ด่วน!! รีบจองที่นั่งเฝ้าระวัง: เดี่ยวภัยพิบัติ1 เเสดงแล้ววันนี้ทุกประเทศทั่วโลก

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย sunny430, 24 มีนาคม 2012.

  1. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
     
  2. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,633
    แหล่งขายธนู หัวและครีบหางลูกธนู ราคาถูกมีที่ไหนบ้าง เพราะที่ปทุมธานี ราคาถูกสุด คันละ ประมาณ 5000 บาท ตอนนี้ถ้าว่างกำลังจะไปดูมีดสปาต้าแบบไทย/ดาบไทยที่ทำรูปทรงแบบสมัยอยุธยาที่หมู่บ้านอรัญญิก อยุยา มันต้องด้ามยาว แต่ที่ขายทั่วไปด้ามสั้นไปหน่อย ส่วนคาถาป้องกันศาสตราวุธ ผมสวดประจำ คาถาอิทธิฤทธิ ของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค อยุธยา ผมสวดตลอด ตอนฝ่าดงกับระเบิดและห่ากระสุนปืนเวียตนามได้ ถูกถล่มด้วยปืน ค./จรวด/ปืนใหญ่ เกือบทุกวัน แม้แต่เวลาเล่นดั้มมี่ มันก็ไม่ละเว้น วงไพ่แตกกระจายโดดหนีกัน แต่แคล้วคลาดรอดตายมาได้
     
  3. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571
    ผมเพิ่งไปสอย ดาบซำมูไร สีดำ มาจากอรัญญิก

    ดาบไทยที่เขาทำขาย มันมีหลายแบบนะครับ แบบเอาไว้โชว์ วางประดับ
    กับแบบที่เอาไว้ฟันจริงๆจังๆ ให้ดูด้ามด้วยว่า เหล็กแกนด้ามยาวตลอดถึงสุดปลายโดนด้ามหรือเปล่า เพราะถ้าจะเอาไปฟันจริงจัง เหล็กแกนด้ามยาวไม่ตลอดมันจะหักหรือหลุดจากไม้ประกับด้าม เวลาฟันอะไรแรงๆ


    มันจะมีเหล็ก S-55 กับเหล็ก S-60 แต่ที่ทำจาก s60 มันจะหนาและหนักมาก ไม่คล่องตัว เพราะถ้าบางแล้วเดี๋ยวเปราะ

    ถ้าเอาไว้ตัดไม้ ตัดต้นไม้กิ่งไม้ ฟันเหล็กฟันตะปู เอา S60
    ถ้าเอาไฟฟันคนแบบในหนัง มาเฟียฮ่องกง เอา s55 เพราะเบากว่าคล่องตัวกว่า
     
  4. sunny430

    sunny430 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,299
    ค่าพลัง:
    +5,425
    สวัสดีเช้าวันที่ 29 มิย 2555 ครับ อิตาลี่ชนะเข้าไปชิงกะกระทิงเสปนแล้วนะครับ เรื่องภับธรรมชาติยังไม่มีวี่แววของการทำลายล้างครั้งใหญ่ครับ ส่วนสงครามใน ตอ กลาง น่าดูครับ กองทัพหลายประเทศเคลื่อนพลกันมากมายครับ ประเทศไทยเราจะได้ผลกระทบไม่มากก็น้อยครับ ใกล้สิ้นเดือนนะครับ ตอนนี้เป็นความชัดเจนมากมากว่าเดือน มิย ก็ไม่ได้มีฟ้าดับหรือโลกแตกอะไรทั้งนั้น ผมว่า มันมาอีกแล้วครับ กระแสโลกแตกเดือน กรกฏา วันที่ 21 อีกแล้วครับ เลือ่นไปเรื่อยๆ เราคนเฝ้าก็ไม่ต้องทำมาหากินครับ ว่าแต่ผมเองก็ยังเตรียมพร้อมสูงสุดตลอดปรอยู่ดีครับ ว่าแต่วอนว่าผู้ที่เกียวข้องกับดาว นิบิรุและถ้วยeddy ทั้งหลาย มาตอบผมหน่อยครับ ว่ามันยังไม่มาอีกเหรอครับ? หรือที่มองไม่เห็นเพราะถ้วย eddy มันดูดสายตาเรา อิอิ ยังไงใครรู้ว่าในโลกใบนี้บินไปดูดาว นิบิรุ ใด้ที่ไหนบอกด้วยนะครับ ผมจะบินไปครับบบบ
     
  5. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    ว่าไปครับ เดี๋ยวก็เงียบ ++
     
  6. nprofcomp

    nprofcomp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +339
    Daily News - Manager Online - ชักศึกเข้าบ้าน !?

    ชักศึกเข้าบ้าน !?

    <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">19 มิถุนายน 2555 14:05 น.</td> </tr></tbody></table>
    หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐอเมริกาเจรจากับฝ่ายไทยได้สำเร็จอีกครั้งในการขอ ใช้สนามบินอู่ตะเภาเพื่อเป็นศูนย์ช่วยเหลือภัยพิบัติทางธรรมชาติและ มนุษยธรรมตลอดจนให้องค์การการบินอวกาศของสหรัฐอเมริกา (NASA)

    แม้ชื่อจะอ้างว่าเป็นศูนย์ช่วยเหลือภัยพิบัติทางธรรมชาติและมนุษยธรรม และไม่ใช่เป็นการตั้งฐานทัพของสหรัฐอเมริกา แต่ความเป็นจริงแล้วหน่วยงานลักษณะเช่นนี้ก็เป็นหน่วยงานทางทหารของสหรัฐ อเมริกาอยู่ดี และจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเมื่อถึงเวลาที่ต้องมีการตรวจสอบการปฏิบัติงานของ หน่วยงานเหล่านี้ ใครจะเป็นผู้ตรวจสอบได้จริงในทางปฏิบัติ

    พลเอกมาร์ติน เดมซีย์ ผู้แทนการเจรจาของฝ่ายสหรัฐอเมริกา แจ้งว่ายังไม่ได้ใช้เป็นฐานทัพทางการทหาร และอ้างว่าหากจะดำเนินการมากไปกว่าที่ขอเช่นนี้ก็จะต้องได้รับการอนุญาตจาก รัฐบาลไทยก่อน

    แต่ประวัติศาสตร์สอนให้เราได้รู้ว่า เมื่อสหรัฐอเมริกาได้คืบแล้วก็จะเอาศอก ลุแก่อำนาจในการใช้สนามบินแห่งนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 37 ปีที่แล้ว


    นับตั้งแต่ที่ประเทศไทยเคยได้ให้สหรัฐอเมริกาได้ใช้สนามบินอู่ตะเภาในปี พ.ศ. 2509 และสนามบินแห่งนี้ได้ทำให้ประเทศไทยได้กลายเป็นแนวร่วมสงครามกับประเทศ เพื่อนบ้านด้วยการใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นฐานทัพเครื่องบิน บี 12 ของสหรัฐอเมริกา บินขึ้นทิ้งระเบิดปูพรมถล่มเวียดนาม กัมพูชา และลาว เสียหายอย่างมหาศาล ผู้คนล้มตายไปเป็นจำนวนมาก

    ต่อมาสหรัฐอเมริกาก็ลุแก่อำนาจ สหรัฐอเมริกาต้องการช่วยเหลือเรือสินค้ามายาเกวซ ที่ถูกเขมรแดงจับ โดยอ้างว่าการกระทำของเขมรแดงไม่ถูกต้อง เพราะเรือมายาเกวซถูกจับในน่านน้ำสากล ห่างจากฝั่งกัมพูชากว่า 60 ไมล์ทะเล และสิ่งที่สหรัฐอเมริกาได้ทำลงไปก็คือทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของอธิปไตยเหนือ น่านน้ำในอ่าวไทย โดยดำเนินการจมเรือปืนกัมพูชาไป 3 ลำ โดยไม่ต้องขออนุญาตจากฝ่ายไทย

    17 พฤษภาคม พ.ศ. 2518 ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ได้นำนักศึกษาและประชาชนจำนวนมากเดินขบวนไปประท้วงหน้าสถานเอกอัครราชทูต สหรัฐอเมริกา เพื่อต่อต้านกองทัพสหรัฐอเมริกาที่ใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นฐานปฏิบัติการทาง ทหารตามอำเภอใจ
    การกดดันของนิสิตนักศึกษาและประชาชนครั้งนั้น ได้ส่งผลทำให้รัฐบาลไทยต้องขอให้สหรัฐอเมริกาทำหนังสือขอโทษประเทศไทยอย่าง เป็นทางการ เพราะเป็นการกระทำที่ไม่มีการแจ้งให้ฝ่ายไทยได้รับรู้

    พล.ต.ชาติชาย ชุณหะวัณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น ได้เรียกตัวนายอานันท์ ปันยารชุน เอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา เดินทางกลับประเทศไทยอันเป็นการประท้วงในระหว่างที่รอให้สหรัฐอเมริกาขอโทษ ประเทศไทย

    เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2555 นายอานันท์ ปันยารชุน ได้ร่วมบรรยายในงานสัมมนา “ปราชญ์สยาม นามคึกฤทธิ์” โดยได้กล่าวความตอนหนึ่งถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า:

    “มีเหตุการณ์หนึ่ง ตอนนั้นผมเป็นทูตอยู่ที่วอชิงตัน สหรัฐอเมริกาในช่วงนั้นมีการสู้กันของเขมรหลายฝ่าย ไทยและอเมริกาสนับสนุนเขมรฝ่ายหนึ่งตอนนั้นมีกรณีที่เรือรบขนาดใหญ่ ของอเมริกาใช้น่านน้ำไทยผ่านไปสู่น่านน้ำเขมรและแผ่นดินเขมรเมื่อมีการใช้ ไทยเป็นฐาน รัฐบาลของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ประกาศนโยบายว่าต่อไปถ้าอเมริกาใช้น่านน้ำไทยหรือแผ่นดินไทยผ่านจะต้องได้ รับความเห็นชอบจากรัฐบาลก่อนรวมทั้งได้เรียกทูตกลับประเทศ เพื่อเป็นการแสดงความไม่พอใจ”

    ในที่สุดสหรัฐอเมริกาจึงได้ส่งสาสน์แสดงความเสียใจอย่างเป็นทางการ แต่นิสิตนักศึกษาและประชาชนในยุคนั้นก็ยังชุมนุมต่อเพื่อให้สหรัฐอเมริกา ย้ายฐานทัพออกจากประเทศไทย

    ด้วยเหตุนี้รัฐบาลไทยจึงได้ขีดเส้นตายให้สหรัฐอเมริกาถอนทหารให้หมดจาก ประเทศไทย และเดือนธันวาคม พ.ศ. 2518 เครื่องบินลำสุดท้ายก็บินออกจากประเทศไทย และเป็นการยุติการใช้ฐานทัพในประเทศไทยนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    บทเรียนข้างต้นแสดงให้เห็นว่าการใช้ฐานทัพไทยให้กลายเป็นจุด ล่อ แหลมต่อความมั่นคงในประเทศไทยนั้น จะต้องจัดฐานะของสหรัฐอเมริกาอยู่ “บัญชีดำ”ที่เคยมีประวัติด่างพร้อย ลุแก่อำนาจทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งละเมิดอธิปไตยและน่านน้ำไทย จนถึงทำให้ประชาชนชาวไทยต้องออกมาชุมนุมขับไล่มาแล้ว

    บทเรียนข้างต้นแสดงให้เห็นว่าหากไม่เกิดเหตุที่สหรัฐอเมริกา พลาด เพราะลุแก่อำนาจใช้น่านน้ำในการจัดการกับเขมร และดำเนินการขออำนาจจากประเทศไทย ไทยอาจจะไม่มีมูลเหตุในการออกมาอ้างในการให้สหรัฐอเมริกาย้ายฐานทัพออกจาก ประเทศไทยได้เลย

    หรืออีกนัยหนึ่งในยุคนั้นหากไม่เกิดเหตุการณ์จมเรือปืนไป 3 ลำ จนปรากฏเป็นข่าว ไทยอาจไม่ได้มีโอกาสตรวจสอบได้เลยว่า สหรัฐอเมริกาทำอะไรละเมิดข้อตกลงไปบ้างหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด

    เช่นเดียวกันหากสหรัฐอเมริกามาตั้งหน่วยบรรเทาภัยพิบัติและ มนุษยธรรม และองค์การการบินอวกาศของสหรัฐอเมริกา (NASA) แล้วถามว่าจะมีใครเข้าไปในสถานที่ดังกล่าวเพื่อตรวจสอบได้ในความเป็นจริง อย่างมีอิสระบ้าง และถ้าเป็นเรื่องยากที่จะเข้าไปตรวจสอบแล้วก็ต้องมีคำถามว่า นานาชาติที่กำลังเฝ้ากำลังการแผ่อิทธิพลของสหรัฐอเมริกาก็ย่อมจะมีความหวาด ระแวงเช่นเดียวกัน

    ยิ่งไปกว่านั้นหากสหรัฐอเมริกาเข้ามาโดยง่ายแล้ว ในความเป็นจริงแล้วจะออกยากมาก เพราะการจะให้ออกจากประเทศไทยในวันข้างหน้าจะถูกมองว่าเป็นการลดระดับความ สัมพันธ์และความร่วมมือต่อกันที่ดีระหว่างสหรัฐอเมริกากับไทย

    การมาขอตั้งศูนย์รับภัยพิบัติและมนุษยธรรมนั้นไม่มีความชัดเจนว่าจะ อยู่นานแค่ไหนและอยู่นานเท่าไหร่ รู้แต่เพียงเบื้องต้นว่าความคิดในเรื่องข้อตกลงนี้เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเพียงแต่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยมาสานต่อแล้วเพิ่มการเจรจาให้มีการ สำรวจชั้นบรรยากาศขององค์การการบินอวกาศของสหรัฐอเมริกา (NASA) ประมาณ 2 เดือน ในการเจรจาระหว่างสหรัฐอเมริกากับไทยเมื่อวันที่ 1-3 มิถุนายน พ.ศ. 2555

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกสารที่เผยแพร่นโยบายของสหรัฐอเมริกานั้น ชัดเจนว่าในปี ค.ศ. 2020 สหรัฐอเมริกาจะย้ายกองทัพเรือมาประจำในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกถึง 60%

    ลำพังการประกาศกร้าวของสหรัฐอเมริกาเท่านี้ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า สหรัฐอเมริกาต้องการขยายอิทธิพลในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ให้มากขึ้น

    ด้านหนึ่งเป็นการปิดล้อมอิทธิพลของจีนที่กำลังมีบทบาททางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

    อีกด้านหนึ่งคือการปกป้องผลประโยชน์แหล่งพลังงานที่สหรัฐอเมริกาที่ จ่ายค่าภาคหลวงต่ำที่มีอยู่ในภูมิภาคนี้ ซึ่งรวมถึงอ่าวไทย ซึ่งค้นพบว่ามีแหล่งพลังงานคุณภาพที่ดีที่สุดในโลก และมีปริมาณมากและยังค้นพบอีกมาก


    แค่ลองคิดเล่นๆว่าหากย้ายมาประจำการในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก แล้ววันหนึ่งประเทศไทยขอขึ้นค่าภาคหลวงเหมือนในหลายประเทศแถบละติดอเมริกา แต่สหรัฐอเมริกาไม่เลิกขุดเจาะ ไม่ยินยอม และไม่จ่ายและเรียกคืนสัมปทานก็ไม่คืนให้ ประเทศไทยจะทำไรได้บ้างในวันที่กองทัพเรืออยู่น่านน้ำในพื้นที่และมีทหาร สหรัฐอเมริกาอยู่จำนวนมากในสนามบินอู่ตะเภา

    แม้ว่าจะเป็นเรื่องภัยพิบัติธรรมชาติและมนุษยธรรม แต่เมื่อมารวมกับการสำรวจชั้นบรรยากาศขององค์การการบินอวกาศ (NASA) ของสหรัฐอเมริกา ทำให้ต้องนึกถึงโครงการ H.A.A.R.P. (High Frequency Active Aurora Research Program) หรือโครงการวิจัยพลังงานลำแสงออโรร่าจากความ ถี่สูง ซึ่งเป็นการทำงานวิจัยร่วมกันระหว่าง ส่วนห้องทดลองวิจัยของกองทัพอากาศและกองทัพเรือของสหรัฐอเมริการ่วมกับ มหาวิทยาลัยแห่งอลาสก้า และสำนักงานโครงการวิจัยความก้าวหน้าของกองทัพของสหรัฐอเมริกา โดยในปี 2551 เพียงปีเดียวนั้น โครงการนี้ได้มีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างและการดำเนินงานโดยใช้ภาษีสนับสนุน ถึง 250 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7,500 ล้านบาทต่อปี

    [​IMG]

    โครงการนี้ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาคือการสร้างและควบคุมภูมิอากาศโดยการยิง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่สูงและความแรงกว่า 1 พันล้านวัตต์ไปที่ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ แล้วสะท้อนกลับมายังพื้นผิวโลกไปยังเป้าหมายที่ต้องการได้ทั้งบนบกและในทะเล เพื่อส่งพลังงานนั้นลงไปสู่ชั้นหินใต้ดินเพื่อก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนหรือ เกิดแผ่นดินไหว โดยการใช้เครื่องดังกล่าวนี้ต้องประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีร่วมกับดาวเทียมคู่ ขนานกันไปด้วย จึงไม่แปลกใจที่โครงการนี้จะต้องมีการสำรวจชั้นบรรยากาศจากองค์การการบิน อวกาศ (NASA) ของสหรัฐอเมริการ่วมทำงานด้วย โดยสหรัฐอเมริกาอ้างว่าเป็นเพียงเครื่องมือสำหรับการศึกษาลักษณะทางฟิสิกส์ ในเรื่องชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ และวิทยาศาสตร์ด้านคลื่นวิทยุเท่านั้น

    แต่วัตถุประสงค์ในการดำเนินการโครงการนี้ที่คลุมเครือและไม่เปิดเผยให้ และดำเนินการโดยฝ่ายความมั่นคงและการทหารของสหรัฐอเมริกาหลายหน่วยงาน จึงทำให้นักวิทยาศาสตร์หลายคนที่เฝ้าติดตามเรื่องนี้และเชื่อในทฤษฎีสมรู้ ร่วมคิดก็มองเห็นว่าโครงการนี้แท้ที่จริงแล้วคือเครื่องมืออาวุธสงคราม ประเภทใหม่ที่สามารถสร้างภัยพิบัติหลายแห่งทั่วโลก ทั้งสึนามิ อุทกภัย เฮอร์ริเคน ไต้ฝุ่น และแผ่นดินไหว ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยในภูมิภาคเอเชียช่วงหลังๆ เพื่อให้สหรัฐอเมริกาเข้าไปมีบทบาทในการแสวงหาผลประโยชน์ เข้าครอบงำความมั่งคั่ง สูบทรัพยากร ตลอดจนทำลายประเทศที่คิดว่าจะเป็นปรปักษ์ต่อสหรัฐอเมริกา หรือทำลายบางสิ่งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเอง

    และถ้าเรื่องนี้เป็นความจริงก็หมายความว่าอาวุธทำลายล้างเพื่อแบ่ง แยกและปกครองต่อไปก็คือ “ภัยพิบัติ” ที่อาจจะกำลังเกิดขึ้นและกำลังจะสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลโดยมีประเทศใด ประเทศหนึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญหลังจากนี้

    แต่ไม่ว่าทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดในการดำเนินการโครงการ H.A.A.R.P. จะมีส่วนร่วมกับการตั้งศูนย์ภัยพิบัติและมนุษยธรรม + องค์การการบินอวกาศ (NASA) ที่สนามบินอู่ตะเภาจะเป็นความจริง หรือเป็นเพียงแค่การจินตนาการของนักทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดก็ตามที แต่การที่ประเทศไทยตัดสินใจเป็นเครื่องมือของสหรัฐอเมริกานั้น ถือเป็นการชักศึกเข้าบ้านอย่างชัดเจน และสร้างความหวาดระแวงให้กับจีนเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน

    คำถามที่สำคัญตามมาก็คือรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตัดสินใจยืนข้างมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา และยอมให้มหาอำนาจจีนเกิดความหวาดระแวงเช่นนี้ รัฐบาลไทยและประเทศไทยได้ อะไรกลับมาเป็นข้อแลกเปลี่ยน หรือได้ประโยชน์อะไรเป็นการส่วนตัว หรือนักโทษชายทักษิณจะได้ประโยชน์อันใดเป็นการส่วนตัวหรือไม่?

    และถ้าไม่มีอะไรลับลมคมใน รัฐบาลควรแสดงความจริงใจควรเปิดเผยข้อตกลงกับสหรัฐอเมริกาให้ประชาชนได้รับ ทราบในรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร?


    ประการสำคัญ สหรัฐอเมริกาเป็นมิตรประเทศกับไทย และจีนก็เป็นมิตรประเทศกับไทย จึงไม่มีความจำเป็นใดๆเลยที่ประเทศไทยต้องเลือกข้างให้สหรัฐอเมริกาผูกขาด การใช้สนามบินอู่ตะเภาแต่เพียงประเทศเดียวเช่นนี้

    เว้นเสียแต่ว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ กำลังสมรู้ร่วมคิดกับสหรัฐอเมริกากระทำการอะไรบางอย่างที่มีผลประโยชน์ต่าง ตอบแทนระหว่างสหรัฐอเมริกากับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยหรือไม่? อย่างไร?

    Daily News - Manager Online - อย่าหยุดแค่”นาซ่า” !?
    28 มิถุนายน 2555 16:23 น.

    ณ บ้านพระอาทิตย์
    โดย : ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    เห็นนักการเมืองคนไทยถึงกับให้สัมภาษณ์ว่ากรณีที่องค์การการบิน อวกาศแห่งชาติ หรือองค์การนาซ่าจะเข้ามาในประเทศไทยนั้นจะเป็นการทำให้ประเทศไทยสามารถรอด พ้นจากภัยพิบัติน้ำท่วมได้ ดังนั้นหากใครขวางโครงการนี้ก็จะต้องออกมารับผิดชอบ

    ทันทีที่มีข่าวนี้ก็ทำให้ต้องไปดูงานภัยพิบัติก็ยิ่งทำให้เห็นชัดว่า สหรัฐอเมริกา ขณะที่เขียนบทความนี้มลรัฐโคโรลาโดกำลังเผชิญหน้ากับไฟป่าที่ลุกลามอย่างหนัก อีกทั้งมลรัฐฟลอริดาก็กำลังเผชิญหน้ากับอุทกภัยที่มีพายุเข้าอย่างหนัก

    ที่สหรัฐอเมริกาไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดน้ำท่วม แต่เมื่อเกิดสถานการณ์จริงที่ลุกลามแล้วแล้วจึงค่อยประกาศเตือนภัยให้กับ ประชาชนทราบ

    พ.ศ. 2554 สหรัฐอเมริกาเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่รวมทั้งสิ้น 99 ครั้ง เพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนหน้าที่มี 81 ครั้ง มีการประกาศภาวะฉุกเฉินจากภัยพิบัติ 29 ครั้ง เพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนหน้าซึ่งมีเพียง 9 ครั้ง และประกาศการบริหารจัดการให้ความช่วยเหลือเพลิงไหม้ป่าอีก 114 ครั้ง เพิ่มขึ้นมากว่าปีก่อนหน้าซึ่งมีเพียง 18 ครั้ง หลักฐานเหล่านี้ก็น่าจะ เพียงพอที่แสดงให้เห็นว่าถ้าสหรัฐอเมริกามีความสามารถทางเทคโนโลยีที่ พยากรณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติได้อย่างแม่นยำ หรือสามารถรับมือกับภัยพิบัติได้จริง เหตุใดภัยพิบัติเหล่านี้สหรัฐอเมริกาก็ไม่สามารถจะรู้ล่วงหน้าได้

    และคนที่มักจะบอกว่านาซ่าไม่เกี่ยวข้องกับการทหาร แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ไม่สามารถจะสรุปได้ว่าข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ได้ จากการสำรวจขององค์การนาซ่านั้นจะไม่ได้ถูกนำมาใช้ในทางการทหารและทางด้าน พลังงานของสหรัฐอเมริกา

    โดยเฉพาะการสำรวจเกี่ยวกับ “เมฆ”และ “ชั้นบรรยากาศ”

    เพราะถ้าหากสหรัฐอเมริกามีเป้าประสงค์ที่จะต้องการสำรวจเรื่องเมฆและบรรายกา ศเพื่อการพยากรณ์คาดการณ์ภูมิอากาศจริง เหตุใดจึงไม่ใช้องค์กรที่มีภารกิจและความเชี่ยวชาญโดยตรงซึ่งก็คือ NOAA หรือที่เรียกว่า National Oceanic and Atmospheric Administration


    NOAA เป็นองค์กรที่ทำงานไม่ใช่เพียงแค่พยากรณ์อากาศน้ำท่วมหรือฝนตก หิมะตกเท่านั้น แต่ครอบคลุมไปถึงการสำรวจวิจัยทะเลด้วยทั้งชายฝั่งและใต้ท้องทะเลรวมไปถึง สมุทรศาสตร์ทั่วไป และยังทำงานไขปัญหาน้ำท่วมร่วมกับองค์กรสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา และกรมวิศวกรรมแห่งกองทัพบก

    แต่การที่สหรัฐอเมริกาส่งองค์การน่าซ่ามานั้น น่าจะต้องการใช้ผลการสำรวจนี้ในหลายด้านพร้อมๆกัน

    ทั้งนี้องค์การนาซ่ามีส่วนสำคัญทางการทหารของสหรัฐอเมริกา อย่าง มากมาย หนึ่งในตัวอย่างที่สำคัญก็คือความร่วมมือระหว่างทหารบก ทหารเรือ องค์การนาซ่า และกองทัพอากาศของสหรัฐอเมริกาในนาม JANNAF (Joint Army Navy NASA Air Force) ซึ่งมีวิสัยทัศน์ที่ประกาศอย่างชัดเจนว่า ต้องการที่จะเป็นผู้นำของโลกในด้านการใช้พลังงานขับเคลื่อนในชั้นบรรยากาศ และในอวกาศโดยตอบสนองความต้องการพลังงานการขับเคลื่อนทั้งในปัจจุบันและใน อนาคต

    ซึ่งย่อมแสดงให้เห็นว่าองค์การนาซ่าทำงานร่วมกับกองทัพสหรัฐอเมริกาได้อย่างแน่นอน

    แม้แต่เรื่องที่คนไทยเห็นว่าไม่เห็นเป็นประเด็นในทางการทหาร ทั้งๆที่ความจริงการสำรวจเมฆนั้นเป็นเรื่องทางการทหารได้เช่นเดียวกัน

    9 ธันวาคม พ.ศ. 2547 สำนักข่าวเอพี ได้เคยรายงานจากแองคอร์เรจ มลรัฐอลาสก้า ว่า นายริค เลห์เนอร์ โฆษก สำนักงานป้องกันขีปนาวุธ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การทดสอบการยิงสกัดที่จะยิงขีปานาวุธจากเกาะ โคกเดียก มลรัฐอลาสก้า ต้องชะลอไปและไม่สามารถทดสอบได้ โดยเหตุผลเพียงเพราะว่า....

    “มีเมฆหนา”

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=jr4qAHr2yFU"]Intercept Video - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=RaKpJ7i-JXA"]US Navy SM-3 Missile Intercept a damaged spy satellite - YouTube[/ame]

    โครงการป้องกันขีปนาวุธนั้นได้มีการเตรียมทดสอบด้วยงบประมาณ 85 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,550 ล้านบาท โดยเป็นโครงการที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการโจมตีด้วยขีปนาวุธจากเกาหลีเหลือ หรือที่อื่นในเอเชียตะวันออก แต่มาติดปัญหาเพียงเพราะมีเมฆมาก เพียงเท่านี้ก็แสดงให้เห็นว่าแม้แต่เมฆและชั้นบรรยากาศก็มีความสำคัญอย่าง ยิ่งในทางการทหาร

    แค่คิดตามจากข่าวข้างต้นนี้ก็ทำให้เห็นว่าหากกองกำลังเรือของ สหรัฐอเมริกาที่จะเพิ่มการประจำการในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก นี้เพิ่มขึ้นจาก 50% ให้กลายเป็น 60% ในปี พ.ศ.2568 ย่อมเข้าทำการศึกษาเมฆและชั้นบรรยากาศโดยทันที เพื่อความมั่นคงของกองกำลังเรือของสหรัฐอเมริกา

    ไม่ต้องพูดถึงโครงการ High Frequency Active Auroral Research Program หรือที่เรียกว่า โครงการ H.A.A.RP ซึ่งเป็นโครงการที่ทำงานร่วมกันระหว่างกองทัพอากาศ กองทัพเรือ สำนักงานความก้าวหน้ากระทรวงกลาโหม และมหาวิทยาลัยอลาสก้า ที่มีการใช้คลื่นความถี่วิทยุ 3.6 ล้านวัตต์
    ขึ้นไปในชั้นบรรยากาศและ สามารถสะท้อนกลับมาได้บนพื้นดิน ที่สร้างความหวาดระแวงให้กับรัฐบาลและรัฐสภาหลายประเทศโดยปรากฏเป็นหลักฐาน แล้ว ได้แก่ เวเนซูเอล่า, รัสเซีย, สมาชิกสภาสหภาพยุโรป ฯลฯ ว่าสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอากาศได้ รวมถึงแผ่นดินไหวและสึนามิ ซึ่งลักษณะโครงการนี้ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้จะถูกจับตาในการสำรวจชั้นบรรยากาศ ขององค์การนาซ่าในประเทศไทย

    โดยเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554 นายดิมิตตาร์ อูโซโนฟ และทีมงานซึ่งทำงานอยู่ที่ศูนย์การบินอวกาศ NASA Goodard ได้ตีพิมพ์บทความเผยแพร่รายงานทางวิชาการทางด้านเทคโลยีของสถาบันเทคโนโลยี แมตซาชูเซ็ทส์ (MIT) ระบุว่าการสร้างความร้อนในชั้นบรรยากาศในชั้นไอโอโน สเฟียร์นั้นทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ อีกทั้งยังได้ระบุอีกด้วยว่าพบความแปลกประหลาดในชั้นบรรยากาศก่อนเกิดเหตุ แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น พร้อมทั้งชี้แนะและตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเกิดจากโครงการ H.A.A.R.F

    หลายคนอาจจะมีความเห็นว่าเรื่อง H.A.A.R.P นั้นเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ และจินตนาการ แต่ในความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องที่จะไปพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ แต่ความสำคัญก็คือมีรัฐบาลและรัฐสภาหลายประเทศมีความหวาดวิตกโครงการนี้น่า จะเป็นประเด็นสำคัญมากกว่า


    และประการสำคัญเทคโนโลยีขององค์การนาซ่ายังถูกเชื่อมโยงกับการแสวงหาพลังงาน ของกลุ่มทุนในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาที่องค์การนาซ่าเข้ามาสำรวจนั้น เป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลกำลังเดินหน้าที่จะเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2555 นี้

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=UtUDCCrK5CU"]That's Impossible Weather Warfare 1 - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=lbLeY8jkdW4"]That's Impossible Weather Warfare 2 - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=71Ynx2QGS1I"]That's Impossible Weather Warfare 3 - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=sgRu2oVYMbc"]That's Impossible Weather Warfare 4 - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=REyC03gZgLU"]That's Impossible Weather Warfare 5 - YouTube[/ame]
    [​IMG]

    <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="650"><tbody><tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภาพ แสดงแผนที่แปลงสัมปทานปิโตรเลียมครั้งที่ 21 ที่จะเริ่มประกาศเชิญชวนเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2555</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> วันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2554 นายทรงภพ พลจันทร์ ในขณะที่ดำรงตำแหน่งรักษาการอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้เคยให้สัมภาษณ์ว่า “รัฐเตรียมเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 21 เน้นพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งมีปริมาณก๊าซธรรมชาติสูงถึง 5-10 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต คิดเป็น 1 ใน 3 ของปริมาณในอ่าวไทย ชั้นความหนา 1-2 กิโลเมตร และมีโครงสร้างที่ใหญ่มาก กินพื้นที่มากว่า 1 แสนตารางกิโลเมตร ยันศักยภาพรองรับโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ หรือผลิตก๊าซเอ็นจีวีป้อนได้ทั้งอีสานและคาดว่าใหญ่กว่าซาอุดีอาระเบีย”

    ทุกวันนี้กลุ่มบริษัทเชฟรอน ของสหรัฐอเมริกามีส่วนแบ่งปริมาณปิโตรเลียมที่พิสูจน์แล้วในการสัมปทาน ปิโตรเลียมในประเทศไทยโดยคิดปริมาณปิโตรเลียมคิดเทียบเท่าน้ำมันดิบ ประมาณ 1,255 ล้านบาเรล ถือเป็นผู้ที่ได้สัมปทานอันดับ 1 ในประเทศ และมีสัดส่วนถึง 50.7%

    ดังนั้นเชฟรอนเมื่อได้แหล่งพลังงานจากประเทศไทยในราคาค่าสัมปทานที่แสนถูก ครองตลาดเป็นอันดับหนึ่ง แถมยังจะมีสัมปทานราคาค่าภาคหลวงต่ำๆอีกกำลังจะเริ่มเปิดสัมปทานครั้งที่ 21 ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2555 นี้
    แต่เมื่อภาคประชาชนเริ่มตื่นรู้การเสียผลประโยชน์ทางพลังงานของชาติไทยเพิ่ม มากขึ้น การเคลื่อนกองกำลังเรือเข้ามาในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของสหรัฐอเมริกาจึง กลายเป็นปฏิกิริยาตอบสนองเพื่อดูแลคุ้มครองผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกาเอง

    ทั้งนี้เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ห้องปฏิบัติการการขับเคลื่อนก๊าซหรือของเหลวที่พ่อออกมาด้วยความเร็วของ องค์การนาซ่า ที่เรียกว่า The NASA Jet Propulsion Laboratory ได้ประกาศเป็นหุ้นส่วนกับเชฟรอน ในอันที่จะพัฒนาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสำหรับสิ่งแวดล้อมที่หยาบกระด้าง รวมทั้งในอวกาศและบนบก เช่น ระบบปั้ม, วาล์ว, การบริหารจัดการ, ระบบตรวจสอบบ่อลึก โดยเชฟรอนระบุว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ต้องการที่จะค้นหาน้ำมันและก๊าซทั้งบนโลก และอวกาศได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องบินสำรวจ ER2 นั้น ที่จะเข้ามาสำรวจในประเทศไทยโดยองค์การนาซ่านั้น มีประวัติหลายด้านทั้งการสำรวจชั้นบรรยากาศ การทำงานร่วมกับดาวเทียมในการสำรวจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และการดัดแปลงอุปกรณ์เพื่อจารกรรมข้อมูลทางการทหาร

    ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลใดแต่การเดินหน้าโครงการนี้โดยไม่เปิดเผยข้อตกลงให้ ประชาชนและสาธารณชนได้รับทราบ สังคม ประชาชน และสื่อมวลชน ย่อมมีสิทธิ์สงสัย ทั่วโลกย่อมมีสิทธิ์หวาดระแวง ดังนั้นการปกปิดข้อมูลในเรื่องนี้โดยอ้างลอยๆว่าไม่ใช่ภารกิจด้านการทหารแต่ เป็นการดำเนินการทางวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ ทั้งๆที่ผู้มาเจรจาเป็นทหารนั้น ย่อมเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจได้เลย

    ดังนั้นการที่องค์การนาซ่ายกเลิกภารกิจที่สนามบินอู่ตะเภา โดยอ้างว่าประสานงานยุ่งยากนั้น ต้องถือว่าเป็นความโชคดีของประเทศไทยแล้ว เพราะจะมาทำสิ่งใดโดยที่ไม่เปิดเผยข้อตกลงให้คนไทยได้ทราบทั้งๆที่มี พฤติกรรมที่หลายประเทศหวาดระแวง ก็ไม่ควรมาทำภารกิจลับๆล่อๆในแผ่นดินไทย หรือทำให้ประเทศไทยกลายเป็นสมรภูมิแห่งความขัดแย้งของมหาอำนาจโดยไม่จำเป็น


    หลังจากที่องค์การนาซ่าได้ยุติบทบาทตัวเองแล้ว สิ่งที่ประชาชนควรจะต้องเฝ้าระวังต่อไปก็คือภารกิจในการตั้งศูนย์บรรเทา สาธารณภัยและมนุษยธรรมของสหรัฐอเมริกา และการเข้าสัมปทานปิโตรเลียมครั้งที่ 21 ทั้งบนบกและอ่าวไทยในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2555 นี้เป็นต้นไป

    ต้องเฝ้าระวังชนิด “ห้ามกระพริบตา”โดยเด็ดขาด!!!
     
  7. 9อมตะ9

    9อมตะ9 อมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    571
    ค่าพลัง:
    +1,288
    ผมเชื่อมั่นในพระบารมีขององค์พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ท่านเคยบอกไว้ว่า สมบัติของชาติของแผ่นดิน ต้องถึงยุคสมัยของคนดีปกครองชาติบ้านเมืองถึงจะเอาออกมาใช้ได้ ถ้าบ้านเมืองยังมีคนเลวหรือคนไม่ดีปกครอง สมบัติของชาติไม่มีใครหรือพวกใครเอาออกมาใช้ได้ เพราะทุกๆที่จะมีเทวดาคอยดูแลอยู่....อย่ากังวลใจ...ครับ.....จงเชื่อมั่นและอย่าเสื่อมศรัทธาในคุณของพระรัตนตรัย:cool:
     
  8. gun2555

    gun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    701
    ค่าพลัง:
    +1,205
    ก็แค่สำรวจ เหมือนที่ กทม. สุดท้ายก็ไม่มี ก็เลิกล้มไป แถวบ้านเขาสำรวจปีกลาย มีนำมัน แต่ไม่พอกับการลงทุนลงทุน
     
  9. Ajintai

    Ajintai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    549
    ค่าพลัง:
    +1,638
    เขย่ากันก่อนสว่าง ขนาด 6.3 ที่จีน...

    2012-06-29 21:07:34 UTC
    2012-06-30 04:07:34 THA

    ศูนย์กลาง: Northern Xinjiang China
    Lat: 43.48 , Long: 84.74
    ขนาด : 6.3 , ลึก: 20 กม.

    *(source:GEOFON)
    -----------------------------------------------------
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="point">Magnitude</td><td class="point2">Mw 6.3</td></tr><tr><td class="point">Region</td><td class="point2">NORTHERN XINJIANG, CHINA</td></tr><tr><td class="point">Date time</td><td class="point2">2012-06-29 21:07:33.0 UTC</td></tr><tr><td class="point">Location</td><td class="point2">43.56 N ; 84.75 E</td></tr><tr><td class="point">Depth</td><td class="point2">10 km</td></tr></tbody></table>----------------------------------------------------------------
    Update time = Fri Jun 29 23:04:22 UTC 2012
    <table border="0" cellpadding="1" cellspacing="1"><tbody><tr> <th>
    </th> <th align="center">MAG </th> <th align="center">UTC DATE-TIME
    y/m/d h:m:s
    </th> <th align="center">LAT
    deg
    </th> <th align="center">LON
    deg
    </th> <th align="center">DEPTH
    km
    </th> <th> Region</th> </tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 4.8 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2012/06/29 22:37:05 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -33.358 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -178.238 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 17.7 </td><td valign="top"> SOUTH OF THE KERMADEC ISLANDS</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 4.7 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2012/06/29 22:02:17 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -33.682 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 178.772 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 49.8 </td><td valign="top"> SOUTH OF THE KERMADEC ISLANDS</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 3.2 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2012/06/29 21:11:33 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 19.318 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -66.102 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 11.0 </td><td valign="top"> PUERTO RICO REGION</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 6.3 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2012/06/29 21:07:33 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 43.444 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 84.725 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 18.0 </td><td valign="top"> NORTHERN XINJIANG, CHINA</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 4.8 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2012/06/29 20:03:42 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -11.996 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 166.232 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 31.5 </td><td valign="top"> SANTA CRUZ ISLANDS</td></tr></tbody></table>
     
  10. sunny430

    sunny430 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,299
    ค่าพลัง:
    +5,425
    สวัสดดีเช้าวันที่ 30 มิย 2012 ครับทุกท่าน ในที่สุดก็สิ้นเดือนหรืเป็นวันสุดท้านของห้วงเฝ้าระวังของเราจนได้ เมือ่คืนนี้อย่างที่พี่ ajintai ว่า เกิด 6 ที่จีนครับ รับวันสุดท้ายของห้วงเฝ้าระวังของเราครับ มีอะไรหลายอย่างที่มีคนบอกว่าจะเกิดในช่วง มิย นี้ แต่ก็ไม่เกิดครับ เพราะฉะนั้นฟังหูไว้หูนะครับเรื่อง 21 ธค 2012 ไม่น่ามีอะไรที่รุนแรงเกินไป ส่วนดาว นิบิรุ ก็หายไปแล้วครับ ผมสงสารคนที่เชื่ออย่างงมงาย เอาเป็นว่าวันนี้ผมเดินทางไปชุมพรและประจวบและเพชรบุรี กลับมาพรุ่งนี้ ฝากพี่ ajintasi ด้วยนะครับ หวังว่าไม่มีอะไรรุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนครับ

    sunny430
     
  11. nprofcomp

    nprofcomp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +339
    Daily News - Manager Online - 'ภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์' รัฐบาลไม่น่าไว้วางใจ อนุญาตให้สหรัฐฯใช้อู่ตะเภา
    30 มิถุนายน 2555 06:23 น.

    [​IMG]
    ภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์

    ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์- แม้ ว่าขณะนี้รัฐบาลจะใส่เกียร์ถอยกับการยกพื้นที่ให้สหรัฐฯเข้ามาใช้สนามบินอู่ ตะเภาเพื่อดำเนินการ 2 โครงการหลัก คือ จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และบรรเทาภัยพิบัติ" หรือ เอชเอดีอาร์ (HADR- Humanitarian Assistance and Disaster Relief ) และให้องค์การนาซาใช้เป็นสถานีวิจัยและเก็บตัวอย่างอากาศ ภายใต้โครงการเอสอีเอซี 4 อาร์เอส (Southeast Asia Composition, Cloud and Climate Coupling Regional Study) แต่นั่นก็ไม่สามารถคลายข้อกังขาของประชาชนว่า เหตุใดรัฐบาลจึงต้องเร่งรีบร้อนรนในการดำเนินโครงการดังกล่าว ประเทศไทยจะได้ประโยชน์อะไรจากโครงการเหล่านี้ ที่สำคัญหลายฝ่ายก็ยังวิตกในเรื่องผลกระทบด้านความมั่นคงของชาติ

    'ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์' จึงได้สัมภาษณ์พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงอย่าง 'ภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์' อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ซึ่งได้ชำแหละสาวลึกและพิเคราะห์พิจารณ์ในแง่มุมต่างๆไว้อย่างน่าสนใจ

    มองกรณีที่รัฐบาลจะให้สหรัฐฯและนาซ่าเข้ามาใช้สนามบินอู่ตะเภาในการดำเนินโครงการอย่างไร

    ผมว่ากรณีอู่ตะเภามันมี 2 เหตุการณ์ซ้อนกัน มันเป็นภาพเล็กที่ซ้อนอยู่ในภาพใหญ่ของยุทธศาสตร์ เวลาที่รัฐบาลมองเนี่ยส่วนใหญ่จะไปโฟกัสอยู่ที่ภาพเล็ก แต่ที่จริงคุณต้องดูภาพใหญ่ด้วย ถ้าคุณไม่ดูภาพใหญ่ คุณไม่เข้าใจหรอก ก็จะมาเถียงกันว่าควรหรือเปล่า กระทบต่อความมั่นคงหรือไม่

    ต้องเข้าใจอยู่อย่างหนึ่งว่าสหรัฐฯ เขาถือประโยชน์ของชาติเขาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด สมมุติว่าวันนี้เขาสนิทกับไทยมากเพราะผลประโยชน์ของชาติเขากับประเทศไทยมัน สอดคล้องกัน เขาต้องการความช่วยเหลือจากไทย คุณจะเอาอะไรจากเขา เขาพร้อมที่จะให้ทั้งนั้น แต่พอวันพรุ่งนี้ถ้าผลประโยชน์จากวอชิงตันมันเปลี่ยนไปแล้ว ไอ้ที่เคยคบหาสมาคมกันเนี่ยทุกอย่างมันจะเปลี่ยนไปหมด นี่คืออเมริกัน

    อยากให้อาจารย์ช่วยยกตัวอย่าง

    ถ้าย้อนไปดูยุทธศาสตร์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามเวียดนามซึ่ง เป็นช่วงที่ทำสงครามกับคอมมิวนิสต์เนี่ยจะเห็นว่าผลประโยชน์ของไทยและสหรัฐ มันสอดคล้องกัน เขาก็มาใช้สนามบินอู่ตะเภาของเราในการตั้งฐานทัพ ในการลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ เขาใช้ทั้งฐานทัพอากาศ ฐานทัพเรือ และค่ายรามสูร ที่ จ.อุดรธานี แต่วันที่เขาจะถอนทัพกลับไปเขาไม่ได้แจ้งให้ไทยรู้เลย ไม่บอกแม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีของไทย แม้แต่ผู้นำทหารของไทยก็ไม่รู้ อยู่ๆเขาก็ถอนฐานทัพออกไปทันที ทิ้งพันธมิตรที่เคยร่วมรบอย่างไทยให้ต่อสู้และเผชิญปัญหาเพียงลำพัง ที่สำคัญเราต้องต่อสู้กับเวียดนามซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ที่มีกำลังทหารเพียบ พร้อม มีขวัญกำลังใจเป็นเยี่ยม เป็นกองทัพอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐฯ รัสเซีย และจีน ซึ่งตอนนั้นเวียดนามก็ไม่พอใจเรามากที่ให้สหรัฐฯใช้อู่ตะเภาเป็นฐานทัพ หลังจากนั้นก็มีภัยคุกคามจากเวียดนาม เขายึดลาว ยึดกัมพูชาได้ รัฐกันชนระหว่างไทยกับเวียดนามก็ไม่มีแล้ว พรมแดนของเวียดนามมาติดกับไทยเลย ยิ่งตอนหลังไทยมีปัญหากับกัมพูชา กัมพูชามีปัญหาเรื่องเขมรแดง เขมรแดงมีปัญหากับเวียดนาม ทางเวียดนามก็ส่งกำลังเข้ามาในกัมพูชาถึง 16 กองพล ซึ่งมี 11 กองพลที่ประจันหน้ากับไทยบริเวณแนวชายแดน ไทยก็ต้องพยายามเอาตัวรอด เพราะไปหวังพึ่งสหรัฐฯไม่ได้แล้ว เราก็ต้องปรับยุทธศาสตร์โดยหันไปพึ่งจีน

    แล้วสถานการณ์ในปัจจุบันล่ะ

    ตอนนี้สหรัฐเตรียมจะกลับมาในเอเชียแปซิฟิกอีกครั้ง หลังจากที่เขาทิ้งไปนาน และเริ่มตระหนักว่าจีนกำลังขยายอิทธิพลในภูมิภาคนี้ จีนกำลังเข้ามาแทนอิทธิพลของสหรัฐฯ เขาก็เตรียมจะเข้ามาตั้งแต่สมัยรัฐบาล จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แต่บังเอิญว่าตอนนั้นเกิดเหตุการณ์ 911 ซึ่งกลุ่มอัลกออิดะฮ์ อิสลามหัวรุนแรง จี้เครื่องบินเข้าพุ่งชนตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ใจกลางเมืองนิวยอร์ก ซึ่งเป็นสิ่งที่สหรัฐฯ เจ็บปวดมากเพราะไม่เคยมีใครเข้าไปโจมตียักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐฯ ถึงใจกลางเมืองหลวงของเขา ดังนั้นสหรัฐฯ จึงคิดแต่ว่าจะต้องจัดการไอ้พวกนี้ให้ได้ ตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา เขาใช้เวลา 10 กว่าปี เขาก็ยุ่งอยู่แต่กับสงครามอีรัก สงครามในอัฟกานิสถาน ในสงครามก่อการร้ายที่จะต้องจัดการบินลาดินให้ได้ เพราะฉะนั้น 10 กว่าปีที่ผ่านมาเนี่ยเขาไม่สามารถมาวุ่นวายในภูมิภาคนี้ได้ สหภาพโซเวียตก็ล่มสลายกลายเป็นรัสเซีย ซึ่งรัสเซียก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามหลักของสหรัฐฯ

    ขณะที่สหรัฐฯ วุ่นวายอยู่ในตะวันออกกลาง จีนก็โตขึ้นเรื่อยๆ โตทั้งทางด้านการทหาร ด้านเศรษฐกิจการค้า จีดีพีก็โตแซงหน้าประเทศต่างๆ แซงอิตาลี ตอนนี้ก็ขึ้นมาแซงญี่ปุ่นแล้ว กำลังจ่อสหรัฐฯ แม้จะยังห่างกันอยู่เยอะ แต่นิสัยของอเมริกันก็คือจะต้องเหนือกว่าทุกประเทศในโลก เขาต้องรักษาตรงนี้ไว้ ดังนั้นเมื่อเขาจัดการกับตัวการใหญ่อย่างบินลาเดนจนไม่สามารถเป็นภัยคุกคาม เฉพาะหน้าต่อเขาได้แล้ว ตอนนี้รัฐบาลโอบมาจึงหันมาให้ความสนใจกับเอเชียแปซิฟิก ให้สังเกตว่าโอบามาส่งนางฮิลลารี คลินตัน รมว. ต่างประเทศ มาเยือนเป็นภูมิภาคแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอบามาคิดว่าเขาจะเหยียบเท้าลงที่อินโดนีเซียซึ่งเป็น ประเทศที่เขาไปอยู่ในสมัยเด็กๆ

    เมื่อโอบามาให้ความสนใจแต่มันยังก้าวไปไม่เร็วเท่าไร นี่โอบามาก็เป็นประธานาธิบดีมา 3 ปีแล้ว นี่ก็ใกล้จะมีการเลือกตั้งใหม่ จีนก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และที่เขาห่วงมากที่สุดคือด้านการทหารซึ่งศักยภาพของจีนมีมากขึ้น แต่สหรัฐฯถือว่ากองเรือที่ 7 ของสหรัฐฯต้องคุมแปซิฟิกให้ได้เพราะว่าแปซิฟิกมีความสำคัญทั้งในยามสันติและ ในยามสงคราม เป็นพื้นที่ที่เป็นเส้นทางเดินเรือ จะไปเกาะกวม จะไปญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ก็ต้องผ่านเส้นทางด้านนี้ ผ่านมะละกา ตรงนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่การเดินเรือต่างๆ ผ่านเส้นทางนี้มากที่สุดในโลก ขณะที่ทางด้านบนอากาศ เมืองไทยก็ถือว่าเป็นที่ตั้งทางยุทธศาสตร์เหมาะสมที่สุด แล้วอู่ตะเภาก็เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างเกาะกวมหรือโอกินาวา กับตะวันออกกลาง เมื่อครั้งสงครามตะวันออกกลางเนี่ยเขาแวะมาเติมน้ำมันที่นี่ นี่คือความสำคัญของอู่ตะเภาในเชิงการทหาร

    แล้วโครงการ วิจัยชั้นบรรยากาศ และการจัดตั้งศูนย์บรรเทาภัยพิบัติ ที่องค์การนาซาและสหรัฐฯเสนอมาครั้งนี้ล่ะ

    โครงการมันก็เป็นของจริง เป็นการศึกษาชั้นบรรยากาศหรืออะไรก็ว่ากันไป เพื่อไม่ให้ประชาชนคนไทยหวาดระแวงเขาก็ลองแหย่ขาเข้ามาก่อน ดูซิว่าคนไทยจะว่าอะไรไหม คนที่สนับสนุนก็บอกว่าดี รัฐบาลไทยก็ยืนยันว่าไม่มีอะไร นักวิทยาศาสตร์ก็บอกดี เป็นการศึกษาที่ให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ แต่ในส่วนของคนที่ค้านเนี่ยเขาไม่ได้ค้านไม่ให้มีโครงการนี้นะ ไม่ได้บอกว่าโครงการนี้มันเลวหมดนะ แต่เขาอยากให้เปิดเผยรายละเอียดของโครงการ และต้องการให้รัฐบาลดูให้ลึกซึ้งว่ามันมีอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า และมันจะมีอะไรตามมาหรือเปล่า สหรัฐฯ เขาก็ต้องลองแหย่เข้ามาก่อน อยู่ๆจะบอกว่าเขาจะทำโครงการด้านการทหาร เขาก็เสร็จสิเพราะถ้ามีข่าวว่าจะมีฐานทัพอะไรมาตั้งในประเทศเนี่ยเกระแสต่อ ต้านมันยังแรงอยู่

    สังเกตไหมว่าเมื่อเร็วๆ นี้ พล.อ.มาร์ติน เดมพ์ซีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมสหรัฐอเมริกา ซึ่งยศเท่ากับผู้บัญชาการทหารสูงสุดของไทย ก็เดินทางมาเยือนประเทศไทย และให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าหลังจากนี้เรือรบสหรัฐฯ จะมาเยี่ยมเยียนภูมิภาคแถบนี้ ซึ่งในเชิงการเมืองระหว่างประเทศมันเป็นการส่งสัญญาณนะ การที่เรือรบจะแวะท่าใดท่าหนึ่งเนี่ยมันมีความหมายทางการเมือง ไม่ใช่แค่ความหมายทางการทหารอย่างเดียว และถ้าดูคำให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯซึ่งพูดที่สิงคโปร์อย่าง ชัดเจนว่าต่อไปยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ จะมีอะไรบ้าง เขาเปิดเผยว่าเขาจะมาให้ความสนใจในภูมิภาคแถบนี้ เขาจะเดินทางไปชี้แจงกับประเทศต่างๆในภูมิภาคแถบนี้ จะฟื้นความสัมพันธ์กับประเทศที่เคยเป็นพันธมิตร การรื้อฟื้นการเข้าไปใช้ฐานทัพกับพันธมิตรเก่า เขาพูดชัดเจน ถึงแม้ไทยจะบอกว่าเราให้ความสำคัญกับจีน ต้อนรับการมาเยือนของจีน แต่จริงๆ แล้วเราก็เราอยู่ภายใต้อิทธิพลของจีน ที่สำคัญสหรัฐฯ บอกว่ายุทธศาสตร์การวางกำลังของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทัพเรือ เมื่อก่อนสหรัฐฯ เขาจะวางที่แอตแลนติก 60% และแปซิฟิก 40% แต่ปัจจุบันกลับกัน เขาจะวางที่แปซิฟิก 60% และแอตแลนติก 40% เขาบอกว่าต่อไปเขาจะมีเรือรบแวะพักตามท่าเรือต่างๆ

    ประเด็นเหล่านี้สอดคล้องกับสิ่งที่วอชิงตันโพสต์ รายงาน

    ใช่ครับ เรื่องเหล่านี้มันปิดกันไม่ได้ ยิ่งในสังคมอเมริกันเนี่ยสื่อเค้าจะโปร่งใส คือการที่สหรัฐฯเอาเรื่องการศึกษาชั้นบรรยากาศมาล่อแล้วรัฐบาลไทยโอเคเนี่ย เขาถือว่าเขาสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว ต่อไปก็ค่อยๆ แหย่เข้ามา

    มีความจำเป็นไหมที่สหรัฐฯ จะต้องเข้ามาตั้งศูนย์บรรเทาภัยพิบัติในไทย

    ผมว่าโครงการนี้ตลกมากนะ ความจริงในภูมิภาคนี้เนี่ยประเทศที่ประสบภัยพิบัติมากที่สุดคือฟิลิปปินส์ เพราะเขามีพายุเข้าบ่อยมาก แล้วก็มีแผ่นดินไหวด้วย ขณะที่อินโดนีเซียเกิดแผ่นดินไหวบ่อยที่สุด ทำไมไม่ตั้งศูนย์บรรเทาทุกข์ที่ฟิลิปปินส์ล่ะ น่าจะได้ประโยชน์มากกว่า ส่วนประเทศไทยเนี่ยนานๆจะมีภัยพิบัติที แต่ทำไมเลือกมาตั้งศูนย์บรรเทาทุกข์ในไทย นาซาเขาก็พยายามหาเหตุผลว่าปีที่แล้วไทยเกิดน้ำท่วม (หัวเราะ) คนไทยก็อาจจะกำลังหวาดกลัวอยู่ นี่เป็นประเด็นที่หลายคนตั้งข้อสังเกตเพื่อให้รัฐบาลรับรู้ว่ามันไม่ค่อยชอบ มาพากลนะ คิดอะไรให้รอบคอบ

    รัฐบาลไทยยืนยันว่าโครงการสำรวจชั้นบรรยากาศไม่มีเป้าหมายด้านการทหารเพราะนาซาเป็นองค์กรพลเรือน

    คือรัฐบาลก็จะออกมาบอกว่านาซาเป็นองค์กรพลเรือน รมว.กลาโหมก็ออกมา นักวิทยาศาสตร์ บรรดาอาจารย์ก็ออกมาว่าเป็นองค์การพลเรือน คือในทางนิตินัยนั้นนาซาเป็นองค์การพลเรือนก็จริง แต่ในทางปฏิบัติเนี่ยในการดำเนินยุทธศาสตร์ของอเมริกานั้นจะร่วมกันทุกฝ่าย แล้วเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีด้านการทหารมันก้าวหน้า เวลาโจมตีกันเขาจะโจมตีจากอวกาศ มีการส่งสัญญาณขึ้นไปเพื่อหาพิกัดของเป้าหมาย โดยเฉพาะสถานีอวกาศมันเป็นจุดที่เขาสามารถใช้แสงเลเซอร์โจมตีกันได้ ตอนนี้จีนสามารถยิงจรวดไปทำลายดาวเทียมที่หมดสภาพของตัวเองได้ซึ่งทำให้ อเมริกาตกใจมากเพราะที่ผ่านมามีแค่ 2 ประเทศเท่านั้นที่สามารถยิงจรวดขึ้นไปทำลายดาวเทียมในอวกาศได้ คืออเมริกาและรัสเซีย แปลว่าตอนนี้ดาวเทียมของอเมริกาไม่ปลอดภัยแล้ว ล่าสุดจีนส่งสถานีอวกาศไปเชื่อมต่อได้ นี่เป็นสิ่งที่อเมริกันหวาดกลัว เลยวิพากษ์วิจารณ์โจมตีงบประมาณทหารของจีนอยู่ตลอดเวลา เพราะอเมริกาถือว่าการเติบโตของจีนมันกระทบต่อสถานะพี่ใหญ่ที่อยู่เหนือทุก ประเทศของอเมริกา ในโลกนี้เขาต้องเหนือกว่าทุกประเทศ

    ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่ - หน้า 158 - PaLungJit.com
    อเมริกากล่าวหาเรดาห์จีนทำลายดาวเทียมจารกรรม
    <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td align="center">[​IMG]</td></tr></tbody></table> ภาพแสดงประสิทธิภาพกรทำสงครามด้วยเครื่องบินใช้อาวุธแสงเลเซอร์ของอเมริกา

    <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td align="center">[​IMG]</td></tr></tbody></table> เครื่องบินที่ใช้อาวุธแสงเลเซอร์ของกองทัพอากาศอเมริกา
    สถานีทดลองทางวิทยาศาสตร์ของจีนที่จงซาน 中山 หลังจากที่โครงการก่อสร้างสถานี
    เรดาห์ความถี่สูง เพื่อใช้ในการสำรวจและทดลองสิ่งแวดล้อมทางพื้นดิน
    และอากาสใน
    บริเวณดังกล่าว ได้เป็นที่เพ่งเล็งและก่อความไม่สบายใจแก่อเมริกาที่เกร็งจะกระทบด่อ
    ด้าน “ความปลอดภัย”

    ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของอเมริกา ได้ยกเอาประเด็นของสถานีเรดาห์ความถี่สูงของ
    จีนว่า อาจนำไปสู่การพัฒนาความสามารถในการต่อต้านเลเซอร์ของดาวเทียม ซึ่งจะไป
    ขัดขวางและทำลายการจารกรรมทางดาวเทียมของอเมริกา
    โดยทางการจีนได้ออกมา
    กล่าวถึงการกล่าวหาของกลุ่ม “ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง”ว่า เป็นการกล่าวหาที่เลื่อน
    ลอย “วัตถุประสงค์ในการพัฒนาทางอากาศระหว่างจีนกับสหรัฐแตกต่างกัน โดยทางจีน
    กระทำทุกอย่างตรงไปตรงมา ”

    สถานีเรดาห์นีจะมีเสาสัญญาณทั้งหมด 20 กลุ่ม ความสูงทั้งหมด 230 เมตร เพื่อสำรวจ
    ตรวจสอบชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟีย (Ionosphere) เพื่อยกระดับการสำรวจทางสภาพ
    แวดล้อมทางอากาศของจีนสูงระดับสากล โดยริเริ่มขึ้นในปี 1995
    โดย 5 หน่วยงานของ
    จีนคือ หน่วยงานวิทยาศาสตร์ หน่วยงานด้านการสื่อสาร หน่วยงานด้านการศึกษา หน่วย
    งานด้านแผ่นดินไหว และหน่วยงานด้านทะเลแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำความเข้า
    ใจด้านมูลภาวะทางอากาศที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติต่าง ๆ และเพื่อพิิทักษ์การ
    สื่อสารทางดาวเทียมไม่ให้ถูกกระทบ ฉะนั้น โครงการนี้จึงเ็ป็นการปกป้องดาวเทียมแทน
    ที่จะไปทำลายดามที่สหรัฐกล่าวหา

    ทางด้านกองทัพจีนกล่าวว่า ภาวะวิตกของ “ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง”ได้เผยโฉมหน้า
    อันแท้จริงของสหรัฐที่ใช้ดาวเทียมเพื่อการจารกรรม และใช้ในด้านการทำลายแทนที่จะ
    ใช้ในทางสร้างสรรค์

    ข่าว: ซีน่า 13/02/2006
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]http://www.thaichinese.net/News/Radar/radar.html[/FONT]

    ในคอลัมน์ของคุณเปลว สีเงิน ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ เขาบอกว่าคนที่ทำงานนาซามา 12 ปี ยืนยันชัดเจนว่าองค์การนาซาเป็นองค์การพลเรือนก็จริง แต่เขามีความร่วมมือกับกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ผลการวิจัยของนาซาเนี่ยกระทรวงกลาโหมสามารถเอาไปใช้ต่อยอดได้ ถ้ากระทรวงกลาโหมต้องการให้นาซาทำอะไรก็จัดงบประมาณมา เขาต้องทำงานร่วมกันเพื่อความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ แต่ไทยบอก โอ้ย..นาซาเป็นพลเรือน ใสสะอาด มันไม่มีหรอกครับ

    นายกฯยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ว่ารัฐบาลพยายามชี้แจง แต่มีบางคนพยายามทำให้ประชาชนไม่เข้าใจรัฐบาล

    ไม่มีใครเขาไปทำอย่างนั้นหรอก แต่เขากำลังจะให้ข้อมูลแก่รัฐบาลและประชาชนเพิ่มเติม ไม่เช่นนั้นเราจะไม่รู้อะไรเลย เช่น มีรายงานโปรแกรมการดำเนินงานของนาซาว่าขนเรื่องไม้เครื่องมือมาไทยแล้ว รัฐบาลก็ยืนยันว่ายังไม่ถึง หรือมีข้อมูลว่าอากาศสามารถใช้เป็นอาวุธได้ โดยโครงการวิจัยของอเมริกา ระบุว่าการยิงคลื่นแม่เหล็กขึ้นไปชนชั้นบรรยากาศ คลื่นนี้จะสะท้อนลงมา ซึ่งตรงนี้สามารถคำนวณได้ว่าเป้าหมายที่จะให้คลื่นสะท้อนตกลงมาโดนอยู่ตรง ไหน และคลื่นแม่เหล็กดังกล่าวนั้นแรงมาก สามารถทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ แม้โครงการนี้ยังไม่สำเร็จ 100% แต่สามารถพิสูจน์ได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งแปลว่ากองทัพของประเทศหนึ่งสามารถยิงคลื่นแม่เหล็กนี้เพื่อให้เกิดแผ่น ดินไหวในอีกประเทศหนึ่งเพื่อให้ประเทศนั้นเกิดความเสียหายได้ โดยที่คนทั่วไปอาจเข้าใจว่าเกิดแผ่นดินไหวตามธรรมชาติ

    ตอนนี้สิ่งที่รัฐบาลไทยต้องตระหนักคืออะไร

    การจะอนุญาตให้อเมริกาเข้ามาใช้พื้นที่อู่ตะเภาหรือไม่นั้นรัฐบาล ต้องมองไปที่จีนด้วยเพราะตอนนี้เราอยู่ระหว่างเขาควายคือสหรัฐฯและจีน สหรัฐฯเป็นมิตรเก่าที่ไม่ค่อยจริงใจเท่าไร ขณะที่จีนมีความจริงใจให้เรามากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลจีนมีความใกล้ชิดกับราชวงศ์ของไทยมาก สหรัฐฯเขาเป็นทุนนิยมสุดโต่งและเน้นผลประโยชน์ของประเทศเขาเป็นหลัก แต่ไทยเนี่ยมีผลประโยชน์ทั้งจากสหรัฐฯและจีน การจะเอียงไปด้านไหนด้านหนึ่งเนี่ยคุณต้องระวัง ตอนที่จะให้สหรัฐฯ เข้ามาเนี่ยสิ่งแรกที่ต้องดูคือแล้วจีนเขาคิดยังไง แต่จีนเขาเป็นผู้ใหญ่การจะสื่ออะไรออกมาเนี่ยเขาจะไม่โฉ่งฉาง อยากรู้ว่าจีนจะสื่ออะไรขอให้สังเกตกระบอกเสียงของเขา อย่าง พีเพิลเดลี่ หรือสำนักข่าวซินหัว เขาจะมีวิธีการในการสื่อ แค่จีบอกว่าเขาห่วงใยหรือมีความกังวลก็แปลว่าเขาเริ่มไม่พอใจแล้ว

    รัฐบาลไทยต้องจับสัญญาณเหล่านี้ให้ได้ สังเกตว่าระยะหลังเรามีแขกเข้ามาเยอะมาก อเมริกันก็ส่งมาหลายคณะ ทหารก็มา นักธุรกิจด้านพลังงานอย่างเชฟรอนก็มา ส่วนจีนก็ส่งเข้ามา 2 คน ซึ่งไม่ใช่ธรรมดานะ คนหนึ่งคือ พล.อ.จิ้ง จื้อหยวน ผู้บัญชาการทหารปืนใหญ่ที่ 2 ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ซึ่งเพิ่งมาพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ของไทย คนนี้ถือว่าเป็นอันดับ 2 ของกองทัพจีนเลยนะ เขาดูแลไปถึงการยิงจรวดข้ามทวีปเลย ส่วนอีกคนคือฟู่หยิง รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของจีน ซึ่งคนนี้ก็มีความสำคัญมาก ดังนั้นรัฐบาลไทยต้องระมัดระวังมาก ต้องกำหนดท่าทีให้ดี รัฐบาลอย่าคิดว่าไม่มีอะไรหรอก โครงการสำรวจอากาศแค่การเริ่มต้นเท่านั้น หลังจากนั้นเรื่องอื่นๆมันก็จะตามมา

    แต่ดูเหมือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์จะมองไม่เห็นสิ่งเหล่านี้ คิดว่าเป็นเพราะอะไร

    ผมว่าประการแรกรัฐบาลอาจไม่เข้าใจ ประการที่ 2 จุดยืนของรัฐบาลคืออยากให้สหรัฐฯได้ใช่สนามบินอู่ตะเภา ดังนั้นเวลาอธิบายกับประชาชนก็ต้องหาเหตุผลมาปกป้องสหรัฐฯ ซึ่งก็ต้องถามต่อว่าถ้าให้เขาแล้ว คุณได้อะไรตอบแทน มันก็ทำให้คนสงสัยว่าเกี่ยวกับกรณีที่คุณทักษิณได้วีซาเข้าสหรัฐฯ ไหม เพราะอเมริกาเขาไม่ใช่จะให้วีซ่าใครง่ายๆ

    ผมอยากจะย้ำว่าเรื่องการต่างประเทศเป็นเรื่องของรัฐบาล เพราะรัฐบาลเป็นตัวแทน ของประเทศไทยในการติดต่อกับต่างประเทศ แล้วรัฐบาลก็มีกระทรวงการต่างประเทศเป็นกลไก ดังนั้นถ้านายกรัฐมนตรี หรือ รมว.ต่างประเทศ พูดอะไรที่เกี่ยวกับการต่างประเทศก็เท่ากับเป็นการพูดในนามรัฐบาลไทย ประการที่ 2 ในเรื่องการต่างประเทศ ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี นักการทูตทุกคนจึงได้รับการอบรมเรื่องการเจรจาต่อรอง ความร่วมมือที่เกิดขึ้นเนี่ยประเทศไทยได้อะไร ต่างชาติได้อะไร สมน้ำสมเนื้อกันหรือไม่ คิดหรือว่าอเมริกาจะศึกษาสภาพภูมิอากาศให้ไทยฟรีๆ ไม่มีหรอก รัฐบาลไทยต้องมีอะไรให้เขา แต่คุณไม่บอกประชาชนนี่ว่าคุณให้อะไรเขา แล้วไทยได้อะไรบ้าง ถ้าคุณไม่ชี้แจง ประชาชนก็จะต้องนึกว่า เฮ้ย...คุณให้เขา แต่คุณได้วีซ่าของทักษิณใช่ไหม

    ทำไมหลายๆ คนถึงระแวงว่ารัฐบาลเพื่อไทยอาจมีผลประโยชน์แอบแฝง

    ก็รัฐบาลไม่น่าไว้ใจ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลมักทำอะไรในลักษณะปกปิดซ่อนเร้น ไม่ให้ประชาชนรู้ รวบรัดเร่งรีบ ประชาชนเค้าก็ต้องสงสัย ที่ผ่านมามันมีหลายเคสที่คุณไม่พูดตามที่ได้สัญญาไว้ คุณไม่พูดความจริงกับประชาชน แต่จะใช้คำพูดสวยๆ เช่น พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ซึ่งเนื้อหาไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการปรองดอง และคุณเร่งรีบดำเนินการ ขณะที่ปัญหาที่ประชาชนเดือดร้อนอย่างเรื่องน้ำท่วมคุณกลับไม่สนใจ ประชาชนหลายพื้นที่ยังไงไม่ได้รับค่าชดเชย หรือได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็นมาก ต้องรอให้ประชาชนร้องเรียน รอให้มีม็อบปิดถนน รัฐบาลถึงสั่งการ แต่ไปเร่งรัดทำโครงการสำรวจชั้นบรรยากาศ ถามว่าคุณมีอะไรซ่อนเร้นหรือ ? พอมีคนสงสัยว่าแลกกับวีซ่าทักษิณหรือเปล่า คนส่วนใหญ่ก็มีแนวโน้มที่จะเชื่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2012
  12. ขุนอิน

    ขุนอิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +129
    วันนี้ 1 กค.แล้ว จะเปลี่ยนหัวข้อเป็นอะไรดีครับ ผมว่าตั้งหัวข้อลากยาวไปถึงสิ้นปี2013 ไปเลยครับ มันเครียด ที่มารอลุ้นนะครับ:boo:
     
  13. nprofcomp

    nprofcomp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +339
    [​IMG]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]U.S. Patent No. 4,686,605 : H.A.A.R.P.[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]U.S. Patent No. 4,686,605 : H.A.A.R.P. [/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]From stock@stokkie.net Tue Sep 27 21:33:31 2005 +0200
    Date: Tue, 27 Sep 2005 21:33:31 +0200 (CEST)
    From: "Robert M. Stockmann"
    To: scott@weatherwars.info
    cc: tips@infowars.com, , ,

    Subject: U.S. Patent No. 4,686,605 : H.A.A.R.P.
    Message-ID:
    MIME-Version: 1.0
    Content-Type: TEXT/PLAIN; CHARSET=US-ASCII
    Content-ID:
    Status: RO
    X-Status:
    X-Keywords:

    Hello Scott,

    Thank you so much for your enlightening interview on the Alex Jones
    Radio show today!

    I have been studying the HAARP machinery during these last couple of
    weeks, and the text and figures of U.S. Patent No. 4,686,605 are very
    illustrating. See the scalable tif pictures at

    [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]U.S. Patent No. 4,686,605 : H.A.A.R.P.[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]or download the pdf from

    [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]http://crashrecovery.org/haarp/US-Pa...-4.686.605.pdf[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]What now follow are my present conclusions about this Weather Warfare
    technology using this U.S. Patent No. 4,686,605 as a reference.

    1) I made a readable (scalable) pdf document from U.S. Patent No.
    4,686,605 , which after a 1st read looks like a hands-on application of
    H.A.A.R.P. into the Alaska region using the local natural fuel
    resources of natural gas. It seems that the presence of a combination
    of local natural fuel resources and so-called dipole magnetic force or
    field line(s) is required to successfully apply this Patent.

    Without any doubt it is this apparatus embodiment in Alaska which
    caused a couple of the recent observed outrageous weather distortions.

    The document also speaks of adding artificial particles into the
    affected region :

    "The electron cyclotron resonance heating effect can be made to act
    on electrons anywhere above the surface of the earth. These
    electrons may be already present in the atmosphere, ionosphere,
    and/or magnetosphere of the earth, or can be artificially generated
    by a variety of means such as x-ray beams, charged particle beams,
    lasers, the plasma sheath surrounding an object such as a missile
    or meteor, and the like. Further, artificial particles, e.g.,
    electrons, ions, etc., can be injected directly into region R from
    an earthlaunched rocket or orbiting satellite carrying, for
    example, a payload of radioactive beta-decay material; alpha
    emitters; an electron accelerator; and/or ionized gases such as
    hydrogen;"

    This might just be what people have observed as so-called
    'Chem-Trails'.

    2) On page 6 of the pdf (page 4 of the Patent) the following is said :

    "BEST MODES FOR CARRYING OUT THE INVENTION

    The earth's magnetic field is somewhat analogous to a dipole bar
    magnet. As such, the earth's magnetic field contains numerous
    divergent field or force lines, each line intersecting the earth's
    surface at points on opposite sides of the Equator. The field lines
    which intersect the earth's surface near the poles have apexes
    which lie at the furthest points in the earth's magnetosphere while
    those closest to the Equator have apexes which reach only the lower
    portion of the magnetosphere."

    What i make of this, is that for the H.A.A.R.P. machinery to be most
    effective, it should be located near as possible to the North or
    South pole of our Earth. Adding the requirement of the local presence
    of natural fuel or gas, the number of good locations for a H.A.A.R.P.
    station is limited.

    3) About geographical locations a very interesting remark is made. On
    page 8 of the pdf (page 6 of the Patent) the following is said :

    "Referring now to the drawings, the present invention provides a
    method and apparatus for altering at least one region of plasma
    which lies along a field line, particularly when it passes through
    the ionosphere and/or magnetosphere. FIG. 1 is a simplified
    illustration of the earth 10 and one of its dipole magnetic force
    or field lines 11. As will be understood, line 11 may be any one of
    the numerous naturally existing field lines and the actual
    geographical locations 13 and 14 of line 11 will be chosen based on
    a particular operation to be carried out. The actual locations at
    which field lines intersect the earth's surface is documented and
    is readily ascertainable by those skilled in the art."

    When looking at FIG. 1 location 14 would typically be the H.A.A.R.P.
    station in Alaska. Location 13, which is clearly the targeted and
    offended region, is located beneath the Equator, inside the Southern
    Hemisphere. As was mentioned though, on our official Dutch News, NOS
    Journaal on TV station NED 1, all the Hurricane events in the past
    have been observed inside a belt of horizontal geographic latitude
    between 23 and 30 degrees on the Northern Hemisphere.

    The Tsunami event however took place inside the Indian Ocean, which
    lies inside the Southern Hemisphere, well within the reach of the
    Alaska H.A.A.R.P. station. At the same time the Alaska station would
    not apply for being responsible for Katrina and Rita. Remember though
    that the H.A.A.R.P. transmitter inside the US Patent is also seen
    directed at an angle of 45o inside FIG. 5.

    Hence the conclusion, if oceans or cities on the Northern Hemisphere
    would be the subject of a H.A.A.R.P. attack, then the actual
    H.A.A.R.P. station should in general be located on the Southern
    Hemisphere.

    4) Besides the reference mentioning Liberty Magazine, (2/35) p. 7 N.
    Tesla is only mentioned on page one of the Patent. Inside the whole
    document the name Tesla and his 'discovery' of instant transfer of
    power is nowhere used. So this is most certain a hoax. The speed at
    which energy can be transferred along these dipole magnetic force or
    field line(s) is just determined by the laws of classical
    electrodynamics [1],[2]. To visualize how the energy flows and is
    transferred from Location 14 to Location 13, maybe have a look at
    videos of the sun where outbursts of energy are seen to be closely
    following the dipole magnetic force or field line(s) of a sphere
    shaped object.

    [1] "Classical Electrodynamics, second edition",
    by John David Jackson,
    (c) 1962, 1975, John Wiley & Sons, Inc.
    ISBN 0-471-43132-X
    [2] "Classical Electrodynamics, third edition",
    by John David Jackson,
    (c) 1962, 1975, 1998 John Wiley & Sons, Inc.
    ISBN 0-471-30932-X
    [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]http://eu.wiley.com/WileyCDA/WileyTi...47130932X.html[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]5) Someone mentioned the interview with a professor who stated that
    nowadays its lasers in outer space which funnel energy into the iono-
    magnetosphere. The audio interview can be downloaded at :

    [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]http://jmccanneyscience.com/sh09-08-...e-bestsound.rm[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] The professor hammers down his opinion that "Scalar Technology" is
    just a hoax definition, and such a thing does not exist inside
    Weather Control techniques. He also denied that warm water inside
    the Mexican Gulf can be responsible for the growth of a Hurricane
    to strength '5'.

    Well now, here's what i make of it :

    HAARP is a device which can transport energy along the field-lines of
    the magnetosphere. How efficient this device works today i don't
    know, but remember that U.S. Patent No. 4,686,605 is already 18 years
    old. Since that time the Simulation Computing Power has only risen
    to unlimited levels.

    To answer the professor remarks, about Lasers being responsible for
    feeding and navigating Katrina and Rita, i could also claim that a
    Laser in outer space could never supply the energy needed to move a
    Hurricane from level '2' to level '5'. I could be wrong though. If a
    enormous sun collector is hooked up to such a Laser, it could be done.

    Then remarks were made about HAARP being too coarse. If HAARP
    technology can focus sharp enough depends on a number of things.
    HAARP alone clearly can not pull it off. External aid is needed like
    airplanes or rockets injecting some extra 'plasma' at certain places.

    The patent was written in 1987 and since then enormous progress has
    been made without any doubt. The most important of course being the
    access to unlimited computing power, needed to determine place, time,
    amount and type of extra to be released gas in just a few seconds
    calculation time.

    Here below is a email i sent to Lucy Sherriff about her article
    on climate loonies :))

    Cheers,

    Robert
    ---------- Forwarded message ----------
    Date: Sat, 24 Sep 2005 18:54:15 +0200 (CEST)
    From: Robert M. Stockmann
    To: Lucy Sherriff
    Subject: U.S. Patent No. 4,686,605 : H.A.A.R.P. (fwd)


    Hello Lucy,

    As i was reading your article :

    "British scientist calls US climate sceptics 'loonies'"
    [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]British scientist calls US climate sceptics 'loonies' • The Register[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]The chairman of the Royal Commission on Environmental Pollution, Sir
    John Lawton amongst other things said this :

    "global warming is to blame for the increasingly strong hurricanes
    being spawned in the Atlantic."

    He could not be more accurate and right about this... The problem is
    however that _if_ global warming would be the cause, then Hurricane's
    and other monstrous weather events should be equally distributed across
    our globe. Thats clearly not the case.

    Hence i pose the suggestion that the "Global Heating" can currently be
    focussed and pointed to certain locations by techniques such as
    H.A.A.R.P. For convenience i attach U.S. Patent No. 4,686,605 , which
    is a hands-on embodiment of the H.A.A.R.P. technique inside Alaska.

    Regards,

    Robert
    --
    Robert M. Stockmann - RHCE
    Network Engineer - UNIX/Linux Specialist
    crashrecovery.org stock@stokkie.net
    [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]For
    more info on the background on HAARP and EISCAT (European Incoherent
    Scatter Association [Technology]) read Chapter 15 "Non-Lethal
    Electronic Weapons" from the book : [/FONT]
    1. [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]"Death in the Air"
      by Leonard G. Horowitz

      Product Details
      Hardcover: 526 pages
      Publisher: Tetrahedron (May, 2001)
      ISBN: 0923550305
      [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]
      <table class="tborder" style="margin:10px 0" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="400"> <thead> <tr> <td class="tcat" colspan="2" style="text-align:center"> Amazon (Thumbnails) </td> </tr> </thead> <tbody> <tr> <td class="panelsurround" align="center"> [​IMG]
      Amazon (Thumbnails) </td> </tr> </tbody> </table>​

      [/FONT] [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]"Few realize that the Atlantic Richfield Oil Company (ARCO) and thus
      in effect Arco Power Technologies Incorprated (APTI) is closely
      linked to the British Royal Family, MI6, the Committe of 300, NATO
      and the leading globalists' Club of Rome.[12]"
      [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]and of course : [/FONT]
    2. [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]"Angels Don't Play This HAARP: Advances in Tesla Technology"
      by Nick Begich, Jeane Manning

      Product Details
      Paperback: 233 pages
      Publisher: Earthpulse Press; 1st ed edition (September, 1995)
      ISBN: 0964881209
      [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]
      <table class="tborder" style="margin:10px 0" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="400"> <thead> <tr> <td class="tcat" colspan="2" style="text-align:center"> Amazon (Thumbnails) </td> </tr> </thead> <tbody> <tr> <td class="panelsurround" align="center"> [​IMG]
      Amazon (Thumbnails) </td> </tr> </tbody> </table>​

      [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]The various patent pages in TIFF format: [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]total 2788
    -rw-r--r-- 1 crashrec klant 36966 Sep 26 02:10 [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Publication-Number-04686605-page1.tif[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]-rw-r--r-- 1 crashrec klant 18060 Sep 26 02:10 [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Publication-Number-04686605-page2.tif[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]-rw-r--r-- 1 crashrec klant 17067 Sep 26 02:10 [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Publication-Number-04686605-page3.tif[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]-rw-r--r-- 1 crashrec klant 28771 Sep 26 02:10 [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Publication-Number-04686605-page4.tif[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]-rw-r--r-- 1 crashrec klant 119309 Sep 26 02:10 [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Publication-Number-04686605-page5.tif[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]-rw-r--r-- 1 crashrec klant 116787 Sep 26 02:10 [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Publication-Number-04686605-page6.tif[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]-rw-r--r-- 1 crashrec klant 123090 Sep 26 02:10 [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Publication-Number-04686605-page7.tif[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]-rw-r--r-- 1 crashrec klant 112463 Sep 26 02:10 [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Publication-Number-04686605-page8.tif[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]-rw-r--r-- 1 crashrec klant 125210 Sep 26 02:10 [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Publication-Number-04686605-page9.tif[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]-rw-r--r-- 1 crashrec klant 124444 Sep 26 02:10 [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Publication-Number-04686605-page10.tif[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]-rw-r--r-- 1 crashrec klant 128473 Sep 26 02:10 [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Publication-Number-04686605-page11.tif[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]-rw-r--r-- 1 crashrec klant 47572 Sep 26 02:10 [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Publication-Number-04686605-page12.tif[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]"Is it the weather or government terror?" by Jerry Mazza[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Scott Stevens' Weather Wars[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Forecaster leaves job to pursue weather theories[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Alex
    discusses hurricanes Katrina and Rita and weather modification with
    Meterologist Scott Stevens. An audio interview by Alex Jones held on
    Sep 27, 2005 : [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]total 25724
    -rw-r--r-- 1 crashrec klant 15922656 Dec 21 2005 [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]280905stevens.mp3[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]-rw-r--r-- 1 crashrec klant 7383004 Jan 24 21:13 [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]sh09-08-05-7megfile-bestsound.rm[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]First published on Mon, 19 Dec 2005

    [​IMG]
    [​IMG]
    [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]HAARP's magnetometer chart from Aug 21-28. Notice the huge spike in HAARP
    activity between Aug 24-25. The spike coincides exactly with Katrina's landing in Florida. [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]HAARP and Hurricane Katrina, page 1[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Was Hurricane Katrina Scalar engineered?

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ภาพความเสียหายในเมืองเป่ยชวน เสฉวน ขณะนี้ จีนกำลังระดมกำลังนับ 100,000 คน
    ออกช่วยเหลือกู้ชีวิตเหยื่อแผ่นดินไหวตามที่ต่างๆ ซึ่งประมาณว่ายังมีผู้ติดอยู่ในซากปรักหักพังถึงเกือบ 20,000 คน

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=-kT8TLYDX0I"]HAARP Demonstration, Proof of Earthquake light over in China - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=KKMTSDzU1Z4"]30 mins before the 2008 Sichuan earthquake in China - YouTube[/ame]

    [/FONT] Uploaded by innison on May 14, 2008
    Bizarre colorful (luminous/glowing) cloud phenomenon in the sky was observed about 30 mins before the May 12, 2008 Sichuan earthquake took place. This was recorded in Tianshui, Gansu province ~450km northeast of epicenter, by someone using a cell phone.

    Bizarre colorful (luminous/glowing) cloud phenomenon in the sky was observed about 30 mins
    before the May 12, 2008 Sichuan earthquake took place. This was recorded in Tianshui,
    Gansu province ~450km northeast of epicenter, by someone using a cell phone.

    source: 视频:5月12日甘肃天水地震前半小时天空出现彩云_新闻_腾讯网

    See similar cloud formation captured 20 minutes later in a different city, ~200km east of this location:

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=hzVamNQzfYA"]10 mins before the 2008 Sichuan earthquake in China - YouTube[/ame]

    A map of the locations with sightings of very similar phenomenon.

    [​IMG]

    大紀元 - 網友:地震前1小時我拍到的異象
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    These clouds seemed to be glowing or somewhat luminous and seemed to resemble
    some characteristics of the Auroras. I am not sure exactly what they were or whether
    they indeed had anything to do with the quake. I am no expert anyways.
    See if any scientists are willing to give a full explanation.

    If such phenomenon can be proved for its connection with earthquake occurrences,
    maybe they could be used as warning signs and would be life saving. If not,
    just learn these clouds as yet another rare atmospheric phenomenon and
    no need to panic when seeing them.

    After all, this might well be just a rare atmospheric phenomenon occurred by coincidence.
    Though, just wondering if there's any possibility the formation of such rare clouds be
    catalyzed by any event??

    I guess some of you might find the following articles interesting.

    Earthquake Alarm - IEEE Spectrum
    After Quake, Attention Grows On Early-Warning Systems - WSJ.com
    Sign in to read: Curious cloud formations linked to quakes - environment - 11 April 2008 - New Scientist

    Indiadaily.com - Earthquake lights show Extraterrestrial UFOs in the vicinity

    [​IMG]

    Inside China's Nuclear Weapons Program
    China | Country Profiles | NTI
    China possesses a comprehensive nuclear infrastructure for both military and civilian purposes, including enrichment and reprocessing capabilities. China initially constructed its military nuclear facilities with Soviet assistance, but after that state’s withdrawal, completed them independently. In the late 1960s China constructed numerous military nuclear facilities as a part of its “Third Line” policy of duplicating essential military infrastructure. Beginning in the late 1980s, China initiated a policy of “military to civilian” conversion of industries, including nuclear energy, and has established many nuclear corporations for civilian nuclear energy programs. China currently has 14 nuclear power reactors in operation and 25 under construction, in addition to 15 operational research reactors.[1]

    Relevant Individuals and Institutions

    The Chairman of the Central Military Commission (CMC) is the ultimate authority with regards to China's nuclear weapons, and the management of relevant facilities.[2] The CMC has delegated authority over the Chinese military’s nuclear facilities to the General Armaments Department (GAD) under the People’s Liberation Army, which oversees the China Academy of Engineering Physics (CAEP).
    CAEP is responsible for most of the research, development, testing and production of China’s nuclear weapons.[3]

    Chinese Academy of Engineering Physics (CAEP) - China Nuclear Forces
    Mianyang / Zitong
    Mien-yang / Tzu-t'ung
    Chinese Academy of Engineering Physics (CAEP)
    Southwest Institute
    31�28'N 104�46'E


    The Chinese Academy of Engineering Physics, also known as the Southwest Institute, is the primary design laboratory for Chinese nuclear weapons, located in Mianyang (Sichuan). Mian Yang city lies on the northern tip of the Chengdu Plain.

    China's nuclear weapon R&D founder remembered
    [​IMG]
    China's nuclear weapon R&D founder remembered

    ( Source: Xinhua ) 2012-February-28 06:23

      BEIJING, Feb. 27 (Xinhua) -- China has held a series of activities to commemorate the first anniversary of the death of Zhu Guangya (1924-2011), a leading scientist in the country's research and development of nuclear weaponry.
      The institutions that have organized commemorative activities include the General Armament Department of the Chinese People's Liberation Army (PLA), the Chinese Academy of Engineering (CAE) and the China Academy of Engineering Physics (CAEP).



    [​IMG]

    Noppadon Pattama
    ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว
    นาซ่า บอกจะมาถ่ายก้อนเมฆ แต่ ปชป ยกเมฆ ว่าเขาจะส่งเครื่องบินมาสอดแนม ผมว่าถ้าอเมริกาจะสอดแนมจริง ใช้ดาวเทียมถ่ายรูปแทบจะรู้ว่าบนโต๊ะกับข้าวนั้น เป็นต้มยำกุ้ง ชนิดน้ำข้น การที่ปชป ยกประเด็นกลัวนาซ่าจะส่งเครื่องบินมาสอดแนม ผมว่า ดูหมิ่นสติปัญญาคนไทยมากเกินไป และที่สำคัญได้แสดงความขบขันให้เป็นที่ประจักษ์ไปในโลก และนอกโลกที่มนุษย์อวกาศในสถานีอวกาศของนาซ่าได้หัวเราะกันถ้วนหน้า

    6-30 มิ.ย.2555 จองตั๋วเฝ้าระวังรอบ 4.."กีฬาสี เมกัน ภัยธรรมชาติ น้ำท่วมไทย".เริ่มแล้ว! - หน้า 122 - PaLungJit.com

    รัฐบาลไทยยืนยันว่าโครงการสำรวจชั้นบรรยากาศไม่มีเป้าหมายด้านการทหารเพราะนาซาเป็นองค์กรพลเรือน

    คือรัฐบาลก็จะออกมาบอกว่านาซาเป็นองค์กรพลเรือน รมว.กลาโหมก็ออกมา นักวิทยาศาสตร์ บรรดาอาจารย์ก็ออกมาว่าเป็นองค์การพลเรือน คือในทางนิตินัยนั้นนาซาเป็นองค์การพลเรือนก็จริง แต่ในทางปฏิบัติเนี่ยในการดำเนินยุทธศาสตร์ของอเมริกานั้นจะร่วมกันทุกฝ่าย แล้วเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีด้านการทหารมันก้าวหน้า เวลาโจมตีกันเขาจะโจมตีจากอวกาศ มีการส่งสัญญาณขึ้นไปเพื่อหาพิกัดของเป้าหมาย โดยเฉพาะสถานีอวกาศมันเป็นจุดที่เขาสามารถใช้แสงเลเซอร์โจมตีกันได้ ตอนนี้จีนสามารถยิงจรวดไปทำลายดาวเทียมที่หมดสภาพของตัวเองได้ซึ่งทำให้ อเมริกาตกใจมากเพราะที่ผ่านมามีแค่ 2 ประเทศเท่านั้นที่สามารถยิงจรวดขึ้นไปทำลายดาวเทียมในอวกาศได้ คืออเมริกาและรัสเซีย แปลว่าตอนนี้ดาวเทียมของอเมริกาไม่ปลอดภัยแล้ว ล่าสุดจีนส่งสถานีอวกาศไปเชื่อมต่อได้ นี่เป็นสิ่งที่อเมริกันหวาดกลัว เลยวิพากษ์วิจารณ์โจมตีงบประมาณทหารของจีนอยู่ตลอดเวลา เพราะอเมริกาถือว่าการเติบโตของจีนมันกระทบต่อสถานะพี่ใหญ่ที่อยู่เหนือทุก ประเทศของอเมริกา ในโลกนี้เขาต้องเหนือกว่าทุกประเทศ

    http://www.thaichinese.net/News/Radar/radar.html
    อเมริกากล่าวหาเรดาห์จีนทำลายดาวเทียมจารกรรม

    สถานีทดลองทางวิทยาศาสตร์ของจีนที่จงซาน 中山 หลังจากที่โครงการก่อสร้างสถานีเรดาห์ความถี่สูง เพื่อใช้ในการสำรวจและทดลองสิ่งแวดล้อมทางพื้นดินและอากาสในบริเวณดังกล่าว ได้เป็นที่เพ่งเล็งและก่อความไม่สบายใจแก่อเมริกาที่เกร็งจะกระทบด่อด้าน “ความปลอดภัย” ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของอเมริกา ได้ยกเอาประเด็นของสถานีเรดาห์ความถี่สูงของจีนว่า อาจนำไปสู่การพัฒนาความสามารถในการต่อต้านเลเซอร์ของดาวเทียม ซึ่งจะไปขัดขวางและทำลายการจารกรรมทางดาวเทียมของอเมริกา
    ข่าว: ซีน่า 13/02/2006

    East-Asia-Intel.com

    http://www.uscc.gov/researchpapers/2007/FINAL_REPORT_1-19-2007_REVISED_BY_MPP.pdf
    PART 1. OVERVIEW

    The federal government is involved in many aspects of aerospace, such as national security, space exploration, and related R&D.
    NASA and Defense are major federal agencies most significantly involved in aerospace activities. Trends in aerospace R&D are described in an appendix
    6. All of the recommendations cited here are oriented to the future, some as far ahead as 2025, and thus are consistent with the putative position that China will never be the first to weaponize space.

    Plasma Attack Against Low-Orbit Spy Satellites 29


    Professor Yang Juan stops just short of explicitly recommending plasma attacks for China, yet her enthusiasm for demonstrating the feasibility of this approach seems obvious.
    “This paper studies the effectiveness of using plasma to interrupt low-orbit reconnaissance satellite operations and proposes a scheme for using plasma against satellites. Analysis of satellite charging and discharging effects and mechanisms in a plasma environment indicates that plasma damages low-orbit satellites by causing arc-discharging potential differences to form on the surface of a satellite and that produces strong arc currents and electromagnetic pulses that damage solar cells, surface temperature control materials, microwave and electronic instruments on a satellite, and disrupts normal antenna operations.

    US Aerospace Research and Development Funding Trends47

    Aerospace R&D includes a wide range of activities, from basic scientific research to the development of new technologies in increasingly diverse fields of study. Federal dollars continue to be a significant contributor to U.S. aerospace R&D, but in recent years, the federal role has declined relative to industry funding. The three major federal agencies that support aerospace R&D— Defense, NASA, and FAA—have different priorities and missions that are reflected in their respective R&D portfolios. Defense’s R&D budget is greater than any other agency—with a large majority of its R&D funds supporting development projects—and its R&D budgets for air and space R&D has increased in recent years. NASA’s current prioritization of space exploration has driven R&D funding priorities, and under current plans NASA will provide more funding for development activities than for basic and applied research. Likewise, NASA’s projected funding for aeronautics research and science is in slight decline. FAA, with the smallest R&D budget of the three agencies, focuses funding on the development of the next generation air transportation system (NGATS), but its R&D funding has also declined.

    World Tribune.com -- China radar at South Pole could sabotage U.S. spy satellites

    Chinese Radar on S Pole Sabotage US Satellites?


    | ไทยโพสต์

    ทะลุอวกาศเพื่อแก้บ้า (1)

    ท่านขุนน้อย

    11 กุมภาพันธ์ 2553 - 00:00

    ในเมื่อข่าวคราวว่าด้วยสถานการณ์บ้านเมือง...มันยังวนไป-วนมา ไม่ยอมไปไหนซักที วันนี้...
    เห็นทีจะต้องทะลุออกไปนอกอวกาศ ให้พอได้ หายบ้ากันมั่ง!!! เพราะถ้าหากมัวหมกมุ่นอยู่แต่เรื่องเดิมๆ
    เรื่องที่ไม่ได้ก่อให้เกิดพลังในทางสร้างสรรค์ ก่อให้เกิดบรรยากาศในทางสันติสุข สันติภาพใดๆ
    แม้แต่น้อย...ขนาดระดับผู้นำสูงสุดของประเทศ แถมยังมียศมีตำแหน่งเป็นจอมพล 5 ดาวซะอีกต่างหาก
    อย่างเช่น ฮวยเซ็ง เป็นต้น...ยังต้องถูกใครต่อใครนำเอามาพาดหัวเป็นข่าวว่า...บ้าไปแล้ว...
    ได้แบบเต็มปากเต็มคำ...

    -------------------------------------------

    สำหรับอวกาศที่อยากจะชวนท่านผู้อ่านให้ลองทะลุออกไป เพื่อแก้บ้านั้น...
    ก็คงเป็นอวกาศในระดับความสูงจากพื้นผิวโลกของเราไปประมาณ 40-60 ไมล์เป็นอย่างน้อย
    นั่นก็คืออวกาศหรือชั้นบรรยากาศในระดับที่เรียกๆ กันว่า ไอโอโนสเฟียร์ ซึ่งแม้นจะเป็นเขตพื้นที่
    ที่ไม่ได้มีใครจับจองเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ นับตั้งแต่มีโลกใบนี้ขึ้นมาก็ตาม ไม่ว่าจะพลิกประวัติศาสตร์แห่งอดีต
    ย้อนหลังกลับไปกี่หมื่นกี่แสนกี่ล้านปีก็ตาม แต่สำหรับ ประวัติศาสตร์แห่งอนาคต แล้ว ว่ากันว่า...
    ในพื้นที่อาณาบริเวณดังกล่าว ถือได้ว่า...เป็นพื้นที่ที่ประเทศอภิมหาอำนาจสูงสุดในโลกอย่างสหรัฐอเมริกา
    ค่อนข้างจะให้ความสนใจเอามากๆ ถึงกับมีการจัดตั้งโครงการอันมีมูลค่านับหมื่นๆ แสนๆ ล้าน หรือที่เรียกๆ
    กันว่า โครงการ HAARP (High Frequency Active Auroral Reserch Project) ขึ้นมาศึกษาอะไรต่อมิอะไร
    ภายใต้สภาพชั้นบรรยากาศที่ว่ากันโดยเฉพาะ...

    --------------------------------------------

    อันที่จริงแล้ว...ชื่อของโครงการ HAARP ที่ว่านี้ ก็คงไม่ถึงกับเป็นที่สะดุดตา สะดุดใจ ใครต่อใครมากมายนัก
    จนกระทั่งเมื่อเกิดกรณีแผ่นดินไหวในเฮติ ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมานั่นแหละ ชื่อโครงการดังกล่าว
    ก็จึงถูกหยิบมา จุดพุล โดยคู่รัก คู่แค้น และคู่กัดของปร

    ะเทศสหรัฐอเมริกา นั่นก็คือโดย ประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ แห่งประเทศเวเนซุเอลา ที่อาจรู้สึกหวาดหวั่น
    ขวัญผวา ต่อกองกำลังทหารอเมริกันนับพันนับหมื่นที่ถูกส่งเข้าไปยังประเทศเล็กๆ แห่งนี้ ด้วยข้ออ้าง
    ทางมนุษยธรรม เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตลอดไปจนถึงการส่ง
    เรือบรรทุกเครื่องบินที่ทันสมัยที่สุดเคลื่อนเข้าไปเทียบท่า คอยอำนวยความสะดวกให้กับปฏิบัติการ
    ทางมนุษยธรรมในภาคพื้นดิน...

    -------------------------------------------

    การที่มีทหารอเมริกันเข้ามายุ่มย่าม ยั้วเยี้ยอยู่ในบริเวณหมู่เกาะเล็กๆ แถบทะเลแคริบเบียนนั้น
    แม้นว่าจะไม่ได้ส่งผลสร้างแรงกดดันโดยตรงต่อประเทศเวเนซุเอลา ของ ประธานาธิบดีชาเวซ
    ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงต้องหันไปฟัดกับเพื่อนบ้านใกล้เคียงอย่างประเทศ โคลัมเบียในช่วงระยะนี้มากมายนัก
    แต่ถ้าหากมองถึงภูมิรัฐศาสตร์ของเฮติ ที่อยู่ใต้ประเทศคิวบาแค่เพียงนิดเดียว ในฐานะ เพื่อนซี้ ของ
    อดีตประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตร แห่งคิวบา ชนิดเคยเดินทางไปเฝ้าอยู่หน้าเตียง ขณะที่เพิ่งฟื้นไข้
    ได้หมาดๆ เมื่อศัตรูของเพื่อน และ ศัตรูของตัวเอง เข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ ใต้สะดือมากขึ้นเรื่อยๆ
    ก็จึงถือเป็นเรื่องไม่แปลกที่ ประธานาธิบดีชาเวซ จะต้องออกมาโวยด้วยข้อกล่าวหาว่า
    นอกจากสหรัฐจะถือโอกาสแทรกแซงเฮติอันเนื่องจากเหตุการณ์ภัยพิบัติคราวนี้แล้ว
    เหตุการณ์แผ่นดินไหวในเฮติยังอาจเกี่ยวโยงไปถึงโครงการ HAARP
    อันเป็นโครงการที่เต็มไปด้วยปมปริศนาลึกลับมาโดยตลอดอีกด้วย...

    -----------------------------------------------

    เรื่องราวของโครงการ HAARP อันเป็นโครงการที่เริ่มก่อตั้งเป็นรูปเป็นร่างเมื่อประมาณปี ค.ศ.1990
    หรือเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว จึงถูกหยิบยกมาสร้างความหวาดหวั่น ขวัญสยอง สร้างจินตภาพอันซับซ้อน
    พิสดาร พอๆ กับหนังเรื่อง อวตาร ของ เจมส์ คาเมรอน ขึ้นมาอีกครั้งด้วยประการละฉะนี้...
    ซึ่งโดยสรุปคร่าวๆ นั้น ก็คงประมาณว่า ถ้าหากจะว่ากันโดยคำประกาศอย่างเป็นทางการ
    โครงการที่ว่านี้...ก็คือโครงการที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจสอบและ วิเคราะห์สภาพชั้นบรรยากาศ
    ในระดับไอโอโนสเฟียร์ เพื่อที่จะนำไปสู่การพัฒนาระบบติดต่อ สื่อสาร หรือเพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพ
    ในการควบคุมดูแลระบบความมั่นคง ปลอดภัย ของประเทศสหรัฐ โดยเฉพาะการติดต่อกับ
    ฐานปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกซีกโลก ไม่ว่าจะอยู่ในรูปฐานทัพ
    ที่มีลักษณะถาวร สถานีเรดาร์ หรือฐานบัญชาการที่มีลักษณะเคลื่อนไหว อย่างเช่น
    เรือดำน้ำติดขีปนาวุธนิวเคลียร์ หรือเรือบรรทุกเครื่องบิน ซึ่งถูกส่งไปลอยเท้งเต้งอยู่ใน
    แทบทุกน่านน้ำ ทุกมหาสมุทร นั่นเอง...

    ------------------------------------------------

    ด้วยเหตุนี้...แม้นว่าโครงการดังกล่าวจะมีลักษณะออกไปทางการสำรวจค้นคว้า ในเชิงวิชาการ
    แต่ถ้าหากดูจากผู้สนับสนุนโครงการรายหลักๆ แล้ว หนีไม่พ้นที่จะต้องสรุปว่า...ถือเป็นโครงการเพื่อ
    ปฏิบัติการทางทหาร กันโดยเฉพาะ เนื่องจากผู้ที่รับอาสาเป็นเจ้าภาพคอยอุ้มชูดูแลโครงการเหล่านี้
    นอกจากจะมีมหาวิทยาลัยอะแลสกาเป็นตัวชูโรง ร่วมกับสถาบัน DARPA ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ
    หน่วยงานสำรวจวิจัยเพื่อความมั่นคงของประเทศแล้ว ยังมีกองทัพอากาศ และกองทัพเรือสหรัฐ
    ร่วมทุ่มเทงบประมาณจำนวนมหาศาล ให้กับการดำเนินการตามโครงการดังกล่าวมาโดยตลอด
    โดยมีศูนย์กลางตั้งอยู่ที่เมืองกาโคนา ในรัฐอะแลสกา..
    .

    ------------------------------------------------

    และสิ่งที่ทำให้ใครต่อใครเกิดจินตนาการอันลึกล้ำ พิสดาร ต่อโครงการดังกล่าวมาตั้งแต่แรก
    เนื่องจากโดยเนื้อหา รายละเอียด ตลอดไปจนเครื่องมือ อุปกรณ์ ในการสำรวจวิจัยภายใต้
    การดำเนินการของ HAARP นั้น มันออกจะน่าตื่นตะลึงพรึงเพริดพอๆ กับ เอฟเฟ็กต์ ในหนัง อวตาร
    ของ เจมส์ คาเมรอน เอาจริงๆ นั่นแหละ สรุปง่ายๆ พอให้เห็นภาพคร่าวๆ ก็คงประมาณว่า...
    มันคือการติดตั้งเครื่องอุปกรณ์อันสุดแสนจะใหญ่โต มหึมา เพื่อที่จะรวบรวมเอาคลื่นส่งวิทยุ
    และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในระดับสูงสุด และมีพลังเอามากๆ ยิงขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์
    แล้วหาทางทำให้มันสะท้อนกลับ หรือกระแทกกลับไปยังพื้นที่จุดใดจุดหนึ่งบนโลกนี้ ในระดับที่
    สามารถเจาะทะลวงทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าสรรพสิ่งที่มีชีวิต หรือไม่มีชีวิต โดยที่พลังใดๆ หรือคลื่นใดๆ ก็ตาม
    ไม่อาจรบกวน กีดขวาง ได้เลยแม้แต่นิด...

    ---------------------------------------------------

    ด้วยความลึกล้ำ พิสดาร อันสุดแสนมหัศจรรย์ของโครงการ HAARP ที่สามารถควบคุมพลังคลื่นวิทยุ
    และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเอาไว้ในชั้นบรรยากาศ ซึ่งอยู่สูงไปจากผิวโลกถึง 40-60 ไมล์ แล้วยังสามารถ
    ทำให้เกิดการย้อนกลับลงมาเจาะทะลวงไปยังพื้นที่หนึ่ง พื้นที่ใดในโลกนี้ได้ทุกเมื่อ ทุกกาล สถานที่
    จึงทำให้โครงการดังกล่าวถูกจับตา ถูกนำมาวิพากษ์ วิจารณ์ โจมตี โดยบรรดานักวิทยาศาสตร์
    นักฟิสิกส์ นักต่อต้านอาวุธมหาประลัย ตลอดไปจนถึง นักทฤษฎีสมคบคิด ทั่วทั้งโลก
    นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1993 เป็นต้นมา ไม่ว่าจะในประเทศฟินแลนด์ ฮอลแลนด์ ออสเตรเลีย อเมริกา
    แคนาดา และรัสเซีย ฯลฯ โดยเฉพาะการระบุว่า...ด้วยศักยภาพของเครื่องมือชนิดนี้นี่เอง...
    ที่สามารถทำให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติชนิดต่างๆ ไม่ว่าแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด
    หรือกระทั่งคลื่นยักษ์สึนามิ ฯลฯ ได้ทุกเมื่อ??? เป็นไงท่าน...อ่านมาถึงช่วงนี้ ชักจะหายบ้า
    หรือเริ่มบ้าขึ้นมามั่งหรือยัง ถ้าหากยังไม่ถึงกับเป็นอะไร...เอาเป็นว่า...
    ก็ลองไปติดตามกันต่อในวันพรุ่งนี้...

    ------------------------------------------------

    ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก พลโทหลี่ เซ่า ถิง ผู้บัญชาการกองพลทหารพิทักษ์ที่ 3
    กองทัพปลดแอกประชาชนจีน...ในยุคที่ผ่านมา...การควบคุมมหาสมุทร
    คือกุญแจไขไปสู่อำนาจในการควบคุมโลก แต่ในปัจจุบันและในอนาคตข้างหน้า
    กุญแจดอกนี้มันอยู่บนอวกาศ...

    ----------------------------------------------------


    | ไทยโพสต์

    ทะลุอวกาศเพื่อแก้บ้า(จบ)

    ท่านขุนน้อย

    12 กุมภาพันธ์ 2553 - 00:00

    นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1993 หรือหลังจากที่โครงการอันสุดแสนจะลึกล้ำ พิสดาร ของสหรัฐอเมริกา
    ที่เรียกๆ กันว่า HAARP เริ่มต้นขึ้นมาแค่ไม่กี่ปี กระแสวิพากษ์วิจารณ์การตั้งข้อกล่าวหาโจมตี
    ก็ปรากฏให้เห็นอย่างเป็นระลอก ด้วยความลึกลับ ซับซ้อน อันสุดแสนจะหยั่งคาด ส่งผลให้เกิด
    การตั้งทฤษฎีสมคบคิด นานาประการต่อการดำเนินการของโครงการดังกล่าวมาโดยตลอด
    ชนิดที่ผู้สื่อข่าวตะวันตกบางรายอย่าง ชารอน เวนเบอร์เกอร์ ถึงกับต้องใช้คำอุปมา-อุปไมยว่า
    ไม่ต่างไปจาก Moby Dick of conspiracy theories เรียกว่า...ออกอาการมั่วๆ มึนๆ พอๆ
    กับการไล่ล่าอภิมหาปลาวาฬในนวนิยายยังไงยังงั้น...

    --------------------------------------------------

    นอกจากจะมีการตั้งข้อสงสัยว่าโครงการที่ว่านี้...สามารถทำให้เกิดภาวะแผ่นดินไหว เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ
    ตลอดไปจนถึงทำให้ภูเขาไฟระเบิดแล้ว ยังมีการหยิบยกเอาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์นานาชนิด
    มาตั้งเป็นข้อสังเกตทำนองว่า การทดลองหรือการสำรวจวิจัยในชั้นบรรยากาศของโครงการดังกล่าว
    จะมีผลทำให้เกิดคลื่นความร้อนในชั้นไอโอโนเฟียร์ แผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งผิวโลกอีกด้วยหรือไม่? ฯลฯ
    นักวิทยาศาสตร์บางรายที่กัดติด โครงการนี้มาโดยตลอด อย่าง ดร. นิก เบกิช และ จีน แมนนิ่ง
    ถึงกับร่วมกันเขียนหนังสือเปิดโปงโครงการ HAARP ในชื่อว่า Angles Don't Play HAARP ขึ้นมา
    ในปี ค.ศ.1995 และยังจัดทำเว็บไซต์เพื่อรวบรวมกระแสต่อต้านคัดค้านโครงการดังกล่าว
    อย่างเป็นกิจจะลักษณะจนตราบเท่าทุกวันนี้...

    ----------------------------------------------------

    แต่ข้อสังเกตที่ออกจะมี น้ำหนัก เอามากๆ...น่าจะได้แก่เอกสารรายงานของสภาดูม่า แห่งรัสเซีย
    ที่ได้นำเสนอต่อประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน ในช่วงปี ค.ศ.2002 ซึ่งแม้นจะไม่ได้มีการเปิดเผย
    ความคิด ความเห็นในระดับรายละเอียดของบรรดาสมาชิกสภารัสเซีย ต่อโครงการที่ว่านี้
    ออกมาให้ชัดๆ แต่พอสรุปคร่าวๆ ได้ว่า แม้แต่กระทั่งนักการเมืองชั้นแนวหน้าในประเทศรัสเซีย
    ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหวาดหวั่นขวัญผวาต่อโครงการดังกล่าวกันเป็นจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะ
    การระบุเอาไว้อย่างตรงไป-ตรงมาว่า โครงการที่ว่านี้...ถือเป็นโครงการพัฒนาอาวุธอันมี
    อานุภาพร้ายแรงยิ่งไปกว่า อาวุธนิวเคลียร์ด้วยซ้ำ...

    russia duma HAARP geophysical weapon earthquake Pravda electomanetic ussr Bernard Eastlund
    US HAARP Weapon Development Concerns Russian Duma
    ---------------------------------------------------

    อย่างไรก็ตาม...ไม่ว่าใครจะวิพากษ์วิจารณ์ กล่าวหา ตั้งข้อสังเกต หรือตั้งข้อสมมติฐาน
    ทั้งในแบบที่มีเหตุมีผล หรือไร้เหตุไร้ผลก็ตาม โครงการ HAARP ก็ยังคงเดินหน้าต่อในฐานะ
    ที่เป็นส่วนหนึ่งและส่วนสำคัญ ของแผนระยะยาวในการป้องกันทางอวกาศ ของสหรัฐ ซึ่งได้ถูก
    รื้อฟื้นขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1983 ในยุคของรัฐบาลประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=dq6ZsF6bzOA"](Star Wars-Ronald Reagan ) Strategic Defense Initiative - SDI - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=oyJjngsudW4"]Reagan launches SDI - YouTube[/ame]
    1982 press conference announcing Star Wars

    และโดยจุดมุ่งหมายของแผนระยะยาว ที่ว่านี้ ได้เคยถูกเปิดเผยผ่านรายงานของ คณะกรรมการด้านอวกาศ
    ในปี ค.ศ.1998 หรือในช่วงที่นาย โดนัลด์ รัมสเฟล อดีตรัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลประธานาธิบดี
    จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ยังคงมีฐานะเป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้อยู่ มีเนื้อหาสาระที่น่าสนใจเอามาก
    ดังที่ได้ระบุเอาไว้ในช่วงหนึ่งว่า..."ระบบโลกาภิวัฒน์จะทำให้โลกเป็นไป อย่างเป็นอิสระมากขึ้น
    อิทธิพลของบรรษัทข้ามชาติจะลดทอนความสำคัญของข้อตกลงด้านความมั่นคงลงไปเรื่อยๆ
    และภายใต้ภาวะเช่นนี้ ช่องว่างระหว่างชาติที่มั่งคั่ง กับชาติที่ยากจน จะขยายตัวยิ่งขึ้น
    รวมไปถึงช่องว่างระหว่างคนรวย-คนจนในแต่ละประเทศ ก็จะยิ่งแผ่ขยายในขอบเขตทั่วทั้งโลก
    ด้วยเหตุนี้ การพัฒนาพลังอำนาจทางอวกาศของสหรัฐ ย่อมนำมาซึ่งขีดความสามารถ ในการควบคุม
    ความขัดแย้ง และภัยคุกคามต่างๆ ซึ่งจะปรากฏตัวขึ้นมาในอนาคตข้างหน้าได้อย่างเบ็ดเสร็จ..."

    --------------------------------------------------

    สรุปเอาเป็นว่า...ไม่ว่าโครงการ HAARP ที่ว่านี้ มันจะลึกลับซับซ้อน พิสดาร ขนาดไหน
    สามารถทำให้เกิดแผ่นดินไหว น้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิด ได้อย่างที่พวก นักทฤษฎีสมคบคิด
    พยายามออกมาเขย่าขวัญสั่นประสาทของใครให้ต้องหูแหก ตาแหก ไปบ้างแล้วก็ตาม...
    แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ถือได้ว่ามันคือภาพสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของการแก่งแย่ง ชิงดี
    เอาชนะคะคานกันระหว่างประเทศอภิมหาอำนาจทั้งหลาย ที่นับวันไม่เพียงแต่จะก่อให้เกิด
    ความปั่นป่วน วุ่นวาย ในระดับพื้นผิวโลก ระดับใต้ฟ้า ใต้มหาสมุทร แต่เพียงเท่านั้น...
    แต่มันยังเตลิดเปิดเปิงไปในระดับนำมาซึ่งความปั่นป่วน วุ่นวาย ทะลุโลก ทะลุอวกาศ
    ไปแล้วถึงขั้นนั้น...

    ----------------------------------------------------

    ขนาดสูงไปถึงชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ ที่ไม่เคยมีมนุษย์รายหนึ่ง รายใด ซึ่งเกิดมาบนโลกใบนี้
    เคยได้เป็นเจ้าเข้าเจ้าของกันมาก่อน ยังต้องถูกแปรสภาพให้กลายไปเป็นพื้นที่ยึดครอง
    หรือพื้นที่อิทธิพลของชาติมหาอำนาจกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังที่ บรู๊ซ แกกนอน
    ผู้ประสานงานเครือข่ายต่อต้านขีปนาวุธทางอวกาศ ได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า "วัตถุประสงค์ที่แท้จริง
    ของโครงการทางทหารของสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับอวกาศนั้น ไม่ได้เป็นไปเพื่อการป้องกันเท่านั้น
    แต่เป็นไปเพื่อควบคุม และครอบครองต่างหาก หรือเพื่อปฏิเสธประเทศอื่นๆ ในการใช้ประโยชน์
    จากอวกาศ อันจะทำให้สหรัฐอเมริกากลายเป็นเจ้าอวกาศในท้ายที่สุด..."

    ----------------------------------------------------

    แต่ในขณะที่ชาติมหาอำนาจ...ได้เตลิดเปิดเปิงไปไกลกันแล้วถึงขั้นนี้ สิ่งที่ดูน่าอเนจอนาถ
    ไม่น้อยไปกว่ากันก็เห็นจะหนีไม่พ้นไปจากบรรดาประเทศเล็กๆ กระจอกๆ ทั้งหลาย
    ที่ยังคงมิวายดิ้นรน คิดจะซื้ออาวุธแปลกๆ ใหม่ๆ เพื่อเอาไว้ใช้ข่มขู่คุกคามหรือเพื่อประหัตประหาร
    กันและกัน ทั้งๆ ที่ไม่ว่าใครชนะใครแพ้ ต่างก็ เสร็จมหาอำนาจ ไปด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะบางประเทศ
    ที่แค่เงินจะซื้อข้าว ปลา อาหาร ซื้อยารักษาโรค ซื้ออุปกรณ์การเรียนการศึกษา ฯลฯ
    มาให้กับผู้คนในประเทศยังแทบหาไม่ได้ จนประเทศตัวเองต้องถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศด้อยพัฒนา
    หรือประเทศยากจนอันดับต้นๆ ของโลก...แต่เพียงแค่ได้เห็น น้ำบ่อหน้า หรือเห็นเงินๆ ทองๆ
    ที่อาจได้มาจากทรัพยากรเล็กๆ น้อยๆ ก็ดันเอาไปใช้แลกกับ อาวุธ ใหม่ๆ ซะนี่
    แถมยังเป็นอาวุธที่คิดจะนำมาใช้เพื่อแย่งซากอิฐ ซากปูน เศษหิน ดิน ทราย
    อันกองปรักหักพังอยู่ในเนื้อที่แค่ไม่กี่ตารางกิโลเมตรเท่านั้นเอง...

    ------------------------------------------------------

    ที่เปรียบเปรย รำพึง รำพัน เอาไว้เช่นนี้...ก็คงไม่มีอะไรหรอกท่าน เนื่องจากอุตส่าห์ชวนกันไปทะลุ
    ถึงนอกโลกนอกอวกาศ เวลาจะหาที่ลงเหมาะๆ มันก็เลยออกจะยากซ์ซ์เล็กน้อย เผอิญเมื่อไม่กี่สัปดาห์
    ที่ผ่านมาไปอ่านเจอข่าวเรื่องประเทศกัมพูชา ภายใต้การนำของอภิมหาจอมพล 5 ดาว สมเด็จฮวยเซ็ง
    ประกาศจะเพิ่มงบประมาณทางทหารขึ้นไปอีกนับเป็นพันๆ ล้านดอลลาร์ จะด้วย ความเปรี้ยว
    ต่อผู้นำรายนี้เป็นการเฉพาะ หรือความตึงเครียดจากการถูกข่มขู่ คุกคาม ด้วยการเคลื่อนกำลังทหาร
    มาตรึงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาก็แล้วแต่...ก็เลย ต้องขออนุญาตร่อนลงตรงกลางกบาลของ
    สมเด็จฮวยเซ็ง ด้วยประการฉะนี้...เฮ้ออ์อ์อ์ อะไรมันจะน่าอเนจอนาถ น่าทุเรศ

    เวทนาเท่านี้ย่อมไม่มีอีกแร้นน์น์น์....

    ---------------------------------------------------------

    ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก จอห์น เรย์..."เมื่อสงครามเริ่มต้น...เจ้าปีศาจก็ได้เวลาขยายนรกให้ใหญ่ขึ้น...".
    --------------------------------------------------------

    http://<wbr>www.his-forever.com/<wbr>chinese_8-0_earthquake_deli<wbr>berately_caused_by_harrp.h<wbr>tm

    Russian and Chinese leaders are reportedly angry at the United States

    They believe that the huge Chinese 8.0 earthquake on May 12 was deliberately caused by America's HARRP electromagnetic waves.

    David Bay, 7/19/08

    This is the story as we have observed on the Internet.

    NEWS BRIEF: "HAARP Caused China Earthquake! China Considers War Against U.S.A. Over Earthquake 'Attack' ", Let's Roll Forum, June 5, 2008

    "Photos prove 90 Million Watt, Pulsed, Long-Wave, Radio Waves from HAARP array in Alaska, combined with Pulsed Microwaves from a US Military Satellite in orbit, caused Chinese land to 'resonate'. As the land began resonating, it's own movement tore itself apart, causing the massive earthquake."

    The photos which are then shown on this website, above, are interesting, but I cannot verify that they actually occurred over the skies of China prior to the earthquake. Furthermore, the Cutting Edge webmaster, Jim Hedgepath, talked directly to Dr. Nick Begich, the world's leading expert on HAARP and the author of the DVD, shown above. Dr. Begich said that, while it is certainly possible that the United States launched a HAARP attack on China on May 12, causing the 8.0+ earthquake, he cannot confirm that.

    Dr. Begich also said that an electromagnetic attack causing a quake emits tell-tale signs just prior to the attack which would alert officials of the nation under attack that the quake was deliberately set. Therefore, if the huge earthquake were to have been caused by HAARP electromagnetic waves, Chinese authorities would know it.

    That brings us to our final segment on this subject.

    Rumors are flying around the Internet that both Russian and Chinese leaders are so angry that they are planning to retaliate against America by staging their own massive earthquake on American soil.

    One Cutting Edge subscriber called me yesterday to tell me that he had heard on a Christian radio station that President Putin was planning a Russian strike on America.

    We cannot confirm this, either.

    However, we have been saying for a very long time that the Illuminati Plan for the World War III scenario which will produce Antichrist does foresee a massive attack on the San Andreas Fault, most likely in Los Angeles!

    Our sources for this information come from two writings.

    FEMA warned on September 10, 2001, that America faced three extreme dangers, the last of which was a massive earthquake on the San Andreas Fault.

    NEWS BRIEF: "12 lessons that S.C. can learn from Katrina", The State Newspaper, September 4, 2005

    "In 2001, the Federal Emergency Management Agency ranked the most likely and deadly disasters that could befall the United States. The top three were a terrorist attack on New York, an earthquake in San Francisco and a hurricane in New Orleans. The list was announced at a conference on Sept. 10. The next day was 9/11."

    This news is so incredible that we need to stop right here, so we can accurately understand what we have just been told. On September 10, 2001, FEMA accurately "predicted" three" most likely and deadly disasters that could befall the United States". These deadly disasters foretold were:

    A) Terrorist attack on New York

    B) An earthquake in San Francisco

    C) A hurricane in New Orleans

    On the very next day after this FEMA prediction, the attacks of 9/11 occurred -- the Twin Towers and The Pentagon were attacked, precisely as the Illuminati Card Game predicted in 1995! Obviously, disasters #1 and #3 from this list have already occurred. Therefore, one has to worry that an unprecedented earthquake on the West Coast -- either in Los Angeles or San Francisco -- might be next on the "hit list" of the Illuminati. Remember, Scalar Wave Technology and HAARP can produce both hurricanes and earthquakes in whatever magnitude is desired, and precisely at the location desired.

    As we have noted before, New Age author, Bill Cooper, noted that an unprecedented earthquake was planned for Los Angeles, and the movie "10.5" depicted just this scenario. So, will the massive coming quake occur in Los Angeles or San Francisco, or both, since both cities lie on the same end of the same geological quake faults.

    New Age author, Bill Cooper, warned in his book "Behold A Pale Horse", that Los Angeles was going to be hit with an unprecedented quake of 9.0 or greater, and that this quake would be part of the Illuminati Plan for the World War III that would produce the Masonic Messiah.

    "Can you imagine what will happen if Los Angeles is hit with a 9.0 quake, New York City is destroyed by a terrorist-planted atomic bomb, World War III breaks out in the Middle East, the banks and the stock markets collapse, Extraterrestrials land on the White House lawn, food disappears from the markets, some people disappear, the Messiah presents himself to the world, and all in a very short period of time?" [Behold A Pale Horse , Bill Cooper, p. 177]

    Therefore, there will be an earthquake deliberately triggered in Los Angeles! And, when you see it, you will know that the appearance of Antichrist is very close.

    And, you will know that Russia's Scalar Weaponry was the cause of it.

    http://letsrollforums.com/<wbr>haarp-caused-china-earthqua<wbr>ke-t17345.html?s=5e96d2bb7<wbr>ae0425c6ad6ced318421686&am<wbr>p%3Bs=92c9e632ff73b44d8a3d<wbr>db54dd744812&p=156230

    HAARP Caused China Earthquake!

    China Considers War Against U.S.A. Over Earthquake "Attack"

    Photos prove 90 Million Watt, Pulsed, Long-Wave, Radio Waves from HAARP array in Alaska, combined with Pulsed Microwaves from a US Military Satellite in orbit, caused Chinese land to "resonate."

    As the land began resonating, it's own movement tore itself apart, causing the massive earthquake

    Photos from Tianshui city, Gansu province, China -- the city near the epicenter of the quake -- show strange cloud patterns a full two days BEFORE the quake hit. The cloud formations can be seen breaking apart in patterns indicating they were being hit systematically with something from above.

    The clouds were being affected by the two sets of radio waves. As the waves pounded down from the sky, the clouds broke apart in very orderly fashion; proving that something from above (other than wind) was affecting this specific area of China.

    Some clouds, shown below, even contained their own Rainbow!

    So that you can feel comfortable that none of these photos have been tampered with for effect, below is video showing the rainbow clouds as they developed over the area. You can see the clouds moving. As they move into the area being pounded by high-powered radio and micro waves, the clouds develop the internal rainbow. As they drift out of the high-powered radio and microwaves, the rainbows disappear. This ought to provide some level of corroboration of the still images and make clear to everyone that something was coming down from above, which caused this.

    The "long wave" attack originated from the HAARP array in Alaska. These extremely long radio waves were pulsed slowly and traveled deep underground when they hit. The much smaller, pulsed microwaves from a US military satellite, pulsed at a faster rate and, because the wavelength is so much smaller, they did not penetrate deeply into the ground.

    Long, slower, waves hitting deep;

    Shorter, faster waves hitting shallow.

    The deep rock began to resonate at one frequency (tempo) and the surface rock/dirt began to resonate at a different, faster rate.

    The two separate rates of resonation caused literally BILLIONS of tons of dirt and rock to begin subtly, gently, almost imperceptibly slapping against each other within the ground!

    With all that weight hitting itself it wouldn't - and didn't - take long for a key geological lock to be crushed, allowing a sudden movement of a large land area underground, which was felt as a massive earthquake at the surface.

    Lest you think that radio waves "can't cause anything to move" consider your microwave oven. Using as little as 500 watts, microwaves traveling through food "excite" the molecules within the food. The molecules start rubbing together. The friction of the molecules bouncing off each other causes heat. The heat cooks the food.

    Now, take that same proven technique and multiply it to ninety million watts, pounding down on a particular area for at least two full days. Do you see how that amount of energy, pounding down relentlessly for at least two days, might cause the molecules inside some rocks to start moving? As the first rock molecules start to "excite" they bounce into other molecules causing not only some heat but in this case tiny vibration. As the vibrations spread to other rocks underground, they too start to vibrate.

    What's that you say? You STILL don't believe that radio waves could affect earth and rock in a way to cause any kind of vibration? OK, I will offer you a final real-life example: Avalanches.

    As most of us know, something as small as a sneeze can cause an avalanche. To prevent avalanches, Park Rangers and Ski Slope managers do what? They detonate a single stick of dynamite to cause a "shockwave that spreads" causing a chain reaction that causes hunddreds of millions of pounds of rocks, earth or on ski slopes, snow to . . . . move.

    Back to the China earthquake, when several hundred billion tons of earth and rock start to vibrate, even impercetibly to humans, the enormous weight of that small vibration packs a gargantuan wallop. All it takes is for that wallop to act upon a weak point, crushing it, which then allows a tectonic plate to move. . . . maybe an inch. When billions of tons of rock and earth suddenly moves one inch,the resulting shockwave is felt as a HUGE earthquake.

    Humans, surrounded by a buffer of air and subjected to local noise from traffic, airplanes and everything else we hear in a typical day, could not hear or feel the subtle slapping underground. Frogs, however, could feel it and hear it.

    As their watery environment filtered out all surface noises and as the water itself carried the vibrations from underground, the minute slapping caused by the radio waves probably sounded like a gigantic bass drum beating all around them. Scared, disoriented or just driven nuts by this terrible sound (to them), tens of thousands of frogs came out of the waters around the city!

    Initially, average people and even meteorologists in China, thought this was a natural phenomina -- until the earthquake struck the exact same area. Then the folks there started putting two and two together: China was attacked!

    This attack was deliberate and it was done to teach China a lesson: OBEY the "New World Order" or China can be destroyed with a weapon that cannot be defended against and which leaves no forensic evidence to PROVE the quake was deliberate.

    Understandably, the Chinese government is furious. They and their people have paid a huge and terrible price so that some New World Order douchebag could "send them a message."

    As of May 28, 18 days after the massive earthquake, the "price" the Chinese people have paid (so far) is:

    68,516 dead
    365,399 injured
    19,350 missing

    While the human cost was steep, the financial impact of this attack will surely total in the hundreds of billions, perhaps even trillions of dollars.

    Sources now tell The Hal Turner Show that China is not going to allow this to go unpunished. They are considering a retaliatory attack. It may be a strike against the HAARP facility, it may involve the shoot down of a satellite, it may just be an economic attack - dumping their $1.3 TRILLION in US Dollar currency reserves, which will devalue the United States Dollar overnight, crushing the US financially.

    Such an economic attack would serve two purposes: It would be proper retaliation AND, it would impede US military dominance. With a wrecked economy and worthless currency, the US would no longer be a superpower, paving the way for others to gain worldwide dominance. Whatever form the retaliatory strike takes, rest assured this is going to get ugly. . . . fast. The worst part, however, is that once again, our Zionist Occupied Government (ZOG) has done something which the average American citizen did not - and NEVER would - approve. Yet it is we average Americans who could end up as cannon fodder if a fight breaks out as a result of what ZOG has done - again.

    We citizens need to wise up and "alter or abolish" our federal government by any means necessary. Our government has become "destructive" of our unalienable rights to life, liberty and the pussuit of happiness, not to mention having just slaughtered yet another batch of foreigners without cause.

    If We The People do not rise up and put a dead stop to our Zionist Occupied Government, the rest of the world may have to.

    A very entertaining article which I hope is actually true. It would be great if we really had an earthquake weapon! If the Chinese want to retaliate all they have to do is jump up and down all two billion of them at the same time. This would surely cause a major earthquake here in the USA. Two Billion Chinese jumping up and down for two hours nonstop would shatter the planet!!

    Outside Source Confirms China Attack Plan -- Click
    http://<wbr>www.whatdoesitmean.com/<wbr>index1104.htm
    then SCROLL DOWN for Story

    Russian Foreign Ministry reports are stating today the Prime Minister Putin’s ‘sudden’ diplomatic trip to France was made at the behest of China’s President Hu in order to ‘warn’ the European Union not to become involved with the US following what is widely expected to be a ‘retaliatory strike’ against the United States, and who the Chinese military has blamed for the catastrophic May 12th earthquake that has killed nearly 90,000 human beings.

    Chinese and Russian Military scientists, these reports say, are concurring with Canadian researcher, and former Asia-Pacific Bureau Chief of Forbes Magazine, Benjamin Fulford, who in a released from his Japanese offices to the American public, details how the United States attacked China by the firing of a Billion Million Volt Shockwave from the Americans High Frequency Active Auroral Research Program (HAARP) facilities in Alaska.

    So powerful was this Shockwave, Britain’s Times Online News Service is reporting that the entire atmosphere over the Chinese earthquake zone became mysteriously changed 30 minutes prior to the 8.0 Magnitude Trembler

    “Can clouds predict earthquakes? YouTube has footage of YouTube- Broadcast Yourself. seen just before the recent earthquake struck Sichuan province in China.

    The first impression is of a rainbow smeared on to small scraps of clouds, a phenomenon best known in a circumzenithal halo. This is created when sunlight shines through cirrus clouds full of tiny hexagonal ice crystals shaped like plates. The crystals behave like glass prisms, splitting the light into a bow with the colours of the spectrum, often brighter than a rainbow.

    But one puzzle is that the colours in the Chinese clouds were upside down from a normal circumzenithal halo – red pointing towards the horizon and blue towards the Sun, instead of the other way round.”

    Russian scientists are further speculating that the United States strike against China was ‘exactly timed’ to coincide with the dangerous experiments ongoing at Large Hadron Collider for the European Organization for Nuclear Research (CERN), and which we had previously reported on in our May 13th report titled “CERN ‘Nailed Heart Of Earth’ With China Quake, Chilean Volcano”.

    Russian Military Analysts note that though China’s Military has ordered its vast submarine fleet to ‘disperse’ throughout the Pacific Ocean, the Chinese ‘attack’ against the United States would, most likely, take a form of economic warfare instead of an actual clashing of forces.

    A very entertaining article which I hope is actually true. It would be great if we really had an earthquake weapon! If the Chinese want to retaliate all they have to do is jump up and down all two billion of them at the same time. This would surely cause a major earthquake here in the USA. Two Billion Chinese jumping up and down for two hours nonstop would shatter the planet!!

    http://<wbr>benjaminfulford.com/<wbr>ProfileEnglish.html
    Who is this guy?
    He's Jesuit trained
    Following taken from this thread:

    Ever Since its Establishment,
    an International Tradition has been at the Heart of Sophia

    The origins of Sophia University can be traced back to 1549,
    when St. Francis Xavier arrived in Japan on a mission from
    the Society of Jesus. Realizing that the Japanese people possessed
    a highly advanced culture, Xavier wanted to open a European-style
    university in the country. However, it took until 1906 for the project
    to get under way, as it was in this year that Pope Pius X eventually
    authorized the Society of Jesus to establish the first Catholic
    university in Japan.

    To this end, three Jesuits were dispatched on a special mission in 1908.
    They were the Rev. Joseph Dahlmann, a German with a profound
    knowledge of Indian and Chinese culture, the Rev. Henri Boucher,
    a Frenchman who had worked for many years in China, and the Rev.
    James Rockliff, an Englishman who was active in the United States.
    The university was finally established in 1913 and Fr. Hermann Hoffmann, a German philosopher, was chosen as its first president.

    The Jesuit spirit of these four founding fathers emphasizes respect
    for the history and culture of different peoples,
    and encourages efforts toward understanding across national
    and cultural divides. This same spirit continues to permeate
    and guide education at Sophia today.

    http://www.sophia.ac.jp/<wbr>eng/e_top

    http://en.wikipedia.org/<wbr>wiki/Loyola_Jesuit_College
    http://en.wikipedia.org/<wbr>wiki/Ignatius_of_Loyola
    http://<wbr>www.historylearningsite.co.<wbr>uk/Jesuits.htm

    http://www.luc.edu/<wbr>responds/
    Loyola University Chicago is partnering with Sophia University,
    a Jesuit, Catholic university in Tokyo, Japan. Funds raised by
    Loyola will support Sophia's efforts to aid its students and
    their families who have been affected by the events ensuing
    from the recent earthquake.

    http://<wbr>www.reformation.org/<wbr>don-francis-borgia.html
    Don Ignatius LIEola (1491-1556).

    The Jesuit General is referred to as the '"Black" Pope
    at the Vatican because he always dresses in black!!

    Jesuit General from 1541 to 1556.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • harrp1.jpg
      harrp1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      17.6 KB
      เปิดดู:
      566
    • harrp2.jpg
      harrp2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.6 KB
      เปิดดู:
      482
    • harrp3.jpg
      harrp3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23.1 KB
      เปิดดู:
      575
    • harrp4.jpg
      harrp4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      130.1 KB
      เปิดดู:
      494
    • harrp5.jpg
      harrp5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.7 KB
      เปิดดู:
      551
    • harrp6.jpg
      harrp6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.1 KB
      เปิดดู:
      473
    • harrp7.jpg
      harrp7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      254.5 KB
      เปิดดู:
      546
    • harrp8.jpg
      harrp8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.5 KB
      เปิดดู:
      492
    • chengdu_nuke_resize.png
      chengdu_nuke_resize.png
      ขนาดไฟล์:
      912.2 KB
      เปิดดู:
      577
    • china mod.jpg
      china mod.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.1 KB
      เปิดดู:
      543
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2012
  14. sunny430

    sunny430 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,299
    ค่าพลัง:
    +5,425


    เข้าวันที่ 1 กรกฏาคม 2555 เรียบร้อยแล้วนะครับ ผมและทุกท่านที่ติดตามกระทู้นี้ก็ร่วมเฝ้าระวังกันมาครึ่งค่อนปีเป็นที่เรียบร้อยนะครับ แม้ยังไม่มีภัยใหญ่เกิดกับประเทศไทยของเรา แต่ทว่าอย่าเพิ่งตัดพ้อว่าเหนือ่ยหรือรอเก้อ เพราะครึ่งปีหลัง เอาตามข้อมูลในหลายหลักการที่ผมคิดไตร่ตรองดูก็พบว่า น่าจะมีโอกาสเกิดเรื่องเลวร้ายไม่อย่างใดก็อย่างนึงกับเราชาวไทยครับ เหมือนดวงเมืองได้กำหนดว่าภายในปีนี้น่าจะมีเหตุร้ายแต่มิทราบได้ว่าเหตุอะไร

    ผม sunny430 ในฐานะนักเฝ้าระวังเหตุการภัยพิบัติ และนักเตรียมพร้อมหนึ่งคน ก็คงไม่วายเฝ้าระวังต่อไปจนถึงสิ้นปีครับ เพราะโลกใบนี้ของเราได้เปลี่ยนไปแล้ว โดยภัยธรรมชาตินั้นมาหนักและมาไวกว่าเดิมมากแถมถี่มากขึ้น ไม่รู้ว่าตามความร้อนของโลกที่เพิ่งค่าเฉลี่ยขึ้น หรือ มากขึ้นตาม solar maximum หรือวงรอบการแผ่รังษีดวงอาทิตครับ

    ผมจึงเปลี่นชื่อรอบการเฝ้าระวังจากรอบ 4 ที่ผ่านมาที่เราเฝ้าดูเดือน มิย 2555 ทั้งเดือน มาเป็น "จองตั๋วเฝ้าระวังรอบ 5 "ภัยธรรมชาติ น้ำท่วมไทย พายุ ดินไหว ม็อบประชาชนล้มตาย""

    ซึ่งหวังว่าทุกท่านที่ตั้งตนในสติและไม่ประมาทในทุกทางวจะเข้ามาร่วมจองตั๋วเฝ้าระวังกับผมต่อไปนะครับ รอบ5 นี้ผมไม่ได้กำหนดกรอบเวลานะครับ คิดว่าคงเฝ้าไปถึงสิ้นปี 2555 เลยครับ ส่วนวันที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษตอนนี้ก็คงมี 21 กรกฏา 2555 และ 21 ธค 2555 ครับ หากมีวันเฝ้าจับตาในระดับสีแดงเพิ่มเติมผมจะแจ้งให้ทราบครับ

    ผมหวังว่าทุกท่านจะได้ประโยชน์จากกระทู้นี้ในเชิงการ เพิ่มสติให้ตนเอง และ กระตุ้นตนเองให้เตรียมพร้อมเสมอนะครับ และหากมีเหตุการณ์ภัยอะไรก็ตาม หรือข่าวด่วนอะไร กระทู้นี้จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางมาอัพเดทท ทุกท่านตลอดเวลาครับ



    วันที่ 1 เดือน กรกฏาคม ปี พศ 2555
    sunny430
    นักเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ และ
    ชาวพลังจิตสายอาวุธเพือสันติ
     
  15. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571
    ลงชื่อ .....ช่วยเฝ้า ช่วยขำ และลักลอบยำกระทู้ !
     
  16. ชัยบวร

    ชัยบวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    928
    ค่าพลัง:
    +1,642
    มาร่วมด้วยเช่นเคยครับ...คุณ Sunny430 เริ่มรอบใหม่อีกแล้วนะครับ ปัญหาเรื่อง "อู่ตะเภา" นี้ผมก็ว่าน่าสงสัย ผมจะค่อย ๆ อ่านข้อมูลไปเรื่อย ๆ นะครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลต่าง ๆ มากมาย แต่สิ่งที่กล่าวได้ก็คือ อเมริกาต้องการผลประโยชน์แอบแฝงแน่ ๆ เพราะเคยได้รับทราบข่าวคราวมาว่า แม้กระทั่งองค์กรลับของอเมริกาก็จะทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของอเมริกาเท่านั้น ในขณะที่ไทยก็หวังผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม และโยนเคราะห์กรรมไปให้ประชาชนเป็นผู้รับแทน สังเกตุดี ๆ ครับจะพบพิรุธแม้กระทั่งในสื่อหรือคำกล่าวของบุคคลสำคัญ ๆ ก็เอื้ออะไร ๆ แฝงไว้ ทุกวันนี้ประชาชนรับเคราะห์กรรมมาโดยตลอด และจะต้องรับเคราะห์กรรมต่อไป โดยการอ้างว่าเป็นเรื่องของทุกคนบ้าง ต้องการเวลาที่จะทำสำเร็จบ้าง เป็นต้น อีกเรื่องที่น่าเป็นห่วงก็คือ "อาเซียน" ประชาชนคนไทยจะต้องรับเคราะห์กรรมอีก เพราะเราไม่พร้อมที่เปิดอาเซียน และยังจะต้องเจอกับปัญหาอีกมากมายตามมา ตาสีตาสาที่ไม่รู้เรื่องจะต้องเจอกับปัญหาที่จะต้องรับเพราะใคร ? ฝากกันไปพิจารณาครับ
     
  17. sunny430

    sunny430 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,299
    ค่าพลัง:
    +5,425


    เข้าวันที่ 1 กรกฏาคม 2555 เรียบร้อยแล้วนะครับ ผมและทุกท่านที่ติดตามกระทู้นี้ก็ร่วมเฝ้าระวังกันมาครึ่งค่อนปีเป็นที่เรียบร้อยนะครับ แม้ยังไม่มีภัยใหญ่เกิดกับประเทศไทยของเรา แต่ทว่าอย่าเพิ่งตัดพ้อว่าเหนือ่ยหรือรอเก้อ เพราะครึ่งปีหลัง เอาตามข้อมูลในหลายหลักการที่ผมคิดไตร่ตรองดูก็พบว่า น่าจะมีโอกาสเกิดเรื่องเลวร้ายไม่อย่างใดก็อย่างนึงกับเราชาวไทยครับ เหมือนดวงเมืองได้กำหนดว่าภายในปีนี้น่าจะมีเหตุร้ายแต่มิทราบได้ว่าเหตุอะไร

    ผม sunny430 ในฐานะนักเฝ้าระวังเหตุการภัยพิบัติ และนักเตรียมพร้อมหนึ่งคน ก็คงไม่วายเฝ้าระวังต่อไปจนถึงสิ้นปีครับ เพราะโลกใบนี้ของเราได้เปลี่ยนไปแล้ว โดยภัยธรรมชาตินั้นมาหนักและมาไวกว่าเดิมมากแถมถี่มากขึ้น ไม่รู้ว่าตามความร้อนของโลกที่เพิ่งค่าเฉลี่ยขึ้น หรือ มากขึ้นตาม solar maximum หรือวงรอบการแผ่รังษีดวงอาทิตครับ

    ผมจึงเปลี่นชื่อรอบการเฝ้าระวังจากรอบ 4 ที่ผ่านมาที่เราเฝ้าดูเดือน มิย 2555 ทั้งเดือน มาเป็น "จองตั๋วเฝ้าระวังรอบ 5 "ภัยธรรมชาติ น้ำท่วมไทย พายุ ดินไหว ม็อบประชาชนล้มตาย""

    ซึ่งหวังว่าทุกท่านที่ตั้งตนในสติและไม่ประมาทในทุกทางวจะเข้ามาร่วมจองตั๋วเฝ้าระวังกับผมต่อไปนะครับ รอบ5 นี้ผมไม่ได้กำหนดกรอบเวลานะครับ คิดว่าคงเฝ้าไปถึงสิ้นปี 2555 เลยครับ ส่วนวันที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษตอนนี้ก็คงมี 21 กรกฏา 2555 และ 21 ธค 2555 ครับ หากมีวันเฝ้าจับตาในระดับสีแดงเพิ่มเติมผมจะแจ้งให้ทราบครับ

    ผมหวังว่าทุกท่านจะได้ประโยชน์จากกระทู้นี้ในเชิงการ เพิ่มสติให้ตนเอง และ กระตุ้นตนเองให้เตรียมพร้อมเสมอนะครับ และหากมีเหตุการณ์ภัยอะไรก็ตาม หรือข่าวด่วนอะไร กระทู้นี้จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางมาอัพเดทท ทุกท่านตลอดเวลาครับ



    วันที่ 1 เดือน กรกฏาคม ปี พศ 2555
    sunny430
    นักเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ และ
    ชาวพลังจิตสายอาวุธเพือสันติ
     
  18. sunny430

    sunny430 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,299
    ค่าพลัง:
    +5,425
    สวัสดีเช้าวันที่ 2 กรกฏาคมครับ วันนี้ตื่นมารู้สึกไม่ค่อยสบายเลยครับ อ่อนเพลียและไม่มีแรงเดินเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ chem trail หรือไม่ อิอิ หรือเป็นสนามแม่เหล็กแปรปรวน วันนี้ผมอยากเข้ามาเตือนเรื่องวันอันตรายจากภัยมนุษย์ครั้งแรก น่าจะเป็นวันที่ 5-6 กรกรฏานี้ครับ หรือ อีก สามวันข้างหน้าครับ งานนี้ทุกท่านซื้ออาหารหรือ น้ำขวดรอได้เลยครับ หากศาล....โดนกลุ่มคนไม่พอใจเผาหรือทำลาย เรื่องคงบานปลายครับ ยังไงจับตาดูนะครับ

    ส่วนฟ้าฝนช่วงสองสามวันนี้ก็เอาดีไม่ได้ครับ ไทยเราต้องเตรียมระวังฝนหนัก ต้นไม่หักและ ไฟดับด้วยนะครับ

    ตอนนี้ 10.05 น เมฆแผ่นดินไหวอยู่เหนือหัวผมใน กทม ครับ ดูเป็นลอนๆใหญ่เลย เอาแล้วไงครับพี่น้อง
     
  19. zenit

    zenit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +1,014
    วันนี้หลายคนคงเป็นเหมือนกันที่รู้สึกไม่ค่อยสบาย(ดูบอลดึก^^)....ผ่านไปแล้วกึ่งปีครับ...ก็อย่าประมาทครับกึ่งปีก็เหมือนกึ่งพุทธกาล...ไคล์แมกก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ....ยังไงหนังตอนจบผู้ไม่ประมาทย่อมอยู่รอดครับ
     
  20. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    แหะ ๆ ๆ ขออนุญาตแซวขำ ๆ:boo:

    ไม่ทราบว่าคุณ sunny430 หมดค่าจองตั๋วไปเท่าไหร่แล้วขอรับ
    ผมจองตามคุณ หมดไปเยอะแล้วเหมียนกันเด้อ!!!
    แต่ว่าจองตั๋วรอดูแล้วไม่ได้ดู ผมว่ารู้สึกดีกว่ามีโอกาสได้ดูนะครับ:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...