ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายการทำบุญทุนนิธิ เดือนกุมภาพันธ์ 54 ตอนที่ 2

    ช่วงนี้เป็นช่วงของการทำพิธีการครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_0035.jpg
      DSC_0035.jpg
      ขนาดไฟล์:
      218.8 KB
      เปิดดู:
      359
    • DSC_0036.jpg
      DSC_0036.jpg
      ขนาดไฟล์:
      209.6 KB
      เปิดดู:
      351
    • DSC_0039.jpg
      DSC_0039.jpg
      ขนาดไฟล์:
      215.1 KB
      เปิดดู:
      354
    • DSC_0042.jpg
      DSC_0042.jpg
      ขนาดไฟล์:
      229.1 KB
      เปิดดู:
      360
    • DSC_0045.jpg
      DSC_0045.jpg
      ขนาดไฟล์:
      193.8 KB
      เปิดดู:
      350
    • DSC_0047.jpg
      DSC_0047.jpg
      ขนาดไฟล์:
      234.8 KB
      เปิดดู:
      348
    • DSC_0048.jpg
      DSC_0048.jpg
      ขนาดไฟล์:
      233.7 KB
      เปิดดู:
      340
    • DSC_0050.jpg
      DSC_0050.jpg
      ขนาดไฟล์:
      217.9 KB
      เปิดดู:
      358
    • DSC_0051.jpg
      DSC_0051.jpg
      ขนาดไฟล์:
      173.8 KB
      เปิดดู:
      356
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กุมภาพันธ์ 2011
  2. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายการทำบุญทุนนิธิ เดือนกุมภาพันธ์ 54 ตอนที่ 3

    ช่วงนี้เป็นช่วงที่ทุกท่านกำลังถวายครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ปิดท้ายด้วยภาพพระที่ท่านอาพาธครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    ผมขออนุญาตท่านในใจ สักนิด บอกดังๆ ก็กลัวท่านตื่น

    สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_0054.jpg
      DSC_0054.jpg
      ขนาดไฟล์:
      219 KB
      เปิดดู:
      351
    • DSC_0056.jpg
      DSC_0056.jpg
      ขนาดไฟล์:
      225.9 KB
      เปิดดู:
      357
    • DSC_0058.jpg
      DSC_0058.jpg
      ขนาดไฟล์:
      221.7 KB
      เปิดดู:
      357
    • DSC_0059.jpg
      DSC_0059.jpg
      ขนาดไฟล์:
      176.5 KB
      เปิดดู:
      346
    • DSC_0060.jpg
      DSC_0060.jpg
      ขนาดไฟล์:
      192.3 KB
      เปิดดู:
      335
    • DSC_0061.jpg
      DSC_0061.jpg
      ขนาดไฟล์:
      203 KB
      เปิดดู:
      349
    • DSC_0062.jpg
      DSC_0062.jpg
      ขนาดไฟล์:
      209.3 KB
      เปิดดู:
      349
    • DSC_0064.jpg
      DSC_0064.jpg
      ขนาดไฟล์:
      206.9 KB
      เปิดดู:
      336
    • DSC_0067.jpg
      DSC_0067.jpg
      ขนาดไฟล์:
      204.5 KB
      เปิดดู:
      340
    • DSC_0069.jpg
      DSC_0069.jpg
      ขนาดไฟล์:
      183.2 KB
      เปิดดู:
      348
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กุมภาพันธ์ 2011
  3. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายการทำบุญทุนนิธิ เดือนกุมภาพันธ์ 54 ตอนที่ 4

    สำหรับช่วงนี้เป็นช่วงกรวดน้ำครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ปิดด้วยการแถลงการณ์ของท่านประธานทุนครับ

    [​IMG]

    ยอดทำบุญเดือนนี้ประมาณ 60,000.- บาท กว่าๆ เท่าไหร่ก็จำไม่ได้ครับ

    แต่ยอดผู้ร่วมทำบุญ 30,000.- บาท กว่าๆ เท่าไหร่ก็จำไม่ได้ครับ

    [​IMG]

    สิ้นเสียงประกาศ ก็ยกมืออนุโมทนาสาธุ กันครับ ผมก็ด้วยคนครับ

    สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_0072.jpg
      DSC_0072.jpg
      ขนาดไฟล์:
      160.2 KB
      เปิดดู:
      323
    • DSC_0073.jpg
      DSC_0073.jpg
      ขนาดไฟล์:
      172.8 KB
      เปิดดู:
      329
    • DSC_0074.jpg
      DSC_0074.jpg
      ขนาดไฟล์:
      183.9 KB
      เปิดดู:
      332
    • DSC_0075.jpg
      DSC_0075.jpg
      ขนาดไฟล์:
      161.3 KB
      เปิดดู:
      355
    • DSC_0081.jpg
      DSC_0081.jpg
      ขนาดไฟล์:
      156.5 KB
      เปิดดู:
      353
    • DSC_0077.jpg
      DSC_0077.jpg
      ขนาดไฟล์:
      175.4 KB
      เปิดดู:
      330
    • DSC_0079.jpg
      DSC_0079.jpg
      ขนาดไฟล์:
      189.1 KB
      เปิดดู:
      328
    • DSC_0089.jpg
      DSC_0089.jpg
      ขนาดไฟล์:
      211.1 KB
      เปิดดู:
      322
    • DSC_0091.jpg
      DSC_0091.jpg
      ขนาดไฟล์:
      205.4 KB
      เปิดดู:
      342
    • DSC_0093.jpg
      DSC_0093.jpg
      ขนาดไฟล์:
      205.3 KB
      เปิดดู:
      52
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กุมภาพันธ์ 2011
  4. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผม ภรรยาและครอบครัวได้ร่วมทำบุญ 200 บาทครับ
    ขอบคุณครับ
     
  5. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายการทำบุญทุนนิธิ เดือนกุมภาพันธ์ 54 ตอนที่ 5

    ช่วงนี้เป็นการทำบุญพิเศษ ช่วยกันสร้างพระครับ และพี่ท่านก็แจกธนบัตรขวัญถุงที่หลวงปู่ทิม วัดพระขาวอธิฐานจิตด้วยครับ

    [​IMG]

    ภาพนี้เป็นการอธิฐานจิตอนุโมทนาสาธุยอดบุญที่ร่วมทำกันครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    สมาชิกผู้ร่วมบุญ ตัวน้อยครับ

    [​IMG]

    โต๊ะบรรยายพิเศษ พระสมเด็จ 2408 ครับ

    [​IMG]

    สองเซียนยอดสาวพี่ๆ ครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    การสอบถามการปฏิบัติธรรม ภาคปฏิบัติครับ เรื่องของลมเนี้ย ตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงขั้นสุดยอดเลยนะครับ

    [​IMG]

    ปิดท้ายด้วยภาพการมอบค่าอาหารที่ทำถวายพระสงฆ์ที่ท่านอาพาธ ทั้งตึกครับ

    [​IMG]

    สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_0095.jpg
      DSC_0095.jpg
      ขนาดไฟล์:
      216.8 KB
      เปิดดู:
      353
    • DSC_0102.jpg
      DSC_0102.jpg
      ขนาดไฟล์:
      142.3 KB
      เปิดดู:
      344
    • DSC_0103.jpg
      DSC_0103.jpg
      ขนาดไฟล์:
      152.5 KB
      เปิดดู:
      349
    • DSC_0106.jpg
      DSC_0106.jpg
      ขนาดไฟล์:
      138.7 KB
      เปิดดู:
      330
    • DSC_0125.jpg
      DSC_0125.jpg
      ขนาดไฟล์:
      194.5 KB
      เปิดดู:
      328
    • DSC_0111.jpg
      DSC_0111.jpg
      ขนาดไฟล์:
      175 KB
      เปิดดู:
      322
    • DSC_0101.jpg
      DSC_0101.jpg
      ขนาดไฟล์:
      162 KB
      เปิดดู:
      318
    • DSC_0131.jpg
      DSC_0131.jpg
      ขนาดไฟล์:
      194 KB
      เปิดดู:
      328
    • DSC_0206.jpg
      DSC_0206.jpg
      ขนาดไฟล์:
      201.8 KB
      เปิดดู:
      339
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กุมภาพันธ์ 2011
  6. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายการทำบุญทุนนิธิ เดือนกุมภาพันธ์ 54 ตอนที่ 6

    ปิดท้ายรายงานภาพการทำบุญทุนนิธิด้วยภาพแสดงยอดบริจาค รพ. สงฆ์

    [​IMG]

    ภาพพระสมเด็จของพี่ท่านหนึ่ง ขอมาถ่ายครับ

    [​IMG]

    และหลวงปู่ชีวกโกมารภัจจ์ ที่ รพ. สงฆ์ครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    พบกันอีกครั้งในเดือนมีนาคม 54 ครับ

    ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านด้วยครับ

    ทั้งการเยี่ยมชม ร่วมทำบุญ ส่งใจมา ช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา

    สืบสานความดี สงบสุขเย็น ทุกท่านครับ

    สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_0207.jpg
      DSC_0207.jpg
      ขนาดไฟล์:
      206.8 KB
      เปิดดู:
      339
    • DSC_0119.jpg
      DSC_0119.jpg
      ขนาดไฟล์:
      163.5 KB
      เปิดดู:
      323
    • DSC_0215.jpg
      DSC_0215.jpg
      ขนาดไฟล์:
      217.2 KB
      เปิดดู:
      320
    • DSC_0211.jpg
      DSC_0211.jpg
      ขนาดไฟล์:
      233.9 KB
      เปิดดู:
      338
  7. Limtied

    Limtied เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    822
    ค่าพลัง:
    +3,662
    ร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ
    01/03/11 07.35 น. 444.- บาท<!-- google_ad_section_end -->​
     
  8. ชิน9

    ชิน9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +247
    สวัสดีครับทุกท่าน ผมได้โอนเงินบริจาคจำนวน 2,000.-บาท

    2/03/2011 08:06 น. tmb mbankingและของเดือนกุมภาพันธ์ 2,000.-จำวันที่ไม่

    ได้แต่โอนผ่านกรุงศรี ประตูนำ ขอบคุณครับ


    ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศล จากการร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

    อุทิศให้แก่อาม่า คื้อเจ็ง แซ่ซิ่ม.ขอให้อาม่าได้รับผลบุญกุศลนี้และอนุโมทนาบุญ

    กุศลแก่ข้าพเจ้าด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเทอญ
     
  9. ปิติธัมโม

    ปิติธัมโม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2011
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +11
    ขอร่วมบริจาคประจำเดือนมีนาคมจำนวนเงิน 123 บาท...ขออนุโมทนาครับ
     
  10. ลูกปลาใหญ่

    ลูกปลาใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +577
    เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ได้โอนเงินเข้าบัญชีทุนนิธิฯ จำนวน 500 บาท เพื่อร่วมทำบุญประจำเดือน มี.ค. 53 ครับ
     
  11. Magicbunny

    Magicbunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    766
    ค่าพลัง:
    +614
    "ข้าพเจ้าขอร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ "ศ. ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร" (pratom foundation) ผลบุญอันก่อเกิดครั้งนี้ ขออุทิศให้แก่ นายบุญเลิศ กล้ากสิกรรม ผู้เป็นบิดา"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2011
  12. ไชยชุมพล

    ไชยชุมพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +1,873
    ขอแจ้งรายการทำบุญกับทุนนิธิฯ ประจำเดือนนี้ครับ
    วันที่ 2 มีนาคม จำนวน 222 บาท
    วันที่ 3 มีนาคม จำนวน 500 บาท
     
  13. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096
    [​IMG]

    ธรรมะเย็นใจ : สอนใจตัวเองก่อน

    เมื่อเราเป็นผู้ใหญ่ เป็นครู เป็นพ่อแม่

    มีลูกน้อง มีลูกศิษย์ มีลูก

    สมมติว่าเราเป็นพ่อแม่มีลูก

    เมื่อลูกทำผิดจริง ๆ แล้วเราโกรธ ใจร้อน อย่าเพิ่งสอนลูก

    สอนใจตัวเองให้ระงับอารมณ์ร้อน ให้ใจเย็น ใจดี

    มีเมตตาก่อน จนรู้สึกมั่นใจว่าใจเราพร้อมแล้ว

    และดูว่าลูกพร้อมที่จะรับฟังไหม ถ้าเราพร้อม

    แต่ลูกยังไม่พร้อม ก็ยังไม่ต้องพูด เพราะไม่เกิดประโยชน์

    เราพร้อมที่จะสอน เขาพร้อมที่จะฟัง

    จึงจะเกิดประโยชน์เป็นการสอน

    ถ้าเราสังเกตุดู บางครั้งใจเรารู้สึกเหมือนอยากจะสอน

    แต่ความเป็ฯจริงแล้วเราเพียงอยากระบายอารมณ์ของเรา

    สิ่งที่เราพูดแม้เป็นเรื่องจริง แต่ก็แฝงด้วยความโกรธ

    เพราะยังเป็นความใจร้อน มีตัณหา

    ถ้าใจเราโกรธ พูดเหมือนกัน พูดคำเดียวกัน นั่นคือโกรธ
    ถ้าใจเราดี ใจเขาดี คำพูดของเราเป็นประโยชน์ นั่นคือ
    สอน
    เมื่อเราอยู่ในสังคม สิ่งที่ต้องระวังคือ หากเห็นใครทำผิด
    อย่ายึดมั่นถือมั่นในความรู้สึกและความคิดของตน
    อย่ายินดี อย่ายินร้าย ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน
    พยายามอบรมใจตนเองว่า
    ธรรมชาติของคนเรา มักจะมองข้ามความผิดของตนเอง
    ชอบจับผิดแต่คนอื่น




    มองเห็นความผิดของคนอื่นเหมือนภูเขา
    เห็นความผิดตนเท่ารูเข็ม
    ตดคนอื่นเหม็นเหลือทน
    ตดตนเองเหม็นไม่เป็นไร
    ปากคนอื่นเหม็นเหลือทน
    ปากของตนเหม็นไม่รู้สึกอะไร
    :
    :
    เรามักทุ่มใจ ไปอยู่ที่ความรู้สึกนึกคิดของตนเอง
    อย่าเชื่อความรู้สึก อย่าเชื่ออารมณ์ อย่ายินดี ยินร้าย
    พยายามรักษาใจเย็น ใจดี ใจกลาง ๆ
    ปกติเราทำผิดเหมือนกัน เท่ากัน หรืออาจจะมากกว่าเขา
    แต่ความรู้สึกของเรามักจะมากกว่าเขา
    และไม่เห็นความผิดของตัวเองเลยน่ากลัวจริง ๆ
    สังเกตุดู คนที่ขี้บ่น ขี้โมโหว่าคนอื่นทำอะไรไม่ดี ไม่ถูก
    ตัวของเขาเอง คิดดี พูดดี ทำดีไหม....ก็อาจจะไม่
    เราเองก็เหมือนกัน เมื่อเราเกิดอารมณ์ไม่พอใจ
    อย่าเชื่อความรู้สึกให้ระงับอารมณ์เสีย ทำใจเป็นกลาง ๆ
    ไว้
    :
    :
    อย่าเชื่อความรู้สึก
    อย่าเชื่ออารมณ์
    อย่ายินดียินร้าย
    :
    :
    ธรรมะของพระอาจารย์มิตซูโอะ เควสโก
    วัดสุนันทวนาราม
    บ้านท่าเตียน ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัด
    กาญจนบุรี
    จากหนังสือเหตุสมควรโกรธ....ไม่มีในโลก
    :
    :
    ขอขอบคุณภาพจาก

    http://www.maemaiplengthai.com/webboard

    /attachments

    /20081019_2d2d637c163804e907bdh3hWKpXn9Xz8.jpg
     
  14. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096
    ขอไว้ัอาลัียท่านพ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เป็นครั้งสุดท้าย

    [​IMG]


    สิ่งที่พระหลวงตามหาบัวสอนตอนท้ายๆ ก่อนจะละสังขาร
    จากพระครู อรรถกิจ นันทคุณลูกศิษย์ของท่านครับ
    ===============================================

    ตอนนั้นวันที่ 1 มกรา ปีนี้ ตอนนั้นท่านอยู่ที่ศิริราช เรียกว่า ท่านอาพาธหนักแล้วล่ะ
    ทุกๆ คืนจะมีพระไปอยู่เป็นเพื่อนท่านแล้วก็จับท่าน
    ธรรดาของผู้สูงอายุถ้าเกิดเราได้จับมือคนไข้ไว้ก็จะเป็นความอบอุ่น เพราะว่ามือเท้าจะเย็น
    พระก็จับมือท่านทุกวันๆมาจนวันที่ 1 มกรา แทนที่พระจะจับท่าน ท่านเอามือท่านมาจับมือพระเอาไว้
    ก็คือท่านอาจารย์สุดใจที่เป็นรองเจ้าวาส แล้วท่านก็พูดคำที่ชัดเจนได้ยินพร้อมๆกันและจำกันมาได้
    แล้วก็เอามาจดกันไว้...

    " มือของครูอาจารย์
    กับมือของลูกศิษย์ลูกหา
    ญาติมิตรเพื่อนฝูง
    เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
    ใช้แทนกันได้ ไว้ใจกันได้ "

    หลายความหมายมาก เป็นทั้งเรื่องของบ้านเมือง แต่ว่าตอนนั้นต่างคนต่างก็ช่วยกันเพื่อจะดูแลรักษาท่าน
    ต่าง คนต่างก็นำสิ่งที่ดีที่สุดของตัวเองมาเพื่อใช้ในการรักษาท่าน ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของการรักษา มันมีตำรับของการรักษาที่เรียกว่า รักษาแผนปัจจุบัน รักษาทางเลือก ต่างใครต่างก็คิดว่าดีที่สุดเด่นที่สุดมีผลที่สุด ทุกคนจะมุ่งสู่ความเป็นใจเดียวกันคือว่ารักษาหลวงตา


    อยากให้ หลวงตาอยู่อายุมั่นขวัญยื่นอยากให้อยู่ผาสุก แต่ว่าบางครั้งแล้วมันต้องเลือกจริงๆว่าอย่างหนึ่งอย่างใดได้อย่างเดียวผสม กันไม่ได้ บางอย่างอะไรที่ผสมกันได้ บางอย่างที่อะไรจะต้องหนึ่งต้องสอง บางอย่างอาจจะต้องเลือกอันนี้ต้องจับมือคุยกัน

    ถ้าเกิดจับมือคุยกันได้ มืออันนี้มันก็จะคุ้มครองรักษาครูบาอาจารย์ได้ หรือรวมไปถึงไม่ใช่เฉพาะแค่ใกล้ชิดแม้กระทั่งญาติมิตรเพื่อนฝูง

    ครูบาอาจารย์จากไปแล้วมือของลูกศิษย์ก็จะทำงานต่อจากครูบาอาจารย์ได้มองมุมนี้ก็ได้

    เพราะท่านทราบแล้วล่ะว่าอีกไม่นานล่ะ

    ท่าน ก็ฝากเอาไว้ ฝากมรดกทั้งหลายนี่แหละ ฝากบ้านฝากเมืองนี้แหละ ฝากจิตใจของแต่ละคนๆที่มีศีลมีธรรมนั่นแหละ มองเป็นความสามัคคีก็ได้หรือมองว่าให้ทำต่อในสิ่งที่ครูบาอาจารย์ทำเอาไว้ ด้วยมือได้และทำต่อได้ ถ้าเกิดพูดถึงส่วนรวมทำคนเดียวไม่ได้ต้องช่วยกันทำและต้องไว้ใจกันต้องฟังคน อื่นเสร็จแล้วผลสุดท้ายก็จะไว้ใจกัน เมื่อไว้ใจกันแล้วก็ใช้แทนกันได้ทำแทนกันได้แล้วได้ผลด้วย ให้พูดว่าต่างคนต่างทำหรือว่าจนในที่สุดแข่งกันทำแย่งกันทำ ขอให้จับมือกันแล้วก็ตกลงกันว่าจะทำอะไร แล้วก็เป็นธรรมด้วยนะ


    แน่นอนคนรุ่นหนึ่งก็จะต้องหมดไปละไปแล้วคนรุ่นใหม่ก็จะต้องมาทำแทน เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะต้องเป็นเช่นนั้น

    ที่มาจาก รายการเจาะใจ ตอน ศรัทธาหลวงตามหาบัว ออกอากาศ 17 ก.พ. 2554


    _/|\_ _/|\_ _/|\_
    [​IMG]


    Link ที่เกี่ยวข้อง
    เจาะใจ ตอน ศรัทธาหลวงตามหาบัว;อยากให้รับชมกันครับ;กับความดีที่มากล้นของท่าน
    http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=1534.msg14735#msg14735



    credit :คุณ neo22@pantip
    PANTIP.COM �����ʹ�

    [​IMG]


     
  15. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096
  16. benyapa

    benyapa ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,088
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ขออนุโมนทนาด้วยนะคะ เมือ่ไรจะได้มีโอกาสกลับไปร่วมบุญกับคนที่ได้อยู่เมืองไทยอีกก็ไม่ทราบนะคะ สาธุกับทุก ๆ ท่าน ได้แต่ส่งปัจจัยและส่งใจไปร่วมบุญค่ะ
     
  17. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096


    ขออนุโมทนาและสาธุบุญกับทุกๆ ท่านข้างต้นด้วยครับ ผมและคณะกรรมการฯ ทุกท่านขอสัญญาว่าจะบริจาคปัจจัยที่ได้มาจากการบริจาคของท่านนั้น ใช้เพื่อสงเคราะห์สงฆ์อาพาธและการจำเป็นอื่นๆ เพื่อเป็นการสืบทอดพุทธศาสนาของเราให้มั่นคงและถาวรสืบไปโดยไม่ให้ขาดหล่นแม้แต่สตางค์แดงเดียวครับ...


    [​IMG]


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2015
  18. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096

    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center>

    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>​


    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">
    เรื่องดีสาม งามสี่ คงที่แปด เป็นธรรมะสำคัญและจำเป็นในการอยู่ร่วมโลกร่วมสังคมจะทำให้เกิดความหนักแน่นในจริตอัธยาศัยไม่หวั่นไหวต่ออำนาจ
    ของโลกธรรมที่พัดกระพือเข้ามาสู่เราและจะทำให้เราท่านทั้งหลายอยู่ในสังคมได้อย่างสง่างาม

    ดีสาม นั้นคืออะไร
    ๑.รู้ดี
    ๒.สามารถดี
    ๓.ประพฤติดี

    ทั้งสามดีเป็นดีที่ครบวงจรคนเราจะมีความรู้ดีก็ต้องอาศัยการศึกษาการสดับรับฟังการขบคิดพิจารณาถึงจะทำให้เกิดความรู้ดีแต่บางคนมีความรู้ดีแต่ถ้าความสามารถไม่ดีความรู้ดีมันก็เป็นหมันอีกแต่ความสามารถดีจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องอาศัยการฝึกฝน การฝึกฝนจะทำให้คนมีคุณภาพ ทนฺโตเสสโถมนุษย์เสสุ ในหมู่มนุษย์คนที่ฝึกฝนดีแล้วเป็นคนที่ประเสริฐที่สุดแม้แต่สิงห์สาลาสัตว์ ที่ฝึกดีแล้วมันก็ยังน่ารักเขาจึงบอกว่า

    อันลิงข้างกลางป่าจับมาหัด สารพัดฝึกได้ดั่งใจหมาย
    เกิดเป็นคนมาฝึกฝนแทบล้มตาย หากเอาดีไม่ได้ก็อายลิง


    เพราะฉนั้นฝึกอะไร ฝึกกาย ฝึกวาจา ฝึกใจของเราให้ดีงามขึ้นสามารถดีและประพฤติดี ​

    คำว่าประพฤติดีนั้นหมายความว่าอย่างไร เราท่านทั้งหลายจะแสดงพฤติกรรมอย่างไรก็ตามไม่เป็นการขัดข้องไม่เพื่อความขัดขวาง เพื่อไม่เป็นอุปสรรคขวากหนามของผู้อื่นเป็นที่ชื่นชม ไม่เป็นที่ขื่นขมของผู้คนทั้งหลาย เพราะฉนั้น รู้ดี สามารถดี ประพฤติดี จึงเป็นเรื่องสำคัญ มีความรู้คือมีคุณวุฒิดีแล้วก็ต้องมีความสามารถดีแล้วก็ต้องประพฤติดีมีคุณธรรม วิชาจรณสัมปันโณมีความรู้แล้วก็ต้องมีความประพฤติที่ดีงามด้วยวิชาเป็นอำนาจ มารยาทเป็นเสน่ห์ ที่ท่านบอกว่าความรู้ดีความสามารถดีความประพฤติดีนี่คือดีสาม ​

    ต่อมาก็งามสี่หมายถึงอะไร
    กายงาม วาจางาม จิตใจงาม และน้ำใจงาม งามให้ได้ทั้งสี่อย่างนี้ถือว่าเป็นยอดคน ​

    กายงาม ก็คือประพฤติอยู่ในกายสุจริตทั้งสาม ​

    วาจางาม ก็คือประพฤติอยู่ในวจีสุจริตทั้งสี่ ​

    จิตใจงามก็คือประพฤติอยู่ในมโนสุจริตทั้งสาม ​

    เวลาที่ขอขมาลาโทษซึ่งกันและกัน กายกรรมสาม วจีกรรมสี่ มโนกรรมสาม และน้ำใจงามอันนี้สำคัญมากในการอยู่ร่วมกันในสังคมประเทศชาติจะเกิดความอบอุ่น ไม่เกิดความอบอวน ไม่เกิดความอบอ้าว เพราะเรามีน้ำใจงาม ชีวิตของคนเรานั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับน้ำใจตลอดคือ น้ำกิน น้ำใช้ น้ำใจ น้ำคำ เป็นเรื่องสำคัญมาก น้ำกิน น้ำใช้ น้ำใจ น้ำคำ แต่บรรดาน้ำทั้งหลายนั้นที่สำคัญที่สุดก็คือน้ำใจ โบราณจึงบอกว่า น้ำบ่อ น้ำคลอง ยังเป็นรองน้ำใจ น้ำที่ไหน ๆ ก็สู้น้ำใจไม่ได้ เพราะว่าน้ำใจเป็นน้ำที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นน้ำที่มีฤทธิ์ ที่จะบันดารทุกสิ่งทุกอย่างทุกประการได้ปรารถนาได้สารพัด ในปัฐพีเอาน้ำใจไมตรีแลกได้ดั่งใจจง คำว่าน้ำใจ คือน้ำที่หลั่งออกมาจากใจเกิดจากการเมตตากรุณาธรรม ไม่มีใครบังคับมันเกิดขึ้นมาเอง ​

    ล้นเกล้าราชกาลที่ ๖ จึงได้พระราชนิพนธ์ไว้ว่า ​

    อันความกรุณาปราณี จะมีใครบังคับก็หาไม่
    หลั่งออกมาเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน

    ถามว่ายามไหนบ้างที่คนเราจะได้แสดงน้ำใจต่อกันและกันที่สำคัญที่สุดก็มีอยู่สามยาม ยามจน ยามเจ็บ ยามจาก สาม จ. นี้สำคัญมาก ยามจนขัดสนค้นแค้นใครเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่บ้าง ​

    ยามเจ็บไข้ได้ป่วยใครเยี่ยมยามถามข่าวสารทุกสุกดิบเราบ้าง และยามจากใครหลั่งน้ำตาให้กับการจากไปเราบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครมีน้ำใจและไม่มีน้ำใจใครก็ตามเจ็บเยี่ยมไข้ ตายเยี่ยมผี มีช่วยเหลือ นั้นคือคนมีน้ำใจงามใครก็ตาม
    เจ็บไม่เยี่ยมไข้ตายไม่เยี่ยมผี มีไม่ช่วยเหลือ นั้นคือคนที่แล้งน้ำใจ เป็นคนที่โลกแคบที่สุด พระพุทธเจ้าจึงตรัสไว้ว่า คนเรานั้นจะต้องเอื้อเฟื้อเกื้อหนุนเจือจุนแบ่งบันซึ่งกันและกัน ​

    เนกาสีลปเตสุขํ องค์พระพุทธเจ้าท่านตรัสชี้ว่า กินคนเดียวความสุขไม่มี ถึงจะอ้วนพลีก็ไม่กี่วัน วัฒนธรรมไทยของเราแต่โบราณได้ยึดถือและปฏิบัติกันมาตั้งแต่โบราณกาลนั้นคือ พริกเรือนเหนือ เกลือเรือนใต้ หมูไปไก่มา ยื่นโยนซึ่งกันและกัน มีอะไรก็เหลียวแลสอดส่องซึ่งกันและกัน ดั่งคำที่ว่า คอยสอดคอยส่อง คอยมองคอยเมียง บ้านใกล้เรือนเคียง คอยเรียกขาน ไต่ถามยามทุกข์ ข้าวสุกข้าวสาร ขาดเหลือเจือจาน กันด้วยน้ำใจ เมตตาปราณี มีความเอื้อเฟื้อ พริกอยู่เรือนเหนือ เกลืออยู่เรือนใต้ พี่ให้ไก่มา น้องเอาปลาไป วิสัยคนไทย ย่อมมีเมตตา นี้คือน้ำใจงาม ดีสาม งามสี่ ​


    คราวนี้คงที่คือแปด คำว่าคงที่คือไม่หวั่นไหว ไปตามอำนาจสิ่งที่มากระทบอารมณ์ ทุกอย่างที่มันมาประดังประดา เข้ามาหาเราท่านทั้งหลายนั้น ​

    โดยสรุปก็มีอยู่ ๒ อย่าง คือ อารมณ์ชอบกับอารมณ์ชัง อารมณ์ชอบเรียกว่าอิฏฐาลม
    อารมณ์ไม่ชอบเรียกว่าอนิฏฐาลม ชีวิตจะต้องประสบความดี ความไม่ดี ​

    ความชอบ ความไม่ชอบ มีอยู่ ๒ อย่าง คือฝ่ายชื่นชมและฝ่ายขมขื่น มีสุขมีทุกข์ มีได้มีเสีย มีสมหวังมีผิดหวัง มีหัวเราะมีร้องให้ มีสรรเสริญมีนินทา อย่างนี่เป็นต้นไม่มีอะไรข้างเดียวจะมาเป็นคู่ท่านจึงบอกว่า ​

    ในโลกนี้มีอะไรที่ไม่คู่ เห็นกันอยู่ทั่วถ้วนล้วนเป็นสอง แม้แต่พระจันทร์ยังต้องมีพระอาทิตย์หมายปอง ได้พบพร้องกันบ้างเป็นครั้งครา ร้อนคู่เย็นเห็นชัดถนันแน่ เกิดแล้วแก่ตายรุมหนุ่มคือกับสาว หมาคู่กับแมว แจวคู่กับพาย สั้นคู่กับยาว ดำคู่กับขาว บ่าวคู่กับนาย ตายคู่กับเป็น จนคู่กับมี ดีคู่กับชั่ว หัวคู่กับหาง หนาคู่กับบาง สางคู่กับผี ชีคู่กับเถน ที่ไร้คู่อยู่เกะกะเขาว่ามีแต่พระกับเณร แสดงว่าทุกอย่างมันมีคู่ ถ้าเรารู้เท่าทันตามกระแสโลกแล้ว เอากระแสธรรมมานำกระแสโลก เราก็จะยิ้มได้เมื่อภัยมา ไม่โสกาเมื่อทุกข์มี อะไรเกิดขึ้นก็มองเห็นเป็นธรรมชาติ ไม่มีอะไรนอกเหนือจากธรรมดา เกิดก็ธรรมดา แก่ก็ธรรมดา เจ็บก็ธรรมดา ตายก็ธรรมดา พลัดพรากจากคนรักของรักก็ธรรมดา หัวเราะก็ธรรมดา ร้องให้ก็ธรรมดา ในธรรมจักรกัปวัตตนสูตรพระพุทธเจ้าจึงตรัสไว้ว่า ​

    ยํกิญฺจิสมุทยธมฺมํ สพฺพนฺตํนิโรทธมฺมํ สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีการเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
    สิ่งนั้นย่อมมีการดับไปเป็นธรรมดา ไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากธรรมดา ​

    ด้วยเหตุนี้คนที่เข้าถึงธรรมดาได้แล้วจะเป็นคนคงที่ไม่หวั่นไหวอะไรจะมากระทบ ก็ยิ้มได้ ยิ้มได้เมื่อถูกเยาะ หัวเราะเมื่อถูกเย้ย วางเฉยเมื่อถูกชมไม่เต้นตามกระแสโลกของสังคมนี่คือเรื่อง ความดีความงามหรืออีกในหนึ่งคือ ดีสาม งามสี่ คงที่คือแปด ​





    .....................................................​

    ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพนฺตํ นิโรธธมฺมนฺติ
    สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
    สิ่งนั้นทั้งหมดมีดับเป็นธรรมดา​




     
  19. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096
    "ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้ไม่ใช่ของจริง"

    พระคุณเจ้าธัมมวิตักโกภิกขุ (อดีต)พระยานรรัตน์ราชมานิต วัดเทพศิรินทราวาส
    เป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ระดับเพชรน้ำหนึ่งในจังหวัดพระนคร
    ท่านเป็นพระธุดงค์ขนานแท้ ที่ไม่เคยออกจากวัดเทพศิรินทร์ไปไหนเลย
    ท่านใช้เวลาส่วนใหญ่ ทำความเพียรของท่านเงียบๆ อยู่องค์เดียวในกุฏิ
    จะออกจากกุฏิเฉพาะในเวลาทำวัตรสวดมนต์เท่านั้น
    และหากผู้ใดประสงค์จะนมัสการท่าน
    ก็ต้องรอพบท่านเวลาลงทำวัตรในพระอุโบสถเท่านั้น
    ไม่มีข้อยกเว้น แม้แต่กับคนใหญ่คนโตระดับนายกรัฐมนตรีที่สั่งประหารใครก็ได้

    ธรรมะที่ท่านแสดงไว้มีไม่มากนัก
    แต่ทุกบท ล้วนคมคายน่าประทับใจอย่างยิ่ง
    สะท้อนถึงความไม่ธรรมดา ในความธรรมดาของท่านอย่างโดดเด่นทีเดียว
    ดังบทที่ยกมากล่าวในวันนี้ที่ว่า
    "ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้ไม่ใช่ของจริง"

    หากมองในทางโลก คำสอนนี้คงตรงข้ามกับสำนวนที่ว่า "ปี๊บเปล่าตีดัง"
    แต่ในทางธรรมแล้ว ประโยคนี้มีความสุขุมลุ่มลึกอย่างยิ่ง

    ในแง่ของการเจริญวิปัสสนาแล้ว
    การที่จิตจะเจริญวิปัสสนาในขั้นละเอียดจริงๆ จิตจะต้องรู้อารมณ์ในลักษณะ "สักว่ารู้"
    ไม่มีความคิดนึกปรุงแต่งไปตามสัญญาอารมณ์ว่า สิ่งที่จิตไปรู้เข้านี้คืออะไร
    เช่นลิ้นกระทบรส ก็รู้รสนั้น อันเป็นสภาวธรรมที่กำลังปรากฏ
    จิตจะรู้ความเข้มของรสที่เปลี่ยนระดับไป ตั้งแต่มีความเข้มสูง
    จนกระทั่งกลืนอาหารนั้น และรสเดิมนั้นดับหายไป
    ผู้ปฏิบัติไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นนักพากษ์หนัง
    ที่จะเอาบัญญัติเข้าไปกำกับรสนั้น ว่า นี่คือรสเปรี้ยว นี่คือรสหวาน
    จุดที่รู้สภาวะนั้นแหละคือวิปัสสนา ส่วนบัญญัติที่เกิดขึ้นนั้นเป็นส่วนเกิน

    กระทั่งธัมมารมณ์ที่เกิดขึ้นกับจิตก็เหมือนกัน
    จิตที่เดินวิปัสสนาละเอียด จะรู้เพียงว่า
    มีสิ่งบางสิ่งปรากฏยิบยับหรือไหวตัวขึ้นมาเท่านั้น
    โดยสังขารขันธ์ไม่ต้องเข้าไปแทรก
    หรือตามอธิบายว่าสิ่งนั้นคือราคะ โทสะ โมหะ หรืออะไร
    ผู้ปฏิบัติรู้สภาวะก็พอแล้ว ส่วนบัญญัติเป็นส่วนเกินในขณะนั้น

    หลวงพ่อพุธ ฐานิโย พระเถระผู้เพิ่งล่วงลับไปท่านจึงกล่าวว่า
    "วิปัสสนาแท้ๆ นั้น เริ่มตรงที่หมดความคิด"


    ท่านย้ำว่า หลวงตามหาบัวก็กล่าวบ่อยครั้งว่า
    "ปฏิบัติไปแล้วไม่มีอะไรมาก มีแต่ความยิบยับเล็กน้อยเท่านั้น"

    หมายความว่า "มีสิ่งบางสิ่งเกิดขึ้น แต่จิตไม่ไปสำคัญมั่นหมายว่าสิ่งนั้นคืออะไร
    จิตรู้เพียงว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น จะต้องดับไปทั้งหมด"

    พวกเราจำนวนมากในที่นี้ ก็เริ่มรู้ด้วยตนเองแล้วว่า
    อารมณ์ที่เกิดขึ้นมาให้จิตรู้นั้น เมื่อเกิดแล้วก็ต้องดับไป
    อารมณ์บางอย่าง เรารู้สมมุติว่าคืออะไร
    แต่อารมณ์บางอย่างไหวยิบยับขึ้นมา พอถูกรู้ก็ดับไปแล้ว
    เหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟฉะนั้น

    เพียงฟังคำว่า "ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้ไม่ใช่ของจริง"
    ก็สมควรลงกราบ "ท่านเจ้าคุณนร" ผู้ทรงคุณธรรมที่หาได้ยากยิ่ง
    ธรรมะที่แท้นั้น ท่านผู้ปฏิบัติถูกตรงย่อมเข้าถึงธรรมอันเดียวกันนั้นเอง
    ไม่จำกัดว่าสายไหน พูดกันเพียงเล็กน้อยก็เข้าใจกันได้แล้ว

    อนึ่ง ธรรมที่เหนือคำพูดนั้น
    ดูดดื่ม ร่มเย็น แช่มชื่น
    และน่าฟังกว่าธรรมที่พูดได้แจ้วๆ อย่างเทียบกันไม่ได้เลย



    http://www.watkoh.com/forum/index.php?topic=3396.0
     
  20. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD height="100%" vAlign=top width="85%">

    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"></TD></TR></TBODY></TABLE>บวก ลบ คูณ หาร


    การคำนวณ ควรชำนาญ คูณหารเป็น คำกลอน แต่ก่อนเก่า ว่าไว้อย่างนี้ มนุษย์เรา ต้องเกี่ยวข้องกับ บวก ลบ คูณ หาร เสมอบวก คิดเชิงบวกคิดดี มีกำไร คิดแต่จะเพิ่ม เสริมเติมเข้าไป ลบ หากคิดเชิงลบ ก็คิดในทางร้าย มองโลกในแง่ร้าย มองแต่สิ่งไม่ดีไม่งาม มองคนในทางเสียหาย ๆ แต่หาก คิดลบ เอาบางสิ่งบางอย่าง ออกไปจากกาย จากใจของตน ก็นับว่าดีอยู่ไม่น้อย ค่อย ๆ ลบออกไป ใช้ยางลบลบเจ้าสิ่งชั่ว สิ่งเน่า สิ่งเหม็นในจิต ในใจของตน ออกไปให้หมด คูณ มีแต่จะเพิ่มขึ้น ๆ ๆ เป็นทวีคูณ คือ คูณด้วยสอง มีเพิ่มเป็นสองเท่าจากเดิม ตรีคูณ คูณด้วยสาม มีเพิ่มเป็นสามเท่า คูณด้วยสี่ มีเพิ่มเป็นสี่เท่า บางคนรวยเร็วนักหนา เพราะมีทรัพย์สินเกื้อหนุนพูนเขาทบหลายร้อยเท่าพันทวี รวยเร็ว


    รวยมากกลายเป็นเศรษฐีใหม่ ที่เรียกว่า กระฎุมพี ภาษาอังกฤษ เรียกว่า Nouveau Riched พวกคนรวยใหม่ มีเงินทองมากมายล้นฟ้า จะซื้อ เอาประเทศไทยก็ยังได้ ชีวิตนี้ มีแต่คูณ ๆ ๆ ๆ มีแต่อยากได้ เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนการหารก็มี หารสอง คือแบ่งครึ่ง ให้ส่วนหนึ่ง ทำบุญส่วนหนึ่ง บางคนก็หารด้วย สาม สี่ หรือ ห้า แล้วแต่ความเหมาะสม


    บวก ความสุขใดใดในโลกนี้


    ลบ ความเศร้าโศกีให้เหือดหาย


    คูณ ด้วยโชคร้อยชั้นจนวันตาย


    หาร อบายเกลือกกลั้วที่พัวพัน



    บวก ความรักภักดีอารีรอบ


    บวก ความชอบเป็นศรีที่สร้างสรรค์


    บวก ความดีที่กระทำอยู่ทุกวัน


    บวก ความมั่นคงอยู่คู่การงาน



    ลบ สิ่งร้ายจากใจให้สิ้นเถิด


    ลบ ความแก่ที่เกิดจากสังขาร


    ลบ ความโลภที่มีในสันดาน


    ลบ ความพาลเก่งกล้าบ้าอวดตน



    คูณ ด้วยความกตัญญูรู้คุณท่าน


    คูณ ด้วยการฝักใฝ่ในกุศล


    คูณ ด้วยความสามัคคีวีรชน


    คูณ ด้วยใจใสอำพนพิพัฒน์พูน



    หาร สิ่งร้ายจากใจให้สิ้นซาก


    หาร ความทุกข์ลำบากให้สิ้นสูญ


    หาร เสนียดจัญไรส่งไพบูลย์


    หาร ความเขลาเศร้าสูญให้หมดไป


    http://www.watkoh.com/forum/index.php?topic=2950.0
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...