ข่าวสารจากจิตจักรวาล

จากเรื่อง "ทุกข์ภัยใครกำหนด"
โดย อ.ปริญญา ตันสกุล
ในวันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม 2552
ณ โรงแรมดิแทรเวลเลอร์

ข่าวสารด้านวิกฤตโลก
ในแผนการชำระโลกระหว่าง
1-01-2009 จนถึง 21-12-2012

วิกฤตโลกปี 2009-2010
วิกฤตภัยด้านการเมือง-สังคม
1. เกิดความแตกแยก-ศึกสงครามในชนชาติเดียวกัน
(อันนี้พูดถึงทั้งโลก เช่น ปาเลสไตน์กับอิสราเอล, อิรัคกับอิหร่าน
รัสเซียกับจอร์เจีย, อินเดียกับปากีฯ ..จะรุนแรง จะเกิดอุบัติเหตุด้าน
นิวเคลีย และเวลาเกิดก็จะเกิดในเอเซียซะด้วย)

ขอไปทำธุระต่วนซัว แล้วจะมาเล่าต่อ

 

ขอเพิ่มเติมจากข้อ 1 จะเกิดอุบัติเหตุด้าน
นิวเคลีย ไม่ใช่ในปี 2009-2010 นะ

2. เป็นปีแห่งการเปลี่ยนผู้นำและการปกครอง
( ทั่วโลก เช่น ไทยเราเปลี่ยนไป 3 คนแล้ว )

3. เป็นแห่งการก่อการร้าย สวัสดิภาพในชีวิตตกต่ำอย่างน่าใจหาย
( โจรภัยเยอะ เน้นว่าทั่วโลกนะ )

4. คุณธรรมของผู้นำ และผู้คนจะเสื่อมลงอย่างรุนแรง อย่างเห็นได้ชัด

5. คนดีจะเลี่ยงหาย คนชั่วร้ายจะครองเมือง
( คนดีไม่ถูกเก็บ ก็เก็บตัวเอง )

=================
วิกฤตภัยด้านเศรษฐกิจ
=================

1. วิกฤตหนักด้านการเงิน การคลัง การธนาคาร
( ผลจาก แฮมเบอร์เกอร์ไครซีส จากประเทศยักษ์ใหญ่
มีบางธนาคาร คนแห่ไปถอนเงินจนเจ็งเลย )

2. โรงงานอุตส่าหากรรมเจ็ง คนตกงานเพียบ
( เป็นล้าน ทั่วโลก คนที่ไม่รู้จักพอเพียง เดือดร้อนมั๊ย คิดเอาเอง )

3. ค่าครองชีพสูง รายได้สวนทางกัน ต้องแบ่งปันอาหารกัน
( แบ่งปันอาหารกันไม่ใช่ไม่มีตังซื้ออย่างเดียว เป็นเพราะไม่มีอาหาร ขาดแคลนอาหาร )

4. จะมีการสไตร้ค์ก่อหวอด หยุดงาน ก่อจลาจล

5. คนเครียด คนบ้า คนฆ่าตัวตาย และถูกฆ่าตายจะมีสูงขึ้น

=================
วิกฤตภัยด้านสาธารณะสุข
=================

1. โลกจะเกิดโรคระบาดรุนแรงในคน หลายประเทศ

2. โลกจะเกิดภาวะขาดแคลนอาหารบริโภค อย่างชัดเจนขึ้น

3. โลกจะเกิดภาวะขาดแคลนเครื่องอุปโภค

4. ไข้หวัดนกจะกลายพันธ์ุสำเร็จ แล้วเด็ดชีวิตมนุษย์
( ไข้หวัดนก บอกว่ามันสำเร็จแล้ว มันจะสามารถติดต่อ
จากคนสู่คนได้แล้ว )

5. อหิวาตกโรค ไข้เลือดออก โรคเก่าๆ จะกลับมาใหม่และร้ายแรงกว่าเดิม

=================
วิกฤตภัยจากธรรมชาติ-อุบัติภัย
=================

1. เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และโหดไม่น้อยกว่าที่ผ่านมา ( เอาชีวิตคนเยอะมาก )

2. เกิดเหตุเครื่องบินตก เรือล่ม รถยนต์ ตายหมู่ถี่มากขึ้น

3. เกิดอุทกภัยหนักที่สุดในประวัติศาสตร์ พายุร้ายถล่ม ( โดยเฉพาะไทย พายุร้ายจะพัดถล่ม )

4. เกิดน้ำท่วมหนักในกรุงเทพฯ ที่ไม่เคยท่วมมาก่อน ไม่ว่าในรอบกี่ปี และเกิดอัคคีภัยรุนแรงในหน้าแล้ง

5. เกิดหิมะตกในเขตร้อน อากาศหนาวมาขึ้น ( ที่ไม่เคยหนาวก็จะหนาวมาขึ้น ไม้เว้นแม้แต่ประเทศใคร )


******************************
วิกฤตโลกปี 2011-2012
******************************

ยังไม่ขอเปิดเผย

 

ขอบคุณครับ แล้วเดือนนี้ยังไม่มีการสื่อหรือครับ

 

ยังไม่ได้รับแจ้งมาเลยค่ะ

 

ได้แล้วครับ
วันจันทร์ที่ 6 เมษายน 2552
ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติศิริกิต ครับ เวลาเดิม

 

วันจันทร์นะขอรับ

 

ใครสนใจซื้อ หนังสือหรือ VCD ของอาจารย์ก็ติดต่อมานะครับ จะเป็นธุระให้ในการไปซื้อและจัดส่งให้ครับ

 

คุณแม่นายมลครับ ผมยกข้อความที่ นักรบแห่งรัตติกาล มาให้อ่านข้างล่างนี้ ผมอยากจะสอบถาม ความคิดเห็นของคุณครับว่า คุณคิดเห็นอย่างไง ต่อข้อความที่ผมยกมา




และถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะรบกวน คุณแม่นายมล ช่วยสอบถามกับอาจารย์ของคุณที่สอนเรื่องจิตจักรวาล ว่า มีความคิดเห็นอย่างไรต่อ ข้อความของ นักรบแห่งรัตติกาล ที่ผมยกมาให้อ่านนี้ครับ

 

น่าสงสารเนอะ คนที่เอามาเขียนเนี่ย
ลองไปอ่านที่กระทู้นี้นะครับ
ธรรมมะจากอาจารย์ ปริญญา ตันสกุล และการอยู่รอด จะมาอัพเดทให้เรื่อยๆครับ


พระองค์ท่านไม่ทุกข์อันใดหรอกท่าน เพราะท่านมีจิตเป็นมหาสุญญตา ที่ท่านแจ้งข่าวสารมานั้นเพื่อให้มนุษย์ทั้งหลายรู้ตัวรู้ตนว่า มาเกิดเป็นมนุษย์กันทำไม มีหน้าที่อะไรบ้าง แล้วจะกลับไปยังงัย
ท่านจะกลับหรือไม่กลับก็แล้วแต่ท่าน
ที่ท่านเขียนมาเนี่ย คือความรู้สึกของท่านเอง ไปจับเอาตัวตน คืออัตตา ระหว่าง พระเจ้า กับพระพุทธเจ้า มาเปรียบเทียบ แล้วยังไปคิดแทนท่านอีก ถึงความทุกข์ที่ท่านเกิดขึ้น
เขาเรียกว่า ยัง ยึดติดตัวตนแถม ก้าวล่วงสรรพสิ่งอื่นอีก
ว่า ไปโน่น ธรรมะที่อาจารย์นำมาสื่อสอนอยู่เนี่ย อยากให้ผู้ที่ยังไม่เข้าใจไปอ่านกระทู้ที่ผมเขียนไว้ ก่อนนะครับ เพราะคำกล่าวของท่านจะเป็นการก้าวล่วงโดยที่ท่านไม่รู้ตัวเลย ซึ่งนั่นหมายความว่า ท่านได้สร้าง กรรมขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวแล้วครับ
ยังไม่เข้าใจ คำว่า พระเจ้าของอาจารย์ปริญญา คืออะไร
ยังไม่เข้าใจ การเกิดขึ้นของมนุษย์ว่าเกิดมาได้อย่างไร แล้วมาเดินเล่นอยู่บนโลกทำไม
.........................................

 

อืม...อ่านหน้านี้แล้วก็เข้าใจคนที่แย้งนะ เพราะก็เคยแย้งมาก่อนเหมือนกัน
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมเชื่ออาจารย์ปริญญาทั้ง 100% หรอกนะครับ
แม้ว่าจะอ่านหนังสือของท่านจบเกือบทุกเล่ม(ในขณะนั้น) มาหลายปีแล้วก็ตาม

อันที่จริง..ก็ไม่ได้เชื่อใครทั้ง 100% เลยอยู่แล้ว ไม่ยกเว้นแม้แต่

1. อาจารย์ปริญญา ตันสกุล
2. คุณ Avatar_boy ที่ผมเคยแปลงานเขียนของเขาให้หลายสิบหน้า
3. โนวา อนาลัย ที่ผมอ่านหนังสือของท่านจบเกือบทุกเล่มแล้วเหมือนกัน
4. หนังสือเรื่องสนทนากับพระเจ้า ที่ผมอ่านจบมาแล้วทั้ง 2 เล่ม และกำลังอ่าน
และแปลเล่มที่ 3 ต่ออยู่
5. มนุษย์ต่างดาว ทั้งหลาย แม้ว่าผมจะเป็นสมาชิกในกลุ่มอยู่ก็ตาม
6. หนังสือชุด Kryon ซึ่งเขียนโดยผู้ที่อ้างว่าได้รับการสื่อสารจากพระเจ้า เช่นเดียวกัน
ที่ผมอ่านจบมา 2 เล่มแล้ว
7. หนังสือชื่อ "อานุภาพแห่งรัก" ที่เขียนโดยผู้หญิงฟรั่งคนหนึ่ง ที่พูดถึงพระเจ้าเหมือนกัน
8. และสุดท้าย ก็ไม่ยกเว้นแม้แต่พระไตรปิฎกเองด้วย

ที่ผมบอกว่าไม่ได้เชื่อใครเลยทั้ง 100% ก็หมายถึง บางแหล่งข้อมูลผมอาจจะเชื่อไปแล้ว
95% หรือ 99% แต่ก็จะยังไม่เชื่ออีก 5%, หรือ 1% เป็นต้น เพราะยังไม่เข้าใจถ่องแท้
เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ จึงยังเผื่อใจเอาไว้ก่อน และที่สำคัญ ก็ไม่ได้ปฏิเสธแหล่งข้อมูลไหนเลยทั้งสิ้น..

มีต่อ..

 

คำว่าพระเจ้า..หรือพระผู้สร้าง อาจจะฟังแล้วรู้สึกแอนตี้สำหรับชาวพุทธเราทั่วๆไป ไม่ยกเว้นแม้แต่ตัวผมเอง

แต่ถ้าพูดถึงอะไรบางอย่าง ที่เป็นเพียงพลังงานพื้นฐานของเอกภพ ที่ก่อเกิดพลังงานรูปอื่นๆในเอกภพนี้อีกมากมาย
ก็น่าจะฟังได้ขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะอะไรๆก็คือพลังงานทั้งนั้นแหละ ที่มารวมตัวกันในสัดส่วนที่พอเหมาะ
เฉพาะตัวของมันเอง กลายเป็นสิ่งนั้น สิ่งนี้ อันนี้คาดว่าท่านคงเข้าใจและไม่แย้งอะไร

หลักการณ์เกี่ยวกับการสร้างสิ่งต่างๆของ "พระเจ้า" จากข้อมูลที่ผมอ่านมาจากหลายๆแหล่งที่อ้างไปแล้วนั้น
สรุปรวมตามความเข้าใจของผมนะ (ไม่ได้สรุปเอามาจากที่อาจารย์ปริญญาพูดอย่างเดียวนะครับ
ใครหรือแหล่งไหนพูดผิด พูดถูกมากกว่ากัน อันนี้ผมไม่เกี่ยว) ก็จะประมาณว่า ไอ้เจ้าพลังงานพื้นฐานที่ว่านั้น
เริ่มต้นทีเดียว มันก็มีแต่ตัวมันเอง มันเกิดเบื่อขึ้นมา มันก็เลยนึกอยากให้มีใครก็ตามที่เหมือนกับมัน มาอยู่เป็นเพื่อนด้วย เท่านั้นเอง

จากนั้นมันก็ได้เรียนรู้ว่าแค่มันคิดอยากให้มีอะไร สิ่งนั้นก็จะเกิดขึ้นมาทันทีเลย แม้แต่จิตวิญญาณของมนุษย์ทั้งหลาย
ก็เกิดขึ้นมาจากกระบวนการเดียวกันนี้ และก็มีคุณสมบุติทุกอย่างเหมือนดวงจิตของพลังงานพื้นฐานนั้นทุกประการด้วย
เว้นแต่เล็กกว่าหรือมีระดับพลังงานที่น้อยกว่าเท่านั้นเอง เพราะมันคือการถอดแบบออกมานั่นเอง

ก็ในเมื่อจิตวิญญาณของมนุษย์ถูกถอดแบบออกมาจากต้นแบบที่เป็นเพียงพลังงานอันบริสุทธิ์
ดังนั้นพื้นฐานของจิตวิญญาณของเราทั้งหลายจึงบริสุทธิ์ไปด้วย และก็เมื่อวันหนึ่ง ได้มีการสร้างสิ่งที่เป็น
วัตถุธาตุทางกายภาพขึ้นมาแล้ว ด้วยกระบวนการเดียวกันกับการสร้างสิ่งที่เป็นพลังงานนี่แหละ
จิตวิญญาณของเราทั้งหลาย ก็แค่นึกสนุก อยากลงมาเล่นในสนามเด็กเล่น ก็เลยพากันลงมาเล่น
แต่เพราะว่าการเล่นกับสิ่งที่เป็นวัตถุธาตุทางกายภาพ ด้วยการใช้รูปแบบที่เป็นพลังงานล้วนๆของตัวเอง มันไม่ค่อยสนุก
เราก็เลยพากันสร้างร่างกายที่เป็นเนื้อหนังมังสานี่แหละ ขึ้นมาใช้เล่นกัน โดยมีการทดลอง Version แล้ว Version เล่า
กว่าจะได้ร่างกายที่สมบูณ์แบบ แบบนี้ออกมาใช้เล่นกันได้ เหมือนทุกวันนี้

และก็เพราะว่าเล่นกันไปจนเพลินไปเลย จนหลงคิดไปว่า เชื่ออย่างเหนียวแน่นไปว่า ร่างกายนี้มันคือตัวเราจริงๆ
ลืมไปว่าโลกนี้คือโรงละครเท่านั้นเอง จึงเกิดความหลง ความลืม และความไม่รู้ขึ้นมา ประกอบกับ
กลไกของจิตเองที่มีหลายๆส่วน เช่นที่อาจารย์ฯเรียกว่าเมอร์ขบะ มันก็ได้สร้างภาพลวงทับซ้อนขึ้นมาตามความเชื่อของเราเองอีกด้วย
จึงเหมือนกับการลืมซ้อนด้วยหลง หลงซ้อนด้วยภาพลวง ภาพลวงซ้อนด้วยความหลงเชื่อว่าเป็นจริง ฯลฯ อีกหลายทอดเลยทีเดียว

ตอนนี้ก็เลย Go So Big แล้ว กู่ไม่กลับแล้ว จากเดิมเป็นพลังงานบริสุทธิ์ ไปไหนมาไหนได้สบายๆ
แค่คิดปุ๊บ ก็จะบังเกิดสิ่งนั้นปั๊บ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ก็เลยกลับไม่ได้ ก็เลยติดแหง็กอยู่บนโลกใบนี้
เวียนว่ายตายเกิดอยู่นี่แหละนานแสนนานมาแล้ว

เพื่อนๆบางส่วน ที่เกิดขึ้นมาพร้อมกัน ที่เกิดจากกระบวนการเดียวกัน ที่เขาไม่ได้ลงมาเล่นด้วยกับเรา แต่เขาเฝ้ามองดูเราเล่นอยู่
เขาก็เห็นท่าว่าไม่ได้การณ์แล้ว ก็เลยขออาสาลงมาบอกความจริงให้เรา เพื่อช่วยให้เราได้กลับไปได้ ได้ตื่นขึ้นมาจากความฝันเสียที

ก็ปรากฎว่า ลงมาช่วย คนแล้ว คนเล่า สมัยแล้ว สมัยเล่า ผู้ที่ลงมาช่วยนี่ ถูกพวกเราฆ่าตายไปแล้วก็หลายคน
ถูกตรึงกางเขนไปแล้วก็มี..มันก็เลยสนุกกันใหญ่หนะสิ

ส่วนเกี่ยวเนื่องด้วยภัยพิบัตินี่ ผมไม่ค่อยให้ความใส่ใจมากนัก เพราะมันแค่ขี้ประติ๋วเดียวเองในความคิดของผม
เพราะว่า..มันก็แค่..พวกเราหลงกัน ลืมความจริงกันไป ก็เป็นธรรมดาที่จะทำอะไรผิดๆให้แก่โลกและคนอื่นและแก่ตัวเองด้วย
ส่วนโลกเรามันก็แค่ปรับสมดุลย์ของตัวมันเอง หรืออาจมีผู้มาช่วยปรับด้วย อะไรก็แล้วแต่ เพื่อให้มันอยู่ได้เท่านั้นเอง
และมันก็ทำแบบนี้ เป็นแบบนี้มาเป็นระยะของมันเป็นปกติอยู่แล้ว ผลกระทบมันก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา

แต่เพราะพวกเพื่อนๆพี่ๆน้องๆเราที่ไม่ได้ลงมาเล่นกับเรา หรือไปเล่นที่ดาวดวงอื่น เกิดรู้เข้า ก็เลยอยากจะมาบอก มาเตือน
หรือมาช่วยเหลือผ่อนหนัก ให้เป็นเบา เท่านั้นเอง เพื่อจะได้เล่นกันได้สนุกต่อไป แต่ถ้าใครเล่นจนเบื่อแล้ว
อยากกลับไปในที่ๆจากมา ก็มี Option ให้เลือกเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เมื่อ 2000 กว่าปีที่ผ่านมาโน้นแล้ว

ประเด็นหลักที่ได้ประโยชน์จากเรื่องภัยพิบัติก็คือ เมื่อเราอยู่ในสภาวะกลัว และไม่มีอะไรให้โลภ ให้หวังอีก เราจึงจะรักกัน

และประเด็นอื่นๆที่ได้จากข้อมูลพวกนี้ก็คือ มันไม่มีอะไรจริงบนโลกใบนี้ ในสามภพนี้ เพราะมันเป็นแค่มายาแห่งจิต
ไม่มีอะไรเป็นของเราจริง ป่วยการอะไรจะไปยึด ไปแบกให้มันหนักเปล่าๆ

และก็ไม่มีเหตุการณ์ใดๆที่เกิดขึ้นกับชีวิตมนุษย์ของเรา ที่เป็นเหตุการณ์ร้ายจริงๆเลย ทุกอย่างที่เกิดขึ้น
มันมีที่มาที่ไปของมัน เราเลือกที่จะใช้มันเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์แห่งการยกระดับจิตใจของเราได้เสมอ
จนสักวันหนึ่ง เราจะต้องหันกลับมาขอบคุณเหตุการณ์ร้ายๆเหล่านั้นที่เกิดขึ้นกับเราไปแล้ว ขอบคุณแล้ว ขอบคุณอีก

ความดีหรือความชั่ว ขาวหรือดำ สุขหรือทุกข์ นั่นก็แค่สมมุติ เพราะทุกสิ่งมีแหล่งกำเนิดมาจากที่เดียวกัน ด้วยกระบวนการเดียวกัน
ดังนั้นเขาถึงพูดกันบ่อยๆว่า พระผู้เป็นเจ้าทรงสถิตอยู่ในทุกอณูของเอกภพนี้ อะไรประมาณนั้น

สรุปว่า..จริงแท้แค่ไหน สำหรับตัวผมเอง ผมไม่ใส่ใจมากนักนะ
รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหามมิใช่หรือ หรือว่าถ้าคุณแบกมันเอาไว้ คุณก็อาจจะหนักเป็นธรรมดา
แต่ผมไม่ได้แบก ก็เลยไม่หนัก
การปฏิบัติธรรมตามแนวศาสนาพุทธของเรา ผมก็ยังคงทำต่อไป มีสติรู้ในกาย เวทนา จิต ธรรม ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
ความรักแบบไม่มีเงื่อนไข ความเมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา ก็ยังไม่หนีหายไปจากใจผม เพียงเพราะผมได้รู้ข้อมูลมากขึ้น

ประโยชน์อันใดที่อาจจะพึงมี จากการที่ได้รู้ข้อมูลพวกนี้ ผมก็หยิบมาใช้ เพื่อยกระดับจิตของตัวเองให้สูงขึ้น
ส่วนอะไรที่ยังไม่เชื่อ..ก็ข้ามๆมันไปซะ..

..ก็..รู้สึกว่า..ไม่ได้แบกหนักอะไรนะครับ..

 

ถ้างั้นขอถามหน่อยว่า

ทั้งหมดในจักรวาลที่ว่าไว้เนี่ย

มีทั้งหมด เท่าไร นับกันยังไงแบบไหน

จักรวาลที่เราอาศัยอยู่เนี่ย นับยังไง

แบบไหน รึว่า มีแค่ จักรวาลที่เราได้อาศัยอยู่แค่นั้นใช่ไหม

ผมอยากจะทราบ จากเจ้าของกระทู้ หรือใครก็ได้

(อยากจะรู้จริงๆว่า รู้ลึกตื้นหนาบางแค่ไหน เกี่ยวกับจักรวาลทั้งหมดนี้)

 

มันอยู่ที่คำตอบในใจคุณ ที่คุณเตรียมเอาไว้เพื่อเปรียบเทียบแล้วนั่นแหละ
ถ้าคำตอบที่คุณอยากจะได้ยิน คืออ้างตามพระไตรปิฎก ก็ไม่จำเป็นต้องตอบ
เพราะสามารถหาอ่านได้เกลื่อนกลาดในเวปนี้ และเวปอื่นๆ

ผมคิดว่าคุณคงรู้นะว่า พระไตรปิฎกของเรา ไม่ได้พูดถึงใบไม้ทั้งป่า
แต่พูดถึงใบไม้เพียงกำมือเดียวเท่านั้น

 

กฎแห่งกรรม...กับ...คลื่นแม่เหล็กธรรมชาติ

 

*** แก่นสารในธรรมชาติ ****

หลักสัจจะธรรม...คือ ที่มาของ กฎแห่งกรรม
แก่นสารสัจจะธรรม....คือ ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

อ่านความเห็นของใครต่อใครมาก็พอสมควร
มาเจอคุณ Chayutt ต้องขออนุญาต ขอชม ด้วยความจริงใจ
ว่าจับประเด็นได้เยี่ยมจริงจริง ขอบคุณ ขอบคุณ

 

เป็นคำถามที่ต้องตอบยาว ฉะนั้นถ้ามีโอกาสที่เหมาะจะตอบคำถามแทน
อ.ปริญญา โดยจะรวบรัดให้สั้นและเข้าใจง่ายที่สุด แหม..อยากจะทำเวป
จิตจักวาลจริงๆ จะอาสาเป็นทีมและทุน ทางอาจารย์ก็เปรยๆ ออกมาเหมือนกัน

ตอนนี้ต้องออกมาใช้เน็ทนอกบ้าน และมีการเดินทางบ่อยๆ ไม่ค่อยสะดวกเลย
ฉะนั้น อย่าเพิ่งพิพากษาสรรพสิ่งใดๆ ไปก่อน อย่าเพิ่งเชื่อทันที ให้คิด
และศึกษาก่อน ความรู้เหล่านี้เป็นความรู้ใหม่ ที่เราไม่รู้ว่าเราต้องการรู้
เปรียบเป็นใบไม้นอกกำมือพระพุทธเจ้า

 

มาทางเดียวกันเลย (หนังสือเรื่องสนทนากับพระเจ้าเล่ม 3 ออกปลายปีนะ)

 

*** สัจจะความจริง ****

เรื่อง...จิตจักรวาล
สุดท้าย จะจบลงที่.... โลกุตตระธรรม

เรื่อง....พระเจ้าต่างๆ
เรื่อง...จานบิน
สุดท้าย จะจบลงที่....การโปรดสัตว์โลกของโลกุตตระ

สิ่งที่รู้ สิ่งที่เห็น สิ่งที่ได้ยิน...จะพาไปพบ หลักโลกุตตระธรรม
การปฏิบัติของมนุษย์....จะจบลงด้วย สัจจะ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ผมขอชมคุณ Chayutt จริงๆว่า เรียบเรียงและเขียนได้ดีจริงๆครับ ผมว่าคุณน่าจะไปเขียนหนังสือขายนะ จะแนวอะไรก็ได้ คงน่าจะมีคนติดพอสมควรเลย