ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

ยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในฟิลิปปินส์เพิ่มเป็น 11 คนแล้ว​

​

ยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในฟิลิปปินส์เพิ่มเป็น 11 คนแล้ว

มะนิลา 16 ธ.ค. – หน่วยกู้ภัยฟิลิปปินส์ใช้เรือเร็วเข้าพื้นที่ประสบอุทกภัยในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ต้องขึ้นไปอาศัยอยู่บนหลังคาบ้านตามต่างจังหวัดของฟิลิปปินส์ในวันนี้ ภายหลังไต้ฝุ่นเมอโลร์พัดกระหน่ำทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน และไม่มีไฟฟ้าใช้หลายล้านคน

พายุไต้ฝุ่นพัดกระหน่ำทางมหาสมุทรแปซิฟิกบ่ายวันจันทร์ ก่อให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างทางภาคกลางของประเทศ และฝนตกหนักในกรุงมะนิลา ขณะที่ไต้ฝุ่นเคลื่อนตัวไปทางทะเลจีนใต้แล้ว อย่างไรก็ตามชุมชนประมงและเกษตรกรรมยังคงเผชิญกับสภาวะน้ำท่วม เจ้าหน้าที่จังหวัดมินโดโรกล่าวว่า ระดับน้ำท่วมสูงขึ้นที่เกาะมินดาเนาเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านต้องขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้วแต่ผู้คนยังคงอาศัยอยู่บนหลังคา .-สำนักข่าวไทย

พบศพผู้อพยพอิรักอายุเพียง 6 และ 2 ขวบ ทางฝั่งตุรกี​

​

พบศพผู้อพยพอิรักอายุเพียง 6 และ 2 ขวบ ทางฝั่งตุรกี

อิสตันบูล 16 ธ.ค. – สำนักข่าวโดกันของตุรกีรายงานว่า พบศพเด็กชาวอิรักสองคน อายุ 6 ปี และ 2 ปีในทะเลอีเจี้ยนทางฝั่งตุรกี ขณะพยายามเดินทางมากรีซซึ่งเป็นประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป(อียู)

กลุ่ม ชาวประมงท้องถิ่นพบศพของเด็กชาวอิรักทั้งสองคนลอยอยู่ในทะเลจึงได้ส่งมาให้ กับหน่วยยามฝั่ง สื่อท้องถิ่นตุรกีรายงานว่า เด็กทั้งสองอยู่ในกลุ่มผู้อพยพจำนวน 200 คน ที่พยายามข้ามทะเลอีเจี้ยนเข้ามายังกรีซ ส่วนคนอื่นๆได้รับความช่วยเหลือไว้ได้ ทั้งนี้มีผู้อพยพราว 650,000 คน ส่วนใหญ่มาจากอิรักและซีเรียที่พยายามข้ามทะเลอีเจี้ยนเข้ามาในปีนี้เพื่อ หวังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีกว่าในประเทศสมาชิกอียู แต่คาดว่ามีผู้อพยพราว 500 คน ซึ่งรวมถึงเด็กจำนวนมากที่เสียชีวิตลงระหว่างการเดินทาง .- สำนักข่าวไทย

พายุและลูกเห็บถล่มนครซิดนีย์​

​

ซิดนีย์ 16 ธ.ค.- นครซิดนีย์ เมืองใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียถูกพายุถล่มในวันนี้ โดยมีทั้งลูกเห็บขนาดใหญ่เท่าลูกกอล์ฟและลมกระโชกแรงถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เจ้าหน้าที่รถพยาบาลแจ้งว่า ย่านเคอร์เนลล์เดือดร้อนหนักที่สุดเพราะลมกระโชกแรงสูงสุดถึง 213 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีผู้บาดเจ็บ 2 คน คนหนึ่งตกใจกะทันหัน อีกคนได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ประชาชนในย่านนั้นเผยว่า เสียงลมพายุดังราวกับเสียงขบวนรถไฟแล่นผ่าน ทุกอย่างพังราบไปหมด ต้นไม้และเสาไฟฟ้าล้ม อาคารเสียหายหลายหลัง หนึ่งในนั้นเป็นโรงกลั่นน้ำจืดจากน้ำทะเล ถนนหนทางถูกน้ำท่วม รถบรรทุกพลิกหงาย

ด้านสำนักอุตุนิยมวิทยาเตือนพื้นที่ตอนกลางของนครซิดนีย์ให้ระวังลมกระโชกแรง ลูกเห็บขนาดใหญ่ และฝนตกหนัก รวมไปถึงท่าอากาศยานนานาชาติซิดนีย์ คิงส์ฟอร์ด สมิธและสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์ หลังจากพายุความรุนแรงเท่าทอร์นาโดเริ่มกระหน่ำพื้นที่ริมฝั่งเมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 06.30 น.วันนี้ตามเวลาในไทย พร้อมกับเตือนว่าพื้นที่ทางเหนือและทางตะวันตกของซิดนีย์จะได้รับผลกระทบเช่นกันเนื่องจากพายุกำลังเคลื่อนตัวขึ้นไปทางเหนือ ด้านโฆษกท่าอากาศยานซิดนีย์แจ้งว่า ยังคงเปิดทำการแต่เที่ยวบินอาจล่าช้าในระหว่างที่พนักงานภาคพื้นดินรับมือกับพายุ.-สำนักข่าวไทย

เมืองเดนเวอร์ของสหรัฐหิมะตกหนักที่สุดในรอบกว่าร้อยปี​

​

เดนเวอร์ 16 ธ.ค.- เมืองเดนเวอร์ เมืองเอกของรัฐโคโลราโดของสหรัฐเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมมีหิมะตกหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2440

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า บางพื้นที่ในเมืองเดนเวอร์มีหิมะตกหนาถึง 17 นิ้ว ส่วนที่ท่าอากาศยานนานาชาติเดนเวอร์มีหิมะตกหนา 6.7 นิ้ว เว็บไซต์ 9News รายงานว่า หิมะที่ตกเมื่อวานนี้ทำลายสถิติวันที่ 15 ธันวาคม 2449 หรือเมื่อ 118 ปีก่อนที่มีหิมะตกหนา 2.8 นิ้วลงอย่างราบคาบ

เดือนที่แล้วท่าอากาศยานนานาชาติเดนเวอร์ต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่า 100 เที่ยว เนื่องจากพายุพัดพาหิมะจำนวนมากมาจากเทือกเขาร็อกกี้ที่อยู่ทางทิศตะวันตกของเมือง.-สำนักข่าวไทย

เผยไอเอสเล็งบ่อน้ำมันในลิเบียและหลายประเทศนอกซีเรีย​

​

วอชิงตัน 16 ธ.ค.- เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่า กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) กำลังมองหาบ่อน้ำมันในลิเบียและหลายประเทศนอกเหนือซีเรียซึ่งเป็นที่มั่นหลักและถูกไอเอสยึดบ่อน้ำมันและก๊าซไว้แล้วถึงร้อยละ 80

เจ้าหน้าที่สหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับผู้สื่อข่าวที่กรุงวอชิงตันว่า สหรัฐกำลังตรวจสอบอย่างละเอียดว่าใครเป็นผู้ดูแลบ่อน้ำมัน ท่อส่ง เส้นทางลำเลียงและโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ในพื้นที่ที่เสี่ยงตกเป็นเป้าหมายในลิเบียและคาบสมุทรไซนาย เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวถึงราคาน้ำมันโลกที่ลดลงมากในขณะนี้ว่า ให้ทั้งผลดีและผลเสียต่อปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มไอเอส ผลดีคือทำให้ไอเอสมีรายได้จากน้ำมันลดลง ผลเสียคือทำให้บริษัทน้ำมันเลิกจ้างคนงาน เปิดช่องให้กลุ่มไอเอสจ้างคนงานตกงานเหล่านี้ไปผลิตน้ำมันในพื้นที่ยึดครอง

สหรัฐประเมินว่า กลุ่มไอเอสทำเงินจากการจำหน่ายน้ำมันมากถึงเดือนละ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,440 ล้านบาท) โดยใช้รถบรรทุกลำเลียงผ่านพื้นที่ที่มีการสู้รบในซีเรียและบางครั้งอาจไกลกว่านั้น สหรัฐจึงได้รวมรถรถบรรทุกน้ำมันไว้ในเป้าหมายปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทำลายแหล่งน้ำมันของไอเอสด้วย.-สำนักข่าวไทย

แอลเอจะเปิดโรงเรียนรัฐตามปกติในวันนี้หลังปิดเพราะอีเมล์ขู่ก่อเหตุร้าย​

​

ลอสแอนเจลิส 16 ธ.ค.- นายรามอน คอร์ทิเนส ผู้อำนวยการเขตการศึกษาลอสแอนเจลิส (แอลเอ) แจ้งว่า โรงเรียนรัฐทุกแห่งจะเปิดการเรียนการสอนตามปกติในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หลังจากปิดไปกว่า 10,000 โรงเพราะมีอีเมล์ขู่จะก่อเหตุร้าย

ก่อนหน้านั้นนายคอร์ทิเนสกล่าวระหว่างแถลงข่าวว่า จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาหลายครั้งทำให้เขาไม่ยอมเสี่ยง จึงได้สั่งปิดโรงเรียนของรัฐทั้งหมดตามที่มีผู้ส่งอีเมล์ขู่จะก่อเหตุร้ายด้วยระเบิดและปืนยาวกับโรงเรียนในลอสแอนเจลิส เจ้าหน้าที่ระบุว่า อีเมล์นี้ถูกส่งผ่านเยอรมนี แต่คาดว่าต้นทางอยู่ในสหรัฐ ด้านนายเอริก การ์เซตตี นายกเทศมนตรีลอสแอนเจลิสและนายชาร์ลี เบ็ค ผู้บังคับการตำรวจลอสแอนเจลิสเห็นด้วยว่า ไม่ควรเสี่ยงเพราะคำขู่ระบุถึงเขตการศึกษาลอสแอนเจลิสโดยเฉพาะ

คำสั่งปิดโรงเรียนรัฐในลอสแอนเจลิสที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้ทำให้นักเรียนราว 643,000 คนและผู้ปกครองตำหนิที่ทางการออกคำสั่งกะทันหันแต่ไม่แจ้งอย่างทั่วถึงและทันการ นักเรียนหลายคนทราบจากสังคมออนไลน์แทนที่จะทราบจากทางการ ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางและนายวิลเลียม แบรตตัน ผู้บังคับการตำรวจนิวยอร์กมองว่า ทางการลอสแอนเจลิสตื่นตูมเกินกว่าเหตุ เพราะนิวยอร์กก็ได้รับคำขู่ลักษณะเดียวกันแต่ดูออกว่าเป็นคำขู่หลอก ด้าน ส.ส.แบรด เชอร์แมน รัฐแคลิฟอร์เนียจากพรรคเดโมแครตเผยว่า ผู้ส่งอีเมล์อ้างว่าเป็นมุสลิมเคร่งครัดที่เตรียมก่อเหตุร้ายด้วยระเบิด แก๊สทำลายประสาทและปืนยาวพร้อมกับเพื่อนร่วมรบ 32 คน เพราะถูกรังแกที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในลอสแอนเจลิส แต่ดูแล้วไม่น่าเชื่อถือ.-สำนักข่าวไทย

ที่มา เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

ประชาชนทั่วสารทิศ มาร่วมในพิธี พระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระสังฆราช​

​

ประมวลเหตุการณ์และบรรยากาศของการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่วัดเทพศิรินทราวาสฯ ประชาชนทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมพิธีสำคัญในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก...

บรรยากาศวัดเทพศิรินทราวาส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ก่อนการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประชาชนจากทั่วสารทิศต่างพร้อมใจกันสวมชุดไว้ทุกข์สีดำ เดินทางมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก บางคนเดินทางมาจากต่างจังหวัด จับจองพื้นที่ในบริเวณวัดเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในพระราชพิธีสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดพื้นที่ไว้ 2 โซน โซนที่ 1 บริเวณพระเมรุ สำหรับคณะบุคคลสำคัญ และโซนที่ 2 บริเวณสนามหญ้าพระศรีมหาโพธิ์ สำหรับประชาชน

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 16 ธ.ค. 2558

แพลงก์ตอนบลูม' ทำน้ำทะเลหาดชุมพร เขียว-เหม็น หวั่นปลาตาย​

​

เจ้าหน้าที่จับตาปรากฏการณ์"แพลงก์ตอนบลูม"ที่ชายหาดอำเภอละแม จ.ชุมพร ทำน้ำทะเลเปลี่ยนสี และส่งกลิ่นเหม็น เป็นระยะทางกว่า 40 กม. หวั่นสัตว์น้ำขาดออกซิเจนตาย

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 16 ธ.ค.58 น.ส.ราตรี จันทรัตน์ ประมงอำเภอละแม จ.ชุมพร ลงพื้นที่หมู่ 9 ตำบลสวนแตง อ.ละแม หลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่าในพื้นที่ว่า ขณะนี้เกิดปรากฏการณ์ ‘แพลงก์ตอนบลูม’ คือการที่แพลงก์ตอนโตเร็วจนออกซิเจนไม่พอ หรือที่ชาวบ้านเรียกปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ บริเวณริมชายหาดอำเภอละแม ยาวไปจนถึงอำเภอหลังสวน ระยะทางกว่า 40 กิโลเมตร ส่งผลให้น้ำทะเลมีสีเขียวคล้ำและมีกลิ่นเหม็นคาว

ด้าน น.ส.ราตรี เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์ ‘แพลงก์ตอนบลูม’ เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำ แต่ครั้งนี้ยอมรับว่ามีจำนวนมากกว่าที่ผ่านมา สำหรับปรากฏการณ์ดังกล่าว เริ่มเกิดตั้งแต่เมื่อวาน และกินพื้นที่เฉพาะในเขตอำเภอละแม กว่า 12 กม. ไปจนถึง อำเภอหลังสวนอีก คาดว่ามีความยาว ไม่ต่ำกว่า 40 กม. และหากมีจำนวนมาก ก็จะส่งผลให้น้ำขาดออกซิเจน ทำให้ปลาและสัตว์ทะเลบางส่วนตายได้ ซึ่งจากการสังเกตพบว่ามีปลาบางชนิดเริ่มลอยคอขึ้นมาหายใจตามผิวน้ำแล้ว เบื้องต้นได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ต้นสังกัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อมาเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบต่อไป.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 16 ธ.ค. 2558

มาแรง 'เมล่อน' ผลไม้เศรษฐกิจ! ชาวสวนแห่ปลูก ชี้ราคาดี มีอนาคต​

​

ชาวสวนที่สุโขทัย พลิกวิกฤติจากภัยแล้ง น้ำไม่มี มาปลูก ‘เมล่อน’ ผลไม้เศรษฐกิจตัวใหม่ สร้างโรงเรือนปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วปลูกต่อหมุนเวียนได้ตลอดทั้งปี ทั้งสามารถเขียนลายลงบนผล เพิ่มมูลค่าได้อีกด้วย...

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.58 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 60/2 หมู่บ้านชานเมืองพัฒน์ ม. 12 ต.ยางซ้าย อ.เมืองสุโขทัย ได้พบกับนายยศวัฒน์ ศิริอธิพันธ์ อายุ 54 ปี เกษตรกรชาวสุโขทัยและเป็นเจ้าของ "สุโขทัยเมล่อนฟาร์ม" ผลไม้เศรษฐกิจตัวใหม่ ที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภค และเป็นพืชใช้น้ำน้อยเหมาะที่จะปลูกสร้างรายได้ในช่วงที่ประสบภาวะภัยแล้ง

นายยศวัฒน์ เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยทั้งทำนาปลูกข้าว ทำไร่พริก และทำไร่ยาสูบ แต่ต้องประสบปัญหาภัยแล้ง ทำให้ขาดทุนมีหนี้สินจำนวนมาก หลังจากรัฐบาลมีนโยบายให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยแทน ตนซึ่งชอบศึกษานวัตกรรมใหม่ๆ จึงหาข้อมูลด้วยตัวเองจากอินเทอร์เน็ต พบว่า เมล่อน เป็นผลไม้ที่น่าสนใจ และมีอนาคตสำหรับเกษตรกร จึงปรับเปลี่ยนพื้นที่ไร่ครึ่งบริเวณหน้าบ้าน สร้างโรงเรือนคลุมด้วยมุ้ง ป้องกันเพลี้ยไฟและแมลงหวี่ขาว จำนวน 9 โรง ทดลองปลูกเมล่อน 2 สายพันธุ์ คือพันธุ์กรีนเนต (เนื้อสีเขียว) และพันธุ์พอร์ตออเร้นจ์ (เนื้อสีส้ม) ด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์ ผลผลิตที่ได้ออกมาน่าพอใจ จึงขยายโรงเรือนเพาะปลูกเพิ่มขึ้นอีก 16 โรงเรือน ในปัจจุบัน

สำหรับวิธีการปลูกนั้น สามารถปลูกได้ถึง 500 ต้น ต่อ 1 โรงเรือน โดยจะนำต้นกล้าเมล่อนที่เพาะเมล็ดไว้ประมาณ 10 วัน นำลงปลูกในถุงพลาสติกบรรจุแกลบดำโดยปลูกแนวตั้งเพื่อให้เถาของต้นเลื้อยขึ้นไปตามแนวเชือกที่จัดไว้เป็นราว ซึ่งจะใช้พื้นที่น้อยกว่าการปลูกลงดินและใช้วิธีน้ำหยด ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ที่อุณหภูมิระหว่าง 20-38 องศาฯ ใช้เวลาประมาณ 60-70 วัน ก็สามารถเก็บผลส่งขายได้ มีรสชาติหอมหวาน ขนาดผลและน้ำหนักตรงกับความต้องการของตลาดคือ ผลละไม่เกิน 2 กก. หลังเก็บผลแล้วจะนำกล้าชุดใหม่มาปลูกแทนต้นเดิมที่ตัดทิ้ง หมุนเวียนแบบนี้ได้ตลอดทั้งปี

"ทยอยตัดผลส่งขายได้สัปดาห์ละไม่ต่ำกว่า 700 กก. ในราคาเกรด A กก.ละ 90 บาท เกรด B กก.ละ 60 บาท สร้างรายได้สูงถึงคราวละ 40,000-50,000 บาท สามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลาเพียงปีครึ่งเท่านั้น นับว่าเป็นผลไม้เศรษฐกิจตัวใหม่ที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกรชาวสุโขทัย ที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้งอยู่ในขณะนี้"

นายยศวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ตนได้ทดลองใช้ปลายปากกาเขียนชื่อ หรือลวดลายต่างๆ บนผิวของผลเมล่อน ขณะอายุได้ประมาณ 30 วัน ปรากฏว่าเมื่อถึงช่วงเวลาเก็บหรือประมาณ 60-70 วัน ลวดลายเหล่านั้นก็จะนูนขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจน นับเป็นการเพิ่มมูลค่าของผลผลิตได้อีกทางหนึ่ง.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 16 ธ.ค. 2558

ไทยเบฟฯ ปันอุ่นปีที่ 16 มอบผ้าห่มพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ​

​

ไทยเบฟฯ ร่วมมอบความอบอุ่นต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 นำทีมคาราวานผ้าห่มผืนเขียวลงพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ หวังเข้าถึงพื้นที่ห่างไกลได้มากยิ่งขึ้น...

นางธารทิพย์ ศิรินุพงศ์ ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาชุมชน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยเบฟฯ ผนึกพลังการแบ่งปันไออุ่นร่วมกับพันธมิตรจากหลายภาคส่วน เดินหน้าโครงการ "ไทยเบฟรวมใจต้านภัยหนาว" ปีที่ 16 ตอกย้ำการเป็นผู้นำแนวคิดของการสร้างชุมชุนดีมีรอยยิ้ม และการเป็นผู้ให้อย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ผ่านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กับคาราวานการส่งมอบผ้าห่มผืนเขียวจำนวนกว่า 3,200,000 ผืน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยที่ประสบภัยหนาวในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมชูแนวคิดของการเป็นต้นแบบแห่งการแบ่งปันไออุ่น

ทั้งนี้ การเข้าถึงพื้นที่ให้ได้มากยิ่งขึ้นนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่ได้เห็นการมีส่วนร่วมของทั้งภาครัฐ เอกชน ดารา ศิลปิน หน่วยงานต่างๆ มาร่วมกันบริจาคเงินสมทบทุนในกิจกรรม "1 ปัน 1 อุ่น" เพื่อบริจาคผ้าห่มให้กับพื้นที่ประสบภัยหนาวเพิ่มเติมอีก 1 จังหวัด รวมเป็น 16 จังหวัด โดยไทยเบฟฯ ตั้งใจจะนำคาราวานของผู้ใจบุญไปร่วมกันแจกผ้าห่มให้กับพี่น้องผู้ประสบภัยในจังหวัดที่ 16 ด้วย

นางธารทิพย์ กล่าวต่อว่า โครงการไทยเบฟรวมใจต้านภัยหนาวดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ พนักงานไทยเบพฯ พร้อมด้วยพันธมิตรจากหลายภาคส่วน นักแสดงจิตอาสา อาทิ ทชภณ พลกองเส็ง รอง เค้ามูลคดี คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ กรุณพล เทียนสุวรรณ อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร และ ม.ล.สราลี กิติยากร นำคาราวานผ้าห่มผืนเขียวกว่า 102,000 ผืน ไปร่วมแบ่งปันไออุ่นให้ผู้ประสบภัยหนาว 8 จังหวัดของภาคเหนือ ได้แก่ นครสวรรค์ พิจิตร อุทัยธานี กำแพงเพชร ตาก ลำพูน เชียงใหม่ และเชียงราย เป็นที่เรียบร้อย ท่ามกลางบรรยากาศของการต้อนรับอย่างอบอุ่น อบอวลไปด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะทั้งของผู้ให้และผู้รับด้วยความเป็นกันเอง

นางธารทิพย์ กล่าวต่อว่า นโยบายปีนี้ และปีต่อๆ ไปไทยเบฟฯ จะพยายามเข้าถึงพื้นที่ห่างไกล และทุรกันดารอย่างแท้จริงให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ไทยเบฟฯ มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการแบ่งปันไออุ่นแก่ผู้ประสบภัยหนาว และยังมุ่งมั่นที่จะสานต่อความสุข และสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันให้ขยายพื้นที่ออกไปให้มากยิ่งขึ้นทุกๆ ปี เพื่อสร้างความสุขที่ยั่งยืนให้สังคมไทยต่อไป.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 16 ธ.ค. 2558

บนดอยที่ตาก 13 องศาฯ นร.ขาดเครื่องกันหนาว ใช้ผ้าห่มคลุมโปงไปเรียน​

​

ที่ จ.ตาก อุณหภูมิลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะบนดอยสูง เด็กนักเรียนขาดแคลนเครื่องกันหนาว ต้องใช้ผ้าห่มคลุมโปงมาเรียนหนังสือ โดยครูให้นั่งล้อมวงเรียนกลางแดด เพื่อสร้างความอบอุ่น ...

วันที่ 16 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศที่ จ.ตาก ว่า อุณหภูมิเริ่มลดลงต่อเนื่อง โดยเช้าวันนี้ที่ดอยมูเซอ วัดได้ 13.4 องศาเซลเซียส ต่ำสุดในรอบปี ที่อำเภออุ้มผางวัดได้ 15 องศาเซลเซียส อำเภอแม่สอด วัดได้ 17 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เด็กนักเรียนตามโรงเรียนในพื้นที่สูง ที่ดอยมูเซอและที่อุ้มผาง ซึ่งขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว ต้องใช้ผ้าห่มคลุมโปงเดินฝ่าความหนาวเย็นไปโรงเรียน ขณะที่ครูต้องให้เด็กออกมานั่งล้อมวงเรียนหนังสือกลางแดด เพื่อสร้างความอบอุ่น

นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตาก เร่งแจกผ้าห่มกันหนาวให้กับประชาชน โดยเฉพาะบนยอดดอยสูง ในขณะที่ภาคเอกชนก็ได้ร่วมมอบผ้าห่มกันหนาวให้กับราษฎรในหลายพื้นที่แล้ว.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 16 ธ.ค. 2558

อีสาน-เหนือ อากาศเย็นลง ใต้ฝนเพิ่ม เรือเล็กงดออกจากฝั่ง16-19 ธ.ค.​

​

อีสาน-เหนือ อากาศจะหนาวเย็นลง ส่วนภาคใต้ ฝนเพิ่มมากขึ้น คลื่นสูง 2-4 ม. เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง 16-19 ธ.ค.นี้ พายุไต้ฝุ่น “เมอโลร์” อ่อนกำลังลงเข้าปลายแหลมญวน คาดส่งผลกระทบภาคใต้ไทย

วันที่ 16 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ทางตอนบนของประเทศไทย เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเกิดขึ้น เพราะจากการตรวจสอบจากระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวี ร่วมกับเดอะเวตเตอร์ คอมพานี พบว่า มวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่เข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว และจะแผ่เข้าปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 19 ธันวาคมนี้ ซึ่งลักษณะเช่นนี้ก็จะทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเกิดขึ้นได้บางแห่ง และอากาศจะหนาวเย็นลง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลงประมาณ 4-6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคอื่นๆ อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ดังนั้นในระยะนี้ประชาชนควรดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงหนาวเย็นลง

สำหรับภาคใต้ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ก็จะมีกำลังแรงขึ้น จึงทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป จะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นลมพัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือ เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงวันที่ 16-19 ธันวาคม นี้

ส่วนภาพถ่ายดาวเทียมเช้านี้ก็พบว่า ภาคเหนือ ท้องฟ้าโปร่ง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันนี้มีเมฆเป็นบางส่วน ส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นกลางและชั้นสูงทางตะวันตกของภาค ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นกลางและชั้นสูง พบกลุ่มเมฆฝนในบางพื้นที่ทางตอนล่างของภาค และภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน โดยเป็นเมฆชั้นกลางและชั้นสูง และมีเมฆฝนฟ้าคะนองบริเวณตามแนวชายฝั่ง ขณะที่ภาคใต้ ยังคงมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นกลางและชั้นสูง พบกลุ่มเมฆฝนในบางพื้นที่

และจากการคาดการณ์ลักษณะการตกกระจายตัวของกลุ่มฝนในวันนี้ พบว่า ช่วงเช้ามีการกระจายตัวของกลุ่มฝนในบริเวณภาคเหนือตอนบนเล็กน้อย และบริเวณภาคใต้ตอนล่างฝั่งอ่าวไทย หลังจากนั้นช่วงสาย ยังคงพบกลุ่มฝนในบริเวณภาคเหนือตอนบน แต่เป็นกลุ่มฝนตกเล็กน้อยเท่านั้น และช่วงบ่ายถึงเย็น จะพบกลุ่มฝนในบริเวณภาคใต้ตอนกลางถึงตอนล่าง ตามบริเวณชายฝั่งอ่าวไทย

ส่วนอุณหภูมิในเช้าวันนี้ จะเห็นว่าพื้นที่ภาคอีสานตอนบน อุณหภูมิลดลงอย่างเห็นได้ชัด ต่ำสุด ประมาณ 16-17 องศาเซลเซียส ส่วนในพื้นที่ภาคเหนือ ต่ำสุดจะอยู่ที่ประมาณ 15-17 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงกลางวัน บริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน อุณหภูมิก็ยังไม่สูงมากนัก เฉลี่ยประมาณ 30 องศาเซลเซียส ขณะที่ภาคกลาง อุณหภูมิสูงสุด จะอยู่ที่ประมาณ 33-34 องศาเซลเซียส

ส่วนอุณหภูมิในแต่ละภาคเป็นดังนี้

ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกบางในตอนเช้าและมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส

ขณะที่ พายุไต้ฝุ่น “เมอโลร์” (Melor) ตอนนี้เป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 2 มีความเร็วลมศูนย์กลาง 158 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยศูนย์กลางพายุได้เคลื่อนตัวสู่ทะเลจีนใต้ตอนล่างแล้ว หลังจากนั้นจะมีกำลังอ่อนลง และมีทิศทางเคลื่อนที่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เข้าสู่บริเวณปลายแหลมญวน ซึ่งคาดว่า พายุลูกนี้จะสลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในช่วงวันเสาร์ และจะส่งผลกระทบต่อบริเวณภาคใต้ของไทยในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ดังนั้น ขอให้ประชาชนที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบลักษณะอากาศก่อนการเดินทางด้วย

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 16 ธ.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ต่างชาติเตือนภัย!! พิบัติโลกโพลชิ้ป 2559​

เผยแพร่เมื่อ 22 มิ.ย. 2015
ต่างชาติเตือนภัย!! พิบัติโลก โพลชิ้ป มหันตภัยครั้งใหญ่​

 

ปากโป้ง เตือนภัย! เผยรายชื่อเมืองที่จะจมอยู่ใต้น้ำ ปี 2563​

เผยแพร่เมื่อ 20 พ.ค. 2015​

ติดตามรายการ ปากโป้ง ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.50 / 15.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.30 / 15.40 น.

 

"ฟองสนาน จามรจันทร์" ตรวจดวงเมือง ปี พ.ศ.2559​

เผยแพร่เมื่อ 31 ต.ค. 2015​

"ฟองสนาน จามรจันทร์" ตรวจดวงเมือง 2559 กงล้อประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย "ผมพอแล้ว­" ติดตามในมติชนออนไลน์ 31 ตุลาคม 2558

 

ภาวะเศรษฐกิจไทย 'ถดถอย' หรือ 'เงินฝืด'?​

[ame]http://www.youtube.com/watch?v=D3P1O7MTIjw[/ame]

เผยแพร่เมื่อ 15 เม.ย. 2015​

ภาวะเศรษฐกิจไทย 'ถดถอย' หรือ 'เงินฝืด'?ภาวะเศรษฐกิจของไทยตอนน­ี้ บ้างก็ว่า "เงินฝืด" บ้างก็ว่า "ถดถอย" บ้างก็ว่า "เศรษฐกิจชะงักงัน" แต่ไม่ว่าจะเป็นคำไหนก็แสดงให้เห็นว่าเศรษ­ฐกิจไทยกำลังมีปัญหา เป็นเพราะอะไร หนทางแก้ไขอยู่ตรงไหนวิเคราะห์โดยเทพชัย หย่อง (@Thepchaiyong), สุทธิชัย หยุ่น (@suthichai) และ วีระศักดิ์ พงศ์อักษร (@MrNaling)

 

"ฟองสบู่" พันธมิตร 100 ล้านล้าน​

เผยแพร่เมื่อ 9 ก.ค. 2015​

 

ความเสี่ยงระบบการเงินล่ม​

เผยแพร่เมื่อ 29 มิ.ย. 2015​

 

เรื่องของ "ทอง"​

เผยแพร่เมื่อ 30 มิ.ย. 2015​

 

จีนยัวะ เรียกทูตสหรัฐฯ เข้าพบ! รัฐบาลโอบามาอนุมัติขายอาวุธกว่า 6 หมื่นล้านให้ไต้หวัน​

​

จีนโกรธ...รัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติข้อตกลงขายอาวุธให้ไต้หวันกว่า 6.5 หมื่นล้าน ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในทะเลจีนใต้ ถึงขั้นเรียกอุปทูตสหรัฐฯ ประจำปักกิ่งเข้าพบ ประท้วงอย่างรุนแรง

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างแถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศของจีนว่า รัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ ไม่สนจีนโกรธ อนุมัติขายอาวุธมูลค่า 18,300 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 65,880 ล้านบาท ให้แก่ไต้หวัน เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ซึ่งประกอบด้วยอาวุธหลายชนิด อาทิ เรือพิฆาต และเรือสะเทินน้ำสะเทินบกจู่โจม

นายเดวิด แมคคีบีย์ โฆษกฝ่ายกิจการการเมือง-การทหาร ประจำกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติขายอาวุธให้แก่ไต้หวันเป็นไปตามกฎหมายความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวัน และอยู่บนหลักการประเมินความจำเป็นด้านการปกป้องดินแดนของไต้หวัน

อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงขายอาวุธลอตใหญ่ให้ไต้หวัน ส่งผลให้ทางการจีนไม่พอใจ โดยนายเจิ้ง ซีกวง รมช.ต่างประเทศจีนไดัเรียกนายเคย์ ลี อุปทูตสหรัฐฯ ประจำจีน เข้าพบเมื่อวันพุธที่ 16 ธ.ค. เพื่อประท้วงอย่างรุนแรง กรณีสหรัฐฯ มีการตกลงขายอาวุธกับไต้หวัน ท่ามกลางสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ที่กำลังตึงเครียด

บีบีซี รายงานว่า ข้อตกลงซื้อขายอาวุธระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวัน มีมูลค่าสูงถึง 1,830 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 65,880 ล้านบาท โดยแถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุว่า ไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน ด้วยเหตุนี้ จีนจึงขอคัดค้านอย่างรุนแรงที่รัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติขายอาวุธให้แก่ไต้หวัน เนื่องจากข้อตกลงดังกล่าวเป็นการสร้างความเสียหายต่ออธิปไตย และความมั่นคงของจีน

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ธ.ค. 2558

ทอร์นาโดถล่มซิดนีย์! ลมหมุนสุดแรงไม่เคยเจอ บ้านเพิ่งขาย 28 ล้านพังราบ​

​

ทอร์นาโดกำลังแรง ความเร็วลมสูงสุดชนิดไม่เคยเจอมาก่อน พัดถล่มซิดนีย์ ส่งผลบ้านเรือนเสียหายหลายหลัง ไฟฟ้าดับ ต้นไม้ล้มระเนระนาด มีครอบครัวหนึ่งเพิ่งขายบ้านราคากว่า 28 ล้าน ได้ไม่กี่ชั่วโมงก่อนทอร์นาโดจะพัดผ่าน ทำบ้านพังเกือบหมดทั้งหลัง

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. สำนักข่าวบีบีซี รายงาน ชาวออสเตรเลียในนครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์สุดระทึก เผชิญหน้าพายุทอร์นาโดกำลังแรงมาก ความเร็วลมสูงสุดชนิดไม่เคยเจอมาก่อน เพราะมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางพายุเกินกว่า 200 กม./ชม. โดยพายุทอร์นาโดลูกนี้ได้พัดถล่มเขตคูร์เนลล์ จนทำให้บ้านหลายหลังได้รับความเสียหาย ต้นไม้หักโค่นจำนวนมาก ไฟฟ้าดับ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 2 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ทางการนครซิดนีย์ กล่าวว่า โชคดีมากที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอิทธิพลของทอร์นาโด

บีบีซี ยังรายงานว่ายังเกิดเรื่องไม่คาดฝันกับครอบครัวของนายแฟรงก์ พาร์ตลิค เมื่อครอบครัวเขาเพิ่งขายบ้านได้ ในราคา 8 แสนดอลลาร์ หรือประมาณ 28.8 ล้านบาท เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนทอร์นาโดลูกนี้จะพัดผ่าน โดยครอบครัวพาร์ตลิคยังเพิ่งมีการฉลองที่ขายบ้านได้ด้วยความดีอกดีใจกันเมื่อคืนวันอังคารที่ 15 ธ.ค. แต่พอเช้าวันรุ่งขึ้น บ้านของพวกเขากลับพังเสียหายจากฤทธิ์ทอร์นาโดเกือบหมดทั้งหลัง

สื่อท้องถิ่นในซิดนีย์ รายงานด้วยว่า พื้นที่บางส่วนของเขตคูร์เนลล์ ยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ และเต็มไปด้วยเศษขยะสิ่งของเกลื่อนกระจายมากมายจากลมพายุทอร์นาโด

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ธ.ค. 2558

ตามคาด! 'เฟด' ขึ้นดอกเบี้ยมาตรฐาน 0.25% ครั้งแรกในรอบ 9 ปี​

​

ธนาคารกลางสหรัฐฯตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานแล้ว หลังคณะกรรมการนโยบายมีมติเป็นเอกฉันท์ในการประชุมเมื่อวันอังคารและวันพุธ ถือเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) เมื่อวันที่ 15-16 ธ.ค. ว่าพวกเขาตัดสินใจเพิ่มขอบเขตดอกเบี้ยมาตรฐานขึ้น 0.25% เป็นระหว่าง 0.25% และ 0.50% เป็นการส่งสัญญาณแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวจากบาดแผลของวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงปี 2007-2009 มากแล้ว

เฟดระบุในแถลงการณ์นโยบายของพวกเขาซึ่งได้รับการเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า "คณะกรรมการตัดสินว่ามีการพัฒนาการที่สำคัญในสถานการณ์ของตลาดแรงงานปีนี้ และพวกเขาเชื่อมั่นอย่างมีเหตุผลว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2% ตามเป้าหมายในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า"

เฟดจะติดตามอัตราเงินเฟ้อและการจ้างงานต่อไป โดยความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจจะเป็นตัวตัดสินว่า การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่จะเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างช้าๆเท่านั้น

ขณะที่การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจใหม่ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินในการประชุมครั้งล่าสุด ส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากข้อมูลในเดือน ก.ย. โดยคาดการณ์ว่าอัตราว่างงานจะลดลงเหลือ 4.7% ในปีหน้า ขณะที่เพิ่มแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯในปีหน้าจาก 2.3% เป็น 2.4%

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ธ.ค. 2558

ออสซี่มาแรง แสดงสัญลักษณ์ใส่จีน! ส่งเครื่องบินลาดตระเวน ผ่านหมู่เกาะสแปรตลีย์​

​

กองทัพอากาศออสเตรเลีย แสดงสัญลักษณ์ตามสหรัฐฯ...ส่งเครื่องบินลาดตระเวน บินเหนือน่านน้ำบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ ในทะเลจีนใต้ ขณะที่ผู้สื่อข่าวบีบีซี ดักฟักบทสนทนาทางวิทยุสื่อสารระหว่างสองฝ่าย ได้ยินนักบินออสเตรเลียบอกทหารเรือจีน ออสเตรเลียกำลังบินโดยใช้ ‘เสรีภาพนำทาง’

เมื่อ 15 ธ.ค.58 สำนักข่าวบีบีซี รายงาน กองทัพอากาศออสเตรเลีย ส่งเครื่องบินลาดตระเวน P-3 Orion (พี-3 โอเรียน) บินลาดตระเวนเหนือบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ ในทะเลจีนใต้ ซึ่งหลายประเทศในเอเชียกำลังเกิดข้อพิพาท อ้างกรรมสิทธิ์แย่งชิงกันอยู่

นายรูเพิร์ต วิงฟิลด์-ฮาเยส ผู้สื่อข่าวบีบีซี รายงานว่า ได้ดักฟังการสนทนาทางวิทยุสื่อสาร ระหว่างนักบินออสเตรเลียประจำเครื่องบินลาดตระเวน พี-3 โอเรียน กับเจ้าหน้าที่กองทัพเรือของจีน ขณะที่เขานั่งอยู่บนเครื่องบินพลเรือนของฟิลิปปินส์ลำหนึ่ง โดยได้ยินถ้อยคำว่า ‘กองทัพเรือจีน กองทัพเรือจีน พวกเราเป็นเครื่องบินออสเตรเลีย กำลังทำการบิน ด้วยการใช้เสรีภาพนำทาง’

ต่อมา กระทรวงกลาโหมออสเตรเลียได้ออกแถลงการณ์ว่า เครื่องบินลาดตระเวน พี-3 โอเรียน ลำหนึ่งได้ปฏิบัติภารกิจ บินลาดตระเวนทางทะเลตามปกติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการรักษาความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา กองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้แสดงสัญลักษณ์กับจีนเช่นกัน ด้วยการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-52 บินผ่านเหนือน่านน้ำบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์มาแล้ว จนทำให้ทางการจีนไม่พอใจอย่างมากมาแล้ว

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 15 ธ.ค. 2558

สหรัฐฯ จี้เลิกซื้ออาหารทะเลไทย​

​

สหรัฐฯ จี้เลิกซื้ออาหารทะเลไทย

เมื่อ 14 ธ.ค.สำนักข่าวเอพีเกาะติดรายงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหารทะเลของไทยใช้แรงงานทาส ระบุเจ้าหน้าที่สหรัฐฯกับกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนต่างเรียกร้องถึงชาวอเมริกันให้หยุดซื้ออาหารทะเลปลาและกุ้งจากไทย เพราะใช้แรงงานทาส โดยนายคริส สมิธ ส.ส.รัฐนิวเจอร์ซีย์ สังกัดพรรครีพับลิกัน คณะกรรมการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เรียกร้องถึงชาวอเมริกัน ระบุทุกคนรู้ถึงที่มาที่ไปของอาหารทะเลจากประเทศไทย ขอให้ใช้ศีลธรรมส่วนตัวตัดสินคว่ำบาตรอาหารทะเลไทย

ทั้งนี้ รายงานจากสำนักข่าวเอพี ระบุพบการใช้แรงงานทาสในอุตสาหกรรมอาหารทะเลไทย แรงงานจำนวนมากถูกบังคับใช้แรงงานแกะเปลือกกุ้งวันละมากกว่า 16 ชั่วโมง หลายคนได้เงินค่าจ้างเพียงเล็กน้อยหรือไม่ได้รับค่าจ้างเลย ส่วนสภาพความเป็นอยู่ก็ย่ำแย่ หลายคนถูกคุมขังนานหลายเดือนหรือหลายปี ขณะที่ทางการไทยพยายามดำเนินการแก้ไขสืบสวนแต่ก็ยังมีการละเมิดอยู่

ส่วนกรณีนายแดเนียล รัสเซล ทูตพิเศษของสหรัฐฯด้านกิจการเอเชียตะวันออก ที่เดินทางมาเยือนไทยใน 16 ธ.ค. ได้คาดหวังก่อนมาเยือนว่าจะกดดันไทยมากกว่าช่วงเดินทางเยือนเมื่อหนึ่งปีก่อน และว่า ไทย-สหรัฐฯควรขยายความร่วมมือภายในข้อผูกพันของสิ่งที่เป็นไปได้ภายใต้สภาพการณ์ปัจจุบัน.

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 16 ธ.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ประกาศฉบับที่ 6 ไทยตอนบนหนาวต่ออีก 2 วัน-เตือนใต้คลื่นลมแรง​

​

กรมอุตุฯ ออกประกาศ "อากาศหนาวเย็นในประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงในอ่าวไทย" ฉบับที่ 6 ไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นและมีลมแรง ต่อไปอีก 1-2 วัน เตือน ปชช.ดูแลสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงและหนาวเย็นลง…

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 17 ธ.ค. 58 กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ "อากาศหนาวเย็นในประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงในอ่าวไทย" ฉบับที่ 6 ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ได้แผ่เข้าปกคลุมบริเวณภาคเหนือแล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปและมีลมแรง ต่อไปอีก 1-2 วัน กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่บริเวณยอดดอยในภาคเหนือ โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงและหนาวเย็นลง

ในช่วงวันที่ 17-20 ธันวาคม 2558 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยระวังอันตรายจากคลื่นลมที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว

อนึ่ง พายุดีเปรสชัน “เมอโลร์” (Melor) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางทางตะวันตกของประเทศฟิลิปปินส์ ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ธ.ค. 2558

ลูกเห็บตกหน้าหนาว! ถล่มที่เชียงราย หลังคาทะลุ-ไก่ตายยกเล้า​

​

ภาคเหนือเจอทั้งหนาว-ฝนตก-ลูกเห็บ ชาวบ้าน อ.เทิง จ.เชียงราย โดนถล่มกระเบื้องหลังคาทะลุ สังกะสีปลิวหาย ไก่ชนพันธุ์ดีเลี้ยงไว้ย้ายหนีไม่ทันโดนลูกเห็บตายยกเล้า บรรยากาศบนดอยสวยไปอีกแบบ อากาศหนาวจัด แต่มีหมอกลอยทั้งวัน...

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 ธ.ค.58 นายอภิรศักดิ์ พฤกษชาติ นายอำเภอเทิง จ.เชียงราย ได้รับรายงานว่า มีพายุฝนพัดถล่มลูกเห็บตกบ้านชาวบ้านใน ต.งิ้ว อ.เทิง จึงสั่งการให้ นายชูศักดิ์ สวัสดี ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ออกสำรวจความเสียหาย

พบบ้านเรือนชาวบ้าน ต.งิ้ว ได้รับความเสียหายใน 21 หมู่บ้าน จากทั้งหมด 25 หมู่บ้าน ถูกพายุฝนพัดถล่มบ้านพัง หลังคากระเบื้องและสังกะสีปลิวหาย ถูกลูกเห็บตกใส่จนหลังคาทะลุ จำนวน 315 หลัง สัตว์เลี้ยงไก่ชนราคาแพง ของนายพลภัทร แสนใจยา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 216 ม.2 ต.งิ้ว อ.เทิง ถูกลูกเห็บตกใส่ขนย้ายไม่ทัน ตายยกเล้า

ส่วนที่ ต.เวียง พบไร่ข้าวโพดและนาข้าวของชาวบ้าน ถูกลูกเห็บถล่มเสียหายจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ อส. พนักงานอบต.เทศบาลตำบลงิ้ว ได้เข้าช่วยเหลือในเบื้องต้น และออกสำรวจความเสียหายอย่างเร่งด่วน

นายวาท พระแป่ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลงิ้ว กล่าวว่า คาดว่าวันพรุ่งนี้จะสามารถนำกระเบื้องไปแจกจ่ายราษฎรที่ประสบภัยได้ แต่หากมีความเสียหายเกินงบประมาณของเทศบาลตำบลงิ้ว จะรายงานไปที่นายอภิรศักดิ์ พฤกษชาติ นายอำเภอเทิง เพื่อแจ้งต่อ ปภ.จังหวัดเชียงราย พิจารณาเยียวยาช่วยเหลือต่อไป

ขณะที่บนดอยผาตั้ง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เผยว่า ยังมีหมอกปกคลุมตลอดวัน อากาศหนาว มีลมพัดแรง ประกอบกับมีฝนตกตลอดคืนที่ผ่านมา และยังตกในช่วงกลางวันด้วย ส่งผลให้อุณหภูมิลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และมีหมอกหนา แต่นักท่องเที่ยวก็ยังคงขึ้นไปบนยอดดอยเพื่อชมทะเลหมอก ที่บนจุดชมวิว เนิน 102-103 ที่สูงกว่า 1,650 เมตร จากระดับน้ำทะเล เมื่อคืนที่ผ่านมาวัดอุณหภูมิได้ 7-8 องศาฯ ช่วงสายอุณหภูมิอยู่ที่ 10-12 องศาฯ ส่วนที่ภูชี้ฟ้า ต.ตับเต่า อ.เทิง อุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 8 องศาฯ แล้ว

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ธ.ค. 2558

โคราช-หนองคาย หนาวเย็นฉับพลัน เตือนประชาชนระวังสุขภาพ​

​

โคราช สภาพอากาศหนาวเย็นฉับพลัน ข้ามคืนอุณหภูมิลดฮวบเช้ามืดเหลือ 16 องศาฯ ตกสาย 26-28 องศาฯ ผู้ว่าฯ ออกจังหวัดเคลื่อนที่ช่วยเหลือตรวจสุขภาพประชาชน ด้าน หนองคาย ประสบกับอากาศเย็น เตือนประชาชนระวังเจ็บป่วย โดยเฉพาะเด็กและคนชรา...

เมื่อช่วงสายของวันที่ 17 ธ.ค.2558 นางปิยะฉัตร อินสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 นครราชสีมา เปิดเผยถึงสภาพอากาศหนาวเย็นในช่วงนี้ว่า สภาพอากาศหนาวเย็นอุณหภูมิช่วงเช้าประมาณ 16 องศาฯ และพอมาช่วงสายประมาณ 26-28 องศาฯ ลมพัดเย็น มีแดดอ่อน ก็อยากฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และ สุรินทร์ ให้ดูแลสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศเย็นลงรวดเร็ว เนื่องจากร่องความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมประเทศไทยในช่วงนี้ ส่วนการช่วยเหลือหรือการประกาศภัยหนาวนั้น ตอนนี้ยังไม่สามารถประกาศภัยได้ เพราะมีการออกระเบียบกำหนดหลักเกณฑ์มาใหม่ เช่น อุณหภูมิต้องไม่น้อยกว่า 8 องศาฯ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ได้ให้แต่ละจังหวัดออกสำรวจตรวจสอบดูแลบรรเทาความเดือดร้อนใน เบื้องต้นก่อน และดูเรื่องหลักเกณฑ์แต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่สูง และเพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาว จึงได้ตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาวที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ เพื่อติดตามสถานการณ์ภัยหนาวอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง นางปิยะฉัตร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ พี่น้องประชาชนต่างนำเสื้อกันหนาวหลากสีสันสวยงามมาสวมใส่กันอย่างคึกคัก และหลายคนต้องสวมกางเกงขายาว เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น โดยบรรยากาศพี่น้องประชาชนต่างออกมานั่งตากแดดหน้าบ้าน จับกลุ่มพูดคุยกันคึกคัก รวมทั้งนักเรียน นักศึกษา เด็กๆ คนชรา ผู้สูงอายุ ต่างสวมเสื้อกันหนาว หลายคนที่เก็บเสื้อกันหนาวไว้ก็นำออกมาสวมใส่ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีอุณหภูมิลดลงแบบฉับพลันสภาพอากาศหนาวเย็นเริ่มตั้งแต่กลางดึกเป็นต้นมา โดยเฉพาะพื้นที่ภูเขาสูง พื้นที่ป่า เช่น อ.วังน้ำเขียว, อ.ปากช่อง, อ.สูงเนิน, อ.สีคิ้ว, อ.ครบุรี, อ.เสิงสาง และ อ.หนองบุญมาก เป็นต้น ซึ่งทำให้ราษฎรต้องล้อมวงก่อไฟผิงคลายหนาวเย็น

ขณะที่ช่วงสาย นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ได้นำหัวหน้าส่วนราชการออกโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ที่ อ.คง พร้อมด้วยเหล่ากาชาดจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขอำเภอ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพตำบล ออกสำรวจตรวจสอบและดูแลสุขภาพให้กับราษฎรในพื้นที่ อ.คง และอำเภอใกล้เคียง พร้อมมอบถุงยังชีพ และเครื่องนุ่งห่ม ผ้าห่มให้ส่วนหนึ่ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

ส่วนสภาพอากาศที่จังหวัดหนองคาย เริ่มมีอุณหภูมิลดลง วัดที่สถานีอุตุนิยมวิทยาหนองคาย วัดได้ 16.5 องศาเซลเซียส ซึ่งลดลงจากวานนี้ 3 องศาเซลเซียส ท้องฟ้าหลัว ประกอบกับมีลมแรงกรรโชกมาเป็นระยะๆ ทำให้อากาศหนาวเย็น ซึ่งเป็นผลกระทบจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกของประเทศไทย ทำให้ช่วงวันที่ 17-19 ธ.ค.58 จะมีอากาศหนาวเย็นลงและลมแรง

นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ระยะนี้ จังหวัดหนองคายเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิลดลง อากาศเย็นและมีลมแรง ซึ่งในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางจังหวัดโดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.หนองคาย ได้ร่วมกับภาคเอกชน จัดหาเครื่องนุ่งห่ม ทั้งเสื้อผ้า และผ้าห่ม นำแจกจ่ายให้กับประชาชนในหลายพื้นที่ไปแล้ว เพื่อให้ประชาชนที่ด้อยโอกาสได้มีเครื่องนุ่งห่มกันหนาวใช้ป้องกันภัยหนาว โดยในการนี้ได้สั่งการให้ ปภ.จ.หนองคาย เกาะติดสถานการณ์อุณหภูมิลดลง

แม้ว่าทางกระทรวงมหาดไทยจะประกาศปรับลดอุณหภูมิการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยหนาว จากเดิม 15 องศาเซลเซียสต่อเนื่องกัน 3 วัน ปรับแก้ระเบียบใหม่เป็น 8 องศาเซลเซียสต่อเนื่องกัน 3 วัน ก็ได้เตรียมการรับมือแล้ว ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย ให้คำแนะนำการดูแลรักษาสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกับเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นช่วงวัยสุ่มเสี่ยงป่วยง่ายจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ธ.ค. 2558

ลูกเห็บถล่ม-อุณหภูมิลด! คนพะเยาทุกข์หนัก ไร้เครื่องกันหนาว​

​

ชาว อ.เชียงคำ และภูซาง จ.พะเยา เจอทุกข์ซ้ำ หลังเกิดพายุพัดถล่มลูกเห็บตก บ้านพังเสียหายกว่า 200 หลังคาเรือน ซ้ำอากาศยังหนาวเย็นลงอีก บางครอบครัวขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว อำเภอ-อบต.ต้องเร่งช่วยด่วน...

วันที่ 17 ธ.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุพายุลูกเห็บพัดถล่มใน อ.เชียงคำ และ อ.ภูซาง จ.พะเยา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบกว่า 10 หมู่บ้าน ประกอบด้วย ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ 9 หมู่บ้าน เสียหายประมาณ 180 หลังคาเรือน ต.ทุ่งกล้วย อ.ภูซาง เสียหาย 4 หมู่บ้าน จำนวน 51 หลังคาเรือน ต้นไม้ใหญ่หักโค่นทับหลังคาบ้าน หลังคาอาคารอเนกประสงค์ และล้มขวางถนน ชาวบ้านต้องช่วยกันตัดและเร่งเก็บกวาด

นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล นายอำเภอเชียงคำ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุกลางคืนที่ผ่านมา ทางฝ่ายปกครอง อ.เชียงคำ และกำลังเจ้าหน้าที่ ตชด.326 เชียงคำ ได้ร่วมกันลงพื้นที่ไปสำรวจและช่วยเหลือประชาชน พร้อมมอบหมายให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สำรวจความเสียหาย และประสานงานไปยังสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดพะเยา เพื่อขอรับการสนับสนุนการช่วยเหลือในกรณีที่เกินกำลังของ อปท. นอกจากนี้ได้ประสานงานไปยังกาชาดจังหวัดเพื่อเข้ามาช่วยเหลือด้วย

ทางด้าน ส.อ.สมจิตร ฟูธรรม นายก อบต.ร่มเย็น กล่าวว่า จากการสำรวจพื้นที่ 9 หมู่บ้าน มีบ้านเรือนเสียหายประมาณ 180 ครัวเรือน เสียหายทั้งหลัง 10 หลัง กระเบื้องมุงหลังคาประมาณ 4,000 แผ่น และสังกะสีบางส่วน ทาง อบต.ได้เร่งช่วยเหลือตามกำลังแล้ว สำหรับความเสียหายทั้งหมดยังไม่สามารถประมาณการเป็นตัวเลขได้ อยู่ระหว่างสำรวจอย่างละเอียด

ขณะที่ ร.ท.เกรียงไกร อุทธิยา นายก อบต.ทุ่งกล้วย อ.ภูซาง กล่าวว่า ต.ทุ่งกล้วย ประสบภัยจำนวน 4 หมู่บ้าน 51 หลังคาเรือน ความเสียหายบ้านเรือนมีไม่มาก เป็นเพียงบางส่วน กระเบื้องและครอบหลังคาถูกลมพัดปลิวแตกจำนวน 525 แผ่น ที่หนักคือต้นยางพาราอายุ 11 ปี หักโค่นกว่า 400 ต้น ค่าความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 450,000 บาท​

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุพายุพัดถล่ม ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนซ้ำซ้อน เพราะฝนที่ตกทำให้อากาศหนาวเย็นลง หลายครอบครัวขาดเครื่องนุ่งห่มกันหนาว จนนายอำเภอ และท้องถิ่น ต้องรีบหาทางช่วยเหลือโดยด่วน

ขณะเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง "อากาศหนาวเย็นในประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงในอ่าวไทย" ระบุ บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกของประเทศไทยแล้ว ต่อจากนั้นจะแผ่เข้าปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปและมีลมแรง ต่อไปอีก 1-2 วัน กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่บริเวณยอดดอยในภาคเหนือ โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงและหนาวเย็นลง

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ธ.ค. 2558

กุยช่ายเขียว ใช้กระถางครอบ เป็นกุยช่ายขาว! หน้าหนาวขายได้เดือนละแสน​

​

กุยช่ายขาวผัดเต้าหู้หมูสับ เมนูยอดฮิตร้านข้าวต้ม เพิ่งจะรู้จริงๆ ว่าเป็นพันธุ์เดียวกับกุยช่ายเขียวเพียงแต่เกษตรกรผู้ปลูกใช้กระถางครอบไว้ไม่ให้ถูกแดด ราคาต่างกันมาก กก.ละ 90 บาท หน้าหนาวผลผลิตดี ขายได้เดือนละแสน...

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น สภาพอากาศหนาวเย็นขึ้นตามลำดับ ส่งผลดีต่อเกษตรกรที่เพาะปลูกกุยช่ายเขียว และกุยช่ายขาว โดยเฉพาะที่บ้านนาเพียง ต.สำราญ อำเภอเมืองขอนแก่น ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกุยช่ายเขียวและกุยช่ายขาวส่งขาย สร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

นางสำรวย ชินคำ อายุ 58 ปี เกษตรกรที่ปลูกกุยช่ายเขียวและกุยช่ายขาว เปิดเผยว่า ปลูกกุยช่ายมานานกว่า 30 ปี ผลผลิตจะดีในช่วงหน้าหนาว โดยเฉพาะกุยช่ายขาวที่มีวิธีการปลูกด้วยการเอากระถางต้นไม้ครอบปิดไว้ไม่ให้โดนแสงแดด ซึ่งการปลูกกุยช่ายในช่วงฤดูหนาวนั้นจะได้ผลผลิตเกือบ 100% เพราะฤดูนี้ต้นกุยช่ายจะไม่เน่า

ส่วนราคาขายหากเป็นกุยช่ายเขียวจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 25 บาท ส่วนกุยช่ายขาวจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 90 บาท ในฤดูร้อนและฤดูฝน จะมีรายได้อยู่ที่ประมาณเดือนละ 5 หมื่นบาท แต่ในช่วงฤดูหนาวรายได้เพิ่มขึ้น เดือนละ 7 หมื่นถึง 1 แสนบาท ทำให้ครอบครัวมีรายได้ดี มีเงินใช้หนี้ ส่งลูกเรียนหนังสือ.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ธ.ค. 2558

ไทยตอนบน หนาวเย็น-มีลมแรง ภาคใต้ ฝนเพิ่ม เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง​

​

ไทยตอนบน อากาศหนาวเย็น มีลมแรง อุณหภูมิลดลง3-7 องศา ขณะภาคใต้ ฝนตกเพิ่มมากขึ้น คลื่นสูง ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กงดออกจากฝั่ง

วันที่ 17 ธ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบจากระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวี เดอะเวตเตอร์ คอมพานี พบว่า มวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้ปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ซึ่งลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน มีอากาศจะหนาวเย็นและมีลมแรง กับมีน้ำค้างแข็งได้บริเวณยอดดอย โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลงประมาณ 4-7 องศาเซลเซียส ส่วนภาคอื่นๆ อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ตั้งแต่วันนี้ไปถึงวันที่ 19 ธันวาคม ดังนั้นพี่น้องประชาชนในบริเวณดังกล่าว ต้องดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง และหนาวเย็นลงนี้ไว้ด้วย

ส่วนในช่วงตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนตกเพิ่มขึ้น และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้นด้วย โดยอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป จะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นลมพัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงเวลา ดังกล่าว

ขณะที่ภาพถ่ายดาวเทียมเช้านี้ก็พบว่า ภาคเหนือ วันนี้มีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นกลางและชั้นสูง และมีเมฆฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นกลางและชั้นสูง แต่ยังไม่พบกลุ่มเมฆฝน ขณะที่ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นกลางและชั้นสูง พบกลุ่มเมฆฝนในอ่าวไทย บริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นกลางและชั้นสูง ตรวจพบกลุ่มเมฆฝนบริเวณชายฝั่งในอ่าวไทย และภาคใต้ มีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นกลางและชั้นสูง และมีเมฆฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่บริเวณอ่าวไทยตอนบน และตอนล่าง

ส่วนอุณหภูมิในเช้าวันนี้จะเห็นว่า พื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสานตอนบน อุณหภูมิลดลงอย่างเห็นได้ชัด ต่ำสุดประมาณ 11 - 13 องศาเซลเซียส ส่วนในพื้นที่ภาคเหนือ ส่วนในช่วงกลางวันบริเวณภาคเหนือภาคอีสานอุณหภูมิก็จะยังคงเย็นๆ สูงสุดไม่เกิน 30 องศาเซลเซียสเท่านั้น ส่วนในภาคกลางสูงสุดจะอยู่ที่ 32 - 33 องศาเซลเซียส ขณะที่วันพรุ่งนี้ในช่วงเช้าอุณหภูมิก็จะลดลงอีก เหนือ - อีสานตอนบน อุณหภูมิต่ำสุดไม่เกิน 10 องศาเซลเซียส ขณะที่ภาคกลางตอนบนก็มีอากาศเย็นช่วงเช้าสูงสุดไม่เกิน 15 องศาเซลเซียสในช่วงเช้า

ส่วนอุณหภูมิในแต่ละภาคเป็นดังนี้

ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 13 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส และมีลมแรง กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 13 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศเย็น กับมีลมแรง และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก อากาศเย็น กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส

ปิดท้าย ที่พายุโซนร้อน “เมอโลร์" มีความเร็วลมศูนย์กลาง 74 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง และมีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน ต่อไป ขอให้ประชาชนที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบลักษณะอากาศก่อนการเดินทางด้วย

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ธ.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ปรากฏการณ์ “แสงวาบ” ที่ยิ่งใหญ่ เห็นได้ทั่วจักรวาล​

​

ปัจจัยสำคัญ และ เป็นความเชื่อมโยงอย่างแสนมหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่ง ของปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ คือการปรากฏของดาวนิบิรุ (Nibiru) เป็นดาวมีสีออกแดง ลักษณะกลมรี คล้ายลูกรักบี้ มีขนาดใหญ่กว่าดาวพฤหัสบดี ประมาณเกือบ 2 เท่า เป็นดาวที่อยู่นอกระบบสุริยจักรวาล มีวงโคจรผ่านทิศตะวันออก

- ตะวันตก และจะมาเยือน สุริยจักรวาลในทุกๆ 13,000 ปี และ ในรอบนี้ ดาวนิบิรุ จะมาเรียงตัวอยู่ที่ลำดับหัวแถว ใกล้ๆกับโลก เป็นการเพิ่มแรงดึงดูดให้กับ กาแลคซี่ไตรแองกุลัม ที่มีขนาดเล็กกว่ากาแลคซี่ทางช้างเผือก จนสามารถดันขั้วโลกเหนือไปเป็นขั้วโลกตะวันออก เมื่อรอบ 13,000 ปีที่ผ่านมา ดาวนิบิรุ โคจรมาและได้ไปเรียงตัวอยู่ด้านปลายแถวของ สุริยจักรวาล

เมื่อใกล้ช่วงเวลาของการเกิดภัยพิบัติ เปลี่ยนขั้วโลกใหม่ ดาวนิบิรุ (ซึ่งขณะนี้ ดาวนิบิรุ ได้เข้ามาเยือนสุริยจักรวาลแล้ว แต่ยังอยู่ไกลมาก) จะมาอวดสายตาแก่ชาวโลกทางด้านทิศตะวันออก มองเห็นได้อย่างชัดเจน อยู่ใกล้กับดวงอาทิตย์ เป็นดาวสีแดง มองแล้วเหมือนกับว่ามี ดวงอาทิตย์ขึ้น 2 ดวง หากมนุษย์มองดาวดวงนี้แล้วจะรู้สึกจิตใจหดหู่ เศร้าหมอง ดาวนิบิรุจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าดาวมฤตยู (แต่ไม่ได้หมายความถึงดาวพลูโตเลย)

และ มาตรวัดความหนาแน่นของพลังงานแม่เหล็กโลก จะอยู่ที่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่คั่นกลาง เป็นช่องว่าง เป็นเขตปลอดพลังงาน ทั้งของกาแลคซี่ทางช้างเผือกและกาแลคซี่ไตรแองกุลัม หากเมื่อใดพลังงานแม่เหล็กโลก หนาแน่นจนเต็มพิกัด และไม่สามารถทะลุผ่านไปจนสุดขอบทางทิศตะวันออกได้ พลังงานแม่เหล็กโลกจะรีดเป็นเส้นตรง เปลี่ยนเป็นพุ่งทะลุขึ้นไปด้านบน ตามแนวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ปะทะชนกับพลังงานของกาแลคซี่อันโดรเมดา ที่มีขนาดใหญ่กว่าหลายพันเท่า พลังงานแม่เหล็กโลกจึงถูกอัดกลับเข้าสู่โลก สุริยจักรวาลอีกครั้ง เกิดปรากฏการณ์ “แสงวาบ” ที่ยิ่งใหญ่ เห็นได้ทั่วจักรวาล

การสั่นไหวอย่างรุนแรง การเคลื่อนที่สับเปลี่ยนแผ่นดิน แผ่นน้ำ เกิดลมพายุ น้ำท่วม การหล่นกระจายของแผ่นฝ้าน้ำแข็งเพดานโลก ที่เกิดจากการสะสมของควันน้ำมัน ฯลฯ กระบวน การเปลี่ยนขั้วโลกใหม่นี้ใช้เวลา ประมาณ 3 วัน 3 คืน

มนุษย์ ประกอบด้วย จิตและกาย หากยังมีความคิดว่า “ชีวิตเป็นสิ่งมีค่า ควรรักษาไว้” จึงควรแสวงหาทางรอด ตามวิถีความเชื่อของแต่ละบุคคล สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับการฝึกจิต ควรเข้าใจให้ชัดเจนว่า พลังงานแม่เหล็กโลกที่ไม่ได้อยู่ในแกนพลังงานโลก เป็นพลังงานกั้นบัง ฉุดรั้ง เป็นเสมือน ตัณหาที่ฉาบทาโลก ส่งผลให้การฝึกจิต ทำได้ยากยิ่งขึ้น หากโลกเราได้แกนพลังงานใหม่เปลี่ยนเป็นขั้วโลกตะวันออกเป็นกาแลคซี่ใหม่ที่สมบูรณ์ด้วยพลังงานกระแสลมปราณ พลังมโนธาตุ ซึ่งเหมาะแก่การฝึกจิตเป็นอย่างยิ่ง

ในที่สุด คำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ก็สำเร็จตามจิตประสงค์ มหาอาณาจักรแอตแลนตีสที่เคยจมหายไปร่วม 13,000 ปี จะได้มีโอกาสโผล่ขึ้นมาอวดโฉมอีกครั้ง เป็นการปิดฉาก บทบาทของ สฟิงซ์ และสโตนเฮนจ์ อย่างถาวร หากท่านใดยังรู้สึกอาลัยอาวรณ์ ตัดใจไปจากกาแลคซี่ทางช้างเผือกไม่ได้ โปรดอดใจรอไปก่อน อีกเพียง 13,000 ปี เท่านั้น

สิ่งเตือนใจ อายุขัยของมนุษย์ สัตว์ นั้นแสนจะสั้น มีอายุได้อย่างมากไม่เกิน 100 ปี หากยังดับกิเลสได้ไม่หมดสิ้น ย่อมไปจุติ เวียนว่ายต่างภพ ต่างภูมิ ตามผลของการกระทำที่เคยสร้างไว้ และถ้าหากไม่เคยฝึกจิต คงไม่สามารถรู้ถึงเหตุและผล ของการตกอยู่ในสังสารวัฏ และการวนรอบของปรากฏการณ์ทุกอย่างได้ จึงเชื่อเฉพาะสิ่งที่รู้ได้ด้วยใจและสมองเท่านั้น เพราะ “จิต” ที่ยังไม่ “หลุดพ้น” ย่อมตกอยู่ภายใต้อำนาจ การบงการของ “ใจ” อย่างถอนไม่ขึ้น

เรียบเรียงโดย จีรพันธุ์ ประศาสน์วุฒิ
1 ธันวาคม 2553

ที่มา www.ahaplee.blogspot.com

 

บันทึกของหลวงลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ​

​

เรียนสมาชิกทุกท่านครับ หลังจากไตร่ตรองอยู่หลายวัน ผมตัดสินใจนำบันทึกทั้งหมดของหลวงลุงออกมานำเสนอก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติมากเกินไปกว่าที่จะคาดเดาได้ของมนุษย์ชาติ ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยที่ผมมีส่วนได้เห็นคำบันทึกอันเนื่องมากจากญานทัศนะของหลวงลุง โดยหากผมไม่ได้นำมาเสนอให้มีการเตรียมการกัน จะเป็นบาปติดอยู่ในใจผม ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์แบบในบันทึกที่หลวงลุงได้เขียนไว้ แม้นว่าตัวผมเองจะได้วางอุเบกขา แต่ว่าถ้าไม่ได้เผยแพร่ออกไปจากผม สิ่งนี้ถือว่าผมขาดเมตตา จะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องของบุญกรรมของท่าน ในส่วนตัวผมเองถือว่าได้เผยแพร่สิ่งที่ติดค้างในใจของผมแล้ว ผมขอแบ่งบันทึกออกเป็น 4 ตอนนะครับ….ส่งข่าวโดยหลานวิกรม

1. เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันฟ้าดับ
2. เรื่องราวที่จะเกิดตามมาหลังวันฟ้าดับ 3 วัน
3. เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลัง จากวันฟ้าดับ
4. ชาวไทยจะเผชิญกับสิ่งใดบ้าง

1.เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันฟ้าดับ

วิกรมหลานลุง หลังจากลุงได้แจ่มชัดในญาณทัศนะในสิ่งที่จะเกิดขึ้นแล้ว ทำให้จิตใจของลุงเองเศร้าหมอง จนไม่อาจข่มจิตให้เป็นอุเบกขา ว่ามนุษย์ทุกคนล้วนมีกรรมเป็นของตัวเอง การเข้าไปก้าวล่วงในกรรมของผู้อื่นนั้น ผู้ที่เข้าไปเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องเป็นผู้แบกรับกรรมนั้นๆไว้ ลุงจึงขอแจ้งสิ่งต่างๆที่ได้เห็นมาเล่าสู่กัน โดยถือว่าลุงได้ทำหน้ารายงานข่าวเท่านั้น ใครได้พบแล้วจะเชื่อไม่เชื่อนั้นเป็นเรื่องของผู้อ่านจะใช้ดุลวินิจเอง หลังจากเขียนบันทึกนี้แล้วลุงตัดสินใจที่จะออกบวช เรื่องราวที่ได้มีการเตรียมการกันไว้นั้น ฝากให้หลานดูแล ประสานกับคุณลุงประสิทธิ์ และกลุ่มบ้านพุทธบุตร เพื่อช่วยเหลือกันตามกำลังบุญต่อไป

เรื่องราวที่ลุงบันทึกทิ้งไว้ให้หลานนี้ ทั้งหมดเพื่อไม่ให้หลานและคณะเกิดความประมาท ในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทั้งในด้านการเตรียมการภายนอกและการเตรียมการภายใน เน้นย้ำเรื่องการฝึกตายก่อนตาย เพื่อให้จิตคุ้นเคยกับอาสัญกรรมในทางสว่าง ให้กับน้องๆ และหลานๆทุกคนด้วย เพราะกุญแจดอกแรกที่จะเปิดเข้าไปในโลกแห่งวิญญานนั้น

กรรมที่แรงสุดคืออาสัญกรรม เพราะถ้าจิตผูกยึดกับสิ่งใดในขณะที่ขาดห้วงลมหายใจสุดท้ายนั้น ถ้าหากมีเพียงแค่เสี้ยวอึดใจ อาจจะถลำลงสู่อบายภูมิถ้าจิตเป็นอกุศล หมั่นทำทานในสิ่งที่ยากๆ เพื่อไม่ให้ตนติดยึดกับคนสัตว์สิ่งของใดๆ อันจะเป็นแรงเหนี่ยวรั้งเรา ไปสู่การเกิดที่ไม่เป็นกุศล หมั่นเจริญมรณานุสสติ เรื่องราวที่ลุงได้บันทึกไว้ให้หลานนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดจากญาณทัศนของลุง เพื่อให้หลานจะได้เตรียมตัว เตรียมใจ วันเวลาอาจจะมีการคลาดเคลื่อนบ้าง ตามเหตุและปัจจัย แต่เรื่องราวที่จะเกิดขึ้น สิ่งเตือนของวันเกิดภัยพิบัตินั้น ไม่เปลี่ยนแปลง

เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นนั้น ลุงขอเรียกว่าวันฟ้าดับก็แล้วกัน เพราะในยามนั้นสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกด้านมืดสนิท (ซีกโลกที่ประเทศไทยตั้งอยู่จะมืด 6 วันก่อนโลกจะย้ายขั้ว ส่วนพื้นที่โซนมหาสมุทรแอตแลนติกจะสว่างตลอดเวลา เป็นพื้นที่ดาวหางดวงใหญ่กว่าโลก 4 เท่า Planet X มีมวลมากกว่าโลก 23 เท่า ดูดตรึงกับรอยแยกกลางมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้ ที่มีสนามแม่เหล็กเข้ม ทำให้โลกค่อยๆหมุนรอบตนเองช้าลงจนหยุดหมุน 6 วัน…ส่วน 3 วันฟ้าดับที่หลวงลุงเล่าไว้ เป็นตอนแรกในช่วง Severe Wobble แล้วต่อมาพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกอีก 6 วัน) แม้แต่ในยามที่เราหลับตายังมีความสว่างมากกว่าเสียอีก ลุงบันทึกหลังจากอธิษฐานไปยังวันก่อนหน้า ที่จะเกิดภัยพิบัติแก่บ้านเรา 3 วันเจ็ดวัน

ก่อนหน้านั้น ลุงเห็นคนที่มีจิตเป็นอกุศลกรรม ได้มีการฉลอง จุดพลุ ร้องเพลงปีใหม่และนับถอยหลังในวันสิ้นปี (ลุงจึงคาดว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นหลังงานฉลองสิ้นปีใหม่) (ในประเด็นนี้อาจเป็นกรณีของน้องปลาบู่เตือนไว้ แผ่นดินไหวและเขื่อนพัง หากโลกได้รับผลกระทบจาก PX Retrograde ใกล้ครบ 180 องศา ชี้ขั้วเหนือเฉียดมายังโลก มีบางท่านกล่าวว่าเดือนมีนาคม 55 ก็จะเริ่มต้นมีเหตุการณ์ให้เห็นกันแล้ว อาจหมายถึง Planet X มาให้เห็นด้วยตาเปล่า ก่อนมีนานิดหนึ่ง PX ได้มาปรากฏโฉมอยู่เหนือตำแหน่งดาวศุกร์เล็กน้อย ฟ้าจะมืดไป 3 วันตามช่วงเวลาของ Secklendorf CC โลกส่วนเหนือเส้นศูนย์สูตรจะมืด 3 วันราวปลายเดือนสิงหาคมต่อกับต้นเดือนกันยายน) ลุงเห็นดาวเหนือเปลี่ยนไป ในลักษณะที่อธิบายไม่ถูก แต่มีความแตกต่างและเห็นได้เจนทั้งขนาดและความสว่าง (จุดนี้น่าจะเป็นสัญญานเตือนให้มีการเตรียมการกันนานหลายวัน) ….Venus Looming เริ่มแล้วก่อนเดือนมีนาคม 2555….หลังจากดาวศุกร์หายหน้าไป โลกจะอยู่ต่อหน้า PX

(ปัจจุบันผู้ที่เฝ้าสังเกตการณ์การปรากฏตัวของดาวศุกร์ก็พบว่าเดินแปลกๆ หรือบางโอกาสหายหน้าไปเลย…ย้ายวงโคจร…. สำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต้องเคลื่อนย้ายเตรียมสถานที่หลบภัยล่วงหน้า เช่นผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มเจ้าพระยาที่กำลังทรุดตัว ถูกแนวเขาทั้งด้านตะวันออกและตะวันตกบีบกดตลอดเวลา และจะเกิดน้ำทะเลท่วมภายในเวลาเพียงชั่วโมงเดียว หลังจากประเทศอินโดนีเซียจมลงไปเต็มพิกัด 80 ฟุตที่ปลายใต้สุดประเทศติดต่อกับประเทศออสเตรเลีย

ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นก่อนโลกย้ายขั้ว…คนไทยและชาวเอเชียบนแหลมอินโดจีน จะจมน้ำทะเลนับร้อยล้านชีวิต จึงจะเกิดเป็นข่าวช๊อคโลก ที่คุณ Zeta พยากรณ์เอาไว้ล่วงหน้า….ผู้ที่พำนักอยู่บนพื้นที่เสี่ยงต่างๆรวมทั้งในภาคใต้ตลอดแนวชายฝั่งทะเล ต้องพิจารณาเอาชีวิตรอดในช่วงเหตุการณ์ 7/10 ก่อนหน้าโลกย้ายขั้วให้ได้ก่อน จึงจะมีโอกาสอยู่เผชิญเหตุการณ์โลกย้ายขั้ว ที่ปรากฏขึ้นในญาณทัศนะของหลวงลุง ลูกศิษย์องค์หนึ่งของหลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร ที่คุณวิกรม กรุณานำมาเปิดเผยในเว็บพลังจิต)

ในวันฟ้าดับ ก่อนหน้านั้นจะมีฝนตกต่อเนื่องกันหลายวัน แล้วในวันนั้นไร้ฝน ฟ้าหม่นหมองยิ่งนัก ใบไม้เงียบจนไม่พลิกใบ ฝูงสัตว์เลี้ยง สัตว์ป่า จะครวญครางแอบหมอบ ลุงเห็นฟ้าสว่างโร่อย่างไม่เคยเห็นมาก่อน (ทำให้ลุงนึกถึงเรื่องราวที่คนเล่าถึงแสงสว่างจากระเบิดปรมาณู) ในยามที่เกิดแสงสว่างลุงเตือนหลานและทุกคนอย่าพยายามที่จะมองหาต้นทางของแสง เพราะหลังจากนั้นลุงเห็นภาพคนที่ตามืดบอดเนื่องจากแสงจักรวาลที่ฟาดลงมาแทงทำลายตาของเขา (สุริยจักรวาลและโลกเดินมาถึงจุดที่ส่งพลังงานจากขอบกาแลกซี่ทางช้างเผือกทาบต่อกับกาแลกซี่ไตรแองกุลัม ตรงไปยังกาแลกซี่อันโดรเมดาที่ครอบอีกสองกาแลกซี่อยู่ จึงถูกพลังงานโต้กลับมาจากอันโดเมดาอันใหญ่โต สว่างไปทั่วจักรวาลต่างๆสว่างวาบขึ้นพร้อมๆกัน….รอดูคงได้เห็นแม้โซนประเทศไทยระหว่างโลกหยุดหมุนรอบตนเองแล้วจะอยู่ซีกมืดก็ตาม)

แต่หลังจากเกิดแสงนี้แล้วหลานยังมีเวลาเตรียมตัว ในช่วงนี้เองสัตว์ต่างๆจะตื่นกลัววิ่งหนีแบบไม่มีทิศทาง บ้านเราถ้ามีสัตว์ใดขอให้หลานอย่าได้กักขังเขา เพราะจะเป็นอันตราย แม้แต่สัตว์ที่เชื่องที่สุดก็ตาม แต่ก็มีบางตัวที่จะรอดนั้นจะหมอบตัวสั่นใกล้ๆกับมนุษย์ ในยามนี้ขอให้หลานได้เข้าไปยังสถานที่ ที่มีการเตรียมการและปิดให้มิดชิด อาหาร น้ำ ยา และชุดยังชีพให้ทุกคนแยกติดตัวไว้ อย่าเอามารวมกันเพื่อจะแบ่งกัน เพราะอาจจะลำบากมาก ในการติดต่อแม้แต่อยู่ใกล้ๆกัน

ส่วนการย้ายเข้าที่ปลอดภัย และที่มีมีการเตรียมการอพยพขอให้หลานๆได้เตรียมตัวกันเต็มที่หลังจากที่เห็นดาวเหนือเปลี่ยนไป หลังจากที่มีแสงจักรวาลเข้ามาแล้วอีกไม่นานนัก ลุงเห็นภาพคนกำลังทานข้าวกันอยู่ จะเกิดเหตุการณ์โลกเราเหมือนกับชนกับอะไรซักอย่าง คนที่อยู่บนผืนดิน เหมือนคนที่อยู่บนรถขนาดใหญ่ที่มีการชนกัน ภาพคนคนล้มไถล ไปกับพื้น ตึกพังทลายราบลงมาทันที (เป็นลักษณะอาการที่โลกได้ย้ายขั้วแล้ว 90 องศาแล้วหยุด หลังจากมืดผ่านมา 6 วัน ต้องเตรียมนาฬิกาแบบไขลานแล้วบันทึกเวลาเอาไว้ระหว่างที่โลกเริ่มมืด ไม่สว่างอีกนั้น หรือโลกหยุดหมุนรอบตนเอง จะได้ทราบกำหนดเวลาที่โลกกำลังจะย้ายขั้ว เพื่อเตรียมหลบเข้าที่ปลอดภัยที่เตรียมไว้ล่วงหน้า และหากมีโดมพีระมิดที่พระอาจารย์รัตน์เพิ่งค้นพบได้ไม่นานติดตั้งเอาไว้ด้วย จะช่วยให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นระหว่างที่โลกย้ายขั้ว)

(ท่านใดที่สนใจจะอ่านรายละเอียดทั้งหมด สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ)

ที่มา วันฟ้าดับ จากบันทึกลึกลับ กับกระแสวันสิ้นโลก

 

สารคดี เมื่อโลกหยุดหมุน​

เผยแพร่เมื่อ 16 ก.ย. 2014
จะเกิดอะไรขึ้น หากโลกหยุดหมุน นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้น หากโลกของเราหยุดหมุนกระทันหัน​

 

Nibiru / Planet X Visible Near The Moon? July 4, 2015​

เผยแพร่เมื่อ 3 ก.ค. 2015​

 

เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.6 ริกเตอร์ ทางใต้ของเม็กซิโก​

​

เม็กซิโก 18 ธ.ค. – สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐ หรือ ยูเอสจีเอส แจ้งว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดความแรง 6.6 ริกเตอร์ ที่บริเวณภาคใต้ของเม็กซิโกเมื่อวานนี้ ในขณะที่ประเทศกัวเตมาลา ซึ่งอยู่ติดกันรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวดังกล่าว

ยูเอสจีเอสรายงานว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นที่รัฐเชียปาส ห่างจากเมืองเทรส ปิคอส เมืองชายฝั่งทะเลไปทางตะวันออกราว 7 กิโลเมตร โดยเกิดขึ้นที่ระดับความลึก 94 กิโลเมตรเมื่อเวลา 13.49 ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 02.46 น. ตามเวลาในประเทศไทย ประชาชนในรัฐเชียปาส รับรู้ถึงความสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจากแผ่นดินไหว ประชาชนและนักเรียนต่างอพยพออกจากอาคารต่าง ๆ และโรงเรียนในเมืองตุซตลา กูติเอร์เรซ เมืองเอกของรัฐเชียปาส เจ้าหน้าที่เม็กซิโกกล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่าเกิดความเสียหายหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ปักกิ่งประกาศเตือนมลภาวะทางอากาศสีแดงเป็นครั้งที่ 2​

​

ปักกิ่ง 18 ธ.ค.- กรุงปักกิ่งของจีนประกาศเตือนมลภาวะทางอากาศสีแดงซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นครั้งที่ 2 ในวันนี้ทันที หลังมีคำเตือนว่าพื้นที่ทางเหนือจะถูกหมอกควันปกคลุมในช่วงสุดสัปดาห์นี้

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของจีนเตือนว่า หมอกควันจะแผ่จากเมืองซีอานผ่านพื้นที่ตอนกลางขึ้นไปทางกรุงปักกิ่งจนถึงเมืองเสิ่นหยางและเมืองฮาร์ปินทางตะวันออกเฉียงเหนือที่มีอากาศหนาวเหน็บ มลภาวะทางอากาศจะเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่เย็นวันเสาร์ไปจนถึงวันอังคาร ทัศนวิสัยในพื้นที่เลวร้ายที่สุดอย่างกรุงปักกิ่งอาจจะเหลือไม่ถึง 1 กิโลเมตร ดัชนีมลภาวะในกรุงปักกิ่งและมณฑลเหอเป่ย์มีแนวโน้มจะเกิน 500 ซึ่งตามคำแนะนำของทางการหากดัชนีสูงเกิน 300 ขอให้ประชาชนอยู่แต่ในอาคาร

ทางการกรุงปักกิ่งได้ประกาศเตือนมลภาวะสีแดงในวันนี้ทันที หลังจากที่เคยประกาศครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ก่อน การประกาศเตือนภัยสีแดงจะใช้เมื่อดัชนีสูงเกิน 200 จากการวัดสารก่อมลภาวะหลายอย่างเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน ภายใต้คำเตือนนี้ยวดยานที่แล่นตามท้องถนนจะถูกลดลงครึ่งหนึ่ง โรงเรียนปิดการเรียนการสอน และห้ามการก่อสร้างกลางแจ้ง ทางการเมืองเทียนจินเตรียมลดยวดยานแล่นตามท้องถนนลงครึ่งหนึ่งในกรณีที่ประกาศเตือนสีแดง ส่วนทางการเมืองเสิ่นหยางประกาศเตือนสีส้ม ซึ่งรองลงจากสีแดง แนะนำประชาชนอย่าอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน.-สำนักข่าวไทย

ไต้ฝุ่นเมอโลร์สลายตัวแล้ว หลังถล่มฟิลิปปินส์ตาย 41 ราย​

​

ฟิลิปปินส์ 18 ธ.ค.- ไต้ฝุ่นเมอโลร์สลายตัวแล้ว หลังถล่มฟิลิปปินส์ ทำให้ชาวฟิลิปปินส์เสียชีวิตอย่างน้อย 41 ราย และไร้ที่อยู่กว่า 750,000 ราย

ชาวฟิลิปปินส์ที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ลุ่มในจังหวัดปัมปังกา เผชิญกับความยากลำบากแสนสาหัส หลังถูกไต้ฝุ่นเมอโลร์พัดถล่มไปเมื่อ 2 วันก่อน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากต้นไม้ล้มทับ ไฟฟ้าดูด และดินถล่ม อย่างน้อย 41 คน และเกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง สร้างความเสียหายแก่พื้นที่เกษตรและสาธารณูปโภคจำนวนมาก ขณะนี้ยังมีผู้สูญหายอีก 4 คน บาดเจ็บ 20 คน และไร้ที่อยู่เกือบ 750,000 คน ล่าสุดไต้ฝุ่นเมอโลร์สลายตัวไปแล้วหลังเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้.-สำนักข่าวไทย

ฝรั่งเศสจำกัดการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกควบคุมไข้หวัดนกทางตะวันตกเฉียงใต้
​

​

ปารีส 18 ธ.ค. – ฝรั่งเศสเข้มงวดมาตรการด้านสุขอนามัยและจำกัดการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกทั่วพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ขณะพยายามควบคุมการระบาดของไข้หวัดครั้งแรกในรอบ 8 ปี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออก

รัฐบาลฝรั่งเศสกำหนดเขตจำกัดรอบพื้นที่ที่พบการระบาดของไข้หวัดนกนับตั้งแต่เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ไข้หวัดนกมักแพร่ระบาดโดยคนหรือรถบรรทุก กระทรวงเกษตรฝรั่งเศสออกแถลงการณ์ระบุว่า มาตรการใหม่มีขึ้น เพื่อเป็นการให้หลักประกันที่จำเป็นแก่ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปหรือนอกกลุ่ม ที่นำเข้าสัตว์ปีกจากฝรั่งเศส .-สำนักข่าวไทย

จีนซ้อมรบในทะเลจีนใต้​

​

ปักกิ่ง 18 ธ.ค.- หนังสือพิมพ์กองทัพปลดปล่อยประชาชนของจีนรายงานว่า กองทัพได้ซ้อมรบในทะเลจีนใต้โดยมีทั้งกองเรือรบ กองเรือดำน้ำและฝูงบินขับไล่จำลองการถูกขีปนาวุธนำวิถีโจมตีกองเรือ

รายงานที่ตีพิมพ์ในหน้าหนึ่งระบุว่า การซ้อมรบมีขึ้นตั้งแต่วันพุธ ครอบคลุมน่านน้ำหลายพันตารางกิโลเมตรในทะเลจีนใต้ แบ่งกองกำลังออกเป็น 2 ฝ่าย และจำลองสถานการณ์หลากหลายแบบ เช่น เรือพาณิชย์ถูกฝ่ายที่สามยิงขีปนาวุธโดยไม่เจตนา เรือรบหันเหทิศทางของขีปนาวุธต่อต้านเรือ เรือรบปฏิบัติการร่วมกับเรือดำน้ำ เครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้าและฝูงบินขับไล่ อย่างไรก็ดี ยังไม่ชัดเจนว่าการซ้อมรบตามรายงานนี้เป็นการซ้อมรบเดียวกับที่กระทรวงกลาโหมจีนแถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่ากองทัพเรือได้ซ้อมรบในทะเลจีนใต้เมื่อไม่นานมานี้หรือไม่

ผู้บังคับการกองเรือแปซิฟิกของสหรัฐเตือนเมื่อวันจันทร์ว่า อาจจะเกิดการแข่งขันกันสั่งสมอาวุธในทะเลจีนใต้ที่จะส่งผลทั่วภูมิภาค เนื่องจากดูเหมือนว่าทุกประเทศมีแนวโน้มจะใช้กำลังแก้ไขข้อพิพาททางดินแดนมากกว่าการเจรจา.-สำนักข่าวไทย

ชาวมุสลิมร้องศาลรัฐบาลฝรั่งเศสตรวจค้นโดยมิชอบ​

​

ปารีส 18 ธ.ค.- ชาวมุสลิมในฝรั่งเศสยื่นฟ้องต่อศาลว่า รัฐบาลกระทำผิดกฎหมายกรณีบุกตรวจค้นบ้านเรือนภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่ประกาศใช้หลังเกิดเหตุก่อการร้ายกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน

ทนายความอิสระ 6 คนเผยว่า ได้ยื่นร้องเรียนต่อศาลอย่างน้อย 20 คำร้องว่ารัฐบาลกระทำผิดกฎหมายกรณีกักบริเวณผู้คนในบ้านพักอย่างไร้เหตุผลหรืออาศัยข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ขอให้ศาลสั่งระงับหรือยกเลิกคำสั่งกักบริเวณเหล่านั้น นอกจากนี้ยังเตรียมจะยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินและค่าทำขวัญ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ศาลได้ยกฟ้องไปแล้ว 6 คดี ด้านองค์กรประมาณ 100 แห่งเรียกร้องรัฐบาลยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดยให้เหตุผลว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุที่ไม่ตอบสนองต่อภัยก่อการร้าย

ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินให้อำนาจพิเศษแก่เจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นบ้านเรือนโดยไม่ต้องขอหมายศาล สมาชิกรัฐสภาฝรั่งเศสเห็นชอบเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนให้ขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ปีหน้า และรัฐบาลอาจจะขอต่ออายุอีก ผลสำรวจพบว่าชาวฝรั่งเศสสนับสนุนอย่างท่วมท้นให้ใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ขณะที่รัฐมนตรีพากันประสานเสียงว่า มีความจำเป็นต่อการรักษาความเรียบร้อยในสังคม อย่างไรก็ดี ศาลปกครองสูงสุดได้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 11 ธันวาคมให้พิจารณาว่ากฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินที่ใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2498 ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่เนื่องจากจำกัดเสรีภาพในการเดินทาง หลังจากนักเคลื่อนไหวคนหนึ่งร้องศาลว่าถูกกักบริเวณในบ้านพักก่อนการประชุมโลกร้อนที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

เชื่อไฟป่าอินโดนีเซียจะปะทุอีกปีหน้า​

​

จาการ์ตา 18 ธ.ค.- ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ไฟป่าในอินโดนีเซียจะปะทุขึ้นอีกเมื่อฤดูฝนสิ้นสุดลงในเดือนมีนาคม เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการอย่างเพียงพอในการสกัดไม่ให้เกิดไฟป่าที่เป็นสาเหตุของหมอกควันปกคลุมอินโดนีเซียและเพื่อนบ้านเกือบทุกปี

ธนาคารโลกประเมินว่า ไฟป่าและหมอกควันสร้างความสูญเสีย 221 ล้านล้านรูเปียห์ (ราว 572,730 ล้านบาท) ให้แก่ภาคการเกษตร ป่าไม้ ขนส่ง การค้าและการท่องเที่ยวของอินโดนีเซีย รวมไปถึงผลกระทบจากการปิดโรงเรียนและสุขภาพประชาชน คิดเป็นร้อยละ 1.9 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ หรือกว่า 2 เท่าของค่าใช้จ่ายบูรณะฟื้นฟูความเสียหายหลังสึนามิถล่มจังหวัดอาเจะห์ในปี 2547

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวนอกรอบการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กรุงปารีสของฝรั่งเศสเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า รากเหง้าปัญหาไฟป่าอินโดนีเซียเกิดจากการถือครองที่ดินอย่างไม่ชัดเจนและการให้สัมปทานอย่างไม่โปร่งใส รวมทั้งการมีผู้ได้ประโยชน์จากการเผาป่า ผลการวิจัยพบว่า การตัดไม้ทุก 6.25 ไร่จะก่อให้เกิดกำไร 665 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24,037 บาท) แบ่งกันระหว่างเกษตรกรผู้ตัดไม้ ผู้ทรงอิทธิพลท้องถิ่น หัวหน้าหมู่บ้านและผู้เกี่ยวข้อง แต่การเผาป่าทุก 6.25 ไร่จะก่อให้เกิดกำไร 856 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 30,940 บาท) โดยเสียค่าใช้จ่ายและเวลาน้อยกว่า แต่ทำให้ดินในป่าพรุพร้อมเพาะปลูกมากกว่า.-สำนักข่าวไทย

ที่มา เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

เย็นสะท้านทรวง นครพนมเหลือ 13 องศาฯ ชาวบ้านริมโขงกระทบหนัก​

​

จ.นครพนม ยังมีสภาพอากาศยังคงหนาวเย็นต่อเนื่อง ล่าสุดเช้านี้พบว่ามีอุณหภูมิยังต่ำสุดที่ประมาณ 13-14 องศาเซลเซียส ชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำโขง ต้องออกมาก่อไฟผิงคลายหนาว ขณะที่คนยากจนยังขาดเครื่องกันหนาวอยู่...

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม สภาพอากาศยังคงหนาวเย็นต่อเนื่อง หลังเมื่อวันที่ผ่านมา อุณหภูมิลดลง ประมาณ 5 องศาเซลเซียส ล่าสุดเช้านี้พบว่ามีอุณหภูมิยังต่ำสุดที่ประมาณ 13-14 องศาเซลเซียส ส่งผลกระทบหนักชาวบ้าน มีบ้านเรือนตามริมฝั่งแม่น้ำโขง พื้นที่ 4 อำเภอ มี อำเภอธาตุพนม อำเภอเมืองนครพนม อำเภอท่าอุเทน และอำเภอบ้านแพง เนื่องจากมีลมกระโชกแรง

นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ อำเภอนาแก ติดต่อเขตเทือกเขาภูพานน้อย เป็นที่ราบสูง ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากภัยหนาว มากกว่าหลายพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านต้องออกมาก่อไฟผิงคลายหนาว รวมถึงเด็กนักเรียน ที่ต้องเดินทางไปโรงเรียนแต่เช้า พ่อแม่ผู้ปกครอง ต้องจัดหาเครื่องนุ่งห่มกันหนาว เสื้อผ้ากันหนาวให้ ป้องกันการเจ็บป่วย โดยเฉพาะชาวบ้านที่มีฐานะยากจน ด้อยโอกาส ขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว กำลังรอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ

ด้าน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ได้ประกาศเตือนให้ประชาชน หมั่นดูแลรักษาสุขภาพในช่วงสภาพอากาศหนาวเย็น รวมถึงออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ ป้องกันปัญหาการเจ็บป่วย และโรคที่มากับฤดูหนาว.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 18 ธ.ค. 2558

ลมหนาวพัดโชย 'สุโขทัย-พะเยา-สกลนคร' หนาวจับใจ!!​

​

สุโขทัยเย็นยะเยือก อุณหภูมิลดเหลือ16 องศา ขณะที่ จ.พะเยาต่ำ15องศา เนื่องจากฝนตกทำให้สภาพอากาศหนาวเย็นลงอีกทำให้ ปชช. และเด็กๆ แม้กระทั่งสัตว์เลี้ยงต้องสวมใส่เสื้อกันหนาว ส่วน จ.สกลนคร อุณหภูมิลดวูบเหลือ 13 องศา ส่วนบนเทือกเขาภูพานหนาวสะท้านเพราะอากาศเย็นยะเยือก ต้องก่อไฟผิงกลางวันแสกๆ หลายครอบครัวยังขาดแคลนเครื่องนุ่งห่ม...

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศที่จังหวัดสุโขทัยในวันนี้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายพื้นที่ต้องพบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น ล่าสุดเมื่อเวลา 05.00 น.อุณหภูมิได้ลดลง 4-5องศา ล่าสุดที่บริเวณพื้นที่ราบใน อ.สวรรคโลก วัดอุณหภูมิได้ 16 องศา และจากสภาพอากาศที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจึงส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในการทำกิจวัตรประจำวันที่ในช่วงเช้ามืด ที่จะต้องออกมาเลือกซื้อของในตลาดสวรรคโลก ที่ต้องนำเสื้อกันหนาวมาสวมใส่เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นเพื่อคลายหนาว โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ผู้ปกครองต้องดูแลเป็นพิเศษเนื่องจากเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเสี่ยงต่อการเป็นโรคทางเดินหายใจ

ที่ จ.พะเยา สภาพอากาศทั่วไปพบว่า บนท้องฟ้าปกคุลมไปด้วยก้อนเมฆมีฝนตกปรอยๆ ไปทั่วบริเวณ ทำให้สภาพอากาศหนาวเย็นอุณภูมิลดลง ประชาชน เด็กนักเรียน ครู และสัตว์เลี้ยงต้องสวมใส่เสื้อกันหนาว เนื่องจากได้รับกระทบหลังจากฝนตกลงมาตั้งแต่เย็นวานจนถึงเช้าวันนี้จังหวัดพะเยาอุณภูมิเช้าวันนี้วัดได้ 15 องศาเซลเซียส อากาศหนาวเย็นกว่าทุกวันที่ผ่านมา มีเมฆเต็มท้องฟ้าและคาดว่าอุณภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส

ขณะที่ จ.สกลนคร อากาศหนาวเย็นจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีลมกระโชกแรงและอุณหภูมิลดลงจากเดิม ต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส เหลือเพียง 13 องศาเซลเซียส ทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่บนยอดภู บริเวณเทือกเขาภูพานหลายอำเภอ ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น โดยอุณหภูมิยอดภูอยู่ที่ 8-10 องศาเซลเซียส ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ต้องออกมาก่อไฟผิงกลางวันแสกๆ เพื่อบรรเทาความหนาว ขณะที่นักเรียนในโรงเรียนเชิงเทือกเขาภูพาน เช่น โรงเรียนบ้านดองขุมข้าวคุรุราษฎร์รังสรรค์ ต.พังขว้าง อ.เมือง ครูต้องนำนักเรียนมาทำการเรียนการสอน ประกอบกับออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง

สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดสกลนคร รายงานสภาพอากาศในวันนี้ว่า อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 13-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-28 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ส่วนการคาดหมายลักษณะอากาศในช่วง 7 วันข้างหน้า ในวันที่ 18-21 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 4-7 องศาเซลเซียส ในวันที่ 22-24 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อยและมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 18 ธ.ค. 2558

กสร. แจงเอาผิดแล้วนายจ้างสมุทรสาคร ใช้แรงงานเยี่ยงทาสแกะกุ้ง​

​

ก.แรงงาน แจงปมใช้แรงงานทาสชาวเมียนมา แกะกุ้ง โรงงานสมุทรสาคร ได้นำหมายศาลบุกค้นเข้าช่วยเหลือ ดำเนินคดีนายจ้างแล้ว วอนประชาชนช่วยสอดส่อง หากพบกระทำผิดค้ามนุษย์ ผ่านสายด่วน 1546...

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 58 น.ส.พรรณี ศรียุทธศักดิ์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยถึงกรณีที่สำนักข่าวเอพี สหรัฐอเมริกา รายงานข่าวว่า มีแรงงานชาวเมียนมา ถูกใช้แรงงานเยี่ยงทาสในโรงงานอาหารทะเลแปรรูป (แกะกุ้ง) ที่ จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 58 นั้น แท้จริงแล้วกรณีดังกล่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ประสานเข้าร่วมตรวจกับชุดเฉพาะกิจ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.สมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จ.สมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานการปฏิบัติงานในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 1 (ศรชล.) เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน โดยสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร ดำเนินการตรวจค้นสถานประกอบกิจการดังกล่าวไปแล้วตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. 58 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ ค.422/2558 ลงวันที่ 8 พ.ย. 58 ตรวจค้น บ้านเลขที่ 209/13 ถนนเดิมบาง ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร ประกอบกิจการแกะกุ้ง และจากการตรวจค้น พบมีแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 78 คน ซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 17 คน และมี 2 คน ที่อายุต่ำกว่า 15 ปี โดยนายจ้างได้ว่าจ้างเข้าทำงานระหว่างวันที่ 12 เม.ย. 55 ถึง 11 พ.ค. 58 ลูกจ้างทำงานจนถึงวันที่ 9 พ.ย. 58 จึงถูกช่วยเหลือ นายจ้างได้ให้ทำงานในหน้าที่แกะกุ้ง ซึ่งจะได้รับค่าจ้างตามผลงานเฉลี่ยวันละ 200 บาท และบังคับให้ทำงานทุกวัน เวลา 03.00-18.00 น. โดยไม่มีวันหยุดประจำสัปดาห์

จากการตรวจค้นสถานประกอบกิจการดังกล่าว พบว่านายจ้างฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 จึงดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีตามมาตราต่างๆ รวม 13 ข้อ ดังนี้ ตามมาตรา 26, 25 และ 24 ซึ่งเกี่ยวข้องการทำงานล่วงเวลาและชั่วโมงทำงานในวันหยุด, มาตรา 44 ห้ามมิให้นายจ้างจ้างเด็กอายุต่ำกว่าสิบห้าปีเป็นลูกจ้าง, มาตรา 45 ในกรณีที่มีการจ้างเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดปีเป็นลูกจ้าง นายจ้างต้องแจ้งต่อพนักงานตรวจแรงงานภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่เด็กเข้าทำงาน, มาตรา 47 ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้าง ซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดปีทำงาน ในระหว่าง เวลา 22.00-16.00 น., มาตรา 48 ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดปีทำงานล่วงเวลา หรือทำงานในวันหยุด,

มาตรา 61 ให้นายจ้างจ่ายค่าล่วงเวลาให้แก่ลูกจ้างในอัตราไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าครึ่ง ของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ, มาตรา 64 ในกรณีที่นายจ้างมิได้จัดให้ลูกจ้างหยุดงาน หรือจัดให้ลูกจ้างหยุดงานน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด ให้นายจ้างจ่ายค่าทำงานในวันหยุดและค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้แก่ลูกจ้าง เสมือนว่านายจ้างให้ลูกจ้าง ทำงานในวันหยุด, มาตรา 70 ไม่จ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ให้ถูกต้องและตามกำหนดเวลา, มาตรา 76 ห้ามมิให้นายจ้างหักค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา, มาตรา 90 ห้ามมิให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างน้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ,

มาตรา 108 ให้นายจ้างซึ่งมีลูกจ้างรวมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปจัดให้มีข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน, มาตรา 112 ให้นายจ้างซึ่งมีลูกจ้างรวมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปจัดทำทะเบียนลูกจ้าง และมาตรา 114 ให้นายจ้างซึ่งมีลูกจ้างรวมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปจัดให้มีเอกสารเกี่ยวกับการจ่ายค่าจ้าง ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานในชั้นพนักงานสอบสวน และดำเนินการให้แรงงานทั้ง 78 คน ยื่นคำร้อง (คร. 7) เพื่อเรียกค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด ค่าล่วงเวลาในวันหยุด และค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมาย

นอกจากกรณีข้างต้นแล้ว หากพบว่ามีประเด็นเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิแรงงานหรือการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ไม่ว่าจะเป็นแรงงานไทยหรือแรงงานต่างด้าว กสร.จะดำเนินการเข้าไปช่วยเหลือทันที เพื่อให้ลูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับ และใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินคดีนายจ้างหรือสถานประกอบกิจการที่กระทำผิด พร้อมทั้งกำกับดูแลนายจ้าง ลูกจ้างให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และเพื่อให้การทำงานของภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มครองแรงงานได้อย่างทั่วถึง และขอขอบคุณทุกภาคส่วนรวมถึงประชาชนที่ช่วยกันสอดส่องดูแล นายจ้าง ลูกจ้างที่ไม่เอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกัน และหากพบการกระทำความผิดหรือต้องการแจ้งเบาะแส สามารถติดต่อได้ที่สายด่วน 1546 หรือทางเว็บไซต์ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน, E-mail : info@labour.mail.go.th และสามารถยื่นคำร้องได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานคร พื้นที่ทุกพื้นที่ หรือสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 18 ธ.ค. 2558

หาดสมิหลากลับสู่ภาวะปกติแล้ว หลังเกิด 'แพลงก์ตอนบลูม' ทะเลเปลี่ยนสี​

​

คลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่งช่วยน้ำทะเลที่หาดสมิหลา เทศบาลนครสงขลา กลับสู่ภาวะปกติ หลังเกิด "แพลงก์ตอนบลูม" น้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีเขียว เหมือนน้ำคลอโรฟิลล์...

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณชายหาดแหลมสมิหลา อ.เมือง จ.สงขลา ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังเกิดแพลงก์ตอนพืชจำนวนมากบริเวณชายหาดทำให้น้ำทะเลมีสีเขียว ซึ่งแพลงก์ตอนที่พบนี้เป็นแพลงก์ตอนชนิดที่พบทั่วโลก ชอบอยู่ทั้งแหล่งน้ำใกล้ชายฝั่งและแหล่งน้ำที่อยู่ห่างจากชายฝั่ง พบได้ทั้งในฝั่งอ่าวไทยและฝั่งมหาสมุทรอินเดีย ขณะเกิดแพลงก์ตอนบลูม อาจทำให้ทัศนียภาพของท้องทะเลเปลี่ยนไปบ้าง แต่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์น้ำ จึงขอให้ประชาชนอย่าได้หวั่นวิตกกับปรากฏการณ์ดังกล่าว

นายสุชาติ สว่างอารีรักษ์ นักวิชาการประมง ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีเขียว ว่า เกิดจาก “แพลงก์ตอนบลูม” หรือ NOCTILUCA ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ ชนิดตามแนวชายฝั่งทะเล เมื่อระดับน้ำไม่เท่ากัน จึงเกิดการหมุนเวียน มวลน้ำเย็นที่อยู่ใต้ทะเลเคลื่อนเข้ามาใกล้ฝั่งมาก และดึงเอาธาตุอาหารชั้นสูงใต้ทะเลขึ้นมาบนผิวน้ำด้วย ซึ่งเป็นอาหารอย่างดีสำหรับสาหร่ายและแพลงก์ตอน ทำให้แพลงก์ตอนเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในท้องทะเล เรียกว่า แพลงก์ตอนบลูม โดยปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ขึ้นอยู่กับทิศทางของน้ำด้วย

ส่วนสภาพอากาศในวันนี้ทางศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกรายงานว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังแรง บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักได้บางพื้นที่ ในช่วงระหว่างวันที่ 18-20 ธันวาคม 2558 โดยคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงมา มีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงดังกล่าว.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 18 ธ.ค. 2558

กระทรวงพลังงานเปิดตัวรถบัสก๊าซชีวภาพต้นแบบ​

​

เชียงใหม่ 18 ธ.ค. – รัฐมนตรีพลังงานเปิดตัวรถบัส CBG มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยานยนต์พลังงานทางเลือกรับนโยบายกระทรวงพลังงาน คาดลดใช้น้ำมันมากถึง 21,200 ลิตรต่อปี คิดเป็นมูลค่าถึง 517,926 บาทต่อปี

พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีเปิดตัวอย่างเป็นทางการ “รถบัส CBG” จากมูลสัตว์ น้ำเสียอุตสาหกรรมอาหาร และขยะอินทรีย์ ซึ่งเป็นยานยนต์พลังงานทางเลือกของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นับเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกของประเทศไทยที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัย พัฒนาระบบขนส่งมวลชนภายในมหาวิทยาลัย ด้วยการใช้พลังงานสะอาด

พลเอกอนันตพร เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้จัดทำแผนบูรณาการพลังงานระระยาว 21 ปี จำนวน 5 แผน เพื่อขับเคลื่อนการบริหารจัดการภาคพลังงานของประเทศให้มีความยั่งยืน ซึ่งหนึ่งในแผนหลัก คือแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) ทั้งนี้ การเปิดให้บริการรถบัส CBG (ขส.มช.) ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มีการศึกษาวิจัยโดยนำมูลสัตว์ น้ำเสียอุตสาหกรรมอาหาร และขยะอินทรีย์ มาแปรรูปเป็นพลังงานทดแทนในรูปแบบก๊าซ CBG (Compressed Bio methane Gas) หรือก๊าซไบโอมีเทนอัด เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับภาคขนส่งมวลชน เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้มีการเดินทางโดยใช้บริการของขนส่งสาธารณะเป็นหลักสามารถช่วยลดมลพิษทางอากาศและลดการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ

สำหรับการบริหารจัดการขนส่งมวลชนของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ถือเป็นต้นแบบทางความคิดในการสร้างแหล่งพลังปัญญาที่จะเป็นแนวคิดให้สังคมเรียนรู้และนำไปปรับใช้ เพื่อให้แนวทางในการบริหารพลังงานของประเทศได้อย่างยั่งยืนสอดรับกับแผน AEDP ของกระทรวงพลังงานที่กำหนดสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน เพื่อการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพคิดเป็นร้อยละ 25 โดยมีแนวทางการดำเนินงานสำคัญ อาทิ การส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล และเอทานอล และส่งเสริมการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเพื่อลดต้นทุน ซึ่งในส่วนของเชื้อเพลิงชีวภาพนี้มีเป้าหมายสนับสนุนการใช้ก๊าซ CBG ในยานพาหนะหรือโรงงานอุตสาหกรรมที่มีกลุ่มรถบรรทุกที่ใช้งานในปริมาณ 4,800 ตันต่อวัน ให้ได้ภายในปี 2579

ศาสตราจารย์คลินิกนายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า การบริการรถบัสที่ใช้เชื้อเพลิง CBG จำนวน 2 คัน รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 325 คนต่อวัน คิดเป็น 84,500 คนต่อปี โดยรถบัสสายที่ 1 วิ่งให้บริการเส้นทางจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ฝั่งสวนสักไปยังฝั่งสวนดอก ระยะทางไป-กลับ 10 กิโลเมตร และรถบัสสายที่ 2 วิ่งให้บริการเส้นทางจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ฝั่งสวนสักไปยังศูนย์เกษตรแม่เหียะ ระยะทางไป-กลับ 17.5 กิโลเมตร รวมระยะทาง 168 กิโลเมตรต่อวัน ระยะเวลา 1 ปี จะมีนักศึกษาใช้บริการรถบัสแทนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวม 84,500 เที่ยวต่อปี ซึ่งจะช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้มากถึง 21,200 ลิตรต่อปี คิดเป็นมูลค่าถึง 517,926 บาทต่อปี ซึ่งจะช่วยลดความต้องการการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยหันไปใช้พลังงานสะอาดทดแทน และที่สำคัญยังเป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อน ด้วยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่บรรยากาศในปริมาณ 216,751 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จะทำให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีการพัฒนาไปสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำใช้พลังงานทดแทน พลังงานสีเขียว ที่สะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม .-สำนักข่าวไทย

ไทยอากาศหนาวเย็น พบน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ใต้ฝนเพิ่ม​

​

มวลอากาศเย็นกำลังแรงจากจีน แผ่ปกคลุม เหนือ-อีสาน-กลาง-ตะวันออก แล้ว ทำอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป มีลมแรง น้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ขณะภาคใต้ฝนตกเพิ่ม คลื่นลมแรง เรือเล็กงดออกจากฝั่ง

วันที่ 18 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบจากระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวี เดอะเวตเตอร์ คอมพานี พบว่า ใครที่จะไปสัมผัสอากาศหนาวๆ เย็นๆตอนบนนั้น มวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน ได้แผ่ปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกของประเทศไทยแล้ว ลักษณะเช่นนี้ ทำให้บริเวณดังกล่าว มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปต่อไปอีก 1-2 วัน และมีลมแรง กับ มีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ บริเวณยอดดอยในภาคเหนือ โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

โดยอุณหภูมิต่ำสุดพื้นราบในเช้าวันนี้ จะอยู่บริเวณภาคอีสานตอนบน ประมาณ 13 องศาเซเลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ในขณะที่ภาคเหนือต่ำสุด อยู่ที่ประมาณ 14-15 องศาเซลเซียส แต่บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส ส่วนตอนกลางวัน วันนี้มีอุณหภูมิไม่สูงมากนัก ภาคกลางสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 30-31 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน อากาศจะเย็นสบายตลอดทั้งวัน

สำหรับพื้นที่ภาคใต้ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย มีกำลังแรง ทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้น และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยระวังอันตรายจากคลื่นลมที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว

จากภาพถ่ายดาวเทียมเช้าวันนี้ พบว่า บริเวณภาคใต้ มีเมฆมาก โดยเป็นเมฆชั้นต่ำและชั้นกลาง ตรวจพบกลุ่มเมฆฝนกระจายทางตอนกลางถึงล่างของภาค ในอ่าวไทยและตามบริเวณชายฝั่งทั้งอันดามัน และอ่าวไทย ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีเมฆเป็นบางส่วน โดยเป็นเมฆชั้นสูง ไม่พบกลุ่มเมฆฝน

ซึ่งกลุ่มฝนที่ตกในบริเวณภาคใต้วันนี้ จะเน้นตกตั้งแต่บริเวณตอนกลางจนถึงตอนล่างของภาคทั้งในฝั่งอันดามัน และอ่าวไทย โดยตกตั้งแต่ในช่วงเช้าไปจนถึงช่วงเที่ยง และจะค่อยๆ ซาลงในช่วงบ่าย ซึ่งหากพิจารณาจากปริมาณน้ำฝนสะสมตลอด 24 ชั่วโมงต่อจากนี้ก็พบว่าในจังหวัดพัทลุง สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาสเป็นบริเวณที่มีปริมาณน้ำฝนสะสม

ส่วนสภาพอากาศในแต่ละภาควันนี้จะเป็นอย่างไร ไปเริ่มต้นที่

ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 13 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศเย็น กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก อากาศเย็น กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 องศาเซลเซียส
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 องศาเซลเซียส

ปิดท้ายสถานการณ์พายุ เช้าวันนี้พบดีเปรสชัน จำนวน 2 ลูก ได้แก่ ดีเปรสชันเมอโลร์ มีความเร็วลมศูนย์กลาง 46 กม./ชม. มีศูนย์กลางอยู่ในทะเลจีนใต้ ทางตะวันตกของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ ห่างจากประเทศไทย 1,579 กม. พายุนี้กำลังเคลื่อนที่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ด้วยความเร็ว 14 กม./ชม. คาดว่า พายุนี้จะสลายตัวในบ่ายวันนี้ และดีเปรสชัน ทเวนตี้ไนท์ มีความเร็วลมศูนย์กลาง 46 กม./ชม. มีศูนย์กลางทางตะวันออกของเกาะมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์ ห่างจากประเทศไทย 2,833 กม.พายุนี้กำลังเคลื่อนที่ทางทิศตะวันตกและจะขึ้นฝั่งที่เกาะมินดาเนา ด้วยความเร็ว 8 กม./ชม. ในบ่ายวันที่ 19 ธันวาคม 2558 แล้วข้ามเกาะมินดาเนาลงทะเลอีกครั้ง หลังจากนั้นจะเคลื่อนที่ไปทางตะวันตกสู่เกาะซูลู ต่อไป พายุนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อสภาวะอากาศประเทศไทย

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 18 ธ.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

คนสู้โรค - สตรอเบอร์รี่ปลอดสารพิษ​

อัปโหลดเมื่อ 7 ก.พ. 2012​

คนสู้โรค : สตรอเบอร์รี่ปลอดสารพิษ (1 ก.พ. 55) คนสู้โรคลงพื้นที่อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ดูไร่สตรอเบอร์รี่ปลอดสารพิษ ชมฟาร์มเลี้ยงผึ้ง พร้อมหาคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้ง

 

คนสู้โรค - ทานอาหารล้างพิษ​

เผยแพร่เมื่อ 2 พ.ย. 2012​

ปัจจุบันเราต้องเสี่ยงกับสารพิษมากมาย ทั้งการสัมผัส สูดดม ในชีวิตประจำวัน รวมถึงการกินเข้าไปสู่ร่างกายโดยตรง ไปตกค้างอยู่ที่ตับ ไต ... เข้าสู่ภาวะต้องพิษ ก่อเกิดโรคต่างๆ รวมถึงหาสาเหตุของอาการที่เกิดขึ้นไม่พบ เป็นๆ หายๆ และเฉียบพลัน

 

คนสู้โรค - ล้างพิษตับ​

เผยแพร่เมื่อ 5 ส.ค. 2013​