"ข้อห้ามในการแขวนพระ" สิ่งสำคัญที่ควรศึกษา

ขอบคุณมากครับ

 

ดีครับ ได้ความรู้

 

น้องใหม่ครับ

อ่านยังไงเหรอคับ

 

ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณครับ

 

อยู่ที่ใจมากกว่า ปฎิบัติตาม ศิล 5 พอเเล้ว

 

จากที่ผมศึกษาด้วยตัวเองมาโดยตลอดเห็นมาเองประสบการณ์ตัวเอง

พระเครื่องนั้นไม่มีวันเสื่อมครับ พุทธคุณ ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ว่าตัวของเรานั้นจะทำอย่างไรจะเป็นคนดีไหม ถ้าเป็นคนดี อะไรก็จะดีตามไปหมดครับ พระเครื่องแต่ละอย่างทำไมถึงมีข้อห้าม ข้อห้ามเหล่านั้น ก็เป็นสิ่งดีถ้าไม่ทำแบบนั้นซะ ก็เป็นคนดีพระจึงช้วย งั้นก็เป็นคนดีสิครับทำแต่สิ่งดี เอาแค่ ศิล 5 ทำไห้ ได้ สัก 3 ข้อ ก็ ถือว่าดีแล้วครับ สมัยนี้ เกจิอาจารย์แต่ละท่าน ที่ พวกเราบูชา ท่านไม่คล้องพระเลย ทำไมท่านถึงเก่งละครับ ล่องหนหายตัว ไครก็ทำอันตรายไม่ได้ เพราะอะไรท่านทั้งหลายคงจะเข้าใจ
แล้วมีอีกข้อครับ ถ้าเวลาเกิดอุบัติเหตุเลือดตกยางออก อย่าไปโทษพระท่าน ท่านช้วยได้แค่บุญที่เราทำมา

 

หลักการแขวนพระ ถ้าถือศีลห้าได้ รับรอง พระคุ้มครองแน่นอนครับผม และ ชีวิตจะประสพความสำเร็จแน่นอน ลองศึกษา ศีลห้าให้ดีๆ จะเห็นว่า ถ้าปฏิบัติจริง ก็จะพบแต่ความสุข ไม่ร้อนใจ กายเลยครับผม

 

อ่านตรงไหนครับข้อห้าม ไม่เห็นข้อความเลย

 

พระไม่มีทางเสื่อมครับมีแต่ใจเราเท่านั้นที่จะเสื่อมได้ครับ (เสื่อมจากความดี มีสติพบปัญญาแล้วพระจะครุ้มครองครับ)

 

เท่าที่ผมพอจะทราบ วิชาอาคมหรือการปลุกเสกพระแต่ละเกจิอาจารย์ ก็จะไม่เท่ากันและมีข้อห้ามที่แตกต่างกันไป ตามความเหมาะสม หรือของบางท่านก็ใช้เป็นกุศโลบายให้คนอยู่ในศิลในธรรม เช่นไม่ควรดื่มเหล้า จริงๆ ก็คือให้มีสติ ข้อห้ามต่างๆ เพื่อให้ก่อนที่เราจะทำอะไรก็คิดก่อนทำ มีสติอยู่เสมอ เป็นเครืองยึดเหนี่ยวจิตใจ

ส่วนโดยส่วนตัวผมเอามั่นใจก็ของหลวงพ่อเดิม และหลวงพ่อพรหม คือท่านได้กล่าวไว้ว่าของข้าไม่มีวันเสื่อม และท่านยกตัวอย่าง "ดูสิ งูมันเลื้อยลอดใต้ถุน ราวผ้า ลอดใต้ส้วม แล้วมันก็เลื้อยมากัดคนบนบ้านตาย" ของๆ ท่านเปรียบดังงูตัวนั้น ไม่ว่าจะผ่านสิ่งใดก็ยังมีพิษสง เปรียบดังกับงู

เป็นความศรัทธาของแต่ละท่านครับ บางท่านผมเห็นพอลอดราวแล้ว เลยถอดพระออกไม่สนใจใส่อีก ผมเสียดายครับ อย่างเราห้อยพระที่เป็นรูปพระพุทธเจ้า ผมห้อยเพราะนึกถึงคุณของพระองค์ ว่าจะไม่ทำสิ่งไม่ดี ไม่ได้เกี่ยวว่าจะเหนียวอะไรเลย แต่บางคนถอดทิ้งเลย

 

ข้อความหายไปครับ แต่ผมเชื่อว่าพระที่ดีย่อมคุ้มครองแต่คนดีมีศีลธรรมเท่านั้น ^^

 

เครื่องลางของขลัง วัตถุมงคล ในปัจจุบันนี้ไม่ได้เป็นไปในทางศีลธรรมเลย เป็นเรื่องแต่หาลาภผล หาเงินทองกันอย่างเดียว เป็นที่ตั้งแห่งความโลภมากกว่าเรื่องศีลธรรม​

 

น่าคิด ต้องระวังให้มากๆแล้ว

 

ขออนุญาติครับ
ผมก็เป็นคนชอบพระเครื่องมาตั้งแต่เด็กๆครับ
ตอนก่อนจะแก่ก็รีบสะสมใหญ่หวังว่าจะเป็นทุนรอนในอนาคต
แต่ด้วยความที่สะสมไว้มาก(ลงทุนไปมาก)แต่ความรู้น้อยและเชื่อคนง่ายก็เลย
ได้แบบแท้รุ่นหลังซะเป็นส่วนมาก แต่แท้รุ่นหลังบางรุ่นกลับขลังกว่ารุ่นแรกก็มี
เพราะบางท่านกลัวว่าพระของท่านจะไม่ขลังก็เลยปลุกเสกแล้วปลุกเสกอืก
พระท่านเลยขลังกว่าของอาจารย์ อย่างพระร่วงรางปืนรุ่นที่เป็นตะกั่วอ่อนนั้นท่านปรมาจารย์ปู่ฤษีท่านเล่าว่าธาตุไฟแรงมาก แขวนมาได้อย่างไร ผมก็ว่านานๆแขวนทีเพราะร้อนมาก ท่านก็เมตตาลดธาติไฟให้โดยใส่ธาติน้ำ(เมตตา)เข้าไปแทน แต่ท่านก็บอกว่าลดได้ไม่เยอะนะเพราะของเก่าเขาปลุกเสกมาดี(เจ้าของเดิมแท้ๆเป็นทหารรุ่นสงครามอินโดจีน)
ปัจจุบันพระองค์นี้ผมคืนไปให้ลูกหลานเจ้าของเดิมไปแล้ว เพราะเอาไว้ก็ไม่ค่อยมีโอกาสใช้
หลวงปู่ที่เป็นอาจารย์ผมท่านเมตตาก็เลยให้พระของอาจารย์ปู่หลวงปู่มหาบัว วัดป่าบ้านตาด มาจำนวนหนึ่งเพราะเห็นว่าเป็นคนวัด พระรุ่นหนึ่งนี้ให้ไครไปก็ไม่ดีขึ้นมีแต่แย่ลง หรือไม่ก็ทำหาย ผมก็เลยเลิกแจกแล้ว สอบถามไปมาเลยได้ความว่า ตอนที่ไปขออนุญาติท่านสร้างนั้นได้เรียนท่านว่า ท่านอาจารย์ก็พรรษามากแล้ว ถ้าท่านลาโลกไปพระลูกพระหลานจะไม่มีที่พึ่งที่ละฤก ท่านเลยอนุญาติอยู่ สอง สาม รุ่น ต่อมาก็ไม่มีใครกล้าขออนุญาติท่านสร้างอีก
ผมคิดไคร่ครวญไปมาเลยสรุปว่า ท่านมีเจตนาสร้างเพื่อแจกพระลูกพระหลาน
พอหลุดออกมาถึงญาตืโยมห่างวัดก็เลย ไม่เป็นผลดี ตัวผมเองเคยแขวนไปงานวัดท่านๆมองแล้วมองอีกทั้งที่อยู่ห่างมากๆ จนพวกแม่ขาวบอกว่าหลวงตามองแต่คนนี้ๆ หลายรอบ
แต่ก็มีรุ่นหนึ่งที่แจกญาติโยมในงานปทายข้าวเปลือก รุ่นนี้เท่านั้นที่ใครๆก็แขวนได้ นอกนั้นเก็บไว้บูชาในห้องพระที่บ้านเท่านั้นครับ อ้อแล้วก็มีรุ่นแบบที่แจกในงานผ้าป่าช่วยชาติอีกหลายรุ่น แม้แต่ร๊อกเก็ดรูปเหมือนของท่านที่เห็นตามแผงพระต่างๆแค่ ห้าสิบบาทก็ขลังเหลือเพือแล้วละครับ
ขอสรุปว่าพระดีต้องคู่กับคนดีครับ ถ้าไม่อย่างนั้นพระก็อยู่ส่วนพระ คนก็อยู่ส่วนคนถึงแขวนคอไว้ก็ไม่มีประโยชน์ แถมอาจหายไปอย่างไร้ร่องรอยอีกต่างหาก
ขอบคุณครับ
ลุงมหา

 

ตามน้ำเลยจ๊ะ

 

ข้อแลกเลยคือ ผมเลิกกินเบียร์แล้วครับ กลัวไม่ขลัง

 

วัตถุมงคลเสื่อมได้ครับแต่จะเสื่อมเพาะกับคนที่ทำผิดข้อห้ามแต่เมื่อเราเอาวัตถุมงคลนั้นให้คนอื่นวัตถุมงคลนั้นก็จะศักดิ์สิทธิ์เหมือนเดิมพลังจิตที่อธิษฐานใส่วัตถุมงคลไม่มีวันเสื่อมแน่นอนทำไมอารย์ผู้ปลุกเสกจึงกำหนดข้อห้ามเพราะท่านต้องการพิสูจน์ว่าศิษย์ของท่านเคารพท่านหรือไม่หากเคารพอาจารย์ก็จะต้องปฏิบัติตามถ้าไม่ทำตามก็แสดงว่าไม่เคารพอาจารย์(คุณลุงผมบอกเพราะท่านเป็นหมอผีประจำหมู่บ้าน)

 

ผมก็มีเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง คือผมกับลุงชอบเที่ยวกลางคืนและจะสวมพระหลวงปู่ทวดติดตัวเป็นประจำเวลาไปนวดหรือเข้าร้านอาหารนั่งกอดสาวก็คล้องหลวงพ่อตลอด คราวนี้วันนึงผมกับลุงไปกินที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งตกดึกก็พากันกลับลุงผมเป็นคนขี่จักยานยนต์พอมาถึงหน้าโลตัสก็ได้ยินเสียงล้อรถยนต์เบรกมาแต่ใกล้ ผมเหลือบไปเห็นรถกะบะพุ่งมาที่ท้ายรถจักรยานยนต์ที่ผมนั่งซ้อนท้ายลุงอยู่ แล้วสติผมก็วูบรถกะบะชนท้ายจักรยานยนต์ลุงผมอย่างแรง แต่พอผมได้สติกลับเป็นลุงผมที่ตกจากรถจนหัวกระแทกพื้นไ้ด้รับความกะทบกะเทือนต้องผ่าสมอง และตัวผมเองกลับมายืนอยู่ข้างรถกะบะคันที่ชนลุงผมอย่างงุนงงว่าเป็นไปได้ยังไง ตอนนั้นในตัวผมมีองค์หลวงปู่ทวดของท่านขุนพันธ์รักษ์ราชเดช ปี 2545 รุนมงคลจักรวาล ห้อยอยู่ที่คอซึ่งผมศรัทธาท่านมาก(ท่านก็ไม่เสื่อมนะครับ)น่าคิดมั้ยครับ

 

ของจะดีหรือไม่ส่วนหนึ่งผมคิดว่าขึ้นอยู่กับพลังจิตใจที่เชื่อมั่นและศรัทธาครับ