ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ โสระ [​IMG]

    เหรียญหลวงปู่หมุน ออกที่วัดคลองทรายในงานหล่อพระประธาน เป็นเหรียญยุคแรกๆของหลวงปู่ ออกเมื่อปี 2543 เหรียญนี้มีความคล้ายหลวงปู่มากแต่ที่สำคัญเป็นเหรียญที่ดีมากอีกรุ่นหนึ่ง ของหลวงปู่




    <center>[​IMG]</center><center></center><center><center>[​IMG]</center></center><center></center><center>มี อยู่ 2 เหรียญ ทั้งหมดแล้วแต่จะบริจาคช่วยสงฆ์อาพาธเท่าไรก็ได้ตามแต่ศรัทธา โดยขอช่วยค่าส่ง50 บาท ท่านใดสนใจจองไว้ผมจะpmไปบอกเลขบัญชี ที่ให้โอนเข้าบัญชีผมก่อนเพราะจะได้สะดวกในการเช็คยอดเงินและในการหักค่าส่ง พระครับ

    ผมขอร่วมทำบุญ
    เหรียญหลวงปู่หมุนด้วยนะครับ
    โมทนาบุญด้วยนะครับ
    เอ
    </center>
     
  2. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    โมทนาน้องทั้งสองครับ เหรียญหลวงปู่หมุน 2 เหรียญจองครบแล้วครับ เหลือแต่ ลูกแก้ว ลูกอม และ ตะกรุดหลวงพ่อตัด วัดชายนา ครับ

    หลายท่านอาจจะยังไม่รู้จักหลวงพ่อตัดวัดชายนา มาชมเวปนี้ดูครับ

    http://www.be2hand.com/scripts/shop.php?do=article_detail&news_id=4686&user=chiewchol9871
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 มีนาคม 2009
  3. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    910
    ค่าพลัง:
    +4,284
    มหานมัสการ มหาพุทธานุภาพ


    นโม ตสส ภควโต อรหโต สมมาสมพุทธัสส
    นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ชาวพุทธนิยมเจริญพระพุทธคุณด้วยบทว่า
     
  4. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    910
    ค่าพลัง:
    +4,284
    อานิสงส์การบูรณะพระพุทธรูป

    ต้องดูที่จิตด้วยครับ
    บางคนซ่อมไปอย่างนั้นเองเพราะเขาจ้างให้ซ่อมจึงซ่อม แบบนี้ผลก็ไม่ได้มากเท่าไร

    แต่ถ้าเห็นพระพุทธรูปชำรุดหรือแม้กระทั่งเปื้อนฝุ่น เปื้อนคราบ เปื้อนทองเปลวแล้วอยากลงมือชำระล้างสะสาง พอทำเสร็จเกิดปีติโสมนัสอย่างใหญ่แบบนี้ผลก็ยากจะประมาณว่าได้อานิสงส์แค่ไหน อย่าต้องกล่าวถึงการซ่อมแซมพระปฏิมาเลย

    ในที่ที่กรรมเผล็ดผล...

    ๑) ทางชะตา จะไม่เป็นผู้ตกอับถึงที่สุดทุกสถานการณ์ "ซ่อมได้" หมด กับทั้งจะไม่รู้สึกอยากยอมแพ้เหมือนมีเครื่องหนุนใจให้รู้สึกอยู่ว่าตนแก้ปัญหาได้ หรือเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น แล้วก็ดีขึ้นจริงๆ
    ถ้าทำอาชีพเกี่ยวกับการซ่อมแซม ก็จะมีชื่อเสียงอุโฆษ ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอย่างใหญ่หลวง หรือหากเป็นเจ้าของกิจการเอง ก็จะรุ่งเรืองเกินใครเทียบ

    ๒) ทางกาย จะมีร่างกายผุดผ่องน่าชม และแม้เป็นโรคร้ายแค่ไหนก็เจอหมอดีรักษาได้ตรงจุด

    ๓) ทางใจ จะเป็นผู้ไม่ดูดาย มีกำลังใจจะเปลี่ยนผิดให้เป็นถูก แก้ไขเรื่องร้ายให้เป็นเรื่องดี
    เหตุเพราะได้ชนวนสำคัญคือบุญที่จะปฏิสังขรณ์พระปฏิมาให้กลับดู
    ดี


    ยิ่งถ้าเป็นนักซ่อมพระปฏิมานะครับ ทำไปทั้งชาติ ผลยิ่งบริบูรณ์ เห็นอานิสงส์คงเส้นคงวา
    เริ่มต้นตั้งแต่ชาตินี้ คือเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม (ผมแปลง่ายๆว่าทำกรรมใหม่แรงพอชนะกรรมเก่า)
    ส่วนที่จะเผล็ดผลเป็นรูปร่างหน้าตา ฐานะ และความบริบูรณ์พูนสุขในชาติถัดๆไปนั้น คงไม่อาจกล่าวได้ครอบคลุมทั้งหมด มันขึ้นอยู่กับรายละเอียดทางใจในขณะทำ เช่น ถ้ามีความใส่ใจประณีต ก็ย่อมได้รับผลประณีต ถ้ามีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการใช้เทคนิคซ่อมแซม
    ก็จะเป็นผู้มีปฏิภาณความคิดอ่านเฉลียดฉลาดในการแก้ปัญหาเกินมนุษย์ ฯลฯ

    ผลานิสงส์ที่ชำระสะสางมลทินให้พระปฏิมานั้น ถ้ากล่าวในทางที่เป็นประโยชน์สูงสุด คือจะเป็นผู้ศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าอย่างแรงกล้า ขนาดเสริมส่งให้จิตเกิดฌานได้เมื่อฟังพระธรรมเทศนา พูดง่ายๆว่าเป็นปัจจัยหนึ่งให้จิตเข้าถึงมรรคผลได้โดยง่าย เพราะมีจิตแล่นไปในศรัทธาอันประกอบด้วยปัญญาไม่เคลือบแคลงสงสัยในพระองค์ครับ


    ดังตฤณ
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff><!-- [​IMG] -->[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=bot2 bgColor=#f9f9f9 height=30> </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    http://www.phuttawong.net
     
  5. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    ร่วมบุญเพิ่มเติม ประจำเดือนมีนาคม 2552 ครับ
    ฝากเงิน เข้าบัญชี 348-123-245-9
    วันที่ 5 มีค. 2552 เวลา 18:43 น. จำนวน 200 บาท ครับ
    โมทนาบุญกับทุกท่าน ครับ
     
  6. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    910
    ค่าพลัง:
    +4,284
    [​IMG]

    ธรรมะจากหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
    หลวงปู่ทวด

    วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ท่านเป็นพระมหาเถระที่รู้จักกันทั่วประเทศ ในนาม " หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด "
    คาถาบูชาท่าน คือ นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา

    ชาติกาล 3 มีนาคม พ.ศ. 2125
    ชาติภูมิ บ้านเลียบ ต.ดีหลวง อ.สทิงพระ จ.สงขลา
    บรรพชา เมื่ออายุได้ 15 ปี
    อุปสมบท เมื่ออายุ 20 ปี
    มรณภาพ 6 มีนาคม พ.ศ.2225
    สิริรวมอายุได้ 99 ปี

    คติธรรมคำสอน ของ หลวงปู่ทวด

    ธรรมประจำใจ
    พูดมาก เสียมาก พูดน้อย เสียน้อย ไม่พูด ไม่เสีย นิ่งเสีย โพธิสัตว์

    ละได้ย่อมสงบ
    ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ล้วนแต่เคลื่อนที่ไปสู่ความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    ทุกอย่างในโลกนี้ เคลื่อนไปสู่การสลายตัวทั้งสิ้น ไม่ยึด ไม่ทุกข์ ไม่สุข ละได้ย่อมสงบ

    สันดาน
    " ภูเขาถูกมนุษย์ทำลายลงมาได้ แต่สันดานของคนเราที่นอนนิ่งอยู่ในก้นบึ้ง ซึ่งไม่เหมือนกันย่อมขัดเกลาให้ดีเหมือนกันได้ยาก

    ชีวิตทุกข์
    การเกิดมาเป็นมนุษย์ชาติหนึ่ง จะว่าประเสริฐก็ประเสริฐ จะว่าไม่ประเสริฐก็ไม่ประเสริฐ จะเห็นได้ว่า ตื่นเช้าก็มีความทุกข์เข้าครอบงำ จะต้องล้างหน้า ล้างปาก ล้างฟัน ล้างมือ เสร็จแล้วจะต้องกินต้องถ่าย นี่คือความทุกข์แห่งกายเนื้อ เมื่อเราจะออกจากบ้านก็จะประสบความทุกข์ในหมู่คณะ ในการงาน ในสัมมาอาชีวะ การเลี้ยงตนชอบ นี่คือ ความทุกข์ในการแสวงหาปัจจัย

    บรรเทาทุกข์
    การที่เราจะไม่ต้องทุกข์มากนั้น เราจะต้องรู้ว่า เรานี้จะต้องไม่เอาชีวิตไปฝากสังคม เราต้องเป็นตัวของเราเองและเราจะต้องวินิจฉัย ในเหตุการณ์ที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับตัวเราว่าส่งใดเราควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ

    ยากกว่าการเกิด
    ในการที่เราเกิดมา ชีวิตแห่งการเกิดนั้นง่าย แต่ชีวิตแห่งการอยู่นั้นสิยาก เราจะทำอย่างไรให้อยู่ได้อย่างสุขสบาย

    ไม่สิ้นสุด
    แม่น้ำทะเล และมหาสมุทร ไม่มีที่สิ้นสุดของน้ำ ฉันใด กิเลสตัณหาของมนุษย์ก็ย่อมไม่มีที่สิ้นสุด ฉันนั้น

    ยึดจึงเดือดร้อน
    ทุกวันนี้ เกิดความทุกข์ ความเดือดร้อน ก็เพราะมนุษย์ไปยึดโนน่ ยึดนี่ ยึดพวกยึดพ้อง ยึดหมู่ยึดคณะ ยึดประเทศเป็นสรณะ โดยไม่คำนึงถึงธรรม สากลจักรวาลโลกมนุษย์นี้ ทุกคนมีกรรมจึงเกิดมาเป็นสัตว์โลก สัตว์โลกทุนคนต้องใช้กรรมตามวาระ ตามกรรม ถ้าทุกคนยึดถือเป็นอารมณ์ ก็จะเกิดการเข่นฆ่ากัน เกิดการฆ่าฟันกัน เพราะอารมณ์แห่งการยึดถืออายตนะ ฉะนั้น ต้องพิจารณาให้ถ่องแท้ว่า สิ่งใดทำแล้ว สัตว์โลกมีความสุข สิ่งนั้นควรทำ นี่คือ หลักความจริงของธรรมะ

    อยู่ให้สบาย
    ในภาวะแห่งการที่จะอยู่อย่างสบายนั้น เราต้องอยู่กันอย่างไม่ยึด อยู่กันอย่างไม่ยินดี อยู่กันอย่างไม่ยินร้าย อยู่กันอย่างพยายามให้จิตวิญญาณของนามธรรมนั้นเหนืออารมณ์ เหนือคำสรรเสริญ เหนือนินทา เหนือความผิดหวัง เหนือความสำเร็จ เหนือรัก เหนือชัง

    ธรรมารมณ์
    การอยู่อย่างมีธรรมารมณ์คือ การอยู่เหนือความรู้สึกทั้งปวง อยู่อย่างรู้หน้าที่การเป็นคน และรู้หน้าที่ในการงาน คือรู้ว่าสิ่งที่เราทำนั้น เป็นสิ่งที่เราต้องทำ ไม่ใช่ทำเพื่อหวังผลตอบแทน เพราะถ้าเราทำงานเพื่อหวังผลตอบแทนต่างๆแล้ว ถ้าสิ่งต่างๆไม่สัมฤทธิ์ผลตามความหวังนั้น เราย่อมเกิดความโทมนัส เสียใจน้อยใจ เป็นทุกข์

    กรรม
    ถ้าเรามีชีวิตอยู่อย่างที่ว่า เกิดเพราะกรรม อยู่เพื่อกรรม ทำเพราะกรรม ตายเพราะกรรมแล้ว ชีวิตการเป็นมนุษย์ย่อมมีความภิรมย์ มีความรื่นเริง

    มารยาทของผู้เป็นใหญ่
    " ผู้ใหญ่ไม่ใช่อยู่ที่เกิดก่อน ผู้ดีไม่ใช่อยู่ที่เรียนสูง " มารยาทจรรยาของการเป็นผู้ใหญ่ ก็คือต้องสุขุมรอบคอบ และไม่ยึดติดเสียงเป็นหลัก คือ ต้องไม่หวั่นไหวกับคำนินทาและสรรเสริญ

    โลกิยะหรือโลกุตระ
    คนที่เดินทางโลกุตระ ย่อมไปดีทางโลกิยะไม่ได้ คนที่เดินทางโลกิยะย่อมสำเร็จทางโลกุตระได้ยาก เพราะอะไร ? ถ้าคนหนึ่งสำเร็จได้ทั้งโลกิยะ และโลกุตระง่ายแล้ว ทำไม องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธโคดม ต้องสละราชบัลลังก์แห่งจักรพรรดิไปเป็นธรรมราชาเล่า ถ้าเป็นไปได้ พระองค์เป็นมหาจักรพรรดิพร้อมทั้งธรรมราชา ไม่ดีหรือ? แต่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะโลกของโลกิยะและโลกุตระเดินคู่ขนานกัน เราต้องตัดสินใจ ต้องมีความเด็ดเดี่ยวและกล้าหาญในการที่จะเลือกทางใดทางหนึ่ง

    ศิษย์แท้
    พิจารณากาย ในกาย พิจารณาธรรม ในธรรม พิจารณาวิญญาณ ในวิญญาณ นั่นแหละ คือ สานุศิษย์อันแท้จริงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    รู้ซึ้ง
    ทุกอย่างจะต้องมีเหตุ เมื่อมีเหตุจึงจะมีผล ผลนั้นเกิดจากเหตุ เราได้วินิจฉัยข้อนี้แล้ว เราจึงรู้ซึ้งถึงพุทธศาสนา

    ใจสำคัญ
    การทำบุญนั้น จะต้องทำด้วยจิตใจบริสุทธิ์ จะต้องทำด้วยความศรัทธา ผลสะท้อนมันจะเกิดขึ้น เกินความคาดหมาย

    หยุดพิจารณา
    คนเรานี้ ถ้าไม่มีอะไรทำอยู่ในที่วิเวกคนเดียว จิตมันจะฟุ้งซ่าน และถ้าภาวะนั้นตนไม่ปล่อยให้จิตฟุ้งซ่านไปเรื่อยๆ คือหยุดพิจารณาแล้วค้นสัจจะของ ศีล สมาธิ ปัญญา ย่อมที่จะค้นหาสัจจะในธรรมะได้

    บริจาค
    ทำบุญสังฆทานเป็นจาคะ จาคะเป็นการบริจาคโภคทรัพย์ภายนอน การสวดมนต์เป็นการภาวนา การภาวนาเป็นการบริจาคภายใน เพราะฉะนั้น ถ้านับในด้านทิพย์อำนาจ การบริจาคภายในย่อมได้กุศล มากว่า การบริจาคภายนอน นี่คือเรื่องของนามธรรม

    ทำด้วยใจสงบ
    เราจะทำบุญก็ดี เราจะทำอะไรก็ดี จงทำด้วยความสงบ อย่าทำด้วยอารมณ์แห่งความร้อน เพราะการทำด้วยอารมณ์ร้อนนั้น มันจะพาเราไปสู่หายนะ เมื่อเกิดอารมณ์ร้อน เราจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จงอย่าทำ นั่งให้จิตใจมันสบายเสียก่อน เมื่อจิตใจสบายแล้วปัญญาก็เกิด เมื่อเกิดปัญญาแล้ว จะทำสิ่งใดก็เป็นไปโดยความสะดวก

    มีสติพร้อม
    จะทำสิ่งใดก็ตาม เราต้องมีสติพร้อม คือ อย่าให้มีโทสะ อย่าให้อารมณ์เข้ามาควบคุมสติ อย่าให้เรื่องส่วนตัวและขาดเหตุผลมาอยู่เหนือความจริง

    เตือนมนุษย์
    มนุษย์ผู้ใด เห็นแก่งานส่วนตัว มนุษย์ผู้นั้น จะไม่มีงานทำในไม่ช้า
    มนุษย์ผู้ใด เห็นแก่ทรัพย์ส่วนตัว มนุษย์ผู้นั้น จะไม่มีทรัพย์ครองในไม่ช้า
    มนุษย์ผู้ใด เห็นแก่นอนมาก มนุษย์ผู้นั้น จะไม่ได้นอนในไม่ช้า

    พิจารณาตัวเอง
    คืนหนึ่งก็ดี วันหนึ่งก็ดี ควรให้มีเวลาว่างสัก 5 นาที หรือ 10 นาที ไม่ติดต่อกับใคร ให้นั่งเฉยๆ คิดถึงเหตุการณ์ที่เราทำไปแต่ละวันๆ ว่าที่เราทำไปนั้นเป็นอย่างไร คือให้ปลีกตัวมีเวลาเป็นของตัวเองบ้าง คิดเอาแต่เรื่องของตัว อย่าไปคิดเรื่องของคนอื่น เพราะมนุษย์เราส่วนมากทุกวันนี้ มักเอาแต่เรื่องของคนอื่นมาคิด ไม่ค่อยคิดเรื่องของตัวเอง

    คัดลอกจากหนังสือ เรียนธรรมะบูชาพระสุปฏิปันโน เล่มของ หลวงปู่ทวด
    ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม<!--IBF.ATTACHMENT_161113--><!-- THE POST -->
     
  7. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    910
    ค่าพลัง:
    +4,284
    [​IMG]

    การให้ธรรมะ ชนะการให้ทั้งปวง

    พุทธศาสนสุภาษิตบทหนึ่ง ซึ่งเป็นที่คุ้นหูคุ้นใจคนจำนวนมาก คือบทที่ว่า..."สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ แปลความว่า การให้ธรรมย่อมชนะ การให้ทั้งปวง

    เพราะพุทธศาสนิกชนจำนวนไม่น้อยมีศรัทธาเชื่อในคุณแห่งการให้ธรรมเป็นทาน จึงแม้สามารถก็จะพากันพิมพ์หนังสือธรรมะแจกเป็นธรรมทาน ซึ่งเชื่อว่าเหนือการให้ทั้งปวง ซึ่งจักเป็นบุญเป็นกุศลยิ่งกว่าบุญกุศลที่เกิดจากการให้ทานอื่นทั้งปวง

    นี้เป็นการถูก เป็นการดี เพราะการเผยแพร่ธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นความดีอย่างยิ่ง ยิ่งผู้ได้รับนำไปปฏิบัติก็จะยิ่งเป็นการดีที่สุดเพราะการปฏิบัติธรรมทางธรรม ตั้งอยู่ในธรรมเป็นการนำให้ถึงความสวัสดีอย่างแท้จริง และไม่เพียงเป็นความสวัสดีเฉพาะตนเองเท่านั้น ยังสามารถแผ่ความสวัสดีให้กว้างไกลไปถึงผู้เกี่ยวข้องได้มากมาย

    กล่าวได้ว่า ผู้มีธรรมเพียงคนเดียว ย่อมยังความเย็นความสุขให้เกิดได้เป็นอันมาก ตรงกันข้ามกับผู้ไม่มีธรรม แม้เพียงคนเดียวก็ย่อมยังความร้อนความทุกข์ให้เกิดได้เป็นอันมาก

    การให้ธรรมที่แท้จริง หมายถึงการทำตนเองของคนให้มีธรรม พิจารณาจากความจริงที่ว่า ผู้มีธรรมเป็นผู้ให้ความเย็น ความสุขแก่ผู้อื่นได้ เช่น เดียวกับกับที่ให้ความเย็นความสุขแก่ตนเอง อาจเห็นได้ว่า การให้ธรรมไม่หมายถึงเพียงการพิมพ์หนังสือธรรมแจก หรือการอบรมสั่งสอนด้วยวาจา ให้รู้ให้เห็นธรรมเท่านั้น แต่การให้ธรรมที่แท้จริง ย่อมหมายถึงการทำตนเองของทุกคนให้มีธรรม ให้ธรรมในตนปรากฏแก่คนทั้งหลายโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมีการแสดงออกเป็นการสั่งสอนด้วยวาจา หรือเช่นด้วยการแสดงธรรมแบบพระธรรมเทศนาของพระ

    การสั่งสอนธรรมหรือให้ธรรม ด้วยความประพฤติปฏิบัติธรรมด้วยตนเองนั้น มีความสำคัญเหนือกว่าการแจกหนังสือธรรมเป็นอันมากด้วยซ้ำ เพราะการประพฤติปฏิบัติธรรมด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอจนธรรมนั้นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายกับใจ นั่นแหละเป็นการแสดงธรรมให้ปรากฏแก่ผู้รู้ผู้เห็นทั้งหลายทั้งปวง และจะต้องได้ผลมากกว่าการให้ธรรมที่เป็นข้อเขียนในหน้าหนังสือ

    ความสูงต่ำ ห่างไกลของธรรมที่ดีและชั่วนั้นมีมากมายยิ่งนัก

    อันคำว่าธรรมนั้น ที่แท้จริงมีความหมายเป็นสองอย่าง คือทั้งที่ดีและที่ชั่ว หนังสือธรรมมิได้แสดงแต่ธรรมที่ดี แต่แสดงธรรมที่ชั่วด้วย เพียงแต่แสดงธรรมที่ดีว่าให้ประพฤติปฏิบัติ แสดงธรรมที่ชั่วว่าไม่ควรประพฤติ และผู้ประพฤติธรรมหรือผู้มีธรรมนั้นก็คือ ผู้ประพฤติธรรมที่ดี ไม่ประพฤติธรรมที่ชั่ว

    ผู้ประพฤติธรรมที่ดีเรียกได้ว่าเป็นสัตบุรุษ ผู้ประพฤติธรรมที่ชั่วเรียกได้ว่าเป็นอสัตบุรุษ ความสูงต่ำห่างไกลของธรรมที่ดีและที่ชั่วนั้นมากมายนัก มีพุทธศาสนสุภาษิตกล่าวไว้ว่า "ฟ้ากับดินไกลกัน และฝั่งทะเลก็ไกลกัน แต่นักปราชญ์กล่าวว่า ธรรมของสัตบุรุษกับของอสัตบุรุษไกลกันยิ่งกว่านั้น"

    การทำตนที่ชั่ว ให้เป็นตนที่ดีได้ เป็นกุศลที่สูงที่สุด

    ผู้ให้ธรรมทั้งด้วยการให้หนังสือธรรม และทั้งการปฏิบัติด้วยตนเองให้ปรากฏเป็นแบบอย่างที่ดีงาม เป็นแบบอย่างของสัตบุรุษ กล่าวว่าเป็นผู้ให้เหนือการให้ทั้งปวง เพราะการพยายามช่วยให้คนเป็นผู้มีธรรมของสัตบุรุษ ละธรรมของอสัตบุรุษนั้น ก็เท่ากับพยามยามช่วยให้คนบนดินคือต่ำเตี้ยได้เข้าใกล้ฟ้าคือสูงส่ง หรือช่วยให้คนชั่วเป็นคนดีนั่นเอง

    การช่วยให้คนชั่วเป็นคนดีนั้น ผู้ใดทำได้จักได้กุศลสูงยิ่ง การช่วยตนเองที่ประพฤติไม่ดีให้เป็นคนประพฤตินั้น ก็เป็นการช่วยคนชั่วให้เป็นคนดีเช่นกัน และจะเป็นกุศลที่สูงที่สุดเสียด้วยซ้ำเพราะนอกจากตนเองจะช่วยตนเองแล้ว คนอื่นยากจักช่วยได้

    นี้หมายความว่า... อย่างน้อยตนเองต้องยอมรับฟังการแนะนำช่วยเหลือของผู้อื่น ยอมปฏิบัติตามผู้อื่นที่ปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดีให้ปรากฏอยู่ คือทำตนเองให้เป็นผู้ประพฤติธรรมของสัตบุรุษละการประพฤติปฏิบัติธรรมของอสัตบุรุษให้หมดสิ้น

    พึงอบรมปัญญา เพื่อเป็นแสงสว่างขับไล่โมหะ

    ผู้มาบริหารจิตทั้งนั้น พึงดูจิตตนเองให้เห็นชัดเจนว่า มีความปรารถนาต้องการจะก่อทุกข์โทษภัยให้แก่ตนเองหรือไม่ ถ้าไม่มีความปรารถนานั้น ก็พึงรู้ว่าจำเป็นต้องอบรมปัญญา เพื่อให้ปัญญาเป็นแสงสว่างขับไล่ความมืดมิดของโมหะ ให้บรรเทาเบาบางถึงหมดสิ้นไป

    ปัญญาจะช่วยให้เห็นถูกเห็นผิดความเป็นจริง และเมื่อเห็นตรงตามความจริงแล้ว การปฏิบัติย่อมไม่เป็นเหตุแห่งทุกข์โทษภัยของตนเองและของผู้ใดทั้งสิ้น ทุกข์โทษภัยย่อมไม่มีแก่ตนอาจมีปัญหาว่าแม้ตนเองไม่ก่อทุกข์โทษภัยแก่ตนเอง ด้วยกระทำที่ไม่ถูกไม่ชอบทั้งหลาย แต่เมื่อยังมีผู้อื่นอีกเป็นอันมากที่ก่อทุกข์โทษภัยอยู่ แล้วเราจะพ้นจากทุกข์โทษภัยนั้นได้อย่างไร

    ปัญหานี้แม้พิจารณาเพียงผิวเผิน ก็น่าจะเป็นปัญหาที่ต้องยอมจำนน คือต้องรับว่าถูกต้อง แต่ถ้าพิจารณาให้ลึกซึ้ง อย่างประกอบด้วยปัญญาแท้จริง ย่อมจะได้รับคำตอบแก้ปัญหาให้ตกไปได้อย่างสิ้นเชิง เพราะผู้มีความเห็นชอบ ปราศจากโมหะ ย่อมเห็นได้ว่าไม่มีทุกข์โทษภัยใดจะเกิดแก่ตน ถ้าตนสามารถวางความคิดไว้ได้ชอบ เพราะความทุกข์ทั้งปวงเกิดจากความคิด

    ผู้มุ่งปฏิบัติธรรม ต้องรู้จักพิจารณาเลือกเฟ้นธรรม

    ผู้มุ่งมาบริหารจิต มุ่งปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นจากกิเลส ต้องพิจารณาใจตนในขณะอ่านหนังสือหรือฟัง เรียกว่าเป็นการเลือกเฟ้นธรรม ธรรมใดกระทบใจว่าตรงกับที่ตนเป็นอยู่ พึงปฏิบัติน้อมนำธรรมนั้นเข้าสู่ใจตน เพื่อแก้ไขให้เรียบร้อย

    ที่ท่านกล่าวว่า "เห็นบัณฑิตใด ผู้มีปกติชี้ความผิดให้ ดุจผู้บอกขุมทรัพย์ให้ ซึ่งมีปกติกล่าวกำราบ มีปัญญา พึงคบบัณฑิตเช่นนั้นเมื่อคบท่านเช่นนั้น ย่อมประเสริฐ ไม่เลวเลย "บัณฑิต" นั้นคือ "คนดีผู้มีธรรม หรือ ผู้รู้ธรรมปฏิบัติธรรมที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนนั่นเอง" การกล่าวธรรมของบัณฑิตคือ การกล่าวตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ และบัณฑิตนั้นมีพุทธภาษิตกล่าวไว้ด้วยว่า..."บุรุษจะเป็นบัณฑิตในที่ทั้งปวงก็หาไม่แม้สตรีมีปัญญาเฉียบแหลมในที่นั้นๆ ก็เป็นบัณฑิตได้เหมือนกัน"

    สามารถหนีไกลจากกิเลสได้มากเพียงไร ก็สามารถแลเห็นพระพุทธเจ้าได้ใกล้ชิดเพียงนั้น

    คนดีมีปัญญาคือคนมีกิเลสบางเบา โลภน้อย โกรธน้อย หลงน้อย กิเลสนั้นมีมากเพียงไร ก็ทำให้เหลือน้อยได้ ทำให้หมดจดอย่างสิ้นเชิงก็ได้ สำคัญที่ผู้มีกิเลสต้องมีปัญญา แม้พอสมควรที่จะทำให้เชื่อว่า กิเลสเป็นโทษอย่างยิ่ง ควรหนีให้ไกล สามารถหนีไกลกิเลสได้มากเพียงไร ก็สามารถเป็นคนดี เป็นบัณฑิตได้เพียงนั้น ทั้งยังจะสามารถแลเห็นพระพุทธเจ้าได้ใกล้ชิดเพียงนั้นด้วย

    พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     
  8. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    910
    ค่าพลัง:
    +4,284

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2009
  9. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    910
    ค่าพลัง:
    +4,284
    [​IMG]


    โอวาทปาติโมกข์ หมายถึง หลักคำสอนคำสำคัญของพระพุทธศาสนาอันเป็นไปเพื่อป้องกัน และแก้ปัญหาต่าง ๆ
    ในชีวิตเป็นไปเพื่อความหลุดพ้น หรือคำสอน อันเป็นหัวใจพระพุทธศาสนา หลักธรรมประกอบด้วย หลักการ ๓ อุดมการณ์ ๔ วิธีการ ๖ ดังนี้

    หลักการ ๓
    ๑. การไม่ทำบาปทั้งปวง ได้แก่การงดเว้น การลด ละเลิก ทำบาปทั้งปวง ซึ่งได้แก่ อกุศลกรรมบถ ๑๐ ทางแห่งความชั่ว มีสิบประการ อันเป็น ความชั่วทางกาย ทางวาจา และทางใจ ความชั่วทางกาย ได้แก่ การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติ ผิดในกาม ความชั่วทางวาจา ได้แก่ การพูดเท็จ การพูดส่อเสียด การพูดเพ้อเจ้อ ความชั่วทางใจ ได้แก่ การอยากได้สมบัติของผู้อื่น การผูกพยาบาท และความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม

    ๒. การทำกุศลให้ถึงพร้อม ได้แก่ การทำความดีทุกอย่างซึ่งได้แก่ กุศลกรรมบถ ๑๐ เป็นแบบของการทำฝ่ายดีมี ๑๐ อย่าง
    อันเป็นความดีทางกาย ทางวาจาและทางใจความดีทางกาย ได้แก่ การไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ทำร้ายเบียดเบียนผู้อื่นมีแต่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การไม่ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขา ไม่ได้ให้ มาเป็นของตน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และการไม่ประพฤติผิดในกาม การทำความดีทางวาจา ได้แก่ การไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ และไม่พูดเพ้อเจ้อพูดแต่คำจริง พูดคำอ่อนหวานพูดคำให้เกิดความสามัคคีและพูดถูกกาลเทศะ การทำความดีทางใจ ได้แก่ การไม่โลภอยากได้ของของผู้อื่น มีแต่คิดเสียสละการไม่ผูกอาฆาตพยาบาทมีแต่คิดเมตตา และปราถนาดีและมีความเห็นความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม เช่น เห็นว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

    ๓. การทำจิตให้ผ่องใส ได้แก่ การทำจิตของตนให้ผ่องใส ปราศจากนวรณ์ซึ่งเป็นเครื่องขัดขวางจิตไม่ให้เข้าถึง

    ความสงบ ๕
    ๑. ความพอใจในกาม (กามฉันทะ)
    ๒. ความอาฆาตพยาบาท (พยาบาท)
    ๓. ความหดหู่ท้อแท้ ง่วงเหงาหาวนอน (ถีนะมิทธะ)
    ๔. ความฟุ้งซ่าน รำคาญ (อุทธัจจะกุกกุจจะ) และ
    ๕. ความลังเลสงสัย (วิกิจฉา) เช่น สงสัยในการทำความดีความชั่ว ว่ามีผลจริงหรือไม่ วิธีการทำจิตให้ปฏิบัติสมถะผ่องใส ที่แท้จริงเกิดขึ้นจากการละบาปทั้งปวง ด้วยการถือศืลและบำเพ็ญกุศล ให้ถึงพร้อมด้วยการ และวิปัสสนา จนได้บรรลุอรหัตผล อันเป็นความผ่องใสที่แท้จริง

    อุดมการณ์ ๔
    ๑. ความอดทน ได้แก่ ความอดกลั้น ไม่ทำบาปทั้งทางกาย วาจา ใจ
    ๒. ความไม่เบียดเบียน ได้แก่ การงดเว้นจากการทำร้าย รบกวน หรือ เบียดเบียนผู้อื่น
    ๓. ความสงบ ได้แก่ ปฏิบัติตนให้สงบทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ
    ๔. นิพพาน ได้แก่ การดับทุกข์ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นได้จาการดำเนินชีวิตตามมรรคมีองค์ ๘

    วิธีการ ๖
    ๑. ไม่ว่าร้าย ได้แก่ ไม่กล่าวให้ร้ายหรือ กล่าวโจมตีใคร
    ๒. ไม่ทำร้าย ได้แก่ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น
    ๓. สำรวมในปาติโมกข์ ได้แก่ ความเคารพระเบียบวินัย กฎกติกา กฎหมาย รวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีของสังคม
    ๔. รู้จักประมาณ ได้แก่ รู้จักความพอดีในการบริโภคอาหารหรือการใช้สอยสิ่งต่าง ๆ
    ๕. อยู่ในสถานที่ที่สงัด ได้แก่ อยู่ในสถานที่สงบมีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
    ๖. ฝึกหัดจิตใจให้สงบ ได้แก่ฝึกหัดชำระจิตให้สงบมีสุขภาพคุณภาพและประสิทธิภาพที่ดี

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2009
  10. jirautes

    jirautes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +575
    สวัสดีครับทุกๆท่านวันนี้ครอบครัวผมได้โอนเงินร่วมทำบุญสงฆ์อาพาธ
    ประจำเดือนมีนาคม2552จำนวน500บาท*06/03/09 เวลา18.04น.*
     
  11. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
     
  12. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097
    อีกครั้งกับบทคัดย่อทุนนิธิฯ ในเวบลิงค์วิชาการฯ สำหรับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมในครั้งแรก


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=80>[​IMG]
    </TD><TD vAlign=top>ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ
    ด้วยในปัจจุบันพระภิกษุสงฆ์อาพาธตามโรงพยาบาลต่างๆ เช่น รพ.สงฆ์ ยังคงมีอยู่เป็นจำนวนมาก พระสงฆ์เหล่านี้ล้วนเป็นเนื้อนาบุญของเรา ดังคำกล่าวที่ว่า"ผู้ใดปราถนาจะอุปปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นพึงรักษาภิกษุป่วยไข้"
    ผู้เขียน: pratomfoundation ชมแล้ว: 125,720 ครั้ง
    post ครั้งแรก: Thu 7 February 2008, 3:43 am ปรับปรุงล่าสุด: Mon 23 February 2009, 7:09 pm
    อยู่ในส่วน: พักผ่อนหย่อนใจ, วิชาการ.คอม, สุขภาพ, สุขภาพทั่วไป, โรคภัยไข้เจ็บ, อาหารการกิน, กิจกรรมพิเศษ, ศาสนา
    <INPUT type=hidden value=article> <INPUT type=hidden value=34941> <INPUT type=hidden value=vblog>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สารบัญ
    1-20 | 21-40 | 41-60 | 61-80 | 81-100 | 101-117

    หน้า : 1 บทนำ
    หน้า : 2 จุดเริ่มต้นและแนวทางการดำเนินงาน
    หน้า : 3 ความคืบหน้าและยอดเงินบริจาค ณ เดือน ธันวาคม 2550
    หน้า : 4 พี่ใหญ่ฝากมา...
    หน้า : 5 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน ธันวาคม 2550 #1
    หน้า : 6 ความรู้ปู่ให้มา..พระสมเด็จกรุบางน้ำชน (ปีระกาป่วงใหญ่)
    หน้า : 7 ความรู้ปู่ให้มา..พระสมเด็จปูนสอ "สมเด็จอัศนี"
    หน้า : 8 พระท่าดอกแก้วที่ อ.ประถม อาจสาครสร้าง
    หน้า : 9 ความคืบหน้าและยอดเงินบริจาค ณ เดือน มกราคม 2551
    หน้า : 10 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน มกราคม 2551 #2
    หน้า : 11 ความคืบหน้าและยอดเงินบริจาค ณ เดือน กุมภาพันธ์ 2551
    หน้า : 12 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน กุมภาพันธ์ 2551 #3
    หน้า : 13 การไหว้ 5 ครั้ง (ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ญาณวรเถร ) วัดเทพศิรินทราวาส
    หน้า : 14 แจ้งกำหนดการร่วมทำบุญเดือน มีนาคม
    หน้า : 15 ภาพพระโลกอุดรที่เรียกว่า "กรุเก่า"
    หน้า : 16 ใบเสร็จรับเงินที่ไปทำบุญมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2551
    หน้า : 17 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน มีนาคม 2551 #4
    หน้า : 18 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน มีนาคม 2551 #4 หน้า 2
    หน้า : 20 "กระดูก 300 ท่อน" สุดยอดธรรมจากหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร
    หน้า : 21 ย้อนหลังกลับมาคุยถึงเรื่อง พระกำลังใจ 2

    หน้า : 22 ชนวนที่ใช้ในการสร้างพระกำลังใจ 2 หน้าที่ 1
    หน้า : 23 ชนวนที่ใช้ในการสร้างพระกำลังใจ 2 หน้าที่ 2
    หน้า : 24 สรุปยอดเงินบริจาคที่ Update ยอดเมื่อวันนี้ 10 เมษายน 2551
    หน้า : 25 ใบโมทนาบัตรเมื่อคราวไปทำบุญเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2551
    หน้า : 26 สรุปรายการพระที่นำมามอบให้เป็นสำหรับผู้ร่วมทำบุญกับทุนนิธิ ฯ
    หน้า : 27 บรรยากาศแบบไทย ๆ ณ บ้านอาจารย์ประถม อาจสาคร ร่วมกับ คณะกรรมการทุนนิธิฯ
    หน้า : 28 พระอีกรุ่นหนึ่งที่เป็นพระที่ อ.ประถมฯ สร้างไว้...
    หน้า : 29 คำบอกเล่าเกี่ยวกับกิจกรรมทำบุญครั้งที่ 5 ของทุนนิธิฯ...จากประธานทุนนิธิฯ
    หน้า : 30 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน เมษายน 2551 #5
    หน้า : 31 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน เมษายน 2551 #5-2
    หน้า : 32 รูปขณะที่ทางประธานทุนนิธิฯและคณะกรรมการได้นำกระเช้า ไปกราบเยี่ยมอาการผ่าตัดต้อที่ตาของ อาจารย์ประถม ที่บ้าน
    หน้า : 34 ประชาสัมพันธ์ งานบุญที่ รพ.สงฆ์ ครั้งที่ 6/51
    หน้า : 35 รายละเอียด ก่อนเริ่มการทำบุญ ในวันอาทิตย์ที่ 25/5/2551
    หน้า : 36 รายงานการถอนเงินออกมาเพื่อทำบุญ และ สรุปยอดเงินบริจาคที่ Update ยอดเมื่อ 27/05/08
    หน้า : 37 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน พฤษภาคม 2551 #6 หน้าที่ 1
    หน้า : 38 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน พฤษภาคม 2551 #6 หน้าที่ 2
    หน้า : 39 แจ้งข่าว หลวงปู่อ่อนศรี ฐานวโร วัดถ้ำเขาประทุน ชลบุรี ได้มรณภาพแล้วด้วยอาการสงบ
    หน้า : 40 แจ้งข่าวเรื่องการทำบุญ รพ.สงฆ์ ในวันที่ ๒๒/๐๖/๒๕๕๑
    หน้า : 41 ขอประชาสัมพันธ์กิจกรรมของทุนนิธิฯ วันที่ 22 มิ.ย (ครั้งที่ 7)
    หน้า : 42 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน มิถุนายน 2551 #7 หน้าที่ 1

    หน้า : 43 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน มิถุนายน 2551 #7 หน้าที่ 2
    หน้า : 44 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน มิถุนายน 2551 #7 หน้าที่ 3
    หน้า : 45 ประธานทุนนิธิฯ แจ้งยอดการทำบุญในครังที่ 7 นี้ และใบเสร็จแจ้งการทำบุญ ร่วมโมทนาบุญด้วยกันครับ
    หน้า : 46 พระนาคปรกมหาลาภ
    หน้า : 47 ประชาสัมพันธ์กิจกรรมสำหรับงานบุญประจำเดือนกรกฎาคม 2551
    หน้า : 48 หลักฐานการโอนเงินเข้ากองทุนของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี และ กองทุนสงฆ์อาพาธ รพ. 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ์ จ.อุบลฯ
    หน้า : 49 ใบโมทนาบัตรที่ทางโรงพยาบาลสงฆ์ และของทาง รพ.50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ จ.อุบลส่งมาให้ทางทุนนิธิฯทั้งของเดือน พฤษภาคมและเดือนมิถุนายน
    หน้า : 50 การเบิก-จ่ายในงานบุญ ๒๗/๐๗/๒๕๕๑
    หน้า : 51 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน กรกฏาคม 2551 #8 หน้าที่ 1
    หน้า : 52 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน กรกฏาคม 2551 #8 หน้าที่ 2
    หน้า : 53 พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่า พิมพ์ปรกโพธิ์
    หน้า : 54 ซื้อผ้ามัสสลิน ถวายเพื่อใช้เป็นเครื่องบริขารให้แก่พระสงฆ์อาพาธ ณ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น
    หน้า : 55 ปุจฉา - วิสัชนา
    หน้า : 56 สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าพิมพ์ใหญ่และสมเด็จปัญจสิริรุ่นแรกเนื้อเก่าสวยๆ #1
    หน้า : 57 สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าพิมพ์ใหญ่และสมเด็จปัญจสิริรุ่นแรกเนื้อเก่าสวยๆ #2
    หน้า : 58 สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าพิมพ์ใหญ่และสมเด็จปัญจสิริรุ่นแรกเนื้อเก่าสวยๆ #3
    หน้า : 59 สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าพิมพ์ใหญ่และสมเด็จปัญจสิริรุ่นแรกเนื้อเก่าสวยๆ #4
    หน้า : 60 สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าพิมพ์ใหญ่และสมเด็จปัญจสิริรุ่นแรกเนื้อเก่าสวยๆ #5
    หน้า : 61 ใบโมทนาบัตรของเดือน กรกฎาคม+ยอดเงินที่เบิกออกมาใช้ในการทำบุญกับทาง รพ.สงฆ์ ในวันที่ 24 สิงหาคม 2551
    หน้า : 62 ภาพของผ้ามัสลินที่ได้จากการบริจาคของทุนนิธิ ฯ ไปใช้หอสงฆ์ที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น

    หน้า : 65 พระกรุวังหน้าบางส่วน
    หน้า : 66 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน สิงหาคม 2551 #1
    หน้า : 67 แจงรายละเอียดการทำบุญเดือนสิงหาคม 2551
    หน้า : 68 ปิดท้ายงานบุญเดือนสิงหาคม 2551
    หน้า : 69 พระพิมพ์เจ้าสัว....
    หน้า : 70 พระกรุโลกอุดร
    หน้า : 71 พระกรุโลกอุดร พิมพ์ปิดตา อรหัง
    หน้า : 72 พระสารีริกธาตุของพระพุทธปัจเจกพุทธเจ้า
    หน้า : 73 พระสกุลวังหน้า
    หน้า : 74 พระพิมพ์สกุลวังหน้า
    หน้า : 75 พระพิมพ์สกุลวังหน้า.. ต่อ
    หน้า : 76 พระพิมพ์ของบรมครูพระเทพโลกอุดร
    หน้า : 77 แจ้งข่าวเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานขั้นต่อไปของทุนนิธิ
    หน้า : 78 ทางทุนนิธิฯตั้งใจจะแจกพระให้ในเดือนนี้นั้นก็ขอเรียนชี้แจงดังนี้นะครับ
    หน้า : 79 ภาพพระ ๒๔๐๘ เพื่อการศึกษา
    หน้า : 80 ภาพของการรักษาผู้ป่วยของ รพ.สงขลานครินทร์ ที่เราเตรียมส่งเงินไปช่วยเหลือ
    หน้า : 81 ภาพพระ ๒๔๐๘ เพื่อการศึกษา (๒)
    หน้า : 82 ใบโมทนาบัตรของโรงพยาบาล 5 พรรษา มหาวชิราลงกรณ และโรงพยาบาล ศรีนครินทร์ มาให้ได้ร่วมกันโมทนาในบุญ
    หน้า : 83 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน กันยายน 2551 #10 หน้าที่ 1
    หน้า : 84 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน กันยายน 2551 #10 หน้าที่ 2

    หน้า : 85 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน กันยายน 2551 #10 หน้าที่ 3
    หน้า : 86 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน กันยายน 2551 #10 หน้าที่ 4
    หน้า : 87 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน กันยายน 2551 #10 หน้าที่ 5
    หน้า : 88 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน กันยายน 2551 #10 หน้าที่ 6
    หน้า : 89 รายนามท่านที่บริจาคเงินสมทบเข้าทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร เมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2551
    หน้า : 90 ร่วมทำบุญให้กับ รพ.แม่สอด จ.ตาก (รพ.ชายแดน)
    หน้า : 91 นำใบโอนเงินมาร่วมโมทนาบุญกับทาง ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร
    หน้า : 92 ใบอนุโมทนาบัตรที่ได้รับจากโรงพยาบาลต่าง ๆ ครับ โมทนาสาธุ
    หน้า : 93 การประชุมคณะกรรมการทุนนิธิฯ
    หน้า : 94 ภาพการทำบุญ รพ.สงฆ์ วันที่ 19 ตุลาคม 2551
    หน้า : 95 ภาพพระสมเด็จที่ระลึกในงานศพของคุณพ่อพี่พันวฤทธิ์
    หน้า : 96 รายงานยอดเงินที่ถอนไปทำบุญในเดือนนี้และใบขอบคุณและโมทนาบัตรของโรงพยาบาลต่างๆครับ
    หน้า : 97 สรุปผลการประชุม ๒๖-๑๐-๒๕๕๑ และแจ้งวันร่วมทำบุญในเดือน พฤษจิกายน ๒๕๕๑
    หน้า : 98 รายงานยอดเงินเมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2551 ที่ผ่านมา
    หน้า : 99 สรุปยอดบริจาคผ้าห่มให้กับโรงพยาบาลสงฆ์ที่อำเภอปัว โรงพยาบาลที่สกลนคร ของหลวงปู่แฟ๊บ และ โรงพยาบาลที่อำเภอแม่สอด
    หน้า : 100 ภาพหลวงปู่แฟ๊บ สุภัทโท วัดป่าดงหวาย
    หน้า : 101 รูปบรรยากาศการพบปะของลูกศิษย์และอาจารย์ ณ บ้านอาจารย์ประถม
    หน้า : 102 รูปบรรยากาศการพบปะของลูกศิษย์และอาจารย์ ณ บ้านอาจารย์ประถม ต่อ....
    หน้า : 103 ประชาสัมพันธ์เรื่องด่วนควรค่าแก่การโมทนาและสาธุบุญให้ผู้ที่บริจาคเข้าบัญชีทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธฯ
    หน้า : 104 หลักฐานการโอนเงิน และใบตอบรับ โมทนาบัตรของโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่ทางทุนนิธิฯได้ส่งเงินไปช่วย

    หน้า : 105 มีรูปมาฝากจากแม่สอด ที่เราบริจาคเพื่อซื้อผ้าห่มให้กับ สงฆ์อาพาธและไว้ใช้ที่ รพ.แม่สอด ครับ
    หน้า : 106 รูปกิจกรรมทำบุญ ครบบรอบ ๑ ปี ของทุนนิธิ ธันวาคม ๒๕๕๑ #๑๒ หน้าที่ ๑
    หน้า : 107 รูปกิจกรรมทำบุญ ครบบรอบ ๑ ปี ของทุนนิธิ ธันวาคม ๒๕๕๑ #๑๒ หน้าที่ ๒
    หน้า : 108 รูปกิจกรรมทำบุญ ครบบรอบ ๑ ปี ของทุนนิธิ ธันวาคม ๒๕๕๑ #๑๒ หน้าที่ ๓
    หน้า : 109 รายงานสรุปผลารดำเนินการของทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร
    หน้า : 110 พระดีที่น่ากราบไหว้
    หน้า : 111 แจ้งวันทำบุญ ในเดือนมกราคม ๒๕๕๒
    หน้า : 112 สรุปยอดเงินสำหรับเตรียมการบริจาคในวันอาทิตย์ที่ 18 มกราคมนี้
    หน้า : 113 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน มกราคม 2552 #13 หน้าที่ 1
    หน้า : 114 ภาพการทำบุญของ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร ประจำเดือน มกราคม 2552 #13 หน้าที่ 2
    หน้า : 115 กำหนดการทำบุญที่โรงพยาบาลสงฆ์ วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2552
    หน้า : 116 "พระปิยบารมีพิมพฐานบัวใหญ่" ที่ได้นำบรรจุกรุเพื่อสืบพระพุทธศาสนา
    หน้า : 117 "พระปิยบารมีพิมพ์ฐานบัวเล็ก" สำหรับแจกผู้ร่วมบริจาคทำบุญอย่างต่อเนื่องครับ
    หน้า : 118 ความเคลื่อนไหวของยอดเงินในบัญชีของทุนนิธิฯ กุมภาพันธ์ 2552
    หน้า : 119 ภาพกิจกรรมทำบุญของทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อาจารย์ประถม อาจสาคร ประจำเดือนกุมภาพันธ์
    หน้า : 120 ภาพกิจกรรมทำบุญของทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อาจารย์ประถม อาจสาคร ประจำเดือนกุมภาพันธ์ หน้าที่ 2
    หน้า : 121 ภาพกิจกรรมทำบุญของทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อาจารย์ประถม อาจสาคร ประจำเดือนกุมภาพันธ์ หน้าที่ 3
    <INPUT id=cur_content type=hidden value=1 name=cur_content>




    หน้าที่ 117 - "พระปิยบารมีพิมพ์ฐานบัวเล็ก" สำหรับแจกผู้ร่วมบริจาคทำบุญอย่างต่อเนื่องครับ

    พิมพ์ฐานบัวเล็ก สำหรับแจกผู้ร่วมบริจาคทำบุญอย่างต่อเนื่อง พระนี้ท่านอาจารย์ประถมได้สัมผัสแล้วขณะเพิ่งหล่อออกมาใหม่ๆยังไม่เสร็จพิธีกรรมการสร้างและเสก ทราบถึงความวิเศษขององค์พระด้านเมตตาจึงได้ให้ชื่อพระนี้ว่า พระปิยบารมี (หมายความว่าเป็นที่รักของคนทั่วหล้า) **ปิยบารมี** ไม่มีสระอะ



    [​IMG]
    [​IMG]

    รายละเอียดชนวนหล่อพระ เท่าที่ลงให้คือแผ่นยันต์ต่างๆ แต่ที่ไม่ลงให้ดูคือทองคำแท้ๆ น้ำหนักประมาณ 8 บาท ซึ่งบางองค์จะแก่ทองคำมาก ใครโชคดีก็ได้ไป นี่ล่ะทำไว้แจกกันฟรีๆ

    รายละเอียดชนวนที่นำมาใช้บางส่วน
    http://www.vcharkarn.com/vblog/34941/22
    http://www.vcharkarn.com/vblog/34941/23


    <!-- / message --><!-- sig -->
    __________________






    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD align=left><<< หน้าก่อนนี้ (หน้า 116) </TD><TD align=right>หน้าถัดไป (หน้า 118) >>> </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    [​IMG]
    <SUP>*</SUP>หมายเหตุ งานเขียนชิ้นนี้ ได้รับการคุ้มครองสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสิทธิทางปัญญา โดยลิขสิทธิเป็นของผู้เขียน ที่ให้เกียรตินำเผยแพร่ผ่าน วิชาการ.คอม เรามีความยินดีและอนุญาตให้ทำซ้ำหรือเผยแพร่ต่อเพื่อประโยชน์ทางการศึกษาเท่านั้น กรุณาให้เกียรติผู้เขียน โดยอ้างชื่อผู้เขียนและ วิชาการ.คอม (www.vcharkarn.com) ทุกครั้งที่ทำการเผยแพร่ต่อ ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อในสื่อที่เอื้อประโยชน์ทางธุรกิจก่อนได้รับอนุญาต ขอขอบคุณที่ร่วมกันช่วยสร้างให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งปัญญา
     
  13. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097
    [​IMG]

    บุญคือความดี ที่ควรเร่งทำอย่างยิ่ง

    คือการเชื่อคำทรงสอนของสมเด็จพระบรมศาสดาระลึกไว้ให้เสมอ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับลมหายใจเข้าออก ว่ารับรู้รับฟังพระธรรมคำทรงสอนแล้ว ไม่ว่ามากว่าน้อย ก็จงเร่งปฏิบัติ จำไว้อย่ารู้ลืมที่สมเด็จพระบรมศาสดาทรงเตือนสติไว่ว่า
     
  14. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097
    <CENTER>[​IMG]</CENTER>

    ความดีหรือบุญกุศลเปรียบเหมือนแสงไฟ

    ผู้ที่ทำบุญกุศลอยู่อย่างสม่ำเสมอเพียงพอ แม้จะเหมือนไม่ได้รับผลของความดี และบางครั้งก็เหมือนทำดีไม่ได้ดี ทำดีได้ชั่วเสียด้วยซ้ำ เช่นนี้ก็เหมือนจุดไฟในท่ามกลางแสงสว่างยามกลางวัน ย่อมไม่ได้ประโยชน์ จากแสงสว่างนั้น

    แต่ถ้าตกค่ำมีความมืดมาบดบังแสงสว่างนั้นย่อมปรากฏขจัดความมืดให้สิ้นไป สามารถแลเห็นอะไรๆ ได้ เห็นอันตรายที่อาจมีอยู่ได้ จึงย่อมสามารถหลีกพ้นอันตรายเสียได้ ส่วนผู้ไม่มีแสงสว่างอยู่กับตน เช่นไม่มีเทียนจุดอยู่ เมื่อถึงยามกลางคืนมีความมืดมิด ย่อมไม่อาจขจัดความมืดได้ ไม่อาจเห็นอันตรายได้ ไม่อาจหลีกพ้นอันตรายได้

    ผู้ทำความดีเหมือนผู้มีแสงสว่างอยู่กับตัว ไปถึงที่มืดคับขัน ย่อมสามารถดำรงตนอยู่ได้ด้วยดีพอสมควรกับความดีที่ทำอยู่ ตรงกันข้ามกับผู้ไม่ได้ทำความดีซึ่งเหมือนกับผู้ไม่มีแสงสว่างอยู่กับตัว ขณะยังอยู่ในที่สว่าง อยู่ในความสว่างก็ไม่ได้รับความเดือดร้อน

    แต่เมื่อใดตกไปอยู่ในที่มืดคือที่คับขันย่อมไม่สามารถดำรงตนอยู่ได้อย่างสวัสดี ภัยอันตรายมาถึงก็ไม่รู้ไม่เห็น ไม่อาจหลีกพ้น คนทำดีไว้เสมอกับคนไม่ทำดีแตกต่างกันเช่นนี้ประการหนึ่ง

    การทำดีต้องไม่มีพอ ต้องทำให้ยิ่งขึ้นอยู่เสมอเพราะไม่มีใครอาจประมาณได้ว่าเมื่อใดจะตกไปในที่มืดมิดขนาดไหน ต้องการแสงสว่างจัดเพียงใด ถ้าไม่ตกเข้าไปในที่มืดมิดมากมายนัก มีแสงสว่างมากไว้ก่อน ก็ไม่ขาดทุน ไม่เสียหาย

    แต่ถ้าตกเข้าไปในที่มืดมิดมากมาย แสงสว่างน้อย ก็จะไม่เพียงพอจะเห็นอะไรๆ ได้ถนัดชัดเจน การมีแสงสว่างมากจะช่วยให้รอดพ้นจากการสะดุดหกล้มลงเหวลงคู หรือ ตกเป็นเหยื่อของสัตว์ร้ายจนถึงตายถึงเป็น

    อานุภาพของความดีหรือบุญกุศลนั้นเป็นอัศจรรย์จริง เชื่อไว้ดีกว่าไม่เชื่อ และเมื่อเชื่อแล้วก็ให้พากันแสวงหาอานุภาพของความดีหรือบุญกุศลให้เห็นความอัศจรรย์ด้วยตนเองเถิด

    : แสงส่องใจ
    : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     
  15. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097
    พระราชประวัติของในหลวงบางส่วนที่คนไทยควรรู้

    พระราชประวัติ
    บรมราชาภิเษก

    ก่อนจะกล่าวถึงพระราชพิธีบรมภิเษกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน ผู้เชียนจะเล่าถึงความเป็นมาของพระราชพิธีนี้เสียก่อน
    พิธีบรมราชภิเษกในประเทศไทย เป็นเรื่องน่ารู้สำหรับนักประวัติศาสตร์และสังคมวิทยา พิธีนี้เจือปนด้วยลัทธิพราหมณ์ และลัทธิพุทธศาสนาทางฝ่ายหินยาน นอกจากนั้น พิธีบรมราชาภิเษกยังมีลัทธิเทวราชของเขมรประกอบอยู่ภายนอกอีกด้วย เรื่องนี้จำเป็นต้องเล่าประวัติศาสตร์ของชาติไทยประกอบ จึงจะทำให้ท่านผู้อ่านมองเห้นได้แจ่มชัดยิ่งขึ้น
    ชนชาติไทยซึ่งได้อพยพออกจากจีนใต้มาสู่ต้นแม่น้ำของเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำโขง แม่น้ำคง แต่โบราณกาลคนไทยเป็นคนชนิดที่ถือผี พวกไทยน้อยที่ลงมาทางลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้มาพลกับพวกมอญทางอาณาจักรทวาราวดี เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๖ พวกมอญนี้เป็นพวกที่สืบเชื้อสายมาจากชาวอินเดียที่มีชื่อว่า เตลิงคนะ อยู่ในอ่าวเลงคอลฝั่งตะวันตกตอนบน แล้วได้ข้ามปากอ่าวนั้นมาตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่ทางฝั่งตะวันออก เหตุฉะนั้น จึงได้เรียกกันว่า ชาติเตลิง พวกมอญเชื้อเตลิงนี้ได้มาตั้งประเทศทวาราวดีขึ้นในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และได้มีวัฒนธรรมสูงโดยอาศัยศาสนาพุทธหินยานเป็นหลัก วัฒนธรรมของทวาราวดีนี้แหละได้มาเป็นต้นตอของวัฒนธรรมพวกไทยน้อยที่ลงมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาดังได้กล่าวมาแล้ว นกจากพุทธศาสนาแล้วเราจึงได้เอาคัมภีร์
     
  16. nathaphat

    nathaphat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +750
    วันนี้ร่วมโอนเงินทำบุญ 500 บาทครับ มี พ่อ-แม่ และ แฟน ผมร่วมด้วย คนละเล็กละน้อย ครับ

    ขออนุโมทนาบุญ กับทุกๆท่านด้วยนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    910
    ค่าพลัง:
    +4,284
    ภาพที่หาดูไม่ง่าย

    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2009
  18. active

    active เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +278
    วันนี้ 7มี.ค.2552 เวลา14.11น. ร่วมโอนเงินทำบุญ 400 บาทครับ
     
  19. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    910
    ค่าพลัง:
    +4,284
    พระยอดขุนพล กรุทวาราวดีศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ อายุ 1350ปี

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  20. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097
    วันนี้ได้รับแจ้งจากหอสงฆ์อาพาธ รพ.ศรีนครินทร์ ว่าในขณะนี้มีพระสงฆ์ที่อาพาธฯ ด้วยโรคมะเร็ง ที่ต้องมีความจำเป็นในการใช้เครื่องดูดเสมหะ 1 รูป พร้อมส่ง รายละเอียดมาให้ด้วยทางเมล์ ดังนั้นสำหรับการบริจาคในเดือนมีนาคม นี้ ทางทุนนิธิฯ จึงจะมอบเครื่องดูดเสมหะให้ พระรูปนี้ ตามเจตนารมย์ของทุนนิธิฯ ที่ได้แสดงไว้แต่แรกครับ

    รายละเอียดของพระที่อาพาธ


    <TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD class=standardtext vAlign=top>พระสุพี ณโนนชัย
    99 ม.7 ต. เทพาลัย อ. คง จ. นครราชสีมา 30260
    อายุ 62 ปี โรคมะเร็งไทรอยด์
    เจาะคอใสท่อเหล็กไว้ดูดเสมหะ จำเป็นต้องใช้เครื่องดูดเสมหะ



    พันวฤทธิ์
    7/3/52
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...