การดูจิตโดยปฏิบัติสัมมาสมาธิ ย่อมไม่คิดไปเองว่าจิตเป็นอนัตตา

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 12 มิถุนายน 2010.

  1. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918

    เอ้า ขนาดพระอรหันต์พุดอะไร คุณยังครึ่งๆกลางๆ แล้วจะไปเที่ยวถามหา
    คำตอบจากคนที่ให้ปริศนาธรรมคุณมางั้นเหรอ

    หาคำตอบเอาเองซี่ ใครเขา บอกคำตอบตรงๆ ได้บ้างหละ ในโลกนี้
     
  2. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    เล่าปังเอ้า
    สำหรับผมมันเป็นปริศนาธรรมนี่ เพราะเรายังไม่รู้ ไม่เห็นได้ตามท่าน
    ถ้าจะปรารภไปว่าวๆ ว่า เห็นท่านพูดตรง นี่มันอาศัยเชื่อ เข้าข่ายโง่แต่เกิด<<ยังไม่รู้ตามท่านแต่กลับจะตีความเอาเองนี้นะ ...

    โถๆ ประโยคแรก บอกว่า เชื่อ100%ว่า พระอรหันต์พูดตรง ว่าท่านวางจิต
    ได้ ก็ถ้าจติไม่มีเกิดดับ เกิดตลอดแล้วจะเอาอะไรวางลงเล่า ตกลงเชื่อ100%
    แต่ค้าน100%อยู่ในที ก็งี้แหละ ธรรมดา <<ตรงไหนไม่ทราบที่ผมบอกว่าพระอรหันต์พูดหรือเป็นคนพูด ตรงไหนครับ ผมละเบื่อนิสัยคุณตรงนี้จริงแล้วก็แถไปอีกนะ

    สรุปที่ปรารภว่า พระอรหันต์พูดตรงๆ แต่คุณกลับมาทิ้งท้ายด้วยการกล่าวเป็นปริศนา
    เออ ก็แปลกดี <<ตรงไหนที่ผมบอกว่าพระอรหันต์เป็นคนพูดครับ ใครแปลกใครโง่ดักดานกันแน่ เฮ้อ

    พูดว่ามันเป็นปริศนาธรรมเสียแต่ต้น มันจะน่าอายอะไรนักหนา กับการ ยังไม่รู้เนี่ยะ <<เอ้าจะให้ผมพูดว่าเป็นปริศนาธรรมทำไมละก้ผมไม่เห็นว่าเป็นปริศนาอะไรก็คิดตรงๆ ไม่ใช่ว่าพอมันขัดแย้งกับความเห็นของเราเราก็คิดว่าเป็นปริศนาธรรมซะเลย แล้วตีความเอาเองซะเลย คุย1โพสก็เริ่มบ้าบออีกแล้ว
     
  3. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    เล่าปัง
    เอ้า ขนาดพระอรหันต์พุดอะไร คุณยังครึ่งๆกลางๆ แล้วจะไปเที่ยวถามหา
    คำตอบจากคนที่ให้ปริศนาธรรมคุณมางั้นเหรอ

    หาคำตอบเอาเองซี่ ใครเขา บอกคำตอบตรงๆ ได้บ้างหละ ในโลกนี้<<นี่เลยเมาไปแล้วนะนี่ หยุดบ้าเถิดผมบอกตรงไหนว่าที่พูดว่า ต้องพระอนาคามีถึงจะละจิตได้ เป็นพระอรหันต์พูด เลิกสักทีเถิดไอ้นิสัยคิดเอาแล้วปรักปรำหนะ ถึงมันจะไม่ได้เจตนา แต่ทำตามนิสัยมันก็เป็นกรรมนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2010
  4. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ก็คุณพูดอยู่เองว่า ไปสดับจากพระมา

    พระท่านนั้น พูดคุณธรรมระดับใดหละ

    พระท่านนั้น มีคุณธรรมถึงระดับนั้นหรือเปล่าหละ ท่านจึงพูดหนะ

    หากท่านไม่มีคุณธรรม แล้วท่านพูดแก่ฆารวาสในสิ่งที่ตนไม่รู้ให้
    คุณถือมานี่ ตกลงท่านมุสาแก่คุณงั้นเหรอ

    นี่ถ้าคุณเพิ่มเติมอีกหน่อยนะว่า พระท่าน เอามาจากพุทธพจน์
    ประโยค พระอรหันต์วางจิต เอามาจากพุทธพจน์เพื่อให้พระท่าน
    รอดตัวไปในการปรารภสิ่งที่ตนไม่รู้ ก็ยิ่งไปกันใหญ่นะ

    ตกลง พระที่คุณ ไปฟังมาระดับไหนหละ พูดจริงหรือพูดเท็จหละ

    ระดับไหน ก็ระดับนั้นแหละ จริงหรือเท็จคุณก็เลือกสดับมากล่าวแก่คนอื่นแล้ว

    ตกลงคุณเมา หรือผมเมา

    คุณสืบความเท็จ ผมเตือนสติ หรือเปล่านี่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2010
  5. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697

    อ้อ น่าสนใจนะ เม้นท์อันหลัง
    เพราะเม้นท์อันแรก ดูจะปรักปรำว่าดิฉันเป็นคนกล่าวว่าแค่คิดศีลก็บริสุทธิ์ได้
    โดยสรุปให้ ว่าคุณไม่เชื่อว่าดิฉันศีลปริสุทธิ์ เพราะสรุปว่าดิฉันคิดเอง อย่าโกหกตัวเองเลย เพราะแค่ความรู้สึกนึกคิดหยาบๆ ยังเอาไม่อยู่ ด้วยการขยันกดไม่เห็นด้วยนั่นไง เหอๆๆ การขยันกดไม่เห็นด้วย ในสิ่งที่ไม่เห็นด้วย เป็นความรู้สึกนึกคิดหยาบๆ ที่ผิดศีลนะ ดิฉันก็ว่าตลกดี ไม่ทราบว่า นี่เป็นที่มาของการที่คุณไล่คนอนุโมทนาเม้นท์แทบทุกคนที่มาในกระทู้หรือเปล่า

    แม้นท์อันหลัง น่าสนใจ
    คำว่าแต่เรามีศีลห้า ก็ชัดเจนแล้วว่า ไม่ต้องรักษาอีกแล้ว เอางั้นเลยนะ ถ้าคนที่เขาพยายามรักษาได้ นี่ถือว่าไม่มีศีลห้าหรือ
    ที่เราคุยกับธรรมะสวนัง เรากล่าวว่าที่เราคิดไม่ใช่อย่างที่เขาตีความมา ก็ชัดเจนเลยนะ ว่าคำว่ามีศีลห้า หมายถึง ศีลห้าบริสุทธิ์แล้วนั่นเอง บางคนที่เขาสมาทานและพยายามรักษา นี่ห้ามพูดว่ามีศีลห้านะ เพราะยังไม่บริสุทธิ์หรือ ?

    ที่บอกว่าคิดว่าไม่ใช่ ไปอ่านดีๆ เราไม่ได้หมายถึงที่คุณธรรมะสวนังขยาย คนที่บอกว่าตัวเองคิดอย่างไหน นี่มันเป็นศีลห้า ที่คิดเอาเองได้อย่างไรไม่ทราบ การไม่โกหก นี่เรียกว่ามีศีลข้อ 4 ไม่ใช่ศีลคิดเอา

    อันนี้ยกมา..
    ที่ผมพูดถึงเรื่องกดไม่เห็นด้วย คุณยังไม่รู้ตัวอีกหรือว่า ทำตัวเป็นตัวตลกโดยไม่ต้องสรุปอะไรเลยครับ
    มันสรุปในตัวมันเองแล้วหละครับ แค่ติดกับดักอาการของจิตที่แสดงออก
    ต่ออารมณ์ความรู้สึกนึกคิดที่ปรากฏ กิเลสก็สนองตอบทันที่โดยไม่ลังเล

    ที่ดิฉันตลกน่ะมันเป็นกิเลสระดับไหน
    ที่คุณกล่าวร้ายกล่าวหาดิฉัน มันเป็นกิเลสระดับไหน มีศีลไหม? ไม่ต้องเอาแบบบริสุทธิ์หรอก


    ส่วนศีลห้า จะรักษาดิฉันหรือไม่ บริสุทธิขนาดไหน อย่างคุณดูไม่ออกหรอก

    :boo:
     
  6. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697

    โดยเฉพาะข้อ 3 เก่งจริง ไปยกมาเถอะ
    ขอให้ตรงกับเรื่องที่กล่าวหาด้วยนะ.. ที่ว่าคุณเคยถามเรื่องนี้กับเรามาก่อน แล้วเราเลี่ยงไม่ตอบ


    ในข้อ 1 เราเห็นว่าเราแจกแจงไว้ในส่วนของเราดีอยู่แล้ว
    เอาคำพูดคุณมาถามคุณดีกว่า
    ที่ว่าปัจจุบันธรรมหรือจิตที่เป็นกลางนั้น
    วางจิตไว้ที่ไหนครับ???
    แล้วคุณวางจิตที่เป็นกลาง หรือปัจจุบันธรรมของคุณที่ไหน


    ในข้อ 2 จิตที่เป็นกลาง ก็บอกชัดอยู่แล้วว่า ไม่ใช่อดีต ไม่ใช่อนาคต ใช่ปัจจุบันธรรมมั้ยครับ
    ปัจจุบันธรรมไม่ใช่อารมณ์เกิดขึ้นที่จิตนะครับ เกิดจากจิตปล่อยวางอารมณ์ได้หมดสิ้นครับ
    ปัจจุบันธรรม ไม่ใช่อารมณ์ที่เกิดที่จิต เกิดจากจิตปล่อยวางอารมณ์ได้หมดสิ้น
    จิตปล่อยวางอารมณ์ได้หมดสิ้น ถ้าอารมณไม่เกิดที่จิต แล้วเขาไปวางอารมณ์กันที่ไหนหรือ


    :boo:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2010
  7. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    เอ้า แถเข้าไป เรื่องก็แค่ผมไม่ได้บอกว่าผมฟังพระอรหันต์พูดผมบอกแค่ว่าฟังพระท่านพูดมา แต่คุณหาว่าผมบอกว่าพระอรหันต์พูด ก็เท่านั้น ขี้เกียจยืดยาวกับคุณ พอเริ่มแถแล้วน่ารำคาญมาก คุณอยากจะคิดกล่าวหาพระอย่างไรก็เชิญตามสบาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2010
  8. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ใครแถเหรอ ผมก็แค่ ทำให้คุณรู้ตัวว่า ตกลงไปฟังพระแบบไหนเทศนามา

    ฉลาดขึ้นบ้างไหมนั่น ตกลงได้สดับเรื่องจริงมาหรือไม่จริงมาก็ไม่รู้

    พระท่านนั้นมีคุณธรรมขนาดไหนที่จะรองรับในสิ่งที่สอนคุณอยู่ก็ไม่รู้

    คุณรับปฏิบัติมาอย่างไร มะงุมมะงาหราอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะไม่รู้ว่า
    พระท่านมีคุณธรรมระดับไหน

    คุณธรรมพระระดับไหนไม่ใช่ประเด็นหลอก แต่คุณก็ทะลึ่งยกขึ้น ทำที
    เป็นไล่ผมว่า "คุณธรรมพระระดับไหน" คุณถามของคุณเอง แล้วผมจะไปรู้
    เหรอว่าคุณไปฟังมาจากใคร......

    แต่ที่แน่ๆ ก็ต้องรู้คุณธรรมของอรหันต์หละ ถึงได้กล่าวออกมาว่า พระอรหันต์วางจิต
    ไม่งั้น พระท่านนั้นคงสู่รู้

    คุณรู้ของคุณอยู่แก่ใจ แล้วจะมาปัดเป็นวรรคเป็นเวรหาอะไรไม่ทราบ.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2010
  9. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697
    เม้นท์เยอะมาก อ่านไม่ไหว
    เห็นชื่อนี้เลยไปยกมา เพราะเล่าปังไม่ยกมา

    เกล็ดธรรม หลวงปู่พุธ ฐานิโย ....
    [FONT=&quot]
    ...ขึ้นชื่อว่า การบริกรรมภาวนานี่ ใครจะบริกรรมภาวนาอย่างไรก็ตาม
    จะบริกรรมภาวนากันทั้งวัน ทั้งคืนก็ตาม จิตไม่สามารถจะสงบลงไปถึงขั้น..อัปปนาสมาธิ
    ขอให้พึงทำความเข้าใจกันอย่างนี้
    [FONT=&quot]<O></O>[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
    [FONT=&quot]ยกตัวอย่าง เช่น พูดภาวนา..พุทโธ..พุทโธ..พุทโธ..พุทโธ
    ภาวนา..พุทโธ นี่จิตไม่ถึงขั้นสมถะ คือจิตไม่ถึง...อัปปนาสมาธิ ท่านทั้งหลายอย่าพึงเข้าใจผิด
    [FONT=&quot]<O></O>[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]ว่าภาวนา..พุทโธ จิตได้แต่..สมถกรรมฐาน ไม่ถึง วิปัสสนากรรมฐาน
    แต่แท้ที่จริงแล้วแต่ แท้ที่จริงนั้น...ภาวนาพุทโธนี่ จิตถึงแค่อุปจารสมาธิ
    [FONT=&quot]<O></O>[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
    [FONT=&quot]ท่านเคยสังเกตุมั๊ย ท่านบริกรรมภาวนาพุทโธ..พุทโธ..พุทโธ..พุทโธ..พุทโธ
    ถ้าจิตรู้สึกเคลิ้มๆ แล้วก็สว่าง จิตนิ่ง..นิ่ง.. แต่ยังรู้สึกว่ามีกายอยู่
    อารมณ์ภายนอก เช่น ลมพัดผ่านเข้ามา ก็ยังรู้สึกเย็น รู้สึกหนาว รู้สึกร้อนอยู่
    [FONT=&quot]<O>
    </O>[/FONT]
    [/FONT][FONT=&quot]จิตยังไม่ปล่อยวางกายทั้งหมด แล้วคำว่าพุทโธหายไป[FONT=&quot]<O></O>[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อเป็นเช่นนั้น อุปจารสมาธิเนี่ย ไม่ใช่ขั้นสมถะ เป็นแต่เพียงความสงบจิตเพียงนิดหน่อยเท่านั้น
    คือจะให้จิตสงบเป็นอัปปนาสมาธิ ถึงขั้นสมถะนั้น ผู้ฉลาดในการภาวนาจะต้องกำหนดจิต
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ลมหายใจ เข้า-ออก...จะเป็นสื่อทำจิตให้ดำเนินเข้าไปสู่อัปปนาสมาธิ ถึงขั้นสมถะ<O></O>[/FONT]

    [FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
    [FONT=&quot]หรือมิฉะนั้นก็กำหนด กายคตาสติ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก [FONT=&quot]<O></O>[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]พิจารณาแง่ใด สุดแท้แต่ท่านจะสะดวก แต่พิจารณาในแง่...อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ..ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา..ก็ได้[FONT=&quot]<O></O>[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
    [FONT=&quot]จะพิจารณาในแง่อสุภะกรรมฐาน ว่าพระพายเป็นของปฏิกูลเน่า..เศษโสโครกสกปรกก็ได้ แล้วถามปัญหา ถามตอบตัวเองไปเป็นข้อๆ [FONT=&quot]<O></O>[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]เพื่อประคับประคองจิตให้นึกคิดพิจารณาอยู่ในเรื่องๆ เดียว
    หรือท่านอาจจะพิจารณาว่ากายนี้ มีสภาพเศษดิน มิใช่สัตว์..บุคคล..ตัวตน..เราเขา
    เป็นแต่เพียง ดิน น้ำ ลม ไฟ ประชุมกัน
    [FONT=&quot]<O></O>[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]แล้วก็มีจิตวิญญาณมายึดถือความเป็นเจ้าของ จึงเกิดความยึดมั่นถือมั่นว่า [FONT=&quot]<O>

    </O>[/FONT]
    [/FONT][FONT=&quot]ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเราเป็นเขา...ของเราของเขา แต่เมื่อแยกออกไปโดยเป็นสัดส่วนแล้ว [FONT=&quot]<O></O>[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]หาสัตว์..บุคคล..เรา..เขาไม่มี อันนี้คือผลลัพธ์พิจารณาธาตุกรรมฐาน<O></O>[/FONT][FONT=&quot]<O></O>[/FONT]


    ({)
     
  10. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ข้างบนนี่ ใครถามหว่า

    แต่ข้างล่างนี่ หลวงพ่อพุธตอบ


    หากสงสัย อยากให้ขยายอรรถ กรุณาไปถามเจ้าตัว
     
  11. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    ช่างคุณเถอะ รำคาญ ยืดยาวไป ยิ่งน่ารำคาญไหญ่ ตามสบายนะไปดูข่าวดูละครน้ำเน่าดีกว่า (k)
     
  12. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    สำนักดูจิต...ไม่ชลบุรี ก็ ศาลาลุงชิน คอยตามดูเอานะครับ ..!
     
  13. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ตามสบายซิ

    คุณเข้ามาโพส ก็เพื่อ ว่าวไปเรื่อยๆ หาปริศนาธรรมมาแสดง ก็เพื่อ
    รับคำถามไปเพิ่มเติม ไม่ใช่เหรอ

    ทนรับคำถามเพิ่มได้ มันก็ไม่รำคาญหลอก หรือหากทนไม่ได้แต่รู้ตัว
    ว่าเข้ามาทำอะไร มันก็ไม่รำคาญหลอก

    อะไรดีกว่า นั้นมันเรื่องของคุณ เลือกเอง ไปหาสดับเอาเอง แต่ขอโทษ
    นะช่วยจำแนกแยกแยะสื่อที่รับมาให้ชัดในใจตนไว้ด้วย จะได้ไม่มาถามผม
    อีกว่า ผมไปดูละครโกหกประโลมโลกตัดต่อสันดีอานมาตอนไหน....
     
  14. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    นี่ตะเอง ฝากระบายลง

    [​IMG]

    อันนี้สักเล่มสิ ไปอัฐ...อัฐ..อัฐ...ให้หนุนเลยนะ

    กล่าวถึง พระเจ้าจักรพรรด์ เจียวนา.....

    อ่านบทคำนำ click
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2010
  15. poppykun

    poppykun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2010
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +82
    เห็นว่าที่นี่เค้าเปิดรับฟังความคิดเห็นแล้ว แสดงหลักฐานกันได้เต็มที่
    บอร์ดแอนตี้วิมุตติ - Index

    ลองเข้าไปดูแล้ว มีการถามกันเรื่องแนวทางการดูจิตของหลวงปู่่ดูลย์ด้วย
    แต่ ถ้าใครภูมิไม่แน่น แรงใจไม่แข็งพอ อาจแพ้กิเลสตัวเองได้
     
  16. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,515
    ค่าพลัง:
    +9,765


    เน ตัง มม เน โสหมสฺมิ นะ เม โสอัตตา
    นั่นไม่ใช่เรา นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่ตัวเรา

    พุทธวจนว่าไว้ชัดดังนี้ คงไม่ต้องเสียเวลาวินิจฉัยให้ยืดยาวอีก
     
  17. poppykun

    poppykun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2010
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +82

    คุณไมยราพครับ ชอบอย่างเดียว (ราชบุรี)
    แต่ถ้ายังแยกแยะความแตกต่างไม่ออก
    ลัดสั้น จะกลายเป็น ลากยาว เลยนะ

    ช่วยชี้แจงความเหมือนกันระหว่าง สองคำสอนนี้ ได้มั้ยครับ
    "สติทำไม่ได้ อย่าเพ่ง อย่าบังคับ ....ถ้าเผลอแล้วเดี๋ยวสติมาเอง"
    "จิตนี้แหละตัวมหากิเลส ... ให้บังคับสติ บังคับจิต"

    ถ้าไม่กระจ่างก็เชิญไปที่นี่ดีกว่า
    www.antiwimutti.net/forum
     
  18. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    เที่ยวก่อน....7 เดือนบรรลุเมีย จากเล่มละเกือบสามร้อย เหลือ 87 บาท (ถ้าจำไม่ผิด) 7 อีเลเว่น เหลือบานเบอะ ยังขายไม่ออกเที่ยวนี้ขาดรายได้บานตะไทเพระาอะไรนะ
    ผมจะรออ่านเรื่อง...โสบันเดา ถูกอาจารย์ปลด...?:':)'(
     
  19. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    เห็นพูดถึงปัจจุบันธรรมกัน ก็ไม่รู้รู้มองเห็นปัจจุบันธรรมในใจตัวเองแค่ไหน ที่พูดว่าเราเห็นอย่างนั้นเรารู้อย่างนี้ มีในใจตนหรือไม่ จิตไม่ใช่เรา นั่นไม่ใช่เรา นี่ก็ไม่ใช่เรา คนที่เขาพูดแล้วเขามีธรรมนั้นในจิตเขาพูดเท่าไรก็พูดได้อย่างเต็มปากนะ
    แต่ไอ้ที่ไม่มีแล้วทำพูดเหมือนมีนี้ พระท่านเรียก นกแก้วนกขุนทอง

    ประเภทที่ธรรมนั้นไม่มีในใจตนเอง จิตไม่ได้รู้ไม่ได้เห็นจริงอย่างที่พูด มีแต่ความเชื่อ ไม่มีความเห็นจริงแล้วพูดปาวๆว่าข้ารู้จริงข้าถูกนี่ไม่อายบ้างรึ

    ปัจจุบันธรรมในใจเห็นจิตเป็นอย่างไรกัน ละวางจิตได้แล้วไม่รู้สึกว่าจิตเป็นเราแล้ว
    หรือก็ยังรู้สึกว่าจิตเป็นเราอยู่จิตทุกข์ก็ยังรู้สึกว่าเราทุกข์อยู่ หรือหาคนทุกข์ไม่เจอแล้ว

    เห็นเรากับทุกข์แยกกันแล้วรึ ถ้าเห็นแยกกันแล้ว เราที่แยกกับทุกข์หนะคืออะไรรู้ใหม แล้วใครเป็นคนเห็นว่าแยกกัน

    ส่วนใหญ่ใครๆเขาก็รู้ ว่าแม้จิตก็ต้องละต้องวางเสีย แต่ก็มีแต่ความเชื่อ ความเห็นจริงไม่มีช่างกล้าไปติไปว่าคนที่เขาพูดตามปัจจุบันธรรมในใจเขานะ

    ก็เข้าใจนะว่า เห็นวิญญาณขันธ์5เป็นจิต เอาตรงนี้ให้กระจ่างกันก่อนคงจะดีกว่านะ
     
  20. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    คุณ ไมยาราพ...คุณนะเข้าใจผมผิดหมด อย่าเชื่อผู้อื่นจนกว่าคุณจะได้รู้จักผม สนทนากับผม
    สังคมไทยมองการวิพากย์วิจารณ์ เป็นการคุ้ยเขี่ยเรื่องไม่ดี สร้างปัญหา ไม่ให้ความเคารพ ทั้งที่การวิพากย์วิจารณ์นั้นเป็นสิ่งที่ดี ทำให้แตกฉานในปัญญา เป็นการตรวจสอบ หากทำด้วยความเคารพฐานะของอีกฝ่่ายและยังช่วยกันปกป้องพระศาสนาด้วยอีกทาง
    ไม่ใช่ให้ "ซาบซึ้ง เคารพ" ห้ามตรวจสอบใช้ชั้นเชิงการโฆษณาปิดปากชาวพุทธ อย่าเอาไปทะเลาะกันนะ แล้วเป็นไง..?
    แก้หนังสือหลวงปู่ดุลย์ ขายสัมปทานการเทศก์ให้บริษัทรจำกัด เก็บเงิน ขายหนังสือ ใช้เครือข่ายบุคคลเป็นธุรกิจธรรมมะ ออกมาหนุนกันและกันทั้งๆที่ผิด วางฐานให้ผู้คนคิดเองว่าตนเองเป็นอริยะ โดยใช้เล่ห์ที่ชาญฉลาด..ฯลฯ

    ผมไม่เคยคิดจะไปลบล้างใคร ผมต่อต้านการสอนที่ผิดๆ ยากแก่การแยกแยะสำหรับผู้มาใหม่ พระองค์นี้มีทัศนะที่ผิดดังหลวงพ่อสงบท่านเทศน์ไว้ไม่มีผิด เอาละเรื่องเก่าแล้ว ว่าแต่คุณเถอะสงสัยอะไรผม ก็เข้าใจซะใหม่นะครับผมไม่ได้ไปจองล้าง จองผลาญอะไรท่านเลย เพียงแต่ต้องหยุดสอนผิดๆเสีย ลาออกจากบริษัทร และออกบิณฑบาตรด้วยครับ:mad::mad:
     

แชร์หน้านี้

Loading...