ด่านอรหันต์ทั้งสี่ปราการ ด่านมาร ด่านอสูร ด่านเทพ ด่านพรหม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ป่าวอันถัง, 7 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. romanof3

    romanof3 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +68
    พระอรหันต์ บรรลุธรรมเเล้ว เปรียบเหมือนผลไม้ที่สุกแล้วย่อมไม่กลับมาดิบอีก
    พระอรหันต์ ท่านมีศีลบริสุทธิ์ เป็นเครื่องอยู่ทุกพระองค์
    พระอรหันต์ ทุกประเภทไม่ว่าบรรลุด้วยวิธีใดก็ตาม ย่อมมีความรู้แจ้งในกเลสของตน มากกว่าผู้ใด และย่อมระมัดระวังตนในความไม่ประมาทอยู่ตลอดทุกขณะจิต( ยกเว้นพระสัพพัญญูท่านรู้ทุกอย่าง )
    แม้บรรลุธรรมแล้ว ความประมาทย่อมไม่เกิดแก่ท่าน เพราะ พระอรหันต์เป็นผู้มีสติ ตลอดเวลา มีสติยังไง มีสติที่ไม่ประมาทหลงในการทำเหตุให้กลับมาเกิดอีก

    ฌาณเป็นเพียงเครื่องพักใจ ในการดำรงขันธ์ของพระอรหันต์เท่านั้น ไม่ใช่เรือนใจที่อยู่ของท่านเพราะท่านรู้ถึง ทุกข์โทษแล้วจึงไม่มีการยึดใดๆ ในอารมณ์ใดๆอีกต่อไป เพียงพักใจชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น เหมือนประโยคที่เปรียบไว้ว่า อภิญญา คือ ของเล่นพระอรหันต์ นั่นเอง

    ที่ท่านเจ้าของกระทู้ กล่าวมา นั้นเกือบถูกต้อง แต่ไม่ถูกทั้งหมด อย่าลืมว่า พระอรหันต์ท่านต้องสร้างกำลังใจ เป็นฐานธงชัยแห่งการปฏิบัติ ( กำลังใจ คือ บารมี ตามที่หลวงพ่อกล่าวไว้ คือ บารมี 10 นั่นเอง ) เมื่อท่านปฏิบัติถึงที่สุดแล้ว บารมีที่ทำมาก็เต็มเป็นตัวผล เพราะทำเหตุเต็มแล้ว กล่าวคือ กำลังใจปักลงไปในการปฏิบัติเพื่อมรรคผลมันเต็มแล้ว ผลจึงเกิด รู้ได้เฉพาะตัวเฉพาะตน พระพุทธองค์ท่านเปรียบไว้ในคิริมานนท์สูตร " อานนท์หากมีคนอยู่ในบ่ออาจม เรียกให้ลงไปอยู่กับเค้า อานนท์จะไปไหม พระอานนท์ท่านตอบว่า ไม่พระเจ้าข้า พ: ถ้าเค้ายังคงวิงวอน ให้อานนท์ลงไปอยู่กะเค้า อานนท์จะไปไหม อ: ไม่พระเจ้าข้า พ: ทำไมละอานนท์ถึงไม่ไปอยู่กับเค้าถึงแม้เค้าจะวิงวิองไม่หยุด อ: แม้เค้าจะวิงวองอย่างไร หากข้าพเจ้าไม่ลงไปเค้าก็มิอาจบังคับใจ หรือ บังคับข้าพระองค์ได้พระเจ้าข้า "
    ความหมายในบทนี้ท่านกล่าวถึงพาลปุถุชน กับ พระอริยะเจ้า ก็เปรียบเหมือน กิเลส กับ พระอรหันต์นั้นเอง หากไม่มีดำริจะกระทำตามกิเลสแล้ว ผลก็จะไม่เกิดเป็นกิเลสให้สร้างภพชาติ ซึ่งพระอรหัต์เป็นผู้ผ่านข้อสอบกำลังใจยกตนออกจากกองกิเลสแล้ว เปรียบเหมือนพระอานนท์ผู้ไม่ลงไปในบ่ออาจมนั้นเอง กล่าวคือ พระอรหันต์ท่าน ไม่มีดำริให้กิเลสซึ่งเป็นเครื่องเหนี่ยวรั้งภพภูมิ เข้ามาสู่จิตสู่ใจท่าน พาท่านลงไปในอาจมได้อีก เค้าถึงเรียกว่า พระอรหันต์เป็นผู้สิ้นเชื้อสิ้นทุกข์ทั้งปวงนั่นเอง ไม่ว่าประเภทปัญญาวิมุตติ หรือ เจโตวิมุติ ก็ล้วนมีข้อสอบที่ต้องผ่านกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับสันดานวาสนาที่บำเพ็ญมาสั่งสมจนบำลุธรรม ตามประเภทพระอรหันต์นั้นๆ ประเภทพระอรหันต์ท่านกล่าวไว้เพื่อเทียบกับตัวผล กล่าวคือ ปฏิบัติออกมาผลออกมาเป็นลักษณะนี้ เรียกว่าอย่างนี้ ใช้ผลที่ได้เป็นตัวเทียบเคียง แต่ที่เหมือนกันหมดทุกประเภทคือ ความเป็นอรหันต์ ไม่กลับมาเกิดให้ทุกข์อีก ตายจากภพนี้จิตไปยังพระนิพพานทันที ไม่เเวะพักที่ใด มีกำลังใจปักลงที่เดียว คือ พระนิพพาน แม้ตายในขณะจิตที่ยังดำรงขันธ์ในชีวิตประจำวันก็ ไปนิพพานทันที เรียกได้ว่า ทุกขณะอารมณ์ ที่ยังมีชีวิต จิตทรงเป็นกำลังตลอดเวลาอัตโนมัติ ทรงอะไร ทรงไว้ซึ่งคำตอบของชีวิต ว่ารู้แล้ว การเกิดมันทุกข์ ต่อไปเราไม่เกิดแล้ว มันเป็นกำลังปิติยินดี เป็นความมั่นใจที่เกิดขึ้น ทุกขณะลมหายใจ จิตเป็นอิสระไม่ยึดติดยึดถืออารมณ์ทั้งปวง อาศัยอยู่ในโลกนี้ด้วยคำว่า ทำตามหน้าที่เท่านั้น นี้เรียกว่า พระอรหันต์ ท่านเจ้าของกระทู้ พระไตรปิฏกในบางเรื่องก็ละเอียดมาก จะเอาความรู้ของเราไปเทียบเคียงแล้วตีความออกมาเองนั้น สามารถทำได้ แต่ภูมิความรู้เราต้องมีมากพอที่จะเอาไปเทียบเคียงแล้วมาตีความ กล่าวคือ ต้องปฏิบัติจนถึงระดับที่สามารถเข้าใจในระดับหนึ่ง แล้วค่อย นำมาเทียบเคียงตีความ จะทำให้มีความรู้เข้าใจได้ในหลายนัยยะเพิ่มขึ้น นะครับ
    ( ปฏิบัติ + ปริยัติ เท่ากับ ปฏิเวธ )
     
  2. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    การ เข้า ถึง สภาวะ การ หลุด พ้น หรือ เรียกว่า การ เป็น อริย หรือ อรหันต์

    ใน องค์พระสัมมาสัมพุทธฯ เรา จัก ถาม ว่า อรหันต์ องค์ นั้น ยัง ผูก พัน เป็น

    พุทธ สาวก ใน องค์พระสัมมาสัมพุทธฯ อยู่ หรือ ไม่ .....

    อรหันต์ องค์ นั้น ยัง กราบ ไหว้ องค์พุทธะ องค์ นั้น หรือ ไม่ ....

    อรหันต์ ถึง ที่ สุด ของ การ อริสระ แล้ว จริง หรือ....
     
  3. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ท่าน romanof3 กล่าว ไว้ ดี แล้ว

    แม้น หลุด พ้น การ บำเพ็ญ ยัง ต้อง มี ต่อ ไป

    -------------------------------------
    คน ธรรมดา ก่ ต้อง ปฏิบัติ การ บำเพ็ญ ให้ ยิ่ง ๆ ขึ้น ไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2012
  4. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ภาชนะ ที่ ใส่ ของ มี ของ เต็ม อยู่ ก่ คือ ยัง ไม่ ว่าง เปล่า

    แม้น จะ โยก ย้าย ตำแหน่ง อย่าง ไร ก่ ยัง เป็น ภาชนะ ที่

    ภาระ เต็ม อยู่....

    กรรม ใคร ที่ ก่อ ไว้ หรือ กรรม ที่ ถูก บันทึก ไว้ ใน สังขารขันธ์

    --------------------------------------------------------
    จะ ทำ ให้ ขันธ์ ตน เอง ว่าง ก่ ต้อง ชำระ กรรม ให้ สิ้น ก่อน

    นั่น คือ การ เท สิ่ง ที่ อยู่ ใน ภาชนะ ให้ เป็น ภาชนะ ว่าง

    จึง จะ เสร็จ สิ้น ภาระกิจ ปลด เปลือง พันธกิจ ของ ตน เอง

    ให้ เป็น ขันธ์ว่าง ....

    หาก ขันธ์ ไม่ ว่าง ก่ จะ ใส่ อะไร เพิ่ม ไม่ ได้ ก่ จะ พัฒนา

    ตน เอง ต่อ ไป ลำบาก .... จะ ไป ไหน ก่ แบก ของ ที่ อยู่

    ใน ภาชนะ กะเต้ง กะเต้ง คอย ถ่วง .....
    ----------------------------------------------------------
    เป็น อริย รอด แล้ว แต่ ทำ กรรม อะไร ไว้ กับ ใคร ไว้ ใน อดีต

    (ที่บันทึกในสังขารขันธ์) ไม่ รู้ สึก ว่า เห็น แก่ ตัว ไป หน่อย หรือ?

    -----------------------------------------------------------
    คน ธรรมดา ก่ ควร ชำระ กรรม ให้ สิ้น เสีย ใน ชาติ นี้

    เมื่อ เป็น อริย แล้ว จึง จะ ไม่ ต้อง มา วน เวียน กับ คู่

    กรณี ผูก พัน ใน อดีต เพื่อ ให้ หลุด จาก ขอ ผูก พัน ด้วย
     
  5. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ปรารถนา ไป ให้ ไกล ให้ ถึง ที่ ฝัน

    ก่ ต้อง ชำระกรรม ตน เอง ให้ สิ้น

    อย่าง แท้ จริง ...... ทำ ขันธ์ ตน เอง ให้ ว่าง
     
  6. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    กรรม ที่ ตน เอง ก่อ ไว้ ใน อดีต ชาติ

    เป็น กรรม ที่ ถูก บันทึก ลง ใน สังขารขันธ์

    ผล ที่ ปรากฎ ให้ รู้ ได้ คือ ใจ ที่ สั่น สะเทือน จิต ที่ ไม่ มั่น คง

    ----------------------------------------------
    ฌาน แค่ ที่ พัก พิง ถูก ต้อง ตาม romanof3 กล่าว

    ไม่ ใช่ ของ แท้ .....
    ----------------------------------------------

    ผู้ มี ฌาน สูง จะ ทำ ให้ จิต มั่น คง เป็น ของ หลอก ลวง

    และ จัก ทำ ให้ หลง มิติ ว่า รอด แล้ว... มี มาก มาย

    ที่ หลง และ มี มาก มาย ฝึก แล้ว ถอย กลับ ไม่ ได้

    เพราะ ร่าง กาย หยาบ ถูก ครอบ งำ ด้วย มารพรหม

    มารฤษี ที่ ต้อง การ เกิด แต่ ไม่ มี คิว เกิด

    ความ รู้ สึก สบาย ร้อง เพลง 5555 ก่ เพราะ อย่าง นี้

    มี มาก มาย
     
  7. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ปฎิบัติ อย่าง ไร จึง จะ รอด พ้น จาก มาร ต่าง ๆ

    ก่ ปฎิบัติ ให้ ธรรมดา มาก ๆ

    มาร ต่าง ๆ (เรียกสมมติ) ก่ พวก ที่ อวด อ้าง ฤทธิ์

    ต่าง ๆ

    พรหม ไม่ ใช่ หมาย ถึง ผู้ ที่ หลุด พ้น จาก กิเลส

    น่า จะ ทราบ กัน ดี มัน ทั้ง หลาย ก่ คือ ผู้ มี กิเลส

    แต่ เป็น เพียง ผู้ ดำรง สภาวะ จิต แห่ง ฌาน สูง ก่

    เท่า นั้น

    การ สื่อ พรหม ให้ มา (จะ เรียก ่ว่า ประทับ หรือ อะไร ก่ แล้ว แต่)

    ต้อง ระวัง ให้ ดี .... มัน เป็น ผู้ อยู่ ใกล จาก แรง ดึง ดูด

    ไม่ รอ คิว มา เกิด ....

    มัน จะ อาศัย การ เบียด บัง เอา ร่าง นี่ ล่ะ เรียกว่า มารพรหม

    ไม่ ย่อม มัน มัน ก่ จะ ทำ สิ่ง ต่าง ๆ รอบ ตัว หรือ ตัว เรา

    (กายเนื้อ) ได้ รับ เหตุการณ์ ผิด ปกติ ....

    มัน ยัง มี โกรธ หลง อยู่ .... ทำ มัน เคือง มัน ก่ จะ ทำ เรา...

    มัน ก่ จะ สาบ แช่ง เรา ให้ จิต ตก ....

    --------------------------------------------
    การ ปฏิบัติ ธรรมดา คือ นำ ตัว เรา ให้ เข้า ใกล้

    กับ ธรรมชาติ ให้ มาก ที่ สุด ดื่ม ด่ำ กับ ธรรมชาติ

    รับ พลัง จาก ธรรมชาติ และ ส่ง คืน พลัง กลับ

    อย่าง นอบ น้อม
     
  8. cosmic buddha

    cosmic buddha สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +4
    อืม...? หารายละเอียดมาจากไหนคับเนี่ย
     
  9. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    เมื่อ เข้า ใกล้ สัมผัส กับ ธรรมชาติ มาก ๆ

    ผู้ ประเสริฐ ที่ ดำรง ใน ธรรมชาติ ก่ จะ มา หา

    มา ให้ ความ รู้ เอง .....

    ขอ เพียง ส่ง ใจ ถึง ใจ

    เพียง สัมผัส รู้ ใกล้ ผู้ รู้ อยู่ ไกล จัก มา หา เอง

    เพียง ทำ ตน เอง ให้ มี ศีล บริสุทธ์ คือ การ ไม่ เบียด เบียน

    หรือ ละชั่ว

    ผู้ อยู่ ไกล ก่ จะ เห็น เอง มา หา เอง

    ไม่ ต้อง นั่ง บำเพ็ญ ฌาน ให้ เมื่อย

    และ เสี่ยง จาก การ ถูก เบียด บัง ร่าง
     
  10. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ดอก ไม้ ที่ หอม ย่อม จัก มี ประโยชน์ และ มี คน ทนุถนอม เชย ชม ความ หอม

    ผู้ มี ศีล ที่ บริสุทธิ์ ย่อม หอม กรุ่น ไป ไกล

    -----------------------------
    คน ที่ มี ความ หยาบ กร้าน เขา ชอบ ดอก ไม้ หรือ ไม่ ฤ

    มาร ก่ เป็น เช่น นั้น แล ไม่ สามารถ เอา ชนะ ผู้ มี ศีล ได้ ฉันนั้น

    ---------------------------------------------------

    ศีล จะ หอม กรุ่น ไป ไกล แค่ ไหน ก่ ขึ้น อยู่ กับ บารมี

    หรือ การ บำเพ็ญ ประโยชน์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2012
  11. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ธรรมชาติ คือ ครู

    เพราะ เหตุ นี้ จึง เรียก ว่า การ เป็น อริย

    เป็น อิสระ ต่อ ทุก สิ่ง เพราะ ครู ก่ คือ ธรรมชาติ

    มิติ ที่ ไป ก่ คือ ความ อิสระ โดย แท้

    ไม่ มี บรม ครู ไม่ มี ข้อ ผูก พัน

    เป็น หนึ่ง เดียว กับ ธรรมชาติ

    ธรรมชาติ เป็น เรา เรา เป็น ส่วน หนึ่ง ของ ธรรมชาติ
     
  12. หมาปากซอย

    หมาปากซอย สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +11
    อย่าลืมผ่านด่านขุนทดด้วยนะครับ ถ้าจะไปวัดคุณสรพงษ์อ่ะครับ
    ห้าห้าห้า
     

แชร์หน้านี้

Loading...