ตามครรลองธุลีดิน(ความตายบนเส้นทางโจรสลัด..ของอดีตนักเลงบ้านนอก)

กลับมาบ้านถูกแล้วค่ะดีใจจัง

ขอทักทายท่านเจ้าบ้าน (ยอมกลับบ้านเสียที เย้) และ คุณลูกบ้านทุกท่านค่ะ

 

ไปหลงทางกลางกระทู้เหมือนปูหลง
เดินไม่ตรงเซกลับมาหาทางเข้า
ถึงบ้านคุณtopluส  จัดไม่เบา
เลยแวะเข้าหลงทางมาหาเพื่อนธรรม

ลืม  ๙๙ ต่อท้าย เอาใจช่วย
มีพระสวย รอชมอยู่ ดูพร้อมเพื่อน
มีกล้องใหม่รีบถ่ายใวอย่าแชเชือน
มากหลายเพื่อนคงอยากรู้ปูเสื่อคอย

 

มีหน้าที่มากดโมทนา
ด้วยเหตุว่าชอบฟังเรื่องเขาเล่า
อันตัวเราก็อยากเล่าอย่างเขา
แต่ข้าเจ้าไม่สันทัดเรื่องทางธรรม

 

สวัสดีครับคุณtoplus99 ผมตามมาจากกระทู้พี่ระมิงค์และพี่คมสันต์usa

ครับ ขอหลงทางด้วยคนครับ

 

ยินดีต้อนรับเข้าบ้านtoplus99 ครับ

เราเดินเร่ร่อนไปขอข้าวร้อน ข้าวเย็นบ้าน อ.ระมิงค์มาเลยได้พันธมิตรใหม่
ติดไม้ติดมือมาด้วย...

โบราณว่า.."เหมือนมีนกตัวเดียว แต่ได้หลายหัวช่วยกันทำมาหากิน"

อาจจะงงไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน เพราะเพิ่งคิดขึ้นมาเอง ฮ่าๆ

 

ปู่โธ่หนอ ท่าน อ.คมสันต์ แต่งกลอนได้เก่งจัง

แต่ไฉนอันนามมังกรผงาด ของ"toplus99"

ถึงได้ขาดกระรุ่งกระหริ่ง เว้าๆแหว่ง ตัดปีกเด็ดหางชอบกลนักแล
แต่ช่างเถอะเอาว่าเอารวมๆ ยำๆกันเข้า แล้วกลับมาผสมเป็นร่างเดิมได้นี่ก็ถือว่าบุญเหลือเกินแล้ว

ไม่ตั้งใจเบี้ยวคิวตามนัดหมาย..เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมานี่นะครับ
ก็รู้ๆอยู่นะครับ ว่ามีแขกปากีสถาน มาสอยเวปดอทคอมไปตากแดดกลางทะเลทราย หวังเรียกเงินจากเวปมาสเตอร์อยู่ เลยเข้าไปได้..

เจอแขกแหย่ขัดขาทำให้เสียจังหวะซะหัวทิ่ม
เดี๋ยวจัดให้ชมกันแน่นอนครับ
"วัตถุออกฤทธิ์ทางมงคล"...ที่เก็บสะสมไว้เล็กๆน้อยๆ เดี๊ยะเหอะเจอแน่!

รอก่อนๆ..รอแปร๊บๆครับท่าน

 

มาปูเสื่อรอหากล้องมาส่องพระ
มังกรจะผงาดพาดขึ้นหัว
ทั้งคาบแก้วพันเกล็ดรวมเจ็ดตัว
มุดข้ามรั้วลืมใส่หัวตัวมังกร

จะออกฤทธิ์วิทยาก็ครานี้
ชวนน้องพี่มาลงอย่าสงสัย
ฝนฟ้าเริ่มมืดมัวถล่มทลาย
ให้เตรียมใว้รีบเข้ามานั่งหน้าจอ

 

แอบกดดันแบบลึกๆ ก็เล่นลากกันออกมาหน้าเวทีเลย
พลาดแล้วขายขี้หน้ากันน่าดูเชียว

 

พระสมเด็จหลวงปู่โต เนื้อขาวอมชมพู- ด้านหน้า พิมพ์พระประธานเศียรโตลงปิดทอง
- ด้านหลัง พิมพ์หลวงปู่โตบริกรรม ฝังล้อมเม็ดประคำเหล็กไหลเจ็ดสี
(สีเขียวปีกแมงทบ,เงินยวง,สีทอง,ดำ,สีชมพู,ฯลฯ)

เม็ดแร่เหล็กชิ้นเล็ก บารมีผ่านองค์ญาณหลวงปู่ใหญ่มอบให้
ทั้งสองชิ้นได้จากรับมาจากแม่ชี ที่เป็นศิษย์ร่วมพระอาจารย์ถ้ำด้วยกัน
แต่แม่ชีนี่การปฏิบัติธรรมแซงtoplus99 ไกลลิบลิ่วปลิวหาย ชนิดทิ้งห่างกันแบบไม่ติดฝุ่น
แถมมีดีกรีเป็นนักศึกษาปริยัติเข้าสอบแข่งขันหมวดอภิธรรม ได้เป็นอันดับหนึ่งซะด้วยเห็นแกบอกว่าอย่างกับรู้ว่าข้อสอบมันจะออกอะไร เก็งอ่านไปไม่พลาดซักข้อ
..ป๊าด อภิธรรมมันไม่ใช่ของง่ายๆเด้อนี่

โดยแกมีความสามารถพิเศษในการอัญเชิญธาตุศักดิ์สิทธิในอากาศธาตุผ่านเข้ามาในร่างกาย แล้วค่อยๆคลายออกมาได้
เป็นไงล่ะครับ..หยั่งกะโม้เชียว

toplus99 ได้รับมาจากที่เพิ่งออกมาจากการมุดในถ้ำลึกปฏิบัติธรรมโดยลำพังนานเกือบ5 ชม.ตามคำแนะนำของพระอาจารย์และทำตามที่รับปากกับองค์ญาณในถ้ำ

ออกจาถ้ำก็เลยมานั่งพักดื่มน้ำที่ศาลาหน้าถ้ำในชุดขาวมอมแมมเลอะเทอะ พอดีมีแม่ชีท่านนี้ก็มาแวะพักผ่อนอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งนานๆทีแกมีโอกาสจะแวะเยี่ยมเยือนพระอาจารย์ และส่วนใหญ่จะมาช่วงที่ทางสำนักมีงานสำคัญๆเท่านั้น

ก็เลยได้โอกาสคุยสนทนากันไปพักหนึ่งท่านล้วงมือนำเอาวัตถุโลหะจากย่าม คล้ายลูกรักบี้เล็กๆออกมาดู
เราก็เลยนำมาพิจารณาดูแบบเซ่อๆโง่ๆไปตามประสา แล้วส่งคืนให้เจ้าของคือแม่ชี
แต่ดูเหมือนเมื่อรับของชิ้นนี้คืนกลับ แกก็มีอาการมือกระตุกสะดุ้งนิดหนึ่งแล้ว แล้วส่งคืนมาที่เรา
บอกว่า.."ฉันให้โยมนะเก็บไว้นะ" ว้าว แหล่มเลย

อีกพักหนึ่งก็ได้นำพระสมเด็จหลังฝังเม็ดประคำเล็กเหล็กไหล7สี ออกให้ดูอีกชิ้น
เราก็นำมาพิจารณาไปมาๆ อยู่พักหนึ่งก็ส่งคืนให้แม่ชี

เมื่อรับมาก็มองหน้าเราจ้องตาเขม็งแล้วก็ยิ้มๆ
" โอ๊ะของชิ้นนี้....ฉันคงต้องให้โยมอีกแล้วล่ะ" ว๊าว มายังไง?

"...แค่นี้พอแล้ว ฉันไม่กล้าให้ดูอีกแล้วนะ ถ้าให้ดูอีกฉันคงหมดย่ามแน่ ของนี้ฉันให้เปล่าเลย ไม่ต้องมาตอบแทนอะไรคืนหรอก มันคงเป็นเวลาที่เขาจงใจจะให้โยมไว้นั่นแหละ"

นี้คือผลพลอยได้จากการเจริญกรรมฐานแบบอัปมัญญา4+กสิน ฉบับอนุบาลที่toplu99ลองฝึกทดสอบแบบบ้าๆบอๆไปตามเรื่องในถ้ำ

โหไม่น่าเชื่อ...ออกมาจากปฏิบัติกรรมฐานให้ผลให้คุณไวทันตาเห็นปานนี้เชียว เข้าท่าวุ้ย!

 

ออกมาแล้วพระสมเด็จจากเจ็ดถ้ำ
แม่ชีย้ำฝังประคำเด็จมีเจ็ดสี
ฝึกกรรมฐานงานเข้าก็คราวนี้
ชวนน้องพี่ร่วมสักขึอนุโมทนา

เยี่ยมครับ

 

พระสมเด็จดำพิมพ์ชายจึวรเส้นลวด วัดระฆัง ปัจจุบันเรียก สมเด็จดำ

ช่างสิบหมู่ผู้แกะพิมพ์ถวาย เป็นเนื้อผงดำผสมผงวิเศษ เหล็กไหลไพรดำ ข้าวสุก ผงใบลาน น้ำอ้อยเคี่ยว
ช่วง ครองสมณศักดิ์ เป็น พระเทพกวีศรีวิสุทธินายก จ.ศ.๑๒๑๒ หรือ พ.ศ.๒๓๙๓
อายุท่านได้ ๖๓ ปี

 

พระสมเด็จหลวงปู่ใหญ่ ได้มาจากปู่โทน หลำแพร ศิษย์ในดงผู้อาวุโส ผู้ทรงอภิญญาอายุ ๑๐๔ ปี

ไปเยี่ยมท่านที่บ้านตาคลี จ นครสวรรค์ เมื่อ สิบกว่าปีมาแล้ว

 

กราบอนุโมทนา ท่านอาจารย์คมสันต์ที่กรุณาให้ความรู้ค่ะ

 

วัตถุมงคล

**********************************
อ่านๆไปก็น่าตื่นเต้น บางทีก็เกิดกิเลสทําให้อยากได้ แ่ต่ก็เอาธรรมะเข้าข่ม ปล่อยวางๆๆๆๆๆ
( เหล็กไหลที่ท่านให้มานับว่าสวยมากมีหลายสีเลย เหมือนมีสองตาด้วย(คล้ายเพชร)

ติดวัตถุมงคลก็ยังดีกว่าวัตถุอัปมงคล....หลวงปู่ดู่

 

พระสมเด็จเขียวไข่กา ปีระกาป่วง
ระกาความไข้ คนตายนับได้  เกือบใกล้สี่พัน
เบาน้อยกว่าเก่า  หกเท่าลดกัน  มะโรงก่อนนั้น
แสนหนึ่งบาญชี   เขาจดหมายใว้   ในสมุดปูมมี
มากกว่าครั้งนี้     หกเท่าเป็นไปฯ

เกิดไข้ในวัดน้อย  วันละคน
ตั้งแต่สองค่ำดล   หกเว้น
ศิษย์พระวอดวายชนม์   ถึงสี่เชียวนา
บางพวกไกลโรคเว้น     ชีพตั้งยังเหลือฯ
  จนเสร็จเผด็จสิ้น       ปีระกา
โรคป่วงเกิดมีมา         ทั่วด้าน
น้ำน้อยไม่เข้านา        เสียมากเทียวแฮ
ในทุ่งรวงข้าวม้าน       ไค่กล้านาเสียฯ
คัดมาจากจดหมายเหตุ  สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปรเวศวิริยาลงกรณ์
พระธรรมถาวร (ช่วง) จนทโชติ ได้เคยเล่าให้ นายกนก  สัชชุกร ฟังเป็นความว่า
   เจ้าประคุณสมเด็จฯ โต  ได้ไปเข้าฝันชาวบ้านช้างให้ใช้พระสมเด็จของท่าน อาราธนาแช่น้ำ ทำประสะน้ำพระพุทธมนต์ดื่ม  จะรักษาโรคระบาด ครั้งนี้ได้ ผู้นั้นก็ปฏิบัติตามที่ฝัน
ก็ได้ผลหายจากโรคร้ายได้อย่างน่าอัศจรรย์  และได้แจกจ่ายน้ำมนต์ให้ผู้ป่วยอื่นฯ
หายทุกราย ความทราบถึงสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง จึงพระราชทานแจก พระสมเด็จฯ
ส่วนพระองค์ แด่ข้าราชการเป็นการใหญ่ และปรากฏผลว่า อหิวาตกโรคระบาด
ครั้งนั้นสงบลงอย่างรวดเร็ว จนปกติในที่สุดด้วยอำนาจแห่งคุณวิเศษของพระสมเด็จนี้
เครดิต มาจาก ตำราพระสมเด็จเล่มแรกของประเทศไทย ตรียัมปวาย
หรือ พันเอก ประจน กิติประวัติ   ผู้เป็นเจ้าของคำว่า เบ็ญจภาคี
หรือปรมาจารย์ แห่งพระสมเด็จ นั่นเองครับ

ที่มาของพระสมเด็จเขียวไข่กา ปีระกาป่วงครับ

 

เรื่องราวน่าสนใจมากค่ะ

 

พระสมเด็จวัดบางหว้าใหญ่(พิมพ์พิเศษ) ชื่อเดิม ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดระฆัง
พระสมเด็จองค์นี้ มีแสงทองพุ่งออกจากองค์พระ ได้มา สององค์เมื่อยี่สิบปีก่อน
เราได้นำไปมอบให้คุณป้า (๑ องค์ เมื่อ ๕ ปีที่แล้ว )ผู้มีฌานสัมผัสองค์สมเด็จโตบ้านท่านอยู่แถว ดอนเมือง กทม.
วันหนึ่งท่านจะไปใหว้พระที่วัดระฆัง ท่านได้นั่งรถแทกซี่  สองคนป้า-ลุง เพื่อไปทำบุญ
ในระหว่างทางก็คุยกันมาเรื่อย คนขับแทกซี่บอกว่าเกิดมายังไม่ได้เคยเห็น  พระสมเด็จที่สวยงามอย่างนี้ คนขับรถอายุราวฯ ๖๕ ปี ใช้เวลาขับรถเกือบสอง ชม.จึงถึงวัดระฆัง
ปรากฏว่าลืมกดมิเตอร์รถค่าโคยสาร  คนขับเลยไม่คิดเงิน แถม ควักเงินส่วนตัว
ร่วมทำบุญกับ คุณป้า-ลุง ผู้ครอบครองพระสมเด็จอีก เป็นอันว่าพระสมเด็จท่าน
พามาจนถึงวัดระฆัง โคยไม่เสียเงินเลย แถมได้เงินเพิ่มมาร่วมทำบุญอีก
จนคุณป้าและ-ลุง น้ำตาไหลปิติมากในองค์พระสมเด็จ จึงนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

 

พระเครื่อง งดงาม กลอนก็ สุดยอด

สุดๆจริงๆครับพี่

 

พระสมเด็จ

**********************************
ขอบพระคุณค่ะ ท่านคมสันต์ อยากแต่งกลอนตอบแต่สมองมันช้าเกินไป(ใช้มากไปหรือไม่ค่อยได้ใช้ สงสัยจริงๆ)

 

ไม่กลับมาบ้านตั้งนาน

*****************************************
คิดถึงนะคะ นึกว่าขี่จักรยาน(คู่ขนาน)หลงทางไปไหนเสียแล้ว เหลือแต่น้อง"พุงกลม"เฝ้าบ้านอยู่คนเดียว
(f)