ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ลำดับต่อมาครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    พี่ท่านทั้ง 2 เป็นตัวแทนของหมู่คณะ และท่านๆ ทั้งหลายที่ร่วมช่วยกันทำนุบำรุงพระศาสนาครับ

    โดยมอบปัจจัยให้โรงพยาบาลครับ

    [​IMG]

    เดือนนี้ 15,000 บาท

    [​IMG]

    สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC11441.JPG
      SDC11441.JPG
      ขนาดไฟล์:
      99.6 KB
      เปิดดู:
      605
    • SDC11442.JPG
      SDC11442.JPG
      ขนาดไฟล์:
      117.2 KB
      เปิดดู:
      601
    • SDC11443.JPG
      SDC11443.JPG
      ขนาดไฟล์:
      105.5 KB
      เปิดดู:
      591
    • SDC11444.JPG
      SDC11444.JPG
      ขนาดไฟล์:
      106.2 KB
      เปิดดู:
      588
    • SDC11445.JPG
      SDC11445.JPG
      ขนาดไฟล์:
      112.4 KB
      เปิดดู:
      583
    • SDC11447.JPG
      SDC11447.JPG
      ขนาดไฟล์:
      105.4 KB
      เปิดดู:
      580
    • SDC11451.JPG
      SDC11451.JPG
      ขนาดไฟล์:
      83.8 KB
      เปิดดู:
      573
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 สิงหาคม 2009
  2. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ช่วงต่อมาครับ

    การถ่ายรูปร่วมกันที่หน้าตึกครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    ต่อมาก็อธิฐานจิตร่วมกันครับ

    [​IMG]


    [​IMG]

    แล้วก็เริ่มพิธีกันครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC11454.JPG
      SDC11454.JPG
      ขนาดไฟล์:
      119.2 KB
      เปิดดู:
      893
    • SDC11459.JPG
      SDC11459.JPG
      ขนาดไฟล์:
      110.9 KB
      เปิดดู:
      843
    • SDC11460.JPG
      SDC11460.JPG
      ขนาดไฟล์:
      119.2 KB
      เปิดดู:
      837
    • SDC11461.JPG
      SDC11461.JPG
      ขนาดไฟล์:
      112.9 KB
      เปิดดู:
      807
    • SDC11463.JPG
      SDC11463.JPG
      ขนาดไฟล์:
      118.7 KB
      เปิดดู:
      811
    • SDC11464.JPG
      SDC11464.JPG
      ขนาดไฟล์:
      102 KB
      เปิดดู:
      816
    • SDC11465.JPG
      SDC11465.JPG
      ขนาดไฟล์:
      106.9 KB
      เปิดดู:
      795
    • SDC11466.JPG
      SDC11466.JPG
      ขนาดไฟล์:
      109.9 KB
      เปิดดู:
      801
    • SDC11467.JPG
      SDC11467.JPG
      ขนาดไฟล์:
      119 KB
      เปิดดู:
      797
    • SDC11468.JPG
      SDC11468.JPG
      ขนาดไฟล์:
      109.3 KB
      เปิดดู:
      789
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 สิงหาคม 2009
  3. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ช่วงสุดท้ายครับ

    ช่วยกันถวายและรับพรร่วมกันครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    พบกันอีกครั้งในเดือนหน้านะครับ

    สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC11469.JPG
      SDC11469.JPG
      ขนาดไฟล์:
      103.4 KB
      เปิดดู:
      768
    • SDC11470.JPG
      SDC11470.JPG
      ขนาดไฟล์:
      117.7 KB
      เปิดดู:
      775
    • SDC11471.JPG
      SDC11471.JPG
      ขนาดไฟล์:
      115.1 KB
      เปิดดู:
      768
    • SDC11472.JPG
      SDC11472.JPG
      ขนาดไฟล์:
      117.3 KB
      เปิดดู:
      781
    • SDC11473.JPG
      SDC11473.JPG
      ขนาดไฟล์:
      99.8 KB
      เปิดดู:
      781
    • SDC11474.JPG
      SDC11474.JPG
      ขนาดไฟล์:
      96 KB
      เปิดดู:
      762
    • SDC11475.JPG
      SDC11475.JPG
      ขนาดไฟล์:
      113.6 KB
      เปิดดู:
      754
    • SDC11476.JPG
      SDC11476.JPG
      ขนาดไฟล์:
      118.1 KB
      เปิดดู:
      760
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 สิงหาคม 2009
  4. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    รูปกิจกรรมของทุนนิธิฯ ที่ได้ไปทำบุญกัน ณ โรงพยาบาลสงฆ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๒

    รูปเพื่อน ๆ ที่ต่างช่วยกันรับบุญด้วยการจัดภัตราหารเพื่อถวายพระภิกษุสงฆ์ผู้อาพาธ
    ช่วยกันมัดถุงหิ้วเป็นชุด ๆ เพื่อความสะดวกในการยกไปถวายพระ เผลอแว๊บเดียวเรียบร้อยไปซะแล้ว นี่แหละหนอพลังแห่งความสามัคคี
    ในวันนี้ได้จัดเตรียม เมนูเพื่อสุขภาพ และขนม นม และผลไม้ที่เพื่อน ๆ ได้นำมาร่วมบุญในครั้งนี้ ขอโมทนาด้วยครับfishh_

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 001.jpg
      001.jpg
      ขนาดไฟล์:
      304.9 KB
      เปิดดู:
      538
  5. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    แอบถ่าย!! ก่อนจะเป็นรูปเป็นร่างดังทุนนิธิฯ เริ่มจากครอบครัวเล็ก ๆ จวบจนปัจจุบันก็ผ่านขวบปีครึ่งไปแล้ว กลายเป็นครอบครัวใหญ่ไปแล้วครับ
    เห็นแล้วปลื้มครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 002.jpg
      002.jpg
      ขนาดไฟล์:
      380.6 KB
      เปิดดู:
      476
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2009
  6. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    "เข็นแล้วรวย ๆ ๆ" วันนี้มีคนเยอะเป็นพิเศษครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 003.jpg
      003.jpg
      ขนาดไฟล์:
      491.5 KB
      เปิดดู:
      465
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2009
  7. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    รูปตุ๊กตา..ทางโรงพยาบาลก็มี ไอเดียดี ๆ มานำเสนอทำได้น่ารักดีครับ
    นำตุ๊กตามาสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันไข้หวัด 2009

    หลังจากได้ขึ้นบนตึกกัลยานิวัฒนาแล้วทางคณะก็ได้มาร่วมจบของทำบุญที่จะนำถวายพระสงฆ์กัน

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 004.jpg
      004.jpg
      ขนาดไฟล์:
      294.1 KB
      เปิดดู:
      500
  8. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    หลังจากจบของทำบุญแล้ว..ทุกท่านก็ได้ร่วมกันกล่าวถวายสังฆทาน
    รับพรและอุทิศส่วนกุศล วันนี้หลวงตาท่านให้พรเยอะดีครับ มีแต่สิ่งที่เป็นมงคล สาธุ สาธุ สาธุ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 005.jpg
      005.jpg
      ขนาดไฟล์:
      433.1 KB
      เปิดดู:
      455
  9. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    หลังจากนั้นแล้วก็แยกย้ายกันไปถวายตามเตียงที่พระสงฆ์ได้พักรักษาอาการอยู่
    [​IMG]

    และชั้นล่าง ๆ ลงมาผมก็ได้สะดุดกับป้าย ๆ หนึ่ง
    และก็ได้นำ ข้อคิด ข้อธรรม มาฝากเพื่อน ๆ กันครับ
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 006.jpg
      006.jpg
      ขนาดไฟล์:
      201 KB
      เปิดดู:
      731
    • 007.jpg
      007.jpg
      ขนาดไฟล์:
      205.6 KB
      เปิดดู:
      499
  10. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    หลังจากทำการถวายภัตราหารให้พระเสร็จแล้วก็ได้มาร่วมสนทนาพูดคุยกันที่ห้องจัดเลี้ยงในโรงพยาบาลสงฆ์

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 008.jpg
      008.jpg
      ขนาดไฟล์:
      315.7 KB
      เปิดดู:
      753
  11. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    รอบนี้มีพยาบาลสาวสวยที่มาร่วมทำบุญมาช่วยแจกขนมให้ทุก ๆ ท่านรัปทานด้วยครับ;aa42

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 009.jpg
      009.jpg
      ขนาดไฟล์:
      297.1 KB
      เปิดดู:
      871
  12. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    [​IMG]


    “ผู้ถือไม่มีบาป ไม่มีบุญ ก็มากมายเข้าแล้ว แผ่นดินนับวันแคบ มนุษย์แม้จะถึงตาย ก็นับวันมากขึ้น นโยบายในทางโลกีย์ใดๆ ก็นับวันประชันขันแข่งกันขึ้น พวกเราจะปฏิบัติลำบากในอนาคต เพราะเนื่องด้วยที่อยู่ไม่เหมาะสม เป็นไร่เป็นนาจะไม่วิเวกวังเวง

    ศาสนาทางมิจฉาทิษฐิ ก็นับวันจะแสดงปฏิหาริย์ คนที่โง่เขลาก็จะถูกจูงไปอย่างโคและกระบือ ผู้ที่ฉลาดก็เหลือน้อย

    ฉะนั้น พวกเราทั้งหลายจงรีบเร่งปฏิบัติธรรม ให้สมควรแก่แก่ธรรมดังไฟที่กำลังใหม้เรือน จงรีบดับเร็วพลันเถิด ให้จิตใจเบื่อหน่ายคลายเมาวัฏสงสาร ทั้งโลกภายในหนังหุ้มอยู่โดยรอบ ทั้งโลกภายนอกที่รวมเป็นสังขารโลก ให้ยกดาบเล่มคมเข้าสู้ คืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พิจารณาติดต่ออยู่ไม่มีกลางวันกลางคืนเถิด

    ความเบื่อหน่ายคลายเมาไม่ต้องประสงค์ ก็จะต้องได้รับแบบเย็นๆ และแยบคายด้วยจะเป็นสัมมาวิมุตติ และสัมมาญาณะอันถ่องแท้ ไม่ต้องสงสัยดอก

    พระธรรมเหล่านี้ไม่ล่วงไปไหน มีอยู่ ทรงอยู่ในปัจจุบัน จิตในปัจจุบัน ที่เธอทั้งหลายตั้งอยู่หน้าสติ หน้าปัญญา อยู่ด้วยกัน กลมกลืนในขณะเดียวนั้นแหละ”


    โอวาทครั้งสุดท้ายของอาจารย์มั่น


    [​IMG]

     
  13. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ๔x๓ = ๑๒ : ท่านพุทธทาสภิกขุ



    [​IMG]

    ๔ x ๓ = ๑๒
    ท่านพุทธทาสภิกขุ
    สวนโมกขพลาราม (วัดธารน้ำไหล) อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี

    ให้ละ = โลภะ โทสะ โมหะ

    ให้ทำ = ทาน ศีล ภาวนา

    ให้นึก = พุทธ ธรรม สงฆ์

    ให้หา = สะอาด สว่าง สงบ

    ๔x๓ = ๑๒

    พ อ แ ล้ ว !!!


    หมายเหตุ : บทความเรื่องนี้ใช้อักขรวิธีตามต้นฉบับ


    (ที่มา : จากอนุทินประจำวัน ปี ๒๔๙๕ ที่บันทึกไว้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๔๙๕ ใน
    “พุทธทาสลิขิตข้อธรรม : บันทึกนึกได้เอง ว่าด้วย ชีวิต สังคม การเมือง สันติภาพ
    และหลักคิดสำคัญๆ”;
    พิมพ์ครั้งที่ ๑ วันพุทธทาส ๒๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
    โดย สวนโมกขพลาราม และคณะธรรมทานสุราษฎร์ธานี


    http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=23093
     
  14. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    การให้ธรรมที่แท้จริง
    หมายถึงการทำตนเองของทุกคน ให้มีธรรม


    พิจารณาจากความจริงที่ว่า ผู้มีธรรมเป็นผู้ให้ความเย็น ความสุขแก่ผู้อื่นได้ เช่นเดียวกันกับที่ให้ความเย็นความสุขแก่ตนเอง อาจเห็นได้ว่า การให้ธรรมไม่หมายถึงเพียงการพิมพ์หนังสือธรรมแจก หรือการอบรมสั่งสอนด้วยวาจา ให้รู้ให้เห็นธรรมเท่านั้น

    แต่การให้ธรรมที่แท้จริง ย่อมหมายถึง การทำตนเองของทุกคนให้มีธรรม ให้ธรรมในตนปรากฏแก่คนทั้งหลายโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมีการแสดงออกเป็นการสั่งสอนด้วยวาจา หรือเช่นด้วยการแสดงธรรมแบบพระธรรมเทศนาของพระ

    การสั่งสอนธรรมหรือให้ธรรมด้วยความประพฤติปฏิบัติธรรมด้วยตนเองนั้น
    มีความสำคัญเหนือกว่าการแจกหนังสือธรรมเป็นอันมากด้วยซ้ำ
    เพราะ การประพฤติปฏิบัติธรรมด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ
    จนธรรมนั้นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายกับใจ

    นั่นแหละเป็นการแสดงธรรมให้ปรากฏแก่ผู้รู้ผู้เห็นทั้งหลายทั้งปวง
    และจะต้องได้ผลมากกว่าการให้ธรรมที่เป็นข้อเขียนในหน้าหนังสือ


    : การให้ธรรมะ ชนะการให้ทั้งปวง
    : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

    ลานธรรมจักร • บอร์ด - หนังสือธรรมะ
     
  15. nathaphat

    nathaphat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +750
    วันนี้ร่วมทำบุญ 200 บาทครับ ในนามของ คุณพ่อ วิทยา และคุณแม่อัจฉรา อัครานนท์ ครับ (วันเกิดคุณแม่ผม 5 ก.ย.) หลังจากทำบุญนี้แล้วจะให้ท่านร่วมโมทนาครับ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ สาาาาาาาาาาาาาาาาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • slip270852.jpg
      slip270852.jpg
      ขนาดไฟล์:
      693 bytes
      เปิดดู:
      36
  16. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    เมื่อวันที่ ๒๙ ส.ค. ๕๒ ได้ร่วมบุญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ บัญชี "ศ. ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร" (pratom foundation) บัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาถนนวิภาวดีรังสิต(ซันทาวเวอร์ส) บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ ๓๔๘- ๑ - ๒๓๒๔๕ -๙ จำนวนเงิน ๓๐๐.- บาท สาธุค่ะ

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.682721/[/MUSIC]​



    อิทังบุญญพลัง อิมินา ปุญญะกัมเมนะ

    อันว่าบุญแห่งข้าที่ได้กระทำบำเพ็ญไว้ดีแล้วนั้น เช่น สดับตรับฟัง พระสัทธรรมเทศนา สวดมนต์ภาวนา รักษาศีล ทำทาน การกุศล สิ่งใดๆในปัจจุบัน วันนี้ก็ดี ข้าพเจ้าขอกรวดน้ำ ตั้งความปรารถนา ผลบุญที่ได้ทำ ขอให้เป็นเครื่องทิพย์ ถึงบรรพบุรุษ ชนนี ปิตุเรศ อย่านาน แก่ญาติลูกหลานบริวารทุกหมู่ ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ พ้นทุกข์อย่านาน ฝูงเปรตทั้งหลาย บรรดาอสุรกาย นรกทั้งผอง ใหญ่น้อยเนืองนอง จงตั้งใจปอง รับเอาส่วนบุญ สัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ จำได้มิได้ ตัวข้านี้ไซร้ ได้ทำทารุณ ด้วยกาย วาจา ใจ มากมายกองกูล รับเอาส่วนบุญ สิ้นเวรกรรมกัน

    อินศวรพรหมา เทวัญครุฑา นานาคนธรรพ์ ท้าวเวสสุวรรณ พระจันทร์พระอาทิตย์ พระอังคารเรืองฤทธิ พระพุธเสาร์ พระพฤหัสบดี พระศุกร์เรืองศรีรัศมีแกล้วกล้า พระราหูเรืองเดช พระเกตุเทวา พระภูมิพระพาย พระนารายณ์อินทรา พระอุมาเทวี นางมณีเมขลา พระเพลิงแสงกล้า พระคงคา พระธรณี พระยายมราช สิริคุตอำมาตย์ พระสุริยัน จันทรา ผู้เป็นเจ้าบัญชีรับส่วนบุญข้า ทุกเทวาฤาษี พฤกษเทวดา เจ้าป่าพงพี รับส่วนบุญนี้ ช่วยโมทนา กุศลที่ทำจงช่วยแนะนำ ใจข้าได้ตั้งจิตมั่น ขอให้ทันศาสนา องค์พระศรีอารย์ ได้ดังอธิษฐาน

    นะ โม พุท ธา ยะ นิพพานนัง ประมัง สุขขัง
    สาธุ สาธุ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    พรหมลิขิต

    [​IMG]
    [SIZE=-1][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]
    พระพิมพ์สมเด็จสกุลเจ้าคุณกรมท่า พิมพ์พระพรหมชินะปัญชระ


    [/FONT][/SIZE]​
    [SIZE=-1][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]โดย พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี ป.ธ.๙)[/FONT] [/SIZE]​
    [SIZE=-1]
    [/SIZE][SIZE=-1][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]มีคำกล่าวและเชื่อถือกันมาแต่โบราณกาลแล้วว่าทุกคนเกิดมาตามอำนาจ “พรหมลิขิต” ชีวิตจะดีเลวหรือสมหวังผิดหวังอย่างไรก็แล้วแต่พระพรหมท่านจะลิขิตให้เป็นไป เราจะไปฝืนพระพรหมท่านไม่ได้ เพราะท่านขีดให้เราเดินมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกเลยทีเดียว เพราะเชื่อถือหรือกระพือข่าวบอกเล่ากันสืบๆมา คำนี้ก็เลยติดปากคนทั่วไป และทำท่าว่าจะยึดถือกันเป็นจริงเป็นจังเสียด้วยซ้ำ [/FONT] [/SIZE]
    [SIZE=-1]
    [/SIZE][SIZE=-1][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]แม้ในดงผ้าเหลืองเอง ความคิดความยึดถือเช่นนี้ก็ยังระบาดเข้าไปถึง เพราะเชื่อและถือกันมาอย่างนี้ ทุกคนจึงฝากชีวิตไว้กับความปรานีของพระพรหม ผู้เป็นเทพเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ตามที่เชื่อถือกัน แล้วแต่ท่านจะลิขิตชีวิตให้เป็นไป จนถึงกับการติดสินบนเทพเจ้าองค์นี้กันให้เกลื่อนไป ถึงกับยอมลงทุนบวงสรวงอ้อนวอนด้วยเครื่องบัตรพลีนานัปการ สรรหาแต่ละสิ่งละอย่างมาเสนอให้เพื่อถูกใจท่าน โดยก็ไม่รู้เหมือนกันว่าท่านจะชอบหรือไม่ ก็ต้องเดาใจท่านกันไปจนกว่าจะเดาไม่ไหวหรือจนกว่าจะมี “คนกลาง” มาช่วยเดาให้อีกที ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อให้ท่านโปรดปรานประทานเมตตาลิขิตชีวิตให้ดีกว่าที่เป็นอยู่แม้จะสักนิดก็ยังดี ที่มีทุกข์ก็อ้อนวอนให้พ้นทุกข์ ที่มีโรคก็อ้อนวอนให้หมดโรค ที่มีภัยก็อ้อนวอนให้พ้นภัย [/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-1]
    [/SIZE][SIZE=-1][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]คำว่า “พรหมลิขิต” ที่คนโบราณท่านว่าไว้น่าจะไม่ใช่หมายถึง “พระพรหม” ดังที่เราทั่วไปเข้าใจกันเสียแล้ว เพราะหากว่าพระพรหมท่านมีคุณธรรมสูงส่ง เป็นเทพเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์อาจดลบันดาลให้ใครดีใครชั่วได้แล้วไซร้ ไยท่านจึงไม่ลิขิตชีวิตคนทุกคนให้เป็นคนดี คนรวย มีฐานะมั่นคง มีรูปร่างสมประกอบไม่มีโรค มีอายุยืน และให้มีรูปร่างสวยงามโดยไม่ต้องมาเสริมกันในภายหลังเล่า แต่นี่คนเรากลับแตกต่างกันอย่างมากมายทั้งรูปร่าง ฐานะ และความเป็นอยู่ ที่สุขก็สุขเหลือล้น ที่จนก็จนเหลือแสน ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ หรือ “พระพรหมเกเร” ก็มีเหมือนกันจึงได้เที่ยวแกล้งลิขิตชีวิตคนให้เปรอะไปหมด [/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-1]
    [/SIZE][SIZE=-1][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]เมื่อไม่ใช่พระพรหมเช่นว่าแล้ว จะเป็นพระพรหมที่ไหน ท่านคงมองออกลางๆแล้วว่า ผู้ลิขิตชีวิตคนให้ดีเลวแตกต่างกันแท้จริงนั้นได้แก่ “พรหมในบ้าน” คือพ่อแม่นี่เอง เพราะพรหมในบ้านนี้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพรหมเฉยๆโดยไม่ปรากฏหน้าก็มี เป็นพรหมที่ดีบริสุทธิ์ก็มี พรหมเกเรก็มี พรหมเหล่านี้แหละที่มีอิทธิพลต่อชีวิตคน โดยเฉพาะชีวิตของลูก เรียกว่าเป็นพระพรหมของใครของมัน ลิขิตชีวิตลูกใครลูกมัน ไม่ได้เกี่ยวข้องกันมากนักว่างั้นเถอะ เพราะพ่อแม่นั้นมีส่วนได้ดีได้เสียของลูกอย่างเหลือคณนา จะดีก็เพราะพ่อแม่จะเสียก็เพราะพ่อแม่ สุดแล้วแต่พ่อแม่จะลิขิต อนาคตของลูกฝากไว้กับ “ประกาศิต” ของพ่อแม่เท่านั้น [/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-1]
    [/SIZE][SIZE=-1][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ขอให้มองด้วยใจเป็นธรรมจะเห็นจริง อย่าได้ไปโทษเด็กฝ่ายเดียวว่าไม่รักดีเลย ชีวิตของเราฝากไว้กับการตัดสินใจของพ่อแม่ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มาทีเดียว พอเราเกิดมาในท้องท่านแล้ว หากแม่เกิดความไม่พอใจขึ้นมาโดยคิดว่าเราเป็น “ส่วนเกิน” หรือเป็น “มารหัวขน” แล้วลิขิตว่า “เอามันออกเสีย” เท่านี้ก็หมดหวังที่จะได้ลืมตามองโลก หรือพอคลอดออกมาแล้วพ่อลิขิตว่า “ไม่ใช่ลูกฉัน” เท่านี้เราก็ขาดพ่อมีปมด้อยไปตลอดชาติ หรือแม่ลิขิตว่า “แม่เลี้ยงเจ้าไม่ได้แล้วลูกเอ๋ยไปตามยถากรรมเถอะ” ลิขิตแล้วนำไปทิ้งตามถนนหนทาง หรือตามกองขยะ หรือตามโรงพยาบาลที่ตนไปคลอดนั่นเอง เท่านี้ก็เพียงพอที่จะให้เราคิดกันได้ว่า เมื่อถูกลิขิตเช่นนี้ลูกจะมีชีวิตรอดอยู่ได้สักกี่ราย หรือรอดแล้วอนาคตจะเป็นเช่นไรไม่รู้ หรือหากเมื่อเราเติบโตแล้วถูกพ่อแม่ลิขิตโดยไม่เอาใจใส่ ไม่ดูแลเลี้ยงดูให้ดีเท่าที่ควรนัก เพียงเลี้ยงให้โตไปวันๆเท่านั้นก็พอแล้ว ส่วนความประพฤติปล่อยไปตามเรื่องตามราว ทำให้กลายเป็นอาชญากร ก่ออาชญากรรม เป็นบุคคลที่เป็นพิษเป็นภัยต่อสังคม หรือไม่ส่งเสียให้มีการศึกษาเหมือนคนอื่นๆเท่านี้เราก็แย่แล้ว [/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-1]
    [/SIZE][SIZE=-1][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ใครถูกพ่อแม่ลิขิตมาแล้วอย่างไรโปรดคิดดูเองเถิด หรือใครลิขิตชีวิตลูกไว้อย่างไรลองทบทวนดูด้วยประการฉะนี้ คนในสังคมซึ่งแตกต่างกันมากมายอย่างที่เห็นๆกันอยู่ ความเป็นคนดี ความเป็นคนไม่ดี ส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนเริ่มต้นก็มาจากลิขิตของพ่อแม่ซึ่งเป็นพระพรหมดังกล่าว หาใช่พระพรหมที่เป็นเทพเจ้าผู้มีอิทธิปาฏิหารย์อย่างเราเคยเชื่อกันไม่[/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-1]
    [/SIZE][SIZE=-1][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]และก็น่าแปลกอยู่ พระพรหมในบ้านซึ่งมีลมหายใจทั้งคู่ซึ่งเคยลิขิตชีวิตตนมา สมควรจะได้รับเครื่องบัตรพลีบูชาอย่างท่วมท้น แต่เรากลับไม่แยแสกันเสียนี่ ปล่อยให้ท่านอดๆอยากๆก็มีถมไป และบางครั้งจะนำเครื่องบัตรพลีไปให้ท่านบ้างเรากลับเสียดายของเสียอีก ทีนำไปบวงสรวงเทพเจ้าที่ท่านก็มิได้ต้องการและไม่รู้ไม่ชี้ด้วยเรากลับยอมเสียกันได้ เรื่องนี้ก็แปลกอยู่และจะแปลกต่อไปอีกเท่าไรก็ไม่มีใครบอกได้ถูก[/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-1]
    [/SIZE]
    [SIZE=-1]
    [/SIZE][SIZE=-1]
    [/SIZE]
    [SIZE=-1][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT][/SIZE]​
    [SIZE=-1]
    [/SIZE]
    [SIZE=-1][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]บุญคุณของพ่อแม่ที่แผ่ปก[/FONT][/SIZE]​
    [SIZE=-1]
    [/SIZE]
    [SIZE=-1][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]เหมือนโพธิ์ดกต้นใหญ่มีใบหนา[/FONT][/SIZE]​
    [SIZE=-1]
    [/SIZE]
    [SIZE=-1][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ให้ร่มเย็นเป็นสุขทุกวันมา[/FONT][/SIZE]​
    [SIZE=-1]
    [/SIZE]
    [SIZE=-1][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ควรที่ลูกจะบูชาพระคุณเอย


    [/FONT]
    [/SIZE]
    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=live-to-learn-to-live&month=26-08-2009&group=7&gblog=3
     
  18. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ในนามทุนนิธิฯ ขออนุโมทนาและสาธุกับท่านทั้งสองด้วยครับ เขตต์บุญอันประมาณมิได้นี้ เมื่อเราทำทานกับสงฆ์อาพาธ ย่อมเกิดแก่ท่านแน่นอนทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุด อาจจะส่งผลในชาตินี้ ชาติหน้า ติดตัวเราไป คณะกรรมการฯ ก็มีแต่เพียงคำสัญญาว่า จะนำเงินที่ท่านบริจาคมานี้ นำไปส่งยัง รพ.ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือสงฆ์อาพาธ ตามรายชื่อทั้ง 7 แห่งที่่ทุนนิธิฯ ได้เลือกไว้แล้ว ให้ครบถ้วนอย่างไม่ตกหล่นครับ

    [​IMG]




     
  19. โอลีฟ

    โอลีฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +257
    วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552

    คุณแม่ได้โอนเงินผ่านทางบัญชีทุนนิธิ จำนวน 2,000 บาทค่ะ

    รายชื่อขอแจ้งทาง pm กับพี่โสระค่ะ

    อนุโมทนากับทางทุนนิธิและผู้ร่วมทำบุญทุกๆ ท่านค่ะ
     
  20. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    [SIZE=-1]
    <center>[​IMG]</center>

    <center>ประสบการณ์ตายของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
    อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    </center>
    "...สมัยหลวงพ่อปานอายุ ๓๘ ปี
    ถึงแม้ว่าท่านจะเป็นผู้มีความดี ประกอบไปด้วยความเมตตาปรานี
    ท่านเป็นพระที่ช่วยป้องกันคนอื่นมามากก็ตาม
    แต่ขึ้นชื่อว่ากฎของกรรมไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้

    วันหนึ่งหลวงพ่อปานไปที่วัดประตูสาน จังหวัดสุพรรณบุรี
    วัดนี้อยู่ทางฝั่งตะวันตกของจังหวัดสุพรรณบุรี
    เป็นต้นทางที่จะไปวัดป่าเลไลย์ในสมัยนั้น

    ตอนเย็นท่านเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ ก็ถอดอังสะ อังสะของท่านมีพระเครื่องอยู่ด้วย
    แล้วท่านก็ล้ม ลุกไม่ได้ ท่านถูกบังฟัน เขาใช้คาถา ตั้งใจจะฟันคนไหน
    เขาก็ฟันผักฟันฟักแฟงก็ตาม เขาก็ว่าคาถาจะฟันให้ถูกตรงนั้น
    เขาฟันวัตถุแต่แผลมันปรากฏในร่างกาย ผิวหนังภายนอกไม่ปรากฏรอยแผล
    ท่านถูกบังฟันเป็นแผลยาวในอกข้างในและยังเป็นรอยนูน
    ผลที่สุดก็ต้องหามกันลงเรือแจว

    หลวงพ่อปานเวลาไปไหนท่านใช้เรือสัมปันนีมีเก๋ง ทาสีขาวทั้งลำ มีคนแจวหัวแจวท้าย
    ในขณะนั้นท่านมีอาการใกล้ปางตาย ท่านขอร้องให้พาท่านกลับวัด

    พอมาถึงวัดบางซ้ายใน ปรากฏว่าอาการของท่านหนักมาก
    ท่านบอกให้แวะเข้าไปที่วัดบางซ้ายในก่อน
    ให้หามท่านขึ้นไปบนศาลา ก็อาศัยศาลาท่าน้ำนอนอยู่
    แล้วให้ไปตามอาจารย์จาบเป็นหมอและเป็นเพื่อนท่าน
    ต้องใช้ม้าไปรับกันในสมัยนั้น ที่บางบาลมันไกลมาก

    อาจารย์จาบมาถึงจับชีพจรแล้วบอกว่า
    "ท่านปานยังไม่ตาย ไปธุระประเดี๋ยวก็กลับ"

    อาจารย์จาบบอกว่า
    "ยาฉันเป็นยาสูง พระต้องใช้ยาสูง ใช้ยาตํ่าไม่ได้"

    สมัยนั้นเป็นป่า เป็นดง เป็นทุ่ง ตลาดไม่มี ท่านก็เดินไปเด็ดยอดไม้
    ยอดมันสูง ท่านก็บอก "นี่เขาเรียกยาสูง"

    วันนั้นยังไม่ฟื้น ผ่านไปสัก ๖-๗ ชั่วโมงใกล้รุ่ง หลวงพ่อปานจึงรู้สึกตัว
    และก็ฉันยาของอาจารย์จาบ เป็นอันว่าท่านก็หายและก็เล่าความเป็นมาให้ฟังว่า

    ขณะที่ท่านเจ็บ เขาก็หามลงเรือ
    ท่านก็ภาวนาบ้างพิจารณาบ้างให้จิตเป็นสุข ท่านไม่ได้ปล่อยกรรมฐานเลย

    ต่อมาอาการมันเครียดหนักท่านจึงสั่งให้ขึ้นวัดบางซ้ายใน คิดว่าไม่ถึงวัดบางนมโค
    เพราะจากวัดบางซ้ายในถึงวัดบางนมโคต้องแจวเรือ ๒-๓ ชั่วโมง

    หลวงพ่อปานท่านบอกเห็นท่าไม่ไหว ก็ขึ้นไปนอนจับพระกรรมฐานเป็นปกติ
    ทุกคนในที่นั้นบอกว่าท่านสลบไป

    แต่ท่านบอกว่าท่านไม่ได้สลบ อทิสสมานกายมันออก
    คือตัวในออกจากตัวนอก มีสภาพเป็นกายเดินออกไปเรื่อยๆ ตามสบาย
    พอไปถึงจุดสุดเข้าเขตชั้นดาวดึงส์ใกล้จะเข้าชั้นดุสิต
    เห็นอาคารลิบๆ อยู่ข้างหน้าแพรวพราวระยิบระยับ เป็นสง่าสวยสดงดงามมาก

    ท่านตั้งใจจะไปสู่อาคารหลังนั้น ปรากฏว่าขณะนั้นก็ได้ยินเสียงเรียกขึ้นว่า
    "ท่านปาน ท่านปาน หยุดก่อน"

    ท่านจึงเหลียวหลังมาดูเห็นพระพุทธเจ้ายืนงามสง่าสวยอร่าม
    มีฉัพพรรณรังสีรัศมี ๖ ประการ ท่านก้มลงกราบพระองค์
    พระองค์ตรัสว่า "จะไปไหน"
    หลวงพ่อปานตอบว่า "จะไปชั้นดุสิต"

    พระองค์บอกว่า
    "คุณปาน คุณยังไปไม่ได้ ภาระใหญ่ของคุณยังมีมาก
    วัดวาอารามคุณยังสร้างไม่เสร็จ และกิจอื่นที่คุณต้องทำยังมีอยู่
    จงกลับไปปฏิบัติงานให้เสร็จสิ้นเสียก่อนจึงจะไปได้
    สถานที่นี้เธอมีโอกาสจะได้อยู่แน่นอน"


    หลวงพ่อปานก็บอกว่า
    "ร่างกายมันไม่ดีทนไม่ไหว ทุกขเวทนามันหนักทนไม่ไหว จึงออกมา"

    พระองค์บอกว่า
    "หมอจาบเขามาแล้ว รักษาแผลได้และพิษต่างๆ สลายตัวแล้ว กลับลงไปเถอะ"

    พอสิ้นเสียงของพระพุทธเจ้า ก็ปรากฏว่าจิตเข้าร่างพอดี
    ท่านก็ลืมตาขึ้นใกล้สว่างแล้วของวันใหม่

    หลวงพ่อปานท่านบอกว่ามันเป็น กฎของกรรม
    มาจากโทษปาณาติบาตทำให้ร่างกายไม่ดี
    ในชาตินี้โทษปาณาติบาตของท่านเห็นจะไม่มี และท่านก็บอกอีกว่า
    "ต่อไปฉันก็ต้องตายด้วยแผลอันนี้ แต่เวลานั้นแผลหายไปหมดแล้ว"

    นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ท่านก็ไม่มีความประมาทในชีวิต
    คิดว่าความตายอยู่แค่ปลายจมูก ถ้าสิ้นลมปราณเมื่อไรก็ตายเมื่อนั้น

    เมื่อหายจากอาการไข้แล้ว ท่านก็เร่งรัดทำความดีหนักขึ้น
    คือสงเคราะห์บรรดาประชาชนทั้งหลายด้วยการรักษาโรคบ้าง
    มีใครอดอยากที่ไหนท่านก็นำอาหารการบริโภคไปแจก
    พระวัดไหนไม่มีกฐินจะรับ ท่านก็ไปทอดกฐินถึง ๑๗ วัด
    การก่อสร้างก็สร้างคราวเดียว ๓-๔ วัดพร้อมๆ กัน

    และสำหรับจริยาวัตรนั้น ก็สั่งสอนอบรมพระทุกๆ ๑๕ วัน
    คือวันโกนของกลางเดือน กับวันโกนของวันสิ้นเดือน
    ท่านจะต้องประชุมพระ แนะนำข้อวัตรปฏิบัติตามพระวินัย
    วิธีที่จะปฏิบัติให้เข้าถึงจุดอย่างง่ายๆ และอุปสรรคในการปฏิบัติพระกรรมฐาน

    การที่ท่านทำทุกอย่างอย่างนั้นจัดเป็นมหากุศล
    เพราะการทำบุญที่เป็นส่วนสาธารณชนนั้น
    เช่น เอาข้าวสารเอาอาหารไปแจกคนยากจน เอาเสื้อผ้าไปแจก

    ถ้าจะเปรียบการให้ประเภทนี้ก็มีความดีคล้ายกับถวายสังฆทาน
    แต่เสมอสังฆทานไม่ได้
    เพราะสังฆทานเป็นทานที่หมายเอาพระพุทธเจ้าเป็นประธาน
    มีพระอริยสงฆ์เป็นผู้รับ

    การที่เราให้กับคน บางทีคนที่รับก็เป็นคนมีศีลไม่บริสุทธิ์
    อานิสงส์ก็น้อยไปหน่อย

    แต่ถึงจะน้อยประการใดก็ตามที
    บุญบารมีประเภทนี้ก็สามารถจะส่งผลให้เราเข้าถึงพระนิพพานได้
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าตายในชาติปัจจุบัน
    ทางที่เราจะไปได้ก็คือสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก

    ตัวอย่าง ท่านอังกุรเทพบุตร ให้ทานแก่คนภายนอกพระพุทธศาสนา
    ปรากฏว่าตายจากมนุษย์แล้วไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก
    แต่ว่าสภาพร่างกายไม่ผ่องใสพอ มีศักดาไม่เสมอด้วยเทวดาทั้งหลาย

    แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นเทวดาแล้ว ถึงแม้จะเป็นเทวดาท้ายแถว
    ก็ยังดีกว่ามนุษย์หัวแถวเพราะไม่มีแก่ ไม่มีหิว ไม่มีกระหาย
    ไม่มีความหนาว ไม่มีความร้อน ไม่มีการป่วยไข้ไม่สบาย
    จะมีก็เพียงเกิดเป็นเทวดา แล้วก็ตายจากการเป็นเทวดาเท่านั้นเอง

    ฉะนั้น การบำเพ็ญกุศลทานแก่คนภายนอกพระพุทธศาสนา
    หรือแก่คนในเขตพระพุทธศาสนา แต่ว่าไม่มีความเคารพ
    ในพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง
    การบำเพ็ญกุศลด้วยจะมีผลน้อยก็ตาม แต่ถ้าทำบ่อยๆ ก็มากเหมือนกัน

    เพราะการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
    เป็นปัจจัยให้เกิดความสุขทั้งในชาติปัจจุบัน และชาติต่อไป

    ในชาตินี้ก็มีคนรักเรามากเพราะผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของบุคคลผู้รับ
    ไปทางไหนก็มีแต่คนไหว้คนเคารพ อันตรายก็ไม่มี
    การเดินทางไปไหนจะตกรถ ตกเรือ จะหิวจะกระหายในระหว่างทางจะไม่มี
    สำหรับคนประเภทนี้..."​

    <center>[​IMG] จาก หนังสือ ตายแล้วไม่สูญ...แล้วไปไหน</center>[/SIZE]
     

แชร์หน้านี้

Loading...