ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

จีนกล่าวหาสหรัฐยั่วยุทางทหารอย่างร้ายแรง​

​

ปักกิ่ง 19 ธ.ค. – กระทรวงกลาโหมจีนออกแถลงการณ์กล่าวหาสหรัฐยั่วยุทางทหารอย่างร้ายแรงด้วยการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดแอร์ฟอร์ซ บี-52 ไปบินเหนือน่านฟ้าเกาะเทียมที่จีนสร้างขึ้นในทะเลจีนใต้

แถลงการณ์ระบุว่า สหรัฐจงใจเพิ่มความตึงเครียดในพื้นที่ขัดแย้ง ถือเป็นการยั่วยุทางทหารอย่างร้ายแรง ทำให้สถานการณ์ซับซ้อนยิ่งขึ้น และทำให้สถานการณ์ในทะเลจีนใต้กลายเป็นเรื่องทางทหาร ขอเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐดำเนินมาตรการโดยทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางทหารของจีนกับสหรัฐ เนื้อหาในแถลงการณ์กล่าวถึงเหตุการณ์เครื่องบินทิ้งระเบิดสหรัฐล่วงล้ำน่านฟ้าเกาะเทียมของจีนว่า เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ทหารจีนบนเกาะได้ส่งสัญญาณเตือนให้เครื่องบินลำดังกล่าวบินออกไปจากน่านฟ้า พร้อมกับย้ำว่า จีนจะดำเนินทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคง

ด้านโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐเผยว่า กำลังสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นตามที่ได้รับการร้องเรียนจากจีน และขอยืนยันว่าเครื่องบินลำดังกล่าวไม่ได้อยู่ในปฎิบัติการเสรีภาพการเดินเรือ ซึ่งหมายความเครื่องบินลำนี้อาจพลัดหลงเข้าไปในน่านฟ้าจีน.-สำนักข่าวไทย

เรือผู้อพยพล่มในทะเลอีเจียน เสียชีวิตแล้ว 18 คน​

​

อังการา 19 ธ.ค. – สำนักข่าวโดอานของตุรกีรายงานเช้าวันนี้ว่า เกิดเหตุเรือผู้อพยพล่มในทะเลอีเจียนช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีผู้อพยพจมน้ำเสียชีวิต 18 คน

รายงานระบุว่า เรือล่มห่างจากชายฝั่งเมืองโบดรัม ทางใต้ของตุรกีไป 3.5 กิโลเมตรขณะกำลังมุ่งหน้าไปยังเกาะกาลิมนอสของกรีซ เป็นเรือไม้บรรทุกผู้อพยพจากอิรัก ปากีสถานและซีเรีย เรือประมงได้ยินเสียงผู้อพยพร้องขอความช่วยเหลือจึงได้แจ้งหน่วยยามฝั่งตุรกี ซึ่งช่วยผู้อพยพได้ 14 คนและนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองโบดรัม หลายคนอาการสาหัส และพบผู้เสียชีวิต 18 คน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปีนี้มีชาวซีเรียหนีสงครามในประเทศเดินทางเข้าตุรกีเพื่อล่องเรือเสี่ยงชีวิตกลางทะเลไปขึ้นฝั่งกรีซมากเป็นประวัติการณ์แล้ว 500,000 คน ขณะที่องค์กรระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานเผยว่า มีผู้อพยพเสียขีวิตในเส้นทางผ่านน่านน้ำฝั่งตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแล้วเกือบ 600 คนในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

หมอกพิษในกรุงปักกิ่งยังรุนแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4​

​

หมอกพิษในกรุงปักกิ่งยังรุนแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4

จีน 19 ธ.ค.-หมอกพิษในกรุงปักกิ่งของจีนยังรุนแรงต่อเนื่อง เป็นวันที่ 4 โดยทางการยังคงเตือนภัยขั้นรุนแรงสีแดงในระดับสูงสุด แต่ล่าสุด การตรวจวัดค่าหมอกควันในบ่ายวันนี้ วัดได้ประมาณ 112 น้อยกว่าระดับเตือนภัยคือ 200

อย่างไรก็ตาม ชาวกรุงปักกิ่งต่างยินดีที่รัฐบาลออกมาเตือนภัย เพื่อประชาชนจะได้เตรียมป้องกันตัวแต่เนิ่นๆ และบอกว่าหมอกควันในครั้งนี้รุนแรงน้อยกว่าที่คาด ทางการจีนระบุว่า การเตือนภัยจะสิ้นสุดตอนเที่ยงคืนวันอังคาร เนื่องจากวันพุธกระแสลมจะพัดหมอกพิษให้จางหายไป.-สำนักข่าวไทย

อิหร่านปิดโรงเรียนในเมืองหลวง 2 วัน เพราะมลพิษทางอากาศ​

​

เตหะราน 19 ธ.ค.- อิหร่านจะปิดโรงเรียนทุกแห่งในกรุงเตหะรานเป็นเวลา 2 วัน เนื่องจากมลพิษทางอากาศสูงกว่าระดับมาตรฐานความปลอดภัยถึง 3 เท่าจากหมอกควันพิษที่ปกคลุมทั่วเมือง

สื่ออิหร่านรายงานในวันนี้ว่า คุณภาพอากาศในกรุงเตหะรานสัปดาห์นี้เลวร้ายที่สุดในรอบ 9 เดือน ฝุ่นละอองที่พ่นออกมาจากยวดยานสูงกว่าระดับมาตรฐานถึง 7 เท่า ทางการจึงสั่งหยุดการเรียนการสอนเป็นเวลา 2 วัน จำกัดการจราจรเขตใจกลางเมือง ปิดโรงงานบางโรง แนะนำผู้สูงอายุ ผู้ป่วยและเด็กให้อยู่แต่ในอาคาร พร้อมกับสั่งหน่วยการแพทย์ฉุกเฉินเตรียมพร้อมตลอดเวลา

กรุงเตหะรานมีประชากรประมาณ 14 ล้านคน ดัชนีคุณภาพอากาศเมื่อวันจันทร์อยู่ที่ 162 ถือเป็นระดับสีแดงคือไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพของทุกคนตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ดัชนีที่ถือว่าปลอดภัยต้องไม่เกิน 50 ยิ่งพื้นที่สูงตั้งแต่ 1,100-1,700 เมตร จากระดับน้ำทะเล ดัชนีสูงถึง 180 เพราะถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขาทำให้มลพิษไม่เจือจางลง มลพิษร้อยละ 80 มาจากควันท่อไอเสียยานยนต์ ข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขอิหร่านเผยว่า ปี 2555 มีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรเพราะมลพิษทางอากาศ 4,500 คน ในกรุงเตหะราน และ 80,000 คนทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมฟิลิปปินส์เสี่ยงเลวร้ายกว่าเดิมเพราะฝนตกหนัก​

​

มะนิลา 19 ธ.ค. – ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทั่วประเทศฟิลิปปินส์วันนี้ก่อให้เกิดความวิตกว่าสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้จะยิ่งเลวร้ายลง หลังจากรัฐบาลประกาศเป็นภาวะภัยพิบัติแห่งชาติไปเมื่อวานนี้ ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมยังคงเพิ่มขึ้น

หน่วยงานเฝ้าระวังภัยพิบัติทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติแจ้งยืนยันยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมว่าเพิ่มเป็น 35 รายแล้ว ขณะที่นักพยากรณ์อากาศแจ้งว่า พื้นที่เกือบทั้งประเทศกำลังเกิดฝนตกหนัก พายุดีเปรสชั่นเขตร้อนซึ่งอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำได้ทำให้เกิดฝนตกที่หมู่เกาะวิซายาที่อยู่ทางตอนกลาง และเกาะมินดาเนาที่อยู่ทางตอนใต้ ขณะที่ลมมรสุมจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือทำให้เกิดฝนตกที่เกาะลูซอน ทางตอนเหนือ ซึ่งยังมีน้ำท่วมสูงระดับเอวจากไต้ฝุ่นเมอโลร์พัดถล่มเมื่อต้นสัปดาห์ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดน้ำท่วมเพิ่มอีก คาดว่าฝนจะตกหนักที่สุดในวันนี้ และจะเริ่มดีขึ้นในวันพรุ่งนี้

โฆษกประธานาธิบดีเบนีโญ อาคิโน ของฟิลิปปินส์เผยว่า ประธานาธิบดัได้ประกาศภาวะภัยพิบัติแห่งชาติเมื่อวานนี้เพื่อเร่งให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยและบรรเทาสาธารณภัยให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูชาวฟิลิปปินส์ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุ สำนักอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า พื้นที่เกาะทางตอนกลางของประเทศอย่างเซบู เนกรอส และโบฮอล อาจมีฝนตกหนักถึง 30 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง จึงขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมหากต้องอพยพ.-สำนักข่าวไทย

ที่มา เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

เย็นเจี๊ยบ!! 'ดอยอินทนนท์'ยังยอดฮิต นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นชมทะเลหมอก ดอกท้อเริ่มบานแล้ว​

​

หนาวยอดฮิต!! นักท่องเที่ยวยังบุกตะลุยขึ้น "ดอยอินทนนท์" ไม่ขาดสาย วันนี้อากาศหนาวเย็นเหลือ 5 องศาฯ เพื่อแห่ไปชมอาทิตย์ยามเช้า ทะเลหมอก ส่วนดอกท้อก็เริ่มเบ่งบานเป็นที่สวยงาม...

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. นายพรเทพ เจริญสืบสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เช้าวันนี้อุณหภูมิยอดดอยอินทนนท์กลับมาต่ำ วัดได้ 5 องศาเซลเซียส ส่วนที่บริเวณกิ่วแม่ปาน อุณหภูมิ 9 องศาฯที่ กม.45 ตรวจสอบแล้วไม่พบน้ำค้างแข็ง หรือเหมยขาบ ตามคำเรียกขานของคนภาคเหนือ ส่วนที่ กิ่วแม่ปานพระอาทิตย์ขึ้น 06.55 น. ท้องฟ้าเปิด นักท่องเที่ยวยังคงแห่ขึ้นมาพักมาสัมผัสอากาศหนาวที่ดอยอินทนนท์ อย่างไม่ขาดสาย เพื่อมาชมพระอาทิตย์ยามเช้า และทะเลหมอก

ขณะที่ ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ได้อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ซึ่งนักท่องเที่ยวเองก็ให้ความร่วมมือเชื่อฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างดี โดยเฉพาะเรื่องของขยะนักท่องเที่ยวให้ความร่วมมือเก็บใส่ถุงดำแล้วนำไปไว้ที่จุดทิ้งขยะได้อย่างดี ขณะเดียวกันต้องขอขอบคุณนักท่องเที่ยวที่นำขยะไปทิ้งด้วยตนเองที่บ้าน อย่างไรก็ตามเพื่อแจ้งเตือนจุดอันตรายที่เสี่ยงจะเกิดอุบัติเหตุทางขึ้นดอยอินทนนท์ ทางกรมทางหลวง ได้ทาสีแดงไว้เพื่อเตือนไปยังผู้ที่ขับขี่ยวดยานพาหนะให้ระมัดระวัง ในส่วนของดอกท้อ ที่กำลังบานบนดอยอินทนนท์ พบว่าบางจุดเริ่มบานบ้างแล้ว แต่บางจุดยังไม่บานยังตูม คาดว่าจากนี้ไปจะทยอยบางสะพรั่งเต็มดอยด้วยเช่นกัน

ด้านนายรักชัย ศรีนวนเวร พยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ รายงานว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนลักษณะเช่นนี้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป สำหรับภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาฯ และบริเวณเทือกเขาสูงจะมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงและหนาวเย็นลงต่อเนื่อง.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 19 ธ.ค. 2558

โคราช' หนาว 14 องศา นักท่องเที่ยวแห่สัมผัสอากาศหนาวคึกคัก​

​

หนาวมาเยือน!! "โคราช" อากาศหนาวเริ่มมาเยือน และเย็นอย่างต่อเนื่อง ช่วงกลางดึกถีงเช้ามืด 14-15 องศาฯ ช่วงสาย 19 องศาฯ ชาวบ้านต่างล้อมวงผิงไฟ ด้านชมรมท่องเที่ยว อ.วังน้ำเขียว เผยการท่องเที่ยวคึกคักที่พัก 90% จองเต็มแล้ว...

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพอากาศทั่วไปของจ.นครราชสีมาว่า เช้านี้มีอุณหภูมิหนาวเย็นจัด น้ำค้างแรง มีหมอกปกคลุมทั่วทุกอำเภอทั้ง 32 อำเภอ โดยเฉพาะ อ.เมือง, อ.วังน้ำเขียว, อ.ปากช่อง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, อ.สีคิ้ว, อ.ปักธงชัย, อ.เสิงสาง, อ.ครบุรี เป็นต้น อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 14-15 องศา (ช่วงกลางคืนและเช้ามืด) และจะมีอุณหภูมิ 19 องศาฯ (ช่วงสาย) มีหมอกปกคลุมสลัวๆ ลมพัดเย็น มีแสงแดดอ่อน เนื่องจากหมอกได้บดบังไว้ ขณะที่ ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลต่างๆ อำเภอรอบนอก ที่ตื่นแต่เช้าพาออกนอกบ้านไปนั่งจับกลุ่มก่อไฟผิง เพื่อสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายและคลายหนาว

ขณะที่ สถานที่ท่องเที่ยวของจ.นครราชสีมาหลายแห่ง กลับมาคึกคัก ประกอบกับสภาพอากาศเหมาะแก่การท่องเที่ยว จึงทำให้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวชาติทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ พาครอบครัวมาท่องเที่ยวพักผ่อนพื้นที่ป่าเขา เพื่อสัมผัสอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะ อ.วังน้ำเขียว อ.ปากช่อง สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวประทับใจกันมาก

ด้านนายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ตอนเช้าอุณหภูมิ 14-15 องศาฯ สภาพอากาศหนาวเย็นถึงเย็นจัดประกอบกับมีหมอกลงหนาแน่น โดยเฉพาะช่วงเช้ามืด ได้เกิดทะเลหมอกขึ้นหลายจุดสร้างความดีอกดีใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยชาวต่างชาติพากันไปถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันอย่างคึกคัก ถ้าอากาศหนาวเย็นอย่างนี้ไปถึงปีใหม่จะส่งผลดีมากกับการท่องเที่ยวของเรา และแน่นอนนักท่องเที่ยวต้องแห่มากันมากขึ้น ซึ่งขณะนี้มียอดจองห้องพักที่มีอยู่กว่า 3,000 ห้อง ไม่รวมกางเต็นท์ ตอนนี้ประมาณ 80-90% เกือบเต็มทุกที่แล้ว ซึ่งเหลือเวลาประมาณไม่ถึง 10 วันก็จะเทศกาลปีใหม่จากนี้ไปคึกคักแน่นอน เพราะนักท่องเที่ยวต่างรอคอยที่จะมาสัมผัสอากาศหนาวกันมานานแล้ว เพราะปีนี้รู้สึกจะหนาวช้า จึงอยากฝากนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวขอให้ดูแลสุขภาพช่วงอากาศหนาวเย็น อย่างเมืองท่องเที่ยว อ.วังน้ำเขียว เตรียมเสื้อกันหนาวให้เหมาะสมและติดต่อจองที่พักให้เรียบร้อย แม้แต่ร้านอาหารหรือสถานที่แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ต้องศึกษาไว้ก่อน เพื่อจะได้เที่ยวอย่างสะดวก และปลอดภัย

โดยเฉพาะช่วงนี้ดอกไม้เมืองหนาวกำลังบานสะพรั่งสวยงาม สดชื่น รวมทั้งผลิตผลการเกษตร ผลไม้ต่างๆ ผักต่างๆ ผักสลัด เริ่มออกสู่ตลาด เช่น พุทรานมสดที่หนาวกรอบ อร่อย พร้อมให้บริการแล้ว ส่วนที่เราคาดการณ์นักท่องเที่ยวที่จะมาทั้งที่มาเที่ยว มาพัก มาค้างแรม กางเต็นท์ มาเยี่ยมเยียนแวะแบบไป-กลับด้วย คนที่มาปริมาณไม่ต่ำกว่า 5 แสนคนขึ้น เนื่องจากหยุดยาว และเงินสะพัดน่าอยู่ประมาณ 50-100 ล้านบาท ช่วงปีใหม่

นายพงษ์เทพ กล่าวว่า ถ้ารวม 2 อำเภอคือ อ.วังน้ำเขียว กับ อ.ปากช่อง คาดว่าเงินจะสะพัดเกือบ 200 ล้าน-กว่า 200 ล้านบาท คนที่มาน่าจะไม่ต่ำกว่า 1-2 ล้านคน เนื่องจากเป็นเมืองหน้าด่านประตูสู่อีสาน ฉะนั้นปริมาณนักท่องเที่ยวที่แวะเยี่ยมเยียนและกว่าจะผ่าน เชื่อว่าไม่ต่ำกว่า 2-3 ล้านคน เงินสะพัดเกือบ 200 ล้านบาท ก็อยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนนักท่องเที่ยวชาวไทยชาวต่างชาติให้มาท่องเที่ยว อ.วังน้ำเขียว ที่มีโอโซนอันดับ 7 ของโลก มาสัมผัสอากาศหนาว ทะเลหมอก ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ‘เรายินดีต้องรับ และจะเป็นเจ้าบ้านที่ดี ขอให้ทุกท่านมีความสุขเที่ยวสนุก สร้างความรัก สร้างความสุข ด้วยการมาท่องเที่ยว อ.วังน้ำเขียว ในโอกาสเทศกาลปีใหม่ 2559 ทุกท่าน’ นายพงษ์เทพกล่าว.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 19 ธ.ค. 2558

ปลูกผักเหลียง สร้างรายได้ รายได้งามกว่า 3 หมื่นบาท ต่อเดือน​

​

วิกฤติกลายเป็นโอกาส ปลูกผักเหลียงแซมสวนปาล์ม ระนอง สร้างรายได้เกษตรกรเป็นกอบเป็นกำ เดือนละกว่า3หมื่นบาท ราคาดีกว่าปลูกปาล์ม

ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ตั้งอยู่ที่ ม.7 ต.ราชกรูด อ.เมือง จ.ระนอง 1 ใน 882 ศูนย์การเรียนรู้ทั่วประเทศตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการสนับสนุนเกษตรกร ให้อยู่ได้อย่างยั่งยืน โดยมี ด.ต.สมนึก โมราศิลป์ ประธานศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ปาล์มน้ำมัน) เล่าให้ฟังว่า ตนเองปลูกปาล์มน้ำมันกว่า 100 ไร่ ที่ผ่านมา ประสบปัญหาบ้าง ด้านราคาผลผลิตที่ตกต่ำ ตลอดเวลาพยายามที่จะทำการเกษตรแบบพึ่งตนเอง ลดการใช้สารเคมี ลดการใช้ปุ๋ยที่มีราคาแพง เพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยการทำปุ๋ยเอง เช่น ปุ๋ยหมักจากมูลสัตว์ ปุ๋ยชีวภาพจากซังปาล์ม การเลี้ยงนกแสกในสวนปาล์มเพื่อกินหนูที่มากัดแทะลูกปาล์ม และปลูกพืชผักเสริมในสวนปาล์มเพิ่มเติม เช่น พริกไทยพุ่มเตี้ย ผักเหลียง หรือ (ใบเหลียง) ซึ่งใบเหลียงนั้นให้ผลผลิตอย่างงดงาม สร้างรายได้มากกว่า เดือนละ 3 หมื่นบาท

“ถ้าขยันเก็บสามารถเก็บได้ถึง 3,000 กำต่อครั้ง ขายส่งกำละ 10 บาท เก็บเดือนละครั้ง รวมแล้วมีรายได้จากการขายผักเหลียงเดือนละกว่า 30,000 บาท ผักเหลียงเป็นพืชที่เติบโตได้เอง ไม่ต้องรดน้ำ ไม่ต้องใส่ปุ๋ย นอกจากเก็บผักเหลียงขายสร้างรายได้แล้ว ยังได้ชำกิ่งผักเหลียงเพาะเลี้ยงลงถุงขาย สร้างรายได้เพิ่มเติมอีกทาง ขณะนี้มียอดการสั่งซื้อไม่พอต่อความต้องการของตลาด ซึ่งต้นพันธุ์ของผักเหลียงนั้นอยู่ที่ราคาต้นละ 25 บาท โดยได้นำลงถุงแล้วกว่า 3 พันต้น และยังรอตัดกิ่งอีกกว่า 1 หมื่นกิ่ง”

ด.ต.สมนึก กล่าวด้วยว่า สำหรับท่านที่สนใจจะปลูกผักเหลียงสร้างรายได้เพิ่มเติมนั้น ไม่ยากอย่างที่คิด สามารถหากิ่งพันธุ์ได้ทั่วไป โดยการปลูกนั้นควรเป็นสภาพพื้นที่ที่เหมาะสม เพราะผักเหลียงเป็นพืชที่ไม่ชอบแสงแดดและความร้อนสูงจากอากาศ จะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพร่มเงา การดูแลรักษาง่าย ไม่มีโรคหรือแมลงรบกวนปลูกได้ดี ในสวนยาง หรือ สวนปาล์มทั่วไป การขยายพันธุ์นั้นทำได้หลายวิธี เช่น ด้วยเมล็ด ไหลราก กิ่งตอนและปักชำ โดยมีวิธีการดังนี้ แบบที่ 1.นำเมล็ดแช่น้ำเอาเปลือกนอกออกแล้วนำไปเพาะในกระบะทรายหรือขี้เถ้าแกลบ ผสมทรายประมาณ 4 เดือน เมื่อเมล็ดงอกมีใบ 2-3 คู่ จึงนำลงถุงเพาะชำเลี้ยงไว้ 1 ปี จึงลงแปลงปลูก แบบที่ 2.ไหลราก คือ รากแขนงที่อยู่ระดับผิวดินจะแตกเป็นต้นได้สามารถขุดต้นแล้วนำลงชำถุงเลี้ยง ไว้ 6 เดือน จึงลงแปลงปลูก แบบที่ 3.ใช้กิ่งตอน ควรเลือกกิ่งที่ไม่แก่หรืออ่อนเกินไป คือ กิ่งที่มีสีน้ำตาลอ่อน ใช้เวลาตอน 2 เดือน เมื่อรากออกสมบูรณ์แล้วนำลงชำถุงอีก 2-3 เดือน จึงนำลงแปลงปลูก แบบที่ 4.ปักชำ สามารถทำได้แต่ได้ผลค่อนข้างต่ำ จึงไม่นิยมทำกัน เพราะต้องใช้ฮอร์โมนเร่งรากปักชำในตู้ชื้นหรือใช้ระบบพ่นหมอก ซึ่งทำให้แตกรากช้าและมีเปอร์เซ็นต์งอกต่ำ

ขณะที่ ด.ต.สมนึกเลือกใช้วิธีกิ่งตอน เพราะใช้เวลาตอน 2 เดือน ต้นพันธุ์แข็งแรงกว่าและโตไวกว่าแบบอื่น ส่วนวิธีการปลูกผักเหลียงควรปลูกในระยะห่างต้น 3 เมตร ระหว่างแถว 2 เมตร หรือ ระยะระหว่างต้น 2.5 เมตร และระยะระหว่างแถว 2.5 เมตร หรือ ระหว่างต้นปาล์มแต่ละต้นให้พอดีกึ่งกลาง ส่วนขนาดหลุมปลูกกว้างราว 30 ซม.ยาว 30 ซม.ลึก 30 ซม.ขุดหลุมแยกดินบนไว้ข้างหนึ่ง ดินล่างไว้ข้างหนึ่ง ตากหลุมไว้ 2 สัปดาห์ จากนั้นนำปุ๋ยคอกและดินชั้นบนผสมกับปุ๋ยรองก้นหลุมใส่ฟอสเฟต 100 กรัมต่อหลุม แล้วจึงปลูกผักเหลียง กลบดินบริเวณโคนให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม ใช้ไม้หลักปักเชือกผูกให้เรียบร้อย กันลมพัดหักล้ม ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปลูก คือ ต้นฤดูฝน เรื่องการดูแลแทบไม่ต้องสนใจ เพราะผักเหลียงเป็นพืชที่ทนทุกสภาพอากาศ เพียงแค่อย่าให้ตากแดดจัดเท่านั้นส่วนธาตุอาหารต่างๆได้รับจากปาล์มอยู่แล้ว การตัดแต่งกิ่งควรตัดแต่งกิ่งให้เหลือความสูงประมาณ 1 เมตร เพื่อความสะดวกในการเก็บผลผลิต เป็นการเร่งการแตกกิ่งและขยายทรงพุ่มเพื่อเพิ่มผลผลิต การเก็บเกี่ยวผักเหลียงที่ปลูกจากการชำถุงจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุ 2 ปี ขึ้นไป ยอดที่เก็บเกี่ยวแล้วจะเก็บได้ใหม่ เมื่อครบ 25-30 วัน การเก็บเกี่ยวควรเก็บให้ชิดข้อไม่ควรเก็บกลางข้อ เพราะจะทำให้การแตกยอดอ่อนครั้งต่อไปช้า การเก็บรักษาควรเก็บไว้ในที่ร่มพรมน้ำแต่พอชุ่ม สามารถเก็บความสดอยู่ได้นาน 5-6 วันโดยไม่ต้องแช่ตู้เย็น

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 19 ธ.ค. 2558

ภาษีเจริญจัดตลาดรับผักปลอดสาร กำหนดจัดกิจกรรมที่ ม.สยาม 22 ม.ค.​

​

ภาษีเจริญจัดตลาดรับผักปลอดสาร กำหนดจัดกิจกรรมที่ ม.สยาม 22 ม.ค.

สำนักงานเขตภาษีเจริญแจ้งว่า เมื่อเร็วๆนี้คณะทำงานชุดที่ 7 “จัดตลาดกลางรองรับผักผลไม้ปลอดภัย” ที่มีเจ้าหน้าที่เขตภาษีเจริญ ผู้แทนจากชุมชน และภาคีเครือข่าย เป็นคณะทำงานการพัฒนาพื้นที่สุขภาวะเขตภาษีเจริญ จัดประชุมวางแผนจัดงานอีกครั้ง หลังมีเสียงตอบรับจากชาวชุมชนเป็นอย่างดี จากการจัดกิจกรรม “พื้นที่ไม่ใช่ข้อจำกัด...ของผัก (สุขภาพ) คนเมือง” ครั้งที่ 1 ตอน : ผักสุขภาพดี ที่ภาษีเจริญ ที่ตลาดวัดชัยฉิมพลี เมื่อวันที่ 22 ส.ค.58 ที่ผ่านมา

ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความต้องการผักปลอดสารพิษเพื่อบริโภคเพิ่มขึ้น แต่ยังประสบปัญหาเรื่องเกษตรกร และตลาดที่จะรองรับผลผลิตมีจำนวนน้อย คณะทำงานจึงมีมติร่วมกันที่จะเชิญเกษตรกรที่สนใจปลูกผักปลอดสารพิษร่วมหารือในการจัดกิจกรรมตลาดผักปลอดสารพิษ ในวันที่ 22 ม.ค.2559 โดยอาจจะใช้พื้นที่บริเวณมหาวิทยาลัยสยามในการจัดกิจกรรมผักปลอดสารพิษในครั้งต่อไป.

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 19 ธ.ค. 2558

ภาคเหนืออากาศหนาว ลมแรง อุณหภูมิลด 2-4 องศา เทือกเขาสูงมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่​

​

อิทธิพลความกดอากาศสูงกำลังแรงยังคงแผ่ปกคลุมไทยตอนบน ทำให้อากาศยังคงหนาวเย็นโดยทั่วไป ส่งผลภาคเหนืออุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาสูงมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ส่วนลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยกำลังแรง คลื่นสูง 2-4 เมตร

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.58 จากการตรวจสอบสภาพอากาศจากกระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวี ร่วมกับเดอะ เวตเตอร์ คอมพานี พบว่าบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป กับมีลมแรง สำหรับภาคเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส และบริเวณเทือกเขาสูงจะมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงและหนาวเย็นลง

ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยระวังอันตรายจากคลื่นลมที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1-2 วัน

โดยจากภาพถ่ายดาวเทียม พบว่าภาคเหนือ มีเมฆชั้นกลางเป็นส่วนมากทางตอนบนของภาค ไม่มีกลุ่มเมฆฝนในจังหวัดใด ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆชั้นสูงเป็นส่วนมาก ไม่พบกลุ่มเมฆฝนในจังหวัดใด ขณะที่ภาคกลาง มีเมฆชั้นกลางเป็นบางส่วน และไม่มีกลุ่มเมฆฝนในจังหวัดใด ส่วนภาคตะวันออก มีเมฆชั้นสูงเป็นส่วนมาก ไม่พบเมฆฝนในจังหวัด และภาคใต้ มีเมฆชั้นกลางและขั้นสูงเป็นส่วนมาก ยังไม่พบกลุ่มเมฆฝนในจังหวัดใดทั้งฝั่งอ่าวไทย และอันดามัน

อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณอ่าวไทยในช่วงวันที่ 20-21 ธ.ค. 58 ขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

ส่วนสภาพอากาศในแต่ละภาคของวันนี้ เป็นดังนี้

ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-29 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็น กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 18-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็น กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมาก บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมาก บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 19-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

ปิดท้ายที่สถานการณ์พายุดีเปรสชัน ‘ทเวนตี้ไนท์’ มีความเร็วลมศูนย์กลาง 37 กม./ชม. มีศูนย์กลาง ทางตะวันตกของเกาะมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์ ห่างจากประเทศไทย 2,184 กม.พายุนี้กำลังเคลื่อนที่ทางทิศตะวันตกข้ามเกาะมินดาเนาลงทะเลอีกครั้ง หลังจากนั้นจะเคลื่อนที่ไปทางตะวันตกสู่เกาะซูลูต่อไป พายุนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อสภาวะอากาศประเทศไทยแต่ตอนนี้มีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณอ่าวไทยในช่วงวันที่ 20-21 ธ.ค. 58 ดังนั้นต้องติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 19 ธ.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

มนุษย์ต่างดาวมี 2 ฝ่าย คือฝ่ายแสงสว่างกับฝ่ายมืด​

​

เรื่องมนุษย์ต่างดาว ที่มีความเกี่ยวข้องกับมนุษย์โลก โปรดจงรู้ไว้ว่า มนุษย์ต่างดาว และรูปธรรมชีวิตต่างมิติก็มี 2 ขั้วด้วยนะครับ คือฝ่ายแสงสว่างกับฝ่ายมืด เพราะฉะนั้น สองฝ่ายนี้ ก็ชิงไหวชิงพริบกันอยู่ ไม่เว้นแต่ละเวลานาที เขาว่านะ เขาว่า..

ฝ่ายมืด มันจำเป็นต้องบริโภคพลังงานแห่งความกลัวเป็นพลังงานเพื่อยังชีพ เพราะฉะนั้น อะไรที่จะทำให้มนุษย์ตกอยู่ในความกลัวได้มากและนานที่สุด พวกมันจะรีบทำทันที และฝ่ายมืดนี่ก็ไม่ได้มานั่งสนใจเรื่องกฎของจักรวาลซะด้วยสิ พวกมันดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด มันจึงทำได้ทุกอย่าง

ส่วนฝ่ายแสงสว่างนั้น ก็คอยขวางและช่วยเหลือมนุษย์แบบลับๆอยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน เช่น ทำให้ระเบิดนิวเคลียร์ที่มนุษย์โลกผู้ที่ถูกครอบงำด้วยกระแสจิตของฝ่ายมืดผลิตขึ้น ใช้การไม่ได้ เป็นต้น ไม่งั้นโลกคงบรรลัยไปนานแล้วหละครับ และเขาบอกอีกหนะแหละว่า มีมนุษย์ต่างดาวทั้งสองขั้วนี้ ที่ใช้ชีวิตปะปนอยู่กับมนุษย์ปกติเรา บนโลกของเรานี้มากมาย

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะฝ่ายมืด ที่พยายามครอบงำมนุษย์โลกอยู่ทุกยุคทุกสมัย และเพราะในยุคพลังงานใหม่นี้ โลกของเราและระบบสุริยจักรวาลของเรา กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ไฟตอนโซน (photon zone) ของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก ซึ่งมีคลื่นเกลียวแห่งพลังงานด้านบวกหนาแน่นขึ้นทุกขณะๆ ซึ่งพลังงานด้านบวกที่ว่านี้ มันก็เข้ากันได้ดีกับระดับความสั่นสะเทือนของพลังงานแห่งความรักซะด้วยสิ

และมันจะทำให้ผู้ที่มีจิตใจดีงาม มีรัก มีเมตตากรุณาอยู่เป็นปกติ มีวิวัฒนาการทางด้านจิตวิญญาณสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบ 26,000 ปีของโลกมนุษย์ ส่วนผู้ที่ถูกครอบงำด้วยพลังงานแห่งความมืดทั้งหลาย รวมถึงมนุษย์ต่างดาวฝ่ายมืดเองทั้งหลาย ก็กำลังตกอยู่ในภาวะบีบคั้น กระแทก กระหน่ำ โดยพลังงานในโฟตอนโซนนี้อยู่

เพราะฉะนั้น พวกเขาจึงกำลังปลดปล่อยความชั่วร้ายทั้งหลาย สำแดงออกมาอย่างเต็มที่ ก่อนลมหายใจเฮือกสุดท้ายของพวกเขาจะมาถึง นอกเสียจากว่า พวกเขาจะเปลี่ยนจิตใจตัวเอง ให้เข้ามาสู่ด้านดีหรือด้านสว่างนี้ได้ทันเวลาเท่านั้น นี่ผมกำลังจะบอกว่า มนุษย์ทุกคนบนโลก กำลังอยู่ในกระบวนการเลื่อนระดับขึ้น (Ascension) ไปพร้อมๆกับโลกอยู่

เพราะฉะนั้น ท่านอาจจะสังเกตเห็นว่า ยุคนี้มีวิชชาความรู้ด้านจิตวิญญาณปรากฏขึ้นมากกว่ายุคก่อนๆหลายเท่าตัว จิตวิญญาณของชาวโลกมากมาย โหยหา และกระหายใคร่รู้ความเป็นจริงของชีวิต มากกว่าทุกยุคสมัยที่ผ่านมา เพราะได้รับอิทธิพลจากโฟตอนโซนนี้ และผู้คนมากมายสามารถปฏิบัติจิตได้ก้าวหน้าเร็วขึ้น ผู้ที่ได้อภิญญามีมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะพลังงานด้านบวกนี้เอื้ออำนวยให้

และจุดสุดยอดของเรื่องจะเกิดขึ้น เมื่อมาถึงจุดศูนย์ (zero point) ซึ่งเป็นจุดที่โลกจะหยุดหมุน 1 วินาที จากนั้นขั้วแม่เหล็กโลกก็จะสลับด้านกัน ตรงนี้แหละ ที่พลังงานจากโฟตอนโซนจะถูกถ่ายเทลงมายังโลกเข้มข้นมากๆ จนดึงระดับจิตของผู้ที่ดำรงอยู่ในสภาวะแห่งความดีงามอยู่แล้ว ให้พุ่งพรวดขึ้นไปสู่มิติที่ 5 ส่วนผู้ที่มีระดับจิตอยู่ในด้านมืด ร่างกายของพวกเขาก็จะทนทานต่อคลื่นพลังงานด้านบวกนี้ไม่ได้ และจะต้องตายไป เขาบอกมาอย่างนั้นนะครับ

จุด zero point ที่ว่านี้ จะเกิดขึ้นในปี 2012 และทำไมโลกถึงจะหยุดหมุนได้ อันนี้มีเนื้อหาเยอะมาก ผมจะบอกคีย์เวิร์ดให้ท่านไปค้นต่อเอาเองนะครับ คือ

- Schumann resonance
- Zero point
- Gregg Braden

เพราะว่ายุคแห่งพลังงานใหม่นี้ มันเป็นยุคที่ฝ่ายมืดกำลังพ่ายแพ้ และหมดพลังอำนาจลง เพราะฉะนั้น ท่านจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในด้านดีต่างๆกำลังเกิดขึ้นบนโลกอย่างรวดเร็ว ยุคพลังงานใหม่นี้ เริ่มต้นตั้งแต่การโคจรมาบรรจบกันเป็นรูปสามเหลี่ยมของดาวเคราะห์ ในระบบสุริยจักรวาลของเราจำนวน 8 ดวง หรือเรียกว่า (Harmonic Convergence) ตั้งแต่ปี 1987 บางท่านอาจจะยังนึกไม่ออกว่า อะไรที่ดีๆที่ว่านั้น มันคืออะไรบ้าง ทำไมไม่เห็นรู้เลย เอานะ

- การล่มสลายของสหภาพโซเวียต ทำให้สงครามนิวเคลียร์ไม่ต้องเกิดตั้งแต่ตอนโน้น
- ซัดดัม ฮุดเซน เป็นไงบ้าง
- ผู้นำหลายๆประเทศ ที่คอรัปชั่น ฉ้อฉน เป็นไงบ้าง
- เกิดสงครามน้อยลง เมื่อเทียบกับประวัติศาสตร์ยุคก่อนๆ ซึ่งไม่มีประเทศไหนเลยที่ไม่รบราฆ่าฟันกันเพียงเพราะเรื่องแย่งชิงอำนาจ หรืออะไรกิ๊กๆก็อกๆกัน รวมถึงไทย จีน พม่า และก็พวกฟรั่งขี้นกทั้งหลาย
- อื่นๆ คอยอ่านในกระทู้ครายออนของคุณ LadyofLight นะครับ

และเพราะว่าฝ่ายมืดกำลังอยู่ในภาวะจนตรอก ที่ถูกบีบอัดด้วยพลังงานด้านบวกที่ว่านั้น นอกจากพวกมันจะกระเสือกกระสนเพื่อรักษาสถานะและอำนาจของตัวเองเอาไว้แล้ว พวกมันยังต้องใช้กลยุทธทุกๆวิถีทางที่จะให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ว่านั้น แบบว่าหมาจนตรอก และแบบว่าทิ้งทวนว่างั้นเถอะ ซึ่งกลยุทธที่ว่านี่ ก็ เช่น

- สื่อสารทางโทรจิตลงมาหาผู้ที่ปฏิบัติจิตบางคนบนโลก ที่กำลัง “หลง” อยู่ คำว่าหลงที่ว่านี่ก็เช่น หลงคิดว่าตัวเองวิเศษกว่าคนอื่น เป็นต้น ซึ่งคนประเภทนี้มีอยู่ในวงการผู้ปฏิบัติจิตทั่วโลกนั่นแหละ อันนี้ก็จะถูกพวกมารเหล่านี้เอาไปใช้เป็นเครื่องมือ โดยพวกมารก็จะเสแสร้งว่าเป็นรูปธรรมชีวิตต่างมิติชั้นสูงๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดีของชาวโลก เช่น เทพชั้นสูงต่างๆ ดังนั้น ก็ไม่ใช่ว่าทุกๆข้อความ ที่สื่อสารมาจากนอกโลกนั้นจะเชื่อถือได้หมดหรอกนะครับ มันมีทั้งจริงทั้งหลอกเยอะแยะไป

- ข้อความที่พวกมารเหล่านี้ปลอมตัวสวมรอยสื่อสารมา มันก็จะอ้างข้อเท็จจริงเป็นพื้นฐาน เช่น ปี 2012 ก็จะมีเหตุการณ์พิเศษเกิดขึ้นจริงๆกับโลกและระบบสุริยจักรวาลของเรา เพราะว่าเรากำลังอยู่ในโฟตอนโซนนั่นเอง แต่ว่าพวกมันก็จะสอดแทรกสิ่งที่มันต้องการลงไปด้วย อย่างมากมาย เช่น เพราะว่ามันต้องการกระแสจิตแห่งความหวาดกลัว หวั่นวิตก และประหวั่นพรั่นพรึงของเรา

ข่าวสารที่พวกมันสื่อมา ก็จะออกแนวๆด้านลบเป็นส่วนมาก เช่น จะเกิดเหตุ เภทภัยครั้งใหญ่หลวง จะเกิดวันสิ้นโลก จะเกิดอะไรต่ออะไรที่จะเป็นการล้างเผ่าพันธุ์มนุษยชาติออกไปจากโลก เป็นต้น นั่นหละ จงรู้และจับสังเกตดูให้ดี ใครที่เน้นแต่จะแพร่กระจายข่าวอะไรทำนองนี้อยู่เนืองๆ ท่านกำลังตกเป็นเครื่องมือของมารแล้ว โดยไม่รู้ตัว ผมรวมถึงบางข้อความที่สื่อมาจากต่างมิติ ที่ผมเอามาโพสต์ไว้แล้วในกระทู้ “การเตรียมการฯ”ของผมด้วย มันก็มีบ้างที่อาจจะมาจากฝ่ายมืดหรือฝ่ายมารเหล่านี้ จงใช้วิจารณญาณให้ดี จงใช้วิจารณญาณให้ดี

- ในข้อเท็จจริงเดียวกันนี้ แน่นอนว่าการปรับตัวของโลกมันก็ต้องมีบ้าง การตายของผู้คนอาจจะต้องมีบ้าง เพราะว่าผู้คนเหล่านั้นเขาได้วางแผน และเลือกเอาไว้แล้วว่าเขาจะมาตายในสถานการณ์ไหน (อีกครั้งหนึ่งนะครับ ว่า ผมรู้แล้ว..ว่าพุทธเราไม่ได้สอนแบบนี้ แต่นี่คือสิ่งที่มาจากต่างมิติและอยู่นอกขอบเขตของศาสนา ถ้าพูดถึงตรงนี้ หลายคนคงติดใจว่า อ้าว..ถ้านอกขอบเขตของศาสนาจริง ทำไมถึงกล่าวถึงพระเจ้า หรือพระผู้สร้างเต็มไปหมดเลย

ผมก็จะตอบว่า ก็พวกเขาเชื่อกันอย่างนั้น และถ้าอ่านให้มากๆจะรู้ว่าพวกเขารู้เรื่องการเวียนว่ายตายเกิด กฎแห่งกรรม และอื่นๆมากมายด้วยนะ ซึ่งศาสนาคริสต์และอิสลาม ไม่ได้สอนเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดนะครับ มีนักวิทยาศาสตร์ชาวคริสต์ชั้นหัวกะทิมากมายเหลือเกิน ที่ยอมรับเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดมานานแล้ว เพราะจำนนด้วยหลักฐานและอื่นๆ ..อ๊ะ..อันนี้ก็จะยาวและไปไกลอีกแล้ว พอแค่นี้ก่อนนะครับ)

เรื่องเดียวกันนี้ ฝ่ายสว่างเขาจะไม่พูดถึงในด้านลบมากนัก เขาจะเน้นด้านบวกมากกว่า เช่น เขาจะบอกว่าปี 2012 มันเป็นปีแห่งการยกระดับขึ้นไปสู่มิติที่ 5 ซึ่งสภาวะความเป็นอยู่ ร่างกายและจิตวิญญาณของมนุษย์ทุกๆคนที่เลือกที่จะยกระดับขึ้น ก็จะถูกยกระดับขึ้นโดยธรรมชาติแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตัวเราเองก็ต้องมีการเตรียมตัวเองให้พร้อมด้วย คือต้องกำจัดพฤติกรรมด้านลบ อารมณ์ด้านลบ และทัศนคติและความคิดในด้านลบออกไปให้มากที่สุด ไม่งั้นจะผ่านเข้าสู่มิติที่สูงขึ้นไม่ได้

เน้นนะครับว่า เราต้องเป็นผู้เลือกเอง ว่าเราจะเอายังไง พวกเขาไม่อาจจะมาบังคับอะไรเราได้ เพราะดาวเคราะห์โลกของเรา คือดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรี มนุษย์ต่างดาวเผ่าพันธุ์ใดก็ตามแต่ ที่ใช้วิธีบังคับขู่เข็ญให้กลัว หรืออื่นๆ อันเป้นการละเมิดต่ออิสรภาพแห่งความปราถนาของมนุษย์เราแล้ว ท่านโปรดใช้วิจารณญาณให้จงหนัก สำหรับมนุษยืต่างดาวกลุ่มนั้น เพราะนั่น อาจจะไม่ใช่ฝ่ายแสงสว่างแล้วหละ

พลังงานแห่งความกลัวของมนุษย์ มันเป็นกระแสพลังงานที่มีระดับความสั่นสะเทือนหยาบที่สุด ส่วนพลังงานแห่งความรักและเมตตาของมนุษย์ คือพลังงานที่มีระดับความสั่นสะเทือนสูงที่สุด ทำไมถึงรู้หละใช่ไหมครับ อันนี้ผมก็ยังค้นไม่ละเอียด แต่คิดว่ามันต้องมีข้อมูลที่พิสูจน์ได้อยู่แน่นอน เพียงแต่ผมยังอ่านไม่หมดเท่านั้นเอง แต่ในตอนนี้ผมว่า ผมก็พอจะเทียบเคียงอะไรให้ท่านพอนึกออกได้อยู่นะครับ ลองคิดตามผมดูนะ

- ท่านรู้ใช่ไหม ว่าคลื่นสมองของมนุษย์เรา เราสามารถวัดมันเป็นค่าออกมาได้
- ท่านรู้ใช่ไหม ว่ารังสีออร่าที่เปล่งออกมาจากร่างกายของมนุษย์เรานั้น มันสามารถถ่ายภาพออกมาดูได้
- ท่านรู้ใช่ไหม ว่ารังสีออร่าที่เปล่งออกมาจากร่างกายของมนุษย์เรานั้น มันมีหลายสี และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับสภาวะอารมณ์ในแต่ละขณะของเรา
- ท่านรู้ใช่ไหม ว่าคลื่นความถี่ของแสงสีแต่ละสี มีค่าต่างๆกัน แสงสีแดงมีค่าความถี่ต่ำสุด สีม่วงมีค่าความถี่สูงสุด (อันนี้เฉพาะช่วงคลื่นที่ตามนุษย์สามารถมองเห็นได้นะครับ)

พอจะได้ไอเดีย เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอารมณ์ของมนุษย์กับระดับคลื่นความถี่บ้างไหมครับ แต่ตัวอย่างที่ผมยกมานี่ ข้อมูลจริงๆไม่รู้จะใช่ตามนี้หรือเปล่านะ เอาเป็นว่าเทียบเคียงให้ฟังไปก่อนหนะนะครับ พลังงานแห่งความรัก กับพลังงานแห่งความกลัว มันเป็นสิ่งที่อยู่คนละขั้วกัน ถ้ามนุษย์คนไหนถูกครอบงำด้วยความกลัว แสงสว่างแห่งความรักก็จะแทรกซึมเข้ามาในจิตใจได้ยาก และสิ่งไม่ดีทั้งหลายที่เป็นด้านมืดด้วยกัน มันก็จะหลั่งไหลมาหาเพื่อนมัน ตามกฎแห่งการดึงดูดที่ว่า สิ่งที่เหมือนกัน มันจะดึงดูดซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้น พวกเขาถึงเน้นให้เราเตรียมตัวให้พร้อม อย่าถูกครอบงำโดยฝ่ายมืดอีก

- จงมีทัศนคติต่อตนเอง และต่อผู้อื่นในด้านบวก
- จงเปลี่ยนพฤติกรรมและทุกสิ่งทุกอย่างมาสู่ด้านบวก
- จงรักผู้อื่นเสมือนรักตนเอง
- ฯลฯ

"ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน" คำนี้เป็นคำที่พบได้ทั่วไป และจากทุกๆรูปธรรมชีวิตต่างมิติที่สื่อสารทางจิตมา เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีพื้นฐานมาจากแหล่งพลังงานเดียวกัน และรวมถึง ในระดับจิตวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานแล้วนี่ พลังงานมันไม่สามารถแบ่งแยกออกเป็นกลุ่มก้อนได้ มันสามารถแทรกซึม-ถ่ายเทข้อมูลข่าวสารไปสู่กันและกันได้ เพราะฉะนั้น ทุกสรรพสิ่งจึงเป็นหนึ่งเดียวกัน จึงเป็นสิ่งที่เราต้องตระหนักไว้ เพื่อที่จะได้มองเห็นคุณค่าของคนอื่น เสมอเหมือนคุณค่าของตัวเราเอง

จงรักคนอื่นเสมอเหมือนกับรักตนเอง โดยปราศจากเงื่อนไข ความแบ่งแยก ว่านี่เป็นเขา นี่เป็นเรา เป็นเพียงมายาการของมิติที่ 3 นี้เท่านั้นเอง มีข้อเท็จจริง และสัจธรรมมากมาย ที่ผู้ที่อยู่ในมิติที่ต่ำกว่า ไม่สามารถจะเข้าใจผู้ที่อยู่ในมิติที่สูงกว่าได้เลย แม้แต่รูปธรรมชีวิตต่างมิติ ที่อยู่ในมิติที่ 6 ก็ยังไม่สามารถเข้าใจรูปธรรมชีวิตที่อยู่ในมิติที่ 7 ได้เลย จะนับประสาอะไรกับมนุษย์เรา ซึ่งอยู่ในมิติที่ 3 จะอาจเอื้อมไปเข้าใจผู้ที่อยู่ในมิติที่ 5 และ 6 และ 7 ได้ พวกเขาบอกว่า "มันเป็นไปไม่ได้เลย ที่เธอจะเข้าใจ" ไม่ใช่แค่ว่า มันมีโอกาสน้อยมากที่เธอจะเข้าใจนะครับ แต่ "มันเป็นไปไม่ได้เลย ที่เธอจะเข้าใจ"

puckztales:

ที่มา http://board.plungjai.com/index.php?board=177.0;wap2

 

เทคนิคการจุดไฟด้วยขวดน้ำดื่ม​

เผยแพร่เมื่อ 18 ธ.ค. 2012​

วิธีจุดไฟด้วยขวดน้ำนี้จะมีประโยชน์มาก เมื่อเวลาท่านไม่สามารถหาอุปกรณ์อื่นๆที่่สามารถจุดไฟได้ เพราะขวดน้ำกับเศษกระดาษ เป็นสิ่งที่สามารถหาได้โดยทั่วไป แต่ถ้าคนไม่รู้วิธีทำที่ถูกต้อง ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำให้ไฟติดได้ มาเรียนรู้เทคนิคจุดไฟด้วยขวดน้ำใสได้จากวิดีโอนี้ครับ

 

ยังมีผู้สูญหาย 41 คน จากดินถล่มที่นิคมอุตสาหกรรมทางใต้จีน​

​

ปักกิ่ง 20 ธ.ค. – สื่อทางการจีนรายงานว่า เหตุดินถล่มครั้งใหญ่ที่นิคมอุตสาหกรรมทางภาคใต้ของจีน ฝังกลบอาคาร 22 หลัง และมีผู้สูญหาย 41 คน ในวันอาทิตย์นี้ โดยมีหน่วยฉุกเฉินกว่า 1,500 คน ออกค้นหาในพื้นที่เกิดเหตุ

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า หน่วยกู้ภัยช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ 7 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยภายหลังเกิดเหตุดินถล่มทับอาคารหลายหลัง ที่เมืองเสิ่นเจิ้นทางภาคใต้ของจีน ซึ่งมีอาณาเขตติดกับฮ่องกง แต่ยังไม่ได้ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนเท่าใด และยังไม่ทราบสาเหตุดินถล่มที่แน่ชัด ภาพวิดีโอของสำนักข่าวซินหัวเป็นฝุ่นควันขนาดใหญ่ตลบไปทั่วบริเวณ

และกองซากปรักหักพังขนาดมหึมา เต็มพื้นที่ที่เคยเป็นที่ตั้งของอาคารชุดแต่ถูกดินถล่มทับ ขณะที่เฮลิคอปเตอร์กู้ภัยออกปฏิบัติการใกล้ที่เกิดเหตุ สื่อท้องถิ่นรายงานอ้างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่า ได้อพยพประชาชนส่วนใหญ่ราว 900 คน ออกจากพื้นที่ได้ทันก่อนเกิดดินถล่มในช่วงสายวันนี้ .- สำนักข่าวไทย

พายุสองลูกพัดถล่มฟิลิปปินส์ ยอดเสียชีวิตเพิ่มเป็น 45 ราย​

​

มะนิลา 20 ธ.ค.- เจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาภัยพิบัติฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุพายุ 2 ลูกพัดกระหน่ำในพื้นที่ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นเป็น 45 ราย ขณะที่หลายเมืองยังจมอยู่ใต้น้ำ และฝนยังคงตกลงมาอย่างหนัก

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเกิดจากอิทธิพลของแนวปะทะอากาศเย็นจากพายุไต้ฝุ่นเมอโลร์ และพายุดีเปรสชันอนยกซึ่งพัดกระหน่ำฟิลิปปินส์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมสูงเกือบ 3 เมตร บริเวณพื้นที่ที่เป็นแม่น้ำบางแห่ง ด้านเจ้าหน้าที่สภาภัยพิบัติประจำภูมิภาค กล่าวว่า น้ำท่วมครั้งนี้ต้องใช้เวลานานกว่าน้ำจะลด เนื่องจากพื้นที่แถบนี้เป็นที่ต่ำมากที่สุด ทางการได้อพยพประชาชนกว่า 54,000 คน ไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพของรัฐบาลแล้ว

แต่ยังไม่รู้ว่าพวกเขาจะได้กลับบ้าน ไปฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึงหรือไม่ ขณะที่สถานีอุตุนิยมวิทยารายงานว่า พายุดีเปรสชันอนยกได้อ่อนกำลังลงแล้ว และคาดว่าสภาพอากาศจะดีขึ้นภายในวันจันทร์ หลังพายุไต้ฝุ่นเมอโลร์เคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์ไปยังทะเลจีนใต้ก่อนหน้านี้.- สำนักข่าวไทย

เกิดไฟป่าปะทุกว่า 100 แห่งในสเปน​

​

มาดริด 20 ธ.ค.- เกิดเหตุไฟป่าปะทุกว่า 100 แห่ง ในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสเปนเมื่อคืนวันเสาร์ ขณะที่ทางการส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 230 นาย ออกไปดับไฟแล้ว แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

โฆษกหน่วยดับเพลิงประจำแคว้นอัสตูเรียส กล่าวว่า เกิดเหตุไฟป่าขึ้นกว่า 100 แห่ง ทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 230 นาย ออกไปดับไฟแล้ว นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันภัยพลเรือน อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่อื่นๆร่วมปฏิบัติการดับไฟป่าครั้งนี้ด้วย แถลงการณ์ของหน่วยเหตุฉุกเฉินระบุว่า มีบ้านเรือน 5 หลัง ถูกไฟไหม้ และถนนสายหลักช่วงหนึ่งถูกสั่งปิดสัญจรเนื่องจากมีหมอกควันจากไฟป่าปกคลุม

ซึ่งการดับไฟเป็นไปได้ยาก เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัดและลมแรง กระทรวงเกษตรของสเปนระบุว่า ในปีนี้เหตุไฟป่าทำลายพื้นที่ทางการเกษตรและพื้นที่ป่าไปมากกว่า 33,250 ไร่ ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่า 2 ปีที่ผ่านมารวมกัน.- สำนักข่าวไทย

เรืออินโดนีเซียถูกคลื่นสูงซัดตาย 2 คน สูญหายเกือบร้อยคน​

​

มากัสซาร์ 20 ธ.ค.- เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียกล่าวว่า เหตุเรือบรรทุกผู้โดยสารล่มหลังถูกคลื่นสูงซัดทางภาคกลางของอินโดนีเซีย เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยผู้ประสบเหตุไว้ได้ 23 คน และพบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน ขณะที่มีผู้สูญหายจำนวนมาก

เหตุเรือล่มดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่เรือไฟเบอร์กลาสลำหนึ่งกำลังบรรทุกผู้โดยสาร 110 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 14 คน และลูกเรือ 12 คนจากเมืองโกลากาไปยังเมืองสิวาบนเกาะสุลาเวสี แต่ถูกคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตรและพายุฝนซัดกระหน่ำเมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์จนเรืออับปาง จุดเกิดเหตุอยู่ในเขตวาโจห่างจากท่าเรือสิวาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 21 กิโลเมตร

ด้านเจ้าหน้าที่ได้ส่งเรือกู้ภัย 6 ลำ จากเมืองเกนดารีและเมืองมากัสซาร์ออกไปให้ความช่วยเหลือ สามารถช่วยผู้ประสบเหตุที่สวมเสื้อชูชีพลอยคออยู่กลางทะเลไว้ได้ 4 คน เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ก่อนที่จะช่วยเหลือไว้ได้อีก 21 คน ในเวลาต่อมา รวมขณะนี้พบผู้รอดชีวิต 23 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน ขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีกจำนวนมาก.- สำนักข่าวไทย

ที่มา เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

อุตุฯเตือน ภาคใต้เจอฝนอีก ชุมพร-นราธิวาส ระวังท่วมฉับพลัน!​

​

อุตุฯ ออกประกาศเตือนเรื่อง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ตั้งแต่22ธ.ค.นี้ จะมีฝนตกหนักตั้งแต่ชุมพร ไปจนถึงนราธิวาส​ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน ส่วนตอนบนของประเทศจะอุ่นขึ้น...

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 ธ.ค.กรมอุตุนิยมวิทยา ได้มีประกาศเรื่อง
"หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้" ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2558 ระบุว่า

"หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้จะเคลื่อนตัวมาปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างในวันพรุ่งนี้ (21 ธ.ค.58) หลังจากนั้นจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ในช่วงวันที่ 22-23 ธันวาคม 2558 ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ส่งผลให้ภาคใต้บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน จะยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า

ประกาศ ณ วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 11.00 น."

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ธ.ค. 2558

บัสทัวร์จีนจากมาเลย์ พุ่งลงข้างทางชนหินพังยับที่เชียงใหม่ ตาย 13 เจ็บ 12 คน​

​

เกิดอุบัติเหตุรถบัสทัวร์ชาวจีนจากมาเลเซียตกถนนที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เป็นร่องลึกลงไปประมาณ 5 เมตร ชนก้อนหินพังยับเยิน ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิต 13 ศพ บาดเจ็บ 12 คนจากคณะที่มาในรถ 25 คน สาเหตุคาดขับชนแล้วหนีแหกด่านจนเสียหลัก...

เมื่อเวลา 12.20 น. เกิดอุบัติเหตุรถบัสโดยสาร นำนักท่องเที่ยวชาวจีนจาก จ.เชียงราย มุ่งหน้า จ.เชียงใหม่ เสียหลักตกถนน ที่บริเวณ กม.42 ถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย เขตบ้านปางแฟน ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

หลังเกิดเหตุ นายอภิชัย อร่ามศรี ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ สั่งให้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ เข้าช่วยเหลือ พร้อมหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ เบื้องต้น ใช้เครื่องตัดถ่างนำศพออกมาได้แล้ว 13 ศพ และผู้บาดเจ็บประมาณ 12 คน

สอบสวนทราบว่า รถบัสคันดังกล่าว นำนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวจีนจากประเทศมาเลเซีย ไกด์ชาวไทย คนขับรถ และพนักงานบริการในรถ รวมทั้งหมด 25 คน เดินทางมาจากทาง จ.เชียงราย ถึงที่เกิดเหตุได้เฉี่ยวชนกับรถเก๋ง จนรถบัสเสียหลักตกลงไปข้างทางที่เป็นร่องลึกประมาณ 2 เมตร หน้ารถไปชนเข้ากับหินก้อนใหญ่ข้างทางอย่างแรง จนรถพังยับเยินทั้งคัน ซึ่งความคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุด อุบัติเหตุดังกล่าว มีผู้เสียชีวิต เพิ่มเป็น 13 ศพ โดย ร.ต.ท. สนั่น พรหมมา พนักงานสอบสวนเวร สภ.ดอยสะเก็ด ไปตรวจที่เกิดเหตุ พบรถบัสขนาดกลางยี่ห้อนิสสัน สีขาว ทะเบียน 30-0485 เชียงใหม่ เขียนชื่อ วีระพันธ์ทัวร์ สภาพแหลกยับเยินติดกับโขดหินและกอไผ่ขนาดใหญ่ ภายในซากรถพบคนบาดเจ็บจำนวนมากนอนร้องครวญคราง รวมกับศพผู้เสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ภู้ภัยได้รีบระดมกันเข้าช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บ 12 คน ส่งรพ.ดอยสะเก็ด

ส่วนผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 11 คน และทราบว่าเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 2 คนรวมเสียชีวิต 13 คนเป็นชาวจีน และไกด์ทัวร์ชาวไทยชื่อ น.ส.ภัทรา พรมใจจอม อายุประมาณ 25 ปี

ในเบื้องต้นทางตำรวจได้สอบถามคนที่เห็นเหตุการณ์ และติดตามรถทัวร์มาทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถบัสคันดังกล่าวมุ่งหน้าจากเชียงรายจะเข้าเชียงใหม่ เมื่อมาถึงบริเวณก่อนถึงด่านได้เฉี่ยวชนรถยนต์เก๋ง รถกระบะถึง 3-4 คัน คนขับจึงเร่งความเร็วหนี จนถึงด่านตำรวจแม่โถ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่มาสกัดจับ แต่รถบัสได้แหกด่านตำรวจออกไปจากนั้นมาได้ประมาณ 20 กิโลเมตร รถเข้าทางโค้งและลาดลงดอยทำให้รถเสียหลักพุ่งตกข้างทางลึกประมาณ 5 เมตร ชนเข้าโขดหินขนาดใหญ่และกอไผ่จนรถบัสแหลกเหลวหลังคาเปิด คนในรถกระเด็ดออกมาและติดในซากรถ ซึ่งคนขับทราบชื่อว่านายสมพร บัวหลวง อายุ 58 ปี ได้รับบาดเจ็บไม่มาก ตำรวจควบคุมตัวไว้

สำหรับคณะทัวร์ดังกล่าว เป็นชาวจีนประเทศมาเลเซีย โดยบริษัท สตาร์ทัวร์ นำเที่ยว มีนักท่องเที่ยว จำนวน 22 คน ไกด์สาวไทย 1 คน รวมทั้งคนขับ และเด็กบริการในรถอีก 1 คนรวม 25 คนกลับจากท่องเที่ยวที่ จ.เชียงราย จะเดินทางมาที่เชียงใหม่ เพื่อไปเที่ยวน้ำพุร้อนสันกำแพง ซึ่งผู้บาดเจ็บอยู่โรงพยาบาลดอยสะเก็ด 12 คน มีบาดเจ็บสาหัส 3 คน ต้องนำส่งต่อ รพ.นครพิงค์

ต่อมา เวลา 14.30 น. นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กงสุลสาธารณรัฐประชาชนจีน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ และขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางมาเยี่ยมคนเจ็บที่ รพ.ดอยสะเก็ด สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยครั้งแรกเจ้าหน้าที่กงสุลฯ คิดว่าเป็นคณะทัวร์จีน แต่สอบถามแล้วทราบว่า เป็นชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ธ.ค. 2558

อีสานอุณหภูมิลดต่อเนื่อง ชาวบ้านหนาว-ท่องเที่ยวคึกคัก​

​

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จ.เลย อุณหภูมิลดฮวบเหลือ 6 องศาฯ ชาวบ้านขาดเครื่องนุ่งห่มกันหนาว วอนช่วย ด้าน นครพนม เหลือ 13 องศาฯ นทท.แห่แคมปิ้ง สัมผัสอากาศหนาว ที่เขาภูพานน้อย ...

ส่วนที่เมื่อเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อ.ภูเรือ บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิลดฮวบเหลือ 6 องศาฯ ขณะที่นักท่องเที่ยว แห่สัมผัสอากาศหนาว พร้อมเก็บภาพเป็นที่ระลึก

ส่วน ที่บ้านเหล่ากอหก บ้านนาเจริญ บ้านนาลึ่ง อ.นาแห้ว หมู่บ้านที่อยู่ในร่องเขาเขตรอยต่อบ้านร่มเกล้า อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก และพรมแดน สปป.ลาว อุณหภูมิลดเหลือ 10.12 องศาฯ ชาวบ้านโดยเฉพาะเด็กเล็ก และคนชรา ทนความหนาวไม่ไหว ต้องออกมานั่งรอบกองไฟ เพื่อบรรเทาความหนาว

ที่บ้านหินสอ ต.ปลาบ่า อ.ภูเรือ เช้าวันนี้อุณหภูมิอยู่ที่ 10-13 องศา ชาวบ้านทุกครัวเรือนต้องออกมานั่งผิงไฟหน้าบ้าน กินอาหาร ทำกิจกรรมร่วมกัน โดยชาวบ้านวอนหน่วยงานรัฐ หรือภาคเอกชน บริจาคผ้าห่ม เครื่องกันหนาว

ขณะที่ จ.นครพนม สภาพอากาศยังคงหนาวเย็นต่อเนื่อง ในช่วง 2-3 วันที่ ผ่านมา ล่าสุด เช้านี้จากการตรวจวัดอุณหภูมิของสถานีอุตุนิยมวิทยานครพนม พบอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดที่ประมาณ 13-14 องศาเซลเซียส ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ ประสบปัญหาภัยหนาว ขณะเดียวกันกลับส่งผลดีต่อแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางมาท่องเที่ยว จัดแคมปิ้ง สัมผัสอากาศหนาว

เช่นเดียวกันกับ พื้นที่ เขาภูพานน้อย ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ช่วงหน้าหนาว จะมีประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางมาจัดกิจกรรมแคมปิ้ง กางเต็นท์ นอน สัมผัสอากาศหนาว และยังสามารถชมทัศนียภาพ ความงามทางธรรมชาติ และทิวทัศน์ที่สวยงาม บนเขาภูพาน โดยทาง อบต.พิมาน ได้มีการพัฒนาให้เป็นศูนย์เรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ และเป็นสถานที่เข้าค่ายจัดกิจกรรมต่างๆ และจัดพื้นที่ให้จัดกิจกรรมแคมปิ้ง.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ธ.ค. 2558

เร่งช่วยหนาว-เมาตายไม่รู้เรื่อง​

​

นายวินัย วิทยานุกูล ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแจ้งว่าจะประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาวได้นั้น จะต้องมีอุณหภูมิลดต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส ต่อเนื่อง 3 วันติดต่อกัน ซึ่งต่างจากที่ผ่านมากำหนดไว้ที่ 15 องศาฯจึงเป็นปัญหาไม่สามารถที่จะใช้งบจัดซื้อผ้าห่มแจกจ่ายช่วยราษฎรได้

จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน และภาคเอกชน ช่วยกันบริจาคทรัพย์สิ่งของ เพื่อนำไปซื้อหรือนำผ้าห่มไปแจกจ่ายช่วยเหลือพี่น้องราษฎรที่ประสบภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือ ที่กำลังเข้าสู่ภาวะหนาวเต็มฤดูกาล นายสุพจน์ ปั้นทรัพย์ หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยากาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เกิดภาวะ “หนาวน้ำค้าง” ล่าสุดอุณหภูมิในพื้นที่เริ่มขยับขึ้น เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 วัดได้ 15.1 องศาฯ สภาวะดังกล่าวจะส่งผลให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน จึงขอให้รักษาสุขภาพให้ดี อย่างไรก็ตาม อากาศจะหนาวต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ตามยอดเขา ประกอบด้วย อ.สมเด็จ ห้วยผึ้ง เขาวง นาคู กุฉินารายณ์ สามชัย ท่าคันโท สหัสขันธ์ รอยต่อ จ.สกลนคร มุกดาหาร และอุดรธานี

จ.มุกดาหาร นายปรเมศร์ ไกรฤกษ์ หัวหน้าฝ่ายกิจการสังคมสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้นำเครื่องนุ่งห่มกันหนาวประกอบด้วยผ้าห่ม 800 ผืน และหมวกไหมพรม 800 ใบ มามอบให้กับราษฎรที่ประสบภัยหนาวที่ อบต.กุดแข้ อ.เมือง จ.มุกดาหาร โดยมีนายธวัชชัย ธรรมรักษ์ รอง ผวจ.มุกดาหาร นายสันธาน สร้อยสำโรง นายอำเภอเมืองมุกดาหาร นายเฮือง สีหาวงษ์ นายก อบต.กุดแข้ ให้การต้อนรับและร่วมรับมอบเครื่องกันหนาว ซึ่งพื้นที่ ต.กุดแข้ มี 6 หมู่บ้าน 1,006 ครัวเรือน ประชากร 3,824 คน ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน นายปรเมศร์กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ห่างไกลที่ประสบภัยหนาว โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สนง.ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จึงได้นำผ้าห่มมามอบให้กับราษฎรที่ประสบภัยหนาวในพื้นที่ ต.กุดแข้ ซึ่งเป็นอีกพื้นที่หนึ่งเมื่อถึงฤดูหนาวอากาศจะหนาวจัดเนื่องจากพื้นที่โดยรอบเป็นภูเขา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎร ทั้งนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

จ.นครราชสีมา ตอนเช้าวันเดียวกัน ร.ต.ท.กุศล แก้วสารพัดนึก พงส.สภ.ด่านขุนทด ไปชันสูตรพลิกศพนายบุญสวน ทนงใจ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 10 ต.ด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ใต้ถุนสูง มุมบ้านด้านบนพบร่างนายบุญสวน สภาพนุ่งกางเกงขาสั้นตัวเดียวมีผ้าห่มคลุมร่างกาย นอนตายเลือดไหลออกทางปากและจมูก ตรวจสอบไม่พบบาดถูกทำร้าย และไม่มีร่องรอยการต่อสู้ สอบถามนางนงลักษณ์ ทนงใจ อายุ 35 ปี บุตรสาวผู้ตาย ทราบว่า จะมาชวนพ่อไปทำบุญที่วัดในหมู่บ้าน เพราะได้นัดหมายกันไว้แล้ว ปกติบิดาจะดื่มเหล้าขาวเป็นประจำ แต่ไม่ทราบว่ามีโรคประจำตัวอะไรหรือไม่ ตำรวจคาดว่าผู้ตายอาจจะดื่มเหล้ามากไปหน่อย ประกอบกับเมื่อคืนที่ผ่านมา อากาศหนาวเย็นมาก อุณหภูมิลดลงแบบฮวบฮาบ จาก 30 องศา ลดลงมาอยู่ที่ 15 องศา อาจทำให้หนาวตายก็เป็นได้ นำศพส่ง รพ.ด่านขุนทดชันสูตรหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป.

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 20 ธ.ค. 2558

ไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นลงถึง 21 ธ.ค. อ่าวไทยคลื่นสูง​

​

ไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นลงไปจนถึงวันที่ 21 ธันวาคม ก่อนอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ภาคเหนือ-อีสาน และกลางตอนบน ยังอากาศเย็นตอนเช้า ขณะที่ อ่าวไทยคลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ...

วันที่ 20 ธันวาคม จากการตรวจสอบจากระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวี เดอะเวตเตอร์ คอมพานี ปรากฏว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป กับมีลมแรง โดยบริเวณเทือกเขาสูงในภาคเหนือจะมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงและหนาวเย็นลง โดยจะหนาวเย็นลงไปจนถึงวันที่ 21 ธันวาคม 2558 ความกดอากาศสูงกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน จะยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย

ส่วนการคาดการณ์ปริมาณฝนตั้งแต่ตอนบนถึงตอนกลางของประเทศในวันนี้ พบว่า ประเทศไทยตอนบนอากาศที่หนาวเย็นทำให้ไม่มีกลุ่มฝนสะสม มีเพียงที่ภาคอีสาน ที่จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ อุบลราชธานี ที่อาจจะมีฝนตกเล็กน้อยในคืนนี้

ด้านภาคใต้วันนี้ มีกลุ่มฝนก่อตัวที่จังหวัดสงขลาในช่วงสายวันนี้ ทำให้มีฝนตกเล็กน้อย และจะสลายไป จากนั้นในช่วงดึกจะมีกลุ่มฝนแผ่ปกคลุมที่จังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาสทำให้มีฝนตกปานกลาง ส่วนที่จังหวัดนครศรีธรรมราชมีฝนตกเล็กน้อย หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้มีแนวโน้มเคลื่อนตัวมาปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างในวันพรุ่งนี้ (21 ธ.ค.) หลังจากนั้นจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ ในช่วงวันที่ 22-23 ธันวาคม 2558 ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด

ส่วนสภาพอากาศในแต่ละภาควันนี้

ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า ท้องฟ้าไม่มีเมฆทำให้แดดแรงในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 12 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส

ภาคอีสาน อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง มีเมฆบางส่วนอุณหภูมิต่ำสุด 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง ท้องฟ้ามีเมฆเล็กน้อย แดดแรงในช่วงกลางวันอุณหภูมิต่ำสุด 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 องศาเซลเซียส ตั้งแต่ชุมพรขึ้นมาทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ฝั่งอันดามัน มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานคร อากาศเย็นในตอนเช้า มีเมฆน้อย แดดแรงในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส ในช่วงกลางดึก อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ในช่วงบ่ายวันนี้

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ธ.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ถ่านอัดแท่ง คลินิคเทคโนโลยี อุดรฯ​

เผยแพร่เมื่อ 3 ก.พ. 2014​

วิธีทำถ่านอัดแท่ง โดย คลินิคเทคโนโลยี ศูนย์วิทยาศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 086-8896160

 

การผลิตถ่านอัดแท่ง (ช่วยลดมลพิษทางอากาศ)​

อัปโหลดเมื่อ 2 ก.ค. 2011​

วีดีทัศน์เพื่อการส่งเสริม เรื่อง การผลิตถ่านอัดแท่งคุณภาพสูงจากวัสดุเหลือ­ใช้ทางการเกษตร โดย ศูนย์ปฏิบัติการวิศวกรรมพลังงานและสิ่งแวด­ล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม ประเทศไทย

 

เครื่องอัดถ่านแท่งด้วยมือ​

อัปโหลดเมื่อ 3 พ.ค. 2011​

สอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานพลังงานจังหวัดเชียงราย ถนนศูนย์ราชการ ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 57100 โทร 053-751109-10

 

กินอยู่คือ - เตาถ่านเสน่ห์ครัวไทย​

เผยแพร่เมื่อ 9 ก.พ. 2014​

 

กินอยู่คือ - เตาอั้งโล่ ครัวไทย​

เผยแพร่เมื่อ 17 พ.ย. 2012​

 

วิจัยดิน ทำเตาซุปเปอร์อั้งโล่​

อัปโหลดเมื่อ 13 ก.ค. 2011​

สารคดี รู้ค่าพลังงาน ตอน วิจัยดิน ทำเตาซุปเปอร์อั้งโล่ ดำเนินรายการโดย ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ผลิตโดย บริษัท ว็อชด็อก จำกัด ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดี เวลา 24.00น. (หลังละครเป็นต่อ) ทางช่อง 3

 

เตาอั้งโล่หรือเตาถ่าน วิถีชีวิตพลังงานเดิมของคนไทย​

เผยแพร่เมื่อ 9 ก.ย. 2013​

 

เตาฟืนแบบมีปล่อง​

เผยแพร่เมื่อ 18 พ.ย. 2012​

 

เตาชีวมวลอโศก​

อัปโหลดเมื่อ 4 ก.ย. 2011
เตาดิน ซืเมนต์ ท่านสาลิโป พัฒนาที่ หินผาฟ้าน้ำ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ​

 

เตาแกลบชีวมวลพ่อเสาร์แก้ว ใจบาล​

อัปโหลดเมื่อ 17 ธ.ค. 2011​

เตาแกลบชีวมวล&แก๊สชีวภาพ(มูลวัว) ต้นแบบพลังงานทดแทน ของ พ่อเสาร์แก้ว ใจบาล ปราชญ์ชาวบ้านที่บ.บัว หมู่ที่ ๔ ต.บ้านตุ่น อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา โทร.081-9501150,054-427704

 

การทำเตาฟืนไร้ควัน แบบง่ายง่าย​

เผยแพร่เมื่อ 13 พ.ค. 2014
เป็นการสาธิต และสอนการทำเตาฟืนไร้ควัน จากวัสดุเหลือใช้​

 

การเผาถ่านไร้ควัน​

เผยแพร่เมื่อ 17 มิ.ย. 2013
การเผาถ่านไร้ควัน​

 

พิจิตร ผลิตเตาเผาขยะไร้ควันใช้ในครัวเรือน​

เผยแพร่เมื่อ 30 ก.ค. 2014​

พลังงานจังหวัดพิจิตรส่งเสริมชาวบ้าน ผลิตเตาเผาขยะไร้ควันไร้กลิ่น ใช้เองในครัวเรือน ลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ลงทุนต่ำ

 

เตาเผาถ่าน ซุปเปอร์ 84​

อัปโหลดเมื่อ 21 ส.ค. 2010​

สารคดีรู้ค่าพลังงาน ตอน เตาเผาถ่าน ซุปเปอร์ 84 ดำเนินรายการโดย ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ผลิตโดยบ.ว็อชด็อก จำกัด ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดีวันเวลา 23.55 น. ทางช่อง 3