คิดว่าธรรมมะคืออะไรกัน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย DekNoii, 19 มีนาคม 2012.

  1. รักหมดใจ

    รักหมดใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +290
    ค่าความหมายแห่ง "สติ " โดยนัยยะ

    โดยลักษณะคือ

    ๑. การระลึกรู้ ให้ชัดเจน ให้เท่าทัน ความคิด การปรุงเป็นอารมณ์
    ๒. การระลึกรู้ภาวะความคิดแห่งตัวเราเอง
    ๓. การระลึกรู้ภาวะอารมณ์จิตแห่งตัวเราเอง
    ๔. การระลึกรู้ความโปร่งโล่งเบาสบายแห่งจิตตัวเราเอง

    โดยความเชื่อว่า สติข้อ ๑-๓ เป็นขั้นตอนการฝึกฝน ส่วนข้อที่ ๔ เกิดจากสติที่ฝึกฝนแล้ว เป็นหนึ่งเดียวกันกับปัญญาที่รวมความเป็นหนึ่งเดียวแห่งความเป็นสัมมาทิฐิได้นั้นเอง

    โดยการปฏิบัติ

    ๑. การกำหนดรู้ โดยการปฏิบัติทางจิต เท่านั้นเอง
    ๒. การวางจิต โดยการตื่นตัว เรียกสติแห่งการปลดปล่อยอารมณ์ไปสู่ความว่างแห่งจิต ก็เพื่อให้จิตมีสภาวะแห่งความว่างต่อเนื่องไปเท่านั้นเอง เรียกจิตตื่นคือสติ เท่านั้นเอง
    ๓. การตระหนักชัดต่ออนัตตา เท่านั้นเอง เรียกสติต่อสัจธรรม ยอมรับธรรมชาติโดยการมีสติต่อสัจธรรมธรรมชาติไปเท่านั้นเอง
    ๔. การปฏิบัติรู้ตัวโดยการปฏิบัติทางร่างกายตัวเองให้เนื่องด้วยการระลึกรู้ตัวภายในร่างกายไปเท่านั้นเอง เรียกสัมมาสติ(บางสำนักความเชื่อ)เท่านั้นเอง
    ๕. การระลึกรู้ตัวให้เป็นปัจจุบันเท่านั้นเอง เรียกสติภายในปัจจุบันกาล เท่านั้นเอง เรียกการเจริญสติแบบอย่างนี้ว่า "ปัจจุบันกาล" มีความสำคัญต่อสติจิตหนึ่งมากที่สุด เท่านั้นเอง (บางสำนักความเชื่อมีความหมายแห่งค่าความหมายสติดังกล่าวมาแล้ว นั้นเอง)

    โดยความประพฤติ เรียกว่า

    ๑. ผู้มีตัวสัมมาสติย่อมประพฤติตามศีลได้สมบูรณ์เท่านั้นเอง
    ๒. ผู้มีศีลบริสุทธิ์ กล่าวสัมมาวาจา กล่าวคือ ผู้นั้นเจริญสัมมาสติบริบูรณ์
    ๓.ผู้มีสัมมากัมมัตตะ กระทำชอบ สัมมาวาจา วาจาชอบ สัมมาดำริ คิดชอบ ผู้นั้นมีสัมมาสติชัดเจน เราเรียกการระลึกชอบเช่นนี้ว่า เป็นผู้มีสัมมาทิฐิอันรู้แจ้งแล้วนั้นเอง

    โดยกาละเทศะ กล่าวคือ

    ๑. ผู้มีสติย่อมกล่าวอย่างมีกาละและเทศะ เขารู้แล้วว่าสมมุติบัญญัติและปรมัตถ์เป็นเช่นไร ดังนั้นแล้วโลกนี้ย่อมปรากฎเป็นเพียงการเจริญสติสัมปัญชัญญะไปเท่านั้นเอง
    ๒. ทุกที่มีผู้ที่มีสัมมาสติ ที่นี้ย่อมมีการรู้แจ้งชัดเจนต่อธรรมอันเป็นเครื่องอยู่แห่งการรู้แจ้งจิตหนึ่งแห่งตัวเราเอง (กาละเทศะภายใน)

    โดยความชัดเจน และค่าความหมายแตกต่างกันเองของค่าความหมายของตัวเอง กล่าวคือ

    ๑. ค่าความหมายแห่งสติคือการระลึกรู้ตัวรู้จิตเอาเอง กล่าวคือ จิตแห่งตัวเราเองรู้จักจิตตัวเราเอง ด้วยการสังเกตุความเปลี่ยนแปลงไปแห่งตัวจิตของเราเท่านั้นเอง ดังนั้นแล้วจิตเราเองที่รู้ตัวจิตเราเอง กล่าวคือ จิตเห็นจิต เท่านั้นเอง :VO:VO

    ๒. ค่าความหมายแห่งการเรียกตัวจิตเอาเองว่ามีความเป็นสติอยู่แล้วโดยธรรมชาติของจิตธรรมชาติอยู่แล้วไปเท่านั้นเอง

    ๓. สัมมาสติ ก็คือ สติที่ไร้การปฏิบัติ สติแห่งตัวธรรมชาติเดิมแท้ไปเท่านั้นเอง ดังนั้นการเจริญสติระลึกรู้ซ้อนตัวกำหนดลงไปที่ร่างกายหรือตัวจิตเป็นการผิดพลาดหากกล่าวเรียกสติในความหมายนี้เท่านั้นเอง

    ๔. สติไร้การปฏิบัติคือการรู้ตัวของสภาวะธรรมตามธรรมดาของตัวจิตที่รู้ตัวเท่าทันสิ่งกระทบทุกสิ่งภายในการไม่จดจ่อหรือการจดจ่อ เท่านั้นเอง กล่าวคือสติดำรงตัวเองอยู่ด้วยค่าความหมายอันเป็นธรรมชาติธรรมดาแห่งตัวจิตสภาวะธรรมตามธรรมชาติอยู่เองแล้ว เท่านั้นเอง

    โดยการดำรงอยู่ ด้วยกาลเวลา - สถานที่ - มิติสัมพันธ์

    ๑. สติเท่าทันปัจจุบันกาล คือ สัมมาสติ (นี้คือค่าความหมายหนึ่งในความเชื่อของคนทั่วไปภายในประเทศไทยนี้) เช่นนั้นเอง

    ๒. ติดสติสมาธิ หมายถึง การก่อรู้ตัวตนขึ้นภายในปัจจุบันกาล ดังนั้นการรู้ตัวอย่างนั้นจึงกลายเป็นไปได้ทั้ง สติอนัตตา และ สติอัตตา เลยทีเดียว

    โดยที่ความสัมพันธ์ กล่าวคือ การกระทบ สัมผัส เท่านั้นเอง

    ๑. การกระทบรู้ตัวเข้ากับที่ความสนใจในภายนอกเท่านั้นเอง กล่าวคือ สนใจภายนอกกระทบแล้วก่อเกิดภาวะสภาวะภายในเช่นใดเท่านั้นเอง ดังนั้นแล้วการกระทบแล้วรู้ มีความหมายเป็น "สติ" เท่านั้นเอง ดังนั้นสติแปลความหมายว่า "รู้การกระทบภายนอกเข้าสู่ภายใน" เท่านั้นเอง

    ๒. การกระทบแล้วเป็นสภาวะธรรมใด รู้ตัวธรรมนั้น ได้รับสัมมาสติ หากเป็นกิเลส นั้นคือ มิจฉาสติ ไปเท่านั้นเอง ดังนั้นกิเลสและธรรมะใช้เป็นแนวทางแห่งการเจริญสัมมาทิฐิ โดยเป็นการใช้สัมมาสติเป็นตัวขัดเกลาตัวจิตให้เกิดสัมมาทิฐิ นั่นเอง

    ๓. สัมมาทิฐิเกิดเป็นสัมมาดำริ สัมมาวาจา สัมมากัมมัตตะ ได้โดยสัมมาสติควบคุมดังนั้นแล้ว สัมมาญาณการรู้แจ้งจักเกิดขึ้นอย่างแท้จริงก็ด้วยสัมมาสมาธิเต็มเปี่ยมแล้วนั่นเอง ดังนั้นแล้ว สติภายในวิถีญาณ ต้องเป็นการรู้แจ้งที่ปราศจากค่าความหมายที่มีความลำเอียงภายในจิตหนึ่งแล้วนั่นเอง ดังนั้นแล้วสติสัมมาญาณคือการรู้แจ้งวิถีญาณตามความหมายแห่งสติอริยะจิตไปเท่านั้นเอง กล่าวคือ สติอันเป็นเครื่องกั้นแห่งกิเลสเท่านั้นเอง เมื่อสติตัวนั้นจักนำพาไปสู่การรู้แจ้งความเป็นจริงอย่างแท้จริงเลยทีเดียว เท่านั้นเอง

    โดยแท้จริง คือความเป็นเช่นนั้นเอง กล่าวคือ สติโดยทั่วไปตามลัทธิความเชื่ออันแตกต่างกัน เช่นกันเราเรียกสติได้เหมือนกันตามความเชื่อของแต่ละกลุ่มบุคคลไปเท่านั้นเอง ดังเช่นว่า

    ๑. ตัวสติเชื่อมสัมพันธ์ กล่าวคือ สติหลังการประทับทรง ของม้าทรง หรือคนทรง เป็นต้น

    ๒. สติหลังความฝัน เป็นต้น อันนี้เป็นต้นความเชื่อที่มีความหมายหลากหลายซึ่งไม่ขอกล่าวไว้ในที่นี้อย่างชัดเจน ดังนั้นสติภายในความฝันเป็นบ่อเกิดทางจิตหนึ่งที่มีค่าความหมายแตกต่างไปตามกลุ่มความเชื่ออันหลากหลายเกี่ยวเนื่องกับความเชื่อภายในความฝัน แต่ล่ะคนนั้นเท่านั้นเอง

    ๓. สติหลังการหมดความรู้สึกตัวภายนอก เราเรียกสติแห่งจิตใต้สำนึก เป็นการสะกดจิต หรืออาจเกิดจากการใช้ยาเสพติดก็ได้ เป็นต้น การเป็นอาการขาดสติอย่างพระพุทธศาสนา แต่กลายเป็นการมีสติบริสุทธิ์การเห็นความเป็นจริงได้โดยการไร้สติอย่างพุทธไปเท่านั้นเอง ตัวอย่างเช่น การทรงโดยผู้ทรงขาดสติสัมปัญชัญญะไปทั้งหมดเลย เป็นต้นว่า เท่านั้นเอง

    โดยสุดท้ายแล้ว สติสัมปัญชัญญะ สติปัญญา สัมมาสติ คือความหมายแห่งการระลึกรู้ตัว รู้จิต รู้กาย รู้วาจา หรือรู้การกระทบแห่งตัวกระทบภายนอกเข้าสู่ภายในหรืออย่างไร ตัวท่านเองเท่านั้น จึงจะแปลค่าความหมายอันแท้จริงได้อย่างชัดเจน ดังนั้น สติในความหมายนี้ก็คือ "จงลองทำปฏิบัติด้วยตัวเราเอง แล้วก็จะรับรู้ความเป็นจริงด้วยตัวเราเอง " เท่านั้นเอง ดังนั้น "สติ" ก็คือ "สติปัจจัตตัง" เท่านั้นเอง :VO:VO:VO

    ขอทุกท่านจงโชคดี

    :z6:z2:z16:z14dannce_;41;41;43;aa21;aa2;aa7;hi2;hi2;aa43
     
  2. DekNoii

    DekNoii สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +0

    อะ กลายเป็นคุณครูไปสะเลยเรา เค้ายังเด็กอยู่น้าาา;aa44


    จะไปตั้งอีกกระทู้ดีไหมนิ กลัวมันตีกันกับคำว่าธรรมมะอะ
     
  3. DekNoii

    DekNoii สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +0
    ว่าไป ใครพูดๆๆอะไรมาเนี้ย ทำได้บ้างรึป่าวที่พูดอะ มาตรวจการบ้านละ
    ++.
     
  4. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    "ธรรมะ" คือ การไม่กินหูฉลาม... ปลาฉลามคิดได้แค่นี้อ่ะ
     
  5. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    ตื่นมาแซวแต่เช้าาาาาเชียว.....
     
  6. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    ได้บ้างไม่ได้บ้างก็เพียรทำไปเรื่อยค่ะ คุณครู
    (-_-) ตาจะปิดแระ เหอๆ
     
  7. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    (-_-) ตาจะปิดแระ เหอๆ

    สงสัยเราสองคนจะเป็น"Vampire"เหมือนกันซะล่ะ 55555
     
  8. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    นึกว่าเพิ่งตื่น เง้ออออ
     
  9. ผู้ผ่านทาง

    ผู้ผ่านทาง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2011
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +51
    สติคืออะไร???????

    สติ อะไรก็ได้ที่ให้รู้ว่ายังไม่ตาย

    อะไรก็ได้ที่ให้รู้ว่า ยังหายใจอยู่

    อะไรก็ได้ที่ทำให้รู้ว่า ยังอ่านหนังสือไม่จบ

    อะไรก็ได้ที่ทำให้รู้ว่า ยังอยู่บนโลก

    อะไรก็ได้ที่ทำให้รู้ว่า ยังหายใจเข้า ยังหายใจออก อยู่

    -----------------------------------

    สติ มา ปัญญาเกิด

    สติ เตลิด สตางค์หาย
     
  10. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    นั่น มา แล้ว ท่าน เจ้า ของ กระทู้

    ตาม ที่ บอก นั่น ล่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...