ฝึกกสิณอันตรายไหม ?

พึ่งเข้ามาใหม่ค่ะ ขอคำแนะนำ

อยากทราบถึงวิธีการฝึกกสินค่ะ ไม่ทราบได้หาได้จากไหนค่ะ

 

เวลาเข้าห้องนี้ก็แหงนหน้านิดนึงกั๊บ
เอาลิ้งค์มาให้ก็ด้ะ
http://palungjit.org/showthread.php?t=83871 << กดเลย

 

แหม...ท่านฝุ่น ก็ชื่อเพ่เขาก็ฟ้อง อยู่คนของแผ่นดิน ท่านก็คงตั้งใจมองแต่ดินอ่ะ ฮี่ ๆๆ นู๋คุยต๊อง ๆ ไปงั้น ๆ ขออภ้ย ... อย่าถือคน... อย่าว่าคน บอเล๊ยนะค่ะ

 

ฝึกกสินอันตรายไหม?

ได้อ่านข้อมูลแล้ว ถือว่าเป็นธรรมทานอีกแง่มุมหนึ่ง ขออนุโมทนาด้วยค่ะ(y) (good)

 

ฝึกกสินอันตรายไหม?

ได้อ่านข้อมูลแล้วถือว่าเป็นธรรมทานอีกแง่มุมหนึ่งค่ะ ขอร่วมอนุโมทนาด้วยค่ะ

 

^^

 

ดีมากเลยครับบทความนี้ ปกติผมจะนั่งสมาธิแบบกำหนดลมหายใจ แต่ก็ทำได้แปบเดียวเพราะว่าไม่มีอะไรให้ยึด ก็เลยอยากจะฝึกกสิณบ้าง ที่อยากเรียนไม่ได้อยากเอาไปใช้ในทางไม่ดี แต่อยากรู้จิตตัวเองว่าสามารถทำได้ไหม หากทำได้ก็จะได้ปฏิบัติสิ่งที่ยากกว่าขึ้นไปครับ

 

ที่เรียนกสิน

ที่วัดยานนาวา สุดรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีตากสิน เดินไปนิดเดียว
ไปด้วยรถไฟฟ้าสะดวกมากค่ะ
เลย ซอยเจริญกรุง 52 ไปนิดเดียว
รถเมล์ 1 15 17 35 75 163 504 ฯลฯ<O</O
<O</O<O</O
ห้องที่เรียนกสินอยู่ชั้น 3 ตึกขวามือหลังจากเข้าในบริเวณวัดแล้ว<O</O
ห้องนี้เปนห้องแรก อยู่ตรงข้ามลิฟท์ ไม่มีป้ายแนะนำใด ๆ<O</O
หน้าห้องมีรูปภาพเขียนขนาดใหญ่ ประมาณ 1.40 เมตร</O
กรุณาอย่าเคาะประตูเพราะท่านจะรบกวนคนนั่งสมาธิ<O</O
เปิดเข้าไปได้เลยสอนวันอาทิตย์ เวลา 13.00-16.00น.โดยประมาณ<O</O
เบอร์โทรของวัดยานนาวา คือ 02-6723216
ที่นี่ อาจารย์สอนมา 4 ปี แล้ว แต่ไม่ค่อยมีคนรู้จักเท่าไร

อาจารย์ผู้สอนคือ ดร.จรูญ วรรณกสิณานนท์
หนังสือของอาจารย์จรูญฯ ที่ท่านสามารถหาอ่านได้ คือ
1.การเพ่งกสิน 70.-บาท
2.กสิณกรรมฐานที่ทรงพลัง 120.-บาท
3.พลังกสิน 150.-บาท

http://palungjit.org/showthread.php?p=1245131#post1245131


ขอให้โชคดี
แสนสวาท

 

อายันตุ โภนโต อิธะ ทานะ สีละ เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจาธิฏฐานะเมตตุเปกขา ยุทธายะ โว คัณหะถะอาวุธานีติ.
ดูก่อนพระบารมีทั้งหลาย ขอเชิญพระบารมีคือ ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิฐานะ เมตตา และอุเบกขา จงมาที่นี่โดยเร็วพลัน แล้วพากันถือเอาอาวุธ เพื่อยุทธ์กับพญามาร (กิเลส) เถิด.
อนุโมทนาครับ.
บริจาคเงินช่วยวัดพระบาทน้ำพุ
โทร.1900-222-200 6บาท/นาที​

 

กุศลผลบุญใด ๆ ก็ตามที่ข้าพเจ้าได้ทำมาแล้ว ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศให้<O</O​

​

 

อนุโมทนาครับ อยากเรียนรู้บ้างอะ ส่งข้อความมาถึงผมหน่อย
ผมไม่ค่อยออน เดี๋ยวว่างๆจัเปิดอ่านอ่ะ ช่วยแนะนำหน่อยนะครับ
ของผมต้องขั้นแรกเยย ^ ^

 

ช่วยหน่อยน่ะครับ อยากฝึกได้อ่าครับ Y Y

 

แล้วๆๆ ผมอยากรู้ว่าวัดไหนมีการฝึกกสิณ10 บ้างอะ ผมจะไปเข้าวัดแถวบ้านแต่ไม่กล้า
เพราะไม่มีคนเข้าไปฝึกเลยครับ- -"

 

รู้สึกว่าคนที่โพส ล่าสุดนี่จะปี 2008 ทั้งนั้นเลย แล้วผมล่ะ
2011 แล้ว หลุดโลกไหมเนี่ย Y.Y

 

การฝึกกสิณ ถ้าจะกล่าวอย่างง่ายๆคือเป็นการฝึกจิตให้ควบคุมธาตุทั้งสี่ โดยการเพ่งมองแล้วจับภาพนั้นๆเป็นอารมณ์เมื่อจิตรวมเป็นหนี่งก็สามารถควบคุมธาตุทั้งสี่ให้เป็นไปตามที่เราต้องการได้ เป็นการฝึกจิตให้มีฤทธิ์ที่เรียกกันว่าอภิญญา สามารถมองเห็น สื่อสารกับพรหม เทวดา อากาศธาตุต่างๆรวมทั้งบางคนอาจรู้อดีต อนาคต รู้ใจสรรพสัตว์ทั้งหลายได้ ท่านที่ทรงอภิญญา มีมากมาย รวมทั้งฤาษีและนักมายากลฝรั่งหลายคนที่เสกของให้หายหรือเปลี่ยนสภาพก็ล้วนใช้อภิญญา แต่มิใช่ทางหลุดพ้น แนวทางหลุดพ้นตามพระพุทธองค์คือแนวทางที่พระสายวัดป่าถือปฏิบัติคือการพิจารณาลมหายใจตัวเองที่เรียกว่าอานาปาณสติ เป็นการฝึกจิตให้อยู่ในกาย ไม่ส่งจิตออกนอกกาย พิจารณาอยู่แต่ลมหายใจตัวเอง เป็นไปตามลำดับเป็นขั้นเป็นตอนจนจิตสงบเป็นมากขึ้นซึ่งเป็นลำดับขั้นของฌาน จนก้าวสู่ขั้นอริยะตามลำดับ การดูลมหายใจดูง่ายแต่ปฏิบัติยากที่สุด ผู้ปฏิบัติต้องมีความมุ่งมั่นและเข้าใจรวมทั้งมีครูบาอาจารย์ผู้รู้จริงส่งเสริม สำหรับนักปฏิบัติที่แท้จริงแล้วการปฏิบัติควรเริ่มจากดูลมก่อนแล้วเมื่อจิตมีฌานขั้นสูงจึงเริ่มฝึกกสิณ มิฉะนั้นท่านจะติดในฤทธิ์จนไม่สนใจการปฏิบัติเพื่อหลุดพ้นและการปฏิบัติจะก้าวหน้าช้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมิใช่ว่าเริ่มต้นชาตินี้แล้วจะสำเร็จ ท่านที่สำเร็จต้องบำเพ็ญบารมีสั่งสมมาต่อเนื่องหลายภพ หลายชาติ ผู้ที่มีอภิญญามิใช่อริยะบุคคลหรืออริยะสงฆ์ทุกท่านเสมอไป ผมรู้จักท่านนึงอายูแค่สิบปีสามารถมองเห็นพรหม เทวดา อากาศธาตุต่างๆโดยไม่เคยฝึกกสิณหรือนั่งสมาธิในชาตินี้มาก่อน ปัจจุบันท่านนี้อายุไม่ถึงยี่สิบปีได้เริ่มปฏิบัติก็สามารถรู้อดีต อนาคต รู้ใจคน คุยกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย คุยกับสัตว์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งรู้ภาษาต่างประเทศทั้งที่ไม่เคยเรียนมาก่อนได้ โดยมิได้ฝึกกสิณแต่อย่างใด ทั้งหมดเป็นสัญญาจากอดีตที่เคยทำได้มาก่อน การเริ่มต้นให้ถูกทางจะได้ไม่เสียเวลา ความรู้ทั้งหมดนี้ได้มาจากการปฏิบัติ ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป

 

สอนผมมั่งสิครับ อยากได้คนสอนต่อ

 

อนุโมนาครับ...กระจ่างเลย

แต่ทุกอย่างที่เราทำเราฝึกมันต้องมีความระมัดระวังด้วยใช่มั้ยครับ

 

ก่อนเรียนกสิณ มาเรียนวิธีการเขียนภาษาไทยให้ถูกต้องก่อนดีกว่าไหมครับ

 

เส้นทางพลังจิต

เส้นทางการสําเร็จฤิทธิ์ การฝึกเรียกว่า อิทธิบาท ๔ ฉันทะพอใจ (ชอบ) วิริยะ(พากเพียร)จิตตะ(จิตตั้งมั่น)วิมังสา(จิตที่รวมเป็นหนึ่งภายใน)รวมแล้วคือการชอบและทำประจำมีเวลาที่แน่นอน มนุษย์ใดมีอิทธิบาท๔เป็นประจำการสำเร็จย่อมมีทาง นี่คือทางเดิน ไม่ว่าจะฝึกสายไหนที่มีในโลก กรรมฐาน ๔๐ อาปานา สติปัตยฐาน ๔ กาย เวทนา จิต ธรรม และทางแห่งการบรรลุธรรม คือ โพชคงฌ์ ๗ ๑.สติสัมโพชคงฌ์(มีสติระลึกธรรมอยู่เสมอ) ๒.ธัมมวิจัย(คิดค้นธรรมอยู่เสมอ)๓.วิริยะ(มีความเพียรอยู่เสมอ)๔.ปีตี(มีความอิ่มใจในธรรมอยู่เสมอ)๕.ปัสสัทธิ(มีความสงบกายใจอยู่เสมอ)๖.สมาธิ(จิตตั้งมัน่อยู่เสมอ)๗.อุเบกขา(ปล่อยวางใจเป็นกลางอยู่เสมอ)รวมแล้วคือการ พิจรณาตัวเอง วสี ๕ประการ คือ ความชำนาญในการใช้ คือ ๑.เข้าใด้ดั่งใจ(ฌาน) ๒.ออกไดดั่งไจ ๓.อธิฐานตั้งเวลา ๔.รอบรู้ในองฌาน ๕.เข้าใจในสภาวะอธิบายใด้(หมายถึงสมาบัติ๘) ทาง๒สายที่มีโลก ปจิจสมุทบาท เส้นทางแห่งพุทธภูมิ เริ่มต้นมองเห็นความทุกข์ในโลกก็เข้าใจว่ามาจาก เกิด แก่เจ็บตาย ค้นต่อก็รู้ว่า มาจาก ชาติ ก่อ ภพ ก่อ อุปทาน ก่อ ตัณหาๆก่อ เวทนาๆก่อ ผัสสะๆก่อ อายตนะๆก่อนามรูปๆก่อ วิญณานๆก่อสังขารๆก่อ อวิชชา(ความไม่รู้จริง) ส่วนเหตุ คือ สมุทัย ส่วนผล คือ นิโรธ มรรค คือ ทางเดิน ทุกข์มีใว้ไห้รู้ ผู้รู้คือ โสดาบัน นี่คือ ทั้งหมด เลือกตามใจ อยากไปใหน จะบอกทางไป ผู้บอกทาง(phookthang)คือผู้รอบรู้ทุกๆเส้นทาง แห่งจิต จะพบแสงนำทาง สาธุ