ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

เซาท์ แคโรไลนาอ่วม! เขื่อนแตก น้ำทะลักซ้ำพื้นที่ประสบอุทกภัย อพยพวุ่น​

​

รัฐเซาท์ แคโรไลนา เจอภัยพิบัติซ้ำ...เขื่อนหลายแห่ง รองรับปริมาณน้ำมหาศาลไม่ไหว เกิดรอยร้าวปริแตก และมีบางแห่งถึงขั้นแตกแล้วไหลทะลักท่วมซ้ำเติมพื้นที่ประสบอุทกภัย จนต้องเร่งอพยพประชาชนกันโกลาหล ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 13 ราย

เมื่อวันที่ 6 ต.ค.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ ในหลายเมืองของรัฐเซาท์ แคโรไลนา ประเทศสหรัฐฯ เนื่องมาจากฝนตกหนัก จากอิทธิพลของเฮอริเคนวาคีน โดยบางพื้นที่ของรัฐเกิดฝนตกหนักที่สุดในรอบ 1,000 ปี เท่าที่มีการบันทึกไว้ว่า ขณะนี้ ประชาชนในรัฐเซาท์ แคโรไลนา ต้องยิ่งตระหนกตกใจมากขึ้น เมื่อเขื่อนอย่างน้อย 18 แห่ง ในรัฐ ไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามหาศาลได้ จนทำให้เกิดรอยร้าวและปริแตกแล้ว หรือมีบางแห่งแตก จนทำให้เกิดน้ำทะลักไหลท่วมพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม จนสถานการณ์อุทกภัยยิ่งเลวร้ายหนักกว่าเดิม

ซีเอ็นเอ็น แจ้งว่า หนึ่งในเขื่อนที่แตกแล้ว อยู่ที่เมืองฟอเรสต์ แอคเรส ในเขตริชแลนด์ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชนในเมืองโคลัมเบีย ซึ่งอยู่ใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน โดยอุทกภัยที่เกิดขึ้นในรัฐเซาท์ แคโรไลนา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน และที่รัฐนอร์ท แคโรไลนา อีก 2 คน

ขณะเดียวกัน มีรายงานแจ้งด้วยว่า ทางสำนักงานดับเพลิงในเมืองโคลัมเบีย ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ประสบอุทกภัยรุนแรง ได้รับแจ้งว่า ทะเลสาบ อาร์คาเดีย, ฟอเรสต์ เลค และเลค ด็อกวูด ได้รับผลกระทบจากเขื่อนหลายแห่งแตก โดยที่เมืองโคลัมเบีย ได้เกิดฝนตกหนัก วัดปริมาณน้ำฝนได้ถึง 7.7 นิ้ว ระหว่างเวลา 11.00 น. วันเสาร์ที่ 3 ต.ค.-11.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 4 ต.ค. จนทางการได้ประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์จนถึงเช้าวันจันทร์ที่ 5 ต.ค. นอกจากนั้น ทางการยังได้ส่งเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ท่ามกลางกระแสน้ำ บางคนต้องหนีน้ำขึ้นไปอยู่บนหลังคา

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 ต.ค. 2558

นองเลือด! คาร์บอมบ์หลายระลอกทั่วอิรัก ดับ 63 ศพ​

​

เกิดเหตุระเบิดรถยนต์หลายระลอกในพื้นที่ต่างๆของประเทศอิรัก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันถึง 63 ราย...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เหตุระเบิดจุดที่รุนแรงที่สุดอยู่ที่เมือง คาลิส ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ อยู่ทางตะวันออกของจังหวัดดิยาลา มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 40 ราย เหตุระเบิดจุดที่ 2 อยู่ที่เมือง อัล-ซูบาอีร์ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองท่า บาสรา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเพียง 15 กิโลเมตร มีผู้เสียชีวิต 10 ราย

เหตุระเบิดจุดที่ 3 เกิดในกรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรัก มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย นอกจากนี้ยังเกิดระเบิดอีกครั้งที่เขต ฮุสเซนียา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงแบกแดด มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 25 คน โดย กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือ ไอซิส ออกมาอ้างเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการระเบิดที่เมืองอัล-ซูบาอีร์ แต่ยังไม่มีใครหรือกลุ่มใดออกมาอ้างเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดในจุดอื่นๆ

ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติประเมินว่า เหตุก่อการร้ายและการปะทะด้วยอาวุธในประเทศอิรักในเดือนกันยายนเพียงเดือนเดียว ทำให้มีชาวอิรักเสียชีวิตไปแล้วถึง 717 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1,216 คน

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 ต.ค. 2558

ยอดเหยื่อไต้ฝุ่น 'มูจีแก' พุ่ง 7 ศพ เจ็บอีก 200 คน​

​

พายุไต้ฝุ่นมูจีแกแผ่อิทธิพลเล่นงานพื้นที่ทางใต้ของประเทศจีนตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ โดยล่าสุดในวันจันทร์ จำนวนผู้เสียชีวิตเพราะพายุลูกนี้อเพิ่มขึ้นเป็น 7 รายและมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 200 คน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในประเทศจีนจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น 'มูจีแก' เพิ่มขึ้นเป็น 7 คนแล้ว หลังจากพายุเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งในมณฑลกวางตุ้งทางใต้ของจีนเมื่อช่วงบ่ายวันอาทิตย์ (4 ต.ค.) โดยอิทธิพลของมูจีแกทำให้เกิดฝนตกหนัก, ลมแรงซัดอาคารที่กำลังก่อสร้างพังทลายและทำให้เกิดไฟดับกระทบผู้คนนับพัน ขณะที่มีรายงานพบผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 223 คน

ไต้ฝุ่นมูจีแก เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งเมืองเจิ้นเจียงเมื่อวันอาทิตย์ โดยก่อนหน้านั้นทางการจีนได้ประกาศเตือนภัยพายุขั้นสีแดง และอพยพประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งทางใต้เกือบ 200,000 คน อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าเรือประมงจำนวนมากยังคงติดอยู่กลางทะเล ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือชาวประมงกลับเข้าฝั่งได้ 117 คน พบผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีชาวประมงสูญหายอีก 16 คน

อิทธิพลของไต้ฝุ่นมูจีแกยังทำให้เกิดพายุทอร์นาโดในเมืองฝอซาน ในมณฑลกวางตุ้ง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 รายด้วย อีกด้านหนึ่ง สำนักงานกิจการพลเรือนของเขตปกครองตนเองกวางสีจ้วง ซึ่งเป็นทางผ่านของมูจีแก รายงานว่า ไต้ฝุ่นส่งผลกระทบต่อผู้คนมากกว่า 1.44 ล้านคนในช่วงบ่ายวันจันทร์ โดยพบผู้เสียชีวิต 1 รายที่เมืองหนานหนิงด้วย

ทั้งนี้ ไต้ฝุ่น มูจีแก (ภาษาเกาหลีแปลว่า รุ้ง) เป็นพายุลูกที่ 22 ของปีพ.ศ. 2558 เข้าพัดถล่มประเทศจีนในช่วงวันหยุดยาววันชาติพอดี โดยก่อนหน้านี้ มูจีแกเคลื่อนตัวผ่านภาคเหนือของประเทศฟิลิปปินส์ ทำให้เกิดน้ำท่วมและอินถล่มในบางพื้นที่ มีผู้เสียชีวิต 2 รายและสูญหาย 30 คน

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 ต.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

หมอกควันยังปกคลุม ภูเก็ต-สงขลา จี้อินโดฯเร่งแก้ปัญหา​

​

ภูเก็ต-สงขลา ยังพบหมอกควันปกคลุมแน่น ทัศนวิสัยแย่ แต่ไม่กระทบเที่ยวบินขึ้นลง ขณะค่าฝุ่นละอองในอากาศ กระทบสุขภาพชาวบ้าน แนะสวมหน้ากากอนามัน กลุ่มเสี่ยงห้ามออกกำลังกายกลางแจ้ง ด้าน เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชน ยื่นหนังสือผ่านกงสุลใหญ่อินโดฯประจำ จ.สงขลา เร่งแก้ปัญหาหมอกควัน...

วันที่ 6 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอของ จ.ภูเก็ต ว่า ยังคงถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันขาวเต็มท้องฟ้าเป็นวันที่ 2 สืบเนื่องเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมาได้เกิดไฟไหม้ป่าบนเกาะสุมาตราและเกาะบอร์เนียว ประเทศอินโดนีเซียกว่า 40 จุด ส่งผลให้จังหวัดแถบฝั่งทะเลอันดามัน รวมไปถึง จ.ภูเก็ต ได้รับผลกระทบจากหมอกควันดังกล่าวปกคลุมพื้นที่ และมีแนวโน้มฝุ่นละอองในชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รอง ผวจ.ภูเก็ต แจงสถานการณ์หมอกควันร่วมกัน นพ.บัญชา ค้าของ สสจ.ภูเก็ต และสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15 ภูเก็ต ระบุถึงปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 30 ไมครอน มีค่าระหว่าง 53-173 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งคุณภาพอากาศในพื้นที่ ณ วันที่ 5 ต.ค. ยังอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ยังไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ แต่อาจส่งผลให้บดบังทัศนวิสัยการมองเห็น อย่างไรก็ตามผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายภายนอกอาคารส่วน

โดยเมื่อเวลา 09.00 น. แอพพลิเคชั่น air4thai มีการแสดงกราฟและผลการตรวจวัดฝุ่นละอองในชั้นบรรยากาศบริเวณ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผลปรากฏว่ามีปริมาณฝุ่นละอองที่ตรวจวัดได้อยู่ในระดับ 109 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่แล้ว โดยฝุ่นละอองในชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา เริ่มที่ 17 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งประชาชนสามารถรับรู้ถึงกลิ่นเหม็นไหม้จากไฟได้อย่างชัดเจน ส่งผลให้หายใจไม่คล่องตัว คอแห้ง ไอ และเจ็บคอตามลำดับ โดยประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งต้องใช้หน้ากากอนามัยปิดจมูกและปาก เพื่อป้องกันการสูดดมหมอกควันไฟเข้าสู่ร่างกาย ขณะที่การสัญจรยวดยานพาหนะต่างๆ ในพื้นที่ยังปกติ แต่อาจมองเห็นในระยะไกลไม่ชัดเจน ส่วนการจราจรทางอากาศ เครื่องบินยังขึ้นลงได้ตามปกติ ไม่มีการยกเลิกเที่ยวบิน

นพ.บัญชา ค้าของ สสจ.ภูเก็ต กล่าวถึงข้อแนะนำสำหรับประชาชนในการปฏิบัติตนว่า ให้ติดตามข้อมูลสถานการณ์ระดับ PM10 และ AQI ทุกวัน โดยติดตามข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษหรือวิทยุท้องถิ่น วิทยุชุมชน-ข่าวสารจากหน่วยงานราชการ ขณะที่ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงควรจำกัดเวลาในการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ออกแรงหนัก ผู้ที่เป็นโรคหัวใจหรือโรคปอดควรสังเกตอาการของตนเองและสำรองยาให้เพียงพอ หากมีอาการโรคปอดหรือโรคหัวใจ รวมถึงอาการไอบ่อยๆ แน่นหรือเจ็บหน้าอก หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ เหนื่อยง่ายกว่าปกติหรือเริ่มมีอาการปวดศีรษะให้ปรึกษาแพทย์ หรือไปที่สถานบริการสาธารณสุข รวมทั้งเตรียมจัดหาหน้ากากอนามัยที่เหมาะสมไว้ให้พร้อม

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการติดตามโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น เฟชบุ๊ก เว็บบอร์ด-เพจจะสังเกตได้ว่ามีผู้ใช้โซเชียลต่างได้มีการถ่ายภาพหมอกควันในพื้นที่ จ.ภูเก็ต แล้วนำไปโพสต์พร้อมมีการแสดงความคิดเห็นกันหลากหลายพร้อมกับมีการโหลดแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับการตรวจวัดสภาพอากาศจากหน่วยงานรัฐและเอกชนทั้งในประเทศและจากทั่วโลก เพื่อคอยสังเกตการณ์และตรวจสอบหมอกควันกับผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย โดยส่วนใหญ่จะมีการโหลดแอพพลิเคชั่น "global air และ "air4thai" ไว้ตรวจสอบ ซึ่งผลการตรวจวัดของทั้ง 2 แอพพลิเคชั่นจะต่างกัน แต่สามารถนำมาเป็นข้อมูลพื้นฐานในการตรวจสอบได้เป็นอย่างดี พร้อมกับมีการเข้าไปสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับค่าของการตรวจวัดฝุ่นละอองในชั้นบรรยากาศมากขึ้น เช่น PM10 คืออะไรและเป็นหน่วยวัดสิ่งใด ส่วน AQI เป็นหน่วยการวัดอะไร เพื่อจะได้ติดตามข่าวสารของทางราชการได้ถูกต้อง

ขณะที่ จ.สงขลา ที่บริเวณหน้าสถานกงสุลอินโดนีเซียประจำ จ.สงขลา ทางเครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนในนามของ ชาวหาดใหญ่-สงขลา ผู้ได้รับผลกระทบจากฝุ่นควันไฟป่าประเทศอินโดนีเซีย ประมาณ 20 คน นำโดย นายบัญชร วิเชียรศรี ได้เดินทางไปรวมตัวกันพร้อมกับชูป้าย เรียกร้องให้ทางการรัฐบาลอินโดนีเซียเร่งแก้ปัญหาหมอกควันจากไฟป่าบนเกาะสุมาตราที่พัดเข้ามาปกคลุมในพื้นที่จังหวัดสงขลาและอีกหลายจังหวัดในภาคใต้ของประเทศไทยโดยเร่งด่วน พร้อมกับอ่านแถลงการณ์และยื่นข้อเรียกร้องให้กับ นางเวนนี ฟาบีโอมาร์ต้า กงสุลฝ่ายสังคมและวัฒนธรรม สถานกงสุลอินโดนีเซียประจำจังหวัดสงขลา ผ่านไปยังรัฐบาลอินโดนีเซียให้ตระหนักและรับผิดชอบและเร่งแก้ปัญหาฝุ่นควันอย่างจริงจัง เพราะมีเพียงรัฐบาลอินโดนีเซียเท่านั้นที่ทราบดีถึงสาเหตุหมอกควันที่เกิดขึ้นและรู้แนวทางแก้ไขปัญหา และให้เห็นถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น เนื่องจากอยู่ในโลกใบเดียวกัน

ขณะที่สภาพอากาศในพื้นที่ จ.สงขลา วันนี้ยังคงมีหมอกควันปกคลุมกระจายทั่วท้องฟ้าหนาแน่นแสงแดดไม่สามารถส่องผ่านได้ ซึ่งปกคลุมมาต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 สถานการณ์ในภาพรวมปริมาณหมอกควันเริ่มทรงตัว โดยเฉพาะพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ถึงแม้ขณะนี้คุณภาพอากาศยังเกินค่ามาตรฐานโดยค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอนยังอยู่ที่ 160 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยลดลงจากทุกวันที่ผ่านมา ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมามีฝนตกลงมาทำให้หมอกควันเริ่มเจือจางเล็กน้อย

ด้านนายอำนาจ ผลมาตย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา เปิดเผยว่า สถานการณ์หมอกควันใน จ.สงขลา ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติเพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และคุณภาพอากาศยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ ส่วนทางด้านสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 ราย งานว่าสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคใต้แนวโน้มของหาดใหญ่ จ.สงขลา และ จ.ภูเก็ต ตลอดทั้งวันนี้จะยังเกินค่ามาตรฐาน.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 ต.ค. 2558

เขื่อนสิริกิติ์น้ำน้อยสุดรอบ 39 ปี ปรับลดระบาย ให้พอใช้หน้าแล้ง​

​

เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ จ่อลดการระบายน้ำ หลังระดับน้ำต่ำสุดในรอบ 39 ปี พร้อมของดทำนาปรัง ด้าน ชลประทานจังหวัดน่าน เผย น้ำในอ่างหลายแห่งมีปริมาณลดลงมาก คาดแล้งกว่าปีที่แล้ว 20%

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 6 ต.ค. 58 นายสุเทพ เลิศศรีมงคล ผอ.เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์น้ำล่าสุด ปริมาณอยู่ที่ 4,535.73 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 47.69% โดยปริมาณน้ำที่สามารถพร้อมใช้งานเพียง 1,685.73 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 25.31% น้ำไหลเข้าอ่างเก็บ 22.71 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าปลายเดือน ต.ค. ปริมาณฝนจะน้อยลงหรืออาจไม่ตกเลย เพราะจะเข้าสู่ฤดูแล้ง เขื่อนสิริกิติ์ จึงจำเป็นต้องลดการปล่อยน้ำตามแผนการระบายน้ำ เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 - 11 ต.ค. 58 แผนระบายน้ำ 4.5 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน หรืออาจปรับลดลงในการปล่อยน้ำอีกในช่วงเดือน ต.ค. จนถึงสิ้นปี 58 เพื่อเก็บกักน้ำให้ได้มากกว่า 2,400 ล้านลูกบาศก์เมตร ให้เพียงพอหน้าแล้งปี 59 ในช่วงทำนาปี

สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ปัจจุบันยังถือว่าวิกฤติ ระดับน้ำต่ำสุดในรอบ 39 ปี ซึ่งในขณะนี้ ปริมาณน้ำทั้ง 4 เขื่อนหลักใน จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำพียง 3,677 ล้านลูกบาศก์เมตรส่วนเขื่อนสิริกิติ์ จะต้องกักเก็บน้ำไว้เพื่อการอุโภคบริโภคและระบบนิเวศที่ 10,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ในปีหน้า เพื่อเกษตรกรรมนาปรังอีก 1,100 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ก็ยังไม่อยากให้รีบทำนา เพราะต้องส่งน้ำให้กลุ่มน้ำเจ้าพระยา ในฤดูแล้งนี้ และคาดว่าหากปลาย ต.ค. ฝนไม่ตกก็จะลดการปล่อยน้ำลงอีก แต่จะไม่ส่งผลกระทบในเรื่องของการอุปโภคบริโภคและระบบนิเวศส่วนการเลี้ยงปลาในกระชังที่ในพื้น จ.อุตรดิตถ์ ที่มีกว่า 2,500 กระชัง

ขณะในส่วนของ จ.น่าน นายชัยประเสริฐ เนตรอนงค์ ผอ.โครงการชลประทานจังหวัดน่าน กล่าวว่า ปีนี้ในพื้นที่เกิดสถานการณ์ภัยแล้งกว่าปีที่ผ่านมา เพราะฝนตกล่าช้าและน้อยกว่าปกติ โดยฝนตกต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 20% น้ำในอ่างหลายแห่งมีปริมาณลดลงมาก แม้ว่า จ.น่าน จะมีแหล่งน้ำต้นทุนขนาดใหญ่และขนาดกลาง อาทิ อ่างเก็บน้ำน้ำแหง อ.นาน้อย อ่างเก็บน้ำแหด อ.ภูเพียง ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรได้เฉพาะบริเวณเขตชลประทานเท่านั้น เพราะ จ.น่าน มีพื้นที่ป่าเขา 85% เมื่อฝนตกลงมาก็จะชะล้างจากเขาไหลลงมาท่วมบ้านเรือนราษฎร ซึ่งในปีนี้ จ.น่าน แห้งแล้งกว่าปี 57 ประมาณ 20%.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 ต.ค. 2558

ยอดดอย 'อินทนนท์' ลดเหลือ 6 องศาฯ ห้ามคนโรคหอบ เดินป่าทางไกล​

​

ลมหนาวมาแล้ว!!! ยอดดอยอินทนนท์ อุณหภูมิลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดเหลือ 6 องศาฯ หน.อุทยานฯ เตือนนักท่องเที่ยว เตรียมพร้อมสภาพร่่างกาย และห้ามผู้ป่วยโรคหอบหืด เดินป่าชมธรรมชาติที่มีระยะทางเดินไปกลับหลายชั่วโมง ...

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ต.ค. นายพรเทพ เจริญสืบสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า สภาพอากาศบนดอยอินทนนท์ขณะนี้อากาศหนาวเย็นทุกวัน และมีทีท่าว่าอุณหภูมิจะลดลงเรื่อยๆ ล่าสุด อุณหภูมิลดลงเหลือ 6 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอินทนนท์ ขณะที่บริเวณจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน อุณหภูมิวัดได้ต่ำสุด 12 องศาเซลเซียส และที่ทำการดอยอินทนนท์ วัดได้ต่ำสุด 17 องศาเซลเซียส

นายพรเทพ กล่าวอีกว่า ช่วงนี้ต้องขอเตือนนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวต้องมีการเตรียมความพร้อมสภาพร่างกาย เนื่องจากบางช่วงจะมีฝนตกและมีอากาศหนาวสลับกับหมอกหนาในบางช่วง หากร่างกายอ่อนแอ อาจจะได้รับความเจ็บป่วยได้ โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจ ที่สำคัญอย่าลืมนำเสื้อกันหนาวมาด้วย เพราะช่วงเช้าถือว่าหนาวเย็นมาก ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัวควรมียาติดตัวไปด้วย ซึ่งตนได้ห้ามผู้ที่เป็นโรคหืดหอบ เดินป่าชมธรรมชาติที่มีระยะทางเดินไปกลับหลายชั่วโมง บริเวณจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน เพราะอากาศหนาว

อย่างไรก็ตาม สำหรับยอดนักท่องเที่ยวช่วงนี้เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบอากาศหนาว จะมากันเป็นหมู่คณะ ใช้รถจักรยานยนต์ขับตามกันมา ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยที่อาศัยอยู่จังหวัดใกล้เคียง หยุดเสาร์อาทิตย์ก็ชักชวนกันไปเที่ยวดังกล่าว

"ขอเตือนนักท่องเที่ยวทุกคนที่จะขึ้นมาเที่ยวบนดอย ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง เพราะมีหมอกลงหนา ส่งผลให้วิสัยทัศน์ในการมองเห็นลดลง ที่ผ่านมาเคยเกิดอุบัติเหตุนักท่องเที่ยวขี่รถประมาทประสบอุบัติเหตุมาแล้ว ส่วนหนึ่งฝ่าฝืนคำเตือนของเจ้าหน้าที่ด้วย ในปีนี้จะมีการเข้มงวดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสวมหมวกกันน็อกขึ้นเที่ยวบนดอยอินทนนท์ด้วย" นายพรเทพ กล่าว.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 ต.ค. 2558

ปภ.เฝ้าระวัง 24 ชม. รับมือ ภาคกลาง-อีสาน ฝนตกหนัก​

​

ปภ.สั่งเฝ้าระวัง 24 ชม. พื้นที่ภาคกลาง-อีสาน รับมือฝนตกหนัก-น้ำป่าหลาก-ดินถล่ม เผย ช่วง 3-5 ต.ค. ที่ผ่านมา เกิดน้ำท่วม 2 จังหวัดในนครสวรรค์ และระยอง ชี้หากไม่มีฝนเพิ่ม สถานการณ์จะคลี่คลายสู่ปกติ...

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนหนาแน่น และฝนตกหนักบางแห่ง อีกทั้งระยะนี้มีฝนสะสมในบางพื้นที่ อาจส่งผลให้เกิดอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย จึงได้เน้นย้ำให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย

สำหรับฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 3-5 ต.ค. ที่ผ่านมา ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 2 จังหวัด 5 อำเภอ ดังนี้ จ.นครสวรรค์ น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ไพศาลี อ.ลาดยาว และ อ.บรรพตพิสัย โดยปัจจุบัน อ.ไพศาลี สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วน อ.ลาดยาว และ อ.บรรพตพิสัย หากไม่มีฝนตกเพิ่มเติม คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1–2 วัน ขณะที่ จ.ระยอง มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.บ้านฉาง และ อ.นิคมพัฒนา หากไม่มีฝนตกเพิ่มเติม คาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันนี้

ทั้งนี้ ทางกรมป้องกันฯ ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเจ้าหน้าที่ พร้อมวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยออกปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ภัย และให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง พร้อมเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำ รวมถึงจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ตลอดจนซ่อมแซมสาธารณูปโภคและสิ่งสาธารณประโยชน์ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 ต.ค. 2558

สธ.เตือน ประชาชนพื้นที่น้ำท่วม ระวังโรคฉี่หนู แนะวิธีหากเลี่ยงไม่ได้​

​

กระทรวงสาธารณสุข แนะ ประชาชนเดินลุยน้ำท่วมขัง ระวังเชื้อโรคฉี่หนู โดยเฉพาะผู้มีแผลบริเวณเท้า-ขา ควรสวมรองเท้าบู๊ตยางหรือถุงพลาสติก เนื่องจากเชื้อโรคชนิดนี้สามารถไชเข้าแผลหรือไชผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานาน ...

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 58 นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยถึง การเฝ้าระวังโรคฉี่หนู ว่า ในช่วงหลังน้ำท่วม ประชาชนอาจป่วยเป็นโรคฉี่หนูหรือโรคเลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) ซึ่งเชื้อจะปนเปื้อนอยู่ตามแอ่งน้ำ พื้นดินเป็นดินโคลนชื้นแฉะ สามารถไชเข้าทางบาดแผล หรือตามรอยถลอก รวมทั้งผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานานขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชนในการดูแลป้องกันโรคและในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง พร้อมเฝ้าระวังโรคเป็นเวลา 15 วัน และกำชับให้โรงพยาบาลทุกแห่ง ซักประวัติการลุยน้ำ ย่ำโคลนผู้ป่วยที่มีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย ทุกราย เนื่องจากโรคนี้มียาปฏิชีวนะรักษาหาย

ด้านนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การป้องกันโรคฉี่หนู ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำท่วมขัง หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมรองเท้า เช่น รองเท้าบู๊ตยาง หรือสวมถุงมือหนา เพื่อป้องกันการเกิดบาดแผลจากของมีคมบาดหรือทิ่มแทง ขณะเดินย่ำน้ำ ย่ำโคลน หรือระหว่างทำความสะอาดบ้าน หากมีบาดแผลที่เท้าหรือบริเวณขา ให้ใช้ถุงพลาสติกหรือวัสดุที่กันน้ำได้ หุ้มตรงส่วนนั้นเพื่อป้องกันน้ำเปียกแผล ทั้งนี้ การใช้พลาสเตอร์ปิดแผลไม่สามารถกันน้ำได้ 100 เปอร์เซ็นต์ หากปิดพลาสเตอร์ ควรรีบล้างแผลให้สะอาดและเปลี่ยนพลาสเตอร์ ชิ้นใหม่ปิดแทนทันที

สำหรับสถานการณ์โรคฉี่หนูพบได้ตลอดปีในปีนี้มีรายงานใน 63 จังหวัด รวมผู้ป่วยสะสม 1,259 คน เสียชีวิต 24 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ และเป็นเกษตรกร พบผู้ป่วยมากในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมาและพบได้ในกรณีที่พื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังในเมืองที่อาจมีเชื้อโรคนี้อยู่อาการของโรคนี้จะเริ่มจากมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดน่อง ตาแดง

อย่างไรก็ตาม หากประชาชนมีอาการที่กล่าวมา ขอให้นึกถึงโรคนี้และรีบพบแพทย์ และที่สำคัญขอให้แจ้งประวัติการเดินลุยน้ำให้แพทย์ทราบด้วย เพื่อการรักษาได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว เพราะหากรักษาล่าช้า อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน ไตวาย ตับวาย เลือดออกในปอด ทำให้เสียชีวิตได้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมและรับคำปรึกษา สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 ต.ค. 2558

เด็กลำปางกว่า 600 ป่วยมือ เท้า ปาก สูงอันดับ 7 ของประเทศ​

​

สสจ.ลำปาง เผย มีเด็กป่วยโรคมือ เท้า ปาก แล้วเกือบ 600 คน สูงเป็นอันดับ 7 ของประเทศ แนะพ่อแม่ดูแลใกล้ชิด ใช้หลัก "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ" พบทั่วประเทศป่วยกว่า 2.5 หมื่นคน เด็ก 1 ขวบมากสุด

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 58 นพ.ศิริชัย ภัทรนุธาพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง แจ้งว่า ขณะนี้โรคมือ เท้า ปาก ยังระบาดต่อเนื่องและมีแนวโน้มสูงเพิ่มขึ้น ข้อมูลเฝ้าระวังโรคสำนักระบาดวิทยา กรมการควบคุมโรค ณ วันที่ 30 ส.ค. 58 พบผู้ป่วยจำนวน 25,359 ราย อายุ 1 ขวบ ป่วยมากที่สุด ที่สำคัญ จ.ลำปาง เป็นจังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อแสนประชากรสูงสุดเป็นอันดับ 7 ของประเทศ

สำหรับสถานการณ์โรคมือ เท้า ปาก ของ จ.ลำปาง ณ วันที่ 11 ก.ย. 58 มีเด็กป่วยแล้ว 587 คน อัตราป่วย 78.05 ต่อแสนประชากร ส่วนใหญ่อายุน้อยกว่า 5 ปี พบทุกอำเภอ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง ขอความร่วมมือให้พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ป้องกันโรคมือ เท้า ปาก แก่เด็ก ด้วยการให้กินอาหารปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลาง ให้เด็กล้างมือบ่อยๆ ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล ความสะอาดของอุปกรณ์ของเล่น ของใช้ ควรหลีกเลี่ยงพาเด็กเล็กไปในที่ชุมชนเพราะเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรค กรณีเด็กป่วยรีบพาพบแพทย์เพื่อไม่ให้ระบาดในวงกว้าง แยกสิ่งของปนเปื้อนที่สัมผัสน้ำมูก น้ำลาย ปัสสาวะ อุจจาระของเด็กและทำลายเชื้ออย่างรวดเร็ว ผู้ปกครองควรล้างมือก่อนสัมผัสตัวเด็ก อุปกรณ์ ของใช้ ของเล่น และสิ่งขับถ่ายต่างๆ ทุกครั้ง และขอความร่วมมือศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียน ได้ดำเนินงานตามมาตรการป้องกันในช่วงนี้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ โรคมือ เท้า ปาก เกิดจากเชื้อไวรัส มักระบาดในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาล ติดต่อง่าย หลังได้รับเชื้อ 3-5 วัน จะมีอาการไข้ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ปวดเมื่อย มีอาการตุ่มพองเล็กที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และในปากบริเวณเพดานอ่อน ลิ้น กระพุ้งแก้ม ทำให้เด็กไม่ดูดนม ไม่กินอาหาร ปัจจุบันยังไม่มียาต้านไวรัสชนิดนี้ และห้ามให้ยาแอสไพริน หากเด็กรับประทานอาหารได้ พักผ่อนเพียงพอ อาการไม่รุนแรง จะหายเองได้ในเวลา 7-10 วัน แต่บางรายอาจมีอาการรุนแรงมากอาจเสียชีวิตได้จากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ภาวะปอดบวมน้ำ เป็นต้น หาดกมีไข้สูงไม่ลด ซึม อาเจียน หอบ ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 ต.ค. 2558

ภาคตะวันออก-อีสานฝนหนาแน่น กทม.ฝนตก 70% ของพื้นที่​

​

ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงสาย ภาคเหนือมีโอกาศฝนเพิ่มขึ้น ในขณะที่ภาคกลางฝนจะลดลง กทม.และปริมณฑล มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่โดยมีโอกาสฝนตก 40%...

จากการตรวจสอบจากระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐ เดอะเวตเตอร์ คอมพานี สภาพอากาศประจำวันที่ 6 ต.ค.2558 เช้านี้ เริ่มต้นกับสถานการณ์พายุมูจิแก เมื่อเวลา 07.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 ตุลาคม 2558) พายุโซนร้อน “มูจีแก” ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน บริเวณทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ของเมืองหนานหนิง มณฑลกวางสี ประเทศจีน และล่าสุดตอนนี้ก็ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว

ในขณะที่ใกล้ๆกัน มี พายุอีกหนึ่งลูกที่น่าจับตามองมีชื่อว่า "ฉอยหวั่น" ที่ขณะนี้พัฒนาความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ที่ตอนนี้เป็นพายุโซนร้อน มีศูนย์กลางอยู่ที่ มหาสมุทรแปซิฟิคตะวันตก ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ เกาะมารีนาส์ มีความเร็วลมศูนย์กลาง 111 กม./ชม. อยู่ห่างจากอุบลราชธานี 5,187 กม. เคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 22 กม./ชม. คาดว่าพายุนี้จะมีความเร็วลมศูนย์กลางเพิ่มขึ้น เป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 ในบ่ายวันนี้ (6 ตุลาคม 2558) แล้วเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ไปทางเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น และลดความเร็วลมศูนย์กลางลงเป็นพายุโซนร้อน ในเช้าวันที่ 8 ตุลาคม 2558 พายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อสภาวะอากาศของประเทศไทย แต่ใครที่จะเดินทางไปยังบริเวณประเทศญี่ปุ่นต้องตรวจสอบสภาพอากาศ และติดตามสถานการณ์พายุลูกนี้อย่างใกล้ชิด

ส่วนในไทยเอง ถึงแม้ว่าพายุมูจีแกจะสลายไปแล้ว แต่ในไทยก็ยังมีปัจจัยที่ทำให้เกิดฝนต่อเนื่อง อย่างร่องฝน หรือร่องมรสุม ซึ่งพาดผ่านบริเวณภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนสะสมในระยะนี้ไว้ด้วย แต่หลังจากนี้มีแนวโน้มว่า ร่องมรสุมดังกล่าวกำลังจะเลื่อนขึ้นไปปกคลุมภาคเหนือ นั่นหมายความว่า ภาคเหนือมีโอกาศฝนเพิ่มขึ้น ในขณะที่ภาคกลางฝนจะลดลง

ส่วนปริมาณฝนสะสมวันนี้ พบว่าหลายพื้นที่มีปริมาณฝนสะสมลดน้อยลงกว่าช่วงที่ผ่านมา ฝนสะสมส่วนใหญ่วันนี้จะอยู่ในพื้นที่ภาคอีสานตอนบนจนถึงตอนกลาง

จากการคำนวณสถานการณ์ฝนที่จะตกตามช่วงเวลาต่างๆของวันนี้ ตั้งแต่ตอนบนจนถึงตอนกลางของประเทศ พบว่า ช่วงสาย กลุ่มฝนส่วนใหญ่จะปกคลุมในบริเวณภาคอีสาน และภาคตะวันออกตามแนวชายฝั่ง

ช่วงเที่ยงกลุ่มฝนในบริเวณภาคอีสานลดลงเหลือเพียงบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครราชสีมา บุรีรัมย์ และตกเพิ่มในบริเวณภาคตะวันออก ที่ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก จันทบุรี ตราด นอกจากนี้ยังมีตกเพิ่มบริเวณฝั่งตะวันตกของภาคที่จังหวัดตาก นครสวรรค์ กาญจนบุรี อุทัยธานี สุพรรณบุรี

ช่วงบ่าย พบกลุ่มฝนตกกระจายตัวบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสานฝั่งตะวันออก และตกครอบคลุมพื้นที่ภาคตะวันออก

ช่วงเย็น ยังคงพบกลุ่มฝนกระจายตัวบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสานพบกลุ่มฝนขยายตัวเป็นวงกว้างบริเวณตอนกลางของภาค และภาคกลางพบกลุ่มฝนบริเวณอ่างทอง สิงห์บุรี และลพบุรี

ช่วงค่ำ ยังคงพบกลุ่มฝนในภาคอีสาน โดยจะตกปานกลางถึงหนักบริเวณจังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ และจะตกหนักขึ้นเรื่อยๆไปจนถึงช่วงดึก

ส่วนสถานการณ์ฝนในภาคใต้ ช่วงเที่ยงกลุ่มฝนเน้นตกบริเวณฝั่งอันดามัน ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ ตรัง สตูล ยะลา ช่วงบ่าย พบกลุ่มฝนตกเพิ่มขึ้นในบริเวณระนอง พังงา ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี และจะตกในบริเวณดังกล่าวไปจนถึงช่วงเย็น ก่อนที่จะเคลื่อนออกทะเลไปในช่วงค่ำ

ส่วนอุณหภูมิวันนี้นั้น บริเวณตอนบนช่วงค่ำถึงเช้ามีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 21 องศาเซลเซียส ส่วนในตอนกลางวันมีอากาศร้อนโดยทั่วไป คาดว่าอุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 35 องศาเซลเซียส

ส่วนสภาพอากาศแต่ละภาควันนี้เป็นดังนี้

ภาคเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม และร้อยเอ็ด อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง วันนี้มีโอกาสเกิดฝน 40 เปอร์เซนต์ ในร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 ต.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

นายกฯ ชวนประชาชนถือศีลกินเจ ร่วมสร้างบุญกุศล​

เผยแพร่เมื่อ 6 ต.ค. 2015​

นายกฯเชิญชวนประชาชนถือศีลกินเจประจำปี 58 เพื่อสร้างบุญกุศล ร่วมกันทำความดี

วันนี้ (6 ต.ค.58) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่­งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุมนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) พร้อมด้วย นายกฤษศณพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นำศิลปินดารา อาทิแจ็ค จารุพงศ์ กล้วยไม้งาม หรือ แจ็ค แบล็กแจ็ค และน.ส.นงผณี มหาดไทย หรือ จ๊ะ อาร์สยาม เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อรณรงค์และมอบธงสัญลักษณ์ถือศีลกินเจ ประจำปี 2558 และเชิญชวนนายกรัฐมนตรี รับประทานอาหารเจ

ทั้งนี้ นายกฯ ให้ความสนใจแวะชิมอาหารเจเกือบทุกบูท อาทิ ซาลาเปาไส้เผือกชาร์โค พร้อมกล่าวว่า ภรรยาผมก็ทานเจ แต่ผมช่วงนี้ก็ลดๆ ทานเนื้อลง เป็นอะไรไม่รู้ ทานไม่ค่อยได้ อย่างตอนไปสหรัฐอเมริกาที่ผ่านมาก็ทานไม่ไ­ด้ ปกติเมื่อก่อนชอบทานเนื้อมาก แต่ตอนนี้ได้ก­ลิ่นเนื้อแล้วรู้สึกได้กลิ่นแปลกๆ ซึ่งการทานอาหารเจเป็นสิ่งที่ดี ขอให้ทุกคนทำ เพื่อให้เกิดความสมดุลกับตัวเอง สร้างบุญกุศล และขอให้ทุกคนร่วมกันทำความดี

 

ร้านอาหารเจกิ่งหลิว​

เผยแพร่เมื่อ 22 ก.ย. 2014​

 

กินผัก ประเพณีถือศีลกินผัก จ.ภูเก็ต​

อัปโหลดเมื่อ 2 ก.ย. 2010​

 

Leader Talk ตอน อาหารเจ​

เผยแพร่เมื่อ 16 ต.ค. 2012​

พูดคุยกับ "หม่าม้า" คุณเซี่ยมเง็ก แซ่ตั้ง เจ้าของร้านลิ้มโภชนา ร้านอาหารเจชื่อดัง ย่านโชคชัย 4 แพร่ภาพทางช่องหมายเลข 8 HIT TV เคเบิลทีวีของคนกรุงเทพ

 

ร้านอาหารเจวาวา กลางใจเมืองสุราษฎร์ธานี​

เผยแพร่เมื่อ 21 ก.ค. 2015
ร้านอาหารเจวาวา กลางใจเมืองสุราษฎร์ธานี อาหารเจอร่อย มีมากกว่า 20 เมนู ให้เลือกทุกวัน​

 

ผัดไทยเจ (อาหารเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 8 ต.ค. 2012​

 

สปาเก็ตตี้พริกแห้งเห็ดเจ (อาหารเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 8 ต.ค. 2012​

 

เต้าหู้ติกก้าเจ (อาหารเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 8 ต.ค. 2012​

 

แซนวิชเจ (อาหารเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 14 ต.ค. 2012​

 

ข้าวผัดเจอะเมซิ่ง (อาหารเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 15 ต.ค. 2012​

 

แกงเลียงหัวปลี (เมนูเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 23 ก.ย. 2013​

 

ยำผักบุ้งกรอบ (เมนูเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 30 ก.ย. 2013​

 

วุ้นเส้นผัดสามรสเจ (อาหารเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 15 ต.ค. 2012​

 

ผัดมาม่าเจ (อาหารเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 14 ต.ค. 2012​

 

ยำเต้าหู้ฟู (เจ) น้ำยำมังสวิรัติ​

อัปโหลดเมื่อ 21 ก.ย. 2011​

 

เต้าหู้ลูกเขย (เจ)​

อัปโหลดเมื่อ 22 ก.ย. 2011​

 

เต้าหู้ดำผัดสี่สหายเจ (อาหารเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 20 ต.ค. 2012​

 

ยำสามกรอบเจ (อาหารเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 7 ต.ค. 2013​