ขออุบายให้จิตเข้าวิมุตติหน่อยค่ะ

เอาประโยคเกี่ยวกับปํญญาวิมุตติและเจโตวิมุตติไปถามหลวงพ่อสงบเลยดีกว่าให้ท่านเป็นกรรมการเป็นคนกลาง

 

ฮี้ ฮี้ ฮี้ ฮี้

ตะกี้ เห็นแว๊บๆ กำลังกระเดิดยกตนว่ามี วิมุตติรส

หากรู้รส แล้ว วิ่งอ้าว เอาเรื่อง "เด็กทะเลาะกัน" ไปถามพระ

ดูให้ทันนะฮับ คนรู้วิมุตติรสมีที่ไหน วิ่ง......ไปโน้นนนนนน ไม่เห็นหาง(เพราะซุกไว้ที่..)

 

คล้ายๆจะเข้าใจผิด ที่พูดถึงเรื่องสัจจะ หมายถึง เอกวีร์ ไม่ใช่หมายถึงคุณ

 

เขียน ๑๔.๕๘

ฮิฮิฮิ นักปราชญ์ ปัญญาแข็งขึ้นมาหน่อยแล้วนิ ๕๕๕

แหม..วันนี้พูดภาษาคนได้ดีขึ้นแล้วนะ เนอะ หึหึหึ
แต่คงยังต้องเฝ้าดูอาการต่อไป อีกซักระยะ ว่าจะกำเริบอีกป่าวอ่ะ ๕๕๕


กระต่ายป่า แห่งแก๊งค์นาฬิเกร์ / ดร.ดิเรก ผัวประภาพี่ประไพ
.

 

ให้ผม ยกเอาไหม

หากคุง Yos อะไรนี่ เอาเรื่อง จิต ไปถาม พระท่านจะตอบว่า " พระอรหันต์ไม่มีจิต มีจิตคือมีภพ "

แต่ถ้า คุณผ่านมาเฉยๆ ผู้ไร้เดียงสา ใจอ่อนหัดไปถาม พระท่านจะตอบว่า "จิตไม่เกิด ไม่ดับ จิตไม่มีวันตาย จิตก้าวพ้นกิเลส "


ถามผม ทำไมตอบแบบนั้น



ก็คนอินทรีย์กล้า เขาก็ได้ มุขนัยเพื่อการภาวนาทางธรรม ที่แกร่งกล้า

ส่วนพวกอินทรีย์อ่อน เอะอะ ร้องไห้ แต่ทำท่า ยะโส โอหัง ตวาดดังๆ กลบเกลื่อน
สติปัญญา ก็จะได้ มุขนัย จะจับจะยึดอะไร ทำไปเถอะ ดีกว่าไม่จับอะไรไว้เลยในชาติ
นี้ ดีกว่า ปล่อยไปตกนรก

 

เพื่อความไม่คลางแคลงใจครับลุงเอกวี
เพราะมันต้องทำให้แจ่มชัด
รึไม่กล้าทำกันแน่
ถ้าไม่งั้นผมก็เหมือนพูดเข้าข้างตัวเองตลอดเวลา
ด้วยความนับถือครับ

 

ผมไม่ใช่เด็กแล้วหละเพราะผมภาวนามาไกลแล้ว
ประสบการณ์ผม20กว่าปีที่ภาวนาโดยมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์กำกับตลอด
ไม่ได้มั่วตุปัดตุเป๋ด้นเดาเกาทางใดๆเลย
ทายดูเอาเถอะว่าถึงไหนแล้ว

 

ฟังมานานหรือยัง

พระท่าน ไม่เน้นการ จับยึดบัญญัติ

ท่าน สนใจแต่ การกระตุ้นให้เกิดการกระทำ เกิดการภาวนา ก้าวสองก้าว
ท่านก็จะ อนุโลมตามมุขนัย นั้นๆ

ไปใช้ท่านเพื่อ บัญญัติเอาผิด เอาถูก ระวังหน่า ตกกุฏิท่าน ตั้งแต่ จั่ว ข้อ 1574



แต่ถ้าไม่กลัว ท่านก็ชอบนะ ให้ไปหาเลย ฮี้ ฮี้ ฮี้ ฮี้

 

เชย

ถ้าลอง ท้ามาว่า ให้เดาเอาเถอะ ถึงไหนแล้ว

แบเบอร์ เลยฮับ ไม่เชื่อไปถาม หลวงพ่อได้เลย พูดมาคำเดียว รู้แว้ว ไม่เอาไหน



ผมนี่ ทุกๆเดือน กลับราชรี ประจำ ฮิววววววววส์

 

ผมไปกราบท่านหลวงพ่อสงบ
ท่านก็เมตตาปกติดีทุกอย่างไม่มีข้อสงสัย
ไม่มีการตกกุฏิแน่นอน
ดีกว่าลุงเอกวีแน่ที่เอาแต่เฝ้าบอร์ดไปวันๆไม่รู้ว่าภาวนารึเปล่า
ที่ผมมาเล่นบอร์ดช่วงนี้เพราะมาเฝ้าบ้านให้คนอื่นเท่านั้นเดี๋ยวก็กลับวัดแล้ว
สังเกตดูเถอะผมเดี๋ยวมาเดี๋ยวหาย

 

=============

ที่แปลมามันก็ถือว่าใกล้เคียงครับ

หลุดพ้นด้วยปัญญา อันนี้ไม่ต้องคิดมาก ครับ แปลได้ถูกต้องตรงตัว

หลุดพ้นด้วยจิต มันมีขอบข่ายที่ลึกมาก ตำราอธิบายได้ไม่ลึกเท่า ภาษาปฏิบัติ เพราะเป็นการหลุดพ้นด้วยอำนาจของตัวจิตเอง อย่างที่ผมเคยอธิบายไว้ เจโตวิมุตติ คือหลุดพ้นด้วยกำลังของจิตเองที่มีกำลังตัดขาดอาสวะได้ด้วยกำลังของตัวมันเอง

กำลังของเจโตวิมุตติ อาศัย บาทฐานจากการฝึกอบรมทางจิต มีกำลังของสมาธิระดับต่างๆขึ้นไป มีกำลังของวิปัสสนาญาณ ควบคู่เคียงข้างประคองไปด้วย จึงจะถูกต้องด้วย

การฝึกอบรมทางจิต จึงจำเป็นต้องเข้าใจว่า ปัญญาวิมุตติ ส่วนหนึ่ง เสริมเจโตวิมุตติ ด้วย เจโตเสริมปัญญาด้วย และยังมีส่วนที่ไม่เสริมกันและกัน ก็มี ครับ สาธุ

 

กั๊กๆๆๆๆ

สังเกตไหมฮับ

ความมั่นใจในธรรม เหลือ0

อาศัยอะไร

อาศัย การยกบุคคลาธิษฐานภายนอก มาอ้าง

จิตกำลังถอยลง นะฮับ ดูทันอะเป่า หายใจเข้า หายใจออก

 

ในขั้นตอนที่จะได้เจโตวิมุติต้องผ่านความตายให้ได้ก่อนครับที่ว่าสะเทือนโลกธาตุนั่นแหละครับ
แล้วปัญญาวิมุติก็ต้องภาวนาต่อแต่ผมยังไปไม่ถึงครับ
เลยค้างคาอยู่แบบนี้
นัยยะของเจโตวิมุติมีในกรณียเมตตสูตร
และมีเขียนไว้ในพระไตรปิฎกว่าด้วยผู้บรรลุเจโตวิมุติครับ
ไม่ได้แบ่งว่าเจโตวิมุติแล้วจะสำเร็จอรหันต์
ปัญญาวิมุตติได้แค่สุขวิปัสสโก
แต่หลวงอาผมบอกว่าได้เจโตวิมุติแล้วคือไม่สงสัยแล้วแค่ภาวนาต่ออีกนิดเดียวเท่านั้น
แต่มันก็ผ่านมานานแล้วยังไปไม่ถึงซักกะที

 

อ้าวๆ มี ทีเจโซ จอมมั่ว เข้ามา

ถ้ามี จอมมั่ว เข้ามา ขออนุญาติ สร้างความสับสน นะฮับ


" ปัญญาวิมุตติ เจโตวิมมติ " หากเป็น ศาสนาพุทธ จะต้องมีคำว่า
" ไม่กำเริบกลับ " เข้ากำกับด้วย

อาการที่เอา ควาไม่กำเริบเข้ากำกับ หากยกเห็นได้ ก็จะกล่าวต่อว่า
" สัมผัสด้วยปัญญาอันยิ่งเอง " พอมีตัวนี้ จึงค่อยปิดด้วยคำว่า ตรัสรู้เองโดยชอบ


ลำพัง เจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อบรมด้วยการตรึกอย่างถูกต้อง พวกนี้
ยังติดอยู่ในข่าย ทิฏฐิ62 บัญญัติโน้น นั่น นี่ เที่ยง ไมเ่ที่ยง เที่ยงก็ไม่ใช่
ไม่เที่ยงก็ไม่ใช่ พูดง่ายๆ ยังโง่ ติดคิด ติดตรรกศาสตร์ ไร้สามัญผล

 

เจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ ตามที่ท่านอธิบายกัน

เจโตวิมุตติ หมายถึงการหลุดพ้นของพระอรหันต์ผู้ได้บำเพ็ญฌานสมาบัติมาก่อน
แล้วจึงใช้ฌานสมาบัตินั้นเป็นบาทฐานเจริญวิปัสสนาจนจิตหลุดพ้นจากกิเลส

ปัญญาวิมุตติ หมายถึง การหลุดพ้นของพระอรหันต์ผู้เจริญวิปัสสนาล้วน
โดยไม่เคยเจริญฌานสมาบัติมาก่อน

ตำราท่านอธิบายไว้แบบนี้ หากศึกษาจากตำราเล่มเดียวกัน ไม่ว่าใครจะเป็นคนตอบ
ก็ต้องตอบเหมือนกัน
ถ้าศึกษาคนละตำราก็ตัวใครตัวมัน

กรณียกตัวอย่างคำแปล เจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ เป็นเพียงการยกตัวอย่างให้ดูว่า
ถ้าคำแปลเปลี่ยนไป การตีความหมาย และการอธิบายความก็จะเปลี่ยนไป
ไม่ได้ชี้ว่าคำไหนผิดคำไหนถูก

 

ลุงเอกวีนี่ไม่มีเหตุผลเลยเอาแต่ว่าคนอื่นโดยไม่อ่านเนื้อความเลย
เกรียนชัดๆ

 

เอางี้ครับ

ถ้าคุณ จะก้าวไปหา คำสอน พระอรหันต์ไม่มีจิต นิพพานไม่ใช่
บ้านไม่ใช่เมือง

คุณไปหา คำเทศนาในหมวด " หนังสือ " แล้วหาที่ท่านเทศนาในหัว
ข้อ " มโนยิทธิ " ตรงๆได้เลย พระท่านเทศนาตรงๆ ไม่ต้องแปล
ท่านเทสนาไว้ สองครั้ง สองภาค สองตอน

แล้วถ้าจะ ขี้เกียจหา หรือ รับไม่ได้

ก็ให้ หาฟัง มุขนัยคำว่า ส้ม เปลือกส้ม(หมาเฝ้าบ้าน) ที่ต้องแกะ
เปลือกโยนทิ้งไป แล้ว เอาเนื้อส้ม ....ฟังหลายๆรอบ ก็จะ อ๋อ Yos

 

เอาเถอะแต่ละท่านก็เชื่อในความเห็นของตน
ก็ตัวใครตัวมันเท่านั้นแหละครับ
บอกแล้วหนทางสายนี้เดินได้แค่คนเดียว
ส่วนใครจะเดินรึไม่เดินก็ตามใจ

 

มีแต่โปฐิละรึเปล่าเนี่ย

 

นี่ก็มั่ว ฮับ

หาเทศนาของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้เลย ท่านเล่าเกี่ยวกับ
พระ สุขวิปัสสโก แสดงฤทธิได้ เหมือนท่าน นั่นแหละ หาก
พระท่านสุขวิปัสสโกปราถนาจะแสดงฤทธิ์ ก็ พรึบตรงนั้นเลย

ถ้าจำไม่ผิด ท่านอ้างไปที่ บุคคลาธิษฐานชื่อ พระอาจารย์จวน อะไรนี่แหละ
[ ต้องไปหาเอานะ มีแน่ๆ พระสุขวิปัสสโก แสดงฤทธิได้

ดังนั้น ไอ้แบ่ง เจโตวุมุตติ กระเดียดไปทาง ฌาณ แฌณ อะไรนั่น
อันนั้น เริ่ม เพี้ยนแล้ว โดนพวกไม่เอาไหน เอาคำสอนมาดัดแปลง หลอกกันเอง ]