ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย เกษม, 13 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    แผ่นดินไหว 6.1 ริกเตอร์ บนเกาะบอร์เนียวของอินโดนีเซียทำบ้านพังหลายหลัง

    [​IMG]

    จาการ์ตา 21 ธ.ค.- สำนักงานภัยพิบัติอินโดนีเซีย แจ้งว่า แผ่นดินไหวขนาด 6.1 ริกเตอร์ บนเกาะบอร์เนียว ช่วงเช้าวันนี้ ทำให้บ้านเรือนในจังหวัดกาลิมันตันตะวันออก พังเสียหายหลายหลัง


    โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซีย เผยกับสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนว่า แผ่นดินไหวทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่งแตกตื่น เพราะเกรงเกิดสึนามิ แม้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวเกิดขึ้นใต้ผืนดินก็ตาม ล่าสุดได้รับรายงานว่า มีบ้านเรือนเสียหายแล้ว 7 หลัง ในแขวงตารากัน เนื่องจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวเกิดขึ้นห่างไปทางตะวันออกเฉียงเหนือเพียง 29 กิโลเมตร และลึกเพียง 10 กิโลเมตร ขณะที่สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ แจ้งขนาดแผ่นดินไหวต่ำกว่าเล็กน้อยว่ามีขนาด 6 ริกเตอร์ เท่านั้น

    อนึ่ง อินโดนีเซียเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง เนื่องจากตั้งอยู่บนแนววงแหวนแห่งไฟแปซิฟิก. – สำนักข่าวไทย

    จีนจะร่วมแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในซีเรีย

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 21 ธ.ค. – กระทรวงต่างประเทศจีนเปิดเผยวันนี้ว่า จีนจะเชิญตัวแทนจากรัฐบาลซีเรียและกลุ่มฝ่ายค้านให้มาเยือนจีน ในขณะที่จีนพยายามหาทางในการช่วยเหลือผลักดันกระบวนการสันติภาพในซีเรีย

    โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวโดยอ้างคำกล่าวของนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนที่สำนักงานสหประชาชาติเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า จีนจะเชิญตัวแทนจากทั้งสองฝ่ายให้เดินทางมายังจีนในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของจีนในการแสดงบทบาทในทางสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการหาทางออกทางการเมืองในวิกฤติการณ์ในซีเรีย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ลงมติให้ความเห็นชอบอย่างท่วมท้นในแนวทางของนานาชาติเกี่ยวกับกระบวนการสันติภาพในซีเรีย.-สำนักข่าวไทย

    จีนเรียกร้องสหรัฐให้เคารพผลประโยชน์หลักของจีน

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 21 ธ.ค. – นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนกล่าวว่า สหรัฐต้องเคารพผลประโยชน์หลักของจีน ได้แก่ ยุติการขายอาวุธให้ไต้หวัน และยกเลิกการลาดตระเวนทางทหารใกล้เกาะในทะเลจีนใต้ที่จีนควบคุมอยู่

    รัฐมนตรีต่างประเทศจีนกล่าวในการพูดคุยทางโทรศัพท์กับนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐว่า ในขณะที่สหรัฐขอความร่วมมือกับจีน ก็ต้องเคารพผลประโยชน์สำคัญของจีนและเรื่องที่เป็นกังวลกัน ภายหลังจากที่นายหวังได้อธิบายกับนายแคร์รีถึงท่าทีของจีนที่มีต่อไต้หวันและในทะเลจีนใต้ พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐยุติการขายอาวุธให้ไต้หวัน และเลิกแสดงแสนยานุภาพทางทหารด้วยการส่งเรือและลาดตระเวนในทะเลจีนใต้ ก่อนหน้านี้ สหรัฐทำให้จีนไม่พอใจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ด้วยการอนุมัติขายอาวุธครั้งใหม่ให้กับไต้หวัน .- สำนักข่าวไทย

    มลพิษจีนยังวิกฤติ สั่งระงับการผลิตโรงงานกว่า 2 พันแห่ง

    [​IMG]

    กรุงปักกิ่ง 21 ธ.ค.- ทางการกรุงปักกิ่ง มีคำสั่งให้โรงงาน 2,100 แห่งระงับการผลิตหรือลดกำลังการผลิตลง เพื่อช่วยลดการปล่อยมลพิษ พร้อมแนะโรงเรียนหยุดทำการในวันนี้และพรุ่งนี้

    ทางการกรุงปักกิ่งพยายามหาทางลดปริมาณหมอกควันพิษในอากาศ ล่าสุด มีคำสั่งให้โรงงาน 2,100 แห่งระงับการผลิตหรือลดกำลังการผลิตลง เพื่อช่วยลดการปล่อยมลพิษซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการรับมือฉุกเฉิน ควบคู่ไปกับการลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนนลงครึ่งหนึ่ง หลังพบว่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก มีค่าสูงถึง 172 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าอยู่ในขั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และต้องเตือนภัยในระดับสีแดง ทางการยังแนะนำให้โรงเรียนหยุดทำการในวันนี้และพรุ่งนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย

    กัมพูชาใช้กำลังสลายคนงานสิ่งทอชุมนุมใกล้ชายแดนเวียดนาม

    [​IMG]

    พนมเปญ 21 ธ.ค.- ตำรวจกัมพูชาจับกุมคนงานสิ่งทอจำนวนหนึ่งในวันนี้ หลังจากใช้แรงน้ำดันสูงสลายคนงานที่ชุมนุมหน้าโรงงานใกล้ชายแดนเวียดนามประท้วงเรื่องได้ขึ้นค่าแรงต่ำกว่าที่ทางการรับปากไว้

    ทางการกัมพูชาส่งทหารและตำรวจหลายร้อยนายไปรักษาความเรียบร้อยในเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองบาเวต จังหวัดสวายเรียง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ หลังจากคนงานประมาณ 8,000 คนชุมนุมประท้วงเรื่องค่าแรง ตัวแทนสหภาพแรงงานเผยว่า ทางการรับปากจะขึ้นค่าแรงเดือนละ 20 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 722.60 บาท) แต่ถึงเวลาจริงกลับได้ขึ้นเพียง 10 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 361.30 บาท) เท่านั้น ผู้ประท้วงพากันขว้างปาก้อนหินด้วยความไม่พอใจทำให้เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำแรงดันสูงจากรถดับเพลิงเพื่อสลายผู้ประท้วง จากนั้นตำรวจได้จับกุมคนงานกว่า 30 คนขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่าวรวดเร็ว ในจำนวนนี้มีคนงานสตรีรวมอยู่ด้วย

    ด้านผู้บริหารเมืองบาเวตกล่าวว่า จำเป็นต้องควบคุมสถานการณ์หลังจากปล่อยให้ผู้ประท้วงขว้างปาก้อนหินมาแล้วหลายวัน เจ้าหน้าที่ทำไปเพื่อคุ้มครองโรงงาน นักลงทุนและความปลอดภัยของคนงาน เนื่องจากผู้ประท้วงไม่ยอมส่งคนมาเจรจา อีกทั้งยังขว้างปาก้อนหินใส่คนงานที่ไม่เข้าร่วมประท้วงด้วย

    อุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นแหล่งสร้างรายได้สำคัญให้แก่กัมพูชา เพราะผลิตสินค้าให้แก่แบรนด์ดังระดับโลกหลายแห่ง จ้างงานคนงานประมาณ 700,000 คน ทางการรับปากเมื่อเดือนก่อนว่าจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นเดือนละ 140 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,056.88 บาท) ตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้า หรือขึ้นเกือบร้อยละ 10 แต่ยังต่ำกว่าที่คนงานเรียกร้อง.-สำนักข่าวไทย

    จีนปรับเพิ่มตัวเลขผู้สูญหายจากดินถล่มที่นิคมทางใต้เป็น 91 คน

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 21 ธ.ค. – สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า มีผู้สูญหายอย่างน้อย 91 คนในวันนี้ ภายหลังจากดินถล่มครั้งใหญ่กลบทับอาคาร 33 หลังในเขตนิคมอุตสาหกรรมที่เซินเจิ้นทางภาคใต้ของจีน

    สื่อจีนรายงานว่า ดินถล่มทับอาคาร 33 หลังในนิคมเซินเจิ้นซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมสำคัญในมณฑลกวางตุ้งซึ่งมีเขตแดนติดกับฮ่องกงเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้สูญหายเป็นชาย 59 คน และหญิง 32 คน ส่วนเจ้าหน้าที่สำนักงานความมั่นคงสาธารณะรายงานวันนี้ว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 59 คน แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ซินหัวรายงานว่า พื้นที่กว่า 60,000 ตารางเมตรเต็มไปด้วยกองดินกลบทับสูงถึง 6 เมตร สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการรายงานด้วยว่า มีอาคารชุดที่อยู่อาศัยตั้งอยู่ถัดจากเขตนิคมอุตสาหกรรม และอาคารที่ถูกดินถล่มทับรวมถึงที่พักของพนักงาน 2 หลัง ทางด้านรองผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงสาธารณะกล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับการอพยพไปล่วงหน้าโดยปลอดภัยก่อนดินถล่มลงมา .- สำนักข่าวไทย

    ที่มา เว็บไซต์สำนักข่าวไทย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สดร.เผย 22 ธ.ค. วัน ‘เห-มา-ยัน’ ตะวันอ้อมข้าว! กลางคืนยาวนานที่สุดในรอบปี

    [​IMG]

    สดร.เผย 22 ธ.ค.นี้ เป็นวันเหมายัน (เห-มา-ยัน) กลางคืนยาวนานที่สุดในรอบปี ประเทศทางซีกโลกเหนือเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ส่วนทางซีกโลกใต้นับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูร้อน ส่วนคนไทยเรียกว่าตะวันอ้อมข้าว เวลากลางวันเพียง 11 ชม. 19 นาที...

    เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.58 เฟซบุ๊กของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) ได้เผยแพร่ข้อมูล จากการเปิดเผยของ รองศาสตราจารย์ บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ว่า

    "ในแต่ละวันดวงอาทิตย์จะปรากฏในตำแหน่งต่างๆ กัน ประมาณวันละ 1 องศา ในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด และตกทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด ส่งผลให้ช่วงกลางวันจะสั้นและช่วงกลางคืนจะยาวนานที่สุดในรอบปี ภาษาสันสกฤตเรียกว่า “วันเหมายัน (เห-มา-ยัน) (Winter Solstice) สำหรับประเทศไทยจะเรียกว่า “ตะวันอ้อมข้าว” ดวงอาทิตย์จะขึ้นเวลาประมาณ 06:36 น. และจะตกลับขอบฟ้า เวลาประมาณ 17:55 น. (เวลา ณ กรุงเทพฯ) รวมระยะเวลากลางวันเพียง 11 ชั่วโมง 19 นาที เท่านั้น เราจึงรู้สึกว่าท้องฟ้าจะมืดเร็วกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ของปี ประเทศทางซีกโลกเหนือนับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ส่วนประเทศทางซีกโลกใต้นับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูร้อน"

    รศ.บุญรักษา กล่าวเพิ่มเติมว่า "การที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์เป็นรูปวงรี ทำให้โลกมีระยะห่างจากดวงอาทิตย์ไม่เท่ากันตลอดปี ช่วงที่ใกล้ที่สุดประมาณต้นเดือนมกราคม (147 ล้านกิโลเมตร) ช่วงที่ไกลที่สุดประมาณต้นเดือนกรกฎาคม (152 ล้านกิโลเมตร) การโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ที่มีระยะใกล้บ้าง ไกลบ้าง นั้น เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของใกล้-ไกล ถือเป็นอัตราส่วนที่น้อยมากจึงไม่ได้มีผลต่อการเกิดฤดูกาลแต่อย่างใด แต่การที่แกนของโลกเอียง 23.5 องศา เมื่อโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ทำให้ตำแหน่งขั้วโลกเหนือหรือขั้วโลกใต้หันเข้าหาดวงอาทิตย์ส่วนต่างๆ ของโลกจึงได้รับแสงอาทิตย์ไม่เท่ากัน จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ใน 1 ปี เกิดฤดูกาลต่างๆ

    เนื่องจากแกนโลกไม่ได้ตั้งตรงแต่เอียงทำมุม 23.5 องศา กับแนวตั้งฉากกับระนาบโคจรของดวงอาทิตย์ ทำให้ระยะเวลา 1 ปี ที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ทำให้เกิดปรากฏการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการขึ้น-ตกของดวงอาทิตย์ ดังนี้


    1. วันวสันตวิษุวัต (วะ-สัน-ตะ-วิ-สุ- วัด) (Vernal Equinox) ตรงกับวันที่ 21 มี.ค. เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตกพอดี ส่งผลให้ช่วงเวลากลางวันเท่ากับกลางคืนพอดี นับเป็นวันที่ประเทศทางซีกโลกเหนือเข้าย่างสู่ฤดูใบไม้ผลิ ส่วนซีกโลกใต้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง


    2. วันครีษมายัน (ครี-สะ-มา-ยัน) (Summer Solstice) ตรงกับวันที่ 21 มิ.ย.หรือ 22 มิ.ย. เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด และตกทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด ส่งผลให้ช่วงเวลากลางวันยาวที่สุดในรอบปี สำหรับประเทศทางซีกโลกเหนือ นับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูร้อน ส่วนประเทศทางซีกโลกใต้ช่วงกลางวันจะสั้นที่สุดในรอบปี นับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว 


    3. วันศารทวิษุวัต (สาด-ทะ-วิ-สุ-วัด) (Autumnal Equinox) ตรงกับวันที่ 23 ก.ย. เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตกพอดี ส่งผลให้ช่วงเวลากลางวันเท่ากับกลางคืนพอดี นับเป็นวันที่ประเทศทางซีกโลกเหนือเข้าย่างสู่ฤดูใบไม้ร่วง ส่วนซีกโลกใต้เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ


    4. วันเหมายัน (เห-มา-ยัน) (Winter Solstice) ตรงกับวันที่ 21 ธ.ค.หรือ 22 ธ.ค. เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด และตกทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด ส่งผลให้ช่วงเวลากลางวันสั้นที่สุดและกลางคืนยาวที่สุดในรอบปี หรือที่คนไทยเรียกว่า “ตะวันอ้อมข้าว” สำหรับประเทศทางซีกโลกเหนือนับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ส่วนประเทศทางซีกโลกใต้ ช่วงกลางวันจะยาวที่สุดในรอบปี นับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูร้อน"

    (ภาพแสดงการเกิดช่วงเวลากลางวัน-กลางคืนที่ยาวไม่เท่ากันอันเป็นผลเนื่องมาจากมุมเอียงของแกนโลก 23.5 องศา และการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ที่มา How it works! Solar home Lodi, WI)

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 ธ.ค. 2558

    เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง!! อุตุฯ เตือน ฉ.5 อ่าวไทยคลื่นสูง-ใต้ฝนตกหนัก

    [​IMG]

    กรมอุตุฯ มีประกาศฉบับที่ 5 ย้ำเตือนเรื่องหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง เคลื่อนผ่านอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ลงไป มีฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ทะเลคลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง...

    เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ธ.ค.58 กรมอุตุนิยมวิทยา มีประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง "หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้" ระบุว่า

    "หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง คาดว่าจะเคลื่อนผ่านบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตอนกลางในช่วงวันที่ 22-23 ธ.ค.58 ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ บริเวณภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และระนอง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะ 2-3 วันนี้

    สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า แต่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน จะยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า

    ทางด้าน ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก รายงานสภาพอากาศ ว่า เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในทะจีนใต้ตอนล่างกำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกอย่างช้าๆ และมีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมอ่าวไทยตอนล่างและภาคใต้ในวันนี้ (21 ธ.ค.58) ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักได้หลายพื้นที่ ในช่วงวันที่ 21-23 ธันวาคม 2558 ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณ ชายฝั่งทะเลระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้

    ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ออกไปดู ที่ถนนเลียบชายทะเล สข.2004 เส้นทางสงขลา – นาทับ บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมืองสงขลา พบว่าคลื่นลมแรงได้ซัดเศษก้อนหินริมเขื่อนขึ้นมาบนพื้นถนน ทำให้รถทุกชนิดที่สัญจรผ่านไปมาต้องวิ่งเลนขวาเพียงเลนเดียว เนื่องจากเศษหินมีความคม อาจจะบาดยางรถทำให้รถยางแตกหรือยางรั่วได้ และรถที่วิ่งผ่านต้องหลบหลีกน้ำทะเลที่คลื่นซัดขึ้นมาบนถนน เพราะเป็นน้ำเค็ม จะทำให้รถเกิดสนิมได้

    ส่วนที่ท่าเทียบเรือประมงใหม่ จ.สงขลา บรรยากาศเงียบเหงา หลังเรือประมงทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ต้องจอดเทียบท่าหลบลม ส่งผลให้สินค้าสัตว์น้ำเริ่มขาดแคลน แพปลาต้องหยุดกิจการชั่วคราว เพราะไม่มีสินค้าสัตว์น้ำ แพปลาบางแห่งต้องหันไปสั่งสินค้าสัตว์น้ำจากจ.สตูลฝั่งทะเลอันดามันมาส่งให้เอเย่นต์ที่มาเลเซีย เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 ธ.ค. 2558

    แตนทำรังรอบบ้านนับสิบ เจ้าของผวาถูกต่อย เรียกเจ้าหน้าที่ช่วยกำจัด

    [​IMG]

    เจ้าของบ้านที่ฉะเชิงเทรา ผวา! ถูกแตนต่อยบาดเจ็บ พอเดินสำรวจบ้านพบรังแตนขนาดใหญ่รวม 8 รัง และมีรังเล็กอีกกว่า 6 รัง ต้องเรียกกู้ภัยมาดำเนินการเผา กำจัด ...

    เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 21 ธ.ค. หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา พร้อมอุปกรณ์ตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 1 ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา หลัง น.ส.ศินะตา เจริญสุข อายุ 43 ปี เจ้าของบ้านแจ้งให้มากำจัดรังแตนภายในบ้านจำนวนมาก

    เมื่อไปถึง น.ส.ศินะตา ได้พาเดินสำรวจรอบบ้านก็พบว่ารังแตนขนาดใหญ่จำนวน 8 รัง และขนาดเล็กจำนวน 6 รัง โดยรังไหนที่อยู่ใกล้ต้นไม้ เวลาลมแรงก็ทำให้กิ่งไม้ไปถูกรัง ทำให้แตนกระจายแตกรังอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ต้องใช้ผ้าชุบน้ำมันมัดติดกับไม้ไผ่ แล้วจุดไฟไล่เผารังแตนรอบบ้าน และเขี่ยรังทิ้ง ใช้เวลาเผาอยู่ประมาณ 10 นาที ก็สามารถกำจัดได้ทั้งหมด

    น.ส.ศินะตา เผยว่าเมื่อสามวันก่อนได้มีช่างมีติดตั้งเครื่องปรับอากาศข้างบ้าน ขณะที่สามีเดินออกไปดูช่างข้างบ้าน กลับถูกแตนบินมาต่อยได้รับบาดเจ็บ และเมื่อเดินรอบบ้าน พบว่ามีจำนวนหลายรัง เกรงว่าจะเป็นอันตรายกับลูก จึงรีบโทรแจ้งกู้ภัยมากำจัดเพื่อความปลอดภัยของคนในบ้าน.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 ธ.ค. 2558

    ศ.ศ.ป.ลงพื้นที่อุทัยฯ–ชัยนาท ดัน 1 ใน 7 เส้นทางผ้าทอไทยสู่รายได้ชุมชน

    [​IMG]

    "ศ.ศ.ป." ลงพื้นที่อุทัยฯ และชัยนาท 1 ใน 7 เส้นทางผ้าทอเอกลักษณ์ไทยสู่รายได้ชุมชน โปรโมตผลงานผ้าไทยจาก 2 ช่างหัตถศิลป์ ต่อยอดโครงการ 7 เส้นทาง...

    นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ หรือ ศ.ศ.ป. กล่าวว่า การดำเนินโครงการ 7 เส้นทางผ้าทอเอกลักษณ์ไทยสู่รายได้ชุมชน เป็นการร่วมขับเคลื่อนนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม ได้เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย เชื่อมโยงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนและสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว โดยสาเหตุที่มุ่งประเด็นไปที่ผ้าทอเอกลักษณ์ไทย เนื่องจากงานผ้าไทยเป็นงานศิลปหัตถกรรมไทยที่มีมูลค่าการค้าขายในประเทศมากถึงปีละ 58,000 ล้านบาท หากคิดเฉพาะงานหัตถกรรมในผ้าทอประมาณ 6,000 ล้านบาทต่อปี

    ทั้งนี้ 7 เส้นทางสายผ้าทอเอกลักษณ์สู่รายได้ประชาชน จ.อุทัยฯ และชัยนาท เป็นหนึ่งใน 7 เส้นทางงานผ้าที่สำคัญ ที่สามารถสะท้อนให้เห็นแนวคิดและกระบวนการผลิตผ้าทอที่มีความประณีต โดยงานของ นายชญทรรศ วิเศษศรี ทายาทช่างศิลปหัตถกรรมปี 2556 ผลงานจากกลุ่มแต้มตะกอ จ.อุทัยธานี จะเห็นภาพของการต่อยอดแนวคิด และศิลปหัตถกรรมดั้งเดิมสู่การผลิตเป็นลวดลายใหม่ที่ตอบโจทย์ตลาด สามารถส่งขายยังตลาดต่างประเทศสร้างรายได้ผืนละ 25,000 – 400,000 บาท อีกกลุ่ม ได้แก่ ผลงาน ครูสมบูรณ์ สุดจันทร์พิพัฒน์ ครูช่างศิลปหัตถกรรมปี 2557 ผลงานจากกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรทอผ้า จ.ชัยนาท ที่จะได้เห็นภาพในแง่มุมของการสืบทอด การสอนงานศิลปหัตถกรรม และการเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐ เพื่อหาช่องทางการจัดจำหน่ายในประเทศ โดยเฉพาะในตลาดหลักผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์ที่สามารถสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับกลุ่มผู้ผลิตและชุมชน

    นางอัมพวัน กล่าวต่อว่า สำหรับแหล่งผ้าทอไทยที่สำคัญมีทั้งหมด 7 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางแรกภาคเหนือตอนบน คือ จ.เชียงราย ผ้าทอไทลื้อ ผ้าทอชาวเขา เช่น ม้ง อาข่า เย้า แม่ฮ่องสอน ผ้าทอชาวเขา ผ้าทอขนแกะ ในโครงการสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เชียงใหม่ ผ้าซิ่นตีนจกแม่แจ่ม ผ้าทอชาวเขาม้ง และกะเหรี่ยง และลำพูน ผ้ายกดอกลำพูน ส่วนเส้นทางสายที่ 2 เป็นเส้นทางภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ แพร่ เป็นผ้าจก ผ้าตีนจกเมืองลับแล อุตรดิตถ์ ผ้าซิ่นตีนจกเมืองลับแล กลุ่มวัฒนธรรมไทพวน และผ้าซิ่นตีนจกน้ำปาด สุโขทัย ผ้าทอหาดเสี้ยว น่าน ประกอบด้วย ผ้าทอลายน้ำไหลของกลุ่มวัฒนธรรมไทยลื้อ เส้นทางสายที่ 3 เป็นเส้นทางภาคกลาง ได้แก่ อุทัยธานี เป็นผ้าจก และผ้าตีนจก ของกลุ่มวัฒนธรรมลาวครั่ง และผ้ามัดหมี่ ชัยนาท ผ้ามัดหมี่ต่อตีนจก ผ้าจก สุพรรณบุรี ผ้ามัดหมี่ต่อตีนจก ผ้าทอลาวโซ่ง กาญจนบุรี ผ้าขาวม้า และผ้าขาวม้าร้อยสี ราชบุรี ประกอบด้วย ผ้าซิ่นตีนจกคูบัว ผ้าขาวม้า เพชรบุรี ผ้าทอลาวโซ่ง

    สำหรับเส้นทางสายที่ 4 เป็นเส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้แก่ ขอนแก่น ประกอบด้วย ผ้ามัดหมี่ ผ้าไหมแต้มหมี่ ผ้าขาวม้า กาฬสินธุ์ ประกอบด้วย ผ้าไหมแพรวา สกลนคร ประกอบด้วย ผ้าย้อมคราม ผ้ามัดหมี่ นครพนม ประกอบด้วย ผ้ามัดหมี่ เส้นทางสายที่ 5 เป็นเส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ได้แก่ นครราชสีมา ประกอบด้วย ผ้าไหม ผ้าไหมพิมพ์ลายปักธงชัย บุรีรัมย์ ประกอบด้วย ผ้าไหม ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าซิ่นมัดหมี่ตีนแดง สุรินทร์ ประกอบด้วย ผ้าโฮล ผ้าอัมปรม ผ้าไหมยกทองบ้านท่าสว่าง อุบลราชธานี ประกอบด้วย ผ้ากาบบัว ผ้าขิด ผ้าจก ผ้ายกดิ้นเงิน ดิ้นทอง เส้นทางสายที่ 6 เป็นเส้นทางภาคใต้ตอนบน ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย ผ้าทอพุมเรียงนครศรีธรรมราช ประกอบด้วย ผ้ายกเมืองนคร ผ้ายกโขน ซึ่งเป็นผ้ายกทองในโครงการศิลปาชีพที่ใช้เป็นผ้านุ่งตัวแสดงโขนพระราชทานฯ กระบี่ ประกอบด้วย ผ้าบาติก ตรัง ประกอบด้วย ผ้าทอนาหมื่นศรี และผ้าขาวม้า และเส้นทางสายที่ 7 เป็นเส้นทางภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ สงขลา ประกอบด้วย ผ้าทอเกาะยอ ผ้าลายราชวัตร ปัตตานี ประกอบด้วย ผ้าจวนตานี นราธิวาส ประกอบด้วย ผ้าขาวม้า ผ้าฝ้ายในโครงการศิลปาชีพ.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 ธ.ค. 2558

    ไทยอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ตอนบนช่วงเช้ายังหนาวเย็น ใต้ฝนเพิ่มพรุ่งนี้

    [​IMG]

    ไทยอุณหภูมิสูงขึ้น มีหมอก แต่ตอนบน อากาศยังคงหนาวเย็นช่วงเช้า ยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ส่วนภาคใต้ คั้งแต่พรุ่งนี้ คาดจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

    วันที่ 21 ธ.ค.จากการตรวจสอบสภาพอากาศจากกระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวี ร่วมกับเดอะ เวตเตอร์ คอมพานี พบว่า สถานการณ์หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ โดยคาดว่า ภายในวันนี้จะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง และหลังจากนั้น ช่วงวันที่ 22-23 ธันวาคมนี้ จะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรง ยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย ซึ่งลักษณะเช่นนี้ จะส่งผลให้ภาคใต้ ตั้งแต่บริเวณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มได้ ประชาชนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวต้องติดตามข่าวสารเตือนภัยจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

    ขณะที่จากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงนี้ ก็จะทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทย มีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่ง ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทย ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

    ส่วนทางตอนบนของประเทศ จากการตรวจสอบสภาพอากาศตลอดทั้งสัปดาห์นี้ก็พบว่า ในช่วงวันที่ 21 -25 ธันวาคม มวลอากาศเย็นที่ปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน จะมีกำลังอ่อนลง จึงทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ แต่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน จะยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า หลังจากนั้นในวันที่ 26 ธันวาคมมวลอากาศเย็นอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีน จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอีกครั้ง จึงทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศเย็นลง อุณหภูมิจะลดลงอีกประมาณ 2-3 องศาเซลเซียส

    และจากการตรวจสอบอุณหภูมิในวันนี้พบว่า บริเวณภาคเหนือ เช้านี้ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุดพื้นราบอยู่ที่ประมาณ 12 - 15 องศาเซลเซียส ขณะที่บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส ส่วนภาคอีสานอุณหภูมิต่ำสุดพื้นราบจะอยู่ที่ประมาณ 15-18 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ส่วนในตอนกลางวันอุณหภูมิสูงสุดวันนี้จะอยู่ที่ประมาณ 33 - 34 องศาเซลเซียส ในพื้นที่ภาคกลาง และภาคตะวันออก

    ภาพรวมสภาพอากาศ และการเตรียมการรับมือกับสภาพอากาศที่มีผลต่อทางการเกษตรในแต่ละภาคเป็นดังนี้

    ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส โดยในช่วงวันที่ 22-24 ธันวาคม นี้ จะมีหมอกและน้ำค้างในตอนเช้า เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคราน้ำค้างในพืชผัก ราสนิมในกาแฟ และราดำในมะขามหวาน

    ภาคอีสาน มีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส โดยช่วงที่มีอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็วส่งผลให้อุณหภูมิน้ำเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้ที่เลี้ยงปลาควรเปิดเครื่องตีน้ำ เพื่อปรับอุณหภูมิน้ำและเป็นการเพิ่มออกซิเจน รวมทั้งลดอาหารให้น้อยลง เพราะปลาจะกินอาหารได้น้อย อาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสียได้ ส่งผลให้ปลาอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

    ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส สำหรับสภาพอากาศแห้งและลมแรงทำให้น้ำระเหยไปจากดินและพืชได้มาก เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เป็นต้น เพื่อลดการระเหยของน้ำและรักษาความชื้นในดิน

    ภาคตะวันออก อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะพักตัวใกล้ออกดอก เกษตรกรควรงดให้น้ำรอจนเห็นตาดอกชัดเจนแล้วค่อยเริ่มให้น้ำ โดยเริ่มจากปริมาณน้อยๆ แล้วค่อยเพิ่มปริมาณขึ้น นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นพืชทรุดโทรม ส่งผลต่อการผลิดอกออกผลของพืช

    ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส ตั้งแต่ชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

    ในช่วงวันที่ 18-24 ธันวาคม บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรง ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายจากคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

    ภาคใต้ฝั่งอันดามัน มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    สำหรับบริเวณที่มีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนยางพารา ไม้ผล และกาแฟ ควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้ต้นพืชเสียหาย ผลผลิตลดลง โดยหมั่นกำจัดวัชพืชภายในสวนให้โล่งเตียน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ลดความชื้นภายในสวน

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 ธ.ค. 2558

    ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ก้าวอย่างพอเพียง ตอน เศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงตัวรอด


    เผยแพร่เมื่อ 18 พ.ค. 2015​
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ก้าวอย่างพอเพียง ตอน ศูนย์เรียนรู้เกษตรวิถีพุทธ


    เผยแพร่เมื่อ 3 ก.ค. 2015​
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ก้าวอย่างพอเพียง ตอน เพาะเห็ดฟาง


    เผยแพร่เมื่อ 2 พ.ย. 2015​
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ก้าวอย่างพอเพียง ตอน สวนกล้วยน้ำว้า


    เผยแพร่เมื่อ 14 ก.ย. 2015​
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ก้าวอย่างพอเพียง ตอน ศูนย์เรียนรู้สถานธรรมปลีกวิกเวก


    เผยแพร่เมื่อ 2 ก.ค. 2015​
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ก้าวอย่างพอเพียง ตอน สวนลำไยพอเพียง


    เผยแพร่เมื่อ 30 มี.ค. 2015​
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ก้าวอย่างพอเพียง ตอน ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง สมาน มาจันทึก


    เผยแพร่เมื่อ 15 ก.ย. 2015​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2015
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ก้าวอย่างพอเพียง ตอน ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง กองพลพัฒนาที่ 4 ค่ายรัตนพล


    เผยแพร่เมื่อ 13 ส.ค. 2015​
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ก้าวอย่างพอเพียง ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เครือจรรย์ เรือนทองคำ


    เผยแพร่เมื่อ 28 มิ.ย. 2015​
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ก้าวอย่างพอเพียง ตอน ปราชญ์ชาวบ้าน จ.นครสวรรค์


    เผยแพร่เมื่อ 31 ส.ค. 2015​
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ก้าวอย่างพอเพียง ตอน สวนลุงนิล ปลูกพืชคอนโด 9 ชั้น


    เผยแพร่เมื่อ 21 ก.ค. 2015​
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ก้าวอย่างพอเพียง ตอน ศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านเตราะบอน


    เผยแพร่เมื่อ 19 ส.ค. 2015​
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ก้าวอย่างพอเพียง ตอน หมู่บ้านรางวัลพระราชทาน


    เผยแพร่เมื่อ 21 ก.ค. 2015​
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ก้าวอย่างพอเพียง ตอน บ้านเขานา หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ


    เผยแพร่เมื่อ 16 ต.ค. 2015​
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ก้าวอย่างพอเพียง ตอน เศรษฐกิจพอเพียงอย่างครบวงจร


    เผยแพร่เมื่อ 28 ต.ค. 2015​
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ก้าวอย่างพอเพียง ตอน เจ็ดไร่ เจ็ดเรื่อง เจ็ดร้อย


    เผยแพร่เมื่อ 7 ม.ค. 2015​
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วิกฤติผู้อพยพทะลักเข้ายุโรป ปีนี้ ทะลุหลักล้านคนแล้ว

    [​IMG]

    องค์กรเพื่อผู้อพยพระหว่างประเทศ เผยจำนวนผู้อพยพและผู้ลี้ภัยหลั่งไหลเข้ายุโรป ทั้งทางบกและทางทะเล ในปีนี้ เกินหลักล้านคนแล้ว มากกว่าปีก่อนถึง 4 เท่า ส่วนใหญ่มาจากซีเรีย รองลงมา เป็นอัฟกานิสถาน และอิรัก


    เมื่อ 22 ธ.ค.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน องค์กรเพื่อผู้อพยพระหว่างประเทศ (ไอโอเอ็ม)ออกแถลงการณ์แจ้งจำนวนผู้อพยพและผู้ลี้ภัยที่หลั่งไหลเข้ามาในยุโรป ทั้งทางบกและทางทะเลในปี2558 ว่า ยอดทะลุหลักล้านคนไปแล้ว ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากกว่าปีก่อน (2557)ถึง 4 เท่า โดยไอโอเอ็ม ระบุว่า ผู้อพยพและผู้ลี้ภัยเดินทางโดยนั่งเรือข้ามทะเลจากตุรกีมายังประเทศกรีซ มากที่สุด เป็นจำนวนกว่า 800,000 คน ซึ่งผู้อพยพและผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่มาจากซีเรีย อิรัก และอัฟกานิสถาน นอกจากนั้น ในปีนี้ ยังมีผู้อพยพเสียชีวิตจากการจมน้ำ หรือยังคงสูญหาย จากเหตุการณ์เรือล่มระหว่างนั่งเรือข้ามทะเลมายังยุโรปแล้ว3,695 ราย

    ไอโอเอ็ม ยังแจ้งว่า จำนวนผู้อพยพและผู้ลี้ภัยที่เข้ามาในยุโรป ได้ผ่าน‘หลักไมล์’สัญญลักษณ์ ด้วยจำนวน1,005,504 คน เมื่อวันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งผู้อพยพกว่าล้านคน ได้เข้ามายังยุโรป โดยผ่าน 6ประเทศได้แก่ กรีซ บัลแกเรีย อิตาลี สเปน มอลต้าและไซปรัส โดยในจำนวนผู้ลี้ภัยครึ่งหนึ่ง ซึ่งนั่งเรือข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มาจากซีเรียถึง73% จากอัฟกานิสถาน 20% และจากอิรัก 7%

    ทั้งนี้ ไอโอเอ็มได้รวบรวมข้อมูลสถิติจากหลายหน่วยงานของยุโรป ทั้งฝ่ายทะเบียน สำนักงานตำรวจ และติดตามสังเกตการณ์เอง ซึ่งไอโอเอ็ม ยังระบุว่า จากจำนวนผู้อพยพที่ทะลักเข้ายุโรปนั้น เป็นสาเหตุให้เกิดความแตกแยกทางการเมืองที่สำคัญในยุโรป เพราะมีบางประเทศได้ติดตั้งรั้วลวดหนามและควบคุมชายแดนอย่างเข้มงวดเพื่อสกัดกั้นผู้ลี้ภัย แม้จะมีมาตราการเปิดชายแดนระหว่างประเทศในยุโรปด้วยกันเองก็ตาม

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 ธ.ค. 2558

    อาเซียนผวา! ออสซี่เตือน ไอซิสกำลังพยายามจัดตั้งรัฐคอลิฟะห์ในอินโดฯ

    [​IMG]

    อาเซียน ‘หนาวๆ ร้อนๆ’...อธิบดีกรมอัยการออสเตรเลีย เตือนกลุ่มไอซิสกำลังพยายามจะจัดตั้ง ‘รัฐคอลิฟะห์ต่างแดน’ ในอินโดนีเซีย ชี้กลุ่มติดอาวุธสุดโหดใฝ่ฝันมานานแล้วที่จะเลือก อินโดนีเซีย เป็นรัฐคอลิฟะห์ นอกเหนือจากในตะวันออกกลาง

    เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.58 เว็บไซต์ เดอะ การ์เดียน รายงานเรื่องที่น่าหวาดหวั่นใจ นายจอร์จ แบรนดิส อธิบดีกรมอัยการของออสเตรเลีย กล่าวเตือนว่า กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงติดอาวุธสุดโหด ‘รัฐอิสลาม’ หรือ ไอซิสที่เคลื่อนไหวอยู่ในอิรักและซีเรีย กำลังพยายามจะจัดตั้ง ‘รัฐคอลิฟะห์ ต่างแดน’ ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม

    ความเห็นดังกล่าวของนายแบรนดิส อธิบดีกรมอัยการออสเตรเลีย ถูกนำมาตีพิมพ์ลงใน นสพ.ออสเตรเลีย ขณะที่ในช่วงนี้กำลังมีการประชุมรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ทางการด้านความมั่นคง ระหว่างออสเตรเลียและอินโดนีเซีย เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงในระดับสูง โดยนายแบรนดิส กล่าวว่า กลุ่มไอซิสได้เจาะจงเลือกอินโดนีเซีย เป็นที่จัดตั้งรัฐคอลิฟะห์ต่างแดนตามความใฝ่ฝันของพวกตน นอกเหนือจากในตะวันออกกลาง ‘ไอซิสมีความใฝ่ฝันมานานแล้วที่จะดำเนินการและเคลื่อนไหวในอินโดนีเซีย ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือผ่านตัวแทน’ นายแบรนดิส กล่าว

    นอกจากนั้น อธิบดีกรมอัยการออสเตรเลีย ยังเตือนด้วยว่า ออสเตรเลียและอินโดนีเซีย เป็นประเทศที่เปราะบางมากที่จะโดนก่อการร้าย โดยเฉพาะการก่อการร้ายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มไอซิส

    อย่างไรก็ตาม ด้าน นายเกร็ก เฟียลีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอิสลามและการเมืองในอินโดนีเซียประจำมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย แสดงความเห็นว่า กลุ่มไอซิสยังไม่ใช่กลุ่มอิสลามที่มีความเสี่ยงในอินโดนีเซีย ถึงแม้ว่ามีชาวอินโดนีเซียประมาณ 300 คน ไปร่วมรบกับกลุ่มไอซิสในอิรักและซีเรีย

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 ธ.ค. 2558

    รัสเซียชี้ อ่านข้อมูลกล่องดำ 'ซู-24' ไม่ได้ อดพิสูจน์กรณีล้ำน่านฟ้าตุรกี

    [​IMG]

    กองทัพรัสเซียเผยผลการตรวจสอบกล่องดำของเครื่องบิน ซู-24 ที่ถูกตุรกียิงตก พบว่าชิปความจำได้รับความเสียหายอย่างหนักจนอ่านข้อมูลไม่ได้ ทำให้ความหวังที่จะพิสูจน์ว่าเครื่องบินลำนี้ไม่ได้รุกล้ำน่านฟ้าตุรกีเลือนราง...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทัพของประเทศรัสเซียออกแถลงข่าวในวันจันทร์ที่ 21 ธ.ค. โดยระบุว่า พวกเขาไม่สามารถอ่านข้อมูลที่บันทึกในอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินของเครื่องบินทิ้งระเบิด 'ซู-24' ซึ่งถูกตุรกียิงตกเมื่อเดือนก่อนได้ เรื่องจากชิปความจำถูกทำลายหรือได้รับความเสียหายอย่างหนัก

    กองทัพของรัสเซียเปิดเผยการค้นพบเบื้องต้นในกรุงมอสโกเมื่อวันจันทร์ หลังจากเปิดกล่องดำส่วนบันทึกข้อมูลการบินเมื่อวันศุกร์ อย่างไรก็ตาม พวกเขาพบว่า ชิปความจำ 13 จาก 16 ตัวถูกทำลาย ขณะที่ผลการทดสอบด้วยรังสีเอ็กซ์ชี้ว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะถอดรหัสข้อมูลด้วยวิธีปกติธรรมดา ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัสเซียกำลังตรวจสอบว่าจะสามารถถอดรหัสด้วยวิธีอื่นได้หรือไม่

    ทั้งนี้ รัสเซียหวังใช้ข้อมูลที่พวกเขาได้จากกล่องดำของเครื่องบิน ซู-24 เป็นข้อพิสูจน์ว่า เครื่องบินลำนี้ไม่ได้รุกล้ำน่านฟ้าของตุรกีตามที่รัฐบาลอันการากล่าวอ้าง และใช้เป็นเหตุผลในการส่งเครื่องบินรบ เอฟ-16 โจมตี ซู-24 จนตกบริเวณชายแดนซีเรียเมื่อ 24 พ.ย. ทำให้นักบินรัสเซียเสียชีวิต 1 ราย และนาวิกโยธินรัสเซียเสียชีวิตอีก 1 นายระหว่างปฏิบัติภารกิจค้นหาตัวนักบิน

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 ธ.ค. 2558

    'ตาลีบัน' จ่อยึดเมือง 'ซานกิน' จุดยุทธศาสตร์ทางใต้ของอัฟกานิสถาน

    [​IMG]

    กลุ่มก่อการร้ายตาลีบันรุกโจมตีเมืองซานกิน จุดยุทธศาสตร์สำคัญในจังหวัดทางใต้ของประเทศอัฟกานิสถานอย่างหนัก และใกล้ที่จะยึดเมืองแห่งนี้ได้แล้ว...

    สำนักข่าวต่าวประเทศรายงานว่า โมฮัมหมัด จาน ราซุลียาร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเฮลมานด์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองซานกิน เปิดเผยต่อสื่อว่า เมืองซานกินถูกนักรบของกลุ่มตาลีบันบุุกโจมตีเมื่อคืนวันอาทิตย์ (20 ธ.ค.) และกลุ่มติดอาวุธสามารถยึดสำนักงานตำรวจ, สำนักงานรัฐบาลรวมทั้งสำนักงานหน่วยข่าวกรอง และการต่อสู้กำลังรุนแรงมากขึ้น มีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเสียชีวิตด้วย

    ขณะที่กลุ่มตาลีบันออกมากล่าวอ้างว่า พวกเขาสามารถยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองซานกิน และเจ้าหน้าที่อัฟกันหลบหนีออกจากอาคารบริหารหลักไปแล้ว ด้านรัฐบาลกลางในกรุงคาบูลระบุว่า ได้ส่งกำลังเสริมไปยังเมืองซานกินแล้ว

    อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมานายเมียร์ซา ข่าน ราฮิมี ผู้ว่าราชการจังหวัดเฮลมานด์ ออกมายืนยันว่า เจ้าหน้าที่ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ในเมืองซานกินได้ แม้นาย มูฮัมหมัด คารีม อาตาล ประธานสภาจังหวัดเฮลมานด์จะระบุว่า พื้นที่ประมาณ 65% ถูกตาลีบันยึดไปแล้วก็ตาม

    ขณะที่มีรายงานว่าจนถึงช่วงเช้าวันจันทร์ ตำรวจและทหารในสำนักงานตำรวจเมืองซานกินยังครอบครองพื้นที่ภายในอาคารเอาไว้ได้ โดยนาย โมฮัมเหม็ด ดาวูด ผู้บังคับการตำรวจท้องถิ่นเปิดต่อสำนักข่าว บีบีซี ว่า ตาลีบันปิดล้อมพวกเขามา 2 วันแล้ว และตัดขาดพวกเขาออกจากพื้นที่ส่วนที่เหลือของเมือง และเสบียงอาหารกับอาวุธของพวกเขากำลังร่อยหรอลงเรื่อยๆ

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 ธ.ค. 2558

    ฮือต้านปล่อยตัวนักโทษข่มขืนในอินเดีย

    [​IMG]

    ฮือต้านปล่อยตัวนักโทษข่มขืนในอินเดีย


    ฝูงชนชุมนุมประท้วงใหญ่รอบใหม่ในกรุงนิวเดลี เมื่อ 21 ธ.ค. หลังศาลสูงสุดปฏิเสธคำอุทธรณ์ของคณะกรรมการเพื่อสตรีกรุงนิวเดลี ที่คัดค้านการปล่อยตัวนักโทษที่อายุน้อยที่สุดใน 6 คนที่รุมข่มขืน น.ส.ชโยติ ซิงห์ นักศึกษาสาวสาขากายภาพบำบัด วัย 23 ปี บนรถบัสโดยสารประจำทาง ก่อนโยนเหยื่อและแฟนหนุ่มทิ้งข้างถนนในนิวเดลีเมื่อ 16 ธ.ค.2555 ทำให้เหยื่อสาวเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในสิงคโปร์ใน 2 สัปดาห์ต่อมา

    ผู้พิพากษาศาลสูงสุดอ้างว่าไม่มีตัวบทกฎหมายใดๆ ที่จะคุมขังนักโทษวัย 20 ปีคนนี้ต่อไปได้ เพราะขณะก่อเหตุเขาเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี และรับโทษสูงสุดครบ 3 ปีแล้ว โดยหลังถูกปล่อยตัวจากเรือนจำยุวชนเมื่อ 20 ธ.ค. เขาถูกส่งตัวไปให้องค์กรการกุศลที่ไม่ระบุชื่อเพื่อความปลอดภัย ขณะที่บิดา มารดาของ น.ส.ชโยติเผยว่า ผิดหวังและถูกทรยศโดยระบบยุติธรรม พร้อมเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายเพิ่มโทษยุวชนที่ก่อคดีอุกฉกรรจ์ในอินเดีย ซึ่งมีรายงานคดีข่มขืนในทุก 20 นาที

    ชโยติและเพื่อนหนุ่มถูกชาย 6 คน ล่อลวงไปขึ้นรถบัสหลังไปดูภาพยนตร์ ก่อนรุมข่มขืนฝ่ายหญิง ทั้งยังใช้ท่อนเหล็กทำร้ายก่อนโยนทิ้งข้างถนน คดีนี้ดังครึกโครมทั่วโลก คนร้ายกลุ่มนี้ 4 คน ถูกศาลตัดสินประหารชีวิต อีกคนผูกคอตายในคุก ตำรวจยังระบุว่านักโทษที่เป็นยุวชนโหดร้ายมาก ถึงขั้นใช้มือควักลำไส้บางส่วนของเหยื่อสาว.

    โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 22 ธ.ค. 2558

    ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ฮือฮา ปรากฏการณ์ฟ้าต่างสี วันเห-มา-ยัน! ฟ้ากับขาวตัดกันชัดเจน

    [​IMG]

    ชาวสุโขทัยฮือฮา ท้องฟ้าแบ่งเป็น 2 ฝั่ง 2 สี ในวันเห-มา-ยัน ที่กลางวันสั้นกว่ากลางคืน 41 นาที จากที่ตอนเช้าท้องฟ้ายังเป็นสีฟ้าสดใส แต่ถูกแผ่นเมฆสีขาวค่อยๆ เคลื่อนเข้ามา จนในที่สุดฟ้าถูกแบ่งเป็น 2 สีอย่างชัดเจน มองดูสวยงามแปลกตา...

    เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 22 ธ.ค.58 ผู้สื่อข่าว จ.สุโขทัย รายงานว่า ได้มีปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นบนท้องฟ้า จากที่ในช่วงเช้าท้องฟ้ายังเป็นสีฟ้าสดใส พระอาทิตย์ส่องแสงสวยงามตามปกติ แต่พอเริ่มสาย ได้มีผืนเมฆสีขาวกว้างใหญ่ค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาปกคลุมจากทางทิศใต้อย่างช้าๆ ใช้หลายชั่วโมง จนฟ้าแบ่งเป็นสองสี คือสีขาวกับสีฟ้าอย่างชัดเจน มองดูสวยงามแปลกตา

    จากการที่ได้เฝ้าดูอยู่ตลอดพบว่า ในที่สุดผืนเมฆสีขาวได้แผ่ปกคลุมและบดบังดวงอาทิตย์กับผืนฟ้าจนมิดหมด ส่งผลให้บรรยากาศครึ้มลง โดยชาวบ้านต่างพากันออกมาเงยหน้าดู พร้อมวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา หลายคนนำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายคลิปส่งต่อกันในโลกโซเชียล เนื่องจากเป็นภาพที่หาดูได้ยาก ซึ่งหลายคนบอกว่า ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน

    อย่างไรก็ตาม วันนี้ (22 ธ.ค.) นักดาราศาสตร์ระบุว่า เป็นวัน เห-มา-ยัน หรือวันตะวันอ้อมข้าว ซึ่งเป็นวันที่กลางคืนจะมีเวลามากกว่ากลางวันถึง 41 นาที ถือเป็นวันเปลี่ยนฤดู โดยซีกโลกเหนือจะเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูหนาว ขณะที่ซีกโลกใต้ เปลี่ยนเข้าสู่ฤดูร้อน

    ส่วนที่ จ.แพร่ เมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดบนท้องฟ้า ชาวบ้านหลายหมู่บ้านพากันแตกตื่นออกมาดูก้อนเมฆขนาดใหญ่ รวมตัวเกาะกันลักษณะแนวกำแพง เป็นแนวยาวอยู่ทางด้านทิศตะวันออก บางแห่งเป็นเมฆโปร่งขาว บางแห่งมืดดำ จากนั้นในช่วงเวลา 15.00-16.00 น. ก้อนเมฆที่เกาะตัวก็สลายกลายเป็นเมฆเล็กๆ เหมือนคลื่นน้ำในทะเล บางแห่งคล้ายขั้นบันได ทำให้ชาวบ้านที่เห็น ต่างออกมาถ่ายรูป นำไปโพสต์ลงในโซเชียล

    ด้าน นายพงศ์กร แจ้งสว่าง ผอ.อุตุนิยมวิทยาจังหวัดแพร่ เผยว่า ไม่ใช่เหตุการณ์ประหลาดอะไร เป็นเพียงกลุ่มเมฆที่หนาทึบมารวมตัวกันและเกาะเป็นก้อน เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลง ไม่มีกระแสลมแรง ทำให้เมฆเกาะตัว จะเห็นได้ว่า ก้อนเมฆเหล่านี้เริ่มมาจากทางด้านทิศตะวันออก และค่อยๆ กระจายขึ้นท้องฟ้า ไหลลงไปทางทิศตะวันตก จะเห็นได้ชัดเจนในพื้นที่ที่อากาศหนาวเย็น ซึ่งทราบว่า มีทั้งในเขต จ.น่าน แพร่ และอุตรดิตถ์.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 ธ.ค. 2558

    อุตุฯประกาศ ฉ.9 เตือน 22-23 ธ.ค.นี้ ภาคใต้ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

    [​IMG]

    กรมอุตุฯออกประกาศฉบับที่ 9 เตือน 22-23 ธ.ค.นี้ ภาคใต้จะได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงได้ถึง 2-4 เมตร...

    ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้" ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2558

    หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างและปลายแหลมญวน ได้เคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างและภาคใต้แล้ว ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ในช่วงวันที่ 22-23 ธันวาคม 2558 บริเวณภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมีดังนี้

    วันที่ 22 ธันวาคม 2558 บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

    วันที่ 23 ธันวาคม 2558 บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่

    ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะ 2-3 วันนี้

    สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า เว้นแต่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน จะยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 ธ.ค. 2558

    เข้าสู่จุดเยือกแข็ง ยอดดอยอินทนนท์ 0 องศาฯ เหมยขาบขาวโพลน

    [​IMG]

    ยอดดอยอินทนนท์ เข้าสู่จุดเยือกแข็ง อุณหภูมิยอดหญ้าลดลงอยู่ที่ 0 องศาเซลเซียส มีเหมยขาบขาวโพลนไปทั่ว นักท่องเที่ยวสุดตื่นตาตื่นใจ จนท.เริ่มมาตรการจัดระเบียบทำตารางเวลารถขึ้น-ลงดอยที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว 4 แห่ง เริ่มที่ดอยสุเทพ อินทนนท์ อ่างขาง ดอยคำ...

    เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 22 ธ.ค. 58 นายพรเทพ เจริญสืบสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เช้าวันนี้อุณหภูมิที่ยอดดอยวัดจากระบบดิจิตอล ได้ 4 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิยอดหญ้าวัดได้ 0 องศาฯ ที่กิ่วแม่ปานวัดได้ 3 องศาฯ อากาศเปิดมีเหมยขาบหน้าหน่วยหรือที่ทำการ พระอาทิตย์ขึ้น 06.50 น.

    ทั้งนี้ ที่หน้าที่ทำการอุทยานฯ เกิดเหมยขาบขึ้นเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางความตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยว ที่ขึ้นมาสัมผัสอากาศหนาวในช่วงเช้า และวันนี้นับว่าโชคดีมากเนื่องจากมีเหมยขาบเกิดขึ้นมากกว่าทุกครั้งเพราะอุณหภูมิลดต่ำลง เหลือบนยอดหญ้าแค่ 0 องศาฯ เท่านั้น ส่วนปัญหาความแออัดการจราจรบนดอย เนื่องจากนักท่องเที่ยวมารอชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมเหมยขาบ เจ้าหน้าที่ได้อำนวยความสะดวกเรื่องที่จอดรถบนลานจอดเฮลิคอปเตอร์ และระบายรถที่ต้องการลงดอยอย่างเรียบร้อยไม่มีอุบัติเหตุแต่อย่างใด

    นายพรเทพ กล่าวอีกว่า เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว อากาศหนาวมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่เชียงใหม่จำนวนมาก ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัดในช่วงขึ้นดอยที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวในเชียงใหม่ และได้มี มาตรการใน 4 ดอย คือ ดอยสุเทพ อินทนนท์ อ่างขาง ดอยคำ ห้ามรถบัสขนาดใหญ่ และจัดเดินรถทางเดียว เริ่ม 29 ธ.ค.58-4 ม.ค.59 โดยกำหนด ดอยสุเทพ เช้า ขึ้น 06:00-09:00 น./ลง 09:00-12:00 น. บ่าย ขึ้น 13:00-15:00 น./ลง 15:00-18:00 น. ส่วนดอยจุดอื่นให้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯใช้ความเหมาะสม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่

    ด้านนายดำรงศักดิ์ ถมยา เวรพยากรณ์อากาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ รายงานว่าบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลงลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า แต่บริเวณภาคเหนือจะยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า จังหวัดเชียงใหม่อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าอุณหภูมิต่ำสุด 18 เซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 เซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำ สุด 5-10 เซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 ธ.ค. 2558

    ลดมลพิษ-สกัดโรค : "เมืองน่าน" ต้นแบบพัฒนามาตรฐานการ "กำจัดขยะ" ทุกชนิดครบวงจร

    [​IMG]

    ขยะจึงถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เพราะนอกจากจะสร้างปัญหามลพิษ ขยะยังเป็นตัวการสำคัญที่จะนำไปสู่หลากหลายปัญหาด้านสุขภาพสุขภาวะ เพราะขยะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคร้ายจำนวนมาก ส่วนขยะแบบไหนเป็นต้นตอของโรคอะไร ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของขยะ


    เริ่มกันที่ ขยะมูลฝอย หากไม่รู้วิธีการแยกหรือเก็บทำความสะอาดก็จะกลายเป็นแหล่งสะสมของ เชื้อแบคทีเรีย หากจัดการไม่ดีเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้ก็จะเป็นตัวการก่อ โรคระบบทางเดินอาหาร ลำไส้ ทั้งท้องร่วง ท้องเสีย โดยจะมีสัตว์จำพวก หนู แมลงสาบ แมลงวันเป็นพาหะนำโรค

    กลุ่ม “ขยะติดเชื้อ” ไม่ว่าจะเป็น เข็มฉีดยา ไซริงค์ แม้ส่วนใหญ่จะอยู่ตามโรงพยาบาลและมีการทำลายอย่างเป็นระบบ แต่ที่น่าเป็นห่วงและต้องเฝ้าระวังคือ หมอเถื่อน เนื่องจากขยะติดเชื้อที่เกิดจากหมอเถื่อนจะไม่มีระบบการทำลาย และอีกส่วนที่ไม่ควรมองข้ามคือ กลุ่มผู้ป่วยบางโรคที่สามารถใช้เข็มฉีดยา ไซริงค์ เองที่บ้านได้ กลุ่มนี้ควรสอนวิธีการกำจัดเพราะหากทำลายไม่ดีก็จะเกิดโรคได้

    ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ขยะกลุ่มที่นับวันยิ่งมีมากแซงขยะประเภทอื่นๆ เนื่องจากวิถีชีวิตของผู้คนในโลกยุคดิจิตอล เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ กลายเป็นที่นิยมถึงขั้นมีการเปรียบเปรยเป็นปัจจัยที่ 5 ในการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ เป็นต้น และสิ่งที่น่าห่วงคืออุปกรณ์เหล่านี้จะมีสารเคมีสะสมอยู่ อาทิ ตะกั่ว ที่ถือเป็นสารพิษที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายทั้งในระยะเฉียบพลันและระยะยาว

    กรมอนามัย หนึ่งในหน่วยงานที่รับหน้าเสื่อดูแลสุขภาพและสุขภาวะของสังคมไทย จึงตระหนักถึงหัวใจสำคัญในการลดมลพิษและสกัดโรค ว่าคงหนีไม่พ้นการต้องกำจัดขยะ โดยเฉพาะต้องจัดการขยะทั้งระบบอย่างถูกวิธี ตลอดจนการทำลายขยะต้องทำให้มีมาตรฐานเป็นระบบ แต่ประเด็นหลักคือต้องลดการใช้สิ่งของที่ไปเพิ่มประมาณขยะด้วย

    “การจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบขณะนี้ จ.น่าน ถือเป็นจังหวัดต้นแบบเพราะหลังจากรัฐบาลยกให้เป็น 1 ใน 12 เมืองที่ต้องห้ามพลาด ส่งผลให้ประชาชนหลั่งไหลไปท่องเที่ยว และสิ่งที่เป็นผลพวงตามมาเหมือนเงาตามตัวคือปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเทศบาล ต.ท่าวังผา มีขยะเพิ่มขึ้นจากวันละ 2 ตัน เป็น 5 ตัน แต่สามารถจัดการจนเหลือทิ้งด้วยการฝังกลบที่มีระบบป้องกันการหลุดออกสู่สิ่งแวดล้อมเพียง 25-30% เท่านั้น โดยใช้การ “คัดแยกขยะ” แบ่งออกเป็นขยะรีไซเคิล ขยะอินทรีย์ ขยะทั่วไป ขยะอันตราย มูลฝอยติดเชื้อ จากนั้นจะมีอาสาสมัครสาธารณสุขมารับซื้อในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเพื่อนำไปเข้ากระบวนการคัดแยก และดัดแปลงเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป” นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย ขยายภาพการกำจัดขยะ

    คุณหมอวชิระ เล่าด้วยว่า ขยะที่ท่าวังผามาจากหลายแหล่ง ทั้งตลาดสด สถานที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาด เดิมมีกองขยะทิ้งจนส่งกลิ่นเน่าเหม็น มีแมลงวันตอม แม้จะฝังกลบแต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง จึงมีการพัฒนาการจัดการอย่างครบวงจร ขั้นตอนคือเมื่อได้ขยะมาแล้วจะชั่งน้ำหนักเพื่อประเมินว่าขยะ 100% จะเอาไปใช้ประโยชน์อะไรบ้าง จากนั้นจะนำเข้าสายพาน และมีคนคอยแยกขยะอีกครั้ง หากเป็นถุงพลาสติกจะนำมาล้างทำความสะอาดและปั่นแห้งก่อนจะนำเข้าเครื่องบีบอัดให้มีขนาดเล็ก และส่งขายที่ จ.พิจิตร เพื่อทำเป็นเม็ดพลาสติกต่อไป

    “ที่เหลือจะถูกนำเข้าเครื่องสับให้ละเอียดและใช้วิธีเชิงพล-ชีวภาพ กวนด้วยสว่านคู่ เติมอากาศเข้าไปเพื่อเสริมให้จุลินทรีย์ช่วยย่อยขยะเอง ใช้เวลาประมาณ 30 วันจะกลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์แจกจ่ายให้ชาวบ้าน ใช้ในแปลงปลูกพืชวิจัย ส่วนที่เหลือจากปุ๋ยจะกลายเป็นเชื้อเพลิงส่งขายที่บริษัทเอกชนใน จ.ลำปาง ล่าสุด จ.น่าน ถูกคัดเลือกให้เป็นเมืองต้นแบบในการจัดการปัญหาขยะขนาดไม่เกิน 50 ตัน โดยในปี 2559 ได้รับงบสนับสนุนจากคณะรัฐมนตรี 54 ล้านบาท” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวปิดท้าย

    ทีมข่าวสาธารณสุข เห็นด้วยกับนโยบายการพัฒนามาตรฐานการกำจัดขยะอย่างครบวงจร ทั้งขอชื่นชมและส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวจังหวัดน่านที่ได้รับเลือกให้เป็นจังหวัดต้นแบบในการกำจัดขยะ เพราะการกำจัดขยะได้อย่างถูกวิธีคือการช่วยลดโรคภัยไข้เจ็บที่จะมาพร้อมกับภัยร้ายที่แฝงตัวอยู่ในขยะ

    แต่สิ่งหนึ่งที่เราอดห่วงไม่ได้ และคงต้องฝากทุกภาคส่วนรวมไปถึงทุกคนในสังคม โดยเฉพาะที่จังหวัดน่านคือ การสานต่อนโยบายนี้อย่างเอาจริงเอาจัง เพื่อนำไปสู่การกำจัดและรักษามาตรฐานการพัฒนาระบบการจัดการขยะแบบครบวงจร เพราะหากขาดซึ่งความเอาจริงแล้วในอนาคต ปัญหาขยะ ก็จะกลับมาสร้าง ปัญหาทางสุขภาพ กับประชากรแน่นอน การกำจัดขยะอย่างถูกวิธีและครบวงจรถือเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ในการสกัดพาหะนำโรคร้ายได้อีกทางหนึ่ง.

    โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 22 ธ.ค. 2558

    ภาคใต้ พรุ่งนี้ฝนเพิ่ม ตกหนักบางแห่ง ชาวเรือระวัง คลื่นลมแรง

    [​IMG]

    ภาคใต้ ฝนเพิ่ม ตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ระวังคลื่นลมอ่าวไทยมีกำลังแรง ชาวเรือเดินเรือระมัดระวัง เรือเล็กงดออกจากฝั่ง ขณะที่ภาคเหนือ-อีสานอุณหภูมิสูงขึ้น มีหมอก


    วันที่ 22ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศจากกระบบพยากรณ์อากาศ ไทยรัฐทีวี ร่วมกับเดอะ เวตเตอร์ คอมพานี พบว่า สภาพอากาศพบว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างแล้ว คาดว่า ในช่วงเย็นวันนี้จะเคลื่อนผ่านบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่าง หลังจากนั้นจะเคลื่อนขึ้นไปยังบริเวณตอนกลางของภาคใต้ ต่อไป ในช่วงวันพรุ่งนี้ ซึ่งลักษณะเช่นนี้ จะทำให้ บริเวณภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และระนอง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนัก ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่ง ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทย ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะ 2-3 วันนี้

    จากการคำนวณ ปริมาณน้ำฝนสะสมตลอด 48 ชั่วโมง ตั้งแต่ 7 โมงเช้าวันนี้ ไปจนถึง 7 โมงเช้าวันพฤหัสบดีนี้ พบว่า ตั้งแต่บริเวณ จังหวัดชุมพร ระนอง ลงไปจนถึง จังหวัดยะลา และนราธิวาส ทั้งในฝั่งอันดามัน และอ่าวไทย ถูกปกคลุมไปด้วยพื้นที่สีเขียว นั่นก็หมายความว่า มีปริมาณน้ำฝนสะสมอยู่มาก และพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และพัทลุง แสดงสัญลักษณ์เป็นสีเหลืองสีแดง นั่นก็หมายความว่า มีปริมาณฝนสะสมมากเป็นพิเศษ จนอาจก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มได้ ดังนั้น ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวต้องเฝ้าระวังภัยธรรมชาติเป็นพิเศษ และติดตามประกาศเตือนภัยจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

    ขณะเดียวกัน จากภาพถ่ายดาวเทียมเช้านี้พบว่า กลุ่มเมฆฝนส่วนใหญ่ปกคลุมอยู่ในพื้นที่ทะเลจีนใต้ตอนล่าง ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่หย่อมความกดอากาศกำลังแรงก่อตัวอยู่ ซึ่งในพื้นที่ภาคใต้ วันนี้ก็ยังคงมีเมฆมาก โดยเป็นเมฆชั้นต่ำและชั้นกลาง พบกลุ่มเมฆฝนในอ่าวไทยและตามบริเวณชายอ่าวไทย ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีเมฆเป็นบางส่วน ซึ่งเป็นเมฆชั้นสูง แต่ยังไม่พบกลุ่มเมฆฝนในพื้นที่ใด

    สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน เริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า แต่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน จะยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า

    ส่วนอุณหภูมิเช้าวันนี้ บริเวณภาคเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 14 - 15 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณภาคอีสานอุ่นขึ้นเล็กน้อย ต่ำสุดอยู่ที่ 18 - 20 องศาเซลเซียส ในขณะที่ช่วงกลางวัน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ยังคงมีอากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 34 องศาเซลเซียส

    ส่วนการคาดการณ์ลักษณะอากาศในแต่ละภาควันนี้เป็นดังนี้

    ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส

    ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส

    ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส ตั้งแต่ชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส

    ปิดท้ายวันนี้ กับปรากฎการณ์ "วันเหมายัน" ซึ่งในวันนี้จะเป็นวันที่กลางคืนยาวนานที่สุดในรอบปี โดยในแต่ละวันดวงอาทิตย์จะปรากฎในตำแหน่งต่างๆ กัน ประมาณวันละ 1 องศา และในวันที่ 22 ธันวาคม นี้ ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด และตกทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด ส่งผลให้ช่วงกลางวันจะสั้น และช่วงกลางคืนจะยาวนานที่สุดในรอบปี ภาษาสันสกฤตเรียกว่า “วันเหมายัน (เห-มา-ยัน) สำหรับประเทศไทยจะเรียกว่า “ตะวันอ้อมข้าว” ดวงอาทิตย์จะขึ้นเวลาประมาณ 06:36 น. และจะตกลับขอบฟ้า เวลาประมาณ 17:55 น. (เวลา ณ กรุงเทพฯ) รวมระยะเวลากลางวันเพียง 11 ชั่วโมง 19 นาที เท่านั้น เราจึงรู้สึกว่า ท้องฟ้าจะมืดเร็วกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ของปี ส่วนประเทศทางซีกโลกเหนือนับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ส่วนประเทศทางซีกโลกใต้ นับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูร้อน

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 ธ.ค. 2558

    ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     

แชร์หน้านี้

Loading...