ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

รออ่านของพี่สุดใจอยู่ครับ
แหม..ไม่เข้ามาตั้งนานนะครับ
โทรหาก็ไม่ติด ฝากข้อความตลอดเลยครับ

 

อยากทราบความหมายจึง

ฝันครั้งแรก ฝันว่า นอนอยู่ในห้องที่มีแสงสีออกเงิน ทองๆ เขียวๆ (ห้องเล็กๆ) แล้วก็ปรากฏว่า ได้ยินเสียงพระสวดมนต์ ก็ลุกมากราบ (ฝันกลางวันค่ะ)

ฝันครั้งที่สอง คือ เพิ่งลงมาจากวัด (กลับจากบำเพ็ญ) ก็นอนน้อย ประมาณ 3-4 ชม. รู้สึกปวดหัว พอทานยาหลังอาหารเช้าก้อเลยรู้สึกง่วงนอน ล้มตัวลงนอนช่วง 11 โมงถึง บ่ายสองโมงแล้วก้อตื่น จำภาพในฝันได้ชัดเจนมั่กๆๆๆ ปกติกลางวันบางทีนอนฝันก็จะเปอะปะๆ จำความฝันไม่ได้เลือนลาง แต่คราวนี้ชัดเจนมาก

ฝันว่าวัดใกล้บ้าน เค้าสร้างพระพุทธรูปให้กราบ แต่เป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ทั้งหมด(ปางปรินิพพาน) 10 องค์ ในฝันเข้าใจว่าเป็นพระพุทธเจ้าทั้ง 10 พระองค์ เราก็เดินตรงแล้วไปกราบองค์ที่หนึ่ง แบบว่านอบน้อมสุดๆ มีพระสงฆ์ มากราบพร้อมเรา 2 องค์ องค์หนึ่งท่านเป็นพระที่ทำจีวรเลอะแล้วก็มีคนเอาน้ำมาล้างให้ท่าน อีกองค์ปกติดี

หลังจากนั้น เราก้อเดินไปรดน้ำต้นไม้ที่อยู่ใกล้กับพระพุทธรูป รดเสร็จก็กลับก่อนกลับทำไฟฉายตก (ไม่รู้เอามาตั้งแต่เมื่อไหร่) ถ่านหลุดออกมา แต่ไฟก็ยังติดอยู่ (ก็แปลกดี)

ในฝันพระจะเก่าๆ นะค่ะ เป็นแบบปูนขาวๆ เก่าๆ เหมือนเวลาเราไปตามสถานที่โบราณอ่ะค่ะ

 

ลองโพสถามในดูดวง ความฝันแร้ว ไม่เหนมีครัยแปลให้ ... เพื่อพี่ๆ จะตอบให้ขอบคุณค่ะ

 

ดังนั้น ในส่วนของการเตรียมการส่วนอื่น ๆ กลุ่มอื่น ๆ ที่มีรูปแบบเฉพาะของกลุ่มนั้น ๆ พี่สุดใจคงไม่ขอกล่าวถึง เพราะเป็นการทำหน้าที่ที่ถูกต้องสำหรับกลุ่มงานเตรียมการเรื่องของภัยพิบัติกลุ่มนั้น ๆ อยู่แล้ว แต่ก็คงขอกล่าวถึงโครงการเฉพาะกิจของระบบต่างดวงดาว ที่ได้มาเตรียมการวางโครงสร้างไว้ล่วงหน้านานแล้วเท่านั้น
<O</O
<O</O
เพราะในยุคนี้ เป็นยุคที่วิทยาศาสตร์เจริญมาก ดังนั้น การที่มนุษย์ต่างดาว จะนำสิ่งหนึ่งสิ่งใดมาให้มนุษย์โลกได้รับรู้ในเรื่องของอุปกรณ์ในการช่วยเหลือนั้น อาจจะล้ำหน้าเกินกว่าที่มนุษย์จะเข้าใจได้ แต่ถึงหากบอกไปทั้งหมด มนุษย์ก็มิอาจเข้าใจได้อยู่ดี จึงต้องนำมาให้เห็นเฉพาะในสิ่งที่มนุษย์พอสามารถเทียบเคียงได้กับวิทยาศาสตร์ที่มนุษย์เคยพบเจอมาแล้ว และพอที่จะนำไปพิจารณาดูว่า เป็นไปได้หรือไม่เท่านั้น<O</O
<O</O

อย่างเมื่อสมัยกรุงศรีอยุธยา ต้องสู้รบกับพม่านั้น ในยุคที่วิทยาศาสตร์ยังไม่เจริญ ถ้ามีคนบอกว่า ไม่ต้องยกทัพไปรบกับพม่าหรอก เดี๋ยวจะเอาเครื่องบินไปทิ้งระเบิดตรงจุดที่ข้าศึกอยู่ก็ตายหมดแล้ว คนยุคนั้นก็คงมองหน้า แล้วคิดว่าบ้าหรือเปล่าเอาเรื่องไร้สาระมาพูด ก็เพราะเขาไม่สามารถนำสิ่งอื่นที่พบเจอมาเทียบเคียงได้ ถ้าแค่พูดถึงรถยนต์ที่มาใช้แทนเกวียนก็ยังนึกไม่ออกแล้ว จะให้คิดว่าเหล็กบินได้ ก็เหลือวิสัยที่จะนึก<O</O
<O</O
แต่ถ้ามาในยุคนี้ เรื่องที่จะให้ยกทัพใช้ดาบไปสู้รบกัน ก็แทบจะนึกไม่ได้เหมือนกัน เพราะจะใช้แต่รถถัง เครื่องบินทิ้งระเบิด ยิงขีปนาวุธปรมณูข้ามประเทศด้วยซ้ำ นี่คือการพัฒนาเทคโนโลยีก้าวล้ำขึ้นไปเรื่อย ๆ จนแทบจะไม่มีขอบเขตจำกัดอยู่แล้ว ดังนั้น ใครที่ครอบครองเทคโนโลยี จึงมีอำนาจเหนือกว่าประเทศที่ไม่มีเทคโนโลยี โอกาสที่จะเบียดเบียน เอารัดเอาเปรียบประเทศด้อยกว่าย่อมมีอยู่มาก หากผู้นำประเทศนั้นไม่มีศีลธรรม จริยธรรมเพียงพอ <O</O
<O</O
ดังนั้น การยกทัพไปรบกันด้วยดาบ ด้วยม้า ด้วยช้าง ก็ไม่มีให้เห็นอีกในยุคปัจจุบัน <O</O
<O
ที่กล่าวมานี้ ก็เพื่อที่จะให้ทราบว่า มนุษย์ต่างดาวที่มาบอกว่า หากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจะนำเทคโนโลยีมาให้ เพื่อให้มนุษย์โลกช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจานบินที่จะนำมาให้ใช้ในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นใยแก้วกันรังสี ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ปลอดภัยในต่างมิติ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าปรับอุณหภูมิได้ อาหารในรูปแบบพลังงานเพื่อการดำรงชีพ หรือพลังงานในรูปแบบอื่น ๆ อุปกรณ์ที่ใช้ในการสื่อสารทำให้สามารถมองเห็นภาพสถานการณ์ต่าง ๆ ทั่วโลกได้ด้วยตาเนื้อ การเห็นล่วงหน้า การเห็นอดีต การเดินทางโดยผ่านมิติ หรือการเดินทะลุกำแพงสิ่งกีดขวางอื่น ๆ ได้ การเดินบนน้ำ การหายตัวด้วยการสลายมวลสาร ไปประกอบกันใหม่ยังจุดหมายปลายทาง เหมือนแฟ๊กซ์ของเรา หรือเดินบนน้ำ เดินในอากาศ เป็นไปได้ทั้งสิ้น แม้แต่การใช้พลังธรรมชาติรักษาอาการต่าง ๆ ให้หายโดยฉับพลัน หรืออุปกรณ์การเชื่อมต่อกระดูกของผู้ประสบภัยโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นในยุคของภัยพิบัตินั้น หากได้รับการบอกกล่าวจากมนุษย์ต่างดาวเช่นนี้ ก็ย่อมเป็นเรื่องที่เหลือวิสัยที่มนุษย์จะเชื่อได้เช่นกัน
<O</O
นั่นก็เพราะว่า วิทยาศาสตร์ของเรายังไปไม่ถึง การเทียบเคียงจึงทำได้ยาก การที่จะเห็นว่านำเรื่องไร้สาระมากล่าวให้ฟัง จึงมีมากตามไปด้วย
<O</O
<O</O
เหมือนเราเจริญอยู่ตอนนี้ แล้วไปบอกคนสมัยก่อนว่า สามารถเดินทางจากเชียงใหม่มากรุงเทพฯ โดยใช้เวลา 1 - 2 ชั่วโมงเท่านั้น คนยุคนั้นเขาก็เชื่อเราไม่ได้เหมือนกัน เพราะเขาต้องเดินด้วยเท้าเป็นเวลานับเดือน นั่นก็ เพราะเขาไม่เคยเห็นเครื่องบิน ไม่เคยเห็นรถยนต์ เห็นเฉพาะช้าง กับม้าเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องทุ่นแรงนำพาไปได้ จึงเหลือวิสัยที่จะเทียบเคียง <O</O
<O</O
แต่สิ่งที่คนสมัยนั้นคิดว่าเป็นไปไม่ได้ นึกไม่ออก กลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันของคนในสมัยนี้ไปแล้ว การเดินทางไป

 

ดังนั้น มนุษย์ต่างดาว จึงต้องใช้เวลาในการที่จะค่อย ๆ เปิดเผยอุปกรณ์ทีละชิ้น ทำตัวอย่างให้เห็น นำมาให้ดู แล้วอธิบายเทียบเคียงกับวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันให้เข้าใจไปทีละเรื่อง ทีละเรื่อง จนมนุษย์ค่อย ๆ ทำความเข้าใจ ยอมรับ และทำความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีเหล่านั้น จนสามารถเข้าใจได้ว่า เทคโนโลยีเหล่านี้มีจริง และสามารถใช้งานได้จริงในเวลาที่เกิดภัยพิบัติขึ้น<O</O
<O</O
เพราะมนุษย์ต่างดาวมีความเข้าใจในสิ่งที่มนุษย์โลกยังไม่เข้าใจ เหมือนที่เราเคยมองคนสมัยก่อนที่เขายังไม่เข้าใจเช่นเดียวกัน เขาไม่ได้มองว่ามีใครโง่ ใครฉลาด แต่เขามองด้วยความเข้าใจ ว่าวิวัฒนาการของมนุษย์โลกยังไปไม่ถึง นั่นเอง<O</O
<O</O
ดังนั้น การที่จะต้องฝึกกลุ่มบุคคลมารองรับการเรียนรู้อุปกรณ์เหล่านี้ จึงเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมการค่อนข้างซับซ้อน และเป็นการเข้าใจยากสำหรับคนโดยทั่วไป เพราะยังไม่มีสิ่งใดเทียบเคียงให้เห็นได้ ดังนั้นการ

 

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณในคำอวยพรที่ให้มา จากทุกท่านมากๆครับ ขอให้คำพรกลับไปหาทุกท่านเป็นทวีคูณครับ Happy Birthday คุณO.A.T. ด้วยครับ
จะเล่าฝันต่อเลยก็แล้วกัน จริงๆไม่น่าไปยุ่งกับห่อของขวัญคุณChayutt แกเลย แกจะห่ออะไรก็ปล่อยแกไป(deejai) ฝันว่ามีผู้ลึกลับเอาของขวัญมาให้ ส่งถึงในห้องนอน ตั้ง 4 ห่อเชียว แต่ละห่อหน้าตาดูดี ยาวเป็นเมตร มีห่อนึงห่อไม่เรียบร้อยน่ะ เข้าไปดูใกล้ๆ ตาย ๆ ๆ หน้าคนตาย มีแต่คนตาย เอามาให้นอนห้องเดียวกะเรา นอนไปก็แอบมองไป ว่าจะมีแอบยิ้ม กะพริบตารึเปล่า ถ้ามีไฟฉายคงเอาไปนั่งส่อง คุณO.A.T. สนมะ จะแบ่งให้ 2 ห่อ (one-eye) มีฝันต่อนะ ว่ามีสัมมนาในเรือลำใหญ่มากๆๆ คนหลายร้อยคน ไม่พ้นเรื่องภัยพิบัติ ก่อนงานเริ่ม ก็ให้ทำท่า คล้ายโยคะ หลายท่า เราอยู่ใกล้คุณโสภา แกบอกให้ตั้งใจทำ เอาแต่ดูจานบิน (ก็มาตั้ง3ลำแต่ทำตัวเบลอๆนะ)คุณโสภาแกเอานามบัตรให้เป็นการ์ดเอาไว้ดูข้อมูล ข้อมูลเพียบ การ์ดหมายเลข929 เอามาบวกดู ได้ 20 สงสัยวันเกิด วันเกิดที่ผ่านมาเรื่องเยอะจริงๆ แล้วตัวเองก็ชอบดูสถานการณ์ในวันเกิด มันเหมือนเป็นฉบับย่อใน1ปี คิดเอาเอง จบงานสัมมนาเพียงเท่านี้ นอนหลับฝันดีทุกท่านครับ: bat:

 

สวัสดีครับเพื่อนๆ ไม่ได้เข้ามาทักทายกันซะนานเลย พอดีเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา พี่สุดใจโทรมาบอกว่าติดภาระกิจอีกแล้ว ประมาณ 2-3 วัน จึงจะเข้ามาโพสต์เล่าให้ฟังต่อได้ แต่ห่วงท่านที่จะรออ่านข้อมูลที่พี่สุดใจได้เกริ่นไว้ จึงให้ผมมาประชาสัมพันธ์ให้ได้ทราบกันก่อนครับ พี่เขาฝากขออภัยมาด้วยนะครับ

 

สุขสันต์วันเกิดคุณO.A.T. และคุณukrin ด้วยนะครับ และต้องขออภัยด้วยที่มาอวยพรช้าไปตั้ง 39 ปีแน่ะ (โดยเฉพาะของคุณukrin)ในวันเกิดผมไปอวยพรไม่ทันจริงๆ

ขออนุโมทนากับเพื่อนๆ ทุกท่านเลยนะครับที่ได้มีข้อมูลมาจากความฝันมาแบ่งปันเล่าสู่กันฟังอย่างน่าสนใจ และก็น่าวิเคราะห์ น่าเอามาตีความกันมาอย่างต่อเนื่องเลย แต่เรื่องราวตั้งแต่ต้นของกระทู้ที่พี่สุดใจได้ตั้งขึ้นมานี้ก็ไม่ใช่ความฝันนะครับ แต่เป็นเรื่องจริงที่ได้เกิดขึ้นแล้วพร้อมด้วยประจักษ์พยานไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่ได้คลุกคลีอยู่ในกลุ่ม หรือที่อยู่ใกล้ชิดกันตั้งแต่ต้น จนมาถึงกระทั่งบุคคลที่เพิ่งได้เข้ามาสัมผัสรับรู้เรื่องราวต่างๆ ได้ไม่นาน อีกทั้งภาพถ่าย ภาพvideoที่เป็นชนิดตลับแบบเก่าที่ไม่มีความสามารถในการนำเอามาดัดแปลงFileเพื่อมาลงโพสต์ก็มีอีกเป็นจำนวนมาก

และที่พี่สุดใจ ผม และคุณukrinดูเหมือนห่างหายไปจากกระทู้นี้ไปช่วงหนึ่ง ก็ไม่ใช่แยกย้ายกันไปเพราะภัยไม่เกิดนะครับ แต่เป็นการรวบรวมข้อมูลที่ได้แจ้งไว้ในกระทู้นี้ทั้งหมดนี่แหละ นำมาจัดเก็บเพื่อให้พร้อมสำหรับการนำเผยแพร่ทางช่องทางอื่นที่นอกเหนือจากในกระทู้นี้ได้อีก เผื่อว่าเจ้าของพื้นที่เว็ปเขาจะนำพื้นที่นี้ไปนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ด้านอื่นบ้าง เราจะได้มีข้อมูลไว้สำหรับเผยแพร่ต่อได้

สิ่งที่ผ่านมาแล้วก็ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ทั้งหมด แต่สิ่งที่สำคัญและควรจัดเก็บ หรือจดจำเท่านั้นจึงจะสมควรเรียกว่าประวัติศาสตร์ ดังนั้นกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) จึงพยายามรวบรวมจัดเก็บไว้ให้ได้สมบูรณ์ที่สุด ไม่เว้นแม้แต่ข้อติเตียน เพื่อที่ว่าเมื่อถึงเวลา...ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการอธิบายขยายความต่างๆ ได้ดีกว่าการจะมานึกมาค้นเพื่อเล่าให้ฟังกันใหม่

ตอนนี้ทั้งสถานการณ์เศรฐกิจบ้านเมืองไม่ว่าจะเฉพาะของบ้านเราหรือของต่างประเทศ และสถานการณ์ภัยธรรมชาติที่เกิดจากดินฟ้าอากาศของโลก เราก็เห็นกันอยู่ว่าไม่ค่อยจะมีเสถียรภาพสักเท่าไรเลยนะครับ การเร่งปฏิบัติธรรม(ไม่ว่าจะวิธีใดก็ตาม)ควบคู่ไปกับการทำงาน หรือการใช้ชีวิตประจำวัน จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่แล้วแต่ว่าใครจะฉกฉวยเอาเป็นประโยชน์ตนให้ได้มากที่สุด เพื่อให้สอดคล้องกับคำที่ว่าถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทนั่นเองครับ

 

ผมมีข้อสงสัยอยากเรียนถามครับ

...คือมนุษย์ต่างดาวที่ตัวเล็กๆสีเทาๆ ที่ฝรั่งเรียกว่า Grey นี่มาดีหรือไม่ดีครับ แล้วทำไมถึงชอบจับตัวมนุษย์และสัตว์ไปทดลองครับ จับไปทำไม มีวัตถุประสงค์อะไรครับ ???

 

เป็นคำถามที่ดีนะครับ คิดว่าหลายๆ ท่านก็คงจะสงสัยว่าที่เขาว่ากันว่ามนุษย์ต่างดาวที่ฝรั่งนำไปจำแนกเผ่าพันธุ์และตั้งชื่อให้ว่าชนิด Greyนั้น ทำไมถึงชอบจับตัวมนุษย์และสัตว์เอาไปทดลองกัน ซึ่งผมก็จะไม่กล่าวถึงว่ามนุษย์ต่างดาวเผ่าพันธุ์ไหน มีจริงเท็จประการใด และได้จับมนุษย์หรือสัตว์เอาไปทดลองจริงหรือไม่นะครับ แต่จะลองวิเคราะห์ดูว่าถ้าเขามีจริงทำจริงแล้วเขาจะทำไปเพื่ออะไร จะมาดีมาร้ายหรือไม่นะครับ คิดซะว่าเป็นการคุยกัน

ที่ผมกล่าวอย่างนี้คุณuserx คงจะเดาได้เลยว่าผมไม่ทราบจริง ก็ต้องขอยอมรับครับว่าไม่ทราบจริงๆ รวมถึงพี่สุดใจ และทุกคนที่อยู่ในกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)ด้วย เพราะว่าคำถามคล้ายๆ กันแบบนี้หลายคำถามด้วยกันเราเคยถามแล้ว แต่กลับได้คำตอบว่า "พระพุทธองค์ท่านเคยทรงตรัสตอบผู้ที่มาถามเกี่ยวกับเรื่องทางโลกๆ มาแล้วว่าเปรียบเสมือนผู้ที่ถูกยิงด้วยลูกศร หรือลูกธนูที่มีพิษมาปักอก ไม่สมควรที่จะรู้หรือมาถามก่อนว่า ใครเป็นผู้ยิงธนู ผู้ยิงธนูยิงมาจากไหน จะประสงค์สิ่งใด แล้วลูกธนูทำจากไม้ชนิดใด ฯลฯ แต่สิ่งที่สมควรรีบเร่งทำที่สุดก่อนก็คือการรักษาบาดแผลเพื่อรักษาชีวิตของตนไว้" นี่แหละครับเราก็เลยไม่ทราบ ได้แต่เร่งปฏิบัติธรรมกันอย่างเดียว

ข้อมูลของมนุษย์ต่างดาวเท่าที่หลายๆ ท่านทราบและเป็นที่ยอมรับกันคือด้านความเจริญทางเทคโนโลยี เพราะเขาสามารถเดินทางมาถึงโลกเราได้ แต่ในขณะที่โลกเราโดยชาติมหาอำนาจทั้งหลายก็ได้เพียรพยายามสำรวจออกไปในอวกาศให้ได้ไกลที่สุดจากรัศมีของโลก ใช้ทั้งกล้องที่ไฮเท็คที่สุดส่องออกไป ส่งคลื่นความถี่ต่างๆ ออกไป แต่ก็ยังหาร่องรอยอารยะธรรมอื่นๆ ที่เรียกกันว่ามนุษย์ต่างดาวไม่พบ ดังนั้นสิ่งนี้จึงเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปของชาติมหาอำนาจทั้งหลายถึงความมีสติปัญญาของมนุษย์ต่างดาว และเพียรพยายามจะศึกษาพัฒนาเทคโนโลยีจากUFO ที่ประสบอุบัติเหตุตกจากที่ต่างๆ และได้มาอยู่ในความครอบครองของตน โดยเก็บงำไว้ถือว่าเป็นความลับสุดยอด มนุษย์ต่างดาวสามารถสร้างสิ่งที่เดินทางข้ามจักรวาลได้ ซึ่งมนุษย์ในโลกเราถ้าจะเดินทางกันบ้างขนาดจะใช้ความเร็วที่คิดว่าเร็วที่สุด คือความเร็วแสงนั้น จะต้องว่ากันเป็นหลักสิบหลักร้อยปีแสงเลยทีเดียว แต่ก็ยังไม่มีใครสร้างได้หรอกนะครับยานที่มีความเร็วขนาดนั้น แค่จะเดินทางออกนอกแรงดึงดูดของโลกแต่ละทีก็ต้องสร้างจรวด รอกันเป็นปีๆ แถมขากลับเข้ามายังโลกยังต้องลุ้นกันว่าจะหาเศษโลหะของยานเจอซักชิ้นนึงมั๊ย ส่วนมนุษย์ที่ขึ้นไปด้วยยิ่งแทบไม่ต้องพูดถึง และก็แน่นอนว่าเทคโนโลยีของเขาคงจะต้องมีอย่างอื่นอีกมากที่เรายังคิดไม่ถึงว่ามีได้ ทำได้ คงไม่ใช่แค่การสร้างยานพาหนะเพื่อไว้สำหรับเดินทางได้แต่เพียงอย่างเดียว

ทีนี้สิ่งที่หลายๆ ท่านยังไม่ค่อยทราบกันคือความเจริญทางด้านจิต จะสังเกตเห็นจากรูปภาพของมนุษย์ต่างดาวที่เราค่อนข้างจะคุ้นๆ ตากันและคงพอจะนึกออก ก็คือวิวัฒนาการทางกายภาพของเขาจะมีศรีษะโต เพื่อบรรจุสมองที่น่าจะใหญ่กว่ามนุษย์มาก แต่ร่างกายแขนขาเล็กไม่น่าจะมีเรี่ยวแรงมากมายหากจะคิดว่าเขาจะเป็นนักรบหรือนักต่อสู้ ปากเล็กใช้สำหรับกินอาหารที่เป็นของเหลว(อันนี้ผมเคยอ่านมาบ้าง) แต่ไม่น่าจะใช้ในการพูดสักเท่าไร เพราะเขาติดต่อสื่อสารกันทางโทรจิต มนุษย์ต่างดาวที่ติดต่อกับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)ได้เคยบอกไว้แล้วว่าในหลายๆ ดวงดาวจากหลายๆ จักรวาล เขาต่างก็มีความเจริญในทางจิตสูงมาก ซึ่งก็หมายถึงมีคุณธรรมหรือธรรมะสูงนั่นเอง และจากการที่กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)ได้รับรู้รับทราบข้อมูลจากมนุษย์ต่างดาวมาอย่างต่อเนื่องนับ 10 ปี ข้อมูลส่วนใหญ่ก็เห็นจะมีแต่ธรรมะเพื่อการปล่อยวางแทบทั้งสิ้น ส่วนที่เหลือก็จะเป็นเรื่องอุปกรณ์ของมนุษย์ต่างดาวตามที่พี่สุดใจได้กล่าวถึง และก็เรื่องการทำงานเพื่อการประสานงานกับกลุ่มต่างๆ รวมถึงการประชาสัมพันธ์เพื่อให้สาธารณะชนได้รับทราบ ทั้งนี้และทั้งนั้นก็มีวัตถุประสงค์สำคัญอยู่ที่การเตรียมรับมือกับภัยพิบัติ

ดังนั้นจากที่ผมได้กล่าวมาทั้งหมดนี้ จึงเห็นว่ามนุษย์ต่างดาวถ้าจะจับมนุษย์หรือสัตว์เอาไป ก็คงจะเป็นเพียงการวิเคราะห์หรือศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์เท่านั้นละนะครับ เพราะยังไม่เห็นมีข่าวจากแหล่งใดว่ามนุษย์ต่างดาวไปทำร้ายใครถึงชีวิตเลย ทั้งๆ ที่เทคโนโลยีอย่างเขาถ้าจะทำอะไรคนในโลกเราก็คงจะไม่ยากเย็นเลย จริงมั๊ยล่ะครับ

 

ขอนอกเรื่องหน่อยนะครับ คือออกนอกเรื่องที่กำลังคุยกันอยู่นี้หนะครับ
แต่ว่ายังไม่ออกนอกเรื่องของมนุษย์ต่างดาวนะครับ

คือเมื่อตะกี๊นี้ หลังจากผมตื่นนอนขึ้นมา เข้าห้องน้ำ แล้วนอนทบทวนความฝันอยู่นั้น
ก็มีเสียงพูดอยู่ในหัวผมซ้ำๆๆๆว่า "สุธาทิพ สุธาทิพ สุธาทิพๆๆๆ" ไม่รู้กี่ครั้ง ซึ่งไม่ใช่ความคิดของผมเองแน่ๆ

(เออ..นี่ผมเพิ่งแยกออกนะเนี่ย ว่าอันไหนเป็นความคิดของเราเอง อันไหนเป็นข้อมูลที่ส่งมา
เห็นแต่พี่สุดใจกับคุณ no.9 และท่านอื่นๆที่ได้รับข้อมูลแบบนี้กันมาจนชำนาญในการแยกแยะแล้วเล่าให้ฟังบ่อยๆ
เพิ่งเจอกับตัวและแยกได้ก็วันนี้นี่เอง..แต่ไม่รู้คราวหลังจะแยกได้อีกหรือเปล่านะ)

ข้อสังเกตของผมคือ..
1. อาจารย์สุธาทิพ( sutatip_b )นี่ มาปรากฎในความฝันของผมเป็นระยะๆมาหลายครั้งแล้ว ไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง
2. เมื่อสักครู่นี้ มีเสียงเรียกชื่ออาจารย์ซ้ำๆอยู่ในหัวผม คล้ายๆกับ Case ของน้อง netadet ซึ่งระบบได้
แสดงให้ดูเป็นตัวอย่างแล้วว่าถ้ามีเสียงเรียกชื่อใครแบบนี้ ก็น่าจะมีข่าวหรือข้อมูลอะไรที่เกี่ยวข้องกับคนๆนั้น
คราวนี้..ผมก็ว่าน่าจะเป็นเช่นนั้นอีกแน่ๆเลย

เอ๊ะ..หรือว่าอาจารย์กำลังจะมีข่าวใหม่ หรือข่าวร้อนอะไรที่กำลังจะบอกพวกเราหรือเปล่าครับ
(นอกเหนือจากข่าวสมโภชน์พระปางเปิดโลกที่เชียงแสน เพราะงานนี้ผมเองก็วางแผนที่จะไปร่วมด้วยเช่นกันครับ)

3. อย่าบอกนะครับว่าอาจารย์อายุ 51 ปี หรือมีข้อมูลด้านตัวเลขอะไรที่เกี่ยวกับเลข 15 หรือ 51
เพราะตัวเลขนี้ปรากฎซ้ำๆในความฝันของผมมาเป็นครั้งที่ไม่ต่ำกว่า 4 แล้วครับ แค่ไม่ได้นำมาเล่าเฉยๆ กลัวคนอื่นๆเบื่อจะอ่านหนะครับ

อาจารย์มีข้อมูลส่วนตัวอะไรที่พอจะเปิดเผยได้บ้างไหมครับ เช่น วันเกิด เลขที่บ้าน อายุ อะไรแบบนี้หนะครับ
เผื่อเป็นข้อมูลให้พวกเราได้นำมาถอดรหัสกันครับ

 

(อาจารย์มีข้อมูลส่วนตัวอะไรที่พอจะเปิดเผยได้บ้างไหมครับ เช่น วันเกิด เลขที่บ้าน อายุ อะไรแบบนี้หนะครับ
เผื่อเป็นข้อมูลให้พวกเราได้นำมาถอดรหัสกันครับ)
<!-- / message --><!-- sig -->เน้นเฉพาะตัวเลข จะถอดรหัส หรือ จะซื้อหวยพี่ 555 แซวเล่นนะ

 

พอคุณชยุต โพสอย่างนี้ จินตวดีก็ get เลย เพราะเมื่อคืนก่อนก็ฝันแปลก ได้ยินเสียงเรียกชื่อในหัวว่า แอนนิต้า ดังซ้ำไปซ้ำมาหลายเที่ยว (ไม่เคยรู้จัก) พออีกวันหนึ่งได้ข่าวของคนชื่อ แอนนิต้า อันนี้คล้าย ๆ การทดลอง โทรจิตหรือเปล่านะ

 

สงสัยว่าจะเป็นน้อง แอนนิต้า...ลูกสาวอาจารย์สุธาทิพล่ะครับ
น้องเค้ามีความสัมผัสพิเศษกับต่างดาวและมิติต่างๆครับ
ขอช่วยต่อจิกซอร์ให้คุณจินฯกับคุณชยุตหน่อยครับ
ลองจับตาดูน้องคนนี้ต่อไปดีๆครับ

 

น้องตาสีน้ำตาลอ่อน ตาสีน้ำตาลอ่อน species นี้มีความพิเศษโดยเฉพาะ สรุป เคยพบมาแล้ว

 

UFO ในไทย
ใครได้ดูข่าวเช้า (ตีห้าครึ่ง) ของช่อง 3 วันนี้ (26 มีค 51) บ้าง มีรายงานเรื่องภาพถ่ายบุคคลซึ่งถ่ายที่ภูชี้ฟ้า แต่ข้างหลังติดรูป UFO ลำหนึ่งเห็นค่อนข้างชัดมาก
เพื่อนคนไหนมีรูปนี้ช่วยโพสต์ให้ดูหน่อยครับ
รูปที่ออกทีวีชัดมาก แล้วเป็นรูปที่เกิดในประเทศไทยของเราด้วย เป็นยานสีเงิน น่าจะเป็นจานรูปทรงกลม ด้านท้ายคล้ายมีอะไรนูนขึ้นมาไม่รู้
<!-- / message -->

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sutatip_b
บ้านเลขที่ใหม่ ๑๘/๕๑๒
บอกคุณชยุตแล้ว แต่เจ้าตัวบอกว่าไม่น่าใช่
เรื่องลูกสาว เขาสัมผัสอะไรๆได้บ้าง
แต่คนที่คุณจินตวดีเห้นอาจเป็นคนที่คุณดุษณีูพูุดถึงรึเปล่า
ที่บอกว่าหญิงแกร่งปานเหล็กเพชร บอกให้พญานาคไปอุดรอยแตกของเขื่อนศรีนครินทร์ ดิฉันไม่เคยพบตัวเลยไม่รู้ว่าผมลอนโตๆหรือไม่

ตอนนี้คงยังบอกรูปทั้งหมดไม่ได้ มีแต่ตัวต่อไม่กี่ตัว
แต่อย่าหยุดฝัน อย่าหยุดเล่าฝัน และอย่าหยุดทำดี็ก็แล้วกันนะคะ

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ก็ไม่เชิงจะไม่เกี่ยวหรอกนะครับอาจารย์ แค่ผมรอคำใบ้เพิ่มเติมเท่านั้นเองแหละครับ

ก็ปรากฎว่าได้มาเพิ่มจริงๆด้วย ดังใจนึก แต่ดูท่าจะเป็นแค่เกมส์อีกแล้วหละครับอาจารย์
เกมส์เพื่อฝึกให้พวกเราหัดถอดรหัส มีคำเฉลยอยู่ที่หวยงวดวันที่ 1 เมษายนนี้
(คิดว่าใช่นะ เพราะมีสัญลักษณ์ของการพนันเข้ามาใบ้ร่วมด้วย)
แต่แฝงเรื่องราวของภัยพิบัติเข้าไปด้วยทุกๆเกมส์ โดยมี Key words อยู่ที่บุคคลสำคัญๆ
ในกลุ่มที่ทำงานเกี่ยวข้องกับภัยพิบัติ โดยเฉพาะกลุ่มพลังจิตฯนี่แหละครับ

แต่ผมคงไม่ได้เอาไปซื้อหรอกนะครับ แต่ก็จะทำหน้าที่ถอดรหัสออกมาให้ครับ เพื่อจะดูว่าจะถอดได้ถูกหรือเปล่า

คำใบ้เพิ่มเติม จากเมื่อคืนนี้
ฝันไปว่ายืนอยู่แถวๆเซนทรัลลาดพร้าว มีภาพ 3 มิติมาฉายให้ดู พร้อมคำบรรยาย
ว่ามีคลื่นน้ำมาจากไหนไม่รู้โถมเข้ามาสูงกว่าตึกนั้นอีก มีลมแรงๆกระหน่ำเข้ามา
ทางด่วนแถวดินแดงเริ่มพัง รถที่วิ่งอยู่ประสบอุบัติเหตุระเน ระนาด
ผมเดินเข้าไปในทางด่วนที่กำลังจะพัง แล้วก็เห็นข้างๆทางด่วนเป็นหน้าผาสูงชัน
สักพักก็คิดว่าจะต้องไปหาที่หลบภัย มีคนไปด้วย 2 คน พร้อมมีสเบียงอาหารและน้ำพร้อม เอามาตอนไหนไม่รู้

มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่าให้ไปที่ อพาร์ทเมนต์ หรือคอนโดให้เช่าแถวๆนั้น ซึ่งว่างอยู่มากมาย
ก็เลยไปกัน เด็กพาไปที่ชั้น 2 หรือ 3 นี่แหละ ไปพักรวมกับคนอื่นๆอีกหลายคน

ค่าเช่าห้อง 6200 บาท พัก 12 คน ก็หารกันตกคนละประมาณ 516 บาท
(อย่าลืมนะว่า 51 และ 15 นี่ปรากฎในฝันผมมาเป็นครั้งที่ 5 ในรอบเดือนนี้แล้ว)

สรุปว่า
- อาจารย์สุธาทิพและน้องแอน คือ Key words
- ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ 2 ท่านนี้ คือ ที่พัก คอนโด
<!-- / message --><!-- sig -->

 

แล้วภัยพิบัติที่ว่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ครับ???
..ภายใน 5ปี 10ปี หรือ100ปี ครับ??
มีวันเวลาที่แน่นอนหรือเปล่าครับ??

 

มนุษย์ต่างดาวเคยบอกไว้เมื่อเร็วๆ นี้ ซักเดือนสองเดือนนี่เองละครับว่า ถ้ามันจะไม่มีภัยพิบัติอะไรเกิดขึ้น ก็คงไม่ต้องลงมาเกิดกันหรอก(หมายถึงคนระบบ) แต่ที่บอกไว้นานแล้วซักปีสองปีที่แล้วก็คือมนุษย์ต่างดาวเขามีความเจริญทางเทคโนโลยี ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของเขาก้าวหน้าไปมากจนสามารถคิดคำนวนได้ว่าจักรวาลต่างๆ ดวงดาวต่างๆ ของในแต่ละจักรวาลนั้น น่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร ขึ้นได้ประมาณช่วงเวลาใด คืออันนี้ผมอธิบายเทียบเคียงกับการคำนวนทางวิทยาศาสตร์ของเรานะครับ แต่การคำนวนของเขานั้นข้อมูลและวิธีการที่นำมาใช้ในการคำนวนก็คงสลับซับซ้อนมากกว่าแค่เรื่องสถิติ เรื่องฟิสิกส์ หรืออื่นๆ ตามที่ในโลกเราใช้กันอยู่มากมายนัก เช่น แรงกรรม ทางวิทยาศาสตร์ของเราเอามาวัดไม่ได้ แต่เขาบอกว่าแรงนี้มันก็เป็นพลังงานชนิดหนึ่งเหมือนกัน แล้วมันก็ส่งแรงไปถึงที่ที่เขาอยู่แล้ว อย่างนี้เป็นต้น แล้วยังจะเรื่องของมิติต่างๆ ที่เราไม่รู้ไม่เห็นกันง่ายๆ ก็อีก เห็นว่ามันก็เกี่ยวเนื่องกัน

มนุษย์ต่างดาวจะไม่กล่าวถึงเรื่องญาณวิเศษ หรือเจโตฯ ว่ารู้ว่าเห็นอะไรเมื่อไรเลยนะครับ ไม่เคยบอกเลยเรื่องช่วงเวลาที่จะเกิดภัยใหญ่ๆ อะไรเมื่อไร แต่บอกว่าเหตุการณ์มันจะค่อยเป็นค่อยไป จนถึงขั้นที่มนุษย์ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตนเองได้ เขาถึงต้องเดินทางมากันเพื่อเตรียมการตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ ขณะเกิด และหลังเกิดเพื่อการฟื้นฟู ตามหลักมนุษยธรรมแล้วเขาก็กลับไป ปล่อยเราไว้เช่นเดิมโดยไม่แทรกแซงทางอารยธรรม และยังบอกว่าจะทิ้งเทคโนโลยีอะไรต่างๆ ไว้ให้เราอีก ถึงตอนนั้นโลกเราก็คงจะเหลือแต่คนดีๆ เป็นส่วนใหญ่แล้วละมั้งครับ (ตัวผมเองก็ไม่รู้จะดีพอที่จะอยู่ถึงรึเปล่านะครับ อิอิ) มนุษย์ต่างดาวย้ำเสมอตลอดระยะ 10 ปีที่ผ่านมาเลยครับว่า "เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย อะไรก็เกิดขึ้นได้ และอย่าตีกรอบ" สามคำจำให้มั่น

ทีนี้ก็วกมาที่คำถามของคุณuserxนะครับ มนุษย์ต่างดาวเขาฝึกคนกลุ่มนึงขึ้นมาและยังตั้งชื่อให้กลุ่มนี้ว่า กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) คนที่เริ่มเข้าฝึกตอนนั้น(10 ปีที่แล้ว)ก็มีอายุตั้งแต่เกือบ 20 ปี จนถึงอายุ 65 ปี และคนกลุ่มนี้ก็ต้องทำงานพร้อมกับคนระบบทั่วโลกอีกรวมเป็นประมาณ 5,000 คน ช่วงเวลาที่ต้องทำงานก็คงจะต้องอยู่ในช่วงชีวิตของบุคคลเหล่านี้แหละครับ

 

เช้าวันที่ 28 มีนาคม 2551 ; เวลา 04:10 น.เป็นเวลาที่เริ่มโพสต์ข้อความนี้

เช้านี้ผมตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนนิดๆ และก็งงไม่น้อย(อีกแล้ว) เลยทีเดียว กับความฝันเมื่อสักครู่นี้
ทั้งไม่ค่อยเข้าใจความหมาย และก็ไม่แน่ใจว่าจะจำเนื้อหาได้หมดหรือเปล่า มือนี่ก็พิมพ์ไปงั้นๆแหละครับ
ก็คิดว่าถ้า "เขา" ต้องการให้เผยแพร่เดี๋ยวเขาก็จะช่วยผมทบทวนความจำมาเองนั่นแหละครับ (พี่สุดใจเคยบอกอะไรประมาณนี้หนะครับ)

ที่บอกว่า "ถ้าเขาต้องการให้เผยแพร่" ก็เพราะว่า หลังจากฝันแล้ว รู้สึกตัวแล้ว ผมก็นอนคิดว่าเอ..เมื่อตะกี๊เราฝันเรื่องอะไร
จะเล่าให้คนอื่นฟังต่อดีไหม๊ เท่านั้นแหละครับ ขณะครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่นั้น ก็มีทั้งภาพและเสียงปรากฎขึ้น
พระเจ้าจอร์จ มันคือฝันเรื่องตะกี๊นี่เอง แต่เริ่มฉายใหม่ตั้งแต่ต้นเลย ฉากแรกเลย แต่ฉายแป๊บเดียว และจบลงตรงเสียงบรรยายที่ว่า
"อ้าว..ฟังคนแก่ แล้วจดนะจ๊ะ" แล้วผมก็ตื่นทันที แล้วก็มานั่งพิมพ์เรื่องความฝันนี่แหละครับ

ฉากแรกที่ว่าก็คือ มีผู้สูงอายุกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่ง เชิญผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นผู้ปกครองของนักเรียนที่ไหนไม่รู้มามากมาย
เพื่อมาประชุม หรือมาดูการแสดง หรือการสาธิตอะไรซักอย่างนี่แหละครับ ที่สำคัญ "เชิญมากลางดึกนี่สิ"
เสียงคนที่มาก็บ่นๆพึมพำๆกันว่า "หลอกให้มากลางดึกแน่ๆเลย" สักพักผู้ที่เป็นเจ้าภาพเชิญมาก็พูดกับฝูงชนว่า
"อ้าว..ฟัง ฟังคนแก่แล้วจดด้วยนะจ๊ะ" เบื้องหน้าของคนทั้งหมดนั้น เป็นคล้ายเวทีมีของวางอยู่เหมือนมีอะไรจะสาธิต
หรือเหมือนมีอะไรจะบรรยาย มีตุ่มใส่น้ำที่มีฝาปิด ตั้งซ้อนกันอยู่ เป็นชั้นๆบนชั้นวาง ซึ่งตั้งชิดติดกับหน้าผา

ขอแทรกฉากนี้ก่อนนะครับ ในฝันฉากนี้ มันต่อเนื่องมาจากฉากก่อนหน้านี้ ที่ผมฝันไปว่าญาติผมคนหนึ่ง
เขาคิดค้น "ปะทัด" หรือ"ลูกไฟ" ที่มีอานุภาพมากๆ มากกว่าที่ใครๆเคยคิดได้ มาโชว์ผม
ผมก็ถามว่าเขาทำได้อย่างไร เขาก็พาผมออกมากระซิบด้านนอก ทำนองว่า "ฟังให้ดีนะ สิ่งที่จะได้ฟังต่อไปนี้
จะไม่เคยได้ยินมาก่อน" แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก มีแต่ความรู้สึกของผมที่ปรากฎขึ้นว่า
เขาได้พบสิ่งที่น่ากลัวเข้าแล้ว (พิมพ์ไปก็ขนลุกไปนะเนี่ย) เพราะเขาได้ใช้ร่างกาย หรืออวัยวะของมนุษย์ในการคิดค้นมันขึ้นมา
และเมื่อจะใช้งาน เขาก็จะมีระดับความร้อนหรือระดับพลังงานที่เหมาะสมใส่ให้มันไป ซึ่งพลังงานหรือความร้อนที่ว่านี้
สูงกว่าระดับที่"คนทำปะทัดรายอื่นๆ"หรือ"เราเอง"เคยใช้หรือรู้จักกันอยู่ เขาพาผมดั้นด้นไปดูที่ๆเขาค้นพบมัน
มันเหมือนพาผมวิ่งหลบๆซ่อนๆเข้าไปลึกในป่าช้า มีคนสะกดรอยตามมาอีกต่างหาก เขาพาผมหลบ คนพวกนั้นก็ยังเจออีกจนได้
มีคนๆหนึ่งที่ตามมา เขาตัดสินใจพาเด็กเขากลับแถมบ่นว่า "ถ้าแค่จะหนีมาเล่นการพนัน ทำไมต้องมาถึงขนาดนี้ด้วย"
แต่ความรู้สึกผมบอกว่าไม่ใช่หนีมาเล่นการพนันหรอก เพราะสถานที่ๆไปนี่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความตาย
ความรู้สึกในฝันผมมันเหมือนมีคน 2 ฝ่ายนะ ฝ่ายหนึ่งจะพาผมไปดู อีกฝ่ายตามขวาง
และมันก็มีเนื้อหาอะไรเกี่ยวกับเทพ เทวดา สวรรค์ทุกๆชั้น แทรกอยู่ช่วงนี้แหละ ไม่ปะติดปะต่อเป็นเรื่องเดียวกัน เลยอธิบายไม่ถูก
จนผมวิ่งกันขึ้นมาบนเขา มีหินคล้ายๆกำแพงหินที่เกาะอีสเตอร์ตั้งอยู่ พอดีพระอาทิตย์กำลังขึ้น เขาก็บอกว่า "ให้หลบอยู่หลังพระอาทิตย์"
ทุกคนก็ทำตาม ตอนนี้มีหลายคนแล้วนะ พวกที่อยู่บนเขาก็จะได้รับการบอกเล่าถึงเรื่องที่เขาจะบอก ส่วนพวกที่แอบตามมา
ก็จะอยู่ตีนเขาไม่ขึ้นมาด้วย แต่ก็มีถามว่าพวกเราเห็นอะไรกันบ้าง คนข้างบนก็ส่งภาพที่เห็นไปให้ดูแบบ 3 มิติกลางอากาศเลย
มีคำพูดหนึ่งที่ทำให้ผมต้องเล่ามาถึงตรงนี้ แม้ว่ามันจะเป็นรายละเอียดยิบย่อยมากไปก็ตาม ไม่งั้นมันจะไม่เชื่อมต่อกัน
คือคนที่เขาค้นพบ เขาพูดกับผมว่า "ฉันค้นพบได้ ก็ต้องขอบคุณสมการ X = พายน์ R กำลังสองของแกนั่นแหละ"
นอกจากนี้ความรู้สึกของผมยังรู้สึกไปอีกว่า เจ้าพายน์นี่ มันไม่ใช่แค่"พายน์" ที่เรารู้จักหรอกนะ มันคืออะไรที่ชั่วร้ายมากๆ
มันมีอานุภาพมากกว่าที่เรารู้จักมัน มันมีที่มาและเบื้องหลัง เบื้องลึกมากกว่าที่เรารู้จักมันมากนัก
แถม "พายน์ยกกำลัง 3 = ทรงกลม" ด้วยนะ (ในฝันนะ) จากนั้นพวกผมก็มายืนอยู่ที่ๆมีตุ่มในฉากที่สองต่อจากนี้ไป


มาต่อฉากที่สองกันะครับ..ต่อที่มีตุ่มนะ ตุ่มเป็นตุ่มดินขนาดพอประมาณ มีฝาปิดแบบฝาผอบอะไรแบบนั้น
และก็ผมยืนอยู่บนตุ่ม เขาถามว่า ผมจะทำอย่างไร เพราะมันจะมีสัตว์ชนิดต่างๆวิ่งตามราวมาที่ตุ่ม และมาที่ผม
ผมจะหลบสัตว์พวกนี้อย่างไร โดยห้ามลงไปหลบในตุ่ม เพราะตุ่มใส่น้ำไว้เต็มแล้ว อันนี้เขาบอกว่างั้นนะ
พอผมเห็นสัตว์วิ่งมา ผมก็ขึ้นไปเหยียบอยู่บนตุ่ม พอมันวิ่งมาบนตุ่มใบนั้นอีก ผมก็ขึ้นไปเหยียบบนตุ่มใบที่อยู่ชั้นสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
อ้อ..รู้สึกว่ายิ่งชั้นสูงขึ้นไปเท่าไหร่ จำนวนของตุ่มมันก็จะลดลงเรื่อยๆ คล้ายๆว่าเขาตั้งตุ่มเรียงไว้แบบสามเหลี่ยมหนะครับ
พอผมหนีไปเรื่อยๆถึงชั้นใกล้ๆจะถึงยอดแล้ว เขาก็หัวเราะกันและพูดว่า "ไอ้เนาว์ มันจะเสร็จที่ชั้นนี้แหละ" เนาว์นี่ชื่อเล่นผมนะครับ
สุดท้ายก็เป็นดังเขาว่า เขาก็เลยมาเฉลยว่า นู่น ให้หนีขึ้นไปบนยอดเขาที่อยู่เหนือชั้นวางตุมขึ้นไปโน่น จะมาหนีอะไรบนตุ่มทีละชั้นๆ
ในใจผมก็"เออ..อันนี้ไม่ทันได้นึกเลย" และความรู้สึกก็บอกว่า "ตุ่มเป็นชั้นๆ" คือสวรรค์ชั้นต่างๆนั่นแหละ

พิมพ์เสร็จ..ก็ยังงงงงอีก ว่าพิมพ์อะไรไปวะเนี่ยตู..
<!-- / message --><!-- sig -->