การบวชจิต - บวชใน ปรารภธรรมหลวงปู่ดู่

ในห้อง 'หลวงปู่ดู่ และ หลวงตาม้า' ตั้งกระทู้โดย อดุลย์ เมธีกุล, 10 กุมภาพันธ์ 2008.

  1. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,793
    [​IMG]

    การบวชจิต-บวชใน

    หลวงพ่อเคยปรารภไว้ว่า...

    จะเป็นชายหรือหญิงก็ดี ถ้าตั้งใจประพฤติปฏิบัติ
    มีศีล รักในการปฏิบัติ
    จิตมุ่งหวังเอาการพ้นทุกข์เป็นที่สุด ย่อมมีโอกาสเป็นพระกันได้ทุกๆ คน
    มีโอกาสที่จะบรรลุมรรค ผล นิพพาน ได้เท่าเทียมกันทุกคน
    ไม่เลือกเพศ เลือกวัย หรือฐานะ แต่อย่างใด
    ไม่มีอะไรจะมาเป็นอุปสรรคในความสำเร็จได้ นอกจากในของผู้ปฏิบัติเอง

    ท่านได้แนะเคล็ดในการบวชจิตว่า.....

    " ในขณะที่เรานั่งสมาธิเจริญภาวนานั้น คำกล่าวว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ...ให้นึกถึงว่าเรามีพระพุทธเจ้า
    เป็นพระอุปัฌาย์ ของเรา ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ...ให้นึกว่าเรามีพระธรรม
    เป็นพระกรรมวาจาจารย์ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ...ให้นึกว่าเรามีพระอริยสงฆ์
    เป็นพระอนุสาวนาจารย์ แล้วอย่าสนใจขันธ์ 5 หรือร่างกายเรานี้ ให้สำรวมจิตให้ดี มีความยินดีในการบวช ชายก็เป็นพระภิกษุ หญิงก็เป็นพระภิกษุณี อย่างนี้จะมีอานิสงส์สูงมาก จัดเป็นเนกขัมบารมีขั้นอุกฤษฎ์ทีเดียว "

    อุปมา ศีล สมาธิ ปัญญา

    ครั้งหนึ่งได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับหลวงน้าสายหยุด ท่านได้เมตตาเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า หลวงพ่อเคยเปรียบธรรมะของพระพุทธเจ้าเหมือนแกงส้ม แกงส้มนั้นมี 3 รส คือ เปรี้ยว เค็ม และเผ็ด ซึ่งมีความหมายดังนี้

    รสเปรี้ยว หมายถึง ศีล ความเปรี้ยวจะกัดกร่อนความสกปรกออกได้ฉันใด ศีลก็จะขัดเกลาความหยาบออกจากกาย วาจา ใจ ได้ฉันนั้น
    รสเค็ม หมายถึง สมาธิ ความเค็มสามารถรักษาอาหารต่างๆ ไม่ให้เน่าเสียได้ฉันใด สมาธิก็สามารถรักษาจิตของเราให้ตั้งมั่นอยู่ในคุณความดีได้ฉันนั้น
    รสเผ็ด หมายถึง ปัญญา ความเผ็ดร้อนโลดแล่นไป เปรียบได้ดั่งปัญญาที่สามารถก่อให้เกิดความคิด ขจัดความไม่รู้ เปลี่ยนจากของคว่ำเป็นของหงาย จากมืดเป็นสว่างได้ฉันนั้น


    ที่มา - บทความธรรมะ หนังสือพืมพ์ผู้จัดการ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2008

แชร์หน้านี้

Loading...