ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

”ด้วยบัญชาสวรรค์ในนามของพระเจ้า
ฉันขอวิงวอน ต่อเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สีม่วง
จงช่วยปรับเปลี่ยนทุกความคิด ทุกการเชื่อมโยง พันธมิตร การสื่อสาร
หรือความภักดี ที่เป็นไปในด้านลบ...
และต่อพลังงานหรือจุดมุ่งหมายที่ได้ทำลงไป
ที่ไม่ได้สอดคล้องกับต้นกำเนิดพลังงานของบัญชาสวรรค์ที่มีต่อโลก
ไม่ว่าจะด้วยรู้หรือไม่รู้ก็ดี และขณะนี้...กายเนื้อในระนาบที่ต่ำสุดและสูงสุดของฉัน
พร้อมที่จะรับคำบัญชาสวรรค์ และฉันก็ให้อนุญาตโดยอยู่ภายใต้กฏของจักรวาล
ต่อความศักดิ์สิทธิใดๆ และ โจทย์ต่างๆของโปรแกรม
ที่ฉันต้องรับผิดชอบ ฉันต้องทำ หรือได้ทำแล้วหรือกำลังจะต้องทำ
ขอจงนำสู่อาณาจักรแห่งความบริสุทธิให้เป็นไปและสอดคล้องกับบัญชาสวรรค์ ณ.บัดนี้
และขอให้คงอยู่เช่นนั้นตลอดไป”
​

 

---ขอนุญาติออกความเห็นดว้ยคนในฐานะกัลญามิตร---การปล่อยวางที่แท้จริงนั้นคือ..การไม่ตัดสินทั้งตนเองและผู้อื่น..และที่สำคัญสุดคือการไม่ตัดสินตัวเอง..เพราะถ้าเราไม่ตัดสินคนอื่นแต่ยังตัดสินตัดสินตัวเองอยู่จะยังไม่เรียกว่าปล่อยวางที่แท้จริง..ฉนั้นการปล่อยวางที่แท้จริงตอ้งไม่ตัดสินทั้งตัวเองและผู้อื่น..เมื่อทำได้แล้ว..ก็..บิน...จ้าาาา..อยาบินมาชนฉันก็พอ..เส้นทางบินของใครของมันแต่ก็อยู่ในอาณาจักรเดียวกันและเราก็คือ.พี่-น้องทางจิตวิญญานและเรารักกันเสมอ..เพราะเราคือ..ความรัก..ความรักไม่มีการแบ่งแยก..สมองทำให้แบ่งแยกนะเราว่า..(deejai)

 

อ่านแล้วอยากจะกระทืบไลท์ครับ

 

image from internet


Sheldan Nidle
http://galacticchannelings.com/english/sheldan15-07-14.html
15 July 2014

ผู้แปล: อจิตตะ

เรามาพร้อมกับข่าวดี ! สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้อง
กับพรวิเศษที่คุณได้ร้องขอได้ใกล้ความจริงและพร้อมที่จะส่งถึงคุณแล้ว...
ดังนั้น...จงมั่นใจในความสำเร็จของคุณ ที่จะมากับการจัดระบบการเงินใหม่...
...แต่เราขอเบนความสนใจไปเรื่องอื่นก่อนนะ...
เพื่อจะได้เป็นไปในเรื่องเดียวกันกับความสำเร็จของคุณ
กับการเตรียมความพร้อมและเติมเต็มให้กับจิตสำนึก
เพื่อรองรับกับสิ่งที่วิเศษสุดซึ่งกำลังจะเกิดแก่กายเนื้อของคุณ
ต่อกระบวนการที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งในแบบฉบับที่สมบูรณ์
ซึ่งจะส่งผลต่อ กายเนื้อ จิตใจ และอารมณ์ของคุณอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่การผสมผสานในครั้งนี้จะเกิดขึ้นกับคุณเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ
และปลอดภัยอยู่ภายในคริสตัล- ประหนึ่งอยู่ในห้องแห่งแสงสว่าง
ซึ่งเป็นที่สถิตย์อยู่ของแสงสว่างที่พิเศษสุด
ที่คุณได้สร้างด้วยความเพียร และสมบูรณ์แบบ
ในการจัดเรียงใหม่อีกครั้งของเซลล์ RNA /DNA ของคุณ
ด้วยการทำงานของเครื่องมือของแสงสว่างที่จะทำการจัดเรียงรหัสใหม่
เพื่อพาคุณไปสู่การบรรลุด้วยกายเนื้อที่เต็มไปด้วยศักยภาพ
ที่เป็นกระบวนการการออกแบบของสรวงสวรรค์
ที่ใช้เวลาสามวันโลกมนุษย์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของพระเจ้านี้
ซึ่งคุณจะได้รับคำแนะนำโดยตรงทั้งจากผู้พิทักษ์กายคุณและจากสวรรค์
นอกเหนือจากนี้ คุณยังมีผู้ที่ได้รับมอบหมาย
ให้เป็นที่ปรึกษาพิเศษที่ได้รับการฝึกฝนจากเราอีกด้วยนะ
ซึ่งเมื่อคุณได้ออกจากห้องแสงสว่างแห่งคริสตัลแล้ว
คุณก็จะได้กลับเข้าสู่ จิตสำนึกที่สมบูรณ์...

ขณะที่คุณกำลังประสบกับความเจ็บปวดซึ่งเป็นขั้นต้นๆของกระบวนการ
ที่ปฏิบัติการต่อส่วนที่ละเอียดอ่อนและเปราะบางของกายเนื้อนั้น...
แรกสุด... เพื่อบูรณาการพวกเขาอีกครั้ง
สอง....เพื่อเพิ่มระดับความถี่ของแสงเท่าที่คุณจะสามารถรับได้
ซึ่งก็ยังเป็นขั้นต้นของขยาย DNA ของคุณ จาก 2 เส้น เป็น 3 เส้น
และขั้นตอนนี้จะทำให้คุณ “รู้สึกได้” ถึงความเป็นจริงรอบ ๆ ตัวคุณ…
ยิ่งไปกว่านั้น…นี่ยังเป็นการชำระล้างเส้นลมปราณ (Merridian) และระบบจักระ
ที่จะทำให้ภายในตัวคุณเกิดอาการเจ็บปวดอยู่ในระดับหนึ่ง
ซึ่งก็ทำให้หมอของคุณต้องสับสนกับอาการปวดที่เกิดขึ้นนี้ด้วย…
แต่อย่างไรก็ตาม…ก็จงมั่นใจว่านี่คือกระบวนการที่อยู่ภายใต้การออกแบบของเบื้องบน
ที่มีความพร้อมสำหรับคุณ กับ สามวันที่คุณจะพักอยู่อย่างสบาย
ในห้องแห่งแสงสว่างของคริสตัลของคุณ…
นี่คือสิ่งวิเศษสุดที่เป็นของขวัญชิ้นพิเศษจากผู้สร้าง
ซึ่งเป็นความสมบูรณ์ที่ยิ่งใหญ่ของการสร้างโครงร่างใหม่
ในขณะที่คุณยังมีความพร้อมที่จะอดทนอยู่นี้…
…ดังนั้น...การเคลื่อนตัวผ่านขั้นตอนที่ละเอียดอ่อนของการปรับเปลี่ยนนี้
จึงมีความจำเป็นที่จะต้องย่อขนาดสิ่งที่พิเศษสุดของคุณนี้
เพื่อเข้าไปสู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างนี้…

ในขั้นต้นของการปรับนี้ จะแบ่งเป็นสองประเภท
ประเภทที่หนึ่งคือ...เพิ่มความถี่ให้กับจักระที่เป็นของคุณอยู่ ณ ขณะนี้
หรือจุดอื่น ๆ ที่นำเข้ามาโดยได้รับอนุญาตให้เป็นจักระใหม่ได้
ประเภทที่สองคือ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงกับกายเนื้อของคุณ...
ซึ่ง...การเกิดขึ้นของประเภทแรกนี้จะมีมากกว่า...
โดยสวรรค์จะนำจิตสำนึกทางกายภาพของคุณ
ใหไปอยู่ชิดขอบของการปรับเปลี่ยนขนานใหญ่นี้
ดังนั้น…กายเนื้อของคุณจึงสามารถใช้แสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์ได้มากกว่าก่อนมากขึ้น
และการเพิ่มแสงสว่างให้แก่กายเนื้อนี้
ก็เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับจิตสำนึกที่จำกัดของคุณ
ทั้งยังเป็นการช่วยให้เราได้จัดวางตำแหน่งจักระใหม่ให้กับกายเนื้อของคุณได้ง่ายขึ้น
ซึ่งเป็นความสำคัญของการขยายตัวนี้…
และจิตสำนึกทางกายภาพที่เพิ่มขึ้นนี้ ก็ยินยอมให้กายเนื้อทางกายภาพของคุณ
มีการเริ่มต้นกระบวนการในการเชื่อมต่อกับจิตสำนึกทางจิตวิญญาณของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น
และนี่ก็เป็นขั้นตอนในชุดหนึ่งของการอยู่ในห้องแห่งแสงสว่างเพื่อให้เกิดการบรรลุผล...
ส่วนประเภทที่สองนี่....ยากกว่ามาก
คือการปรับเปลี่ยนระบบเส้นลมปราณ (Meridian) ให้ตอบสนองต่อแบบแผน
ซึ่งเราสามารถใช้งานได้จริงกับการ “แยก” จักระบางจักระของคุณออกไป…

ตัวอย่างที่ดีที่สุดคือ มันเกิดขึ้นกับจักระหัวใจของคุณ
ซึ่งขณะนี้ได้แยกเป็นสอง คือ สร้างจักระหัวใจใหม่
และสร้างจักระ thymus ให้กับระบบพลังงานของกายเนื้อ
(thymus คือ ต่อมไร้ท่อที่อยู่ข้างหลังกระดูกเต้านมขึ้นไปถึงบริเวณต่อมไธรอยด์=ผู้แปล)
ซึ่งในตอนนี้ ...จักระ thymus ใหม่นี้ได้ถูกกระตุ้น
และอยู่ในขั้นตอนของการจัดโครงสร้างอยู่ด้วย...
Thymus นี้จะจัดการกับระบบภูมิคุ้มกันและทำงานด้วยการปรับขนาดช่องของจักระใหม่
เพื่อขจัดผลกระทบที่ร้ายแรงต่อกายเนื้ออันเกิดจากความกลัวของคุณ
...กระบวนการนี้จะทำให้คุณรู้สึกไม่สบาย
แต่ท้ายสุด... มันจะก็จะจำกัดความเจ็บปวดนั้น
ด้วยการเปลี่ยนแปลงจากการสั่งการของสมองคุณ
และมีกฏหนึ่งซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องจดจำไว้คือ
“คำบัญชาของสวรรค์มีความสมบูรณ์ในการปฏิบัติใหม่อีกครั้งกับกายภาพของคุณ...”

เมื่อการปรับในคราวนี้ได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนด
คุณก็พร้อมที่จะเข้าสู่ห้องแห่งแสงสว่างของคริสตัลของคุณแล้วละนะ
และความเจ็บปวดที่กำลังจะผ่านคุณไปนี้
ย่อมจะได้รับการตอบแทนอย่างมากมายมหาศาล
เพื่อช่วยให้คุณสามารถใช้เวลาในสามวันนี้ไปกับการปรับตัวคุณเอง
เข้าสู่การมีจิตสำนึกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถ
ในการสร้างงานได้อย่างมหัศจรรย์
และจะเป็นผู้หนึ่งที่จะช่วยเปิดเผยการสร้างกายภาพนี้ด้วย…

โอ้…พวกเราคือผู้นำการเลื่อนระดับของคุณ…
ผู้ร่วมงานของพวกเรากำลังยุ่งอยู่กับการหาลานจอดให้กับความสำเร็จของคุณ
และเตรียมวิธีการที่จะทำให้ฝ่ายมืด
ได้ออกไปจากพลังงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์นี้
ซึ่งกระบวนการนี้ก็คือการสิ้นสุดของพลังฝ่ายมืด
และเป็นพรวิเศษของคุณคุณที่จะได้กลับไปสู่อำนาจอธิปไตยอันศักดิ์สิทธิ์
ทั้งยังบรรลุซึ่งวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของคุณเองอีกด้วย

ดังนั้น…ขั้นตอนการส่งมอบในสิ่งที่สวรรค์บัญชาให้แก่คุณนี้
จึงเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความละเอียดรอบคอบ
ซึ่งมันก็เป็นเช่นเดียวกับคำแนะนำในเรื่องของการปกครอง
ซึ่งต้องให้ความใส่ใจอย่างแท้จริงเกี่ยวกับสวัสดิการทั่วๆไป
และต้องพยายามรักษาในสิทธิอันศักดิ์สิทธิ์ของคุณด้วย

ซึ่งในการปกครองใหม่นี้ ก็จะมีการเชิญชวนให้คุณ
ได้มีส่วนร่วมอย่างอิสระในแต่ละบทบาท
ทั้งยังเป็นการช่วยให้คุณมีอิสระภาพ
ที่จะเรียนรู้ธรรมชาติที่แท้จริงในชีวิตจริงนี้ได้อีกด้วย
ซึ่งก็เหมือนกับการช่วยให้คุณได้ตระหนักถึงโลกภายใน
และครอบครัวแห่งจิตวิญญาณของคุณ…
ซึ่งสิ่งวิเศษสุดเหล่านี้ก็ได้จัดหาพี่เลี้ยงให้มาพร้อมกับเราด้วย
เพื่อสอนคุณในเรื่องของสัจจะอันยิ่งใหญ่ในชีวิตจริง ณ.ที่ที่คุณอาศัยอยู่ในขณะนี้


หน้าที่ของเราคือใช้ช่วงเวลานี้กับการใช้สิทธิ์ในการแสดงตัวท่ามกลางพวกคุณ
และเริ่มต้นกับบทเรียนในชุดที่พระเจ้าได้ขอให้พวกเราเตรียมการไว้ให้
โดยการทำงานร่วมกันในการเตรียมความพร้อม
เพื่อให้คุณได้เข้าใจว่าสิ่งที่ถูกนำเสนอนั้น คือชีวิตจริงในรูปแบบใหม่
ที่มีจิตสำนึกที่เต็มสมบูรณ์และเป็นสภาพที่น่าพิศวงที่สุด
ที่ได้มอบให้แก่มนุษยชาติในกาแลคซี่นี้
และสภาพเช่นนี้ก็คือพรอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราสำหรับพันปีข้างหน้า

…พวกเราแต่ละคนต่างก็ต้องได้รับประสบการณ์นี้
และเรียนรู้ให้มากพอในธรรมชาติที่แท้จริง
ซึ่งมีโอกาสที่จะพบได้ในชีวิตจริงของแต่ละวัน
ผู้สร้างได้ให้บ้านที่วิเศษสุดและยังให้เป็นตัวแทนในการรับใช้พระเจ้า
ซึ่งพวกเราก็ยอมรับในของขวัญชิ้นนี้
และพร้อมที่จะรักษาสภาวะของความเป็นพระเจ้านี้ไว้
เพื่อให้ได้ดำเนินการร่วมกับพวกเราในการรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
ได้อยู่ร่วมกันในดินแดนที่พวกเราได้ช่วยกันออกแบบ
ซึ่งต้องรับผิดชอบด้วยการใช้ภูมิปัญญา
และพระพรแห่งความรักมาทะนุบำรุงรักษามัน

พวกเราสามารถเรียนรู้ในหลายสิ่งหลายอย่าง
ในขณะที่เป็นผู้รับใช้พระเจ้าอยู่นี้
โดยการใช้สัจจะธรรมดา ๆ ว่า “พวกเราเป็นหนึ่งเดียวกัน”
และใช้มันเพื่อให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทุกๆวัน
…จงเบิกบานกับสภาวะอันยิ่งใหญ่ของคุณแห่งพระเจ้า
กับเสียงหัวเราะที่โอบล้อมชีวิตและลมหายจของจิตวิญญาณของพวกเรา
ความเมตตาจะหลั่งไหลออกมา
….การรู้แจ้งก็มาจากผลของการกระทำง่าย ๆ นี้เอง
และ เราก็ใช้วิธีนี้เพื่อทำความเข้าใจกับความงดงามของบ้านอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา
ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ผู้สร้างให้มา
และควรเรียนรู้ที่จะไม่จริงจังกับโลกมากนัก
ทั้งพร้อมที่จะทำสิ่งที่จำเป็นต่อความผาสุข ด้วยการปรับเปลี่ยนมัน

“ทุกปัญหาย่อมมีหนทางออกเสมอ...”
แต่คุณต้องตามหาหนทางนั้นให้พบ...หยุดไม่ได้... ยอมแพ้ไม่ได้
เพราะนี่เป็นอะไรที่มากกว่าแค่คำว่า “ความอดทน”
เพราะนี่เป็นอะไรที่มากกว่าแค่คำว่า “ทนอยู่”
และนี่เป็นสิ่งที่ชัดเจนแล้วว่าพระเจ้าได้ยืนอยู่เคียงข้างคุณ
ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่คุณรู้ชัดแจ้งแล้ว....คุณก็จะไม่ยอมแพ้อีกต่อไป

เพียงแต่คุณก้าวไปข้างหน้าอย่างปกติกับสิ่งที่ “ รู้ ”นั่น
แล้วในที่สุด ทุกอย่างก็จะเดินหน้าไปเอง
กับเส้นทางเดินที่เป็นการหยั่งรู้ และ สุดวิเศษแห่งความทรงจำ...

 

THE HILARION’S WEEKLY MESSAGE 2014
June 20-27, 2014
HILARION 2014 - The Rainbow Scribe
วันที่โพสท์ _Tue ,22/6/2014
ผู้แปล: อจิตตะ

คุณคุณที่รัก…
ผู้คนบนโลกได้มีการรวมตัวกันบนท้องถนนมากขึ้นๆ
เพื่อที่จะให้ผู้นำของโลกรู้ว่าพวกเขาจะไม่ยอมเป็นพยานเงียบอีกต่อไป
กับการได้เห็นสภาพการถูกทำลายอย่างโง่เขลาของผู้คนบนโลก
และทำลายบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขาเอง....
ซึ่งล้วนเป็นการรุกเข้ามาของอำนาจ
เพื่อสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คน
และทำให้พวกเขาตกอยู่ภายใต้การควบคุม....
ดังนั้น....มนุษย์ที่ตื่นรู้นับจำนวนไม่ถ้วนทั่วโลก
จึงได้ลุกฮือขึ้นมาเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น....
และข่าวสำคัญที่ยังคงต่อเนื่องคือ
การหยุดยั้งการรายงานข่าววิกฤตการณ์การเคลื่อนไหวของภาคประชาชน
ที่มีการประท้วงในเมืองใหญ่ๆของโลก
ซึ่งประชากรโลกส่วนใหญ่ก็ได้เห็นกันอย่างชัดเจนอยู่ในขณะนี้....
และการโกหกหลอกลวงและผักชีโรยหน้าของผู้ที่มีอำนาจ
จะปรากฏออกมาให้เห็นได้ชัดขึ้นๆขึ้นเรื่อยๆ....

ในขณะที่พลังงานแห่งสตรีเพศอันศักดิ์สิทธิ์
ได้เคลื่อนลงสู่โลกอย่างลึกล้ำและเข้มข้นนั้น
...หากมีส่วนใดมิได้มาในแนวเดียวกันกับความรักแล้วละก็
มันก็จะโดดเด่นให้เห็นชัดไปในทางตรงกันข้ามเลย
เพราะมันไม่มีที่จะซุกซ่อนได้อีกต่อไป ไม้เว้นแม้เงา...
และเมื่อผู้ใดเกิดความรักขึ้นในหัวใจแล้ว
พวกเขาจะสามารถรับรู้และรู้สึกได้ถึงการหลอกหลวงของผู้อื่น...

นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกใบนี้...
ผู้คนจะได้เห็นใบหน้าที่แท้จริง
ที่ซ่อนอยู่หลังหน้ากากของผู้นำพวกเขา
และจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงที่
ทำให้พวกเขาต้องมาเรียกร้องหา ความจริง อยู่นี้
แต่ข้อเรียกร้องที่สำคัญของผู้เคลื่อนไหวนั้น
ล้วนอยู่ในระดับที่เป็นไปได้ยาก
ดังนั้น....เรื่องเหล่านี้จึงต้องการผู้ที่ตื่นรู้สักคน
ลุกขึ้นมาพูดความจริงของพวกเขา
ส่วนพวกที่รู้ในระดับลึกมาก ๆ แล้ว....
นี่ก็เป็นช่วงเวลาที่ต้องเลือกให้การเอาแต่หลับ ได้จบสิ้นกันซะที....

ช่วงนี้รังสีของดวงอาทิตย์มีความรุนแรงกว่าแต่ก่อนมาก
จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่แต่ละคนควรต้องปกป้องกายเนื้อ
ด้วยการหลีกเลี่ยงแสงอาทิตย์ในเวลาที่ร้อนแรงของวัน
และใส่แว่นกันแดดตลอดเวลาเมื่อออกนอกบ้าน
แต่จะให้ดี.... ควรออกจากบ้านในเวลาเช้า
เพื่อจะได้ปรับสภาพกายของท่านให้เข้ากับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
....สนามแม่เหล็กโลกกำลังหมดไปเรื่อย ๆ
จึงทำให้กายมนุษย์ต้องการอากาศในปริมาณสูงขึ้น
เพื่อเติมระดับพลังงานของพวกเขา
....การหายใจลึก ๆ ในแต่ละวัน จึงช่วยได้มากในเวลานี้
เพราะสนามแม่เหล็กจะได้แผ่กระจายพลังงานไปยังทุกส่วนของร่างกาย
ผ่านเส้นประสาทใหญ่น้อยและศูนย์ถ่ายทอดเส้นประสาทด้วย
จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเพิ่มความแรงของสนามแม่เหล็ก
เพื่อนำกายเนื้อและจิตใจขึ้นสู่ระดับสูงสุดเพื่อการอยู่รอด

พวกเราขอให้ผู้ตื่นรู้ทั้งหลายจงเดินหน้าต่อไปอย่างสงบ
และในเวลาของเหตุการณ์ที่ปั่นป่วนนี้จงโอบแสงสว่างเอาไว้
เพราะแสงสว่างของคุณมีความจำเป็นอย่างยิ่งในขณะนี้
จงมองหาและทำความรู้จักกับผู้คนรอบตัวคุณ
ที่มีคุณลักษณะไปในทางบวก
จงช่วยเหลือและแนะนำด้วยวิธีการใดก็ได้แก่บุคคลเหล่านี้
จงให้การสนับสนุนและปกป้องผู้ที่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงสว่าง
และกำลังเสี่ยงภัยต่อการพูดความจริงของพวกเขา
จงช่วยกันส่งข้อความของโลกใบใหม่ในชีวิตจริงนี้แก่ผู้ที่มีพร้อมที่จะรับ
....นี่เป็นช่วงเวลาที่เหมือนอยู่ในศูนย์กลางของพายุ
แต่คุณก็ยังสามารถตรงเข้าไป
สู่การยกระดับพลังแห่งความรักและความเข้าใจได้
ทั้งยังสามารถส่งตรงไปยังเพื่อนพ้องน้องพี่
ที่เข้ามาร่วมด้วยในเวลานี้อย่างเปิดเผยในกระบวนการตื่นรู้นี้

แต่สำหรับบางจิตวิญญาณ
ที่กำลังประสบกับการแสดงออกทางกายภาพนั้น
นั่นคือการกระทำของการต่อสู้ และความพยายาม
ที่จะเปิดเผยของขวัญที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละคน
ด้วยคุณลักษณะของจิตวิญญาณของพวกเขาเอง
ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาหยุดการต่อต้านการไหลเข้าของพลังงาน
ด้วยการนำแสงสว่างเข้าร่วมกับความเป็นอยู่ของพวกเขา
แล้วการเดินทางเพื่อค้นหาก็จะกลายเป็นการเดินทางไปสู่ความเป็นจริง
ที่ไม่ต้องได้รับการสำรวจล่วงหน้าก่อนเลย
ดังนั้น....“ศรัทธา”จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ยังคงต้องตั้งมั่นอยู่
และเดินไปข้างหน้าด้วยแรงผลักดันของการเลื่อนไหล
จงจำไว้ว่าจักรวาลได้ให้การสนับสนุนต่อทุกผู้ทุกนามอยู่ในขณะนี้
และบทบาทของมนุษย์ในมิติที่สูงกว่าที่ยืนอยู่ร่วมกับมนุษย์ที่ตื่นรู้นั้น
มีมากขึ้นกว่าที่เคยมีมา....

จงยอมรับในความรักและคำแนะนำที่พวกเขานำมา
เพื่อให้เกิดดุลยภาพ และความสงบของจิตใจเถอะนะ....
และในเวลานี้...ไม่มีใครเลยที่เดินอยู่บนเส้นทางของพวกเขาอย่างเดียวดาย....

Until next week…
I AM Hilarion

 

ความโกลาหลระหว่างดินแดนเก่าและดินแดนใหม่
พลังงานแห่งความบริสุทธิ์เพื่อการชำระล้าง
~ สภาสูงพลีเอเดียส์ ~ Anna Merkaba (บางส่วน)



"....จากจุดนี้ไปข้างหน้า กับกรณีที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาตามเวลาของโลกคุณ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกำลังมีการเปิดเผยก่อนที่คุณจะได้รับรู้อย่างสิ้นเชิงในความเป็นจริงทั้งหมดของคุณ ที่มันจะเพิ่มความเร็วมากขึ้น เป็นการเปิดเผยต่อมวลมนุษยชาติ ที่จะถูกนำไปสู่ยังพื้นผิวสำหรับมนุษย์ที่จะจัดการกับมัน ซึ่งได้รับความสำเร็จมากแล้วโดยพวกคุณ Light Workers แห่งพระราชกฤษฎีกาสากล มีหลายสิ่งที่ได้จัดตั้งขึ้นมาสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในสังคม GAIA ของคุณ ด้วยการเพิ่มขึ้นของพลังงานที่ได้รับการรังสรรค์เพื่อให้เกิดรูปแบบใหม่ของความเป็นจริงทั้งหมด รูปแบบใหม่ของการกำกับดูแลและการสถาปนาความยุติธรรมของกฎหมายและกฎระเบียบที่เป็นธรรมสำหรับสังคมใหม่ที่จะโผล่ออกมาจากภายใน ทำให้แลเห็น "ความมืด" ออกมาเล่นเต้นรำเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ทุกอย่างจะเป็นไปอย่างสมบูรณ์และไม่สามารถถอดถอนออกจากแผ่นดินโลกได้อีก

หลายท่านกำลังรอการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวด้วยความศรัทธาอันแรงกล้า พร้อมกับความคาดหวัง กระนั้นมันก็เพียงพอแล้วที่จะบอกว่ามันคือความมุ่งมั่นที่เพลิดเพลินไปกับการเดินทางที่คุณได้มาที่นี่ เพื่อที่จะสนับสนุนและเพลิดเพลินไปกับขั้นตอนของการปฏิบัติภารกิจของคุณทุกคน ถึงแม้ว่ามันจะดูเหมือนเป็นเรื่องน่ากลัวในบางครั้ง ผ่านความสุข - ความเข้าใจ และแน่นอนที่คุณจะเป็นผู้ที่มีความเต็มใจและไม่เกรงกลัวใดๆ จงก้าวเท้าลงไปบน GAIA, คุณจะสามารถที่จะหาสมดุลที่คุณกำลังมองหาได้อย่างแน่นอน เพื่อความสมดุลความสงบภายในและความสามัคคีท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและหนักหน่วงที่เกิดขึ้นบนโลก คุณต้องสามารถส่งมอบความสุขความเข้าใจให้เกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อความเจริญรุ่งเรืองสำหรับวิวัฒนาการของความสามัคคี และขับเคลื่อนมนุษยชาติต่อไป..."

https://www.facebook.com/photo.php?...481.1073741860.100005156763687&type=1&theater

 

เนื้อหาล้วนๆ

 

ALIENS ON THE MOON.THE TRUTH EXPOSED 2014





มีสารคดีพิเศษชุดนึงที่ออกอากาศทางช่อง SyFy ครับ
เรื่อง "มนุษย์ต่างดาวบนดวงจันทร์ : ความจริงที่ถูกเปิดเผย"

เป็นสองชั่วโมงพิเศษ ที่จะมีการเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวบนดวงจันทร์
สารคดีชุดนี้ออกอากาศในวันอาทิตย์ที่ 20 กรกฏาคม
ซึ่งจะมีภาพถ่ายที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนจากนาซ่า เช่น อุปกรณ์เครื่องมือบางอย่าง
โรงงานและยานอวกาศบนดวงจันทร์ โดยมีนักบินอวกาศและผู้เชี่ยวชาญต่างๆจะให้ข้อมูล
รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นต่างๆในเรื่องนี้ด้วย ซึ่งนี่จะเป็นหนึ่งในสารคดีที่ล้ำค่า
รวมทั้งยังเป็นสารคดีทีเชื่อมโยงกับการครบรอบ 45 ปีของนาซ่า
ในเหตุการณ์ มนุษย์ที่เยียบบนพื้นผิวของดวงจันทร์เป็นครั้งแรกด้วย

ตัวอย่างเช่น
- ภาพเคลื่อนไหวของมนุษย์ในลักษณะพิเศษที่อ้างว่าเป็น "ETผู้หญิง"
ในระหว่างการปฏิบัติภารกิจลับไปยังดวงจันทร์ในปี 1970
ระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต เป็นภาพที่เกิดขึ้นจริงซึ่งได้มาจากข้อมูลขององค์การนาซ่า
-หลักฐานภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นการดำรงอยู่ของสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ มีลักษณะเหมือน, โรงงาน,ยานอวกาศขนาดใหญ่
-ผู้ชมจะได้เรียนรู้ว่ามีหลายสัญญาณพิเศษของการแสดงตนของต่างดาวอยู่ที่ซ่อนอยู่จากมุมมองในอีกฟากหนึ่งของดวงจันทร์ของเรา
ว่าดวงจันทร์เคยถูกใช้เป็นฐานที่ตั้งของสิ่งมีชีวิตลึกลับต่างดาวมาก่อน
- มีโครงสร้างขนาดยักษ์คล้าย "โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ " ปรากฎอยู่ใกล้ปากหลุมเครเตอร์
- เสียงการให้สัมภาษณ์ในยานพอลโล 11 ที่มนุษย์อวกาศกระซิบให้เห็นว่ามียูเอฟโอตามยานอวกาศของเขาถึงสามวัน
- นักบินอวกาศอพอลโล 14 เอ็ดการ์ มิทเชล ยืนยันว่าเขารู้ว่าสิ่งที่เรียกว่าการปรากฏตัวของมนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลกนั้นเป็นเรื่องจริง
และรัฐบาลสหรัฐเองก็ได้รับทราบเป็นเวลาหลายทศวรรษแล้ว
-วัตถุที่ไม่ปรากฏสัญชาติ ขนาดยาวหลายไมล์ ที่บินข้ามภูมิประเทศบนดวงจันทร์
- "อาคาร"ที่สูงขึ้นหลายไมล์ขึ้นมาจากพื้นผิวดวงจันทร์ (สูงกว่าสิ่งปลูกสร้างบนโลก)
- มีหลักฐานที่เป็นภาพว่าเคยมีการดำเนินการขุดเจาะขนาดใหญ่บนดวงจันทร์กับภาพที่อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะซ่อนความจริงเหล่านี้
- ภาพสะพานมีขนาดใหญ่ ที่ทอดข้ามหุบเขาบนดวงจันทร์
- ฟิลม์ภาพยนตร์ที่แสดงให้เห็นสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็น "ปล่องไฟ" บนดวงจันทร์ ที่พ่นควันออกมาสูงหลายพันฟุต
- องค์การอวกาศรัสเซียภาพถ่ายยานอวกาศดวงจันทร์ สูงคล้ายยอดแหลมของตึกกว่า 20 ไมล์ที่ตั้งตรงขึ้นจากพื้นผิวของดวงจันทร์ อย่างชัดเจน
ภาพยนตร์ลึกลับ ที่รายงานถึงมนุษย์ต่างดาว "หญิง" ในยานอวกาศ
ซึ่งถูกยืนยันว่ามีการถูกกู้ในระหว่างการปฏิบัติภารกิจลับไปยังดวงจันทร์
และการตรวจสอบโครงสร้างของลำตัว ด้วยถ่ายภาพถ่ายจากอพอลโล 15
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่น่าสนใจ ที่มีการปรากฏตัวของคนต่างดาวในวงกว้างขึ้น
เช่นภาพยูเอฟโอในท้องฟ้าของโลกเรา และในพื้นที่ขนาดมหึมา
"ยานอวกาศที่ดึงพลาสม่าจากดวงอาทิตย์" ถ่ายภาพข่าวดาวเทียมจีนในปี 2011
และภาพถ่ายที่เป็นไปได้ "ฐานต่างดาวบนดวงจันทร์" ที่ทำข่าวโลกปีก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ยังมีภาพ "ปิรามิด" ดวงจันทร์ ถ่ายภาพโดยนาซ่าที่เกือบจะเหมือนกันกับที่พบในอิรักโบราณ
ที่ถูกวิเคราะห์เป็นจะเป็นไปได้ที่มนุษย์ต่างดาวเผ่าพันธุ์เดียวกันที่อาจจะช่วยให้วัฒนธรรมโบราณล่วงหน้า
อาจจะเป็นคนที่สร้างโครงสร้างเหล่านี้บนดวงจันทร์.....

http://www.gruesomehertzogg.com/ali...xposed-syfy-channel-world-premiere-july-20th/

Aliens On The Moon.The Truth Exposed 2014
มีย้อนหลังให้ชมกันแล้วนะครับ

ช่วงที่ 1
Aliens On The Moon.The Truth Exposed 2014. Part 1

 

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ในเดือนกรกฎาคมนี้มีหลายข้อความที่บอกว่าการเปลี่ยนแปลง "ภายใน"
ของพวกเราหลายๆคน จะเป็นไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อีกขั้นหนึ่ง
เช่น จะรู้สึกถึงความสงบลึกๆอยู่ภายในอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นต้น

มันมีข้อความหนึ่ง ที่ผมกำลังแปลอยู่ ที่กำลังเป็นแรงกระตุ้นให้ผมอยู่
ให้หันมาพิจารณา "ความต้องการ" หรือ สิ่งที่เราคิดว่า "สำคัญ" ในชีวิตดูใหม่อยู่
ว่ามันอยู่ในระดับไหน และสำคัญจริงๆอย่างที่เราคิดหรือไม่..

ซึ่งเดี๋ยวผมจะเอามาโพสต์ให้อ่านนะครับ

มันจะประมาณว่า ด้วยความที่พวกเราหลายคน ที่เมื่อเดินมาเส้นทางนี้สักระยะหนึ่งแล้ว
ก็จะรู้อะไรเป็นอะไรมากพอสมควรแล้ว ซึ่งก็รวมถึง เรื่องกฎแห่งการเนรมิตด้วย
ดังนั้น อะไรก็ตามที่เคยเป็นสิ่งที่เราขาดแคลน อยากได้ อยากมี อยากเป็น
เราจึง "ทดลอง" เนรมิต หรือ ดึงดูดมันเข้ามา ด้วยความคิดและความรู้สึกของเรา
โดยพยายามสั่นสะเทือนอยู่ในระดับที่สิ่งที่เป็นบวกเหล่านั้นจะสามารถเข้ามาสู่เราได้

ซึ่งต่างมิติก็เคยพูดเอาไว้แบบนี้เหมือนกัน ที่ประมาณว่า ในช่วงแรกๆ
พวกเราก็จะพยายามใช้พลังอำนาจแห่งการเนรมิตของตัวเอง
เพื่อเนรมิตเอาสิ่งที่เป็นความต้องการส่วนตัวเข้ามาให้ตัวเองก่อน
แล้วจากนั้น พวกเราก็จะเริ่ม "พอ" แล้วก็จะหันไปจดจ่ออยู่กับ
การให้ความช่วยเหลือ หรืออุทิศตัวเพื่อคนอื่นและส่วนรวมต่อไป

ประมาณว่า เป้าหมายในการดำรงชีวิตของพวกเราก็จะเริ่มเปลี่ยนไป
เมื่อเรารู้แล้วว่า จริงๆแล้ว สิ่งต่างๆทางโลกเหล่านั้น มันไม่ได้สำคัญมากขนาดที่เราเคยคิดหรอก
เพราะว่ามันยังมีเป้าหมายที่สูงขึ้นไปกว่านั้นอยู่อีกมากมาย

ดังนั้น การ "วาง" แบบเป็นธรรมชาติ ก็เลยจะค่อยๆเกิดขึ้นกับพวกเรา
เพราะว่ากุญแจสำคัญคือ "ระดับความสั่นสะเทือน" ของพวกเราเอง
ที่เมื่อมันยกระดับขึ้นสูงมากพอระดับหนึ่งแล้ว สิ่งต่างๆที่เคยอยู่ในระดับเดียวกับมัน
แต่ตอนนี้ได้กลายเป็นสิ่งที่มีระดับความสั่นสะเทือนต่ำกว่าไปซะแล้ว
ก็จะค่อยๆถูก "ปล่อยไป" เพราะว่ามันไม่ match กันอีกต่อไปแล้ว

ดังนั้น สิ่งที่เป็นวัตถุธาตุทางกายภาพ, สิ่งทางโลก และความสุขทางโลกทั้งหลาย
ก็เลยจะค่อยๆลดความสำคัญลงไปเรื่อยๆจนหมดความสำคัญไปในที่สุด

และทั้งหมดที่ผมกล่าวมานี้ ก็คือประเด็นสำคัญของคำสอนของพระพุทธเจ้าเองด้วย
เห็นไหมหละครับ..มันสอดรับกันไปหมดเลย..
แต่ไม่รู้ว่าคนอื่นจะเห็นแบบเดียวกับที่ผมเห็นหรือเปล่านะครับ

.......................................

 

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

แล้วก็ช่วงนี้ ผมก็กำลังอ่านหนังสืออีกเล่มหนึ่งอยู่
ชื่อหนังสือคือ Life and Teaching of the Masters of the Far East
มันเป็นหนังสือชุด แต่ที่ผมกำลังอ่านเป็นแค่เล่มแรก
ซึ่ึ่งทุกๆท่านก็สามารถดาวน์โหลดเอามาอ่านได้ด้วยเช่นเดียวกัน
จากลิงค์ตรงนี้ครับ

http://www.horuscentre.org/images/Life_and_Teaching-Vol_1.pdf

อ่านแล้วบอกได้เลยว่า ติดงอมแงมเลยหละครับ
เพราะว่า ไม่เพียงแต่หลักการณ์คำสอนของ Masters เหล่านั้น
จะตรงกับข้อความจากต่างมิติทั้งหลาย แบบแทบจะไม่มีจุดผิดเพี้ยนเลยแล้ว
มันยังทำให้เราได้เปิดใจกว้างออกไปอีกด้วย เกี่ยวกับ "สิ่งที่เป็นไปได้"

คือหนังสือนี้ ผู้เขียนบอกว่ามันเป็นเรื่องเล่าประสบการณ์ของพวกเขาเอง
ที่เป็นคณะผู้ทำการศึกษาด้านจิตวิญญาณกลุ่มหนึ่ง
จำนวน 11 คน ที่เดินทางไปที่อินเดีย เพื่อไปทำการศึกษาเรื่องนี้
แต่ก็บังเอิญได้ไปพบกับเหล่าคุรุผู้รู้แจ้งแล้วหลายคนที่นั่น
แล้วก็เลยได้ติดตามคุรุเหล่านั้นไปยังที่ต่างๆ เพื่อดูวิถีชีวิตของพวกเขา

ซึ่งในเรื่องเล่าในหนังสือนี้นั้น มันเกินอัศจรรย์ซะอีก
เพราะว่าคุรุเหล่านั้นได้แสดงปาฏิหาริย์มากมายให้พวกเขาดูแบบจะๆ
และคุรุเหล่านั้นก็พูดอยู่เสมอด้วยว่า ใครๆก็ทำแบบนี้ได้ด้วย
ถ้ามีระดับจิตสำนึกอยู่ในระดับ Christ Consciousness แล้ว
หรือประมาณว่าถ้าเข้าถึงและรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าได้แล้ว

คำสอนของคุรุพวกนั้น เต็มไปด้วยหลักการณ์ที่มีเหตุมีผลแบบอภิปรัชญา
ไม่ใช่แบบไสยศาสตร์ หรือปาฏิหาริย์แต่อย่างใดเลย
พวกเขาบอกเสมอว่า มันไม่มีปาฏิหาริย์อะไรมาเกี่ยวข้องกับสิ่งที่พวกเขาทำนี้หรอก
มันมีแต่ "กฎขั้นสูงกว่า" เท่านั้นแหละ ที่ถ้าใครรู้จักเอามาใช้
ก็จะสามารถทำได้แบบนี้เช่นเดียวกัน

ปาฏิหาริย์ที่ผมพูดถึงนั้นก็เช่น เมื่อถึงคราวไม่มีอาหาร
คุรุพวกนั้นก็จะเนรมิตมันขึ้นมากลางอากาศเลย
พวกเขาบอกว่าจักรวาลนี้เต็มไปด้วยศักยภาพแห่งความเป็นไปได้
ที่รอคอยให้ความคิดและความรู้สึกของเราไปดึงมันออกมาใช้อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
ดังนั้น ถ้าใครใช้เป็น ก็เลยจะสามารถทำได้เช่นเดียวกันนี้ด้วย เป็นต้น

นอกจากนี้ ตามเรื่องเล่าในหนังสือนั้น พวกเขายังสามารถเดินบนน้ำได้
เมื่อถึงคราวที่ต้องข้ามแม่น้ำอันกว้างใหญ่ไปจริงๆ
และเมื่อตกอยู่ในวงล้อมของกองเพลิงพวกเขาก็สามารถเดินลุยไปได้
โดยไม่ได้รับอันตรายใดๆเลย และคำอธิบายของพวกเขาก็คือ
พวกเขาแค่ยกระดับความสั่นสะเทือนของกายเนื้อของตัวเองขึ้น
ให้สูงกว่าระดับความสั่นสะเทือนของไฟซึ่งอยู่ในมิติที่สามนี้เท่านั้นเอง
แล้วไฟก็เลยไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้

พวกเขายังหายตัวไปไหนมาไหนได้เป็นปกติ ไม่เกี่ยงเรื่องระยะทาง
และพวกเขาก็สามารถโทรจิตถึงกันได้ตลอดเวลา
รวมถึงพวกเขายังสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับคนป่วย
แม้จะตาบอดมาแต่กำเนิดก็ตาม ให้หายในบัดดลได้ด้วย

โอ..มีมากมายก่ายกองครับ แต่ที่สำคัญคือ มันเป็นความสามารถ
หรือศักยภาพตามธรรมชาติของมนุษย์ทุกๆคนที่จะทำได้อยู่แล้ว
หลายๆครั้งที่พวกเขาอธิบายสิ่งที่พวกเขาทำให้ผู้เขียนฟัง
พวกเขาก็จะบอกว่า มีโมเลกุลไหนในร่างกายของพวกเขา
ที่ต่างจากของมนุษย์ปกติธรรมดาไหม๊ แต่สิ่งที่ต่างกัน
มันอยู่ภายใน อะไรประมาณนั้นหนะครับ

อ้อ..ลืมบอกไปอีกว่า พวกเขาอายุยืนยาวหลายร้อยปีด้วยนะครับ
คิดว่าป่านนี้ก็คงจะยังอยู่มั๊ง ซึ่งก็สอดคล้องกับตำนานเรื่อง
หลวงปู่เทพโลกอุดร หรือ หลวงปู่ในดง ของไทยเราด้วยนะครับ
ที่พวกท่านก็สามารถที่จะอยู่ยืนยาวแค่ไหนก็ได้ เท่าที่ต้องการ
เพราะว่าพวกท่านสามารถควบคุมและสั่งการร่างกายของตัวเองได้
ซึ่งก็ตรงกับข้อความของต่างมิติเลยว่า อันที่จริงแล้ว
พวกเราสามารถที่จะสั่งการร่างกายของตัวเองได้อยู่แล้ว
ถ้ารู้วิธีการ และถ้ามีระดับความสั่นสะเทือน/ระดับจิตสูงมากพอ

........................................

 

ตั้งแต่เป็นแฟนคลับพี่ชยุตมาก็หลายปี.วันนี้พี่ชยุตเข้ามานั่งกลางใจผมเลยอ่ะคับ
ปล.พี่ไปเอาบทความนี้มาจากไหนเนี่ยย? มันช่างตรงดิ่งเข้าจิตวิญญาณณ.ปัจจุบันขณะนี้ของผมซ่ะเหลือเกินน
ขอบคุณพี่มากนะครับ.ขอบคุณๆ(อ่านแล้ว อึ้ง.ไปชั่วขณะ)

เช่น..เป้าหมายในการดำรงชีวิตเปลี่ยนไป..จริงๆแล้วไม่ได้มีอะไรสำคัญมากมายอย่างที่เราคิด...อย่างนี้เป็นต้นครับ.

 

บางส่วนของข้อความจากคำสอนของจิตวิญญาณต้นธาตุ (Oversoul Teaching)
เรื่อง: จงอย่าหมดศรัทธากับที่ๆพวกคุณกำลังจะมุ่งหน้าไป

ผู้รับสาส์น: Wes Annac
วันที่: 17 กรกฎาคม 2014

ที่มา: Oversoul Teachings: Never Lose Faith in Where You’re Going « The Culture of Awareness

ตอนที่ : 1

กระบวนการเลื่อนระดับขึ้น (ascension) ของพวกคุณ
จำเป็นจะต้องอาศัยความเข้มแข็ง และความพากเพียรพยายามจนสุดความสามารถของพวกคุณด้วย
และในขณะที่พวกคุณกำลังเดินฝ่าระดับความสั่นสะเทือนที่ต่ำกว่าแบบนี้ไปอยู่นั้น
พวกคุณก็จะพบว่ามันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่พวกคุณจะต้องได้เจอ
ก่อนที่พวกคุณจะสามารถค้นพบสภาวะแห่งจิตสำนึก/ความตระหนักรู้
ที่สูงส่งกว่าตามที่พวกคุณปราถนาได้

มีผู้แสวงหาสัจธรรมจำนวนมากมายที่ได้สังเกตเห็นแล้วว่า
ความมืดมิดและความหนาแน่นทึบตันได้ทวีความรุนแรงขึ้น
และมีสัดส่วนที่มากขึ้น จนถึงขีดสุดแล้ว บนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ
แต่ว่าพวกคุณก็รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้มาก่อนแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่พวกคุณ
จะตัดสินใจลงมาเดินอยู่บนพื้นผิวโลก เพื่อที่จะมาให้ความช่วยเหลือชาวโลก
ให้สามารถค้นพบระดับความสั่นสะเทือนที่สูงกว่าได้ ซึ่งก็คือระดับความสั่นสะเทือน
ที่พวกคุณเคยมีความสุขกับมันก่อน ก่อนที่จะลงมาเกิดบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้นั่นเอง

พวกคุณรู้มาก่อนล่วงหน้าแล้วว่า ประสบการณ์บนโลกใบนี้
จะมีความท้าทายมากกว่าโลกแห่งความเป็นจริงอื่นๆ
ที่มีระดับความสั่นสะเทือนต่ำๆแบบเดียวกันนี้
แต่ว่าพวกคุณก็ยังมีความปราถนา และมีความกระตือรือร้นที่จะลงมาเกิด
และมาเผชิญกับความท้าทายเหล่านี้อยู่ เพราะว่าพวกคุณรู้ดีว่า
แสงสว่างจากภายในของพวกคุณ จะสามารถช่วยให้พวกคุณผ่านพ้นมันไปได้

ในตอนนี้ มีพวกคุณหลายคนที่กำลังมีระเบียบวินัยในตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมอยู่
เพราะว่าพวกคุณกำลังพยายามที่จะเชื่อมต่อกับเบื้องบน
ที่พวกคุณเพิ่งได้ค้นพบใหม่อีกครั้งหนึ่งนี้ ให้ได้มากขึ้นและอย่างมั่นคงถาวร

แต่แม้ว่าจะเป็นช่วงท้ายๆของเกมเช่นนี้ก็ตาม (เกมในโลกสามมิติ – ผู้แปล)
พวกคุณก็ยังจะมีสิทธิ์ตกม้าตายอยู่ ถ้าพวกคุณปล่อยให้ตัวเองเป็นเช่นนั้น
แล้วพวกคุณก็จะพบว่ามันยากมากที่จะกลับขึ้นไปให้ได้เหมือนเดิม


การปกป้องตัวเองจากอิทธิพลของสิ่งที่มีระดับความสั่นสะเทือนที่ต่ำกว่า

แต่แทนที่พวกคุณจะยินยอมให้ตัวเองตกม้าลงมาตายเช่นนั้น
พวกเราก็อยากจะขอสนับสนุนให้พวกคุณ เพิ่มความเข้มข้นและระเบียบวินัยในตัวเอง
ให้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งถ้าใครที่ทำมาตลอดอยู่แล้ว ก็ขอให้ทำมากขึ้นกว่าเดิมอีก
เพราะว่าถ้าพวกคุณทำให้ตัวเองกลายเป็นภาชนะที่เข้มแข็ง และสะอาดบริสุทธิ์
เพื่อรองรับความศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว พวกคุณก็จะสามารถปกป้องตัวเอง
จากอิทธิพลด้านลบของสิ่งที่มีระดับความสั่นสะเทือนต่ำๆ
หรือจาก “พลังงานกาฝาก” (energetic parasite) ทั้งหลายได้
ซึ่งพวกมันจะสามารถทำให้การรับรู้แบบยิ่งกว่าของพวกคุณ
ลดต่ำลงมาได้อย่างมาก ถ้าพวกคุณปล่อยให้มันทำเช่นนั้นได้

พวกมันสามารถที่จะเข้าถึงพวกคุณได้
ก็โดยผ่านทางการกระทำและความตั้งใจ (ด้านลบ – ผู้แปล)
ของพวกคุณเองเท่านั้น แต่ถ้าพวกคุณดำรงชีวิตอยู่ในความรัก
และมีความเข้มแข็งมากพอแล้วหละก็
พวกคุณก็จะพบว่าพวกมันจะไม่สามารถทำอะไรพวกคุณได้เลย

แต่ถ้าเมื่อใดที่พวกคุณพบว่าตัวเองถูก
“กระแสจิตที่มีระดับความสั่นสะเทือนต่ำๆ” เหล่านี้
(lower-vibrational thought forms) สิงสู่อยู่หละก็
(เกาะติดอยู่ในกายทิพยื หรือสนามพลังออร่าของเรา - ผู้แปล)
ก็จงแผ่ความรักไปให้พวกมันเสีย แล้วพวกมันก็จะจากพวกคุณไป
โดยไม่ปราถนาที่จะกลับมาอีกเลย

(หมายเหตุ: ผมไม่รู้จะแปลคำว่า thought form เป็นภาษาไทยว่าอย่างไรดี
เพื่อให้มันตรงกับสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อมากที่สุด เพราะว่ามันหมายถึง
กระแสความคิดใดๆที่มนุษย์เราส่งออกไป พร้อมกับอารมณ์ความรู้สึก
มันจะกลายไปเป็นสิ่งมีชีวิตเสมอ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ – ผู้แปล)

http://palungjit.org/threads/ประสบก...ia-และคำอธิบายของพระเยซูเรื่อง-จิตมาร.250652/

สิ่งมีชีวิตที่มีระดับความสั่นสะเทือนต่ำๆเหล่านี้
และ thought forms เหล่านี้
พวกมันจะไปอยู่ในที่ๆพวกมันจะมีอาหารกินเท่านั้น
พวกมันค้นหาพลังงานของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
พลังงานของจิตสำนึกของสาธารณะชน

(the energy of the conscious public – น่าจะหมายถึงจิตสำนึกมวลรวม
หรือ collective consciousness นะครับ – ผู้แปล)

เช่นเดียวกับคนติดยา ที่กำลังมองหายาที่จะใช้เสพอยู่
ดังนั้น เขาก็จะไปในที่ๆมียาให้เขาเสพได้
และ thought form ชั้นต่ำพวกนี้ก็เหมือนกัน
ก็จะท่องเที่ยวไปในที่ๆมีพลังงานให้พวกมันกินได้เช่นเดียวกัน
ซึ่งพลังงานที่ว่านี้ก็คือพลังงานจากมนุษย์นั่นเอง
ไม่ว่ามนุษย์ผู้นั้นจะป้อนพลังงานด้านลบให้กับพวกมัน
โดยรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม

แต่ถ้าพวกคุณสาดส่องแสงสว่างออกมาออกมาสู่จิตวิญญาณเหล่านี้
ในทุกๆครั้งที่พวกมันพยายามที่จะครอบงำพวกคุณหละก็
พวกมันก็จะหนีจากพวกคุณในทันทีเลย
แต่ไม่ใช่เป็นเพราะว่าแสงสว่างของพวกคุณไปขับไล่พวกมันหรอกนะ
แต่เป็นเพราะว่าพวกมันไม่สามารถที่จะทานทนแสงสว่าง
ของพวกคุณได้จริงๆต่างหาก

เพราะว่าเมื่อใดก็ตามที่จิตวิญญาณ หรือ thought form ใดๆ
จมดิ่งอยู่ในความมืดมิดขั้นลึกมากๆแล้ว
แสงสว่างก็จะกลายไปเป็นสิ่งที่สว่างเจิดจ้ามากเกินไปสำหรับพวกมันไป
ดังนั้น แสงสว่างก็เลยเป็นเสมือนยาพิษสำหรับพวกมันไป
ดังนั้นพวกมันจึงจำเป็นจะต้องหนีไปให้ไกลที่สุด
ก่อนที่แสงสว่างจะสาดส่องมาโดนพวกมันเข้า

และความมืดมิดที่พวกมันมีอยู่ข้างในนั้น ก็มีความบริสุทธิ์
และมีพลังแรงกล้ามากเหลือเกินด้วย
ด้วยเหตุนี้ การส่องแสงสว่างของพวกคุณไปใส่พวกมัน
จึงเท่ากับว่า พวกคุณได้ช่วยพวกมันเล็กๆน้อยๆไปแล้ว
ก่อนที่พวกมันจะหนีไป และเท่ากับว่าพวกคุณได้ช่วยเหลือตัวเองด้วย
โดยการกำจัดพลังงานของพวกมัน และอิทธิพลของพวกมันออกไป
จากปริมณฑลของตัวเอง

และด้วยเหตุนี้พวกคุณจึงสามารถที่จะแผ่เมตตาให้กับจิตวิญญาณเหล่านี้
จากระยะไกลได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องเป็นกังวลว่า
พวกมันจะพยายามมาส่งผลกระทบต่อพวกคุณ
หรือมาทำให้พวกคุณตกลงไปจมอยู่ในนิสัยเก่าๆ
และวิถีชีวิตเก่าๆที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวพวกคุณเอง
และไม่เป็นประโยชน์ต่อการหยั่งรู้ที่ยิ่งใหญ่กว่าและบริสุทธิ์กว่า
ที่พวกคุณได้เริ่มต้นขัดเกลามันมาระยะหนึ่งแล้วหรือไม่

......

เมื่อใดที่พวกคุณสามารถสลัดทิ้งผลกระทบของคุณสมบัติฝ่ายต่ำของตัวเอง
ซึ่งเป็นสิ่งที่จะต้องได้รับการเปิดเผย และทำให้เปลี่ยนแปลงไป ออกไปได้แล้ว
และเมื่อใดที่พวกคุณสามารถสลัดทิ้งเจ้า thought form ทั้งหลาย
ที่ได้กล่าวถึงไปแล้วนั้น ที่เที่ยวไปตระเวณส่งผลกระทบด้านลบต่อมนุษย์
เพื่อผลประโยชน์ของพวกมันเองอยู่นั้น ออกไปได้แล้ว
พวกคุณก็จะพบกับความน่าพิศวงอันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด
ที่พวกคุณพากันเสาะแสวงหาอยู่นั้นได้
และพลังงานของพวกคุณและพลังชีวิตของพวกคุณ
ก็จะถูกเติมให้เต็มอยู่ตลอดเวลาโดยอัตโนมัติด้วย

..............................

 

บางส่วนของข้อความจากคำสอนของจิตวิญญาณต้นธาตุ (Oversoul Teaching)
เรื่อง: จงอย่าหมดศรัทธากับที่ๆพวกคุณกำลังจะมุ่งหน้าไป

ผู้รับสาส์น: Wes Annac
วันที่: 17 กรกฎาคม 2014

ที่มา: Oversoul Teachings: Never Lose Faith in Where You’re Going « The Culture of Awareness

ตอนที่ : 2

...พวกคุณทุกๆคนที่มาที่ดาวเคราะห์โลกดวงนี้ ล้วนมาจากมิติที่สูงกว่าทั้งสิ้น
ซึ่งพวกเราก็หมายถึงพวกคุณทุกๆคนที่อยู่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้จริงๆ
ไม่ว่าพวกคุณจะเกิดมาเป็น light worker, star seed, และอื่นๆหรือไม่ก็ตาม
แต่พวกคุณทุกๆคนก็มาจากดินแดนของพระผู้สร้าง ซึ่งเป็นดินแดนที่มีความบริสุทธิ์มากที่สุด
ด้วยกันทั้งสิ้น และที่พวกคุณพากันลงมายังดินแดนที่มีระดับความสั่นสะเทือนที่ต่ำกว่าแบบนี้
ก็เพื่อที่จะมารู้และมามีประสบการณ์กับตัวเองในแบบที่แตกต่างออกไป

ในฐานะที่พวกคุณเป็นเหลี่ยมมุมหนึ่งของแหล่งกำเนิดที่รู้ทุกสิ่งทุกอย่างและรักทุกสิ่งทุกอย่างอยู่แล้ว
ดังนั้นพวกคุณจึงเสาะแสวงหาหนทางที่จะทำให้ตัวเองมีความรู้และเข้าใจตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม
จากที่เคยรู้และเข้าใจดีอยู่แล้วอีก โดยการพากันสร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นมายาการขึ้นมา
เพื่อเอาไว้เล่นสนุกกัน แต่ในท้ายที่สุดแล้ว พวกคุณกลับพากันหลงไหลและถูกหลอกลวงโดยสิ่งต่างๆ
ที่เป็นโลกแห่งความเป็นจริงที่มีระดับความสั่นสะเทือนที่ต่ำกว่า ที่พวกคุณได้พากันสร้างมันขึ้นมาเองนี้
มากขึ้นเรื่อยๆ และพวกคุณก็พากันหลงติดอยู่ในบทเรียนต่างๆที่พวกคุณได้พากันใส่เข้าไปเอง
เพื่อให้ตัวเองได้เรียนรู้และเอาชนะมันไปให้ได้ มากขึ้นเรื่อยๆด้วย

จนในที่สุดแล้ว พวกคุณก็พากันหมกมุ่นอยู่แต่กับสิ่งต่างๆที่มีระดับความสั่นสะเทือนที่ต่ำกว่า
ที่พวกคุณได้พากันสร้างมันขึ้นมาเองมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าพวกคุณรู้สึกเพลิดเพลิน
และสนุกสนานกับการสร้างสรรค์พวกมันขึ้นมามากมายเหลือเกิน จนทำให้พวกคุณหลงเข้าใจผิดไปว่า
พวกมันคือโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณ แม้ว่าอันที่จริงแล้วพวกมันจะไม่ใช่ก็ตาม

พวกคุณได้พากันยึดติดอยู่กับความปราถนาของตัวเองมากเหลือเกิน
ที่จะสร้างสรรค์ และมีประสบการณ์กับมายาการให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้
และพวกคุณก็ได้พากันวางแผนชีวิตในแต่ละภพชาติของตัวเองบนโลกใบนี้
ให้มีรายละเอียดมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อีกด้วย


แรงขับดันตามธรรมชาติของการสร้างสรรค์

พวกคุณทุกๆคนต่างก็มีแรงกระตุ้นตามธรรมชาติให้อยากจะสร้างสรรค์กันอยู่แล้ว
และโดยที่ไม่ต้องบอกเลยก็รู้ว่าแรงกระตุ้นนี้ จะมีความเข้มข้นรุนแรงมากกว่าอย่างมาก
เมื่ออยู่ในมิติที่สูงๆกว่าทั้งหลาย และในตอนที่พวกคุณเริ่มลงมาแช่อยู่ในมายาการ
ของความสั่นสะเทือนที่ต่ำๆกว่าแบบนี้ใหม่ๆนั้น พวกคุณก็ได้ค้นพบว่า
ตัวเองสามารถสร้างสรรค์ได้ และพวกคุณจึงปักใจเชื่อว่าพวกมันคือโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณเอง

และพวกคุณก็ต้องการที่จะสร้างสรรค์ให้มากขึ้นไปเรื่อยๆอีก และต้องการที่จะเรียนรู้,
เจริญเติบโตและเข้าใจให้มากขึ้นไปอีกเรื่อยๆด้วย
ดังนั้น จิตวิญญาณระลอกแล้วระลอกเล่า จึงพากันลงมาจมปรักอยู่ในมายาการ
ที่พวกเขาพากันสร้างสรรค์มันขึ้นมาเองนี้ อย่างมากมาย

จิตวิญญาณทั้งหลายที่อยู่บนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ
โดยเฉพาะผู้ที่กำลังยึดติดอยู่กับการได้มาซึ่งวัตถุสิ่งของต่างๆทางโลกนั้น
ในบางกรณี โดยพื้นฐานแล้ว ก็จะเป็นจิตวิญญาณที่ก่อนหน้านั้น
เคยถูกครอบงำด้วยความอยากที่จะสร้างสรรค์โลกแห่งความเป็นจริงใหม่ๆขึ้นมานั่นเอง
เพื่อที่จะให้เกิดความท้าทายใหม่ๆ และเกิดโอกาสใหม่ๆ
สำหรับการเจริญเติบโตของตัวพวกเขาเอง

และในท่ามกลางพวกคุณ ผู้ใดที่กำลังจมปรักอยู่ในโลกทางกายภาพนี้มากที่สุด
ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่เคยมีความกระตือรือร้น ที่จะสร้างสรรค์โลกแห่งความเป็นจริง
ที่มีระดับความสั่นสะเทือนต่ำๆนี้ขึ้นมาใหม่อยู่เรื่อยๆมากที่สุดนั่นเอง
เพื่อที่จะได้มีประสบการณ์และได้เรียนรู้บทเรียนจากมัน

ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พวกเรารู้สึกเห็นอกเห็นใจพวกคุณทุกๆคนเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่กำลังหลงติดอยู่ในความมืดมิด เพราะว่าก่อนหน้านี้
พวกคุณทุกๆคนต่างก็เคยเป็นผู้สร้างที่มีแต่ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา, มีความสุข
และมีความปิติสุขอย่างล้นเหลือมาก่อน ที่พากันสร้างสรรค์โลกแห่งความเป็นจริง
ที่มีความสั่นสะเทือนต่ำๆนี้ขึ้นมา เพื่อมีประสบการณ์, และเพื่อเรียนรู้ และเพื่อค้นหาตัวเองในวิถีทางใหม่ๆ

ผู้ที่มีความมืดมิดมากที่สุด ที่อยู่ท่ามกลางพวกคุณในวันนี้นั้น
ต่างก็เคยเป็นผู้ที่มีความสุขมากที่สุด, เบิกบานมากที่สุด และปิติสุขมากที่สุด
ในการสร้างสรรค์โลกแห่งความเป็นจริงที่มีระดับความสั่นสะเทือนต่ำๆกว่าแบบนี้มาก่อนทั้งสิ้น
แต่เพราะว่าพวกเขาเพลิดเพลินกับสิ่งสร้างสรรค์ของพวกเขาเองมากจนเกินไป
จนทำให้พวกเขาถลำลึกลงไปติดอยู่ในสิ่งเหล่านั้น และติดอยู่ในความมืดมิด
ที่มาพร้อมกับพวกมันมากขึ้นเรื่อยๆๆ

ดังนั้น พวกเราจึงกำลังตั้งตอรอคอยด้วยความตื่นเต้น ที่จะให้ถึงเวลา
ที่พวกคุณทุกๆคนที่อยู่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ จะสามารถค้นพบ
จิตสำนึก/ความตระหนักรู้แห่งการสร้างสรรค์ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานใหม่อีกครั้งหนึ่งได้
และพวกเราก็รู้สึกสงสารและเห็นใจผู้ที่กำลังหลงติดอยู่ในระดับความสั่นสะเทือนที่ต่ำๆกว่าแบบนี้อย่างมากด้วย
เพราะว่าก่อนหน้านั้น พวกเขาเคยมีความสุขอย่างมาก และเคยมีความตื่นเต้นอย่างมาก
ที่ได้สร้างสรรค์และที่ได้สำรวจพวกมัน

ในขณะที่ มันเป็นที่รู้กันดีในท่ามกลางผู้ที่อยู่ในมิติที่สูงๆกว่าทั้งหลายว่า
การสร้างสรรค์และการลงมามีประสบการณ์กับโลกแห่งความเป็นจริง
ที่อยู่ในระดับความสั่นสะเทือนต่ำกว่าแบบนี้ เพื่อที่จะมามีความสนุกสนานอย่างเดียวนั้น
มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะโง่เขลา เพราะว่ามันสามารถที่จะทำให้เกิดประสบการณ์
ที่แสนสาหัสแบบนี้ขึ้นมาได้ ซึ่งประสบการณ์ที่แสนสาหัสที่ว่านี้แหละ
ก็คือสิ่งพวกเรากำลังช่วยกันหาทางแก้ไขให้พวกคุณอยู่ในขณะนี้แหละ
แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเราจะเคยมีความสุขมากที่ได้มองเห็นพวกคุณทุกๆคน
สร้างสรรค์และมีประสบการณ์กับพวกมันอย่างถึงอกถึงใจก็ตาม

พวกเราพูดในฐานะของผู้ที่ไม่ได้สร้างโลกแห่งความเป็นจริงที่อยู่ในมิติที่ต่ำๆกว่าแบบนี้ขึ้นมา
เพื่อที่จะมีประสบการณ์อีกต่อไปแล้ว แต่พวกเราหลายๆรูปธรรม ที่กำลังพูดกับพวกคุณอยู่ในขณะนี้
ก็คือผู้ที่เคยไปหลงติดอยู่ในความมืดมิด ที่พวกคุณหลายคนบนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ
กำลังพากันหลงติดอยู่ในขณะนี้แหละ ซึ่งก็เป็นเพราะว่าพวกเราเองนั่นแหละ
ที่กระตือรือร้นอยากจะสร้างสรรค์และมีประสบการณ์กับมิติที่ต่ำๆกว่าแบบนี้เอง

แต่ว่าหลังจากนั้น ความกระตือรือร้นอันนี้ของพวกเรา ก็ได้เปลี่ยนไปเป็นความกระตือรือร้น
ที่จะสำรวจโลกแห่งความเป็นจริงที่อยู่ในมิติที่สูงๆกว่าแทน ซึ่งมิติที่สูงๆกว่าที่ว่านี้
ก็คือที่ๆพวกเราจากมา เพื่อที่จะลงมาสร้างสรรค์มายาการในมิติที่ต่ำๆกว่านี้นั่นเอง
แต่ว่าในตอนนี้พวกเราไม่ได้หลงติดอยู่ในมายาการเหล่านี้อีกต่อไปแล้ว
และในขณะนี้พวกเราก็กำลังช่วยเหลือพวกคุณให้สามารถข้ามพ้นมายาการเหล่านี้ไปให้ได้อยู่

พวกเราหลายรูปธรรม ได้พากันส่ง “ประกายแสงแห่งพระผู้เป็นเจ้า” ของตัวเองลงมาเกิด
บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือพวกคุณ ผู้ที่กำลังหลงติดอยู่ในความมืดมิดอย่างหนัก
จนดูเหมือนว่าพวกคุณจะไม่สามารถปลดปล่อยมันไปได้เลย และการลงมาเกิด
ของ star seed, light worker และอื่นๆเหล่านี้ ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะ
ช่วยบำบัดรักษาความบิดเบือนที่ได้กักขังจิตใจ และหัวใจของพวกคุณทุกๆคนบนโลกใบนี้เอาไว้อยู่
จนทำให้พวกคุณหลงติดอยู่ในมายาการของวัตถุธาตุทางกายภาพเหล่านี้ จนโงหัวไม่ขึ้นนั่นเอง

ก่อนหน้านี้ พวกเราก็เคยจดจ่ออยู่กับการสร้างสรรค์โลกแห่งความเป็นจริงที่อยู่ในมิติที่ต่ำๆกว่าแบบนี้เหมือนกัน
เพื่อที่จะได้มีประสบการณ์กับมัน แต่ว่าตอนนี้พวกเรากำลังจดจ่ออยู่กับการให้ความช่วยเหลือพวกคุณทุกๆคนอยู่
เพื่อที่จะให้พวกคุณทุกๆคนมีความเข้าใจว่า

พวกคุณคือรูปธรรมชีวิตที่ไร้ขีดจำกัด
ที่เกิดขึ้นมาจากพลังงานของพระผู้สร้าง
และพวกคุณก็คือสิ่งนี้เสมอมาซะด้วย
และพวกคุณก็กำลังสร้างสรรค์อยู่ตลอดเวลา
ไม่ว่าจะด้วยจิตสำนึกหรือด้วยจิตใต้สำนึกก็ตาม

และพวกคุณก็กำลังสร้างสรรค์อยู่ในมิติอื่นๆอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย
โดยอาศัยความสั่นสะเทือนของตัวตนที่อยู่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ของพวกคุณเอง
และโดยอาศัยเหลี่ยมมุมหรือตัวตนอื่นๆจำนวนมากมายมหาศาล
ของ “จิตวิญญาณต้นธาตุ” (oversoul) ของพวกคุณเอง ที่ถูกส่งกระจายออกไป
เพื่อให้ไปมีประสบการณ์อยู่ในมิติต่างๆจำนวนมากมายก่ายกอง
โดยมีเป้าหมายสูงสุดก็คือ เพื่อช่วยยกระดับสรรพสิ่งทั้งปวงให้สูงขึ้น
และความสั่นสะเทือนที่พวกคุณพากันแผ่ส่งออกมานั้น
ก็คือสิ่งที่จะเป็นตัวกำหนดสิ่งที่พวกคุณจะสร้างสรรค์ขึ้นมานั่นเอง

......................

 

บางส่วนของข้อความจากคำสอนของจิตวิญญาณต้นธาตุ (Oversoul Teaching)
เรื่อง: จงอย่าหมดศรัทธากับที่ๆพวกคุณกำลังจะมุ่งหน้าไป

ผู้รับสาส์น: Wes Annac
วันที่: 17 กรกฎาคม 2014

ที่มา: Oversoul Teachings: Never Lose Faith in Where You’re Going « The Culture of Awareness

ตอนที่ : 3

ความมหัศจรรย์ของศิลปะที่สร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยความสั่นสะเทือนระดับสูง


ถ้าพวกคุณกำลังอยู่ในระดับความสั่นสะเทือนต่ำๆระดับใดระดับหนึ่งอยู่
ผลงานการสร้างสรรค์ของพวกคุณก็จะมีระดับความสั่นสะเทือนต่ำๆตามไปด้วย
แต่ถ้าจิตใจและหัวใจของพวกคุณตั้งมั่นอยู่ในความบริสุทธิ์แล้ว
พวกคุณก็จะสร้างสรรค์งานศิลป์อันแสนมหัศจรรย์ ที่มีระดับความสั่นสะเทือนที่สูงๆ
ขึ้นมาอยู่ตลอดเวลาแทน ซึ่งพวกเราบอกได้เลยว่า การได้เห็นผลงานการสร้างสรรค์เหล่านี้นั้น
เป็นความประทับใจอย่างมาก

ความจริงที่ว่า มีพวกคุณจำนวนมากมายเหลือเกิน ที่สามารถสร้างสรรค์งานศิลป์ที่น่าทึ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้
แม้ว่าจะอยู่ภายใต้ระดับความสั่นสะเทือนที่ต่ำๆของโลก ที่ต่ำจนแทบจะหายใจไม่ออกแบบนี้ก็ตาม
ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งอย่างมาก จนเกินจะบรรยาย และพวกเราก็กำลังเฝ้ามองดูพวกคุณด้วยความประหลาดใจ
ที่พวกคุณพอสะดุดล้มแล้ว ก็ยังสามารถก้าวข้ามมันไปได้อีกอยู่ จนแทบจะในลมหายใจเดียวกันเลยด้วยซ้ำไป
พวกเราทึ่งและประหลาดใจอย่างมาก ว่าพวกคุณสามารถอยู่ในความสมดุลอยู่ได้อย่างไร

จากมุมมองของพวกเรา สิ่งต่างๆที่พวกคุณกำลังประสบอยู่นี้ คือสิ่งที่ในทางปฏิบัติแล้ว
พวกเราไม่สามารถหยั่งรู้ได้เลย ว่ามันจะยากเย็นสักแค่ไหน และมันจะทำให้เกิดความทุกข์ยากขึ้นมากสักแค่ไหนด้วย
แต่อีกครั้งหนึ่ง ก็มีพวกเราหลายรูปธรรมเหมือนกัน ที่ได้เคยมีประสบการณ์กับมิติที่ต่ำๆกว่าแบบนี้มาแล้ว
ในแบบของพวกเราเอง แต่ว่าความมืดมิดและความหนาแน่นทึบตันของระดับพลังงานของดาวเคราะห์โลกนั้น
มีความสุดขั้วกว่าดาวเคราะห์ดวงอื่นๆส่วนใหญ่อย่างมาก และดังนั้น พวกเราส่วนใหญ่ที่กำลังพูดกับพวกคุณอยู่นี้
จึงยังไม่เคยมีประสบการณ์กับความหนาแน่นทึบตัน ในระดับที่พวกคุณทุกๆคนกำลังประสบอยู่นี้ มาก่อนเลย

และในช่วงสุดท้ายของการสื่อสารชุดนี้ พวกเราอยากจะบอกว่า
พวกเรากำลังตั้งตารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ และพวกเราก็มีความสุขอย่างเหลือล้น
เมื่อนึกถึงสิ่งที่พวกคุณกำลังจะได้ประสบในวันข้างหน้านี้
และถ้าเพียงแต่พวกคุณคนใด หลีกทางออกไปเพื่อให้กระแสแห่งความศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง
เข้ามาทำหน้าที่แทนได้เท่านั้นแหละ (ยอมให้จิตวิญญาณหรือตัวตนอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเราเอง
เข้ามากำกับการแสดงแทนตัวตนที่เป็น ego ของตัวเราเอง – ผู้แปล)
พวกคุณก็จะพบว่า และจะได้เห็นว่า ญาณหยั่งรู้หรือญาณทิพย์ของพวกคุณ
จะนำพาสิ่งที่ยอดเยี่ยมและมหัศจรรย์ต่างๆมากมาย มาสู่การรับรู้ของพวกคุณ

และถ้าหากว่าพวกคุณคอยเปิดรับการชี้นำทาง
ของวิญญาณเบื้องบนอยู่ตลอดเวลาแล้วหละก็
และในขณะเดียวกันก็ยืนหยัดเผชิญหน้ากับ
ระดับความสั่นสะเทือนที่ต่ำกว่าแบบนี้อย่างเข้มแข็งหละก็
พวกคุณก็จะสามารถก้าวไปข้างหน้าต่อไปได้
และก่อนที่พวกคุณจะรู้ตัว ระดับความสั่นสะเทือนของพวกคุณ
ก็จะถูกยกระดับให้สูงขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว
แล้วเมื่อนั้นจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณ
ก็จะมีความบริสุทธิ์มากขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก
จนทำให้พวกคุณรู้สึกสบายขึ้นกว่าเดิม
และมีความปิติสุขมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

จงจำเอาไว้ว่า นี่คือช่วงเวลาที่ยากเย็นที่สุดสำหรับพวกคุณ
และจงอย่าหมดสิ้นศรัทธากับที่ๆพวกคุณกำลังจะมุ่งหน้าไปสู่อยู่นี้
พวกเราทั้งหมดจะอยู่ที่นี่เพื่อพวกคุณเสมอ
และพวกเราก็ขอสนับสนุนให้พวกคุณ
จงร้องขอพลังงานจากพวกเรา และจงร้องขอคำแนะนำจากพวกเรา


(Permission is given to spread this post far and wide, as long as the following bio is included.)

I’m a 21 year old awakening seeker and creator of
The Culture of Awareness daily news site.

The Culture of Awareness features daily spiritual and alternative news,
as well as articles I’ve written and more. Its purpose is to awaken
and uplift by providing material that’s spiritually inspired
and/or related to the fall of the planetary elite and our entrance
into a positive future.

I can also be found at Oversoul Teachings, The Golden Age of Gaia,
Lightworkers.org, Ashtar Command Crew, Facebook
(Wes Annac and The Culture of Awareness), and Twitter.

………..........................

 

HAVE A GOOD DAY , THANK YOU > Light ​

 

บางส่วนของข้อความจากครายออน
เรื่อง : The Cosmic Lattice – Part 1

ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
วันที่: พฤศจิกายน 1997

ที่มา: KRYON - Cosmic Lattice PI


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


มนุษย์ต่างดาว (E.T.s)


(หมายเหตุ: คำว่า “มนุษย์ต่างดาว” ในที่นี้ผมหมายถึงรูปธรรมชีวิตจากต่างดาว
ที่มีกายเนื้อรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งอยู่ ที่เราสามารถมองเห็นพวกเขาได้
และอาจจะอยู่ในมิติเดียวกับเราด้วยซ้ำไป

ส่วนคำว่า “รูปธรรมชีวิตจากต่างมิติ” ที่ผมชอบใช้อยู่เป็นประจำหนะ
หมายถึง ผู้ที่อยู่ต่างมิติจริงๆ ซึ่งแน่นอนว่าพวกเราอาจจะไม่สามารถมองเห็นพวกเขาเลยก็ได้
ซึ่งคำๆหลังนี้ ผมจะหมายรวมถึงพวกทวยเทพทั้งหลายด้วย – ผู้แปล)


ฉันอยากจะบอกพวกคุณเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวบางกลุ่ม
ที่เกี่ยวข้องกับ “โครงผลึกของเอกภพ” (the Cosmic Lattice) ซะหน่อย
ว่า..มันมีมนุษย์ต่างดาวอยู่กลุ่มหนึ่งที่ตอนนี้ กำลังอยู่บน หรืออยู่ใกล้ๆ
หรืออยู่รอบๆ ดาวเคราะห์โลกดวงนี้ของพวกคุณอยู่

(ข้อความนี้สื่อสารมาตั้งแต่ปี 1997 หนะนะครับ แต่ว่าตอนนี้
ตามคำบอกเล่าของต่างมิติหลายท่าน บอกว่า
พวกนี้ถูกขับไล่ออกไปจากโลกหมดแล้ว ตั้งแต่ก่อนสิ้นปี 2012 โน่นแล้ว – ผู้แปล)

ซึ่งมนุษย์ต่างดาวกลุ่มนี้ มีความกระหายใคร่รู้
เรื่องราวเกี่ยวกับพวกคุณอย่างเหลือล้น
พวกเขาสะกิดพวกคุณ และแหย่พวกคุณ และก็ลักพาตัวพวกคุณไป
เพราะว่าเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลเพียงหนึ่งเดียว
ที่ทำให้พวกเขาเกิดความอยากรู้อยากเห็น
เกี่ยวกับพวกคุณเป็นนักเป็นหนา ก็คือ..
พวกคุณ..ที่รักทั้งหลาย..เพราะว่าพวกคุณมีชิ้นสิ่วนหนึ่ง
ของพระผู้เป็นเจ้า อยู่ภายในตัวของพวกคุณเองทุกๆคน
(หมายถึงตัวตนที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นทวิภาวะนี้)

ดังนั้น พวกคุณจึงสามารถที่จะสื่อสารกับ “โครงผลึกของเอกภพ” ได้
และผู้มาเยือนเหล่านี้ ก็สามารถมองเห็นการสื่อสารที่ว่านี้
ของพวกคุณได้อย่างชัดเจนซะด้วย เพราะว่าโครงผลึกของเอกภพที่ว่านี้
ก็คือแหล่งกำเนิดพลังงานของพวกเขาเองด้วย!

ดังนั้น พวกเขาจึงต้องการที่จะรู้ว่า “สิ่งมีชีวิตที่กำลังอาศัยอยู่
บนดาวเคราะห์ดวงเล็กๆดวงนี้ และก็มีอยู่เฉพาะบนดาวเคราะห์ดวงนี้เท่านั้นด้วยนั้น
คือสิ่งมีชีวิตชนิดไหนกันแน่ ทำไมถึงได้มีพลังอำนาจชนิดนี้ได้ !!”
ซึ่งตอนนี้พวกคุณก็อาจจะเข้าใจมากขึ้นแล้วก็ได้

ที่รักทั้งหลาย และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ว่าทำไม
มนุษย์ต่างดาวพวกนั้น จึงไม่เข้ามายังโลก
แล้วก็เอายานลงมาจอดแบบสบายๆ แล้วก็ไปพบกับพวกคุณ
แล้วก็ไปถามพวกคุณแบบตรงๆไปเลย
เกี่ยวกับพลังอำนาจอันน่าทึ่งนี้ของพวกคุณ

นั่นก็เพราะว่า พวกเขารู้ว่าพวกคุณยังไม่เข้าใจพลังอำนาจ
ที่ตัวเองมีอยู่ซะด้วยซ้ำไปยังไงหละ
แล้วก็อีกอย่างหนึ่ง เพราะว่า “เจตจำนง” (intent) ของพวกคุณ
มีพลังอำนาจอย่างมากจนเหลือเชื่อ มากจนกระทั่งว่า
อาศัยพวกคุณเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
ก็สามารถที่จะสลายพวกเขา
ให้กลายเป็นไอไปได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว!
(ถ้าพวกคุณรู้ว่าจะต้องทำยังไง)

นั่นแหละคือพลังอำนาจที่พวกคุณมีหละ! และเพราะเหตุนี้
พวกเขาจึงจับตัวพวกคุณไปในขณะที่พวกคุณกำลังหวาดกลัวอยู่ ทีละคนๆ
เพราะว่าพวกเขายอมรับในพลังอำนาจของพวกคุณ
ซึ่งเป็นพลังอำนาจที่พวกเขาอยากจะมีบ้างนั่นเอง

และพวกเขาก็สงสัยเหลือเกิน
ว่าพวกคุณสามารถเชื่อมต่อกับพลังอำนาจที่ว่านี้ได้อย่างไร?

และเพราะว่า “ความกลัว” จะเป็นตัวทำให้
“ความเบิกบาน” และ “ความคิดสร้างสรรค์” ของพวกคุณหมดไป
และเพราะว่าความคิดสร้างสรรค์ และ ความเบิกบานนั้น
มีความเชื่อมต่ออยู่กับ “เจตจำนง” ของพวกคุณด้วย
ดังนั้น การกำจัดความคิดสร้างสรรค์
และ ความเบิกบานของพวกคุณให้หมดไป
(โดยการทำให้เกิดความกลัว - ผู้แปล)
จึงทำให้พวกเขาสามารถลักพาตัวพวกคุณไปได้

พวกเราเคยบอกพวกคุณไปก่อนหน้านี้แล้วว่า
พวกคุณไม่จำเป็นจะต้องไปกลัวสิ่งมีชีวิตพวกนี้เลย!

เพราะว่าถ้าพวกเขาเข้ามาหละก็ ทั้งหมดที่พวกคุณจะต้องทำก็คือ
มองไปที่พวกเขา แล้วก็พูดว่า “ฉันไม่อนุญาตให้พวกคุณมาอยู่ที่นี่” เท่านั้นแหละ
แล้ว..ที่รักทั้งหลาย พวกคุณเชื่อไหม๊ว่า
พวกเขาก็จะรีบเผ่นหนีไปจนแทบไม่ทันเลยทีเดียวหละ
เพราะว่าพวกคุณมีพลังอำนาจแห่ง “เจตจำนง” อยู่
ซึ่งเชื่อมต่ออยู่กับต้นกำเนิดพลังงานของจักรวาล
ที่เรียกว่า “โครงผลึกของเอกภพ” (the Cosmic Lattice) ยังไงหละ
ซึ่งพวกเขารู้ดี..แต่ที่น่าขำก็คือ พวกคุณกลับไม่รู้..ฮิฮิ

............................................

 

จิตวิญญาณทุกดวง มีพลังอำนาจ มีพลังความรัก มีพลังปัญญาเต็มเปี่ยมอยู่ในทุกจิตวิญญาณอยู่แล้ว ดึงมันออกมาใช้แล้วจะเห็นความมหัศจรรย์ กฏของจักรวาลข้อหนึ่งก็คือ ไม่มีจิตวิญญาณใดเป็นใหญ่กว่าอีกจิตวิญญาณหนึ่ง ทุกๆจิตวิญญาณเสมอภาคเท่าเทียมกันหมดทุกเอกภพ

โลกใบนี้เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า The Matrix สิ่งมีชีวิตในโปรแกรมโลกใบนี้มีทั้งสิ่งมีชีวิตที่เป็นของเหลว สิ่งมีชีวิตที่เป็นก๊าซ สิ่งมีชีวิตที่เป็นของแข็งที่เป็นกายหยาบของมนุษย์รวมด้วย เผ่าพันธ์ที่ฉลาดที่สุดคือสิ่งมีชีวิตที่เป็นก๊าซ ก๊าซจะมีลำดับชั้นของสถานะที่ซับซ้อน

ร่างกายเนื้อของเราเป็นแค่ยานพาหนะชั่วคราวที่จิตวิญญาณได้เลือกเอาไว้เพื่อใช้บรรจุจิตวิญญาณชั่วคราวในระยะเวลาสั้นๆในขณะที่กำลังอยู่ในโลกวัตถุธาตุทางกายภาพนี้เท่านั้น แต่จิตวิญญาณของเราไม่มีวันตาย

 

เราเบื่อยานพาหนะแล้วววว.. แต่มันยังวิ่งอยู่ เราไม่กล้ากระโดดลง.. (กลัวเจ็บ)

 

THE HILARION’S WEEKLY MESSAGE 2014
HILARION 2014 - The Rainbow Scribe
July27-August 8, 2014
วันที่โพสท์ _Tue ,29/7/2014
ผู้แปล: อจิตตะ

คุณคุณที่รัก....
ในขณะที่พลังงานของจักรวาลได้ทวีความเข้มข้น
และเพิ่มความกดดันมากยิ่งขึ้นกับการชำระล้างเพื่อความบริสุทธิ์
ที่ได้ทวีความเข้มข้นในทุกช่วงชีวิตของมนุษย์
ซึ่งก็ไม่มีใครสักคนหรือสักสิ่งที่จะหลบหนีไปได้
และทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ต้องคอยจับตาดูพายุสุริยะที่กำลังจะพัดผ่านละนะ
ทั้งกลุ่มพวกคุณที่กำลังค้นหาตัวเองจะมีความอ่อนไหวกับพลังงานเหล่านี้มาก
ซึ่งเป็นอีกก้าวหนึ่งของการเดินทางที่แสนวิเศษที่กำลังเคลื่อนตัวมาสู่คุณ
ที่เกินกว่าพวกคุณจะคาดคิดได้....เพราะมันจะเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน !
และเมื่อนั้น....คุณก็จะพบว่าตัวเองได้อยู่ในสถานที่ที่แสนสุข
และมีความสงบสุขเกิดขึ้นภายใน....
แต่อย่างไรก็ตาม....ก็จะมีการวางแนวทาง และการทดสอบเพื่อความถูกต้องใหม่
ซึ่งทำให้คุณต้องเข้าสู่ขั้นตอนของการประสานระบบปฏิบัติการภายในของมนุษย์อีกครั้ง
และคุณจะได้เห็นการประสานนี้อย่างชัดเจน
จากการทำหน้าที่ต่างๆในชีวิตประจำวันของคุณ
ที่มันจะมีพลังมากยิ่งขึ้นไหลผ่านตัวคุณ
ซึ่งจะทำให้คุณสามารถใช้พลังเหล่านั้น
เพื่อสรรค์สร้างในสิ่งที่คุณต้องการในชีวิต
ประกอบกับคุณก็ยังคงมีความสามารถในการโฟกัสต่อจุดหมาย
ของความต้องการที่จะได้เห็นการเกิดขึ้นในการแก้ไขปรับปรุงอย่างชัดเจน

ในก้าวต่อไปก็คือ....ทางเลือกระหว่างทางแยกของแต่ละคน
และแต่ละจิตวิญญาณที่อยู่บนดาวเคราะห์ดวงนี้
ซึ่งมันอาจเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคน
ที่จะสามารถคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์อันดีกับครอบครัว
กับการที่ต้องแยกตัวออกมาและได้ทำให้เกิดความสับสนต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
หรือไม่ก็....ผู้ที่ตื่นรู้แล้วก็ไม่รู้จริงๆ และไม่ยอมรับกับการที่ต้องแยกตัวออกไป...
จงตั้งจิตให้มั่นคงและคงไว้ซึ่งศูนย์กลางแห่งสัจจะของคุณเองเถอะนะ
เพราะผู้คนบนโลกต่างก็ต้องรับผิดชอบต่อทางเลือกของพวกเขาเอง
และต่อการตัดสินใจที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
ทั้งยังต้องยอมรับกับผลที่ตามมาอีกด้วย....

ผู้ที่เป็นอันตรายต่อผู้คนหรือทำคนอื่นให้บาดเจ็บ
ก็จะพบกับการสะท้อนกลับของพลังงานที่จะเกิดขึ้นในหลากหลายวิธี
ซึ่งจะทำให้พวกเขาได้มีโอกาสมองเข้าสู่ภายในของตัวเองได้อย่างชัดเจน
และตรงไปตรงมาจนเข้าใจว่า
เหล่าพลังงานที่พวกเขาได้ส่งออกไปสู่จักรวาลนั้น
ได้ส่งผลสะท้อนให้แก่พวกเขาอย่างยุติธรรม
ไม่ว่าจะเป็นการกระทำที่เป็นบวก หรือ ลบก็ตาม

ที่ผ่านมาการตอบรับกับพลังงานนั้น
บ้างก็ใช้เวลาไม่นานและบ้างก็กินเวลาเป็นปี
แต่ที่กำลังเริ่มเกิดขึ้นในตอนนี้
คือการแสดงออกของความคิดที่ตั้งมั่น มันจะมาอย่างรวดเร็วมาก
และกระบวนการทางความคิดของคุณก็จะเริ่มเป็นระเบียบ
ซึ่งก็จะมีแต่สิ่งดีเท่านั้นแหละที่จะมาถึงคุณ....

แต่เมื่อใดที่คุณสังเกตุได้ถึงสิ่งที่ทำให้คุณไม่มีความสุข
หรือ นำความเศร้าโศกมาให้เป็นประจำละก็
จงปล่อยให้มันตกล่วงไป และแทนที่มันด้วยความคิดที่ดีมีพลังทันที....
เมื่อใดที่คุณฝึกเช่นนี้เป็นประจำ ชีวิตก็จะตั้งอยู่บนความรุ่งเรือง
และจะทำให้คุณเริ่มสำรวจชีวิตของคุณด้วยแว่นขยาย
ซึ่งเต็มไปด้วยความเบิกบาน ความสวยงามและมีแต่ความพึงพอใจ....

ผู้คนในทุกแห่งหนจะเริ่มมีการกระทำเพื่อผู้อื่น
ด้วยความรู้สึกยินดีที่ได้นำความเบิกบาน สุขสนุกสนานให้แก่ผู้อื่น
ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาที่เป็นไปโดยธรรมชาติ
และนำมาซึ่งความสดใสที่พร้อมจะเบ่งบานไปทั่วทุกมุมโลก....
เหล่าจิตวิญญาณ, พลังงาน และ พลังแห่งความรัก
จะยกระดับจิตและหัวใจของหมู่ผู้คน
ให้พวกเขารู้สึกได้ถึงคลื่นพลังแห่งความรักที่อยู่ในชั้นบรรยากาศ
และที่อยู่ทุกแห่งหนบนโลกใบนี้....

ณ.ขณะนี้ พลังงานของความตกต่ำและความยุ่งเหยิงวุ่นวาย
เริ่มจะเข้าสู่ความสมดุลย์ ทั้งภายในจิตใจของผู้คน และโลกภายนอกแล้ว
แต่ละคนจะเริ่มมองเห็นภายในจิตของตนเอง
ว่าผลลัพย์ของพลังงานที่แต่ละคนได้เลือกและกระทำไว้นั้น
ว่ามันสามารถปรับเปลี่ยนให้ถูกต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม
ทั้งความคิดและพฤติกรรมที่นำความทุกข์มาเป็นประสบการณ์ให้แก่พวกเขา
ซึ่งต่อจากนี้ไป....การ”รู้”ด้วยตนเองของทุกๆระดับจะเข้ามาแทนที่
และเปิดทางให้กับการดาวน์โหลดเพิ่มเติมของความเป็นแก่นสารที่สูงกว่า
ให้เข้าสู่ระบบปฏิบัติการของมนุษย์ทางกายภาพ....
ผู้รู้แจ้งก็จะเพิ่มมากขึ้นบนโลกใบนี้
และจะนำมาซึ่งอารยะธรรมและสังคมแห่งผู้รู้แจ้งเพิ่มมากขึ้น
สิ่งเหล่านี้ได้เกิดขึ้นแล้วและจะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง
กับผู้ที่นำมาซึ่งความเป็นแก่นสารและจิตวิญญาณที่สูงกว่าของพวกเขา

พลังแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ในจักรวาลจะมีผลต่อโลกใบนี้....
ที่เคยมองไม่เห็นก็จะได้เห็น ทั้งจะเปิดมุมมองใหม่ให้กับประสบการณ์
ความปิติจะเกิดแก่ผู้ที่มีประสาทสัมผัสในระดับของความสั่นสะเทือนนี้....
ผู้คนที่ได้บรรลุในระดับนี้จะมีเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ซึ่งก็เป็นการเตรียมเส้นทางที่ง่ายยิ่งขึ้นให้แก่ผู้อื่น
ในการยกระดับของสติปัญญาและความเข้าใจ

....ยุคทองแห่ง “ Terra ” กำลังเบ่งบานและสอดประสาน
ด้วยความทรงจำแห่งประสบการณ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง....

( Terra = ตามตำนานเทพปกรณัมโรมัน
เธอเป็นเทพีบุคคลาธิษฐานแห่งโลก
พระนามของนางแปลว่า “พระแม่ธรณี”
ชาวโรมันจะสวดอ้อนวอนต่อนางเพื่อป้องกันแผ่นดินไหว
และเธอมีความเกี่ยวข้องกับการสมรส ความเป็นมารดา
สตรีตั้งครรภ์ และสัตว์ที่ตั้งครรภ์อีกด้วย
ส่วนพระนามของนางในตำนานเทพปกรณัมกรีก คือ เทพี ไกอา (Gaia)= ผู้แปล)

Until next week…
I AM Hilarion

 

เว็บนี้ครับ ครบชุด 5 เล่ม อ่านกันให้เพลินไปเลย 555

Life