จำเป็นหรือไม่ที่เราจะต้องมาทำวิปัสนากัน ทั้งที่วิถีชีวิตคนเรามันก็วิปัสนาในตัวอยู่แล้ว?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย kengloveyou, 17 พฤษภาคม 2016.

  1. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    อริยสัจ 4 ข้อแรก คือ ทุกข์ ทุกข์นี้ คือ สิ่งที่ต้องกำหนดรู้ ถ้าเราไม่กำหนดรู้ เราก็ไม่รู้ว่าอะไรคือเหตุของทุกข์ ถ้า คนที่ไม่เคยมีพื้นฐานมาก่อนแล้ว ไม่เคยรู้เรื่องวิปัสนา ก็เหมือนนักมวยไม่เคยฝึกซ้อม หมัด เท้า เข่า ศอก ก็ใช้ไม่เป็น มาถึงก็ลงสนามเลย มีแต่จะถูกคู่ต่อสู้คือกิเลสเลือกชกเอาตามใจชอบ สุดท้ายก็พ่ายน๊อค พ่ายแพ้ให้กับกิเลส กลับมุมเดิมของตัวเองไป แต่ถ้ามีพื้นฐานมาบ้างแล้ว ลงสนามในชีวิตประจำวันก็พอเอาตัวรอดได้อยู่ เพราะพอรู้ได้ว่าอะไรทุกข์ อะไรเป็นเหตุให้ทุกข์เกิด ดับได้บ้าง เผลอไปบ้างก็ยัง ต้องเรียนรู้กันไป:cool:
     
  2. kengloveyou

    kengloveyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +2,077
    เอ่อ..ชอบข้อความนี้ว่.ไม่รู้ใช้สมองหรือไรคิด55
    เอาเป็นว่าที่ถามน่ะไม่ใช่อวดเพราะถ้าจะอวดก็มีแต่ความเลวเท่านั้นที่จะแบให้ดู แต่ที่อยากรู้เพราะมันขี้สงสัยต่าหาก เฟ่!55
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    แหะแหะ. ก็ต้องมีลูกแย๊บ รบกวนเข้าไปบ้างอะจั๊บ

    ไม่งั้น. หาเป้าไม่เจอ การ์ดไม่ตก

    ตกลงเพ่ จิตพุทโธเอง. บวกกับ. ไม่ขอเปิดตำรา
    ฃอภาวนาทั้งหลับตา. ในชีวิตประจำวันไปเลย. อ้ายกาป๋ม
    ก็เปนห่วงจีจั๊บ

    แล้วลูกเพ่ ยังสงสัยเรื่อยๆ. ตำราก็อ่านแน่ๆ

    แต่ลูกเพ่ เอาคำถามที่เกิดจากการภาวนา มาถามให้หายสงสัย

    หรือว่า. ไปเอาความสงสัยที่ไปรับฟังมา. มาถามหละจั๊บ
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ลูกเพ่ อย่ารีบร้อนตอบ. ลูกแย๊บอีกหมัดข้างบน นะจั๊บ

    แนะนำว่า. ให้เฝ้นหา. สงสัยตัวแรก. ให้เจอก่องตอบ

    สงสัย เกิดก่อนไปคว้าตำรา. ก่อนฟังใคร. พุทโธๆๆๆ. แล้ว สงสัย ลืมกำหนดรู้

    หรือ

    สงสัยเกิดหลังจากจิตสงบ. แล้วคว้าตำราหรือฟังใคร. แล้วความสงสัยจึงเกิด
    เพราะกำลังจิตที่ พุทโธๆๆๆๆๆ. มันหมดแรง. ดับไป. แล้วลืมกำหนดรู้ พุทโธก้เกิดดับ
    ความ สงสัยแค่แอบแทรกเข้ามา. ไม่ใช่เพราะงง. แต่เปนเพราะทิ้งคำบริกรรม
    จิตที่พุทโธเองหายไป

    ดูดีๆ. นะฮับ

    สงสัย. เกิด. เพราะเปนกิเลส

    กับ

    สงสัยเกิด. เพราะเปนธรรมชาติของจิต. ยังไม่เปนกิเลส. จนกว่าจะเมาหมัด
    สำคัญว่าตน. ขี้สงสัย
     
  5. ชมทรัพย์

    ชมทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +248
    คิดว่านะ ในชีวิตประจำวัน,มันก็เป็นไปได้ทั้งวิปัสสนาทั้งสมถะ แต่เหตุต้องปราศจากนิวรณ์ธรรม ไม่งั้นก็เป็นอาหารให้กิเลส เติมเชื้อความโง่หมดนั้นแหละ
     
  6. kengloveyou

    kengloveyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +2,077
    เอาเป็นว่าที่ไอ้กะผมสงสัยน่ะ เป็นเพราะไอ้กะผมเป็นคนขี้สงสัย ใจยัง ในเมื่อสงสัยแล้วมันก็ต้องการคำตอบหรือความเห็นใช่ไหม ไม่มีที่ถามที่อื่นแล้วก็เลยมาถามที่นี่ใจบ่ เข้าใจว่าที่นี่นักปฏิบาดมีเยอะ เลยคาดว่าจะมีใครตอบได้ชัดเจนแจ่มแจ้งสักหน่อย
    แล้วไอ้เรื่องการภาวนาพุทโธที่เคยบอกไปน่ะ ใช้ดีจริง แต่พออารมณ์รักระยำเข้ามามักสู้ไม่ค่อยได้ เลยหาวิธีพิจารณาให้กลายเป็นคำภาวนาแทนไปเลย เวลาอารมณ์กิเลสรักเข้ามาในจิตก็ชัดกันให้มันตายไปข้างเลย เอ้าถ้ามรึงไม่ตายกรูก็ท่าจะตายแทนละว่ แต่..หึหึ
     
  7. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    5555
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ก็ กำลัง บอกเรื่อง สงสัย นั่นแหละฮับ

    แต่อย่าไป ดูตามตำรา ...ซึ่ง พระท่านหมายถึง
    อย่าแปลคำศัพท์ แล้ว จับเอา แบบเถรส่องบาตร

    อย่า รีบร้อนสงสัย นะฮับ ทำจายล่ม ล่ม ก่อง

    มาดูคำศัพท์เพิ่ม นิกหน่อย

    " กิเลสสวะ ภวสวะ สาสวะ อาสวะ "

    สี่ตัวนี้ พระ สมัยนี้ชอบใช้ โดยเฉพาะ กลุ่ม พุทโธ .....เพื่อ !!!!?

    เพื่อให้ จำแนกความละเอียด ปราณีต หยาบ กลาง ของ คำว่า สงสัย

    สงสัย ที่เป็น กิเลสสวะ อันนี้ ต้อง บริกรรมสู้ ตัดให้ขาดเลย ฉับ ฉับ ฉับ

    สงสัย ที่เป็น ภวสวะ อันนี้ มันเป็น ภพ ไปแล้ว ...เผลอไปแล้ว ต้องฉลาด
    ที่จะไม่ไป ตะครุบเงา แก้ที่ สงสัย แต่ให้ ทวนกระแสไปหาเหตุ
    คือ "จิตมันไหลไปคิด" .... ซึ่ง ..............

    จิตไหลไปคิดแล้วรู้
    จิตไหลไปคิดแล้วรู้
    จิตไหลไปคิดแล้วรู้ .............. จะเป็นการ ทวนกระแสกลับไปที่ โมหะมูลจิต
    ( ทวนไปแก้ที่ กิเลส อะฮับ อย่าไป ดูความคิด เรื่องที่คิด ไม่พอใจ พอใจ สิ่งที่ฝัน
    มันจะเป็นการตะครุบเงา บริกรรมสู้ ก็แค่ สับขาหลอก...แต่ไม่เจอกิเลส มารมันก็หัวร่อเอา )

    กรณีที่เป็น สงสัย แบบ สาสวะ เช่น กำลังเคี้ยวอาหารอยู่ เกิดสงสัย ว่า
    ละเอียดหรือยัง แล้ว เอาลิ้นแทรกเข้าไปในระหว่างฟัน แบบนี้ อย่ากระตุก
    ไปเที่ยวจ้อง สงสัย ลิ้นจะเป็นแผลเอาได้ อันนี้ ต้องอนุโลม สงสัย ให้มัน
    ทำงานไปตาม สาสวะ " เสสะเย็นเย็น " ของมันไป ไม่ต้องไปดับ สงสัย

    กรณีที่เป็น อาสวะ .....เอิ่ม อันนี้ ตะไว้ละกัน เพราะ คนที่จะเห็นได้
    ก็ไม่มาถามแล้วหละ เห็นอาสวะได้ นี่ ขนหัวตั้ง ไม่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องถามใครด้วย


    นะฮับ

    พิจารณาดีๆ สงสัย เราไม่ห้าม แต่ถ้า สงสัย ออกแนว ถามสนองกิเลส อันนี้
    ก็ขอ อนุญาติท่าน แย๊บ !! แย๊บ !! แย๊บ !! แย๊บ !! ถ้ายังโพสบน
    บอร์ด ไม่มีพี่เลี้ยง ก็ขออนุญาติ แย๊บ !! แย๊บ !! แย๊บ !! ไม่รอคำตอบอนุญาติ
     
  9. kengloveyou

    kengloveyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +2,077
    แต่เอาไปเอามามันก็งงอยู่ดีละนะ
    แน่ละใครจะสอนเราให้เข้าใจธรรมได้
    นอกจากเราจะสอนเราเอง ก็เรามันปัจเจกะนี่หว่า เชอะ!
     
  10. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    การปฏิบัติตามความเข้าใจของข้าพเจ้ามี สมาธิอบรมปัญญา กับปัญญาอบรมสมาธิ ยังมีนอกเหนือกว่านี้อีกมั้ยค่ะ ที่จะทำให้แจ้งในอริยสัจ ที่คุณบอกว่าอารมณ์รักเกิดขึ้นมาแล้วต้องไปสู้กับมัน แบบว่าฉันไม่ตายแกก้อตาย มันผิดแผกจากการปฏิบัติรึเปล่าคะ เพราะเวลาอารมณ์อะไรเกิดขึ้น มันมีความเป็นไตรลักษณ์อยู่แล้ว เราไม่ได้มีหน้าที่ไปดับอารมณ์ใดๆ จิตเราเพียงเห็นแจ้งในไตรลักษณ์จนหมดข้อกังขา จึงบรรลุธรรม อันนี้สำหรับผู้ที่ปรารถนาสาวกภูมิจะไปในเร็วๆนี้แล้ว ที่แนะนำลพ. พุธไปไงคะ ได้ฟังรึยัง ท่านอธิบายทั้งอารัมณูปนิชฌาน(ฌานสมาบัติ) และลักขณูปนิชฌาน(ฌานในอริยมรรค) ดิฉันถนัดแนวหลังค่ะ
     
  11. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เอ่อ สังเกตไหม จิตมันเข้าฐาน ไม่ส่งออก


    ขออำไพ ไม่ใช่คำว่า ปัจเจก ...เขานิยมใช้คำว่า ปัจจัตตัง กันมากกว่า ฮับ
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เวลา จิตมันเข้าฐาน

    สังเกตเลย เราจะ ระลึกได้ว่า นี่แหละ ฐานแห่งการงาน

    ทีนี้ ส่วนใหญ่แล้ว ต่อให้ จิตเกิดปิ๊งแว๊บว่า ฐานแห่งการงาน อยู่ตรงนี้
    ไม่เกินกายเกินใจ มันจะ ตั้งได้แป๊ปเดียว เดี๋ยวก็ ไปสงสัยเรื่องของ
    กายของใจ(จิตส่งใน...ซึ่งถือว่า ตกจากฐานจิต ไปแล้ว) และพอส่งใน
    ก็จะ ส่งนอกด้วย แล้วถ้าไปวางจิตจะไม่ส่งใน ก็จะ ส่งนอกทันที

    ดังนั้น

    เวลาที่ ปิ๊งได้ว่า เอ่อ เราก็พิจารณาไม่เกินกายเกินใจนี่แหละ แต่ไม่ส่งใน ไม่ส่งนอก
    ได้แล้วเนี่ยะ กรุณา ทำความเลื่อมใส ใน ปัญญาเจตสิก ที่สัมปยุตกับจิต ขณะนั้นด้วย

    มันถึงจะ รู้อยู่ที่ฐานแห่งการงาน ฐานสัมมาสมาธิ เนืองๆ ได้ ปัญญาจะเจริญ

    แล้วพอ ปัญญาเจริญ ก็จะอ๋อ พระพุทธองค์ตรัสถึงตรงนี้ ตรงที่ " ไม่มีใครแสดงธรรม "
    แต่ก็เป็นการฟังธรรม และ เข้าไปเลื่อมใส "......................" เห็นธรรมที่ไม่มีใครแสดง
    มาก่อน และไม่มีทางเข้ามาแสดงได้ ผู้หมุนธรรมจักร ทีแต่ ตถาคต ( ไม่ใช่ ใครนะฮับ เป็น
    ชื่อกริยาจิต ที่เป็นไปตามปัจจัยการ ...... ตถาคต จึงเป็น ธรรมที่เกิดตามปัจจัยการ ไม่ใช่ อยากจะเป็น คิดจะเป็น )





    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2016
  13. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    ขอบคุณครับ

    ผมทำทุกวันครับ แต่ที่พูดว่าไม่ทำนี่ หมายถึง ผมตั้งจิตตัดพุทธภูมิไม่ลงสักที แม้เคยพยายามตัดแล้ว ก็ให้มีนิมิตมาขัดขวาง ดังนั้น เมื่อทำกรรมฐานก็รู้ว่า จิตไม่ลงแน่นอนแล้ว เพราะทราบว่า แม้ได้ฌาณ ๘ อภิญญา ๕ แต่ถ้าจิตไม่ลงตรงแน่วในการนิพพาน ไม่มีทางบรรลุ แต่ถ้าผมจะไม่ทำกรรมฐาน จิตผมก็ไม่เป็นสุข คือ อยู่ไม่ได้ ให้เดือดร้อนใจที่ไม่ทำ แต่บางทีมันอัดอั้นตันในใจ อยากก้าวหน้าให้มากกว่าไปเรื่อยๆ แต่พอรู้ว่าไม่มีทางตรัสรู้นิพพาน ก็เสียใจมากเหมือนกัน บางทีถึงขั้นว่า เอ ถ้าความเชื่อทางมหายานเป็นจริง ก็ดีนะ คือ บรรลุระดับอรหันต์แล้วยังเป็นโพธิสัตว์ได้ก็ดีทีเดียว แต่ว่า สำหรับผมก็ไม่ใช่สายโพธิสัตว์แบบมหายาน

    ผมก็เสียใจที่ยังไม่อาจตรัสรู้ เสียใจที่ต้องมาทุกข์อยู่ บางทีจะตัดทุกข์ก็เป็นได้แค่ดับทุกข์เฉพาะกรณีเป็นคราวๆ ไป

    ขอบคุณอีกครั้งที่ห่วงใยครับ
     
  14. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    การเจริญวิปัสสนา สติปัฏฐาน4สามารทำได้ตลอดค่ะ แต่ที่ไม่ต่อเนื่องทั้ง24ชม. เพราะกำลังสติสมาธิของแต่ละคนไม่เท่ากัน อย่าคิดว่าการปฏิบัติต้องนั่งหลับตาอย่างเดียว เพราะดิฉันปฏิบัติแบบไม่เลือกกาลไม่เลือกเวลาตามคำสอนของลพ. พุธ คือให้อารมณ์มีสิ่งรู้ สติมีสิ่งระลึก ซึ่งจะเป็นอะไรก้อได้ ใน กาย เวทนา จิต ธรรม เช่น การทานข้าว การแปรงฟัน ดิฉันปฏิบัติแล้วจิตสงบรำงับกว่าการนั่งดูลมหายใจเข้าออกที่เมื่อก่อนเคยปฏิบัติ คือ การเจริญวิปัสสนาในชีวิตประจำวัน เราสามารถกำหนดรู้จิตได้เลยในปัจจุบัน สภาวะธรรมตัวไหนเด่น(กาย เวทนา จิต ธรรม) สติก้อตามทัน ดิฉันรู้สึกสนุกกับการปฏิบัติแนวนี้มาก เพราะถูกจริตเหลือเกิน
     
  15. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    สังเกตไหม โดน กิเลสมัน ซ้อนแผน หลอกเอา เสียจั๋งหนับ

    มีหรือครับ พุทธภูมิ ทำสัจจแล้วว่า จะลา แล้ว ลาไม่ได้

    แค่ สงสัย จิตมันเคลื่อนว่า จะลา หรือไม่ลา .... ด้วย สัจจญาณ
    ของพุทธภูมิ จะต้องเห็นแล้วว่า นี่ ลาแล้ว สำเร็จแล้ว !!!

    นะ

    สรุป คุณ กระทำ สัจจ อธิษฐาน ลา !! ด้วยอำนาจแห่ง พุทธภูมิ
    อธิษฐานนั้น จะต้อง สำเร็จ ......เว้นแต่ หลอกตัวเองมาตั้งแต่ต้น

    ทีนี้ ให้พึงทราบไปเลยว่า ลาสำเร็จแล้ว เสร็จไปตั้งนานแล้ว ไม่มีใครมาห้ามได้

    แต่ทว่า ทำไมเกิด นิมิต

    อันนี้ ไม่ใช่ นิมิต หลอกให้กลับไปเป็น คน ตบัดสัตย์ เสียสัจจ

    นิมิต คราวนี้ มาหลอกในฐาน หลอก สาวกภูมิ ให้เข้าใจผิดว่า ตัวเองลาไม่สำเร็จ


    นานเท่าไหร่แล้ว ฮับ ตอนที่ตั้งจิตลา แล้ว โดน นิมิตมันหลอกว่า ลาไม่สำเร็จ

    ป่านนี้ มารมันเป็นตะคริว กินท้อง ไปแล้ว !!!




    ปล. แต่ถ้าทั้งหมด เป็นเพียง อาการมารยา สาไถย อ้างเล่ห์ ยกก้น ก็ ยกเว้นนะฮับ
    คุยไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว ไม่สบอารมณ์ รอ ตบหัวให้ ก้มกราบ ท่าเดียว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2016
  16. งุ้งงิ้ง

    งุ้งงิ้ง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2014
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +48
    เช่น การสวดมนต์ ถ้ากำหนดรู้ทุกคำสวด หรือ สวดไปแล้วจิตสงบ ก้อถือว่าเป็นการทำสมาธิ...
     
  17. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    แล้ว ถ้า สมมติว่า จะ ติต่าง ตัวเอง ว่าเป็น พุทธภูมิ

    กรุณา อย่าอ้างเลห์ ที่จะไม่ ภาวนาเจริญ โพชฌงค์7 โพธิปักขยิธรรม32

    อย่า ยก ตนขึ้นว่า มีความสามารถ อุ้ย เรามีเมตตามา กรุณามาก จึงถอยกลับ

    อย่า กระแดะ !!!

    พุทธภูมิ ภาวนาเข้าไปเถอะ ชนนิพพานเข้าไปเถอะ ด้วย อำนาจแห่ง สัพพัญญู!!
    สัมมาสัมพุทธเจ้า เกิดซ้อนโลกธาตุ ไม่ได้ มะอึง ไม่มีทาง สำเร็จหลอก ไอ้หนาสันติ !!! จาติง้าว

    ปล่อยให้กิเลสมันหลอก กอสระอู ดีดี๊ มีจิตใจ เมตตา โปรดสัตว์ ...... ลายาม ไปวันๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2016
  18. kengloveyou

    kengloveyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +2,077
    แล้วผู้ปรารถนาปัจเจกโพธิล่ะจะให้จั๊งใด๋ให้มันง่ายๆล่ะ ลวกเฟ่วนิวอนนน หึ!
     
  19. kengloveyou

    kengloveyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +2,077
    อ่านมาแต่ละแม็ตตรูไม่อยากจะบอกเลยว่างงทุกช็อต
    เอาภาษามนุษย์โลกสิ ภาษาพลูโตไม่เอา..โอ้โน่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 พฤษภาคม 2016
  20. kengloveyou

    kengloveyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +2,077
    ชักจะแถไปไกลล่ะ
    ขอย้อนต้นที่อยากรู้น่ะว่าทำไมท่านจุฬปันถกแค่ท่านเอาผ้าเช็ดหน้าเท่านั้น เช็ดแล้วสลด สลดแล้วก็กลับคืนสู่อารมณ์ปกติ นี่จะมีใครกล้าบอกไหมว่าท่านวิปัสนาหรือว่าเห็นแล้วสลดเท่านั้น แค่นี้แหละนะที่ทำให้ท่านถึงกับได้บรรลุอรหันต์กันเลย
    ถ้าอย่างเราล่ะเคยนั่งอึ๊ แล้วสลดสังเวชอึ๊ตัวเอง(ของคนอื่นด้วยละมั้ง)ที่มันลาเวนเดอร์ชะจริงๆไม่รู้กี่พันกี่หมื่นรอบ สลดจนไม่รู้จะเบือนหน้าหนีไปทางไหนแล้วเพราะห่องน้ำมันแคบ แสดงว่าเราก็เข้าข่ายจำเลยเดียวกันกับท่านลุฬปันถกสมัยที่เช็ดหน้าตนเองแล้วเห็นคราบสกปรกติดผ้าน่ะสิ ใช่มะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...