ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ตอนนี้ขอลาพักร้อน...ไปออกแบบ Ufothailand.org ซักครู่นะครับ

ท่านเล่นโผล่มาแว๊บ ๆๆๆ กระพริบ ๆๆ แถวบ้านทุกวันเลยครับ
สงสัยมาเร่ง หรือมาเชียร์ (มาขู่) หรือเปล่าไม่รู้

ปล.มี UFO จริง ๆ เหรอเนี่ย??? (ในใจยังไม่อยากยอมรับความจริง[bw-cry])

 

โห...มาทุกวันเลยเหรอ บ้านอยู่แถวไหน จะแอบดูด้วย

 

ไม่ต้องไปแอบดูหรอกมั้ง ขอช่วยงานเขาเดี๋ยวก็มาให้เห็นถึงบ้านมาให้กำลังใจเหมือนกันไง

 

โห..คุณZeus@ ไม่ต้องเศร้าโศกเสียใจหรือปิติขนาดนั้นหรอกนะครับ อิอิ..(ล้อเล่นครับ)

เป็นธรรมดาอยู่เองที่ใครจะทำงานอะไร ก็จำเป็นที่อยากจะทราบความชัดเจนของงานที่ทำว่ามันจริงเท็จแค่ไหน เขาก็มาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและก็อนุโมทนาในเจตนาที่เราทำงานให้ครับ งานที่ทำก็ไม่ใช่แค่ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลว่ามีมนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลกเราจริงๆเท่านั้น แต่มันเป็นการประชาสัมพันธ์ให้พวกเราทราบจุดประสงค์ที่แท้จริง ว่าเขามาเพื่อที่จะเตรียมมาช่วยเหลือในเรื่องที่จะเกิดภัยพิบัติในอนาคต ซึ่งเราก็พอจะคาดเดาได้ว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริงแล้ว งานที่เราทำนั้นมันสามารถที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้เป็นจำนวนมาก ถ้าพูดถึงเรื่องบุญเรื่องกุศลก็ต้องมากมายมหาศาลอย่างแน่นอน

ตอนที่ยังมีการฝึกกันอยู่ก็เช่นกัน เขาก็มาให้เห็น อย่างน้อยก็เพื่อเป็นกำลังใจในการต่อสู้กับความเหนื่อยยาก ที่ทุกคนต้องทิ้งบ้านทิ้งงานไปฝึกเป็นเวลาที่ยาวนาน ถึงแม้การพบเห็นจะไม่ได้ชัดเจนในระยะใกล้มากนัก แต่เราก็เชื่อว่าใช่ เช่น ครั้งนึงผู้ฝึกย้ายสถานที่ฝึกจากเขากะลา เดินทางไปอ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในเวลาค่ำแล้ว(เราเดินทางไป-มาอยู่หลายครั้ง) เมื่อเริ่มออกเดินทางก็จะเห็นวัตถุบินทางฝั่งซ้ายมือของเราบินคู่ไปกับเรา มีด้วยจำนวน 3 ลำ ลำแรกบินต่ำ ลำที่สองบินอยู่ระดับกลาง และลำที่สามบินอยู่ระดับสูงกว่า บินเรียงกันไปตั้งแต่จ.นครสวรรค์ เมื่อเราจอดรถแวะรับประทานข้าวตามปั้มก็ไม่ได้สังเกตุว่าเขายังอยู่รึเปล่า แต่เมื่อเริ่มออกเดินทางกันใหม่ก็มาบินอยู่อย่างเดิมอีกทั้ง 3 ลำ ตลอดทางจนถึงอ.ปราณบุรีเลยครับ เราขับรถกันไปก็ 3 คันเหมือนกันและทุกคนก็เห็นเหมือนกันหมด

ครับ ก็ขอเป็นกำลังใจช่วยนะครับ ผมเองลองเข้าไปดูในเว็ปufothailand.orgแล้วปวดตาปวดใจพอสมควร เพราะสายตาสั้นเจอตัวหนังสือเล็กจิ๋วเพ่งไม่ไหวเหมือนกัน จะรอเข้าไปโพสนะครับ ขออนุโมทนา และขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ

 

เข้าไปดูเมื่อวานและสมัครสมาชิกไว้แล้ว ดูและก็เห็นอย่างคุณเลขที่เก้าบอกตัวเล็กไปหน่อยอ่านยากครับ
หน้าแรกน่าสนใจดี ภาพกราฟฟิคแต่ผมก็งงอยู่ว่ากดอย่างไรปุ่มมันก็เลื่อนหนีไปหมด ขำตัวเอง

 

จุ๊ จุ๊ คุณno.9 กับคุณpeakgear24 อย่าเสียงดังไป เดี๋ยวคนอื่นเขารู้ว่าเกิดนาน ฮิ ฮิ ปล.มีufoจริงๆเหรอเนี่ย.... แต่แรกๆที่ukrinเห็น คิดอย่างเดียวว่าครอบครัวชื่นสำนวนขับมา แต่......เขารู้จักบ้านเราได้ไง...ทำไมรู้ว่าเวลาไหนเราอยู่ไหน คิดๆๆๆๆๆๆๆอยู่นาน กลัวโดนคนหลอก

 

ผมเริ่มสงสัยแล้วว่า...
ในเมืองไทยมาอยู่กันกี่ลำ...

แล้วในโลก..ล่ะ
อาจจะยั้วเยี้ยไปหมดแหงๆ

Ufothailand กำลังศึกษาอยู่นะครับใจเย็นๆ
น่าจะเป็นรูปร่างหลัง วันที่ 11/11

 

งานวันที่ 1 พ.ย. 50 ไม่ได้ไปร่วม รบกวนพี่ ถ่าย วีดีโอ แล้ว ส่ง เป็นวิทยาทาน ให้ได้ก็ยิ่งดี นะครับ พี่ ๆ

 

แหมเสียดายจังครับ เห็นคุณrescuelpติดตามข้อมูลมาอย่างต่อเนื่องเลย แต่ไม่เป็นไรครับผมได้บอกเพื่อนๆ ว่าถ้าใครมีกล้องวิดีโอก็ให้มาช่วยกันถ่ายเอาไว้เผยแพร่ต่อแล้วครับ

 

จากความสงสัยของคุณ Zeus@ ทำให้พี่สุดใจต้องไปค้นเอกสารที่ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน ได้เคยสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวไว้ตั้งแต่สมัยเริ่มการติดต่อสื่อสารในระยะแรก ๆ เพื่อนำมาให้คุณ Zeus@ และท่านที่สนใจได้รับทราบด้วย


ข้อมูลเพิ่มเติมการสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว<O</O
วันที่ 7 มกราคม 2541<O</O
จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน ผู้สื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว<O</O
<O</O

1. ให้แจ้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในประเทศไทย ในการที่จะนำยานอวกาศมาลอยในประเทศไทย<O</O

2. จะไม่เกิดความเสียหายกับเครื่องบิน และคอมพิวเตอร์ เพราะจะไม่
นำยานอวกาศมาอยู่ในระยะใกล้กับเส้นทางที่สายการบิน บินผ่าน<O</O

3. ยานแม่ฯ บรรทุกได้ 50 ลำ ขณะนี้ลอยอยู่ 5 ลำ จะมาสมทบอีก 15 ลำ รวมทั้งหมดเป็น 20 ลำ<O</O

4. จังหวัดที่จะนำยานอวกาศมาลอยอยู่ในประเทศไทยคือ
<O</O
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 3 ลำ<O</O

จังหวัดราชบุรี จำนวน 2 ลำ<O</O

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 2 ลำ<O</O

จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 5 ลำ<O</O

จังหวัดนครนายก จำนวน 3 ลำ<O</O

จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 2 ลำ<O</O

จังหวัดตราด จำนวน 3 ลำ<O</O
<O</O

5. ยานแม่ จะเดินทางมาสมทบในประเทศไทย ในวันที่ 8 มกราคม 2541 <O</O

6. การติดต่อสื่อสารนั้น มนุษย์ต่างดาว จะเป็นผู้สื่อสารมาเป็นระยะ ๆ พร้อมทั้งให้รายงานความคืบหน้าของข่าวสารเป็นระยะด้วย.<O</O
<O</O

...........................................................................................<O</O

เพิ่มเติม ............ จาก.....

 

ในขณะนั้น จึงมียานอวกาศมาประจำการอยู่ในประเทศไทย ในเดือนมกราคม 2541 มีจำนวน 1,000 ลำ
<O</O
และการนำไปปรากฏยังที่ต่าง ๆ ยานลำเล็กที่อยู่ในยานฯ ใหญ่นั้น จะบินออกไปปฏิบัติภารกิจในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยจะบินออกมาจากยานใหญ่ที่ลอยอยู่ใกล้กับบริเวณที่กำหนดให้ไปปรากฏ แล้วกลับมาจอดอยู่ในยานลำใหญ่ดังเดิม โดยการบินไปปรากฏยังจังหวัดอื่น ๆ นอกเหนือที่กล่าวมานั้น ใช้เวลาในการบินเพียงเล็กน้อย
ดังนั้น จึงได้มีบางคนได้เคยเห็นดาวดวงเล็ก ออกมาจากดาวดวงใหญ่ที่ลอยอยู่ และมีการมาเล่าให้ฟังหลายท่าน หรือบางท่านบอกว่าเห็นไฟกระพริบแว๊บ ๆ มองไปเรื่อย ๆ พอผ่านดาวแล้วหายเข้าไปในดาวเลย
<O</O
ความจริง สิ่งที่เราคิดว่าเป็นดาวนั้น มีหลายดวงที่ไม่ใช่ดาว แต่เป็นยานฯใหญ่ ที่เขาทำลักษณะสีสัน เหมือนดาวทุกประการ มีแสงในตัวเองสว่างเหมือนดาว แต่จะมีลักษณะพิเศษคือ เคลื่อนย้ายที่ได้ด้วยความเร็วสูง และบางครั้งกระพริบไฟวาบออกมาจากดาวดวงนั้นได้ หรือวิ่ง ๆ อยู่แล้วดับไปเลย บางครั้งวิ่งแข่งกัน แล้วหักมุม 90 องศาเลยก็มี และการเคลื่อนที่ เคลื่อนที่ด้วยความเร็วมาก แม้จะอยู่ในระดับที่สูง ก็จะวิ่งจากขอบฟ้าหนึ่ง ไปยังขอบฟ้าด้านหนึ่งด้วยความเร็ว มีการถ่ายภาพไว้ได้ บางครั้งแล่นไปแล้วก็หยุดปะปนอยู่กับหมู่ดาวอื่น ๆ จนแยกไม่ออก แต่เขาจะย้ายที่ไปเรื่อย ๆ ที่เขากะลา ผู้ที่ขึ้นมาบนเขาจึงรอดูเขาวิ่งกันไปมา อย่างตื่นเต้น และบางครั้งวิ่งพร้อม ๆ กันหลายดวง ดาววิ่งผ่านดาว และแข่งกันบ้าง ตีโค้ง หักมุม หลายรูปแบบ และดูเหมือนว่าในช่วงนั้น จะมีการบันทึกภาพไว้ได้บางส่วน รู้สึกจะเป็น คุณ no.9 เป็นผู้บันทึกในขณะที่ฝึกที่เขากะลา และที่บางกระเจ็ด สิงห์บุรี จะมีการนำวีดีโอมาให้ชมกันหากเวปไซด์ UFOThailand.org เสร็จแล้วและสามารถนำวีดีโอมาลงได้
<O</O
ที่คุณ Zeus@ เห็นในครั้งแรกเมื่อ 10 ปีก่อน อาจจะเป็นยานฯ ใหญ่ ที่กำลังย้ายฐานก็ได้ ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนดาวทุกประการ แต่มีการเคลื่อนจากที่ด้วยความเร็วมาก จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง แต่ในระดับที่สูงมากไม่น่าจะมีวัตถุใดเคลื่อนที่ได้เร็วขนาดนั้น
<O</O
แต่ที่เขากะลา จะเห็นเป็นเรื่องปกติ และรอดูกันเป็นประจำ แม้แต่อาจารย์จากศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาฯ จากกรุงเทพฯ เดินทางไปตรวจสอบ ด้วยการนำเข็มทิศไปด้วย มีคนอยู่ในเหตุการณ์หลายสิบคนในคืนนั้น ก็จะมีกระดาษบันทึกลักษณะการเคลื่อนที่<O</O
ลำแรกจากเหนือไปใต้ - น่าจะเป็นดาวเทียม<O</O
ดวงที่สอง จากตะวันออกไปตะวันตก - น่าจะเป็นดาวเทียม<O</O
ดวงที่สาม จากเหนือน่าจะมุ่งไปใต้ แต่กลับตีโค้งเลี้ยวไปทางตะวันตก อาจารย์ก็เริ่มงงนิดหน่อย แต่ก็บันทึกไว้<O</O
ดวงถัดมา จาก ใต้จะไปเหนือ แต่พอผ่านคณะบนเขากะลาก็ตีโค้งอ้อมไปทางตะวันออกอีก
<O</O
หลังจากนั้น เริ่มวิ่งไม่เป็นทิศทาง ตัดผ่านกลางเขา แล้วหักมุม เปลี่ยนทิศทันที บ้าง บางดวงวิ่งแข่งกันด้วยความเร็วบ้าง อาจารย์ทั้งสองท่าน ก็เลยเลิกจดทิศทาง ตั้งหน้าตั้งตาดูอย่างเดียว และช่วยกันนับจำนวนดวงที่วิ่งไปมาไว้ ทั้งเขาก็มีแต่เสียง นั่น ๆ ชี้ให้ดูกันไปทั่ว สรุปแล้วมีวิ่งในช่วงนั้น ไม่ต่ำกว่า 15 ดวง
<O</O
ซึ่งอาจารย์ทั้งสองท่าน ก็วิเคราะห์ว่า ไม่น่าใช่ดาวเทียม เพราะดาวเทียมจะไม่มีแสงในตัวเองสว่างได้ขนาดนี้
<O</O
ลักษณะการวิ่ง ดาวเทียมจะลอยอยู่ตามวงการโคจรของโลก ไม่สามารถวิ่งด้วยความเร็ว ไม่สามารถตีวงย้อนกลับได้ และบางลำ วิ่งแล้วหยุดกระทันหัน ซึ่งดาวเทียมทำไม่ได้ ก็เป็นความเห็นอีกมุมมองของนักวิทยาศาสตร์ทั้งสองท่าน ซึ่งสรุปแล้วคืนนั้น ในแผ่นกระดาษที่ท่านวาดแผนที่ของดาววิ่ง ยุ่งเหยิงไปหมดด้วยลายเส้นที่พันกันเต็มกระดาษ หลังจากนั้น แต่ละคราวที่มา ก็จะมาดูดาววิ่งกันอย่างสนุกสนาน ไม่มีการนำเข็มทิศมาวัดอีกเลย
<O</O
ก็เลยเป็นที่รู้กันว่า ไปดูดาววิ่งที่เขากะลา หรือเห็นดาววิ่งบนท้องฟ้าทั่วประเทศ หรือในประเทศต่าง ๆก็ตาม ก็จะรู้กันโดยอัตโนมัติ ว่าคืออะไร?<O</O

 

เมื่อปี พ.ศ. 2540 หรือเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา เรื่องการพบเห็นยานอวกาศ ไม่ได้มีแพร่หลายมากนัก จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากที่จะเชื่อว่า ในประเทศไทยจะมียานอวกาศมาประจำอยู่ที่นี่ แต่สิ่งหนึ่งที่มนุษย์ต่างดาวได้บอกไว้นานแล้วก็คือ เขามาปฏิบัติภารกิจ เพื่อทำโครงการในแต่ละระยะให้สำเร็จลุล่วงตามระยะเวลาที่กำหนด

ในช่วงนั้น ให้ตั้ง "กองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว" ที่เขากะลา ก็จะมีการนำยานอวกาศเข้ามาอยู่ที่บึงบอระเพ็ด เพื่อเป็นฐานปฏิบัติการตามแผนให้ความช่วยเหลือ เตรียมความพร้อมของมนุษย์ต่างดาวที่มาร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือในเวลาที่เกิดภัยพิบัติ เตรียมความพร้อมของมนุษย์ ที่เป็นกลุ่มผู้ร่วมงานกับมนุษย์ต่างดาว ซึ่งมีหลายกลุ่ม ให้มีความเข้าใจในระบบฯ โครงสร้างและแผนงาน พร้อมทั้งให้มีความแม่นยำในการรับข่าวสารที่สื่อสารผ่านมา

ล่วงเลยมาเกือบ 10 ปีแล้ว ตอนนี้เข้าสู่ขั้นตอนดำเนินการ และเตรียมพร้อมเพื่อช่วยเหลือเกี่ยวกับภัยพิบัติของโลกใบนี้แล้ว ดังนั้น จึงมีการนำยานอวกาศ เข้ามาเพิ่มเติมเป็นจำนวนมากในทุกประเทศ ทั่วโลก โดยมาจากหลายดวงดาว ดังนั้นการพบเห็นในทั่วโลก จึงมีมากขึ้นตามลำดับ

ในประเทศไทยก็มีมาเพิ่มเติมอีกเป็นจำนวนมากเช่นกัน และมีหลายดวงดาว แล้วแต่ดวงดาวไหน ติดต่อกับกลุ่มใด? ก็จะนำยานอวกาศมาปรากฏให้มนุษย์ที่ร่วมงานโครงการเดียวกันได้เห็นในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อทำความคุ้นเคย และให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า สิ่งที่เรากำลังกระทำอยู่นี้ เป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง <O</O
<O</O

 

มีข่าวจากคุณอลงกรณ์ครับ เหตุเกิดเมื่อสองวันก่อน
ขณะที่ขับรถไปเพชรบูรณ์กับน้องคนนึง ระหว่างทางมืดมิดมาตลอด
ก็มีลูกไฟสว่างวาปตกลงจากฟ้าครับ
กระแทกเข้าที่ประตูหลังขวาดังสนั่น เหมือนยางระเบิด

ด้วยความตื่นเต้นคุณอลงกรณ์จึงจอดรถ ให้น้องที่นั่งมาด้วยลงไปดู
น้องเค้าบอกว่าไม่มีอะไร อลงกรณ์ไม่เชื่อจึงลงมาดูเอง
ปรากฎว่าไม่มีแม้แต่ร่องรอยครับ..สะเก็ดตามพื้นก็ไม่เห็น
รอยที่ประตูก็ไม่มี...รถตามหลังมาก็ไม่เห็นเตือนอะไรเลย
มันคืออะไรกันแน่?...พากันงงครับ

ทำให้คิดไปว่าเค้าอาจมาทักทายเล็กน้อย
ฉายภาพหลอกให้เราเห็นว่ามีลูกไฟพุ่งลงมาใส่ก็ได้
เทคโนโลยี่เค้าไปไกลขนาดนั้นแล้ว เรื่องเล็กๆของเค้าครับ

ตอนนี้คุณอลงกรณ์กำลังไปสร้างพระธาตุที่อ.หล่มเก่า เพชรบูรณ์
ก็เกิดเหตุประหลาดอีก ต้นโพธฺใหญ่ต้นนึงล้มลงมาเองครับ..เหมือนรู้ว่าจะสร้าง
จริงๆต้องตัดออกเพื่อสร้างเจดีย์พระธาตุกำลังจะบรวงสรวงพอดี
แล้วพระท่านก็เห็นแสงสว่างสีเขียวๆ เคลื่อนไปที่ตันโพธฺอีกต้นนึง
..พระท่านว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์กำลังเปิดทางให้
ต้นโพธิ์ต้นนี้อยูมานานชั่วลูกหลาน รอยหักก็ไม่มีปลวกกินแม้แต้น้อย

หลวงพ่อท่านก็เล่าให้ฟังว่าเคยเห็นลูกไฟวิ่งไล่กันไปมา บนท้องฟ้าแถวๆนี้
และยังมีเรื่องพระอินทร์ท่านผ่านร่างผู้หญิงพรหมจรรย์เรื่องสร้างพระธาตุ
พระอินทร์ท่านบอกว่าคนนี้มีหน้าที่ (คุณอลงกรณ์) เค้าเป็นมนุษย์ต่างดาวมาเกิด
มาทำหน้าที่สร้างโดยตรง..จบดีกว่าครับ

 

รอดูผลงานเวปไซท์ใหม่คุณ Zeus ครับ
ทีนี้คงได้พบปรากฎการณ์แปลกๆเรื่อยๆล่ะครับ
เมื่อก่อนก็โดนตามบ่อยๆ ยิ่งถ้าจิตเราจดจ่อกับเค้า เค้าจะมาทักทายเราแน่นอนครับ

เคยมีครั้งนึงที่ไปกับคุณอลงกรณ์ พบว่าบนท้องฟ้าของเขากะลาตอนตี3 จะมีดาววิ่งชนิดยั้วเยี้ยน่าตื่นเต้นทีเดียวครับ ในครึ่งชั่งโมงนับได้กว่า 30 ลำเห็นจะได้ มองไปก็เห็นวิ่งมาเกือบทุกทิศทางอย่างต่อเนื่องดูแทบไม่ทัน..เคลื่อนที่แบบโค้งไปมา วิ่งตามกัน สวนทางกัน เค้าทำทุกวิธีที่ทำให้เรารู้ว่าเค้าไม่ใช่ดาวเทียมนะ..ในระดับที่สูงมากๆ..ต้องใช้การสังเกตุดีๆครับ

 

ผมอยากจะดูอยากจะเห็น ต่างดาว กับตาตัวเองจริงๆ แต่ผมเชื่อนะว่ามีจริงๆ

 

เริ่มเข้มข้นขึ้นทุกวินาทีแล้วล่ะครับ...
ขนาดตั้งแต่ผมรู้จักกับทีมงานกลุ่มเขากะลามาเกือบสิบปี
ก็เฝ้ามองทองฟ้าทุกวัน จนจำตำแหน่งดาวได้แล้ว

เพิ่งจะเห็นสิ่งที่ไม่สามารถ Identify ได้ก็ช่วงนี้นี่เอง...
ยิ่งฟังเรื่องของคุณ Mead แล้วยิ่งรู้สึกสัมผัสความชัดเจนได้เลยครับ

รูปธรรม (เห็นกับตาว่ามี)
นามธรรม (ความเชื่อว่ามี)

 

ภาพจากคุณ dogsman กระทู้ http://palungjit.org/showthread.php?t=98738

เป็นดวงแบบเดียวกับที่ผมเจอคืนวันที่ 2 พ.ย. 2550
ในภาพถ่ายได้ที่โคราช แต่ของผมเขาจะกระพริบไฟแฟลชให้เห็นว่า...
ฉันไม่ใช่เครื่องบินนะ...

 

UFO ที่โคราช...

6 พฤษจิกายน 2550 : เวลาประมาณ 23:15 น.

ขณะที่กำลังนั่งจินตนาการถึง web ufothailand.org อยู่ ว่าจะเอาแบบไหนดี
ปรากฎว่าพี่สุดใจโทรมาหา...ก็คุยเรื่อง webmaster ฯลฯ ว่าจะเอาของเก่ามาแก้ไข หรือว่าขึ้นโครงสร้างเว็บใหม่ไปเลยดีนะ

พี่สุดใจตอบอย่างกระตือรือร้นว่า "ระบบติดต่อมาตอนนี้ ตอบว่าให้ทำใหม่ไปเลย"
ผมก็นึกในใจ "โหพี่...เว่อร์ไปปล่าวเนี่ย ระบบติดต่อมาตอบให้ ตอนนี้เนี่ยนะ"
ก็งง ๆ
ตกลงทำใหม่ออกแบบใหม่ไปเลยก็ดีเหมือนกัน...

ขณะที่คุยโทรศัพท์อยู่ ก็เดินคุยออกมานอกบ้าน สายตามองไปทางป่าข้างบ้าน
เห็นมีหิ่งห้อยอยู่ไกลๆ แต่...เอ...?? ทำไมแสงหิ่งห้อยไม่กระพริบนะ
เป็นจุดแสงไฟไกล ๆ เหนือยอดไม้โน่น คุยไปคุยมา ตาก็มองก็คิดว่าเป็นดาว
ดาวดวงที่อยู่ต่ำที่สุด จำไม่ได้ว่าชื่อดาวอะไร แต่มองไปมองมา อ้าวขยับได้แฮะ
คล้าย ๆ ขยับลอยอยู่ช้า ๆ ไกล ๆ ก็เลยรีบเปลี่ยนเรื่องคุย

บอกพี่สุดใจ "พี่เนี่ยตอนนี้ผมเห็นแสงอะไรไม่รู้อยู่ไกล ๆ เหมือนดาวขยับได้"
พอพูดจบ แสงนั้นก็ลอยขึ้นสูงไปเรื่อยๆ (นึกในใจว่า...บอลลูนมีแสงอีกแล้ว)

สูงขึ้นสูงขึ้น ถึงได้รู้ว่าอยู่ไกล ไม่ใช่หิ่งห้อยใกล้ ๆ แต่ไกลเท่าดาวต่ำๆ
พี่สุดใจก็ถามตอนนี้เป็นไงบ้าง
"พี่มันลอยสูงไปเท่าดาวข้างบนแล้ว มันดวงอะไรเนี่ย"
ยังไม่ทันตั้งสติได้ ดาวดวงนั้น ก็ลอยเข้ามาไกล้ทางบ้านผม
กลายสภาพเป็นเหมือน...เครื่องบิน คือบินลอยข้ามหลังคาบ้านเลย

พี่สุดใจก็บอก "ถ้าเขารู้ว่าเราเห็นแล้วเขาจะกระพริบไฟบอก"

พี่มันเหมือนเครื่องบินเลย คือบินข้ามหัวผม แต่ไฟของมันนี่สิ แปลกกกกกก
คือมีไฟหน้า ไฟทางซ้าย ไฟทางขวา ไฟตรงกลางใต้ท้อง????
ทำไมไม่มีไฟตรงหาง

แล้วๆๆๆ ทำไมไฟสีเดียวกันทั้ง 4 ดวง
แล้วๆๆๆ ทำไมมันออกเป็นกลม ๆ
แล้วๆๆๆ ทำไมไม่มีเสียง
แล้วๆๆๆ ทำไม ไฟทุกดวงกระพริบพร้อมกันทั้งหมด????
(เพราะเครื่องบินจะกระพริบปีก 2 สลับกับหางสีแดง 1)

เห็นชัดๆ ข้ามหัวไป เลยบอกพี่สุดใจว่า...
"พี่ครับผมช๊อค!!!"
พี่สุดใจก็ได้แต่ปลอบใจกับอนุโมทนาด้วย...

หิ่งห้อยไม่กระพริบ
ดาวดวงต่ำ
แสงขยับได้
บอลลูนมีไฟ
เครื่องบินไม่มีหาง กระพริบไฟพร้อมกันทุกดวง

ผมคิดว่า...ผมเชื่อว่า UFO มีจริงจากเหตุการณ์เมื่อ 15 นาทีที่ผ่านมา

ปล.
1.ไม่ต้องหวังว่าจะได้ถ่ายรูปหรือวีดีโอ
เพราะมือถือคู่ใจติดสายพี่สุดใจอยู่[bw-cry]
2.ผมรักษาศีล 5 ดังนั้น ผมไม่เล่าเรื่องเท็จ

 

ถ้าเพื่อนๆสมาชิกท่านใดสามารถถ่ายภาพ..ยูเอฟโอ..ได้เอาภาพมาแบ่งๆกันชมด้วยนะครับ..ผู้ที่เชื่อและชื่นชอบ..ยูเอฟโอ..คงถูกใจมากๆเลยครับ..

 

ขอช่วย อะไรดีล่ะ ถามดีกว่า
ก็ต้องเรียนถาม พี่สุดใจ ได้ติดต่อกลุ่มอื่นบ้างรีปล่าว
เช่น กลุ่มมิตรต่างดาว ที่คุณ สาธร พรหมนิล ก่อตั้ง ที่อุทยานศาสนา จ.เพชรบุรี
คุณ สาธร แกพูด ภาษาดาวอังคารและดาวศุกร์ได้ปร๋อเลย

เพิ่งมารู้ว่าแกเป็นเพื่อนสนิทกับน้องเขย แกบอกว่าติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้
เพื่อนๆ ก็ว่าแกเพี้ยน แกเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 48

ดาวอังคารเชื่อว่ามาจริงๆ เพราะสื่อสารกับหลายคนแล้วนะคะ และก็มี อ.ปริญญา
เขียนยืนยันไว้ในหนังสือ ว่ามีมนุษย์อยู่ที่ดาวอังคาร ซึ่งอ.ปริญญา ก็รู้มาจากพระผู้สร้าง
แต่ดาวอื่นยังสงสัยอยู่