@@..คำครู ผู้ชี้-นำ-อุปถัมภ์ สู่พระโพธิญาณ & เรื่องเล่าจากกัลยาณมิตร.@@

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 10 กรกฎาคม 2015.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    48416388_1084647075062152_6171092616726183936_n.jpg?_nc_cat=105&_nc_ht=scontent.fbkk5-3.jpg



    สัตว์เดรัจฉานยังเจริญสติ

    ในอรรถกถามหาสติปัฏฐานสูตรเล่าเอาไว้ว่า ก่อนที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระสูตรแห่งการเจริญสตินี้แก่ชาวแคว้นกุรุ (ภาคเหนือของอินเดีย คาดว่าแถบกรุงเดลี) ปรากฎว่า มิใช่แค่ชาวกุรุที่เกิดมาเป็นมนุษย์จะใส่ใจสติปัฏฐานแต่พวกเดียวเท่านั้น แม้แต่สัตว์ดิรัจฉาน ที่อาศัยชาวกุรุอยู่ก็ใส่ใจ เจริญสติปัฏฐานด้วยเหมือนกัน ดังเรื่องเล่าเรื่องลูกนกแขกเต้า ความว่า

    เขาเล่าว่า นักฟ้อนรำผู้หนึ่งจับลูกนกแขกเต้าได้ตัวหนึ่ง ฝึกสอนมันพูดภาษาคน (ตัวเองเที่ยวไปแสดงการฟ้อนรำในที่อื่นๆ). นักฟ้อนรำผู้นั้นอาศัยสำนักของนางภิกษุณีอยู่ เวลาไปในที่อื่นๆ ลืมลูกนกแขกเต้าเสียสนิทแล้วไป. เหล่าสามเณรีก็จับมันมาเลี้ยงตั้งชื่อมันว่า พุทธรักขิต.

    วันหนึ่ง พระมหาเถรีเห็นมันจับอยู่ตรงหน้า จึงเรียกมันว่า พุทธรักขิต. ลูกนกแขกเต้าจึงขานถามว่า อะไรจ๊ะ แม่เจ้า. พระมหาเถรีจึงถามว่า การใส่ใจภาวนาอะไรๆ ของเจ้ามีบ้างไหม. มันตอบว่า ไม่มีจ๊ะ แม่เจ้า. พระมหาเถรีจึงสอนว่า ขึ้นชื่อว่าผู้อยู่ในสำนักของพวกนักบวช จะปล่อยตัวอยู่ไม่สมควร ควรปรารถนาการใส่ใจบางอย่าง แต่เจ้าไม่ต้องสำเหนียกอย่างอื่นดอก จงท่องว่า อัฏฐิ อัฏฐิ ก็พอ.

    ลูกนกแขกเต้านั้น ก็อยู่ในโอวาทของพระเถรี ท่องว่า อัฏฐิ อัฏฐิ อย่างเดียวแล้วเที่ยวไป. วันหนึ่ง ตอนเช้ามันจับอยู่ที่ยอดประตู ผึ่งแดดอ่อนอยู่ แม่เหยี่ยวตัวหนึ่งก็เฉี่ยวมันไปด้วยกรงเล็บ. มันส่งเสียงร้อง กิริๆ. เหล่าสามเณรีก็ร้องว่าแม่เจ้าพุทธรักขิตถูกเหยี่ยวเฉี่ยวไป เราจะช่วยมัน ต่างคว้าก้อนดินเป็นต้น ไล่ตามจนเหยี่ยวปล่อย.

    เหล่าสามเณรีนำมันมาวางไว้ตรงหน้าพระมหาเถรีๆ ถามว่า พุทธรักขิต ขณะถูกเหยี่ยวจับไป เจ้าคิดอย่างไร.

    ลูกนกแขกเต้าตอบว่า แม่เจ้า ไม่คิดอะไรๆ ดอก คิดแต่เรื่องกองกระดูกเท่านั้นจ๊ะแม่เจ้า ว่ากองกระดูกพากองกระดูกไป จักเรี่ยราดอยู่ในที่ไหนหนอ.

    พระมหาเถรีจึงให้สาธุการว่า สาธุ สาธุ พุทธรักขิตนั้นจักเป็นปัจจัยแห่งความสิ้นภพของเจ้า ในกาลภายภาคหน้าแล.

    แม้สัตว์ดิรัจฉานในแคว้นกุรุนั้น ก็ประกอบเนืองๆ ซึ่งสติปัฏฐานด้วยประการฉะนี้ เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบถึงความเจริญแพร่หลายแห่งสติปัฏฐานของชาวกุรุเหล่านั้น จึงได้ตรัสพระสูตรนี้.

    ภาพ - Delhi-Meerut pillar ในกรุงเดลี
     
  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    ไม่มีใครเขาอยากเห็นเราเด่นเกิน

    หลวงพ่อเล็กเล่าให้ฟังว่า "ตอนเช้าที่บวงสรวง (บ้านวิริยบารมี) นอกจากจะรับทราบ #รับรู้คำสั่งแล้ว ยังมีหลายอย่างที่ขอ

    มีอย่างหนึ่งที่ขอก็คือ ถ้าไปถึงตรงจุดนั้นแล้ว มันจะเริ่มกลายเป็นเป้าของชาวบ้าน ก็นึกถึงหลวงวิจิตรวาทการ

    #อันที่จริงคนเขาอยากเห็นเราดี
    #แต่ถ้าเด่นขึ้นทุกทีเขาหมั่นไส้
    #จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย
    #ไม่มีใครเขาอยากเห็นเราเด่นเกิน

    ก็เลยมีการขอบารมีพระ พรหมเทวดา #ตลอดจนครูบาอาจารย์ทั้งหมดช่วยสงเคราะห์ กำหนดเขตไปเลยว่าจะเอาขนาดสักเท่าไหร่ กว้างไกลสักแค่ไหน ที่บรรดาอันตรายต่าง ๆ ห้ามเข้า

    สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จริง ๆ ไม่ได้กลัวมัน แต่ว่าทำเผื่อโยม #เพราะวาระกรรมของแต่ละคนนอกจากจะไม่เท่ากันแล้ว กำลังใจยังไม่เท่ากันด้วย #พอกำลังใจไม่เท่ากัน #เวลาเขาลดแลกแจกแถมอาจจะได้รับเยอะหน่อย ที่จริงว่าไปเขาก็ใจดีนะ ปฏิบัติตามที่พระพุทธเจ้าท่านสอน มีอะไรก็แบ่งปันให้คนอื่น เพียงแต่ว่ามันแบ่งแต่ของที่ไม่ค่อยจะดีมาให้"

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    (หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน)
    เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๒

    -------------------
    ขอเพื่อนๆช่วยกดติดตาม(แบบเห็นโพสก่อน⭐) จะได้ไม่พลาดโพสของเราครับ
     
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    49187686_2866017356756971_7735460400468066304_n.jpg?_nc_cat=106&_nc_ht=scontent.fbkk5-8.jpg




    #แจ้งเพื่อทราบ
    รายนามพระสงฆ์ที่มาร่วมสวดพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ บูชาครู ในวันอาทิตย์ที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๒ ครับ
    #ช่วยแชร์ครับ

    ๑. พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน ประธาน
    ๒. ตุ๊พ่อมหาสิงห์ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ ประธานร่วม
    ๓. หลวงตาวัชรชัย วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ประธานร่วม
    ๔. พระอาจารย์เอ วัดปากน้ำ สวดต้นเสียง
    ๕. พระอาจารย์มหาชมพู ป.ธ.๙ วัดสวนพลู สวดต้นเสียง
    ๖. พระอาจารย์นิล อาศรมศรีชัยรัตนโคตร
    ๗. พระอาจารย์ติงลี่ วัดประตูด่าน
    ๘. ครูบาสง่า วัดพระธาตุดอยกวางคำ
    ๙. ครูบาวิฑูรย์ ปรียนันท์ธรรมสถาน
    ๑๐. พระอาจารย์เอกลักษณ์ วัดพุทธพรหมยาน
    ๑๑. พระอาจารย์โก้ สำนักปฏิบัติธรรมอนันต์บูรพาราม
    ๑๒. พระอาจารย์ใหม่ สำนักปฏิบัติธรรมอนันต์บูรพาราม
    ๑๓. พระอาจารย์นัทกฤต วัดบ้านห้วยน้ำขาว
    ๑๔. พระอาจารย์ภานุวัฒน์ วัดโลกโมฬี
    ๑๕. ครูบาหน่อแก้วฟ้า ลานธรรมอรหันตาหน่อแก้วฟ้าโพธิญาณ
    ๑๖. พระกัมพล สุขเวสโก วัดพัฒนารมย์
    ๑๗. พระสงฆ์ที่มาร่วมงาน

    กราบขอบพระคุณทุกท่านที่เมตตาสงเคราะห์ครับ

    ภาพขนาดใหญ่
    https://sv1.picz.in.th/images/2019/01/03/9lYhtk.jpg

    ในวันงานจะมีการถวายผ้าป่าสามัคคี ๗ กอง ประกอบด้วย

    #กองที่ ๑ ผ้าป่าสามัคคีสร้างพระจุฬามณี วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ จ.ลำพูน
    #กองที่ ๒ ผ้าป่าสามัคคีสมทบกองทุนธรรมทานข้าวก้นบาตรวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) จ.สระบุรี
    #กองที่ ๓ ผ้าป่าสามัคคีสร้างวิหารสมเด็จองค์ปฐม อาศรมศรีชัยรัตนโคตร จ.สกลนคร
    #กองที่ ๔ ผ้าป่าสามัคคีสร้างพระพุทธรูปทองคำ วัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี
    #กองที่ ๕ ผ้าป่าสามัคคีถวายวัดไทยในแดนพุทธภูมิ ประเทศอินเดีย
    #กองที่ ๖ ร่วมเป็นเจ้าภาพอุปสมบทหมู่ ๑๐๘ รูป วัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
    #กองที่ ๗ งานสาธารณประโยชน์จัดหาของใช้ที่จำเป็นให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ๔ จังหวัดชายแดนใต้

    ร่วมบุญได้ที่ทางเข้างาน หรือที่เว็บพลังจิต หรือที่เฟซบุ๊กชมรมฯ ในวันพรุ่งนี้นะครับ

    โมทนา
     
  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    " หวั่นไหว "



    ย้อนไปในอดีตที่คนแตกตื่นหวั่นไหวกันเรื่องข่าวภัยพิบัติซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับวันนี้ คำที่หลวงตาพูดในวันนั้น จึงก่อเกิดประโยชน์ในวันนี้ ☀ เราถามหลวงตาว่า ทำไมคนต้องหวั่นไหวแตกตื่นกันขนาดนี้กับเรื่องภัยพิบัติ ? หลวงตาหันมายิ้มหัวเราะและพูดว่า " มันหวั่นไหวเพราะมันไม่มั่นคง " มันไม่มั่นคงเพราะมันไม่มีฐาน ถ้ามันฝึกกรรมฐานมีฐานที่มั่นคงมันก็จะไม่ไหว คนเราหวั่นไหวเพราะจิตใจไม่มั่นคงไม่มีที่อยู่ของจิต จิตหวั่นไหวไปตามกระแสความคิดและอารมณ์ แต่หากเราฝึกกรรมฐาน คือฐานที่ตั้งของจิต จิตก็จะมีความมั่นคงไม่หวั่นไหว ☀ กรรมฐานมีตั้งหลายกอง สุดแล้วแต่จะชอบและฝึก แต่ที่พวกเรา ทำกันทุกวันนี้ ก็คือ การสวดมนต์แค่เราสวดมนต์ให้จิตมีที่อยู่ มีที่ยึด มีที่ตั้ง มันก็ไม่หวั่นไหวแล้วล่ะ ที่เหลือเป็นหน้าที่ของจิตที่จะดำเนินไปตามกระบวนการ ของกรรมฐาน ☀นี่แหละสังเกตได้ง่ายคนที่เขาภาวนาหรือมีฐาน ภาวนามานานหรือไม่นาน เกิดผลหรือไม่เกิดผลก็ดูกันตรงนี้แหละ ถ้าบอกว่าสวดมนต์ภาวนามานานแต่จิตกับดิ้น แปรเปลี่ยนไปตามกระแสของความคิดและอารมณ์มันไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย คนที่เขาฝึกภาวนามาดีๆเขาจะไม่หวั่นไหวไม่ดิ้นไปตามความคิดและอารมณ์ สังเกตการง่ายๆก็มาจากพฤติกรรมนั่นแหละง่ายที่สุด ☀ โกหกกันไม่ได้ คำพูดที่สวยหรูบรรยายสภาวธรรมใครๆก็พูดได้ แต่พฤติกรรมการกระทำนี่สิ มันสังเกตกันได้ชัดเจนมาก☀ อยากรู้ใครภาวนาเป็นยังไง มีฐานที่ตั้งของจิตยังไงก็ให้ดูพฤติกรรมที่แสดงออกมามันง่ายและชัดเจนที่สุด ง่ายๆแค่สวดมนต์ ถ้าพวกเอ็งสวดมนต์รับรอง จิตไม่หวั่นไหวมาก ยังไงก็มีหลักให้จิต จำไว้อย่าไปแตกตื่นอยู่ที่ไหน ถ้ามันจะตายมันก็ตาย ความตายเป็นเรื่องธรรมชาติ
    ☀ " ทำปัจจุบันให้ดี นี่คือสิ่งที่ควรคิดแล้วก็ตระหนักให้มากที่สุด "
     
  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    49346068_316731355716673_7657834157992574976_n.jpg?_nc_cat=103&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.jpg





    +++ แก้คุณไสยในน้ำและอาหาร +++

    ถาม : ถ้ามีคนทำคุณไสยในน้ำในอาหาร แล้วเราไม่รู้ตัว เราจะแก้ไขได้อย่างไร ?
    ตอบ : #หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอนพระให้เสกอาหารก่อนฉันทุกครั้ง #ด้วยคาถาบารมี ๓๐ ทัศ #ต่อด้วย #นะโมพุทธายะ โดยให้ตั้งใจอาราธนาบารมีพระท่านช่วยสงเคราะห์ทำลายไสยศาสตร์ เสร็จแล้วก็ว่าคาถาบารมี ๓๐ ทัศต่อด้วยนะโมพุทธายะ

    บางครั้งท่านบอกให้ทำน้ำมนต์พรม แต่ประเจิดประเจ้อจนเกินไป #อาตมาเองถนัดอาราธนาพระท่านคลุมลงมาเลย แบบนั้นถ้าหากเขาทำมาในน้ำและอาหาร #ไสยศาสตร์จะสลายตัวหมด

    เคยไปลองกับพวกหมอผีกะเหรี่ยงมาหลายยกแล้ว #อาตมาฉันหน้าตาเฉย#เขาเองก็นั่งมองด้วยความหวังว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอาตมา #ก็เกิดเหมือนกัน..#อร่อยดี..(หัวเราะ)..เล่นเอาประสาทกลับไปหลายรายแล้ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับกำลังสมาธิของเราเหมือนกัน

    ถาม : เสกด้วยคาถาบารมี ๓๐ ทัศนี่กี่จบครับ ?
    ตอบ : #จบเดียวก็พอ แต่ถ้าจะให้ดีก็ภาวนาตลอดเวลาที่กินอยู่ก็ได้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    (หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน)
    เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ฯ ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๔๕
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    บริวารรอบข้างไม่ดี
    เหตุเพราะไม่รู้จักชักนำผู้อื่นมาทำคุณความดี.

    พระพุทธเจ้าท่านตรัสนะ
    บุคคลใดทำบุญด้วยตนเอง
    แต่ไม่ชักนำผู้อื่นให้ทำบุญ
    บุคคลผู้เช่นนั้น เกิดชาติใดหนใด
    เจริญด้วยโภคยทรัพย์ แต่ขาดบริวาร

    เราจะสังเกตุเห็นบุคคลเย้อะเลย มีคนใช้ มีลูกน้อง ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ หรือบางทีก็ไม่มี เพราะเหตุว่า บุญไม่ได้ทำ ไม่ได้ไปชักนำใครให้เขามาทำความดี บางคนก็แหมผู้ดีจัด จะบอกเขาก็ไม่กล้าบอก อะไรประมาณนั้นก็มี

    หรือบางคนก็ทำบุญเฉพาะคนเดียว ไม่อยากบอกใคร ต้องการดีคนเดียว ดีคนเดียวมันก็ได้คนเดียว แล้วคุณจะดีแค่ไหนคนเดียว อยู่ในสังคมมันสบายไหมล่ะ

    พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า
    บุคคลใดตนเองไม่ทำ ดีแต่ชักนำผู้อื่น
    พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าบุคคลเช่นนั้น
    เกิดชาติใดหนใด อยู่ที่ไหน เจริญด้วยบริวารแต่ขาดทุนทรัพย์

    บุคคลใดทำเองก็ไม่ทำ ชักนำผู้อื่นก็ไม่ทำ
    เกิดชาติใดหนใด ก็จะเป็นคนอนาถาขาดที่พึ่ง
    และถ้าไปตัดบุญคนอื่นเขา
    ไปวิพากษ์วิจารย์ให้เขาเสียศูนย์
    เสียหลักในการทำบุญ
    ถึงเป็นขอทานนะท่านนะ ถึงขนาดนั้นนะ
    บางทีสิ่งที่ควรได้ก็ไม่ได้ ดังนี้เป็นต้น
    เพราะฉะนั้น เรื่องบุญนี่เรื่องใหญ่.

    _____________
    เทศนาธรรมจาก

    พระเทพญาณมงคล
    หลวงตาเสริมชัย ชยมงฺคโล
    วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
    อ.ดำเนินสะดวก
    จ.ราชบุรี
    ______________
    จากเทศนาธรรมเรื่อง
    บุญใหญ่-กุศลใหญ่
    ______________
    เพจ อมตวัชรวจีหลวงป๋า
     
  7. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    " ชนะใจด้วยการให้อภัย จบทุกอย่าง" สิ่งต่างๆเกิดที่ใจแล้วด้วยใจ อุปสรรคสำคัญคืออัตราที่เป็นตัวบังใจ มากมายและเหตุการณ์ที่แก้ได้ด้วยใจเรา ☀ไม่นานมานี้ นั่งรถไปกับหลวงตา เห็นข้างทางมีรถหรู 2 คัน จอดอยู่ข้างๆเพราะชนท้ายกันนิดเดียว แทบไม่บุบ แต่ละคันราคาไม่ต่ำกว่า 2 ล้าน ประกันชั้น 1 ทั้งคู่ แต่ทั้งคู่กลับลงมาเถียงกัน ทำให้รถติดยาวเป็นกิโล คนผ่านมาก็ต้องมองไปที่คู่คู่นี้ที่ทะเลาะกัน ในใจไม่มีใครนึกในทางที่เป็นบวกหรือโมทนา มีแต่คนมองแล้วว่าในทางลบ เพราะทำให้คนอื่นต้องมาลำบากไปด้วยรถติดยาวเป็นกิโลหลายสิบนาที หลวงตาหันมาแล้วพูดว่าคนเราถ้ารู้จักให้อภัยคนอื่น ละความเป็นตัวตนบ้าง ก็จะไม่ก่อเกิดผลกระทบต่อสิ่งต่างๆ มากมายนัก ยิ่งเรามีตัวตนมากยึดติดมาก ยึดถือมากก็เป็นการสั่งสม สะสมสิ่งไม่ดีในตัวไปเรื่อยๆ เมื่อเกิดการกระทบไม่ยอมก็ต้องก่อเกิดเรื่องราว ทำให้เกิดกรรมอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุดอย่างในกรณีนี้ก็ก่อให้เกิดกรรมกับผู้อื่นอีกนับเป็นร้อยราย ที่เขามีธุระเร่งด่วนหรือต้องมาพลอยเสียเวลา ทำให้เกิดผลกระทบต่อไปมากมาย แค่ทิฐิมานะตัวตนที่ไม่ยอมกัน รถก็ไม่ได้เป็นอะไรใครๆก็พูดแต่เขาไม่ยอมกันทั้งๆที่มีประกัน นี่มันแค่กรณีศึกษากรณีหนึ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทย หลวงตาบอกอีกหน่อยโลกกับสังคมจะอยู่ยาก ความเจริญทางวัตถุจะทำให้คนยึดติดแล้วมีทิฐิมานะมากขึ้น ก่อเกิดการแบ่งชั้นพรรคพวก เห็นแก่ตัวกันมาก คนที่ไม่รับการฝึกจิตมาจะอยู่ได้ยากแต่คนที่เขาสวดมนต์ไหว้พระ จิตจะรู้จักปล่อยวาง แก้ไขเรื่องราวต่างๆว่าจะดำเนินชีวิตอยู่อย่างไรให้มีสันติมากที่สุด นี่แหละที่หลงตาให้สวดมนต์กันเยอะๆเพื่อให้เป็นภูมิคุ้มกันในการใช้ชีวิต

    47574461_320809542091864_1239295062160965632_n.jpg?_nc_cat=107&_nc_ht=scontent.fbkk5-7.jpg
     
  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    49590973_1882816388508174_10165676488523776_n.jpg?_nc_cat=108&_nc_ht=scontent.fbkk5-7.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    ✨✨ คำอธิษฐานเพื่อตัดกระแสกรรมที่เกี่ยวเนื่องระหว่างเจ้ากรรมนายเวรวิญญาณเกาะติดกาย ✨✨

    ..... ให้ผู้อธิษฐานนั่งต่อหน้ารูปปั้น หรือรูปภาพหลวงปู่ดู่ แล้วจับภาพหลวงปู่ดู่ไว้บนศรีษะของผู้อธิษฐาน ตั้งจิตนิมนต์หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงพ่อเกษม เขมโก

    พุทธังอาราธะนัง กะโรมิ ธัมมังอาราธะนัง กะโรมิ
    สังฆังอาราธะนัง กะโรมิ

    น้อมระลึกถึงหลวงปู่ทวด แล้วว่า นโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ ๓ ครั้ง)

    น้อมระลึกถึงหลวงปู่ดู่ แล้วว่า นโม โพธิสัตโต พุทธะ พรหมะปัญโญ (๓ ครั้ง)
    ระลึกถึงหลวงพ่อเกษม เขมโก แล้วว่า มโม เขมมะโก ภิกขุ (๓ ครั้ง)

    แล้วนิมนต์หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงพ่อเกษม เขมโก มาคลุมกายเรา

    ✨ตั้งจิตอธิษฐานว่า "ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีรวมอดีต ปัจจุบัน อนาคต ของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด ขอตัดกระแสกรรมเกี่ยวเนื่องระหว่างเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าตั้งแต่ อดีต ปัจจุบัน อนาคต ทุกดวงจิตวิญญาณทุกภพทุกชาติ เจ้ากรรมนายเวรที่ยึดครองร่างข้าพเจ้านี้ ให้ละจากบุพกรรมทั้งปวงเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาตราบจากนี้ไป ข้าพเจ้าสร้างบุญกุศลที่ใด อย่างไรทั้งหมดทั้งมวล ขอให้ท่านอนุโมทนาร่วมกับข้าพเจ้าได้ ตั้งแต่บัดนี้ตราบชั่วชีวิตข้าพเจ้า สาธุฯ"

    ✨ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีรวม หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงพ่อเกษม เขมโก ขอหลวงปู่ หลวงพ่อ ได้แผ่บุญกุศลทั้งหมดให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่ครองกายข้าพเจ้า เจ้ากรรมนายเวรที่เล่นงานข้าพเจ้า ขอหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงพ่อเกษม ได้เมตตาอาราธนาบุญกุศลบารมีรวมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสงฆ์สาวก พระปัจเจกพุทธเจ้า ทั้งหลายทั้งปวงทั่วทั้งแสนโกฏิจักรวาล ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน อนาคต รวมทั้งบุญกุศลของข้าพเจ้าทุกภพทุกชาติ ขอได้โปรดรวมบุญทั้งหมดเหล่านี้เป็นกองบุญรวม ส่งให้ถึงญาติ และที่ไม่ใช่ญาติของข้าพเจ้าก็ดี เทวดาเทพพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าที่ที่คุ้มครองรักษา เชื้อโรค นายเวร โดยเฉพาะเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน อนาคต ทุกดวงจิตวิญญาณทุกภพทุกชาติ (หรือเจ้ากรรมนายเวรของใครก็ตามที่ต้องการอธิษฐานให้) ให้ได้รับเสวยผลบุญตลอดวันตลอดคืน ตลอดจนเราทั้งหลายเข้าสู่นิพพานก็ยังได้รับบุญเสวยบุญตลอดไป

    ✨เมื่อท่านทั้งหลายโดยเฉพาะเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าได้รับบุญแล้ว เมื่อท่านได้รับบุญแล้ว ขอให้ท่านตามไปอยู่กับหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ที่เทวโลก ไปเสวยสุขเรียนธรรมกับหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ และขอนิมนต์หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ได้โปรดเมตตามารับตัวรับดวงวิญญาณท่านทั้งหลาย วิญญาณเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน อนาคต ทุกดวงวิญญาณ ทุกชาติ ทุกภพ โดยเฉพาะที่ดวงจิตนี้ที่กำลังเล่นงานข้าพเจ้าอยู่ขณะนี้ ให้ได้อยู่ในอุปการะคุณของหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ให้ได้รับบุญ เรียนธรรม เสวยสุขที่เทวโลก และได้รับการส่งวิญญาณปรับภพภูมิดวงวิญญาณกายทิพย์ให้ได้ไปสู่ภพภูมิที่ดียิ่งๆขึ้นไปตลอดวัน ตลอดคืน ตลอดไปเทอญ สาธุ .....

    ✍️@ หนังสือ.....
    ปาฏิหาริย์กรรมฐาน
    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
    พระโพธิสัตว์ ผู้เป็นหลวงปู่ทวดกลับชาติมาเกิด
    ••••• ทิพยจักร •••••
     
  10. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    ?temp_hash=06179e6fb118000dd558924ecbe4191a.jpg




    เมื่อเราจะเข้ามาบำเพ็ญบารมี เราต้องฝืนอำนาจของกิเลสมารและบ่วงมาร คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ นั้นแหละ ต้องฝืนให้ได้ ถ้าฝืนได้เราก็ชนะ

    เหมือนชิงแชมป์มวยนั่นแหละ ตอนแรกก็ชนะหน่อยนึง เป็นแชมป์บ้านนอก ถัดมาก็แชมป์มีอันดับของเขาในประเทศ แล้วก็แชมป์ภาค แล้วก็แชมป์ต่างประเทศ แล้วก็จะถึงแชมป์โลก ก็จะมีคู่ต่อสู้ของเราที่หนักๆยิ่งๆขึ้นไปตามลำดับ นี้เป็นของธรรมดา ต้องรู้เท่าทัน เราก็ต้องสู้ อย่านึกกลัว

    เพราะว่าสู้หรือไม่สู้ เราก็ต้องตาย ใช่ไหม ต้องตายแหงๆอยู่แล้ว เพราะว่ากายของเราทั้งหมด มารเขาปรุงอยู่แล้ว มีฝ่ายบุญฝ่ายสัมมาทิฏฐิอยู่ส่วนหนึ่ง หน่อยเดียวเท่านั้นเอง นอกนั้นเป็นฝ่ายของมารเขาปรุงขึ้นมาเป็นสังขาร เป็นเบญจขันธ์ เป็นนามรูป จึงต้องมีสภาพที่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    ถ้าไม่งั้นไม่ต้องตายสิ ที่ต้องตายนี่ มารเขาปรุงขึ้นจากปัจจัยต่างๆ นี่เค้าปรุงแต่งตลอดหมดทั้งภพ 3 ต่อให้เป็นอรูปพรหมมีอายุนานเท่าไหร่ๆ พระพุทธเจ้ามาตรัสตั้งหลายองค์ก็ไม่ตายเสียที ลงท้ายก็ตาย แต่ว่านานกว่าจะตายเท่านั้นเอง

    สัตว์โลกทั้งหมดในภพสามนี่มารเค้าปรุงขึ้นทั้งนั้น แต่ว่าเขาปล่อยให้ฝ่ายบุญมาร่วมปรุงด้วย เลยได้เข้าถึงสุคติกันพอสบายหน่อย

    เพราะฉะนั้น ใครจะพ้นโลกไปนิพพาน เขาจึงไม่ปล่อยไปง่ายๆ บางทีพระดังๆถ้าเผลอสติก็เสร็จภาคมารเขา ถ้าเห็นผู้หญิง มองตาเชื่อม หรือว่าใช้คำพูดหวานๆกับผู้หญิง ก็เสร็จเขานั่นแหละ ไม่มีปัญหา ถ้าไม่รีบทำให้ดีในชาตินี้ ท่านจะลำบากอีกต่อไปนับภพนับชาติไม่ถ้วน

    พระเทพญาณมงคลเสริมชัย ชยมงฺคโล
    อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
    ....................................................................

    สู้"มีคติเป็น สอง ไม่แพ้ ก็ ชนะ
    "หนี"มีคติเดียว คือ แพ้ลูกเดียว
    แต่ถ้า "ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป"
    มีแต่ ชนะ อย่างเดียว

    โอวาทธรรมหลวงพ่อวัดปากน้ำ สด จันทสโร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
     
  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%81-0011-%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95-jpg.jpg

    ถาม : หากว่าเราเคยพลาดพลั้งพูดจาไม่ดีต่อพระสงฆ์องค์หนึ่ง แต่ท่านก็ไม่ได้ยิน ไม่ได้รับรู้ เมื่อเราสำนึกผิดแล้ว จะต้องไปขอขมาต่อหน้าท่านหรือไม่ หรือสวดขอขมาอยู่ที่บ้านได้ ?
    ตอบ : ไปขอขมาต่อองค์ท่าน หลังจากนั้นให้ขอขมาต่อหน้าพระอีกครั้งหนึ่ง คำว่า "พระ" ในที่นี้คือพระพุทธรูป เนื่องเพราะว่าอโหสิกรรมนั้นโจทย์และจำเลยต้องอยู่ต่อหน้ากันและเอ่ยปากให้อภัย จึงจะปรากฏเป็นอโหสิกรรมขึ้นมา

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๖๐
    เว็บวัดท่าขนุน
     
  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    49828885_290137398520988_5570353273291931648_n.jpg?_nc_cat=105&_nc_ht=scontent.fbkk5-3.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    ผู้ที่บารมีน้อยกว่าตรวจดูผู้มีบารมีมากกว่าไม่ได้ โดย ทวีวัฒน์ เติมฤทธิ์ (อู๋)

    เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของผม (อู๋) เมื่อหลายสิบปีมาแล้วผมก็เหมือนกับคนทั่วไปที่ชอบไปหาพระหรือฆราวาสที่มีวิชาตรวจดูสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับตัวเราโดยใช้จิตสัมผัส ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยไปดูดวงโดยใช้วันเดือนปีเกิด เพราะหมอดูดวงพวกนั้นผมรู้สึกว่าเขาจะมีความแม่นยำอย่างเก่งเพียงแค่ 60-70% ไม่เหมือนพวกที่ใช้จิตสัมผัส คือพวกที่ใช้จิตสัมผัสนั้นถ้าเราได้ไปเจอคนที่เขาเก่งจริงเขาจะดูแม่นยำถึง 90-95% ทีเดียว

    เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาแม่นหรือไม่แม่นเราก็ต้องทดสอบเขาก่อน ผมเป็นคนที่ชอบทดสอบ แล้วผมก็ไม่กลัวว่าเขาจะว่าผมด้วย เพราะผมถือว่าถ้าคุณเก่งจริงคุณก็จะต้องไม่กลัวการทดสอบ การไปหาคนพวกนี้ผมจะไม่พูดอะไรเลย บอกแค่ชื่อนามสกุลเท่านั้น แล้วก็ให้เขาทำนายแต่อดีตที่ผ่านมา ถ้าพูดอดีตถูก 90% ขึ้นไปก็จะให้ทำนายต่อ เพราะถ้าทำนายอดีตยังไม่ถูกเลยแล้วจะไปทำนายอนาคตถูกได้อย่างไร

    วันหนึ่งเมื่อประมาณ 30 ปีมาแล้ว ผมได้ยินข่าวว่ามีพระแถวฝั่งธนท่านหนึ่งไปสำเร็จวิชามองดูบาตรน้ำมนต์มาจากประเทศเขมร สามารถทำนายเรื่องอะไรก็ได้ตามที่เราอยากทราบได้อย่างแม่นยำ ผมเลยเดินทางไปหาท่านที่วัดแถวฝั่งธน วัดท่านอยู่ในสวนลึกมาก ท่านเป็นพระหนุ่มอายุราวๆ 35 ปี รูปร่างค่อนข้างท้วม ผิวดำแดง ท่านดูโดยนำบาตรใส่น้ำมนต์ราวๆ ครึ่งบาตร แล้วท่านก็จุดเทียนส่องเข้าไปในบาตรพร้อมกับบริกรรมคาถาเพื่อให้เห็นภาพปรากฏขึ้น พอท่านเพ่งไปในบาตรครู่ใหญ่ๆ ท่านก็เงยหน้าขึ้นมาทำสีหน้าแปลกๆ

    แล้วท่านก็บอกว่า “อาตมาทำนายดวงของโยมไม่ได้เพราะอาตมาเห็นแต่ดวงบุญของโยมใหญ่และสว่างมากมีขนาดเกือบเต็มบาตรเลย” ท่านบอกว่าดวงบุญบารมีของผมใหญ่กว่าของท่านทำให้ท่านไม่สามารถทำนายอะไรผมได้ อ้าว...ผมก็เพิ่งทราบเป็นครั้งแรกว่ามันมีเรื่องแบบนี้ด้วย แล้วท่านก็บอกว่าขอให้ผมแผ่พลังบารมีให้แก่ท่านด้วย ในอนาคตถ้าผมสำเร็จธรรมแล้วมีโอกาสก็ขอให้นึกถึงท่านด้วยนะ...ผมคิดว่าจะมาพึ่งพาท่านแต่ท่านกลับจะขอมาพึ่งผมแทน

    ครั้งหนึ่งผมได้ยินข่าวว่ามีฆราวาสท่านหนึ่ง ที่สามารถใช้วิชามโนมยิทธิทำนายทายทักได้อย่างแม่นยำ ฆราวาสท่านนี้มีบ้านอยู่แถวราชพฤกษ์ฝั่งธนบุรี ผมกับเพื่อนๆ ก็ชวนกันไปหาท่านเพื่อให้ท่านตรวจดูเรื่องราวต่างๆ ที่ต้องการทราบ คนอื่นดูก็ไม่มีอะไร แต่พอถึงคิวของผมท่านกำหนดจิตดูไปสักพักท่านก็บอกว่าท่านไม่สามารถดูให้ผมได้ ท่านดูได้เพียงนิดหน่อยเท่านั้นเพราะผมเป็นผู้มีบารมีมากกว่าท่าน ท่านกลับบอกว่าท่านขออนุโมทนาบุญบารมีของผม ขอให้ผมแผ่พลังบุญบารมีให้ท่านด้วย นี่ก็เป็นรายที่ 2

    ดังนั้นผมจึงคิดเอาเองว่าการทำนายโดยใช้จิตสัมผัสนั้น ผู้ที่มีบารมีน้อยกว่าไม่สามารถตรวจดูผู้มีบารมีมากกว่าได้ นอกจากเขาจะอัญเชิญครูบาอาจารย์ของเขาแฝงเข้ามาในร่างเขาจึงจะใช้จิตสัมผัสดูได้ เรียกว่าคนที่อยู่สูงกว่าสามารถมองลงมาดูคนที่อยู่ต่ำกว่าได้ แต่คนที่อยู่ต่ำกว่าจะไม่สามารถมองเห็นคนที่อยู่สูงกว่าได้

    ยังมีอีกครั้งหนึ่งที่ผมจำได้อย่างแม่นยำแม้เวลาจะผ่านมาหลายสิบปีแล้วก็ตาม ผมรู้จักกับนายทหารท่านหนึ่ง ทหารท่านนี้มีญาณสัมผัสแม่นยำ สามารถตรวจสอบพระเครื่องต่างๆ ได้ ท่านจะบอกได้เลยว่าพระองค์นี้มีพุทธคุณแรงมากแค่ไหน ดีทางด้านใด แท้หรือไม่แท้ เมื่อมีเวลาผมก็มักจะแวะเวียนไปให้ท่านดูให้ มันเป็นเรื่องสนุกของคนที่ชอบพระเครื่อง

    วันหนึ่งผมนึกสนุกจึงถามขึ้นมาว่า “น้องต๊ะ สามารถดูได้ไหมว่าชาติก่อนพี่อู๋เป็นใคร” คุณต๊ะก็บอกว่าก็น่าจะได้นะพี่เพราะผมก็เคยดูมาแล้วหลายคนด้วยกัน ตกลงผมก็ขอให้น้องต๊ะตรวจดูอดีตชาติของผม เริ่มโดยการหันหน้าเข้าหากัน คุณต๊ะเอามือมาจับมือทั้งสองของผมไว้แล้วบอกให้ผมจ้องเข้าไปที่ดวงตาของเขา เขาจะกำหนดจิตตรวจดูให้ เขาตรวจไปก็ทำสีหน้าเคร่งเครียด นิ่งไปๆ แล้วเขาก็แหงนหน้าพับไปที่ด้านหลัง คือเราต่างก็นั่งบนเก้าอี้ที่มีแต่พนักพิงหลังทำให้เขาสามารถแหงนศีรษะไปที่ด้านหลังได้

    ผมก็มองดูว่ามันแปลกๆ เพราะแทนที่เขาจะนั่งตัวตรงๆ ทำไมต้องแหงนศีรษะไปข้างหลังด้วย หรือมันเป็นวิธีการอย่างหนึ่งของเขา เวลาผ่านไปราวๆ 8-10 นาที ผมก็เอะใจว่ามันแปลกเกินไปแล้ว เลยแกะเอามือออกแล้วไปจับเขย่าลำตัวของเขาเพื่อดูว่าเป็นอะไรไปหรือเปล่า...ปรากฏว่าเขาหลับไปครับ เขาหลับนิ่งสนิทไปเลย อ้าว มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ เมื่อคุณต๊ะตื่นขึ้นมาแล้วก็บอกว่า

    “พี่อู๋ครับ มันเป็นเรื่องแปลกมากเลยครับ ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน คือแทนที่พี่อู๋จะหลับไปด้วยอำนาจจิตของผม แต่กลับเป็นว่าจิตของพี่อู๋กลับไปสะกดให้ผมหลับไปแทน” แต่คุณต๊ะก็ยังสามารถตอบได้ว่าผมเป็นใครในอดีตชาติ เพราะก่อนที่เขาจะหลับไปนั้นเขาได้เห็นใบหน้าในอดีตของผมอย่างชัดเจน เขาเองก็ไม่คิดไม่ฝัน ว่าในอดีตผมเป็นคนที่หลายๆ คนก็น่าจะรู้จัก เพราะพี่อู๋ก็คือ “...........ครับ”



    https://www.facebook.com/grasib?__t...Z-sK6dfDKqbF6SNghBlc3bO6Nl2HW-IMeMXDA&fref=nf
     
  15. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    50816721_2039714126083324_7996612072970387456_n.jpg?_nc_cat=100&_nc_ht=scontent.fbkk5-5.jpg วันนี้อาตมามีเวลาแค่เพลเท่านั้น เพราะว่าต้องรีบเดินทางลงไปวัดรัตนานุภาพ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ต้องบอกว่าเพื่อนตายในหน้าที่ ถ้าเป็นทหารก็คือห่มธงนอนตาย อันนี้ของเราก็ “#อุรังทัตวา#ถวายอกคือชีวิตไว้ในพระพุทธศาสนา#ตายในหน้าที่ อาตมาก็จะลงไปร่วมงานศพ

    ถามว่าเสียใจไหมที่เพื่อนตาย ? ไม่เสียใจหรอก แต่เสียดายมาก พระที่ตั้งใจทำงานเพื่อพระพุทธศาสนามีน้อย

    เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี และเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ โดนผู้ก่อการร้ายอิสลามยิงมรณภาพพร้อมพระลูกวัด ๒ รูป บาดเจ็บสาหัสอีก ๒ รูป

    ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายและน่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ที่รัฐบาลของเราจริงจังในการแก้ปัญหาการก่อการร้ายที่ปักษ์ใต้ #เฉพาะคนอิสลามเท่านั้น #แต่ไม่เคยจริงใจกับคนไทยทั่วไปและชาวพุทธเลย

    ทุกรัฐบาลทุ่มเทงบประมาณลงไปสนับสนุนการก่อการร้ายทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่อาตมากล่าวเช่นนี้เพราะว่าไปทำโครงการ “#เอาโจรกลับบ้าน” แต่ว่าไทยพุทธย้ายออกไปจนจะหมดอยู่แล้ว #ไม่มีการนำคนไทยพุทธกลับบ้านเลย ไม่สามารถให้ประกันความปลอดภัยในทุกวิถีทาง #โดยเฉพาะพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนา

    ทุกครั้งที่พระตาย ก็คือโดนทำร้าย โดนยิงถึงมรณภาพ โดนวางระเบิด #ก็จะบอกว่าให้คนไทยสงบเอาไว้ เพราะว่าเดี๋ยวจะไปเข้าทางของผู้ก่อการร้าย ทำให้แตกแยก #เท่ากับว่ามัดมือคนไทยให้อิสลามชกอยู่ข้างเดียว

    โดยเฉพาะงวดนี้ ผู้ที่สูญเสียคืออาตมาด้วย เพราะว่าพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ หรือที่เรียกกันแบบสนิทสนมว่า “หลวงหว่าง” คบหากันมาตั้งแต่ท่านเพิ่งจะได้ ๒ พรรษา ๒๖ ปีผ่านไปแล้ว

    ตอนที่คบหากันในช่วงที่เริ่มจุดประกายการสร้างความเจริญให้แก่พระพุทธศาสนาในยุคนั้น ที่วัดเขาเข็มทอง อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาสด้วยกัน ก็มีหลวงเขียว..ตายไปแล้ว หลวงหว่าง..ตายไปแล้ว หลวงเถียร..สึก

    ตอนนี้ก็เหลือแต่หลวงนิลกับอาตมาอยู่ ๒ รูป ถ้าถามว่าหลวงนิลเป็นใคร ? พระอาจารย์นิล อาศรมศรีชัยรัตนโคตรนั่นแหละ ก็แปลว่า ๒๖ ปีที่พวกเรามีพันธสัญญาในการสร้างความเจริญให้กับพระพุทธศาสนา#ก็ได้สละชีวิตเพื่อพระศาสนาไปแล้ว ๒ รูป

    วันนี้เมื่อเสร็จจากการสวดพระคาถาเงินล้าน อาตมาจะเดินทางลงไปงานศพ จะไปอยู่ให้กำลังใจชาวบ้านโคกโก ๒ คืน แล้วค่อยขึ้นไปงานครูบาเหนือชัยที่เชียงราย

    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ต้องบอกว่า คนไทยเราต้องมีส่วนร่วมในการปกป้องพระพุทธศาสนา #ถ้าท่านทั้งหลายไม่แสดงออก #ศาสนาเราก็จะโดนทำลายไปเรื่อย เพราะว่ามีแนวร่วมทั้งทางตรงและทางอ้อมที่ช่วยเหลือกันอยู่ #โดยเฉพาะรัฐบาลที่หาความจริงใจไม่ได้ ทำงานเหมือนกับเลี้ยงไข้ #ไม่กล้าแตะต้องผู้ก่อการร้าย

    บรรดานักสิทธิมนุษยชนทั้งหลาย พออิสลามตายคนหนึ่งตามทวงทุกวัน ทวงกันมาเป็นสิบปี แต่คนไทยพระไทยทั้งตายและมรณภาพไป ๓-๔ พันคน #ไม่มีนักสิทธิมนุษยชนคนไหนออกมาพูดแทนเลย เราจะเห็นได้ชัดเจนว่า ไม่ว่าจะเป็นโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมก็ตาม #ท่านกำลังช่วยโจรทำลายพระพุทธศาสนาอยู่

    ถ้าถามว่าอาตมากล้าพูดแบบนี้ไม่กลัวหรือ ? ก็ตั้งแต่ ๒๖ ปีที่แล้ว ที่มีพันธสัญญาใจกันว่าเราจะสร้างความเจริญให้กับพระพุทธศาสนา #เราสามารถแม้แต่มอบกายถวายชีวิตต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ #เรื่องของความตายก็ไม่ได้อยู่ในจิตในใจอีก

    ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็คือ #ผู้มีกำลังใจในการทำงานเพื่อพระศาสนาจริง ๆ ลำบากเท่าไรก็ไม่เกี่ยง ทุกข์ยากเท่าไรอย่างดีก็แค่บ่น แต่ไม่ถอย ร่วมงานกันมาล้วนแล้วแต่ ๒๐ กว่าปี ๓๐ ปีทั้งนั้น บางท่านก็ถึง ๔๐ ปี ก็คือร่วมงานกันมาตั้งแต่ก่อนบวช #พวกเราดำเนินรอยตามพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง #ที่ท่านมอบกายถวายชีวิตไว้ในพระพุทธศาสนา

    ขอเพียงท่านทั้งหลาย #ฝากชีวิตไว้กับ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ด้วยความมั่นใจในคุณพระรัตนตรัย ว่าคุณพระรัตนตรัยปกป้องคุ้มครอง #ดับทุกข์ดับภัยได้จริง #โดยเฉพาะการดับภัยในวัฏสงสาร จะเป็นอะไรที่สุดยอดมาก ๆ

    งานสวดพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบบูชาพระคุณครู
    ณ ห้องจัดเลี้ยง อาคาร ๙ บมจ. ทีโอที สำนักงานใหญ่ แจ้งวัฒนะ
    วันอาทิตย์ที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๒

    *****************************************************

     
  16. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    แปลกไหม ?.......


    เรื่องราวที่หลวงตาสอนมาตลอด เรื่องแบ่งปันไม่เบียดเบียน ตลอดเวลาเที่หลวงตาใช้ให้ไปชื้ออะไร ท่านสอนว่าเวลาไปชื้อของอะไร อย่าไปต่อราคาเค้ามาก แบ่งปันให้เค้ามีกำไรไปเลี้ยงตน หลวงตาสอนว่า การที่เราไปต่อราคาเค้ามากเกินไปเป็นการเบียดเบียนโดยไม่รู้ตัว มันจะเป็นความเคยชินที่ไม่ดี ใจเขาใจเรา ให้มีเมตตตาช่วยเหลือแบ่งปันกัน ใช้ชีวิตแบบไม่เบียดเบียนใคร ลองพิจารณาแล้วจะเห็นว่า จริงหรือไม่ ?
    คุณผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้าไปถามชายชรา ผู้นั่งขายไข่ไก่อยู่ว่า ขายยังไง พ่อเฒ่า ก็ตอบว่าฟองละ 5บาท.
    คุณนายก็บอกว่า ฉันต้องการซื้อไข่ 6 ฟอง 25 บาทได้ไหม (ที่จริงควรจะ 30 บาท) ชายชราตอบว่า แล้วแต่คุณนายเถอะ อยากซื้อเท่าไหร่จ่ายเท่าไหร่ก็ตามสะดวก วันนี้อาจจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีของผมก็ได้ เพราะตั้งแต่เช้า ยังขายไข่ไม่ได้เลย
    แล้วคุณนายก็หิ้วไข่ 6 ฟอง เดินไปขึ้นรถเก๋งที่มีเพื่อนๆ นั่งอยู่แล้ว ด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องว่า สามารถซื้อไข่ได้ในราคาถูกกว่าที่พ่อค้าขาย
    หลังจากนั้นคุณนายและผองเพื่อนก็ไปภัตตาคารแห่งหนึ่ง สั่งอาหารมา และกินกันอย่างเพลิดเพลิน แต่ก็ไม่หมด ยังเหลืออีกมากมายเยอะแยะ จนในที่สุดก็เรียกทางร้านมาเช็คบิล ราคาทั้งหมด 1400 บาท คุณนาย ยื่นเงินไปให้ 1500 แล้วบอกว่า ไม่ต้องทอนนะค่ะ...
    เงินแค่นี้มันธรรมดามากสำหรับเจ้าของภัตตาคาร แต่สำหรับพ่อค้าไข่ชรา มันอาจจะเป็นความเจ็บปวดก็ได้นะ

    จุดสำคัญคือว่า ทำไมเราชอบโชว์ว่า เวลาเราซื้อของจากพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นชาวบ้านลำบากอยู่แล้ว เรามักต่อรองราคาและรู้สึกพึงพอใจ ถ้าหากว่าเราต่อราคาได้ถูกกว่าราคาที่เขาขาย..แล้วทำไมเรามักไม่เคยได้ต่อรองราคาสินค้าราคาแพงๆ ที่วางขายในห้าง ในร้านใหญ่ๆ ที่เขาโก่งราคาไว้เรียบร้อยหมดแล้ว แปลกไหมละ?
    หลวงตา มักจะชอบซื้อของจากคนจนๆ และให้ราคาสูง ทั้งๆที่ไม่ได้ต้องการสินค้าเหล่านั้น ..แค่ต้องการให้เงินแก่พวกเขาเพื่อนำไปใช้เลี้ยงครอบครัวเขา ถามว่าทำไมทำแบบนั้น "มันเป็นการทำบุญ ที่มีคุณค่ามาก ..(ที่จริงก้อแบบว่า มันเป็นการช่วยเขา ที่ทำให้เขาไม่เสียศักดิ์ศรี.
    โมทนาทุกความดีงามนะคะ ธรรมก็คือชีวิต ชีวิตปกติที่เราดำเนินแต่ล่ะวันนั่นแหล่ะ พิจารณาด้วยตนเองถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เราเป็น กับคำพูดสวยหรู ว่าเราปฎิบัติธรรม ว่า สอดคล้องกันหรือไม่ ?
     
  17. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    51049325_2206008559650994_1590888150232727552_n.jpg?_nc_cat=103&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    มีเทียนอยู่ 4 เล่ม ซึ่งกำลังจะดับลง
    บรรยากาศในห้องเงียบจนได้ยินเสียงเทียนทั้ง 4 คุยกัน

    เทียนเล่มที่ 1 เอ่ยว่า โลกเราเอาแต่ต่อสู้แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน
    ไม่มีใครคิดจะปกป้องฉันเลย ในฐานะที่ฉันเป็นเทียนแห่งสันติภาพ
    ฉันคงต้องจากไปแล้ว แล้วเทียนเล่มที่ 1 ก็ดับลง

    เทียนเล่มที่ 2 เอ่ยว่า ส่วนฉันคือเทียนแห่งความเชื่อ
    ฉันคงหมดประโยชน์ที่จะส่องสว่างต่อไปแล้ว
    จากนั้นสายลมอันแผ่วเบาก็พัดเทียนเล่มที่ 2 ดับลง

    เทียนเล่มที่ 3 เอ่ยว่า ส่วนฉันคือเทียนแห่งความรัก
    แต่ทุกวันนี้ผู้คนกลับเอารักออกไปจากใจ
    ไม่มีใครเข้าใจความสำคัญของฉัน
    ฉันไม่มีกำลังพอที่จะส่องสว่างอีกต่อไปแล้ว ลาก่อน
    แล้วเทียนเล่มที่ 3 ก็ดับลงไป

    แต่ไม่ทันที่เทียนเล่มที่ 4 จะได้เอ่ย
    ก็มีเด็กน้อยเปิดประตูเข้ามาในห้อง
    เมื่อเห็นเทียนทั้ง 3 เล่มดับลง เด็กน้อยก็ร้องห่มร้องไห้

    ทันใดนั้นเทียนเล่มที่ 4 ก็เอ่ยขึ้นว่า
    “อย่าได้เสียใจไปเลย ฉันคือเทียนแห่งความหวัง และฉันยังส่องสว่างอยู่ หยิบฉันแล้วจุดที่เทียนทั้ง 3 เล่มสิ"
    เมื่อเด็กน้อยนำเทียนแห่งความหวัง จุดไปที่เทียนทั้ง 3 เล่ม
    แล้วเทียนแห่งสันติภาพ เทียนแห่งความเชื่อ และเทียนแห่งความรักก็สว่างขึ้น

    เพราะความหวังทำให้ชีวิตยังมีความหมาย
    เพราะความหวังทำให้คนที่ป่วยไม่สบาย หรือ พิการ ยังสู้เพื่อมีชีวิตต่อ
    เพราะความหวังทำให้คนที่กำลังเผชิญกับสึนามิของปัญหายังยืนหยัด ยืนยง มั่งคงอยู่ได้

    เพราะฉะนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่มีใครสักคนเล่าความหวังให้เราฟัง
    ขอให้รู้ว่านั่นอาจจะเป็นเสมือนเทียนเล่มสุดท้าย
    และมันอาจเป็นความหวังที่มากไปกว่าเพื่อตัวของเขาเอง

    หน้าที่ของเราคือ ไม่ว่าเราจะช่วยได้หรือไม่ก็ตาม
    อย่าไปดับความหวัง หรือความฝันของใคร
    และโปรดช่วยกันรักษาความหวังของทุกๆ คนที่รู้จัก
    เพราะนั่นอาจเป็นความหวังสุดท้ายของใครบางคนและอีกหลายคนที่อยู่รอบข้าง
     
  19. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    GdAqC4fALBp6c09IENuIZU1prfl6R9E20RHjzQZEnZqrVvMFhzKcQKDWyYOiSjoClJSE3Blw&_nc_ht=scontent.fbkk5-5.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,649
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    ความมหัศจรรย์ของพระผงมหาจักรพรรดิ์ไม่ไหม้ไฟ

    ญาติของสายบุญผมท่านนึงป่วย เค้าก็ฝากกระเเสหลวงปู่ดู่ช่วยดูเเล กระซิบบอกญาติเสมอว่าให้ระลึกถึงหลวงปู่ดู่นะ จนล่าสุด เค้าได้เสียชีวิต และพระผงมหาจักรพรรดิ์ ที่วางบนหัวเตียง ก็น้อมให้กับร่างตอนเข้าเตาเผาด้วย (อธิษฐานฝากหลวงตาม้า หลวงปู่ดู่พาจิต วิญญานไปในภพภูมิที่ดี)

    เมื่อถึงเวลาเก็บอัฐิ ปรากฏว่าพระผงมหาจักรพรรดิ์ไม่ไหม้ไฟเลย ใบหน้าของหลวงปู่กลับชัดกว่าเดิม(ตามรูป) หลวงพ่อท่านบอก ไฟร้อนขนาดนี้ พระผงไม่ไหม้เป็นไปไม่ได้แน่นอน

    และ อีกเรื่อง ตอนที่พี่เค้าป่วยหนักเค้าโรงพยาบาล รักษายังไงไจ้ก็ไม่ลด เค้า อาราธนาถึงหลวงปู่ดู่ว่า ลูกเป็นลูกหลานหลวงปู่ ขอหลวงปู่ดู่มาช่วยลูกให้หายป่วยด้วยเทอญ หลังจากนั้นในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น เค้าเห็นหลวงปู่ดู่ เดินมาปลายเตียง แล้วดึงวิญญาณเค้ามาที่ปลายเตียง (ตอนนั้นพี่เค้ายังนึกว่าเราตายแล้วเหรอเนี้ย) หลวงปู่ดู่ได้บอกว่า เจ้าคิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงเอง ไหนอาการป่วยข้าจะช่วยรักษาให้ เเล้วก้ผลักวิญญานกลับเข้าร่าง หลังจากนั้น ไข้ก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ จนทุกวันนี้ ร่างกายเเข็งแรงปกติทุกอย่าง

    จากประสบการณ์นี้ ผมจึงอยากชวนเพื่อนๆ สวดบทพระมหาจักรพรรดิ์ ของหลวงปู่ดู่ เพื่อนความสุข ความเจริญของเพื่อนๆเอง สาธุๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...