ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

<LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>

โฮะๆๆๆ ลุงคนนี้ผมรู้จักดี นึกว่าไผ๋ เอิ๊ก เอิ๊ก ปีนี้ดูเฒ่าชะแรแก่ชราไปเยอะนะลุง พยายามพักผ่อนมากหน่อย ขยันน้อยลงสักนิดนะครับ ป้าเป็นห่วง

 

อดีตทหารเอกพระนเรศวร จิบน้ำชายามบ่าย ชมวิวเขาค้อ กับมนตด. อุ๊บส์

 

เอาแต่รูปมือนะ...อย่าเอาหน้า
เดี๋ยวไม่มีคนเข้าเว็ป.......555

อายเหมือนกันนะเนี่ย....โทรมสุดๆ
เวลาพลังไม่ลงดูแก๋ แก่...เวลาพลังลงดูหนุ่มเชียว...555

 

ใครว่าพี่จุกแก่ล่ะ ดูภาพนี้สิ ฟ้อเชียว อิๆๆ พี่เม้าส์ ก็พี่เม้าส์เต๊อะ

 

อ้าว ลุงคนนี้เคยเป็นนายแบบให้ผมมาแล้วนี่น่า
ลุงเค้าชื่อจุกสวาท นะน้า
หรือจะเอาท่านี้
ปล.น้าเม้าสั่งให้แซว

 

น้านๆๆ
มีเสียงเชียร์ความหล่อเหล่า
เห็นด้วยครับ

 

อุปกรณ์แสกนกรรมรุ่นใหม่



แสกนกรรม...........ไม่เจอ
แสกนระเบิด..........ไม่ค่อยพบ

 

ปรับปรุง รอบที่สี่ ^-^

 

สวย...ครับ...สวย...
เพื่อนๆ ว่าไง...

 

xประชันยิ้มx

<EMBED height=340 type=application/x-shockwave-flash width=560 src=http://www.youtube.com/v/VWF3ZP4adUI&hl=en_US&fs=1& allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true">

มาดูประชันรอยยิ้มกัน ใครยิ้มสวยกว่าใคร
</EMBED>

 

จารโคมฉาย...ผมมองไม่ออกครับว่าลุงคนนี้เป็นใคร ใส่เสื้อสีเหมือนของผมเลย สงสัยพลังลงแรงไปหน่อย หาวหวอดเลย...555

 

แหม น้องบ้านโป่งมีฮาอยู่เลื่อยเลย

 

วันนี้มีคนแอบส่งจดหมายรักมาให้
แหม ไม่ใช่ค่ะ ส่ง PM มาให้ ก็เลยเอามาลง
ไว้เป็นข้อมูลให้ทุกคน พิจารณากันเองแล้วกันนะค่ะ


ผมติดตามอ่านเรื่องราวของคุณไอยมาตั้งนานแล้ว
ไม่ว่าจะตั้งแต่ตอนที่คุณไอยเข้าเวปพลังจิตใหม่ ๆ
ที่ใช้ชื่อ moony จนกระทั่งมาเป็นคุณไอย
แต่คุณคงจำผมไม่ได้ เราเคยคุยกันในงานมินิพลังจิต
และผมก็ติดตามเรื่องราวของสำนักหนึ่งมาพร้อม ๆ กับคุณ
เช่นกัน แต่ไม่ได้กระโจนลงไปเหมือนคุณ แต่พอเห็นคุณ
กับอาจารย์อีกหลาย ๆ คน ออกมา รวมทั้งการที่คุณเอา
หลักฐานทางด้านการเงินออกมาเปิดโปง ทำให้ผมสนใจ
และอยากรู้ความเป็นไปของสำนักนี้อย่างละเอียด
ว่าเรื่องราวที่หลาย ๆ คนนำมาลงนั้น เป็นความจริงหรือไม่
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจูงจิต คำว่าระบบ หรือ
การแต่งตั้งคนนั้นเป็นขั้นนั้น ขั้นนี้ เป็นต้นนั้น ซึ่งพอผมเข้าไป
ศึกษาและวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน ไม่ว่าจะด้วยการพูดคุย
ด้วยการสัมผัสทางสมาธิ ซึ่งขอไม่กล่าวถึง เดี๋ยวจะว่าอวดอุตริฯ
เอาเป็นว่า ผมศึกษาและปฏิบัติมาพอสมควรก็แล้วกัน

 

ผมพอจะสรุปได้เลยว่า

1. มนุษย์ต่างดาวที่พวกเขาพูดถึงนั้น มีอยู่จริง
แต่เป็นมนุษย์ต่างดาวที่เป็นฝ่ายดำ หรือจะเป็นพวก Grey
หรือเปล่า ผมไม่แน่ใจ แต่ผมคิดว่า เขาไม่ได้หวังดีกับ
มนุษย์อย่างแน่นอน เพราะอะไร ทำไมผมถึงคิดเช่นนั้น
เดี๋ยวผมจะอธิบายตามลำดับขั้นก็แล้วกันนะครับ
2. มนุษย์ต่างดาวที่พูดถึงนี้ เขาแฝงตัวมาในรูปของ
บุคคลหนึ่ง หรือใช้บุคคลนี้ เข้ามาเป็นหัวหน้าขบวนการ
แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้คนอื่นรู้ จะมีรู้กัน
เฉพาะพวกวงใน คือกลุ่มที่อยู่ในขั้นลึก ๆ เท่านั้น
คือพูดง่าย ๆ คือ เจ้าสำนักเงา
3. ขั้นตอนการทำงาน หรือรูปแบบของเขาคล้าย ๆ กับ
กลุ่ม อิลูมิติ หรือพรีเทอสัน ก็ว่าได้ ไม่ผิดแผกแตกต่าง
ไปเลยครับ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ เป็นเครือข่ายของกลุ่มนี้
ในประเทศไทยครับ

 

4. คน ๆ นี้ มีตัวตนจริง และอยู่ในเมืองไทยนี่แหละครับ
คอยสนับสนุน ช่วยเหลือและให้ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อสร้าง
ความเชื่อถือให้กับสำนักนี้ และคน ๆ นี้นี่เอง ที่ทำให้
ทุก ๆ คน ในสำนักนี้ เชื่อมั่นในเรื่องของมนุษย์ต่างดาว
รวมทั้งพลังต่าง ๆ ตลอดจนให้ความเชื่อมั่นว่า จะเป็นผู้
ถูกเลือกให้เป็นผู้ได้รับความคุ้มครองจากมนุษย์ต่างดาว
ว่าจะเป็นผู้รอดพ้นจากภัยพิบัติที่จะเกิดบนโลกใบนี้
5. คนอื่น ๆ ที่เข้ามาอยู่กับสำนักนี้ โดยเฉพาะระดับ
หัวหน้า หรืออาจารย์ต่าง ๆ นั้น ต่างก็รับรู้เรื่องราวเหล่านี้
จนทำให้เข้าใจว่า ตัวเองเป็นผู้ที่ถูกเลือก เป็นผู้ที่มีพลัง
จะมาช่วยเหลือมนุษย์ยามภัยพิบัติ
6. คนเหล่านี้โดนหลอกใช้หมดทุกคนครับ ยกเว้น
คนเดียว คือเจ้าสำนักเงาตัวจริง
7. ทำไมบุคคลเหล่านี้โดนหลอกใช้ได้ง่าย ๆ
อยากรู้มั้ยครับ เพราะอะไร

 

8. จากการที่ผมได้ตามอ่านมานาน และจากการได้พูดคุย
ผมบอกเลยว่า ผมรู้จักทุก ๆ คนในสำนักนี้ดีพอสมควร
รวมทั้งตัวคุณไอยเอง ผมก็พอทราบอัธยาศัยดีเช่นกัน
ผมประมวลข้อมูลออกมาได้ว่า

บุคคลที่ออกมาจากสำนักนี้ได้

1. เป็นพวกที่สนใจธรรมะแท้ ๆ อย่างบริสุทธิ์ใจ
2. ไม่สนใจพวกเรื่องพลัง อิทธิ ปาฏิหาริย์ ไปมากกว่า
แนวทางของพระพุทธเจ้า
3. ไม่สนใจลาภยศ สักการะ ชื่อเสียง หรือเงินทอง
ของล่อลวงใจต่าง ๆ นานา

บุคคลที่ยังอยู่ในสำนักนี้

1. ถูก Mind Control หรือที่เรียกกันว่า ครอบจิต จูงจิต
ให้หลงเข้าใจว่าตนเองได้สภาวะนิพพานจริง ๆ หรือที่เรียกกันว่า
วิปัสสนูกิเลส ที่คุณไอยนำมาลงไว้นั้นแหละครับ
2. ศึกษาธรรมะ เพื่อทำสมาธิ ที่จะก่อให้เกิดฌาน ที่จะทำให้
ตนหยั่งรู้ และ เพื่อทำให้ตัวเองมีพลัง มีอิทธิปาฏิหาริย์ แล้วนำมา
บิดเบือน โดยกระทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่ามาช่วยคนที่มี
ความเดือดร้อน มีความเมตตาต่อพวกเขาอย่างแท้จริง
(ซึ่งไม่ใช่เลย เป็นความมีตัว ของคนที่คิดว่าไม่มีตัว)

 

ระบบจัดสรร

 

9. หลังจากที่คุณไอยและอาจารย์หลาย ๆ คน
ถอนตัว ซึ่งตอนนั้นมีการนำเรื่องราวออกมาเปิดเผยนั้น
บุคคลที่เหลืออยู่เกิดความลังเล แต่ก็โดนการใช้คำพูดลวงจิต
เพราะการที่คิดว่าตัวเองได้สภาวะนิพพานนั้น ไม่มีทุกข์
พอจะถอยออกมา ก็จะกลับมาทุกข์เหมือนเดิมนั้น
ทำให้หลาย ๆ คนลังเลที่จะถอยออกมา ผลสุดท้าย
ก็เลือกที่จะกลับไปอยู่เหมือนเดิม เพราะความกลัวทุกข์นั้นเอง
อีกทั้งด้วยความมีทิษฐิมานะของแต่ละคน
(ซึ่งพวกเขาจะไม่รู้ว่าตนเองมี)
ทำให้อยากเอาชนะ ประกอบกับ ได้รับการยืนยันจาก
เจ้าสำนักเงา ทำให้เขามั่นใจว่า ทางที่ตัวเองเลือกเดินนะ
ถูกทางจึงได้หันกลับไปใหม่
10. การที่หันกลับมาใหม่อีกครั้ง ทำให้พวกเขา
ถลำลึกลงไปยากที่จะเยียวยาแก้ไขเสียแล้ว
11. จากการที่เรื่องราวของสำนักถูกเปิดโปง
ทำให้หลาย ๆ คน เสื่อมศรัทธาโดยเฉพาะในแง่เรื่องของ
เงิน ๆ ทอง ๆ ที่ไม่สามารถตอบคำถามทุกคนได้ว่า
เงินหายไปไหนทำไมไม่ออกมาชี้แจง แต่ขณะที่ทางด้าน
ของอาจารย์ต่าง ๆ ที่ออกไปนั้น ต่างนำข้อมูลและข้อเท็จจริง
ออกมาเปิดเผยทั้งหมด แต่ตรงกันข้ามกับเจ้าสำนัก ที่ยัง
ปิดเงีบบมาจนถึงทุกวันนี้
12. ดังนั้น เพื่อเรียกความศรัทธาคืนกลับมาก็เลย
อุปโหลกให้อาจารย์คนหนึ่งขึ้นมาเป็นเจ้าสำนัก (กำมะลอ) แทน
เนื่องจากเจ้าสำนัก (ตัวจริง) โดนโจมตีเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ
จนไม่กล้าออกหน้า

 

13. เจ้าสำนัก (กำมะลอ) ซึ่งโดนหลอกใช้มาตั้งแต่ต้น
ตอนแรกทำไป เพราะอยู่ในภาวะจำยอม เพราะถูกเข้ามาให้
รับผิดชอบเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ อย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ผลสุดท้าย
เมื่อเจ้าสำนักตัวจริงโดนเปิดโปง ก็ส่งผลกระทบทำให้ตนเอง
เสื่อมเสียชื่อเสียงไปด้วย เปรียบเสมือนคนขึ้นหลังเสือไปแล้ว
ย่อมลงไม่ได้ ฉันใดฉันนั้น ทำให้ต้องเล่นตามน้ำไปกับเขาด้วย
และด้วยความมีตัวของคนที่ไม่มีตัว ทำให้เข้าใจว่า สิ่งที่ตนทำ
ลงไปถูกต้องแล้ว จึงได้พยายามทุกวิถีทางที่จะกู้ชื่อเสียงของตน
กลับคืนมา โดยการใช้ความสามารถพิเศษ ฌานหยั่งรู้ และ
อิทธิปาฏิหาริย์ต่าง ๆ เพื่อดึงดูดคนให้เข้ามาศรัทธา เลื่อมใส
ตนเอง และทำให้สำนักกลับมาฟื้นฟูเหมือนเดิม พูดง่าย ๆ ก็คือ
ผลประโยชน์ต่างตอบแทนซึงกันและกัน

 

14. ด้วยความที่เจ้าสำนัก (กำมะลอ)
เป็นผู้กว้างขวางอยู่ในวงการนี้ ทำให้มีพรรคพวก
เพื่อนฝูงมาก ซึ่งก็มีหลาย ๆ คนที่สนิท ๆ กัน
ถึงขนาดยอมช่วยเพื่อน โดยเอาชื่อเสียงตัวเองเข้าแลก
ซึ่งบอกตรง ๆ เลยครับคุณไอย ผมไม่เห็นด้วยกับวิธีการ
ของพวกเขาเลยครับ เพราะการที่จะช่วยเพื่อนให้หลุดพ้น
จากการโดนครอบงำ คุณจะต้องช่วยเขา โดยสกัดกั้น
เขาให้ออกมาจากสำนักนี้ ลัทธินี้ โดยพาไปศึกษา
ไปปฏิบัติกับพระดี ๆ ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เพื่อชำระ
จิตใจให้บริสุทธิ์ แต่เท่าที่ผมสังเกตดู กลับไปสนับสนุน
ส่งเสริมในอิทธิปาฏิหาริย์ ซึ่งผมบอกตรง ๆ เลยว่า
อุปทานกันทั้งนั้นผมเองศึกษาทางสองสาย คือสายธรรมะ
และสายพลัง โดยเฉพาะพวกพลังจักรวาล หรือ
ศาสตร์อื่น ๆ นั้นผมก็ไปเรียน ไปศึกษา ไปทดลองมา
ทุกศาสตร์แล้ว สรุปได้เลยว่า พลังต่าง ๆ นั้น เป็นพลัง
ที่มีอยุ่ตามธรรมชาตินั้นแหละครับ ซึ่งพวกเราทุกคน
ทำได้หมด เพียงแต่ไม่รู้วิธีใช้เท่านั้นเอง แต่หลาย ๆ
อาจารย์ หลาย ๆ คน กลับนำความรู้นี้มาแสวงหา
ผลประโยชน์ใส่ตน ซึ่งบอกตรง ๆ ผมไม่เห็นด้วยเลย
โดยเฉพาะนำสิ่งที่ได้จากธรรมชาติ มาบิดเบือน
โดยการทำให้เห็นเป็นเรื่องของอิทธิ ปาฏิหาริย์ไปเสีย
ซึ่งคนที่มีความทุกข์ ความเดือนร้อน และคนทั่ว ๆ ไป
ที่เขาไม่ทราบ ก็จะชื่นชม ยินดี และศรัทธาในสิ่งที่พวกกลุ่มนี้
ทำให้เห็น ซึ่งเป็นการอุปโหลกตัวเองกันขึ้นมาทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรับ-ส่ง ลูก ชงเรื่องกันไป ๆ มา ๆ
จนทำให้คนอื่นเขาจับได้ก็หลาย ๆ ครั้ง