มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากเมื่อวานนี้ ทางการจีนได้ประกาศว่า รถหุ่นยนต์"กระต่ายหยก" ได้ตายแล้ว เนื่องจากปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา จนไม่สามารถกู้ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ โดยปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นที่ระบบควบคุมเครื่องยนต์ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม โดยทางการจีนอ้างว่า เป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่สลับซับซ้อนบนพื้นผิวของดวงจันทร์

    การประกาศยุติการทำงานก่อนกำหนดของรถหุ่นยนต์"กระต่ายหยก"ก่อนหน้านี้ สร้างความผิดหวังให้กับชาวจีนจำนวนมาก ถึงขั้นมีการโพสต์ข้อความในโลกโซเชียลมีเดีย แสดงความเศร้าโศกเสียใจเป็นจำนวนมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทางการจีนคาดว่าจะใช้งานกระต่ายหยก สำรวจทรัพยากรธรรมชาติบนดวงจันทร์นานประมาณ 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่มันร่อนลงจอดบนดวงจันทร์เป็นครั้งแรก

    รถหุ่นยนต์"กระต่ายหยก" นับเป็นรถสำรวจดวงจันทร์คันแรกของจีน และถือเป็นยานสำรวจลำแรกที่ลงจอดบนดวงจันทร์ในรอบเกือบ 40 ปี ทำให้จีนกลายเป็นชาติที่สามของโลก ถัดจากสหรัฐฯ และอดีตสหภาพโซเวียต ที่สามารถส่งยานขึ้นไปลงจอดบนดวงจันทร์ได้สำเร็จ

    ทางการจีนระบุว่า ความสำเร็จดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดดของจีน ท่ามกลางความหวังในการสร้างสถานีอวกาศแบบถาวรเป็นของตนเอง และส่งมนุษย์อวกาศชาวจีนคนแรกขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ให้ได้ ภายในปี 2563
    by Phanuwat

    13 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 11:35 น.

    จีนกลับลำ อ้าง กระต่ายหยก ฟื้นคืนชีพแล้ว - Voice TV
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jedai Edtecza

    [​IMG]

    Mercedes W125 Rekordwagen รถที่เคยขึ้นเป็นดั่งเพชรยอดมงกุฏของนาซีเยอรมันด้วยเครื่องยนต์กว่า 750 แรงม้าสามารถวิ่งได้เร็วถึง 432 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและมันยังคงเป็นสถิติรถที่สามารถวิ่งบนถนนธรรมดาได้ร็วที่สุดในโลกจวบจนถึงปัจจุบัน (วิ่งบนออโตบาห์นในเยอรมันนี) ซึ่งเป็นที่รู้ๆกันว่า นวัตกรรมยานยนต์ สมัยนั้นยังไม่ก้าวหน้าขนาดนี้มาก่อน ดูลักษณะการออกแบบไม่ใช่สื่งของในยุคนั้นๆ แน่พวกนาซี ลึกลับกว่าที่คิดจริงๆ

    ที่มา :เพจ World War II Japan army
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คำทำนายของ 'คาร์ล มาร์กซ์'

    <iframe width="640" height="330" frameborder="0" scrolling="no" src="http://www.voicetv.co.th/content/embed?id=97114" ></iframe>

    แนวคิดของคาร์ล มาร์กซ์ เจ้าของลัทธิมาร์กซิสต์ ยังคงถูกหยิบยกมาพูดซํ้าแล้วซํ้าเล่าทั้งในทางที่ดีและไม่ดี อย่างไรก็ตาม มีหลายคนกล่าวว่าความเพ้อฝันของมาร์กซ์ 5 สิ่งมันเป็นจริงแล้วในปัจจุบัน

    ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นักวิชาการมีการพูดถึง "คาร์ล มาร์กซ์" นักปรัชญาการเมือง บิดาแห่งลัทธิคอมมิวนิสต์แบบมาร์กซิสต์มากขึ้นทั้งในด้านดีและในแง่ร้าย แม้แต่พระสันตะปาปาฟรานซิสก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกนิยมลัทธิมาร์กซ์ เช่นเดียวกับบิล ดิ แบลซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กคนใหม่ ก็เป็นฝ่ายซ้ายลูกชายคาร์ล มาร์กซ์ อย่างไม่ต้องสงสัย

    น้อยคนนักที่จะเข้าใจแนวคิดของคาร์ล มาร์กซ์อย่างลึกซึ้ง เพราะหลายคนเข้าใจว่าลัทธิมาร์กซ์ต้องการล้มระบอบทุนนิยมที่พวกเขาได้รับประโยชน์สูงสุด และแทนที่ด้วยลัทธิคอมมิวนิสต์ ทำให้การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองในอนาคตของมาร์กซ์ ถูกละทิ้งไปอย่างไม่มีใครใยดี แต่สิ่งที่มาร์กซ์คาดการณ์เกิดขึ้นจริงแล้ว 5 อย่างในปัจจุบัน ทั้งที่ คำทำนายเหล่านั้นถูกเขียนขึ้นเมื่อ 2 ศตวรรษที่แล้ว

    อย่างแรกที่มาร์กซ์พูดถูกคือ "เศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่" ที่เกิดจากธรรมชาติของทุนนิยม จากการผลิตสินค้าเป็นจำนวนมาก ขูดรีดแรงงาน เพื่อสร้างผลกำไรสูงสุดให้กับนายทุน จนนำไปสู่สิ่งที่มาร์กซ์เรียกว่า "ทุนเชิงนิยาย" ที่สินค้าจำนวนมากถูกผลิตออกมาเพื่อเก็งกำไรแต่ไม่มีใครซื้อ ซึ่งก่อให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในที่สุด เช่น วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2551

    2. จินตนาการแห่งความอยากได้ เมื่อเรานึกถึง iPhone 5 ที่เราเพิ่งซื้อมาเมื่อปีที่แล้ว และในอีกไม่กี่เดือนต่อมา iPhone 5s ก็ถูกผลิตออกมาอีก นายทุนรณรงค์ออกโฆษณาเพื่อสร้างความแตกต่างระหว่าง iPhone ทั้งสองรุ่นทั้งที่อรรถประโยชน์ของสินค้าชนิดนี้แทบไม่ต่างกัน แต่ในทางตรงข้าม แรงงานราคาถูกจำนวนมากถูกขูดรีด ทรมานจากการทำงานในโรงงานมากกว่าวันละ 12 ชั่วโมง จนบางคนถึงกับเสียชีวิต

    3. แนวคิดการผลิตสินค้ามากเกิน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า และสร้างกำไรสูงสุด ทำให้นายทุนต้องแผ่ขยายลัทธิทุนนิยมไปทั่วโลกเพื่อกระจายสินค้าไปยังตลาดใหม่ หาแหล่งทรัพยากร แรงงานราคาถูกเพื่อป้อนเข้าสู่สายพานการผลิต จนทุกมุมโลกเชื่อมเข้าหากันหรือที่เราเรียกกันในปัจจุบันว่า "โลกาภิวัตน์" หรือตัวอย่างง่ายๆก็คือ บรรษัทข้ามชาตินั่นเอง

    4. ทุนผูกขาด หรือ Monopoly เป็นหนึ่งในทฤษฎีคลาสสิคของมาร์กซ์ ที่ตลาดจะถูกควบคุมด้วยกลุ่มทุนรายใหญ่ที่ผูกขาดจนไร้การแข่งขัน ตัวอย่างที่สามารถเข้าใจง่ายที่สุด คือ ร้านค้าสะดวกซื้อ อย่าง เซเว่นอีเลฟเว่น ที่ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยเช่น ร้านค้าโชห่วยต้องปิดกิจการ และยอมศิโรราบต่อทุนขนาดใหญ่เช่นนี้

    สุดท้าย คือ ค่าแรงตํ่า กําไรสูง หรือที่มาร์กซ์เรียกว่า "กองทัพแรงงานสำรอง" กล่าวง่ายๆคือ นายทุนขูดรีดแรงงาน จ่ายค่าจ้างตํ่าให้กับแรงงานเมื่อมีแรงงานจำนวนมาก แต่ทำไมแรงงานเหล่านั้นจึงยอมให้ถูกขูดรีด นั่นเพราะว่าความไม่แน่นอนในชีวิต และการว่างงานมันยํ่าแย่กว่าการมีงานทำแต่รายได้ตํ่า หรือไม่มีงานไม่มีเงินนั่นเอง


    อย่างไรก็ตาม มาร์กซ์ไม่ได้พูดถูกเสมอไป เพราะหลายสิ่งที่เขาคาดไว้มันผิด แต่งานเขียนของเขาหลายเล่มถูกนำกลับมาอ่านซํ้าแล้วซํ้าเล่า เพื่อใช้อธิบายความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากระบอบทุนนิยมทุกยุคทุกสมัย และปีศาจตนนี้ก็ยังไม่เคยตายไปจากโลกใบนี้
    13 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 06:43 น.

    คำทำนายของ คาร์ล มาร์กซ์ - Voice TV
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐฯประสบ 'พายุน้ำแข็ง' ครั้งใหญ่

    <iframe width="640" height="330" frameborder="0" scrolling="no" src="http://www.voicetv.co.th/content/embed?id=97115" ></iframe>

    สภาพอากาศในสหรัฐฯ ยังคงผันผวนอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เผชิญปัญหา "ลมวนขั้วโลก" ทำให้อากาศหนาวเย็นและอุณหภูมิลดต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ล่าสุดก็ต้องประสบปัญหา "พายุน้ำแข็ง" จนประชาชนในหลายพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ และเที่ยวบินจำนวนมากต้องถูกยกเลิก

    สภาพอากาศในสหรัฐฯ ยังคงมีความแปรปรวนในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะในบริเวณที่ไม่ค่อยประสบภัยในช่วงฤดูหนาวอย่างมลรัฐทางตอนใต้ ที่ในเวลานี้กำลังเผชิญกับ "พายุน้ำแข็ง" ครั้งใหญ่ จนทำให้ประชาชนถึงกว่า 3 แสน 5 หมื่นคน ไม่มีไฟฟ้าใช้ และเที่ยวบินกว่า 3 พัน 3 ร้อยเที่ยว ต้องยกเลิก เนื่องมาจากพายุน้ำแข็งและกระแสลมแรง

    พายุน้ำแข็งครั้งนี้มีความเร็วลมเกือบ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้ต้นไม้ล้มขวางถนนหนทางและสร้างความเสียหายให้กับสายนำจ่ายไฟฟ้า จึงทำให้ในหลายบริเวณไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่ภายในเวลาข้ามคืนกรุงวอชิงตันดีซีอาจมีหิมะสะสมหนาถึง 20 เซนติเมตร และมลรัฐนิวยอร์ก 25 เซนติเมตร

    ทั้งนี้ หลายมลรัฐได้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนอยู่แต่ในที่พักอาศัย เนื่องจากปริมาณหิมะที่สะสมอาจทำให้การสัญจรไปมายากลำบาก และอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ โดยขณะนี้มลรัฐนอร์ทแคโรไลนาและเวอร์จิเนียต้องเตรียมรับมือกับหิมะที่หนา ถึง 30 เซนติเมตรแล้ว ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก

    กรมอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่าสภาพอากาศเช่นนี้เป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็น "สัดส่วนทางประวัติศาสตร์" นั่นคือ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสม่ำเสมอในรอบหลายๆ ปี เช่นที่เกิดในบริเวณเมืองแอตแลนตาเมื่อปี 2516 และ 2543 เป็นต้น

    จนถึงขณะนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนอันเนื่องมาจากสภาพอากาศแล้วถึง 9 ราย โดย 3 รายในจำนวนนี้เกิดจากเหตุรถพยาบาลลื่นไถลออกนอกถนนที่มลรัฐเท็กซัสและเกิดไฟลุกไหม้

    ขณะที่ มลรัฐจอร์เจียก็ประสบปัญหาจากพายุหิมะรุนแรง จนผู้ขับขี่รถยนต์จำนวนมากต้องทิ้งรถยนต์ไว้กลางถนน เนื่องจากการจราจรติดขัดผิดปกติ โดยนายเนธาน ดีล ผู้ว่าการรัฐจอร์เจีย ออกมาแสดงความขอบคุณมลรัฐเพื่อนบ้านอย่างเคนทักกีที่ได้ให้ความช่วยเหลือส่งเกลือและทราย เพื่อนำมาโรยพื้นถนน

    นอกจากนี้ นายดีลยังได้กล่าวต่อประชาชนผู้ซึ่งยังไม่มีไฟฟ้าใช้ว่า ขอให้ทุกคนอดทน เพราะในขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายไฟฟ้ากำลังเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ ขณะที่ นายแพท แมคครอรี ผู้ว่าการรัฐนอร์ทแคโรไลนา ก็ออกมากระตุ้นเตือนให้ประชาชนตื่นตัวและพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยการชาร์จแบตเตอรีโทรศัพท์มือถือไว้ให้พร้อม ตลอดจนเตรียมถ่านใส่วิทยุและไฟฉาย เผื่อในกรณีที่ไม่มีไฟฟ้าใช้
    13 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 08:43 น.

    สหรัฐฯประสบ พายุน้ำแข็ง ครั้งใหญ่ - Voice TV
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความจริงที่โหดร้ายของประเทศแถบสแกนดิเนเวีย

    <iframe width="640" height="330" frameborder="0" scrolling="no" src="http://www.voicetv.co.th/content/embed?id=97116" ></iframe>

    ประเทศแถบสแกนดิเนเวียขึ้นชื่อว่าเป็นต้นแบบของความสมบูรณ์แบบเหนือประเทศอื่นๆในโลก แต่ในขณะเดียวกัน ประเทศเหล่านี้ ก็ยังมีความจริงที่โหดร้ายซ่อนเอาไว้อยู่ ความจริงที่ว่านี้

    ถ้าพูดถึงประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก ประชากรมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก อัตราการคอรัปชั่นต่ำที่สุดในโลก มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดในโลก ประชาชนมีความเท่าเทียมกัน และมีความเหลื่อมล้ำกันน้อยที่สุดในโลก หลายคนคงจะต้องนึกถึงประเทศในแถบสแกนดิเนเวียก่อนเป็นอันดับแรกๆ ที่ผ่านมา นักรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และนักสังคมวิทยา พยายามศึกษาตัวแบบของประเทศกลุ่มนี้ เพื่อหาสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้ประเทศเหล่านี้ มีอะไรดีๆกว่าประเทศอื่น จนเกิดงานวิจัยในหลากหลายรูปแบบ

    เมื่อมีด้านสว่างก็ต้องมีด้านมืด Michael Booth ผู้สื่อข่าวอิสระ ผู้เชี่ยวชาญด้านสแกนดิเนเวีย และใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศเดนมาร์กมานานนับสิบปี ได้เขียนบทความชิ้นใหม่ลงในหนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียน เพื่อเตือนสติให้คนทั่วไปได้เห็นว่า ประเทศแถบสแกนดิเนเวีย อาจไม่ได้ดี และสมบูรณ์แบบอย่างที่ใครหลายคนคิด และทุกคนควรเปิดใจยอมรับกับความจริงที่เป็นอยู่

    อย่างเช่นกรณีของประเทศเดนมาร์ก ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าประชาชนมีความสุขที่สุดในโลก เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น บูธมองว่า ชาวเดนมาร์กเป็นคนที่มีทัศนคติที่ดี ดังนั้น เวลาที่พวกเขาตอบแบบสอบถาม จึงไม่พลาดที่จะแสดงความเห็นในเชิงบวกออกไปเสมอ แต่สิ่งที่ทุกคนคงลืมคิดไปก็คือ เดนมาร์กเป็นประเทศที่มีชั่วโมงการทำงานของประชากรวัยทำงานน้อยมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ นำมาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่อาจจะไม่ได้คุณภาพเท่าที่ควร นอกจากนี้ ความจริงที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ ชาวเดนมาร์ก คือประชากรที่มีหนี้ส่วนบุคคลสูงที่สุดในโลก อีกทั้ง ชาวเดนมาร์กเกินครึ่งยังยอมรับว่า พวกเขามักซื้อของจากตลาดมืด เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปอีกด้วย

    ส่วนเรื่องของสวัสดิการสังคม ทั้งการศึกษา และสาธารณสุข ที่หลายคนมองว่าเดนมาร์กโดดเด่นกว่าประเทศอื่นๆนั้น จากผลสอบวัดความรู้ด้านวิชาการปีล่าสุด ที่จัดทำโดยองค์กรความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ OECD พบว่า อันดับของเดนมาร์ก อยู่ต่ำกว่าประเทศอังกฤษเสียด้วยซ้ำ ขณะที่ ด้านสาธารณสุข ก็มีการเปิดเผยข้อมูลจากกองทุนวิจัยมะเร็งโลกระบุว่า ชาวเดนมาร์กติดอันดับประชากรที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งสูงที่สุดประเทศหนึ่งของโลก ส่วนเรื่องความเท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ ที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่มักยกตัวแบบเดนมาร์กขึ้นมาพูดถึงอยู่บ่อยๆ สิ่งเหล่านี้ก็กำลังลดน้อยลงไปทุกที โดยรายงานของหนังสือพิมพ์ Politiken ของเดนมาร์กระบุว่า ชาวเดนมาร์กที่อยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และอัตราการว่างงานก็เพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน

    ส่วนที่ประเทศนอร์เวย์ หลายคนคงจำเหตุการณ์การสังหารหมู่ ที่ลงมือโดย Anders Behring Breivik เมื่อ 3 ปีก่อน ที่กลายเป็นเหตุสะเทือนขวัญไปทั่วโลก โดยนายเบรวิก เป็นกลุ่มขวาจัด ที่ต่อต้านวัฒนธรรมแบบพหุนิยม และต้องการรักษาไว้ซึ่งศาสนาคริสต์ในทวีปยุโรปแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งแนวคิดนี้ น่าจะเป็นแนวคิดที่ถูกต่อต้านในนอร์เวย์ ประเทศซึ่งเป็นเสรีนิยมสุดโต่ง แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่า หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว พรรคต่อต้านศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นพรรคที่นายเบรวิกเป็นสมาชิกมานานหลายปี กลับได้รับคะแนนนิยมจากการเลือกตั้งทั่วไปถึงร้อยละ 16.3 ซึ่งมากพอสำหรับการเข้าร่วมในรัฐบาลผสมเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์นอร์เวย์ ขณะเดียวกัน นอร์เวย์ยังเพิ่มความเข้มงวดเรื่องการรับคนเข้าเมือง โดยเมื่อปีที่ผ่านมา ผู้ที่ได้รับสถานะผู้ลี้ภัยในนอร์เวย์ มีไม่ถึงครึ่งหนึ่งของผู้ที่ยื่นสมัครมาทั้งหมดกว่า 5,000 คน

    ส่วนประเทศสวีเดน ประเทศที่ครองสถานะเป็นกลางทางการเมืองมาเนิ่นนาน ก็มีพฤติกรรมหลายๆอย่างที่อยู่เหนือความคาดหมายของใครหลายคน เช่น เป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของโลก อีกทั้ง อัตราการว่างงานในกลุ่มเยาวชนยังสูงกว่าประเทศอังกฤษ รวมถึงสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในอียูรวมกันอีกด้วย

    นี่อาจจะเป็นอีกมุมมองหนึ่งที่จะช่วยสะท้อนด้านอื่นๆของประเทศต้นแบบด้านประชาธิปไตย เศรษฐกิจ เสรีภาพ และความเท่าเทียมกันอย่างประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย ซึ่งสิ่งที่ใครหลายคนมองว่าสมบูรณ์แบบนั้น อาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่คิดก็เป็นได้
    13 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 06:39 น.

    ความจริงที่โหดร้ายของประเทศแถบสแกนดิเนเวีย - Voice TV
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    'เจรจา 2 เกาหลี' ยังไร้ข้อตกลง

    <iframe width="640" height="330" frameborder="0" scrolling="no" src="http://www.voicetv.co.th/content/embed?id=97140" ></iframe>

    การเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในเรื่องการจัดงานรวมญาติ และการร่วมซ้อมรบระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ยังไม่สามารถบรรลุผลที่ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจได้ โดยหลังจากนี้คาดว่าจะมีการจัดหารือกันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้งานวันรวมญาติสามารถมีขึ้นได้ในปลายเดือนนี้ตามกำหนดการเดิม

    ทางการเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ยังคงไม่ได้ข้อสรุปจากการเจรจา หลังเจ้าหน้าที่จากทั้งสองประเทศร่วมหารือนานเกือบ 14 ชั่วโมง โดยนายวอนดงยอน ตัวแทนจากเกาหลีเหนือ และนายคิมคยูฮยอน จากเกาหลีใต้ ได้ตกลงยุติการเจรจาในวันแรกลง หลังจากที่ไม่สามารถร่างข้อตกลงที่เห็นชอบร่วมกันได้

    ทั้งนี้ กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ได้เปิดเผยว่าการหารือดังกล่าวเน้นหนักในประเด็นการจัดงานรวมญาติของทั้งสองเกาหลี และการร่วมซ้อมรบของเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ โดยตามกำหนดการแล้ว งานรวมญาติระหว่างสองเกาหลีจะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 ถึง 25 กุมภาพันธ์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี

    ขณะที่ ทางการเกาหลีเหนือ ที่เคยข่มขู่ว่าจะยกเลิกการจัดงานวันรวมญาติครั้งนี้ หากเกาหลีใต่ยังคงดึงดันที่จะร่วมซ้อมรบกับกองทัพสหรัฐฯ นั้น ในการเจรจาครั้งนี้ก็ยังไม่สามารถบรรลุข้อสรุปที่เป็นที่พอใจทั้งสองฝ่ายได้ เนื่องจากทางการเกาหลีใต้ยืนยันว่างานวันรวมญาติเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องจัดขึ้นให้ได้ หากต้องการจะพัฒนาความสัมพันธ์อันดีภายในคาบสมุทร อย่างไรก็ตาม ทางการเกาหลีเหนือก็ได้ยืนยันในจุดยืนเดิมว่า การร่วมซ้อมรบจะต้องถูกยกเลิก

    ก่อนหน้านี้ นายซอเซ-พยอง เจ้าหน้าที่ทูตถาวรเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ ออกมาระบุอีกครั้งว่าการประกาศซ้อมรบระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ เป็นการกระทำที่ปลุกปั่นยั่วยุและเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของเกาหลีเหนืออย่างยิ่ง ตลอดจนได้ตั้งคำถามว่า ทำไมการร่วมซ้อมรบจึงไม่เกิดขึ้นในอาณาเขตของสหรัฐฯ เอง หากมีความบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง

    โดยตัวแทนจากเกาหลีใต้ให้ความเห็นระหว่างการหารือว่าประเด็นเรื่องมนุษยธรรมในการสนับสนุนให้ครอบครัวที่พลัดพรากได้เจอหน้ากัน กับประเด็นการร่วมซ้อมรบ ควรได้รับการพิจารณาแยกจากกันโดยสิ้นเชิง และการซ้อมรบนี้เป็นไปเพื่อความมั่นคงในการปกป้องประเทศ ไม่ใช่การเตรียมตัวทำสงครามอย่างที่เกาหลีเหนือเข้าใจแต่อย่างใด

    หลังจากนี้ ทั้งสองประเทศจะจัดการเจรจาขึ้นอีกครั้ง เพื่อให้สามารถบรรลุข้อตกลงในประเด็นการเมืองการทหารดังกล่าวให้ได้โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จากทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้มีการระบุวันเจรจาที่แน่นอน
    13 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 11:41 น.

    เจรจา 2 เกาหลี ยังไร้ข้อตกลง - Voice TV
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เทพบุตร ชาวดิน

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/6Eiq9lpjs9E?feature=player_detailpage" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    The Moon Appreciation Society

    Last night's Moon...

    [​IMG]
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สองหนุ่มต่างชาติอาศัยความมืดพรางตัว ดอดขึ้นเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ ตึกสูงอันดับสองของโลก ป่ายปีนทะลุเมฆเหนือความสูง 6 พันเมตร

    DON'T LOOK DOWN! POV footage of shanghai tower climb - YouTube

    [​IMG]

    สองหนุ่มนินจา ชื่อ วาดิม มาโครอฟ กับวิตาลี ราสโคลอฟ ลักลอบขึ้นตึกเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ อาคารสูงที่สุดของจีน ซึ่งยังสร้างไม่เสร็จ

    ทั้งสองต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง กว่าจะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของตึก ที่ระดับเหนือพื้นดิน 6,000 เมตร

    สองหนุ่มขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเดินเหนือเมฆสูงเสียดฟ้า ก่อนลงมือถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอ เอากลับลงมาอวดกันอย่างตื่นเต้น

    "ตอนกลางวัน มีทั้งรปภ. กล้องวงจรปิด เราจึงต้องขึ้นไปตอนกลางคืน ไม่ให้ใครเห็น กว่าจะถึงยอดตึก ใช้เวลาสองชั่วโมง มองเห็นแต่ก้อนเมฆ" วาดิม บอก

    "เราต้องรอคอยกันอีก 2 ชั่วโมง พอก้อนเมฆผ่านไป เราเห็นวิวทิวทัศน์ คล้ายกับมองลงมาจากเครื่องบิน"

    "ภารกิจนี้ทำให้ต้องอดนอนกว่า 24 ชั่วโมง เป้าหมายของเรา คือ พิชิตตึกสูงที่สุดในจีน อาคารสูงอันดับสองของโลก ตื่นเต้นมากครับที่ทำสำเร็จ."

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    Source : Daily Mail
    Photos : Vadim Gurnov/Caters News
    by sathitm

    13 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 12:45 น.

    หนุ่มป่ายก้อนเมฆ ดอดปีนตึกสูงสุดในจีน - Voice TV
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Surviving Earth Changes 2013 and Beyond ได้แชร์รูปภาพ ของ The Weather Channel

    เรารู้ว่ามันบ้า แต่นี้อย่างจริงจังสิ่งที่ร้านขายของชำในอลาบามา, จอร์เจียและแคโรไลนามีลักษณะเหมือนตอนนี้ ภาพถ่ายอื่น ๆ ที่นี่: Winter Storm Pax: Grocery Store Shelves Wiped Clean in the South - weather.com How Much Snow, Ice Will YOU Get? (ภาพผ่านทาง @ Kurt_Wagner)

    We know it's crazy, but this is seriously what grocery stores across Alabama, Georgia and the Carolinas look like right now. More photos here: http://ow.ly/tw4VN(Photo via @Kurt_Wagner)

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  16. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +2,670
    ภาพเหมือนบ้านเราตอนน้ำท่้วม เห็นอย่างนี้แล้ว ก็เห็นด้วยกับคนที่เขาเตรียมการ นะ

    แต่ก็ไม่ วิตกมากไป ก็ดี
     
  17. natatik

    natatik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2012
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +3,607
    ด่วน!!! ภูไฟเครุต1ในภูไฟอันตรายที่อินโดได้ระเบิดแล้ว


    สำนักข่าวของกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียรายงานด่วนมาก วันนี้ 14 ก.พ.57ว่าศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซียสั่งเร่งอพยพประชาชนราว 200,000 คน รอบภูเขาไฟเคลุด หนึ่งในภูเขาไฟ "อันตราย" ที่สุดของประเทศ ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะชวา ปะทุก่อนระเบิดระเบิดจนได้ยินเสียงดังกึกก้องถึง150กิโลเมตรตามรายงานยังแจ้งว่าได้เกิดควันพุ้งขึ้นท้องฟ้าจนมืดไปทั้วเหมือนตอนกลางคืน

    ภาพมาแล้วจากสำนักข่าวของอินโดจะเห็นประชาชนกำลังหนีตายจำนวนมากและท้องฟ้าในเวลานี้ได้มืดลงเหมือนตอนกลางคืนแล้วจากเถ่าถ่านที่ได้ขึ้นไปบดบังบนท้องฟ้า จากการปะทุใหญ่ของภูเขาไฟเคลูด (Kelud) ในเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา 14 ก.พ.57 และในขณะนี่สนามบินได้ปิดทำการ 3 แห่ง ได้แก่ สนามบินจูอานดา ในสุบารายา สนามบิน อาดีซูมาโม ในโซโล และสนามบินอาดีซูชิปโต ในโยกยาคาร์ตาล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว13คน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2014
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มลพิษปักกิ่งเกือบถึงระดับที่ไม่เหมาะกับการดำรงชีวิต ด้านรบ.จีนตั้งกองทุนหมื่นล้านหยวนแก้ปัญหา
    วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 20:30:20 น.Tweet

    สำนักข่าวรอยเตอร์และเอพีรายงานว่า สภาพมลพิษในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน อยู่ในระดับที่เกือบจะไม่เหมาะสมสำหรับการดำรงชีวิตอยู่แล้ว โดยในรายงานของสำนักงานวิชาการด้านสังคมศาสตร์ ในกรุงปักกิ่งและสำนักงานวิชาการด้านสังคมศาสตร์เซี่ยงไฮ้ ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ระบุว่า กรุงปักกิ่งถูกจัดอยู่ในอันดับ 2 ของเมืองใหญ่ 40 แห่งทั่วโลก ที่มีสภาพอากาศเลวร้ายที่สุด รองจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย โดยสภาพมลพิษที่ร้ายแรงในกรุงปักกิ่งถือว่ารุนแรงกว่าค่าเฉลี่ยอย่างมาก และคุณภาพความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อมก็ยังห่างไกลมาตรฐานความปลอดภัย

    โดยเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ รัฐบาลจีนได้ประกาศจัดตั้งกองทุนมูลค่า 10,000 ล้านหยวน (ราว 54,450 ล้านบาท) เพื่อจัดการกับสภาพอากาศที่เป็นมลพิษ โดยจะใช้เพื่อเป็นรางวัลให้แก่รัฐบาลท้องถิ่น และบริษัทที่มีการประกอบกิจการที่สามารถควบคุมมลพิษได้เป็นอย่างดี

    มลพิษปักกิ่งเกือบถึงระดับที่ไม่เหมาะกับการดำรงชีวิต ด้านรบ.จีนตั้งกองทุนหมื่นล้านหยว
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Severe Weather and Earth Headlines

    ลูกบอลพลังงานอยู่เหนือ ภูเขา ReDoubt อลาสก้า
    (BPEarthWatch/Blogtalk/Energy Balls Over Alaska)

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=bZdtdKT1m_8&feature=player_embedded]BPEarthWatch/Blogtalk/Energy Balls Over Alaska - YouTube[/ame]

    ข้อมูลเดิม
    ที่นี่มีคำตอบเกี่ยวกับ 'สิ่งที่เป็นลูกทรงกลม' ที่กำลังเข้าประชิดโลก (guys, here are the answers about the 'BALL' approaching Earth.)

    ตัวบ่งชี้อื่นของ Tolec ของการบังเกิดการเคลื่อนย้ายมิติ : (Tolec’s Another indicator of the coming dimensional shift

    สำหรับเรื่องนี้ ได้มีการสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับ 'ลูกทรงกลม' ขนาดใหญ่มาก "สิ่งที่เป็นลูกทรงกลมของพลังงานลูกหนึ่ง", ที่เพิ่งค้นพบใกล้กับดวงอาทิตย์ ซึ่งดูคล้ายๆ กับว่าจะไม่เคยมีใครพบเห็นมาก่อน นี่คือวีดีโอภาพที่คุณจะอ้างอิงได้ทั้งหมด: (Thanks to Leanne and many others for this one!
    A number of you have asked about a very large ‘sphere’, a “ball of energy”, recently discovered near the Sun, looking like nothing we have ever seen before. Here is the video you have all referenced

    บอลพลังงานใกล้โลกจากภาคใต้
    Ball of Energy Approaching Earth From the South.
    Ball of Energy Approaching Earth From the South. - YouTube

    นี่คือสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับมัน (This is what I have learned about it

    a.) มันเป็นลูกทรงกลมของพลังงานมิติที่สูงขึ้น
    a.) it is a sphere of higher dimensional energy

    b.) ลูกทรงกลมนี้เป็นสิ่งดำรงอยู่ ที่มีความรู้สึก, พลังชีวิตที่ชาญฉลาด (b.) this sphere is a being… a sentient, intelligent life force)

    ค) รูปแบบชีวิตนี้มาจาก Menkent ในกลุ่มดาว Centaurus - ในซีกโลกใต้ [คุณสามารถวิจัยตำแหน่งนี้โดยใช้ "Stellarium" ซอฟต์แวร์แผนภูมิดาว] (c.) this life form comes from Menkent in the Centaurus constellation – in the southern hemisphere [you can research this location using "Stellarium" star chart software] )

    d.) มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดีเลิศอย่างแท้จริงที่มีพลังชีวิตจากที่เหนือกว่ามิติที่ 13 ของชีวิต (d.) it is a truly magnificent being whose life force is from ‘beyond’ the 13th dimension of life )

    e.) วัตถุประสงค์เฉพาะสำหรับการมาที่นี่คือการให้ความช่วยเหลือระบบสุริยะของเรา รวมถึงดาวเคราะห์โลก โดยการการเคลื่อนย้ายอย่างเหนือขึ้นไปในด้านมิติ& การเปลี่ยนแปลงของโลกนี้ ... กำลังเข้าไปสู่จุดถัดไป ได้อย่างเร็วขึ้น / ความถี่สูง / มิติของชีวิต
    e.) the specific purpose for this being to come here is to assist our solar system, including planet Earth, with the dimensional upward shift & transformation of this world… into that of the next faster/higher frequency/dimension of life. Tolec's Another indicator of the coming dimensional shift: « Galactic ConnectionGalactic Connection
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Pics & Clips : พายุหิมะยังถล่มสหรัฐฯ ทำรถชนวินาศสันตะโรหลายสิบคัน-ฟ้าผ่าเครื่องบิน

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 กุมภาพันธ์ 2557 04:00 น.

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=Dk_619XPR1k&feature=player_embedded]Massive chain reaction pileups in Pennsylvania due to slick conditions, sun glare aerial footage - YouTube[/ame]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=IRAt2qWwzNo&feature=player_embedded]US winter storms lead to Pennsylvania highway pile up - YouTube[/ame]

    เอเจนซี - สภาพอากาศอันเลวร้ายที่กำลังเล่นงานสหรัฐฯ ก่อเกิดอุบัติเหตุรถชนกันต่อเนื่องวินาศสันตะโรอย่างน้อย 2 จุด รวมแล้วราว 50-100 คันบนทางหลวงเพนซิลเวเนีย เทิร์นไพค์ รอบนอกเมืองฟิลาเดลเฟียในวันศุกร์ (14) เป็นผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 30 คน การสัญจรแน่นิ่งนับสิบกิโลเมตร ขณะที่ชายฝั่งตะวันออกของอเมริกา ยังเจอพายุถล่มต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ด้วยบางพื้นที่มีหิมะตกลงมาหนากว่า 2 ฟุต สร้างความยุ่งเหยิงเป็นบริเวณกว้างไล่ตั้งแต่ทางใต้ไปจนถึงเขตนิวอิงแลนด์

    รีเน วิด โคลบอร์น โฆษกของคณะกรรมการทางหลวงเพนซิลเวเนีย เทิร์นไพค์ เปิดเผยว่าทางหลวงเพนซิลเวเนีย เทิร์นไพค์ กระจัดกระจายไปด้วยเศษซากของยานพาหนะประมาณ 50-100 คัน จากอุบัติเหตุในหลายจุดใกล้ๆ กัน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 30 ราย ก่อปัญหารถติดสะสมยาวเหยียดกว่า 11 กิโลเมตร และต้องปิดการสัญจร “มันเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่” โคบอร์นกล่าว พร้อมให้ข้อมูลว่ามีรถชนกันต่อเนื่อง 2 จุด และแต่ละจุดมีรถเกี่ยวข้องไม่น้อยกว่า 25 คัน กระนั้นในผู้ได้รับบาดเจ็บ ไม่มีใครที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต

    [​IMG]

    *อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งที่นอร์ทแคโรไลนา กลับพบผู้เสียชีวิตจากภัยน้ำแข็งปกคลุมท้องถนนหรือขณะที่หิมะเทลงมา อีก 5 ราย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุลูกนี้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 20 รายแล้ว โดยในนิวยอร์ก มีรายงานเหล่าคณะแพทย์กำลังเร่งมือผ่าตัดเอาทารกออกจากครรภ์ของสตรีรายหนึ่งที่ถูกรถกวาดหิมะของชาวบ้านชนในบริเวณลานจอดรถในบรู๊คลิน

    ท้องฟ้าสีครามและอุณหภูมิที่บรรเทาขึ้นในพื้นที่นิวยอร์กซิตี เมื่อวันศุกร์ (14) ช่างขัดแย้งโดยสิ้นเชิงกับสภาพหิมะตกหนักและพายุฟ้าผ่าในช่วงค่ำคืนก่อนหน้านี้ในนิวเจอร์ซีย์ ด้วยมีรายงานว่าเกิดฟ้าฝ่าใส่เครื่องบินโดยสารของสายการบินสปิริต แอร์ไลน์ส ที่กำลังบินมาจากฟลอริกา แต่เคราะห์ดีที่สามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัยที่ท่าอากาศยานปลายทาง สนามบินแอตแลนติก ซิตี อินเตอร์เนชันแนล

    [​IMG]

    * “เสียงฟ้าร้องท่ามกลางหิมะที่ตกลงมา สะท้อนให้เห็นว่าพายุลูกนี้มีความรุนแรงมากแค่ไหน และจะมีหิมะตกหนักเพียงใด” คริส วัคคาโร โฆษกสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติบอก พร้อมเผยข้อมูลมาในเมืองไพล็อต ในมลรัฐเวอร์จิเนีย มีหิมะตกลงมาหนาถึง 72.3 เซนติเมตร และคาดหมายว่าระบบพายุใหม่จากแถบตอนกลางของที่ราบเกรตเพลนส์จะพัดพาเอาหิมะหนาถึง 7 เซนติเมตร ซัดถล่มชายฝั่งตะวันออกไปจนถึงช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

    หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักเมื่อวันพฤหัสบดี (13) ทั้งในและรอบๆ นิวยอร์ก ซิตี บอสตันและฟิลาเดลเฟีย เป็นเหตุให้โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอน ขณะที่บางแห่งก็ยังคงหยุดเรียนต่อเนื่องจนถึงวันศุกร์ (14)

    ข้อมูลของเว็บไซต์การติดตามเที่ยวบิน FlightAware.com ระบุว่าจนถึงเที่ยงวันของวันศุกร์ (14) มีเที่ยวบินสหรัฐฯต้องยกเลิกแล้ว 1,400 เที่ยว และอีก 2,400 เที่ยว ประสบปัญหาเดินทางล่าช้า ขณะที่สภาพอากาศได้ก่อผลกระทบแก่ธุรกิจร้านดอกไม้ในวันวาเลนไทน์ ที่ปีนี้ไม่คึกคัก

    [​IMG]

    [​IMG]

    <b><font color=blue>In Pics & Clips : </font></b>
     

แชร์หน้านี้

Loading...