คนที่บวชเป็นชี จะต้องถือศีลอะไรบ้าง

อยากทราบว่า คนที่บวชเป็นชีแล้ว ต้องถือศีลกี่ข้อ
แล้วไปนวดน้ำมันตามสปาได้หรือไม่ ขอยืนยันว่าไม่
เกี่ยวกับเรื่องที่เป็นกระแสอยู่นะจ๊ะ เราเพียงอยากทราบ
จริงๆว่า นวดหน้า นวดตัวนวดน้ำมันแบบไม่ได้นุ่งห่มเลย
แล้วเลือกกลิ่นที่ชอบอีกด้วย แบบนี้จะผิดศีลหรือเปล่า
แค่อยากรู้จ้ะขอผู้รู้อธิบายเป็นวิทยาทานหน่อย
อนุโมทนาบุญ สาธุ

 

บวชชี ไม่ว่าชีพราห์ม หรือชีที่โกนผม ถือศิล 8 คะ ผ้ที่บวชชี คนมองแล้วว่าเป็นผู้สละกิเลส ความสวยความงาม ไม่เอาอะไรแล้ว ตั้งใจถือศิลปฏิบัติธรรมไป ถ้าไม่มีความละอายเกรงกลัวต่อการทำบาปกรรม คะ ผิดศิลคะข้อ 7 คะ แล้วในที่สุดมันก็จะโยงไปหาศิลข้อ 3 แล้วก็ลาสิกขาคะ บุญรักษาคะ

 

การนวดทำได้ครับ


แต่ต้อง นวดเพื่อรักษาอาการปวด นวดเพื่อคลายเส้น นวดเพื่อรักษาโรคที่เป็น


ถ้านวดเพื่อสนองกิเลส ... ผิดครับ



.

 

เมื่อบวชชีแล้วต้องถือศีล 8 ข้อ คือ

1. ปาณาติปาตา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการฆ่าสัตว์
2. อทินฺนา ทานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการลักสิ่งของที่ผู้อื่นมิได้ให้
3. อพฺรหฺมจริยา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการประพฤติผิดพรหมจรรย์
4. มุสาวาทา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการพูดปด พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ
5. สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการดื่มสุราเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
6. วิกาลโภชนา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการบริโภคอาหารในยามวิกาล (หลังเที่ยงถึงวันใหม่)
7. นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการฟ้อนรำขับร้อง ประโคมดนตรี และประดับร่างกายด้วยดอกไม้ ของหอม เครื่องประดับ เครื่องทา เครื่องย้อม
8. อุจฺจาสยนมหาสยนา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการนั่งนอนเหนือเตียงตั่ง ที่เท้าสูงเกิน ภายในมีนุ่นหรือสำลี

บุคคลที่ถือศีล 8 ไม่พึงจะประทินผิวด้วยของหอม เพื่อความสวยงาม
เพราะถือว่าผิดศีล ข้อ 7
แต่ถ้าเพื่อการรักษาโรค ไม่ถือว่าผิดศีล

 

โมทนาสาธุคะ ทุกวันนี้คนเราทำอะไรไปตามใจตนเอง ทำเรื่อยเปื่อย ไม่นำพุทธพจน์ของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติมาใช้ในชีวิตประจำวัน นำมาใช้แต่ก็เอาจิตปรุงแต่งเติมกันไปผิดเพี้ยนหมด ก็เลยเกิดความสับสนวุ่นวาย อะไรจริง สิ่งไหนไม่จริง ยืดหยุ่นกันไป แต่ถ้าปฏิบัติตามที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ และทรงสอนไว้ ประเสริฐสุดยอดมากคะ จะปล่อยวางได้เยอะมากคะ
เอาแค่บทสวดมนต์ทำวัตรเช้าเย็นบทพิเศษง่ายนี่แหละคะถ้าทำเป็นประจำพิจารณาไปด้วยไม่ใช่สวดแบบนกแก้วนกขุนทองนะคะก็สุดยอดแล้วคะ แต่เรามักจะขี้เกียจทำไม่จริงก็เลยไม่เห็นของจริงได้ของจริงคะ ก็เลยต้องเสาะหาอะไรไปเรื่อยๆคะบุญรักษาคะ

 

ในสมัยพุทธกาล ที่พระพุทธองค์แบ่งไว้มี 4 ประเภทคือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ครับ การบวชชี หรือชีพราหมณ์ มีการปฏิบัติกันในสมัยปัจจุบัน โดยรักษาศีล 8 ดังนี้นแม่ชี จริง ๆ แล้ว ก็คือ อุบาสิกานั่นเอง เพียงแต่ว่าจะโกนผมหรือไม่โกนผมเท่านั้นครับ ขอให้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามคำสอนของพระพุทธองค์ก็น่าอนุโมทนาสาธุครับ

 

พุทธบริษัท มี ๔ จำพวก คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา
แม่ชี คือ อุบาสิกา จะถือศีล ๕ หรือ ศีล ๘ ก็ได้ตามอัธยาศัยคับ
ศีล ๕ ( ศีลพระโสดาบัน ) ศีล ๘ (ศีลพระอนาคามี)

 

บวชชี ต้องศีล แปด ค่ะ เพราะ จะต่างกับศีลห้า ตรง ข้อสาม ถ้าเป็นชีเว้นขาดเรื่องกาเม **แต่ศีลห้า ยังมีเรื่องกาเมได้ กับคู่ของตนเว้นเรื่องกาเมกับคนที่ไม่ใช่คู่ จะต่างกัน อย่างมาก

 

เณรถือศีล 10 ต่อศีลทุกวันพระ ชีถือศีล 8 ปฏิบัติตนเหมือนคนบ้านศีลก็ต้องขาดเหมือนกัน เมื่อไม่รู้ไม่ปฏิบัติจริง อวดอุตริเป็นผู้รู้เที่ยวสอนให้ใครไปเอากะใครให้เปรอะไปหมด การไม่ปฏิบัติตามพระวินัยโดยเคร่งครัีด ย่อมทำให้พระพุทธศาสนาเสียหาย หากกิเลสหนาย่อมไม่รู้สึกว่าตนเองทำผิด

 

ความคิดเห็น ขอบคุณครับ คุณ วรรณนรี คือ ผมทราบมาว่า คณะสงฆ์ไทย เป็นนิกายสยามวงศ์ รับรอง "แม่ชี" เป็นพุทธบริษัท จำพวก อุบาสิกา ซึ่ง อุบาสิกา อาจถือศีล ๕ หรือ ศีล ๘ ก็ได้
ส่วนการบวชชี ในประเทศไทย มีทั้งแบบโกนผม หรือ ไม่โกนผม ที่เรียกว่า ชีพราหมณ์ เป็นสิ่งที่มีแต่ในประเทศไทย ในสมัยพุทธกาล ไม่มี จะมีก็แต่ภิกษุณีเท่านั้น ส่วนการรักษาศีล ๘ ในสมัยพุทธกาล ก็ไม่ต้องโกนผมและนุ่งห่มขาวและไม่จำเป็นต้องไปอยู่วัดเสมอไป เรียกว่าอุบาสกอุบาสิกาสมัยนั้น มีปกติถือศีล ๘ ในวันอุโบสถ (วันพระ) เป็นประจำอยู่แล้ว เช่น อนาถปิณฑิกเศรษฐี , นางวิสาขา เป็นต้น
ทราบครับ ว่าแม่ชีในประเทศไทย ที่พวกเราคุ้นเคยและเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ถือศีล ๘ เป็นวัตร แต่แม่ชีจัดอยู่ในหมวด อุบาสิกา จึงถือว่ายังเป็น ฆราวาส (บุคคลที่ยังข้องอยู่กับการครองเรือน) ตามพระธรรมวินัยก็ยังไม่จัดว่าเป็นนักบวช เหมือนเช่น ภิกษุ , ภิกษุณี ผมว่าตามหลักการนะครับ ขอบคุณครับ

 

ผมคิดว่าแถบทุกคน ไม่เห็นด้วยแน่นอน- -'
ถามหน่อยนะครับ ถ้าทำอย่างนั้น จะบวชไปทำไมหละคับ

 

ไม่รู้หมายความว่ายังนะครับ แต่ศีล5ก็เป็นพระอรหันได้ แต่เท่าที่รู้มาถ้าฆราวาสสำเร็จอรหันจะอายุไม่ยืนนะครับ

 

ศีล ๕ เป็น "อาคาริกศีล" ศีลของฆราวาส (ศีลของผู้เข้าสู่กระแสพระนิพพาน มีองค์ ๒ คือ พระโสดาบันบุคคล และ พระสกิทาคามีบุคคล)
"อนาคาริกศีล" คือ ศีลของบรรพชิต (ผู้ไม่ข้องในเรือน) คือ
ศีล ๘ (ศีลพระอนาคามีบุคคล)
ศีล ๑๐ , ศีล ๒๒๗ , ศีล ๓๑๑ เป็นศีลของพระอรหันต์
เหตุที่ ฆราวาส ผู้บรรลุอรหัตผลต้องนิพพานในส่วนที่สุดของวันนั้น มีอุปมา เหมือนเด็กน้อยที่ไม่สามารกแบกสิ่งของอันใหญ่โตได้ ( ด้วยอรหัตผลอุปมาเหมือน สิ่งของอันยิ่งใหญ่มากที่สุด , เด็กน้อย ( ศีล ๕ , ศีล ๘ ) มีกำลังอันน้อยกว่า ดังนั้น ถ้าไม่บวชภายในวันนั้นจะต้องนิพพานในส่วนสุดแห่งวันนั้น )
อ้างถึง โพธิสัตว์จริยาศีลสูตร และ มิลินทปัญหา ลองไปศึกษาดูครับ