ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

ไฟไหม้โรงพยาบาลประสาทในรัสเซียตาย 23 คน​

​

รัสเซีย 13 ธ.ค. – เจ้าหน้าที่รัสเซียกล่าวว่า ผู้ป่วยจิตเวช 23 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้โรงพยาบาลทางภาคใต้ของประเทศเมื่อคืนวันเสาร์ นับเป็นโศกนาฏกรรมล่าสุดที่เกิดขึ้นกับโรงพยาบาลจิตเวชอีกแห่งในรัสเซียหลังจากมีรายงานมาก่อนหน้านี้

มีผู้เสียชีวิต 23 คน จากเหตุเพลิงไหม้โรงพยาบาลประสาทในเขตโวโรเนซของรัสเซีย ห่างจากกรุงมอสโก ลงไปทางใต้ราว 600 กิโลเมตร ผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล ส่วนตัวอาคารซึ่งทำด้วยไม้ ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง เหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นช่วงก่อนเวลาเที่ยงคืน ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ต้องเวลาถึง 3 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ขณะนี้ตำรวจกำลังสอบหาสาเหตุของต้นเพลิง

กระทรวงฉุกเฉินรัสเซียแถลงวันนี้ว่า พบ 21 ศพ ส่วนอีก 2 คนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล และยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่อีก 23 คน เจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีผู้ป่วยจิตเวช 70 คน และพยาบาล 4 คนอยู่ภายในอาคารโรงพยาบาลช่วงที่เกิดไฟไหม้ก่อนเที่ยงคืนวันเสาร์ไม่นานหรือเช้าตรู่วันอาทิตย์ตามเวลาในไทยในเขตโวโรเนซทางภาคใต้ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อายุราว 60-70 ปีเศษ บางรายอายุ 40- 50 ปี สถานีโทรทัศน์รอสซิยา 24 รายงานว่า ผู้ป่วยหลายคนได้รับยาจากการรักษาบำบัด จึงทำให้ไม่ค่อยรู้สึกตัวในช่วงที่เกิดเพลิงไหม้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยกว่า 440 คนต้องใช้เวลาราว 3 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ คณะเจ้าหน้าที่สอบสวนซึ่งได้รายงานโดยตรงถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินกล่าวว่า ได้ดำเนินการสอบสวนตามความผิดในคดีอาญาแล้วและสงสัยว่าเป็นการกระทำโดยประมาท .- สำนักข่าวไทย

มีผู้เสียชีวิตและเจ็บหลายสิบคนจากเหตุระเบิดกลางตลาดในปากีสถาน​

​

เปชวาร์ 13 ธ.ค. – เจ้าหน้าที่ปากีสถานกล่าวว่า เกิดเหตุระเบิดกลางตลาดที่เต็มไปด้วยผู้คนย่านชุมชนชาวชีอะห์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานวันอาทิตย์นี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน

เจ้าหน้าที่คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีกจากเหตุระเบิดที่ตลาดอิดกาห์แหล่งขายเสื้อผ้ามือสองในเมืองปาราชินาร์ใกล้เขตชายแดนที่ติดกับอัฟกานิสถาน ตำรวจกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน และบาดเจ็บราว 50 คน ส่วนหน่วยเก็บกู้ระเบิดมายังพื้นที่เกิดเหตุและกำลังตรวจสอบสาเหตุการระเบิด ขณะตำรวจปิดกั้นที่เกิดเหตุและรถพยาบาลมาถึงแล้ว แพทย์ที่โรงพยาบาลท้องถิ่นซึ่งรักษาผู้บาดเจ็บกล่าวว่า ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงคาดว่ายอดเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้น .- สำนักข่าวไทย

ฟิลิปปินส์เตือนภัยเตรียมรับพายุหมุนเขตร้อนกำลังแรง​

​

มะนิลา 13 ธ.ค. – เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันภัยพลเรือนฟิลิปปินส์เตือนภัยพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศให้เตรียมตัวรับมือพายุหมุนเขตร้อนเมอโลร์ ที่อาจก่อให้เกิดคลื่นยักษ์ น้ำท่วมและดินถล่ม

หัวหน้าหน่วยป้องกันพลเรือนกล่าวในระหว่างการประชุมเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่า ไม่ควรประมาทพายุลูกนี้ ซึ่งนักพยากรณ์อากาศคาดการณ์ว่า อาจยกระดับเป็นพายุไต้ฝุ่นในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ และคาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งเกาะซามาร์ทางภาคกลางของประเทศ พายุโซนร้อนจะยกระดับเป็นพายุไต้ฝุ่นเมื่อมีกำลังสูงกว่า 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งพายุหมุนเขตร้อนเมอโลร์ในขณะนี้มีกำลังลมคงที่ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในวันนี้ ทางการฟิลิปปินส์ยังไม่ออกคำสั่งอพยพประชาชน แต่ระบุว่าอาจมีคำสั่งหากว่าพายุพัดถล่มพื้นที่เพาะปลูกของเกาะซามาร์ที่มีประชาชนอาศัยอยู่ 1.5 ล้านคน ขณะนี้พายุกำลังมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกถึงตะวันตกเฉียงเหนือในมหาสมุทรแปซิฟิก

ขณะเดียวกันได้มีการกักตุนอาหารและสิ่งของฉุกเฉินในพื้นที่ที่คาดการณ์ว่าจะได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนเมอโลร์แล้ว รวมถึงเตรียมเคลื่อนกำลังทหารลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนในกรณีที่มีการอพยพ ด้านผู้อำนวยการสภาบริหารและบรรเทาความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปินส์กล่าวเตือนว่าบางพื้นที่มีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับคลื่นยักษ์.- สำนักข่าวไทย

ประชาชนเดือดร้อนหนักจากอากาศเลวร้ายในอังกฤษ​

​

ประชาชนเดือดร้อนหนักจากอากาศเลวร้ายในอังกฤษ

อังกฤษ 13 ธ.ค. – ประชาชนในเขตครัมเบียทางเหนือของอังกฤษที่เผชิญน้ำท่วมฝนตกหนักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และกำลังเร่งความสะอาดบ้านเรือนกัน ยังต้องเจอกับความยากลำบากมากขึ้นเนื่องจากพายุหิมะเริ่มพัดถล่ม ขณะที่น้ำในแม่น้ำยังคงอยู่ในระดับสูง สำนักงานพยากรณ์อากาศรายงานว่าช่วงสุดสัปดาห์นี้จะมีฝนตกลงมาอีกและอาจเกิดน้ำท่วมระลอกใหม่. -สำนักข่าวไทย

สหรัฐรวบชายต้องสงสัยวางเพลิงเผามัสยิดในแคลิฟอร์เนีย​

​

แคลิฟอร์เนีย 13 ธ.ค. – เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของสหรัฐรายงานว่า ชายวัย 23 ปีถูกควบคุมตัวฐานต้องสงสัยว่าก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชังและวางเพลิงเผามัสยิดในรัฐแคลิฟอร์เนีย

เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตริเวอร์ไซด์แถลงว่า นายคาร์ล เจมส์ ไดเอิล จูเนียร์ ถูกควบคุมตัวเมื่อค่ำวันศุกร์และต้องข้อหาวางเพลิง ก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชัง และโจรกรรม ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้ที่ศูนย์อิสลามปาล์มสปริงส์ในบริเวณด้านหน้าของอาคาร และไม่มีผู้บาดเจ็บ ผู้คนที่มัสยิดเล่าว่าได้ยินเสียงดังขึ้นและไฟลุกไหม้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ที่คู่สามีภรรยาชาวมุสลิมสองคนก่อเหตุกราดยิงในเมืองซานเบอร์นาร์ดิโนเมื่อต้นเดือน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 คน ชาวมุสลิมบางส่วนในเขตเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนียและชุมชนอื่นต่างกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกเขาว่าอาจจะถูกแก้แค้น ในขณะที่ผู้นำชุมชนและผู้นำศาสนาต่างเรียกร้องขอให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ .-สำนักข่าวไทย

สวิสรวบชาวซีเรียสองคนหลังพบระเบิดในรถยนต์​

​

เจนีวา 13 ธ.ค. – เจ้าหน้าที่สวิตเซอร์แลนด์กล่าวว่า ชาวซีเรีย 2 คนถูกควบคุมตัวในนครเจนีวา ภายหลังตรวจพบวัตถุระเบิดในรถยนต์ของพวกเขา ขณะตำรวจยังยังคงตามล่าตัวผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธในเครือกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)

อัยการเจนีวากล่าวแถลงข่าวว่า ชายสองคนถือหนังสือเดินทางซีเรียและเพิ่งเดินทางเข้าสวิตเซอร์แลนด์ได้ไม่นานและพูดภาษาอาหรับ พวกเขาถูกควบคุมตัวภายหลังจากตำรวจได้รับแจ้งว่าชายทั้งสองมีพฤติกรรมน่าสงสัย อย่างไรก็ตามอัยการกล่าวว่า พวกเขาไม่ได้อยู่ในกลุ่มชาย 4 คนซึ่งกำลังถูกตามล่าเนื่องจากสงสัยว่าเป็นสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงที่วางแผนก่อเหตุโจมตีภายหลังจากเหตุการณ์โจมตีกรุงปารีสของฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน และตำรวจได้เผยแพร่รูปภาพของผู้ต้องสงสัยแล้ว ส่วนชายสองคนนี้ถูกควบคุมตัวในวันเดียวกับที่เดินทางเข้าสวิตเซอร์แลนด์ .-สำนักข่าวไทย

ที่ประชุมลดโลกร้อนเห็นชอบควบคุมอากาศไม่ให้พุ่งเกิน 2 องศา​

​

ฝรั่งเศส 13 ธ.ค.-คณะผู้แทนเจรจาจากทั่วโลกในที่ประชุม COP21 ที่กรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส เห็นชอบข้อตกลงในการควบคุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไม่ให้พุ่งสูงเกิน 2 องศา

ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่คณะผู้แทนเจรจาจาก 195 ประเทศทั่วโลกให้ความเห็นชอบร่วมกันที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นายโลรองต์ ฟาบิอุส รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ระบุว่า ข้อตกลงขั้นสุดท้ายนี้มีความเป็นธรรม มีผลผูกพันทางกฎหมาย และถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประวัติศาสตร์ที่ทั่วโลกจะร่วมมือกันเพื่อช่วยควบคุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเทศร่ำรวยจะจัดสรรเงินช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนารับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างน้อยปีละ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

แต่ละประเทศจะทบทวนเป้าหมายลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก่อนที่ข้อตกลงฉบับนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2563 และจะทำการทบทวนเป้าหมายครั้งต่อไปในปี 2566, 2568 และทุก 5 ปีหลังจากนั้น ด้านนายมาร์ติน เคเซอร์ จากองค์กรกรีนพีซ เผยว่าที่ประชุมยังคงมีประเด็นหลักๆ ที่ยังตกลงกันไม่ได้ เช่น จะมีการเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างสิ้นเชิงได้อย่างไรและเมื่อใด รวมทั้งประเด็นเกี่ยวกับการเงินด้วย.-สำนักข่าวไทย

ที่มา เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

ตะลึง! เจ้าอาวาสฝันถึงเศียรพระ 9 ครั้ง ขุดเจอกลางสระอีกวันน้ำเป็นสีมรกต​

​

เจ้าอาวาสวัดดอนปรู จ.สุพรรณบุรี ฝันเห็นเศียรพระจมน้ำ 9 ครั้ง ขุดเจอเศียรหลวงพ่อมงคลนิมิต อายุกว่า 300 ปี อัญเชิญขึ้นสักการะ อัศจรรย์! อีกวันน้ำในสระเป็นสีเขียวมรกต ชาวบ้านแห่ดื่ม ขณะพบโพรงขนาดใหญ่ในสระ เชื่อ เป็นถ้ำพญานาค

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 58 ชาวบ้าน 2 จังหวัด ทั้ง จ.อ่างทอง และ จ.สุพรรณบุรี ต่างแห่กราบไหว้ขอพรเศียรพระโลหะสีทอง อายุกว่า 300 ปี หลังขุดพบที่สระน้ำขนาดใหญ่กลายเป็นสีเขียวมรกต ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์นำไปดื่ม ที่บริเวณวัดดอนปรู ต.ดอนปรู อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เขตรอยต่อ ต.รำมะสัก อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง

พระอธิการวราวุธ ฐิตเมโธ เจ้าอาวาสวัดดอนปรู เปิดเผยว่า ฝันว่ามีเศียรพระจมอยู่ภายในบ่อน้ำข้างวัดมาถึง 9 ครั้ง จึงร่วมปรึกษากับญาติโยม พร้อมจ้างรถแบคโฮมาขุดดูเพื่อพิสูจน์ และในวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้ทำการขุดตรวจสอบดูที่บริเวณสระน้ำเก่าที่ตื้นเขินแล้ว โดยขุดไปลึกประมาณ 5 วา ก็พบเศียรพระพุทธรูปโลหะสีทอง จึงทำพิธีบวงสรวงและอัญเชิญขึ้นมาจากสระน้ำให้ชาวบ้านได้กราบไหว้สักการบูชา

ทั้งนี้ เศียรพระพุทธรูปดังกล่าว มีขนาดเส้นรอบวง 65 ซม. สูง 40 ซม. มีชื่อว่า หลวงพ่อมงคลนิมิต โดยหลังจากนำเศียรหลวงพ่อมงคลนิมิต ขึ้นจากสระน้ำ ก็เกิดสิ่งที่น่าอัศจรรย์ขึ้น เมื่อสระน้ำขนาดเนื้อที่ 2 งาน และลึกประมาณ 5 วา 1 วันถัดมาหลังจากที่อัญเชิญเศียรพระแล้ว เกิดมีสีเขียวมรกต ชาวบ้านต่างแห่ลงไปตักมาดื่มและนำไปอาบ โดยมีความเชื่อว่าเป็นยารักษาโรค

นอกจากนี้ ยังพบกับเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นที่บริเวณสระน้ำดังกล่าว พบว่ามีโพรงขนาดใหญ่และลึกคล้ายถ้ำ อีกทั้งยามค่ำคืนมักจะได้ยินเสียงลักษณะสัตว์ขนาดใหญ่ และบางครั้งมีฟองอากาศผุดขึ้นมา โดยชาวบ้านต่างเชื่อว่าเป็นถ้ำพญานาค และทุกคืนจะมีเสียงเหมือนมีใครเล่นน้ำในบริเวณสระเป็นประจำหลังจากอัญเชิญเศียรหลวงพ่อมงคลนิมิต ขึ้นมากราบไหว้บูชา.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 13 ธ.ค. 2558

ไทย-ลาว ร่วมประชุมพัฒนาการท่องเที่ยว ‘เลย-หลวงพระบาง’​

​

คณะเจ้าหน้าที่จังหวัดเลย นำโดยรองผู้ว่าฯ และคณะเจ้าหน้าที่ลาว ร่วมประชุมการพัฒนาการท่องเที่ยว ‘เลย-หลวงพระบาง’ หวังสร้างความเข้าใจ ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการท่องเที่ยวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีมาตรฐานร่วมกัน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ธ.ค.58 ที่ห้องประชุมชัยพฤกษ์ โรงแรมเลยพาเลซ อ.เมืองเลย จ.เลย ได้มีการประชุมร่วมระหว่างคณะทำงานของจังหวัดเลย และคณะเจ้าหน้าที่ของหลวงพระบาง สปป.ลาว โดยคณะทำงานของจังหวัดเลย ประกอบด้วยสำนักงานจังหวัดเลย สำนักงานพื้นที่ท่องเที่ยวพิเศษอย่างยั่งยืน ภาคเอกชน หอการค้า สมาคมการท่องเที่ยว ททท.สำนักงานเลย นำโดยนายเสน่ห์ นนทะโชติ รอง ผวจ.เลย ส่วนคณะทำงานของฝ่ายหลวงพระบาง นำโดยท่าน สุลิสัก พรมมาลี หัวหน้าห้องว่าการปกครองแขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว

ในการประชุมของคณะทำงานจังหวัดเลย และหลวงพระบางในครั้งนี้ เพื่อปรึกษาหารือในเรื่องของความร่วมมือการพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดเลย และหลวงพระบาง ที่จังหวัดเลย โดย ผวจ.เลย และทางเจ้าแขวงหลวงประบาง ได้มีการประชุมหารือที่แขวงหลวงพระบางเมื่อ 7 ก.ย.58 ที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในการตั้งคณะทำงานความร่วมมือพัฒนาการท่องเที่ยว เลย–หลวงพระบาง ส่วนการประชุมในวันนี้ เป็นการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาการท่องเที่ยวระหว่าง เลย และหลวงพระบาง

จากการประชุมได้มีการบันทึกครั้งที่ 1 ความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายดังนี้ โดยทั้งสองฝ่ายจะมุ่งเน้นสร้างความเข้าใจในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการท่องเที่ยวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีมาตรฐานร่วมกัน สร้างความเข้าใจในการกระชับสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ทางการท่องเที่ยว เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนทั้งสองฝ่าย และนักท่องเที่ยวได้รับรู้การท่องเที่ยว จังหวัดเลย และหลวงพระบาง มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวซึ่งกันและกัน จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ โดยทางจังหวัดเลย เชิญทางแขวงหลวงพระบางมาในงานดอกฝ้ายบาน การละเล่นผีตาโขน และแขวงหลวงพระบางเชิญจังหวัดเลยไปงานไหลเรือไฟงานออกพรรษาของแขวงหลวงพระบาง สร้างความเข้าใจเส้นทางการท่องเที่ยวจากจังหวัดเลย ไปแขวงหลวงพระบาง โดยร่วมกับแขวงไชยะบูลี ผ่านไปยังแขวงหลวงพระบางและจัดกิจกรรมศึกษาอารยธรรมอาณาจักรล้านช้าง ตามเส้นทาง หลวงพระบาง ไชยะบูลี และในเดือนมกราคม–มิถุนายน 59 การประชุมครั้งต่อไปประชุมที่แขวงหลวงพระบาง

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 13 ธ.ค. 2558

สุราพาตาย! แม่ม่ายลูก 3 ดื่มมาตลอด 5 ปี สุดท้ายหลับไม่ตื่น​

​

แม่ม่ายลูกสามที่อ.สิชล นครศรีธรรมราช ดื่มเมาทั้งวันทั้งคืนมา 5 ปี แล้วมักไปหลับที่หน้าบ้านเพื่อนบ้านที่สนิทกัน ลูกเขยเจ้าของบ้านมาเจอเห็นว่าตัวซีดผิดปกติ เลยไปปลุก ปรากฏว่าไม่ตื่น ไม่มีชีพจร และหยุดหายใจไปแล้ว...​

เมื่อของวันที่ 13 ธ.ค.58 ร.ต.ท.รักเกียรติ โชติศักดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.เปลี่ยน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนเป็นลมตาย ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.เทพราช อ.สิชล จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชำนาญ แทนม้วน ผกก.สภ.เปลี่ยน ร.ต.ท.ธะรัตน์ ศิริธรรม รอง สวป. แพทย์เวรจากโรงพยาบาลสิชลและเจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต็กตึ๊งสิชล

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง สภาพนอนหงายอยู่หน้าระเบียงบ้าน ทราบว่าชื่อนางนงฤดู วิบูลศิลป์ อายุ 48 ปี เป็นเพื่อนบ้านข้างเคียง อยู่หมู่บ้านเดียวกัน

จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายมีลูก 3 คน และอยู่เป็นม่ายมานาน แต่ระยะ 5 ปีหลังมานี้จะดื่มเหล้าเมาทั้งวันทั้งคืน ชอบแวะเวียนมานั่งที่บ้านที่เกิดเหตุ และนอนหลับที่บ้านหลังนี้ทุกวัน เพราะเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทกันมาก ช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ไปซื้อเหล้าดื่ม ที่ร้านค้าในหมู่บ้าน แล้วมานอนตรงที่เดิมที่เคยนอนที่บ้านเกิดเหตุ โดยมีเพื่อนบ้านนั่งอยู่ด้วยประมาณ 4-5 คน และคิดว่าเมาแล้วหลับไปตามปกติ

จนกระทั่ง นายสมโภชย์ ไชยลิขิต ลูกเขยของเจ้าของบ้าน กลับมาจากตลาดเห็นผิดปกติเพราะตัวและขาเริ่มซีด จึงได้ไปปลุกและตรวจดูชีพจรพบว่าไม่เต้นแล้ว จึงพยายามช่วยปั๊มหัวใจ แต่ก็ไม่สามารถช่วยได้เนื่องจากเสียชีวิตไปเป็นเวลานานแล้ว หลังจากที่ได้พลิกศพและให้แพทย์ชันสูตรแล้ว ได้มอบศพให้กับญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 13 ธ.ค. 2558

นักท่องเที่ยวเกือบหมื่นแห่ขึ้นดอยอินทนนท์ สัมผัสอากาศหนาว รอดูฝนดาวตก​

​

นักท่องเที่ยวยังคงหลั่งไหลเที่ยวดอยอินทนนท์เนืองแน่น เช้านี้อุณหภูมิบนยอดหญ้าเหลือ 4 องศา ประชาชนแห่ขึ้นจับจองพื้นที่ทั้งบ้านพักและกางเต็นท์ จนเต็มเพื่อเตรียมดูดาวตกในคืนวันที่ 14 ธ.ค.

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 13 ธ.ค.58 นายพรเทพ เจริญสืบสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าสภาพอากาศบนยอดดอยอินทนนท์ ยังคงหนาวเย็น โดยเช้าวันนี้ ที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน อุณหภูมิวัดได้อยู่ที่ 5 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิบนยอดหญ้า วัดได้ 4 องศาเซลเซียส ส่งผลให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาสัมผัสอากาศหนาว ชมพระอาทิตย์ขึ้น และชมทะเลหมอกกันคับคั่ง แม้เช้าวันนี้จะไม่มีเหมยขาบ หรือน้ำค้างแข็ง เนื่องจากอุณหภูมิสูงขึ้นก็ตาม จนทำให้สภาพการจราจรช่วงขึ้นดอยอินทนนท์หนาแน่นมาก ขณะที่ทางอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่

สำหรับสภาพการจราจร ช่วงเช้าที่จุดกิ่วแม่ปาน และยอดดอยอินทนนท์ ติดแต่เคลื่อนตัวได้ นอกจากนั้น ในวันที่ 14 ธ.ค.58 จะเป็นช่วงที่เกิดฝนดาวตก ตั้งแต่ 20.00 น.เป็นต้นไป จนถึงฟ้าสาง จึงยิ่งทำให้มีนักท่องเที่ยวแห่มาจับจองพื้นที่เพื่อรอดูฝนดาวตกกันจำนวนมาก ส่วนที่พักนั้น ลานกางเต็นท์ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ยังพอมีเหลืออยู่บ้าง แต่บ้านพักนั้นถูกจองไว้หมดแล้ว ขณะที่ยังมีคงพอมีที่พักของเอกชนไว้คอยบริการให้แก่นักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.58 ที่ผ่านมา จากรายงานมี นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวดอยอินทนนท์ เป็นชาวไทย 7,404 คน นักท่องเที่ยวต่างชาติ 339 คน ยานพาหนะ ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ 228 คัน รถยนต์ 1,450 คัน ขณะที่ นายดำรงศักดิ์ ถมยา เวรพยากรณ์อากาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ได้รายงานมาว่าบริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศอุ่นขึ้นโดยทั่วไป กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ เว้นแต่ภาคเหนือตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็นขอให้ประชาชนในบริเวณภาคเหนือเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วยจังหวัดเชียงใหม่ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 16 เซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 เซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด โดยมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 เซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 13 ธ.ค. 2558

ไทยตอนบนอากาศอุ่นขึ้น มีหมอกในตอนเช้า ภาคใต้ฝนน้อยลง​

​

ความกดอากาศสูงกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผล สภาพอากาศโดยทั่วไปอุ่นขึ้นและมีหมอกในตอนเช้า ยกเว้น ภาคเหนือ และอีสานตอนบน ที่อากาศยังคงหนาวเย็น ส่วนภาคใต้ฝนน้อยลงแล้ว เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน

เมื่อ 13 ธ.ค.58 จากการตรวจสอบจากระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวี ร่วมกับเดอะเวตเตอร์ คอมพานี พบว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศอุ่นขึ้นโดยทั่วไป กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ เว้นแต่ภาคเหนือ และภาคอีสานตอนบน ยังคงมีอากาศหนาวเย็น ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยตอนบนเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนน้อย ส่วนการคาดการณ์ปริมาณฝนตั้งแต่ตอนบนถึงตอนกลางของประเทศในวันนี้ พบว่า ประเทศไทยตอนบนทั้ง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ท้องฟ้าโปร่ง ไม่มีกลุ่มฝนปกคลุม แต่ทางภาคตะวันออก มีเมฆฝนก่อตัวขึ้นบริเวณชายฝั่งจังหวัดจันทบุรี ระยอง และตราด

ส่วนภาคใต้ มีกลุ่มฝนกระจายเกือบทั้งภาค แต่ลดลงกว่าเมื่อวานนี้ ต้ังแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ปัตตานี นราธิวาส และยะลา มีฝนตกปานกลางถึงหนักเกือบทั้งวัน จากนั้นเมฆฝนจะเคลื่อนมาตกบริเวณพังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง สตูล และยะลา

ส่วนสภาพอากาศในแต่ละภาคเป็นดังนี้

ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศาเซลเซียส

ภาคอีสาน อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ฝั่งอันดามัน มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง สตูล และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานคร มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 13 ธ.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

สงคราม & สันติภาพ​

​

Paul Craig Roberts อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการคลังสหรัฐสมัยรัฐบาลเรแกนเขียนบทความเรื่อง สงครามส่อเค้าในขอบฟ้า: มันช้าเกินไปหรือยังที่จะหยุดสงคราม? (War Is On The Horizon: Is It Too Late To Stop It?)
http://www.paulcraigroberts.org/…/war-is-on-the-horizon-is…/

ขอสรุปประเด็นสำคัญที่ลุงโรเบิร์ตส เขียนในบทความนี้ได้อย่างน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

1. บทเรียนของประวัติศาสตร์สงคราม คือ พอต่างฝ่ายต่างระดมพลเพื่อก่อสงคราม จะเกิดมีแรงเหวี่ยงของด้วยตัวมันเอง และมันจะควบคุมไม่ได้ สิ่งนี้อาจจะเกิดขึ้นแล้ว แต่สายตาเรามองไม่เห็นเอง

2. ปูตินกล่าวในเวทียูเอ็นในวันที่ 28 กันยายน ว่า รัสเซียทนต่อสถานการณ์โลกอย่างนี้ไม่ไหวแล้ว อีกสองวันต่อมา รัสเซียเริ่มปฏิบัติการโจมตีไอซิสในซีเรีย โดยคำเชิญของรัฐบาลซีเรีย

3. รัสเซียสามารถทำลายไอซิสและคลังอาวุธของไอซิสได้ ทำให้รัฐบาลซีเรียสามารถยึดคืนพื้นที่ที่ไอซิสยึดได้ก่อนหน้านี้ รัสเซียทำลายแทงค์เก็บน้ำมันของไอซิสที่ช่วยไฟแนนซ์การเงินของไอซิส น้ำมันถูกลำเลียงผ่านไปยังตุรกีและขายต่อให้ครอบครัวของหัวหน้าแก๊งค์ที่ปกครองตุรกีในเวลานี้

4. วอชิงตันคาดไม่ถึงว่ารัสเซียจะกล้าตัดสินใจเด็ดเดี่ยวอย่างนี้ วอชิงตันกลัวว่าบริวารประเทศในนาโต้อาจจะแตกแถว ด้วยการไม่สนับสนุนสงครามต้านอัสซาดในซีเรีย และการใช้รัฐบาลหุ่นในยูเครนเพื่อกดดันรัสเซีย ด้วยเหตุนี้วอชิงตันถึงจัดการให้ตุรกียิงเครื่องบินรบของรัสเซีย ถึงแม้ว่าจะมีข้อตกลงระหว่างรัสเซียกับนาโต้ว่าจะไม่มีการเผชิญหน้ากันบนอากาศในบริเวณที่ทหารรัสเซียปฏิบัติการในซีเรีย

5. วอชิงตันปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นเป็นใจในการยิงเครื่องบินรัสเซียตก ตุรกีไม่ขอโทษรัสเซีย ส่วนรัสเซียยังไม่ตอบโต้อะไร ทำให้สหรัฐรีบปล่อยข่าวให้ยุโรปให้เข้าใจว่ารัสเซียเป็นแค่เสือกระดาษ เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงอะไร ให้เดินหน้ากดดันรัสเซียต่อในตะวันออกกลาง ยูเครน จอร์เจีย มอนเตเนโกรและที่อื่นๆ เพราะว่ารัสเซียเอาเข้าจริงแล้วอ่อนแอ ไม่กล้าเผชิญกับกองทัพนาโต้

6. ทั้งรัสเซียและจีนดำเนินนโยบายที่เป็นอิสระ วอชิงตันถือว่า นี้คือภัยต่อความเป็นมหาอำนาจแต่ผู้เดียวของสหรัฐ นโยบายต่างประเทศที่เป็นพื้นฐานของสหรัฐคือจะป้องกันไม่ให้มหาอำนาจใดมาท้าทายการกระทำแต่ฝ่ายเดียวของสหรัฐ (unilateral action)ทำให้รัสเซียและจีนกลายเป็นเป้่าของสหรัฐ เพราะว่าทั้งคู่กำลังท้าทายกฎข้อนี้ของสหรัฐที่ไม่ยอมให้ใครมาท้าทายความเป็นมหาอำนาจแต่ผู้เดียวของตัวเอง

7. วอชิงตันไม่ได้ต่อต้านการก่อการร้าย วอชิงตันจงใจสร้างการก่อการร้ายเป็นเวลาหลายปีแล้ว เพื่อเป็นอาวุธในการบ่อนทำลายรัสเซียและจีน ด้วยการส่งผู้ก่อการร้ายไปยังชุมชุมมุสลิมของทั้งสองประเทศเพื่อปฏิบัติการ

8. วอชิงตันใช้ซีเรีย เหมือนกับที่ใช้ยูเครนเพื่อแสดงให้เห็นว่ารัสเซียไร้น้ำยาที่จะทำอะไรยุโรป และเพื่อแสดงให้จีนเห็นว่า รัสเซียไม่น่าจะเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือ

9. ยิ่งรัสเซียตอบโต้การยั่วยุจากวอชิงตันอย่างมีความรับผิดชอบ ยิ่งจะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น เพราะว่าวอชิงตันจะเพิ่มการยั่วยุ วอชิงตันและบริวารยุโรปทำให้มนุษย์โลกตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง เพราะว่ารัสเซียและจีนมีแค่สองทางเลือก คือต้อยอมรับเป็นบริวารของสหรัญ หรือเตรียมตัวการทำสงคราม

10. เราต้องเคารพปูตินที่ให้คุณค่าชีวิตมนุษย์มากกว่าวอชิงตันและพวกขี้ข้าในยุโรปที่ได้พยายามหลีกเลี่ยงการทำสงคราม อย่างไรก็ตาม รัสเซียต้องทำอะไรเพื่อแสดงให้เห็นว่ามีค่าใช้จ่ายที่แพงในการสนับสนุนนโยบายที่รุกรานของวอชิงตัน รัสเซียอาจจะเลือกที่จะตัดท่อส่งก๊าซให้กับยุโรปในช่วงหน้าหนาวนี้ รัสเซียอาจจะไม่ได้เงิน แต่ยังดีกว่าสูญเสียอำนาจอธิปไตย หรือต้องเสี่ยงทำสงคราม

11. เพื่อยุติความขัดแย้งในยูเครน รัสเซียสามารถยอมรับจังหวัดที่ไม่ต้องการอยู่กับเคียฟต่อไปให้มาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย สำหรับเคียฟแล้ว ถ้าต้องการสร้างความขัดแย้งกับรัสเซียต่อไป อาจจะต้องโจมตีรัสเซียด้วยตัวเอง

12.รัสเซียพยายามเลี่ยงสงคราม แต่ความตั้งใจที่จะเลี่ยงสงครามนี้กำลังนำไปสู่สงครามโดยตรง เพราะว่าสหรัฐและนาโต้ยั่วยุไม่เลิก และทำให้รัสเซียดูอ่อนแอ

13. กองทัพอากาศของสหรัฐ ฝรั่งเศสและอังกฤษที่ประจำการอยู่ในตะวันออกกลางเป็นเครื่องบินรบต่อสู้อากาศยานด้วยกัน ไม่ได้เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ต้องการทำลายไอซิส แต่เอาไว้ขู่เครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียที่กำลังทำลายไอซิส {ด้วยเหตุนี้ปูตินจึงสั่งเข้มให้ติดตั้งระบบ S-400 เพื่อคุ้มกันเครื่องบินทิ้งระเบิดรัสเซีย และให้กองทัพอากาศรัสเซียนำเครื่องบินไฟเตอร์ Su-34 เข้ามาสู้กับไฟเตอร์ของนาโต้ ปูตินถึงกับขู่กลับว่าให้กองทัพรัสเซียทำลายศัตรูอย่างทันที ถ้ามีความสงสัยแม้แต่น้อยว่ากองทัพของนาโต้อาจจะมีภัยต่อปฏิบัติการของรัสเซียในซีเรีย ที่สำคัญปูตินขู่ว่าอาจจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ถ้าจำเป็น}

14. ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่าวอชิงตันกำลังพาโลกไปสู่สงครามอาร์มาเกดดอน และขี้ข้ายุโรปเป็นตัวช่วยอยู่เวลานี้ ทั้งเยอรมันนี้ ฝรั่งเศสและอังกฤษเป็นตุ๊กตาหุ่นที่ถูกวอชิงตันซื้อ ทั้งโง่เขลา ไม่ใส่ใจและไม่มีอำนาจที่จะหลุดออกจากอุ้งมือของวอชิงตัน

15. ถ้ารัสเซียไม่สามารถปลุกให้ยุโรปตื่นขึ้นมาได้ สงครามโลกจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

thanong
13/12/2015

ที่มา https://th-th.facebook.com/ThanongFanclub/posts/412183568978023:0

 

เวลาเปลี่ยนไป...แต่เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง !!!​

​

tossapornk สมาชิก

เพื่อนธรรมคนหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่า พระเกจิอาจารย์ของเขาเล่าให้ฟัง เหตุการณ์ปี พ.ศ. 2552 ถึงปี พ.ศ. 2555 (ยังไม่ต้องเชื่อนะครับจับตาดูกันต่อไป) ประเทศไทยต่อไปจะไม่ปลอดภัยครับ ถ้าเราเป็นครัวโลก เพราะประเทศมหาอำนาจจะเข้ามา ยึดแหล่งอาหารของคนไทย ดังคำทำนายข้างล่างนี้

เรื่องราว จากนี้ไป ไม่ง่ายนัก
การเมืองจัก วุ่นวาย ไม่หน่ายหนี
เศรษฐกิจ การเงินซ้ำ กระหน่ำอีกที
ประชาชี สิหนีพราก ลำบากลำบน

ต่อๆไป ไทยอาจแตก เป็นเสี่ยงๆ
เพราะคนเอียง เลี่ยงหลับ จนสับสน
แผ่นดินเรา เขาเข้ายึด เป็นของตน
ประชาชน ต้องหลบลี้ เพราะมีภัย

เสือขาวเหลือง เข้ามาหา กระยาหาร
เข้ารุกราน เราตายเป็นเบือ จะเชื่อไหม
ส่วนที่เหลือ จะอยู่รอด กันอย่างไร
คิดๆไป ใจก็เศร้า ไฟเผาทรวง

วิบากกรรม นำชักพา ให้มาเกิด
ในยุคนี้ ที่เปิดกรรม อันใหญ่หลวง
กระแทกคน ที่ไร้ศีล ที่หลอกลวง
ไม่พ้นบ่วง ต้องรับหมด ตามกฏแห่งกรรม

ทางรอด ดั่งยอดดอย มีน้อยนิด
ทุกคนคิด หยุดแตกแยก หยุดถลำ
ถึงจะหยุด ฉุดกระชาก วิบากกรรม
ชาวสยาม จะกลับยิ้ม อิ่มเอมใจ

หมายเหตุ เสือขาวเหลือง หมายถึง ประเทศสหรัฐอเมริกา และ ประเทศจีน

ที่มา http://palungjit.org/1796706-post13807.html

 

จีน-สหรัฐ จะก่อสงครามรอบใหม่?​

เผยแพร่เมื่อ 27 พ.ค. 2015​

จีน สหรัฐ จะก่อสงครามรอบใหม่? จีนประกาศกร้าวจากกรณีข้อพิพาทบนน่านน้ำทะ­เลจีนใต้อาจจะส่งผลให้เกิดสงครามอย่างหลีก­เลี่ยงไม่ได้ถ้าหากสหรัฐยังกดดันจีนไม่ให้­ก่อสร้างเกาะเทียมในน่านน้ำทะเลจีนใต้ โดยประกาศไม่ให้สหรัฐมายุ่งกับเรื่องนี้ สงครามระหว่างจีนกับสหรัฐจะเกิดขึ้นจริงหร­ือไม่ จะเกิดด้วยปัจจัยอะไร? วิเคราะห์โดยสุทธิชัย หยุ่น (@suthichai) และ ธรรญฐ์ฌนก ศรีธเนศชัย(@ThanchyS)

 

อาหารไทย : ครัวไทยสู่ครัวโลก​

เผยแพร่เมื่อ 26 พ.ค. 2013​

 

จีนเล็งไทยศูนย์กลางขนส่งอาเซียน​

เผยแพร่เมื่อ 20 พ.ย. 2015​

ในงานสัมนาเนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน หัวข้อ อนาคตความสัมพันธ์จีน-ไทย ภายใต้เส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่2­1 นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ ประเมินว่า นโยบายการพัฒนาเส้นทางสายไหมของจีน เพื่อสนับสนุนการค้า และการลงทุนระหว่างประเทศ ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ จะเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทย และสมาชิกอาเซียน เพราะจีนถือว่าเป็นเป็นประเทศคู่ค้าที่สำค­ัญของไทย และเป็นผู้นำทางการค้าของโลก รวมทั้งจะทำให้การเชื่อมโยงการเดินทาง และขนส่งสินค้า ระหว่างจีน-อาเซียน-และยุโรป สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น และเป็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆสำหรับผู้ประกอ­บการไทย

 

อพยพคนแล้วกว่า 7 แสน! ระทึก ไต้ฝุ่นเมอโลร์ จ่อถล่มฟิลิปปินส์ ขึ้นฝั่งคืนนี้​

​

ชาวฟิลิปปินส์อ่วมแน่...พายุไต้ฝุ่นเมอโลร์ จ่อถล่มภาคกลางของประเทศ คาด 20 จังหวัด รวมทั้งกรุงมะนิลา จะได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุที่ทำให้เกิดลมกระโชกแรง ฝนตกหนักมาก ขณะที่ทางการอพยพประชาชนกว่า 7 แสนหนีภัยพายุ

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ชาวฟิลิปปินส์ระทึก พายุไต้ฝุ่นกำลังแรง ‘เมอโลร์’ (Melor) จ่อเตรียมขึ้นฝั่งทางตอนกลางของประเทศ คืนวันจันทร์นี้ (14 ธ.ค.) ประชาชนใน 20 จังหวัด รวมทั้งรอบกรุงมะนิลาจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอิทธิพลของไต้ฝุ่นเมอร์โล ที่คาดว่าจะทำให้เกิดลมกระโชกแรง และฝนตกหนักมาก จนวัดปริมาณน้ำฝนได้ถึง 300 มม.

นอกจากนั้น ทางการฟิลิปปินส์ยังได้มีการอพยพประชาชนถึง 750,000 คน หนีภัยพายุไปพำนักอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย พร้อมทั้งสั่งปิดโรงเรียน ห้ามเรือประมง และเรือเฟอร์รี่ออกจากฝั่ง

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ ประกาศว่า พายุไต้ฝุ่นเมอร์โล หรือชาวฟิลิปปินส์เรียกชื่อว่า ‘โนนา’ เป็นพายุที่มีความรุนแรงระดับ 3 เคลื่อนตัวด้วยความเร็วลมบริเวณศูนย์กลางพายุอยู่ที่ประมาณ 205 กม./ชม. ทางตะวันออกของเกาะซามาร์เมื่อ 14 ธ.ค. หลังจากได้ทวีกำลังแรงขึ้นจากระดับ 2 เป็นระดับ 3 เมื่อคืนวันที่ 13 ธ.ค. ขณะเดียวกัน ทิศทางการเคลื่อนตัวของพายุเมอร์โล ยังเป็นทิศทางเดียวกับพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน กำลังความรุนแรงถึงระดับ 5 ที่พัดผ่านภาคกลางของฟิลิปปินส์เมื่อปี 2556 จนสร้างความเสียหายมหาศาลและทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายรวมแล้วถึงเกือบ 8,000 ราย

ด้านผู้อำนวยการของสภาลดภัยความเสี่ยงและการจัดการหายนภัยแห่งชาติของฟิลิปปินส์ กล่าวว่า คาดว่าอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นเมอโลร์ จะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากฝนตกหนัก ดินโคลนถล่มและสตอร์ม เซิร์จ หรือคลื่นสูงถึง 4 เมตรซัดฝั่ง ขณะที่ระบบการโทรคมนาคมสื่อสารอาจถูกตัดขาด และไฟฟ้าดับ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 ธ.ค. 2558

ชายคนร้ายตะโกน ไอซิส! บุกแทงครูคาห้องเรียนในฝรั่งเศสอีกแล้ว เจ็บสาหัส​

​

ชาวฝรั่งเศสขวัญหนีดีฝ่อกันอีก..ชายคนร้ายบุกใช้มีดคัตเตอร์จ้วงแทงครูในโรงเรียนเนอร์สเซอรี่แห่งหนึ่ง ทางตอนเหนือกรุงปารีส บาดเจ็บสาหัส แถมก่อนลงมือยังตะโกนคำว่า ‘ไอซิส’ ออกมาดังๆ อีกด้วย

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เกิดเหตุรุนแรงในฝรั่งเศสอีกแล้ว เมื่อมีชายคนหนึ่งบุกเข้าไปในห้องเรียน แล้วใช้มีดแทงครูคนหนึ่ง ที่โรงเรียนเนิร์สเซอรี่ หรือโรงเรียนที่ดูแลเด็กเล็ก ในเมืองอูแบร์วิลลิแอร์ส ทางตอนเหนือกรุงปารีส เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 ธ.ค. (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยชายคนร้าย ยังตะโกนคำว่า ‘ดาเอช’ (หรือคำเรียกอีกชื่อหนึ่งของกลุ่มมุสลิมติดอาวุธหัวรุนแรง รัฐอิสลาม หรือไอซิส) และบอกว่า นี่เป็นการเตือน

แหล่งข่าวในสำนักงานตำรวจกรุงปารีสเผยว่า เหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นเมื่อตอนประมาณ 07.10 น. โดยครูคนดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้ชาย อายุประมาณ40-50 ปี ได้ถูกชายคนร้ายบุกใช้มีดคัตเตอร์แทงที่ด้านข้างของลำตัวและคอหอย ขณะที่เขากำลังเตรียมการสอนอยู่ ขณะที่คนร้ายได้เข้ามาในโรงเรียน โดยไม่ได้ถืออาวุธเข้ามา เพียงแต่สวมหมวกฮู้ด และถุงมือ เขาได้ใช้มีดคัตเตอร์ในกล่องดินสอที่เห็นในห้องเรียนแทงครูชาย ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส โชคดีที่ได้รับบาดเจ็บไม่ถึงขั้นอันตรายต่อชีวิต

บีบีซี แจ้งว่า หลังก่อเหตุคนร้ายได้วิ่งหนีไป ขณะที่ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามหาคนร้าย ทั้งนี้ นิตยสารดาร์ อัล อิสลาม ซึ่งเป็นนิตยสารภาษาอังกฤษของกลุ่มไอซิส เพิ่งเรียกร้องให้บรรดาสาวกกลุ่มไอซิสลงมือฆ่าครูในฝรั่งเศส โดยชี้ว่า ครูเหล่านี้เป็นศัตรูของอัลเลาะห์ เนื่องจากสอนแต่เรื่องทางโลก ไม่ได้สอนศาสนา อีกทั้งเหตุร้ายแรง ยังเกิดขึ้นหลังจากเพิ่งเกิดเหตุโจมตีปารีส เมื่อ 13 พ.ย.58 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 130 ราย

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 ธ.ค. 2558

แนวร่วมไอซิสวางระเบิดกลางตลาดปากีสถาน ดับ 25 ศพ เจ็บอื้อ​

​

เกิดเหตุระเบิดกลางตลาด ซึ่งมีผู้คนหนาแน่นในเขตชนเผ่าทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน ติดชายแดนอัฟกานิสถาน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 25 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดกลางตลาด ซึ่งมีผู้คนหนาแน่นในเขตที่อยู่อาศัยของชาวมุสลิมชีอะห์ ในเมืองปาราชินาร์ เมืองใหญ่ที่สุดในเขตพื้นที่ชนเผ่าที่ส่วนกลางบริหาร (federally administered tribal areas) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศปากีสถาน เมื่อวันอาทิตย์ (13 ธ.ค.) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 25 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 50 คน

ตามการเปิดเผยของหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดปากีสถาน ระเบิดเวลาอานุภาพสูงน้ำหนัก 30-35 กก. ระเบิดขึ้นกลางตลาดขายเสื้อผ้ามือ 2 ในขณะที่ฝูงชนจำนวนมากกำลังเลือกซื้อเสื้อผ้าสำหรับใช้ในฤดูหนาว ด้านสำนักงานใหญ่โรงพยาบาลเขตในเมืองปาราชินาร์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากมีผู้บาดเจ็บถูกส่งเข้าไปเป็นจำนวนมาก และหลายคนอาการอยู่ในขั้นวิกฤติด้วย

ทั้งนี้ อาลี บิน ซุฟยาน โฆษกของกลุ่มติดอาวุธ 'ลาชการ์ อี จางวี' (Lashkar-e-Jhangvi) แนวร่วมใกล้ชิดของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือ ไอซิส บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์สผ่านทางโทรศัพท์ว่า พวกเขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการระเบิดครั้งนี้ "นี่เป็นการแก้แค้นสำหรับการฆ่าชาวมุสลิมฝีมือของประธานาธิบดีซีเรีย และอิหร่าน"

โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่า มีกลุ่มนักรบมุสลิมชีอะห์ในปากีสถานชื่อ 'เซนาบิยวน' ไปเข้าร่วมสงครามต่อต้านกลุ่มไอซิสในซีเรีย และนักรบจำนวนมากในกลุ่มนี้มาจากเมืองปาราชินาร์

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 ธ.ค. 2558

เผชิญหน้ากันอีก! เรือรบรัสเซียยิงปืนเตือนเรือประมงตุรกี แล่นเข้ามาใกล้มาก​

​

เรือพิฆาตรัสเซียในทะเลอีเจียน ยิงปืนขนาดเล็กเตือนเรือประมงลำหนึ่งของประเทศตุรกี เฉียดเข้าใกล้เรือรบห่างแค่ 600 ม. ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียเรียกทูตทหารตุรกีเข้าพบ...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์ระบุว่า เมื่อวันอาทิตย์ (13 ธ.ค.) เรือพิฆาต 'สเมตลิวี' ทอดสมออยู่ในทะเลอีเจียน นอกชายฝั่งของเกาะเลมนอส ของประเทศกรีซ ก่อนจะพบเห็นเรือประมงของตุรกีเคลื่อนตัวเข้าใกล้ โดยอยู่ห่างไปประมาณ 1,000 ม.

"แม้ลูกเรือสเมตลิวีจะพยายามหลายต่อหลายครั้ง ลูกเรือของเรือประมงตุรกีก็ไม่ยอมรับการติดต่อทางวิทยุ และไม่ตอบสนองต่อทัศนสัญญาณ (visual signal) ทั้งสัญญาณไฟและพลุไฟ" แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุ และเสริมว่า เพื่อป้องกันการชนกัน จึงมีการยิงปืนขนาดเล็กเข้าใส่เรือดังกล่าวของตุรกีในระยะที่ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต ทำให้เรือประมงเปลี่ยนเส้นทางจากไปทันที แต่ยังคงไม่ติดต่อกับลูกเรือของรัสเซีย

แถลงการณ์ระบุด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เรียกทูตทหารตุรกีในกรุงมอสโกเข้าพบ ขณะที่รัฐบาลตุรกียังไม่ออกมาแสดงความเห็นใดๆ ต่อเหตุการณ์นี้

อนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและตุรกีอยู่ในจุดเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี หลังจากเกิดเหตุกองทัพตุรกีส่งเครื่องบินรบ เอฟ-16 โจมตีเครื่องบินทิ้งระเบิด ซู-24 ของรัสเซียที่ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรียจนตก บริเวณชายแดนซีเรียเมื่อเดือนก่อน โดยอ้างว่าเครื่องบินรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้า

เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจแก่รัสเซียอย่างมาก โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ประณามว่าเป็นการแทงข้างหลัง และออกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อตุรกี

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 ธ.ค. 2558

บุรุนดีนองเลือด! เหยื่อเหตุปะทะในเมืองหลวงพุ่ง 87 ศพ​

​

กองทัพของประเทศบุรุนดีเผย จำนวนผู้เสียชีวิตในเหตุปะทะในเมืองหลวงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 87 รายแล้ว ถือเป็นเหตุความรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ทหารรัฐประหารล้มเหลวเมื่อเดือนพ.ค. …

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างการเปิดเผยของ กาสปาร์ด บาราตูซา โฆษกกองทัพบุรุนดี ว่า เมื่อวันศุกร์ (11 ธ.ค.) กลุ่มมือปืนจำนวนมากบุกโจมตีค่ายทหาร 3 แห่งในเมืองหลวงกรุง บูจุมบูรา และเกิดการปะทะกันอย่างดุเดือดกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคง เป็นเหตุให้ทหารเสียชีวิต 4 นาย ตำรวจเสียชีวิตอีก 4 นาย บาดเจ็บ 21 นาย ขณะที่มือปืนถูกสังหาร 79 คน จับได้ 45 คน และยึดอาวุธปืนได้ 97 กระบอก

ด้านชาวกรุงบูจุมบูราเปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตเมื่อวันศุกร์บางส่วนถูกฆ่าหลังจากถูกตำรวจปิดล้อมเพื่อตรวจค้นบ้านทีละหลัง "พวกเขาเข้าไปภายในบ้าน รวบรวมชายหนุ่มและชายวัยกลางคนทั้งหมด แล้วพาพวกเขาไปไกลจากบ้านก่อนจะฆ่าพวกเขา" ชาวบ้านคนหนึ่งระบุ ขณะที่มีภาพถ่ายเผยแพร่บนเครือข่ายสังคมออนไลน์แสดงให้เห็นภาพศพจำนวนหนึ่งถูกมัดมือไว้ด้านหลัง

อย่างไรก็ตาม โฆษกตำรวจ ปิแอร์ เอ็นคูริคีเย ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว ขณะที่นายบาราตูซาระบุว่า มือปืนที่ก่อเหตุบุกโจมตีค่ายทหารจำนวนหนึ่ง ล่าถอยและถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่ไล่ตามโจมตีจนสูญเสียอย่างหนัก

ทั้งนี้ เหตุความไม่สงบในบุรุนดีปะทุขึ้นตั้งแต่ประธานาธิบดี ปิแอร์ เอ็นคูรุนซีซา ประกาศจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 3 เมื่อเดือนเม.ย. ทำให้ประชาชนออกมาประท้วงต่อต้านอย่างหนักเนื่องการกระทำของเขาเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ ขณะที่กองทัพฝ่าย พันตรี โกเดอฟรอยด์ นียงบาเร พยายามก่อรัฐประหารแต่ไม่สำเร็จ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 13 ธ.ค. 2558

นักข่าวทีวีดัตช์ เผยสมาชิกไอซิสใช้ ยา 'แคปตากอน' ทำให้ฆ่าคนอย่างเลือดเย็น​

​

นักข่าวทีวีเนเธอร์แลนด์ จัดทำสารคดียาเสพติด เผย สมาชิกกลุ่มไอซิสจำนวนไม่น้อยใช้ยาเสพติด แคปตากอน ที่ทำให้ความหิวและกระหายน้ำหมดไปทันที อีกทั้งยังฆ่าคนอย่างเลือดเย็น

เมื่อ 13 ธันวาคม 2558 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างการให้สัมภาษณ์ของผู้เสพยาเสพติด ประเภทแคปตากอน รายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับ นายราดวัน มอร์ทาดา (Radwan Mortada) ผู้สื่อข่าวนักข่าวสถานีโทรทัศน์ NOS ของเนเธอร์แลนด์ ที่จัดทำสารคดีประเด็นยาเสพติดว่า ยาเสพติดแคปตากอนมีบทบาทสำคัญยิ่งกับปัญหาความขัดแย้งของประเทศซีเรีย ส่วนนักรบมุสลิมหัวรุนแรงที่เคร่งครัดในศาสนาอิสลามนั้นจะถูกห้ามใช้ยาเสพติดดังกล่าว แต่แน่นอนว่า มีสมาชิกกลุ่มมุสลิมติดอาวุธ รัฐอิสลาม หรือไอซิสจำนวนไม่น้อยแหกคอกและใช้ยาเสพติดดังกล่าวด้วยเช่นกัน

ตามรายงานระบุ กลุ่มไอซิส สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการลักลอบค้ายาเสพติด แคปตากอน ซึ่งมีต้นทุนการผลิตที่ถูกมาก แต่สร้างผลกำไรจากการขายอย่างมหาศาล โดยนายแซนเดอร์ วาน โฮร์ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ NOS ของเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่นักรบเหล่านี้หันไปหายาเสพติดชนิดนี้ เพราะในช่วงของการสู้รบ อาหารและเครื่องดื่มที่มีอยู่นั้น มีในปริมาณจำกัด การเสพยาเสพติด แคปตากอนจะทำให้ความรู้สึกหิวหรือกระหายหมดไปทันที โดย ยาเสพติด แคปตากอนมีส่วนผสมของ เฟเนธิลีน (fenetylline) ซึ่งเป็นสารกระตุ้น นั่นคือเหตุผลที่ผู้ก่อการร้ายสามารถลงมือทำการสังหารเหยื่อได้อย่างไร้อารมณ์หรืออย่างเลือดเย็นเมื่อลงมือก่อเหตุอันโหดร้ายทารุณ มีการตรวจพบยาเสพติด "แคปตากอน" ในร่างของผู้ก่อการร้ายที่สังหารโหดนักท่องเที่ยวจำนวน 38 คน ที่ประเทศตูนิเซียเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

แต่เดิมนั้น ยา "แคปตากอน" เป็นยากระตุ้นที่นักศึกษาจะใช้ในช่วงของการสอบ ขณะที่แพทย์ได้ค้นพบผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทำให้มีสภาพจิตใจฟุ้งซ่านและทำลายระบบสมอง

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 13 ธ.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

อุตุฯ จับตาไต้ฝุ่น 'เมอร์โล' คาดเข้าไทย 21-22 ธ.ค. ทำให้ฝนเพิ่ม​

​

อธิบดีกรมอุตุฯ จับตา พายุไต้ฝุ่น "เมอร์โล" เคลื่อนเข้าทะเลจีนใต้ หากเจอกับความกดอากาศสูง ทำให้อ่อนกำลังจนถึงสลายตัว หรือหากมีกำลังหลงเหลือ จะเคลื่อนสู่อ่าวไทยในวันที่ 21-22 ธ.ค.58 ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้น...

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 58 นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ เกี่ยวกับอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “เมอโล” (Melor) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก เคลื่อนผ่านประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากนั้นจะมีกำลังอ่อนลงและเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนล่างต่อไป ขอให้ประชาชนที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบลักษณะอากาศก่อนการเดินทาง และติดตามข่าวพยากรณ์อากาศในระยะนี้อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ หากพายุดังกล่าวเคลื่อนตัวเข้าสู่ทะเลจีนใต้เจอกับความกดอากาศสูง (อากาศหนาว) ทำให้กำลังอ่อน จนอาจสลายตัวไป หรือหากยังมีกำลังหลงเหลือ คาดว่าจะเข้าสู่อ่าวไทยในช่วงวันที่ 21-22 ธ.ค. 58 ซึ่งจะทำให้ปริมาณฝนในบริเวณดังกล่าวเพิ่มขึ้น

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 ธ.ค. 2558

มันหนาว! ฝูงลิงวัดถ้ำเทพบันดาล จ.เพชรบูรณ์ แห่ลงเขามานั่งอาบแดด​

​

ฝูงลิงแสมและลิงวอก ที่อาศัยอยู่ในถ้ำเทพบันดาล ที่วัดถ้ำเทพบันดาล จ.เพชรบูรณ์ แห่ลงมาที่ลานวัดด้านล่าง เพื่ออาบแดดช่วงสาย หลังจากอากาศเริ่มหนาวเย็น ขณะที่อาหารขาดแคลน พระลูกวัดวอนคนใจบุญอย่าให้อาหารริมถนน เกรงลิงโดนรถชนตาย...

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดถ้ำเทพบันดาล ต.สามแยก อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ฝูงลิงทั้งลิงแสมและลิงวอก ที่อาศัยอยู่ในถ้ำเทพบันดาลบนเขากว่าพันตัว พากันลงเขามายังด้านล่างลานวัด เพื่อมารับแสงแดดในช่วงตอนสาย หลังสภาพอากาศเริ่มหนาวเย็นลง โดยเฉพาะช่วงค่ำและใกล้รุ่งจนถึงเช้า ลิงพากันลงมาอาบแดด พร้อมทั้งหาอาหารกิน ปีนป่ายต้นมะขามเทศ ต้นพุทรา ต้นมะกอก

ที่ผ่านมาชาวบ้านต่างพากันนำผัก ผลไม้ มาให้ลิงกิน ปีนี้ประชากรลิงเพิ่มจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้อาหารขาดแคลน จนทำให้ลิงบางส่วนแอบหนีออกไปหากินตามถนน ตามบ้านเรือน ไร่ สวน บางครั้งถูกรถชนตาย บาดเจ็บ หลายครั้ง

พระรูปหนึ่งที่วัดถ้ำเทพบันดาล ฝากวอนผู้ใจบุญที่นำอาหารมาให้ลิง ให้นำมาที่ลานวัด อย่านำไปทิ้งที่ทางเข้าวัด หรือตามถนนที่ลิงไปยืนอออยู่หน้าถนน พร้อมทั้งวอนผู้ใจบุญที่ขับรถยนต์ผ่านไปมาที่ถนนสายวิเชียรบุรีสายเก่า - วัดเทพบันดาล ให้ใช้ความระมัดระวังฝูงลิง อาจทับลิงตายได้

ที่มา โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 ธ.ค. 2558

สดร.ย้ำอย่าพลาด!! ชมฝนดาวตกเจมินิดส์ คืนนี้ 14 ธ.ค. สูงสุด 120 ดวง/ชม.​

​

วันนี้แล้วสินะ! สดร.ออกมาย้ำเตือนคนไทย อย่าพลาดชมฝนดาวตกเจมินิดส์หรือฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่ส่งท้ายปี 58 ชี้ปีนี้เหมาะอย่างยิ่ง เพราะเป็นคืนเดือนมืด อาจได้เห็นมากสุดถึง 120 ดวงต่อชั่วโมง เคลียร์ยอดดอยอินทนนท์พร้อมรับนักท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.58 สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ องค์การมหาชน (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ออกมาย้ำชวนชาวไทยชมฝนดาวตกส่งท้ายปี 2558 "ฝนดาวตกเจมินิดส์" หรือฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่ ในคืนวันที่ 14 ธันวาคม ตั้งแต่เวลาประมาณ 20.30 น. เป็นต้นไป จนถึงเช้ามืดวันที่ 15 ธันวาคม ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หากฟ้าใส เห็นได้ทุกภูมิภาคของไทย

แนะนำชมในที่มืดสนิท ไม่มีแสงไฟรบกวน จะเห็นได้ชัดเจน โดยในปีนี้เหมาะแก่การสังเกตการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์เป็นอย่างยิ่ง เพราะตรงกับคืนเดือนมืด ดวงจันทร์ตกลับขอบฟ้าตั้งแต่หัวค่ำ จึงไม่มีแสงจันทร์รบกวนตลอดคืน คาดอาจมีอัตราตกสูงสุดถึง 120 ดวงต่อชั่วโมง

ทั้งนี้ สดร. ได้จัดกิจกรรมสังเกตการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ คืนวันที่ 14 ธันวาคม 2558 ทั้งหมด 3 จุด ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ได้แก่


1) เชียงใหม่ - ร่วมกับอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จัดกิจกรรมบริเวณจุดสูงสุดแดนสยาม ณ ยอดดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ (สอบถามโทร. 053-225569 ต่อ 305, 081-8854353)


2) นครราชสีมา - หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อ.เมือง นครราชสีมา (สอบถามโทร. 044-216254, 086-4291489) 


3) ฉะเชิงเทรา - หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา (สอบถามโทร. 038-589396, 084-0882264)

ขณะเดียวกัน นายพรเทพ เจริญสืบสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ที่ดอยอินทนนท์ อุณหภูมิบนยอดหญ้าเช้าวันนี้ (14 ธ.ค.) วัดได้ 4 องศาเซลเซียส อากาศเปิด มีลมเบาๆ ส่วนที่กิ่วแม่ปานวัดได้ 6 องศาฯ พระอาทิตย์ขึ้น 06.45 น. ไม่มีเหมยขาบ นักท่องเที่ยวทยอยขึ้นมาสัมผัสอากาศหนาวและชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า รวมถึงคืนนี้ทุกคนก็เฝ้ารอชมฝนดาวตก คาดว่าจะเริ่มเห็นในเวลา 20.30 น. เป็นต้นไปจนถึงใกล้สว่าง ได้ชมฝนดาวตกและสัมผัสอากาศหนาวไปพร้อมๆ กัน ซึ่งทางอุทยานฯ ได้เตรียมอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เชียงใหม่นักท่องเที่ยวพากันไปตามดอยต่างๆ ทั้งดอยอ่างขาง อ.ฝาง ดอยผ้าห่มปก อ.ฝาง ห้วยน้ำดัง อ.แม่แตง ดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง รวมถึงตามรีสอร์ต สถานที่พักตากอากาศทั้งของรัฐและเอกชน เพื่อจับจองพื้นที่ดูฝนดาวตก ทำให้เมืองเชียงใหม่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะที่ อ.จอมทองที่มีดอยอินทนนท์เป็นจุดดึงดูด วันธรรมดา มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศประมาณ 4–5 พันคน ส่วนวันหยุดเสาร์อาทิตย์จะมากันมากถึงหลักหมื่นคน.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 ธ.ค. 2558

ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น ประชาชนระวังหมอกหนา ขณะภาคใต้ฝนลดลงช่วงนี้​

​

ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น เตือน ปชช.ระวังหมอกหนา ขณะภาคใต้ฝนลดลงช่วงต้นสัปดาห์ แต่หลังจากนั้นลมมรสุมจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป

เมื่อ 14 ธ.ค. 58 จากการตรวจสอบจากระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวี ร่วมกับเดอะเวตเตอร์ คอมพานี พบว่าสภาพอากาศในช่วงสัปดาห์นี้ มวลอากาศเย็นกำลังอ่อนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน จึงทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ ดังนั้นประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณประเทศไทยตอนบน ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย ส่วนภาคเหนือ และภาคอีสานตอนบน ยังคงมีอากาศหนาวเย็น

สำหรับพื้นที่ภาคใต้ ยังคงมีมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงต้นสัปดาห์จะมีกำลังอ่อน จึงทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนน้อยในระยะนี้ แต่หลังจากนั้น จะมีกำลังแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกเพิ่มขึ้น และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

จากภาพถ่ายดาวเทียมเช้านี้ พบว่า ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน โดยส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นสูง ไม่พบกลุ่มเมฆฝน ส่วนพื้นที่ภาคใต้ ยังคมมีเมฆมาก โดยเป็นเมฆชั้นต่ำและชั้นกลาง ตรวจพบกลุ่มเมฆฝนบริเวณชายฝั่งทะเลอันดามัน

ส่วนอุณหภูมิในเช้าวันนี้ พบว่า พื้นที่ที่มีอุณหภูมิต่ำสุดยังคงอยู่ในบริเวณภาคเหนือตอนบน อยู่ที่ประมาณ 15-16 องศาเซลเซียส ส่วนภาคอีสาน อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 17-20 องศาเซลเซียส ในขณะที่ช่วงกลางวันมีอากาศค่อนข้างร้อน อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 35-36 องศาเซลเซียส

ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน กับและมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส

ขณะสถานการณ์พายุบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ตอนนี้พบ 1 ลูก ได้แก่ พายุไต้ฝุ่นเมอโลร์ เป็นไต้ฝุ่นระดับ 3 ความเร็วลมศูนย์กลาง 204 กม./ชม. มีศูนย์กลางอยู่บริเวณฝั่งตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ ห่างจากประเทศไทย 2,459 กม. พายุนี้กำลังเคลื่อนที่ทางทิศตะวันตกมุ่งสู่ประเทศฟิลิปปินส์ด้วยความเร็ว 20 กม./ชม. คาดว่า พายุนี้จะขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ที่เมืองเลกาสปี้ ในเช้าของวันนี้ (วันที่ 14 ธันวาคม 2558) แล้วจะลดความเร็วลมศูนย์กลางลงเป็นไต้ฝุ่นระดับ 2 ในเช้าวันที่ 15 ธันวาคม 2558 และเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 ในค่ำวันที่ 15 ธันวาคม 2558 ในขณะที่เคลื่อนตัวผ่านทางใต้ของกรุงมะนิลา ก่อนที่จะลดความเร็วลมศูนย์กลางลงเป็นพายุโซนร้อนแล้วเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ในเช้าวันที่ 16 ธันวาคม 2558 พายุนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อสภาวะอากาศประเทศไทย

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 ธ.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

เปิดเสรี “จีเอ็มโอ” ดีหรือเสีย ?​

เผยแพร่เมื่อ 9 ธ.ค. 2015​

เปิดเสรี จีเอ็มโอ ดีหรือเสีย? วันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ครม.มีมติผ่านร่าง กม.จีเอ็มโอ ท่ามกลางเสียงสนับสนุนจากฝ่ายนักวิทยาศาสต­ร์ ขณะที่กลุ่มเครือข่ายเกษตรกรออกมาคัดค้านท­ั่วประเทศ ข้อดีข้อเสียของ พืชจีเอ็มโอ คืออะไร? ปลาแซลมอนจีเอ็มโอปลอดภัยหรือไม่? วิเคราะห์โดย สุทธิชัย หยุ่น (@suthichai) และ พรรณี อมรวิพุทธพนิช (@SuperGae22) บก.รายงานพิเศษ

 

'ไอซิส' ในไทย?​

[ame]http://www.youtube.com/watch?v=ETJIwEzwYbg[/ame]

เผยแพร่เมื่อ 4 ธ.ค. 2015​

'ไอซิส' ในไทย? ตกอกตกใจไปตามๆกัน หลังจากมีหนังสือของตำรวจเผยแพร่ออกมาว่าท­างการรัสเซียให้ข้อมูลว่ามีชาวซีเรียที่พั­วพันกับกลุ่มไอซิส 10 คนเดินทางเข้ามาไทย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร รัสเซียส่งข้อมูลมาจริงหรือ หรือเป็นข้อมูลจากไหนวิเคราะห์โดยสุทธิชัย หยุ่น (@suthichai) และ ทนง ขันทอง (@ThanongK)

 

ฟ้าปกดิน ตอน ต้นแบบคนวิถีพอเพียง​

เผยแพร่เมื่อ 25 ส.ค. 2014​

ฟ้าปกดิน สารคดีแห่งการสืบค้น แนวคิด และผลผลิตจากภูมิปัญญา โดยมี คุณเจฟฟี่ เบญจกุล เป็นผู้ดำเนินรายการ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ 4 ทุ่ม ทางช่อง 11

 

รายการเที่ยวทั่วไทยไปกับพลังงานทดแทน ปี 58 ตอน เพชรบุรี​

เผยแพร่เมื่อ 29 ก.ค. 2015​

 

รายการเที่ยวทั่วไทยไปกับพลังงานทดแทน ปี 58 ระยอง​

เผยแพร่เมื่อ 29 ก.ค. 2015​

 

รายการเที่ยวทั่วไทยไปกับพลังงานทดแทน ปี 58 ตอน เชียงใหม่​

เผยแพร่เมื่อ 29 ก.ค. 2015​

 

รายการเที่ยวทั่วไทยไปกับพลังงานทดแทน ปี 58 ตอน ลำปาง​

เผยแพร่เมื่อ 29 ก.ค. 2015​

 

เที่ยวทั่วไทยไปกับพลังงานทดแทน ปี 58 ตอน มุกดาหาร​

เผยแพร่เมื่อ 5 ก.ค. 2015​

 

เที่ยวทั่วไทยไปกับพลังงานทดแทน ปี 58 ตอน มหาสารคาม​

เผยแพร่เมื่อ 5 ก.ค. 2015​

 

เที่ยวทั่วไทยไปกับพลังงานทดแทน ปี 58 ตอน จ. ร้อยเอ็ด​

เผยแพร่เมื่อ 5 ก.ค. 2015​

 

เที่ยวทั่วไทยไปกับพลังงานทดแทน ปี 58 ตอน จ.แพร่​

เผยแพร่เมื่อ 5 ก.ค. 2015​