ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเว้นกระทำห้ามทำร้ายชุดปิดตำนานตัว"แก้"(ผนึกเหล็กไหลตาไฟกบิลมุนี) พ่ออาจารย์พล

เลี่ยมมาแล้วครับ ยังไม่มีประสบการณ์ แต่มั่นใจดีครับ ^^

 

เมื่อคืนฝันแปลกๆ ผมฝันเห็นพ่อครูแต่ก็ไม่ใช่เพราะเห็นท่านเป็นพระศิวะนั่งซ้อนกายท่านอยู่อีกทีนั่งนับประคำอยู่เหมือนเป็นร่างเดียวกันแต่ในความรู้สึกเราบอกนี่คือพ่อครูพล แล้วก็มีคนบอกให้เรากราบท่านซะท่านคือพระศิวะ ฝันแบบนี้เห็นว่าแปลกเลยเล่าไว้ยังไงผมก็เชื่อว่าท่านคือพ่อแม่ครูอาจารย์ที่สุดยอดแน่นอน

 

ได้รับวัตถุมงคลแล้ว ขอบคุณครับ

 

ช่วงนี้ได้ลาภลอยบ่อย ของพ่อครูท่านออกด้านเมตตาเย็นกายเย็นใจจริงๆครับได้คุยกับคุณกรณ์เรื่องที่ท่านนิมิตรแต่ดูๆแล้วผมไม่กลัวเลยเพราะเราสวนทางกับสภาพเศรษฐกิจชัดเจน ลูกช้างขอกราบคารวะพ่อครูอีกครั้ง

 

ลงใหม่ครับ

แต่ปรับจาก "น.+18" เป็น "ท." ด้วย 555

 

ก็มีเรื่องมาเล่า

เป็นประสบการณ์ของคนที่เคยบูชารูปเหมือนพ่ออาจารย์พลไป คือพี่ท่านนี้มีปัญหาเนื่องจากโดนเล่นของใส่เป็นประจำจากเพื่อนบ้าน ชีวิตต้องบอกว่าแย่มากขนาดที่ว่าเข้าขั้นวิกฤติเลยไปหาไปแก้มาหลายที่เเต่ก็ไม่ได้ผล ภายหลังได้บูชารูปเหมือนพ่ออาจารย์ไปแล้วก็เงียบหายไป เพิ่งติดต่อเรากลับมาเล่าให้ฟังว่าตั้งเเต่ได้ครูบาอาจารย์ไปอยู่ด้วยชีวิตเขาเปลี่ยนไป ดีขึ้นเยอะรู้สึกสบายใจขึ้น จนได้ฝันไปว่า มีคนพยายามส่งคุณไสยมาทำร้ายเขา เเต่คุณไสยนั้นกลับเป็นลูกกลมๆสีดำตกอยู่เเต่เพียงหน้าบ้านไม่สามารถเข้ามาทำอันตรายได้ เเละอยู่ดีๆพ่ออาจารย์ท่านก็เดินลงมาจากบนบ้านของเขา เขาเล่าว่าเเปลกมาก พ่ออาจารย์นั้นนุ่งขาวห่มขาวเเต่กลับมีจีวรพระสวมทับอยู่บนชุดขาวอีกทีมีทั้งอังสะรัดประคดจีวรสังฆาฏิพาดสมบูรณ์ ท่านได้ถือกระดาษลงมาบอกว่าเอาไปทำพิธีอะไรซักอย่างมาเเล้วเขาว่าท่านบอกมาละเอียดเเต่เขาจำไม่ได้ ท่านโยนกระดาษเเผ่นนั้นลงไป ซักพักคนที่ทำร้ายเขาก็ได้พาพรรคพวกมารวมตัวกันที่ลูกกลมๆสีดำซึ่งเป็นเดรัจฉานวิชาก้อนนั้นเเละก็พูดว่าต่อไปนี้คงทำอะไรเธอคนนี้ไม่ได้อีกเเล้ว และหลังจากนั้นกิจการเเละทุกอย่างก็ดีขึ้นผิดหูผิดตา เขาว่าแปลกจากเเต่ก่อนมากชักกลับจากหลังเท้าเป็นหน้ามือเลย

ก็เห็นว่าเป็นประสบการณ์เเปลกๆ เป็นเรื่องดีๆ เป็นเรื่องที่ผมชอบคือชอบเห็นคนอื่นเจริญขึ้น สมัยนี้จะเจออะไรมาก็ตาม ผมว่ามันไม่ยั่งยืนเเละก็ไม่สำคัญกว่าความเจริญความมั่นคงของตัวเอง ต่อให้มีผู้หญิงมานอนด้วยเป็นร้อยมันก็เท่านั้นตัวเราก็เท่าเดิมอาจจะต่ำลงกว่าเดิมด้วยก็ได้ เเต่พอได้ฟังว่าเจริญขึ้น ดีขึ้น อันนี้มันครอบคลุมนะ ได้ยินก็ชื่นใจ

 

ความรู้วันละนิด

พอดีได้ความรู้ใหม่ ก็เรื่องมันเริ่มจากเอาขนมไปถวายบรมพรหมสหัมบดีองค์ครูที่พ่ออาจารย์ท่านสักการะนั่นเเหละ เราก็ซื้อขนมมา เลือกเจ้าดังๆที่อร่อยๆ พวกขนมไทยขนมชั้นขนมหม้อแกง ซึ่งท่านเห็นท่านก็ถามว่าจะทำอะไร เราก็บอกจะถวายขนมปู่บรมพรหม อุตส่าห์ไปหาซื้อมาเเต่ของดีๆทั้งนั้นเเล้วก็ชี้ให้ท่านดูยี่ห้อ ท่านก็ตอบกลับว่าไหว้ไปก็เท่านั้นเเหละของพวกนี้ ถ้าอยากไหว้ก็ไม่เป็นไร เเต่ทีหลังเเค่น้ำเปล่าถ้วยเดียวก็พอ

เราก็งงสิครับว่าทำไม กว่าจะซื้อขนมได้เจ็ดอย่างก็เหนื่อยอยู่นะ ทำไมให้ไหว้เเค่น้ำเปล่า ก็เลยถามท่านว่าขนมมันไม่เป็นมงคลหรอ ท่านก็บอกว่าไม่ใช่ ก็จะเอาที่ท่านบอกมาเล่าไว้เป็นวิทยาทาน

พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าที่จริงนั้น มนุษย์เข้าใจเรื่องพรหมผิดไปหมดไปเหมารวมกับเทวดาซะส่วนมาก ต้องทำความเข้าใจถึงความต่างของพรหมกับเทวดาเสียก่อน พรหมทั้งสิบหกชั้นหรือที่เรียกว่าโสฬสรูปพรหมนั้นจะมีเเต่เพศชายทั้งหมด จะไม่มีพรหมเพศหญิงเลย ที่จะมีเพศหญิงเหมือนสวรรค์ชั้นกามภพนั้นจะไม่บังเกิดธรรมชาติเช่นนี้ในหมู่พรหม

พรหมทั้งหลายจัดอยู่ในระดับมหาเทพที่มีความรู้สึก มีตาที่มองเห็นได้ มีหูที่รับเสียงได้ มีจมูกระลึกได้ถึงลมหายใจเข้าหายใจออก เเต่จมูกของเหล่าพรหมอันเป็นทิพย์นั้น มิพึงสัมผัสได้ว่าสิ่งที่สูดเข้าไปนั้นหอมหรือเหม็น อันนี้เป็นเสมือนกันหมด ท่านรู้เเค่ภาวะของการหายใจเข้าออกเท่านั้น อีกประการหนึ่งเเม้ใครทำอันตรายเเก่ร่างกายก็ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดใดๆ ที่สำคัญกว่านั้นคือปากของเหล่าพรหมก็สามารถพูดได้เหมือนคนเราปกติ เเต่ว่าพรหมทั้งหลายนั้นไม่มีประสาทสัมผัสที่จะรับรู้รสชาติ จะเปรี้ยวหวานมันเค็ม เป็นอาหารอันโอชารสเพียงไรเมื่อมาถึงปากเหล่าพรหมคือไม่มีรสทั้งสิ้น

พรหมทั้งหลายมิเสพย์อาหารไม่มีความจำเป็นที่ต้องบริโภคใดๆ ปากของเหล่าพรหมมีไว้เพียงเจรจาเท่านั้น เราถึงบอกว่าไหว้น้ำเปล่า น้ำชานั่นเเหละดีที่สุดท่านโปรดกันแบบนั้น

เมื่อไม่กินอาหารไม่รู้จักการบริโภคเเล้วพรหมทั้งหลายอยู่กันอย่างไร พ่ออาจารย์ท่านตอบว่าตราบใดที่ดำรงค์ฌานสมาบัติมีรูปเป็นพรหมนั้นท่านไม่จำเป็นต้องบริโภคสิ่งใดๆเลย ท่านอยู่ได้ด้วยฌานสมาบัติของตนเอง ก็เป็นมนุษย์อีกนั่นเเหละที่ทำการณ์ไม่สมควร นำเครื่องบวงสรวงนำสิ่งโอชารสต่างๆมากมายไปเซ่นสรวงเหล่าพรหม ทีนี้มันก็จะเกิดเรื่อง เหมือนเรื่องที่เหล่าพรหมกินง้วนดิน พอกินเข้าไปเเล้วเขาก็รู้รสมีประสาทสัมผัส มีความต้องการเกิดการเเบ่งเเยกเพศเเล้วก็ถอยออกเสียจากฌานสมาบัติเป็นเหตุให้ตกไปสู่ความเสื่อมบนวิถีของเหล่าพรหมโดยเเท้

ธรรมดาพรหมทั้งหลายนั้นจะได้ชื่อว่างามหนักหนาเพราะมีเนื้อตัวเกลี้ยงปราศจากตุ่มข้อใดๆ ร่างกายของเหล่าพรหมนั้นจะปราศจากสิ่งลามกของปฏิกูลเหม็นเน่าดุจกองอาจมเช่นมนุษย์หรือเทพยดาอื่นๆ เหล่าพรหมทุกชั้นรูปพรหมโสฬสเเละจตุอรูปพรหมรวม 20 ชั้น พรหมทั้งหลายเหล่านี้ไม่มีอารมณ์กำหนัดปรารถนายินดีเเก่สตรีเลยเเม้เเต่น้อย เเละเหล่าพรหมนั้นจะมีรัศมีที่รุ่งเรืองเฉิดฉายกว่าพระจันทร์หรือพระอาทิตย์ซักพันเท่า แม้ประสาทราชวังก็ล้วนเเล้วเเต่แก้วสุรกานต์ประดับด้วยทองเเละสัตตรัตนมณีอันเป็นทิพย์ทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าพรหมโลกทุกชั้นนั้น เเม้ชั้นต่ำสุดก็ยังได้ชื่อว่าวิจิตรพิศดารไกลกับเทพยดาชั้นสูงสุดเช่นปรนิมมิตวสวัตตีได้พันเท่า เมื่ออยู่สูงขึ้นไปเเต่ละชั้นก็นับไปอีกพันเท่า เหมือนไปเหยียบโลกคนละใบเลยก็ว่าได้

เเม้การเป็นพรหมนี่ก็ยังมีเเบ่งอยู่หลายจำพวก บางเหล่าก็อยู่ด้วยทิพย์วิหาร บางเหล่าก็ดำรงค์ตนอยู่ในพรหมวิหาร บางจำพวกอันนี้น้อยหน่อยก็ดำรงค์ตนอยู่ในอริยวิหาร พรหมปัญจสุทธาวาสหรือที่เรียกว่าพรหมอกนิษฐ์ส่วนมากก็จะดำรงค์ตนอยู่ในอริยวิหาร

ที่สำคัญกว่านั้นมนุษย์ชอบเอาระบำรำฟ้อนไปแก้บนพรหมทั้งหลาย ที่ตัวเองไปบนบานศาลกล่าว เขาจะรู้รึเปล่าว่าธรรมชาติของเหล่าพรหมนั้นไม่ได้ยินดีในการดุริยางค์ทั้งหลาย แสดงให้ตายอย่างไรท่านก็ไม่ได้ยิน ตั้งเเต่ทิพย์วิหาร พรหมวิหาร เเละอริยวิหาร ท่านไม่รับสิ่งเหล่านี้เลย ก็เป็นเรื่องของมนุษย์เองอีกนั่นเเหละที่ควรไปปรับปรุงความเชื่อเสียใหม่

เวลาจะไหว้อะไรเเทนที่จะได้เเสดงน้ำใจขอบคุณเหล่าพรหมทั้งหลายที่คิดว่าท่านช่วยเหลือเรา กลับจะไปดึงท่านลงต่ำฉุดชักทิพยภาวะลงสู่จตุรบายเสียดื้อๆอย่างนั้น ก็พิจารณาเอาเองเเล้วกันว่าสิ่งไหนสมควรหรือไม่ เหล่าพรหมผู้มีอินทรีย์แก่กล้า มีอายุทั้งหลายท่านย่อมจะไม่เคลิบเคลิ้มไปกับสิ่งเหล่านี้ เสียเเต่ว่าพรหมบางจำพวกอินทรีย์ยังไม่เเก่กล้ายังอ่อนอายุเท่านั้นที่จะคล้อยตามไปกับกิเลสของมนุษย์เป็นเหตุให้เสื่อมอำนาจ เสื่อมทิพยสมาบัติทั้งหลาย ก็เป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องจำไว้ให้ดี ว่าท่านไม่มีความจำเป็นเเละความต้องการ หากอยากถวายจริงๆเเล้ว เเค่น้ำเปล่าน้ำชาก็พอ อธิษฐานไปเลยว่ากระเเสน้ำในพิภพมนุษย์มีมากมายมหาศาลเพียงใดน้ำใจของข้าพระองค์ก็มีเพียงนั้น ข้าพเจ้าขอถวายเครื่องสักการะนี้เเด่พระองค์ ปรารถนาอะไรก็ขอกันไป เเบบนี้จะดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย

ก็เป็นเกล็ดความรู้เล็กๆที่โดนตำหนิมาเอามาเล่าบอกกล่าวกันต่อหวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้าง

 

ความรู้หลายๆอย่างตรงนี้ควรค่าแก่การจดบันทึก หาอ่านที่ไหนไม่ได้จริงๆครับ สาธุ

 

รายการที่ผมจองไว้เดี๋ยววันจันทร์โอนให้ทั้งหมดนะครับ ขอบคุณครับ

 

เห็นด้วยกับวิถีของพระพรหม ซึ่งต้องการละความยึดถือ เพื่อความหลุดพ้น
แต่ไม่เข้าใจตรงที่ท่านมาช่วยสนองกิเลสมนุษย์เพื่อประโยชน์อะไร

ฝากถามเป็นความรู้หน่อยครับ

 

ได้ความว่า ที่ถามมานะ

ท่านว่าพรหมปัญจสุทธาวาสนั้น มีความเกี่ยวข้องกับมนุษย์มานานเเล้ว ตั้งเเต่ก่อนเกิดพระพุทธเจ้า หรือตั้งเต่ก่อนโลกจะเเตกดับนับเเสนนับล้านครั้ง มหาพรหมปัญจสุทธาวาสทั้งหลายหรือพรหมอนาคามีเหล่านี้จะเป็นผู้คอยลงมาส่งข่าวบอกเเก่มนุษย์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเเม้อดีตที่ผ่านมาที่ท่านพอจะระลึกได้ ก็มหาพรหมสุทธาวาสทั้งนั้นได้จำแลงกายมาบ้างติดต่อกับมนุษย์ที่มีฌานสมาบัติบ้าง เพื่อลงมาถ่ายทอดวิทยาการต่างๆให้เเก่มนุษย์ มนุษย์ที่รับการถ่ายทอดส่วนใหญ่ก็จะเป็นเหล่าฤาษีมุนีดาบส พวกนี้ก็จะนำวิทยาการเหล่านั้นมาบอกต่อๆกันไป เราเลยถือว่าฤาษีเป็นครูตั้งเเต่นั้นมา เพราะเราลืมระลึกไปว่าครูใหญ่ที่ลงมาสอนเเท้จริงเเล้วคือใคร

เพราะพรหมปัญจสุทธาวาสที่ได้ชื่อว่าเป็นมหาพรหม เป็นบรมพรหมชั้นผู้ใหญ่ เเม้ท้าวสหัมบดีพรหมซึ่งเป็นดุจกษัตริย์ในเหล่าพรหมสุทธาวาสก็ยังมีภารกิจในโลกมนุษย์ เมื่อเป็นเช่นนั้นพรหมชั้นต่ำกว่าที่ได้ชื่อว่าเป็นบริษัทขึ้นตรงต่อมหาพรหมเเต่ละพระองค์ ก็ขวนขวายที่จะลงมาทำภารกิจกันตามไปด้วย ต้องบอกว่าเป็นภารกิจที่เกี่ยวกับโลกมนุษย์เรื่องความสมดุลย์เรื่องพลังธรรมชาติทั้งหลายที่ควรจะปรับให้เป็นในเเต่ละยุค ส่วนใหญ่มหาพรหมจะมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ก็เฉพาะผู้ที่มีฌานเท่านั้น เพราะเขาถือว่าเป็นเพื่อนเป็นเกลอกัน ตายไปก็ต้องได้อยู่ได้เจอหน้ากัน

เมื่อพรหมในคติพราหมณ์เเทรกเข้ามาในความเชื่อของพุทธ ชาวพุทธทั้งหลายจึงนิยมนำรูปพรหมมาประดิษฐาน ในวิหารซึ่งตั้งเเยกออกมานอกบ้านเรือนตามความเชื่อของพราหมณ์ เพื่อให้พรหมนั้นคอยสอดส่องดูเเลในมหาทิศทั้งสี่ให้เขาประสบเเต่ความเจริญรุ่งเรือง เเต่ประเด็นคือพรหมนั้นจะศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นเทวรูปองค์ใหญ่เเค่ไหน เเต่มันขึ้นอยู่กับพิธีเชิญองค์ลงมาประดิษฐานครั้งเเรก ขึ้นอยู่ที่ตัวผู้เชิญ ผู้เชิญนั้นต้องมีสมาบัติสูง ถ้าไม่อยู่ในระดับเดียวกันก็ต้องสูงกว่ากัน ถ้าจะกระทำเเต่พิธีตามโบราณที่มักกระทำสืบกันมา สิ่งที่จะลงมาอยู่ในรูปพรหมเหล่านั้นก็จะเป็นเหล่าพรหมบริวารหรืออาจจะเป็นเทพเจ้าที่เป็นบริวารอีกทีหนึ่ง ซึ่งประเด็นของคำถามอยู่ตรงนี้นี่เอง

ก็เทพบริวารทั้งหลายนั่นเเหละที่ยังให้คุณให้โทษกับมนุษย์มีทั้งพระเดชพระคุณ ยังต้องกินต้องบริโภค ยังยึดติดในกามารมณ์ต้องการการเซ่นบวงสรวง ต้องการชมดุริยางค์ระบำรำฟ้อน กฏของเหล่าพรหมชั้นผู้ใหญ่ก็เลยไขว้เขว ส่วนใหญ่จะเขวไปมากตามปากของบรรดาร่างทรงเเละหมอพิธีทั้งหลาย บางครั้งเทพบริวารทั้งหลายเหล่านั้นก้อาศัยชื่อมหาพรหมเจ้านายของตนไปเข้านิมิตรคนบ้างไปจำเเลงรูปให้เหมือนเจ้านายบ้าง ตามประโยชน์เเละความต้องการของตนไป

เอาคร่าวๆไว้เเค่นี้นะมีอะไรที่ท่านเล่ามาเยอะ เเต่พิมพ์เยอะได้มีคนเกลียดผมมากขึ้นเเน่ๆ555+

 

ฝากขอบคุณพ่ออาจารย์ ที่ให้ความกระจ่าง แค่นี้ก็กระเทือนแล้ว
ขอบคุณมากครับที่ช่วยถ่ายทอด

 

ได้ความรู้มากๆครับ

 

พี่กรครับ พอดีผมเอาตะกรุดหน่อพระพุทธเจ้า(พญาเต่าคำ)ไปใส่หลอดแล้วคนใส่ทุบแรงไปหน่อยตรงปลายตะกรุดบี้นิดหน่อย จะเป็นอะไรไหมครับ

 

ขอจององค์นี้ครับ

 

เค้าตัดหลอดสั้นไปครับ ผมเห็นแล้วจี๊ดเลย:'(

 

ตรวจเหล็กไหล

ก็มีมาปรึกษาเรื่อยๆ วันนี้ก็จะขอเอามาพูดให้เคลียร์กันหน้ากระทู้ดีกว่า ยุคนี้เป็นยุคที่มีการซื้อขายเหล็กไหลกันมาก มากมายหลายชนิด เเละก็มักจะมีปัญหาตรงกันคือไม่มั่นใจในองค์เทพ ไปให้คนนั้นคนนี้ดูพูดไม่ตรงกัน มีทั้งที่เหล็กมีญาณบ้าง เหล็กไม่มีญาณเทพบ้าง ไม่ใช่ญาณชั้นสูงบ้าง มีญาณไม่เต็มองค์บ้าง

ซึ่งก็ได้มีส่งมาให้พ่ออาจารย์ตรวจสอบเรื่อยๆ จนบัดนี้ท่านเลยมีดำริว่า เอาเเบบนี้เเล้วกัน ส่งมา ส่งมาเถอะ ถ้าใครอย่ากให้ดูญาณเทพข้างในให้ก็ส่งมา จะเหล็กไหลชนิดใดก็ได้ หากไม่มั่นใจว่ามีองค์มีญาณครอบเหล็ก องค์เทพมาไม่เต็มก็ส่งมา ท่านมีดำริว่าท่านจะทำให้ ไม่ใช่เเค่ดูเเต่หากไม่มีญาณหรือญาณไม่เต็มท่านจะบอกกล่าวจะเชิญญาณให้เป็นชิ้นๆไป

ท่านว่าท่านจะตรวจสอบให้ ท่านไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆกับการซื้อขายจะทำให้ฟรีๆ ท่านว่าเหล็กไหลที่คนเค้าหาก็เพราะหวังพึ่งบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ข้างใน หากมาไม่เต็ม หรือเป็นเหล็กไหลร้างมันก็จะเสียประโยชน์เปล่าๆ

อันนี้ก็เป็นข่าวที่น่ายินดี ใครมีเหล็กไหลชนิดต่างๆไว้ครอบครองหากประสบปัญหาดังกล่าวอยากให้พ่ออาจารย์ท่านช่วยตรวจสอบหรืออาราธนาญาณเทพบรรจุให้เต็มบารมีขององค์เหล็ก ก็ส่งกันเข้ามาได้เลย PMมาขอที่อยู่ผม เดี๋ยวจะดำเนินการให้ ซึ่งเหล็กที่ส่งมาก็คงต้องทิ้งไว้ที่ท่านให้ท่านทำพิธีเชิญให้ ซักระยะ ท่านว่าไม่เกิน 1 อาทิตย์

ทีนี้ก็จะได้หมดปัญหาไม่ต้องไปฟังใครเค้าสวดเค้าว่า ว่าไปบูชาเหล็กไหลตัวนั้นชนิดนั้นมาเเต่ไม่มีญาณ คนละสำนักกันก็ว่าใส่กัน ถ้าใครเค้าว่าก็บอกไปเลย ว่าอธิษฐานจิตประจุญาณให้อีกครั้งโดยพ่ออาจารย์พล

* กติกาง่ายๆ PM มาขอที่อยู่ผมเเล้วก็ส่งพัสดุมา เเล้วผมขอค่าจัดส่งemsกลับ 100 บาทด้วย เเค่นั้น ไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนอื่นนอกจากตรงนี้

 

ผมไม่มีเหล็กไหลกับเขาหรอกครับ
แต่แค่ได้รับทราบถึงความเมตตาของพ่ออาจารย์ผมก็ซาบซึ้งและขอบพระคุณมากครับ

 

แจ้งโอนเงินครับ 4รายการ ยอด4999 บาท

อนุโมทนาครับ

 

สัมผัสได้ถึงความเมตตาพ่อครู เมตตาคุณณัง พระอรหังเมตตา