ชมรมศินารา กำลังเปิดรับสมัคร เปิดบารมีวิชชาสาม รุ่นที่ 7 วันที่ 14 ก.ค. 56 คลิกหน้าสุดท้ย

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ภราดรภาพ, 29 มีนาคม 2013.

  1. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ทางอาจารย์ภราดรท่านก็เพิ่งให้โอนเมื่อเดือนก่อนนี่ล่ะครับ ส่วนหนึ่ง เพราะว่าค่าใช้จ่ายที่วัด (วัดก็ต้องเช่าที่) ขยับขึ้นเรื่อยๆ เหมือนห้องแถวเลย ค่าน้ำค่าไฟต่างหากอีก ทุกอย่างต้องจ่ายเงินให้กับพระที่วัดทั้งหมด เป็นจำนวนเงินหลายหมื่น ปัจจุบันศาลาที่เช่าอยู่นั้น ร้อนมาก มีเพียงพัดลม เมื่ออากาศร้อนขึ้นมากๆ ผู้มาร่วมเปิดบารมีและคณาจาีรย์ที่ต้องนั่งแก่วอยู่ทั้งวัน พาลจะเป็นลม อ.ภราดรภาพก็เลยประสงค์จะซื้อแอร์มาติดที่วัด ก็หมายให้ผู้เข้าร่วมงานได้ล่มเย็นสบาย เลยมีการเรียกเก็บเงินดังกล่าว ใครเต็มใจไม่เต็มใจบุญก็อยู่ที่จิตกุศลของผู้นั้น แต่อานิสงส์ย่อมเกิดแน่นอน คือการถวายแอร์ให้วัด ชีวิตย่อมมีความร่มเย็นเป็นสุข และ ส่วนอื่นๆก็เอามาสร้างศูนย์ปฎิบัติศินารา ซึ่งต้องใช้ปัจจัยมหาศาลหลายสิบล้าน จึงต้องระดมทุน ร่วมแรงทรัพ จากผู้ศรัทธา อานิสงส์คือการถวายวิหารทาน ซึ่งสถานที่นี้จะเป็นสาธารณะสถาน ให้ผู้สนใจมาพักปฎิบัติธรรม ฉะนั้น เจตนาที่ดี แต่หากเราเป็นคนนอก ไม่ได้รับรู้ถึงเจตนาที่แท้จริง ก็ควรเป็นกลางอยู่เฉยๆ ไม่ก้าวก่ายกันดีกว่าครับ แล้วการสมัครแต่ละครั้ง ก็ยังมีผู้ที่มาเสริมบารมี บางคนก็ยินดีทำบุญถวายปัจจัยตามกำลัง หรือบางคนจะไม่ทำ อาจารย์ก็ไม่ได้ว่าอะไร ทุกครั้งที่มีการเปิดบารมี จำนวนผู้ที่มาจะมากกว่าจำนวนผู้จองไปเกือบเท่าตัวเสมอ ใครมีปัจจัยน้อย อยากมาร่วมงาน สามารถคุยกับ อ.ภราดรได้ แม้เพียงยี่สิบบาทหรือบาทเดียว หรือไม่ต้องจ่าย อ.ภราดรก็ให้ได้


    ส่วนเรื่องการเปิดบารมี เปิดไม่ได้ทุกคนหรอกครับ ของที่ศินารา เป็นแบบให้สายญาณบารมีครูบาอาจารย์มาผ่านญาณด้วยตนเอง ถ้าติดกรรมก็เปิดไม่ผ่าน หรือ ยังไม่ถึงวาระ(ติดลังเล สงใส ศรัทธายังไม่พอ)ก็ยังเปิดไม่ผ่าน ก็ต้องกลับไปปฎิบัติให้มากขึ้น แล้วกลับมาเปิดใหม่

    ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหน จะสายร่างองค์ สัญญาบารมี หรือ วิชชาสาม ไม่มีใครหน้าไหน สามารถเปิดผ่านให้กับทุกคนได้ เพราะส่วนหนึ่ง ขึ้นกับการปฎิบัติของผู้รับการเปิด ส่วนหนึ่งผู้เป็นเจ้าพิธี และอีกส่วนก็คือ วาระ ของครูบาอาจารย์
    เรื่องนี้คุณโจ๊กย่อมเข้าใจดี เพราะคนที่เปิดกับคุณโจ๊กไม่ผ่านก็มีอยู่ การเปิดด้วยวิธีการของคุณโดยให้มองจ้องพระอาทิตย์ไม่ให้แสบตา เปิดไม่ผ่านคือมองแล้วแสบตาหน้ามืด คุณว่าบารมีไม่พอ ฉะนั้นการเปิดบารมีวิชชาสามก็เหมือนกันแล
     
  2. snakejoke

    snakejoke เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    374
    ค่าพลัง:
    +699
    นั่นมันของเก่าครับเปิดตาด้วยการมองพระอาทิตย์ ตอนนี้ไม่เปิดให้ใคฝรละ ได้บารมีที่สูงขึ้น ไปเปิดรหัสพลังที่เหนือกว่าได้สี่เดือนกว่า คนที่รู้จักผมเปิดได้ทุกคน และผลและสิ่งที่มี ไม่กล่าวถึงดีกว่า ลองไปอ่านบทความที่ผมเขียนขึ้นมาครับ
    โลกคือจุดศูนย์กลางจักรวาล และจะเข้าใจว่าผมทำอะไร และจุดที่ผมทำอยู่ถ้าไม่หาว่าผมบ้าก็จะรู้ว่ามันช่วยคนทั้งโลกลองติดตามดู
    อนึ่งการเปิดตามองพระอาทิตย์สำหรับผมเปิดได้99% นะไม่ใช่แสนคนตามที่หาเหมือนปัจจุับนคนที่เปิดไม่ได้จริงๆคือมีมารมากวนไม่ใช่บารมีอะไรตามที่เข้าใจครับ
     
  3. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    โมทนา สาธุ
    ขอให้ท่านเจริญด้วยบารมีอันสูงส่ง
     
  4. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ใจเย็นๆคุณโจ๊ก ในนี้ไม่มีใครหาว่าคุณบ้าหรอกครับ ถ้าบ้าคงบ้ากันหมดแหละ แต่ละคนมีวิธีการจุดยืนที่แตกต่าง แต่ถ้าผลลัพคือการช่วยคน สร้างสรรค์สิ่งดีดี มันก็คือสิ่งดีที่ควรทำ ต่างคนต่างวิธีการ ไม่ชอบไม่ถูกใจ จะไม่ก้าวก่ายกันและกัน การที่เขาไม่ได้บอก ไม่ได้แปลว่าไม่รู้ ผมก็ได้เห็น ได้รู้ ในสิ่งดีดี ที่คุณทำหลายอย่าง

    "อนึ่งการเปิดตามองพระอาทิตย์สำหรับผมเปิดได้99% นะไม่ใช่แสนคนตามที่หาเหมือนปัจจุับน" จากประโยคนี้ ก็ยังงงอยู่ ไม่ทราบว่าหมายถึงอะไร ๙๙%ไม่ใช่แสนคน คืออะไร????

    "ที่เปิดไม่ได้จริงๆคือมีมารมากวนไม่ใช่บารมีอะไรตามที่เข้าใจครับ" คือผมเคยโทรไปหาคุณด้วยตนเอง และได้ลงอวิธีของคุณคือการมองพระอาทิตย์ และคุณก็บอกเองว่า ผมยังบารมีไม่ถึง ประจวบกับประโยคข้างต้นที่คุณโจ๊กพิมไว้ตอนแรก เรื่องการเปิดบารมี "เปิดวิชาสามนี้สามารถเปิดได้ทุกคนหรือป่าวหรือเฉพาะคนที่มีบารมีถึง" จะให้ผมคิดว่าอย่างไรล่ะครับ เพิ่งจะได้ยินคำว่ามารมารบกวนวันนี้นี่แล วันนั้นบอกบารมียังไม่ถึง ผมก็งงใหญ่ ๕๕๕+

    แต่ก็เอาเถอะ ทางใครทางมัน ต่างคนต่างปฎิบัติในสิ่งที่ตนถนัด ทำสิ่งที่ดี ผมก็โมทนาด้วยครับ ไม่ก้าวก่ายกัน ไม่ปรามาส ไม่ดูถูกกัน ดีที่สุดล่ะครับ
     
  5. Akkra1978

    Akkra1978 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +1,486
    ตามที่ผมได้สมัครเปิดบารมีวิชชาสาม วันอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย. 2556 วันนี้ (31/05/2556) ผมได้โอนเงินไปให้แล้วครับจำนวน 299.01 บาท เวลาที่โอน 19:16 น. – อัครพงศ์
     
  6. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    โมทนา สาธุ
    ได้รับเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ


    ประกาศ รายชื่อผู้สมัครเปิดบารมีวิชชาสาม
    วันอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย. 2556 ณ วัดผ่องพลอยวิริยาราม

    1) คุณทองกร 1 ชำระเงินแล้ว
    2) คุณทองกร 2 ชำระเงินแล้ว
    3) คุณ VitVian 1 ชำระเงินแล้ว
    4) คุณ VitVian 2
    5) คุณ VitVian 3
    6) คุณ chutintorn_tani ชำระเงินแล้ว
    7) คุณ odet
    8) คุณอะอุ
    9) คุณ fondadum ชำระเงินแล้ว
    10) คุณพิทยาธร
    11) คุณณาตยา
    12) คุณปิยะวัฒน์
    13) คุณ Fleur_gib 1
    14) คุณ Fleur_gib 2
    15) คุณ Fleur_gib 3
    16) คุณ chpu2555
    17) คุณ sanannan (พรหมพิริยะ) ชำระเงินแล้ว
    18) คุณสิงหราช 0802209281
    19) คุณณัฏฐชัย ชำระเงินแล้ว
    20) คุณเติมบุญ ชำระเงินแล้ว
    21) คุณทัชดล (พิทยาธร)
    22) คุณวินิต (พิทยาธร) ชำระเงินแล้ว
    23) คุณ Champion ชำระเงินแล้ว
    24) คุณ pik ชำระเงินแล้ว
    25) คุณสลักจิต ชำระเงินแล้ว
    26) คุณบุญสม ชำระเิงินแล้ว
    27) คุณพงศธร 1 ชำระเงินแล้ว
    28) คุณพงศธร 2 ชำระเงินแล้ว
    29) คุณพงศธร 3 ชำระเงินแล้ว
    30) คุณพงศธร 4 ชำระเงินแล้ว
    31) คุณพงศธร 5 ชำระเงินแล้ว
    32) คุณพงศธร 6 ชำระิเงินแล้ว
    33) คุณ nongninew 1 ชำระเงินแล้ว
    34) คุณ nongninew 2 ชำระเงินแล้ว
    35) คุณพงษ์ทณัฐ ชำระเงินแล้ว
    36) คุณประทีป ชำระเงินแล้ว
    37) คุณ jirapornkongmun ชำระเงินแล้ว
    38) คุณ sorot ชำระเงินแล้ว
    39) คุณ wukecheng 1 ชำระเงินแล้ว
    40) คุณ wukecheng 2 ชำระเงินแล้ว
    41) คุณธานินทร์ moon111 (1) ชำระเงินแล้ว
    42) คุณหทัยรัตน์ moon111 (2) ชำระเงินแล้ว
    43) คุณอมรินทร์ (โต)
    44) คุณ khunnang ชำระเงินเรียบร้อยแล้ว
    45) คุณ pimmanee ชำระเงินแล้ว
    46) คุณทัตพงศ์ (จากสงขลา)
    47) คุณระพีพัฒน์
    48) คุณพงศธร 7 ชำระเงินแล้ว
    49) คุณพงศธร 8 ชำระเงินแล้ว
    50) คุณ jessy
    51) คุณ skinny_k 1
    52) คุณ skinny_k 2
    53) คุณมนตรี (tui) 1 ชำระเงินเรียบร้อยแล้ว
    54) คุณมนตรี (tui) 2 ชำระเงินเรียบร้อยแล้ว
    55) คุณอัครพงศ์ ชำระเงินเรียบร้อยแล้ว
    56) คุณ rapeepat
    57) คุณพงศธร 9 ชำระเงินแล้ว
    58) คุณสมศักดิ์ 1*
    59) คุณสมศักดิ์ 2*
    60) คุณสมศักดิ์ 3*
    61) คุณพสุธร 1 (อนุเคราะห์)
    62) คุณพสุธร 2 (อนุเคราะห์)
    63) คุณอภิรดา ชำระเงินแล้ว
    64) คุณ otcc
    65) คุณเอกราช
    66) คุณประนต
    67) คุณเอกสิทธิ์ *
    68) คุณพิศมัย
    69) คุณกฤชณัท ชำระเงินแล้ว
    70) คุณTanonchai ชำระเงินแล้ว

    จำนวนผู้สมัคร 70 คน

    เต็มแล้วครับ ปิดรับสมัคร

    ติดต่อสอบถาม
    อ.ภราดรภาพ : 081 808 6695


    โปรดชำระเงินภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2556
    โดยการโอนชำระผ่านบัญชี
    คุณทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ
    ธ.กรุงไทย สาขาศูนย์สิิริกิตต์
    เลขที่ 009 117 1393
    ประเภท ออมทรัพย์
     
  7. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2013
  8. ค้นตัวเอง

    ค้นตัวเอง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    บางคนยังไม่รู้ความหมายคำว่า..วิชชาสามเลยว่าคืออะไร ผมว่าคนส่วนใหญ่หมายถึงการไปเปิดองค์แล้วทำให้มีหูทิพย์ ตาทิพย์ เป็นผู้วิเศษ คนส่วนใหญ่ต้องการแบบนี้กัน แต่น่าจะแจ้งเตือนบอกกล่าวเขาด้วยนะครับว่ามันไม่ได้ทุกคนนะ เดี๋ยวไปผิดหวังกลับมาเหมือนหลายๆคน
     
  9. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    [​IMG]

    เปิดบารมีวิชชาสาม เพื่ออะไร? ทำไมต้องเปิด?


    ความรู้สึกที่เรานั่งมองผู้คนที่เปิดบารมีคนแล้วคนเล่า...เฝ้าถามตัวเองว่า สิ่งนั้นทำเพื่ออะไร...
    พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนสิ่งนี้รึเปล่า...เรากำลังแสวงหาทางลัดอะไรอยู่ใช่มั้ย...
    เราขี้เกียจนั่งสมาธิ ขี้เกียจเดินจงกรม ขี้เกียจสวดมนต์ ใช่หรือเปล่า ถึงได้แสวงหาสิ่งเหล่านี้...
    ฐานไม่มั่นคง อยากจะบินให้สูง จะไหวเหรอ...



    นี่เป็นหลายๆคำถามที่เกิดขึ้นในใจ ของทุกคนที่ได้เข้ามาสัมผัสกับการเปิดบารมีที่ศินารา
    ความเคลือบแคลงสงใส ว่าสิ่งนี้ ถูก หรือ ผิด บทความนี้จะสรุปสิ่งที่ทุกคนมองข้าม
    ให้แสดงออกเป็นรูปธรรมเป็นภาพที่ชัดเจน เพื่อตอบข้อสงใสทั้งหมดทั้งมวลที่มี


    การเปิดบารมีวิชชาสามเป็นดาบสองคม มีทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์
    ถ้าผู้รับการเปิดบารมี เป็นผู้ที่ฝึกฝนขัดเกลาจิตใจให้มีเมตตา มีพรหมณ์วิหารเป็นที่ตั้ง
    บุคคลผู้นั้นก็จะสรรค์สร้างแต่สิ่งดีงาม มีแต่คุณประโยชน์
    ตรงข้ามกัน หากผู้รับการเปิดบารมี เป็นคนพร่องศีล ทุศีล
    ผู้หวังค้นหาหนทางหลุดพ้นในตอนแรก แต่ด้วยกิเลสที่รุมเร้าจนยากจะห้ามใจ
    หลงติดใจในอภิญญาที่ตนได้รับ แล้วก้าวออกนอกเส้นทาง
    สุดท้ายไปทำในสิ่งที่ไม่สมควร ไปทำในสิ่งที่ผิดต่อศีลธรรม
    หาคุณงามความดีมิได้อีกต่อไป


    [​IMG]
    (รายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่รูป)

    เรื่องศูนย์ปฎิบัติธรรมที่ปากช่องนั่น ถ้าสร้างเสร็จ จะเป็นที่ฝึกปฎิบัติธรรมชั้นยอด
    สามารถใช้เป็นที่ฝึกจิต เพื่อทดสอบใครหลายๆคน ในเรื่องของคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ารับการเปิดได้
    จัดวิทยากรสอนธรรมมะได้ ฝึกกรรมฐานได้ สอนเรื่องกฎแห่งกรรม นรก สวรรค์ และมีที่พักพร้อม
    และเมื่อพิจารณาว่าคนนี้มีศีลดีพอ สภาพจิตพร้อม ก็เข้ารับการเปิดได้อย่างไร้ปัญหาที่จะตามมา
    แต่ในปัจจุบัน ต้องยอมรับว่ายังทำอย่างที่ตั้งใจไม่ได้ เพราะขาดสถานที่ฝึกปฎิบัติของชมรมเอง
    จึงต้องเช่าสถานที่เพื่อเปิดบารมีเสมอ ซึ่งค่าเช่าคิดเป็นวัน และค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ ต่างหากหมด
    รวมถึงค่าวัตถุดิบสำหรับทำอาหารเจและไม่เจ ที่แม่ๆผู้มีน้ำใจมาช่วยกันทำ เบ็ดเสร็จก็เกือบสองหมื่น
    แล้วตอนนี้เริ่มติดแอร์ก็มีค่าไฟแอร์แถมมาอีก ด้วยเหตุนี้ ค่าเช่าที่เพียงวันเดียวก็ใช้ค่าใช้จ่ายมากมาย
    ซึ่งจะให้ไปสอนธรรมมะ สอนการรักษาศีล สอนเรื่องสวรรค์ นรก ทั้งสิ้นในวันเดียวนั้นทำไม่ได้
    แค่เปิดบารมีอย่างเดียวก็กินเวลาไปทั้งวันแล้ว และผู้ที่มา ส่วนใหญ่ก็เพราะอยากเปิดบารมี
    อยากรู้อยากเห็นอยากลอง ไม่ได้มีใจอยากจะมาเรียน ไม่ได้อยากจะมาฟังเทศน์ฟังธรรมเลย
    ก็เลยทำได้แค่เปิดบารมี แต่อย่างน้อยในตอนนี้ที่ทำได้ คือ การชี้ทางสว่างให้กับคนที่มีทุกข์
    ชี้หนทางบรรเทากรรมแก่ผู้ที่ติดกรรมหนัก ให้บุคคลเหล่านั้น ทั้งที่เชื่อ และไม่เชื่อ
    ได้ประจักว่า ผลกรรมมีจริง และที่ชีวิตย่ำแย่ประสบแต่ความล้มเหลวทั้งหลาย
    เป็นเพราะสิ่งที่ตนเองได้กระทำไว้ในอดีตทั้งสิ้น และทำให้เขาเหล่านั้นหันมาปฎิบัติ
    สำนึกบาปขอขมากรรมทำแต่ความดี ถือเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่ง เพื่อให้โอกาสคนบาปกลับตัว


    สำหรับผู้ที่ไม่ได้ติดกรรมหนัก ก็จะสามารถเปิดผ่านได้
    ทำให้ตนเองสามารถสื่อสารกับครูบาอาจารย์ในโลกทิพย์ได้
    เมื่อเปิดบารมีผ่าน อัตลักษณ์ที่ออก จะเป็นการประทับทรง
    ตรงนี้หลายๆคนมีอคติกับ "ร่างทรง" กันอยู่มาก
    แต่การจะพัฒนาต่อไปได้ ทุกคนล้วนต้องก้าวผ่านจุดนี้ทั้งสิ้น
    เพื่อต่อยอด ไปสู่การยกระดับกำลังจิตเป็น "ญาณแฝง"
    ผู้ที่เปิดบารมีผ่าน สิ่งแรกที่ได้รับคือ ความศรัทธาที่ทวีคูณ
    ได้มองเห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น ได้รับรู้ว่า ผี วิญญาณ สัตว์นรก เปรต อสูรกาย
    และเทวดาทั้งหลายล้วนมีอยู่ ทำให้ตนนั้นเกรงกลัวที่จะต้องตกลงสู่ที่ต่ำ
    และหันกลับมาทำแต่สิ่งที่ดีๆ สร้างสมคุณงามความดี เพื่อให้ตนได้ไปสุขติภูมิ


    [​IMG]

    อีกทั้งยังมีโอกาสทำให้เราได้พบกับ ครูบาอาจารย์ที่ล่วงลับไปแล้ว
    เช่น สมเด็จพุทธาจารโต หลวงปู่ทวด หลวงพ่อสด หลวงปู่มั่น
    ถึงท่านเหล่านี้ละสังขารไปแล้ว แต่วิชาที่ท่านทั้งหลายได้เรียนรู้
    ธรรมมะที่ท่านเหล่านี้ได้เคยศึกษาไม่ได้เลื่อนหายไป
    จะเป็นการดีกว่าไหม ถ้าเราสามารถศึกษาวิชาจากท่านเหล่านี้ได้
    โดยเปรียบเสมือนท่านมาสอนเราด้วยตนเอง
    แม้แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่เคยมาตรัสรู้ แม้ปรินิพพานนานแล้ว
    แต่ก็ยังคงทิ้งคุณธรรมความดี และธรรมมะที่พระองค์ได้ตรัสรู้
    ไว้สอนสั่ง ผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบอยู่เสมอ ในรูปแบบของจิต
    มาในสภาพกายที่เป็นสัญญาขันธ์ตามแบบที่แต่ละคนได้เรียนรู้มา
    ซึ่งเรียกกันว่า "สัมโภคกาย"


    จะดีกว่าไหม ถ้าเราจะได้รับธรรมเทศนาจากพุทธองค์โดยตรง
    จะดีกว่าไหม ถ้ามีพุทธสาวก มาคอยชี้นำทางเรา ให้ตรงต่อพระนิพพาน

    ถ้ามีประตูร้อยประตู ประตูมรรคผลมีเพียงหนึ่ง
    ถ้าเราสามารถเลือกเปิดประตูได้เพียงปีละหนึ่งบาน
    เราต้องงมหาประตูที่ใช่ อาจจะโชคดี เจอแต่เนิ่นๆ
    อาจจะแค่สักสิบบาน คงใช้เวลาประมาณสิบปี
    แต่บางคนตามหามาทั้งชีวิต ก็ัยังเลือกไม่ถูกประตูที่ใช่
    จะดีกว่าไหม ถ้าเรามีครูบาอาจารย์ในโลกทิพย์ เป็นผู้ชี้ประตูที่ถูกให้เรา
    อาจจะมองดูว่าเป็นทางลัดเกินไป แต่ในยุคที่ศาสนาเสื่อมและกำลังจะล่มสลายนี้
    ผู้คนใจบาปหยาบช้า เป็นการยากนักที่จะก้าวมาทางนี้ได้ด้วยตนเอง
    แค่ให้บวชพระ ก็แทบจะดิ้นตายกันแล้ว หาความศรัทธาที่อยากจะบวชไม่มี
    ศาสนากำลังจะล่มสลาย หากไม่มีครูบาอาจารย์เหล่านี้ มาเสริมศรัทธาด้วยวิธีนี้
    ศาสนาคงอยู่ไม่ถึง ๕๐๐๐ ปีเป็นแน่ คนเรามักจะไม่เชื่อ ถ้าไม่ประสบกับตนเอง
    คนที่มาส่วนใหญ่ล้วนไม่เชื่อ แม้กฎแห่งกรรมก็ไม่กลัว
    แต่เมื่อองค์ท่านผ่านร่าง ถึงเชื่อเพราะเจอกับตัว
    มันก็คุ้มมิใช่หรือ ถ้าทำให้ผู้หลงผิดกลับตัวได้


    ศาสนาสอนทุกคน ศาสนาไม่แบ่งแยก ศาสนาไม่เลือกคน
    ไม่สนว่าจะเป็นคนดี หรือคนไม่ดี จุดประสงค์ของศาสนา เพื่อปั้นคนให้เป็นคนดี
    การเปิดบารมีในหน้างานอาจจะทำให้คิดได้ว่า นี่มันไม่ใช่คำสอนในศาสนา
    มันไม่ใช่ทาง แต่อยากให้มองให้กว้าง แล้วจะเข้าใจเจตนารมณ์
    การเปิดบารมีนั้น เปิดโอกาสให้คนหลง คนบาปได้มีโอกาสค้นพบแสงสว่าง
    เมื่อได้พบครูบาอาจารย์ที่ตนไม่เคยคิดว่ามีอยู่ คนบาปบางส่วนได้สำนึก
    ได้ตาสว่างจากอวิชชา มาปฎิบัติเป็นคนดี แม้เพียงคนเดียวจากร้อย ก็ถือว่าคุ้มค่ามากแล้ว
    ผู้ที่วาระมาถึง มีโอกาสได้รับโอกาสจากเบื้องบนแล้วทิ้งมันไป
    ไม่ได้ต่างจากการที่เจอพุทธองค์แล้วไม่ไปฟังธรรม ซึ่งน่าเสียดายนัก


    ถ้าเปรียบพระธรรมเป็นเรือข้ามฝั่ง ที่ลอยอยู่กลางทะเล งานเปิดบารมี ก็เหมือนเรือเล็ก
    ที่จะนำเราไปสู่เรือพระธรรมที่ลอยอยู่กลางทะเลนั้น ถ้าเราไม่ลงเรือเล็ก จะให้ว่ายไปเอง
    หากหมดแรงหรือถูกลมกระโชกคลื่นน้ำสูง ก็อาจจะจบชีวิตได้ เมื่อเรือที่จะพาเราไปสู่นิพพานอยู่ตรงหน้า
    แต่เรากลับโดดขึ้นไปไม่ได้ และเมื่อมีคนอาสา ที่จะพาเราไปส่งให้ถึงเรือที่ลอยอยู่กลางทะเลนั้น
    ทำไมถึงไม่ยินดีรับความกรุณานั้นไว้ เพราะเมื่อเราขึ้นเรือพระธรรมไปแล้ว
    ผู้พายเรือเล็กเขาก็ไม่ได้ขึ้นมากับเรา เขาเสียสละตัวเอง ยังไม่ไป ก็เพื่ออยู่ฉุดช่วยเหลือคนอื่นๆ
    เขาน่าจะเป็นผู้ที่เราควรยกย่อง มากกว่าการมองว่าเขาเป็นผู้พาออกนอกทาง


    [​IMG]

    ศินารา ไม่ใช่ผู้พาคุณไปสู่ที่สูงหรือที่ต่ำ
    ศินารา เป็นเพียงผู้ชี้ทาง
    ถ้าจะได้ดี ก็เป็นที่ตน
    ถ้าจะได้ชั่ว ก็เพราะตนทำ
    ถ้าคิดว่าตนดีพร้อม
    ไม่จำเป็นต้องกลัว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2013
  10. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ชมเทปบรรยายทัวร์บุญ

    <object width="560" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/66Uttbk8xaM?hl=en_US&amp;version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/66Uttbk8xaM?hl=en_US&amp;version=3" type="application/x-shockwave-flash" width="560" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2013
  11. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ชมภาพบรรยากาศการเรียนทิพย์ญาณวิชชาสาม
    วันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย. 2556 ณ วัดผ่องพลอย


    รออัพ
     
  12. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    สอบถามอาจารย์ขอรับ โดยปกติผมจะมีอาการ ขุททกาปิติกับโอกกันติกาปิติ อยากทราบว่าการเกิดปิติเกี่ยวข้องกับเทพ/พรหมหรือไม่ หรือเป็นอาการที่เกิดจากจิตเท่านั้น คนที่ไม่มีองค์ก็มีอาการแบบนี้ได้ใช่ไหมครับ ถ้าอาจารย์ตอบว่าใช่ผมขอสรุปว่าในบริเวณที่เรานั่งสมาธิในบางครั้ง อาจจะไม่มีเทวดาก็ได้ใช่ไหมครับ
     
  13. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ตามความคิดผม เข้าใจว่า ปีติ เกิดจากอาการของจิตนอกของเราเอง
    ที่เริ่มนิ่งแล้วเกิดการกระทบ เกิดการเชื่อมต่อ กับจิตใน(จิตใต้สำนึก)
    แล้วเกิดอาการต่างๆ โดยตำราได้ให้ความหมายไว้หลายแบบ
    แม้ตอนที่เราจะนอนหลับ ก็ยังวูบเหมือนตกเหวได้ เพราะจิตที่ละเอียด
    จะเกิดการแปรปรวนง่าย สัมผัสได้ละเอียดขึ้นกว่าปรกติ
    ส่วนเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เข้ามาผ่านกายเรานั้น
    ก็ทำให้เกิดอาการต่างๆได้แบบเดียวกับที่เขียนในตำราเรื่องของปีติ
    ฉะนั้น ปีติ เกิดได้ทั้งจากจิตจนเอง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครับ

    เรานั่งสมาธิจะมีเทวดามาไหม? ตอบว่า กรณีที่ไม่มีจิตที่อาศัยบริเวณนั้นเลย
    ก็ตอบว่า ไม่มีได้เหมือนกัน แต่เวลาเราทำสมาธิหรือไม่ทำก็แล้วแต่
    เราได้เชื่อมต่อกับเทวดาประจำตัวอยู่ตลอด เปรียบเหมือนคอมพิวเตอร์
    ที่เสียบสายแลน เชื่อมต่อกัน พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลกันตลอดเวลา
    ถึงบริเวณโดยรอบจะไม่มี จิตอื่นๆอยู่เลย แต่กับตัวของเราเองนั้น
    สามารถน้อมนำ เทวดาประจำตัวมาได้เสมอ เราทำอะไรเขาก็รู้
    แม้หลายๆคนจะคิดว่าตัวเองไม่มีองค์ แต่ทุกคนมี เพียงแต่
    คนทำเลว ทุศีล องค์ไม่ช่วยเท่านั้นเอง
    แต่คนที่ทำดีบ้างหรือทำดีมากๆ องค์เทพก็จะเหมือนเิปิดสเตตัส
    ให้ผู้อื่นสามารถเห็นได้ว่าคนๆนี้ มีข้าคุ้มครองอยู่นะ ก็เท่านั้นเอง

    จบข่าว คม ซัด ลึก รายงาน
     
  14. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    กด like ขอรับ
     
  15. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    [​IMG]

    [​IMG]

    หง่าวววววววว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2013
  16. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ประกาศ เปิดรับสมัคร "เปิดบารมีวิชชาสาม รุ่นที่ 7 ในวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค.56 ณ วัดผ่องพลอยฯ

    ยินดีต้อนรับ ผู้สมัครเปิดบารมีวิชชาสาม รุ่นที่ 7-2556
    วันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค. 2556 ณ วัดผ่องพลอยฯ
    (รับจำนวน 60 คน)

    1. คุณเอกชัย 086 288 9442
    2.
    2. คุณวิวัฒน์
    3. คุณฤทธิ์ชัย (1)
    4. คุณฤทธิ์ชัย (2)
    5. คุณ wassana (1) 0811370369
    6. คุณ wassana (2) 0811370369
    7. คุณวรณัน 0818191552
    8. คุณ jmjai
    9. คุณสุดใจ
    10. คุณสาโรจน์ 1 (เก่ง) 081-2716708 ชำระเงินแล้ว
    11. คุณสาโรจน์ 2 (เก่ง) 081-2716708 ชำระเงินแล้ว
    12. คุณตุลย์ 1 0891310959, 0897991790
    13. คุณตุลย์ 2 0891310959, 0897991790
    14. คุณพิทยาธร
    15. คุณณาตยา
    16. คุณพงศธร
    17. คุณ Tanonchai
    18. คุณฤชภณ 1 ชำระเงินแล้ว
    19. คุณฤชภณ 2 ชำระเงินแล้ว
    20. คุณกรภัทร์
    21. คุณธาริดา
    22. คุณสุชาดา
    23. คุณพิมณภัทร์
    24. คุณชำนาญ
    25. คุณ jirapornkongmun
    26. คุณ Romancehawk
    27. คุณนฤมล
    28. คุณน้าว 1
    29. คุณน้าว 2
    30. คุณน้าว 3
    31. คุณสุรชัย
    32. คุณแดนทิพย์ 1
    33. คุณแดนทิพย์ 1
    34. คุณแดนทิพย์ 1
    35. คุณ sorracha 1
    36. คุณ sorracha 2
    37. คุณ juventus 1 ชำระเงินแล้ว
    38. คุณ juventus 2 ชำระเงินแล้ว
    39. คุณ bas 1
    40. คุณ bas 2
    41. คุณโต
    42. คุณอำนาจ
    43. คุณปิยะนาถ
    44. คุณจอมใจ 1
    45. คุณจอมใจ 2

    ยอดสมัคร 45 คน
    รับจำนวน 60 คน
    ยอดคงเหลือ 15 คน


    ยังสมัครได้อยู่นะครับ
    ......................................................................
    กรุณาโอนชำระเงินผ่านบัญชี (ภายในวันที่ 7 ก.ค. 2556)
    ทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ
    ธ.กรุงไทย
    สาขาศูนย์สิริกิิตต์

    เลขที่ 009 117 1393
    ประเภท ออมทรพัย์

    ติดต่อ อ.ภราดรภาพ 081 808 6695
    ......................................................................

     
  17. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ประกาศ เปิดรับสมัคร "เปิดบารมีวิชชาสาม รุ่นที่ 7-2556
    ในวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค. 2556 ณ วัดผ่องพลอยฯ
    (ค่าใช้จ่ายท่านละ 299 บาท รับเพียง 60 ท่าน)

    กำหนดการ
    09.00 น. เปิดบารมีวิขชาสาม (1)
    12.00 น. พักรับประทานอาหารกลาง
    13.00 น. เปิดบารมีวิขชาสาม (2)
    19.00 น. จบโปรแกรม

    ค่าใช้จ่าย : 299 บาท
    อาหาร : อาหารเจ จัดทำโดยทีมงานแม่ตุ๊กตา (แม่ผู้ใจบุญ)

    กิจกรรมเสริม :
    1) ทิพย์ญาณพยากรณ์ แห่งศินารา (มีค่าครู)
    2) ทิพย์ญาณหัตถเวชบำบัด แห่งศินารา (มีค่าครู)

    ข้อแนะนำในการเตรียมตัวก่อนปฏิบัติ
    1) แต่งกายสุภาพ : แนะนำชุดขาว
    2) ควรนั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอ
    3) ก่อนนั่งสมาธิให้อาราธนาครูบาอาจารย์ทุกครั้ง
    4) มั่นรักษาศีลห้าตามปกติ

    ข้อแนะนำในระหว่างพิธีเปิดและสอบอารมณ์วิชชาสาม
    1) ลงทะเบียน เขียนชื่อตนเองบนแผ่นป้าย พร้อมติดที่หน้าอก
    2) สำรวมกาย วาจา ใจ โดยการคิดดี พูดดี ทำดี
    3) ให้เกียรติตนเอง ญาติธรรม เจ้าพิธี และสถานที่
    4) ไม่อวดอ้างและจงใจที่จะทดสอบบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์
    5) ให้ข้อมูลที่เป็นจริง คำตอบก็จะออกมาจริง

    แผ่นที่วัดผ่องพลอยวิริยราม

    [​IMG]
    อ.ภราดรภาพ

    กรุณาโอนชำระเงินผ่านบัญชี (ภายในวันที่ 7 ก.ค. 2556)
    ทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ
    ธ.กรุงไทย
    สาขาศูนย์สิริกิิตต์

    เลขที่ 009 117 1393
    ประเภท ออมทรพัย์

     
  18. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    สำหรับท่านที่อยากจะเปิดบารมีผ่านในครั้งแรกเลย
    ก็ขอเริ่มเลยนะครับ สำหรับผู้ที่เปิดไม่ผ่านนั้นถ้าหากไม่ติดเรื่องยังไม่ถึงวาระแล้ว
    ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องวิบากกรรมที่ตามมาอยู่นั่นเองไม่ว่าจะเป็นในปัจจุบันชาติหรือชาติก่อน
    ซึ่งถ้าเป็นชาติก่อนนั้นก็คงเป็นเรื่องยากอยู่เหมือนกันที่จะรับรู้รับทราบได้และ
    ก็ต้องทนรับใช้วิบากกรรมนั้นต่อไปจนกว่าจะเจอผู้ที่มีบุญกรรมสัมพันธ์มาบอกกล่าว
    หากเป็นกรรมปัจจุบันแค่ลองนึกนิดเดียวก็อาจจะร้อง อ๋อ....แล้วก็เป็นได้ว่าเรื่องแค่นี้เป็นกรรมด้วยหรือ

    หากท่านที่มาอ่านเจอบทความนี้แล้วอยากที่จะเปิดบารมีผ่านโดยที่ไม่มีวิบากกรรมมาเป็นอุปสรรค
    ก็ขอให้ลองพิจารณาถึงสิ่งที่จะบอกกล่าวต่อไป หากท่านสามารถแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงได้
    ก่อนที่จะมาเปิดบารมี ก็จะเป็นเรื่องดีที่คุณอาจจะเปิดผ่านเลยในคราวแรกครับ
    ผมก็ขอเป็นกำลังใจในการเปิดบารมีของทุกท่านครับ

    ผมจะกล่าวถึงเฉพาะกรรมปัจจุบันเท่านั้นเพราะพิสูจน์ได้ กรรมบางอย่างที่มีผลในชีวิตประจำวันเลย
    อาจจะเป็นสิ่งที่พวกคุณนั้นคาดไม่ถึง และทำให้ชีวิตคนเหล่านั้นต้องติดขัดไปตลอดชีวิตเลย
    ซึ่งมีทั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม

    โดยกรรมหนักที่มีมากันค่อนข้างมากนั่นก็คือ
    1.การทำแท้งทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา

    บางคนมาเปิดบารมีเพื่อหวังจะมาแก้กรรม หรือมาออกกรรมกัน และหวังว่าชีวิตนั้นจะดีขึ้น
    โดยหารู้ไม่ว่าหากท่านเคยไปทำแท้งมา หรือแท้งโดยไม่เจตนา หรือเคยมีส่วนร่วมในการทำแท้งนั้น
    แน่นอนว่าไม่มีทางเปิดได้แน่นอนครับ คุณจะต้องเคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อยก่อน
    ด้วยการให้เด็กที่ถูกทำแท้งไปนั้น อโหสิกรรมให้แก่คุณก่อน

    ผมจะไม่ขอใช้คำพูดที่ว่าไปแก้กรรมทำแท้งก่อน เพราะเหตุว่ากรรมเกิดขึ้นแล้ว
    คุณไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ได้แล้วแต่คุณต้องทำให้ผู้ที่ถูกกระทำนั้นอโหสิกรรมให้เท่านั้น
    ส่วนจะทำโดยวิธีไหนนั้นขึ้นอยู่กับเด็กที่ถูกทำแท้งไปว่าต้องการอะไร
    โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดในการขออโหสิกรรมนั้นก็คือ การสำนึกว่าตัวเองได้ทำผิด
    หรือ เรียกสั้นๆว่า สำนึกผิด นั่นเอง

    หากคิดแต่เพียงว่าถ้าอาจารย์ท่านโน้นท่านนี้แนะนำให้ไปทำบุญที่นั่น ที่นี่ ทำมหาสังฆทานให้
    หรือสร้างพระให้ ถวายเครื่องบวช หรือจะทำบุญมากมายมหาศาลขนาดไหนแล้วก็ตาม
    หากท่านไม่เคยที่จะสำนึกผิดเลยก็อย่าหวังว่าเด็กจะให้อภัยคุณเลย

    ส่วนผู้ที่มีส่วนร่วมในการทำแท้งนั้น หมายถึง ผู้ใดกันบ้าง ลองดูสิว่าท่านเคยทำสิ่งต่างๆ
    เหล่านี้ไหม ถ้ามี...คุณถือว่ามีส่วนร่วมทันที
    1. เคยให้ยืมเงินหรือให้เงินไป (แม้แต่เงินเพียงบาทเดียวก็ถือว่าใช่) โดยรู้อยู่เต็มอกว่าเขาจะเอาไปทำแท้ง
    2. ชี้ทางหรือแนะนำวิธีทำแท้ง เช่น บอกกล่าวสถานที่ หรือยาที่ใช้ หรือ แนะนำหมอ เป็นต้น
    3. ให้ยืมยานพาหนะโดยรู้เจตนาของการยืมแล้ว
    4. ไปเป็นเพื่อนโดยไม่ห้ามปราม (หากห้ามปรามไปแล้ว เขาแอบไปทำ เราไม่ผิด)

    2. การล่วงเกินต่อผู้มีพระคุณ (อกตัญญู)

    บางคนอยากทราบว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดบ้าง องค์เทพใดบ้างคุ้มครอง แต่หารู้ไม่ว่า
    แม้แต่พระอรหันต์ในบ้านยังไม่เคยดูแล หรือกราบไหว้ รวมถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว
    ที่ทำให้เรามีอันจะกินในวันนี้ก็ยังไม่เคยไปกราบไหว้ ไม่ระลึกถึง บุคคลเหล่านี้ยากที่จะเปิดได้ครับ
    แถมยังมีวิบากกรรมในการประกอบอาชีพเสียอีก หากินไม่ขึ้น

    ถ้าหากท่านรู้ว่าท่านทำตัวอย่างนี้อยู่ก็ขอให้เปลี่ยนเสีย ขอให้รีบไปกราบเท้าขอขมา
    ขออโหสิกรรมพ่อแม่ และแสดงความกตัญญูเสียบ้าง เราไม่รู้ว่าใครจะตายก่อนกัน
    หากพวกท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นยังทำง่าย หากเสียไปแล้วต้องนั่งสมาธิขออโหสิกรรม
    ที่ล่วงเกินผู้มีพระคุณไว้ในสมัยที่ท่านทั้งหลายยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งไม่รู้ว่าพวกท่านจะรับได้หรือไม่
    หรือคุณจะส่งถึงหรือไม่ด้วย

    3.ปรามาสพระรัตนะตรัย

    พระรัตนตรัย หมายถึง แก้วอันประเสริฐ หรือแก้ว 3 ดวง ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
    ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของพระพุทธศาสนา

    1. พระพุทธ หมายถึง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นศาสดาของพระพุทธศาสนา
    เป็นผู้ทรงค้นพบสัจธรรมโดยการตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง แล้วนำคำสอนมาเผยแผ่ให้พุทธศาสนิกชนได้ปฏิบัติตาม

    2. พระธรรม หมายถึง หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา หรือความจริงที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ
    เป็นความจริงที่มีอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงค้นคิดเอง แต่พระองค์ทรงค้นพบโดยการตรัสรู้
    แล้วนำมาสั่งสอนแก่ชาวโลก

    3. พระสงฆ์ หมายถึง สาวกของพระพุทธเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระองค์
    แล้วนำหลักคำสอนนั้นมาเผยแผ่แก่มวลมนุษย์

    พวกท่านทั้งหลายเคยล่วงเกินแก้ว 3 ดวงนี้ไหมครับ หรือเพียง 1 ใน 3 ก็ถือว่าได้ทำแล้วครับ
    การล่วงเกิน หรือการกระทำที่ไม่เหมาะสม ถือเป็นการปรามาสทั้งสิ้น หากต้องการปฏิบัติธรรมให้ก้าวหน้า
    แต่เคยปรามาสพระรัตนะตรัยไว้แล้วไม่ได้ขอขมาและขออโหสิกรรม แน่นอนว่ายากแท้หนอที่จะเปิดได้ครับ

    บางทีกรรมนั้นก็อาจจะส่งผลให้กับคุณแล้วโดยที่คุณไม่รู้ตัวเลยเช่น ทำไมเรานั่งสมาธิไม่ได้นาน
    ทำไมในใจเราถึงได้ด่าทอแต่พระสงฆ์ องค์เจ้า ทั้งๆที่เราไม่อยากจะทำแต่พอเผลอหละเป็นไม่ได้
    พวกท่านทั้งหลายเคยเป็นไหมครับ เป็นต้น

    ทีนี้คงสงสัยกันแล้วสินะว่า ดูกันอย่างไรว่าปรามาสเข้าให้แล้ว ผมขอยกตัวอย่างบางกรณีเท่านั้นนะครับ
    เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างจะละเอียดและซับซ้อน เพราะแรงกรรมจะหนักหรือเบานั้น
    ขึ้นอยู่กับเจตนาและความถี่ในการกระทำครับ

    การปรามาสพระพุทธ
    เช่น การว่ากล่าว พาดพิง พระองค์ท่านโดยบิดเบือนความจริง
    นำรูปเคารพหรือภาพแทนของพระองค์ท่านมากระทำไม่เหมาะสม วางไว้ในสถานที่ไม่เหมาะสม
    ดูพระแล้วพูดว่า พระจริง พระปลอม ซึ่งภาพที่ปรากฏอยู่ในเหรียญพระนั้นมีรูปพระพุทธองค์อยู่ เป็นต้น

    การปรามาสพระธรรม
    เช่น ไม่เก็บหนังสือธรรมะ หนังสือสวดมนต์ไว้ในที่อันควร ลบหลู่สัญลักษณ์ตัวแทนของพระธรรม หรือ ธรรมจักร เป็นต้น
    การปรามาสพระสงฆ์

    เช่น ว่ากล่าวพระสงฆ์ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง หรือใช้ท่านทำงาน ยิ่งหากเป็นพระอริยะสงฆ์แล้วยิ่งหนักเข้าไปอีกครับ
    คิดว่าพระสงฆ์ที่เดินบิณฑบาต อยู่นี้ จริงหรือปลอม เป็นต้น

    หากพวกท่านกำลังทำอยู่สิ่งต่างๆที่ได้บอกกล่าวไปแล้วอยู่ขอจงงดเสีย หากทำไปแล้วก็ต้องมาขอขมา
    และขออโหสิกรรมครับ การขอขมานั้นไม่ใช่ทำครั้งเดียวแล้วพอนะครับ หมั่นทำทุกวัน
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรทำก่อนเริ่มสวดมนต์ภาวนาและทำต่อหน้าพระพุทธรูป
    แต่ถ้าไม่มีพระพุทธรูปก็ไม่เป็นไร ให้เรากำหนดจิตคิดว่ามีพระพุทธองค์เสด็จมาอยู่เบื้องหน้าเราครับ

    4.ศีล 5 บกพร่องอย่างแรง

    ศีล 5 ข้อ มีอะไรบ้าง ผมขอทวนความจำกันสักเล็กน้อยนะครับ
    1.งดเว้นการฆ่าสัตว์
    2.งดเว้นการลักทรัพย์
    3.งดเว้นการละเมิดกาม
    4.งดเว้นการพูดเท็จ
    5.งดเว้นการดื่มสุราเมรัย

    ส่วนคำว่าบกพร่องอย่างรุนแรงในที่นี้ ผมขอบอกกล่าวตามความเห็นส่วนตัวนะครับ
    เพื่อให้เข้าใจกันง่ายๆ เพราะหากท่านผู้อ่านอยากจะลงลึกในรายละเอียด
    ก็ขอให้ไปหาข้อมูลกันเอาเองนะครับ คิดว่าไม่ยากเกินความสามารถของพวกท่านทั้งหลายหรอก

    ทีนี้เรามาดูกันว่าหากส่วนใหญ่ท่านได้กระทำการณ์ใดๆ ที่ตรงกับที่ผมลงไว้ด้านล่างนี้ก็ไม่น่าจะเปิดผ่านได้ครับ

    สำหรับข้อที่ 1 งดเว้นการฆ่าสัตว์
    - การทำแท้งหรือมีส่วนรู้เห็น เกี่ยวข้อง ในการทำแท้ง
    - ฆ่าสิ่งมีชีวิตอยู่เป็นนิจศีล ถึงแม้จะเป็นสัตว์เล็กๆ แต่ถ้าทำทุกวัน
    สัตว์ทั้งหลายก็จะอาจจะมาแสดงอาการให้ท่านเห็นในวันนั้นเลยก็เป็นได้
    หรือท่านอาจจะเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆ และหาสาเหตุไม่ได้ ซึ่งรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันไม่หาย
    - ฆ่าสัตว์ใหญ่มา เพราะสัตว์ใหญ่มีแรงอาฆาตสูง (งูถือว่าเป็นสัตว์ที่มีแรงอาฆาตสูงมากๆ)
    - ฆ่าบิดา มารดา หรือผู้มีพระคุณ (แม้กระทั่งตบตี)

    สำหรับข้อที่ 2 งดเว้นการลักทรัพย์
    - นำของใช้จากที่ทำงานกลับมาใช้ส่วนตัว ยิ่งท่านทำงานในสถานที่ราชการ คุณจะมีกรรมต่อแผ่นดินทันที
    - ได้โกงทรัพย์สินของผู้อื่นมาเป็นของตน จนกระทั่งผู้ถูกกระทำหมดเนื้อหมดตัว

    สำหรับข้อที่ 3 งดเว้นการละเมิดกาม
    - ผู้ที่มีปัญหาเรื่องคบชู้สู่ชาย ก็ยากที่จะเปิดได้ครับ เพราะจิตใจของเขาเหล่านั้นจะหมกมุ่นแต่เรื่องกามคุณ
    - เคยยุยง ส่งเสริมให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยก เพื่อตัวเองรอรับผลประโยชน์

    สำหรับข้อที่ 4 งดเว้นการพูดเท็จ
    - เห็นใครได้ดีกว่าตัวเองไม่ได้ มีจิตใจริษยาจะต้องพูดจาใส่ร้ายป้ายสีให้ผู้อื่นเสียหาย
    - ไม่สำรวม พูดจากล่าวร้ายในธรรม

    สำหรับข้อที่ 5 งดเว้นการดื่มสุราเมรัย
    - หากท่านเป็นคนที่ดื่มสุราจัดเมื่อดื่มแล้วขาดสติก็จะเป็นเหตุให้ผิดศีลได้ทุกข้อเพราะความไร้สตินั่นเอง
    5. ลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงเจ้าที่ที่บ้าน
    6. บนบานศาลกล่าวไว้แล้วลืมแก้

    เป็นต้น

    วิชชาสาม

    1) ในพระพุทธศาสนา
    ความรู้เบื้องสูงในพระพุทธศาสนา ตามเนื้อความในพระบาลี มีทั้งหมด ๘ ประการฯ หากกำหนดไว้เพียง ๓ ประการ
    เข้าใจได้ทันทีว่าเป็น วิชชา ๓ หมายถึง องค์ความรู้ประเสริฐ ๓ อย่าง
    ได้แก่ รู้ระลึกชาติได้ ๑ รู้วันเกิดตายของสัตว์ ๑ รู้ดับกิเลสให้สิ้นเชิง ๑

    2) ในศาสนาพราหมณ์
    ความรู้เบื้องในศาสนาพราหมณ์ เรียกว่า ไตรเพท เป็นเนื้อหาวิชาที่มีอยู่ในพระคัมภีร์พระเวท ๓ บรรพ์
    เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สามเวท มีการสวดคาถาบูชาเทวดา เป็นอาทิ ซึ่งไม่นับอาถรรพ์เวท (ไสยศาสตร์) ไว้ในความหมายนี้ ฯ

    ไตรเพทนี้มีกล่าวถึงไว้ในพระสูตรเหมือนกัน ในลักษณะว่าพระโพธิสัตว์และพระอรหันต์ฉฬภิญโญหลายรูป
    เคยศึกษาไตรเพทจนแตกฉาน (ถึงที่สุดแห่งเพท) ในอดีตชาติ แลมีโอกาสพบพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งมาก่อน
    จึงได้มาเกิดเป็นพระอรหันต์ ฯ

    3) ในปรัชญาจีน
    วิชาสามประการของเขา หมายอย่างหนึ่งถึง ไตรวิทยา คือ ความรู้ศักดิ์สิทธิ์สามสาขาวิชา
    ได้แก่ พุทธ ๑ เต๋า ๑ ขงจื้อ ๑ ฯ กล่าวกันว่า เต๋านั้นเป็นฝ่ายสันโดษไม่ข้องเกี่ยวกับทางโลก
    ปฏิบัติบำเพ็ญพรตตามแนวฤาษีจนสำเร็จฌานสมาบัติเป็นเซียน ไม่แก่ไม่ตาย (อมตะ)

    ส่วนขงจื้อนั้นสอนจารีตประเพณี การเป็นคนดีอยู่ในสังคม แลว่าพุทธนั้น อยู่ระหว่างกลาง ไม่สุดโต่งข้างใดข้างหนึ่ง (ทางสายกลาง)
    อนึ่งได้มีผู้เปรียบเทียบไว้ว่า ถ้าคนต้องการน้ำ พุทธนั้นเสมือนฝน เต๋าเสมือนน้ำตกบนยอดเขา ขงจื้อเสมือนแม่น้ำ ฯ


    1) ให้สวดนะโม 3 จบ ตามด้วยคำอธิฐานจิต (ก่อนนั่งสมาธิ)

    2) ให้กล่าวคำอธิษฐานจิต สำหรับวิชชาสาม
    ด้วยมนตราแห่ง โอม นะ โม พุท ธา ยะ (ก่อนนั่งสมาธิ) การใช้มนตราประกอบนี้
    ควรผ่านพิธีไหว้ครูเพื่อยกพระกรรมฐานวิชชาสามก่อน จึงจะได้ผลเต็มกำลัง

    ลูกขออาราธนาอัญเชิญอักขรมนตราแห่ง "โอม"
    ตัวแทนแห่งอนันตเอกภพ ขออัญเชิญเสด็จประทับเหนือเศียรเกล้า

    ลูกขออาราธนาอัญเชิญอักขรมนตราแห่ง "นะ"
    ตัวแทนแห่ง องค์ไวโรจนะพุทธเจ้า ขออัญเชิญเสด็จประทับ ณ.พระนลาฏ

    ลูกขออาราธนาอัญเชิญอักขรมนตราแห่ง "โม"
    ตัวแทนแห่ง องค์อักโษภยะพุทธะพุทธเจ้า ขออัญเชิญเสด็จประทับ ณ.พระอังสาเบื้องขวา

    ลูกขออาราธนาอัญเชิญอักขรมนตราแห่ง "พุท"
    ตัวแทนแห่ง องค์พระรัตนสัมภวะพุทธเจ้า ขออัญเชิญเสด็จประทับ ณ.อังสาเบื้องซ้าย

    ลูกขออาราธนาอัญเชิญอักขรมนตราแห่ง "ธา"
    ตัวแทนแห่ง องค์พระอมิตาภะพุทธเจ้า ขออัญเชิญเสด็จประทับ ณ.ฝ่าพระหัตถ์เบื้องขวา

    ลูกขออาราธนาอัญเชิญอักขรมนตราแห่ง "ยะ"
    ตัวแทนแห่ง องค์พระอโมฆสิทธิพุทธเจ้า ขออัญเชิญเสด็จมาประทับ ณ.ฝ่าพระหัตถ์เบื้องซ้าย

    ขออาราธนาอัญเชิญ "องค์พระประธานและครูบาอาจารย์ทุกพระองค์" ขออัญเชิญเสด็จประทับ ณ. พระหฤทัย
    ลูกขอเจริญพระกัมมัฏฐานแห่งวิชชาสาม ขอทุกพระองค์จงเมตตาให้ลูกเจริญก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมยิ่งๆ ด้วยเถิด
    (ขอขอบคุณ ผศ. สมศักดิ์ ที่กรุณาเรียบเรียงให้)

    3) ให้จับอารมณ์ฌานสมาบัติ ในระหว่างนั่งสมาธิ (สำหรับคนที่เข้าฌานได้แล้ว)

    3.1 ให้พิจารณาอากาศเป็นความว่าง = อากาสานัญจายตนะ (ณาน 5)
    3.2 ให้นำวิญญาณ (อารมณ์) ในทุกๆ วิญญาณใส่ในความว่าง = วิญญาณัญจายตนะ (ณาน 6)
    3.3 ให้พิจารณาวิญญาณทุกวิญญาณ ย่อมไม่มีแก่นสาร เมื่อกระทบกับความว่าง = อากิญจัญญายตนะ (ณาน 7)
    3.4 ให้พิจราณาทุกวิญญาณเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป แล้วให้ทวนกลับว่า (สิ่งที่เคยดับไป เคยตั้งอยู่ขึ้น เคยเกิดขึ้น)
    ทุกสรรพสิ่งย่อมเกิดดับเป็นธรรมดา = เนวสัญญานาสัญญายตนะ (ณาน 8)

    4) คำอาราธนาแผ่เมตตาจิต (หลังจากเสร็จสิ้นการเจริญสมาธิ)

    ลูกขอแผ่เมตตาจิตให้แก่สรรพสิ่งทั้งหลาย
    ไม่ว่าจะเป็น เจ้ากรรมกำหนด เจ้าเวรกำหนด เจ้ากรรมนายเวร
    บิดา มารดา ญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงาน ตลอดจนผู้มีพระคุณทุกๆ ท่าน
    ขอโปรดจงรับ และอนุโมทนาด้วยเทอญฯ
    ทั้งนี้ ขอให้ผู้รับมีจิตอันเป็นกุศล

    จบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2013
  19. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ยินดีต้อนรับ ผู้สมัครเปิดบารมีวิชชาสาม รุ่นที่ 7-2556
    วันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค. 2556 ณ วัดผ่องพลอยฯ
    (รับจำนวน 60 คน)

    1. คุณเอกชัย 086 288 9442
    2.
    2. คุณวิวัฒน์
    3. คุณฤทธิ์ชัย (1)
    4. คุณฤทธิ์ชัย (2)
    5. คุณ wassana (1) 0811370369
    6. คุณ wassana (2) 0811370369
    7. คุณฐนพลศ์ 0802420637
    8. คุณ jmjai
    9. คุณสุดใจ
    10. คุณสาโรจน์ 1 (เก่ง) 081-2716708 ชำระเงินแล้ว
    11. คุณสาโรจน์ 2 (เก่ง) 081-2716708 ชำระเงินแล้ว
    12. คุณตุลย์ 1 0891310959, 0897991790
    13. คุณตุลย์ 2 0891310959, 0897991790
    14. คุณพิทยาธร
    15. คุณณาตยา
    16. คุณพงศธร
    17. คุณ Tanonchai
    18. คุณฤชภณ 1 ชำระเงินแล้ว
    19. คุณฤชภณ 2 ชำระเงินแล้ว
    20. คุณกรภัทร์
    21. คุณธาริดา
    22. คุณสุชาดา
    23. คุณพิมณภัทร์
    24. คุณชำนาญ
    25. คุณ jirapornkongmun
    26. คุณ Romancehawk
    27. คุณนฤมล
    28. คุณน้าว 1
    29. คุณน้าว 2
    30. คุณน้าว 3
    31. คุณสุรชัย
    32. คุณแดนทิพย์ 1
    33. คุณแดนทิพย์ 1
    34. คุณแดนทิพย์ 1
    35. คุณ sorracha 1
    36. คุณ sorracha 2
    37. คุณ juventus 1 ชำระเงินแล้ว
    38. คุณ juventus 2 ชำระเงินแล้ว
    39. คุณ bas 1
    40. คุณ bas 2
    41. คุณโต
    42. คุณอำนาจ
    43. คุณปิยะนาถ
    44. คุณจอมใจ 1 ชำระเงินแล้ว
    45. คุณจอมใจ 2 ชำระเงินแล้ว
    46. คุณชูเกียรติ ชำระเงินแล้ว
    47. คุณตุลย์
    48. คุณนงคราญ 1
    49. คุณนงคราญ 2

    ยอดสมัคร 49 คน
    รับจำนวน 60 คน
    ยอดคงเหลือ 11 คน


    ยังสมัครได้อยู่นะครับ
    ......................................................................
    กรุณาโอนชำระเงินผ่านบัญชี (ภายในวันที่ 7 ก.ค. 2556)
    ทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ
    ธ.กรุงไทย
    สาขาศูนย์สิริกิิตต์

    เลขที่ 009 117 1393
    ประเภท ออมทรพัย์

    ติดต่อ อ.ภราดรภาพ 081 808 6695
    ......................................................................

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...