การเกิดขึ้นของพระพุทธรูปครั้งแรกในโลก

ผมไม่ได้ว่าท่านว่า...ธรรมะที่ท่านกล่าวมาจะไม่ถูก...
และก็เห็นด้วยว่า...ไม่ควรยึดติดกับวัตถุจนเกิดทุกข์...
แต่นำเสนอหลักความคิด...ต้องใช้ปัญญาในการนำเสนอด้วย...
และต้องไปตั้งกระทู้...ในห้องที่สมควรกว่านี้....

ส่วนการที่พระสงฆ์...ไปตบหน้าพระพุทธรูป...ผมว่าไม่สมควร....
ถึงพระพุทธรูปจะทำมาจากทองเหลือง...หรือโลหะก็ตามแต่ควรสอนโดยการให้ความรู้มากกว่าการกระทำเช่นนี้...การสอน...แสดงธรรม...ต้องดูถึงผู้รับฟังด้วยครับ...

 

นี่คุณ เหตุที่คุณทุกข์ที่เห็นพระพุทธรูปโดนทำร้ายนะ เพราะอะไร ไม่เพราะคุณไปยึดว่าพุทธรูปเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าที่ชาวพุทธเคารพนับยิ่งชีพ ในเมื่อพระพุทธองค์ไม่เคยกล่าวยกรูปท่านให้เป็นที่พึ่ง ที่ระลึก ท่านให้พระธรรมเป็นตัวแทนพระองค์ เพราะพระธรรมเป็นสัจธรรมที่มีมาก่อนพระองค์ ไม่ว่าจะมีพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้หรือไม่มีก็ตาม พระธรรมก็มีอยู่อย่างนั้น มาเป็นอนันตกาล พอมีพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้ในธรรม ออกสั่งสอนธรรมนั้น ก็มีผู้รู้ตามในธรรมนั้น ศาสนาจึงเจริญขึ้นมา เพราะมีผู้แจ้งในธรรมตามพระองค์
ท่านจึงยกพระธรรมเป็นศาสดาแทนท่านเมื่อท่านดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว ผมไม่ต้องการให้ใครมารู้ตามแบบเชื่อทุกคำที่ผมยกมา ไม่เชื่อก็ยิ่งดี แต่ไม่เชื่อแล้วให้ไปศึกษาพระไตรปิฎกเอามาหักล้างกันสิ มิใช่เอาทิฐิความเห็นตัวเอง หรือความเชื่อที่ทำตามกันมาแย้ง.. ไม่ได้ห้ามให้ใคร มาแย้ง หรือไม่เห็นด้วยได้ แต่ให้ไปค้นคว้าศึกษาคำพระพุทธเจ้า มาถกกัน..เพราะนี่คือศาสนาพุทธ ศาสนาที่ทนต่อการพิสูจน์ ผู้ทำจริง ศึกษาจริง ย่อมได้ผลจริง..ทุกกาลเวลา ไม่มีเว้น ว่าจะทำได้เฉพาะในยุคนั้น สมัยนั้น สมัยนี้ ทำไมไม่ได้ ธรรมของพุทธองค์ไม่มีกาลเวลา อกาลิโก เช่นนั้นเสมอ

 

ลองสังเกตุคนรอบข้างที่เข้ามาอ่านและตอบกระทู้
เบิ่งตาดูให้กว้างๆ ดูมีใครเขาเห็นด้วยกับความคิดของคุณบ้าง
คุณรู้ไหม แม้แต่การเข้าห้องคุณยังเข้าห้องผิด
ผมเองทีแรก พยายามพูดดีนุ่มนวลสุภาพคุณก็ยังไม่รู้เรื่อง
คุณเองเน้น แต่เรื่องพระพุทธรูปไม่ใช่ตัวแทนของพระพุทธเจ้า
เอาแต่ Copy พระไตรปิฏก มานำเสนอ ใครๆ เขาทำได้
ที่จริงใครๆ เขาก็หาอ่านได้จากการค้นในGoogle
ถามจริงๆ คุณได้อะไรกับการที่คุณมานำเสนอในสิ่งที่คนพุทธทั่วโลกไม่เห็นด้วย
พูดเท่าไหร่ ก็ไม่รู้เรื่อง ดื้อดึงไม่รู้จักหยุด
ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นการปกป้องพระศาสนาไม่ให้ถูกทำลาย
ปกติผมเองจะไม่มาอธิบายพูดมากขี้เกียจเปลืองตัว
เข้าบอร์ดนี้มานาน ผมยังไม่เคยเปิดเผยว่า รู้จักท่านนั้นท่านนี้ อวดอ้างสรรพคุณตัวเอง
เพราะเหตุจำเป็น ที่คุณยกหลวงพ่อเกษมมาอ้าง
ถ้าผมไม่ยกบุคคลที่ 3 มาอ้าง มันจะดูไม่สมเหตุสมผล
เบื่อเซ็ง...คุยไม่รู้เรื่อง คนแบบนี้

 

ยกตัวอย่าง ถ้าคุณเห็นเด็กน้อย กำลังจะเอามือไปเล่นกับไฟ คุณจะค่อยๆ อธิบายให้เด็กคนนั้น เข้าใจว่าไฟมันร้อนมันอันตราย อย่าเอามือไปเล่นกับไฟนะ หรือคุณจะดึงเอาตัวเด็กให้ห่างออกจากกองไฟนั้นก่อน แล้วจึงมาอธิบายถึงโทษของการเล่นไฟ ว่ามันอันตรายแค่ไหน...
ห้องนี้ไม่สมควรตรงไหนละครับ เป็นห้องที่ควรรับทราบมากที่สุด เพราะติดกันมากที่สุดในสิ่งที่พุทธองค์ห้าม...จึงเหมาะด้วยประการทั้งปวง...
ก็พิจารณาเอาเถอะครับ ว่าผมจะเป็นกัลยาณมิตรของท่าน หรือเป็นมารของท่าน ผมรู้ตัวดี ว่าทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ มิได้คิดมาเบ่ง มาอวดว่าข้า แน่กว่าคนในนี้ แต่เป็นคนหนึ่งที่เคยติดอย่างท่านตอนนี้ แต่ไม่ใช่ว่าตัวเองหลุดหมดแล้วดีประเสริฐกว่าคนอื่นแล้ว ก็หาไม่.. ยังต้องศึกษาอีกเยอะ ใครจะรับหรือไม่รับความปราถนาดีนี้ ก็เป็นสิทธิ์ของทุกคนในที่นี่

ใครจะว่าให้ร้ายอย่างไร ผมก็พิจารณาตัวเองว่า คงเคยไปว่าเขามา ก็มาโดนว่าคืน ใช้กรรมไป แต่เพียงหากมีผู้เดียวในนี้ เห็นตามในธรรมของพุทธองค์ แค่เพียงหนึ่งเดียว ผมก็พอใจแล้ว หรือแม้ไม่มีสักคน ผมก็ได้ทำอย่างที่ตั้งใจแล้ว ก็เท่านั้นเอง ด้วยความเคารพในพุทธ ธรรม สงฆ์

 

เช่นกันครับ ผมก็ไม่ได้มาอ้างบุคคลที่สาม เพื่อเอาประโยชน์ตัว แต่หากคุณรู้จักครูอาจารย์เหล่านั้น จริง ก็เชิญพิสูจน์ได้ ไปถามท่านได้ ถ้าคุณเลือกเชื่อคุณแม่จันดี ผมก็ให้ไปถามคุณแม่จันดี ก็ถูกคนแล้วนี่ครับ
คุณว่าคุณปกป้องพระศาสนา ผมก็ว่าผมก็กล้าพอที่จะออกมาปกป้องพระศาสนา ถ้าหลวงปู่เกษม ทำผิดธรรมวินัย ผมคนหนึ่งนี่ละ จะออกมาตักเตือนท่าน เพราะท่านบอกให้ตักเตือนได้ หากเราผิดจากธรรมวินัย
บุคคลที่สามที่คุณยกมา ไม่ว่าคุณแม่จันดี อาจารย์ไชยา หลวงปู่ท่อนก็รู้จักน้าผมดี ท่านเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ทนต่อการพิสูจน์ ก็ลองไปพิสูจน์ ด้วยการถามท่านที่คุณนับถือที่คุณเชื่อถือสิครับ ว่าที่ผมว่ามานะจริงไหม ท่านเหล่านี้รู้จักน้าผมไหม ว่าปฏิบัติจริง ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ต่อธรรมแค่ไหน มีคุณธรรมดังผมอวดอ้างไหม... พอให้พิสูจน์ ก็ไม่เอาซะงั้น ผมก็เซ็งเหมือนกันน่าเนี่ย...

 

คุณคงไม่ใช่ มารของผมหรอกท่าน Denverguy .... และผมก็คงไม่ใช่เจ้ากรรมนายเวรของท่านแน่...เพียงแต่ผมคิดว่า...การสรุปว่าการกราบไหว้พระพุทธรูปว่าไม่สมควรหรือการกล่าวว่าไม่ควรยึดติดหรือห้อยพระนั้นเป็นการด่วนสรุปว่าท่านเหล่านั้นไม่เข้าใจพระธรรมนั้นย่อมเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง...

หากท่านบอกว่าท่านก็ยังเผลอ...ขาดสติเป็นบางครั้ง...ท่านก็สมควรที่จะห้อยพระเป็นอย่างยิ่ง...พระเครื่องเป็นเครื่องเตือนใจที่สำคัญ...สำหรับเตือนถึงพระธรรม...พระพุทธ...โดยพระพุทธที่ทุกท่านแขวนอยู่...จะเตือนให้มีสติขึ้น...

หลายท่านแขวนพระเพราะเขาต้องการเป็นคนดี...ท่านอาจจะบอกว่าเป็นการยึดติดวัตถุ...ก็อาจจริง...คนเราใช้อะไรก็ได้ให้รำลึกถึงพระธรรมย่อมไม่ผิด...
แน่นอน...พระเครื่อง...ย่อมไม่ใช่พระพุทธเจ้า...แต่การบูชาพระพุทธก็เปรียบว่าสาวกทุกท่านนอบน้อมและถือให้พระพุทธเจ้าเป็นสรณะอันประเสริฐของเขาเหล่านั้น...ซึ่งไม่ผิดในทางปฎิบัติหรอกครับ....

 

เอาตีนเหยียบและตบหน้าพระพุทธรูปนี่ยังไม่ผิดจากธรรมวินัยอีกหรือ ปัญญาอ่อนแท้ๆ

มีแต่คนหน้าด้าน หน้าหนาเท่านั้น ที่บอกว่า การกระทำแบบนี้ถูกต้องถูกธรรมวินัย

หรือว่าในพระไตรปิฏกสอนเอาไว้ให้ทำแบบนี้ มีหลักฐานหรือเปล่า

เอาหลักฐานจากกรมศาสนามาลงให้ดูหน่อยที่บอกว่า ไม่เอาผิดอาจารย์เกษม

แก้ตัวน้ำขุ่นๆ ไม่มีอะไรมายืนยัน ขยันแต่ Copy เอาพระไตรปิฏกมาแปะอย่างเดียว



เรื่องน้าคุณ จะเป็นอะไร อยู่ในฐานะอะไร มีคุณธรรมหรือไม่ เป็นเรื่องของน้าคุณ

มีคุณธรรมยิ่งกว่าน้าคุณ ผมก็ไม่สนใจ ยิ่งมีหลานอย่างคุณด้วยแล้ว

บอกตามตรง ถ้าน้าคุณดีจริงอย่างที่โม้แล้วยังสอนคุณแบบนี้

ผมไม่สนใจหรอก

 

ส่วนตัวท่าน พูดเรื่องทุกข์มากมาย..พูดเรื่องจิตเป็นทุกข์ก็ระงับที่จิต...
กลัวคนอื่นจะโดนไฟไหม้....จะไปผล้กเขา...โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแค่พูดธรรมดาโดยไม่ต้องไปผลักเขาก็ย่อมทำได้....
อย่าไปทุกข์กับการที่คนอื่นเขากราบไหว้พระพุทธรูปเลยครับ....
ท่านพึงปฎิบัติของท่านเองเถอะ...

 

ผิดธรรมวินัยข้อไหนก็ยกมาสิครับผมก็อยากรู้ ถ้าผิดจริงผมก็จะขอขมาพระรัตนตรัย แล้วก็ทุกคนในนี้ด้วย แต่หากไม่ผิด คุณจะขอขมาพระรัตนตรัยไหมละครับ..พร้อมไหมกับการพิสูจน์ความจริง ผมพร้อมแล้วก็ รออยู่นี่ไงครับ ส่วนเรื่องน้าผมนั้นครูบาอาจารย์ที่คุณนับถือรับรอง ผมก็ว่าไปตามนั้น ก็เห็นว่ารู้จักคุณแม่จันดี พระอาจารย์ไชยา หลวงปู่ท่อน เชื่อท่านไม่ใช่เหรอ ถ้าเชื่อแล้ว ผมก็ว่าดีไง ก็พิสูจน์สิ..คนจริงยอมให้พิสูจน์ ก็ไม่กล้าพิสูจน์งั้นเหรอ
เออแล้วเรียกตัวเองว่าชาวพุทธ
ข้อหนึ่งในมงคล 38 ประการ คืออะไรละครับ พึ่งคบบัณฑิต ไม่พึงคบคนพาล ถ้าพระพุทธองค์ พระอริยสงฆ์ ไม่เป็นบัณฑิตแล้วเราจะไปคบหากราบไหว้หรือ เช่นกันน้าผมจะยังไงท่านก็สบายอยู่แล้ว ถึงคุณจะสรรเสริญหรือด่าว่า ก็ไม่เดือดร้อนเพราะคุณธรรมที่ได้ ก็ได้แก่ตัวท่านเอง มิได้เดือดร้อนไปกับคำคน แต่ผู้หลงแล้วยังคิดว่าตัวเองเดินถูกทางนะ มันก็จะยิ่งเดือดร้อนไปใหญ่
ผมก็โม้แต่เรื่องที่เป็นจริงในกระทู้นี่ ใครจะเห็นเป็นอื่น ก็แล้วแต่ผมบอกแล้วไงว่าให้หาข้อโต้แย้งด้วยธรรม ผมมีหลักฐานเป็นบุคคลที่คุณเคารพนับถือ ให้ไปถามได้ ก็ไม่เอาซะเองนะ แล้วจะมาว่าผมโม้ โดยไม่พิสูจน์ ทั้งที่มีหนทางไปพิสูจน์ได้ มันยังไงๆ น่าครับ..

 

มีตรงนั้นแหละครับ พิจารณาดูให้ดีๆ พิจารณาให้ลึกๆ และ ในสมัยพุทธกาล พระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ จะไปปรากฏพระพุทธรูปในพระไตรปิฎกได้ยังไงละครับ (ถามมาได้ คิดได้ไง) แม้พระไตรปิฎกเอง ก็เกิดขึ้นภายหลังพุทธปรินิพพาน พระพุทธรูป ก็เกิดขึ้นภายหลังพุทธปรินิพพาน (ถ้าไม่รวมตำนานพระแก่นจันทร์) จะให้เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาลได้อย่างไร เมื่อพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ คุณลองพิจารณาดูให้ดีๆ ว่า วัตถุที่เนื่องด้วยพระตถาคตคืออะไร ตอนนั้นยังไม่มีชัดเจนหรอกครับ แต่หลังจากนั้น มีแน่นอน และ มิได้ทรงตรัสห้ามในการกราบไหว้บูชาด้วย ขนาด สังเวชนียสถานทั้ง 4 ยังทรงตรัสรับรองว่า ผู้ใดมีความเลื่อมใสแล้ว จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ได้ ถ้าพระพุทธองค์ ทรงเห็นว่า สิ่งสมมติภายนอก ไม่เป็นประโยชน์แล้ว จะทรงตรัสรับรองไว้ทำไม



พระบาลี ที่คุณยกมา คุณแปล หรือ พระมหาเปรียญแปล ครับ



พระมหาเปรียญ ที่คุณไปลอกของท่านมา ท่านกราบพระพุทธรูปไหมครับ



และ ขอบอกได้เลยว่า คุณเข้าใจความหมายและตีความผิดแล้วครับ ถ้าพระมหาเปรียญที่เป็นผู้แปลท่านเข้าใจอย่างคุณ คงไม่มีพระมหาเถรานุเถระหรือพระมหาเปรียญรูปใด กราบพระพุทธรูปหรอกครับ ป่านนี้ คงออกมาห้ามกันหมด และ ตราเป็นกฎมหาเถรสมาคมไปแล้ว



คุณจะถือพระธรรมวินัยเป็นใหญ่ ยกพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ผมเองก็ถือเช่นนั้น แต่คุณไม่มีสิทธิ์มาบิดเบือนความหมายที่แท้จริง โดยตีความไม่ถูกต้อง และ หลงผิด ลองไปถามพ่อแม่ครูบาอาจารย์เองเถิด



เรื่อง วัตถุ เถียงกันไปก็เท่านั้น เพราะ ศรัทธาเป็นเพียงธรรมขั้นพื้นฐาน ที่คุณพูดมานั้น บางส่วนที่เป็นโลกุตตระ ผมก็เห็นด้วย แต่อย่าเอาโลกุตตระ มาปนกับ โลกียะ เพราะธรรมะทุกระดับ ย่อมมีความเหมาะสมอยู่ในตัวเอง และ สัมมาทิฏฐิเอง ก็มีอยู่ 2 ประเภท คือ โลกียสัมมาทิฏฐิ กับ โลกุตตรสัมมาทิฏฐิ



ถ้าคุณเปิดใจให้กว้าง คุณก็จะเข้าใจเองว่า คุณควรให้โอกาส ผู้ที่กำลังสร้างสมบารมี และ กำลังศึกษาพระธรรม



พระพุทธองค์ มิได้ทรงสรรเสริญในวัตถุ มิได้ทรงสรรเสริญในอิทธิปาฏิหาริย์ มีแต่ ทรงสรรเสริญในอนุสาสนีปาฏิหาริย์ (การแสดงธรรมเป็นที่อัศจรรย์) แต่เมื่อถึงคราวจำเป็นและก่อเกิดประโยชน์แก่เหล่าเวไนยสัตว์แล้ว ก็ทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ หรือ ใช้ให้พระภิกษุที่มีฤทธิ์แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ เช่น ท่านพระโมคคัลลาน์ เป็นต้น แต่ถ้าภิกษุใดแสดงโดยไม่สมควรแก่เหตุ ทรงติเตียนเป็นอันมาก จึงทรงบัญญัติพระวินัยห้ามไว้ เพราะมีแต่พระธรรมอันบริสุทธิ์เท่านั้น ที่ยังสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นทุกข์ได้อย่างแท้จริง



เรื่อง พระพุทธรูป ถ้าคุณคิดว่า ไร้ประโยชน์ ขวางทางพระนิพพาน คุณก็อย่านับถือ ไม่มีใครว่าอะไร เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณ ผมจะนับถือ ก็เป็นเรื่องของผม เพราะผมศึกษาและพิจารณาโดยถี่ถ้วนแล้วว่า การนับถือพระพุทธรูป ไม่ผิดหลักพระธรรมวินัย ทั้งยังเป็นพื้นฐานที่สำคัญ เป็นที่ตั้งแห่งความศรัทธาในพระพุทธศาสนา และ มิได้ยึดติดด้วย พร้อมสละละวางทุกเมื่อ ถึงคราวตาย ก็ไม่ได้แบกเอาไป สวรรค์ นิพพาน ด้วย



ที่ออกมาเขียนนี้ ก็เพื่อท่านสาธุชนทุกท่านจะได้พิจารณาตามเหตุและผล เท่านั้น ไม่ได้ต้องการเอาชนะ หรือ อวดอ้างตัวใดๆ พึงพิจารณาตามสติปัญญานั้นเทอญ



ปล. อ่านข้อความของคุณ ผมนึกถึง เอกอิสโร วรุณศรี เลย รู้จักกันไหมครับ

 

ช่วยอ่านให้ละเอียด อีกทีด้วยครับ ถึงตัวอย่างนะ เด็กเอามือจะไปเล่นกับไฟอยู่ตรงหน้าจะมัวไปอธิบายถึงความร้อนของไฟ มันจะไปทันมือเด็กมิโดนลวกไปก่อนหรือ พิจารณาด้วยครับ
ผมไม่เคยมาบอกเลยว่าผมทุกข์แทนพวกกราบไหว้พุทธรูป ก็แค่มาเตือนด้วยความหวังดี ใครจะรับหรือไม่รับก็เป็นสิทธิ์ของคุณๆ ท่านๆ ไม่ได้มาบังคับใครเลยให้เชื่อตาม ก็แค่ให้เรียนให้มากขึ้น ให้ละเอียดขึ้นหน่อย ตามธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า ยังมีให้หาอ่านง่ายๆ ยิ่งมีเนท ยิ่งหาง่ายใหญ่
ถ้าผมทำ พูด เขียน ผิดจากหลักธรรมของพระองค์ ความเดือดร้อน กรรมชั่วนี้ ก็จะทำให้ผมวิบัติไปเอง แต่หากผมทำถูกต้องตามธรรมของพระองค์ละครับ ผมสบายเอง ส่วนตัวท่านทั้งหลายที่ยังหลงอยู่ ก็เดือดร้อนเอง ผมไม่ได้ไปเดือดร้อนด้วยแม้แต่นิดเดียว ผมกล้าท้าให้พิสูจน์หาความจริง นำหลักธรรมของพระพุทธองค์ จากพระไตรปิฏกมาหักล้างการกระทำของผมได้ ทุกเวลา ผมไม่ไปไหน ทนให้ด่า ให้พิสูจน์ แต่ข้อเอาหลักความจริงตามธรรมวินัย มาหักล้าง มิใช่เอาความเชื่อตามๆ กันมา ซึ่งไม่ใช่คำพระพุทธองค์ท่านได้ทิ้งไว้ให้ชาวพุทธละกัน

 

คุณไปถามพ่อแม่ครูบาจารย์ว่า ที่อ.เกษม กระทำผิดธรรมวินัยข้อไหน

ถ้าพ่อแม่ครูบาจารย์บอกถูกธรรมวินัย ผมจะกราบขมาพระรัตนตรัย

ถ้าให้ผมยกมา อวดอุตริมนุสธรรม จะมีคุณวิเศษในตนหรือไม่มีก็ผิดเป็นอาบัติ

ถ้าไม่มีในตนเป็นอาบัติหนัก ถ้ามีในตนเป็นอาบัติทุกกฏ

เลิกบ้าได้แล้วเรื่องน้าคุณ ผมเพียงบอกไม่สนใจ เพราะไม่เกี่ยวกับผม

ไม่ใช่น้าคุณเป็นอริยบุคคล แล้วผมจะต้องไปสอบถามโน้นสอบถามนี่

จะเป็นอะไร ไม่เป็นอะไร มันก็เรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องศรัทธาตามคนอื่น

พระบางองค์ปฏิบัติดียิ่งกว่าน้าคุณ ถ้าผมไม่เห็นความจำเป็นจะต้องไปพิสูจน์

ผมก็ไม่ไป การไปหรือไม่ไป มันไม่เกี่ยวกันเลย

 

เคยถามตัวเองบ้างไหม เราอยู่ในฐานะอะไร

ที่จะไปตักเตือนคนอื่นให้เขาปฏิบัติอย่างโน้นอย่างนี้

มันผิดธรรมวินัยหรือผิดกฏหมายข้อไหนที่เขายึดถือวัตถุมงคล

เขาไม่ได้ไปทำอะไรหนักหัวกระบาลคนอื่นให้เดือดร้อน

เงินก็เงินเขา ไม่ได้ไปขอเงินใครใช้ จะไปเดือดร้อนกับเขาทำไม


คุณเป็นพ่อเป็นแม่เขา หรือครูบาอาจารย์เขาหรือจะไปตักเตือนเขา

ถ้าไม่ยึดถืออะไรแล้ว โอนบ้านที่ดินถวายวัดเลย หรือไม่ก็ไปบวชซะเลย

พิสูจน์ตัวเอง ไหนๆ ก็ธรรมะแตกฟอง

กล้ารึเปล่า

 

สาธุด้วย กับ ธรรมแท้ๆ ดีๆ แต่อย่าได้ปรามาสพระพุทธรูปและดูแคลนผู้ที่นับถือในพระพุทธรูปเลยครับ คนที่กราบไหว้พระพุทธรูป ถ้าไม่ให้เป็นชาวพุทธ คุณจะให้เป็นชาวอะไรละครับ แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่า คนที่กราบไหว้พระพุทธรูป เขาไม่ปฏิบัติธรรม งั้น หลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์ทุกองค์ที่กราบไหว้พระพุทธรูป ก็ไม่ใช่ ชาวพุทธ หรืออย่างไร



ธรรมที่คุณกล่าวมานั้น ถูกแล้ว ดีแล้ว แต่ สติปัญญา บารมี ของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนก็ยึดติดงมงายจนเกินไป แต่คุณอย่าได้เหมารวม ถือเป็นความคิดความเห็นอันคับแคบ



พระพุทธรูป และ การนับถือในพระพุทธรูป (ขอย้ำ การนับถือ ไม่ใช่ พุทธพาณิชย์ กรุณาแยกแยะด้วย เป็นคนละส่วนกัน) ไม่ใช่ สัคคาวรณ์ มัคคาวรณ์ ห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพาน ไม่ได้ล่วงละเมิดในศีล 5 ศีล 8 ศีล 227 หรือ จุลศีล มัชฌิมศีล และ มหาศีล



จริงอยู่ที่พระพุทธองค์ทรงยกให้พระธรรมวินัยเป็นใหญ่ แต่พระพุทธองค์ก็ทรงให้เกียรติในหมู่สงฆ์ ให้อำนาจพระสงฆ์ในการบริหารจัดการ และ ฝากพระสงฆ์ รวมถึง พุทธบริษัททุกหมู่เหล่า ในการสืบต่อพระศาสนา เมื่อมติของส่วนรวมมีออกมาว่าอย่างไร ก็ถืออันเป็นข้อยุติ เพราะพิจารณาโดยถี่ถ้วนแล้วว่า มีประโยชน์ มากกว่า โทษ ตามหลักของมหาปเทส 4 ถ้าไม่เข้าในหลักนี้ รับรองว่า ไม่ต้องรอให้คุณมาทักท้วงหรอก รับรองว่า พระมหาเถรานุเถระ ทั้งสายปริยัติ และ ปฏิบัติ ต้องออกโรงมาจัดการสังคายนาแน่นอน ถ้าเป็นเรื่องที่บิดเบือนหรือทำลายพระพุทธศาสนา


คุณลองเสนอความเห็นนี้ไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ มหาเถรสมาคม ก็ได้ หรือ องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก ก็ได้ แล้วเปิดใจรับฟังความเห็นตอบกลับมาด้วย อย่าเข้าข้างตัวเอง ที่บอกว่า อุทเทสิกเจดีย์ ไม่นับรวม พระพุทธรูป ตามความเห็นของคุณคนเดียว (มี ครูบาอาจารย์รูปใด สนับสนุนความคิดเห็นของคุณบ้าง ช่วยบอกหน่อย)




องค์หลวงปู่มั่นฯ พระอาจารย์ใหญ่สายกรรมฐานยุคปัจจุบัน ขนาดไม่ชอบสร้างพระ เสกพระ แต่ก็ไม่เคยกล่าวห้าม หรือ ตำหนิติเตียนในพระพุทธรูป มีแต่ยกย่องในพระพุทธรูป มี พระแก้วมรกต เป็นต้น และ อนุโมทนาในผู้สร้าง เพราะท่านเข้าใจในหลักธรรมอย่างลึกซึ้ง และ สามารถแยกแยะได้ ศิษย์ของท่านบางองค์ สร้างพระ เสกพระ นับรุ่นไม่ถ้วน กระดูกเป็นพระธาตุทุกองค์ และมี พระพุทธรูป ประดิษฐานอยู่ทุกวัด กราบเช้ากราบเย็น องค์หลวงปู่สอ พันธุโล พ่อแม่ครูบาอาจารย์รูปหนึ่งของผม มี องค์หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ เป็นพระพุทธรูปคู่บุญบารมีเลยทีเดียว อย่าบอกว่า ขวางกั้นการเข้าถึงคุณพระรัตนตรัยเลย มีแต่จะช่วยให้เข้าถึงคุณพระรัตนตรัยได้เร็วขึ้น ด้วยอานิสงส์แห่งการสร้าง และ การกราบไหว้บูชา




องค์หลวงพ่อจรัญฯ เน้นที่ การปฏิบัติธรรม เจริญสติปัฏฐาน ไม่แนะนำให้หลงใหลในวัตถุใดๆ แต่ก็ไม่ห้าม การกราบไหว้บูชาพระพุทธรูป และบอกว่า พระพุทธรูปที่สร้างได้ดี จะมีเทวดารักษาอยู่ แม้ พระเครื่อง ก็เช่นกัน ผมเคยนำพระหลวงปู่ใหญ่ ไปขอให้ท่านพิจารณา ท่านรีบยกมือไหว้ท่วมศรีษะ และกล่าวว่า ศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นของครูบาอาจารย์ท่านเอง



องค์หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง สร้างพระพุทธรูปมากมายขนาดไหน ท่านบอกถึงอานิสงส์แห่งการสร้างพระพุทธรูป การถวายพระพุทธรูป และ การกราบไหว้บูชาพระพุทธรูป ว่ามากมายขนาดไหน ผู้ที่ฝึกมโนมยิทธิได้ ย่อมขึ้นไปเห็นเองว่า บนสวรรค์ และ พรหมโลก มี พระพุทธรูป และ พระจุฬามณีเจดีย์ หรือไม่ ยกเว้นที่ พระนิพพาน เท่านั้น ที่ไม่มี พระพุทธรูป มีแต่ องค์พระวิสุทธิเทพ องค์จริงๆ องค์เป็นๆ เลยทีเดียว (คนที่ฝึกแล้วไม่ได้ผล หรือ ยังไม่ได้ฝึก อย่าเพิ่งมาปรามาส)



บนสวรรค์ และ พรหมโลก มี เทวดา พรหม ที่บรรลุธรรมมากมายขนาดไหน ในพระไตรปิฎกก็มีระบุไว้ เมื่อพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมจบแต่ละครั้ง มีเทวดาพรหมบรรลุธรรมกันเป็นโกฏิๆ นับจำนวนไม่ถ้วน



เวลาที่คุณบวช คงไม่กราบพระประธานในโบสถ์ และ คงคอยแนะนำให้คนทั้งหลาย อย่าได้กราบไหว้พระพุทธรูปกระมัง เพราะเป็นการไม่ถูกต้อง หลงทาง ยึดติด งมงาย ไร้สาระ ใช่หรือไม่



สำหรับผม ถ้าเห็นพระพุทธรูปเมื่อไหร่ ผมก็ยกมือไหว้ทันที กราบได้ก็กราบทันที จิตอ่อนน้อมเลื่อมใสในพระพุทธองค์ ทั้งๆ ที่รู้ว่า ทำมาจากอะไร ไม่ได้คิดว่า ตนเองรู้ธรรมมากแล้ว จะเลิศเลอวิเศษวิโสมาจากไหน เพราะจำคำกล่าวขององค์หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง ได้ว่า เวลาเราเกิดอารมณ์ที่เป็นกิเลสหรือโกรธใครมา เราจะกราบพระไม่หยุด จนกว่ากิเลสนั้นจะหายไป กิเลสมันแพ้คนกราบพระเก่งนะ องค์หลวงปู่บุดดา ก็กล่าวคล้ายกัน



เจ้าของกระทู้ ควรจะไปตั้งลัทธิใหม่ และ อย่าได้ยกหลักธรรมขั้นสูงมาอ้างให้เสียเวลา เพราะคุณเองยังไม่ใช่พระอรหันต์ ความเห็นส่วนตัวของคุณ ไม่มีครูบาอาจารย์องค์ไหนท่านรับรองให้ดอก ตัวผมเอง เชื่อแต่ครูบาอาจารย์ ครูบาอาจารย์ผมท่านคงไม่แตกฉานในพระไตรปิฎกเหมือนคุณหรอก องค์หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ท่านสอนไว้ว่า ติดวัตถุมงคล ดีกว่าไปติดวัตถุอัปมงคล



และกล่าวว่า พระของข้าไม่เป็นรองใครในแผ่นดิน ใครใช้เป็นก็ถึงพระนิพพาน




ท่านพระนาคเสน พระอรหันต์ผู้ทรงจตุปฏิสัมภิทาญาณ เคยพิจารณาว่า ต่อไปพระพุทธศาสนา จะสืบต่อไป ด้วยเหตุอันใด ก็ได้ทราบว่า ด้วย พระพุทธรูป นั้นเอง จึงเป็นที่มาแห่งองค์พระแก้วมรกต



ผู้ที่เข้ามาในเว็บพลังจิต ผมเชื่อว่า ส่วนใหญ่ศรัทธาในพระพุทธรูป และ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนดี ถ้าการศรัทธาในพระพุทธรูป เป็นความงมงาย ไร้สาระ เจ้าของกระทู้ควรจะไปเปิดเว็บไซด์ส่วนตัว เพื่อเผยแพร่ความคิดเห็นของตัวเอง อย่าเข้ามาอาศัยช่องทางในเว็บนี้ เพื่อทำลายความเชื่อความเลื่อมใสของท่านสาธุชนในเว็บนี้ เพราะเว็บนี้ เชื่อว่าความศรัทธาในพระพุทธรูป ไม่ใช่ ความงมงาย


ความเห็นของคุณ เหมาะกับศาสนาอื่นมากกว่า เพราะศาสนาอื่นเขาไม่ไหว้พระพุทธรูป และเห็นว่า การไหว้พระพุทธรูป การสร้างพระพุทธรูป ถือเป็นความงมงาย ผมเคยเห็น บางศาสนา อ้างว่า ในคัมภีร์ของเขา ก็สอนเรื่องของ ปฏิจจสมุปบาท อริยสัจ 4 ฯลฯ ผมอ่านแล้วก็รู้สึกสังเวช และ ขำๆ เขายังบอกด้วยว่า อย่ากราบไหว้พระพุทธรูป เข้ากับตัวคุณมาก


ผมเคยไปเมืองนาลันทา ที่ประเทศอินเดีย พระพุทธรูปโดนทำลายเรียบ ที่ไม่ถูกทำลายก็โดนทุบจนชำรุด พระสงฆ์โดนฆ่าเกือบหมด หนีตายไปได้บางส่วน พระพุทธศาสนาแทบสิ้นสูญ



คุณยังไม่ได้ทำลายพระพุทธรูปก็แล้วไป ยังไม่ได้เอามือตบพระพักตร์พระพุทธรูปก็แล้วไป แต่ขอให้คุณหยุดเผยแพร่ความเห็นในการดูถูกดูแคลนในพระพุทธรูปและคนที่นับถือในพระพุทธรูป ไม่ใช่เพื่อตัวผม แต่เพื่อตัวคุณเอง



ถ้าคุณหมดสิ้นความยึดติดในวัตถุแล้ว ผมก็ขออนุโมทนาด้วย ผมยังมีความยึดติดอยู่ ยังขอยึดติดในพระพุทธรูปต่อไป เพราะเชื่อว่า เป็นประโยชน์ มากกว่า เป็นโทษ ได้ความอ่อนน้อมต่อคุณพระรัตนตรัย ได้พุทธานุสติ และ ได้ศึกษาในพุทธศิลป์ ประวัติศาสตร์ โบราณคดี ฯลฯ


ส่วน หลักธรรมใดๆ นั้น ขอเก็บไว้ในใจ ขอนำไปปฏิบัติส่วนตัวพอ เพราะผมไม่ใช่พระศาสดา เป็นเพียงพุทธบริษัท ที่ยังไม่ได้บรรลุธรรมใดๆ แต่ก็สร้างสมบารมีอยู่ด้วยความไม่ประมาท และ จะปกป้องในพระพุทธศาสนา จนสุดความสามารถ<!-- google_ad_section_end -->



กรุณาตอบให้ตรงคำถามด้วยครับ<!-- / message --><!-- sig -->

 

มีแต่ทวงถามคนอื่น ให้ยกมาว่าผิดข้อไหน ตรงไหนผิด

แล้วที่คนอื่นเขาทวงถาม มีบ้างไหม ไหนหลักฐาน

จนป่านนี้ ไม่มีสักอย่าง

 

ขอโทษเถอะ ผู้แปลก็แปลมาให้ชัดๆ ว่าอุเทสิกเจดีย์มิใช่วัตถุใด ๆ ก็ชัดดีนี่ครับ การขึ้นเทศน์แสดงธรรมในพระศาสนานั้นละ เป็นเจดีย์ด้วย
เอาเถอะ คุณจะเปรียบผมเป็นเหมือนใคร ก็เป็นสิทธิ์ของคุณ ผมไม่เอาคุณไปเปรียบใคร ต้องมองคุณอย่างที่เป็นอยู่ตรงหน้าผมนี่ละ ชัดดี ไม่ผิดตัว
ดีครับคุณรู้จักละวางเป็น ไม่ยึดไม่ติดในรูปต่างๆ แต่ผู้หลงยึดติดมีอีกมากที่ไม่มีปัญญาเช่นคุณ แล้วทำไมไม่เอาคำสอนของพระองค์ออกเผยแพร่ให้ตรง ผมเห็นคนที่ว่านับถือพุทธแต่ เอารูปพระองค์มาหากิน ซื้อขายแลกเปลี่ยน หยิบยกมาว่าพระวัดนั้นดี ยิงไม่เข้า เมตตามหานิยม มีแล้วร่ำรวย แคล้วคลาด มีตีราคา รูปพระองค์ มาค้าขายเป็นสินค้า พูดซะสวยหรูว่า เช่าบูชา
คนที่เราเคารพเราเอารูปท่านมา ให้คนเช่า มาค้าขายหากินกันหรอกหรือ ปากบอกเคารพแต่เอามาขายกินกันชัดๆ ใครมีรุ่นดังๆ แพงๆ คิดว่าเจ๋ง เป็นไงโดนปล้นฆ่าแย่งชิงกัน มีให้เห็นแม้แต่เขาไปขโมยในวัด ฆ่าพระก็มี ถ้าดีจริงทำไมพวกนั้น ถึงตายทำไม รูปเหล่านั้นไปลุกมาคุ้มครองผู้นับถือกราบไหว้ ทุกวันละ...
ผู้มีปัญญาน้อย ไม่เท่าคุณมีอีกเยอะ ทำไมไม่เอาพระธรรมคำสอน ทาน ศีล ภาวนาที่พระองค์สอนให้ถูกต้อง ออกสอนละ หรือเพราะมันหาเงินทอง เข้ากระเป๋าไม่ได้ ผมไม่ได้ว่าคุณนะ ผมว่าคนที่หากินกับรูปพระทั้งหลายเท่านั้น

ถ้าคุณเห็นว่าการซื้อขาย พระห้อยคา พระพุทธรูปเป็นสิ่งผิด ผมก็เห็นมีเกลื่อนในเว๊ปนี้ แล้วคุณเคยไปตักเตือนเขาไหม
แล้วพวกที่เรียกตัวเองว่าชาวพุทธ มีพระรัตนตรัย เป็นที่พึ่งอันสูงสุด ไม่มีสิ่งใดนอกจากพระรัตนตรัย ที่สวดกันเป็นบาลีนะ ลองดูตัวเองสิ ว่าที่บ้านยังไหว้ ศาลเจ้า ไปกราบไหว้เทวดา พระพรหม ผี สางกันอยู่ไหม ถ้ายังมีอยู่ก็เท่ากับโกหกตัวเองและพระรัตนตรัย มิใช่หรือ เพราะพวกเทพเทวดา ผี สางทั้งหลายยังต้องกราบไหว้ต่อพระองค์ แต่เรากลับไปไหว้สิ่งเหล่านั้น ให้เป็นที่พึ่ง ขอให้สมปราถนาแล้วจะตอบแทนด้วยสิ่งนั้น สิ่งนี้อยู่ ไม่อายตัวเองเหรอ ที่เรียกตัวเองว่าชาวพุทธ ที่มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งระลึก

 

เท่าที่ได้อ่านมาตั้งหลายท่านแล้ว ผมมองเห็นว่าไม่มีประโยชน์อันใดที่จะอธิบายกับบุคคลที่ไม่ต้องการจะรับอะไรนอกจากเชื่อในสิ่งตัวเอง คิดแต่ในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ แต่ไม่รับฟังคำสอนของคนอื่น ทั้งที่หลายท่านก็ไม่ได้จะอวดภูมิแต่อย่างไร แต่อยากให้เดินตามสายทางที่ถูกต้อง ในเมื่อไม่รับฟังใด ๆ เลย กับยิ่งตอบโดยอวดว่าตนเองฉลาด มีความรู้มาก อ่านพระไตยปิฎกอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วก็เข้าใจเองอย่างนี้ด้วยความคิดที่มีจิตคับแคบของตนเองจึงทำให้มองเห็นไปในทางที่ผิด
ผมถามจริง ๆ เถอะครับ ผิดด้วยหรือที่เราจะกราบไหว้ พระพุทธรูป เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และให้ระลึกถึงคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ผมขอแค่ให้ได้ระลึกในคำสอน
ตลอดเวลาว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว แค่คำสอนนี้ผมก็สามารถที่จะอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ความสุขที่ไม่คิดจะเบียดเบียนผู้ใด

แต่ท่านไม่คิดมั่งละครับว่ากำลังเบียดเบียนผู้อื่นอยู่ ว่ากำลังได้ทำร้ายจิตใจคนที่เคารพและศรัทธาพระพุทธรูป สิ่งที่พูดมาต่าง ๆ นานา เคยคิดใจเขาใจเรามั่งไหมครับ

หลายท่านในนี้ได้เมตตาคุณมามากแล้ว ก็คงจะหวังว่าคุณจะยอมรับความเมตตาบ้างนะครับ อย่าได้ปัดความหวังดีเหล่านี้เลย ธรรมอยู่ที่ใจ ลองใช้ใจคิดเอานะครับว่าทางที่เดินถูกต้องจริงแท้หรือเปล่านะครับ

 

คนทุกคนย่อมมีสิทธิเป็นของตนเอง

หากสิ่งที่กระทำไม่ผิดกฏหมายไม่ผิดศีล ๕ และฆราวาสธรรม

เขามีสิทธิในตัวเองที่จะเลือกการกระทำที่เขาเห็นสมควร

เลือกที่จะนับถือ เลือกที่จะเคารพบูชาตามความปรารถนาของเขา

เขาจะห้อยพระเต็มคอ มันก็เรื่องของเขา

เขาจะนับถือใครไม่นับถือใคร มันก็เป็นสิทธิของเขา

เขาไม่ได้ไปทำความเดือนร้อน ทำมาหากินสุจริต ไม่ได้ตีหัวหมาด่าแม่เจ็ก

ไม่ได้ไปเป็นอันพาล เป็นโจรขโมย ก็ดีถมไปแล้ว

เขาเคารพพระ ทำบุญ เป็นคนดี กตัญญูต่อบุพพการี ไม่ผิดต่อส่วนรวม

แค่นี้ก็เป็นพื้นฐานเพียงพอให้สังคมร่มเย็น

คุณจะไปให้เขาเป็นอย่างโน่นอย่างนี้ ขอมากไป

 

นะ ผมไปเดือดร้อนตรงไหน ก็แค่เอาความจริงมาเปิดให้อ่านกัน ลองไปอ่านกระทู้แต่ต้นใหม่นะครับ ว่าพระองค์สรรเสริญหรือตำหนิในรูป มิให้เอาเป็นที่พึ่งระลึกยังไง
ผมก็ไม่ได้เป็นใคร ยิ่งใหญ่มาจากไหน ก็แค่เป็นผู้ศึกษาในธรรมวินัย ถ้าหากผิดตรงไหนก็ยกธรรมวินัยมาหักล้างสิ
มิใช่อะไร ก็ไปบวชสิ สละทุกอย่างให้หมดเลยสิ..เดี๋ยวนี้เลยสิ...ไอ้เรื่องซื้อที่ดินถวายวัดก็เคยทำแล้ว ผมยังยึดถืออยู่ครับ ยึดในหลักธรรมวินัยไงครับ.. ไงครับธรรมแท้มันตีแสกหน้าเลย ต้องมาฟูมฟาย เลยหรือ

ถามมาก็ตอบไป พอให้ไปพิสูจน์ก็ไม่ทำ แล้วจะมาว่าผมเป็นคนไม่จริงได้เหรอ ในเมื่อผม ท้าให้ไปพิสูจน์กับครูอาจารย์ที่นับถือ ไปถามได้ แล้วไม่ไปถามซะ แล้วก็มาคิดเอาเองว่าไม่ใช่ เพราะไม่เห็นเหมือนกับคุณเหรอ ผมไม่เห็นตามใครเท่าพุทธพจน์ละครับ หรือไม่กล้าไปถามเพราะไม่มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ ถ้ามั่นใจก็ไปถามสิ จะรออะไรละครับ..

 

ผมว่าแค่นี้ก็คงพอจะเข้าใจได้แล้วละครับ ท่านผู้เจริญในธรรมจริง ๆ