><กระทู้ใหม่(4) วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย หลากหลายสายราคาเบา (สรุปรายการ น.1) ><

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์ปิยธโร, 5 มกราคม 2017.

  1. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,857
    ค่าพลัง:
    +14,116



    $$$$$$$ ปิดรายการแล้วครับ $$$$$$





    2465.
    กล่องเดิมๆ NEW1 รูปหล่อ60ปีแห่งมรณกาล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    สุดยอดชนวนมวลสาร พ่อแม่ครูอาจารย์อธิษฐานจิตให้เต็มเปี่ยม

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    รูปหล่อหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต รุ่นที่ระลึกครบรอบ60ปีแห่งมรณกาล สร้างโดย วัดป่าหนองผือนาใน บ้านหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร เนื้อทองผสม ตอกโค้ด2โค้ด ใต้ฐานบรรจุผงวิเศษและเกศาพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อระหว่างวันที่ 10-11 พฤศจิกายน พ.ศ.2552 เพื่อเป็นที่ระลึกในวาระครบรอบ 60 ปี วันมรณภาพขององค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    จำนวนการสร้าง
    - เนื้อนวโลหะ 108องค์
    - เนื้อทองผสม 500องค์

    ชนวนโลหะที่ใช้ในการหล่อ
    ทองชนวนจาก วัตถุมงคลของศิษย์หลวงปู่มั่น 60 รูป อาทิ
    1.ปรกนาสีดา ลป.เทสก์
    2.เหรียญลป.ฝั้น
    3.เหรียญรุ่น๓ ลป.จันทร์ เขมิโย
    4.เหรียญมะละกอ ลป.ตื้อ
    5.เหรียญ ลป.เหรียญ หลายๆรุ่น
    6.เหรียญรุ่นพุทโธปี44 ลต.มหาบัว
    7.เหรียญรุ่นแรก ลป.บัวพา
    8.เหรียญช้างหมอบ ลป.ดูลย์
    9.เหรียญ ลป.ขาวปี18
    10.เหรียญ ลปจันทร์ เชมปัตโต รุ่นแรก
    11.เหรียญรู้ ลป.หล้า
    12.เหรียญอโรคา ลป.หลอด
    13.เหรียญยันต์ดวง ลป.สิม
    14.เหรียญพระพุทธชินราช ลป.จันทร์โสม
    15.เหรียญ 80 ปี ลต.พวง
    16.เหรียญ ขวานฟ้า ลป.หลุย
    17.เหรียญนั่งพาน วัดท่าแขก ลป.ชอบ
    18.เหรียญโต๊ะหมู่ลป.ศรีจันทร์
    19.เหรียญใบโพธิ์ ลป.ซามา
    20.เหรียญสภอ.พังโคน ลต.บุญหนา
    21.เหรียญ รุ่น 5 ลป.ผ่าน
    22.เหรียญ รุ่น 2 ลต.แตงอ่อน
    23.เหรียญ รุ่นแรก ลป.อ่อน
    24.เหรียญ ทูลเกล้า ลป.สาม
    25.เหรียญเจ้าสัว ลป.อ่อนสา
    26.เหรียญ รุ่นแรก ลป.พวง วัดป่าปูลู
    27.เหรียญ 6 รอบ ลพ.วิริยัง
    28.เหรียญ รุ่นแรก ลป.จันทร์แรม
    29.เหรียญ รุ่นแรก ลป.อ่อนศรี
    30.เหรียญ รุ่นแรก ลป.ต้น
    31.เหรียญศูนย์การเเพทย์ ปี 19 ลป.ผาง
    32.เหรียญไตรมาส ลป.แหวน
    33.เหรียญ รุ่นแรก ลป.กว่า
    34.เหรียญ รุ่นแรก ลป.แว่น
    35.เหรียญ รุ่นแรก ลป.จันทร์ศรี
    36.เหรียญโต๊ะหมู่ ลป.มหาโส
    37.เหรียญหลังสิงห์ ลป.วัน
    38.เหรียญ รุ่นแรก ลป.จวน
    39.เหรียญ รุ่นแรก ลป.ลี(เหวลึก)
    40.เหรียญ รุ่นแรก ลป.สุภาพ
    41.เหรียญ รุ่นแรก ลป.บุญฤทธิ์
    42.เหรียญ รุ่นแรก ลป.บุญมา ฐิตเปโม
    43.เหรียญ รุ่นแรก ลป.บุญเพ็ง(ถ้ำกองเพล)
    44.เหรียญ รุ่นแรก ลป.ผาง (ดงเย็น)
    45.เหรียญโภคทรัพย์ ลพ.พุธ
    46.เหรียญพระพุทธ หลังดาว ลป.ศรี
    47.เหรียญ 60 ปี ลพ.สมชาย
    48.เหรียญกษาปณ์ ลป.คำพอง
    49.เหรียญ รุ่นแรก ลป.บุญจันทร์ กมโล
    50.เหรียญ รุ่นแรก ลป.คำ ยสกุลปุตฺโต
    51.เหรียญ รุ่น2 ลป.คำดี
    52.เหรียญ ลป.บัว เตมิโย รุ่นพิเศษ 18
    53.เหรียญ รุ่นแรก ลป.มหาเขียน
    54.เหรียญหลังเสือ ลป.บุญมา วัดป่าสิริสาลวัน
    55.เหรียญ รุ่นแรก ลพ.สนั่น สกลฯ
    56.เหรียญโต๊ะหมู่ ลป.เพียร
    57.เหรียญ 90 ปี ลป.มา
    58.เหรียญ รุ่นแรก ลป.กิ
    59.เหรียญ รุ่นแรก ลป.นิล ขอนแก่น
    60.เหรียญที่ระลึกครบ ๗ รอบ 84 ปี ลป.เจี๊ยะ

    มวลสารที่อุดใต้ฐาน
    - ผง 150 อัฐิเกศาอังคารครูบาจารย์
    - ที่สำคัญ เกศา 9มหาเถรศิษย์หลวงปู่มั่น ได้แก่
    1.ท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม
    2.หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร
    3.หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล
    4.หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดอรัญญวิเวก
    5.หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง
    6.หลวงปู่หลุย จันทสาโร วัดถ้ำผาบิ้ง
    7. หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง
    8.หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง
    9 หลวงปู่พรหม จิรปุญโญ วัดประสิทธิธรรม
    - ผงพุทธคุณต่างๆ เป็นต้น

    วาระการอธิษฐานจิต
    อธิษฐานจิตโดย พระอริยสงฆ์ซึ่งหลวงตามหาบัวได้รับรองแล้วว่าเป็นเนื้อนาบุญของโลก ตรัสอสวกิเลสหมดแล้ว ไม่มีข้อสงสัยใดๆ
    1. หลวงปู่บุญหนา วัดป่าโสตถิผล สกลนคร ศิษย์หลวงปู่มั่น

    2. หลวงตาแตงอ่อน กัลยาณธัมโม วัดป่าโชคไพศาล สกลนคร ศิษย์หลวงปู่มั่น
    3. หลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีภัยวัน เลย ศิษย์หลวงปู่คำดี ทันฟังธรรมหลวงปู่มั่น
    4. หลวงปู่เนย สมจิตโต วัดป่าโนนแสนคำ (ท่านละสังขารแล้ว)อัฐฐิธาตุ ได้แปรเป็นพระธาตุแล้ว
    5. หลวงปู่บุญพิน กตปุญโญ วัดผาเทพนิมิตร สกลนคร
    6 หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป วัดป่าปทีปปุญญาราม (ท่านละสังขารแล้ว)อัฐฐิธาตุ ได้แปรเป็นพระธาตุแล้ว ศิษย์หลวงปู่มั่น
    7. หลวงปู่สรวง สิริปุญโญ วัดศรีฐานใน น้องหลวงตาพวง สุขินทริโย
    8.หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต ที่พักสงฆ์สวนทิพย์ ศิษย์หลวงปู่ชอบ
    9.หลวงปู่แปลง สุนทโร วัดป่าอุดมสมพร ศิษย์หลวงปู่ฝั้น
    10.หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม วัดป่าสีห์พนม ศิษย์หลวงปู่ขาว หลวงปู่หลุย หลวงปู่อ่อน
    11.หลวงปู่สุธัมม์ ธัมมปาโล วัดเทพกัญญาราม
    12.หลวงปู่สมหมาย จิตตปาโล ที่พักสงฆ์อนาลโย



    ### ข้อมูลและภาพถ่ายในพิธีพุทธาภิเษก ###
    https://www.mediasocialnews.com/สิริจันโท-150-ปี/




    สภาพสวยสมบูรณ์สวยกริ๊บกล่องเดิม องค์นี้เห็นเส้นเกศาดังลูกศรชี้ครับ พิมพ์คมโค้ดชัดลึก พุทธคุณครบครอบ เป็นศิริมงคลแก่ชีวิต สุดยอดรูปหล่อของหลวงปู่มั่นอีกรุ่น ที่ดีนอกดีในครบถ้วนกระบวนความเลยทีเดียว แบ่งให้บูชา 1,111 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • VkTlPI.jpg
      VkTlPI.jpg
      ขนาดไฟล์:
      349 KB
      เปิดดู:
      244
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2023
  2. Ponzio24

    Ponzio24 สมาชิกใหม่ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +61
    ขอบูชารายการนี้ครับ ขอบพระคุณครับ
     
  3. Ponzio24

    Ponzio24 สมาชิกใหม่ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +61
    โอนปัจจัยแล้วนะครับ หลักฐานอยู่ทางข้อความครับ ขอบพระคุณครับ
     
  4. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,857
    ค่าพลัง:
    +14,116
    2466.สุดยอดชนวนอภินิหารเบ้าแตก (๑) เหรียญหล่อปักกลดชนะภัย
    หลวงปู่เย็น ทานรโต เจ้าตำรับตัว พ มหัศจรรย์ ศิษย์หลวงปู่เทพโลกอุดร

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    VkUFgt.jpg

    VkEK0b.jpg
    VkEgyq.jpg

    เหรียญหล่อปักกลด หลัง พ.มหัศจรรย์ รุ่นชนะภัย หลวงปู่เย็น ทานรโต วัดสระเปรียญ ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เนื้อทองผสม ผสมสุดยอดชนวนศักดิ์สิทธิ์ ตอกโค้ด ดำเนินการจัดสร้าง เมื่อปีพ.ศ.2534

    โลหะชนวนศักดิ์สิทธิ์ อาทิ
    - แผ่นอักขระลงยันต์หลวงปู่โลอุดร
    - ชนวนพระกริ่งสมเด็จพระสังฆราชแพ
    - ชนวนท่านเจ้ามา
    - ชนวนหลวงปู่ทอง
    - ชนวนพระอาจารย์ธรรมกิตติ
    - ชนวนหลวงพ่อศรี
    - ชนวนหลวงพ่ออิ่ม
    - ชนวนโลหะสัมฤทธิ์เก่าวัดกลางชูศรี และวัดสระเปรียญ
    - แผ่นยันต์พระอาจารย์ 108
    - แผ่นนะ 108 หัวใจ 108
    - ยันต์พิชัยสงคราม
    - ยันต์จักรพรรดิ์
    - ยันต์อริยโฬส
    - ยันต์สมเด็จวัดป่าแก้ว
    - ยันต์มหาปราบมหาระงับ
    - ยันต์สมเด็จพระนเรศวรออกศึก และแผ่นยันต์ศักด์สิทธิ์ อีกมากมาย
    - ตะกรุด เหรียญเก่าสึกชำรุด และห่วงเหรียญ อีกมากมาย เป็นต้น


    พิธีเททองหล่ออิทธิมงคล รุ่นชนะภัย
    - ตรงกับวันมหามงคลวิสาขบูชาที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ.2534
    หลวงปู่เย็น ท่านจัดพิธีอย่างถูกต้องตามตำรับพระโบราณจารย์ของ หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ และ หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา
    เมื่อเวลา 09.00 น. พราหมณ์ประกอบพิธีบูชาฤกษ์ บูชาครู และกล่าวชุมนุมเทวดาพระเครื่องเส้นอาหารคาวหวานครบถ้วนกระบวนความ


    หลวงปู่เย็น ทานรโต
    พระผู้มีเมตตาธรรม วัดสระเปรียญ ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
    ชาติภูมิ หลวงปู่เย็น ทานรโต เป็นชาวเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี โดยกำเนิดท่านเกิดเมื่อวันเสาร์ เดือนสี่ ปีขาล พุทธศักราช ๒๔๔๕ เป้นบุตรคนแรกในจำนวนพี่น้อง ๖ คน ของ นายถิ่น นางแซ่ม ศรีศาสตร์ บิดามารดาของท่านมีอาชีพทำนา

    ตัวท่านเองนั้นนอกจากจะช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพกสิกรรมแล้ว ยังมีฝีมือในเชิงช่างหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นช่างไม้ ช่างปูน แม้กระทั้งการออกแบบบ้านเรือน หรือวัดวาอารามตลอดจนสลักลวดลายท่านก็ทำได้และฝีมือดีมากเสียด้วย จนกระทั่งอายุครบบวชหลวงปู่เย็นได้ทำการอุปสมบทตามประเพณีอันดีงามของชายไทยทั่วไป ณ วัดเดิมบาง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งอยู่ใกล้บ้านของท่าน หลังจากได้เป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนาสมบูรณ์แล้ว ท่านได้ย้ายไปอยู่วัดระฆังโฆสิตาราม จังหวัด ธนบุรี (ในสมัยนั้น) กับพระที่เป็นญาติของท่านรูปหนึ่ง เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย ภาษาบาลี และภาษาขอม จนกระทั่งสอบได้นักธรรมเอก และเปรียญ ๔ ประโยค ระหว่างนั้นท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ในฐานะนักเทศน์ฝีปากเอก ที่ใดมีงานมงคลต่างๆ หรือแม้กระทั่งงานศพ หากประชาชนรู้ว่าได้นิมนต์มหาเย็นมาเทศน์ด้วยไม่ว่าอยู่ใกล้อยู่ไกลก็หลั่งไหลมาฟังเทศน์กันอย่างล้นหลาม ธุดงค์ลึกลับ สมัยที่หลวงปู่เย็นยังจำพรรษาอยู่ที่วัดระฆังฯ นั้น วันหนึ่งท่านเห็นพระธุดงค์รูปหนึ่งเดินแบกกลดสะพายบาตรผ่านมา เกิดความรู้สึกเลื่อมใสในบุคลิกของท่าน จึงเข้าไปกราบนิมนต์ขอให้พระธุดงค์เข้ามาพักที่กุฎิก่อน และให้การต้อนรับสู้อย่างแข็งขัน ระหว่างการสนทนาตอนหนึ่ง หลวงปู่เย็นได้ขอให้พระธุดงค์เล่าถึงการเดินธุดงค์ของท่าน พระธุดงค์ก็มีเมตตาเล่าถึงการออกธุดงค์ไปยังเมืองลาว ต้องเดินผ่านเข้าไปยังหมู่บ้านหนึ่งที่มีชื่อว่า “บ้านแก้ว” ซึ่งเป็นที่เลื่องลือในเรื่องยาพิษยาสั่ง คนแปลกหน้าผ่านเข้าผ่านไปในหมู่บ้านเป็นต้องถูกลองยาเสมอ น้อยคนนักจะออกมาได้อย่างปลอดภัย หลวงปู่เย็นได้ฟังดังนั้นเกิดความสงสัยจึงถามท่านว่า “ท่านไม่กลัวเขาทำให้ตายหรือ” “เขาทำให้ตาย กินข้าวได้เราไม่กลัว” พระธุดงค์ตอบเป็นปริศนา หลวงปู่เย็นแม้ว่าจะไม่เข้าใจคำตอบกระจ่างนัก แต่ก็มิได้ซักถามต่อเมื่อได้สนทนาต่อไปเรื่อยๆ จึงรู้ว่าพระธุดงค์รูปนั้นไม่ใช่พระธรรมดา แต่เป็นพระอภิญญาที่เรืองวิทยาคมยิ่งรูปหนึ่ง จึงไม่เกรงกลัวต่ออะไรทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นอันตรายจากสัตว์ร้าย ไข้ป่า หรือแม้กระทั่งคน ท่านได้ธุดงค์มาแล้วแทบจะทั่วแผ่นดินไทยยังไปถึงเมือง ญวน เขมร ลาว และพม่า ก่อนจะจากกัน พระธุดงค์ได้มอบของวิเศษอย่างหนึ่งไว้ให้หลวงปู่เย็นบอกว่าเป็นแก้วสารพัดนึก สามารถบันดาลให้เป็นไปตามปรารถนาได้ทุกประการ

    มรณภาพด้วยอาการสงบ โดยท่านมีโรคประจำตัวคือระบบขับถ่ายไม่ปกติ โรคหอบ โรคถุงลมโป่งพอง ในวันอาทิตย์ที่ ๑๒ พฤกษภาคม ๒๕๓๙ เวลา ๑๓.๔๕ น. รวมอายุได้ ๙๔ปี ๒เดือน ๑๑ วันสรีระของท่านหลังจากสวดอภิธรรม บำเพ็ญกุศลแล้วนำมาบรรจุใส่โลงแก้วประดิษฐานไว้ที่วัดสระเปรียญ เพื่อให้สาธุชามาสักการะขอพรกันอย่างสม่ำเสมอ


    ประวัติหลวงปู่
    - https://www.tnews.co.th/variety/207860


    สภาพสวยกล่องเดิมๆจากวัด พิมพ์คมชัดลึกพุทธคุณและศิริมงคลดีนักแล แบ่งให้บูชา 345 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณJae จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2022
  5. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,857
    ค่าพลัง:
    +14,116

    รายการจัดส่งเคอรี่ 16/06/2565



    คุณคมกฤช RKKU000072925Y4
    คุณทวี RKKU000072926K5
    คุณธนกฤต RKKU000072927CB
    คุณพิสุทธิ์ศักดิ์ RKKU0000729289M





    ***สรุปรายการที่ หน้า1 ครับผม***
    Tel: 086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    Line id : engiman_nu

    s0j0-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif
     
  6. supachaipnu

    supachaipnu ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,369
    ค่าพลัง:
    +7,301
    close
    2464.The last หายากสร้างน้อย พระร่วงทรงพล วัดสัมพันธวงศ์
    เจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต,ลพ.น้อย อธิษฐานจิตเต็มวาระ

    แบ่งให้บูชา 550 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)
     
  7. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,857
    ค่าพลัง:
    +14,116
    2467.ยอดปาฏิหาริย์ พระยอดธง หลวงพ่อยี วัดดงตาก้อนทอง
    สุดยอดพระเกจิยุคกึ่งพุทธกาล ผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ ที่สามารถพิสูจน์ได้

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    V3dqhJ.jpg

    พระยอดธงหลังยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ หลวงพ่อยี ปญญภาโร วัดดงตาก้อนทอง(วัดอภัยสุพรรณภูมิ) ต.ไผ่ล้อม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เนื้อทองแดงรมดำ ดำเนินการจัดสร้างประมาณปี พ.ศ.250x

    ประวัติโดยย่อหลวงพ่อยี
    หลวงพ่อยี ปญญภาโร อดีตเจ้าอาวาสวัดอภัยสุพรรณภูมิ (ดงตาก้อนทอง) ซึ่งตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 10 ต.ไผ่ล้อม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ผู้อุทิศที่ดินเพื่อสร้างโรงเรียนให้กับชุมชน ให้ลูกหลานชาวบ้านดงตาก้อนทอง และบ้านใกล้เคียงได้เล่าเรียน มาจนปัจจุบัน นับได้ว่าท่านเป็นคนดีศรีอภัยสุพรรณภูมิอย่างแท้จริง
    จากคำบอกเล่าต่างๆนั้น ทำให้ได้ทราบว่า หลวงพ่อยี เป็นชาวจังหวัดลพบุรี เมื่อเด็กๆ อายุได้ 8 ขวบ ท่านได้อาศัยอยู่กับพระภิกษุรูปหนึ่ง ไม่ทราบชื่อแน่นอน แต่หลวงพ่อยี เรียกว่า “หลวงพ่อใหญ่” ได้ธุดงค์ออกป่าหลายแห่งจนอายุได้ 21 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระ ได้ออกธุดงค์ไปเรื่อยๆตามป่าเขา ทั้งในภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ เคยไปถึงพม่า เวียงจันทน์ และมาลายู หลวงพ่อยีท่านเล่าว่า ท่านได้เดินธุดงค์หาความวิเวกจนมองเห็น นรก สวรรค์ ยามที่ท่านออกโปรดสัตว์ในตอนเช้า จะมีเทวดา นางฟ้ามาตักบาตรให้ตลอดเวลา ได้บวชเป็นพระถึง 28 พรรษา อายุได้ประมาณ 50 ปี เมื่อเล็งเห็นว่าตนยังมีกรรมอยู่จำเป็นต้องลาสิกขาบทออกมาเป็นฆราวาส หลังจากนั้นก็ออกท่องเที่ยวไปหลายจังหวัด ใช้ชีวิตแบบฆราวาสเต็มที่ จนครั้งสุดท้ายได้มาหักร้างถางพง ณ บริเวณที่เป็นวัดดงตาก้อนทองนี้ สมัยนั้นยังเป็นป่ารกชัฎอยู่ มีที่ดินทั้งหมด 565 ไร่ เคยประกอบอาชีพเป็นอาจารย์สัก อยู่ยงคงกระพันชาตรี ให้กับลูกศิษย์ลูกหาอยู่พักหนึ่ง ต่อมาได้ออกบวชอีกเป็นครั้งที่ 2 หลวงพ่อยีได้ตกลงใจยกที่ดินถวายเป็นของสงฆ์เสียส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็ให้คนเช่าต่อไป


    สิ่งก่อสร้างที่สำคัญที่สุดของวัดดงตาก้อนทอง คือพระอุโบสถ ใช้เวลาในการสร้างจริงๆ เพียง 1 ปี 6เดือน เท่านั้นแต่ในการรวบรวมปัจจัยมาเป็นค่าวัสดุและแรงงานใช้เวลานานพอสมควรที เดียว งบประมาณในการก่อสร้างสูงถึง 6-7 ล้านบาท การขนส่งวัสดุอุปกรณ์ต้องใช้ทางเกวียน เพราะสถานที่ในการก่อสร้างนั้นอยู่ไกลมาก อย่างไรก็ตาม ด้วยบารมีของหลวงพ่อยี งานก่อสร้างสำเร็จเรียบร้อยทุกประการ และ ยังเป็นถาวรวัตถุที่งดงามอยู่มาตราบจนทุกวันนี้ ตัวโบสถ์กว้าง10 วา ยาว 20 วา สูง 12 วาชั้นบนเป็นโบสถ์ ชั้นล่างใช้ทำกิจกรรมทางศาสนาแทนศาลาการเปรียญได้ นับว่าเป็นโบสถ์อเนกประสงค์หลังหนึ่ง สิ่งก่อสร้างอื่นๆภายในวัดนั้นมีปริศนาธรรมอยู่หน้าโบสถ์ คือมีรูปปั้นพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดใหญ่ 1องค์นั่งบังพระพุทธรูปขนาดเล็กไว้ ปริศนาธรรมนี้ผู้พบเห็นก็ขบคิดกันเอาเอง อีกด้านหนึ่งมีรูปปั้นคนขี่ช้าง ถัดมาด้านซ้ายมือเป็นป่ามะม่วงหนาทึบมีพระพุทธรูปในอริยาบทต่างๆ ตั้งเรียงรายเป็นระยะๆ มีรูปเคารพของศาสนาพราหมอยู่หน้ากุฏิพระ มีโรงครัวขนาดใหญ่โต แสดงถึงจำนวนญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดนี้ซึ่งเคยรุ่งเรืองในอดีต

    ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงพ่อยี เช่นคุณสมหมาย - คุณณรงค์ศักดิ์ ตะละภัฏ คุณบรรยง ณ บางช้าง และลูกศิษย์อื่นๆอีกมากมาย ก็สามารถที่จะยืนยันได้เป็นเสียงเดียวกันว่า หลวงพ่อยีท่านมีอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์สูงส่งมากเพียงใด

    ในระยะที่ผู้คนฮือฮากันถึงเรื่องความมหัศจรรย์ที่หลวงพ่อยีท่านได้กระทำนั้นพระราชมุนี(โฮม โสภโณ)แห่งวัดประทุมวนารามก็เป็นพระเถระผู้ใหญ่รูปหนึ่งที่ต้องมาพิสูจน์ถึงความเท็จจริงนี้ให้ประจักษ์ หลวงพ่อถาวร ซึ่งในขณะนั้นเป็นศิษย์ใกล้ชิดของพระราชมุนีโฮม ก็ได้ติดตามมาด้วย และภายหลังก็ได้มาที่วัดดงตาก้อนทองอีกหลายครั้งเพื่อศึกษาเรื่องอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์กับหลวงพ่อยี จนกระทั่งได้ประจักษ์แจ้ง ได้รู้ได้เห็นเป็นที่ยอมรับว่า ทุกสิ่งเป็นจริงทุกประการไม่มีสิ่งใดเคลือบแคลงสงสัยอีกเลย

    การแสดงอิทธิปาฎิหาริย์ของท่าน ช่วง 2500 - 2512
    ถูกนักเขียน นสพ.โจมตีอย่างหนัก หาว่าท่านเล่นกล หลอกลวงประชาชน แต่ท่านเหล่านั้นต่างก็ประสบเหตุมีอันเป็นไป ต่างๆ นาๆ ตายก็มี ไม่ตายแต่ป่วย ทนทุกข์ทรมานก็มี
    ผลจากการโจมตีในหน้าหนังสือพิมพ์ ทำให้หลวงพ่อยีต้องอธิกรณ์ ถูกบังคับข่มขู่ให้ถึงแก่ความตาย ท่านจึงนุ่งห่มขาว สมเด็จพระสังฆราชฯ ได้ส่งหลวงพ่อโฮมไปสอบ แต่ไม่มีข้อที่จะต้องอธิกรณ์ และได้บวชกลับคืน แปรญัตติเป็นพระภิกษุในคณะธรรมยุติกาย
    นับเป็นเรี่องน่าสังเวชที่เราท่านทั้งหลาย ควรถือเป็นคติว่า ถ้าฆราวาสไม่รู้จริง อย่าพึ่งไปกล่าวโทษให้ร้ายพระสงฆ์ ถึงอย่างไรท่านก็ถือศีล ปฎิบัติดีกว่าฆราวาส



    คุณวิเศษของหลวงพ่อยี ที่เห็นเป็นที่ประจักษ์
    - ยืดเหรียญบาทได้ยาวเป็นฟุตกลายเป็นคำบริสุทธิ์
    - เสกกระดาษให้เป็นธนบัตรใลละร้อยแจกญาติโยม นำไปเป็นขวัญถุง หรือใช้ซื้ออะไรก็ได้
    - เสกข้าวสาร ในขันให้เป็นเม็ดทองคำ แจกจ่ายให้ลูกศิษย์ไว้เป็นของศักดิ์ิทธิ์-เมตตา
    - เสกใบไม้ให้เป็น ธนบัตรสีเขียว เป็น กบ ปลา แกงกินได้ กินไม่หมดจะกลับกลายเป็นใบไม้เหมือนเดิม
    - ตกเบ็ดบนต้นไม้ มีปลามาดิ้นกระแดวๆ มากมาย
    - บิณฑบาตจากเทวดา ได้ข้าวทิพย์ร้อนๆ หอมฟุ้งเต็มบาตร มีข้าวสวย ข้าวผสมงา ข้าวผสมถั่ว
    - ปลูกข้าวหน้าโบสถ์ วันเดียวเก็บเกี่ยวได้
    - เรียกตะกรุดทองคำ 3-5 บาท มาแจกจ่ายลูกศิษย์
    - เรียกพระเครื่องจากอากาศแจกจ่ายญาติโยม
    - มีหูทิพย์ ตาทิพย์ รู้ที่ฝังสมบัติ
    - แยกร่างไปปรากฎหลายที่ ไกลแสนไกล ขณะที่ท่านนั่งอยู่กับที่
    - สามารถย่นระยะทางที่ไกลแสนไกล ให้ไกล้ได้
    - ล่องหนหายตัวได้ในพริบตา โดยไม่ต้องใช้กำบังหรือความมืด
    - ทำผ้าสีต่างๆ ให้กลายเป็นผ้ายันต์ได้นับพัน นับหมื่นผืน
    - ข้ามห้วย-แม่น้ำ โดยไม่ใช้เรือข้ามฟาก
    - รักษาโรคร้ายแรงให้หายขาดได้ในพริบตา
    - เอาปลาช่อนที่ตากแห้งเป็นริ้วๆ โยนลงแม่น้ำกลายเป็นปลาช่อนหลายตัวแหวกว่ายมีชีวิตชีวา
    - ใช้หม้อใบเล็กๆ 2ใบ หุงข้าว และแกง เลี้ยงคนได้นับร้อย โดยข้าว และแกงไม่หมดสักที
    - มีวาจาศักดิ์สิทธิ์สั่งให้โชคลาภ ได้เลื่อนยศ ตำแหน่ง หรือรอดพ้นากภัยพิบัติต่างๆ จากร้ายกลายป็นดี
    - บันดาลให้รูปปั้นแม่พระธรณี ที่อยู่หน้าวัดดงตาก้อนทอง มีน้ำไหลพวยพุ่งออกมาจากมวยผม ทั้งๆที่มวยผมไม่มีท่อน้ำ น้ำเย็น จืดสนิท มีกลิ่นหอมๆ ดื่มได้ และมีรสชาดดี
    - วัตถุที่เสกให้เป็นทองคำ อยู่ได้ 600ปี ครบแล้วจะกลับดืนสู่สภาพเดิม



    เรื่องเล่าจากปากคำผู้ประสบเหตุ
    - จากคำให้สัมภาษณ์ของอธิบดีกรมการศาสนา
    คือพันเอกปิ่น มุทุกันต์ เมื่อปี ๒๕๐๘ หลังจากไปสอบสวนกรณีหลวงตายีถูกหนังสือพิมพ์โจมตี ว่า "หลวงพ่อยีได้นำบาตรมาให้ตนดู และตนได้เป็นคนเช็ดบาตรด้วยตนเองทีเดียว หลวงพ่อยี อุ้มบาตรออกไปยืนที่นอกชานกุฏิห่างจากผู้สังเกตการณ์ ไม่ถึง 10 เมตร ท่านยืนนิ่ง หันหน้าไปแต่ละทิศ แล้วเปิดฝาบาตร ทำนองรับบาตรจากผู้ใส่เหมือนกับที่เราใส่บาตรทุกอย่าง"
    แล้วหลวงพ่อยีก็เรียกอธิบดีกรมการศาสนาเข้าไปหา ท่านส่งบาตรให้ พอยื่นมือไปรับมารู้สึกว่าบาตรหนักอึ้ง เปิดฝาบาตรดูปรากฏว่ามีข้าวสุกร้อนๆ เต็มบาตร มีกลิ่นหอมอบอวล เป็นข้าวชนิดมันปู กันบาตรมีลูกประคำทองอยู่ 2 ก้อน ขนาดโตกว่าเม็ดข้าวโพด ซึ่งภายหลังเมื่อได้นำเข้ากรุงเทพฯ ให้ช่างทองบ้านหม้อดูก็เป็นทองคำบริสุทธิ์
    นอกจากจะพิสูจน์เรื่องนี้แล้วหลวงพ่อยียังเสกเหรียญเงินให้เป็นทองก็ได้ด้วย หลวงพ่อท่านแบ่งให้อธิบดีกรมการศาสนาครึ่งหนึ่ง ให้ประธานศาลฎีกาครึ่งหนึ่ง ครั้งเมื่อนำไปพิสูจน์ที่ร้านทองก็ปรากฏว่าเป็นทองคำบริสุทธิ์ เช่นเดียวกัน
    จากการที่ท่านสร้างอุโบสถ์นี้ทำให้ท่านต้องเดินทางไปกรุงเทพฯ บ่อยๆ สถานที่พักของท่านก็คือที่โรงเรียนตะละภัฎศึกษา การแสดงฤทธิ์อภิญญาของท่านก็กระทำเป็นประจำจนถึงบั้นปลายชีวิต หลวงพ่อถูพวกมิจฉาทิฎฐิ กล่าวหาว่าท่านหลอกลวง แต่ด้วยสัจจะบารมีของท่าน อิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ ที่ท่านแสดงให้ปรากฏก็เป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่บุคคลสำคัญๆ ระดับประเทศในขณะนั้น เช่น จอมพลถนอม กิตติขจร รองนายกรัฐมนตรี นายสัญญา ธรรมศักดิ์ ประธานศาลฎีกา พันเอกปิ่น มุทุกันต์ อธิบดีกรมการศาสนาและนายประกอบ หุตะสิงห์ อธิบดีศาลอุทธรณ์ เป็นต้น


    - โยม ผวน โตมา ศิษย์ผู้หนึ่งของหลวงพ่อยีได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะมาเป็นโบสถ์หลังนี้หลวงพ่อยีได้ปัจจัยในการสร้างโบสถ์มาจากการสร้าง อิทธิฤทธิ์ต่างๆ ช่วยให้ลูกศิษย์มีฐานะร่ำรวยขึ้นแล้วบรรดาลูกศิษย์เหล่านั้นก็นำเงินไปช่วย ท่าน ภายหลัง ท่านสามารถเสกกระดาษให้เป็นใบละร้อย เสกดินเป็นทองคำ เสกใบไม้ให้เป็นเงิน หรือแม้แต่เสกใบไม้ให้ เป็นกบนำมาทำอาหารกินอย่างเอร็ดอร่อยก็เคยปรากฏมาแล้วหรือเรื่องการบิณฑบาตร ข้าวทิพย์จากเทวดาก็ตามหลวงพ่อท่านออกเดินห่างจากครัว ไม่ถึง 10 เมตร ท่านยืนทำสมาธิที่ต้นมะม่วงใหญ่ ไม่นานนักก็กลับมาพร้อมด้วยข้าวสวยร้อนๆ เต็มบาตร ข้าวทิพย์นี้มีกลิ่นหอมแรงทิ้งไว้ก็ไม่บูดแต่จะแห้งไปเองเหมือนข้าวตาก

    - พอต้นปี 2531 หลวงพ่อถาวร ก็มาที่วัดดงตาก้อนทองประกาศว่าจะทะนุบำรุงวัดดงตาก้อนทองซึ่งในขณะนั้นเกือบจะเป็นวัดร้างด้วยการนำพระภิกษุ สามเณรมาจำพรรษาที่นี่ และจะทำให้วัดเป็นศูนย์กลางของชุมนุมชน
    โยมผวนขนลุกซู่ด้วยความยินดี ยกมือท่วมหัวว่าลูกรอดตายแล้ว หลวงพ่อมาโปรดลูกแล้ว ด้วยปฏิปทาที่แน่วแน่มั่นคง และจริยวัตรที่งดงามของหลวงพ่อถาวร ทำให้เกิดศรัทธาปสาทะแก่โยมผวนเป็นล้นพ้น ดังนั้นสมบัติต่างๆ ของหลวงพ่อยีที่เกิดจากอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ของท่าน มีเก็บรักษาไว้มากมายเพียงใด โยมผวนนำมาน้อมถวายให้แก่หลวงพ่อถาวร จนหมอสิ้น แม้กระทั่งข้าวทิพย์แห้ง ที่นางได้เก็บรวบรวมไว้นับสิบปี
    ก็นำมาถวายด้วย วันหนึ่งหลวงพ่อถาวร ท่านได้ทดลองอะไรบางอย่าง ด้วยการนำข้าวทิพย์มาหุงผสมกับข้าวธรรมดาวันนั้นปรากฏว่า กุฏิสุวรรณเนตรหอมตระลบอบอวลไปทั้งกุฏิ เพราะกลิ่นข้าวทิพย์โชยขจรขจายไปทั่ว ทำความแปลกประหลาดมหัสจรรย์แก่ผู้ได้พบเห็นเป็นยิ่งนัก หลวงพ่อถาวรย้ำว่า “ของแท้ ของจริง พิสูจน์ได้ตลอดเวลา”



    กาลมรณภาพ
    หลวงพ่อยี มรณภาพ เมื่อปี พ.ศ. 2515 เก็บศพใส่โลงทองไว้ในกุฏิทางด้านจังหวัดพิจิตร ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ได้สั่งเสียไว้กับศิษย์ใกล้ชิดคือ โยมผวน โตมา ถึงเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับวัดดงตาก้อนทองให้โยมผวน เป็นผู้ดูแลรักษาโบสถ์นี้ไว้อย่าไปอยู่ที่อื่นรอจนกว่าหลวงพ่อที่ 2 จะมารับช่วงต่อ พอต้นปี 2531 หลวงพ่อถาวร ก็มาที่วัดดงตาก้อนทองประกาศว่าจะทะนุบำรุงวัดดงตาก้อนทองซึ่งในขณะนั้น เกือบจะเป็นวัดร้างด้วยการนำพระภิกษุ สามเณรมาจำพรรษาที่นี่


    ต่อมาเมื่อวัดดงตาก้อนทอง มีพระภิกษุสงฆ์มาจำพรรษา วัดอภัยสุพรรณภูมิ หรือ วัดดงตาก้อนทอง ได้พัฒนาขึ้นในทุกๆด้าน โดยการนำของพระพิสาลพัฒนาทร หรือหลวงพ่อถาวร จากวัดประทุมวนาราม กรุงเทพมหานครได้ทำการพัฒนาขึ้นมามากอย่างเห็นได้ชัด ในขณะนี้วัดอภัยสุพรรณภูมิมี พระสายันต์ สญญโม เป็นเจ้าอาวาส ในปัจจุบันท่านเจ้าอาวาสได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูอภัยธรรมโสภณ


    พระคาถาหลวงพ่อยี (ควรสวดภาวนาก่อนนอน)
    จุดธูป 9 ดอก
    ตั้งนะโม 3จบ


    บทที่ 1.
    มหาปัญโญ มหาเตโช อุกาสะวันทามิ
    ภันเต อาจาริโย ปุณนะยีติ
    { ภาวนา 3 จบ}


    บทที่ 2.
    นะภันทะลัง กัมมัง อะโหสิภุมิมาเต
    นะภันเต จะตุนะ ปัจจะ นะมามิ
    { ภาวนา 3 จบ}


    บทที่ 3.
    โอมพระเจ้าอยู่เบื้องตา พระธรรมเจ้าอยู่เบื้องปาก
    ตัวกูขอฝากไว้ในดวงจิต เอหิมามะ กะรินิติ พรหมมัสสามิ
    จิตกูนิ่งอยู่ที่พุทธัง ตัวกูอยู่ที่พระอรหัง เอหิมามะ
    {ภาวนา 108 จบ}


    บทที่ 4.
    มะธะนะ ภันธะนัง นิมิตตัง เตมหาภันธะนัง
    นะนิมิต ตัสสะ ปุณนะมิ นังกะโรมิ
    { ภาวนา 3 จบ}


    ขอขอบพระคุณ : เจ้าของข้อมูล และไฟล์ภาพด้วยนะครับ

    สภาพสวยขลังผิวหิ้ง ผิวไฟแดงๆตามซอกยังมี เก่าเก็บเนื้อหาเก่าถึงยุค พิมพ์คมชัดลึก พุทธคุณเหนือคำบรรยาย ประจุด้วยอิทธิ์ที่ยอดยิ่งเหนือสิ่งใด แบ่งให้บูชา 666 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณshaj จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2022
  8. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,973
    ค่าพลัง:
    +6,570
    ขอจองรายการนี้ครับ
     
  9. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,516
    ค่าพลัง:
    +30,848
    หวัดดีครับ.jpg
     
  10. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,857
    ค่าพลัง:
    +14,116
    2468.The last เหรียญหลวงพ่อเงินใบมะขาม รุ่นช้างคู่ปี26 วัดท้ายน้ำ
    ลป.ขาว,ครูบาชัยวงศา,ลพ.คง,ลพ.สนิท,พ่อท่านคลิ้ง ร่วมเสกสุดยอดมหาพิธี

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    V3DdXz.jpg

    image-7a2f_57bc4f01-jpg-jpg-jpg.jpg
    เหรียญหลวงพ่อเงินใบมะขาม รุ่นช้างคู่ วัดท้ายน้ำ(วัดเก่าหลวงพ่อเงิน) จังหวัดพิจิตร เนื้อทองแดงผิวไฟ บล็อกนิยม จมูกแตก ดำเนินการจัดสร้างเมื่อ วันที่ 23 มกราคม ปี พ.ศ.2526 ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 ปีกุน ณ.อุโบสถวัดท้ายน้ำ

    วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง
    - เพื่อนำปัจจัยไปสร้างสะพานข้ามแม่น้ำหน้าวัดท้ายน้ำ
    - บูรณปฏิสังขรณ์วัดท้ายยน้ำ อันเป็นวัดเก่าของหลวงพ่อเงิน
    - จัดตั้งกองทุนมูลนิธิส่งเสริมการศึกษา


    ทำพิธีมหาพุทธาภิเษก วันที่ 23 มกราคม 2526 เวลา 15.09น. - 01.29น.
    รายนามพระคณาจารย์ ลงอักขระแผ่นเงิน แผ่นทอง ปลุกเสก อาทิ

    1.หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองพล
    2.ครูบาพรหมา พรหมจักโก วัดพระพุทธบาทตากผ้า

    3.ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    4.ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
    5.ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง
    6.หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์
    7.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง
    8.หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
    9.หลวงพ่อถิร์ วัดป่าเลไลย์
    10.หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
    11.หลวงพ่อยุทธ วัดเขาไม้แดง
    12.หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย
    13.หลวงพ่อเส็ง วัดป่ามะไฟ
    14.หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง
    15.หลวงพ่อบุญ วัดมะนาว
    16.หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง
    17.หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
    18.หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
    19.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    20.หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม
    21.หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง
    22.หลวงพ่อตุ๊เจ้าป่า วัดดาวดึงษาราม
    23.หลวงพ่อภา วัเทพพนม
    24.หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร
    25.หลวงพ่อเกตุ วัดศรีเมือง
    26.หลวงพ่อสำลี วัดซำบอน
    27.หลวงพ่อเส็ง วัดบางนา
    28.หลวงพ่อคล วัดวังสรรพรส
    29.หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู
    30.หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน
    31.พระอาจารย์ไพรินทร์ วัดพระศรีมหาธาตุ

    ขอขอบพระคุณ : เจ้าของข้อมูลด้วยนะครับ

    สภาพสวยเดิมกริ๊บๆผิวน้ำยาและผิวไฟแดงเดิมๆ บล็อกนิยม จมูกแตก พิมพ์คมชัดลึกไม่ผ่านการบูชา เหรียญสวยศิลป์ดี พิธีใหญ่พุทธคุณสูง แบ่งให้บูชา 300 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณJae จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2022
  11. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,857
    ค่าพลัง:
    +14,116
    2469.คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม พระนาคปรกชัยฤทธิ์
    หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติการาม ศิษย์เอกหลวงพ่อกลั่นผู้เรืองนามของสยามประเทศ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    VToUID.jpg
    พระนาคปรกชัยฤทธิ์ หลวงพ่ออั้น คนฺธาโร วัดพระญาติการาม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื้อทองผสม บรรจุกริ่ง ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2500

    หลวงพ่ออั้น คันธาโร วัดพระญาติการามท่านเป็นศิษย์เอกของ หลวงพ่ออุปัชฌาย์กลั่น วัดพระญาติการาม ท่านได้มีส่วนสำคัญในการสร้างเหรียญเสมารุ่นแรกของหลวงพ่อกลั่น เมื่อปีพ.ศ.2469 ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆจากหลวงพ่อกลั่นโดยตรง

    วัตถุมลคลรุ่นต่างๆที่หลวงพ่ออั้นท่านสร้างไว้ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ครบ ทุกด้านไม่ว่าจะเป็น คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม หลวงพ่ออั้น ท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูงมากใครมาขอให้ท่านช่วยอะไรท่านช่วยได้ท่านช่วยหมด รับงานพุทธาภิเษกไม่ว่าใกล้-ไกลหลวงพ่อไม่เคยปฏิเสธ ผมเคยได้รับฟังการบอกเล่าจากลูกศิษย์รุ่นเก่าของหลวงพ่ออั้นถึงเรื่องการ ปลุกเสกวัตถุมงคลของวัดพระญาติ ลูกศิษย์ถามหลวงพ่ออั้นว่าทำไมหลวงพ่อถึงต้องเสกนานๆและเสกทุกวัน ได้รับคำตอบจากหลวงพ่อว่า ที่ต้องเสกนานๆก็เพราะว่าไม่ให้ขาดตกบกพร่องตรงไหนตรงไหนขาดก็เติมให้เต็ม เต็มแล้วก็ได้เพิ่มเข้าไปอีก



    ข้อมูลประวัติหลวงพ่ออั้น คนฺธาโร
    เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2435 โยมบิดาชื่อ นายคล้าย ศุภสุข โยมมารดาชื่อ นางสมบุญ ศุภสุข ส่วนชาติภูมิของท่านคือบ้านท่าหิน ต.ธนู อ.อุทัย อยุธยา มีพี่น้องร่วมบิดา-มารดาทั้งหมด 7 คนด้วยกัน (ไม่นับรวมตัวท่านซึ่งเป็นคนที่ 2) แต่ในที่นี้จะขอข้ามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไป โดยใคร่เอ่ยถึงเพียงน้องสาวที่ถัดจากท่านลงมา ซึ่งมีชื่อว่า นางฮิ่ม จันทนินทร์ เพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะมีความสำคัญตรงที่ท่านผู้นี้เป็นโยมมารดาของ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม ฐานิสฺสโร) วัดชนะสงคราม (ซึ่งเคยเอ่ยถึงอยู่หลายครั้งด้วยกัน)

    หลวงพ่ออั้น ท่านบรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดพระญาติการาม เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2456 โดยมี หลวงพ่อกลั่น ธมฺมโชติ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อฉาย คงฺคสุวณฺโณ (เมื่อครั้งยังดำรงสมณศักดิ์ที่ พระครูรัตนาภิรมย์) วัดตองปุ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ส่วนคู่สวดอีกองค์ หรือพระอนุสาวนาจารย์นั้นไม่ปรากฏชัดว่าเป็นท่านผู้ใด คงได้แต่สันนิษฐานกันเพียงว่า น่าจะเป็น พระอาจารย์รอด วิฑุโร วัดอโยธยา (ซึ่งก่อนหน้านั้นเคยอยู่วัดกะสังข์ และเป็นอาจารย์สอนมูลกัจจายน์ให้ท่าน หรือไม่เช่นนั้นก็อาจจะเป็น หลวงพ่อเลื่อง วัดประดู่ทรงธรรม) ได้รับฉายาว่า คนฺธาโร


    ท่านเจริญงอกงามในพระพุทธศาสนาเรื่อยมา จนเมื่อพระอุปัชฌาย์ถึงมรณภาพเมื่อ พ.ศ.2477 จึงได้ก้าวขึ้นเป็นเจ้าอาวาสสืบแทน (โดยใช้คำนำหน้านามว่า พระอธิการอั้น) ครั้นถึง พ.ศ.2478 ได้รับตำแหน่งเจ้าคณะตำบลหันตรา (โดยใช้คำนำหน้าว่า เจ้าอธิการอั้น) หลังจากนั้นอีกเพียง 2 ปี (พ.ศ.2480) ก็ได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่พระอุปัชฌาย์ สามารถให้การอุปสมบทแก่กุลบุตรในเขตปกครองได้

    หลวงพ่ออั้น มรณะภาพ เมื่อวันจันทร์ เดือนยี่ ปีวอก พ.ศ.2512 รวมสิริอายุได้ 76 ปี 55 พรรษา พระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที 2 พฤษภาคม พ.ศ.2536


    สภาพสวยเดิมผิวหิ้งผิวน้ำทองเดิม พระเก่าเก็บพิมพ์คมชัดลึก คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม แบ่งให้บูชา 450 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณshaj จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2022
  12. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,973
    ค่าพลัง:
    +6,570
    ขอจองรายการนี้ครับ
     
  13. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,857
    ค่าพลัง:
    +14,116
    2470.ผิวหิ้งเก่าเก็บของดีที่ถูกลืม(๑) ลป.หมุน เสก 9วัน9คืน
    พระสมเด็จทรงเครื่อง วัดช้าง ลป.หมุน,ลป.ลมัย,ลป.ทอง อธิษฐานจิตมหาพิธี

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    Vtoyvb.jpg

    พระสมเด็จทรงเครื่อง พระครูธวัชภัทราภรณ์(ธงชัย) หรือ อาจารย์ต๊ะ อดีตเจ้าอาวาสลำดับที่9 วัดช้าง จังหวัดนครนายก ( ท่านเป็นผู้สืบทอดตำนานการสร้าง “พระกริ่งใหญ่ วัดช้าง” อันลือลั่น จากท่านอาจารย์นิรันดร์(อ.หนู) แดงวิจิตร อาจารย์ต๊ะท่านเป็นพระหลานชายของ อ.หนู และ มีเกี่ยวพันเป็นอย่างดีกับทางวัดสุทัศน์) พระอาจารย์ต๊ะรูปนี้ไม่ธรรมดานะครับ ท่านเป็นผู้คงแก่เรียน ท่านศึกษาสรรพวิชามากมายหลายแขนง เรียกได้ว่าใครอยกาเจอของจริงๆ ต้องท่านเลย และที่สำคัญท่านละสังขารไป 5ปีสรีระไม่เน่าไม่เปื่อย

    เนื้อผงพุทธคุณ หลัง ปั๊มโค้ดตัวหนังสืออักษร (วัดช้าง ) ดำเนินการจัดสร้างขึ้น เมื่อปีพ.ศ.2544 นำเข้าพิธีไหว้ครู ที่วัดสุทัศน์เทพวราราม กทม.



    พิธีพุทธาภิเษก
    วาระที่ : 1
    - หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน อธิฐานปลุกเสกก่อนงานพิธีไหว้ครู วัดสุทัศน์เทพวราราม 9 วัน 9 คืน


    วาระที่ : 2
    - ประกอบพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ พิธีไหว้ครู วัดสุทัศน์เทพวราราม
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2544 อธิษฐานจิตปลุกเสก โดย


    1. หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน อายุ 107 ปี พระปรมาจารย์อมตะมหาเถระ 5 แผ่นดิน
    2. หลวงปู่ลมัย ฐิตมโน อายุ 102 ปี สำนักสงฆ์สวนสมุนไพร เพชรบูรณ์ พระผู้เชี่ยวชาญในกสิณสมาบัติ และวิชาปรอท เล่นแร่แปรธาตุ
    3.หลวงปู่ทอง อายุ 96 ปี วัดจักรวรรดิ กทม. สหธรรมิกร่วมสมัยกับหลวงปู่หมุน ผู้เคยทดลองวิชาอาคมในยุคอินโดจีน

    พระเครื่องรุ่นนี้ ท่านเจ้าคุณ วัดสุทัศน์ เตรียมไว้แจกแก่ผู้ที่มาร่วมงานพิธีไหว้ครูในครั้งนี้

    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก
    - เว็บไซต์สายตรง พระเครื่องหลวงปู่หมุน
    - https://tnews.teenee.com/weird/8472.html
    - https://www.komchadluek.net/amulet/152400



    พระครูธวัชภัทราภรณ์(อ.ต๊ะ)
    พระครูธวัชภัทราภรณ์(ธงชัย) หรือ อาจารย์ต๊ะ อดีตเจ้าอาวาสวัดช้าง ท่านเป็นผู้สืบทอดตำนานการสร้าง “พระกริ่งใหญ่ วัดช้าง” อันลือลั่น เป็นที่รู้จักกันดีในวงการผู้ที่นิยมพระกริ่งในเมืองไทย ทั้งนี้พระกริ่งวัดช้างถือเป็นพระกริ่งที่มีความเป็นมาเกี่ยวพันกับท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช(แพ) วัดสุทัศน์เทพวราราม อดีตพระเถระผู้เรื่องวิทยาคมอีก รูปหนึ่งของชาวอำเภอบ้านนา นครนายก

    ประวัติพอสังเขป
    พระอาจารย์ต๊ะ วัดช้าง บ้านนา เมื่อสมัยท่านเป็น เลขารองเจ้าคณะอำเภอบ้านนา ในสมัยที่ พระครูภัทรกิจโกศล (ภู) ท่านได้ศึกษาท่องจำตำราของท่านอาจารย์เทพ สาริกาบุตร วันหนึ่งในขณะที่อยู่ในโบสถท่านก็ได้ท่องมนต์ของอาจารย์เทพ สาริกาบุตรอยู่นั้น หลวงพ่อภูท่านได้เดินมาในโบสถ์ท่านได้ยิน อาจารย์ต๊ะกำลังท่องมนต์อยู่นั้น หลวงพ่อภูท่านบอกให้ไปหาที่กุฏิท่านหลังจากทำวัตรเย็นเสร็จแล้ว อาจารย์ต๊ะก็ได้ไปพบตามที่นัดหม ายไว้ หลวงพ่อภูท่านก็ให้ไปหยิบใบพลูมา 1 ใบ แล้วท่านก็ถาม อาจารย์ต๊ะว่าจะเอาเปรี้ยวหรือเอาหวาน อาจารย์ต๊ะท่านตอบว่าเอาหวาน หลวงพ่อภูท่านก็เอาใบพลูมาฉีกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ท่านหยิบส่วนแรก แล้วเสกลงในส่วนนั้น ส่งให้ อาจารย์ต๊ะ ท่านเคี้ยว ปรากฏว่ารสชาติออกมาหวาน แล้วท่านก็เสกลงที่ใบพลูส่วนที่เหลือแล้วให้ อาจารย์ต๊ะเคี้ยวปรากฏว่ารสเปรี้ยว ด้วยเหตุนั้นมาทำให้อาจารย์ต๊ะท่านเกิดความตั้งใจขอเรียนวิชากับ หลวงพ่อภูมาโดยตลอดทุกวันหลังทำวัตรเย็นเสร็จ จนสามารถสืบทอดสรรพวิชาจากหลวงพ่อภูมาอย่างมากมายทั้งทางตรงและทางอ้อม

    หลังจากนั้นต่อมาท่านติดตาม หลวงพ่อภูไปนั่งปรก พุทธาพิเษกวัตถุมงคลตามวัดวาอารามต่างๆที่ได้รับนิมนต์ ในยุคสมัยนั้น จนท่านอาจารย์ต๊ะได้มีโอกาสไปพบกับ หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ ผู้โด่งดังแห่งยุคในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระนารายณ์ พระบุตร – ลบ หนุมาน ราชสีห์ ท่านก็ไปขอศึกษาร่ำเรียนวิชา พระนารายณ์ หนุมาน และวิชาสักยันต์ จากหลวงพ่อมาโดยตรง และนอกเหนือจากนั้นท่านร่ำเรียนวิชา เสกปลัดขิกจาก ปู่พาน ศิษย์ฆราวาสคนเดียวของหลวงพ่อเกิด วัดสะพาน ตำรานี้เป็นตำราของหลวงพ่อเหลือวัดสาวชะโงก

    ต่อมาท่านเดินทางไปเรียนวิชา ทำตะกรุดหน้าผากเสือ และเสกเสือ จาก หลวงพ่อขวัญ วัดอรุณ ฯ ท่านได้เรียนมาจากหลวงปู่นาค และฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ
    หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา ตามให้ท่านไปเรียนกับท่าน (เจ้าตำหรับ 5 ม)
    หลวงพ่อทองใบ วัดสายไหม ท่านไปเรียน วิชาทำน้ำมนต์ เสกนะ หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ ท่านก็ไปฝากตัวเป็นศิษย์ และต่อมา อาจารย์นิรันดร์ แดงวิจิตร ผู้เป็นตาเคยเรียก อาจารย์ต๊ะท่านไปอาบน้ำมนต์ครอบครูวิชาและตำราเทพระกริ่ง ให้เมื่อ ลอยกระทงปี 36 และปี 40 หลังจากนั่งปรกวัดสุทัศน์เทพวรารามเสร็จแล้ว

    และได้เรียนตำราเสกช้าง เพิ่มเติมจากตำราเก่าของวัดช้าง จาก หลวงพ่อฉาบ วัดคลองจันทร์ จังหวัดชัยนาถ
    อีกทั้งท่านได้ร่ำเรียนวิชาลงตะกรุดบังปืนใบลานจากหลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ ราชบุรี พระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มแม้น้ำแม่กลอง จากหลวงพ่อมาโดยตรงอีกมายมาย และไปมาหาสู่เป็นประจำ หลวงพ่อสง่าท่านรักและเมตตา อาจารย์ต๊ะเป็นอย่างมาก ที่มีงานพุทธาพิเษกพระกริ่งของทางวัดช้างครั้งใด หลวงพ่อท่านจะเมตตามานั่งปรกให้ทุกครั้ง
    ท่านไปศึกษาโหราศาสตร์ กับพระมหาณัฐพงษ์ ฐิตปญฺโญ วัดชำนิหัตถการ (วัดสามง่าม) เชิงสะพานยศเส ปทุมวัน กรุงเทพฯ

    และคาดว่าท่านยังศึกษาวิชาต่าง ๆ จากพระเกจิอาจารย์อื่น ๆ อีกมากมาย ที่มิได้กล่าวมาข้างต้น
    จากหลักฐานรูปถ่ายพิธีปลุกเสกพระกริ่งของท่านไม่ว่ารุ่นใดในอดีต พระเถระคณาจารย์ที่ท่านให้ความเคารพนับถือ ที่นอกเหนือจากที่กล่าวมานั้น โดยมี หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม นครปฐม หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ หลวงพ่อถนอม วัดสุทัศน์ พระอาจารย์สาท (โม่ง) ธรรมโชติ วัดขนอนเหนือ ศิษย์และมีศักดิ์เป็นหลานชายแท้ ๆ ของหลวงพ่อพรห์ม วัดขนอนเหนือ และพระเถระสายสำนักวัดสุทัศน์เทพวราราม อีก หลาย ๆ รูป ด้วยกัน ที่มิได้เอ่ยนาม ก็เป็นพระเถระคณาจารย์ที่ท่านให้ความเคารพนับถือ และกราบอาราธนามานั่งปรกในมณฑลพิธีพระกริ่งวัดช้างของท่าน
    นับว่าเป็นที่น่าเสียดายที่ท่านมาด่วนจากไป เนื่องจากสุขภาพร่างกายท่าน มีโรคประจำตัวแทรกซ้อนมากมาย ทั้งเบาหวาน ความดัน ก่อนการเดินทางแพทย์ประจำตัวของท่านตรวจรักษาโรคประจำตัว และกำชับว่าไม่อยากให้เดินทางในช่วงนี้ แต่เนื่องจากอุปนิสัยของพระอาจารย์ท่านมักเป็นคนดื้อรั้น ไม่อยากผิดคำพูดที่รับปากว่าจะไป และท่านก็ไม่ได้นำยาที่ฉันประจำ ติดไปจึงทำให้ท่านมิอาจทนกับความทุกข์ทรมานในร่างกายของท่านได้ ท่านระสังขารไปอย่างรวดเร็วโดยที่คณะศิษย์ยานุศิษย์ของท่านทุกคนมิทันตั้งตัว อย่างไรก็ตามสิ่งที่ท่านหลงเหลือไว้ก็เป็นคุณความดี และหลวงพ่อดำศักดิ์สิทธิ์ ที่ท่านตั้งใจจัดสร้างขึ้นมาให้ชาวอำเภอบ้านนา ได้กราบไหว้บูชา อยู่ทุกวันนี้

    ท่านพระครูธวัชภัทราภรณ์ หรือพระอาจารย์ต๊ะ เข้าดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดช้างลำดับ ที่ ๙ หลังจากที่พระจารย์ต๊ะ เข้ารับตำแหน่งแล้ว ก็ได้ดำริที่จะให้มีการจัดสร้างพระกริ่งใหญ่ของวัดช้าง ขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่มีเคยการจัดสร้างพระกริ่งใหญ่วัดช้างขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งการสร้างพระกริ่งใหญ่วัดช้างในครั้งนั้น เกิดขึ้นโดยท่านอาจารย์นิรันดร์ แดงวิจิตร หรืออาจารย์หนู ได้กราบทูลขอท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช(แพ) ให้มีการสถาปนา จัดสร้างพระกริ่งวัดช้างขึ้นมา เพื่อหารายได้มาใช้ในการก่อสร้างโรงเรียนวัดช้าง ซึ่งองค์สมเด็จพระสังฆราช(แพ) ก็ทรงพระเมตตา ประทานอนุญาต ตามคำกราบทูลขอ และได้ดำเนินจัดสร้างขึ้น โดยกำหนดให้มีการเททองหล่อพระกริ่ง ขึ้นในวันเพ็ญกลางเดือนสิบสอง ปีพุทธศักราช ๒๔๘๔ ซึ่งตรงวันประสูติของสมเด็จพระสังฆราช(แพ) และทรงเสด็จพระดำเนินมาเป็นองค์ประธานในพิธี ณ พระอุโบสถวัดสุทัศน์ฯ อีกด้วย

    การจัดสร้างพระกริ่งใหญ่วัดช้าง ขึ้นอีกในครั้งนี้ แต่เดิมพระอาจารย์ต๊ะดำริที่จะจัดสร้างรูปหล่อจำลององค์หลวงพ่อดำซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยของวัดสุทัศน์ฯ ให้ประดิษฐานอยู่ที่วัดช้างเพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปได้กราบไว้บูชา การจัดสร้างองค์หลวงพ่อดำนั้น อาจารย์ต๊ะ ได้ให้ช่างออกแบบขยายใหญ่ ขนาดหน้าตัก ๙ ศอก สูง ๑๓ ศอก แต่การจัดสร้างมีอุปสรรคมากมาย เริ่มตั้งแต่การปั้นหุ่นพระ ก็ต้องปั้นแล้วปั้นอีก เป็นเวลานานถึง ๒ ปีจึงสามารถปั้นจนแล้วเสร็จ แล้วจึงได้ทำพิธีเททองหล่อองค์หลวงพ่อดำ ซึ่งต่อมาพระเดชพระคุณพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ ประทานพระนามว่า “หลวงพ่อพระพุทธมหามุณีศรีวรเขตนายก สาธกสรรพมงคลมหาชนอภิปูชะนี”

    เมื่อหลวงพ่อดำ สร้างแล้วเสร็จ ก็มีปัญหาตามมาเนื่องจากหลวงพ่อดำเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการสร้างวิหารครอบ แต่ยังขาดทุนทรัพย์อีกเป็นจำนวนมากในการก่อสร้าง พระอาจารย์ต๊ะจึงได้ตั้งจิตอธิฐานขอให้พบกับผู้มีบุญมีจิตศรัทธามาร่วมสร้างบุญกับท่าน

    แล้วท่านก็สมความปรารถนา เมื่ออาจารย์ต๊ะได้พบกับพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ จึงได้ปรึกษาหารือถึงการก่อสร้างวิหารครอบหลวงพ่อดำ ซึ่งเป็นช่วงที่ทางวัดสุทัศน์ฯ กำลังจะจัดสร้างพระกริ่งจักรพรรดิ เพื่อฉลองชนมายุ ๗๑ พรรษาของพระวิสุทธาธิบดี พระอาจารย์ต๊ะจึงได้ถวายตำราและแนะนำให้พระเดชพระคุณเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม ได้ทำการเฉลิมพระนามพระพุทธเจ้า เพิ่มจากเดิมในสมัยกรมหลวงมรุพงษ์ศิริพัฒน์ รวมเป็น ๖๗๒ พระนาม ทั้งยังรับอาสาเป็น-านในการจาร “พระนามแดง” ( เป็นภาบาลีขอม) ลงในใต้ฐานองค์พระกริ่งจักรพรรดิ

    นอกจากนี้ยังได้ถวายมณฑลพิธีวัดช้างให้เป็นสถานที่เททองหล่อพระกริ่งจักรพรรดิ อีกทั้งพระอาจารย์ต๊ะ ยังได้ถวายชนวนมวลสาร แร่ธาตุของพระกริ่งรุ่นเก่าของวัดสุทัศน์ ที่ท่านอาจารย์หนู ผู้เป็นคุณตาเก็บรักษาไว้ ให้นำไปหล่อเป็นพระกริ่งจักรพรรดิ ซึ่งมีทั้งชนวนก้าน ชนวนแผ่นและชนวนเม็ด จำนวนเป็นกระสอบๆ

    จนถึงวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ พุทธศักราช ๒๕๔๔ ณ ตำหนักสมเด็จพระสังฆราช(แพ) คณะ ๖ วัดสุทัศน์เทพวราราม ซึ่งเป็นวันไหว้ครูของท่านอาจารย์นิรันดร์(หนู) ซึ่งในวันนั้นตรงกับวันสถาปนาพระกริ่งวัดช้าง (พ.ศ.๒๔๘๔) ซึ่งเป็นรุ่นแรก และยังตรงกับวันประสูติของสมเด็จพระสังราช(แพ) อีกด้วย โดยในวันนั้นพระวิสุทธาธิบดี ได้มีเมตตาอนุญาตให้พระอาจารย์จัดสร้างพระกริ่งวัดช้าง ขึ้นมาอีก ๑ รุ่น รวมทั้งมอบต้นแบบพิมพ์พระกริ่งใหญ่ ให้กับพระอาจารย์ต๊ะ และท่านอาจารย์หนูไปจัดสร้างพระกริ่งใหญ่วัดช้าง โดยมีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ
    ๑.เพื่อเป็นอนุสรณ์ครบรอบ ๖๐ ปี ที่อาจารย์นิรันดร์(หนู)ได้ทูลขอท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช(แพ) ให้มีการสถาปนาพระกริ่งวัดช้างขึ้น ณ.วัดสุทัศน์เทพวราราม พุทธศักราช ๒๔๘๔
    ๒. เพื่อมอบเป็นพุทธานุสรณ์ให้แก่พุทธศาสนิกชนที่ร่วมทำบุญ สนับสนุนการสร้างพระพุทธรูปใหญ่และวิหาร วัดช้าง
    ๓. เพื่อสืบอายุพระพุทธศาสนา
    ในค่ำคืนวันนั้นพระครูวัชภัทราภรณ์ หรือพระอาจาร์ต๊ะและพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคม ได้ร่วมกันการจารแผ่นพระยันต์ ๑๐๘ เพื่อเตรียมไว้ในการทำพิธีเททองหล่อพระกริ่งใหญ่วัดช้าง และมีพิธีพุทธาภิเษกน้ำทิพย์มนต์ ที่พระวิสุทธาธิบดีได้จัดถวายน้ำสรงรูปเหมือนท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช(แพ) ณ พระอุโบสถวันสุทัศน์เทพวราราม หลังเสร็จพิธี ได้มีการแจกน้ำทิพย์มนต์ในคืนศิวาราตรีนั้นให้แก่พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมในพิธีกันเป็นจำนวนมากอีกด้วย

    จากนั้นในวันที่ ๒๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๕ ตรงกับวันเสาร์ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะเส็ง มงคลฤกษ์ ๑๘.๕๕ น.ได้ประกอบพิธีเททองหล่อพระกริ่งใหญ่วัดช้าง โดยทำพิธีเททองหล่อร่วมกับพิธีเททองหล่อพระกริ่งจักรพรรดิและเททองหล่อพระพุทธรูปใหญ่องค์หลวงพ่อดำ(ส่วนพระเกศ) ซึ่งมีพระเดชพระคุณพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม เป็นองค์ประธานในพิธี

    เมื่อทำการเททองหล่อพระกริ่งใหญ่วัดช้างเรียบร้อยแล้ว จึงได้ทำการประกอบพิธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ ๒-๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๕ โดยพระวิสุทธาธิบดี เป็นองค์ประธาน มีพระเถรานุเถระผู้ทรงวิทยาคมร่วมพิธีจำนวนมาก ซึ่งพระกริ่งใหญ่วัดช้างรุ่นนี้ได้ทำการบรรจุเกศาและผงพุทธคุณของพระเดชพระคุณพระวิสุทธาธิบดีไว้ทุกองค์ มีจำนวนทั้งสิ้น ๒๕๔๕ องค์ แบ่งเป็นแบบก้นถ้วย ๕๖๐ องค์ และก้นเรียบ ๑๙๘๕ องค์
    หลังจากเสร็จพิธีพุทธาภิเษก แล้วมีการเปิดให้ประชาชนบูชา ปรากฏว่าได้มีคลื่นประชาชนจำนวนมาก ต่างหลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศเพื่อเช่าบูชาพระกริ่งใหญ่ จนบริเวณวัดและบริเวณใกล้เคียงเนืองแน่นไปด้วยศาสนิกชน นับเป็นเหตุการณ์สำคัญอีกครั้งหนึ่งที่ได้มีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของวัดช้าง

    เมื่อองค์จำลองพระพุทธรูปใหญ่(หลวงพ่อดำ)ได้มีการหล่อเสร็จสมบูรณ์ จากเงินรายได้ในการให้บูชาพระกริ่งใหญ่วัดช้าง อันถือเป็นความภาคภูมิใจและเป็นวาระอันเป็นมหากุศลอย่างยิ่งของพระอาจารย์ต๊ะ หรือ พระครูธวัชภัทราภรณ์ ที่ได้ตั้งมั่นในการดำเนินการจัดสร้าง จึงเป็นเสมือนการยกภูเขาออกจากอก จนท่านถึงกับเคยเอ่ยปากกับคนใกล้ชิดว่า “ภาระเสร็จแล้ว สบายแล้ว จะไปแล้ว จะไปพักผ่อนแล้ว ” ซึ่งหลังจากที่ท่านพระอาจารย์ปรารภเพียงไม่กี่วัน คือวันที่ ๒๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕ ท่านก็เดินทางไปอย่างสงบด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน สิริรวมอายุได้ ๓๔ ปี โดยทิ้งผลงานและคุณงามความดีไว้ให้ลูกศิษย์ลูกหาได้กราบไหว้มาจนปัจจุบันนี้

    เมื่อท่านพระอาจารย์ต๊ะมรณภาพลงแล้ว คณะกรรมการวัดช้างและลูกศิยษ์ที่เคารพนับถือ จึงได้ตกลงร่วมกันให้เก็บสังขารของท่านบรรจุไว้ในโลงศพ แล้วทำพิธีสวดพระอภิธรรมติดต่อกันตลอดมา เป็นเวลานานเกือบ ๕ ปี และมีกำหนดพระราชทานเพลิงศพในวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ แต่ก่อนจะถึงกำหนดวันพระราชทานเพลิง คือวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ คณะกรรมการและลูกศิษย์ของท่านจึงได้ทำพิธีเปิดโลงศพของท่าน แล้วทุกคนก็ต้องตกตะลึง เมื่อพบว่าสังขารของพระอาจารย์ต๊ะที่นอนสงบนิ่งอยู่ในโลงมานานกว่า ๔ ปี กลับไม่เน่าเปื่อย หรือมีกลิ่นเหม็น ร่างของท่านเพียงแค่แห้งไปเท่านั้น

    ท่านพระครูโสภณนาคกิจ อาจารย์เดช เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน จึงได้นำแผนทองคำเปลวมาปิดที่ใบหน้าของพระอาจารย์ต๊ะ และเปิดให้ประชาชนเข้ามาสักการะบูชา เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป บรรดาผู้ที่เคารพนับถือต่างเดินทางมากราบสังขารของท่านกันเป็นจำนวนมาก

    ซึ่งทางวัดก็ได้จัดให้ประชาชนเข้ามากราบไหว้เป็นเวลา ๑ วัน รุ่งขึ้นวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ เวลา ๑๖.๐๐ น.จึงได้ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพท่านพระครูธวัชภัทราภรณ์ ท่ามกลางประชาชนผู้มีจิตเคารพศรัทธาในองค์พระอาจารย์มาร่วมในพิธีนับหมื่นคน
    ข้อมูล พระครูโสภณนาคกิจ อ.เดช



    สภาพผิวหิ้งเก่าเก็บ พิมพ์คมชัดลึก ของดีราคาเยาว์ พุทธคุณล้นฟ้าราคาหลักร้อย แบ่งให้บูชา 350 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณสักการะ จองแล้วครับ)






    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2022
  14. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,857
    ค่าพลัง:
    +14,116
    2471.สวยเดิมๆมีจาร 2ที่ เหรียญพุทธะสังมิ
    หลวงตาม้า ทายาทพุทธคมหหลวงปู่ดู่ วัดสะแก

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    VtOmz2.jpg
    เหรียญพุทธะสังมิ หลวงตาม้า (พระอาจารย์วรงคต วิริยะธโร) วัดพุทธพรหมปัญโญ ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อทองแดงรมน้ำตาล ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปีพ.ศ.2551 สมัยนั้นยังเป็นสำนักสงฆ์พุทธพรหมปัญโญอยู่ ปัจจุบันเป็นวัดเเล้ว สร้างต่อจากเหรียญกายสิทธิ์อันโด่งดังเลยทีเดียว *** ด้านเหรียญมีจาร 2ที่ ซ้ายขวา ***

    พุทธศิลป์
    ด้านหน้าของเหรียญ : มี พระพุทธปางทรงเครื่องมหาจักรพรรดิ หลวงปู่ทวด และหลวงปู่ดู่
    ด้านหลังเหรียญ : ตรงกลางบรรจุพระคาถาอิติปิโส8ทิศ รอบขอบเหรียญมี คาถาพระมหาจักรพรรดิ ล้อมรอบกำกับอีกชั้นหนึ่ง
    ขอบเหรียญ : เป็นจักรเพชร


    "พุท ธะ สัง มิ" ย่อมาจาก "พุท ธัง สะ ระ นัง คัจ ฉา มิ" ซึ่งถือเป็นคาถายอดศีล พระคาถายอดศีล ท่านวางอุปเทห์วิธีใช้ไว้มากมาย เป็นไปได้รอบด้าน เป็นยอดพระคาถาทางเมตตา ทางอยู่ยงคงกระพันก็ใช้ได้ ตลอดจนจะใช้เป็นล่องหนกำบังตัวก็ได้ หลวงตาม้าท่านเรียกว่าฝอยท่วมหลังช้างแล

    สุดยอดแห่งเหรียญประสบการณ์ เขาว่าพระท่านมีชีวิต
    เวลานั่งสมาธิ นำเหรียญพุทธะสังมิมากำในมือเบาๆ
    พอใจสบายแล้ว บริกรรมพระคาถามหาจักรพรรดิ์
    แล้วจะรู้เองว่าพระของท่านมีชีวิต (ลูกศิษย์วัดถ้ำเมืองนะ
    ผู้ฝึกจิตสงบนิ่งดีแล้ว จะสัมผัสได้ร่วมกันหนึ่งอย่างคือ
    เหรียญพระของหลวงตาม้าท่านดิ้นได้ พูดคุยด้วยได้)


    สภาพสวยผิวไฟแดงๆผิวรุ้งอมม่วงเดิมๆ พิมพ์คมชัดลึก เหรียญดีมีประสบการณ์อีกรุ่นของหลวงตาม้า ดั่งเจตนาการดำริสร้างของเหรียญรุ่นนี้ แบ่งให้บูชา 350 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณสักการะ จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2022
  15. สักการะ

    สักการะ ชิวิตดั่งอาทิตย์อัศดง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,921
    ค่าพลัง:
    +5,744
    2470 , 2471 จองครับ
     
  16. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,857
    ค่าพลัง:
    +14,116


    -jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
     
  17. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,857
    ค่าพลัง:
    +14,116
    2472.ผิวปรอทเดิมๆยอดประสบการณ์ เหรียญเหล็กไหล หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต
    เถรจารย์แห่งกองทัพธรรมผู้ทรงด้วยอภิญญาและฤทธิ์อย่างสูงส่ง


    1fxfyg-jpg-jpg.jpg

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    VwZg7P.jpg

    ubbh61-jpg.jpg ubbvmy-jpg.jpg
    เหรียญเหล็กไหล หรือ รุ่นพัฒนาวัดสารนาถฯ หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทราราม จังหวัดหนองคาย ออกที่ วัดสารนาถธรรมราม จังหวัดระยอง เนื้อธาตุทองแดงผสมมูลเหล็กไหลผิวรมดำ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2517 โดยวัดสารนาถธรรมราม วัตถุประสงค์สร้างขึ้นเพื่อแจกให้ประชาชนที่ร่วมบริจาคทรัพย์ เพื่อเป็นทุนมนการพัฒนาวัดสารนาถธรรมาราม

    เหรียญหลวงปู่จันทร์ วัดจันทราราม รุ่นพัฒนาวัดสารนาถธรรมาราม สร้างจากมวลสาร มูลเหล็กไหล ของหลวงปู่จันทร์ อธิษฐานจิตโดย ล.พ.จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทราราม จ.หนองคาย และหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง (ล.ป.ทิม วัดละหารไร่ เคยปลุกเสกวัตถุมงคลให้วัดสารนาถฯ มา 3 ครั้งแล้ว คือ พระมงคลมหาลาภ วัดสารนาถฯ ปี 2499 , เหรียญชินราชจอมมุนี วัดสารนาถฯ ปี 2506 , เหรียญ ลพ.จันทร์ รุ่นพัฒนาวัดสารนาถฯ ปี 2517 )

    เหรียญรุ่นนี้มีคุณวิเศษ เนื่องด้วยได้ผสมมูลเหล็กไหลลงไป ซึ่งมูลเหล็กไหลของหลวงปู่นั้นมีอภินิหารมากมาย เล่ากันว่า มีทหารและตชด.ได้นำมูลเหล็กไหลไปทดลองยิงด้วยปืน เอ็ม16 และปืนลูกซอง 5 นัด ปรากฏว่ายิงไม่ออกเลยแม้แต่นัดเดียว นับว่าเป็นอีกหนึ่งของดีที่น่ามีไว้ขึ้นคอเป็นที่สุด

    นับเป็นเหรียญอีกรุ่นหนึ่งที่ต่อไปในอนาคตจะหาเสาะหากัน เกจิอาจารย์ดัง ๆๆ ในยุกต์นั้นร่วมพิธีปลุกเสก โดยเฉพาะหลวงปู่ทิม แห่งวัดละหารไร่ เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ จึงเป็นเหรียญที่นิยมเล่นหากันมาก เหรียญที่หลวงปู่ทิมปลุกเสกแทบทุกวัดขณะนี้ราคาขยับไปมากแทบทุกวัดแล้ว ดังนั้นหากจะหาเหรียญดี ๆๆ สักเหรียญไว้ใช้กันแล้วเหรียญนี้ใช้ได้เลยครับ ต่อไปจะแรงมาก ๆๆ




    ประวัติหลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต

    หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทราราม จ.หนองคาย พระอาวุโสองค์หนึ่งในท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต ที่น่ากราบไหว้ได้สนิทใจอีกองค์ ธรรมะปฏิบัติปฏิปทาและพลังจิตของท่านเข้มขลังไม่ธรรมดา ถ้าในสายกรรมฐานท่านก็คือพระหมอ ที่ดังในวงกรรมฐานมาก ทั้งน้ำมนต์และการรักษาโรคที่รักษาไม่ได้นั้นท่านช่วยรักษาได้หมด

    ประวัติย่อ หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต
    นามเดิมคือ จันทร์ ไชยคุตร เกิดเมื่อ วันจันทร์ แรม 12 ค่ำ เดือน 8 ปีมะโรง จุลศักราช 1266 ตรงกับวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2447 บ้านคูเมือง อ.มหาชนะชัย จ.อุบลราชธานี
    ท่านมีพี่น้องรวม 7 คน ท่านเป็นคนที่ 6 ท่านบวชตั้งแต่เป็นเณร เมื่ออายุ 16 ปีที่วัดบูรพาราม อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2463 และท่านมาบวชาพระอีกครั้งเมื่อ วันที่ 5 กรกฏาคม พ.ศ.2471 ได้รับฉายา**เขมปัตโต**ที่วัดบางขวาง จ.นนทบุรี
    ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยจนสอบได้นักธรรมเอก ท่านเป็นครูสอนนักธรรม ยามว่างจากสอนท่านก็หมั่นฝึกกรรมฐานเป็นประจำ
    จากนั้นพ.ศ. 2474 ท่านก็ได้พิจารณาดูแล้วว่า อันวัดบางขวางนั้น ถ้าจะอยู่ทำความเพียรต่อไป ย่อมหาความสงบยาก ประกอบกับในสมัยนั้นชื่อเสียงของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
    และท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม โด่งดังมากเป็นที่รู้จัก ในวงกรรมฐานเป็นอย่างมากท่านก็กลับสู่ภาคอีสาน เดินทางไปพบพระอาจารย์สิงห์ที่โคราช เพื่อรับข้อธรรมและช่วยพระอาจารย์สิงห์
    และจากนั้นท่านก็เดินทางไปรับธรรมะปฏิบัติจากพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หลังจากที่ได้รับอุบายธรรมจากพระอาจารย์มั่นแล้ว ท่านก็ออกวิเวก ธุดงค์ไปทั่ว อยู่ตามป่าเขาเพียงลำพังองค์เดียว
    เพื่อเจริญวิปัสสนากรรมฐานอยู่ทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว จนสุดท้ายท่านก็อยู่ที่วัดจันทาราม จ.หนองคาย
    ลำดับการจำพรรษาของหลวงปู่จันทร์
    พรรษาที่ 1-3 วัดบางขวาง จ.นนทบุรี
    พรรษาที่ 4 วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา
    พรรษาที่ 5 วัดป่าศรัทธารวม จ.นครราชสีมา
    พรรษาที่ 6 วัดบ้านใหม่สำโรง จ.นครราชสีมา
    พรรษาที่ 7 วัดป่าธรรมวิภาคารมย์
    พรรษาที่ 8-10 วัดป่ามหาชัย จ.ขอนแก่น
    พรรษาที่ 11 วัดป่าทรายงาม จ.จันททบุรี
    พรรษาที่ 12-13 วัดยางระหง จ.จันททบุรี
    พรรษาที่ 14 วัดป่าบ้านโคก จ.สกลนคร
    พรรษาที่ 15 วัดป่าบ้านเต่างอย จ.สกลนคร
    พรรษาที่ 16-17 วัดป่าบ้านกุดจิก จ.สกลนคร
    พรรษาที่ 18 วัดถ้ำเป็ด จ.สกลนคร
    พรรษาที่ 19 วัดเกาะแก้ว จ.สกลนคร
    พรรษาที่ 20 วัดป่าธรรมวิเวก จ.ขอนแก่น
    พรรษาที่ 21 วัดป่าศีลาอาด จ.ขอนแก่น
    พรรษาที่ 22-24 วัดป่ามหาชัย จ.ขอนแก่น
    พรรษาที่ 25-27 วัดถ้ำกวาง จ.ขอนแก่น
    พรรษาที่ 28-30 วัดเขาน้อยถ้ำพระ จ.ขอนแก่น
    พรรษาที่ 31 วัดดอยเทพสมบูรณ์ จ.อุดรธานี
    พรรษาที่ 32-34 วัดอรุณรังสี จ.หนองคาย
    พรรษาที่ 35 วัดศรีภูเวียง จ.ขอนแก่น จ.หนองคาย
    พรรษาที่ 36 วัดทรายธง จ.นครสวรรค์
    พรรษาที่ 37 วัดถ้ำกลองเพล จ.อุดรธานี
    พรรษาที่ 38 วัดภูพานคำ จ.ขอนแก่น
    พรรษาที่ 39 วัดเขาน้อยถ้ำพระ จ.ขอนแก่น
    พรรษาที่ 40-41 วัดศิริสมบัติ จ.ขอนแก่น
    พรรษาที่ 42 วัดป่าบ้านฝาง จ.ขอนแก่น
    พรรษาที่ 43-48 วัดจันทราราม จ.หนองคาย ท่านอธิฐานจำพรรษาได้ 2 วัน ก็ถึงมรณภาพ เวลา 05.35 น. วันเสาร์ที่ 26 กรกฏาคม 2518


    สภาพสวยเดิม ไม่ผ่านการใช้งานเก่าเก็บ พิมพ์คมชัดลึกน่าบูชา วัตถุมงคลของท่านสร้างไว้ไม่มากรุ่นนักครับ ว่าก็ว่ามีน้อยเลยทีเดียว พุทธคุณดีครบทุกด้าน แบ่งให้บูชา 850 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณธนกฤต จองแล้วครับ)







    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2022
  18. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,857
    ค่าพลัง:
    +14,116



    $$$$$$$$ ปิดรายการแล้วครับ $$$$$$$




    2473.ของดีที่ถูกลืมสวยแชมป์ (๒) เหรียญสมเด็จพระสังฆราชจวน วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร
    ในหลวงเสด็จพระราชดำเนิน ลต.มหาบัว,ลป.ฝั้น,อ.ทิม,ลป.นาค ร่วมอธิษฐานจิตมหาพิธี2วาระ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ


    image-304d_59ae6745-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    image-078a_58230a3f-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    เหรียญสมเด็จพระสังฆราชฯ (จวน อุฏฐายี) วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร กทม. พิมพ์กลมขนาดใหญ่ เนื้อทองแดงผิวไฟ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2510 - 2511 เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาส วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอกมีอายุครบ 100 ปี แห่งการสถาปนา และ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (จวน) ทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา ปลุกเสกพร้อมพระกริ่งวชิรมกุฏ

    วัตถุมงคลที่จัดสร้างในครั้งนี้
    1.พระบูชา 9 นิ้ว "พระพุทธวชิรมงกุฎ" มี 2 เนื้อ คือ นวโลหะ และ สำริด ไม่ระบุจำนวนสร้าง
    2.พระบูชา 7 นิ้ว "พระพุทธวชิรมงกุฎ" มี 2 เนื้อ คือ นวโลหะ และ สำริด ไม่ระบุจำนวนสร้าง
    3. “พระกริ่งพิมพ์ใหญ่” ขนาดหน้าตักกว้าง 2 เซนติเมตร ปางมารวิชัย พระหัตถ์ซ้ายทรงถือหม้อน้ำมนต์ ประทับนั่งขัดสมาธิเพชรบนฐานบัวคว่ำ ด้านหลังมีตรามงกุฎและฉัตร 5 ชั้น ใต้ฐานมีแผ่นทองปิดปั๊มอักษรว่า “มกุฏฺขตฺติยารามสฺส วสฺสสต” หมายความว่า “ครบ 100 ปี วัดมกุฏกษัตริยาราม” และมีอักษรขอมอยู่ใต้ฉัตร 3 ชั้น (ฐานันดรศักดิ์สมเด็จพระสังฆราช) และมีเลขลำดับประจำองค์พระตอกอยู่ด้านล่าง สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองวัดมกุฏฯ ครบ 100 ปี สร้างแค่เนื้อนวโลหะ
    4. “กริ่งพิมพ์กลาง” มี ขนาดหน้าตัก 1.8 เซนติเมตร เป็นปางประทานพร ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ เหมือนกับพระกริ่งใหญ่ สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกงานฉลองพระชนมายุสมเด็จพระสังฆราช (จวน) ครบ 70 พรรษา มี 2 เนื้อคือ ทอง และ นวโลหะ
    5. “พระกริ่งพิมพ์เล็ก (พิมพ์พิเศษ)” ขนาดหน้าตัก 1.4 เซนติเมตร ปางประทานพร รายละเอียดก็เฉกเช่นกันกับพระกริ่งพิมพ์ใหญ่ แต่ไม่มีหมายเลขประจำองค์พระสร้างขึ้นเพื่อสมนาคุณ เป็นพิเศษ มี 2 เนื้อคือ ทอง และ นวโลหะ
    6. "พระชัยวัฒน์" ขนาดหน้าตัก 1 เซนติเมตร ปางประทานพร เป็นพระชัยวัฒน์ที่ สังฆราชจวน เสด็จเททองเป็นปฐมฤกษ์ในพิธีพุทธาภิเษกครั้งที่ 2 มี 2 เนื้อคือ ทอง และ นวโลหะ
    7.เหรียญที่ระลึกกลม
    8.เหรียญที่ระลึกอาร์ม


    ประวัติการจัดสร้างพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์วชิรมงกุฏ
    เนื่องด้วย ในปี ในปี พ.ศ. 2511 วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอกมีอายุครบ 100 ปี แห่งการสถาปนา ในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2511 ประกอบกับ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (จวน) ทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา ในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2511 ทางคณะกรรมการจัดงานฉลองจึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต จัดงานฉลองศุภวาระมหามงคลวโรกาสทั้ง 2 วาระเป็นงานเดียวกันระหว่าง วันที่ 15-18 มกราคม พ.ศ. 2511 โดยคณะกรรมการมีมติว่าใน “ศุภวาระมงคลวโรกาส” ดังกล่าวจึงควรจัดสร้างวัตถุมงคลในรูปแบบ “พระพุทธรูป” และ “พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์” สำหรับเป็นที่ระลึกและเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้ศิษยานุศิษย์ ตลอดจนผู้เคารพนับถือทั่วไปมีไว้สักการบูชาโดยมีเหตุผลในการจัดสร้างดังนี้ “พระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” ผู้ทรงสถาปนา วัดมกุฏกษัตริยาราม ทรงมีพระปรมาภิไธยเดิมเมื่อ ครั้งยังทรงพระเยาว์ว่า “สมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฏ” และพระนามฉายาทางพระพุทธศาสนาเมื่อครั้งเสด็จออกทรงพระผนวช (ก่อนเสด็จขึ้นครองราชย์) ว่า “พระวชิรญาโณภิกขุ” อีกทั้ง สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ พระราชปนัดดาก็มีคำต้นพระนามว่า “วชิรญาณ” อีกด้วยดังนั้นจึงเห็นควรถวายพระนาม “พระพุทธรูป” ที่จัดสร้างขึ้นในครั้งนี้ว่า “พระวชิรมงกุฏ” หรือ “พระพุทธวชิรมงกุฏ” ส่วน “พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์” ถวายพระนามว่า “พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์วชิรมงกุฏ”

    การเตรียมงานปี พ.ศ.2510
    => ซึ่งหลังจากรวบรวมโลหะวัตถุและแผ่นโลหะที่ลงอักขระยันต์ได้ตามจำนวนที่ต้อง การแล้ว คณะกรรมการจัดสร้างได้นำมาประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ พระวิหารวัดมกุฏกษัตริยาราม ก่อนจากนั้นจึงนำไปประกอบพิธีเททองเฉพาะ “พระพุทธรูป” และ “พระกริ่งวชิรมงกุฏ” ณ มณฑลพิธี หน้าพระวิหารวัดมกุฏกษัตริยาราม ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเททองเป็นปฐมฤกษ์ “พระพุทธวชิรมงกุฏ (พระพุทธรูปบูชา)” และ “พระกริ่งวชิรมงกุฏ”


    วาระพุทธาภิเษกใหญ่ครั้งที่ : 1
    - จัดพิธีพุทธาภิเษกโลหะธาตุและเหรียญพระรูป ณ มณฑลพิธี หน้าพระวิหารวัดมกุฏกษัตริยาราม เมื่อวันจันทร์ ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2510
    พระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์และคาถาจุดเทียนชัย
    1 พระเทพสังวรวิมล (เจียง)วัดเจริญสุขาราม สมุทรสงคราม
    2 พระเทะเจติยาจารย์ วัดเสน่หา นครปฐม
    3 พระเทพมงคลปัญญาจารย์ วัดปทุม พระนคร
    4 พระราชมงคลมุนี วัดชัยมงคล จังหวัดอ่างทอง
    5 พระมงคลเทพมุนี วัดพระเชตุพน จังหวัดพระนคร
    6 พระมงคลสุธี วัดนาคกลาง จังหวัดธนบุรี
    7 พระมงคลสุนทร วัดชัยมงคล จังหวัดสมุทรปราการ
    8 พระสุมงคลมุนี วัดบวรมงคล จังหวัดธนบุรี
    9 พระวรพรตปัญญาจารย์ วัดอรัญญิกาวาส จังหวัดชลบุรี

    พระอาจารย์นั่งปรก
    1 พระเทพสิทธินายก วัดระฆังโฆสิตาราม จังหวัดธนบุรี
    2 พระเทพสังวรวิมล วัดเจริญสุขาราม จังหวัดสุมทรสงคราม
    3 พระเทพเจติยาจารย์ วัดเสนหา จังหวัดนครปฐม
    4 พระวรพรตธรรมาภรณ์ วัดดอนยายหอม จังหวัดนครปฐม
    5 พระวรพรตปัญญาจารย์ วัดอรัญญิกาวาส จังหวัดชลบุรี
    6 พระโพธิวรคุณ วัดโพธินิมิตร จังหวัดธนบุรี
    7 พระโพธารามคณารักษ์ วัดเฉลิมอาสน์ จังหวัดราชบุรี
    8 พระครุนนทกิจวิมล วัดตำหนักเหนือ จังหวัดนนทบุรี
    9 พระครูศีลกิตติคุณ วัดพระญาติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    10 พระครูรักขิตวันมุนี วัดป่าเลไลยก์ จังหวัดสุพรรณบุรี
    11 พระอาจารย์แก้ว จังหวัดลำปาง
    12 พระอาจารย์ทิืม วัดช้างไห้ จังหวัดปัตตานี
    13 พระครูวินัยธร วัดตรีรัตนาราม จังหวัดระยอง
    14 พระครูฌานวิสุทธิ วัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการ
    15 พระครูพรหมวิหาร วัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการ
    16 พระอาจารย์ถวิล จังหวดจันทบุรี


    - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเททองหล่อพระพุทธรูปบูชา และพระกริ่งวชิรมงกุฎ ณ มณฑลพิธี หน้าพระวิหารวัดมกุฏกษัตริยาราม เมื่อวันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2510
    พระสงฆ์ที่เจริญชัยมงคลคาถา
    1 สมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพนฯ จังหวัดพระนคร
    2 สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดราชบพิธฯ จังหวัดพระนคร
    3 สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดพระศรีมหาธาตุ จังหวัดพระนคร
    4 พระสาสนโสภณ วัดบวรนิเวศวิหาร จังหวัดนคร
    5 พระมหาโพธิวงศาจารย์ วัดอนงคาราม จังหวัดธนบุรี
    6 พระธรรมปัญญาบดี วัดสามพระยา จังหวัดพระนคร
    7 พระพรหมมุนี วัดราชผาติการาม จังหวัดพระนคร
    8 พระธรรมวราลังการ วัดโสมนัสวิหาร จังหวัดพระนคร
    9 พระธรรมวิสุทธาจารย์ วัดสุทัศนเทพวราราม จังหวัดพระนคร
    10 พระํธรรมเสนานี วัดพระเชตุพนฯ จังหวัดพระนคร

    วาระพุทธาภิเษกใหญ่ครั้งที่ : 2

    => เมื่อการเททองหล่อพระพุทธรูปพระกริ่งวชิรมงกฎ ซึ่งช่างขัดตกแต่งตามกรรมวิธี ต่อไปเสร็จแล้วพร้อมทั้งเหรียญพระรูปฯ จึงนิมนต์พระอาจารย์ต่าง ๆ มาทำพิธีพุทธาิภิเษกในพระวิหารวัดมกฎกษัตริยารามอีก 3วัน คือ

    - เมื่อวันอังคาร ที่ 9 มกราคม พ.ศ.2511
    รายนามพระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์และคาถาจุดเทียนชัย
    1 พระธรรมไตรโลกาจารย์ วัดเทพศิรินทราวาส จังหวัดพระนคร
    2 พระธรรมกิตติโสภณ วัดเบญจมบพิตร จังหวัดพระนคร
    3 พระธรรมวราภรณ์ วัดนรนาถสุนทริการาม จังหวัดพระนคร
    4 พระธรรมจินดาภรณ์ วัดราชบพิธฯ จังหวัดพระนคร
    5 พระธรรมปาโมกข์ วัดราชประดิษฐ์ฯ จังหวัดพระนคร
    6 พระธรรมโสภณ วัดบวรนิเวศวิหาร จังหวัดพระนคร
    7 พระราชเมธี วัดเศวตฉัตร จังหวัดธนบุรี
    8 พระราชสุเมธาจารย์ วัดบางหลวง จังหวัดปทุมธานี
    9 พระครูพัฒนกิจโกศล วัดชัยสิทธาวาส จังหวัดปทุมธานี

    เวลา 18.00 น. ถึงเวลา 05.00 น. พระสงฆ์วัดพระเชตุพนฯ 4 รูป และวัดอรัญญิกาวาส 4 รูป
    รายนามพระสงฆ์ที่สวดพุทธาภิเษกและนั่งปรก
    1 พระราชมุนี วัดปทุมานาราม จังหวัดพระนคร
    2 พระวรพรตปัญญาจารย์ วัดอรัญญิกาวาส จังหวัดชลบุรี
    3 พระครูพิพิธวิหารการ วัดกษัตราธิวาส จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    4 พระครูโกวิทสมานคุณ วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงคราม
    5 พระครุููสุตาธิการี วัดใหม่หนองพระอง จังหวัดสมุทรสงคราม
    6 พระครูสันทัดธรรมคุณ วัดบ้านช้าง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    7 พระอาจารย์ขอม วัดไผ่โรงวัด จังหวัดสุพรรณบุรี
    8 พระอาจารย์กี่ วัดหุช้าง จังหวัดนนทบุรี
    9 พระครูสมห์ อำพล วัดประสาทบุญญาวาส จัดหวัดพระนคร

    - เมื่อวันพุธ ที่ 10 มกราคม พ.ศ.2511
    พระสงฆ์วัดชนะสงคราม 4 รูป และวัดอโศกราม 4 รูป สวดพุุทธาภิเษก
    รายนามพระสงฆ์ที่สวดพุทธาภิเษกและนั่งปรก
    1 พระรักขิตวันมุนี วัดป่าเลไลยก์ จังหวัดสุพรรณบุรี
    2 พระพุทธมนต์วราจารย์ วัดสุทัศนเทพวราราม จังหวัดพระนคร
    3 พระครูโศภนกัลยาณวัตร วัดกัลยาณมิตร จังหวัดธนบุรี
    4 พระอาจารย์คล้าย วัดดวงดี จังหวัดนครศรีธรรมราช
    5 พระครูประภัศรธรรมาภรณ์ วัดพระลอย จังหวัดสุพรรณบุรี
    6 พระครูวิจิตรวิริยานุโยค วัดทองพุ่มพวง จังหวัดสระบุรี
    7 พระครูพินิตสมาจาร วัดนามะตูม จังหวัดชลบุรี
    8 พระครูพิทักษ์วิหารกิจ วัดราชนัดดาราม จังหวัดพระนคร

    - เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 11 มกราคม พ.ศ.2511 เวลา 19.00 ถึงเวลา 05.00 น.
    พระสงฆ์วัดอโศกราม 3 ชุด ๆ ละ 4 รูป สวดพุทธาภิเษก
    รายนามพระสงฆ์ที่สวดพุทธาภิเษกและนั่งปรก
    1 พระราชวรคุณ วัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการ
    2 พระครูพรหมวิหาร วัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการ
    3 พระครูสันตวรญาณ วัดสันติวัน จังหวัดเชียงใหม่
    4 พระอาจาย์ฝั้น วัดป่านาหัวช้าง จังหวัดสกลนคร
    5 พระอาจารย์อ่อน วัดป่าหนองบัวงาม จังหวัดอุดรธานี
    6 พระสุนทรธรรมภาณ์ วัดป่าชัยวัน จังหวัดขอนแก่น
    7 พระสุธรรมคณาจารย์ วัดป่าสาลวัน จังหวัดนครราชสีมา
    8 พระมหาบัว วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี
    9 พระอาจารย์บุญมา วัดสิิริสารวัน จังหวัดอุดรธานี


    สภาพสวยเดิมๆ พิมพ์คมชัดลึก พระเก่าเก็บไม่ช้ำไม่ได้ใช้ พุทธคุณครอบครบ สุดยอดชนวนโลหะ และมหาพิธีพุทธาภิเษกที่สุดแห่งความอลังการ แบ่งให้บูชา 299 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • VwR5WS.jpg
      VwR5WS.jpg
      ขนาดไฟล์:
      255.8 KB
      เปิดดู:
      212
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ธันวาคม 2022
  19. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,857
    ค่าพลัง:
    +14,116
    2474.เก่าเก็บผิวหิ้งเดิมๆ(๓) พระสังกัจจายน์ ฐานเลข๑
    หลวงปู่นาค วัดระฆังโฆสิตาราม มวลสารวัดระฆังเข้มขลังด้วยพุทธคุณ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    VwRsx9.jpg

    ภาพพิมพ์พระสังกัจจายน์ ยุคต้น พิมพ์ทรงคล้ายกันต่างกันที่อายุและเนื้อมวลสาร
    6jjt-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    พระสังกัจจายน์ ฐานเลข๑ (พิมพ์นิยม) หลวงปู่นาค โสภโณ วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ เนื้อผงปูนปลาสเตอร์เป็นพื้น ผสมเศษแตกหักของสมเด็จวัดระฆังจำนวนมาก ใต้ฐานฝังตะกรุด 1ดอก ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.2509 ซึ่งเป็นยุคท้ายๆของท่าน แต่ยังคงความเข้มขลังดังเดิม

    มวลสารศักดิ์สิทธิ์
    เศษแตกหักของสมเด็จวัดระฆังจำนวนมาก, ผงพระเก่าที่เหลือจากการทำรุ่นก่อน ๆ สืบทอดกันมา, ผงธูปจากกระถางธูปในโบสถ์, ผงตะไคร่น้ำจากพระปรางค์และพระเจดีย์ในวัดระฆัง, ดอกไม้สำหรับบูชาพระประธานในโบสถ์มาตากแห้งแล้วบดเป็นผง และใช้ข้าวก้นบาตรรวมทั้งกล้วยซึ่งบดทั้งเปลือก

    พุทธคุณที่เล่าสืบทอดกันมา
    :พุทธคุณในเหรียญรุ่นนี้เด่นทาง เมตตามหานิยม



    หลวงปู่นาค โสภโณ วัดระฆังโฆสิตาราม
    ข้อมูลประวัติ

    เกิด : วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2427 ตรงกับขึ้น 10 ค่ำ เดือน 9 ปีวอก เป็นบุตรของ นายป้อม นางสวน มะเริงสิทธิ พื้นเพเป็นชานครราชสีมา
    บรรพชา : ณ วัดบึง โคราช
    อุปสมบท : อายุ 21 ปี พ.ศ.2448 ณ วัดระฆังโฆสิตาราม
    มรณภาพ : วันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2514 เวลา 04.45 น.
    ณ โรงพยาบาลศิริราช
    รวมสิริอายุ : 87 ปี 66 พรรษา

    วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยม
    พระเนื้อผงรุ่นแรก สร้างปี 2485 ประกอบด้วยพิมพ์ทรงเทวดาอกตัน-อกร่อง เทวดาขัดเพชร และพิมพ์สามเหลี่ยม
    พระเนื้อผงรุ่นสอง สร้างปี 2495 ประกอบด้วยพิมพ์สมเด็จโต นั่งบริกรรม พิมพ์ปรกโพธิ์ ฝังและไม่ฝังตะกรุด พิมพ์พระประธาน ฝังและไม่ฝังตะกรุด นางพญา คะแนนฐานสิงห์ รูปหล่อ เหรียญโล่ และเหรียญข้าวหลามตัด นอกจากนี้ยังมีอีกหลายรุ่น สร้างในปี พ.ศ.2499,2500,,2504,2507,2509 และรุ่นสุดท้ายคือรุ่นแซยิด 7 รอบ ปี 2511

    พระสมเด็จของหลวงปู่นาค วัดระฆัง เป็นพระสมเด็จที่มีส่วนผสมของเศษแตกหักของสมเด็จวัดระฆังที่ท่านได้เก็บรวบรวมไว้เป็นจำนวนมากจากการที่มีประชาชนนำเศษแตกหักของพระสมเด็จมาทิ้งไว้ที่วัดและการค้นพบพระสมเด็จจำนวนมากบนหลังคาโบสถ์วัดระฆังซึ่งท่านได้นำพระสมเด็จที่แตกหักทั้งหมดร่วมกับการสร้างผงพุทธคุณของท่านตามตำรับของสมเด็จโต ทำให้พระสมเด็จของท่านโดยเฉพาะพระในยุคต้น ๆ ช่วงปี 2485-2495 มีเนื้อหามวลสารจัดจ้านน่าบูชายิ่งนัก ซึงนับว่าเป็นพระตระกูลสมเด็จที่มีเนื้อหามวลสารของพระสมเด็จวัดระฆังผสมไว้มากที่สุด ที่ดูจะสูสีก็มีเพียงพระสมเด็จของพระครูมูล วัดสุทัศน์ รุ่นพิมพ์ทรงเจดีย์ 2485 เท่านั้น อีกทั้งพุทธคุณก็สูงล้ำในด้านเมตตามหานิยม เป็นที่เสาะแสวงหากันอย่างมาก
    แต่เนื่องจากท่านได้สร้างพิมพ์ทรงของพระสมเด็จต่าง ๆ ไว้มากมาย ในวงการจึงนิยมเล่นหากันเฉพาะพิมพ์นิยมบางพิมพ์ของท่านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวใครเห็นก็ทราบว่าเป็นพระของท่าน เช่น พิมพ์เทวดาสามชั้นหูบายศรี พิมพ์ปรกโพธิ์ พิมพ์ชิ้นฟัก พิมพ์รูปเหมือนสมเด็จโต พิมพ์ซุ้มระฆัง เป็นต้น ส่วนพิมพ์อื่น ๆ ไม่ค่อยนิยมเช่าหากัน สำหรับพระสมเด็จของท่านที่มีเนื้อหาจัดจ้าน แก่ผงพระสมเด็จ หรือ มีการฝังตะกรุดไว้เป็นพิเศษ ตั้งแต่ 1ดอก 2 ดอก หรือ 3 ดอก จะหาได้ยากมากและเป็นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยจะเช่าหากันในราคาสูงกว่าปกติหลายเท่า
    เป็นที่น่าแปลกใจมากพระสมเด็จของหลวงปู่นาค วัดระฆังไปมีชื่อเสียงโด่งดังในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์เป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจากประเทศดังกล่าวมากว้านซื้อกลับไปยังประเทศของตนเป็นจำนวนมาก ทำให้จำนวนพระสมเด็จของหลวงปู่นาค วัดระฆังในปัจจุบัน มีจำนวนลดลงเป็นอย่างมาก ซึ่งในอนาคตพระชุดนี้คงจะดังระเบิดด้วยค่านิยมไม่แพ้พระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 09 เป็นแน่แท้

    พระที่พิมพ์ก็จะเป็นพระสมเด็จซึ่งเรียกกันว่าพระสมเด็จวัดระฆังรุ่นหลวงปู่นาค มีทั้งทรงพิมพ์ใหญ่ ทรงเจดีย์ ทรงปรกโพธิ์ และอีกหลายแบบสุดแท้แต่แม่พิมพ์ที่พระผู้ควบคุมการจัดทำจะจัดมาให้ทำ

    วันไหนพิมพ์พระได้เท่าใดก็จะมีการนับจำนวนทวนสอบจนตรงกัน แล้วพระเถระผู้ควบคุมการทำพระก็จะยกเอาถาดใส่พระซึ่งพิมพ์เสร็จแล้วขึ้นไปข้างบน เพราะหลังจากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนการปลุกเสกตามแบบฉบับและกรรมวิธีของวัดระฆังที่สืบทอดมาตั้งแต่ครั้งเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

    พระสมเด็จเหล่านั้นจะถูกนำไปบรรจุกล่องและวางไว้ในห้องพระของท่านเจ้าคุณใหญ่ ซึ่งเป็นห้องโถงอยู่ชั้นบนของกุฏิใหญ่นั้น จากนั้นก็จะมีการวนสายสิญจน์จากพระประธานของห้องพระ วนลงมาเวียนรัดรอบกล่องพระนั้นจนครบถ้วนทุกกล่อง

    ทุกวันหลังจากหลวงปู่นาคท่านสวดมนต์ไหว้พระแล้ว ท่านก็จะเข้าสมาธิภาวนาพระคาถาชินบัญชร แล้วเพ่งพลังจิตและอธิษฐานจิตตามกรรมวิธีปลุกเสกพระสมเด็จวัดระฆัง และจะเพิ่มเวลาทำสมาธิภาวนาแผ่พลังจิตมากขึ้นสำหรับวันพระและถ้าเป็นห้วงเวลาในเทศกาลเข้าพรรษาก็ยิ่งเพิ่มเวลามากขึ้นไปอีก

    บางครั้งหลวงปู่นาคก็จะให้นิมนต์พระสงฆ์ในคณะหนึ่งมาสวดพระปริตรและสวดพระคาถาชินบัญชรปลุกเสกพระด้วย และบางทีในวันพระใหญ่คือวันขึ้น ๑๕ ค่ำและวันมหาปวารนา หลวงปู่นาคก็จะให้พระขนกล่องพระสมเด็จเข้าไปในโบสถ์ วนสายสิญจน์มาจากพระประธานมายังกล่องพระ

    ในบางทีเมื่อมีงานบวชหลวงปู่นาคก็จะให้ขนกล่องพระเข้าไปในโบสถ์ด้วย นัยว่าการสวดญัตติจตุตถกรรมนั้นในอุปสมบทพิธีนั้นมีผลมากต่อการปลุกเสกพระเครื่องให้เป็นพระ
    พระสมเด็จวัดระฆังรุ่นหลวงปู่นาคทรงความศักดิ์สิทธิ์และมีอิทธิปาฏิหาริย์เลื่องชื่อลือกระฉ่อนมาตั้งแต่ครั้งที่หลวงปู่นาคยังมีชีวิตอยู่ และเมื่อท่านเจ้าคุณสิ้นบุญไปแล้วพระสมเด็จวัดระฆังรุ่นหลวงปู่นาคก็ยิ่งมากค่าและหาได้ยากขึ้นทุกที

    พระสมเด็จแท้ที่หลวงปู่นาคทำนั้นเป็นการทำเพื่อหาเงินมาบูรณะพัฒนาวัดระฆังซึ่งเสื่อมทรุดต่อเนื่องมาแต่อดีต ศาสนสถานทั้งหลายภายในวัดทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด จะมัวรอเงินจากผ้าป่ากฐิน ศาสนสถานก็คงพังพินาศหมดสิ้น เพราะเหตุนี้หลวงปู่นาคท่านจึงคิดอ่านทำพระสมเด็จขึ้นเป็นอภินันทนาการแก่ผู้ที่มาทำบุญกับวัด
    พระที่หลวงปู่นาคปลุกเสกเสร็จแล้วได้มอบไว้แก่พระลูกศิษย์ซึ่งจะทำบัญชีจำหน่ายสำหรับผู้ใจบุญที่มาทำบุญกับวัด โดยหลวงปู่นาคมิได้จับต้องถือเงินหรือเก็บเงินไว้ด้วยองค์ท่านเองเลย
    ผงที่เหลือจากการทำพระแต่ละคราวก็จะเก็บใส่กะละมังไว้ แล้วขนขึ้นไปไว้บนกุฏิหลวงปู่นาค ซึ่งท่านมักจะวางไว้ข้างๆ โต๊ะหมู่บูชา
    พระที่ผ่านการทำและผ่านการปลุกเสกดังกล่าวนี้หากถึงคราววันมหาปวารณาช่วงเข้าพรรษาหลวงปู่ก็มักจะให้พระลูกศิษย์นำไปไว้ในโบสถ์ วางไว้หน้าพระประธาน โดยมีการนับจำนวนอย่างเข้มงวด ครั้นพ้นวันมหาปวารณาแล้วหลวงปู่นาคก็ให้นำพระเหล่านั้นกลับไปเก็บไว้ที่กุฏิของท่านดังเก่า ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะหลวงปู่นาคท่านรู้กรรมวิธีว่าวันเวลาและการใดที่จะอาศัยพลังแห่งความบริสุทธิ์และพลังอำนาจจิตของคณะสงฆ์เข้าเสริมพลังจิตที่ท่านเจ้าคุณได้ปลุกเสกไว้แต่เดิม

    พระสมเด็จวัดระฆังที่ผ่านกระบวนการจัดทำและกระบวนการปลุกเสกตามตำรับที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งยุคสมัยเจ้าประคุณสมเด็จนั้นจึงเป็นที่หวังและเป็นที่วางใจกันโดยทั่วไปว่าทรงไว้ซึ่งพุทธคุณ มีความศักดิ์สิทธิ์ สามารถปกป้องคุ้มครองภยันตรายทั้งปวงได้ และเป็นเครื่องส่งเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้มีความศรัทธาตลอดมา


    สภาพสวยผิวหิ้งเดิมๆ เก็บเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมชัดลึก พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 299 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณJae จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2022
  20. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,857
    ค่าพลัง:
    +14,116
    2475.สวยเดิมมหาพิธี(๑) เหรียญพระพุทธรูปหยก วัดทุ่งเศรษฐี
    พระสังฆราช,ลป.หมุน,ลป.พรหมมา มหาพิธี 9วัน9คืน

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    V13Iwy.jpg

    V19Kzt.jpg

    เหรียญพระพุทธรูปหยกทรงช้างเอราวัณ หลัง ประทับพระนามย่อ ญสส.(สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรฯ) รุ่นเสาร์ห้าเงินมาห้าพันล้าน หลวงพ่อเณร วัดทุ่งเศรษฐี กทม. เนื้อทองแดงผิวไฟ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2543

    การสร้างพระรุ่นนี้ที่ได้ให้สมัญญาว่า “เงินมาห้าพันล้าน” เพราะปี 2543 เป็นปีเสาร์ ๕ เศรษฐกิจประเทศไทยย่ำแย่มาหลายปีแล้ว เพื่อเป็นการทวนกระแสดังกล่าว จึงตั้งชื่อพระรุ่นนี้ว่า “เงินมาห้าพันล้าน” เพื่อให้คนที่นำไปบูชาจะได้มีกำลังใจในทางที่ดี และจะได้อยู่เสมอว่า พระของเราองค์หนึ่งราคาตั้งห้าพันล้าน ก็จะได้มีความอุ่นใจ เป็นมงคลและได้ขวัญกำลังใจในการทำงาน และดำเนินชีวิตต่อสู้ไปไม่ท้อแท้ต่อชีวิตและโชคชะตา

    วาระมหาพิธีพุทธาภิเษก
    => ประกอบพิธีพุทธาภิเษกในวันพญาวัน คือ วันเสาร์5 ขึ้น5ค่ำ เดือน5 ปีพ.ศ.2543 สุดยอดพิธี พุทธาภิเษก 9 วัน 9 คืน นักบวชศาสนาฮินดู พระเกจิจากประเทศพม่า พระเกจิอาจารย์นิกายจีน มีเกจิอาจารย์นับร้อยร่วมปลุกเสก อาทิ
    เวลา 13.00 น. สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเสด็จเป็นประธานจุดเทียนชัย

    - หลวงปู่พรหมา เขมจาโร วัดสวนหินผานางคอย จ.อุบลราชธานี
    - ฤาษีสมชาย วัดสวนหินผานางคอย จ.อุบลราชธานี
    - ฤาษีบ้านโคกกรุง จ.หลวงบัวลำภู
    - หลวงปู่หมุน (วัดบ้านจาน) วัดป่าหนองหล่ม จ.สระแก้ว
    - หลวงพ่ออุตตะมะ วัดวังวิเวการาม จ.กาญจนบุรี
    - หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.อยุธยา
    - หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม จ.นครปฐม
    - หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม
    - หลวงปู่อิง โชติโย วัดโคกทม จ.บุรีรัมย์
    - หลวงปู่เคน จารณธัมโม วัดแซ่อุดมสุข จ.อุบล
    - หลวงปู่สวน วัดนาอุดม จ.อุบลราชธานี
    - หลวงพ่อเที่ยง วัดหลวงปรีชากุล จ.ปราจีนบุรี
    - หลวงพ่อบุญ วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี
    - หลวงพ่อปราณี วัดเทพปราณี จ.อุบลราชธานี
    - หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จ.อยุธยา
    - หลวงพ่อบุญช่วย วัดไตรมุข จ.ชลบุรี
    - หลวงพ่ออิฐ วัดจุฬามณี จ.สมุทรสาคร
    - หลวงพ่อละมูล วัดเสด็จ จ.ปทุมธานี
    - พระปลัดบัวลอย ญาณรกขิโต จ.พิษณุโลก
    - พระครูเนกขัมมคุณาจารย์ วัดทุ่งลานนา กรุงเทพฯ
    - พระครูสังฆรักษ์นพวรรณ คุณสาโร วัดเสนานิมิตร จ.อยุธยา
    - หลวงพ่อเณรเจ้าชัยเสน ณ เชียงใหม่ วัดอารามหนองใหม่ จ.เชียงใหม่
    - หลวงพ่อเณร ญาณวินโย วัดทุ่งเศรษฐี
    เป็นต้น

    สภาพสวยเดิมสมบูรณ์ผิวไฟเดิมๆ พิมพ์คมชัดลึก อีกหนึ่งของดีนอกวัดของหลวงปู่หมุนที่ราคาสบายกระเป๋าแต่พุทธคุณล้นฟ้า พระไม่ช้ำไม่ได้ใช้ ไม่หักไม่ซ่อม ของดีพิธีใหญ่ที่นับวันจะหาพระเนื้อดีๆพิธีใหญ่ๆแบบนี้ไม่ได้เเล้วครับ แบ่งให้บูชา 650 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณPeterbn จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มกราคม 2023

แชร์หน้านี้

Loading...