จะเป็นเนื้อคู่กันต้องมี ทาน ศีล และปัญญา เสมอกัน

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 26 มิถุนายน 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    [​IMG]



    ถาม : คนหนึ่งเข้าวัด อีกคนหนึ่งไม่เข้าวัด ?

    ตอบ: อยู่กันยากจ้ะ พระพุทธเจ้าท่านบอกเอาไว้ชัดเลยว่าบุคคลที่เป็นเนื้อคู่กัน ต้องมีทานเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน อันใดอันหนึ่งบกพร่องก็รังแต่จะขัดกัน แล้วเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง ถ้าขัดกันมากก็คงต้องเลิกรากันไป ทาน ศีล ภาวนา ต้องเสมอกัน คงจะยากนะ ตัดใจบวชชีเสียเถอะลูก เดี๋ยวนี้เขาส่งหาคู่ทางอินเตอร์เน็ตไม่ใช่เหรอ เฮ้อ...ไอ้การแต่งงานน่ะลูก มันเหมือนกะซื้อหวยแล้วหวังรางวัลที่ ๑ แต่ละงวดๆ มันพิมพ์มากี่สิบกี่ร้อยล้านก็ไม่รู้ แล้วมันก็มีรางวัลที่ ๑ อยู่รางวัลเดียวอย่างนี้ ลำบากจ้ะ

    เอกายโน อะยัง ภิกขเว มัคโค สัตตานัง วิสุทธิยา พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า เป็นหนทางของคนเดียว สามารถนำพาสัตว์เข้าถึงความบริสุทธิ์ สองคนก็ไม่ใช่ โสกะปริเทวานัง สมติกะมายะ สามารถล่วงพ้นความทุกข์โศกทั้งหลายได้ ทุกขโทมนัส สานัง อัตถังคะมายะ ล่วงพ้นความทุกข์ความเศร้าเสียใจได้ ยายัสสะ อธิคะมายะ ธรรมทั้งหลายก็เจริญ จัตตาโร สติปัฏฐานา อันนี้เรียกว่า สติปัฏฐานทั้ง ๔ กตะมาจัตตาโร ๔ อย่างมีอะไรบ้าง อิธะ ภิกขเว ดังนี้ ภิกษุทั้งหลาย กาเย กายานุปัสสี วิหรติ ท่านให้พิจารณากายในกาย ว่าต่อไม่ได้จ้ะ เดี๋ยวหนูบรรลุ

    ธรรมดาของการเกิดมา ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ เป็นสมบัติประจำร่างกายนี่ เมื่อเราอาศัยอยู่ในร่างกายนี้ มันต้องมีเป็นปกติธรรมดา เพียงแต่ว่ามันอยากมี ก็ให้มันมีไป เราไม่ไปใส่ใจกับมันก็หมดเรื่อง รัก โลภ โกรธ หลง ถ้าหากว่าเราไปนึกคิดปรุงแต่งกับมัน มันก็จะสนุกสนานไปใหญ่โตเลย ถ้าเราไม่ไปนึกคิดปรุงแต่งกับมัน ก็เหมือนกับก๋วยเตี๋ยวปรุงใส่น้ำเปล่าๆ ไม่มีชูรส ไม่มีน้ำปลา ไม่มีน้ำส้ม ไม่มีพริกขึ้นมา มันไปไม่รอดหรอก จืดสนิท ตายแหงแก๋ สำคัญตรงที่ว่าเราอย่าเผลอไปร่วมมือกับมัน ถ้าเผลอไปร่วมมือกับมัน ตัวจิตสังขาร คือตัวปรุงแต่ง มันก็ปรุงไปเรื่อย ต้องหล่ออย่างนั้น ต้องสวยอย่างนี้ไปเรื่อยเปื่อย ก็ทำให้ราคะ โลภะ โทสะ โมหะกำเริบ

    ถ้าเราหยุดอยู่กับการภาวนา หยุดอยู่กับลมหายใจเข้าออก ไม่ปล่อยให้จิตเคลื่อนไปในอดีต แล้วก็ไม่ให้ไปในอนาคต หยุดอยู่เฉพาะหน้า เป็นอันว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ทำอันตรายเราไม่ได้ เพราะงั้นอย่าเผลอไปร่วมมือกับมัน ร่วมมือกับมันเมื่อไร ก็มีแต่จะพาให้เราทุกข์ แค่รักเขาก็ทุกข์แล้วเห็นเขาว่า ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ เริ่มรักก็เริ่มหลง พอหลงแล้วก็หวาดระแวง พอหวาดระแวง คราวนี้ก็ชักจะกินไม่ได้ นอนไม่หลับ มันไปของมันเรื่อยแหละ เพราะงั้นต้องระวังให้ดี รักษาไว้ให้ดี ไม่มีใครรักเราเท่ากับตัวเราเอง คนไหนมันบอกว่ามันรักเรามาก ขาดเราไม่ได้ ให้มายืนคู่กัน แล้วเราเอาถ่านร้อนๆ แดงๆ วางบนหัวมันพร้อมกันดูสิ จะปัดของใครก่อน ถ้ารักคนอื่นมาก ต้องปัดให้คนอื่นก่อน เห็นปัดให้ตัวเองทุกทีเลย ลองดูมั้ย ? มาถึงก็ถ่านแดงๆ คนละก้อน หย่อนใส่หัวมัน เธอรักฉันมาก เธอต้องปัดให้ฉันก่อน ไม่มีซะหรอก ปัดของมันเองก่อน

    ในเมื่อเรารักตัวของเราเอง ก็ให้รักในทางที่ถูก เมตตา...ตัวของเราเอง ก็อย่าทำชั่ว เพราะว่าการทำชั่ว พาให้เราตกสู่อบายภูมิ ต้องเกิดเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน ทนทุกข์ทรมานนับชาติไม่ถ้วน ถ้าหากว่ารักตัวเอง ให้ตั้งใจปฏิบัติ ทาน ศีล ภาวนา ให้มากไว้ ถึงเวลาตัวเองจะได้รับแต่ผลดี หลวงปู่มหาอำพันท่านว่า รักษาตัวกลัวกรรมอย่าทำชั่ว จะหมองมัวหม่นไหม้ไปเมืองผี จงเลือกทำแต่กรรมที่ดีดี จะได้มีความสุขพ้นทุกข์ภัย

    อยู่ใกล้พ่อก็ดีขึ้นมาจึ๋ง ห่างอีกก็ไปยาว เอาเหอะอย่างน้อยๆ มันก็ยังมีอยู่บ้าง อย่าให้ตลอดชีวิต ๓๐ กว่าปีมันเลวซะหมดละกัน

    การที่คนเราจะรักกัน จะแต่งงานแต่งการอยู่กินเป็นคู่ครองกัน พระพุทธเจ้าบอกว่าเกิดจากสาเหตุ ๒ ประเภทด้วยกัน ประการที่หนึ่งเรียกว่า บุพเพสันนิวาส บุพพะ บุพเพแต่ปางก่อน สันนิวาสการอยู่ร่วม การอยู่ร่วมกันมาแต่ปางก่อน แสดงว่าเคยเป็นคู่กันมา ท่านทั้งหลายเหล่านี้ถ้าเกิดเป็นคู่กันมาหลายชาติหลายภพ ถ้าเจอหน้ากันมันหลีกไม่พ้น ประเภทเห็นปุ๊บ ปิ๊งเลย ที่วัยรุ่นสมัยนี้เขาว่าอะไร ใช่เลย ไม่ของมันน่ะ ใช่แล้วเลย ส่วนใหญ่มันใช่ไม่จริง เพราะว่าคนเราไม่ได้เกิดชาติเดียว แต่ละชาติแต่ละภพเกิดมาก็ไม่ใช่หมายความว่าจะเจอคนเดิมตลอดไป เพราะฉะนั้นมันก็จะมีใช่เลย ใช่เลยๆ ไปเรื่อยๆ ระวังเอาไว้ให้ดี คนเราถ้าไม่มีศีลควบคุมก็จะใช่ไปเรื่อย ยิ่งใช่มากเท่าไรก็ลงนรกไปมากเท่านั้น

    ส่วนอีกอย่างหนึ่งท่านว่าเกิดจากการเกื้อกูลกันในปัจจุบัน จนเห็นอกเห็นใจกัน ดังนั้นไม่ใช่หมายความว่า ถ้าไม่ใช่เนื้อคู่ คือไม่ใช่บุพเพสันนิวาสแต่ปางก่อน แล้วจะแต่งกันไม่ได้ เสร็จแล้วการแต่งงานกันไปมันก็ต้องลดทิฐิมานะลง ต่างคนต่างต้องฟังอีกฝ่ายหนึ่ง เพราะตอนนี้มันเป็นสภาพครอบครัวแล้ว ไม่ใช่ตัวคนเดียว เราจะเคยทำอะไรก็ทำอย่างนั้นไม่ได้ ตอนนี้มันแบกขันธ์ ๕ ขึ้นมาเป็นขันธ์ ๑๐ แล้วนี่ ขันธ์ ๕ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ของตัวเอง คนเดียวมันก็แย่แล้ว ไปหาเข้ามาขันธ์ ๑๐ คราวนี่แย่ตรงที่ว่าก่อนนี้ ถึงเวลากิน เราไม่กินก็ได้ คราวนี้ถึงเวลากินขึ้นมา นี่เราไม่กิน มันได้อยู่ แต่เขาไม่กินไม่ได้เพราะเขาหิวแล้ว มันก็ต้องทุกข์ในการหามาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเขาเพิ่มอีกคนหนึ่ง มีลูกขึ้นมาก็เป็นขันธ์ ๑๕ มี ๒ ลูกก็ขันธ์ ๒๐ มีแต่จะทุกข์หนักขึ้นไปเรื่อยๆ บรรดาเทวดาจ้อย นางฟ้าจิ๋ว นี่มันเจ้านายใหญ่ ถึงเวลาพ่อเจ้าประคุณ แม่เจ้าประคุณจะเอายังไงก็แหกปากจ๊ากจึ้นมา ก็ต้องตามใจ ไม่ตามใจก็เสร็จ เพราะว่าเขามีการร้องไห้เป็นกำลัง ผู้หญิงมีน้ำตาเป็นกำลังใช่มั้ย ? ถ้าหากว่าถึงเวลาความทุกข์ทั้งหลายเหล่านี้มันมีแต่จะพอกพูนเพิ่มขึ้นๆ แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ

    พระพุทธเจ้าท่านตรัสเอาไว้ว่า การกินหนึ่ง การนอนหนึ่ง การเสพกามหนึ่ง การเสวยอำนาจหนึ่ง บุคคลจะไม่มีวันเบื่อเด็ดขาด ยกเว้นผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสาร พยายามหลีกหนีมันให้ได้เท่านั้น การมีเนื้อคู่ถือว่าเป็นการเสพกามใช่มั้ย ? เพราะฉะนั้นการกิน การนอน การเสพกาม การเสวยอำนาจอยู่ คนจะไม่เบื่อ มีอยู่อย่างเดียวก็คือว่า พยายามหลีกหนีมัน เพราะเห็นโทษเห็นภัย ก็ลองคิดดูว่าเราอยู่คนเดียวสบายละ เหนื่อยจากงานมานอนแผ่หลาไม่อาบน้ำก็ได้ ไม่กินข้าวก็ได้

    คราวนี้กลับมาบ้าน เจ้านายใหญ่นั่งรอยอยู่ ต่างคนต่างเหนื่อยมา แทนที่จะช่วยเราไม่มีหรอก รอเราช่วยอย่างเดียว มันแทนที่จะทุกข์คนเดียวก็เลยทุกข์หนักขึ้น แล้วอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าหากว่าวันไหนเหนื่อยมากๆ แล้ว สติแตกกลับมาแทนที่เราจะช่วยกัน เปล่าหรอก นั่งเต๊ะจุ๊ยอ่านหนังสือพิมพ์รอเราทำกับข้าว โอ๊ยแทบจะขาดใจ มาจากที่โน่น มาถึงจะสลบเหมือด ก็ต้องมาเจอเจ้านายใหญ่อีก ไม่เป็นไรจ้ะ ค่อยๆ ดูไป อนุญาตให้ลอง ทดลองแล้วไปไม่รอดแล้วค่อยว่ากัน

    หลายคนเขาบอกว่า แต่งงานเพราะถึงเวลาแก่ตัวไปจะได้มีคนดูแล ฝันไปเถอะ แก่ตัวไปแล้วล้วนแล้วแต่มีคนให้เราดูแล ฟังให้ดีๆ ไม่ใช่แก่ตัวไปจะได้มีคนดูแล แก่ตัวไปจะได้มีคนให้เราดูแล แต่งไปไม่ต้องฝันหรอกว่ามันจะดูแลเรา รับรองได้รายไหนรายนั้น แล้วต้องไปดูแลเขาทั้งนั้น

    สมัยก่อนหมวยนี้ไปกับหลวงพ่อบ่อยๆ เขาก็ซึมซับเอาสิ่งต่างๆ ที่หลวงพ่อพาไป ไม่ว่าจะเป็นทาน ศีล ภาวนา รับเข้าไปๆ บวกกับการปฏิบัติของตัวเอง เขาตั้งใจว่าไม่แต่งงาน ทางบ้านพ่อเอย แม่เอย อากู๋ อากิ๋มอะไรให้ยุ่งไปหมด พยายามจะแงะให้แต่งให้ได้ แกก็ฝืนมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ มีแต่คนเปลี่ยนความคิดละ พูดว่าเป็นหมวยนี้ก็สบายจังเลยเนอะ มันชักเห็นทุกข์แล้วตอนก่อนนี้ล้วนแต่ว่าทุกข์น่ะดี มีครอบครัวไหนบ้างที่ไม่ทะเลาะกัน ถามจริงๆ หนูเคยเห็นมั้ย ? ดีแสนดีมันต้องมีวันผีเข้าซักวันหนึ่ง

    อยู่คนเดียวเปลี่ยวกายแสนสบายแต่ไม่สนุก อยู่สองครองทุกข์ถึงสนุกก็ไม่สบาย เลือกเอาก็แล้วกัน

    พระเจ้าฑีฆีติโกศล ตรัสกับฑีฆาวุกุมารว่ารักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ เพราะฉะนั้นถ้าเห็นแก่อนาคตอันยืดยาวเบื้องหน้า อยากจะไปดี รักในการปฏิบัติธรรม เพื่อความหลุดพ้นจริงๆ ก็รีบๆ ตัดกรรมซะ รักยาวให้บั่น ถ้าเห็นแก่ความสุขเฉพาะหน้าในระยะสั้นๆ รักสั้นให้ต่อ สร้างกรรมต่อไปไม่มีใครว่า พระเจ้าฑีฆีติโกศลโดนพระเจ้าอชาตศัตรูบุกแคว้นโกศลน่ะ จับได้ไปประหารชีวิต เพื่อยึดเอาแว่นแคว้นมาเป็นของตัว ฑีฆาวุกุมารซึ่งเป็นลูกชายหลบไปได้ ถึงเวลาเขาประหารชีวิตก็ย่องมาดู พ่อก็รู้ว่าลูกชายต้องอยู่แถวๆ นั้นก็เลยตะโกนบอก รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ คนอื่นฟังไม่เข้าใจ แต่ฑีฆาวุกุมารฟังแล้วเข้าใจเลย

    คราวนี้ก็พยายามไปร่ำเรียนวิชาศิลปะศาสตร์อะไรต่างๆ นานา จนกระทั่งเติบใหญ่ขึ้นมาก็ไปสมัครเป็นข้าราชบริพารในสำนักพระเจ้าอชาตศัตรู จะได้หาโอกาสฆ่าพระเจ้าอชาตศัตรูเพื่อล้างแค้นให้พ่อ มีอยู่วันหนึ่งพระเจ้าอชาตศัตรูออกเสด็จประพาสป่าพร้อมด้วยข้าราชบริพาร ฑีฆาวุกุมารตอนนั้นเป็นมหาดเล็กตัวโปรด ก็ทำหน้าที่สารถีขับรถให้ ฑีฆาวุกุมารก็แกล้งให้ม้ามันตกใจ วิ่งเตลิดเปิดเปิงจะได้ทิ้งพวกข้าราชบริพารให้ไกลๆ จนกระทั่งเตลิดเข้าไปในป่าลึก พระเจ้าอชาตศัตรูเหนื่อยเต็มที่ ก็บอกพักก่อนเถอะ เราไม่ไหวแล้ว ฑีฆาวุกุมารก็พัก พระเจ้าอชาตศัตรูก็หนุนตักฑีฆาวุกุมารก็หลับเหนื่อย พระเจ้าแผ่นดินไม่ใช่ว่าประเภทได้มาออกกำลังหนักหนาอย่างเรา ฑีฆาวุกุมารเห็นได้โอกาสก็เลยชักมีดสั้นที่ซ่อนไว้ จะจ้วงซะให้เต็มๆ ก็นึกถึงคำพูดของพ่อว่า รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ ก็ลดมีดลง พอขยับจะแทงอีก นึกได้ก็ลดมีดลง ๓ ครั้งด้วยกัน พระเจ้าอชาตศัตรูลืมตาขึ้นมาจ๊ะเอ๋เข้าพอดีก็ตกใจ ร้องขอชีวิต ถามฑีฆาวุกุมารว่าเป็นใคร ฑีฆาวุกุมารก็เล่าให้ฟังว่าเป็นลูกของพระเจ้าฑีฆีติโกศล พระเจ้าอชาตศัตรูก็สำนึกได้ว่า ตัวเองไม่ควรที่จะไปแย่งบ้านชิงเมืองคนอื่นเขาถึงขนาดนั้น ทำให้เดือดร้อนกันไปหมด ฑีฆาวุกุมารก็บอกว่าไม่ต้องกลัวหรอก ตอนนี้เชื่อในสิ่งที่พ่อบอก ก็ให้อภัยพระเจ้าอชาตศัตรูแล้วแต่ว่าต่อไปจะไม่อยู่รับราชการ เพราะการอยู่ใกล้พระราชาเหมือนกับการอยู่ใกล้เสือหรือไฟ จะโดนเสือกัด โดนไฟไหม้เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ จะขอลาออก พระเจ้าอชาตศัตรูก็ได้สำนึกเห็นในความมีน้ำใจ แล้วก็เห็นแก่บุญคุณที่ไว้ชีวิต ก็เลยบอกไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวจะยกแคว้นโกศลคืนให้ เธอกลับไปครองแว่นแคว้นของเธอตามเดิมก็แล้วกัน เรื่องก็เลยแฮปปี้เอ็นดิ้ง ไอ้คำว่าเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรก็มาจากเรื่องนี้แหละ



    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนธันวาคม ๒๕๔๕(ต่อ)
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ




    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2009
  2. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    ขออนุโมทนาสาธุธรรม เป็นอย่างสูง ครับ
     
  3. coolz

    coolz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,594
    ค่าพลัง:
    +1,337
    โมทนาคะ ยิ่งชาวพุทธภูมินั้นกว่าจะเจอยากแท้ เพราะยังต้องบารมีเสมอ
     
  4. ฤดูใบไม้ผลิ

    ฤดูใบไม้ผลิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,036
    ค่าพลัง:
    +1,724
    ถาม : คนหนึ่งเข้าวัด อีกคนหนึ่งไม่เข้าวัด ?

    ตอบ: อยู่กันยากจ้ะ พระพุทธเจ้าท่านบอกเอาไว้ชัดเลยว่าบุคคลที่เป็นเนื้อคู่กัน ต้องมีทานเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน อันใดอันหนึ่งบกพร่องก็รังแต่จะขัดกัน แล้วเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง ถ้าขัดกันมาก็คงต้องเลิกรากันไป ทาน ศีล ภาวนา ต้องเสมอกัน คงจะยากนะ ตัดใจบวชชีเสียเถอะลูก เดี๋ยวนี้เขาส่งหาคู่ทางอินเตอร์เน็ตไม่ใช่เหรอ เฮ้อ...ไอ้การแต่งงานน่ะลูก มันเหมือนกะซื้อหวยแล้วหวังรางวัลที่ ๑ แต่ละงวดๆ มันพิมพ์มากี่สิบกี่ร้อยล้านก็ไม่รู้ แล้วมันก็มีรางวัลที่ ๑ อยู่รางวัลเดียวอย่างนี้ ลำบากจ้ะ



    5555++++ หลวงพี่เล็กเข้าใจพูดนะเจ้าคะ......... อนุโมทนาคะ เห็นด้วยกับน้อง coolz ค่ะ
     
  5. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,048
    บุคคลที่เป็นเนื้อคู่กัน ต้องมีทานเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน อันใดอันหนึ่งบกพร่องก็รังแต่จะขัดกัน แล้วเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง ถ้าขัดกันมาก็คงต้องเลิกรากันไป

    เห็นด้วย จากประสบการณ์จริง อิอิอิ


    โมทนาด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2009
  6. หนูแอ้

    หนูแอ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +627
    สาธุ

    หลายปีมานี้ ได้ครองความโสด แล้วรู้สึกหัวใจเบิกบาน มีความสุข
    ไม่ต้องมานั่งทุกข์ ระแวง เหตุผลต่างๆนานา ก็เพราะเรารักเค้า ห่วงเค้า
    มากจนทำร้ายตัวเราเอง ..​ตอนนี้เอาความรักทั้งหมด มาให้ป๊า และมะม๊าคะ
    ให้กับหลาน

    ทุกวันนี้หนูแอ้มีความสุขที่สุดเลยคะ =^,^=
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2009
  7. Palungjid

    Palungjid Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +43
    การไม่มีคู่เป็นลาภอันประเสริฐ
     
  8. littleweb_cs

    littleweb_cs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    567
    ค่าพลัง:
    +1,241
    อยู่คนเดียวเปลี่ยวกายแสนสบายแต่ไม่สนุก อยู่สองครองทุกข์ถึงสนุกก็ไม่สบาย เลือกเอาก็แล้วกัน ^^
     
  9. วิญญูชนจอมปลอม

    วิญญูชนจอมปลอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    312
    ค่าพลัง:
    +1,124
    อนุโมทนาบุญครับ แล้วแต่บุญพาวาสนาส่งแล้วกัน ใจก็ม่ได้อยากมีเท่าไหร่
     
  10. piya0101

    piya0101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +255
    เสียดายจัง

    ถ้าได้ศึกษาธรรมะมาก่อน

    ก็คงต้องมาถือขันธ์ 10 แบบนี้

    ขอบคุณในธรรมทานครับ สาธุ





    ______________________
    ขอเชิญร่วมทำบุญ ซ่อมเมรุเผาศพ
     
  11. สังสารวัฏ

    สังสารวัฏ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +5,382
    อนุโมทนาบุญด้วยค่ะสาธุ ..
    ทาน ศีล ภาวนา เสมอกันถึงจะอยู่กันรอด...ของจริงเลยค้า (^_^)
    พากันตระเวนทำบุญตลอด.. และมีความสุขดีด้วยไม่มีใครขัดคอกัน

    http://palungjit.org/threads/4-ก-ค5...เด็จองค์ปฐมหน้าตัก-2-ม-วัดคลอง-14-ค่ะ.188430/
     
  12. จะเป็นคนดี+++

    จะเป็นคนดี+++ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +30
    คิดถึงรักแท้อีกแล้ว แม่เราคือผู้หญิงที่เรารักมากที่สุดและรักเราเหลือคณาเลย
     
  13. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    รักแท้ ไม่มีในโลกของปุถุชน เพราะรักแท้ ต้องเป็นรักที่ไม่ทำไห้เกิดทุกข์ ทั้งกับผู้รัก และผู้ถูกรัก
    ในโลกของปุถุชน ไม่มีรักไดๆเสมอด้วยรัก ตน

    จาก มนุษย์ อึ ^^
     
  14. Farfalle

    Farfalle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +45
    อนุโมทนาึค่ะ __/|\__

    พอได้มาอ่านรู้สึกดีค่ะ

    ตอนนี้กำลังมีทุกข์เพราะ ความรัก T....T
     
  15. หญิงจัน

    หญิงจัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +2,655
    เห็นด้วยค่ะ คนหนึ่งชอบทำบุญ อีกคนชอบเป็นชู้กับเเฟนชาวบ้าน มันก็ไปกันไม่รอดหรอกค่ะ ชีวิตจริงเลยนะเนี่ย
     
  16. koisung

    koisung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +3,469
    อ่านแล้วนึกถึงคำสอนของหลวงพ่อป๋อง วัดเขาโบสถ์เลยค่ะ


    "อยู่คนเดียวเปลี่ยวกายแสนสบายแต่ไม่สนุก อยู่สองครองทุกข์ถึงสนุกก็ไม่สบาย เลือกเอาก็แล้วกัน"

    หลวงพ่อก็สอนก้อยแบบนี้มาตั้งแต่เข้าวัดใหม่ๆแล้วเหมือนกัน เดี๋ยวนี้ก็ยังรักษาคำพูดที่เคยพูดกับหลวงพ่อ ว่าจะขออยู่แบบนี้...

    สบ๊ายยยย สบายยยยยยยย

    @^_______^@
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...