การศึกษาไทย ควรก้าวไปทางไหนดี

ตอนนี้เห็นเด็กๆนั่งออนไลน์ หัดออกเสียงภาษาอังกฤษตามโปรแกรมสอนภาษาอังกฤษโดยที่มีการวิเคราะห์เสียงด้วยว่าออกเสียงถูกต้องหรือไม่ ถ้าออกเสียงยังไม่ถูกระบบก็จะยังไม่ให้ผ่านไป จนกว่าจะออกเสียงได้ถูกต้อง...

เป็นโปรแกรมที่ทางโรงเรียนเสียตังค์ซื้อลิขสิทธิ์มาให้นักเรียนได้ฝึกหัดกัน ผมก็ว่าดีเหมือนกันนะ...

แต่อีกใจนึงก็รู้สึกหวั่นๆกับเรื่องการใช้หุ่นยนต์มาช่วยงานที่ไม่มีคนอยากจะทำ เช่นเป็นเด็กเสริฟ หรือประชาสัมพันธ์...

ทำให้คิดฟุ้งซ่านไปว่า ในอนาคตกาลอันไม่ไกลนี้ มีอาชีพไหนบ้างนะ ที่สามารถเอาหุ่นยนต์เข้ามาทำงานแทนได้...
หุ่นยนต์ที่ไม่รู้จักเหนื่อย
ไม่จู้จี้ขี้บ่น
ไม่ต้องการเงินเดือน โบนัส สวัสดิการ
ไม่ทุจริต คอรัปชั่นด้วย

ลองคิดดูเล่นๆก็มี
- แม่บ้าน ที่ญี่ปุ่นเริ่มมีใช้แล้ว
- ทำสวน
- ดูแลเด็กเล็กและคนชรา
- สอนหนังสือ เช่น ภาษาอังกฤษ หรือคณิตศาสตร์ อย่างที่เด็กๆกำลังเรียนออนไลน์กันอยู่ตอนนี้
- ขับรถรับจ้างสาธารณะ
- เฝ้ายาม
- แรงงานก่อสร้าง
- ฝ่ายประชาสัมพันธ์หรือแนะนำสินค้า ... ที่ญี่ปุ่น เริ่มทดลองใช้งานแล้ว ได้ผลดีเสียด้วย ไม่มีการชักสีหน้าไม่พอใจลูกค้าเลย
- เด็กเสริฟ...ตรงนี้ที่จีนเริ่มทำแล้ว
- ตำรวจ
- ทหาร
ฯลฯ...
ถึงเวลานั้น เรื่องแรงงานต่างด้าวมาแย่งงานคนในพื้นที่จะกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย เพราะนายทุนจะเอาหุ่นยนต์เข้ามาทำงานแทนแรงงานคน...เนื่องจากหุ่นยนต์มีคุณสมบัติที่ดีหลายๆประการ...ราคาหุ่นยนต์ตัวนึงก็ 6 หมื่นบาทเท่านั้นเอง...ถูกกว่าเงินเดือนหนึ่งเดือนของผู้บริหารเสียอีกนะ...
น่าคิดนะว่า ประชากรที่เพิ่มขึ้นทุกปี จะทำอาชีพอะไรดีที่หุ่นยนต์ไม่สามารถทำแทนได้บ้าง...

 

"ผมให้กำลังใจครูด้วยภาพไหอันทรงคุณค่านะครับ 5555"
ภาพนี้ลูกศิษย์ส่งมาให้กำลังใจครู เมื่อครูบอกว่า....
"ถ้าลูกศิษย์สอบตก คงโทษที่ครูไม่มีความสามารถสอนเขาให้เรียนรู้ได้
คิดอย่างนี้ละ."

 

Wishing you good times, good health, good cheer, and a very Happy New Year !

 

ปัญหาต่าวๆ ในสังคมโลก
หากได้ผ่านการศึกษามาอย่างครบถ้วนรอบด้าน
จนเกิดการตกผลึกแล้ว
ความขัดอกขัดใจจะหมดไปอย่างสิ้นเชิง

ด้วยเพราะความแจ้งกระจ่างว่า
สาระพันปัญหาล้วนก่อเกิด
ดำรงอยู่ และสิ้นสุดลง
ในแนวทางเดียวกันกับการ
เวียนเกิดเวียนตาย
ของชีวิตเรา

ดังนั้น ควรหรือที่เราจะเสียเวลาไปมองว่า
นั่นมันคือเรื่องจริงจังที่จะต้องไปแก้ไข!!

 

ลูกๆครูติงออมเงินวันละ ๑ บาทค่ะ

 

ลูกสาว ลูกชาย นำเสนอภาษาอังกฤษหน้าเสาธง

 

เด็กๆแบ่งขนมกันทาน...

 

ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก

@ทานังการแบ่งให้........เจือจุน
เสริมส่งเมตตาคุณ........เพื่อนล้อม
มีนิดแบ่งการุณย์...........สุขเฉลี่ย
หัวเราะร่าร่วมย้อม........ชื่นยิ้ม เทียมกัน
@ผู้ให้ย่อมเป็นที่รักแห่งชน
สุขร่วมยลทุกข์ร่วมแก้เฉลี่ยได้
ไม่ต้องรวยมากน้อยทานังไซร้
ฝึกให้ไว้เผื่อแผ่เมตตาธรรม
***********************************************
แม้ไม่ได้กินก็อิ่มได้....เพราะอิ่มปลื้มใจ....มองอีกมุมคนสอนท่านดีจริงนะ..._/\_
***********************************************

 

ห้องเรียนของครูติงมีชีวิตชีวา เด็กๆกระตือรือร้นในการเรียนเสมอ

 

เรียนปนเล่น เด็กๆได้ทั้งความรู้และความสนุกสนาน

 

ห้องเรียนของครูติงไม่เคยว่างเว้นจากเสียงหัวเราะ และรอยยิ้มของเด็กๆ

 

@ห้องเรียนของครูติงมีชีวิตชีวา
สนุกเฮฮา หัวเราะ ยิ้มพากเพียร
เด็กกระตือ รือร้น ในการเรียน
ไม่เว้นเสียง หัวเราะ ศิษย์ครูติง
@เมื่อจริงใจ ให้ไร้ เล่ห์เลศนัย
วาจาใจ ย่อมแสดง สมเหตุผล
ร่วมสัมพันธ์ ร่วมยิ้ม ไร้เล่ห์กล
ดวงกมล สุขชื่น ระรื่นเฮ
@ใจเทให้ ย่อมไร้ การเอาเปรียบ
ไร้การเหยียบ ขัดแย้ง ด้วยนิสัย
รักการให้ ยินดี ด้วยสุขใน
เวรร้ายภัย ย่อมไร้ เพราะรักทาน.
@มักยืนนาน มิตรภาพ ในวัยเรียน
วาจาเรียง ร้อยถ้อย เสนาะหู
ร่วมบำเพ็ญ ประโยชน์ ไม่นิ่งดู
ด้วยหลักชู สังคห วัตถุธรรม.
***********************
ขอบคุณ....คุณครู.....ติง......

 

กราบขอบพระคุณคุณแอ๊บแบ้วที่กรุณาแต่งคำประพันธ์อันไพเราะให้ค่ะ ซาบซึ้งใจจริงๆ

 

กิจกรรมออมเงินวันละ ๑ บาทของลูกนักเรียน ม.๑/๑ ห้องของครูติง
เด็กๆออมเงินวันละ ๑ บาท พอสิ้นเดือนก็เอาเงินมานับและแบ่งเป็นสี่ส่วน
ส่วนที่ ๑ ทำบุญในพระพุทธศาสนา (ครั้งนี้นำไปตั้งโรงทานที่วัดป่าสุนทรารามเป็นเงิน ๓๒๙.๕๐ บาท)
ส่วนที่ ๒ บูชาคุณบิดามารดา
ส่วนที่ ๓ ฝากธนาคารโรงเรียน (ทุกๆคนมีบัญชีเงินฝากของธนาคารออมสิน)
ส่วนที่ ๔ ใช้จัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์(ซื้อธงชาติมอบโรงเรียน ๒๗๘ บาท)

โดยเด็กๆจะแบ่งเงินด้วยตนเอง ว่าสี่ส่วนนี้ แต่ละส่วนให้เป็นเงินเท่าไร

 

ธงชาติผืนใหม่ขึ้นสู่ยอดเสา
จาก....จากเงินคนละบาทของลูกๆ ที่เก็บสะสม
เด็กๆ รู้จักคุณธรรมคือความกตัญญูกตเวที
เขาจะเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม