ติดตามสถานะการณ์

เตือนทั่วโลก เผชิญภาวะขาดแคลนน้ำขั้นวิกฤติ

เนื่องในวันน้ำโลก วันพฤหัสฯ 22 มีนาคมที่ผ่านมา เหล่าผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า น้ำบริสุทธิ์จะกลายเป็นสิ่งจำเป็นของชีวิตที่มีความล้ำค่ามากขึ้นขณะที่ปัญหาโลกร้อนเริ่มส่งผลกระทบไปทั่ว

!ในรายงานที่ยังอยู่ในขั้นตอนจัดทำข้อสรุปของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของยูเอ็น หรือ ไอพีซีซี ได้มีการคาดประมาณว่า ภายในพุทธศักราช 2568 2 ใน 3 ของประชากรโลกจะมีชีวิตความเป็นอยู่ท่ามกลางภาวะกดดันในเรื่องน้ำ โดยในแอฟริกาเหนือ, ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันตก จะเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด อีกทั้งมีแนวโน้มปัญหาโลกร้อนจะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำ

!เอกสารของไอพีซีซีเผยว่า ปัญหาความแห้งแล้ง ฝนที่ตกลงมาผิดฤดูกาล และการลดปริมาณลงของหิมะและน้ำแข็งที่ปกคลุมบนภูเขา ในหลายภูมิภาค อาจทำให้แม่น้ำ ทะเลสาบแห้งเหือดลง ในทางตรงข้าม ภูมิภาคอื่นๆ จะมีฝนตกลงมามากขึ้น แต่ก็อาจเป็นพายุฝนฟ้าคะนองอย่างหนักที่ก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ไม่ใช่ฝนตกลงมาแบบปรอยๆ และไหลซึมสู่พื้นดิน หรือมิเช่นนั้น ฝนอาจตกลงมาในพื้นที่ต่างๆที่มีประชากรน้อยหรือที่ซึ่งไม่มีที่จะเก็บกักและกักตุนน้ำเพื่อใช้ในหน้าแล้ง โดยที่เรื่องราวดังกล่าว บรรดานักวิทยาศาสตร์ในกลุ่มไอพีซีซีจะสรุปปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นลงในรายงานทั้งหมด ก่อนนำเผยแพร่ในกรุงบรัสเซลส์ วันที่ 6 เมษายน ซึ่งนับเป็นอีกขั้นหนึ่งของการประเมินสถานการณ์ ภาวะโลกร้อน

!รายงานของไอพีซีซียังคาดประมาณถึงแนวโน้มโลกร้อนว่า อุณหภูมิทั่วโลกจะสูงขึ้น 2 องศาเซลเซียส ภายในปี พ.ศ.2643 ซึ่งจะทำให้ประชากรโลกได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำราว 2,000 ล้านคน โดยทวีปแอฟริกาและเอเชียจะเป็น 2 ทวีปที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุด แต่สำหรับชาติร่ำรวยที่มีเงินและเทคโนโลยีสูงกว่าก็ใช่จะไม่เผชิญกับปัญหาในเรื่องน้ำ โดยจะมีผลให้รูปแบบการดำเนินชีวิตเปลี่ยนแปลงไปแบบพลิกผันเลยทีเดียว

http://www.opdcacademy.com/index.php?option=com_content&task=view&id=1000&Itemid=29

ผู้เชี่ยวชาญเตือน ประชากรโลกจะประสบภาวะขาดแคลนน้ำอย่างหนักใน 50 ปี (โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 พฤษภาคม 2556 15:11 น.)



เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผู้เชี่ยวชาญวอนรัฐบาลของนานาประเทศทั่วโลกเร่งหาทางปกป้องแหล่งน้ำจากภัยคุกคามของสภาพภูมิอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงมลภาวะ และการใช้ทรัพยากรน้ำเกินความจำเป็น ชี้ประชากรโลกจะประสบภาวะขาดแคลนน้ำอย่างหนักใน 50 ปี

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ โวโรสมาร์ตี ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำแห่งสำนักงานบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ (NOAA) ระบุว่า ผู้คนส่วนใหญ่จากจำนวนประชากรโลก 9,000 ล้านคนจะต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนแหล่งน้ำจืดสำหรับการอุปโภคบริโภคอย่างเลวร้ายภายในช่วงเวลาประมาณ 2 ชั่วอายุคน หรือ 50 ปีจากนี้ ซึ่งเป็นผลจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ มลภาวะ และการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างเกินความพอดี

ศาสตราจารย์โวโรสมาร์ตีระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลของประเทศต่างๆ ทั่วโลกจะต้องเริ่มอนุรักษ์แหล่งน้ำภายในประเทศของตนอย่างจริงจัง และบังคับใช้มาตรการเพื่อการใช้น้ำอย่างยั่งยืน เนื่องจากในความเป็นจริงแล้วน้ำจืดมิใช่ทรัพยากรที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่เสมอไป

ข้อมูลจากการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญจาก NOAA ยังพบว่า ประชากรราว 4,500 ล้านคนทั่วโลกในเวลานี้อาศัยอยู่ภายในรัศมี 50 กิโลเมตรจากแหล่งน้ำซึ่งกำลังหดตัวหรือแห้งเหือด และหากสถานการณ์ยังดำเนินในทิศทางเช่นนี้อยู่ต่อไป ผู้คนจำนวนมหาศาลจะไม่สามารถหาน้ำดื่มน้ำใช้ได้อย่างเพียงพอต่อการดำรงชีวิต

ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลกยังกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะภัยแล้ง คลื่นความร้อนบ่อยและถี่ขึ้นในภูมิภาคต่างๆ ของโลกซึ่งส่งผลโดยตรงต่อปริมาณน้ำในแหล่งน้ำจืดธรรมชาติ นอกจากนั้น การเร่งขุดเอาน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ และการใช้น้ำอย่างเกินควบคุมเพื่อรองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมและการชลประทานยังกลายเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้มนุษย์ต้องเผชิญวิกฤตขาดแคลนน้ำเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะเห็นผลได้อย่างชัดเจนภายในระยะเวลาประมาณ 50 ปี หรือ 2 ชั่วอายุคนนับจากนี้

ด้านยาโนส โบการ์ดี ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมและความมั่นคงมนุษย์แห่งองค์การสหประชาชาติ เตือนว่า ผู้ที่จะได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากปัญหาขาดแคลนน้ำ คือ ประชากรที่อาศัยอยู่ในประเทศยากจนทั้งหลาย โดยในปัจจุบันประชากรราว 780 ล้านคนในประเทศกำลังพัฒนาประสบปัญหาขาดแคลนน้ำสะอาด ขณะที่ราวครึ่งหนึ่งของประชากรในกลุ่มประเทศโลกที่สามต้องล้มป่วยจากโรคภัยที่เกี่ยวข้องกับการขาดแคลนน้ำอย่างน้อย 1 โรค

ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดจากสหประชาชาติชี้ว่า ในโลกของเรามีแหล่งน้ำจืดตามธรรมชาติคิดเป็นสัดส่วนเพียงแค่ 2.5–2.75 เปอร์เซ็นต์ของแหล่งน้ำทั่วโลก รวมถึงราว 1.75–2 เปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นน้ำจืดที่ถูกแช่แข็งอยู่ตามธารน้ำแข็ง และหิมะ อย่างไรก็ดี ในจำนวนดังกล่าวมีน้ำจืดเพียง 0.003 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นจากแหล่งน้ำจืดทั่วโลกที่ยังไม่ถูกปนเปื้อนจากมลภาวะ





ThaiSarn.com -

 

ข้อมูลจาก Severe Weather and Earth Headlines

เตือนภัย! แคลิฟอร์เนียแล้งทำให้เจ้าหน้าที่ตัดน้ำที่จะส่งไปให้ผู้อยู่อาศันจำนวนมาก (ALERT! California Drought Causes Officials to 'Cut Off Water to Many Residents'!)

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=Jh0trHw5V9g&feature=player_embedded]ALERT! California Drought Causes Officials to 'Cut Off Water to Many Residents'! - YouTube[/ame]

 

Surviving Earth Changes 2013 and Beyond แชร์ รูปภาพ ของ KTVU Channel 2



ขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/photo.php?...&set=a.170555017060.132233.20980557060&type=1

Breaking News:

เจ้าหน้าที่แหล่งน้ำของรัฐแคลิฟอร์เนียได้ประกาศว่า พวกเขาจะไม่ส่งน้ำไปยังพื้นที่ทางตอนใต้ของซาคราเมนโตเดลต้าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรัฐที่ให้บริการน้ำกับชาวแคลิฟอร์เนีย 25 ล้านคน (California State Water officials have just announced they will NOT deliver any water to areas south of the Sacramento Delta as part of the state water project serving 25 million Californians.)

เจ้าหน้าที่บอกว่ามันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 54 ปีของการหดตัวลงของแหล่งน้ำซึ่งได้เกิดขึ้น(Officials say it's the first time in the 54 year history of the water contract that this has happened.)

 

เทพบุตร ชาวดิน

ภูเขาไฟ 'ซินาบุง' ในอินโดนีเซียระเบิดอีก คร่าแล้ว 11 ศพ



ภูเขาไฟ ซินาบุง บนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ระเบิดอย่างรุนแรงในวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย...



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ว่า ภูเขาไฟ 'ซินาบุง' ในจังหวัดสุมาตราเหนือ บนเกาะสุมาตรา ทางตะวันตกของประเทศอินโดนีเซีย เกิดระเบิดอย่างรุนแรงในวันเสาร์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย นับเป็นผู้เสียชีวิตกลุ่มแรกนับตั้งแต่ภูเขาไฟลูกนี้เริ่มปะทุอีกครั้งเมื่อเดือน ก.ย.ปีก่อน หลังจากสงบมา 3 ปี



เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (31 ม.ค.) สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซีย (เอ็นดีเอ็มเอ) อนุญาตให้ประชาชนที่อาศัยในหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากภูเขาไฟซินาบุงในรัศมีมากกว่า 5 กม. สามารถเดินทางกลับบ้านได้ แต่หลังจากนั้นเพียง 1 วัน ภูเขาไฟซินาบุงก็ปะทุอีกครั้ง ส่งเถ้าถ่ายลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงกว่า 2 กม. และตกลงมาปกคลุมหลายหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียง

จากการเปิดเผยของโฆษกของเอ็มดีเอ็มเอ ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ รวมไปถึงเด็กนักเรียนบางคนซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเดินทางเพื่อไปทัศนาจร

ทั้งนี้ ภูเขาไฟซินาบุงกลับมามีพลังอีกครั้งในปี 2010 หลังจากสงบมากกว่า 400 ปี การระเบิดในปีดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และทางการต้องอพยพชาวบ้านมากกว่า 30,000 คน และไม่ระเบิดอีกเลยจนกระทั้งในเดือนก.ย. 2013 และปะทุเรื่อยมาจนถึงการระเบิดครั้งล่าสุดนี้.

ภูเขาไฟ 'ซินาบุง' ในอินโดนีเซียระเบิดอีก คร่าแล้ว 11 ศพ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ฝนตกหนัก ทำอิตาลี-ฝรั่งเศส อาจเจอน้ำท่วมหนัก. วันที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 19:00:12 น.



สำนักข่าวเอพี เอเอฟพี และบีบีซี รายงานว่าเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ว่า อิตาลีและฝรั่งเศส กำลังเผชิญหน้ากับอุทกภัยครั้งใหญ่หลังจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก จนทำให้พื้นที่หลายส่วนในยุโรปต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติรุนแรงอีกครั้ง โดยมีรายงานระบุว่า ประชาชนหลายร้อยคนในเมืองปิซา ในแคว้นทัสกานี ประเทศอิตาลี ได้รับคำเตือนให้อพยพออกจากที่อยู่อาศัย เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำอาร์โนกำลังจะทะลักล้นแนวกั้น เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา และอาจทำให้เกิดเอ่อเข้าไปท่วมในเมืองได้ เช่นเดียวกับเมืองฟลอเรนซ์ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอาร์โน ที่อาจจะถูกน้ำท่วมได้หากน้ำในแม่น้ำอาร์โนทะลักออกมา ส่วนที่เมืองเวนิส ซึ่งแม้ว่าจะเป็นที่คุ้นชินกับการเกิดน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี แต่ปีนี้คาดว่าครึ่งหนึ่งของเมืองเวนิสอาจจะต้องเผชิญกับน้ำท่วมใหญ่ที่อาจมีระดับน้ำท่วมสูงถึง 140 เซนติเมตรเหนือระดับน้ำทะเล

นอกจากนี้ยังคาดว่าระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นอาจจะทำให้เมืองบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของฝรั่งเศสเกิดน้ำท่วม ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มกราคม บริเวณตอนใต้ของประเทศอังกฤษเกิดน้ำท่วมหนักที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติเมื่อปี พ.ศ.2453

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าพายุหิมะและลมพัดแรงได้พาดผ่านทั่วบริเวณยุโรปตะวันออก ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนจำนวนมากทางตอนเหนือของเซอร์เบียต้องติดค้างอยู่ในรถ เนื่องจากไม่สามารถขับต่อไปได้ ท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้าย ทำให้ต้องส่งทหารเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ภายในรถที่ติดอยู่กลางหิมะ รวมทั้งมีการใช้เฮลิคอปเตอร์เข้าไปช่วยเหลือผู้คนจำนวนมากที่ติดยู่ในรถตามท้องถนน และใช้รถถังเพื่อเคลียร์หิมะออกจากถนนตามแนวบริเวณชายแดนที่ติดกับฮังการี โดยทางการได้เตือนประชาชนทางตอนเหนือของประเทศให้หลีกเลี่ยงการเดินทางใดๆ ยกเว้นแต่มีเหตุจำเป็นจริงๆ และมีการประกาศมาตรการฉุกเฉินขึ้นในหลายพื้นที่ที่กำลังประสบภัยหิมะ รวมทั้งสั่งห้ามรถบรรทุกไม่ให้วิ่งทางตอนเหนือของประเทศและไม่ให้รถบรรทุกวิ่งเข้ามาทางชายแดนจากฮังการีและโรมาเนีย โดยมีรายงานบางพื้นที่ทางตอนเหนือของเซอร์เบียไม่มีไฟฟ้าใช้ และสภาพลมที่กระโชกแรงทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถออกไปซ่อมแซมเครื่องจ่ายไฟได้

ส่วนที่โรมาเนีย มีการส่งทหารออกมาช่วยเคลียร์พื้นที่ตามท้องถนนที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะเพื่อเปิดเส้นทางในการจราจร รายงานระบุว่า แม้ว่าหิมะจะหยุดตกแล้ว แต่อุณหภูมิยังคงลดต่ำลงเรื่อยๆ โดยเมื่อคืนวันที่ 30 มกราคม มีรายงานว่าบางพื้นที่ในกรุงบูคาเรสต์ เมืองหลวงของประเทศโรมาเนีย อุณหภูมิได้ลดลงไปอยู่ที่ -22 องศาเซลเซียส

ฝนตกหนัก ทำอิตาลี-ฝรั่งเศส อาจเจอน้ำท่วมหนัก : มติชนออนไลน์

 

ข่าวไทยรัฐออนไลน์



ภาพระยะไกล 1,500 ล้านปีแสง
องค์การอวกาศสหรัฐฯ แสดงภาพถ่ายของยานอวกาศกล้องโทรทรรศน์ “สปิตเซอร์ สเปซ” เป็นภาพของทางช้างเผือกโอเรียน ซึ่งมีความกว้างขวางถึง 40 ล้านปีแสง เป็นกลุ่มดาวที่เต็มไปด้วยลูกหลานดวงดาวอ่อนๆ อยู่มากมาย ทางช้างเผือกนี้อยู่ไกลจากโลกเป็นระยะทาง 1,500 ล้านปีแสง.
#โลกาภิวัตน์ #ไทยรัฐ #thairath

 

The Event

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/XCj_POrVXac?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

การโยกย้ายเส้นเมอริเดียน แผ่นดินไหว - มกราคม 2014
(Earthquake Meridian Migration - January 2014)

 

Kaokala Fc

1 ก.พ. ม.ฮาร์วาร์ดเปิดโรงงานผลิตอวัยวะส่วนบุคคล



แม้การเปลี่ยนอวัยวะให้แก่ผู้ป่วยถือเป็นเรื่องปกติกันแล้วในปัจจุบัน เพราะมีการเปลี่ยนอวัยวะกันอย่างมากมาย ทั้งดวงตา ตับ ไต ลิ้นหัวใจ แม้แต่หัวใจทั้งดวงก็มีการเปลี่ยนกันแล้ว แต่อุปสรรคสำคัญในการเปลี่ยนอวัยวะก็คือ ต้องนำอวัยวะของผู้บริจาคที่เสียชีวิตแล้วมาใช้ ทำให้เกิดอาการ "ต้าน" อวัยวะชิ้นใหม่ที่เข้ามาทดแทนในร่างกายผู้ป่วย โดยระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ผู้ป่วยที่เข้ารับการเปลี่ยนอวัยวะต้องกินยากดภูมิคุ้มกันของร่างกายไปตลอดชีวิต เสี่ยงต่อการติดโรคต่างๆ นานาได้ง่าย



ด้วยเหตุนี้เอง ศูนย์เทคโนโลยีสร้างอวัยวะทดแทนฮาร์วาร์ด (Harvard Apparatus Regenerative Technology) หรือ ฮาร์ท หน่วยงานด้านชีวภาพการแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด จึงได้คิดค้นวิธีการสร้างอวัยวะทดแทนขึ้นมาจากเซลล์ต้นกำเนิด (สเต็มเซลล์) ของผู้ป่วยที่ต้องการอวัยวะทดแทนขึ้นมา โดยเริ่มดำเนินการมาสักพักใหญ่ และมีผู้ป่วย 8 รายที่ใช้บริการอวัยวะทดแทนจากการผลิตภายนอกร่างกายโดยศูนย์ฮาร์ทตั้งแต่ปี 2551

ล่าสุด ศูนย์ฮาร์ทได้ผลิตหลอดลม สำรองขึ้นมา โดยใช้การสร้างเนื้อเยื่อแบบเส้นใยบางๆ บางกว่าเส้นผมประมาณ 100 เท่า มาพันรอบท่อวัสดุสังเคราะห์เพื่อนำไปใช้กับผู้ป่วยที่ต้องการเปลี่ยนหลอดลม โดยเส้นใยเนื้อเยื่อดังกล่าวสร้างขึ้นมาจากการเพาะเนื้อเยื่อจากสเต็มเซลล์ของผู้ป่วยรายนั้นๆ

ฮาร์ท กำลังทดลองการผลิตอวัยวะในรัสเซีย สหภาพยุโรป (อียู) และส่งรายงานความคืบหน้าของโครงการให้แก่สำนักงานอาหารและยา (เอฟดีเอ) แห่งสหรัฐอเมริกา เพื่อการพิจารณาอนุญาตการผลิตอวัยวะสำรองให้แก่ผู้ป่วยชาวอเมริกัน ที่เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียวก็มีผู้ป่วยที่รอการเปลี่ยนอวัยวะมากถึง 1.2 แสนคน

 

Kaokala Fc

1 ก.พ. ม.ฮาร์วาร์ดเปิดโรงงานผลิตอวัยวะส่วนบุคคล



แม้การเปลี่ยนอวัยวะให้แก่ผู้ป่วยถือเป็นเรื่องปกติกันแล้วในปัจจุบัน เพราะมีการเปลี่ยนอวัยวะกันอย่างมากมาย ทั้งดวงตา ตับ ไต ลิ้นหัวใจ แม้แต่หัวใจทั้งดวงก็มีการเปลี่ยนกันแล้ว แต่อุปสรรคสำคัญในการเปลี่ยนอวัยวะก็คือ ต้องนำอวัยวะของผู้บริจาคที่เสียชีวิตแล้วมาใช้ ทำให้เกิดอาการ "ต้าน" อวัยวะชิ้นใหม่ที่เข้ามาทดแทนในร่างกายผู้ป่วย โดยระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ผู้ป่วยที่เข้ารับการเปลี่ยนอวัยวะต้องกินยากดภูมิคุ้มกันของร่างกายไปตลอดชีวิต เสี่ยงต่อการติดโรคต่างๆ นานาได้ง่าย



ด้วยเหตุนี้เอง ศูนย์เทคโนโลยีสร้างอวัยวะทดแทนฮาร์วาร์ด (Harvard Apparatus Regenerative Technology) หรือ ฮาร์ท หน่วยงานด้านชีวภาพการแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด จึงได้คิดค้นวิธีการสร้างอวัยวะทดแทนขึ้นมาจากเซลล์ต้นกำเนิด (สเต็มเซลล์) ของผู้ป่วยที่ต้องการอวัยวะทดแทนขึ้นมา โดยเริ่มดำเนินการมาสักพักใหญ่ และมีผู้ป่วย 8 รายที่ใช้บริการอวัยวะทดแทนจากการผลิตภายนอกร่างกายโดยศูนย์ฮาร์ทตั้งแต่ปี 2551

ล่าสุด ศูนย์ฮาร์ทได้ผลิตหลอดลม สำรองขึ้นมา โดยใช้การสร้างเนื้อเยื่อแบบเส้นใยบางๆ บางกว่าเส้นผมประมาณ 100 เท่า มาพันรอบท่อวัสดุสังเคราะห์เพื่อนำไปใช้กับผู้ป่วยที่ต้องการเปลี่ยนหลอดลม โดยเส้นใยเนื้อเยื่อดังกล่าวสร้างขึ้นมาจากการเพาะเนื้อเยื่อจากสเต็มเซลล์ของผู้ป่วยรายนั้นๆ

ฮาร์ท กำลังทดลองการผลิตอวัยวะในรัสเซีย สหภาพยุโรป (อียู) และส่งรายงานความคืบหน้าของโครงการให้แก่สำนักงานอาหารและยา (เอฟดีเอ) แห่งสหรัฐอเมริกา เพื่อการพิจารณาอนุญาตการผลิตอวัยวะสำรองให้แก่ผู้ป่วยชาวอเมริกัน ที่เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียวก็มีผู้ป่วยที่รอการเปลี่ยนอวัยวะมากถึง 1.2 แสนคน

�.�����������Դç.��Ե��������ǹ�ؤ�� : ��ҧ������ : ���Ƿ����� : ���Ѵ�֡�͹�Ź�

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก
ปรากฏการณ์บนท้องฟ้า : ฮาโล (Halo) หรือจะเรียกว่า Sun Halo และ Solar Halo ก็ได้





ปรากฏการณ์ฮาโล (Halo) นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ม.ค.2557 ณประเทศออสเตรียเมืองซาลซ์บูร์ก ตามภาพประกอบอุณหภูมิภายนอกค่อนข้างหนาวเย็นอยู่ที่ -12°C ซึ่งฮาโลเกิดจากผลึกน้ำแข็ง(diamond dust)หรือฝุ่นละอองหิมะ ส่องแสงผ่านผลึกน้ำแข็ง 6 เหลี่ยมด้านบน แล้วเกิดการหักเหของแสงอาทิตย์กับผลึกน้ำแข็ง 6 เหลี่ยมภายในเมฆเซอรัส (cirrus) หรือ เซอโรสตราตัส (cirrostratus)

รูปร่างผลึกน้ำแข็ง 6 เหลี่ยม
1.http://www.sahavicha.com/UserFiles/Image/Noname(5).jpg



2.http://www.sahavicha.com/UserFiles/Image/Noname3.jpg



รูปภาพอธิบายแสดงการเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว



http://www.sahavicha.com/UserFiles/Image/Noname5.jpg

ที่มาของภาพ
Sun Halos (รูปภาพ 5 รูป)

 

Kaokala Fc

2 ก.พ. สื่อเกาหลีใต้รายงาน นาวิกโยธินแดนกิมจิ มุ่งหน้ามาไทย เข้าร่วมซ้อมรบ “คอบร้า โกลด์”



สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานในวันอาทิตย์ (2ก.พ.) โดยระบุ กองกำลังนาวิกโยธินเกาหลีใต้จำนวน 216 นายพร้อมด้วยกำลังพลจากกองทัพเรือโสมขาวอีก 170 ชีวิต เตรียมออกเดินทางมุ่งหน้ามายังประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมปฏิบัติการซ้อมรบชื่อดัง “คอบร้า โกลด์” กับกำลังพลจากกองทัพไทยและสหรัฐอเมริกา

รายงานของยอนฮัประบุว่า กำลังพลเกาหลีใต้จำนวนดังกล่าว ได้ออกเดินทางจากท่าเรือจินแฮทางตอนใต้ของประเทศในวันอาทิตย์ (2) พร้อมด้วยเรือรบลำเลียงพลขนาดระวางขับน้ำ 2,600 ตัน และยานยนต์จู่โจมสะเทินน้ำสะเทินบก เพื่อมุ่งหน้ามายังท่าเรือสัตหีบของไทย ก่อนเข้าร่วมการซ้อมรบ “คอบร้า โกลด์” ในไทยระหว่างวันที่ 11-21 กุมภาพันธ์นี้

สื่อดังแดนกิมจิระบุว่า ปฏิบัติการซ้อมรบคอบร้า โกลด์ในประเทศไทยซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1981 ถือเป็นหนึ่งในปฏิบัติการซ้อมรบที่มีชื่อเสียงที่สุดของภูมิภาค และในปีนี้คาดว่า จะมีกำลังพลกว่า 7,800 นายจาก 7 ประเทศเข้าร่วม คือ ไทย สหรัฐฯ เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย และสิงคโปร์

 

Kaokala Fc

31 ม.ค. นักวิจัยญี่ปุ่นส่ง “สแต็ปเซลล์” เขย่าวงการสเต็มเซลล์



เพียงทำให้เซลล์เครียดด้วยสภาพแวดล้อมที่กดดันต่างๆ นักวิทยาศาสตร์ก็สามารถเปลี่ยนเซลล์ที่โตเต็มที่แล้วให้ย้อนวัยกลับไปเป็นเซลล์ต้นกำเนิดได้อีกครั้ง และตั้งชื่อให้ใหม่เก๋ไก๋กว่าเดิมว่า "สแต็ปเซลล์"

(ภาพ..ตัวอ่อนของหนูที่ได้รับการฉีด "สแต็ปเซลล์" เข้าไปในในเอมบิโอ ซึ่งต่อมาเจริญเป็นหนูไคเมราที่มีสุขภาพแข็งแรง -ภาพจาก Nature)

สแต็ปเซลล์ (stimulus-triggered acquisition of pluripotency : STAP cells) ที่ว่านี้ คือเซลล์ต้นกำเนิด หรือสเต็มเซลล์ (stem cell) ที่ทีมนักวิทยาศาสตร์ ศูนย์ชีววิทยาพัฒนาการ ริเก็น (RIKEN Center for Developmental Biology) ในญี่ปุ่น สร้างขึ้นจากเทคนิคใหม่ที่พวกเขาร่วมกันพัฒนาขึ้น ด้วยวิธีการที่ง่ายและทำได้รวดเร็ว สเต็มเซลล์ที่ได้ก็มีศักยภาพสูง จึงนับเป็นความสำเร็จที่น่าตื่นเต้นและเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญอีกครั้งในวงการวิจัยสเต็มเซลล์

โอโบคาตะและทีมวิจัย ได้นำเทคนิคใหม่ข้างต้นมาทดลองใช้กับเซลล์สัตว์ โดยนำเซลล์ม้ามของหนูที่มีอายุ 1 สัปดาห์ มาแช่ในสารละลายที่มีสภาพเป็นกรด ที่อุณหภูมิเท่ากับอุณหภูมิในร่างกายของมนุษย์ เป็นเวลา 25 นาที หลังจากนั้นพบว่าเซลล์ม้ามเหล่านั้นมีการเปลี่ยนแปลงกลับไปมีสภาพเป็นเซลล์พลูริโพเทนท์ เช่นเดียวกับที่พบในเซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อน และทีมวิจัยยังได้ทดลองใช้เทคนิคเดียวกันนี้ในกับเซลล์จากเนื้อเยื่อสมอง, ผิวหนัง, กล้ามเนื้อ, ไขมัน, ไขกระดูก, ปอด และตับ ซึ่งก็ให้ผลสำเร็จเช่นเดียวกัน

 

Kaokala Fc

1 ก.พ. ช็อก!! 4ขวบรัวปืนอาก้าฝึกยิงศัตรู หลังถูกเกณฑ์เป็น"จีฮัดน้อย"ทำสงครามสู้ รบ.ซีเรีย



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดภาพชวนช็อกตะลึง เมื่อเด็กชายวัย 4 ขวบซีเรีย ได้ซ้อมยิงกระสุนด้วยปืนอาก้า จากการฝึกของกลุ่มอัล เคด้า เครือข่ายก่อการร้ายโลก ซึ่งนับเป็นภาพชวนตระหนกเพราะอายุของเด็กควรจะเรียนหนังสือมากกว่าอยู่ในสมรภูมิรบ



ภาพดังกล่าวถูกเปิดเผยโดยกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ซึ่งมีความสัมพันธ์กับอัล เคด้า โดยเด็กดังกล่าวเชื่อว่าน่าจะมีอายุเพียง 4 ขวบ และเป็นหนึ่งในกลุ่ม "เด็กน้อยแห่งสงครามศักดิ์สิทธิ์" ที่ถูกเกณฑ์มาให้สู้รบในสงครามนองเลือดในซีเรีย รวมทั้งภาพเด็กอายุ 9-15 ปีอยู่ในชุดหน้ากากดำ ถูกฝึกให้ทำสงครามต่อสู้กับรัฐบาลซีเรียที่นำโดยประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสสาด

ชมคลิป ช็อก สี่ขวบรัวปืนอาก้าฝึกยิงศัตรู หลังถูกเกณฑ์เป็น"จีฮัดน้อย"ทำสงครามสู้ รบ.ซีเรีย (ชมคล

 

ฟ้าสีหมอก มนตรา



Foreign News NTV @NTVWorldNews 27m
หวั่นยอดผู้เสียชีวิตเพิ่ม หลังภูเขาไฟ Sinabung ในอินโดฯ ปะทุ ทำคนตายแล้ว 15 คน / AFP

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก



ภาพแสงเหนือออโรร่าจากการปะทะของ CME ในชั้นบรรยากาศโลก เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2557 ทางตอนเหนือของนอร์เวย์

Aurora Borealis

https://www.facebook.com/photo.php?...3321916985.416583.369953306984&type=1&theater

 

พุฒิพงศ์ ก้อนวิมล
ช็อก "โอบามา" แยกทางกับ มิเชลแล้ว



ที่สหรัฐ 3 ก.พ.2014-เกิดกระแสข่าวลือสะพัดหนาหูว่า ชีวิตสมรสของผู้นำสหรัฐที่ยืนยาวมากว่า 21 ปี ถึงคราวสะดุดหยุดยั้ง มีการแยกห้องนอน และคาดกันว่าหลังครบวาระการบริหารประเทศแล้วต่างคนต่างไป
ที่มาของข่าวลือนี้ก็คือ อาการแสดงออกอย่างชัดเจนของนางมิเชล โอบามา สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐในระหว่างที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แสดงความใกล้ชิดสนิทสนมกับนายกรัฐมนตรีสาวสวยของเดนมาร์ก แฮลล์ ธอร์นิง-ชมิดต์ ด้วยการถ่ายภาพคู่กันและแสดงความสนิทสนมกันอย่างเปิดเผย ซึ่งนางมิเชลล์ถือว่าเป็นการดูหมิ่นกันอย่างยิ่ง จนทำให้เกิดข่าวลือว่า ทันทีที่นายโอบามาหมดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่ 2 แล้ว ทั้งคู่จะแยกทางกันอย่างถาวร โดยนายโอบามาจะกลับไปอยู่ที่ฮาวาย ส่วนนางมิเชลจะยังคงอยู่ในกรุงวอชิงตันต่อไปพร้อมกับบุตรสาวทั้งสอง

การตั้งข้อสังเกตนี้มาจากการที่นางมิเชลฉลองงวันเกิดครบรอบ 50 ปีอย่างเดียวดาย ไร้เงาสามีอยู่ข้างกาย และการหันมาปรับปรุงร่างกายด้วยการลดน้ำหนักอย่างได้ผล ทำให้หุ่นเพรียวบางและเซ็กซี่ขึ้น ทำให้มีเสียงซุบซิบว่าเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเธอในเวลาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

 

Newsmania



ภาพของผู้เสียชีวิตจากเหตุภูเขาไฟซินาบุงในอินโดนีเซียปะทุ พ่นเถ้าถ่านออกมาจำนวนมาก BBC รายงานล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 14 ราย

 

Newsmania



ตอนแรกมีคนทวีตว่าเป็นนักข่าวเกาหลี ล่าสุดมีเบาะแสว่าเป็นนักข่าวญี่ปุ่น
ชื่อ เอนามิ ไดอิจิโร่ แคสเตอร์ อายุ 28 สูง 180 นักข่าวญี่ปุ่น ช่องฟูจิทีวี

 

ฟ้าสีหมอก มนตรา

สำรวจโลก

กล้องโทรทัศน์อวกาศฮับเบิล เผยภาพกาแล็กซี่ M83 ที่อยู่ห่างโลก 15 ล้านปีแสง



Messier 83 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Southern Pinwheel Galaxy เป็นกาแล็กซี่ประเภทก้นหอยแบบมีคานกลาง อยู่ห่างโลกออกไป 15 ล้านปีแสง ถือเป็นกาแล็กซี่ที่ใกล้โลกและสว่างที่สุดในบรรดาประเภทก้นหอยแบบมีคานกลาง และได้มีการตรวจพบซูเปอร์โนวาถึง 6 ครั้งในกาแล็กซี่นี้ด้วย

วิดีโอ:

<iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/iaPY7CAUlH0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ กับ สำรวจโลก | Next Step สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้

 

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล



คำเตือนออกมาให้ระวังภัยพิบัติทางเศรษฐกิจระดับเขย่าทั้งโลก 15 กุมภาฯ 14 ธนาคารอเมริกาอาจล้มหลายแห่ง

ข่าวเล็ดลอดออกเตือน ผู้คนอาจจะ ตกงานเป็นวงกว้าง..? ถือเป็นภัยพิบัติรวม เริ่มต้น 15 กุมภาฯ 14

อาจจะเพื่อจัดระบบระเบียบใหม่ของระบบ?