แผ่นดินไหวเขย่า"อันดามัน"8ปี2ครั้ง...โลกบอกอะไร?

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 12 เมษายน 2012.

  1. Tanakorn

    Tanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,537
    ข่าวสารเพิ่มเติมจากหนังสือพิมพ์

    จับตา 1-2 วัน มีแผ่นดินไหวอีก แถวหมู่เกาะนิโคบาร์ เยื้องจ.ระนอง

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    วันที่ 12 เม.ย. ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หัวหน้าหน่วยศึกษาพิบัติภัยและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ศาสตราภิชาน ดร.มิชิโอะ อาชิซึเมะ ผู้เชี่ยวชาญแผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่น แถลงการณ์วิเคราะห์สถานการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศอินโดนีเซียว่า แผ่นดินไหวเมื่อเย็นวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ทั้งระดับ 8.8 และ 8.9 ริกเตอร์ ซึ่งมีระดับความลึก 22 กม. หลังจากนั้นยังมีแผ่นดินไหวตามหรืออาฟเตอร์ช็อกที่ความรุนแรง 5 ริกเตอร์ขึ้นไปอีก 26 ครั้งในจุดเดียวกัน จึงมีข้อสังเกตว่าแผ่นดินไหวคราวนี้ หลังการเกิดในปี 2547 ระดับ 9.2 ริกเตอร์ ได้ทำให้เกิดแผ่นดินไหวเหนือสุมาตรา บริเวณบันดาอาเจะห์ และลามขึ้นมาทางเหนือมากขึ้น โดยพื้นที่การไหวเป็นแนวซิกแซก อีกทั้งเป็นระดับความลึกมากกว่า หรืออยู่ในชั้นเมนทอลซึ่งต่ำกว่าชั้นเปลือกโลก

    ดร.ธนวัฒน์ กล่าวว่า การเกิดแผ่นดินไหวซ้ำลามทั่วบริเวณบันดาอาเจะห์ ซึ่งการศึกษาพบว่าจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่แต่ละครั้งจะห่างกัน 200-600 ปี ที่เซนได มีระยะห่าง 100-150 ปี แต่ขณะนี้บริเวณดังกล่าวเกิดซ้ำในระดับใกล้เคียงเร็วขึ้น โดยตัวอย่างที่ประเทศญี่ปุ่นเกิดขึ้น 7.3 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่เข้าใจว่าเป็นแผ่นดินไหวใหญ่ แต่วันที่ 11 มี.ค. เกิดซ้ำขนาด 9 ริกเตอร์ ในครั้งนี้บริเวณที่เกิดมีซ้ำหลายครั้ง และมีระดับลึกกว่าปี 2547 ซึ่งเกิดระดับเปลือกโลก นักวิทยาศาสตร์และหน่วยงานต่างๆ จึงต้องระวังต่อไป 1-2 วัน เพราะเกรงว่าแผ่นดินไหวที่เกิดครั้งนี้ อาจกระตุ้นให้เกิดซ้ำอย่างรุนแรงได้อีก โดยจุดความเสี่ยงแผ่นดินไหวน่าจะอยู่ในแถบหมู่เกาะนิโคบาร์ ซึ่งเยื้องกับ จ.ระนอง ประเทศไทย และบริเวณใกล้เคียงนั้นมีภูเขาไฟใต้ทะเล หากแผ่นดินไหวอีกมีโอกาสจะเกิดแผ่นดินถล่มใต้ทะเลได้ และอาจส่งผลกระทบเป็นคลื่นสึนามิ ที่จะมาถึงชายฝั่งประเทศไทยเร็วกว่า ปี 2547 หรือไม่เกิน 30 นาที

     
  2. changthai

    changthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +515
    วีดีโอด้านบนนี่มันหมายถึงอะไรดูแล้วยังไม่เข้าใจ ช่วยอธิบายทีครับ
     
  3. kiatp123

    kiatp123 โมฆะแมน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,493
    ค่าพลัง:
    +19,616
    แผ่นดินไหวเขย่า "อันดามัน"8ปี2ครั้ง...โลกบอกอะไร
    ตอบ: ต้องรื้อสรรพวิทยาการแผ่นดินไหวของมนุษย์โลกนี้ทิ้งไปก่อนแล้วนั่งทำตาปริบๆรับชะตากรรมไป

     
  4. ทะเลลึก

    ทะเลลึก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +80
    11 มีนาปีที่แล้ว 9 ริกเตอร์ ญี่ปุ่น
    11 เมษาปีนี้ 8.9 ริกเตอร์ สุมาตรา
    11 พฤษภาที่จะถึง ? ริกเตอร์ ที่ไหนหนอ?
     
  5. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,189
    ค่าพลัง:
    +20,861
    แผ่นดินไหวเขย่า"อันดามัน"8 ปี2 ครั้ง...โลกบอกอะไร?

    บอกว่าให้เผาตำราทางธรณีวิทยาเก่าๆที่ร่ำเรียนจากฝรั่งมาได้แล้ว
    โลกวันนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไม่มีทางที่จะเอาเหตุการณ์ในอดีตมาเปรียบเทียบได้อีกต่อไป

    กระบวนทัศน์ทางความคิดที่จะนำมาใช้ได้ในอนาคตอันใกล้คือ วิทยาศาสตร์ทางจิต
    มองถึงเหตุผลของการสั่นสะเทือนที่ผิดปกติ แล้วย้อนมองถึงสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น

    สุดท้ายจะต้องแปรสัญญานแห่งภัยพิบัติให้เป็นเหตุการณ์ที่ต้องเผชิญต่อไป ตลอดจนหาวิธีแก้ไขมาแจ้งให้สาธารณชนทราบ

    ส่วนที่ผู้ที่รับรู้แล้ว จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่บุญ-กรรมที่ทำมาของแต่ละผู้แต่ละนาม ครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  6. ชัยบวร

    ชัยบวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    928
    ค่าพลัง:
    +1,642
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    แผนภาพเปรียบเทียบระหว่าง เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ทะเลอันดามัน ปี พ.ศ. 2547 กับ ปี พ.ศ. 2555 ที่ผ่านมาไม่กี่วันนั้น แสดงให้เห็นว่ารูปแบบการไหวไม่เหมือนกัน ในรูปคงจะทราบดีนะครับ ปี พ.ศ. 2547 เป็นการไหวในแนวดิ่ง ซึ่งง่ายต่อการเกิดสึนามิในระดับรุนแรง ในส่วนปี พ.ศ. 2555 นี้ รูปแบบไม่ส่งเสริมการเกิดสึนามินัก เพราะเป็นการไหวแบบแนวนอน
     
  7. phirayut

    phirayut Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    198
    ค่าพลัง:
    +92
    เพราะกำลังฟอร์แมตเพื่อลงวินโดใหม่ กำจัดไวรัสด้วยเพราะเดี๋ยวนี้ไวรัสเต็มโลกเลย
    ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  8. arm21885

    arm21885 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2011
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +27
    น่ากลัวมาก
     
  9. เสือคาบดาบ

    เสือคาบดาบ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2012
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    น่ากลัว คับ.........
     
  10. หนูคนชล

    หนูคนชล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +122
    โลกเรานี้ ไม่เที่ยง
    สร้างบุญกุศล ปฏิบัติธรรมกันไว้ดีกว่านะคะ
     
  11. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    ปรากฎการณ์แผ่นดินถล่มของเกาะภูเขาไฟ จนทำให้เกิดคลื่นซูนามิขนาดยักษ์ เคยเกิดขึ้นในอดีต เก่ากว่าประวัติศาสตร์ของเรา

    จึงไม่มีมนุษย์คนไหน เคยเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวมาก่อน มีเพียงหลักฐานที่เชื่อถือได้ จากทางธรณีวิทยาเท่านั้น

    นักธรณีวิทยาพบว่า เกาะภูเขาไฟที่อาจจะมีการเกิดดินถล่มครั้งต่อไป อาจจะเป็นเกาะแห่งหนึ่งในหมู่เกาะ Canary ตั้งอยู่นอกชายฝั่ง ของทวีปแอฟริกา เกาะดังกล่าวมีชื่อว่า La Palma ซึ่งมีภูเขาไฟชื่อว่า Cumbre Vieja ที่ยังไม่ดับและพร้อมจะปะทุ

    นักธรณีวิทยาคำนวนว่า การระเบิดของภูเขาไฟบนเกาะนี้ จะทำให้ดินและหินนับล้านๆ ตัน ถล่มลงสู่มหาสมุทรอย่างรวดเร็ว

    ซึ่งสามารถที่จะสร้างคลื่นยักษ์เมกกะซูนามิได้อย่างสบายๆ


    ปัญหาที่เหลือสำหรับนักวิทยาศาสตร์คือ เมื่อไหร่ภูเขาไฟดังกล่าว จึงจะปะทุขึ้นอีกครัง ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้อย่างแน่นอน....

    Mega-tsunami คลื่นยักษ์ล้างโลก

    www.vcharkarn.com/vcafe/5775

    ** หมายเหตุ บทความนี้ ถูกเขียนและโพสไว้ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. 2544 .. ตอนนั้นยังไม่มีสึนามิที่ภูเก็ตในปี 47 และก็ยังไม่เกิดสีนามิสูงกว่า 40.5 เมตร ที่ญี่ปุ่น เมื่อปี 54 **

    [​IMG]

    นักธรณีวิทยาเตือนหลายประเทศในมหาสมุทรแอนแลนติกอ าจถูกถล่มด้วยคลื่นยักษ์ที่อาจมีความสูงหลายร้อยเมตร สูงกว่าตึกระฟ้าทุกตึกบนโลก นักธรณีวิทยาเรียกปรากฎการณ์ดังกล่าวว่า แมกกะซูนามิ ( Mega-tsunami ) ซึ่งมีความรุนแรงกว่าคลื่นซูนามิธรรมดานับสิบเท่า

    จากหลักฐานทางธรณีวิทยาพบว่า คลื่นดังกล่าวเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในอดีต และมีความเป็นไปได้อย่างสูงว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยเริ่มก่อตัวจากหมู่เกาะเล็กๆในมหาสมุทรแอตแลนติก

    หลักฐานแรก ที่แสดงให้เห็นถึงพลังอันมหัศจรรย์และน่าสพรึงกลัวของธรรมชาตินี้พบครั้งแรกในปี ค.ศ.1953 เมื่อนักธรณีวิทยาชาวอเมริกัน 2 คน คือ George Plafker และ Don Miller คนได้ทำการสำรวจหาน้ำมัน ที่อ่าวลิทูยา ( Lituya Bay ) ในรัฐอาลาสก้า สหรัฐอเมริกา

    [​IMG]

    แทนที่ทั้งสองจะพบน้ำมัน พวกเขากับพบหลักฐานทางธรณีวิทยาว่า บริเวญอ่าวดังกล่าว ได้เคยถูกซัดกระหน่ำด้วยคลื่นยักษ์ ซึ่งมีความสูงกว่า 150 เมตร เทียบได้เท่ากับความสูงของตึก 50 ชั้น

    การค้นพบนี้ทำให้นักธรณีวิทยาทั้งสองประหลาดใจมาก เพราะไม่ปรากฎว่ามีคลื่นชนิดใดในประวัติศาสตร์ที่จะมีความสูงถึงขนาดนั้น แม้แต่คลื่นยักษ์ที่ทรงพลังที่สุดคือซูนามิ

    George Plafker ใด้กล่าวกับนักข่าวบีบีซีว่า ในขณะนั้นมืดแปดด้านไม่รู้เลยว่าจะมีพลังงานอะไร ที่สามารถสร้างคลื่นยักษ์ได้สูงขนาดนั้น เพราะแม้แต่คลื่นซูนามิอันทรงพลังที่สุด ซึ่งเกิดจากแผ่นดินใหวนั้น ยังมีความสูงแค่ 10 ถึง 15 เมตร แต่คลื่นที่ถล่มอ่าวลิทูยาสูงกว่าถึง 10 เท่า

    [​IMG]

    คลื่นยักษ์ซูนามิ ( Tsunami ) เป็นที่รู้จักกันมานานสำหรับนักธรณีวิทยา คลื่นซูนามิที่รุนแรงสุดในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1946 เมื่อคลื่นยักษ์สูง 10 เมตร พัดเข้าถล่มชายฝั่งเมือง Hilo ในหมู่เกาะฮาวาย โดยที่ประชาชนบนเกาะไม่มีทางรู้ตัว เพราะจุดกำเนิดของซูนามิ อยู่ห่างจากเกาะฮาวายนับพันกิโลเมตร เหตุการณ์ครั้งนั้น พรากชีวิตผู้เคราะห์ร้ายไปมากกว่า 100 คน

    เมื่อหลายปีมาแล้ว คนไทยเคยตื่นกลัวกับข่าวของคลื่นยักษ์ซูนามิ ถึงกับเคยมีข่าวลือใหญ่โตว่าจะมีคลื่นยักษ์ซูนามิถล่มเกาะภูเก็ตเลยทีเดียว

    [​IMG]

    แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยนั้นมีโอกาสน้อยมาก ที่จะถูกถล่มด้วยซูนามิ เมื่อเทียบหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิค เช่น ฮาวาย ญี่ป่น ออสเตเลีย หรือตามชายฝั่งของสหรัฐอเมริกา

    คลื่นยักษ์ซูนามินั้น เกิดจากการคลื่นตัวของเปลือกโลกใต้ทะเล ซึ่งมีพลังงานมหาศาล ทำให้เกิดคลื่นยักษ์ที่สามารถเคลื่อนที่ข้ามมหาสมุทรใหญ่ๆ ไปถล่มชายฝังของอีกซีกโลกได้อย่างสบายๆ

    อย่างไรก็ตาม ขนาดความสูงของคลื่นซูนามินั้น มีลิมิตไม่เกิน 10 ถึง 15 เมตร

    ความสูงของคลื่นนั้น ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ให้กำเนิดมัน การเกิดแผ่นดินใหวในบริเวณใต้มหาสมุทรนั้น อาจจะทำให้เปลือกโลกบริเวณนั้นแยกตัวออกจากกัน เปลือกโลกด้านหนึ่งอาจจะยกตัวสูงขึ้น เป็นผลทำให้เกิดแรงดันมหาศาล ดันน้ำทะเลที่อยู่เหนือมันสูงขึ้น เป็นปริมาณเท่าๆกับที่แผ่นดินถูกยกขึ้น

    น้ำทะแลที่ถูกแผ่นดินดันขึ้นมาแทนทีนั้น จะวิ่งออกไปด้วยความเร็วมหาศาล และเมื่อเข้าใกล้ชายฝั่งมันก็จะดันตัวสูงขี้น เท่ากับขนาดของพื้นดินที่เลื่อนขึ้นมา เกิดเป็นคลื่นยักษ์ซูนามิพัดเข้าถล่มชายฝั่ง

    ถึงกระนั้นก็ตาม แผ่นดินใหวที่รุนแรงที่สุด ก็สามารถที่จะยกผิวโลกใต้ทะเล ให้เลื่อนสูงขึ้นได้มากที่สุดประมาณ 10 กว่าเมตร มันจึงเป็นตัวกำหนดขนาดของคลื่นซูนามิไปในตัว

    [​IMG]

    และเป็นไปไม่ได้เลยที่กระบวนการนี้จะทำให้เกิดคลื่นสูงถึง 150 เมตร ดังที่ถล่มอ่าวลิทูยา

    นักธรณีวิทยาไม่ต้องรอนานเพื่อที่จะทราบคำตอบ 5 ปีหลังจากนั้น เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 1958 คลื่นยักษ์ก็ได้ถล่มอ่าวลิทูยาอีกครั้ง ด้วยความสูงเกือบครึ่งกิโลเมตร สูงกว่าตึกทุกตึกบนโลกมนุษย์ นักธรณีวิทยา George Plafker และ Don Miller ได้บินกลับไปสำรวจพื้นที่อีกครั้ง ในที่สุด เขาก็พบคำตอบของปริศนา

    คลื่นยักษ์ดังกล่าว เกิดจากการที่ภูเขาในบริเวณใกล้เคียง ได้เกิดถล่มลง หินจากภูเขาสูงปริมาณมหาศาล ได้ถลายหล่นลงจากความสูงกว่า 1,100 เมตร เมื่อมันกระทบกับพื้นน้ำ ก็จะปลดปล่อยพลังงานมหาศาล เกิดเป็นคลื่นยักษ์ขนาดมหึมาเข้าถล่มพื่นที่อ่าวใกล้เคียง ซึ่งนักธรณีวิทยาเรียกคลื่นดังกล่าวว่า แมกกะซูนามิ ( Mega-tsunami )

    ทั้นทีที่นักวิทยาศาสตร์เข้าใจถึงกลไกการเกิดคลื่นยักษ์ด้วยปรากฎการณ์ดินถล่ม ( landslide ) พวกเขาก็เริ่มกังวลว่า แมกกะซูนามิ อาจเกิดขึ้นได้อีก หากมีการเกิดดินถล่มครั้งใหญ่ จึงได้เริ่มออกค้นหาร่องรอยของแผ่นดินถล่มครั้งใหญ่ๆ ในอดีต ซึ่งอาจจะบอกเราได้ ถึงการถล่มครั้งต่อๆ ไปในอนาคต

    จากการศึกษาของนักธรณีวิทยาพบว่า พื้นที่ๆ ล่อแหลมต่อการเกิดแผ่นดินถล่มครั้งมหึมา ก็คือบริเวณเกาะภูเขาไฟขนาดใหญ่ๆ ซึ่งเกาะลักษณะดังกล่าวกระจายอยู่ตามมหาสมุทรทั่วโลก

    [​IMG]

    เกาะภูเขาไฟเหล่านี้กำเนิดมาเป็นเวลาหลายล้านปี เริ่มจากการประทุของภูเขาไฟใต้พื้นมหาสมุทร เมื่อลาวาที่ใหลออกมาเย็นตัวลง ก็จะจับตัวกันแข็ง ทับถมกันชั้นแล้วชั้นเล่า

    จนกระทั่ง สูงพ้นผิวมหาสมุทรขึ้นมา เกาะเหล่านี้ไม่ค่อยจะเสถียรนัก ทุกๆหนึ่งหรือสองพันปีมักจะพบว่า หนึ่งในเกาะเหล่านี้ ถล่มลงสู่พื้นมหาสมุทร สำหรับการเกิดแผ่นดินถล่มบนเกาะภูเขาไฟ

    ซึ่งขนาดใหญ่พอที่จะเกิดเมกกะซูนามินั้น ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นที่หมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อ 4,000 ปีที่แล้ว ซึ่งคลื่นเมกกะซูนามิ ที่สร้างขึ้นวิ่งถล่มชายฝั่งทวีปออสเตเลีย โดยใช้เวลาเดินทางเพียงแค่แปดชั่วโมงเท่านั้น

    ด้วยเหตุที่ว่า ปรากฎการณ์แผ่นดินถล่มของเกาะภูเขาไฟนี้ เกิดขึ้นในอดีตเก่ากว่าประวัติศาสตร์ของเรา จึงไม่มีมนุษย์คนไหนเคยเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวมาก่อน

    มีเพียงหลักฐานที่เชื่อถือได้ จากทางธรณีวิทยาเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน้อยมาก จึงทำให้นักวิทยาศาสตร์คาดเดาได้ยากว่า เกาะใดจะเกิดปรากฎการแผ่นดินถล่ม

    ในจำนวนเกาะภูเขาไฟที่กระจัดกระจายอยู่ทั้งหมด มีอยู่เกาะหนึ่ง ที่ส่งสัญญานอันตรายที่ไม่น่าไว้ใจที่สุด

    ถ้าหากเกาะดังกล่าวถล่มลง มันจะสร้างคลื่นยักษ์เมกกะซูนามิ ซึ่งอาจจะพัดข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก เข้าซัดถล่มชายฝั่งด้านตะวันออกของสหรัฐอเมริกา

    [​IMG]

    นักธรณีวิทยาพบว่า เกาะภูเขาไฟที่อาจจะมีการเกิดดินถล่มครั้งต่อไป อาจจะเป็นเกาะแห่งหนึ่งในหมู่เกาะแคนนารี (Canary Islands) ซึ่งตั้งอยู่นอกชายฝั่ง ของทวีปแอฟริกา เกาะดังกล่าวมีชื่อว่า ลาพาล์มา (La Palma)

    [​IMG]

    ในราวๆ ทศวรรษที่ 90 นักธรณีวิทยาชาวอังกฤษ ได้เดินทางไปสำรวจภูเขาไฟบนเกาะดังกล่าวซึ่งชื่อว่า Cumbre Vieja ซึ่งยังเป็นภูเขาไฟ ที่ยังไม่ดับและพร้อมจะปะทุ พวกเขาพบว่า โครงสร้างของภูเขาไฟบนเกาะนั้นค่อนข้างประหลาด

    เนื่องจาก มีน้ำขังอยู่ข้างในเป็นจำนวนมาก ลึกเข้าไปในภูเขาไฟบนเกาะลาพาล์มา ประกอบด้วยหินสองชนิด ชนิดหนึ่ง ทำตัวคล้ายฟองน้ำดูดซับน้ำไว้จนเต็ม ในขณะเดียวกัน ก็มีโครงสร้างเป็นหินแข็ง ที่ไม่ยอมให้น้ำซึมผ่าน วางตัวอยู่ในแนวดิ่ง เหมือนเป็นเขื่อนกักน้ำฝน อยู่ภายในปล่องภูเขาไฟ

    [​IMG]

    จากการศึกษาในห้องแล็ป ทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า หากภูเขาไฟดังกล่าวปะทุขึ้นเมื่อใด ความร้อนจากหินละลาย บวกกับความดันของน้ำที่ขังอยู่ในปล่องภูเขาไฟ จะทำให้เกิดแผ่นดินถล่มครั้งมหึมา

    นักธรณีวิทยาคำนวนว่า การระเบิดของภูเขาไฟบนเกาะนี้ จะทำให้ดินและหินนับล้านๆ ตัน ถล่มลงสู่มหาสมุทรอย่างรวดเร็ว

    ซึ่งสามารถที่จะสร้างคลื่นยักษ์เมกกะซูนามิได้อย่างสบายๆ ปัญหาที่เหลือสำหรับนักวิทยาศาสตร์คือ เมื่อไหร่ภูเขาไฟดังกล่าว จึงจะปะทุขึ้นอีกครัง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถบอกได้อย่างแน่นอน

    ตามหลักฐานทางธรณีวิทยาพบว่า ภูเขาไฟ Cumbre Vieja เคยประทุมาแล้วหลายครั้ง เริ่มตั้งแต่ปี 1646, ปี 1712

    และครั้งสุดท้ายในปี ค.ศ. 1949 ประมาณว่าทุกๆ 100-200 ปี ครั้งสุดท้ายนั้นเมื่อประมาณ 50 ที่แล้ว จึงอาจะเป็นไปได้ว่า มันอาจจะประทุขึ้นอีกในศตวรรษหน้า ซึ่งถ้าหากเป็นจริง ดังที่นักธรณีวิทยาคาดการณ์ไว้ คงสร้างความเสียหายให้มนุษยชาติอย่างไม่ต้องสงสัย

    [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->

    http://palungjit.org/threads/@-เมก้าสึนามิ-and-ปริศนาแอตแลนติสล่ม-@.334973/
     
  12. หมอกราตรี

    หมอกราตรี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +17
    ตามที่ผมเรียนมาน่าจะเป็นการเคลือนตัวของดาวหาง มีผลต่อกาแล็คชี่ทางช้างเผือกของเรา และมีการจัดระเบียบของ กาแล็คชี่นี้ใหม่ น่าจะประมาณนี้นะครับ เท่าที่ดู พอดาวหางผ่าน สังเกตุดูว่าการเคลือนตัวของวงโครจร ของดาวแต่ละดวงเปลี่ยนไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...