ข้าราชบริพาร ทหารในพระปิยมหาราชรายงานตัวกันหน่อยครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Natthakorn, 12 มกราคม 2010.

  1. Red Leaf

    Red Leaf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,397
    ค่าพลัง:
    +4,547
    <TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" id=AutoNumber1 border=0 cellSpacing=0 borderColor=#111111 cellPadding=0 width=709 height=1331><TBODY><TR><TD height=33 width=709 colSpan=2>
    เบื้องหลังการเสด็จประพาสยุโรปของพระปิยมหาราช (รัชกาลที่ 5)
    </TD></TR><TR><TD height=464 width=195> [​IMG]
    </TD><TD height=464 width=514>เราตั้งใจอธิษฐานว่า เราจะกระทำการจนเต็มกำลังอย่างที่สุด ที่จะให้กรุงสยามเป็นประเทศอันหนึ่ง ซึ่งมีอิสรภาพและความเจริญ กระแสพระราชดำรัสที่บ่งบอก ถึงพระราชปณิธานอันแน่วแน่ของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช ที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักชาติบ้านเมือง และความหวงแหนในเอกราชของแผ่นดินสยาม!! </TD></TR><TR><TD height=163 width=709 colSpan=2>หากพลิกหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศไทยดู คงจะต้องยอมรับกันว่า การที่เรามีเอกราชและสามารถรักษาอธิปไตยของชาติไทย ให้รอดปากเหยี่ยวปากกามาได้จนถึงทุกวันนี้ เป็นเพราะพระปรีชาญาณ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นสำคัญ พระพุทธเจ้า หลวงทรงดำเนินวิเทโศบาย เพื่อให้ประเทศไทยไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของใคร ด้วยการตัดสินพระทัยเสด็จฯ ประพาสยุโรปและรัสเซียเป็นครั้งแรก นานกว่า 8 เดือน เมื่อปี พ.ศ.2440 เพื่อทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศ มากกว่า 10 ประเทศ โดยทรงเล็งการณ์ไกลว่า การเป็นมหามิตรกับรัสเซีย มหาอำนาจใหญ่ของยุโรป ในยุคนั้น จะช่วยให้ผู้รุกรานอย่างอังกฤษและฝรั่งเศส ล่าถอยออกไป !!
    </TD></TR><TR><TD height=239 width=709 colSpan=2>ก่อนที่จะเสด็จประพาสยุโรปในปี พ.ศ. 2440 อังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นนักล่าอาณานิคมใหญ่ในยุคนั้น บีบบังคับให้ไทยยกดินแดนให้ โดยในปี พ.ศ. 2436 (ร.ศ.112) ฝรั่งเศสได้ส่งเรือรบสองลำ ใช้เรือสินค้าเป็นเรือนำร่องเข้ามาที่ปากน้ำเจ้าพระยา เมื่อปืนประจำป้อมของไทยยิงป้องกันถูกเรือสินค้าฝรั่งเศสชำรุด จึงกลายเป็นข้ออ้างให้เรือรบฝรั่งเศสยิงสวนกลับมา พร้อมกับยื่นคำขาดให้ไทยยอมรับว่า ดินแดนฝั�งซ้ายของแม่น้ำโขง รวมถึงเกาะต่างๆในลำน้ำโขง เป็นของฝรั่งเศสทั้งหมด!! นอกจากนี้ ฝรั่งเศสยังบีบให้ไทยจ่ายค่าชดเชยความเสียหายเป็นจำนวนเงินก้อนโต พร้อมกับถือโอกาสยึดเมืองจันทบุรีไว้เป็นประกัน โดยอ้างว่าจะคืนให้ก็ต่อเมื่อไทยปฏิบัติ ตามคำขาดของฝรั่งเศส!! อย่างไรก็ดี แม้ว่าไทยจะปฏิบัติตามทุกประการ แต่ฝรั่งเศสก็ยังไม่ยอมถอนทหารออกจากจันทบุรี จนกระทั่งล่วงเลยไปหลายปี การรุกรานดินแดนสยามยังไม่ยุติเพียงเท่านี้ โดยต่อมา มหาอำนาจจอมเกเรยังบุกเข้ายึดเมืองตราดแทน ส่งผลให้ไทยต้องยอมเสียพระตะบอง, เสียมราฐ และศรีโสภณแก่ฝรั่งเศส
    </TD></TR><TR><TD height=277 width=709 colSpan=2>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD height=562 width=709 colSpan=2> นอกจากฝรั่งเศสแล้ว ไทยยังต้องเสียดินแดนแก่ประเทศอังกฤษ ในส่วนของเมืองเชียงตุง, ไทรบุรี, กลันตัน และตรังกานู
    แม้ว่าจะเป็นการเสียสละดินแดนบางส่วน เพื่อรักษาอธิปไตยของชาติไทย แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน ร.ศ.
    112 ก็ทำให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเสียพระราชหฤทัยมาก จนถึงกับทรงพระประชวร โดยพระองค์ได้ทรงพระราชนิพนธ์ระบายความโศกเศร้าไว้ว่า
    เจ็บนานหนักอกผู้ บริรักษ์ ปวงเอย
    คิดใคร่ลา ลาญหัก ปลดเปลื้อง
    ความเหนื่อยแห่งสูจัก พลันสร่าง
    ตูจักสู่ภพเบื้อง หน้านั้นพลันเขษม
    <?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 path=" m@4@5 l@4@11@9@11@9@5 xe" stroked="f" filled="f" o:spt="75" o:preferrelative="t" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0 "></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0 "></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1 "></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2 "></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth "></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight "></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1 "></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2 "></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth "></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0 "></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight "></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0 "></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:lock v:ext="edit" aspectratio="t"></o:lock></v:shapetype><v:shape style="Z-INDEX: -1; POSITION: absolute; MARGIN-TOP: 79.5pt; WIDTH: 311.25pt; HEIGHT: 162.75pt; MARGIN-LEFT: 0px" id=_x0000_s1032 type="#_x0000_t75" coordsize="21600,21600" alt="" wrapcoords="-52 0 -52 21500 21600 21500 21600 0 -52 0"><v:imagedata src="rama5extra_files/image001.jpg" o:href="http://www.thairath.co.th/thairath1/2548/society/oct/23/images/soc3.jpg"></v:imagedata></v:shape>เพื่อป้องกันมิให้ประเทศไทยต้องสูญเสียเอกราช การดำเนินวิเทโศบายผูกมิตรกับมหาอำนาจอย่างรัสเซียจึงเริ่มต้นขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยระหว่างที่มกุฎราชกุมารแห่งรัสเซีย ซึ่งต่อมาได้รับการสถาปนาเป็นพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สอง (จักรพรรดิองค์ สุดท้ายของจักรวรรดิรัสเซีย ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบ สังคมนิยม) เสด็จฯจากอินเดียมาแวะเมืองไทย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่และเต็มที่ ทำให้ทั้งสองพระองค์กลายเป็นพระสหายสนิทข้ามทวีป ทั้งๆที่ทรงมีพระบุคลิกภาพแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยองค์ประมุขแห่งรัสเซียทรงประหม่าขี้อาย ขณะที่พระพุทธเจ้าหลวงของไทยทรงร่าเริงอบอุ่น
    ผลพวงจากการเสด็จประพาสรัสเซีย ในปี พ.ศ. 2440 นี่เอง ที่กดดันให้ฝรั่งเศสหยุดการรุกรานและหันมาเจรจากับไทยแต่โดยดี!! โดยระหว่างนั้น พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สองได้ทรงส่งนักการทูตระดับสูง เข้ามาเป็นเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย เพื่อช่วยไทยแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนกับฝรั่งเศสด้วย
    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสยุโรปครั้งแรก โดยเรือพระที่นั่งมหาจักรี เมื่อวันศุกร์ที่ 7 เมษายน 2440 โดยมีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร ตามเสด็จฯด้วย นอกจากจักรวรรดิรัสเซียแล้ว ยังได้เสด็จประพาสประเทศอิตาลี, สวิตเซอร์แลนด์, ออสเตรีย, ฮังการี, กรุงสตอกโฮล์ม, เดนมาร์ก, อังกฤษ, เยอรมนี, ฮอลแลนด์, เบลเยียม, ฝรั่งเศส, สเปน, โปรตุเกส และอียิปต์
    </TD></TR><TR><TD height=57 width=709 colSpan=2>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD height=57 width=709 colSpan=2>ในระหว่างการเสด็จประพาสรัสเซีย ระหว่างวันที่ 3-11 ก.ค. 2440 พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สอง ได้ถวายการต้อนรับพระพุทธเจ้า หลวงของไทยอย่างสมพระเกียรติยิ่ง ทั้งสอง พระองค์ยังได้ฉายพระ รูปคู่กัน ที่พระราชวังปีเตอร์ฮอล์ฟ โดยพระบรมฉายาลักษณ์นี้ได้ส่ง ไปยังประเทศต่างๆทั่วยุโรป และตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ L'Illustration ที่กรุงปารีส ถือเป็นการทำประชาสัมพันธ์ชั้นยอด เพราะความเคลื่อนไหวครั้งนี้ ทำให้ฝรั่งเศสยุติการระรานประเทศ ไทยได้อย่างน่าอัศจรรย์!! </TD></TR><TR><TD height=57 width=355>
    [​IMG]
    </TD><TD height=57 width=354>ด้วยความที่สนิทสนมกัน พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สอง ได้ กราบบังคมทูลว่า หากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเห็นชอบด้วย พระองค์ก็ทรงยินดีรับพระราชโอรสในพระพุทธเจ้าหลวงพระองค์หนึ่งไปศึกษาต่อที่รัสเซีย โดยจะให้ประทับในราชสำนักของพระองค์เอง พร้อมกับทรงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในด้านการศึกษาทั้งหมด พระพุทธเจ้าหลวงของไทยทรงเห็นว่า ข้อทูลเสนอนี้เป็นโอกาสอันดี เพราะจะช่วยเสริมพระเกียรติยศของพระองค์เอง และจะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองในอนาคต จึงทรงยินดีรับ โดยทรงเลือกเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ พระราชโอรสองค์โปรดเป็นทูตการเมือง เสด็จไปศึกษาวิชาการทหารที่รัสเซีย </TD></TR><TR><TD height=57 width=709 colSpan=2>ในปี พ.ศ. 2450 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังได้เสด็จประพาสยุโรปและรัสเซียเป็นครั้งที่สอง โดยทรงมีพระ ราชหัตถเลขาส่วนพระองค์ถึงสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ ซึ่งทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน เล่าเรื่องการเสด็จประพาสยุโรปไว้อย่างละเอียด ต่อมาได้รวมพิมพ์เป็นหนังสือเรื่อง พระราชนิพนธ์ไกลบ้านซึ่งไม่เพียงแต่จะแสดงให้ เห็นถึงพระอัจฉริยภาพในด้านการทรงพระอักษร แต่ยังเป็นประโยชน์ ต่อการศึกษาและประวัติศาสตร์ไทยมาจนถึงยุคปัจจุบันด้วย </TD></TR><TR><TD height=57 width=709 colSpan=2>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD height=57 width=709 colSpan=2>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. Red Leaf

    Red Leaf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,397
    ค่าพลัง:
    +4,547
    เจ้าของกระทู้....Yoo Hoo หายแว้บจริงๆ ด้วย สงสัยเรียนหนัก ไม่ก็กำลังวุ่นกับการตั้งชมรมอยู่...มาดูรูปสวยๆ สมัยพระองค์ท่านกันดีกว่านะ..

    <!--MsgFile=2-->


    <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    บรมราชาภิเษกครั้งที่ ๑
    <!--MsgFile=24-->


    <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>" <!--MsgFile=25-->

    <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER></CENTER><CENTER></CENTER>
     
  3. Red Leaf

    Red Leaf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,397
    ค่าพลัง:
    +4,547
    ต่อไปเป็นชุดเสด็จประพาสยุโรป
    ประทับทอดพระเนตรการสวนสนาม ที่ทุ่งมอกาตก นครวอร์ซอ (Warswa) ราชอาณาจักรรัสเซีย

    ๒ กรกฎาคม ๒๔๔๐
    <!--MsgFile=28-->

    <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    ณ พระตำหนักอเล็กซานเดรีย พระราชวังซาร์วิกเซโร เมืองปีเตอร์ฮอล์ฟ ที่ประทับเอมเปรสมาลีฟิโอโคลอฟนา

    ๑๐ กรกฎาคม ๒๔๔๐
    <!--MsgFile=29-->

    <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER><CENTER>สวีเดน <!--MsgFile=30-->
    <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER></CENTER>พระเจ้าออสการ์ ที่ ๒ แห่งสวีเดนและนอรเวย์ ทรงนำเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสู่พระราชวังกรุงสตอกโฮล์ม ๑๓ กรกฎาคม ๒๔๔๐ <!--MsgFile=31-->
    <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
     
  4. Red Leaf

    Red Leaf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,397
    ค่าพลัง:
    +4,547
    ต่อๆ..
    กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
    <!--MsgFile=32-->

    <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    ทรงพระราชปฎิสันถารกับ บิสมาร์ค ที่ ฟรีดริชส์รูห์ (Friedrichsruh) <!--MsgFile=33-->

    <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>ฝรั่งเศส <!--MsgFile=34-->
    <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>ภาพจากต่างประเทศ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ทรงยืนลำดับที่๕จากซ้าย) ณ สกาเคน เดนมาร์ก ครั้งเสด็จยุโรป รศ ๑๒๖ <!--MsgFile=35-->
    <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER><CENTER> </CENTER></CENTER><CENTER>ภาพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๕ ประทับบนหลังม้าพระที่นั่งก่อนการเสด็จประพาสยุโรปครั้งแรก <!--MsgFile=36-->
    <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER><CENTER> </CENTER></CENTER></CENTER><CENTER>ภาพขณะรับคำถวายพระพรและกล่องเงินที่ระลึกจากพ่อค้าชาวยุโรป <!--MsgFile=37-->
    <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER></CENTER>ขอบคุณสมาชิกพันทิพ.คอม โต๊ะประวัติศาสตร์ค่ะ เข้าไปชมฉบับเต็มได้ที่

    PANTIP.COM : K9403943 *****
     
  5. ลูกท่าน

    ลูกท่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +1,649
    คิดถึงทุกๆ กัลยาณมิตรในกระทู้นี้นะครับ
     
  6. ลูกท่าน

    ลูกท่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +1,649
    ขอกราบเบื้องพระยุคลบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
     
  7. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    คิดถึงทุกท่านเช่นกันขอรับ^^
     
  8. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    คุณแม่ของดิฉันมีบุญเก่ากับท่าน เคยเห็นนิมิตท่านมาโปรด ท่านมาแป๊บเดียวผ่านมาทักทายก่อนจะลาไปโดยบอกว่า "ฉันจะไปเยี่ยมราษฎรของฉันต่อ" แล้วท่านก็เสด็จขึ้นม้าของท่านหายไป
    "ถวายบังคมเสด็จพ่อร.5"
    ถึงดิฉันจะไม่มีสิ่งใดผูกพันกับพระองค์ แต่ได้มาเกิดมาอาศัยในบ้านเมืองของพระองค์ในร่มพระศาสนานับว่าโชคดีที่สุดแล้ว พระองค์ยังเป็นห่วงเมืองไทย ดวงพระวิญญาณของท่านตลอดจนสนมใกล้ชิดและพระญาติวงศ์ยังคงไม่ไปไหน ด้วยเพราะเป็นห่วงบ้านเมืองนี้
    ประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายพระองค์ดูแล ขอเพียงทุกท่านร่วมกันสวดมนต์ภาวนาแผ่ไปทั่วโดยเฉพาะแผ่ให้ทุกๆพระองค์ที่ปกปักษ์รักษาบ้านเมืองของเรา ไม่มีใครหน้าไหนมาทำอันตรายรุนแรงได้ แม้ภัยธรรมชาติเองก็ด้วย ด้วยว่าแผ่นนี้บ้านเมืองนี้เป็นเสาหลักของพระพุทธศาสนาในกาลนี้ เทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้านของเมือง เทวดาในพระพุทธศาสนาทุกพระองค์จะช่วยกันดูแลคุ้มครองจนถึงที่สุด ความวิบัติย่อมมีบ้างตามชะตาบ้านเมือง แต่จะไม่รุนแรงพินาศย่อยยับหรือเป็นหายนะผลาญผู้คนและบ้านเมืองนี้ให้สิ้นเป็นไม่มี
     
  9. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    รับรู้ได้ถึงความรักความเมตตาอย่างหาประมาณมิได้เลยค่ะ

     
  10. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697
    ขอบคุณค่ะ
    เด็กๆ สมัยก่อนเสียชีวิตแต่เด็กค่อนข้างมาก
    ไม่เว้นแม้นแต่ พระบรมวงศานุวงศ์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2010
  11. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078

    ชอบจังเลยครับ ^^ ^^ ^^ ^^:cool:
     
  12. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697
    จะเล่าเรื่องเหรียญรัชกาลที่ห้าให้ฟังสักหน่อยค่ะ

    เพราะว่าเหรียญกษาปณ์มีการพัฒนาขึ้นมากในรัชสมัยของพระองค์ท่าน
    บางเหรียญแทนเงิน บางเหรียญเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์
    ซึ่งมาถึงยุคสมัยนี้ ราคาเป็นหมื่นเป็นแสนไปแล้ว อย่าคิดว่าจะได้เหรียญจริงกันได้ง่ายๆ ที่เห็นๆ กัน แทบหาของจริงไม่เจอ

    หลายเหรียญมีความงาม พระเกจิหลายท่านขอแบบมาทำพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกเป็นเหรียญที่ศักดิ์สิทธิ์ บอกวัดและพระที่จัดสร้าง
    บางเหรียญมีบางสถานที่ขอนำแบบมาจัดสร้างเป็นที่ระลึกเพื่อมอบให้เป็นมงคล

    เราไม่ทราบเรื่องประวัติศาสตร์ แรกๆ จึงไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย
    ทั้งประวัติพระองค์ท่าน และเรื่องเหรียญกษาปณ์ต่างๆ ในสมัยท่าน

    แต่ด้วยความที่นับถือพระองค์ไม่ต่างจากคนไทยทั่วไป วันนึงก็ไปเจอเหรียญด้านหน้าเป็นรัชกาลที่ห้าวางขายข้างทาง ก็เห็นว่าสวยดี เลยซื้อมา พอได้เหรียญนี้มา ก็ฝันว่ามีครุฑมาอยู่ด้วย แต่ครุฑในฝันหน้าตาแย่มาก ไม่สง่างามเลย ตื่นมาก็สงสัย ไปหาเหรียญครุฑต่างๆ ในบ้านก็ไม่มี แต่เหรียญรัชกาลที่ห้ากลับตกลงมา พอดูด้านหลังเป็นครุฑหน้าตาไม่สวยเลย เหมือนในฝันเลย ก็เลยไม่ทราบว่ามีครุฑมาอยู่ด้วยจริง หรือท่านต้องการบอกเราว่านั่นน่ะเหรียญปลอมต่างหาก แถมเป็นเหรียญปลอมชั้นต่ำ คือเจนตาไม่ดีทำลอกเลียนแบบมาหลอกขาย

    ก็เลยเริ่มเข้าไปศึกษาเหรียญกษาปณ์ในรัชกาลที่ห้า จึงพอเข้าใจขึ้นมา ว่าเหรียญจริงนั้น มีหลายรุ่น รุ่นต่างๆจัดทำขึ้นเพื่ออะไรบ้าง

    ต่อมา พอเห็นเหรียญที่ระลึกก็ไม่สนใจอีก เพราะทราบว่าไม่ใช่ของจริง นอกจากบางเหรียญเห็นว่าสวยมาก ทำเหมือนจริง ก็เลยได้มาอีกเหรียญหนึ่ง (ที่จริงช่วยคนขายเขาซื้อมากกว่า ผู้ขายรายนี้ก็ประวัติไม่ธรรมดานะ เป็นข้าเก่าในพระองค์ท่าน เพราะมีคนมาทัก.. ทั้งคนขายเองก็อธิบายเรื่องเหรียญที่ระลึกให้ฟังว่าไม่ใช่เหรียญจริง จัดสร้างภายหลังก็มี คนขายสะสมไว้มากทีเดียว) พอได้มา ก็ฝันเห็นกุมารีมานอนหนุนแขน หน้าตาน่ารักมากๆ พอถามเธอว่ามาจากไหน เธอว่ามากับพ่อ คงเป็นรัชกาลที่ห้า พอถามว่าแล้วตอนนี้อยู่ไหน เธอชี้ไปที่กล่องของเล่นค่ะ พอดีที่บ้านมีกล่องของเล่นที่เป็นบ้านอยู่หลังนึง

    เหรียญปลอมก็ส่งไปหลอมพระแล้ว
    ส่วนเหรียญที่ระลึกนี้สวยมาก เลยเก็บไว้

    ไปชมเหรียญกษาปณ์
    [clsR501][(111)(25530821)]����&shy;��һ���Ѫ��ŷ�� 5
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2010
  13. มาพบพระ

    มาพบพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    643
    ค่าพลัง:
    +1,973
    ด้วยพระบารมีของพระองค์ท่านที่ช่วยแผ่ปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนาและปวงชนชาวไทย ตั้งแต่ทรงประสูตรจนถึงปัจจุบันและจักมีต่อไปในอนาคตตราบเท่าที่เราทุกคนไม่ละทิ้งพระองค์ท่าน
     
  14. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +3,165
    ท่านเหนื่อยเพื่อลูกหลานไทย
     
  15. สิงหนวัติ

    สิงหนวัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    788
    ค่าพลัง:
    +2,107
    [​IMG]

    น้อมศิรเกล้าถวายบังคมสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง
    ปิยมหาราชทวยราษฎร์ไทยทั้งผอง


    [​IMG]

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1107699/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. Red Leaf

    Red Leaf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,397
    ค่าพลัง:
    +4,547
    เพราะจัง เพลงคำหวาน
    ขอบคุณ คุณสิงหนวัติค่ะที่นำมาโพส..ดีจังที่มีคนเข้ามาเยี่ยมกระทู้นี้อีก
     
  17. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434
    วันคล้ายวันเสด็จพระราชสมภพ พระราชชายา เจ้าดารารัศมี

    [​IMG]


    [​IMG][​IMG][​IMG]



    พระราชชายา เจ้าดารารัศมี (๒๖ สิงหาคม๒๔๑๖ - ๙ ธันวาคม๒๔๗๖) เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ฝ่ายเหนือผู้มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการรวมล้านนาเข้ากับสยาม เจ้าหญิงผู้เป็นดั่งดวงประทีปแห่งล้านนา ผู้มากด้วยพระอัจฉริยภาพ เจ้าหญิงผู้ทรงพลิกฟื้นศิลปะวัฒนธรรมแห่งแผ่นดินล้านนา เจ้าหญิงผู้เสด็จลงมาถวายตัว สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ด้วยเหตุทางการเมือง ก่อเกิดเป็นตำนานรักอันยิ่งใหญ่ระหว่างสองพระองค์ที่ยากจะพรรณนา

    พระราชชายา เจ้าดารารัศมี มีพระนามเดิมว่า "เจ้าหญิงดารารัศมี" พระนามลำลองเรียกกันในหมู่พระประยูรญาติว่า "เจ้าอึ่ง" ประสูติเมื่อวันอังคาร ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๘ ปีระกา (หากนับทางเหนือ เป็นเดือน ๑๐) หรือตรงกับวันที่ ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๑๖ เมื่อเวลา ๐๐.๓๐ น.เศษ ณ คุ้มหลวงกลางเวียง นครเชียงใหม่ (ที่ตั้งของ "ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่หลังเดิม) เป็นพระราชธิดาใน พระเจ้าอินทวิชยานนท์ กับ แม่เจ้าเทพไกรสรพระมหาเทวี ซึ่งแม่เจ้าเทพไกรสรนั้นทรงเป็นพระราชธิดาใน พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ และพระมหาเทวี เจ้าหญิงดารารัศมี มีพระพี่นางร่วมพระโสทรหนึ่งพระองค์ คือ เจ้าหญิงจันทรโสภา

    เมื่อทรงพระเยาว์ เจ้าหญิงดารารัศมีทรงพระอักษรทั้งฝ่ายล้านนา สยาม และภาษาอังกฤษ จนแตกฉาน ทั้งยังได้ทรงศึกษาขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆจนนับได้ว่าทรงเป็นผู้รอบรู้ในด้านขนบประเพณีอันเก่าแก่เหล่านั้น ดีที่สุดคนหนึ่งทีเดียว ในด้านการกีฬานั้นเล่า ก็ทรงโปรดการทรงม้าเป็นอย่างยิ่ง



    วันที่ 26 สิงหาคมเวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระราชชายา เจ้าดารารัศมี คุณโมเยได้น้อมจิตกตัญญูแต่งเพลงถวายพระองค์ท่านเพื่อเทิดพระเกียรติ ขออนุโมทนาค่ะ

    ขออัญเชิญพระบารมีแห่งพระราชชายาเจ้าดารารัศมี คุ้มครองคนไทยทุกหมู่เหล่าไปตลอดกาล



    [​IMG]
    หนึ่งเพชรล้านนา ล้านนาบารมี


    บทเพลงแห่งศรัทธา
    ชุด หนึ่งเพชรล้านนา
    สงวนลิขสิทธิ์ มีนาคม 2552


    กัญญนัทธ์ ศิริ / ขับขาน


    [​IMG]

    ฟังเพลงหนึ่งเพชรล้านนา เทิดพระเกรียรติขัตติยะนารีแห่งราชวงศ์ล้านนาที่กระทู้

    หนึ่งเพชรล้านนา ล้านนาบารมี - Buddhism Audio
     
  18. Red Leaf

    Red Leaf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,397
    ค่าพลัง:
    +4,547
    แวะเอาเรื่องเก่าๆ ที่มีอยู่ในไฟล์มาแบ่งกันอ่าน...

    :cool::cool::cool:


    น้ำเสวยที่โปรดปราน
    ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย

    "---เรื่องน้ำเพ็ชรนี้ เคยทราบมาแต่ว่า ถือกันว่าเปนน้ำดี เคยได้ยินพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๕ รับสั่งว่า นิยมกันว่ามีรสแปลกกว่าลำน้ำเจ้าพระยา และท่านรับสั่งว่า พระองค์เองเคยเสวยน้ำเพ็ชรเสียจนเคยแล้ว เสวยน้ำอื่นไม่อร่อย จึงต้องส่งน้ำเสวยมาจากเพ็ชรบุรี---"

    เป็นข้อความในพระราชหัตถเลขาในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกล่าวถึงเรื่องน้ำในลำน้ำเพชรบุรี ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเสวยกว่าน้ำในแม่น้ำอื่น

    สมัยต้นรัตนโกสินทร์ น้ำเสวยก็คือน้ำฝนและน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนที่ใสสะอาดและนำมาผ่านกรรมวิธีที่ทำให้เป็นน้ำบริสุทธิ์สำหรับเสวย แต่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพบว่าน้ำจากแม่น้ำเพชรบุรีเป็นน้ำที่มีรสชาติอร่อยกว่าน้ำในลำน้ำอื่นๆ จึงโปรดให้ตักน้ำจากแม่น้ำนี้ส่งเข้ามาเป็นน้ำเสวยจนตลอดรัชสมัย

    น้ำเพชรที่โปรดให้เป็นน้ำเสวยนี้ ตักจากตำบลท่าชัย ซึ่งเป็นตำบลที่อยู่เหนือตำบลบ้านปืนขึ้นไปไกลจนหมดหมู่บ้านราษฎร เป็นทางน้ำที่ไหลผ่านกรวดทรายจึงเป็นน้ำใสสะอาด วิธีทำน้ำเพชรให้เป็นน้ำเสวยนั้นมีหลายขั้นตอน เจ้าเมืองเพชรบุรีมีหน้าที่ควบคุมดูแลแต่ละขั้นตอน นับตั้งแต่ตักน้ำ และนำมาต้มในกระทะใบใหญ่ แล้วถ่ายเก็บใส่ตุ่ม เมื่อเย็นลงจึงกรองในหม้อกรองใหญ่ ทำด้วยปูนลักษณะคล้ายลูกปัศตัน ปากกว้างประมาณ ๕๐ เซนติเมตร ลึกประมาณ ๖๐-๗๐ เซนติเมตร โดยให้น้ำหยดจากเครื่องกรองลงตุ่มที่รองรับอยู่ข้างล่าง น้ำที่หยดลงมานี้จึงเป็นน้ำที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ เมื่อจะนำส่งเข้ามาในกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่กรมกองน้ำเสวย น้ำสรง จะเป็นผู้รับผิดชอบ มารับน้ำนำเก็บไว้ในโรงใหญ่ ซึ่งรักษาความสะอาดอย่างเข้มงวดกวดขัน ถึงเวลานำน้ำขึ้นถวายจะบรรจุหม้อกรัณฑ์ ซึ่งเป็นหม้อดินเผาปั้นด้วยฝีมือประณีตมีฝาปิดเป็นจุกยอดแหลมและผูกผ้าขาวตีตราครั่ง นำส่งคุณพนักงานฝ่ายใน สำหรับเป็นน้ำเสวยต่อไป

    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเสวยน้ำเพชรตลอดมา มีบางคราวที่มีเหตุขัดข้องต้องงดตักน้ำเมืองเพชร ต้องเสวยน้ำแม่น้ำอื่น ก็ทรงทราบความผิดปกติทันที ดังมีพระราชหัตถเลขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "---บางเวลาเจ้าพนักงานมักง่ายใช้น้ำเมืองเพ็ชรเสียหมด ส่งน้ำอื่นปลอมเข้ามาว่าน้ำเพ็ชร เสวยครั้งไรก็เสวยไม่ได้ ให้กระสับกระส่ายไปต่างๆ เปนเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไรถึง ๔๐ ปีล่วงมาแล้ว---"

    ครั้งหนึ่งโปรดให้มีการหาน้ำอร่อยแทนน้ำเพชร โดยให้หลวงศักดิ์นายเวรจัดน้ำกรอกใส่ขวดเหมือนกัน ๔ ขวด คือ น้ำฝน น้ำเพชร น้ำบ่อ อาติเชียน น้ำกลั่น เมื่อเสวยน้ำโดยทรงอมให้รู้รสชาติเสียก่อนจึงกลืน มีน้ำขวดหนึ่งอร่อยกว่าทั้งหมด ปรากฏว่าน้ำขวดนั้นคือน้ำเพชร จึงมีพระราชดำริว่า น้ำอีก ๓ ขวดจะบริสุทธิ์เกินไปกว่าพระศอที่เคยเสวย ทำให้เสวยไม่อิ่มและไม่ระงับกระหาย จึงโปรดให้จัดน้ำเพชรเข้ามาให้เสวยต่อไป ดังปรากฏในหนังสือถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดน้ำเสวย ความตอนหนึ่งว่า "---จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขออารักขาท่านทั้งหลายอันได้ออกนามมาแล้วข้างต้นได้เป็นธุระขวนขวายตามหน้าที่เพื่อความสงเคราะห์ให้ได้เสวยน้ำเพ็ชรให้เสมอไป จะทรงแบ่งส่วนพระราชกุศลให้แก่ท่านทั้งหลายบรรดาที่ได้จัดการให้สมพระราชประสงค์นั้นเสมอไป---"
    จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ยังคงโปรดเสวยน้ำเพชรอยู่ ดังที่มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับรสชาติของน้ำเพชรว่า "---ในส่วนตัวเราเองมิได้เคยถือนักดอกในเรื่องน้ำกิน แต่ต้องสารภาพอย่างหนึ่งว่าจะเปนเพราะเหตุใดก็ไม่ทราบ บอกไม่ถูก เราได้เคยกินน้ำประปาหลายครั้ง และรู้สึกว่ากินได้ แต่ยังไม่วายรู้สึกในใจว่า สู้น้ำเสวยที่เขาจัดมาให้พิเศษไม่ได้ ทั้งนี้จะเปนด้วยอุปาทานมากกว่าอย่างอื่น---"

    แม้น้ำเพชรจะมีรสชาติอร่อยเป็นที่ถูกพระโอษฐ์ถูกพระทัยพระมหากษัตริย์ทั้ง ๒ พระองค์ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสภาพบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงพัฒนาเจริญขึ้น ผู้คนเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบกับแม่น้ำเพชร เมื่อเจ้าพระยายมราชเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดเพชรบุรี ในวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๔๖๕ พบว่า ณ ตำบลที่ตักน้ำเสวยนั้นมีบ้านเรือนตั้งอยู่ตลอดทั้ง ๒ ฝั่ง ทำให้มีสิ่งปฏิกูลปนเปื้อนในแม่น้ำ นอกจากความไม่สะอาดดังกล่าวแล้ว เจ้าพระยายมราชยังกราบทูลถึงเหตุที่น้ำเพชรไม่สมควรเป็นน้ำเสวยอีกต่อไปว่า "---เมื่อนึกถึงความเข้าใจของมหาชนทั่วไป แลชาวต่างประเทศด้วยแล้ว การที่ยังจัดอยู่ในราชการปรากฏว่าน้ำในลำน้ำเพ็ชรบุรีเปนน้ำเสวยดังนี้ ข้าพเจ้ารู้สึกว่าดูเปนการเสื่อมเสียพระเกียรติยศและเกียรติคุณของน้ำเสวย---"

    เหตุผลสำคัญทั้ง ๒ ประการ ทำให้น้ำเพชรซึ่งเคยเป็นน้ำเสวยของพระมหากษัตริย์ไทยมาเป็นเวลานาน ต้องสิ้นสภาพหมดสถานะการเป็นน้ำเสวยแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ตามพระราชกระแสในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ความว่า "---ฉนั้นถ้ารู้สึกว่าน้ำในลำน้ำเพ็ชรบุรีปฏิกูลมากขึ้นจริง แลเห็นว่าถ้ากินอาจมีอันตรายได้ จะงดการตักน้ำเพ็ชรส่งเปนน้ำเสวยเสียก็ได้---"

    ครั้งนั้นน้ำประปาจึงได้เข้ามามีบทบาทเป็นน้ำเสวยต่อจากน้ำเพชร ดังปรากฏในหนังสือของเจ้าพระยารามราฆพ จางวางเอกผู้สำเร็จราชการมหาดเล็กมีถึงมหาเสวกเอก เจ้าพระยามหิธร ราชเลขาธิการ เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๔๖๕ ความตอนหนึ่งว่า "---ในเรื่องน้ำเสวยนี้ ข้าพเจ้าเห็นว่าถ้าจะให้ดีแล้วควรขอไปทางกระทรวงมหาดไทย ให้เจ้าน่าที่จัดน้ำประปาเปนพิเศษ กล่าวคือเปนน้ำที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะ ซึ่งได้มีเจ้าน่าที่ตรวจตราความบริสุทธิ์แล้วจึงส่งมาเปนน้ำเสวย แทนที่จะใช้น้ำประปาอย่างธรรมดา ซึ่งปล่อยมาตามท่อ---"

    ผู้คนในปัจจุบันคงหมดโอกาสที่จะได้รู้หรือพูดว่า "น้ำเพชรมีรสอร่อยแปลกกว่าน้ำเจ้าพระยาอย่างไร" คงจะพูดถึงน้ำที่บริโภคกันทุกวันนี้อย่างไม่แน่ใจว่า "น้ำยี่ห้อนี้แพงกว่า คงจะสกปรกน้อยกว่ายี่ห้อนั้นนะ"

    ศิลปวัฒนธรรม กันยายน 2548

    [​IMG]
     
  19. Red Leaf

    Red Leaf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,397
    ค่าพลัง:
    +4,547
    ฉลองพระองค์ครุยคลุมในรัชกาลที่ 5

    เรื่องเก่าอีกเรื่องที่น่าสนใจ...



    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=UKs43nkLhfA&feature=related"]YouTube - คุ้มของเก่า ฉลองพระองค์ครุยคลุมในรัชกาลที่ 5[/ame]
     
  20. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    อันนี้เป็นเรื่องจริงค่ะ คนรอบข้างดิฉันที่มีบุญเก่ากับท่าน ล้วนแต่มีอดีตชาติที่ผูกพันกับท่านมา บางท่านได้เข้าไปศึกษาในสถาบันที่ท่านมีพระดำริให้จัดสร้างขึ้น บางท่านพอทราบเป็นนัยๆ ว่ามีบุญเก่ากับท่านก็สนใจหาข้อมูลเรื่องราวของท่านและลูกหลานในสายของท่านเป็นเรื่องเป็นราว ถ้าผูกพันกับท่านมากท่านจะเสด็จมาในนิมิตเป็นสิริมงคลค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...