ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

พายุกระหน่ำชายหาดฝรั่งเศส-น้ำหลากท่วมเมืองคานส์ ดับ 13 คน​

​

เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม เกิดฝนตกอย่างหนักติดต่อกันเป็นเวลานานและพายุลมแรงโหมกระหน่ำบริเวณชายหาด "โกต ดาซูร์" (Côte d’Azur) แหล่งท่องเที่ยวมีชื่อของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทางตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 13 คน

เป็นปรากฏการณ์ที่น่าหวาดกลัวเมื่อกระแสน้ำไหลหลากท่วมถนนในเมืองคานส์และเมืองนีซ กระแสน้ำไหลผ่านถนนพรอมเมอนาร์ดเดซ์อองเลส์ (Promenade des Anglais) ที่มีชื่อเสียง ทำให้เกิดดินโคลนถล่มที่อันตรายมาก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 ศพ และยังอาจจะเพิ่มขึ้นอีกในเขตอัลปส์มาริทิมส์ (Alpes-Maritimes)

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต้องทำงานอย่างยากลำบากมากเพื่อที่จะเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ทำให้คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจจะมีเพิ่มขึ้นอีก มีการจัดเตรียมสถานที่รับรองผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินในทุกเขตที่ประสบปัญหาและมีการร้องขอหน่วยกู้ภัยเพิ่มเติมจากเขตอื่นมาสมทบอีกด้วย

นายเดวิส ลิส์นาร์ด นายกเทศมนตรีเมืองคานส์กล่าวว่า "มีรถยนต์หลายคันที่ถูกกระแสน้ำพัดพาลงไปในทะเล" บางพื้นที่น้ำท่วมสูงถึงครึ่งประตูรถยนต์ มีต้นไม้หักล้มระเนระนาดบนถนนเลียบชายหาด "ถนนพรอมเมอนาร์ดเดซ์อองเลส์" (Promenade des Anglais) ที่เมืองนีซ

โดยพื้นที่ประสบภัยพิบัติในครั้งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของฝรั่งเศส มีนักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอังกฤษและเดนมาร์กจำนวนกว่า 500 คนต้องติดค้างอยู่ที่สนามบินเมืองนีซ ขบวนรถไฟกว่า 10 ขบวนต้องติดค้างอยู่ตามสถานีทางตอนใต้ของฝรั่งเศสโดยมีผู้โดยสารหลายร้อยคนอยู่บนขบวนรถไฟ ถนนสายรองหลายสายไม่สามารถใช้งานได้ นอกจากนี้ 35,000 ครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยอยู่ในเขตเมืองคานส์ 14,000 ครัวเรือน

นายมานูเอล วัลส์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสอยู่ระหว่างการเยือนกรุงโตเกียวได้แสดงความรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ภัยพิบัติในครั้งนี้และส่งกำลังใจถึงครอบครัวผู้ที่สูญเสียผู้ใกล้ชิดจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อเช้าวันอาทิตย์ เขาได้ทวีตข้อความว่า "รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับผลกระทบจากเหตุการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลยื่นมือเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง ขอส่งกำลังใจให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต".

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 ต.ค. 2558

จีนเตรียมรับมือ!ไต้ฝุ่น 'มูจีแก' จ่อถล่มไหหลำ ยกระดับเตือนภัย ‘สีส้ม’​

​

ทางการจีนเตรียมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น ‘มูจีแก’ หลังยกระดับเตือนภัยขึ้นเป็นระดับ 3-สีส้ม จ่อถล่มเกาะไหหลำและกวางตุ้งในวันนี้ (4 ต.ค.) คาดจะทำให้เกิดลมพายุแรงจัดและฝนตกหนักมาก จากนั้นจะมุ่งหน้าไปยังเวียดนามและมณฑลกวางซีจ้วงต่อไป

เมื่อ 4 ต.ค. 58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของจีน ได้ประกาศยกระดับเตือนภัย ไต้ฝุ่น มูจีแก ถึง 2 ครั้งเมื่อวันที่ 3ต.ค. 58 ขึ้นจากระดับ1 สีน้ำเงิน มาเป็นระดับ 2 -สีเหลือง ตอนเวลา06.00 น.จากนั้น ได้เพิ่มระดับเตือนภัยเป็นระดับ 3 -สีส้ม ซึ่งเป็นระดับเตรียมพร้อมใช้มาตรการฉุกเฉินในการรับมือภัยพิบัติจากพายุไต้ฝุ่นกำลังแรง

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาของจีน คาดการณ์ว่า ไต้ฝุ่นมูจีแก ซี่งนับเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 22 ของปีนี้ จะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งที่เกาะไห่หนาน หรือไหลำ ในทะเลจีนใต้ ทางภาคใต้ของจีน ช่วงเช้าจนถึงก่อนเที่ยงของวันที่ 4ต.ค. จากนั้น จะเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ พัดผ่านคาบสมุทรเล่ยโจวในมณฑลกวางตุ้ง ช่วงเย็นวันที่4 ต.ค ซึ่งอิทธิพลของไต้ฝุ่นมูจีแกจะก่อให้เกิดลมพายุรุนแรง คลื่นสูง และฝนตกหนักมากที่เกาะไหหลำและกวางตุ้ง ตั้งแต่เย็น วันที่ 4 ต.ค. จนถึงเช้าวันที่ 5 ต.ค. จากนั้นพายุไต้ฝุนมูจีแกจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งเวียดนาม และมณฑลกวางซีจ้วง แผ่นดินใหญ่ ทางภาคใต้ของจีน ต่อไป

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาของจีน ได้จัดระดับคำประกาศเตือนภัยสภาพอากาศ เป็น 4 ระดับ โดยใช้รหัส 4 สี ระดับ 4 สีแดง รุนแรงมากที่สุด รองลงมาระดับ 3 สีส้ม ระดับ 2 สีเหลือง และระดับ 1 สีน้ำเงิน

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 ต.ค. 2558

คลั่งศาสนา รัวถล่มดับ 9 นศ.มหา’ลัย รัฐโอเรกอน​

​

มือปืนคลั่งศาสนาบุกกราดยิงนักศึกษาและอาจารย์วิทยาลัยชุมชน ตายหมู่อย่างน้อย 9 ศพ เจ็บอีกเพียบ ขณะที่ตัวมือปืนก็ไม่รอด ถูกวิสามัญฯดับดิ้นตามไปด้วย “บารัค โอบามา” เซ็ง เกิดเหตุซ้ำซาก ระบุเหมือนเป็นงานประจำไปแล้ว และสหรัฐฯเป็นประเทศที่เจริญแล้วประเทศเดียว ที่เกิดเหตุคนฆ่าหมู่ 2-3 เดือนครั้ง ตะลึงสถิติ ยังไม่ถึงสิ้นปี 2015 มีเหตุสังหารหมู่เกิดขึ้นทั่วประเทศถึง 239 ครั้ง

เกิดเหตุมือปืนคลั่งศาสนา บุกสังหารหมู่ในสถานศึกษาที่สหรัฐอเมริกา มีคนเสียชีวิตกว่า 10 ศพอีกแล้ว ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันศุกร์ 2 ต.ค. เกิดเหตุมือปืนบุกกราดยิงผู้คนภายในสถานศึกษาของสหรัฐฯ อีกครั้ง โดยเหตุรุนแรงเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 1 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราวกลางดึกก่อนเช้าวันศุกร์ 2 ต.ค. ตามเวลาประเทศไทย ภายในสถาบันวิทยาลัยชุมชนอุมพ์ควา เมืองโรสเบิร์ค ย่านชนบทอดีตเมืองแหล่งทำไม้ในรัฐโอเรกอน อยู่ห่างลงไปทางใต้เมืองพอร์ตแลนด์ ประมาณ 175 กม. ซึ่งมีนักศึกษาประมาณ 3 พันคน

ตามรายงานข่าวมือปืนเป็นเพศชาย วัย 26 ปี ชื่อคริส ฮาร์เปอร์ เมอร์เซอร์ พำนักอยู่อพาร์ตเมนต์กับมารดา ใกล้สถานที่เกิดเหตุ ได้พกพาอาวุธปืนถึง 4 กระบอก เป็นปืนยาวไรเฟิล 1 กระบอก ปืนพกสั้น 3 กระบอก บุกเข้าไปในพื้นที่สถานศึกษา โดยเข้าไปในชั้นเรียนและบังคับนักศึกษากับอาจารย์ ให้บอกถึงการนับถือศาสนา จากนั้นมือปืนได้กระหน่ำยิงผู้คนภายในห้องเรียนทีละคน รวมถึงจ่อยิงศาสตราจารย์คนหนึ่งเสียชีวิต ทำให้คนในห้องเกิดการแตกตื่นวิ่งหนีกันอลหม่าน ขณะที่มือปืนไล่กราดยิงผู้คนเสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย ผู้บาดเจ็บมากกว่า 7 คน แต่รายงานข่าวเบื้องต้นสับสน อ้างผู้เสียชีวิตอาจมากถึง 13 ราย ผู้บาดเจ็บมากถึง 20 คน ขณะที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น อ้างคำสัมภาษณ์ผู้รอดตาย จากเหตุการณ์นี้รายหนึ่งระบุได้ยินเสียงปืนมากประมาณ 35-40 นัด

นายจอห์น ฮานลิน ตำรวจเมืองโรสเบิร์ค แถลงในเวลาต่อมา ระบุมือปืนเสียชีวิตหลังยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ยกกำลังเข้าระงับเหตุร้าย โดยมือปืนถูกตำรวจยิงกระสุนเข้าตามร่างกายหลายแห่ง ส่วนเหตุรุนแรงครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 9 ศพ บาดเจ็บ 7 คน มูลเหตุจูงใจคนร้ายก่อการครั้งนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด และอยู่ระหว่างตรวจสอบภาพในเว็บไซต์ “มายสเปซ” ของมือปืน ซึ่งมีลักษณะโกนศีรษะและสวมแว่นตากรอบสีเข้ม ได้โพสต์ข้อความต้องการก่อเหตุรุนแรงเอาไว้ก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน โทรทัศน์เคเอบีซี ได้สัมภาษณ์นายเอียน เมอร์เซอร์ บิดามือปืน ซึ่งพำนักอยู่ที่เมืองทาร์ซานา รัฐแคลิฟอร์เนีย นายเอียนระบุถึงการกระทำของลูกชายว่า ถือเป็นวันเลวร้ายแก่ตนและครอบครัว ส่วนนางคาร์เมน เนสนิกค์ พี่สะใภ้มือปืนโหดกล่าวว่า ไม่น่าเชื่อว่านายเมอร์เซอร์จะก่อเหตุรุนแรงลักษณะนี้ เพราะปกติเขาเป็นคนที่ต้องการให้ผู้อื่นมีความสุขและมักทำอะไรเพื่อคนอื่นก่อนเสมอ อย่างไรก็ตาม เพื่อนบ้านครอบครัวเมอร์เซอร์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่มือปืนเคยพำนักอยู่เมื่อหลายปีก่อนหน้านั้น เผยถึงบุคลิกนายเมอร์เซอร์มักไม่ค่อยสุงสิงกับใครและชอบนั่งคนเดียวมืดๆที่ระเบียงบ้าน

หลังเกิดเหตุร้ายในรัฐโอเรกอน ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ ออกแถลงด้วยท่าทีแข็งกร้าว ระบุถึงเหตุสังหารหมู่ผู้คนครั้งนี้สมควรอย่างยิ่ง ที่ชาวอเมริกันต้องออกมาแสดงพลังออกกฎหมายควบคุมอาวุธปืนเข้มงวดมากขึ้น การออกมาแถลงข่าวของตน เพราะเหตุร้ายลักษณะนี้ดูเหมือนเป็นงานประจำไปเสียแล้ว เพราะนี้เกิดขึ้นบ่อยแทบทุกๆ 2-3 เดือน สหรัฐอเมริกาไม่ใช่ประเทศเดียวที่มีคนป่วยโรคจิตหรือมีคนที่ต้องการทำร้ายผู้อื่นอาศัยอยู่ แต่สหรัฐฯเป็นประเทศโลกเจริญแล้วเพียงชาติเดียว ที่มีเหตุยิงสังหารหมู่ผู้คนเกิดขึ้นทุกๆ 2-3 เดือน แม้แต่อังกฤษและออสเตรเลียยังบังคับใช้กฎหมายจัดการเรื่องนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เหตุรุนแรงในรัฐโอเรกอนครั้งนี้ ถือเป็นคดีสังหารหมู่ผู้คนครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์รัฐโอเรกอน และถือเป็นเหตุกราดยิงร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของสหรัฐฯในช่วงปีนี้ หลังเกิดเหตุแก๊งมอเตอร์ไซค์ยิงกันเสียชีวิต 9 ศพ ที่เมืองวาโก รัฐเท็กซัสเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งเหตุมือปืนผิวขาวบุกยิงผู้คนผิวสีเสียชีวิต 9 ศพ ที่โบสถ์เมืองชาร์ลสตัน รัฐเซาท์แคโรไลนาเมื่อเดือน มิ.ย. ส่วนเหตุกราดยิงผู้คนในสหรัฐฯเฉพาะปีนี้เกิดขึ้นแล้วถึง 293 ครั้ง

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 3 ต.ค. 2558

นาซาเตือน ไฟป่าอิเหนาทำลายสิ่งแวดล้อมมากสุดในรอบ 18 ปี​

​

นักวิทยาศาสตร์ของนาซาเตือน เหตุไฟป่าในอินโดนีเซียอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรุนแรงที่สุดในรอบ 18 ปี ในขณะที่รัฐบาลแดนอิเหนายังประสบปัญหาในการควบคุมไฟป่า ที่รุนแรงขึ้นเพราะปรากฏการณ์เอลนินโญ...

เมื่อ 2 ต.ค.นายโรเบิร์ต ฟีลด์ นักวิทยาศาสตร์สถาบันอวกาศศึกษาก็อดดาร์ด องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) แถลงเตือนสถานการณ์ควันไฟที่เกิดจากการลักลอบเผาพื้นที่การเกษตรบนเกาะสุมาตราและเกาะกาลิมันตันของอินโดนีเซีย อาจส่งผลกระทบร้ายแรงที่สุดต่อสภาพแวดล้อมในรอบ 18 ปี แม้รัฐบาลอินโดนีเซียจะระดมกำลังเจ้าหน้าที่ 20,000 นายควบคุมไม่ให้ไฟไหม้ลุกลาม รวมถึงทำฝนเทียมในหลายพื้นที่ แต่ยังไม่สามารถสกัดไฟไหม้ได้ทุกจุด เนื่องจากปีนี้เกิดปรากฏการณ์เอลนินโญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้สภาพอากาศโดยรวมแห้งแล้ง ไม่มีน้ำฝนธรรมชาติมาช่วยบรรเทามลพิษทางอากาศ ส่งผลกระทบหนักต่อประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียและสิงคโปร์ โดยค่ามลพิษในอากาศสูงขึ้นนับร้อยจุดจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และประชาชนนับหมื่นคนใน 3 ประเทศต้องเข้ารับการรักษาอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

ขณะที่โครงการฐานข้อมูลการปล่อยควันไฟขององค์การนาซา ระบุว่า การเผาพื้นที่การเกษตรในอินโดนีเซียที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ส.ค.ปีนี้ เป็นต้นตอปล่อยควันไฟสู่ชั้นบรรยากาศประมาณ 600 ล้านตัน เทียบได้กับปริมาณควันไฟที่เยอรมนีปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศตลอดทั้งปี.

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 3 ต.ค. 2558

ระทึก! เกิดหลุมยุบกว้าง 20 เมตร ในอังกฤษ ต้องอพยพประชาชน​

​

เกิดหลุมยุบนาดใหญ่ที่ถนนเดินเท้าสายหนึ่งในเมืองทางตอนใต้ของอังกฤษ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชน และคาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาซ่อมแซมนานนับเดือน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดหลุมยุบขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางถึง 20 เมตร และลึกถึง 10 เมตร บนฟุตปาธในย่านที่อยู่อาศัยในเมือง เซนต์ อัลแบนซ์ ทางใต้ของอังกฤษ เมื่อวันพฤหัสบดีผ่านมา เป็นเหตุให้สำนักงานดับเพลิงและกู้ภัยมณฑลฮาร์ตฟอร์ดเชียร์ ออกคำสั่งอพยพผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้กับหลุมนี้ประมาณ 10 คนไปยังที่พักชั่วคราว

โฆษกสภาปกครองมณฑลฮาร์ตฟอร์ดเชียร์ เปิดเผยต่อสำนักข่าว ดิ อินดีเพนเดนท์ ว่า พวกเขาได้รับแจ้งเรื่องเกิดหลุมยุบขนาดเล็กบนฟุตปาธแห่งนี้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และวางแผนจะเข้าไปซ่อมแซมในเช้าวันพฤหัสบดี แต่เมื่อเวลา 01:30 น. วันพฤหัสบดี หน่วยดับเพลิงได้รับแจ้งว่า หลุมดังกล่าวขยายตัวออกจนมีขนาดกว้างถึง 20 เมตร และตอนนี้เชื่อว่าอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ หรือเป็นเดือนในการซ่อมแซมให้ถนนกลับมาใช้การได้ตามเดิม.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 2 ต.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

อุตุฯ เตือนฉบับ 10 'มูจีแก' ขึ้นฝั่งจีนแล้ว ไทยฝนตกหนัก 4 ภาค​

​

อุตุฯ ออกประกาศ เตือนฉบับ 10 ระบุ ไต้ฝุ่น 'มูจีแก' ขึ้นฝั่งที่จีนแล้ว และอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน ขณะที่ ไทยได้รับผลกระทบด้วย โดยจะมีฝนตกหนักใน 4 ภาค คือ เหนือ-อีสาน-กลาง และตะวันออก ...

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 4 ตุลาคม กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 10 เรื่อง "พายุ มูจีแก" ระบุ เมื่อเวลา 13.00 น. พายุไต้ฝุ่น มูจีแก (MUJIGAE) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองซานเจี้ยน มณฑลกวางตุ้งแล้ว และเมื่อเวลา 16.00 น. พายุไต้ฝุ่น ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว มีศูนย์กลางอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ ของเมืองหนานหนิง มณฑลกวางสี ห่างประมาณ 270 กิโลเมตร หรือที่ ละติจูด 21.4 องศาเหนือ ลองจิจูด 110.1 องศาตะวันออก มีความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

คาดว่า พายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนสะสมในระยะนี้ไว้ด้วย.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 ต.ค. 2558

กทม. จัดเจ้าหน้าที่ลงจุดเสี่ยง ระบายน้ำขัง ผิวจราจร​

​

ผู้ว่าฯ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุฝนกำลังเคลื่อนตัวเข้าเขตคลองสามวา เขตลาดกระบัง แนะวางแผนเดินทาง ขณะเจ้าหน้าที่ กทม. ลงพื้นที่ในจุดเสี่ยงทุกจุดเพื่อเร่งระบายน้ำท่วมขังบนพื้นผิวจราจรให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ...

เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร' ระบุว่า "กรุงเทพมหานคร ฝนได้หยุดตกไปเมื่อช่วง 05:30 น. ที่ผ่านมา หลังจากที่เมื่อวานนี้ ฝนปานกลางถึงหนักในบางพื้นที่ ได้ตกปกคลุมทั่วทั้งกรุงเทพมหานคร วันนี้ยังมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ อยู่นะครับ ถึงแม้ในช่วงเช้าเราจะเห็นแสงแดดบางๆ ก็ตาม ฝนจะยังตกอยู่นะครับ แต่จะเบากว่าเมื่อวาน เมื่อคืนฝนไปหนักอยู่แถวหนองจอก ตกลงมา 60-70 มม. บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ทางกรุงเทพมหานครเองก็พยายามพร่องน้ำในคลองต่างๆ เพื่อไม่ให้ไปกระทบกับพื้นที่เกษตรกรรมของพี่น้องประชาชนนะครับ ตอนนี้ฝนเล็กน้อยถึงปานกลางอยู่แถวดอนเมือง หลักสี่ สายไหม กำลังเคลื่อนตัวเข้าเขตคลองสามวา เขตลาดกระบัง เผื่อพี่น้องประชาชนออกไปทำธุระ จะได้วางแผนการเดินทางกัน

ผมขอขอบคุณข้าราชการและลูกจ้างกรุงเทพมหานครทุกท่านนะครับ ทุกท่านพยายามช่วยกันแก้ไขปัญหาในหลายๆ จุด จากภาพจะเห็นได้ว่า เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ในจุดเสี่ยงทุกจุดเพื่อเร่งระบายน้ำท่วมขังบนพื้นผิวจราจรให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ทุกท่านยังคงทำงานต่อเนื่องและอยู่เฝ้าระวังกันตลอดทั้งคืน ส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ของเราด้วยนะครับ ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันหยุด แต่ข้าราชการและลูกจ้างกรุงเทพมหานครยังคงเตรียมพร้อมและเฝ้าระวังตลอด 24 ชม. เพราะยังมีโอกาสเกิดฝนในช่วงนี้อยู่ พวกเราใจเกินร้อยครับ

สภาพอากาศแบบนี้ พี่น้องประชาชนวางแผนการเดินทาง และรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้ ระวังและอย่าประมาท ภัยที่อาจมาในช่วงที่ฝนตกเช่นนี้ ดูแลบุตรหลานของเราด้วยนะครับ ด้วยความห่วงใยครับ"

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 ต.ค. 2558

มทภ.4 สั่งทหารเฝ้าระวังน้ำท่วม-พายุ พร้อมเข้าช่วยประชาชน​

​

แม่ทัพภาค 4 สั่งทุกหน่วยทหารในพื้นที่ใต้ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ฝนตกน้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง พร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนหากเกิดเหตุการณ์เร่งด่วน...

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 เผยว่าได้สั่งการให้ หน่วยขึ้นตรงศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 ทั้ง 21 ศูนย์ซึ่งรับผิดชอบครอบคลุมพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ในพื้นที่เสี่ยงอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้มีการเตรียมความพร้อมและซักซ้อมการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง โดยจัดกำลังพลส่วนหนึ่งเข้าประจำพื้นที่เฝ้าระวัง พร้อมเข้าให้การช่วยเหลือโดยทันทีเมื่อสถานการณ์ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นจนทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ

พร้อมกันนี้ สำหรับในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออกในบางจังหวัด เช่น จังหวัดพังงา และภูเก็ต เป็นพื้นที่การช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัยของ ทัพเรือภาค 3 ตามการแบ่งมอบความรับผิดชอบด้านการบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงกลาโหม ในการนี้ กองทัพภาคที่ 4 ได้มีการประสานการปฏิบัติให้มีการเตรียมความพร้อมเช่นกัน โดยหน่วยขึ้นตรงศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 ที่รับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าว จะได้มีการประสานการปฏิบัติอย่างใกล้ชิดต่อไป ทั้งนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารภัยกองทัพภาคที่ 4 มีความพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบในทุกพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ โดยสามารถติดต่อประสานงาน ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 ได้ที่เบอร์ 075-383-405 และ 075-383-417 หรือสามารถติดต่อประสานงานและแจ้งข้อมูลข่าวสารสถานการณ์ภัยพิบัติในพื้นที่ ได้ที่หน่วยทหารทุกหน่วยในพื้นที่ภาคใต้.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 ต.ค. 2558

เขื่อนเจ้าพระยา ได้น้ำเพิ่มจากมูจีแก-กำแพงเพชรอ่วม เจอฝนถล่ม​

​

ผอ.เขื่อนเจ้าพระยา ย้ำ "มูจีแก" เพิ่มระดับน้ำสำรองไว้ใช้ปลายปี 58 เตือนเกษตรกรอย่าเสี่ยงทำนาปรัง ขณะที่น้ำป่าทะลักเข้าท่วม เทศบาล ต.พรานกระต่ายอ่วม ปชช.แตกตื่น ช่วยกันขนข้าวของหนีน้ำกันอลหม่าน หลังฝนตกหนักในกำแพงเพชร ...

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 4 ต.ค.2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำที่จุดวัดน้ำ C13 เหนือเขื่อนปัจจุบัน อยู่ที่ 16.48 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง สูงกว่าระดับตลิ่ง 0.14 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนระดับน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ระดับ 6.00 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง นายเอกศิษฐ์ ศักดิ์ดีธนาภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนเจ้าพระยา กล่าวว่า ผลพลอยได้จากพายุ ดีเปรสชัน "มูจีแก" ที่คาดว่าจะเคลื่อนที่ผ่านเกาะไหหลำ และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนช่วงวันที่ 4-5 ต.ค.2558 ส่วนในไทยจะเริ่มส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทยช่วง 4-6 ต.ค. 2558 นั้น

ทำให้เขื่อนเจ้าพระยาขณะนี้ มีระดับน้ำที่สูงกว่าตลิ่ง 0.14 ม.รกท. ซึ่งระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ ต่อเนื่องจากเมื่อวานที่ยังอยู่ไม่สูงถึงตลิ่ง แต่วันนี้มีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งแล้ว แต่เรื่องของระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งนั้นไม่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหรือเป็นอันตรายต่อประชาชนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาแต่อย่างใด เพราะระดับน้ำเหนือเขื่อนริมสองฝั่งเจ้าพระยา ที่ทางกรมชลประทานตั้งไว้นั้นอยู่ที่ 16.75 ม.รทก. เพื่อที่จะกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหลังวันที่ 1 พ.ย. 2558 - ปลายเดือน พ.ค. 2559 ตามแผนกักเก็บน้ำของกรมชลประทาน ที่จะต้องมีน้ำรวมทั้ง 4 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้ำ เขื่อนป่าสัก รวมไม่ต่ำกว่า 3,600 ล้าน ลบ.ม. แต่ขณะนี้ มีอยู่เพียง 2,600 ล้าน ลบ.ม. คาดว่า พายุ "มูจีแก" ลูกนี้จะสามารถทำให้ระดับน้ำ เพิ่มขึ้นตามแผนที่คาดการณ์ล่วงหน้าไว้อย่างแน่นอน ส่วนน้ำที่จะกักเก็บไว้นั้นจะนำมาใช้ในการรักษาระบบนิเวศ ระบบประปา และผลักดันน้ำเค็ม

"เรื่องของการทำนาปรัง อยากให้ชาวนาพึงเข้าใจว่า น้ำที่เห็นเหนือเขื่อนเป็นน้ำที่กักเก็บไว้ใช้ในช่วงปลายปี และต้นปีหน้า หากจะทำต้องให้แน่ใจว่ามีแหล่งน้ำธรรมชาติ และแหล่งน้ำสำรองเพียงพอ ต่อการทำนา เพราะจะอาศัยน้ำในช่วงพายุเข้า ช่วงฝนตกและทำการกักตุนน้ำไว้ ก็อาจจะอยู่ได้ แต่ก็อาจจะไม่สามารถกักเก็บไว้ใช้ได้จนถึงเก็บเกี่ยว หากข้าวในนาเสียหาย ก็ขาดทุน และไม่สามารถมาเรียกร้องต่อหน่วยงานใดได้ เนื่องจากมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบแล้ว ถึงกรณีน้ำภายในเขื่อน หากจะทำนาจริงๆ ควรไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อน พร้อมเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด" นายเอกศิษฐ์ กล่าว

ที่ จ.กำแพงเพชร นายธานี ธัญญโภชน์ ผวจ.กำแพงเพชร ประสาน พ.ท.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผบ.ร.14 พัน.1จ.ตาก และมอบหมายให้นายธิติวัฒน์ ศิริโรจนรัตน์ หน.ปภ.กำแพงเพชร และนายเสน่ห์ ไชยมงคล ปลัดอำเภอพรานกระต่าย นายมนู สุภาพ รองนายกเทศมนตรีต.พรานกระต่าย พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาล ต.พรานกระต่าย ให้การช่วยเหลือเบื้องต้นโดยนำน้ำดื่มไปมอบให้ผู้ที่ถูกน้ำท่วมในครั้งนี้ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 ต.ค.) ชาวบ้านในเขตเทศบาลตำบลพรานกระต่าย กำแพงเพชร ต้องแตกตื่นยามดึกหลังได้ยินเสียงสุนัขเห่าคล้ายมีคนร้ายเข้าบ้าน พอตื่นลุกขึ้นมาดูต้องตกใจมีน้ำไหลเข้าท่วมบ้าน ต้องช่วยกันขนข้าวของหนีน้ำกันอลหม่าน หลังจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในจังหวัดกำแพงเพชร ทำให้น้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมถนนในตลาดเทศบาลตำบลพรานกระต่าย

หลังมีฝนตกลงมาอย่างหนักเป็นเวลานานกว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งน้ำฝนจากเทือกเขาเขียว คลองแม่ระกา คลองปักมะหว้า และบ้านใหม่เขาดงรื่น ไหลเข้าคลองห้วยโค้ง ทะลักไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนย่านชุมชนในเขตตลาดเทศบาลพรานกระต่าย หมู่ 2, 3, 4 ต.พรานกระต่าย และหมู่ 4, 5, 8, 11, 13 ต.ถ้ำกระต่ายทอง น้ำท่วมขังบ้านเรือน และถนนในหมู่บ้าน ประชาชนต้องขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง รวมสองตำบล กว่า 200 หลัง โดยตามท้องถนนมีระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 20 เซนติเมตร บางช่วงยาวเป็นระยะทางเกือบ 500 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องนำป้ายบอกข้างหน้ามีน้ำท่วมทาง เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนระมัดระวังป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น ขณะที่น้ำท่วมบนถนน บริเวณทางร่วมทางแยก ส่งผลให้รถสัญจรไม่สะดวก เคลื่อนตัวช้า บางช่วงติดขัด แต่ก็สามารถเคลื่อนตัวผ่านไปได้ ถ้าหากฝนไม่ตกลงมาสมทบอีก จะทำให้น้ำที่ท่วมขังย่านชุมชน อำเภอพรานกระต่าย ระบายลงสู่คลองธรรมชาติ และท่อระบายน้ำกลับเข้าสู่ภาวะปกติ.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 ต.ค. 2558

สตูล-เบตง อ่วม! หมอกควันอินโดฯ แผ่ปกคลุมหนาแน่น​

​

สถานการณ์หมอกควันจากไฟไหม้ป่าที่ เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ยังคงหนาแน่นแผ่เข้ามาปกคลุมทางภาคใต้ โดยเฉพาะใน สตูล และ เบตง หนาแน่นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา พบชาวบ้านเริ่มป่วยระบบทางเดินหายใจ ...

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์หมอกควันไฟป่าจากประเทศอินโดนีเซีย ยังคงแผ่ปกคลุมมายังจังหวัดทางภาคใต้ของไทย โดยมีลมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรง พัดเข้ามาปกคลุมพื้นที่ จ.สตูล อีกระลอก ซึ่งในครั้งนี้หนาแน่นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะตามท้องถนนต่างๆ มีหมอกควันปกคลุมหนาแน่นมาก รถที่สัญจรไป-มา สามารถมองเห็นได้ไม่เกิน 200 เมตร หากเกิน 200 เมตร จะมองอะไรไม่เห็น หมอกควันดังกล่าวยังบดบังแสงอาทิตย์ ทำให้ปรากฏการณ์ฟ้าหลัวตลอดทั้งวัน

ส่วนเทือกเขาต่างๆ ถูกหมอกควันบดบังไม่สามารถมองเห็นได้ตามปกติ ชาวบ้านต่างได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากมีอาการระบบทางเดินหายใจ บางคนเป็นหวัดคัดจมูก แสบตา ไอ ปวดหัวไปตามๆ กัน แพทย์แนะนำประชาชนที่เป็นโรคภูมิแพ้ โรคหืดหอบ ไม่ควรออกจากบ้าน และไม่ควรออกกำลังกายกลางแจ้ง

ขณะที่ อ.เบตง จ.ยะลา ยังคงต้องเผชิญกับสถานการณ์หมอกควันจากไฟไหม้ป่าบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เป็นวันที่ 3 ทัศนะวิสัยในการขับขี่ยานพาหนะต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง โดยภาพมุมสูงจากยอดเขาสันกาลาคิรีรอยต่อประเทศมาเลเซียสามารถมองเห็นถึงปริมาณหมอกควันที่ปกคลุมตัวเมืองเบตงอย่างหนาแน่น เนื่องจากมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ โดยเฉพาะในช่วงเช้าจะมีหมอกควันปกคลุมมากที่สุด

น.ส.กัลยา โตะแวอายี ผู้อำนวยกาส่วนสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดยะลา ได้ติดตามสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่จังหวัดยะลา จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคใต้ ในวันที่ 4 ตุลาคม 2558 พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 31-106 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนจังหวัดยะลาอยู่ที่ 74ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากค่ามาตรฐานที่ต้องไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ปริมาณฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานไม่มากนัก ยังไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ผู้ป่วยที่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายนอกอาคาร หลีกเลี่ยงการสูดฝุ่นละอองของควันไฟโดยใช้หน้ากากอนามัย หรือผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำหมาดๆ ปิดปากปิดจมูก และสวมแว่นตาทุกครั้งที่ออกจากบ้าน

นอกจากนี้ขอความร่วมมือจากประชาชน ห้ามเพิ่มปริมาณหมอกควันในอากาศ เช่น ห้ามเผาขยะ เศษใบไม้ กิ่งไม้ จุดธูปเทียน หรือสูบบุหรี่ ส่วนเกษตรกรก็ต้องไม่กำจัดเศษวัสดุการเกษตร โดยการเผา ควรเปลี่ยนเป็นการกำจัดโดยทำเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลหรือผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์หมอกควันจากไฟไหม้ป่าบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ยังคงพัดเข้ามาในปกคลุมในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้ จากนั้นสถานการณ์ก็จะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และสิ้นสุด 100 วันอันตรายของสถานการณ์หมอกควัน นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงตุลาคมของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงหน้าแล้งของประเทศอินโดนีเซีย และมีปัญหาหมอกควันจากไฟไหม้ป่าทุกปี.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 ต.ค. 2558

ไข้เลือดออกระบาด 'กลาง-อีสานล่าง' หนัก เตือนประชาชนหากผิดปกติรีบพบแพทย์​

​

กรมควบคุมโรค แจง มาตรการป้องกันไข้เลือดออกระบาดหนัก ในพื้นที่ 'ภาคกลาง-อีสานล่าง' ย้ำ ปชช.ควรสอดส่องแหล่งเพาะพันธุ์ในบ้าน หากพบอาการผิดปกติ รีบพบแพทย์ทันที คาด ในปีนี้อาจมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก...

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 58 กรมควบคุมโรค ระบุ ตั้งแต่ต้นปี 58 จนถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก 76,857 ราย เสียชีวิต 88 ราย โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 5,226 ราย และเสียชีวิต 11 ราย คาดว่า ผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกจะเพิ่มขึ้น เพราะเป็นฤดูกาลระบาดของโรค ซึ่งทั่วโลกยังไม่มีวัคซีนหรือยารักษาโรคไข้เลือดออกโดยเฉพาะ

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึง มาตรการการป้องกันโรคไข้เลือดออก กับทางทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า โดยธรรมชาติของโรคไข้เลือดออกจะระบาด ปีเว้นปี หรือ เว้นสองปี ขณะนี้พื้นที่ที่มีการระบาด คือ บริเวณภาคกลางและอีสานตอนล่าง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ มาตรการที่ใช้ดำเนินการมีตั้งแต่ก่อนจะเข้าฤดูระบาย มีการตรวจสำรวจแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายอย่าสม่ำเสมอ พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ไปอบรมและให้ความรู้กับประชาชนในชุมชน โดยร่วมมือกับหน่วยงานหลัก คือ กระทรวงมหาดไทย และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมดำเนินการทำ MOU กับอีก 8 หน่วยงาน ในการจัดมาตรการแก้ไขปัญหาโรคไข้เลือดออก

ปัจจุบันนี้ สถานการณ์ยังมีการระบาดอยู่ โดยเฉพาะในปีนี้มีฝน ตกๆ หยุดๆ จึงเอื้อต่อการแพร่ของโรค อย่างที่ทราบว่า ไข้เลือดออก เกิดจากยุงลายเป็นพาหะนำโรค ซึ่งยุงลายจัดเป็นยุงบ้าน พบทั่วไปบริเวณบ้านและชุมชน ฉะนั้น วิธีการป้องกันมาตรการแรก คือ อย่าถูกยุงกัดโดยเฉพาะยุงลาย ทั้งนี้ร้อยละ 30 พบว่า บ้านเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่สำคัญมากที่สุด รองมาคือ ชุมชน รวมไปถึงวัดและโรงเรียน

มาตรการที่สอง คือ ส่งเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ของกระทรวงมหาดไทย ลงไปพ่นยาเพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการระบาด

มาตรการที่สาม คือ ในช่วงฤดูระบาด จำเป็นต้องระดมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยจะรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์สถานการณ์ และระดมทรัพยากรในการจัดการแก้ไขปัญหา มาตรการสี่ คือ การรักษา เนื่องจากยังไม่มียารักษาโรคไข้เลือกออกโดยตรง ฉะนั้น การดูแลรักษาผู้ป่วยต้องทำแบบประคับประคอง เพื่อให้พ้นระยะช็อกหรือเลือดออก จากนั้นผู้ป่วยก็จะกลับมาเป็นปกติ ซึ่งจำเป็นจะต้องอาศัยความรู้และความเชี่ยวชาญพอสมควร จึงมีการจัดระบบส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลศูนย์ในจังหวัด

สิ่งที่ความสำคัญของการควบคุมไข้เลือดออกอยู่ที่ ประชาชน โดยการช่วยกันสำรวจบ้านหรือรอบบ้าน ไม่ให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย รวมทั้งสังเกตอาการผิดปกติ เช่น มีไข้สูง ปวดศีรษะ จุกแน่นท้อง อาเจียน ซึ่งอาการแบบนี้จะแยกจากโรคอื่นๆ ค่อนข้างยาก หากไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข แล้วอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ให้รีบกลับไปพบแพทย์อีกครั้ง เนื่องจากอาการจะแสดงชัดเจนในวันที่ 3 หรือวันที่ 4 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 ต.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

เทคโนโลยีการไถกลบตอซังฟางข้าวทดแทนการเผา​

เผยแพร่เมื่อ 11 ม.ค. 2015​

เตรียมดินเพื่อฤดูกาลเพาะปลูกครั้งต่อไปอย­่างถูกวิธีกันดีกว่า เพื่อช่วยกันลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม เพราะการเผาไหม้ในพื้นที่การเกษตรเป็นการเ­ผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากเศษซากพืชยังมีความชื้นยังไม่แห้­งสนิทก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนน๊อกไซด์ สูงกว่าปริมาณก๊าซที่ปล่อยจากโรงงานอุตสาห­กรรมถึง 14 เท่าตัว แถมด้วยฝุ่นละอองขนาดเล็กจำนวนมากอีกด้วย

 

ต้องรอด : สารพิษทางอากาศ​

เผยแพร่เมื่อ 21 ม.ค. 2015​

เป็นสิ่งสำคัญต่อทุกชีวิตบนโลก ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือ พืช ไม่ว่าจะเป็นการหายใจหรือสังเคราะห์แสง แต่การกระทำของมนุษย์นั้น นับวันจะทำให้อากาศบริสุทธิ์หาได้ยากขึ้นท­ุกที และทุกครั้งที่สูดหายใจเข้าไป อาจจะไม่ต่างอะไรกับการดื่มยาพิษเลยก็เป็น­ได้ ติดตามชม รายการ “ต้องรอด” ตอน “สารพิษทางอากาศ” ได้วันพุธที่ 21 มกราคม 2558 เวลา 21.45 - 22.15 น. ที่ไทยรัฐทีวี ทีวีดิจิตอลเอชดี ช่อง 32

 

พลังงานโลกยุคใหม่..ดีกับคนดีแต่ร้ายกับคนทุศีล !!!​

​

phudit999 สมาชิก

ของขวัญปีใหม่ สำหรับมนุษย์ ยุคใหม่

1. มนุษย์จะได้รับพรเพิ่มสำหรับ ผู้ที่ไม่ดำรงตนตั้งอยู่ในศีล มนุษย์ตนนั้นจะได้รับบทเรียนอย่างรวดเร็ว กรรมบาปส่งผลเร็วขึ้นต่อกายเนื้อ

2. มนุษย์ผู้มีบาปหนักบาปมาก จะได้รับสัญญาณเตือนตนเอง ให้รู้ว่าตนเองมีบาปที่ต้องรอการชำระ มนุษย์ตนนั้นจะมีอาการผิดปกติ เจ็บป่วยปรากฎ โดยเฉพาะศรีษะ(ท้ายทอย) แนวกระดูกสันหลัง จนกระทั่งถึงปลายก้นกบ

3. มนุษย์ผู้ที่ไม่เชื่อในบาปของตนเองปรากฎแล้วและรอการชำระ อหังการคิดว่าเป็นความผิดปกติทางร่างกาย มองเห็นเป็นปกติ ของความเจ็บป่วยทางกาย รักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน (เพียงเพื่อจะเอาชนะกรรมบาปของตน) อธิบายง่าย มนุษย์ตนใดไม่สำนึกในบาปของตนปรากฎแล้ว มนุษย์ตนนั้นจะได้รับความเจ็บปวดเดิม เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ที่มา http://palungjit.org/threads/ของขวัญปีใหม่-สำหรับมนุษย์-ยุคใหม่-ปี-2557-a.521400/

supako สมาชิก

ข่าวสารการชำระโลกจากจิตจักรวาล

1.โลกกำลังหมุนรอบตัวเองช้าลงเรื่อยๆ
2.แกนหมุนของโลกจะเบี่ยงเบนไปจากเดิม
3.ก๊าซออกซิเจนในระบบโลกจะเหลือน้อยลง
4.อำนาจแม่เหล็กโลกจะลดลงจนใกล้ศูนย์
5.เข็มทิศแม่เหล็กโลกแนวเหนือใต้จะเบี่ยงเบน
6.ภูมิอากาศจะวิปริตแปรปรวนรุนแรงมากขึ้น

สิ่งร้ายๆที่จะเกิดขึ้นตามเหตุจากข้อ 1-6

1.D.N.A. ในเซลอวัยวะร่างกายของมนุษย์จะถูกเปลี่ยนแปลง ดีกับคนดี-ร้ายกับคนทุศีล
2.ทะเลจะค่อยๆกลืนเกาะ-พื้นที่ชายฝั่งชัดเจน
3.ฝูงนกบินสูง-สัตว์น้ำจะพากันตายหมู่มากขึ้น
4.มนุษย์จะติดต่อสื่อสารกับจักรวาลไม่ได้และอุกกาบาตจะมาเยือนโลก
5.โลกตะวันตกจะล่มสลายจากการตัดสินใจผิดพลาดของชนชั้นผู้นำ
6.แผ่นดินไหวหนักขึ้น ภูเขาถล่ม สึนามิ พายุหมุนรุนแรง ฯลฯ

Visudhi Punya (((0)))

ถ้าเธอจู่ๆเกิดมี”อาการ”ผิดปกติดังต่อไปนี้.....
1.ปวดมึนศีรษะ
2.วิงเวียน
3.คลื่นไส้คล้ายจะอาเจียน
4.อ่อนเพลียหัวใจสั่น
5.ท้องเสียโดยไม่ทราบสาเหตุ

สาเหตุ:

เป็นเพราะกลไกทางไฟฟ้าในเซลอวัยวะร่างกายของเธอ ซึ่งเร้นอยู่ในนิวคลิโอไทด์กำลังได้รับรหัสคำสั่งใหม่ ที่ถูกส่งเข้ามาในระบบโลกทั้งวันคืน ด้วยคลื่นพลังงานแสงแห่งสุริยะจากการระเบิดบนพื้นผิวดวงอาทิตย์ เพื่อการเปลี่ยนแปลง DNA พวกเธอทุกคนบนโลกนี้ ให้พร้อมต่อการเป็นมนุษย์ยุคพลังงานใหม่ หลังปฏิบัติการชำระโลกสู่การเปลี่ยนยุคซึ่งกำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้สิ้นสุดยุติลง

ดีเอ็นเอชุดเดิมจะถูกโปรแกรมให้เสื่อมสลาย แล้วให้สร้างชุดใหม่ขึ้นมาแทน ด้วยคลื่นพลังงานแสงที่มีค่าความเข้มสูงกว่าอำนาจแม่เหล็กโลกในปัจจุบัน เพราะพลังงานใหม่ที่ถูกส่งเข้ามามีค่าความเข้มสูงกว่าปกตินี่เอง จึงมีผลกระทบต่อกระบวนการทางชีวภาพและกระบวนการทางไฟฟ้าเคมีภายในเครื่องยนต์แห่งกรรมของพวกเธอด้วย เนื่องจากค่าขั้วต่างทางไฟฟ้าในระดับเซลเกิดการเพิ่มขึ้นทางด้านบวกอย่างเฉียบพลันทันที ขณะที่ในชีวิตประจำวันของพวกเธอนั้น ส่วนใหญ่จะยังตกอยู่ภายใต้อำนาจทางอารมณ์หยาบๆรายวันของตนเองกันอยู่ พวกเจ้าจึงไม่รู้ว่าจิตที่ตกเป็นทาสอารมณ์หยาบๆรายวันนั้นมันจะสั่นสะเทือนเพื่อการผลิตสร้างคลื่นพลังงานด้านลบออกมาสั่งสมไว้ในอวัยวะร่างกายเป็นจำนวนมากน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละคน

เมื่อพวกเธอได้รับพลังงานด้านบวกที่เข้มข้นจากดวงอาทิตย์ในรูปของพายุสุริยะแล้ว ใครที่สั่นสะเทือนจิตตนเองเป็นลบกันมากๆก็จะได้รับผลกระทบค่อนข้างมากกว่าคนที่วันๆสั่นสะเทือนจิตตนเองเป็นลบน้อยกว่าเสมอ รายที่ได้รับผลกระทบน้อยเพราะสภาวะจิตในชีวิตประจำวันค่อนข้างดีก็จะไม่สามารถรับรู้กระบวนการเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอภายในร่างกายของตนเองที่ว่านี้ได้

ใครที่ทุกวันนี้มีอาการดังกล่าวไว้ข้างต้น ก็จงรับรู้ว่าตนเองนั้นยังสั่นสะเทือนจิตสำนึกตนเองไปในทางต่ำอยู่มากจักต้องเร่งแก้ไขปรับปรุงตนเองเสียโดยไว เพื่อการมีอายุขัยยืนยาวที่พวกเธอปรารถนา ถ้าหากเธอไม่ฟังเราเธอจักต้องเผชิญกับสถานการณ์อันไม่พึงประสงค์ดังต่อไปนี้อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ

1.ความดันโลหิตสูงเฉียบพลัน จนเส้นเลือดฝอยแตก นำไปสู่การเป็นอัมพฤกษ์-อัมพาต
2.หัวใจทำงานหนักหรือเกิดอาการสะดุด เพราะระบบไฟฟ้าในอวัยวะร่างกายขัดข้อง
3.ภูมิต้านทานโรคต่ำ ติดเชื้อโรคระบาดที่รุนแรงได้ง่าย เนื่องจากเชื้อโรคทุกชนิดต้องการประจุไฟฟ้าลบเป็นอาหาร
4.เกิดอาการเครียดทางจิตประสาท สติแตกง่าย โมโหร้าย โทสะรุนแรง
5.นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร

วิธีแก้ไข:

1.เลิกโกรธเลิกโมโหเสียอย่างสิ้นเชิง แล้วรักษาสภาวะจิตให้สุขสงบไว้ตลอด
2.ทำสามเหลี่ยมกับพระบิดาแห่งจิตวิญญาณไว้
3.ขณะเกิดอาการป่วยตามที่ระบุไว้ ก็ให้ดื่มน้ำอุ่นๆแล้วหมุนรอบตัวเองทิศทางซ้ายหรือหมุนทวนเข็มนาฬิกา ทำอย่างนี้สัก 2-3 นาที ต่อครั้ง โดยจะทำวันละกี่ครั้งก็ได้ ทำจนกว่าอาการจะดีขึ้นจนหายไปเป็นปกติ

ป.วิสุทธิปัญญา
11-06-2013

ข่าวนี้ตั้งแต่ พฤษภาคม 2556 นะครับ

Visudhi Punya (((14))) จดหมายถึงลูกจากองค์จิตจักรวาล:
(ฉบับที่ 14)

“ดีเอ็นเอ.ของพวกเจ้ากำลังถูกเปลี่ยนแปลง”

บุตรรักแห่งบิดาทั้งหลาย....นับแต่เดือนพฤษภาคม ค.ศ.2013 นี้เป็นต้นไป…..เจ้าจักต้องรู้ว่า ทุกอณูของตารางพื้นที่บนดาวเคราะห์โลก ซึ่งเป็นดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรีนี้ จะเกิดการสั่นสะเทือนครั้งสำคัญขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ตามแผนปฏิบัติการชำระโลกของบิดาแห่งเจ้า เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่เหล่ามวลมนุษย์และโลก ให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น ในอันที่จะดำรงอยู่ร่วมกันในฐานะเพื่อนร่วมงานของกันและกัน สำหรับดาวโลกยุคพลังงานใหม่ ภายหลังปฏิบัติการปิดยุคพลังงานเก่าที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว......

ปฏิบัติการสั่นสะเทือนที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ มิได้เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการให้เกิดแรงสั่นสะเทือนแผ่นเปลือกโลกภายใต้ฝ่าเท้าของพวกเจ้า ที่กำลังเกิดขึ้นถี่ๆ ในระดับที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และกระจายทั่วทุกภาคพื้นทวีปอยู่ในระยะนี้และในช่วงเวลาที่ผ่านๆมาหรอก กรณีแผ่นดินสะเทือนเลื่อนไหวอะไรเหล่านี้ บิดาแห่งเจ้ารู้ดีว่าพวกเจ้าทั้งหลายต่างก็ได้เรียนรู้ ต่างก็ได้เผชิญกันมาทั้งทางตรงทางอ้อมเสียจนเริ่มจะคุ้นชินกันอยู่แล้ว ในวันข้างหน้าแม้มันอาจเกิดเหตุร้ายรุนแรงให้เสียหายอย่างมากมายเท่าทวีกว่าที่ผ่านมา แต่พวกเจ้าส่วนใหญ่ก็น่าจะยังตั้งรับเหตุการณ์อันแรงร้ายประเภทนี้กันได้อย่างไม่ยากเย็น

ข่าวสารปฏิบัติการชำระโลก ที่บิดาแห่งเจ้าจะนำมาบอกกล่าวเล่าเผยให้ล่วงรู้ไว้ในห้องเรียนอันศักดิ์สิทธิ์นี้ เป็นข่าวสารชิ้นพิเศษ...ล่าสุด...ล่าสุด...เกี่ยวกับปฏิบัติการสำคัญที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้วตราบจนบัดนี้ และมันยังจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องไปอีกยาวโข ซึ่งมนุษย์โลกส่วนใหญ่นั้นยังไม่รู้ และมีไม่น้อยเลยที่ไม่รู้ว่าตนจักต้องรู้อีกด้วย

บุตรรักแห่งบิดาทั้งหลาย....นี่จะเป็นทั้ง “คำเตือน” และ “ข่าวสาร” ชิ้นสำคัญอีกชิ้นหนึ่ง ที่พวกเจ้าจะเฉยเมยด้านชามิได้ หากจะสร้างความพร้อมให้กับเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์และแก่นแท้ในตนเอง สู่การเป็นมนุษย์ยุคพลังงานใหม่ที่จะสามารถข้ามผ่านและฟันฝ่า สถานการณ์เลวร้ายสุดๆของบรรดาหายนภัยทุกรูปแบบที่โลกของเจ้ายังมิเคยเผชิญกันมาก่อน ในช่วงเวลา 56 วัน 8 ราตรีอันมืดมิด ชนิดที่มืดสนิทอย่างไม่เคยมืดมาก่อน มันมืดเสียจนแม้กระทั่งเส้นลายมือของเจ้าเองก็มิอาจเห็นกันเลยทีเดียว

ปฏิบัติการที่กำลังเกิดขึ้นก็คือ ภารกิจในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขดีเอ็นเอ (DNA) ภายในเซลอวัยวะร่างกายของเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ของพวกเจ้าทุกคน ไม่ว่าชายหรือหญิง เด็กหรือผู้ใหญ่ไปจนกระทั่งผู้ที่อยู่ในวัยชรา ทั้งนี้ไม่ว่าเขากำลังมีสุขภาพดีหรือที่กำลังพักผ่อนนอนป่วยอยู่บนเตียง ไม่ว่าเขากำลังประพฤติดีหรือประพฤติชั่ว หรือว่ากำลังทำตัวโง่เง่างมงายไปวันๆ และไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะล่วงรู้ข่าวสารสำคัญชิ้นนี้กันแล้วหรือว่ายังไม่รู้กันอยู่ก็ตาม ทุกรูปธรรมล้วนจะได้รับแรงสั่นสะเทือนด้านบวกจากปฏิบัติการทางเท็คนิกในครั้งนี้โดยถ้วนหน้ากัน

ปฏิบัติการทางเท็คนิกสำหรับภารกิจการชำระโลกนี้ ช่างเท็คนิกทั้งหลายจะใช้วิธีส่งคลื่นพลังงานความรักมาจากการระเบิดบนพื้นผิวของพระสุริยะ ที่พี่ๆน้องๆชาวโลกของเธอเฝ้าสนใจติดตามดูกันอยู่นั่นล่ะ บิดาแห่งเจ้าเพียงอนุญาตให้พวกเขาสร้างจุดดำบนดวงอาทิตย์เพิ่มขึ้นจากปกติที่มีอยู่แล้ว 6 จุดกระจายทั่ว ให้เพิ่มเป็น 7-8-9 จุดไปเรื่อยๆ โดยเน้นสร้างจุดดำที่ขั้วเหนือและขั้วใต้ของดวงอาทิตย์เป็นสำคัญ คลื่นพลังงานที่ผลิตสร้างจากจุดดำบริเวณที่ค่อนไปทางขั้วเหนือจะถูกขับเคลื่อนตรงมายังซีกโลกตอนใต้ ขณะที่คลื่นพลังงานที่ผลิตสร้างจากจุดดำทางขั้วใต้ของดวงอาทิตย์ ก็จะถูกขับเคลื่อนตรงมายังซีกโลกตอนบนหรือตอนเหนือ

พวกเขาสร้างจุดดำบนดวงอาทิตย์ได้ โดยใช้เท็คโนโลยีขั้นสูงยิงเส้นแสงจากระยะไกลตรงไปยังพิกัดตำแหน่งบนดวงอาทิตย์ตามที่กำหนดไว้ จนยังผลให้ก๊าซเหลวมากกว่าหนึ่งอย่างภายในดวงอาทิตย์ตรงจุดนั้นเกิดปฏิกิริยา Nuclear Fusion แล้วระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงจากภายใน จึงก่อให้เกิดการหมุนวนของก๊าซคล้ายดั่งพายุหมุน พุ่งขึ้นมาจากด้านในสู่บริเวณชั้นนอกของดวงอาทิตย์ เมื่อพวกเจ้าส่องกล้องมองไกลๆจะเห็นคล้ายจุดดำเล็กๆ จนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นจุดดับกันตลอดมา แท้จริงแล้วที่เห็นเป็นสีดำเพราะตรงจุดนั้นคือบริเวณที่เป็นศูนย์กลางของการหมุนของตำแหน่งที่ถูกทำให้ระเบิดนั่นเอง ที่พวกเจ้ามองเห็นเป็นสีดำก็เพราะเป็นบริเวณที่อยู่ลึกลงไปในดวงอาทิตย์ต่างหากล่ะ

สายธารพลังงานความรักจากดวงอาทิตย์ ซึ่งระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่องพร้อมๆกันหลายจุดนั้นมีเป้าหมายสำคัญ คือกระทำต่อดาวเคราะห์โลก โดยมันจะอยู่ในรูปของ คลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็ก (Electromagnetic Energies) ที่พวกเจ้าอาจเรียกว่า ลำแสงแห่งจักรวาล (Cosmic Rays) ก็ได้

บุตรรักทั้งหลาย.....พวกเจ้าจักต้องรู้ว่า เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ชายหญิงของพวกเจ้านี้ ที่สามารถแสดงพลังอำนาจต่างๆผ่านพลังชีวิตของตนได้นั้น นอกจากอำนาจแห่งรักในแก่นแท้ของเจ้าเองกับอำนาจแม่เหล็กโลกที่เข้มข้นทางด้านบวกแล้ว “ลำแสงแห่งจักรวาล” ที่ถูกขับเคลื่อนออกมาจากจุดดำรายรอบพื้นผิวของดวงอาทิตย์ ทั้ง 6 จุด ก็เป็นแหล่งพลังงานอันสำคัญที่จะทำหน้าที่คอยป้อนรหัสคำสั่งลับเพื่อกำกับการทำงานของ ดีเอ็นเอ (DNA) ภายในเซลอวัยวะร่างกายทุกๆเซลให้มันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีสมรรถภาพ

โดยให้มันสามารถใช้งานได้ยาวนานไม่มีวันตาย และลำแสงแห่งจักรวาลที่ว่านี้ก็ยังคอยทำหน้าที่โปรยหว่านองค์ความรู้ใหม่ในทุกด้านมาให้เพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตของพวกเจ้าเสมอมาในเวลาเดียวกันอีกด้วย โดยหลักการทางด้านเท็คนิกข้อหนึ่งซึ่งพวกเจ้าควรจะรู้ไว้ก็คือ กระบวนการที่ว่านี้มันจะสามารถสั่นสะเทือนอย่างมีประสิทธิภาพในระดับที่พวกเจ้าแต่ละคนจะเข้าถึง ลำแสงแห่งจักรวาลดังว่านี้ได้นั้น เงื่อนไขสำคัญมีอยู่ 3 ประการ คือ

1).เจ้าจะต้องสามารถเข้าถึง การสั่นสะเทือนจิตสำนึก (Consciousness) ในตนเองทางด้านบวก เพื่อการมีอารมณ์ดี คิดดี พูดดี และทำดีได้ตลอดเวลาในยามตื่น

2).ความเข้มสนามแม่เหล็กโลกจะต้องสมดุลและคงที่ ไม่เบี่ยงเบน ซึ่งในยุคพลังงานเก่าที่กำลังจะผ่านพ้นไปนี้ค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 14 เกาส์ ถ้าหลังชำระโลกเสร็จแล้วในยุคพลังงานใหม่นั้นมันจะเปลี่ยนค่าเป็น 20-22 เกาส์

3).พวกเจ้าจะต้องเข้าถึง พลังอำนาจทางวิญญาณซึ่งเป็นแก่นแท้ของตนเองได้ นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า “ความรักบริสุทธิ์” หรือ “รักเพื่อรัก” แล้วสั่นสะเทือนขับเคลื่อนมันออกมามอบให้แก่ดาวเคราะห์โลกอย่างเพียงพอ

ถ้ามนุษย์โลกเสรีนี้ สามารถสั่นสะเทือนตนเองให้บรรลุเป้าหมายทั้ง 3 ประการเหล่านี้ได้ ดาวเคราะห์ดวงนี้ก็จะไม่สูญเสียความสมดุลไปในทางต่ำรุนแรงขึ้นจนยากจะแก้ไขเยียวยาได้

ถ้ามนุษย์โลกเสรีนี้ สามารถสั่นสะเทือนตนเองให้บรรลุเป้าหมายทั้ง 3 ประการเหล่านี้ได้ พวกเจ้าจะไม่แก่ง่ายตายไวเหมือนเช่นทุกวันนี้ และพวกเจ้าก็จะมีความเฉลียวฉลาดมากกว่าทุกวันนี้อีกด้วย

บุตรรักแห่งบิดาทั้งหลาย....เมื่อพวกเจ้าบกพร่องล้มเหลวในการปฏิบัติทั้งสามประการดังว่านั้น พลังอำนาจทางจิตวิญญาณที่จะนำพาตนเองผ่านด่านนภาลัยออกไปเพื่อคืนกลับบ้านเกิดเมืองนอนทางจิตวิญญาณของเจ้าเองก็อ่อนแอตกต่ำลงจนยากจะแก้ไขใดๆได้อีกเช่นกัน

ดังนั้น ปฏิบัติการชำระโลกอันหมายรวมถึง จิตตปัญญาหรือจิตสำนึก กายหยาบหรือเครื่องยนต์แห่งกรรม และจิตวิญญาณแก่นแท้ในพวกเธอแต่ละคน ย่อมจักต้องถูกชำระไปพร้อมกัน ด้วยการแก้ไขความเสื่อมและเพิ่มสมรรถนะในการใช้งาน ให้เหมาะสมต่อการเป็นเพื่อนร่วมงานกับดาวเคราะห์โลกเสรีนี้ให้ได้โดยเร็ว ปฏิบัติการทางเท็คนิกเพื่อการนี้ก็คือ

1).ยกระดับความเข้มข้นของ “ลำแสงแห่งจักรวาล” ที่ส่งมายังระบบโลกให้สูงขึ้นถึงระดับ 7 แล้วกำหนดให้ดาวเคราะห์โลกมีสมการทางพลังงานสามมิติเป็น 6-6-6 ซึ่งจะยังผลให้มีพลังอำนาจมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า การใช้เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ของพวกเจ้าจะมีสมรรถนะสูงกว่าในอดีตที่ผ่านมาหลายเท่า ทั้งพลังอำนาจทางกาย พลังอำนาจทางปัญญา และพลังอำนาจทางจิตวิญญาณ ซึ่งบิดาสามารถทำได้ด้วยการกำหนดสร้างจุดดำบนดวงอาทิตย์เพิ่มขึ้น แล้วส่งคลื่นพลังงานที่เข้มข้นกว่าเข้ามาในระบบดังกล่าวแล้ว

2).โปรยหว่านรหัสคำสั่งใหม่เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในดีเอ็นเอ ของเซลอวัยวะร่างกายของพวกเจ้า ทั้งการสร้างดีเอ็นเอชุดใหม่แทนของเก่าที่เสื่อมไป และกระตุ้นที่มีอยู่เดิมให้ตื่นจากความหลับไหลขึ้นมาทำหน้าที่ของตนกันเสียที ด้วยพลังงานใหม่ที่เข้มข้นจากดวงอาทิตย์ที่ว่านี้นั่นเอง

การเปลี่ยนแปลงในข้อนี้มันจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆในลักษณะของวิวัฒนาการ โดยในระบบเซล ดีเอ็นเอที่รับรู้แรงกระตุ้นจากจักรวาล ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงตนเองด้วยการสร้างเส้นใยดีเอ็นเอเส้นเล็กๆที่เป็นขดเกลียวขึ้นมาใหม่ ในขณะเดียวกันกับที่รหัสความเข้มของ “ลำแสงแห่งจักรวาล” ที่เปลี่ยนแปลงไปจากยุคที่ผ่านมา ก็จะถูกแปลรหัสเป็นคำสั่งใหม่ให้เส้นใยดีเอ็นเอเหล่านี้ก่อร่างสร้างรูปด้วยการผูกมัดตนเองเข้าด้วยกัน ซึ่งข้อมูลคำสั่งที่ถูกโปรยหว่านอย่างพรั่งพรูลงมาพร้อมๆกับเส้นแสงเหล่านี้มันเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และจะเกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆจนกว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะบรรลุผลโดยสมบูรณ์ ขณะนี้ข้อมูลทั้งหลายกำลังถูกดึงดูดเหนี่ยวรั้งเข้าสู่ระบบเซลภายในร่างกายของเจ้าอยู่แล้ว

นอกจากจะเกิดผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงดังว่านั้นแล้ว เมื่อปฏิบัติการชำระโลกสิ้นสุด หลังผ่าน 56 วัน 8 ราตรีอันน่าพรั่นพรึงไปได้แล้ว ภายในเครื่องยนต์แห่งกรรมของผู้ที่ถูกคัดไว้ทั้งหลาย ยังจะมีวิวัฒนาการใหม่ของระบบเส้นใยประสาทสมองเกิดขึ้น ในอันที่จะช่วยให้การลำเลียงข้อมูลที่ถูกโปรยลงมาจากฟ้าผ่านไปยังจิตสำนึกได้มากขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น จะยังผลให้เซลสมองที่ใช้งานได้เฉลี่ยเพียง 20% ของที่มีอยู่ ในขณะที่ยังมีเพื่อนร่วมงานที่หลับใหลอยู่อีก 80% นั้นจะถูกปลุกให้ลุกตื่นขึ้นมาทำหน้าที่กับเขาบ้าง หลังจากแน่นิ่งไม่ไหวติงมาหลายภพชาติแล้ว

บุตรรักแห่งบิดาทั้งหลาย.....การเปลี่ยนแปลงนี้มันกำลังเกิดขึ้นทั่วโลก เครื่องยนต์แห่งกรรมของเจ้าเองกำลังรับรู้แรงสั่นสะเทือนของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ ในขณะที่กลไกอายตนะทั้งหลายมิอาจรู้เพราะมันล้วนถูกปกปิดมิติไว้ แต่พวกเจ้าอาจสามารถสังเกตจากบานประตูมิติที่แง้มออก ด้วยปัญญาญาณชาญฉลาดกันก็พอได้บ้าง โดยสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นผ่านมายา 6 ประการ ต่อไปนี้ คือ

(1).วันดีคืนดีตัวเจ้าเองหรือคนใกล้ตัวบางคน เกิดอาการท้องเสียขึ้นมาดื้อๆโดยไม่ทราบสาเหตุ

(2).วันดีคืนดีตัวเจ้าเองหรือคนใกล้ตัวบางคน เกิดอาการบ้านหมุน คลื่นไส้ คล้ายจะอาเจียน เมื่อเวลาผ่านไปอาการดังกล่าวจะดีขึ้นจนหายไปจนบางคนตกใจและแปลกใจว่าตัวเองป่วยเป็นอะไรก็ไม่รู้ เพราะไม่เคยเกิดอาการเช่นนี้มาก่อน

(3).วันดีคืนดีตัวเจ้าเองหรือคนใกล้ตัวบางคน เกิดอาการนอนไม่หลับ หัวใจสั่นหวิวๆ คล้ายจะเป็นลม

(4).วันดีคืนดีตัวเจ้าเองหรือคนใกล้ตัวบางคน เกิดอาการเหมือนคนขี้ลืมขึ้นมาดื้อๆ นึกคิดอะไรไม่ออกขึ้นมาเฉยๆทั้งๆที่ปกติแล้วความจำดีและฉลาด

(5).เวลาถ่ายรูปย้อนแสงอาทิตย์ จะเห็นแสงสีชมพูซึ่งเป็นสีแห่งรักปรากฏอยู่ในภาพนั้นด้วย มิใช่แสงสว่างจ้าเหมือนปกติทั่วไปอีกแล้ว ไม่ว่าจะใช้กล้องราคาถูกหรือแพงก็ปรากฏเหมือนกัน

(6).รูปที่ถ่ายย้อนแสง ที่เคยเห็นแสงสีชมพูปรากฏอยู่แต่เดิมนั้น มันจะเปลี่ยนสีเป็นชมพูม่วง และค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นสีม่วงเข้มขึ้นเรื่อยๆ ในราวๆปลายเดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป โดยมายาสีม่วงเข้มขึ้นเรื่อยๆบ่งชี้ว่าพลังงานที่ถูกส่งเข้ามายังระบบโลก ได้ยกระดับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆเพื่อให้ถึงระดับ 7 ให้ได้ในเร็ววัน แน่นอนว่าจุดดำหรือจุดดับบนดวงอาทิตย์ย่อมต้องเพิ่มจำนวนเข้าหา 11 จุดดังได้เคยกล่าวไว้นานแล้วมิช้านาน

บุตรรักแห่งบิดาทั้งหลาย....เจ้าจงทำตัวเองให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่นี้ ด้วยการปฏิบัติสามเหลี่ยมกับบิดาแห่งเจ้าเอาไว้ตลอดเวลา (Enlightenment) ในขณะเดินทาง ขณะใช้ชีวิตประจำวัน และในยามว่าง เพื่อนำเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ของเจ้าติดต่อกับบิดาผ่านทางบุตรเอกแห่งบิดา โดยต่อสายดิน (Ground ) ไว้กับโลก และสั่นสะเทือนตนเองเพื่อเข้าให้ถึงความรักกับการครองมหาสติตลอดวัน ผลดีจะบังเกิดแก่เจ้าและคนใกล้ตัว จงอย่าปฏิเสธพลังอำนาจใหม่ของตนเองอันจะบังเกิดผลจากปฏิบัติการนี้

ผู้ใดเป็นคนดีประพฤติดี คลื่นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงจากนอกระบบโลกนี้ จะเข้าคู่เข้าขากันได้เพราะพลังงานที่เกิดขึ้นภายในตนเองจากการสั่นสะเทือนจิตตปัญญาจะเป็นชนิดเดียวกัน คนๆนั้นก็จะเป็นคนดียิ่งขึ้น

ผู้ใดเป็นคนพาลสันดานไม่ดี และมีนิสัยเจ้าอารมณ์อ่อนไหวไปในทางก้าวร้าวเศร้าสลดง่ายๆ จิตไม่หนักแน่น คลื่นพลังงานแห่งการเปลี่ยนแปลงจากนอกระบบโลกนี้ จะเข้าคู่เข้าขากันกับพลังงานลบที่ได้จากการสั่นสะเทือนจิตสำนึกด้านลบในชีวิตประจำวันนั้นไม่ได้ เพราะเป็นคนละชนิดกัน มันจะต่อต้านกันจนส่งผลด้านลบที่รุนแรงมากขึ้น คือ คนๆนั้นจะแสดงพฤติกรรมในทางพาลสันดานไม่ดีมากขึ้น เจ้าอารมณ์มากขึ้น อ่อนไหวง่ายมากขึ้น เป็นต้น

แน่นอนว่า...ใครๆก็ปรารถนาจะนิพพานกันทั้งนั้น เมื่อได้ทราบข่าวสารสำคัญชิ้นนี้แล้ว ทุกคนจึงน่าจะรู้ว่า...ตนเองจะต้องปฏิบัติอย่างไรจึงจะแจ้งกระจ่างในนิพพานได้ทันเวลา ตนเองจะต้องเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตที่ยังจำเจซ้ำซาก มากด้วยกิเลสตัณหาอุปาทานกันอย่างไร...จึงจะก้าวหน้าบนเส้นทางสายนิพพานนี้ได้ บิดาแห่งเจ้าจักเฝ้าดูพวกเจ้าอยู่ทุกวันเวลาว่า การต่อสู้ของพวกเจ้าสู่การรู้แจ้งนั้น ท่าทีกับลีลาแต่ละคนนั้นเป็นฉันใด......

ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากจิตจักรวาล ในระบบจิตสู่จิต (Vertical Telepathy)
โดย: ป.วิสุทธิปัญญา
14-05-2013

ที่มา http://palungjit.org/8663538-post32715.html

 

พลังแม่เหล็กของอนุภาคอะดามันไทน์ (Adamantine Particles)​

​

ไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถรอดพ้น จากการได้รับผลกระทบจากการแผ่รังสีเข้ามา และจากพลังแม่เหล็กของอนุภาคอะดามันไทน์ (Adamantine Particles) หรือ อนุภาคแห่งแสงสว่างของพระผู้สร้างอันละเอียดอ่อนได้ ซึ่งตอนนี้พวกมันก็กำลังหลั่งไหลเข้ามาสู่จักรวาลแห่งนี้, สู่จักรวาลย่อยนี้, สู่กาแล็กซี่นี้, สู่ระบบสุริยะนี้, สู่ดาวเคราะห์โลกดวงนี้ และสู่มนุษย์โลกทุกๆคนอยู่แล้ว

จักระของพวกคุณ จะเป็นเหมือนกับแบตเตอรี่พลังแม่เหล็กไฟฟ้า ที่อยู่ภายในร่างกายของพวกคุณ ซึ่งคลื่นความถี่ของการสั่นสะเทือนของแม่เหล็กไฟฟ้านี้ จะไปติดต่อสื่อสารกับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้หลากหลายระดับ ดังนั้น พวกคุณจึงจะต้องสั่นสะเทือนให้สอดคล้องกับและปรับจูนให้เข้ากับคลื่นความถี่เหล่านี้ให้ได้ เพื่อที่จะผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพวกมัน

และยิ่งคลื่นความถี่ของแสงสว่าง/ความคิด/เสียง ที่สั่นสะเทือนอยู่ในกระแสโลหิต, เซล, อวัยวะ, กระดูก, กล้ามเนื้อ และ เนื้อเยื่อของพวกคุณ มีระดับคลื่นความถี่สูงมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งทำให้พวกคุณ มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์มากขึ้นเท่านั้นด้วย

ส่วนคลื่นความถี่ที่ต่ำๆของสิ่งแวดล้อมในมิติที่ 3 และ 4 ของพวกคุณนั้น จะไปยับยั้งการหลั่งไหลเข้ามาของ “พลังงานที่ก่อเกิดชีวิต” อันนี้ของพวกคุณ และจะไปทำให้ความหนาแน่นทึบตัน ของระบบร่างกายส่วนล่างทั้ง 4 (ตั้งแต่บริเวณจักระที่ 4 ลงมาจนถึงบริเวณจักระที่ 1 – ผู้แปล) ของพวกคุณ เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย

ในสายเลือดของพวกคุณนั้น จะมีรหัสทางพันธุกรรมของเชื้อสายทางโลกของพวกคุณเองอยู่ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ มันมีรหัสทางพันธุกรรมของเชื้อสายระดับเอกภพของพวกคุณอยู่ด้วย รวมถึงมีมรดกอันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าอยู่อีกด้วย ผู้ถือแสงสว่างอันเป็นที่รักทั้งหลายเอ๋ย พวกเราขอร้องให้พวกคุณ มองการทดสอบต่างๆ และมองปัญหาอุปสรรคต่างๆ ว่ามันเป็นโอกาสที่ดีโอกาสหนึ่ง ที่จะได้ปลดปล่อยกระแสความคิดอันล้าสมัยทั้งหลาย และปลดปล่อยรูปแบบของการสั่นสะเทือนทั้งหลาย ที่ไม่เป็นผลดีต่อเป้าหมายที่สูงกว่า ของพวกคุณเองอีกต่อไปแล้วทิ้งไป

พวกเราขอวิงวอนให้พวกคุณจงมองประสบการณ์ชีวิตของตัวเอง ผ่านทางตัวกรองของหัวใจและจิตใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณเอง เพราะว่าเมื่อพวกคุณซึมซับเอาอนุภาคแห่งรังสีเพชร ซึ่งเป็นอนุภาคแห่งแสงสว่างและชีวิตเข้ามาได้แล้ว พวกคุณก็จะเติมเต็มความรักของพวกคุณเองเข้าไปให้กับพวกมัน ก่อนที่จะแผ่กระจายพวกมันออกมาสู่โลกภายนอกของพวกคุณ และออกมาสู่มวลหมู่มนุษยชาติทั้งมวลต่อไป

พวกเราทั้งหมด ล้วนกำลังร่ายรำอยู่ในวิวัฒนาการระดับเอกภพนี้ ด้วยกันทั้งสิ้น และพวกเราก็จะมีชัยชนะร่วมกัน

I AM Archangel Michael.

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพมิคาเอล (Archangel Michael) รื่อง: การเพิ่มพลังอำนาจในการเนรมิตของพวกคุณเอง (Enhancing your power to manifest) ผู้รับสาส์น: Ronna Herman ประจำเดือน : สิงหาคม 2014

ที่มา http://palungjit.org/threads/ข้อควา...-ไปสู่มิติที่-5-a.246190/page-468#post9182184

 

ไต้ฝุ่นมูจีแก ถล่มมณฑลกวางตุ้งของจีน ตาย 6 เจ็บนับร้อยคน​

​

ปักกิ่ง 5 ต.ค. – สื่อทางการจีนรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วพื้นที่ภาคใต้ของจีนในวันจันทร์ หลังจากเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งเมื่อวาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน ชาวประมงสูญหาย 16 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกนับร้อยคน รวมถึงไฟดับและรถคว่ำ

พายุขึ้นฝั่งทางมณฑลกวางตุ้งภาคใต้ของจีนเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้เกิดไฟดับเป็นบริเวณกว้างตามแนวชายฝั่ง น้ำไม่ไหล และโทรคมนาคมขัดข้อง ล่าสุด พายุได้อ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชันแล้ว คาดว่าพายุจะทวีกำลังแรงขึ้นขณะเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ เจ้าหน้าที่เตือนว่า อาจเกิดน้ำท่วมและดินถล่มในมณฑลยูนนาน ทางการต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายสิบเที่ยว อพยพประชาชนนับพัน และให้เรือประมงเกือบ 64,000 ลำ กลับเข้าฝั่งทางภาคใต้ รวมทั้งต้องระงับบริการรถไฟความเร็วสูงบางสายในพื้นที่ตามแนวชายฝั่ง.-สำนักข่าวไทย

มาเลย์ปิดโรงเรียน 7,000 แห่ง จากปัญหาหมอกควันไฟป่า​

​

มาเลเซีย 5 ต.ค.-ปัญหาหมอกควันไฟป่าส่งผลให้โรงเรียน 7,000 แห่งทั่วมาเลเซีย ต้องปิดทำการวันนี้และวันพรุ่งนี้ ด้านนายกฯ มาเลย์ เรียกร้องอินโดฯ เร่งปราบปรามการลอบเผาป่าอย่างจริงจัง

โรงเรียน 7,000 แห่ง ทั่วมาเลเซีย ต้องปิดทำการวันนี้และวันพรุ่งนี้ เพื่อปกป้องอันตรายจากหมอกควัน และยังไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาลง หลังหมอกควันการเผาป่าในอินโดนีเซีย ยังคงแผ่ปกคลุมทั้งมาเลเซียและสิงคโปร์มานานนับเดือนแล้ว

นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของมาเลเซีย เรียกร้องให้อินโดนีเซียเร่งปราบปรามการลักลอบเผาป่าเพื่อทำการเกษตรอย่างจริงจัง เพราะหมอกควันนอกจากส่งผลเสียต่อสุขภาพแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

คาดเยอรมนีจะรับผู้ขอลี้ภัยมากถึง 1.5 ล้านคนในปีนี้​

​

เบอร์ลิน 5 ต.ค.- หนังสือพิมพ์บิลด์ในเยอรมนีอ้างเอกสารลับที่ประมาณว่า เยอรมนีจะรับผู้ขอลี้ภัยมากถึง 1.5 ล้านคนในปีนี้ มากกว่าตัวเลขที่มีการเผยแพร่อย่างเป็นทางการก่อนหน้านี้

ทางการเยอรมนีแจ้งตัวเลขคาดการณ์จนถึงขณะนี้ว่า จะมีผู้ขอลี้ภัยรายใหม่มากเป็นประวัติการณ์ 800,000 ถึง 1 ล้านคนในปีนี้ แต่หนังสือพิมพ์บิลด์อ้างเอกสารลับโดยไม่เปิดเผยที่มาว่า ทางการคาดว่าเฉพาะ 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้จะมีผู้ขอลี้ภัยรายใหม่ 920,000 คน ทำให้ตัวเลขของปีนี้ทั้งปีสูงถึง 1.5 ล้านคน เสี่ยงเป็นภาระใหญ่หลวงทั้งต่อชุมชนและท้องที่ เอกสารลับดังกล่าวประมาณด้วยว่า ผู้ขอลี้ภัยแต่ละรายที่ได้รับสถานภาพผู้ลี้ภัยอาจจะนำสมาชิกครอบครัวเข้ามาพำนักด้วยคนละ 4-8 คน ดังนั้นหากประมาณจากตัวเลขผู้ขอลี้ภัยใหม่ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ เท่ากับว่ามีผู้อพยพที่มีสิทธิจะย้ายเข้ามาอาศัยในเยอรมนีเพราะสายสัมพันธ์ทางครอบครัวอีก 7.36 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย

เกิดกระแสกดดันสหรัฐเร่งสอบเหตุโจมตีโรงพยาบาล​

​

คาบูล 5 ต.ค. – วันนี้มีกระแสกดดันรัฐบาลสหรัฐมากขึ้นเพื่อให้ชี้แจงต่อกรณีที่ระดมโจมตีทางอากาศต่อโรงพยาบาลในอัฟกานิสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 คน ซึ่งกระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่ายังคงเป็นเรื่องสับสบและซับซ้อน แต่กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน(เอ็มเอสเอฟ)ถือว่าเป็นอาชญากรรมสงคราม

กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนแถลงปิดศูนย์พยาบาลแล้วเมื่อวานนี้หลังจากถูกกองกำลังที่คาดว่าเป็นสหรัฐระดมโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่องเมื่อวันเสาร์ แม้สหรัฐรู้พิกัดล่วงหน้าว่าเป็นโรงพยาบาลและได้รับแจ้งเตือนในช่วงที่เกิดเหตุด้วย โดยเรียกร้องให้สหรัฐดำเนินการสอบสวนในเรื่องนี้ ทางด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามาให้สัญญาว่าจะสอบสวนอย่างเต็มที่ แต่กระแสความไม่พอใจจากนานาชาติต่อการโจมตีโรงพยาบาลที่มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน เป็นกระแสกดดันให้สหรัฐดำเนินการอย่างโปร่งใสมากกว่านี้ด้วยการร่วมสอบสวนกับองค์กรอิสระระหว่างประเทศ

นายคริสโตเฟอร์ สโตคส์ ผู้อำนวยการกลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนกล่าวปฏิเสธข้ออ้างของเจ้าหน้าที่อัฟกานิสถานว่า เป็นเพราะโรงพยาบาลเป็นที่กบดานของกลุ่มติดอาวุธเพื่อโจมตีกองกำลังอัฟกานิสถานและพลเรือน ผอ.กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนกล่าวว่า คำชี้แจงดังกล่าวยิ่งเป็นนัยว่ากองกำลังอัฟกานิสถานและสหรัฐทราบดีแต่ยังช่วยกันถล่มโจมตีโรงพยาบาล ซึ่งมีเจ้าหน้าที่แพทย์และผู้ป่วยกว่า 180 คน เพราะข้ออ้างว่ามีกลุ่มตอลีบาน จึงเรียกได้ว่าครั้งนี้เป็นการก่ออาชญกรรมสงคราม .- สำนักข่าวไทย

ฝนตกหนักในรอบพันปีที่เซาท์แคโรไลนา ตายแล้ว 8 คน​

​

ชาร์ลสตัน 5 ต.ค.- นางนิคกี เฮลีย์ ผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐเผยว่า ฝนที่ตกหนักโดยบางพื้นที่ตกหนักที่สุดในรอบ 1,000 ปี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 8 คนในรัฐเซาท์และนอร์ทแคโรไลนา

หลายพื้นที่ทางตอนกลางของรัฐเซาท์แคโรไลนามีฝนตกมากกว่า 18 นิ้วจนถึงเช้าวันอาทิตย์ และคาดว่าจะมีฝนตกเพิ่มอีก 2-5 นิ้วไปจนถึงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่แม่น้ำคองการีมีระดับน้ำสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2479 นางเฮลีย์ประกาศประกาศขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนให้อยู่แต่ในบ้าน เพราะในช่วง 12 ชั่วโมงตั้งแต่เย็นวันเสาร์ถึงเช้าวันอาทิตย์ตำรวจได้รับแจ้งเหตุฉุกเฉินเกือบ 800 ครั้ง เกือบทั้งหมดเป็นเหตุรถชนกัน ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 คนในรัฐเซาท์แคโรไลนา และอีก 2 คนในรัฐนอร์ทแคโรไลนา

ฝนที่ตกหนักข้ามคืนทำให้ทางหลวงตลอดชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนาที่เชื่อมเทศมณฑลชาร์ลสตันกับจอร์จทาว์นจมน้ำเกือบทั้งหมด และต้องปิดทางหลวงอีก 4 สายที่เชื่อมมายังทางหลวงสายนี้ ทางการเทศมณฑลจอร์จทาว์นเผยว่า ต้องใช้เรืออพยพประชาชนที่ติดค้างอยู่ตามบ้านเรือน ประธานาธิบดีบารัค โอบามาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรัฐเซาท์แคโรไลนาตั้งแต่วันเสาร์เพื่อให้สามารถนำงบรัฐบาลกลางไปช่วยเหลือได้ทันท่วงที มีการประกาศห้ามออกนอกเคหสถานในบางพื้นที่ รวมทั้งยกเลิกการเรียนการสอนทั้งหมดในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

ยอดผู้เสียชีวิตจากดินถล่มในกัวเตมาลาเพิ่มเป็น 131 คนแล้ว​

​

กัวเตมาลาซิตี 5 ต.ค.- กัวเตมาลา ซึ่งเป็นประเทศในอเมริกากลางแจ้งว่า เหตุดินถล่มทับหมู่บ้านแห่งหนึ่งชานกรุงกัวเตมาลาซิตีเมื่อหลายวันก่อน พบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 131 คนแล้วในขณะนี้และยังมีผู้สูญหายร่วม 300 คน

อาสาสมัครที่เข้าร่วมในปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยเผยว่า เหตุดินถล่มที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันพฤหัสบดีหลังจากฝนตกหนักประกอบกับน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นทำให้ดินและเศษซากต่าง ๆ ไหลท่วมหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเทศบาลซานตาคาตารินา ปินูลา บ้านเรือนเสียหายประมาณ 125 หลัง ศพที่กู้ได้มีเด็กเล็กรวมทั้งทารกแรกเกิดรวมอยู่ด้วยหลายคน ชาวบ้านหลายคนไปดูศพในมัสยิดที่ตั้งขึ้นชั่วคราวในที่เกิดเหตุเพื่อตรวจว่าเป็นญาติมิตรของตนที่ยังสูญหายอยู่หรือไม่

ทางการกัวเตมาลาเผยว่า เคยเตือนให้ชาวบ้านในชุมชนนี้ย้ายออกไปหลายครั้ง ล่าสุดคือเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อนเนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย แต่ชาวบ้านไม่ย้ายเนื่องจากไม่มีที่ไป เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องระงับการทำงานหลังจากมีฝนระลอกใหม่เมื่อค่ำวันอาทิตย์เนื่องจากเป็นอันตรายต่อการค้นหา ขณะที่เวลายิ่งผ่านไป โอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตยิ่งริบหรี่ลง.-สำนักข่าวไทย

ที่มา เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

ใต้ยังอ่วม! ฝุ่นละอองจากหมอกควันเกินมาตรฐาน เร่งแจกหน้ากากป้องกัน​

​

หมอกควันไฟป่าจากเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ยังลอยเข้าภาคใต้ต่อเนื่อง พบ เกินค่ามาตรฐาน มีผลต่อสุขภาพประชาชน ทัศนวิสัยต่ำ แต่เครื่องบินยังขึ้นลงได้ปกติ ขณะหน่วยงานเร่งแจกหน้ากากอนามัยป้องกันเบื้องต้น

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 58 ตามที่ได้เกิดสถานการณ์หมอกควันไฟป่าจากเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เข้ามาปกคลุมในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ และทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนเริ่มไม่สบาย โดยเฉพาะเด็กนักเรียน เริ่มมีอาการเจ็บคอ แสบตา ทางสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 สงขลา แจ้งปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน ในภาคใต้ มีค่าระหว่าง 49-170 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน

ในส่วนของ จ.สงขลา นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุม เพื่อติดตามสถานการณ์ และเตรียมมาตรการป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคใต้ ฉบับที่ 94 โดยสถานีตรวจวัดอากาศหาดใหญ่ วัดได้ 171 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ

ด้าน นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ออกแจกจ่ายหน้ากากอนามัยป้องกันหมอกควันและคู่มือข้อปฏิบัติเบื้องต้นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ และพื้นที่ชุมชนรวม 5 จุด บริเวณรอบเทศบาลนครหาดใหญ่ หน้าหอนาฬิกา ตลาดกิมหยง ย่านถนนเสน่หานุสรณ์ โรงเรียน และนักท่องเที่ยว เพื่อให้ประชาชนได้สวมใส่หน้ากาก ป้องกันผลกระทบจากสภาพหมอกควัน

ขณะที่ จ.ยะลา ขณะนี้มีปริมาณ 145 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร ซึ่งเป็นปริมาณที่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ นายอดุลย์ พรมแสง ผอ.สพป.เขต 1 ได้สั่งการผ่านโชเชียล มีเดีย ในระบบไลน์ ถึงผู้บริหารสถานศึกษาทุกแห่ง ให้รีบไปปรึกษาและขอความช่วยเหลือจากสถานพยาบาลโดยด่วน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพนักเรียน และขอสนับสนุนหน้ากากอนามัยให้กับนักเรียน หากได้มาไม่พอกับจำนวนนักเรียน ต้องจัดซื้อมาแจกให้ครบทุกคน

นอกจากนี้ ที่ศาลากลางจังหวัดพัทลุง นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วย นายอนุรัฐ ไทยตรง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือถึงแนวทางการดำเนินการป้องกันผลกระทบที่เกิดจากหมอกควันด้วย

สำหรับ จ.ภูเก็ต ภายในตัวเมืองและทั่วทั้งจังหวัด บนท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันขาว ส่งผลให้สภาพอากาศในพื้นที่ค่อนข้างสลัว มีหมอกควันกระจายหนาทึบไปทั่วท้องฟ้า ประกอบกับมีกลิ่นเหม็นไหม้ฟุ้งกระจายไปทั่วในอากาศ โดยสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนทั้งภาคพื้นดิน ทะเล และที่สูง ซึ่งยังไม่มีฝนตกลงมาแต่อย่างใด ขณะที่บริเวณรอบท่าอากาศยานภูเก็ต ยังคงมีเครื่องบินขึ้นลงตามปกติ อาจมีเพียงบางเที่ยวบินต้องบินวนบนรันเวย์ในช่วงที่มีหมอกควันหนาแน่น แต่ยังไม่มีรายงานการยกเลิกเที่ยวบินแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานสาธารณสุข ได้สั่งการให้โรงพยาบาลเตรียมการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งประสานไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลทุกแห่ง และ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ให้สามารถป้องกันตัวเองจากการเจ็บป่วยได้ โดยหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้าน หรือควรสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกบ้าน ซึ่งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล มีหน้ากากอนามัยสำรองไว้แล้วบางส่วนแล้ว และประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนที่ใช้รถสัญจรบนถนนให้เปิดไฟหน้าขณะขับขี่ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากทัศนวิสัยการมองเห็นต่ำ

ขณะที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ออกประกาศระบุว่า สำนักงานฯ ได้รับแจ้งจากชาวเรือว่าในทะเลมีหมอกควันหนาแน่น ทัศนวิสัยจำกัด สามารถมองเห็นได้ประมาณ 1 ไมล์ทะเล ในวันที่ 6 ตุลาคม 2558 จึงขอให้ชาวเรือทุกชนิด เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือที่มีความเร็วสูง ให้ลดความเร็วลง และให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 ต.ค. 2558

แจกหน้ากากอนามัย ป้องหมอกควันในเบตง พบป่วยทางเดินหายใจแล้ว 160 ราย​

​

เทศบาลเมืองเบตง ร่วมกับสาธารณสุขอำเภอเบตง แจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้ประชาชนในพื้นที่กว่า 5 พันชิ้น สวมป้องกันหมอกควันไฟป่าจากอินโดนีเซีย ขณะที่ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล มียอดสูงถึง 160 ราย ...

วันที่ 5 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์หมอกควันจากไฟไหม้ป่า บนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ที่เข้าปกคลุมพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ทำให้เกิดท้องฟ้าสลัวไม่สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ การใช้รถใช้ถนนต้องเพิ่มความระมัดระวัง และจะมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนเมื่อสูดดมหมอกควันเข้าไปมากๆ

นายสมยศ เลิศลำยอง นายกเทศมนตรีเมืองเบตง และนายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง ได้นำเจ้าหน้าที่ แจกจ่ายหน้ากากอนามัยป้องกันหมอกควันไฟป่าให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ที่เดินทางเข้ามาขอหน้ากากฟรี โดยทางเทศบาลเมืองเบตงและสาธารณสุขอำเภอเบตง ได้เตรียมไว้แจกจ่ายจำนวน 5,000 กว่าชิ้น

โดย สาธารณสุขอำเภอเบตง กล่าวว่า สถานการณ์หมอกควันจากไฟไหม้ป่า บนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ยังคงปกคลุมพื้นที่อำเภอเบตงเป็นเวลานานนั้น ส่งผลกระทบกับประชาชนที่สูดดมอากาศหายใจ ทำให้มีผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลเบตง มียอดเพิ่มขึ้นถึง 160 ราย โดยเฉพาะเด็ก และผู้สูงอายุ จึงได้ประสานไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล และเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ให้เตรียมพร้อมหน้ากากอนามัย เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนที่ต้องการ หากสถานการณ์หมอกไฟป่ารุนแรงเพิ่มขึ้น พร้อมเตือนประชาชนที่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ หลีกเลี่ยงออกกำลังกายในที่แจ้ง เด็ก หรือผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหน้ากากหรือใช้ผ้าปิดจมูก ประชาชนทั่วไปขอให้ติดตามข่าวสารและปฏิบัติ ตามข้อแนะนำจากภาคราชการ และหากเกิดอาการเจ็บป่วยควรปรึกษาแพทย์และใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง

ด้านนางกัลยา โตะแวอายี ผู้อำนวยกาส่วนสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดยะลา กล่าวว่า จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคใต้ ในวันที่ 5 ตุลาคม 2558 พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 51-171 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลามีค่ามากที่สุด 171 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนรองลงมาคือจังหวัดยะลา 144 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากค่ามาตรฐานที่ต้องไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ปริมาณฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นกว่าวันก่อนหน้าทุกสถานี ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการลดและควบคุมการเผาในที่โล่งอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะ การงดการเผาริมทาง งดการเผาในพื้นที่ป่าและไฟป่า รวมถึงขอความร่วมมือจากประชาชนงดเผาขยะเศษวัสดุการเกษตรและกิ่งไม้ใบหญ้า เป็นต้น เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้น.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 ต.ค. 2558

'มูจีแก'เพิ่มน้ำ ให้เขื่อนเจ้าพระยา - อุดรฯ พร้อมรับมือพายุ​

​

"มูจีแก" เพิ่มน้ำในเขื่อนเจ้าพระยา ตามแผนกรมชลประทานฯ พร้อมเตือนผู้เลี้ยงปลากระชัง ต้องหมั่นตรวจสอบคุณภาพน้ำอย่างใกล้ชิด ขณะที่ จ.อุดรธานี ผบ.มทบ.24 เตรียมรับมือพายุ สั่งทุกหน่วยทหารในพื้นที่พร้อมช่วยเหลือประชาชน...

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 5 ต.ค. 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำที่จุดวัดน้ำ C13 เหนือเขื่อนเจ้าพระยา ปัจจุบัน อยู่ที่ 16.62 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง สูงกว่าระดับตลิ่ง 0.28 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนระดับน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ระดับ 6.70 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง

นายเอกศิษฐ์ ศักดิ์ดีธนาภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนเจ้าพระยา เปิดเผยว่า วันนี้ถือว่าผลดีของพายุดีเปรสชั่น "มูจีแก" ทำให้การสะสมน้ำของน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา มีระดับสูงขึ้นจนเป็นที่น่าภูมิใจ ตามแผนที่คาดการณ์ไว้ ที่ 16.75 ม.รทก. สำหรับระดับน้ำเหนือเขื่อน ส่วนเรื่องของแผนการคาดการณ์ ปริมาณน้ำของ 4 เขื่อน อย่างเขื่อน ภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย และเขื่อนป่าสัก ที่จะต้องมีน้ำรวมไม่ต่ำกว่า 3,600 ล้าน ลบ.ม. ก่อนวันที่ 1 พ.ย. 2558 - ปลายเดือน พ.ค. 2559 สำหรับสู้ภัยแล้ง และรักษาระบบน้ำประปา ระบบนิเวศนั้น พายุ "มูจีแก" ทำให้ระดับน้ำในหลายเขื่อนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีน้ำกักเก็บไว้ เกือบจะเพียงพอตามแผนที่คาดการณ์ไว้ โดยปัจจุบันมีปริมาตรน้ำที่ใช้การได้ จาก 4 เขื่อนดังกล่าว มี 3,182 ล้าน ลบ.ม คาดว่าร่องมรสุมที่พัดผ่าน ในวันนี้และพรุ่งนี้จะทำให้น้ำเพิ่มขึ้นมาตามแผนอย่างแน่นอน

ด้าน นายถาวร จิระโสภณรักษ์ ประมงจังหวัดชัยนาท เผยว่า ขณะนี้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลหลาก แรง เร็ว และมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา อาจมีค่า กรด ด่าง และอาจมีความเค็มเพิ่มมากขึ้น ผู้เลี้ยงปลาในกระชัง ต้องหมั่นตรวจสอบคุณภาพน้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำจาก กรมชลฯ อยู่ตลอดเวลา หาก ตรวจสอบคุณภาพน้ำแล้วไม่ได้มาตรฐาน ควรทำการย้ายปลาในกระชังออกก่อนที่ปลาจะตาย หากสงสัย หรือต้องการให้หน่วยงานประมงจังหวัดชัยนาทเข้าตรวจสอบ สามารถติดต่อได้ที่ 056-411301 ในวันและเวลาราชการ

ขณะที่ จ.อุดรฯ พล.ต.อำนวย จุลโนนยาง ผบ.มทบ.24 / ผอ.ศบภ.มทบ.24 เป็นประธานตรวจความพร้อมของกำลังพล ยานพาหนะ และยุทโธปกรณ์ เพื่อเตรียมการช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดอุทกภัยในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อให้มีความพร้อมทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เจ้าหน้าที่มีความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ และการบูรณาการร่วมกันจากหลายฝ่าย โดย มี ศบภ.มทบ.24, ศบภ.ร.13 และ ศบภ.ป.พัน.13 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ในกรณีเกิดอุทกภัยขึ้น

พล.ต.อำนวย เผยว่า พายุมูจีแก เข้ามาสู่ประเทศไทย ในช่วงวันที่ 4-6 ต.ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะได้รับผลกระทบ ซึ่งมี 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.อุดรธานี จ.หนองคาย จ.บึงกาฬ เป็นพื้นที่ในเขตรับผิดชอบ มทบ.24 ทางรัฐบาลมีความเป็นห่วงเป็นใยประชาชน จึงได้สั่งกองทัพบกและกองทัพภาคที่ 2 ให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกัน เตรียมความพร้อม ในการรับมือ พายุโซร้อน “มูจีแก” ในการช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะเรามีประสบการณ์ในเรื่องการสูญเสียเยอะมาก ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนั้นถือว่าภารกิจนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนอันดับ 1 โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทุกจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้ง 20 จังหวัด รวมทั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 24 ร่วมกับ กรมทหารราบที่ 13 กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการเข้าไปช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรในทันที โดยเฉพาะพื้นที่อุทกภัย ซึ่งในวันนี้ได้ทำการตรวจเช็กหน่วยงานของเรา ให้มีความพร้อม ในการทำงานกันเป็นทีม ช่วยเหลือประชาชน ให้กองร้อยกำลังพลจัดเตรียมกองร้อยช่วยเหลือประชาชน ซึ่งมีความสมบูรณ์ในตัวเอง ช่วยได้ทุกๆ ภัย มีคน มีเครื่องมือ และระบบบริหารการจัดการ มีการติดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลา

พล.ต.อำนวย เผยต่อว่า สำหรับพื้นที่เป้าหมายที่เคยเกิดอุทกภัยขึ้นมา เช่น อ.ศรีเชียงใหม่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เพราะมีผลจากภายนอก ก็คือระดับของน้ำแม่น้ำโขง จะเป็นผลติดตามมา ซึ่งทางเราได้เฝ้าติดตามอยู่ตลอด นอกจากนี้เรามีแหล่งข่าว ก็คือสมาคมทหารกองหนุน ซึ่งจะมีอยู่ทุกตำบล จะคอยให้ข้อมูลข่าวสาร ในเรื่องนี้ตลอด รวมไปถึงหน่วยงานของจังหวัด ภาครัฐและภาคเอกชน ที่เราทำงานร่วมกันเป็นเครือข่าย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 24 มีความมั่นใจและความพร้อม ถ้ารับแจ้งว่าพื้นที่ไหนได้รับความเดือดร้อน เพียงแค่ 5 นาที ก็สามารถออกเดินทางไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เกิดภัยพิบัติธรรมชาติ.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 ต.ค. 2558

ดินถล่มคร่าชีวิต 3 คนงานฝังท่อน้ำที่แม่ฮ่องสอน รอดหวุดหวิด 1 ราย​

​

4 คนงานแม่ฮ่องสอน ลงฝังท่อน้ำเอสล่อนในหลุมลึก 1.5 ม. เจอดินถล่มทับเสียชีวิต 3 ราย ขณะอีกรายโชคดีวิ่งหนีทันรอดหวุดหวิด เร่งสั่งรถแบ็กโฮขุดช่วยเพื่อน แต่ไม่ทัน จนเกิดเหตุสลด

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 58 เกิดอุบัติเหตุดินถล่มทับคนงานที่กำลังฝังท่อน้ำเอสล่อน ฝังในดินลึก 1.50 เมตร ทับร่างคนงานเสียชีวิตทันที 3 ราย ร.ต.ท.นรภัทร ทองดี ร้อยเวร สภ.แม่สะเรียง ได้เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณ หจก.ชื่นชูไพรก่อสร้าง ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน พบรถแบ็กโฮกำลังขุดดินเพื่อนำร่างคนงานฝังท่อขึ้นมา ผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย นายโยดอย หยกภิรมย์รัศมี อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/25 หมู่ 4 ต.แม่เหาะ อ.แม่สะเรียง นายโยะเล (ไม่มีนามสกุล) อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 0/89 หมู่ 10 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน และ นายอุทัย ปิยะวงศ์ อยู่บ้านเลขที่ 1/4 หมู่ 13 ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง อายุ 48 ปี ทั้ง 3 คน ถูกดินฝังกลบลึกเมตรครึ่ง ต้องใช้รถแบ็กโฮค่อยๆ ขุดดินออกแล้วนำร่างขึ้นมา

นายสมมาตร อภิวงศ์พนา อายุ 32 ปี อยู่บ้านดงสงัด ต.แม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน หนึ่งในผู้รอดชีวิตที่วิ่งหนีขึ้นมาได้ทันจากเหตุดินถล่ม เปิดเผยด้วยความหดหู่ใจกับการเสียชีวิตของเพื่อนร่วมงาน ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ลงไปช่วยกันต่อท่อน้ำเอสล่อน ซึ่งรถแบ็กโฮได้ขุดเป็นร่องลึกลงไปประมาณ 1.50 เมตร กว้างประมาณ 2 เมตร ขณะที่ต่อท่ออยู่นั้น ดินที่ขุดกองไว้ทั้ง 2 ข้าง เกิดถล่มลงมาอย่างกะทันหัน จึงได้รีบวิ่งออกมาในทันที แต่เพื่อนทั้ง 3 คน ไม่ทันตั้งตัว ทำให้ถูกดินถล่มทับเสียชีวิตทั้ง 3 คนต่อหน้าต่อตา ก่อนที่จะรีบแจ้งให้รถแบ็กโฮรีบขุดดินออก แต่ก็ไม่ทัน.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 ต.ค. 2558

โคราชเฮ! มูจีแก ทำฝนตกทั้งจังหวัด เติมน้ำทุกเขื่อน ลุ้นลำตะคองถึง 50%​

​

อิทธิพลพายุมูจีแก ส่งผลเมืองย่าโม ฝนตกทั่วจังหวัดเติมน้ำลงเขื่อน ระดับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลุ้น ลำตะคอง ให้ได้น้ำถึง 50% ของความจุ ขณะ ชลประทาน สั่งหยุดจ่ายน้ำ เก็บไว้ใช้ฤดูแล้งหน้า

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 58 นายชิตชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำที่จะได้รับอิทธิพลพายุโซนร้อนมูจีแก ที่อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น ว่า สถานการณ์น้ำภายในเขื่อนหลักทั้ง 5 แห่งในพื้นที่จังหวัดมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว น้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากพื้นที่เหนือเขื่อนดินอุ้มน้ำอยู่แล้ว จากผลกระทบจากพายุหว่ามก๋อ จึงทำให้ปริมาณฝนไหลลงมาที่เขื่อนได้อย่างเต็มที่

ล่าสุดพบว่า เขื่อนลำตะคอง มีน้ำไหลเข้าเขื่อนกว่า 6.2 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งทำให้มีปริมาณน้ำรวมกว่า 116.5 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 37% โดยมีปริมาณน้ำที่สามารถใช้งานได้เพิ่มขึ้นเป็น 94 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 30% ของความจุกักเก็บ 314 ล้านลูกบาศก์เมตร

ขณะที่ เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีน้ำไหลเข้าเขื่อนกว่า 4 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ล่าสุด มีปริมาณกักเก็บน้ำอยู่ที่ 77 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 70% ของความจุกักเก็บ 109 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนลำมูลบน อ.ครบุรี น้ำไหลเข้าเขื่อนกว่า 3 แสนลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ 48 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 34% จากความจุ 141 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี น้ำไหลเข้าเขื่อนกว่า 1 แสนลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ 92 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 33% จากความจุ 275 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนลำปลายมาศ อ.เสิงสาง มีน้ำไหลเข้าเขื่อนเพียง 7 หมื่นลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ 438 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 49% จากความจุ 98 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ ทางชลประทาน สั่งการให้ทุกเขื่อนหยุดจ่ายน้ำ เพื่อการรักษาระบบนิเวศและการอุปโภคบริโภคเป็นการชั่วคราว เนื่องจากจะต้องรักษาปริมาณน้ำต้นทุนภายในเขื่อนให้มากที่สุด เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้า ประกอบกับพื้นที่ท้ายเขื่อนตามแหล่งน้ำต่างๆ ก็มีฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตามแหล่งน้ำและตามลำคลองยังคงมีปริมาณน้ำมาก และเพียงพอที่จะให้ประชาชนและเกษตรกรนำไปใช้ประโยชน์ แต่หากพบว่าในพื้นที่ท้ายเขื่อนมีน้ำลดต่ำลง ทางชลประทาน ก็พร้อมที่จะจัดส่งน้ำไปช่วยเหลือทันที.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 ต.ค. 2558

ประกาศ ฉ.12 'มูจีแก' อ่อนลงเป็นดีเปรสชั่น เหนือ-อีสาน-ตอ. ฝนยังหนัก​

​

รมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ พายุโซนร้อนมูจีแก ฉบับที่ 12 ศูนย์กลางตะวันออกเฉียงเหนือ เมืองหนานหนิง คาด อ่อนกำลังเป็นดีเปรสชั่นในวันนี้ เตือน อีสาน - เหนือ - ตะวันออก ระวังฝนตกหนัก

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 5 ต.ค. 58 กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ พายุโซนร้อน “มูจีแก” (MUJIGAE) มีศูนย์กลางอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ของเมืองหนานหนิง มณฑลกวางสี ห่างประมาณ 110 กิโลเมตร หรือที่ ละติจูด 23.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.7 องศาตะวันออก มีความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า พายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นในวันนี้ ลักษณะเช่นนี้ จะทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ยังคงมีฝนและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนสะสมในระยะนี้ไว้ด้วย.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 ต.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

โคราช จัดงานกินเจ 9 วัน 9 คืน ยิ่งใหญ่ ศาลเจ้าเปิดกินฟรีทุกวัน​

​

โคราช เตรียมงานเทศกาลกินเจ 9 วัน 9 คืน ยิ่งใหญ่ ศาลเจ้า - ตำหนัก พร้อมทำอาหารเจให้ประชาชนกินฟรี 3-4 มื้อต่อวัน เริ่ม 13-21 ต.ค. ขณะพิธีเจ้าประทับทรง 50 ร่าง ลดโชว์หวาดเสียวลง

วันที่ 5 ต.ค. 58 ที่โรงแรมราชพฤกษ์ อ.เมืองนครราชสีมา นางนงลักษณ์ พฤกษ์พนาเวศ ประธานชมรมไทยจีนถือศีลกินเจนครราชสีมา ประธานจัดงาน พร้อมด้วย นายสุหฤทธิ์ ชาญวนังกูร ผอ.ททท.นครราชสีมา นายภิญโญ วัจนศิริเสถียร ประธานจัดพิธีอันเชิญเทพเจ้าประทับทรงแห่รอบเมืองโคราช (อิ้วเก้ง) และตัวแทนจากศาลเจ้า ตำหนัก มูลนิธิ องค์กรการกุศล อปท. พ่อค้า ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดนครราชสีมา 55 ตระกูลแซ่ ร่วมกันซักซ้อมเตรียมการจัดงานเทศกาลถือศีลกินเจ ประจำปี 2558 โดยใช้ชื่อ "เทศกาลถือศีลกินเจ 9 วัน เมืองโคราช 2558 " ที่จะมีขึ้นในวันที่ 13 -21 ต.ค.นี้ รวม 9 วัน 9 คืน โดยเริ่มตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 จีน ถึง ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 จีนของทุกปี ซึ่งศาลเจ้าและตำหนักต่างๆ ทั้งใน จ.นครราชสีมา อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) และจังหวัดใกล้เคียง จะมีการประกอบกิจกรรมการสวดมนต์ การเวียนเดินธูปตลอด รวมถึงมีการประกอบอาหารเจให้พี่น้องประชาชนรับประทานฟรีทุกวัน ทั้งเช้า กลางวัน เย็น และค่ำ อย่างเต็มที่

สำหรับวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของคนไทยเชื้อสายจีน เสริมสร้างความสามัคคีของกลุ่มบุคคลในการจัดกิจกรรมร่วมกัน เพื่อความเป็นสิริมงคล ส่งเสริมการท่องเที่ยว รณรงค์เว้นการฆ่าสัตว์

ส่วนกิจกรรมสำคัญในปีนี้ จะมีพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์เรียกว่า อิ้วเก้ง การอัญเชิญประทับทรงเทพเจ้าแห่รอบเมืองโคราช ในวันที่ 16 ต.ค. เวลา 08.39 น. โดยมีศาลเจ้าและตำหนักต่างๆ เข้าร่วม 22 แห่ง ซึ่งจะเป็นขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่ และมีร่างทรงเข้าร่วมแสดงอิทธิฤทธิ์ใช้เหล็กแหลม มีด และอาวุธเหล็กแหลมต่างๆ ที่ทำจากสเตนเลสแช่น้ำยาฆ่าเชื้อโรค เพื่อนำไปทิ่มแทงตามร่างกายมากกว่า 50 ร่างทรง โดยจะเป็นการแสดงที่ไม่หวาดเสียวจนเกินไป พร้อมการจุดประทัดอัญเชิญเทพเจ้ากว่าหมื่นดอก และในวันที่ 18 ต.ค. เวลา 19.09 น. จะมีพิธีเดินข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์ 12 ราศี ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ย่าโม โดยจะมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้เกียรติเปิดงาน.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 ต.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ด้นสยาม OTOP น้ำพริกเจกานดา​

เผยแพร่เมื่อ 1 มี.ค. 2015​

 

รายการ duo kitchen ตอน น้ำพริกอ่องเจ​

อัปโหลดเมื่อ 12 ก.ย. 2011​

ใกล้เทศกาลกินเจ ท่านผู้ชมควรดูแลสุขภาพด้วย การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เราขอแนะนําเมนูเพื่อสุขภาพน้ำพริกอ่องเจ ซึ่งเมนูในวันนี้เราได้ทํากันในห้องอาหาร 154 โรงแรมภูเก็ตรอยัลซิตี้โฮลเทล

 

ปอเปี๊ยะสดเจ (อาหารเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 10 ต.ค. 2013​

 

ยากิโซบะเจ (อาหารเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 11 ต.ค. 2013​

 

ไชเถ่าก้วย - ขนมผักกาดเจ (อาหารเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 9 ต.ค. 2013​

 

ราดหน้าเห็ดหอมเจ (อาหารเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 8 ต.ค. 2013​

 

ผัดผักหลากสีเจ (อาหารเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 9 ต.ค. 2013​

 

พะโล้เจ (อาหารเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 20 ต.ค. 2012​

 

ข้าวผัดแปดเซียนเจ (อาหารเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 20 ต.ค. 2012​

 

สุกี้เซียงไฮ้ผัดแห้งเจ (อาหารเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 20 ต.ค. 2012​

 

ผัดพริกขิงโปรตีนเกษตรเจ (อาหารเจ)​

เผยแพร่เมื่อ 7 ต.ค. 2013​