ขอเชิญร่วมทำบุญมหากุศลที่ยิ่งใหญ่ร่วมกับวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ. อุดรธานี

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย Ramtongthai, 11 มิถุนายน 2013.

  1. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    " วิปัสสนานี้ มีผลอานิสงส์ใหญ่ยิ่งกว่า ทาน ศีล พรหมวิหารภาวนา
    ย่อมทำให้ผู้เจริญนั้นมีสติไม่หลง เมื่อทำกาลกิริยา มีสุคติภพ คือ มนุษย์และโลกสวรรค์เป็นไปในเบื้องหน้า หากยังไม่บรรลุผลทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน ถ้าอุปนิสัยมรรคผลมี ก็ย่อม
    ทำให้ผู้นั้น บรรลุมรรคผล ทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพานได้ในชาตินี้นั่นเทียว อนึ่ง ยากนักที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์ เพราะต้องตั้งอยู่ในธรรมของมนุษย์ คือ ศีล ๕ และกุศลกรรมบท ๑๐ จึงจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ชีวิตที่เป็นมานี้ ก็ได้ด้วยยากยิ่งนัก เพราะอันตรายชีวิตทั้งภายใน ภายนอกมีมากต่างๆ การที่ได้ฟังธรรมของสัตตบุรุษคือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้ก็ได้ยากยิ่งนัก เพราะกาลที่ว่างเปล่าอยู่ ไม่มีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกยืดยาวนานนัก บางคาบ บางสมัย จึงจะมีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกสักครั้งสักคราวหนึ่ง เหตุนั้นเราทั้งหลายพึงอยู่ ด้วยความไม่ประมาทเถิด อย่าให้เสียที ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนานี้ี้แล "

    โอวาทธรรม หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล

    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  2. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    คืนวันนี้เป็นคืนวันพระ ข้าพเจ้าขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดคุ้มครองทุกๆท่าน ให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขด้วยเทอญ 6/8/2556
     
  3. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    เทศน์หลวงตา ณ สวนแสงธรรม
    เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๖ [เช้า]
    เรื่อง 'คติจากนิทาน ลิงทอดแห"

    "ในนิทานลิงทอดแหเราก็เคยได้อ่านตั้งแต่สมัยเราเป็นนักเรียน มีอยู่ในบาลีนู่นนะ อยู่ในชาดก จึงไปเจอท่านถอดออกมาจากชาดก มาเป็นหนังสือ นิทานอีสปบ้าง ธรรมจริยาบ้าง ตั้งแต่เราเป็นนักเรียน อ่านเวลาเรียนหนังสืออยู่ ทีนี้เวลาเราบวชเราไปอ่าน ที่ไหนได้ มันอยู่ในชาดก ไม่ใช่ธรรมดานะ ท่านถอดออกมาเป็นคติเครื่องสอนพวกเรา อย่างที่ว่าลิงทอดแหนี่ก็เหมือนกัน พวกเราอย่าให้เป็นลิงทอดแหนะ นิทานท่านมาสอนแล้ว สอนคนไทยเรา สอนมาตั้งแต่เราเป็นเด็ก ท่านสอนเป็นคติเครื่องเตือนใจ เห็นไหมบรรพบุรุษของเรามีความเมตตาสงสารกุลบุตรสุดท้ายภายหลัง สอนมาเรื่อย ๆ ให้เป็นคติเครื่องเตือนใจ

    เราผู้เป็นกุลบุตรก็ควรจะรับอรรถรับธรรมท่านไว้เป็นคติเครื่องเตือนใจตัวเอง และสอนลูกหลานต่อไป เห็นเขาทำอะไร ๆ ก็เอาเยี่ยงอย่างเขามาล่ะซิ คนไปทอดแห ลิงอยู่ต้นไม้มันก็ดู เห็นคนทอดแห พอเขาปล่อยแหเท่านั้นลิงก็ไปคว้าแห โดดลงมาจากต้นไม้มาคว้าแห มันจะทอดหาปลาเหมือนคนนั่นแหละ แหเลยพันลิงตาย จมน้ำ นี่แหละที่มันไม่ใช่วิสัย ไปทำถึงขนาดตัวตายเลย นี่อะไรที่ไม่ใช่วิสัยแห่งความถูกต้องดีงามแล้วอย่านำมาใช้ ความถูกต้องดีงาม ท่านว่าเป็นวิสัย เป็นคติอันดีงามควรนำมาใช้ ใครเป็นคนดิบคนดีให้ถือเอามาเป็นคติตัวอย่างเพื่อพร่ำสอนตัวของเรา แล้วแก้ไขตัวของเรา นี่เรียกว่าเป็นคติอันดี

    อะไรไม่ดีให้ปัดออก ๆ อย่านำมาสนิทติดจมกับเรา เราจะเป็นแหพันลิง ลิงพันแหเข้าไปล่ะนะ ให้ระมัดระวัง เพราะการกินอยู่ใช้สอยนี้รู้สึกเราจะฟุ้งเฟ้อมากอยู่ในเมืองไทยของเรา ตามธรรมดาเมืองไทยเราเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำมาตั้งแต่บรรพบุรุษของเรา ไม่เคยมีความเดือดร้อนวุ่นวายกับการอยู่กินใช้สอยตลอดมา เวลานี้สิ่งต่าง ๆ ที่เป็นเครื่องล่อลวงอะไรก็แล้วแต่เถอะ มันเร้าตาเร้าใจ เร้าทุกอย่าง แล้วทำให้เราเพลินไปตาม ๆ กัน อะไรผ่านเข้ามาเลยกลายเป็นของดี เพราะไม่เคยเห็น อันนั้นก็ดี อันนี้ก็ดี เงินคว้าออก ๆ คว้าในกระเป๋า คว้าไปคว้ามากระเป๋าก็แฟบ หัวใจยังอยากอีก นี่แหละทำให้เสียแล้วนะ"

    ที่มา https://www.facebook.com/watpabaantaad.luangta?fref=ts
     
  4. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    คัดจากงานเขียนธรรมะขององค์หลวงตาเล่มแรก เมื่อพุทธศักราช ๒๕๐๑ ชื่อหนังสือ "ธรรมคู่แข่งขัน"

    "กาลใดที่จิตใจประชาชนห่างเหินจากศีลธรรม กาลนั้นความเดือนร้อนวุ่นวายนับวันทวีรุนแรงยิ่งขึ้น ลำพังกฎหมายเพียงอย่างเดียวซึ่งบังคับแต่ภายนอก คือกายวาจาเท่านั้น ย่อมไม่อาจให้ความสงบสุขแก่หมู่ชนได้เท่าที่ควร หากจิตใจคนเข้าใกล้ชิดสนิทกับศีลธรรม มีธรรมเป็นเครื่องปกครองใจ ย่อมไม่คิดไม่ทำในสิ่งที่จะก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น นอกจากมีความเมตตาสงสารเข้าเคลือบแฝง เพื่อความสงเคราะห์อนุเคราะห์แก่ผู้อื่นเท่านั้น คนที่ประพฤติทุจริตต่าง ๆ เช่น ลักขโมยปล้นจี้ แย่งชิงวิ่งราว ฉ้อราษฎร์บังหลวง คดโกงรีดไถเหล่านี้ เป็นการประกาศอยู่ในตัวว่าไม่มีศีลธรรมภายในใจและความประพฤติบ้างเลย คนไม่มีศีลธรรมในใจนั่นแล มักก่อเรื่องราวต่าง ๆ ให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่หมู่ชนอยู่เสมอมา"

    ที่มา https://www.facebook.com/watpabaantaad.luangta?fref=ts
     
  5. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    คืนวันนี้ ข้าพเจ้าขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดคุ้มครองทุกๆท่าน ให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขด้วยเทอญ 7/8/2556
     
  6. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    " จิตนี่... ถ้าหากสังเกตตนเองแล้วทำไมจะไม่รู้จัก ผมทำก็ทำจริงๆไม่ได้ทำเล่นเหมือนหมู่เพื่อนนะ ฟังดูหมู่เพื่อนแล้ว มีแต่เรื่องโลกๆ เอามาปราศรัยกัน ถ้าทำเล่นมันก็ไม่เห็นของจริง ไม่เห็นหัวอกตนเอง มีแต่ให้ครูบาอาจารย์ท่านสั่งสอน แล้วก็จำแต่คำพูดของท่าน เพื่อเอาไปหากินเท่านั้น กิเลสล้นหัวใจตนเองอยู่ก็ไม่รู้จักอบรม แล้วจะให้เขาเคารพยังไง ให้พากันแก้นะ "

    โอวาทธรรม หลวงปู่ลี กุสลธโร
    ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๗

    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  7. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ถ้าตั้งใจทำจริงๆ ทำไมมันจะไม่เห็น เพราะของมันมีอยู่อย่างนั้น ของดีของชั่วก็มี หากตั้งใจปลดเปลื้องความทุกข์ออกมันก็ต้องได้ มันไม่เห็นล่ะ ขนาดความคิดที่คิดอยู่ในแต่ละวันหนี่งๆ เรายังจำไม่ได้ จะพูดไปไกลทำไมถึงเรื่องขนาดข้ามภพข้ามชาติ วันหนี่งๆ คิดดีคิดชั่ววันละกี่ครั้ง ให้นำมาใคร่ครวญดู นี่หากกิเลสขึ้นจับจองอยู่บนหัวแล้ว มันจะคิดล่ะว่าบาปไม่มี บุญไม่มี มันเป็นเช่นนั้นทุกวันนี้ มันมักพาวนเวียนอยู่แต่เรื่องสกปรก ดูอย่างเป็ด มันไม่เคยเห็นหรอกแม่น้ำใหญ่สมุทรสาครน่ะ พอเห็นแค่น้ำครำมันก็ตีปีกพรึ่บๆ ล่ะ อันนี้เหมือนกัน จิตใจคนเราไม่ต่างกัน มักจะวิ่งอยู่แถวนี้ล่ะ ที่ๆจะทำให้เกิดมันก็อยู่ตรงนี้ หากไม่แก้แล้วก็จะเกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิดอยู่นั่น แก้ไม่ได้หรอก ให้เร่งความพากความเพียร หัดสติ หัดให้เป็นมหาสติมหาปัญญา พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ อธิจิต อธิปัญญา ไปอย่างนั้น...ให้มันลงดูสิ ให้มันคิดให้ทันดูสิใจตนเอง ความนึกความคิดตนเองน่ะ ให้คิดพิจารณาใคร่ครวญดู...เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้

    หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดป่าภูผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    เทศน์อบรมพระในพรรษา พุทธศักราช ๒๕๔๑

    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  8. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    เทศน์หลวงตา ณ โรงเรียนเอกบูรพาวิเทศศึกษา ถ.สามวา เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ
    เมื่อบ่ายวันที่ ๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘
    เรื่อง "ความสุขแท้อยู่ที่ครอบครัวมีศีลธรรมสมบูรณ์"

    ความสุขแท้ๆ อยู่ที่ครอบครัวที่มีศีลธรรมสมบูรณ์ด้วยกัน ตายใจกันได้ นี่คือความสุข ให้ท่านทั้งหลายจำเอาไว้ อย่าไปคว้าหาตั้งแต่เงินหมื่นเงินแสนเงินล้าน โดยที่สองผัวเมียภรรยาไว้ใจกันไม่ได้ นี่เอาไฟมาเผาหัวอกกัน อะไรจะหนักยิ่งกว่าผัวเมียกระทบกระเทือนกัน ใครจะรักยิ่งกว่าเมียรักผัว ใครจะรักยิ่งกว่าผัวรักเมีย ให้เราเห็นใจของเขาของเรา ไม่ว่าผู้หญิงใดชายใดก็ตามของใครก็ของเรา เป็นผู้รักผู้ชอบผู้สงวนที่สุดก็คือรักคู่ครองของตน อะไรๆ ก็ตามไม่ได้ระเวียงระวังเหมือนคู่ครองของตน จะไปแบ่งจิตแบ่งใจให้ผู้หนึ่งผู้ใดเอาไฟมาเผาตน เอากาเมสุมิจฉาจารตีมันลงไปให้ขาดสะบั้นลงไปเลย ท่านทั้งหลายจะผาสุกร่มเย็น งานการเป็นงานการคบค้าสมาคมต่อกันมากน้อยเพียไร เอาคบค้าสมาคมได้ แต่เรื่องศีลธรรมให้เป็นสมบัติอันตายตัวของเรา อย่าให้ด่างพร้อย นี่ผาสุกร่มเย็น พากันจำเอานะ

    นี่ละเรื่องศีล ศีลมีข้อนี้เป็นสำคัญ โลกนี้เวลานี้กำลังกำเริบเสิบสานด้วยกาเมสุมิจฉาจารคือราคะตัณหา เป็นบ้ากันหมด ไม่ว่าแต่ผู้ใหญ่ผู้น้อย ใหญ่เท่าไรยิ่งกิเลสตัณหาตัวนี้ยิ่งใหญ่ยิ่งมาก โอ๋ยลืมเนื้อลืมตัวไปเลยนะ นี่ละอำนาจของกิเลสมันทำคนให้เสียได้อย่างนี้ ผู้ใหญ่เท่าไรผู้มีศีลธรรมไม่เคารพนับถือ อิดหนาระอาใจ เอือมระอาไปสำหรับผู้ใหญ่คนเช่นนั้น ถ้าผู้ใหญ่ผู้ใดมีศีลมีธรรมเขาเคารพนับถือ เชื่อฟัง สั่งอะไรๆ เขาทำตามๆ นี่ความเป็นผู้มีศีลธรรม ให้ท่านทั้งหลายเอาจำเอาไว้

    ที่มา https://www.facebook.com/watpabaantaad.luangta?fref=ts
     
  9. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    องค์หลวงตาท่านปรารภถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯ
    เมื่อวันที่ ๔ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๐

    "สมเด็จพระนางเจ้า ฯ ท่านก็เสด็จมาเยี่ยม ได้เห็นหรือเปล่าวันนั้น ดูเหมือนคืนวันที่ ๓๑ ท่านเสด็จมาเฉพาะพระองค์เดียว เสด็จมาอยู่ไม่นาน ๓๐ นาทีท่านมา พระอาการทุกสัดทุกส่วน กิริยามารยาทการกราบการไหว้การเคารพนี้ แหม นิ่มมากเชียวนะ คราวนี้รู้สึกว่าสุดยอดเลยนะ ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนท่านก็สวยงามมากนะ พระอาการทุกส่วนเวลากราบเวลาไหว้อะไรเรานี่เราก็ว่าสวยงามมากเลย ได้ชมเต็มที่แล้ว คราวนี้เลยล้นฝั่งไปเลย พระอาการของท่านนิ่มมากเชียว จะรับสั่งแต่ละคำละประโยคนี้ต้องประนมมือตลอด ๆ ท่านก็มาเล่าเรื่องลูกสาวให้ฟัง ว่าลูกสาวรู้สึกว่าได้กำลังขึ้นมากมาย ได้กำลังใจสำคัญ ส่วนร่างกายก็เข้มแข็งไปตามๆ กัน แล้วก็มาขอขอบบุญขอบคุณเรา เป็นวาสนาของเขา ท่านรับสั่งว่าเป็นวาสนาของเขาที่ได้มาพบครูบาอาจารย์ว่างั้น"

    และหลวงตาปรารภถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯ
    เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๘

    "เรากับสมเด็จพระเทพฯกับฟ้าชายไม่ค่อยได้คุยกันสนทนากัน สมเด็จพระนางเจ้าเสียอีกที่ได้คุยกันมากที่สุด ท่านนิมนต์ให้เราไปศิริราช หม่อมแม่ท่านหม่อมบัวมารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช แล้วท่านนิมนต์เราไป สมเด็จพระนางเจ้านิมนต์ให้เราไปเยี่ยม ท่านนิมนต์ไปฉันที่ศิริราช นั่นละที่ได้คุยกันนาน เราเริ่มช่วยชาติใหม่ๆ ปี ๔๑ ตอนที่เราไปศิริราชนั้นเราเริ่มช่วยชาติแล้ว ก็มีเกี่ยวโยงกันอยู่ ท่านรับสั่งมามันเกี่ยวโยงกับที่เราช่วยชาติ พอระลึกได้บ้าง มันเกี่ยวกัน นั่นละคุยกันนานจริงๆ สมเด็จพระนางเจ้ากับฟ้าหญิงเล็ก คุยกันนาน"

    ที่มา https://www.facebook.com/watpabaantaad.luangta?fref=ts
     
  10. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    "...บิดามารดาเป็นผู้สำคัญ เป็นผู้ให้กำเนิดขึ้นมาด้วย เป็นผู้เลี้ยงดูเราด้วย เป็นผู้แนะนำสั่งสอนเรามาก่อนใครๆ ด้วย ไม่มีผู้ใดจะเลี้ยงดูและทะนุถนอมเราด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยความสงสารเมตตา ด้วยความบริสุทธิ์ใจยิ่งกว่าพ่อกับแม่ การสงเคราะห์สงหาลูกเต้าแต่ละคนๆ นับตั้งแต่วันอยู่ในท้อง ยาบำรุงครรภ์ก็ต้องมี ยาบำรุงครรภ์ไม่มีเกิดขึ้นมาเฉยๆ ต้องมีสมบัติเงินตราไปซื้อหามา ฐานะพ่อแม่แต่ละคนก็ไม่เสมอกัน มีจนบ้าง มีบ้าง บางรายจนจริงๆ แต่อย่างไรก็ตาม การขวนขวายด้วยวิธีต่างๆ เพื่อลูกของตนนั้นย่อมไม่มีบกบางโดยทางน้ำใจ พยายามเลี้ยงดูสงเคราะห์สงหาด้วยความรักความเมตตาจริงๆ เพราะฉะนั้นลูกทุกคนจึงต้องเห็นบุญเห็นคุณของคุณพ่อคุณแม่ บูชาคุณของคุณพ่อคุณแม่ เคารพพ่อแม่ เคารพครู เคารพอาจารย์ ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้มีบุญมีคุณแก่ตนมาแล้วทั้งนั้น..."

    โอวาทธรรม หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน

    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  11. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    " ลูกคนหนึ่งๆ นี้พ่อแม่เสียไปเท่าไร บอบช้ำเท่าไร ลูกคนหนึ่งๆ เหล่านี้ ลูกเหล่านี้มีพ่อมีแม่ทั้งนั้น พ่อแม่เลี้ยงดูรับรอง เป็นบ๋อยกลางบ้านกลางเรือนมาตั้งแต่วันตกคลอดออกมา เราจะมาเย่อหยิ่งจองหองไม่ได้นะพ่อแม่เลี้ยงดูขวนขวายมามีเท่าไรๆ ขนมาหมด พอเริ่มจะเข้าอนุบาล เครื่องที่จะไปเรียนอนุบาลมีอะไรบ้าง นั่นพ่อแม่หาแล้วนะ จากนั้นก็ก้าวขึ้นสู่ประถม มัธยม ยิ่งสูงเท่าไรยิ่งเป็นปอบตัวใหญ่ กินตับปอดพ่อแม่ มีเท่าไรไม่พอๆ พ่อแม่เลยจะตาย มีลูกหลายคนเท่าไรเรียกว่ามีปอบหลายตัว กินตับกินปอดพ่อแม่ พ่อแม่เลยจะตาย เราละโอ่อ่าๆ ไปโรงร่ำโรงเรียนอวดเพื่อนอวดฝูง พ่อแม่ผู้เป็นบ๋อยกลางเรือนไม่ได้ดูซิ จะตายนะ ให้เห็นอกเห็นใจพ่อแม่ เรียนมาแล้วให้ปฏิบัติหน้าที่ตามความมุ่งหมายที่ไปเรียนมา หน้าที่การงานจะเป็นผลเป็นประโยชน์
    ให้เชื่อฟังพ่อแม่นะ ลูกที่ฝ่าฝืนพ่อแม่ไม่เจริญ ไม่มีใครเจริญ ลูกที่ฝ่าฝืนพ่อแม่ ดูถูกเหยียดหยามพ่อแม่ หาว่าเป็นคนทุกข์คนจนอย่างนี้ เช่นเพื่อนเขาเป็นลูกเศรษฐีกุฎุมพีมีหน้ามีตา พ่อแม่ของเราเป็นคนทุกข์คนจน แล้วใครเลี้ยงเรามา นั่นเอาตรงนี้ซิ เศรษฐีเขามาเลี้ยงเราไหม พ่อแม่ที่ทุกข์ๆ จนๆ ตะเกียกตะกายเลี้ยงลูกมาจนใหญ่โตเหมือนบ้านเหมือนเมืองเขา ไปดูถูกพ่อแม่ไม่ได้นะ นี่ละยิ่งมีคุณค่ามาก ได้เห็นคุณของพ่อของแม่มาก
    เวลาทุกข์เวลาจน จนจริงๆ นะพ่อแม่ ไม่ทราบจะดึงใส่ลูกคนไหนๆ บ้าง หาแทบเป็นแทบตาย ไอ้เรามีแต่โอ่อ่าฟู่ฟ่า สนุกเฮฮาจนลืมเนื้อลืมตัวเสียผู้เสียคนไปก็เยอะในวัยเรียนนะ แทนที่จะเป็นวัยเรียนมันกลายเป็นวัยเล่น วัยโกโรโกโสไปเสีย เลยเสียคนทั้งคนไม่เกิดประโยชน์อะไร ความมุ่งหวังของพ่อแม่และการเลี้ยงดูของพ่อแม่มาตั้งแต่อ้อนแต่ออก จนกระทั่งถึงความเสียคนทั้งคนในลูกแต่ละคนๆ นี้เป็นยังไง พ่อแม่อกจะแตกไปแล้วนะนั่น ให้ฟังเสียงพ่อแม่ อย่างไรอย่าลืม พ่อแม่เป็นสำคัญ ลูกมีพ่อมีแม่ให้ฟังเสียงพ่อเสียงแม่ ลูกศิษย์มีครูมีอาจารย์ให้ฟังเสียงครูเสียงอาจารย์ ถ้าไม่ฟังเสียงครูเสียงอาจารย์คนนั้นเตลิดเปิดเปิง ลงเหวตกบ่อไปเลย ไม่มีความดีละ จำให้ดีนะ "

    โอวาทธรรม หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน

    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  12. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ธรรมะกัณฑ์สุดท้ายของหลวงตา

    หลวงตา นี่ก็เข้าใกล้แล้ว ใกล้ ๑๐๐ แล้วนะ อายุ อายุเราเท่าไหร่
    พระ ๙๘ ครับผม
    หลวงตา นั่นแล้ว เกือบร้อยแล้ว ๙๘ อยู่ไปอีกเท่าไหร่ มันก็ไปเท่านั้นแหละ ไปไม่ไป เราไม่ว่าหรอกเรา พูดเฉยๆ นะ เป็นกันเองอย่างนี่แหละ เราเป็นโอกาสจะพูด พูดเสียบ้าง ธรรมดาไม่เคยพูดหรอกเรื่องแบบนี้ เรื่องจะไปจะอยู่ เราไม่มีอาลัยไปไหนนะ เราหมดห่วงหมดใยทุกอย่าง ได้ไป เราตัดขาดหมดเลย ไม่มีอะไรเหลือเลย เป็นจิตที่ว่าง จิตว่าง กิเลสว่าง ทุกอย่าง นี่แหละธรรม ธรรมว่างไปแบบนี้ นี่อายุ ๙๐ เท่าไรนะ
    พระ ๙๘ ครับผม
    หลวงตา นี่ ๙๘ ย่างเข้ามานี่ มันก็ใกล้แล้วนะนี่ ใกล้จะไป ไปก็ไป เราไม่กลัวไม่กล้านะ เฉยๆ อยู่ มันได้ธรรมมาเต็มหัวใจทุกอย่าง บำเพ็ญธรรมจนเต็มหัวใจแล้ว หายห่วงเลย ยังมีแต่ร่างกายโซซัดโซเซ มันจะไปเมื่อไหร่ก็ไปเท่านั้นแหละ ไม่ไปก็อยู่อย่างนี้แหละ ความห่วงความใยอะไร ไม่มี หมดเลย เป็นอย่างสะดวกสบายละ ทิ้งปุ๊บไปเลย พูดให้มันชัดๆ อย่างนี้แหละ ผมไม่เคยพูดหรอก คำพูดแบบนี้ สุ่มสี่สุ่มห้าจะพูดได้เหรอ พวกเปรตพวกผีมันคอยจะหาบเอากองฟืนกองไฟเหล่านี้หมด พูดอย่างนี้เป็นธรรม พวกเปรตพวกผีมันไม่เห็นด้วยนะ มันหาว่าโอ้ว่าอวดไปอย่างนั้น ไม่เป็นประโยชน์กับพวกเปรตพวกผีหรอก เป็นประโยชน์แต่ผู้เป็นอรรถเป็นธรรมนั่นแหละ นี่พูดเฉยๆ หมดแล้วนะนี่ หมดทุกอย่างแล้ว กิเลสกับจิตก็หมด ภพชาติก็หมดในชาตินี้เท่านั้น ไม่มีอีกต่อไปอีกแหละ พูดให้ฟังชัดๆ เสียเลยนะ เราปฏิบัติมานานขนาดไหน เราเอาจริงเอาจังทุกอย่างนะ เอาจริงเอาจังมันก็เห็นจริงเห็นจังซิ ไม่มีที่สงสัยเลยแหละ พอลมหายใจขาดแล้วดีดเลย จบเลย ไม่ต้องเสาะแสวงหาป่าช้าที่ไหนอีกแหละ มันหามาพอแล้ว ป่าช้าที่เกิดที่ตาย ทีนี้ไม่หาแล้ว ต่อไปนี้ไม่หาแล้ว มันพอแล้วนี่ บำเพ็ญมาก็เต็มกำลังความสามารถแล้ว เอาจริงเอาจังนี่ การบำเพ็ญธรรมเพื่อละกิเลสนี้ นี้จริงจังมากทีเดียว เอาจนกิเลสขาดสะบั้น เห็นประจักษ์ในใจนี้ อยู่...! ทีนี้ อยู่แบบหายห่วง แบบหมดงาน จะมีงานไหนทำอีกต่อไปไม่มี หมดแล้วงาน... พูดกับหมู่เพื่อนอย่างนี้เลยว่างงานแล้ว จิตใจที่สิ้นกิเลสแล้วว่างหมดงาน ตลอดตั้งกัปตั้งกัลป์นานเท่าไหร่โดยแท้จริง ว่างอยู่อย่างอย่างนั้นแหละ ตั้งแต่วันนิพพานเที่ยงนั่นแหละ......

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    เทศน์อบรมฆราวาส ณ กุฏิรับรอง วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
    วันที่ ๑๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ (เที่ยง)

    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  13. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ธรรมะกัณฑ์สุดท้ายของหลวงตา

    หลวงตา นี่ก็เข้าใกล้แล้ว ใกล้ ๑๐๐ แล้วนะ อายุ อายุเราเท่าไหร่
    พระ ๙๘ ครับผม
    หลวงตา นั่นแล้ว เกือบร้อยแล้ว ๙๘ อยู่ไปอีกเท่าไหร่ มันก็ไปเท่านั้นแหละ ไปไม่ไป เราไม่ว่าหรอกเรา พูดเฉยๆ นะ เป็นกันเองอย่างนี่แหละ เราเป็นโอกาสจะพูด พูดเสียบ้าง ธรรมดาไม่เคยพูดหรอกเรื่องแบบนี้ เรื่องจะไปจะอยู่ เราไม่มีอาลัยไปไหนนะ เราหมดห่วงหมดใยทุกอย่าง ได้ไป เราตัดขาดหมดเลย ไม่มีอะไรเหลือเลย เป็นจิตที่ว่าง จิตว่าง กิเลสว่าง ทุกอย่าง นี่แหละธรรม ธรรมว่างไปแบบนี้ นี่อายุ ๙๐ เท่าไรนะ
    พระ ๙๘ ครับผม
    หลวงตา นี่ ๙๘ ย่างเข้ามานี่ มันก็ใกล้แล้วนะนี่ ใกล้จะไป ไปก็ไป เราไม่กลัวไม่กล้านะ เฉยๆ อยู่ มันได้ธรรมมาเต็มหัวใจทุกอย่าง บำเพ็ญธรรมจนเต็มหัวใจแล้ว หายห่วงเลย ยังมีแต่ร่างกายโซซัดโซเซ มันจะไปเมื่อไหร่ก็ไปเท่านั้นแหละ ไม่ไปก็อยู่อย่างนี้แหละ ความห่วงความใยอะไร ไม่มี หมดเลย เป็นอย่างสะดวกสบายละ ทิ้งปุ๊บไปเลย พูดให้มันชัดๆ อย่างนี้แหละ ผมไม่เคยพูดหรอก คำพูดแบบนี้ สุ่มสี่สุ่มห้าจะพูดได้เหรอ พวกเปรตพวกผีมันคอยจะหาบเอากองฟืนกองไฟเหล่านี้หมด พูดอย่างนี้เป็นธรรม พวกเปรตพวกผีมันไม่เห็นด้วยนะ มันหาว่าโอ้ว่าอวดไปอย่างนั้น ไม่เป็นประโยชน์กับพวกเปรตพวกผีหรอก เป็นประโยชน์แต่ผู้เป็นอรรถเป็นธรรมนั่นแหละ นี่พูดเฉยๆ หมดแล้วนะนี่ หมดทุกอย่างแล้ว กิเลสกับจิตก็หมด ภพชาติก็หมดในชาตินี้เท่านั้น ไม่มีอีกต่อไปอีกแหละ พูดให้ฟังชัดๆ เสียเลยนะ เราปฏิบัติมานานขนาดไหน เราเอาจริงเอาจังทุกอย่างนะ เอาจริงเอาจังมันก็เห็นจริงเห็นจังซิ ไม่มีที่สงสัยเลยแหละ พอลมหายใจขาดแล้วดีดเลย จบเลย ไม่ต้องเสาะแสวงหาป่าช้าที่ไหนอีกแหละ มันหามาพอแล้ว ป่าช้าที่เกิดที่ตาย ทีนี้ไม่หาแล้ว ต่อไปนี้ไม่หาแล้ว มันพอแล้วนี่ บำเพ็ญมาก็เต็มกำลังความสามารถแล้ว เอาจริงเอาจังนี่ การบำเพ็ญธรรมเพื่อละกิเลสนี้ นี้จริงจังมากทีเดียว เอาจนกิเลสขาดสะบั้น เห็นประจักษ์ในใจนี้ อยู่...! ทีนี้ อยู่แบบหายห่วง แบบหมดงาน จะมีงานไหนทำอีกต่อไปไม่มี หมดแล้วงาน... พูดกับหมู่เพื่อนอย่างนี้เลยว่างงานแล้ว จิตใจที่สิ้นกิเลสแล้วว่างหมดงาน ตลอดตั้งกัปตั้งกัลป์นานเท่าไหร่โดยแท้จริง ว่างอยู่อย่างอย่างนั้นแหละ ตั้งแต่วันนิพพานเที่ยงนั่นแหละ......

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    เทศน์อบรมฆราวาส ณ กุฏิรับรอง วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
    วันที่ ๑๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ (เที่ยง)

    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  14. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    "พระพุทธเจ้าท่านมีแต่บอกแนวทางเท่านั้นเอง ความพากความเพียร มีแต่พวกเราเท่านั้นที่ต้องทำเอาเองหมด"

    หลวงปู่ลี กุสลธโร


    ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น
     
  15. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    เทศน์อบรมคณะแม่ทัพภาค ๒ ณ วัดป่าบ้านตาด
    เมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐
    เรื่อง "พุทโธเข้าได้ทุกศาสนา"

    "ดีแล้ววันนี้ลูกหลานมาเยี่ยม ไปอย่าลืมพุทโธนะ ไปไหน เราเป็นลูกชาวพุทธ ชาวไหนก็ตามพุทโธเป็นเลิศ ศูนย์กลางของสัตว์โลก ไม่ว่าใครจะถือศาสนาใดๆ พุทโธนี้คือองค์ธรรมทั้งแท่งที่โลกปรารถนา ศาสนาใดก็ไม่เหนือคำว่าธรรม ถือธรรมเป็นใหญ่ด้วยกันทั้งหมด พุทโธนี่เข้าเป็นอันเดียวกันกับธรรม ใครจะถือศาสนาใดก็ตาม คำว่าพุทโธนี้คำเดียว เป็นธรรมหมดเข้าได้ทุกศาสนา ให้พากันระลึกถึงเสมอ"

    ที่มา https://www.facebook.com/watpabaantaad.luangta?fref=ts
     
  16. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    บุญอะไรจะไปดีเท่าการทำสมาธินี่ไม่มีอีกแล้ว
    ถ้าใครยังไม่ได้นั่งสมาธิก็นั่งสมาธิซะ
    ถ้านั่งไม่เป็นก็มาเรียนที่สถาบันพลังจิตตานุภาพที่นี่เปิดโอกาสให้ทุกคนมาเรียน
    There are no greater meritorious deeds than meditation.
    Those who haven't tried should start it right away.
    If you don't know how to meditate, at Will Power Institute, everyone is very welcomed to learn.
    ธรรมรุ่งอรุณ เล่ม 4 หน้า 204
    From the Morning Preach Volume 4 Page 204

    ที่มา facebook.com/Willpower-Institute-หลวงพ่อวิริยังค์-สิรินฺธโร
     
  17. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    โยม ท่านคะ ผู้หญิงจะขึ้นเป็นถึงพระอรหันต์ได้ไหมคะ

    หลวงตา ผู้หญิงผู้ชายมันขึ้นไม่ได้ละ ใจต่างหากขึ้น ผู้หญิงมีใจผู้ชายมีใจแล้วขึ้นได้ทั้งนั้น ขอให้กิเลสสิ้นไปด้วยความเพียรของเราเถอะ มีความเพียรเป็นหลักตั้ง ความเพียรนี้แหละจะเป็นกุญแจเปิดตู้มรรคผลนิพพาน เราอย่าเอาเพศมาเปิด เอาเพศมาเปิดแล้วติดเพศไปไม่รอดนะ ถ้าว่าเพศพระก็ว่าเราเป็นพระใครก็นับถือ นอนกินก็ได้ นั่งกินก็ได้ นอนใจ อันนี้ตัวขี้เกียจใหญ่ ตัวกิเลสตู้กิเลสอยู่ในนั้นแหละ แม้แต่หลวงตาบัวคุยโว้ ๆ อยู่นี่ก็ไม่เห็นดีอะไร ถ้าขี้เกียจเสียอย่างเดียวไม่เป็นท่า เรื่องกินแล้วขยันยิ่งกว่าลิง ใช้ไม่ได้อย่างนั้น การประกอบความเพียรให้เร็วให้คล่องตัว สติปัญญาให้คล่องตัวนั้นละกิเลสจะกลัว

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    จากหนังสือ คำถาม คำตอบปัญหาธรรม

    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  18. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    เป็นพระป่า สงบกว่า เป็นพระเมือง
    ไม่มีเรื่อง แบกพรรค แบกศักดิ์ศรี
    ไม่ต้องสวม หน้ากาก ผู้มากดี
    มันเกิดฟรี ขึ้นมาเอง เก่งในตัวฯ
    จะนั่งนอน ยืนเดิน ไม่เขินขัด
    ไม่มีใคร คอยวัด ว่าดีชั่ว
    ไม่มีเรื่อง ยั่วเย้า ให้เมามัว
    จึงเย็นตัว เย็นใจ ไม่ขึ้นลง ฯ

    พุทธทาส อินทปัญโญ

    ที่มา https://www.facebook.com/Thammaphormaekruarjahn?fref=ts
     
  19. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    การเบื่องานย่อมมีด้วยกัน แต่ก็จำต้องฝืนความเบื่อนั้น ๆ เพื่อความเป็นอยู่จะได้ราบรื่นชื่นใจ ไม่ขัดสนจนใจเวลาจำเป็น แม้แต่พระท่านเป็นนักบวชมีงานบำเพ็ญกุศลโดยถ่ายเดียว ไม่มีงานทางโลกที่ต้องวิ่งเต้นขวนขวายเหมือนฆราวาส ท่านก็ยังมีความขี้เกียจบำเพ็ญกุศลสมาธิภาวนาเหมือนผู้ทำงานทางโลก ถ้าตัวขี้เกียจไม่จับท่านมัดติดเสื่อติดหมอนท่านคงไปได้ไกลลิบ แต่นี้ก็ไปถึงแต่เสื่อกับหมอน ไม่อาจเลยไปกว่านั้นถึงมรรคผลนิพพานได้ อย่างไรก็ตามท่านก็ยังอุตส่าห์ฝืนใจบำเพ็ญ ฉะนั้นการฝืนใจในทางถูกทางดีจึงควรฝืน เพราะเรายังอาศัยโลกธาตุขันธ์อยู่ จึงจำต้องฝืนใจทำแม้จะเบื่อ ๆ ก็ตาม

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    จากหนังสือ เมตตาธรรม

    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  20. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ให้พากันสนใจในอรรถในธรรม อย่างน้อยเป็นคู่เคียงกันไปกับทางลบที่เพลิดเพลินไม่รู้จักเป็นจักตาย ให้เอาป่าช้าไปสกัดรัดกั้นมันบ้าง ว่าสัตว์ทุกตัวมีป่าช้าด้วยกัน ไม่ใช่มีแต่มนุษย์ มนุษย์ไม่เห็นป่าช้า ให้มีป่าช้าความเกิดความตายความแปรสภาพเป็นภาพเตือนใจเราเสมอเพื่อที่จะก้าวเดิน ให้จิตใจได้รับการอบรมถูกคำเตือนจากธรรมเสมอ เรื่องความแก่เจ็บตาย ความพลัดพรากจากกัน เป็นของไม่ดีโลกไม่ต้องการ แต่เจอกันเป็นประจำ

    พิจารณานี้เป็นหินลับปัญญา ให้พิจารณาตัวเองให้มีทางเดินไปบ้าง มาก็หลับตามาเกิด อาศัยกรรมดึงไป กรรมดี-กรรมชั่วดึงไป ถ้ากรรมชั่วก็ดึงลง ถ้ากรรมดีก็ดึงขึ้นๆ จิตเรานี้มันเหมือนฟุตบอล เตะไปทางไหนก็ได้ทั้งนั้นแล้วแต่บุญบาปจะส่งไปทางไหน ไม่ใช่มาเกิดตามลำพัง อำนาจแห่งกรรมดี-กรรมชั่วติดมาด้วยทุกคน เกิดมาถ้ามีกรรมดีพามาเกิดก็มาเกิดในสถานที่ดีคติที่เหมาะสม ถ้ากรรมชั่วพามาเกิดก็ไปเกิดในที่ไม่พึงปรารถนา

    ให้พากันระมัดระวัง เวลานี้เป็นเวลาที่มีชีวิตอยู่ คิดได้อ่านได้ทุกอย่างทางดีทางชั่ว ให้แก้ไขดัดแปลงตัวเอง จะไปดัดแปลงเอาเวลาตายแล้วไปเคาะโลงโป้กๆ รับศีลนะ บอกพ่อบอกแม่รับศีลรับทาน ตัวเองไม่สนใจกับศีลกับทานอะไรเลย ตายแล้วก็หลับตาตายไป หาความสว่างติดตัวไม่มี ใช้ไม่ได้นะ ให้จิตมีธรรมไปสว่างกระจ่างแจ้งไป จิตมีธรรมกับไม่มีธรรมต่างกัน อยู่ก็อยู่ด้วยความมืด ตายแล้วจะไปเกิดที่ไหนๆ อันนี้เพราะมันอยู่ในฐานะแห่งความเกิดสำหรับสัตว์โลกที่มีกิเลส เกิดวันยังค่ำ ตายได้ตลอดเวลา

    นี่ให้พิจารณาเรื่องความเกิดตายของตัวเอง ทุกคนตายได้ด้วยกันทั้งนั้น ส่วนจิตนั้นไม่ตายนะ จิตนี้ไม่มีตาย ถ้าถึงสุดยอดแล้วเป็นธรรมธาตุ เช่นจิตพระพุทธเจ้า-จิตพระอรหันต์เป็นจิตธรรมธาตุนะ ธรรมธาตุเลิศเลอสุดยอดแล้ว ไม่มีที่ต้องติ จิตของเราเต็มไปด้วยความมัวหมองมืดตื้อ เวลาไปเกิดก็หลับตาไป ไปเกิดที่ไหนตายที่ไหนหลับตามันไม่เห็น ไปเกิดแต่สิ่งไม่พึงปรารถนานั้นแหละ

    ให้พากันสร้างใจอบรมใจ ให้ระงับดับใจให้อยู่กับบทธรรมบ้าง เช่นอย่างนั่งภาวนาให้จิตอยู่กับพุทโธเป็นต้นนะ เราจะชอบคำบริกรรมคำใดก็ได้ เช่นพุทโธก็ได้ ธัมโมก็ได้ สังโฆก็ได้ หรือมรณัสสติก็ได้ ระลึกถึงความตายเป็นเครื่องเตือนใจ ให้รู้ทางเข้าทางออกทางไปมาทางเกิดทางตายของตน เวลานี้มันไม่รู้มาเกิดก็กรรมมืดตื้อนั่นละผลักไสให้มาเกิด ตายก็ตายไปด้วยความมืดตื้อ ไม่ดีเลย นี่อยู่ด้วยความอบรม ยิ่งเรามามีพุทธศาสนาเป็นแก้วส่องทางด้วยแล้ว ควรจะนำพุทธศาสนาคืออรรถธรรมมาเป็นเครื่องกำกับใจ ถ้าไม่มีอะไรเป็นเครื่องกำกับใจแล้วใจมักจะไหลลงทางต่ำเสมอ ให้พากันอบรมนะ

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
    เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีทรงเข้ากราบนมัสการหลวงตา
    เมื่อเช้าวันที่ ๒๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๒
     

แชร์หน้านี้

Loading...