ติดตามสถานะการณ์

พุฒิพงศ์ ก้อนวิมล



ภาพถ่ายดวงอาทิตย์ของวันนี้ 5 กุมภาพัรธุ์ 2557จะเห็นช่วงแสง 193A แสดงให้เห็นหลุมโคโรนา (สีดำกลางดวงอาทิตย์) หันตรงมายังโลก ลมสุริยะอาจเเพิ่มความเร็วขึ้นในวันสองวันนี้

 

สหรัฐฯ ยังไม่พ้นภัย พายุลูกใหม่รุนแรงผิดปกติซัดถล่ม ส่อกระทบเป็นวงกว้าง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 กุมภาพันธ์ 2557 02:08 น.

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/LEkjeRSa9Hk?feature=player_detailpage" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

เอเจนซี - พายุรุนแรงผิดปกติกำลังถาโถมเข้าเล่นงานมลรัฐแคนซัส สหรัฐฯ ด้วยนักพยากรณ์อากาศเตือนอาจมีหิมะตกลงมาหนาถึง 10 นิ้วในวันอังคาร (4 ก.พ.) จากนั้นก็คาดหมายว่าจะเคลื่อนผ่านแถบมิดเวสต์อย่างรวดเร็วและมุ่งสู่เขตนิวอิงแลนด์

หิมะเปียกที่ตกลงมาอย่างหนักเป็นผลให้หน่วยงานรัฐและโรงเรียนจำนวนมากทั่วทั้งภูมิภาคต้องปิดตัวลง ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ออกคำเตือนประชาชนอยู่ในแต่ที่พักอาศัย ส่วนสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐฯ เตือนถึงสภาพการเดินทางที่ยากลำบากอย่างสาหัส



* “แคซัส ซิตี และทางตะวันออกของแคนซัส กำลังเผชิญกับหิมะที่ตกลงมาหนามาก” เกรก คาร์บิน ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์พยากรณ์พายุของสำนักงานพยากรณ์อากาศสหรัฐฯ ระบุ “มันเป็นสภาพอากาศที่แปลกประหลาด หน้าหนาวยังยึดโยงอยู่ ดูเหมือนว่ามันจะไม่ต้องการจากไปไหน”

แดน ฮอว์บลิตเซล นักอุตุนิยมวิทยาของสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติ ระบุว่า ระบบพายุก่อตัวขึ้นเหนือแถบตะวันตกเฉียงใต้ของแคนซัสเมื่อช่วงค่ำคืนวันจันทร์ (3) และแผ่ลามถึงแคนซัส ซิตีในวันอังคาร (4)



* ทั้งนี้ แคนซัส ซิตี ไม่ค่อยเผชิญกับภาวะหิมะตกหนักจากพายุฤดูหนาวบ่อยครั้งนัก ด้วยที่ผ่านมามีแค่ 3 เปอร์เซ็นต์ของพายุเท่านั้นที่ก่อหิมะตกลงมาหนากว่า 6 นิ้ว ดังนั้นความคาดหมายว่ามีหิมะตกลงมาหนาถึง 10 นิ้ว จึงเป็นเหตุการณ์ที่ผิดปกติอย่างยิ่ง ฮอว์บลิตเซลระบุ

ระบบพายุลูกนี้กำลังพัดพาเอาหิมะตกหนักซัดผ่านแถบตอนกลางของสหรัฐฯ และคาดหมายว่ามันจะเคลื่อนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ มุ่งหน้าสู่เพนซิลเวเนีย นิวยอร์กและรัฐต่างๆ ในเขตนิวอิงแลนด์ในวันพุธ (5) "มันจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ราว 2 ใน 3 ของประเทศ" ฮอว์บลิตเซลกล่าว



* พายุหิมะที่คืบคลานเข้ามานี้ มีขึ้นไม่นานหลังจากพายุฤดูหนาวเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงลูกหนึ่งซัดถล่มแถบนอร์ทอีสต์ของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (3) เป็นเหตุให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินทั่วภูมิภาค และการจราจรหยุดชะงักในวันที่มีการศึกชิงแชมป์อเมริกันฟุตบอล “ซูเปอร์โบว์ล” ที่นิวเจอร์ซีย์

จนถึงวันอังคาร (4) ขณะที่พายุลูกใหม่คืบคลานเข้ามา ปัญหาล่าช้าและยกเลิกเที่ยวบินยังไม่คลี่คลาย ด้วยมีเที่ยวบินกว่า 3,100 เที่ยวเดินทางล่าช้าในตอนเช้าวันอังคาร และอีก 905 เที่ยวบินต้องยกเลิก

 

ไมโครซอฟท์แถลงเขี่ย “บิล เกตส์” พ้นประธาน พร้อมประกาศตั้งซีอีโอคนใหม่ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 กุมภาพันธ์ 2557 23:17 น.


* นายบิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟต์ถูกปรับพ้นตำแหน่งประธาน ดูภาพ

เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ไมโครซอฟท์แถลงเมื่อวันอังคาร (4) ว่านายบิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัท กำลังลงจากตำแหน่งประธานและหันมานั่งเก้าอี้ที่ปรึกษา ขณะเดียวกันก็มีการแต่งตั้งนายซัตยา นาเดลลา ขึ้นดำรงตำแหน่งซีอีโอคนต่อไป ยุติการค้นหาที่ยาวนานเกินคาดหมาย หลังจากนายสตีฟ บอลล์เมอร์ แถลงถึงความตั้งใจเกษียณอายุในเดือนสิงหาคม

“เกตส์ จะอุทิศเวลาเพิ่มเติมแก่บริษัทในบทบาทใหม่ในคณะกรรมการบริหาร ในฐานะผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษาทางเทคโนโลยี” ถ้อยแถลงของบริษัทระบุ

ในส่วนของนายนาเดลลา จะกลายเป็นซีอีโอเพียงคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ 39 ปีของไมโครซอฟท์ต่อจากนายบิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งและนายบอลล์เมอร์ “ระหว่างช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่าน ไม่มีบุคคลใดเหมาะสมนำพาไมโครซอฟท์ได้ดีกว่า ซัตยา นาเดลลา อีกแล้ว” เกตส์ ระบุในถ้อยแถลงของบริษัท

“ซัตยา ได้พิสูจน์ตนเองแล้วในฐานะผู้นำ ทั้งในด้านความสามารถทางวิศวกรรม วิสัยทัศน์ทางธุรกิจและความสามารถทำให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน วิสัยทัศน์ของเขาต่อความรอบรู้ทางเทคโนโลยีและประสบการณ์จากรอบโลกคือสิ่งที่ไมโครซอฟท์ต้องการอย่างแท้จริง ขณะที่ทางบริษัทกำลังก้าวสู่ปฐมบทของการขยายนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และการเติบโต”


* นายซัตยา นาเดลลา ซีอีโอคนต่อไปของไมโครซอฟต์ ดูภาพ

นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังเปิดเผยด้วยว่านายจอห์น ธอมป์สัน ประธานกรรมการอิสระจะเข้ามาสานต่อเกตส์ในฐานะประธาน ส่วนนายเกตส์ จะได้รับบทบาทใหม่ในฐานะที่ปรึกษาทางเทคโนโลยีและยังคงมีตำแหน่งในบอร์ดบริหารของบริษัท

หุ้นของผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายใหญ่ที่สุดของโลก ดีดตัวขึ้นร้อยละ 1 ตามหลังข่าวดังกล่าว เนื่องด้วยตัวเลือกอย่างนายนาเดลลา ได้รับคาดหมายไว้ล่วงหน้าอย่างกว้างขวาง ขณะที่นักลงทุนและนักวิเคราะห์ก็ได้ตรึกตรองและทบทวนถึงประสิทธิผลที่ผู้มีประสบการณ์การทำงานกว่า 22 ปีรายนี้จะจุดประกายความทะเยอทะยานด้านโทรศัพท์มือถือของบริษัทและสร้างความพึงพอใจแก่วอลล์สตรีทมากน้อยแค่ไหน

ไมโครซอฟท์กำลังเผชิญกับสภาวะถดถอยของอุตสาหกรรมพีซี และจำเป็นต้องดำเนินการบางอย่างเพื่อท้าทายแอปเปิล อิงค์และกูเกิล อิงค์ ในอาณาจักรใหม่คอมพิวเตอร์แบบเคลื่อนที่

นักวิเคราะห์เห็นพ้องว่า ภูมิหลังของนาเดลลา ด้านเป็นผู้นำการริเริ่มตลาดคลาวด์ หรือการให้บริการซอฟต์แวร์ผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้เขาดูจะเป็นคนที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผลักดันบริษัทก้าวไปข้างหน้า อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีคำถามเกี่ยวกับความสามารถในการสร้างไมโครซอฟท์ให้โดนใจผู้บริโภคหรือเหล่าผู้ถือหุ้นที่เป็นพวกใจร้อน

สำหรับนายนาเดลล่า เป็นคนพื้นเมืองไฮเดอราบัดของอินเดีย ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์วิจัยนอกสหรัฐฯที่ใหญ่ที่สุดของไมโครซอฟท์ โดยเขาเริ่มงานในเส้นทางไอทีกับบริษัทซอฟต์แวร์บนอินเทอร์เน็ต “ซัน ไมโครซิสเต็มส์” ก่อนจะมาร่วมงานกับไมโครซอฟท์ในปี 1992 และเลื่อนขั้นอย่างรวดเร็วด้วยบทบาทผู้นำในทีมพัฒนาโปรแกรมออฟฟิศ และระบบค้นหาข้อมูลบิง กระทั่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำแผนกเซิร์ฟเวอร์และเครื่องมือสำหรับระบบคอมพิวเตอร์ในปี 2011 ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นธุรกิจสำคัญที่สนับสนุนการขยายบริการคลาวด์ คอมพิวติ้ง โดยมีนายนาเดลล่าเป็นรองประธานคณะผู้บริหารกลุ่มคลาวด์ และเอ็นเตอร์ไพรซ์

 

คลังสหรัฐฯเร่งสภาเพิ่มเพดานหนี้ เตือนเส้นตายผิดนัดชำระสิ้นเดือน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 กุมภาพันธ์ 2557 22:06 น.


*รัฐมนตรีคลัง แจ๊ก ลูว์ ของสหรัฐฯ ดูภาพ

ขณะไปกล่าวสุนทรพจน์ที่ “ไบพาร์ทิซัน โพลิซี เซนเตอร์” ในกรุงวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ (3) โดยเขาเร่งรัดให้รัฐสภาอนุมัติเพิ่มเพดานการก่อหนี้ของรัฐบาลอเมริกัน ภายในเดือนนี้

เอเจนซีส์ - รัฐมนตรีคลัง จาค็อบ ลูว์ ของสหรัฐฯ ออกโรงเตือนคองเกรสเมื่อวันจันทร์ (3 ก.พ.) อย่ามัวยื่นเงื่อนไขต่อรองให้รัฐบาลตัดลดงบประมาณรายจ่าย แต่ควรเร่งตกลงกันให้ได้เพื่อขยายเพดานการก่อหนี้ เนื่องจากอำนาจการกู้ยืมของรัฐบาลกำลังจะหมดลงไปในวันศุกร์นี้ (7) อย่างไรก็ดี สื่ออเมริกันระบุว่า พวกนักลงทุนเชื่อสมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันยังเข็ดขยาดจากการดันทุรังหนก่อนจนกลายเป็น “วิกฤตชัตดาวน์” รวมทั้งการที่ปีนี้ยังเป็นปีที่จะมีการเลือกตั้งกลางเทอม ดังนั้นจึงไม่น่าจะกล้าเสี่ยงขัดขวางการยืดเพดานการก่อหนี้ในครั้งนี้

ลูว์ ระบุในร่างสุนทรพน์ที่เขาเตรียมพูดต่อที่ประชุมของ “ไบพาร์ทิซัน โพลิซี เซนเตอร์” ซึ่งเป็นกลุ่มคลังสมองในวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ (3) ว่า รัฐสภาจำเป็นต้องลงมติขยายเพดานการกู้ยืมหนี้ของรัฐบาลทันที เนื่องจากอำนาจดังกล่าวกำลังจะหมดลงในอีกไม่กี่วัน ทำให้กระทรวงการคลังต้องริเริ่มมาตรการพิเศษเพื่อให้รัฐบาลมีเงินไปชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ

ขุนคลังแดนอินทรียังตั้งข้อสังเกตว่า การหมดอำนาจที่จะขยายเพดานการก่อหนี้เพิ่มขึ้นอีกหลังจากวันที่ 7 นี้ จะเกิดขึ้นพร้อมๆ กับฤดูการจ่ายคืนภาษี ซึ่งจะทำให้เงินสดสุทธิของรัฐบาลไหลออก และความสามารถในการก่อหนี้ถดถอยลงอย่างรวดเร็ว กระทั่งคงจะหมดลงไปภายในสิ้นเดือนนี้

ทั้งนี้ ตามข้อกำหนดในกฎหมายที่ใช้บังคับฉบับปัจจุบัน เมื่อถึงเส้นตายวันศุกร์ที่ 7 ก.พ.นี้ เพดานการกู้ยืมของรัฐบาลจะถูกจำกัดให้อยู่ที่จำนวนรวมที่กู้ยืมทั้งหมด ณ วันนั้น ห้ามขยับขึ้นไปอีก ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากสำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในภาวะขาดดุลงบประมาณอย่างหนัก และต้องหาทางกู้เงินด้วยวิธีต่างๆ เพื่อนำมาใช้จ่าย สำหรับยอดหนี้สินของรัฐบาลสหรัฐฯในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 17.3 ล้านล้านดอลลาร์

ลูว์แสดงความยินดีที่ก่อนหน้านี้รัฐสภาสามารถทำความตกลงกันได้ในเรื่องร่างงบประมาณ หลังจากที่เคยเกิดการเผชิญหน้าทางการเมืองกระทั่งต้องปิดหน่วยงานมากมายของรัฐบาลหรือที่เรียกว่า วิกฤตชัตดาวน์ ถึง 16 วันเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว

กระนั้น เขาเตือนว่า รัฐสภาไม่ควรรั้งรออนุมัติการขยายเพดานหนี้จนกระทั่งถึงนาทีสุดท้าย เนื่องจากจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือของประเทศและสร้างความปั่นป่วนต่อตลาดการเงิน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การต่อสู้ในรัฐสภาในปีที่ผ่านมาฉุดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ รวมทั้งยังทำให้นักลงทุนตั้งข้อสงสัยอย่างเปิดเผยว่า การถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ บางประเภทเป็นการลงทุนที่เสี่ยงเกินไปหรือไม่

รัฐมนตรีคลังยังวิจารณ์สมาชิกรัฐสภาบางคน ที่พยายามตั้งเงื่อนไขให้รัฐบาลลดการใช้จ่ายแลกกับการขยายเพดานการก่อหนี้ โดยตั้งข้อสังเกตว่า การขยายเพดานการก่อหนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายใหม่ๆ แต่เป็นภาระหน้าที่ในการชำระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นแล้วและถึงกำหนดชำระ เช่น เงินเดือนข้าราชการ สวัสดิการรักษาพยาบาล หรือกระทั่งเงินที่ต้องจ่ายให้กับผู้รับเหมารับจ้างที่ได้ทำสัญญาไว้กับรัฐ

ทั้งนี้ สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรครีพับลิกัน โดยเฉพาะกลุ่มอนุรักษนิยมสุดโต่ง “ที ปาร์ตี้” ยังกำลังครุ่นคิดผูกเงื่อนไขพ่วงท้ายการขยายเพดานหนี้เพื่อมุ่งลดยอดหนี้สาธารณะลงมา ขณะที่คณะรัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา จากพรรคเดโมแครต ยืนกรานต่อต้านการพ่วงเงื่อนไขใดๆ

ลูว์ยังกดดันให้คองเกรสหลีกเลี่ยงการสร้างบาดแผลให้เศรษฐกิจของประเทศที่ก้าวเข้าสู่ปี 2014 อย่างมั่นคงโดยได้แรงส่งจากความแข็งแกร่งในไตรมาสส่งท้ายปีที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า ปีนี้ควรเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ทางเศรษฐกิจ ด้วยเหตุนี้ คองเกรสจึงควรลงมติขยายเพดานการก่อหนี้โดยไม่ต้องรั้งรออย่างไม่จำเป็น หรือแสดงทัศนคติทางการเมืองที่อาจลุกลามกลายเป็นวิกฤตการณ์ที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลหลีกเลี่ยง

อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับประเด็นนี้ สื่ออเมริกันอย่างเช่น คริสเตียน ไชแอนซ์ มอนิเตอร์ รายงานว่า พวกนักลงทุนจำนวนมากเชื่อว่า รัฐสภา โดยเฉพาะสมาชิกรีพับลิกันที่ยังไม่ลืมความพ่ายแพ้จากวิกฤตชัตดาวน์เดือนตุลาคม จะหมดความกระตือรือร้นในการลุกขึ้นมาเผชิญหน้าเพื่อขัดขวางการขยายเพดานหนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ จะต้องมีการเลือกตั้งกลางเทอม ซึ่งมีทั้งการเลือกตั้ง ส.ส. ทั้งสภา และวุฒิสมาชิกราว 1 ใน 3

 

Vyt Alivety

ไหวมั้ยบอลโลก? “บราซิล” เจอปัญหา “ไฟดับ” หลายรัฐ-กระทบประชาชน 3 ล้าน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 กุมภาพันธ์ 2557 09:15 น.



เอเอฟพี - จะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2014 อยู่ร่อมร่อ แต่บราซิลยังเผชิญปัญหาไฟฟ้าดับในหลายรัฐเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา (4) รวมถึง 3 รัฐซึ่งจะเป็นสถานที่จัดการแข่งขันในเดือนมิถุนายนนี้ด้วย ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่ารัฐบาลแซมบ้าจะสามารถควบคุมการจ่ายไฟฟ้าให้เสถียรได้ตลอดศึกเวิลด์คัพหรือไม่

ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้นในระยะนี้ ประกอบกับเป็นช่วงหน้าแล้งที่ฝนตกน้อย ทำให้บริษัทไฟฟ้าแห่งชาติ โอเอ็นเอส ต้องประกาศเตือน “ไฟฟ้าดับ” เป็นช่วงๆ โดยเฉพาะทางตอนเหนือ, ตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้ของบราซิล

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีประชาชนราว 3 ล้านคนได้รับผลกระทบจากปัญหาไฟฟ้าดับใน 11 รัฐ รวมถึงรัฐรีโอเดจาเนโรและปารานา ซึ่งจะเป็นสถานที่จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ในอีก 4 เดือนข้างหน้า

โอเอ็นเอสแถลงว่า การตัดไฟฟ้ากินเวลาประมาณ 40 นาที ก่อนที่โรงไฟฟ้าจะทยอยจ่ายไฟจนเข้าสู่ระดับปกติ

ก่อนหน้านั้นเพียง 1 วัน ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในบราซิลพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากอากาศร้อนทำให้ผู้คนแห่กันใช้เครื่องปรับอากาศ

ทางการบราซิลยืนยันว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนซึ่งเหลืออยู่เพียงน้อยนิดเนื่องจากฝนแทบไม่ตก ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ไฟฟ้าขาดแคลน

บราซิลเคยประสบปัญหาไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างมาแล้วหลายครั้ง เช่นเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วซึ่งเกิดไฟดับใน 8 รัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เนื่องจากมีเพลิงไหม้ที่สถานีจ่ายไฟฟ้า

ระบบจ่ายไฟฟ้าแห่งชาติขัดข้องเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2012 ทำให้พื้นที่ตอนเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิลตกอยู่ในความมืดมิดนานหลายชั่วโมง รวมถึงที่เมืองหลวงบราซิเลีย

 

เฉลิมชัย ล้อลีลา แชร์ รูปภาพ ของ Chanvit Spk

" ปิดตำนานคนบาปที่ทำร้ายพ่อ-แม่ได้เสียชีวิตลงแล้ว! " ...



"นางหมา"ชาวพม่าตำนานคนบาปทำร้ายพ่อ-แม่เสียชีวิตแล้ว!ฮือฮานางหมา"ตำนานคนสาป"ได้อาศัยอยู่ชานกรุงเนปิดอร์ประเทศพม่า หรือนางจ้อ ครั้งเด็กๆได้ทำร้ายพ่อแม่ จนต้องคำสาปของมารดาร่างกายค่อยๆกลางร่างเป็นหมา เห่าหอนและคอยหลบๆซ่อนๆผู้คนใช้ชีวิตด้วยความทุกข์ทรมาน ได้เสียชีวิตลงแล้ว เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2556 จากเหตุการณ์เมื่อประมาณ ปี 2549 ในช่วงที่รัฐบาลพม่าได้มีการย้ายเมืองหลวงจากกรุงร่างกุ้งไปกรุงเนปิดอร์ และระหว่างย้ายเมืองหลวงนั้น ได้มีคนพบเห็นมนุษย์ ที่มีรูปร่างและลักษณะ เหมือนหมา ปากยื่นยาว-มีขนขึ้นทั่วตัว เดินสี่ขา ชื่อ น.ส.จ้อ หรือนางหมา ซึ่งเคยตกเป็นข่าวดังเมื่อประมาณ 7ปีก่อน โดยมีพระสงฆ์ที่วัดแห่งหนึ่งใน หมู่บ้านสินคาน เมืองมิทินาและเจ้าหน้าที่ภาครัฐของพม่า ที่ทำหน้าที่ขนย้ายสิ่งของจากกรุงร่างกุ้งไปกรุงเนปิดอร์ หลายคนยืนยันว่า พบและเจอ มนุษย์เป็นผู้หญิงคล้ายหมาจริง โดยมีการพบเห็นนางสาวจ้อ หรือนางหมาที่หมู่บ้านสินคาน เมืองมิทินา ระหว่างเส้นทางจากร่างกุ้งไปเนปิดอร์ โดยในวันนี้ได้มีชาวพม่าที่อาศัยอยู่แถบชานกรุงเนปิดอร์ และได้เดินทางมาซื้อสินค้าที่ชายแดนไทย-พม่า จังหวัดเมียวดี กับ อ.แม่สอด จ.ตาก และเคยได้ยินเรื่องราวนี้ได้มาแจ้งว่า น.ส.จ้อหรือนางหมาได้เสียชีวิตลงแล้ว นับว่าเป็นการสิ้นสุดตำนานคนบาปหรือเรื่องเล่าของนางหมา ที่แปรสภาพจากคนธรรมดา กลายเป็นหมาเมื่อหลายปีก่อน รายงานข่าวแจ้งว่า เรื่องนี้เคยเป็นข่าวโด่งดังไปทั่ว ทั้งในเมืองไทยและในพม่า รวมทั้งสื่อในประเทศตะวันตกก็เคยนำเรื่องนี้ไปเสนอ เป็นข่าวดังเกรียวกราวไปทั่วโลก เมื่อ ปลายปี 2549 ทั้งสื่อมวลชน ทางด้าน อินเตอร์เน็ต-วิทยุ-หนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ ได้มีการรายงานข่าวไปอย่างกว้างขวาง ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการรับรองจากพระพม่า-เจ้าหน้าที่ภาครัฐและชาวพม่า ต่างยืนยันว่า เป็นเรื่องจริง โดยชาวพม่าเล่าต่อๆกันว่า นางสาวจ้อหรือนางหมา เกิดขึ้นมามีสภาพร่างกายปกติ เหมือนคนธรรมดาทุกอย่างในอดีตสมัยตั้งแต่เด็กๆ เป็นคนดื้อชอบดุด่าพ่อ-แม่เป็นประจำ เมื่อโตขึ้นก็ไม่เข้าวัดทำบุญและ นางหมาได้ทำกรรมอย่างหนัก มีการทำร้ายพ่อ-แม่ ค่อนข้างรุนแรงอีกด้วย โดยตอนอายุ 20ปี กรรมก็เริ่มส่อให้เห็นถึงผลกรรมที่ได้กระทำ หรือกรรมตามทัน ที่เป็นคนบาป โดยร่างกายจึงได้เริ่มเปลี่ยนแปลง จากคนค่อยๆ กลายเป็นหมา เป็นคนบาปที่มีชีวิตความเป็นอยู่-กินเหมือนสุนัข คือเดินสี่ขาและเห่าหอนเหมือนสุนัขเมื่อผู้คนพบเห็นก็ได้ถ่ายรูปเก็บไว้และนางหมา ใช้โอกาสที่กำลังย้ายเมืองหลวงในพม่า จึงได้ย้ายพร้อมครอบครัวไปอยู่แถบชานกรุงเนปิดอร์ และต้องใช้ชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ตลอดเวลา จนมาเสียชีวิตลง

เบื้องต้นน.ส.จ้อ หรือนางหมา มีพ่อชื่อ นายคำหน่อ มารดาชื่อ นางมินตาน สมัยเด็ก พ่อ - แม่ตามใจมาตลอด จนทำให้เสียนิสัยมีอยู่วันหนึ่ง น.ส. จ้อ ได้เข้าไปขอเงินแม่ในห้องพระ แม่ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวแม่ไหว้พระเสร็จก่อนแล้วแม่จะเอาเงินให้ น.ส. จ้อ จึงโกธรที่ไม่ได้ดังใจจึงเดินไปข้างหลังแม่ แล้วใช้เท้าถีบแม่ในขณะที่แม่ไหว้พระอยู่ จนแม่หน้าฟาดกับพื้น ฟันหักไปสองซี่ เลือดไหลออกจากปาก แม่ก็ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด และได้สาปแช่ง จนในที่สุดได้กลายสภาพ จากคนค่อยๆเป็นหมา ดังกล่าว นับเป็นตำนาน คนบาปที่ สามารถนำไปเป็นคำสอนคติเตือนใจได้ว่า "เวรกรรมหรือผลกรรมที่ ลูก ทำไม่ดี กับพ่อ-แม่ ไม่จำเป็นต้องรอชาติหน้า เป็นชาตินี้ เดี๋ยวนี้ ให้เห็น หรือเรียกว่า กรรมตามทัน

 

ดาริน กานต์

@ThanawatLive
19.45น. อัลกออิดะห์โพสต์ขู่ฆ่า "พ.ต.ท.ทักษิณ" ฉุนกรณีฆ่ากรือเซะ "พล.ท.ภราดร" ยันมีมูลเร่งสอบ #INN

 

ผนังถ้ำโบราณในรัฐฉัตติสครห์ถล่มรุนแรงดับ8
5 ก.พ. 57 12.11 น. | เปิดอ่าน 160 | ความคิดเห็น 0 เพิ่มขนาด



เหตุผนังถ้ำโบราณ ในรัฐฉัตติสครห์-อินเดีย ถล่มอย่างรุนแรง พบผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย บาดเจ็บอีก 3 คน
ผนังถ้ำโบราณในรัฐฉัตติสครห์ถล่มรุนแรงดับ8
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

เหตุผนังถ้ำโบราณ ในรัฐฉัตติสครห์-อินเดีย ถล่มอย่างรุนแรง พบผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย บาดเจ็บอีก 3 คน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ในวันนี้ (5 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น ได้รับแจ้งเกิดเหตุผนังถ้ำโบราณ ในรัฐฉัตติสครห์ (Chhattisgarh) ถล่มอย่างรุนแรง สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบความเสียหายไปยังเหมืองถ่านหินที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตแล้ว อย่างน้อย 8 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังกล่าวเปิดเผยว่า หนึ่งในจำนวนของผู้ที่เสียชีวิตนั้น มีเด็กหญิงอายุระหว่าง 10 - 13 ขวบ ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์สลดและสร้างความโศกเศร้าให้กับครอบครัวผู้สูญเสียอย่างมาก ล่าสุด ผู้ที่ติดค้างภายในสถานที่เกิดเหตุอีก 3 ราย ได้รับการช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทีมพิสูจน์หลักฐาน กำลังลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุข้อเท็จจริงของการถล่มครั้งนี้ โดยก่อนหน้านี้ หลายพื้นที่ในอินเดียมักปรากฏเหตุการณ์ในลักษณะนี้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งบ่งบอกถึงโครงสร้างที่ต่ำกว่ามาตรฐานกำหนด และกลายเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมานานรอวันแก้ไขอย่างจริงจัง

ผนังถ้ำโบราณในรัฐฉัตติสครห์ถล่มรุนแรงดับ8

 

จีนเครียด พบไวรัสหวัดนกสายพันธุ์ใหม่โผล่ คร่าหญิงตาย 1 ป่วย 1 หวั่นแพร่ระบาดลุกลาม
วันที่ 05 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 13:35:22 น.



สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ว่าไวรัสหวัดนกสายพันธุ์ใหม่ได้ปรากฏขึ้นในจีนเป็นครั้งแรก โดยคร่าชีวิตหญิงรายหนึ่งหลังติดเชื้อดังกล่าว ขณะที่ไวรัสดังกล่าวสร้างความวิตกให้แก่วงการแพทย์จีนอย่างมาก

รายงานระบุว่า ไวรัสดังกล่าวซึ่งเชื่อว่าเป็นสายพันธุ์แยกย่อยจากสายพันธุ์ H10 N8 ได้ทำให้หญิงรายหนึ่งในเมืองหนานชาง ในมณฑลเจียงซี เสียชีวิตหลังถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาล โดยเหยื่อมีอาการไข้และปอดบวม และยาปฏิชีวนะไม่สามารถบำบัดอาการป่วยของเธอได้ และผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ไวรัสดังกล่าวแพร่มาจากสัตว์ปีก และยังมีเหยื่ออีกรายในมณฑลเดียวกันติดเชื้อด้วย

ด้านนายแพทย์แห่งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีนบอกว่า ไวรัสดังกล่าวกำลังสร้างความวิตกให้แก่แพทย์จีน เนื่องจากมันอาจทำให้มีผู้ติดต่อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ขณะที่อีกรายระบุว่า ไวรัสที่สามารถกระโดดข้ามพันธุ์ได้เป็นไวรัสที่น่ากลัวเพราะสามารถแพร่ลามสู่มนุษย์ซึ่งไม่มีภูมิคุ้มกัน รวมทั้งวัคซีนป้องกันด้วย ขณะเดียวกัน สำหรับไข้หวัดนกแพร่ระบาดในจีน ล่าสุด มีรายงานด้วยว่า มีชาวจีน 3 รายเสียชีวิตเพราะหวัดนกสายพันธุ์ H7 N9 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

จีนเครียด พบไวรัสหวัดนกสายพันธุ์ใหม่โผล่ คร่าหญิงตาย 1 ป่วย 1 หวั่นแพร่ระบาดลุกลาม : มติชน

 

แผ่นดินไหว HALMAHERA อินโดนีเซีย 4.6 ริกเตอร์
วันที่ 05 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 07:40:03 น.



กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ.2557 เวลา 02.56 น. เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ HALMAHERA ประเทศอินโดนีเซีย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.6 ริกเตอร์

แผ่นดินไหวที่ HALMAHERA, INDONESIA
ขนาด : 4.6 ริกเตอร์
จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว : HALMAHERA, INDONESIA
วันที่ : 05 กุมภาพันธ์ 2557 02:56 น.
ละติจูด : 2° 48′ 36′′ เหนือ
ลองจิจูด : 128° 07′ 12′′ ตะวันออก
ความลึกจากระดับผิวดิน : 64 กิโลเมตร

แผ่นดินไหว HALMAHERA อินโดนีเซีย 4.6 ริกเตอร์ : มติชนออนไลน์

 

อัยย่ะ! ‘BioLite’ เตาประหยัดพลังงาน แถมผลิตกระแสไฟฟ้าได้ด้วย
31.1.2014| DESIGN | 518 Views

Introducing the new BioLite CampStove - YouTube



คุณรู้หรือไม่ว่าใน 1 ปี มีประชากรเกือบ 4 ล้านคนต้องเสียชีวิตจากการทำอาหารในครัวเรือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กและผู้หญิงในประเทศยากจน ใช่! คุณอ่านไม่ผิดหรอกจากการทำอาหารนี่แหละ เพราะส่วนใหญ่ประชากรในประเทศเหล่านี้จำเป็นต้องใช้ไม้และฟืนซึ่งก่อให้เกิดควันพิษอันเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตดังกล่าว ครั้นจะใช้เชื้อเพลิงที่ปลอดภัยกับการทำอาหารก็มีราคาสูงสำหรับประเทศที่มีรายได้น้อยเหล่านี้ ไม้และฟืนเลยกลายเป็นตัวเลือกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย

จากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้สองดีไซเนอร์อย่าง Alexander Drummond และ Jonathan Cedar ทดลองพัฒนา Biolite HomeStove เตาสำหรับหุงต้มที่เป็นการนำเทคโนโลยีเทอร์โมอิเล็กทริกที่ผลิตไฟฟ้าจากความร้อนมาใช้ในการสร้างสรรค์เตาดังกล่าวโดยใช้พลังงานจากวัสดุธรรมชาติ เช่น กิ่งไม้และฟืนที่เก็บได้หรือร่วงหล่นอยู่ตามป่ามาเป็นเชื้อเพลิงในการประกอบอาหาร จุดเด่นของเตาที่ว่านอกจากจะสามารถใช้ปริมาณฟืนในการจุดน้อยกว่าปกติถึง 50% ช่วยลดการปล่อยควันและเขม่าดำได้ถึง 95% ตลอดจนลดปริมาณการปล่อยก๊าซอันเป็นสาเหตุหลักของปรากฏการณ์เรือนกระจกสู่อากาศได้ถึง 2.5 ตันต่อการใช้เตา 1 เตาในเวลา 1 ปีแล้ว BioLite HomeStove ยังนำพลังงานความร้อนที่เหลือใช้ไปผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า ซึ่งถ้าจะเทียบให้เห็นภาพก็มีปริมาณมากพอในการชาร์ตโทรศัพท์และให้แสงสว่างช่วงกลางคืนในพื้นที่ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง

เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้ได้ทุกเพศ ทุกวัย และทุกวัฒนธรรม Alexander และ Jonathan จึงออกแบบหน้าตาและการใช้งานของ BioLite HomeStove ให้เรียบง่ายที่สุด โดยประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก คือ ฟอร์มทรงกระบอกกลวงสีเงินสำหรับบรรจุฟืน ซึ่งมีพื้นที่ด้านบนไว้สำหรับวางภาชนะในการต้มน้ำและประกอบอาหารแบบต่างๆ ขณะที่ฟอร์มครึ่งวงกลมสีเหลืองที่อยู่ติดกันนั้นเป็นองค์ประกอบที่ใช้สำหรับการเก็บกักความร้อนเพื่อนำมาผลิตกระแสไฟฟ้า โดยจะมีช่องเสียบสำหรับการชาร์ตโทรศัพท์และยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อให้พลังงานได้ด้วย

BioLite HomeStove เริ่มวางจำหน่ายไปตั้งแต่ปี 2013 โดยเริ่มที่ผู้ประกอบการรายย่อยในอินเดียและยูกันดา สนนราคาอยู่ที่ 40 ดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งเป็นราคาที่สำรวจมาแล้วว่าผู้ใช้ในประเทศเหล่านี้สามารถจ่ายไหว ข่าวล่าสุดตอนนี้ก็คือผู้ผลิตเตาดังกล่าวกำลังขอความร่วมมือไปยังรัฐบาลเพื่อกระจายผลิตภัณฑ์ไปยังพื้นที่ห่างไกล ไม่ว่าจะเป็นในค่ายผู้อพยพและผู้ประสพภัย ขณะเดียวกันก็ยังมีการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและองค์กรต่างๆ ตั้งแต่ Mailman School of Public Health ของ Columbia University และ Berkeley Air เพื่อทำงานวิจัยและรณรงค์เกี่ยวกับปัญหาเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการใช้เตาในการประกอบอาหารภายใต้กลุ่มชื่อ Global Alliance for Clean Cookstoves (GACC, Global Alliance for Clean Cookstoves) ด้วยเช่นกัน

นับว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สามารถชูประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมได้แบบครบวงจร แถมยังได้ดีไซน์เจิดๆ พ่วงท้ายมาอีก งานนี้ผู้บริโภคอย่างเราได้ประโยชน์ไปเต็มๆ



































อ้างอิง: BioLite Stove

อัยย่ะ! ‘BioLite’ เตาประหยัดพลังงาน แถมผลิตกระแสไฟฟ้าได้ด้วย

Read more: อัยย่ะ! ‘BioLite’ เตาประหยัดพลังงาน แถมผลิตกระแสไฟฟ้าได้ด้วย

 

Koh Santepheap Daily
រលកយក្សនៅទន្លេឈៀនថាង ស្វាគមន៍ឆ្នាំថ្មីរបស់ចិន คลื่นสึนามิในจังหวัดแม่น้ำ ต้อนรับปีใหม่จีน (พุธ 5 กุมภาพันธ์, 2014 14:33 น.)



คลื่นสูง ใน แม่น้ำ จังหวัด ซินเจียง ของจีน ในโอกาส ปีใหม่ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2014 . มีประชาชน ประมาณ 10,000 คน เข้าชมปรากฏการณ์ คลื่นสึนามิ ในจังหวัดซินเจียงในโอกาส แรก ปีใหม่ สึนามิ ตีชายฝั่งแม่น้ำ นั่นคือ ปรากฏการณ์ ประจำปี ที่เกิดขึ้นใน 8 ของ ปฏิทินจันทรคติ
ข่าวท้องถิ่น ของ จีน ได้รายงานว่า สึนามิ ที่เกิดขึ้น ในกระแส ปรากฏการณ์ ขึ้นและลง ใน ชายฝั่ง แม่น้ำ ที่ มีความสูง 9 เมตร และหลาย ๆ คน ที่สนใจในการ เข้ามาเยี่ยมชม แม่น้ำใน จังหวัด ซินเจียง ซึ่งเป็นหนึ่งใน แม่น้ำเพียงไม่กี่ สายในโลก ที่เกิดขึ้น ปรากฏการณ์ ความผันผวนของ การไหลของน้ำ ทำให้เกิด คลื่น ขนาดใหญ่ ล้าง บนฝั่ง
រលកដ៏ខ្ពស់នៅទន្លេឈៀនថាង ខេត្តជីជាំង ប្រទេសចិន បានសម្ដែងរឹទ្ធិនៅក្នុងឱកាសបុណ្យចូលឆ្នាំ កាលពីថ្ងៃទី៣ កុម្ភៈ ២០១៤ ។ មានមនុស្សម្នាប្រហែល១០.០០០នាក់ ទៅទស្សនាបាតុភូតរលកយក្សនៅទន្លេឈៀនថាងជាលើកដំបូងក្នុងឱកាសបុណ្យចូលឆ្នាំថ្មីនោះ ។រលកយក្សដែលបោកទៅលើឆ្នេរទន្លេឈៀនថាង នោះគឺជាបាតុភូតនៃចរន្តទឹកឡើងចុះប្រចាំឆ្នាំ ដែលកើតឡើងក្នុងខែ៨នៃប្រតិទិនចន្ទគតិ ។
សារព័ត៌មានក្នុងស្រុករបស់ចិនបញ្ជាក់ថា រលកយក្សដែលកើតពីបាតុភូតចរន្តទឹកឡើងចុះនៅទន្លេឈៀនថាងនោះមានកម្ពស់៩ម៉ែត្រ ហើយទាក់ទាញមនុស្សច្រើននៅក្នុងប្រទេសទៅទស្សនា ។ ទន្លេឈៀនថាង ជាទន្លេមួយក្នុងចំណោមទន្លេតែប៉ុន្មានខ្សែនៅលើពិភពលោកដែលកើតមានបាតុភូតខ្សែទឹកឡើងចុះបង្កឱ្យកើតជារលកដ៏ធំបោកទៅលើច្រាំង ៕
រលកដ៏ខ្ពស់នៅទន្លេឈៀនថាង ខេត្តជីជាំង ប្រទេសចិន បានសម្ដែងរឹទ្ធិនៅក្នុងឱកាសបុណ្យចូលឆ្នាំ កាលពីថ្ងៃទី៣ កុម្ភៈ ២០១៤ ។ មានមនុស្សម្នាប្រហែល១០.០០០នាក់ ទៅទស្សនាបាតុភូតរលកយក្សនៅទន្លេឈៀនថាងជាលើកដំបូងក្នុងឱកាសបុណ្យចូលឆ្នាំថ្មីនោះ ។រលកយក្សដែលបោកទៅលើឆ្នេរទន្លេឈៀនថាង នោះគឺជាបាតុភូតនៃចរន្តទឹកឡើងចុះប្រចាំឆ្នាំ ដែលកើតឡើងក្នុងខែ៨នៃប្រតិទិនចន្ទគតិ ។
សារព័ត៌មានក្នុងស្រុករបស់ចិនបញ្ជាក់ថា រលកយក្សដែលកើតពីបាតុភូតចរន្តទឹកឡើងចុះនៅទន្លេឈៀនថាងនោះមានកម្ពស់៩ម៉ែត្រ ហើយទាក់ទាញមនុស្សច្រើននៅក្នុងប្រទេសទៅទស្សនា ។ ទន្លេឈៀនថាង ជាទន្លេមួយក្នុងចំណោមទន្លេតែប៉ុន្មានខ្សែនៅលើពិភពលោកដែលកើតមានបាតុភូតខ្សែទឹកឡើងចុះបង្កឱ្យកើតជារលកដ៏ធំបោកទៅលើច្រាំង ៕

 

Waraporn Rot
สาเหตุที่พระเทวทัตอาฆาตพระพุทธเจ้า



พระพุทธเจ้าได้ตรัสแสดงเรื่องราวที่พระเทวทัตเริ่มต้นจองเวรกับพระพุทธเจ้าไว้ใน เสรีววาณิชชาดก[11] ซึ่งปรากฏเนื้อหาโดยละเอียดในคัมภีร์อรรถกถา[12]สรุปความโดยย่อดังนี้

ย้อนหลังไป 5 ภัทรกัป ได้มีพ่อค้าเร่เพื่อนกันสองคนชาวแคว้นเสริวรัฐ มีชื่อเดียวกันว่าเสรีวะ คนหนึ่งเป็นพระโพธิสัตว์ (พระพุทธเจ้าในปัจจุบัน) อีกคนหนึ่งเป็นพระเทวทัตในปัจจุบัน ทั้งสองได้ทำการค้าขายเร่ รับซื้อและขายของไปตามหัวเมืองต่าง ๆ
จนวันหนึ่งทั้งสองได้ไปค้าขายเครื่องประดับในเมืองอริฏฐปุระ โดยตกลงแบ่งให้เข้าไปคนละทาง เพื่อไม่ไปค้าขายแข่งกัน
พ่อค้าคนแรก (พระเทวทัต) ได้ตะโกนเร่ขายของตามถนนในเมืองไปเรื่อย ๆ จนไปถึงบ้านอดีตเศรษฐีผู้ดีเก่าตกยากหลังหนึ่ง ที่เหลืออยู่แต่เพียงยายกับหลานสาวในบ้านซ่อมซ่อไม่มีฐานะ เมื่อหลานสาวได้ยินเสียงพ่อค้าหาบเร่ จึงได้วิ่งออกมาดู เลยอยากได้เครื่องประดับ จึงไปขอร้องให้ยายซื้อให้ ยายจึงเรียกพ่อค้าเข้ามานั่งในบ้านและนำถาดเก่า ๆ สมบัติของตระกูลใบหนึ่งมาให้พ่อค้าดูเพื่อแลกซื้อเครื่องประดับให้หลาน
ปรากฏว่าพ่อค้าจับดูจึงรู้ว่าเป็นถาดโลหะ เมื่อแอบเอาเข็มกรีดหลังถาด จึงเห็นว่าเป็นถาดทองคำ มีราคาถึงแสนกหาปณะ แต่ด้วยความที่พ่อค้าละโมภ อยากได้ถาดทองคำ โดยจะกดราคาให้ถึงที่สุด จึงทำทีเป็นไม่สนใจโวยวายว่าเป็นถาดไม่มีราคา แล้วก็โยนถาดทิ้งและก็ลุกเดินออกจากบ้านไป โดยหวังว่าสักพักจะเข้ามาใหม่เพื่อให้ยายแก่เปลี่ยนใจยอมแลกถาดกับของขายเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อคว้าถาดทองกำไรงามถาดนั้น
คล้อยหลังไปไดสักพัก พ่อค้าพระโพธิสัตว์ผ่านมา เห็นพ่อค้าคนแรกออกจากซอยนั้นไปแล้ว จึงแวะเข้ามาขายเครื่องประดับอีก ซึ่งคราวนี้ หลานของยายอดีตตระกูลมหาเศรษฐีเมื่อกี้ก็ร้องอยากได้เครื่องประดับอีก ยายจึงเรียกให้พ่อค้าเข้ามาเพื่อขอแลกถาดเก่า ๆ สนิมเขรอะกับเครื่องประดับที่พ่อค้านำมาขาย
เมื่อพ่อค้าจับถาดเก่าก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นถาดทองคำ มีราคาตั้งแสนกหาปณะ พ่อค้าพระโพธิสัตว์จึงบอกยายแก่ว่า "ถาดนี้เป็นถาดทองมีราคามหาศาล ของที่ฉันนำมาเร่ขายทั้งหมดนี่ก็สู้ราถาถาดของยายไม่ได้หรอกจ๊ะ"
ยายแก่เห็นความซื่อสัตย์ของพ่อค้าจึงบอกว่า "ถาดนี้ เมื่อกี้พ่อค้าอีกคนโยนลงพื้นดูถูกว่าของไม่มีราคา แต่คราวนี้พ่อมาบอกว่ามีราคาตั้งแสน พ่อนี่ช่างตาถึงมีบุญเหลือเกิน เอาอย่างนี้ ฉันให้ถาดนี้แก่ท่าน เอาไปเถิด ส่วนท่านจะให้ของขายอะไรแก่ฉันกะหลานก็ได้ตามใจเถิด"
พ่อค้าพระโพธิสัตว์ได้ฟังดังนั้นจึงบอกว่า "เอาอย่างนี้นะยาย ฉันยกของที่ฉันเอามาขายและเงินที่ติดตัวมาให้ยายหมดเลยก็แล้วกัน ฉันขอแค่ตาชั่งเอาไว้ทำมาหากินและเงินสัก 8 กหาปณะพอค่าเดินทางก็พอจ๊ะ"
เมื่อพ่อค้าได้ถาดทองแล้ว จึงเดินทางไปที่ที่เรือเพื่อเดินทางกลับ ปรากฏว่า หลังจากพ่อค้าคนแรกเดินไปได้สักพักใหญ่ จึงย้อนมาหายายแก่เพื่อขอซื้อถาดใบนั้น แต่เมื่อยายเห็นพ่อค้าเข้ามาก็ตะเพิดไปว่า "ไอ้พ่อค้าจัญไร! ท่านทำให้ถาดทองคำเราเป็นของไร้ค่า ชิชะ! มาตอนนี้จะมาขอซื้อ ไป จะไปไหนก็ไป เมื้อกี้ ฉันยกถาดที่แกอยากได้ให้เป็นบุญแก่พ่อค้าตาถึงไปแล้ว แถมได้ตังค์กับของมาตั้งพันกหาปณะ"
เมื่อพ่อค้าคนแรกได้ฟังดังนั้นถึงกับตกใจแค้นถึงสิ้นสติสลบฟุบไป พอฟื้นขึ้นก็เกิดความเสียดายอย่างเป็นกำลัง ถึงกับโปรยเงินและข้าวของที่นำมาเร่ขายทิ้งไว้หน้าบ้านยายแก่ แล้วก็ถือคันชั่งวิ่งตามรอยเท้าพระโพธิสัตว์ หวังจะแย่งถาดทองคืนไปถึงฝั่งแม่น้ำนั้น เห็นพระโพธิสัตว์กำลังขึ้นเรือไปอยู่ จึงกล่าวว่า "นายเรือโว้ย! เอาเรือกลับเข้าฝั่งเดี๋ยวนี้ ๆ" พระโพธิสัตว์ห้ามนายเรือว่า "อย่ากลับ ๆ" และแล่นเรือลับไป
เมื่อพ่อค้าพาล เห็นพระโพธิสัตว์นั่งเรือหายวับไป จึงเกิดความโศกเศร้าเสียดายมีกำลัง หัวใจเต้นแรง เลือดพุ่งออกจากปาก และตั้งอธิษฐานผูกอาฆาตพระโพธิสัตว์ว่าจะจองเวรไปจนกว่าจะหาไม่ และถึงกับสิ้นชีวิตลง ณ ที่นั้นนั่นเอง.

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พระเทวทัตจึงได้คอยตามมาเกิดเพื่อจองเวรกับพระพุทธเจ้าตลอดมาจนแม้กระทั่งชาติสุดท้ายที่พระเทวทัตเกิดเป็นชูชกและเกิดเป็นเจ้าชายเทวทัต ซึ่งเป็นพระญาติกับพระพุทธเจ้าในชาติปัจจุบัน ก่อนที่จะก่ออนันตริยกรรมและสำนึกผิดในภายหลัง

ที่มา วิกิพีเดีย

 

พุฒิพงศ์ ก้อนวิมล



มีรายงานว่าขณะนี้ มีการจับสัญญาณจากเครื่องวัดแผ่นดินไหวได้ที่เขื่อนศรีนครินทร์อาจเป็นการทำงานผิดปกติของเครื่อง จะต้องตรวจเช็คระบบ

 

Ammy Chumnankij ได้แชร์ลิงก์

เตรียมรับมือภัยแล้ง ทั่วโลก อีก 6 เดือนต่อจากนี้ (อเมริกา)_



ไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้น ที่ในอนาคตจะประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำ แต่ทั่วโลกกำลังเผชิญภาวะนี้เช่นกัน ในภาพคือภัยแล้งในสหรัฐที่กินบริเวณเกือบครึ่งประเทศ

วิกฤตหลังภัยแล้งคือ การขาดแคลนอาหาร ดังนั้น เพื่อนๆที่รักจงทยอยเตรียมสะสมอาหาร น้ำ ยา ไว้ล่วงหน้าได้ตั้งแต่บัดนี้เลยค่ะ

^__^

January-21-2014-US-Drought-Monitor-Map.png | National Climatic Data Center (NCDC)

 

นักวิทย์เตือนคนติดหวัดนกพันธุ์ใหม่ โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



คณะนักวิทยาศาสตร์จีนเตือนว่า พบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช10เอ็น8 เป็นเชื้อไวรัสในตระกูลไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่สายพันธุ์ที่ 5

คณะนักวิทยาศาสตร์จีนเตือนว่า พบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช10เอ็น8 เป็นเชื้อไวรัสในตระกูลไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่สายพันธุ์ที่ 5 ที่พบในรอบ 17 ปี คร่าชีวิตผู้หญิงสูงอายุไปแล้ว 1 คนเมื่อเดือนธันวาคม และมีผู้ติดเชื้ออีก 1 คน เมื่อเดือนมกราคม

กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่นำโดยนักวิจัยจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของจีนกล่าวเตือนในวารสารการแพทย์แลนเซ็ตว่า ไวรัสเอช10เอ็น8 มีประวัติพันธุกรรมที่น่าเป็นห่วง และควรเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะดูเหมือนว่าสามารถติดเชื้อที่เนื้อเยื่อลึกของปอด และอาจมีคุณสมบัติที่ทำให้เกิดการแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้โดยง่าย

ทั้งนี้ คณะนักวิทยาศาสตร์กลุ่มดังกล่าวเตือนเรื่องนี้หลังจากวิเคราะห์ตัวอย่างเชื้อไวรัสจากสตรีวัย 73 ปีที่เสียชีวิตในเมืองหนานชาง เมืองเอกของมณฑลเจียงซี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมปีที่แล้ว โดยแพทย์วินิจฉัยว่าปอดอักเสบรุนแรงและระบบหายใจล้มเหลว หลังจากนั้นทางการจีนประกาศเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมว่า เสียชีวิตจากเชื้อเอช10เอ็น8 ขณะที่ยังพบผู้ติดเชื้อรายที่ 2 ที่เมืองหนานชาง เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา

นับเป็นครั้งแรกที่จีนพบไวรัสนี้ในคน เพราะก่อนหน้านี้พบในตัวอย่างน้ำจากทะเลสาบหูหนานเมื่อปี 2550 และครั้งที่ 2 ในสัตว์ปีกมีชีวิตที่มณฑลกวางตุ้งเมื่อปี 2555 อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาพบว่าเชื้อที่พบในคนแตกต่างจากที่พบในสองครั้งก่อน

Tags

 

ลอร์ด เซย์เรน



--- สนามแม่เหล็กขั้วหลักเบนออกจากเขตขั้วหมุน อีกครั้งแล้ว ---
......กราฟ Polar field strength ถึงจะอัพเดทล่าสุด เมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2557 ก็จริง แต่ลักษณะขั้วสนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์บริเวณขั้วดาวในปัจจุบัน (5 กุมภาพันธ์) นั้นยังคงแสดงให้เห็นชัดว่า บริเวณขั้วหมุนดวงอาทิตย์นั้น ขั้วสนามแม่เหล็ก (กลุ่มเส้นสี น้ำเงิน และ แดง หรือ โพลงโคโรน่านั่นแหละ) เอียงออกมาอย่างชัดเจน
........จากการสังเกตุกราฟ แบบ แยกรายขั้ว เหนือ-ใต้ พบรูปแบบกราฟที่มีโอกาสที่สนามแม่เหล็กดวงอาิทิตย์ ย้ายกลับไปอยู่ที่เดิม (ไม่สลับขั้ว) ซึ่ง ปี พ.ศ 2550-2552 (solar minimum ของวัฎจักร 23 ต่อ วัฎจักร 24) สนามแม่เหล็กขั้วใต้ ได้อยู่ที่ขั้วภูมิศาสตร์เหนือ ของดวงอาทิตย์ และสนามแม่เหล็กขั้วเหนือ อยู่ที่ขั้วภูมิศาสตร์ใต้ ของดวงอาทิตย์ ..... หากรอบนี้ไม่สลับ ก็จะย้ายกลับไปยังตำแหน่งเดิม เหมือนปี 2550-2552 และถ้าเกิดขึ้นถือเป็นเหตุการณ์แรกตั้งแต่ตั้งหน่วยสังเกตุการณ์สนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์ Wilcox Solar Observatory หรือ WSO เริ่มสังเกตุการณ์ในปี ค.ศ. 1976 เลยทีเดียว
** แต่หากยังสลับ ขั้วสนามแม่เหล็กเหนือ ก็จะ ย้ายไปอยู่ที่ขั้วภูมิศาสตร์เหนือ (ขั้วตรงกัน แม่เหล็กเหนือ - เหนือ // แม่เหล็กใต้-ใต้)
....เสริม.....
โพลงโคโรน่าดวงอาทิตย์ ที่จะหันมาหาโลกใน 2-3 วันข้างหน้าอาจจะไม่โดนตรงๆ เนื่องจากมุมสนามแม่เหล็ก ที่เขตศูนย์สูตรเบนขึ้นไปทางเหนือเสียส่วนใหญ่ คาดลมสุริยะจะไม่รุนแรงมาก

ลอร์ด เซย์เรน เป็นเว็บของ ดร.เลฟ สวัลการ์ด (Leif svalgaard) ครับ นักสุริยะฟิสิกส์ เค้ารวมเอาไว้หลายอย่างครับ
15 ชั่วโมงที่แล้ว · เลิกถูกใจ · 1

ลอร์ด เซย์เรน http://www.leif.org/research/ บางไฟล์ เสียแล้วนะครับ ลองหาดูครับเยอะมาก

Leif Svalgaard's Research Page
www.leif.org
15 ชั่วโ

 

ลอร์ด เซย์เรน
จุดมืดดวงอาทิตย์ คือพื้นที่ที่เย็นจริงหรือ?



.....การมองจุดมืดดวงอาทิตย์ในอดีต คนยังไม่มีเครื่องมือที่สามารถจะมองดวงอาทิตย์ในความยาวคลื่นอื่นๆได้ ในหลายข้อจำกัด เทคโนโลยี และ บรรยากาศโลกที่กั้นแสงจากดวงอาทิตย์ที่มีความถี่สั้นกว่า ยูวี ขึ้นไปเช่น รังสียูวีความถี่สูง (extreme UV) รังสีเอ็กซ์ ตำราในอดีต นั้นจึงให้ข้อมูลเท่าที่สังเกตุการณ์ได้นั่นคือ จุดมืด อุณหภูมิสูงเพียง 4,200-4,800 เคลวิน ซึ่งน้อยหากเทียบกับ พื้นที่ทั่วไปที่สูง 5200-5800 เคลวิน ในอดีตเคยเข้าใจว่าการเกิดจุดมืดจำนวนมากนั้นทำให้ดวงอาทิตย์เย็นลง (สมัย 100-200 กว่าปีมาแล้ว)

.........แต่นั่นไม่จริง หลังเทคโนโลยีได้ก้าวหน้าขึ้น คนส่งดาวเทียมออกนอกบรรยากาศโลกไปเพื่อจะมองดวงอาทิตย์ในย่านแสงที่มีความถี่สูงยิ่งขึ้น เช่น รังสีเอ็กซ์ เมื่อทำการประเมิน ความหนาแน่นของพลาสม่าในชั้นโคโรน่าดวงอาทิตย์ ในระดับที่เปล่งรังสีเอ็กซ์ พบว่าต้องมีอุณหภูมิสูงระดับ 1,000,000 เคลวิน เลยทีเดียว แต่นั่นก็ยังให้ความสว่างน้อยอยู่ ขณะเดียวกัน บริเวณจุดมืดกลับเปล่งรังสีเอกซ์ เข้มมากยิ่งกว่าชั้นโคโรน่าดวงอาทิตย์ธรรมดาเสียอีก แต่ผิวดวงอาทิตย์เองนั้นมีความหนาแน่นกว่าชั้นโคโรน่ามาก มันอาจจะใช้อุณหภูมิต่ำกว่าโคโรน่าในการทำให้เกิดรังสีเอ็กซ์ได้
.............. อันนี้ถูกครับแต่ว่า * ถ้ามันร้อนเท่ากันหมดเหมือนในย่านแสงที่ตาคนเห็นนั้น ผิวดวงอาทิตย์ต้องเปล่งรังสีเอ็กซ์เกือบจะเท่ากันทั้งดวงเลย (ตามภาพความสว่างแทบจะไม่ต่างกันเลย รอบๆ จุดมืด และ พื้นที่ที่ห่างจากจุดมืด) นั่นคือ สิ่งที่เราคิดผิด ผ่านมาจนถึงยุคดาวเทียม SOHO ที่ถูกส่งขึ้นไปในช่วง ค.ศ. 1996 (ช่วง solar minimum ของวัฎจักรสุริยะที่ 22 ขึ้นวัฎจักร 23) มีกล้องหลายตัวดูได้หลายความยาวคลื่นพร้อมกัน ไม่ต้องปรับไป ปรับมา พบว่าช่วงความยาวคลื่น 150-180 นาโนเมตร (ภาพเขียวมุมขวาล่าง) แสดงแสงสว่างที่แตกต่างกันมากระดับที่มนุษย์พอจะแยกแยะได้ (จุดสว่างนี้เรียกว่า faculae) แม้ว่ามันจะอยู่ในช่วงรังสียูวี ความถีีต่ำ (ยูวี ระดับกลางๆ ที่ทะลวงบรรยากาศโลกเราเข้ามาได้ระดับหนึ่ง) หลังศึกษามันมาเรื่อยๆ พบว่า การเดือดพล่านของบริเวณที่มีแสงสว่างมากกว่าปกติ (faculae) รอบๆ จุดมืด นั้นร้อนกว่าผิวของดวงอาทิตย์ทั่วไปมาก อุณหภูมิสูงมากถึง 10,000 ไปจนถึงกว่า 100,000 เคลวิน เลยทีเดียว (สเกลแค่นี้ถือว่าน้อยในเทหวัตถุขนาดนี้ แต่ก็เยอะมากสำหรับมนุษย์) นั่นตอบโจทย์ว่าทำไมบริเวณจุดมืด จึงเปล่งรังสีเอ็กซ์ได้สว่างกว่าโคโรน่าดวงอาทิตย์ทั่วๆไปเสียอีก (แสงที่ตาคนเห็นก็เห็นได้เช่นกันแต่ว่าต้องอาศัยการสังเกตุ และโฟกัสกล้องที่ดีมาก จะเห็นได้ง่ายบริเวณใกล้ขอบฟ้าดวงอาทิตย์ ดังภาพ)

** กล่าวโดยสรุปคือ ** บริเวณจุดมืดนั้นไม่ได้เย็นเลย ตรงกันข้ามกลับเป็นบริเวณที่ร้อนจัดมากๆด้วยซ้ำ (ที่เย็นก็บริเวณที่มืด เป็นชั้นบางๆ เท่านั้น)

....สาเหตุที่จุดมืด เปล่งแสงสว่างน้อย.....

.......บริเวณจุดมืดนั้น เป็นที่ ที่มีสนามแม่เหล็กกำลังแรงมาก เมื่อเทียบกับผิวดวงอาทิตย์ทั่วๆไป นั่นคือ สูงถึง 1400-3600 เกาส์ ผิวดวงอาทิตย์ทั่วไปเพียง 50-600 เกาส์ กำลังสนามแม่เหล็กที่จุดมืดนั้นมีการแผ่ของขั้วออกมาจากภายในแกนของดวงอาทิตย์เลยทีเดียว ซึ่งต้องผ่านชั้นของพลาสม่าธาตุอื่นๆ ที่หนักว่าไฮโดรเจน สนามแม่เหล็กกำลังแรงของกลุ่มจุดมืด จะลากเอา พลาสม่าของธาตุหนักเหล่านี้ขึ้นมาด้วย .................. เมื่อมาถึงพื้นผิวดวงอาทิตย์ ธาตุที่หนักกว่าไฮโดรเจน เช่น คาร์บอน แคลเซียม หรือแม้แต่ เหล็กเอง ที่มีพื้นที่กักเก็บพลังงานเยอะกว่า (หมายถึง ระดับอุณหภูมิ 1 องศาที่เปลี่ยนไป ต้องใช้ความร้อนมากกว่า 1 องศาของไฮโดรเจน) ต้องขึ้นมาอยู่ที่พื้นผิว ที่มีพลังงานต่ำ เมื่อเทียบกับสภาพแวดล้อมที่โดยมากจะเป็น พลาสม่าของไฮโดรเจน ให้ความร้อนเล็กน้อยก็เปล่งแสงสว่างได้มากแล้ว แต่ว่าธาตุหนักเหล่านี้จำเป็นต้องมีพลังงานมากกว่าเพื่อให้มีระดับพลังงานเท่ากับไฮโดรเจน และเปล่งแสงสว่างเท่ากันกับสภาพแวดล้อม ฉะนั้นมันจึงดูมืดกว่าโดยรอบ ** (รวมไปถึงกระแสพลาสม่าที่ดันขึ้นมาเรื่อยๆ เนื่องจากสนามแม่เหล็ก ทำให้มันไปติดรวมกันเป็นแผ่นบางๆ อยู่บนผิวดวงอาทิตย์ ทำให้ธาตุเหล่านี้ติดคาอยู่บนผิวดวงอาทิตย์)
....ว่าง่ายๆ กระแสไหลขึ้นคือ faculae ขึ้นมาใหม่ๆ ก็ร้อนกว่า สว่างกว่า พอธาตุหนักเหล่านี้ติดอยู่บนผิว ก็สว่างลดลง

ภาพประกอบคำอธิบาย วันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2557 กลุ่มจุดมืด 1967

 

พุฒิพงศ์ ก้อนวิมล



มีอยู่จริงมังกรสีน้ำเงิน หนึ่งในสัตว์หายากและถูกจัดให้เป็นสัตว์ที่สวยงามที่สุดในโลก

Glaucus atlanticus หรือสัตว์ที่ถูกเรียกว่า มังกรสีน้ำเงิน (The Blue Dragon) เป็นสัตว์จำพวกหอยและปลิง ที่หาพบได้ยากที่สุด และ มีความสวยงามมากที่สุดในโลกชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้ ตัวมันจะไม่ใหญ่มากประมาณ 3-4 เซติเมตร เท่านั้นเอง รูปร่างหน้าตาก็อย่างที่เห็น เหมือนมังกรในเทพนิยาย หรือ การ์ตูนเลยทีเดียว มันกินสัตว์มีพิษขนาดเล็กเป็นอาหาร โอกาสที่จะเจอมันตัวเป็น ๆ นั้นยากมาก ต้องรอจังหวะที่ลมพัดเข้าหาฝั่ง ประจวบกับตอนมันมากินเหยื่อใกล้ ๆ แล้วถูกน้ำพัดเข้ามาเท่านั้นเอง ประเทศสุดท้ายในโลกที่ได้จับมันแบบเป็นๆ คือออสเตรเลีย

 

KFC จับตาสถานการณ์ไข้หวัดนกในจีน

<iframe width="640" height="330" frameborder="0" scrolling="no" src="http://www.voicetv.co.th/content/embed?id=96502" ></iframe>

สถานการณ์ไข้หวัดนกในจีนทำให้ผู้นำธุรกิจฟาสฟูดในจีนอย่าง ยัม แบรนด์ส อิงค์ เจ้าของเคเอฟซี ต้องจับตาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด

ยัม แบรนด์ส อิงค์ บริษัทแม่ของเคเอฟซี กำลังจับตาการกลับมาของปัญหาไข้หวัดนกในจีน หนึ่งในตลาดสำคัญของบริษัท แม้ในตอนนี้เคเอฟซีที่จีนจะไม่ได้รับผลกระทบด้านยอดขายมากนัก แต่ได้รับผลกระทบด้านวัตถุดิบที่ลดลวแล้ว

นับตั้งแต่ปี 2014 มีรายงานผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N8 มากกว่า 100 คน ในจำนวนนั้นมีผู้เสียชีวิต 20 ราย พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ มณฑลเจ้อเจียง และมณฑลกวางตุ้ง

ยัม แบรนด์ส อิงค์ ผู้นําด้านธุรกิจฟาสต์ฟู้ด บริหารร้านอาหารเคเอฟซี พิซซ่าฮัท และทาโก้ เบลล์ มียอดขายในจีนแห่งเดียว คิดเป็นครึ่งหนึ่งของยอดขายรวมทั้งหมดของบริษัท ซึ่งในจำนวนนั้นรวมถึงยอดขายของ เคเอฟซี ที่มีสาขาอยู่ในจีนมากกว่า 6,200 แห่ง

ภาพ : Welcome to Flickr - Photo Sharing by isriya
6 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 21:18 น.

KFC จับตาสถานการณ์ไข้หวัดนกในจีน - Voice TV