ขันธ์ 5 หรือ เบญจขันธ์ อธิบายในส่วนที่ห้าเรื่อง "วิญญาณ"

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ชัยบวร, 6 มิถุนายน 2012.

  1. ชัยบวร

    ชัยบวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    928
    ค่าพลัง:
    +1,642
    ขันธ์ 5หรือ เบญจขันธ์ อธิบายในส่วนที่ห้าเรื่อง " วิญญาณ"
    <O[​IMG]</O[​IMG]
    ลงไว้เพื่อการศึกษาทางพระพุทธศาสนาเพื่อประโยชน์ เพื่อเป็นหนทางในการเข้าใจและเข้าถึง เพื่อการเผยแพร่พระพุทธศาสนาไปยังต่างประเทศ (มีภาษาอังกฤษประกอบ) รายละเอียดจากพจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต)
    <O[​IMG]</O[​IMG]
    ขันธ์ 5 หรือ เบญจขันธ์ คือ กองแห่งรูปธรรมและนามธรรมห้าหมวดที่ประชุมกันเข้าเป็นหน่วยรวมซึ่งบัญญัติเรียกว่าบุคคลสัตว์ตัวตนเรา-เขาเป็นต้นส่วนประกอบห้าอย่างที่รวมเข้าเป็นชีวิต (The Five Groups of Existence; Five Aggregate)

    วิญญาณขันธ์ กองวิญญาณ ส่วนที่เป็นความรู้แจ้งอารมณ์ ความรู้อารมณ์ทางอายตนะทั้ง 6 มีการได้ยิน การเห็น เป็นต้น ได้แก่ วิญญาณ 6 (consciousness) แบ่งได้ 3 ประการ

    วิญญาณ 6 (consciousness; sense - awareness)

    1. จักขุวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางตา คือ รู้รูปด้วยตา เห็น (eye - consciousness)
    2. โสตวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางหู คือ รู้เสียงด้วยหู ได้ยิน (ear - consciousness)
    3. ฆานวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางจมูก คือ รู้กลิ่นด้วยจมูก ได้กลิ่น (nose - consciousness)
    4. ชิวหาวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางลิ้น คือ รู้รสด้วยลิ้น รู้รส (tonque - consciousness)
    5. กายวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางกาย คือ รู้โผฏฐัพพะด้วยกาย รู้สึกกายสัมผัส (body - consciousness)
    6. มโนวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางใจ คือ รู้ธรรมารมณ์ด้วยใจ รู้ความนึกคิด (mind - consciousness)

    ยังไม่หมดนะครับ ยังมีอีก 2 ประการ ก็คือ เจตสิก 52 และ จิต 121 อีก นอกจากนี้ยังเกี่ยวพันธ์กับ อายตนะภายนอก อายตนะภายใน และวิญญาณฐิติ 7 (ในส่วนวิญญาณฐิติ 7 ได้ลงไว้แล้วใน "สัญญา" แต่จะขยายความเพิ่มเล็กน้อย)

    ในส่วนเรื่อง "สังขาร" จะเห็นว่าผมไม่ได้ลงไว้อีกประการหนึ่งก็คือ เจตนา 6 หรือสัญเจตนา 6 ซึ่งเป็นธรรมที่มีความสำคัญ ธรรมะหมวดนี้จะนำมาลงไว้สำหรับในโอกาสต่อไปครับ

    ธรรมะของพระพุทธศาสนา :d
     
  2. ชัยบวร

    ชัยบวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    928
    ค่าพลัง:
    +1,642
    ต่อนะครับ....

    เจตสิก 52 ธรรมที่ประกอบกับจิต สภาวธรรมที่เกิดดับพร้อมกับจิต มีอารมณ์และวัตถุที่อาศัยเดียวกับจิต อาการและคุณสมบัติต่าง ๆ ของจิต (mental factors; mental concomitants)

    จิต 89 หรือ จิต 121 ธรรมชาติที่รู้อารมณ์ สภาพที่นึกคิด ความคิด ใจ วิญญาณ (mind; thought; consciousness; a state of consciousness)

    จิต มีไวพจน์ คือ คำที่ต่างเพียงรูป แต่มีความหมายเหมือนกันหรือคล้ายกัน ใช้แทนกันได้หลายคำ เช่น มโน หทัย วิญญาณ เป็นต้น คำเหล่านี้ีความหมายเกยกัน มิใช่ตรงกันโดยสมบูรณ์ ใช้แทนกันได้ในบางโอกาส มิใช่เสมอไป

    เนื่องจากทั้งสองประการมีรายละเอียดมากมาย จึงยังไม่ลงไว้ตอนนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับจิตมีลำดับชั้นตั้งแต่ล่างสุด (อกุศล) มากุศล ไปจนสูงสุด ซึ่งยากมาก ต้องทำความเข้าใจและเข้าถึงอย่างมากมาย จากตัวเลขที่แสดงไว้ก็คือการแบ่งประเภทออกมานั่นเอง เช่น เจตสิก 52 แบ่งได้ 52 ประการ จิต 121 ก็คือ แบ่งได้ 121 ประการนั่นเองครับ ด้วยเหตุนี้ถ้ามีโอกาสจะลงรายละเอียดไว้ครับ

    ธรรมะของพระพุทธศาสนา :d ยังมีอีกนะครับ :d
     
  3. ชัยบวร

    ชัยบวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    928
    ค่าพลัง:
    +1,642
    ต่ออีกหน่อยนะครับ...

    ความเกี่ยวข้องของจิต (ใจ , วิญญาณ) กับ ภพ 3 ภูมิ 4

    ภพ 3 ภาวะชีวิตของสัตว์ โลกที่เป็นอยู่ของสัตว์ (existence; sphere) ธรรมะของพระพุทธศาสนา

    1. กามภพ ภพที่เป็นกามาวจร ภพของสัตว์ผู้ยังเสวยกามคุณคืออารมณ์ทางอินทรีย์ทั้ง 5 ไอ้แก่ อบายภูมิ 4 เช่น นรก อสุรกาย เป็นต้น มนุษยโลก และกามาวจรสวรรค์ทั้ง 6 (the Sense - Sphere)

    2. รูปภพ ภพที่เป็นรูปาวจร ภพของสัตว์ผู้เข้าถึงรูปฌาณ ได้แก่ พรหมทั้ง 16 (the Form - Sphere; Fine - Material Sphere)

    3. อรูปภพ ภพที่เป็นอรูปาวจร ภพของสัตว์ผู้เข้าถึงอรูปฌาณ ได้แก่อรูปพรหม 4 (the Formless Sphere ; Immaterial Sphere)

    ภูมิ 4 ชั้นแห่งจิต ระดับจิตใจ ระดับชีวิต (planes of consciousness; planes of existence; degrees of spiritual development) ธรรมะของพระพุทธศาสนา

    1. กามาวจรภูมิ ชั้นที่ท่องเที่ยวอยู่ในกาม ระดับจิตใจที่ยังปรารถนากามเป็นอารมณ์ คือยังเกี่ยวข้องกับกามคุณ ระดับจิตใจของสัตว์ในกามภพทั้ง 11 ชั้น (Sensuous Plane)

    2. รูปาวจรภูมิ ชั้นที่ท่องเที่ยวอยู่ในรูป ระดับจิตใจที่ปรารถรูปธรรมเป็นอารมณ์ ระดับจิตใจของท่านผู้ได้ฌาณหรือผู้อยู่ในรูปภพทั้ง 16 ชั้น (Form - plane)

    3. อรูปาวจรภูมิ ชั้นที่ท่องเทื่ยวอยู่ในอรูป ระดับจิตใจที่ปรารถอรูปธรรมเป็นอารมณ์ ระดับจิตใจของท่านผู้ได้อรูปฌาณ หรือผู้อยู่ในอรูปภพทั้ง 4 ชั้น (Formless - plane)

    4. โลกุตตรภูมิ ชั้นที่พ้นจากโลก ระดับแห่งโลกุตตรธรรม ระดับจิตใจของพระอริยเจ้าอันพ้นแล้วจากโลกียภูมิ 3 ข้างต้น ชั้นที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏะ ระดับที่ไม่ถูกจำกัด (Supramundance plane)[​IMG][​IMG][​IMG] Infinity

    ธรรมะของพระพุทธศาสนา [​IMG] ยังมีอีกนะครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  4. vitcho

    vitcho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +748
    อ่านหัวกระทู้บอกว่า จะมากล่าวเรื่องวิญญาณ....

    ผมตามอ่าน แต่เจอ เรื่อง อายตนภายใน แล ภายนอก...
    คือ ภายในเป็นตัวเหตุ ภายนอก เป็นตัว ผล

    ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ((ภายใน)
    รูป เสียง กลิ่น รส โผฎฐัพพะ และ ธรรมมารมณ์((ภายนอก))

    สรุปแล้ว วิญญาณ เกิด ที่ไหนคครับ..ที่ อายตนภายใน หรือ ภายนอกครับ..

    และ อีกอย่าง..วิญญาณ คือ จิต ใช่หรือไม่...
    จริงๆแล้ว วิญญาณ คืออะไร..เป็น พลังงาน ที่แสดงตัวได้ แบบ ผี ใช่หรือไม่..

    แวะมา แสดง ทีนะครับ ผม ชอบ อ่าน และศึกษาครับ...
     
  5. ชัยบวร

    ชัยบวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    928
    ค่าพลัง:
    +1,642
    ต่ออีกนะครับ...

    อายตนะภายใน 6 ที่เชื่อมต่อให้เกิดความรู้ แดนต่อความรู้ฝ่ายภายใน (internal sense - fields)

    1. จักขุ ตา the eye
    2. โสตะ หู the ear
    3. ฆานะ จมุก the nose
    4. ชิวหา ลิ้น the tongue
    5. กาย the body
    6. มโน ใจ the mind

    ทั้ง 6 อย่างนี้เรียกอีกอย่างว่า อินทรีย์ 6 เพราะเป็นใหญ่ในหน้าที่ของตนแต่ละอย่าง เช่น จักษุ เป็นเจ้าการในการมองเห็น เป็นต้น

    อายตนะภายนอก 6 ที่เชื่อมต่อให้เกิดความรู้ แดนต่อความรู้ฝ่ายภายนอก (external sense - fields)

    1. รูปะ รูป สิ่งที่เห็น หรือ วัณณะ คือ สี (form; visible objects)
    2. สัททะ เสียง (sound)
    3. คันธะ กลื่น (smell; odour)
    4. รสะ รส (taste)
    5. โผฏฐัพพะ สัมผัสทางกาย สิ่งที่ถูกต้องกาย (touch; tangible objects)
    6. ธรรม หรือ ธรรมารมณ์ อารมณ์ที่เกิดกับใจ สิ่งที่ใจนึกคิด (mind - objects)

    ทั้ง 6 อย่างนี้ เรียกทั่วไปว่า อารมณ์ 6 คือ เป็นสื่งสำหรับให้จิตยึดหน่วง

    ขยายความ เบญจขันธ์นี้เป็นในส่วนของการเวียนว่ายในวัฏฏะ ถ้าเป็น นิพพาน หรือ อสังขตธาตุ 1 (the Unconditioned State) จะเป็นโลกุตตรธรรม เรียกว่า นิพพาน เป็น ขันธวินิมุต คือ พ้นจากขันธ์ 5 นั่นเอง ซึ่งจะต้องอาศัยธรรมในหมวดอื่น ๆ อีก เช่น ศิล สมาธิ สติ และปัญญา เพื่อการดับกิเลส และกองทุกข์

    ยังมีสภาวะธรรมอีกอย่างหนึ่งที่ไม่นับเนื่องใน วิญญาณฐิติ 7 ก็ คือ เนวสัญญานาสัญญายตนะ ฌาณอันเข้าถึงภาวะมีสัญญาก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่ หรือ ภพของผู้เข้าถึงฌาณนี้ ผู้รู้ธรรมกล่าวว่า เป็นภพของการใกล้เคียงนิพพาน แต่ไม่ใช่นิพพาน

    ธรรมะของพระพุทธศาสนา [​IMG]

    ที่กล่าวทั้งหมดเป็นเพียงประมวลธรรมบางส่วนที่ต้องอาศัยความเข้าใจและเข้าถึงตั้งแต่ระดับล่างไปจนสูงสุด ยังมีธรรมะอีกมากมายหลายหมวดที่จะต้องอาศัยอิงกัน มิใช่เพียงเท่านี้ ธรรมะเหล่านี้เป็นเพียงบัญญัติให้เข้าใจ ธรรมเหล่านี้ยังจะต้องขยายความในส่วนของตัวธรรมเองอีกมากมาย บัณฑิตย่อมเข้าใจได้ไม่ยาก ธรรมเหล่านี้คือธรรมะของพระพุทธศาสนา เป็นของชาวพุทธทุกท่าน ทั้งในปัจจุบันกาล และอนาคตกาล เฉพาะแค่หมวดธรรมที่มากมายนี้ก็สามารถใช้อธิบายเหตุการณ์ต่าง ๆ ในโลกใบนี้ได้อย่างสบาย ๆ บัณฑิตย่อมเข้าใจได้ไม่ยาก....และสามารถกล่าวได้ว่าพระพุทธศาสนาสอนอะไร ? อย่างไร ? สวัสดี [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->
     
  6. vitcho

    vitcho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +748
    วิญญาณ....ใน ผู้ไม่ได้ศึกษา..จะเข้าใจว่า..มันคือ จิต มันคือ ผี..ที่คนตาย แล้ว จะมีเป็น อัตภาพ...เข้าใจกันผิด หมดครับ...

    วิญญาณ คือ ผล แสดงออก..หรือ จะกล่าวว่า..วิญญาณ คือ ผลของอาการ ของจิต..ที่ แสดงตัว..ใน บางกรณี จึงมีการเรียก จิต ว่าเป็น วิญญาณ..แท้จริงมันไม่ใช่ วิญญาณ คือ ตัวผล ของจิต ที่เสพอารมณ์ไปแล้ว...

    จิตที่ถึงนิพพาน จึงไม่มี วิญญาณ แล้ว เพระ วิญญาณ มันดับสูญไป แต่จิต ยังอยู่ แต่ ทว่า มันอยู่ แบบ ไม่แสดงตัวอีกแล้ว..เพราะ จิต มันถึง วิมุตติ แล้ว มัน ไม่แส่ส่ายแล้ว มันกลับคืนธรรมชาติเดิม..

    ขันธ์ 5 ดับ เมื่อ จิต เลิกทำงาน เมื่อ มันปล่อยวาง สรรพสิ่ง ไม่ยึดถือใดๆ ไม่มีอุปาทาน..อันสืบเนื่องจาก การเห็นไตรลักษณ์ เนืองๆ จน ตัวจิต มันเข้าใจสภาวะ ทั้งมวล ..จนเต็มอิ่ม..มันจึงลา ภพภูมิไป ได้..ครับ..
     
  7. vitcho

    vitcho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +748
    ศาสนาพุทธ..จะว่าไปแล้วก็ควรศึกษา ปริยัติ ให้ ถ้วนถี่..แล้ว พึงตั้งใจปฏิบัติธรรม..แต่ ว่า การ เรียนรู้ ธรรมมะ แบบ อ่านๆ เอา ..หาก ไม่ ปฏิบัติ ควบคู่ไปด้วย..จะไม่มีทาง เข้าใจ พระ อภิธรรมได้เลย...

    และ อีกอย่าง หาก ใคร ยังไม่ ปฏิบัติ ให้ถูก แนวทาง แล้ว..เกิดไป อ่าน เรื่องพระอภิธรรม..จะ ยิ่งเฝือ หนัก ไม่เข้าใจ แก่นแท้ได้ง่ายๆ...

    พระ อภิธรรม นั้น..เป็น ธรรมมะ ที่สุดโต่ง กับ ทางโลกีย์ อย่าง สุดขั้ว..
    ใครก็ ตาม หาก ไม่เข้าใจ ธรรมมะ ด้วยการ ปฏิบัติ พอควร จะ แย้ง และ เห็นสุดโต่งกับพระอภิธรรม ได้..มี นัก เปรียญ ธรรม9 หลายๆคน..สอบได้เปรียญธรรม จนจบหลักสูตร แต่ไม่เคย ปฏิบัติธรรมแบบ ถูกทาง..คนพวกนี้ พอ ถึงจุดนึงในชีวิต กลับ หันมา ดูแคลน พระศาสนา กันหลายๆคน..

    จะว่าไป เปรียญ 9 นั้น ที่จริง ก็ ไม่เกี่ยวกับ ธรรม แท้ ขั้น ปรมัตถ์ เพราะ วิชาเปรียญ ธรรมนั้น เป็น แค่ วิชา ภาษา ต่างประเทศ ที่เรียกว่า ภาษา บาลี ไม่ใช่ วิชาแก่นธรรม อะไร...แต่ ประชาชน ส่วนใหญ่ กลับให้ เครดิต คนจบ เปรียญ ธรรม กันมาก...นับเป็น ความ โง่ ของ คน ที่ไม่ ยอมเรียนรู้ ธรรมแท้ๆ...

    ในวง สังคมศาสนาพุทธเรา..ทุกวันนี้ มีคน ตาม ยกย่อง พระ ว.วชิรเมธีมากมาย..เพราะ พระ ว. จบเปรียญธรรม 9 แต่ ทว่า แก่นศาสนา กลับ ไม่แน่น จริง..พระ ว. เขียนหนังสือ ธรรมมะ ออกขาย จนร่ำรวย..ไปดู ได้ธรรมมะ ที่ พระ ว. เขียน ส่วนใหญ่ มันคือ หลักคุณธรรม ทั่วๆไป.ที่มีการสอน กันเกร่อ ทั้ง ใน ศาสนาอื่นๆ..ก้ มี..หาใช่ธรรมมะ เพื่อความพ้นทุกข์ ไม่..พระ ว. อาศัยเปรียญ ธรรม 9 นำหน้า สร้างชื่อให้ตนเอง...

    เคยปรากฏ ครั้งนึง พระว. ปล่อยไก่ เล้า เบ้อเริ่ม..แก กล่าวว่า ไตรลักษณ์ คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป...และปรากฏ ว่า มีคน ไป สาธุ แก หลายร้อยคน...นี่คือ ความ เสื่อมแท้ สัทธรรมปฏิรูป เกิดแล้ว...น่า อนาจใจ แท้ๆ..
    พระพุทธศาสนา เกิดสนิม เพราะ เนื้อในเอง..แท้ๆ

    ผม บ่นมากไป..เพราะ ห่วงพระศานา ครับ..ผม ไม่เก่ง แต่ธรรมมะ แท้ๆ ผม มีพอตัวครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...