ดูดวง ตรวจกรรม ศาสตร์ลายเส้นจิตผัส ไพ่พุทธญาณพยากรณ์...

[FONT=&quot]....
[/FONT][FONT=&quot][/FONT]

 

"ตอบ"

ธรรมวิญญาณ คือ การได้ระลึกรู้ หรือกรรมที่เป็นฝ่ายบุญ ที่ได้ปฏิบัติ
ได้กระทำมาแล้วในอดีต ที่ผูกติด หรือตราตรึงอยู่ในจิตดวงปัจจุบัน
แต่สามารถที่จะลืม หรือไม่รู้ก็ได้ ถ้ามีกำลังของวิบากกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ถ้าผู้ใดเร่งปฏิบัติในทางธรรม จะสามารถรอบรู้ เข้าถึงธรรมต่างๆได้ง่าย
และเร็วกว่าบุคคลอื่นๆ และสามารถพบสัจจะธรรม ของธรรม ของชาติได้อย่างแน่นอน
ตรงกับที่ตนเองเคยได้รู้มาแล้วแต่ไม่เต็ม ถ้าเร่งเติม จะเต็มในเร็ววัน....

ขอให้โชคดีรู้ธรรม รู้ชาติเถิด...

ลุงสามตา

 

....ไม่สิ้นสุด ถ้าก่อใหม่...
....แต่ที่สุด คือสิ้นสูญ ดับภพชาติ....

สาธุ...

 

สี ใส สีฟ้าคราม สีเหลืองค่ะ
รบกวนคุณลุงด้วยค่ะ

 

"ตอบ"

สิ่งที่ตนเองกังวล และเป็นห่วงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว
การเงิน ทรัพย์สิน หนี้สินถ้ามี...

จะได้รับความช่วยเหลือ แก้ไขในอีกไม่นาน
หรือเรื่องที่เกิดขึ้นจะค่อยๆดีขึ้นเพราะตนเอง และผู้ใหญ่ช่วยเหลือ

ในเรื่องทางธรรม...

ให้ตัดอารมณ์ที่ยังอาวรณ์ อ่อนไหว ไหลตามจิต
และอย่าผูกติดในทรัพย์ มากนัก...
แล้วจะมีครู หรือผู้ชี้ทางที่ติดอยู่ให้ได้รู้แจ้งขึ้น
แต่เป็นคนที่หาครูยากนัก เพราะตนเองมัก
เป็นคนปัญญาทิฐิ จึงมักจะมีคำถามเพื่อพิสูจน์ เพื่อรู้อยู่เสมอ
จึงเหมาะแก้การปฏิบัติธรรม ประเภทศึกษาเองก่อน
เมื่อพบครูที่ตรงจริตแทงจิตตนนั้นแหละถึงได้ธรรมยิ่ง
และตนเองจะมีปัญญาในทางธรรมมากยิ่งขึ้นไป


ลุงสามตา

 

-ปัญญทิฐิจะแก้ยังไงดีคะลุง อยากหาครูให้ได้... อยากลดปัญญาทิฐิ
-ขอบคุณค่ะคุณลุง แหะๆ ตรงแป๊ะ

-ลองดูตามวิธี(ดันไม่ได้สีเดิม ได้เขียวน้ำเงินม่วง) มะกี้ถึงไม่ได้ดูตามวิธีก็ตรงค่ะ


;aa14

 

ม่วง น้ำเงิน เหลือง ค่ะ
รบกวนด้วยนะคะ

 

สีแดง ชมพู ฟ้า ค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

 

เหลือง ม่วง ส้ม ครับ

 

สีฟ้า สีเหลือง สีชมพูครับ

 

ขาว,ม่วง,ชมพู ครับคุณลุงสามตา
ขอ อนุโมทนาบุญ ขอบคุณล่วงหน้าครับ<!-- / message --><!-- sig -->

 

เขียว ชมพู น้ำเงิน ครับ
...
ขอบคุณล่วงหน้างับ ^^

 

ตอนดู หินพระธาตุแก้วพญานาค ครั้งแรก ผมรู้สึกสะดุดตาอยู่สามสี คือ

น้ำเงิน แดง ดำ

ครับ.

 

"ตอบ"

...การที่จะลดได้นั้นย่อมมีอยู่ แต่การที่จะลดจะแก้ให้ได้เร็วๆนั้นย่อมยากอยู่

นี้เป็นกรรมวิบากอย่างหนึ่ง ในหลายๆภพภูมิที่เคยผ่านมา แล้วได้ไปอยู่ร่วม
ไปเกิดร่วม ไปสมาคมร่วม กับคนประเภท ปัญญาทิฐิมาก่อน

คือชอบที่จะพิสูจน์ หรือเคยเกิดนอกศาสนาพุทธมาก่อน
แต่พอจิตเริ่มมีปัญญา ว่านี้คือที่สุดแล้ว ดีแล้วควรเข้าหา

แต่ระยะเวลานั้นยังน้อยอยู่ จึงต้องแสวงหาผู้รู้ช่วยชี้นำที่ต้องจริต
แต่ปัญญาทิฐินั้นเป็นสัญญาเก่าที่เคยสะสมมานาน ยังคงติดอยู่

...เปรียบดัง นักวิทยาศาสตร์ ที่ต้องรู้ ต้องเห็น พิสูจน์ได้

...แต่ทางพุทธศาสตร์ คือ ความว่างเปล่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
ทุกอย่างล้วนเป็น ธรรม_ชาติ ที่จะดำเนินไปเช่นนั้น
มีจิตเท่านั้นที่ท่องเที่ยวไปจับเกาะในกายต่างๆที่สนองจิตได้...

...เป็นการทดลอง ที่จิต ที่มองไม่เห็นทางกายภาพ ไม่สามารถพิสูจน์
ให้เห็นได้ทันที ไม่สามารถที่จะให้หยิบจับ หรือสรุปเป็นหน่วย เป็นมวล
เป็นหลักฐานได้...

...แต่ถ้าผู้ที่ฝึกฝนจนดีแล้วแจ้งแล้วในธาตุ ในธรรม ในชาติ
สามารถที่จะรู้เห็นได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย ว่า ของจริง เป็นจริง มีจริง
แต่นำมาเป็นมวลรวม ให้ร่วม ให้คนอื่นที่ไม่มีธาตุธรรม นั้นเข้าใจด้วยได้โดยยาก

...จึงขอกล่าวว่า ปัญญาทิฐินี้ ไม่ใช่ไม่ดี...แต่ดีตามวาระจิตตนเองที่ปราถณา
เพื่อพิสูจน์เอง เห็นเอง รู้เอง ปฏิบัติเอง ได้เอง พบเองผู้ที่ควรพบ

...เพื่อได้บันลุธรรมขั้นสูง เพื่อการช่วยเหลือสรรพสัตว์อื่นต่อไป

...ดวงจิตเหล่านี้ คือดวงจิตพระโพธิ์ญาณ อย่างที่สุด...

...พระนิพพาน เป็นที่หมาย...

...แต่ก่อนไป คือ ต้องรู้ ต้องเข้าใจ ต้องพิสูจน์
เมื่อได้แล้ว ต้องช่วยเหลือสรรพสัตว์ที่ร่วมทุกข์ไปด้วยตน


....ถึงจะใช้เวลานานแสนนาน แต่ทุกกาลย่อมเปลี่ยนแปลงได้ตามวาระจิต
ที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งดังคน ครึ่งหลับ ครึ่งตื่น ดังฝันไป
แต่ถ้ารู้ประคองสติสำรวจฝันนั้นไว้ จะมีหลายสิ่งที่ควรได้เป็นสาระ
จึงมีดวงจิตนี้ติดไว้ แต่ละกาลจึงเปลี่ยนไปตามวาระจิต
เมื่อไม่รู้ก็ทำตามจิตเดิมต่อไป ที่มีสัมมาทิฐิ ปัญญาทิฐิติดไว้
จึงเกิดได้หลายสถานที่ หลายลักษณะกาย


....ถ้าเริ่มรู้ตั้งสติตนเองได้ นับแต่นี้ไปอธิษฐานจิต เกิดเป็นผู้ชายให้ได้ทุกภพเถิด...


ขอจบเพียงแค่นี้เอ๋ย...

ลุงสามตา

 

"ตอบ"

สิ่งใดที่เสียไป ควรเสีย ไม่ควรผูก ควรทำใจในกาลเกิด
จะมีเรื่องเศร้าทุกข์ใจ ทรัพย์สินใดนอกกายอย่าได้ติด

ทุกข์ไป ผูกไว้ สิ่งอยากได้ปราถณายังใช้เวลา...รอ...
จะไปเร่งทุกๆการ ทุกๆกาล ไม่ได้เลย

เศร้าย่อมอยู่ ยังคงมี สูญเสียยังมี ยังคงอยู่ ตามวิบากกรรม

แต่ทุกข์ที่มี สิ่งที่รอ ปราถณา...
ย่อมมีวาระดีรออยู่...แต่ควรรู้ กว่าจะดี ต้องมีทุกข์หลายกาลก่อนเสมอ...

...จิตทางธรรม...
เป็นเรื่องเศร้า มีวาระจิต ที่หม่นหมอง ทุกข์เศร้า มีภาระที่จะต้องแบก
ต้องแก้ ต้องทำ ต้องช่วยเหลือ กับบุคคนที่ตนเองผูกไว้...

มีจิตที่ยังต้องแสวงหาผูกพันธ์ในกาม ในทรัพย์
จึงมิสามารถที่จะปลดดวงจิตตนเองให้พ้นไปได้

แต่มีดวงจิตแห่งธรรมอยู่ที่พอหวังได้ พึ่งได้ผูกติดไว้แล้ว
จึงควรเร่งในธรรมไว้ให้มากๆ ถ้าสนใจทางธรรม

แต่ถ้าพึ่งหวังทางโลก...ก็ต้องสู้กับเรื่องราวอีกมากมาย
ที่กำลังเกิดขึ้น จะเกิดขึ้น ดำเนินไปไม่สิ้นสุด...ร่วมเรียกว่า...ทุกข์...นั้นเอง


ขอให้พบธรรม...

ลุงสามตา

 

ตอบ

...เป็นวาระจิตที่กำลังวิตก ทุกข์กังวลอย่างมาก พยายามปฏิเสธตนเอง
หรือพยายามที่จะหลีกไปให้พ้นปัญหา ที่กำลังเกิดขึ้น ดำเนินไป
ต้องระวังถ้ายังปล่อยให้จิตตนเองเป็นอย่างนี้

จะไม่มีทางออกสำหรับจิตตนเองอย่างแท้จริง
อยู่แบบอิงค์ติดคนอื่น หรืออยู่แบบแบกคนอื่นไว้
อย่างนี้ เท่ากับทำให้ตนเองไปได้ไม่ถึงไหน

จิตต้องการทางออก เมื่อพบปัญหาหนักๆเข้ามา
แต่ทางออกแบบหนีปัญหา...ฆ่ากาย...
ถือว่า...ฆ่าผิดตัว...ควรจะฆ่าจิตตนมากกว่า

ที่คาดหวัง มุ่งหวัง มากยิ่ง ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกอย่างเกิดจากตน
คนอื่นเป็นเพียงตัวเสริม ตัวเร่งเท่านั้นเอง
...เมื่อตนขับรถบรรทุกสิ่งของมาหนักมาก
...เมื่อเหยียบคันเร่ง รถนั้นย่อมพุ่งไปข้างหน้า
...เมื่อรู้ว่าจะมีเหตุไม่ดี ถนนขรุขระ อันตรายรออยู่ข้างหน้า
...เมื่อไม่เหยียบเบรคชะลอรถ ก็หวังได้ว่าอันตรายนั้นย่อมเกิด
...เมื่อรู้ว่าหนักที่บรรทุกมา ก็รู้ขนถ่ายออกเสีย
...เมื่อรู้ว่าเร่งเร็วไปก็รู้จักชะลอ ปล่อยจากคันเร่งเสีย
...เมื่อรู้ว่าภัยรออยู่ข้างหน้า ก็รู้หยุด รู้หลักในการหลีกเสีย

นั้นแหละถึงจะทำให้ตนเอง พบตนเองได้ในที่สุด ก่อนจะสายเกินไป...

ถ้าให้ลุงแนะนำ...
ลุงว่าให้คุณปล่อยทุกอย่าง วางทุกสิ่งลง
แล้วเข้าไปปฏิบัติธรรม ประเภทสันโดด หรือให้คิดว่า
ตนเองต้องตายพรุ่งนี้ แล้วดูสิว่าควรมี ควรทำสิ่งใดเป็นครั้งสุดท้าย
ที่พอจะเก็บเกี่ยวไปได้บ้าง....ที่ควรนำพาไปเป็นเสบียงบุญ

...จะไม่มาแล้วนั้นพูดง่าย แต่ทำยาก...
จะเป็นดวงจิตลองลอยไร้จุดหมาย ไม่เกิดก็จริง
แต่จิตทุกข์ ที่ยังไม่เต็ม ปล่อยประจุไม่ได้ (คือหลุดพ้นไม่ได้)
ก็ต้องล่องลอยไปอีกนานแสนนาน จนกว่าจะรู้สึกจิตนั้นแหละ
แล้วจะไปพระนิพพานอย่างไร

...ทดสอบจิตง่ายๆ ว่าจิตตนเองมีพระนิพพานเป็นอารมณ์หรือไม่

กายของเราไหม...?
จิตของเราไหม...?
ทรัพย์ของเราไหม...?
บิดา มารดา ภรรยา ลูก หลาน ของเราไหม...?
ทุกข์ สุข ของเราไหม...?

ถ้าทุกอย่างตอบว่าไม่ใช่
แสดงว่าจิตพระนิพพานมีแล้ว

ทีนี้ลองทดสอบจิตลึกๆดูสิ
ถ้าสูญเสียไปทุกอย่างรู้สึกอย่างไร

ถ้ารู้สึกทุกข์ สงสาร เวทนา อาลัย เสียดาย
นี้แสดงว่าจิตนิพพานยังไม่เกาะ ยังไม่ถึง

ถ้ารู้สึก ว่างๆ วางๆ เฉยๆ ไม่มีอะไรเป็นสาระ ไม่ยึด ไม่เกาะ
เอาเลย นี้จิตนิพพานแน่...ทำต่อไปเลย

ทดลองนะ...

ขอให้โชคดี...พบธรรมโดยธรรมเถิด


ลุงสามตา

 

ขอบคุณค่ะคุณลุง...
เป็นผู้หญิงชาตินี้พออยู่ได้ค่ะ...แต่แย่ตรงแม่ไม่ให้ไปบวช
เป็นผู้ชายปานนี้คงไปบวชเณรแล้วค่ะ
แต่ไม่เป็นไร หนูจะทำชาติให้คุ้มที่สุดค่ะ
..ไว้ตายค่อยทรงภาพพระแล้วไปเลยค่ะ

 

ชมพู ฟ้า ใส ค่ะ
รบกวนด้วยนะคะคมสามตา
อยากถาม เรื่องความรัก (คนที่อยู่ไกลจากเราแล้วเค้าจะนึกถึงเราบ้างไหมคะ และมีโอกาสได้ติดต่อกันอีกไหมคะ)
หน้าทีการงาน และหนี้สิน ปัญหาของที่บ้าน

 

ช่วยดูให้ด้วยค่ะ

น้ำเงิน ;aa30 ขาว ;aa17 ฟ้า ;aa15 ค่ะ

 

"ตอบ"
...ถ้าปราถณารู้แต่การอธิษฐานไม่ถึงนั้นซึ้งขาดศรัทธา ย่อมไม่ถึงที่หมาย...

การงาน...การเงิน...ความรัก

ทุกอย่างยังต้องดิ้นรนต่อไป
หน้าที่การงานก็ต้องรับผิดชอบ

หนี้สิน เงินทองก็ยังต้องหามา
เพื่อสร้างตนครอบครัว ดูแลคนที่ควรดูแล

ทุกอย่างก็ย่อมต้องพบปัญหา
ต้องเหนื่อยกาย เหนื่อยใจเป็นธรรมดา

เมื่อมีรัก ก็ย่อมทุกข์ในรักนั้น ปัญหาย่อมมี

เมื่อมีกรรม คือ งานที่ต้องทำ เมื่องานนั้นไม่ลุล่วง
ย่อมมีปัญหา

เมื่อตนเองยังมีแรงปราถณา โทสะอยากไม่จบ
ย่อมมีทุกข์ในหลายๆเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างหลีกหนีไม่ได้เลย...


ลุงสามตา